วิชา การออกแบบภาพการต์ นู และภาพลอ้ และภาพประกอบเรอ่ื ง รหสั 30302-2102 ระดบั ปวส. สาขาวชิ าการออกแบบ สาขางานการออกแบบนเิ ทศศลิ ป์ ประเภทวชิ าศลิ ปกรรม
จุดประสงคร์ ายวชิ า เพือ่ ให้ 1. เขา้ ใจเกยี่ วกบั หลกั การเขยี นภาพการต์ นู ภาพลอ้ และภาพประกอบเรอื่ ง 2. เขา้ ใจเกยี่ วกบั ประเภทและคณุ สมบตั ขิ องวสั ดุ เครอื่ งมอื พน้ื ฐานและ โปรแกรมสาเรจ็ รปู ทใี่ ชใ้ นงาน เขียนภาพการต์ นู ภาพลอ้ ภาพประกอบเรอ่ื ง 3. สามารถเขยี นภาพ การต์ นู ภาพลอ้ และภาพประกอบเรอ่ื งดว้ ยเครอื่ งมอื พนื้ ฐาน และโปรแกรมสาเรจ็ รปู 4. มเี จตคตแิ ละกจิ นสิ ยั ทดี่ ใี นการปฏบิ ตั งิ านและเหน็ คณุ คา่ ของงาน สามารถประเมนิ คณุ คา่ ผลงาน สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การเขยี นภาพการต์ นู ภาพลอ้ ภาพประกอบเรอื่ งประเภทและคณุ สมบตั ขิ องวสั ดเุ ครอ่ื งมอื พน้ื ฐาน รวมทงั้ โปรแกรมสาเรจ็ รปู ทใ่ี ชใ้ นการเขยี นภาพลอ้ ภาพประกอบเรอ่ื ง 2. ปฏบิ ตั งิ านภาพการต์ นู ภาพลอ้ ภาพประกอบเรอื่ ง ด้วยเครอ่ื งมอื พน้ื ฐานและโปรแกรมสาเรจ็ รปู ไดต้ ามหลกั การ 3. แสดงกจิ นสิ ยั ทด่ี ใี นการปฏบิ ตั งิ าน คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาและปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั การเขยี นภาพการต์ นู ภาพลอ้ ภาพประกอบเรอ่ื งดว้ ยวสั ดุ อปุ กรณเ์ ครอ่ื งมอื พนื้ ฐานและโปรแกรม สาเรจ็ รปู ประเภทและคณุ สมบตั ขิ องวสั ดุ เครอื่ งมอื พน้ื ฐานทใ่ี ชใ้ นงานเขยี นภาพลอ้ และภาพประกอบเรอื่ งประเภทและ คุณสมบตั ขิ องโปรแกรมสาเรจ็ รปู ทใี่ ชใ้ นงานเขยี นภาพประกอบ หลกั การรา่ งภาพ การถา่ ยโอนภาพเขา้ สเู่ ครอ่ื ง คอมพวิ เตอร์ การใชเ้ มาสป์ ากกาวาดภาพระบายสี หลกั การรา่ งภาพการต์ นู ภาพลอ้ และภาพประกอบเรอื่ งสนั้ นทิ านสาหรบั เดก็ ภาพโปสเตอร์ เพอ่ื นาไปใชใ้ นงานนเิ ทศศลิ ป์
หนว่ ยท่ี 1 ความรเู้ กย่ี วกบั การต์ นู ภาพลอ้
ความหมายของการต์ นู และภาพลอ้ การต์ ูน (องั กฤษ: cartoon) คือทัศนศิลป์สองมติ ริ ปู แบบหนึง่ ซง่ึ ความหมายที่ เฉพาะเจาะจงแปรเปล่ียนไปตามเวลา ความหมายในสมัยใหม่โดยทั่วไป หมายถงึ การวาดเสน้ หรือจิตรกรรมแบบกึ่งสัจนิยมหรืออสัจนิยม (ก่ึงเหมือนจริง หรือไม่เหมือนจริง) เพ่ือการเสียดสี การล้อเลียน ความขบขัน หรือการแสดงออก ซ่ึ ง ก ร ะ บ ว น แ บ บ เ ชิ ง ศิ ล ป ะ ศิ ล ปิ น ผู้ ว า ด ก า ร์ ตู น เ รี ย ก ว่ า นั ก เ ขี ย น การ์ตูน (cartoonist)
