Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สื่อประสม 9 การเล่นเป็นทีม

สื่อประสม 9 การเล่นเป็นทีม

Published by Chat chai, 2018-07-05 01:58:02

Description: สื่อประสม 9 การเล่นเป็นทีม

Search

Read the Text Version

เล่มที่ 9 เร่ือง การเลน่ วอลเลย์บอลเป็นทมี 5 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้เมื่อจบบทเรยี นนกั เรยี นสามารถ 1. อธบิ ายวิธีการเล่นวอลเลย์บอลเปน็ ทีมได้ (K) 2. บอกคุณค่าและประโยชนข์ องการเลน่ วอลเลย์บอลเปน็ ทีมได้ (K) 3. ปฏิบัติการการเลน่ วอลเลย์บอลเป็นทีมได้ (P) 4. นาทักษะการเล่นวอลเลยบ์ อลเป็นทมี ไปเลน่ เกมการแขง่ ขนั ตามกตกิ าได้ (A) 5. นกั เรียนมีความสนกุ สนานในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมการเล่นวอลเลยบ์ อลเป็นทีม (A)

เล่มที่ 9 เรื่อง การเล่นวอลเลยบ์ อลเป็นทมี 6 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เร่อื ง การเล่นวอลเลยบ์ อลเป็นทีมจานวน 10 ข้อ 10 คะแนนคาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบท่ีถูกทสี่ ุดเพียงคาตอบเดียว โดยทาเคร่อื งหมาย × ลงในกระดาษคาตอบ1. เมอื่ สถานการณ์ อยูใ่ นเกมรับ ผูท้ ่อี ยู่ในตาแหน่งกลางหลังควรเปน็ ผ้เู ลน่ ลกั ษณะใด ก. เล่นลูกวอลเลย์บอลสองมือลา่ งได้ดี ข. ตบลูกวอลเลยบ์ อลได้รนุ แรงแมน่ ยา ค. เซตลกู วอลเลยบ์ อลได้แม่นยา ง. เล่นลูกหยอดได้แมน่ ยา จากรปู ให้ตอบคาถาม ข้อ 2 - 3   2. การเรม่ิ เลน่ ลูกแรก ผ้เู สริ ฟ์ หมายถงึ หมายเลขใด ก. 2 ข. 1 ค. 4 ง. 33. ผูเ้ ล่นตาแหน่งหมายเลข 3 เรยี กตาแหน่งใด ก. หน้าซ้าย ข. หนา้ ขวา ค. หนา้ กลาง ง. กลางหลงั

เล่มท่ี 9 เรื่อง การเลน่ วอลเลย์บอลเปน็ ทมี 74. ถา้ หากต้องการจะเป็นฝา่ ยรุกที่ดี จะต้องฝกึ อะไรให้มากที่สุด ก. การรับลกู วอลเลยบ์ อล ข. การส่งลกู วอลเลย์บอล ค. การเซตลกู วอลเลย์บอล ง. การสง่ ลูกวอลเลยบ์ อลและการเซตลูกวอลเลย์บอล5. ความสาเรจ็ ของทีมรุกข้ึนอยกู่ ับขอ้ ใดมากทส่ี ดุ ก. ความสมั พนั ธใ์ นทีม ข. การรบั ลกู วอลเลยบ์ อล ค. การตบลกู วอลเลยบ์ อล ง. การเสิรฟ์ ลูกวอลเลยบ์ อล6. ถา้ ลูกวอลเลย์บอลตดิ ตาขา่ ย ผูเ้ ล่นตาแหนง่ ใดควรเป็นผ้เู ล่นลกู วอลเลย์บอลจากตาข่าย ก. ตาแหนง่ หลงั ซา้ ย ข. ตาแหนง่ หลังขวา ค. ตาแหนง่ กลางหลัง ง. ตาแหน่งกลางหน้า7. การนบั ตาแหน่งผูเ้ ลน่ นับจากทศิ ทางใด ก. นบั จากหลังไปขวา ข. นับจากซา้ ยไปซา้ ย ค. นับจากขวาไปหน้า ง. นบั ตาแหนง่ เสริ ฟ์ เปน็ ตาแหนง่ ท่ี 18. การยนื รบั ลูกเสิรฟ์ มแี บบใดบา้ ง ก. แบบ W M U ข. แบบ W N V ค. แบบ W N E ง. แบบ W N M9. เม่ือไม่มีการสกดั กน้ั ใหว้ างตาแหนง่ การรบั ในลกั ษณะใด ก. เปน็ เสน้ ตรง ข. เป็นวงกลม ค. เป็นสามเหลย่ี ม ง. เปน็ รปู ครง่ึ วงกลม