ความหมายของการต์ นู ภาพลอ้ การ์ตูน(CARTOON) พจนานกุ รมฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 \"ภาพลอ้ ภาพตลก บางทีก็เขียนเปน็ ภาพบคุ คล บางทีเขียนเปน็ ภาพแสดงเหตุการณ์ ที่ผูเ้ ขียนต้ังใจล้อเลียน จะให้ดูร้สู กึ ขบขนั บางทีกเ็ ขียนติดตอ่ กันเปน็ เรื่องยืดยาว\" การต์ ูน(CARTOON) พจนานกุ รมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 \"ภาพลอ้ ภาพตลก บางทีกเ็ ขียนเป็นภาพบุคคล บางทีเขียนเปน็ ภาพแสดงเหตุการณ์ ที่ผูเ้ ขียนตงั้ ใจลอ้ เลียน จะใหด้ ูร้สู กึ ขบขนั บางทีกเ็ ขียนตดิ ตอ่ กนั เปน็ เรื่องยืดยาว\"
ความหมายของการต์ นู ภาพลอ้ ไพเราะ เรืองศิริ ( 2524 : 12 ) การ์ตูนคือภาพวาดง่าย ๆ ที่มีแบบเฉพาะตัวไม่เหมือน ภาพธรรมดาท่ัวไป ภาพการ์ตูนอาจมีรูปร่างที่เกินความเป็นจริงหรือลดรายละเอียดที่ ไม่ จาเป็นออก เพ่ือจุดมุ่งหมายในการบรรยายการแสดงออกมุ่งให้เกิดความตลกขบขัน ล้อเลียน เสียดสีการเมืองและสงั คม ตลอดจนใชใ้ นการโฆษณาประชาสมั พันธใ์ ห้หน้าสนใจ ยง่ิ ข้นึ นอกจากนน้ั อาจจะใช้ประกอบการเลา่ เรื่องบันเทงิ คดี สารคดีได้อีกด้วย และที่สาคัญ ก็คือใชป้ ระกอบการเรียนการสอน
ความหมายของการต์ นู ภาพลอ้ วิชติ ศรีทอง ( 2526 : 21) การต์ ูนคือ ภาพวาดที่เปน็ สัญลักษณ์ จาลองมาจากความคิด อาจจะเป็นภาพที่เกินความจริง ภาพล้อเลียน หรือภาพที่ทาให้เกิดอารมณ์ขัน สาหรับใช้ ในการสื่อความหมายหรือเสนอความคิดเห็นเก่ียวกับเรื่อง ราว เหตุการณ์ตัวบุคคลหรือ สถานที่ ดังน้ัน จึงอาจสรปุ ความหมายของการต์ ูนได้ว่า การต์ ูน คือ รูปภาพ หรือสัญลกั ษณ์ที่เกดิ จากการวาด เพือ่ สร้างความตลกขบขนั สื่อความหมาย หรือลอ้ เลียนสังคม ซงึ่ อาจมี ลกั ษณะเกนิ ความจริง เพือ่ ถา่ ยทอดอารมณ์ หรือแสดงแนวคดิ ตา่ ง ๆ เพือ่ ให้เกดิ ความ เข้าใจ
ความหมายของการต์ นู ภาพลอ้ การ์ตูน นอกจากเป็นเรื่องราว หรือกรอบส้ัน ๆ ในหนังสือแล้ว ปัจจุบันการ์ตูนนิยม สร้างเป็นภาพเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากข้ึน แต่สาหรับการ์ตูนที่นาเสนอ เรื่องราวในหนังสือนิยมสร้างสาหรับการเรียนรู้ เพิ่มทักษะการอ่าน ไปในตัวได้ด้วย ใน ยคุ อดีต การต์ ูนหมายถึงภาพร่างหรือภาพวาดที่ใชก้ ารเรียนการศึกษาแทนการใช้ภาพจริง ในปัจจุบันการ์ตูนมักจะหมายถึงแอนิเมชัน ซ่ึงเป็นเทคนิคในการสร้างการ์ตูนในยุค ปัจจุบัน ที่มีการฉายทางโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์ ในความหมายอื่น การ์ตูนใช้แทน รายการสาหรับเด็กที่มีการใช้สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตอย่างอื่นเคลื่อนไหวในลักษณะเหมือน มนษุ ย์
ความหมายของการต์ นู ภาพลอ้ การ์ตูน นอกจากเป็นเรื่องราว หรือกรอบส้ัน ๆ ในหนังสือแล้ว ปัจจุบันการ์ตูนนิยม สร้างเป็นภาพเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากข้ึน แต่สาหรับการ์ตูนที่นาเสนอ เรื่องราวในหนังสือนิยมสร้างสาหรับการเรียนรู้ เพ่ิมทักษะการอ่าน ไปในตัวได้ด้วย ใน ยุคอดีต การต์ ูนหมายถงึ ภาพร่างหรือภาพวาดทีใ่ ช้การเรียนการศึกษาแทนการใช้ภาพจริง ในปัจจุบันการ์ตูนมักจะหมายถึงแอนิเมชัน ซึ่งเป็นเทคนิคในการสร้างการ์ตูนในยุค ปัจจุบัน ที่มีการฉายทางโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์ ในความหมายอื่น การ์ตูนใช้แทน รายการสาหรับเด็กที่มีการใช้สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตอย่างอื่นเคลื่อนไหวในลักษณะเหมือน มนุษย์
ความหมายของ ภาพลอ้ เป็นภาพที่มีความผิดเพี้ยนหรือเกินกว่าความเป็นจริง โดยล้อเลียนลักษณะเฉพาะ ของผู้ทีเ่ ป็นแบบในการวาด สว่ นมากจะเป็นภาพล้อเลียนบุคคลสาคัญในแวดวงต่าง ๆ เล่น บคุ คลสาคัญทางการเมือง นกั แสดง นกั ร้องทีม่ ีชื่อเสียง
ลกั ษณะของภาพการต์ นู 1. แบบธรรมชาติ เป็นแบบที่อิงลักษณะความเป็นธรรมชาติของสรรพสิ่งต่างๆ ท้ัง ในลักษณะที่มีสัดส่วนเหมือนหรือคล้ายธรรมชาติ ในลักษณะแบบยืดสัดส่วนและหด สดั สว่ น ดงั ตัวอยา่ งภาพ เปน็ ต้น
ลกั ษณะของภาพการต์ นู 2. แบบเหนือธรรมชาติ เปน็ แบบทีส่ รา้ งสรรค์ขนึ้ ตามจนิ ตนาการเหนือรูปแบบที่พบ เหน็ ในธรรมชาตทิ วั่ ไป แตอ่ าจได้แรงใจมาจากสิ่งที่มีอยู่จริงหรือคิดขึ้นใหม่ก็ได้ เช่น โดรา เอมอน และโดนลั ดั๊ก เปน็ ต้น
หนว่ ยท่ี 2 ประเภทของการต์ นู ภาพลอ้
1. การต์ นู ลอ้ การเมอื ง (POLITICAL CARTOONS) ภาพจาก http://www.natethip.com/news1.php?id=88
1. การ์ตนู ลอ้ การเมอื ง (POLITICAL CARTOONS) ภาพจาก เพจ ประชาชาติธรุ กิจ
2. การต์ นู ลอ้ บคุ คล (CARICATURE) เปน็ การ์ตูนที่เขียนข้ึนเพื่อลอ้ เลียนบคุ คลดังในสาขาอาชีพต่างๆ ของสงั คม หรืออาจจะเปน็ ภาพลอ้ เพ่อื นๆ และตัวเราเองกไ็ ด้