เล่มท่ี 9 เรอ่ื ง การเล่นวอลเลย์บอลเปน็ ทมี 810. การสกัดกนั้ ในการปอ้ งกัน ผ้เู ลน่ แดนหนา้ จะทาหน้าทอี่ ะไร ก. รบั ลกู วอลเลยบ์ อล ข. สกัดกัน้ ลกู วอลเลยบ์ อล ค. สง่ ลกู วอลเลย์บอล ง. ตบลกู วอลเลย์บอล

เลม่ ท่ี 9 เรือ่ ง การเลน่ วอลเลยบ์ อลเป็นทีม 9 กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียนรายวิชา เรื่อง การเลน่ วอลเลย์บอลเปน็ ทีมชื่อ - สกลุ ..................................................................... ชน้ั ............ เลขท่ี ..............ขอ้ ที่ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9.10.

เลม่ ที่ 9 เร่อื ง การเล่นวอลเลย์บอลเปน็ ทมี 10 ใบความรู้ท่ี 9 เรอื่ ง การเล่นวอลเลย์บอลเป็นทีมหลักการทว่ั ไปในการเลน่ วอลเลยบ์ อลเป็นทีมการเล่นทมี มี 2 ลกั ษณะ 1. การเล่นทมี ขณะเป็นฝ่ายรุก หมายถึง ทีมที่ครอบครองลูกได้ชือ่ ว่าเปน็ ฝ่ายรุก และทาทกุ วธิ ีการทีจ่ ะรุกทมี ฝา่ ยตรงขา้ มให้ได้คะแนนคู่ต่อสู้ เช่นการรุกดว้ ยการเสริ ์ฟ การรุกด้วยการตบ และการหยอด เป็นตน้ 2. การเล่นทีมขณะเป็นฝ่ายรับ เป็นการรับลูกจากการรุก จากฝ่ังตรงข้าม ซ่ึงอาจจะเป็นลูกเสิร์ฟ ลูกตบ ลูกหยอด หรือลูกกระดอน จากการตบจากฝ่ังตรงข้าม โดยการเล่นทีมขณะเป็นฝ่ายรับอาศัยการทักษะ การรับลูกเสิร์ฟ การสกัดกั้น และการติดตาม รวมท้ัง การคาดคะเน ทิศทางลูกตบของฝา่ ยตรงขา้ มทกี่ ระดอนถูกผสู้ กัดกน้ั และพยายามในการรบั ลูกน้นั ใหส้ าเร็จองค์ประกอบของการเล่นเป็นทมี เมื่อผู้เล่นได้ผ่านการฝึกทักษะขั้นพื้นฐานของการเล่นกีฬาวอลเลย์บอลมาแล้ว ก็จะได้นาเอาทักษะการเล่นมาประกอบใช้ในการเล่นเป็นทีม ซ่ึงต้องอาศัยการประสานสัมพันธ์กันเป็นอย่างดีและต้องหม่นั ฝกึ ซ้อมให้เกิดความชานาญเพื่อให้เกมการเลน่ เกดิ ความสนุกสนาน ในการเล่นเป็นทีมครั้งแรก ๆ อาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นบ้างเพราะทักษะส่วนบุคคลหรือความสัมพันธ์ภายในทีมยังไม่ดี มีการเกี่ยงกันเล่นหรือแย่งกันเล่น ก็อย่าได้ท้อถอย ควรหาข้อบกพร่องและนาไปปรบั ปรงุ เพอ่ื ให้การเล่นวอลเลย์บอลไปสู่จุดหมายที่ต้องการ คอื มชี ยั ชนะ มีสุขภาพกาย และสุขภาพจิตท่ดี ี ก่อนเขา้ สู่การเล่นเป็นทีมผู้เล่นควรมีความรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบของการเลน่ เปน็ ทีม ซ่ึงประกอบดว้ ย 1. คุณลักษณะของผู้เล่นกีฬาวอลเลย์บอล 2. ตาแหน่งของผูเ้ ล่นกีฬาวอลเลย์บอล 3. การเคลื่อนท่ีไปสูต่ าแหน่งต่าง ๆ เมอ่ื ลกู บอลเข้าส่กู ารเล่น 4. ทิศทางการหมุนตาแหน่งของผ้เู ลน่ 5. ระบบการนับคะแนน 6. ระบบการเล่นเป็นทีม 7. รปู แบบการยืนรับลกู 8. รูปแบบการรกุ 9. รปู แบบการรองรบั ลูกบอล 10. คณุ ลักษณะของการเลน่ เป็นทมี ทดี่ ี โดยแตล่ ะเรอ่ื งมีรายละเอยี ด ดังน้ี

เลม่ ที่ 9 เร่อื ง การเล่นวอลเลยบ์ อลเปน็ ทีม 111. คณุ ลักษณะของผู้เลน่ กีฬาวอลเลย์บอล วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่มีการหมุนตาแหน่งกันข้ึนมาเล่นจากแดนหลังมาสู่แดนหน้า ไม่มีตาแหน่งที่ตายตัวเหมือนกับกีฬาบางประเภท เช่น ฟุตบอล มีตาแหน่งกองหน้า กองกลาง กองหลังและผรู้ ักษาประตู แตใ่ นกฬี าวอลเลย์บอลเมื่อผ้เู ล่นหมุนตาแหนง่ ข้ึนมาส่แู ดนหน้ากจ็ ะเป็นผูต้ บลูกและเม่ือลงไปอยู่ในแดนหลังก็จะเป็นผู้รับลูก ตาแหน่งการเล่นหมุนเวียนกันไปตลอดมา แต่อาจจะมีตาแหน่งท่ีเฉพาะอยู่บ้างก็คือผู้ตั้งลูก ซึ่งเป็นตาแหน่งท่ีจัดตัวผู้เล่นไว้เฉพาะ ในแต่ละทีมอาจมีผู้ตั้งลูกหน่ึงคนหรือสองคนก็ได้ข้ึนอยู่กับระบบการเล่นของทีมน้ัน ๆ แต่ถ้าจะแยกตาแหน่งของผู้เล่นกีฬาวอลเลย์บอลท่ีเล่นอยู่ในสนามสามารถแบ่งตาแหน่งของผู้เล่นออกเป็น 3 ตาแหน่ง ตามลักษณะของการเลน่ คือ 1.1 ผูต้ บลกู เปน็ ตาแหน่งทส่ี ามารถทาคะแนนให้กับทีมได้ ดังน้ันผู้เล่นท่เี ปน็ ผู้ตบลูกที่ดีจึงควรมลี ักษณะดงั น้ี 1.1.1 มรี ูปรา่ งสงู ใหญ่และแข็งแรง 1.1.2 มแี รงส่งจากขอ้ เทา้ ดแี ละกระโดดได้สงู 1.1.3 มีความสามารถในการแกป้ ญั หาเฉพาะหน้าได้ดี 1.1.4 มีความพร้อมทจ่ี ะตบลูกอยูต่ ลอดเวลา 1.1.5 มกี ารประสานงานที่ดีกบั ผู้ตง้ั ลูก 1.1.6 มีความสามารถในการตบลูก ได้รุนแรงและแมน่ ยา 1.2 ผตู้ ้ังลูก ในปัจจุบันตาแหน่งผู้ตั้งลูกของแต่ละทีมถือเป็นตาแหน่งการเล่นท่ีเฉพาะ ไม่มีการเปลย่ี นตาแหนง่ ให้ผู้เลน่ คนอ่ืน ดังนั้นการจะเปน็ ผู้ตัง้ ลูกทด่ี จี ึงควรมคี ณุ ลักษณะดงั นี้ 1.2.1 มีสมองดี อา่ นเกมการเล่นออก 1.2.2 มีการประสานงานกับเพ่ือนร่วมทมี ดี 1.2.3 มคี วามสามารถในการตัง้ ลูกได้สมั พันธก์ บั ผ้ตู บลูก 1.2.4 มคี วามพร้อมและตน่ื ตวั ที่จะต้ังลูกอยูต่ ลอดเวลา 1.2.5 มกี ารเคล่ือนท่เี ข้าสู่ตาแหน่งการตั้งลูกได้อยา่ งรวดเรว็ และทนั กบั ทิศทางของ ลกู บอล 1.2.6 มีรปู รา่ งสูงใหญแ่ ละแขง็ แรง เพราะเม่อื อยใู่ นแดนหนา้ จะต้องทาการสกัดกัน้