2. การต์ นู ลอ้ บคุ คล (CARICATURE) ภาพการต์ ูนล้อบุคคลเป็นภาพเขียนทีไ่ ม่แสดงสัดสว่ นโครงสรา้ งที่ถูกตอ้ ง เปน็ ลักษณะทีป่ ราศจากกฎเกณฑพ์ ืน้ ฐานใด ๆ เชน่ บุคคลทีม่ จี ุดเด่นที่ดวงตากลม โต ก็ใหเ้ ขียนภาพเน้นที่ดวงตาให้โตมาก ๆ หรือบางคนใบหูกางใหญ่ กเ็ ขียน ใหใ้ บหูกางใหญ่ผดิ ปกติ หรือนาเอาสว่ นอืน่ เช่นริมฝีปากบาง หนา จมูกใหญ่ โดง่ บี้ เสน้ ผมดก บาง เม็ดไฝ ตลอดจนเครื่องประดับต่าง ๆ กน็ ามาเป็น สญั ลักษณ์สื่อออกมาเปน็ การ์ตูนได้
2. การต์ นู ลอ้ บคุ คล (CARICATURE) ในการเขียนภาพล้อบุคคลน้ี สง่ิ สาคญั คือจะตอ้ งหาจุดเด่นทีเ่ ปน็ เอกลกั ษณบ์ นใบหน้าและลกั ษณะ รูปร่างของคนนนั้ ๆ ให้ได้ เช่น ค้ิวดก ตากลมโต จมูกใหญ่ ปากหนา หูกาง รูปร่างสูงเก้งก้าง หรืออว้ น เตี้ย เปน็ ตน้ จากนน้ั จงึ นามาออกแบบตวั ละครการต์ นู ด้วยการยืดหดสดั ส่วนใหเ้ พี้ยนไปจากความจริงให้ ดูมีอารมณ์ขัน แตย่ งั มีเคา้ ของบุคคลนน้ั อยู่ การเขียนภาพการ์ตูนลอ้ เลียนบคุ คลสามารถเขียนได้ โดยงา่ ย ถ้าหากผูเ้ ขียนพยายามสังเกต คน้ หารายละเอียดและลกั ษณะเฉพาะตัวบุคคลที่จะเขียน ล้อเลียน โดยเน้นเอาสว่ นทีแ่ ตกต่างไปจากคนทัว่ ๆ ไป มาเป็นจุดเด่นของภาพแลว้ สร้างจุดเนน้ ใหเ้ ดน่ เลยความเป็นจริง
2. การต์ นู ลอ้ บคุ คล (CARICATURE)
2. การต์ นู ลอ้ บคุ คล (CARICATURE)
2. การต์ นู ลอ้ บคุ คล (CARICATURE) ภาพจาก เพจ ลงุ ตูต่ ูน
3. การต์ นู เสยี ดสสี งั คม (SATIRIZE SOCIETY CARTOONS) การเสียดสีสังคมคือการใช้ อารมณข์ ัน มุกตลก ความย้อนแย้ง และการพูดเกนิ จรงิ เพอ่ื วิพากษ์วิจารณต์ ง้ั แต่เรื่องต่างๆในสงั คม ฉะนน้ั การเสียดสีจงึ ไมใ่ ช่แคเ่ พื่อการ สร้างความขบขนั หรือเพื่อความบนั เทงิ แต่เป็นเครือ่ งมือทางสงั คมเพราะว่ามนั สามารถสะทอ้ นใหเ้ ราได้เหน็ ถึงความจริงของสงั คมในปัจจุบนั ไดด้ ว้ ย การเสียดสีมี อยู่ในทุกสงั คม บางประเทศมีรายการในสื่อกระแสหลกั ที่เน้นเรือ่ งการเสียดสี โดยเฉพาะเลยดว้ ยซ้า แต่สาหรบั ในประเทศไทย ณ ตอนนี้ สื่อทีเ่ ป็นอิสระทีส่ ุดคือ สื่อออนไลน์ การเสียดสีจึงเป็นเครื่องมือ ที่ใชแ้ สดงออกทางออ้ ม อารมณ์ขันที่ต่อใหเ้ จบ็ แสบ กย็ ังบรรเทาความรุนแรง ให้เหมอื นเป็นเรื่องล้อเล่น
3. การ์ตนู เสยี ดสสี งั คม (SATIRIZE SOCIETY CARTOONS) การเสียดสีไม่เพียงแคท่ ง้ิ อารมณ์เคืองใหค้ า้ งคาใจ หรือติเตียนทางออ้ มเฉยๆ เท่านนั้ นักเสียดสีที่ฉลาดยังสามารถซ่อนขอ้ เสนอแนะที่น่าจะเป็นไวไ้ ด้ดว้ ย หาก มองผา่ นโลกโซเชยี ลซึง่ สายตาของคนเราไปจับจ้องมากทส่ี ดุ ตอนน้ี ก็มีเพจเสียดสี เกดิ ขึน้ มากมาย ทงั้ นาเสนอด้วยคาคม ภาพ และการ์ตูน นี่คือกระจกสะท้อนสภาพ สังคม ทรัพยากรทางธรรมชาตติ ่าง มลพษิ ทางอากาศทห่ี นกั ขน้ึ เรือ่ ยๆ บดบงั สง่ิ ท่ี กลายเปน็ ทาสธรุ กิจของมนษุ ย์ ธรรมชาติเคยมอี ย่ทู ุกเมื่อเช่ือวนั ทม่ี า brightside.me
3. การ์ตนู เสยี ดสสี งั คม (SATIRIZE SOCIETY CARTOONS)
3. การ์ตนู เสยี ดสสี งั คม (SATIRIZE SOCIETY CARTOONS)
3. การ์ตนู เสยี ดสสี งั คม (SATIRIZE SOCIETY CARTOONS)
3. การ์ตนู เสยี ดสสี งั คม (SATIRIZE SOCIETY CARTOONS)
3. การ์ตนู เสยี ดสสี งั คม (SATIRIZE SOCIETY CARTOONS)
4. การต์ นู ขาขนั (HUMOROUS CARTOON) การต์ ูนที่มงุ่ เน้นความขันเปน็ หลกั นยิ มนาเหตกุ ารณ์ใกล้ตัวมาเขียน รูปแบบ ของการต์ ูนจะเขยี นเปน็ กรอบเดียวหรือเป็นชอ่ งตอ่ เนื่องกัน 2 ถึง 3 ช่องจบ หรือบางทกี ็มีความยาวหลายช่องแต่จบใน 1 หนา้ การ์ตูนขาขนั เปน็ ทีน่ ยิ ม มากในสังคมไทยกล่มุ ผูอ้ ่านสว่ นใหญจ่ ะเป็นวยั เด็กและวยั ร่นุ
4. การต์ นู ขาขนั (HUMOROUS CARTOON)
5. การต์ นู เรอ่ื ง (STRIP CARTOON) เปน็ การต์ ูนทีน่ าเสนอเปน็ เรือ่ งราวตอ่ เนื่องกนั จนจบ ไมจ่ ากัดความยาว อาจเป็น 1 หนา้ จบ หรือหลายสบิ หน้าจบกไ็ ด้ เนื้อหาที่นาเสนอเปน็ ได้ทั้งแนวขบขันหรือแนว ชีวิตรัก ชีวิตทีต่ ่อสู้ หรือชีวติ จรงิ ของบคุ คล ผจญภัย วทิ ยาศาสตร์ สยองขวญั รัก และตลกเบาสมอง เปน็ ต้น การ์ตูนประเภทนีจ้ ะพิมพเ์ ป็นเล่ม เชน่ หนงั สือการต์ ูน ฝรั่งเรือ่ งเกีย่ วกับยอดมนษุ ยท์ ง้ั หลาย การต์ ูนญี่ปุ่น เรือ่ งโดราเอมอ่ น เปน็ ตน้
5. การต์ นู เรอื่ ง (STRIP CARTOON) การ์ตูนเรือ่ งมกั จะพิมพ์เปน็ เล่ม ในเลม่ อาจเปน็ เรือ่ งราวหลายๆ เรื่องเรียกว่า นามารวมเลม่ หรือใน 1 เล่ม อาจเปน็ เรื่องยาวเรือ่ งเดียว การ์ตูนเรื่องดังกลา่ วนี้เรา จะพบเห็นแพรห่ ลายท่ัวไปตามแผงหนงั สือ เช่น การ์ตูนเล่มของญี่ปนุ่ สว่ นของ ไทยน้นั มักจะเป็นเรื่องจากวรรณคดีนทิ านพื้นบา้ นที่นยิ มมากและพมิ พ์จาหนา่ ยมา นานในวงการหนังสือการ์ตูนเรื่องของ ไทย คือ การต์ ูนที่เรียกตดิ ปากกันว่า “การ์ตูนเลม่ ละบาท” ในอดีต ปจั จบุ นั เปน็ เลม่ ละ 5 บาท เนื้อหาสว่ นใหญเ่ ป็น เรื่องราวฝีสางนางฟา้ เทวดา รกั หวานซงึ้ และอีกหลากหลายรส