เลม่ ที่ 9 เรือ่ ง การเล่นวอลเลย์บอลเปน็ ทมี 12 1.3 ผู้รับลูก การรับลูกเป็นการเล่นคร้ังแรกของทีม ถ้ารับลูกบอลมาให้ผู้ต้ังลูกดีจะทาให้ผู้ต้ังลูกสามารถทาการตั้งลูกได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบันการเล่นกีฬาวอลเลย์บอลได้กาหนดให้มีตาแหน่งผู้รับอิสระเพ่ือทาการรับลูกเพียงอย่างเดียว ทาให้การรับลูกมีความสาคัญมากข้ึน ดังน้ันการจะเปน็ ผู้รบั ลกู ทด่ี ีจึงควรมีคุณลกั ษณะ ดังน้ี 1.3.1 มีรปู รา่ งแขง็ แรง 1.3.2 มีความคล่องตัวดี สามารถเคล่ือนท่ีไปรับลูกบอลตามจดุ ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว 1.3.3 มีการตัดสินใจท่ีรวดเร็วและแน่นอนต่อการเข้ารับลูกบอล 1.3.4 มีความกลา้ ต่อการรับลกู บอลทถี่ ูกตบมาอย่างแรง 1.3.5 มที กั ษะในการรับลกู แบบตา่ ง ๆ เป็นอย่างดี 1.3.6 มกี ารคาดคะเนทศิ ทางของลูกบอลได้อยา่ งถูกต้อง2. ตาแหน่งของผเู้ ล่น กีฬาวอลเลย์บอลเป็นกีฬาประเภททีมมีตาแหน่งในการเล่นแบ่งออกเป็น 6 ตาแหน่งการนบั ตาแหนง่ ใหน้ บั ในลกั ษณะทวนเข็มนาฬิกาดงั น้ี คือ 2.1 ตาแหน่งท่ี 1 เรียกว่า หลงั ขวา 2.2 ตาแหน่งที่ 2 เรยี กว่า หน้าขวา 2.3 ตาแหน่งท่ี 3 เรยี กว่า กลางขวา 2.4 ตาแหน่งท่ี 4 เรยี กว่า หนา้ ซา้ ย 2.5 ตาแหน่งท่ี 5 เรียกว่า หลังซา้ ย 2.6 ตาแหน่งที่ 6 เรียกว่า กลางหลัง รูปภาพที่ 9.1 แสดงตาแหนง่ ของผู้เล่น จากทงั้ 6 ตาแหน่งนี้ ผู้เล่นจะถกู แบง่ ออกเป็น 2 แดน คอื ผู้เล่นในตาแหนง่ แดนหน้า ไดแ้ ก่ผ้เู ลน่ ตาแหน่งท่ี 2 , 3 , 4 และผ้เู ล่นแดนหลัง ได้แก่ ผู้เล่นตาแหนง่ ที่ 5 , 6 , 1