5. การต์ นู เรอ่ื ง (STRIP CARTOON)
5. การต์ นู เรอ่ื ง (STRIP CARTOON)
6. การต์ นู ประกอบเรอ่ื ง (ILLUSTRAT CARTOON) เป็นการ์ตูนทีเ่ ขยี นขน้ึ มาเพื่อจุดมุง่ หมายอธิบายหรือประกอบเนือ้ หาประกอบ เรือ่ งราวและขอ้ เขียนต่างๆ การต์ ูนประกอบเรื่องนบั เป็นประเภทการต์ ูนท่ใี ช้เป็น สื่อในหลายวงการ ผู้เขียน อาจสร้างสรรคข์ นึ้ มาเพือ่ ประกอบโฆษณา เพอ่ื ประกอบเนื้อหาทางการศึกษา ประกอบเรื่องราวในนิตยสารหรือสงิ่ พมิ พ์ต่างๆ
6. การต์ นู ประกอบเรอื่ ง (ILLUSTRAT CARTOON) การ์ตูนประกอบเรือ่ งมีทงั้ เทคนคิ การวาดเส้น ระบายสี และสื่อผสมต่างๆ การ เขยี นภาพการต์ ูนประกอบเรื่อง นน้ั หลักสาคัญคือต้องสือ่ ความหมายถึงสาระสาคญั ของเรื่องนั้นๆ ไดช้ ดั เจน ซึ่งอาจเลือกประเด็นหนงึ่ ทเ่ี ปน็ หัวใจของเรื่องมานาเสนอ ให้ผู้ชมรับรู้เรือ่ งราวนน้ั ไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์
6. การต์ นู ประกอบเรอื่ ง (ILLUSTRAT CARTOON)
7. การต์ นู เคลอ่ื นไหว (ANIMATION CARTOON) ภาพยนตร์การต์ ูน เปน็ ภาพยนตรก์ ารต์ ูนทีส่ ร้างเป็นเรื่องราวหรือเพื่อการโฆษณา แล้วถา่ ยทาเป็นภาพยนตร์ มีการเคลื่อนไหวเหมอื นมีชีวติ ภาพยนตร์ ข้นั ตอนที่ ยงุ่ ยาก เพราะตอ้ งเขียนภาพการ์ตูนเป็นภาพนง่ิ จานวนมากต่อการเคลื่อนไหวใน อิรยิ าบถหนง่ึ ๆ แล้วจึงเขา้ กระบวนการของเทคนิคการถา่ ยทาเป็นภาพยนตรใ์ น ปัจจุบัน
7. การต์ นู เคลอื่ นไหว (ANIMATION CARTOON) ปัจจุบันเทคโนโลยีเจริญกา้ วหนา้ มากการสรา้ งภาพยนตร์การต์ ูนไดใ้ ช้เทคโนโลยี คอมพวิ เตอร์เขา้ ชว่ ย ทาให้การสร้างภาพยนตรก์ ารต์ นู งา่ ยขึ้นและสามารถ สร้างสรรคภ์ าพเคลอื่ นไหวตามจินตนาการไดอ้ ยา่ งนา่ ตืน่ เตน้ มากขน้ึ การ์ตูนเป็นที่ นิยมอยา่ งแพร่หลายทัว่ โลก เป็นธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในปัจจุบัน
7. การต์ นู เคลอ่ื นไหว (ANIMATION CARTOON)
7. การต์ นู เคลอ่ื นไหว (ANIMATION CARTOON)
7. การต์ นู เคลอ่ื นไหว (ANIMATION CARTOON)
7. การต์ นู เคลอ่ื นไหว (ANIMATION CARTOON)
หนว่ ยท่ี 3 เครอื่ งมอื พน้ื ฐานทใ่ี ชใ้ นงานเขยี นการต์ นู