เล่มท่ี 9 เร่อื ง การเล่นวอลเลย์บอลเปน็ ทมี 133. การเคลอื่ นทีไ่ ปสูต่ าแหนง่ ตา่ ง ๆ เมื่อลกู บอลเขา้ สู่การเล่น หลังจากท่ีผู้ส่งลูกได้ทาการส่งลูกไปโดยสมบูรณ์แล้ว ผู้เล่นสามารถเคล่ือนที่ไปสู่ตาแหน่งใด ๆก็ได้ จนกว่าการเล่นในคร้ังน้ันจะสิ้นสุดและผู้เล่นทุกคนต้องกลับไปอยู่ยังตาแหน่งเดิมของตนก่อนเช่น ผู้เล่นในตาแหน่งที่ 1 เมื่อลูกบอลเข้าสู่การเล่นแล้ว จะข้ึนไปทาการเล่นลูกในแดนหน้าโดยเป็นผู้ต้งั ลกู กไ็ ด้ แต่จะตอ้ งกลับมายืนในตาแหนง่ เดิมเมอ่ื สนิ้ สดุ การเลน่ ในครัง้ นั้นแล้ว รูปภาพที่ 9.2 แสดงการเคลือ่ นทไี่ ปสตู่ าแหน่งตา่ ง ๆ เมื่อลูกบอลเขา้ ส่กู ารเลน่4. ทศิ ทางการหมุนตาแหนง่ ของผ้เู ลน่ การหมุนตาแหน่งของผู้เล่นในกีฬาวอลเลย์บอลจะเกิดทกุ คร้ังและทุกตาแหน่ง เมื่อทีมที่มไิ ด้เป็นฝ่ายส่งลูกได้สิทธ์ิกลับมาเป็นฝ่ายส่งลูก ผู้เล่นทุกคนต้องหมุนตาแหน่งกันไปคนละ 1 ตาแหน่งในลักษณะตามเขม็ นาฬิกา 4.1 ผเู้ ล่นตาแหนง่ ท่ี 2 ตอ้ งหมนุ ไปอยู่ตาแหนง่ ที่ 1 เพือ่ เปน็ ผสู้ ่งลกู 4.2 ผเู้ ลน่ ตาแหนง่ ที่ 3 ตอ้ งหมนุ ไปอยตู่ าแหนง่ ท่ี 2 4.3 ผู้เล่นตาแหน่งท่ี 4 ต้องหมนุ ไปอยู่ตาแหนง่ ท่ี 3 4.4 ผเู้ ล่นตาแหนง่ ที่ 5 ตอ้ งหมนุ ไปอยตู่ าแหน่งที่ 4 4.5 ผู้เลน่ ตาแหนง่ ที่ 6 ตอ้ งหมุนไปอยตู่ าแหนง่ ท่ี 5 4.6 ผู้เล่นตาแหน่งท่ี 1 ตอ้ งหมนุ ไปอยตู่ าแหนง่ ที่ 6