1. กระดาษ (PAPER) หลกั ในการเลือกซื้อกระดาษจะตอ้ งเลือกซื้อทีเ่ นื้อหนาแนน่ ๆไมบ่ างไป เพราะเวลา ลบจะทาให้เป็นขยุ ได้ แลว้ ก็ต้องเลือกทีม่ ีเนือ้ หนาพอทีจ่ ะตดั เส้นแลว้ เสน้ ไมแ่ ตก ไม่ ซมึ เปือ้ นหมกึ หรือสีง่าย แตถ่ ้าเป็นในกรณีของคนทีว่ าดแล้วนาไปตกแต่งใน คอมพวิ เตอรก์ ส็ ามารถเลือกซือ้ กระดาษท่หี นาเพียง 80 แกรมได้ ควรเลือกใชใ้ ห้ เหมาะสมกบั กลวิธีการสร้างสรรค์ เชน่ กระดาษอารต์ กระดาษการด์ เหมาะ สาหรบั วาดดว้ ยปากกาจุม่ หมกึ พูก่ ันจ่มุ หมกึ และ ปากกาหมึกสาเรจ็ รปู เป็นต้น กระดาษวาด เขียนร้อยปอนดด์ า้ นผวิ เรียบเหมาะสาหรับการวาดด้วย ดนิ สอดา ดนิ สอสี ปากกา เป็นตน้ ดา้ นผวิ หยาบเหมาะสาหรบั การวาดดว้ ยกลวธิ กี ารระบายสีนา้ สีโปสเตอร์ เปน็ ตน้
1. กระดาษ (PAPER) ประเภทกระดาษ 1.กระดาษเคลือบผวิ (Coated paper) คือกระดาษที่ถูกนาไปเคลือบผวิ โดย สว่ นมากเราจะรู้จักในทีเ่ รียกวา่ กระดาษอารต์ ซ่งึ มคี ณุ สมบัติคอื เม่อื นาไปพมิ พจ์ ะดี สีสันที่สวยงาม กระดาษชนิดนี้จะใชส้ าหรับงานพิมพ์ออฟเซท็ งานพมิ พท์ ีไ่ ดจ้ ะมีสี ใกล้เคียงกบั สีจรงิ สามารถนาไปเคลือบลามิเนต หรือเคลือบยูวี ต่อได้ สามารถซึ่ง จะมีอยู่ 2 แบบคือ
1. กระดาษ (PAPER) - กระดาษชนดิ เคลือบมัน หรือกระดาษอาร์ตมนั (Gloss paper) ใช้สาหรับงาน พมิ พท์ ี่ตอ้ งการความมนั วาว เนน้ ความสวยงามเป็นพิเศษ ความหนาของ กระดาษมหี นว่ ยเรียกวา่ ”แกรม”โดยทวั่ ไปทีใ่ ช้ในงานพมิ พ์จะมขี นาด 100, 128, 130, 160 แกรม ถา้ ขนาด 160 แกรมขนึ้ ไปเราจะเรียกวา่ กระดาษอาร์ตการด์ ใช้ สาหรบั พมิ พก์ ารด์ หรือนามบตั ร
1. กระดาษ (PAPER) - กระดาษชนดิ เคลือบด้าน หรือกระดาษอารต์ ดา้ น(Matt paper) ใชส้ าหรับ งามพมิ พ์ที่ตอ้ งการความ ละเอียดอ่อนของภาพ แกรมท่โี รงพิมพเ์ ลือกใช้ 100, 128, 130, 160
1. กระดาษ (PAPER) 2. กระดาษแบบไมเ่ คลือบผวิ เป็นกระดาษที่ไมไ่ ด้นาไปเคลือบผวิ ซึ่งจะไม่ เหมาะที่จะนาไปพมิ พ์งานทีต่ ้องการความละเอียดสูง ส่วนมากจะใชก้ บั งานพมิ พ์ แบบ 1 สี - กระดาษปอนด์ หรือกระดาษวาดเขียน กระดาษที่เหมาะในการเขียน ภาพระบายสี มแี บบกระดาษปอนด์เรียบ เหมาะสาหรบั ใชก้ บั สีโปสเตอร์ และสีไม้ ทาใหไ้ มซ่ ึมซับนา้ มากและเร็วเกินไป และกระดาษปอนด์ หยาบมีคุณสมบัติดูด ซึมน้าอยา่ งรวดเรว็ เหมาะสาหรบั ใช้กับสีน้า ภาพเขยี นที่ออกมาจะดูชมุ่ นา้ กระดาษที่ใช้ควร หลีกเลี่ยงความชืน้ และการมว้ นกระดาษทาให้ กระดาษเกิดรอยยับ และแตกหกั เสียหายไดม้ ัก ใชส้ าหรับวาดภาพ มีหลายขนาด เรม่ิ จาก 80 ปอนด์ ขึน้ ไป
1. กระดาษ (PAPER)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282