เล่มท่ี 9 เรอ่ื ง การเลน่ วอลเลย์บอลเป็นทีม 14 รูปภาพที่ 9.3 แสดงทศิ ทางการหมนุ ตาแหนง่ ของผเู้ ลน่5. ระบบการนับคะแนน ระบบการนบั คะแนนในการเล่นกีฬาวอลเลยบ์ อล ประกอบด้วย หลกั การสาคญั ดังนี้ 5.1 การได้คะแนน ในการเล่นกีฬาวอลเลย์บอลทีมที่ชนะในการเล่นจะได้คะแนนทุกครั้งถ้าทีมท่ีเป็นฝ่ายส่งลูกชนะในการเล่นลูกจะได้คะแนนและได้สิทธ์ิทาการส่งลูกต่อไป และหากทีมท่ีเป็นฝ่ายรับลูกชนะในการเลน่ ลูกจะได้คะแนนและไดส้ ิทธก์ิ ลับมาเปน็ ฝ่ายส่งลูก 5.2 การเล่นให้นับผลเป็นเซต โดยการเล่นในเซตที่หนึ่งจะมี 25 คะแนน ทีมใดทาได้ถึง25 คะแนนก่อน (ยกเว้นเซตตัดสิน) และมีคะแนนนาทีมตรงข้ามอย่างน้อยท่ีสุด 2 คะแนน จะเป็นฝ่ายชนะในการเล่นเซตนั้น แต่ถ้าท้ังสองทีมทาคะแนนได้ 24 คะแนนเท่ากัน จะต้องทาการแข่งขันต่อไปอกี จนกว่าทีมชนะจะมคี ะแนนนา 2 คะแนน เช่น 26 – 24 , 27 – 25 เปน็ ตน้ 5.3 การชนะในแต่ละนัด การเป็นผู้ชนะในการแข่งขนั เป็นดังน้ี 5.3.1ทมี ทีท่ าได้ 3 ใน 5 เซต จะเปน็ ทมี ทชี่ นะในการแข่งขันนัดนั้น 5.3.2ในกรณีท่ีได้เซตเท่ากัน 2 : 2 จะต้องทาการแข่งขันในเซตตัดสิน (เซตที่ 5)โดยจะแข่งขันกัน 15 คะแนน และต้องมีคะแนนนาอีกทีมหนึ่งอย่างน้อยที่สุด 2 คะแนน จึงจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าท้ังสองทีมทาคะแนนได้ 14 คะแนนเท่ากัน จะต้องทาการแข่งขันต่อไปอีกจนกว่าทีมชนะจะมีคะแนนนา 2 คะแนน เช่น 16 – 14 , 17 – 15 เป็นต้น

เลม่ ท่ี 9 เร่อื ง การเล่นวอลเลยบ์ อลเปน็ ทีม 156. ระบบการเลน่ เป็นทีม ระบบของการเลน่ เป็นทมี ในกีฬาวอลเลยบ์ อลโดยทว่ั ไปมักจะเรยี กตามตาแหน่งของผตู้ ง้ั ลูกซ่งึ มีระบบการเล่น ดังนี้ 6.1 ผู้ตั้งลูก 6 คนเป็นระบบการเล่นที่นามาใช้กบั ทีมที่ไม่มีการจัดผู้ตั้งเฉพาะตาแหน่งการเล่นระบบนี้ผู้เล่นทุกคนจะเป็นผู้ต้ังลูกเมื่อหมุนขึ้นมาอยู่ในตาแหน่งที่ 3 และจะหมดหน้าที่เมื่อหมุนไปยงั ตาแหน่งอนื่ รูปแบบการเล่นในระบบนจี้ ะทาให้มผี ู้ตบลกู ในแดนหน้า 2 คนเสมอ ต - ผูต้ ้งั ลกู ล - ผตู้ บลูก ผ้เู ล่นทวั่ ไปรูปภาพท่ี 9.4 แสดงระบบการเล่นเป็นทีม ผูต้ ้ังลกู 6 คน

เล่มที่ 9 เรอ่ื ง การเลน่ วอลเลย์บอลเปน็ ทมี 16 6.2 ผู้ตั้งลูก 2 คน เป็นระบบการเล่นท่ีแต่ละทีมจะมีผู้ตั้งลูก 2 คน ยืนสลับกันคนละแดน เพื่อให้ผู้ต้ังลูกได้หมุนข้ึนไปอยู่ในแดนหน้าได้ทัน ส่วนผู้เล่นที่เหลือจะเป็นผู้เล่นท่ัวไปและผูต้ บลกู ต - ผูต้ ง้ั ลกู ล - ผ้ตู บลูก ผู้เลน่ ทว่ั ไป รปู ภาพที่ 9.5 แสดงระบบการเล่นเปน็ ทมี ผตู้ ้งั ลูก 2 คน การเล่นในปัจจุบันนิยมใหผ้ ู้ตั้งลูกท่ีอยูใ่ นแดนหลังเป็นผู้ขึ้นไปตั้งลูกในแดนหน้าทุกคร้ัง สว่ นผู้ตั้งลูกอีกคนที่อยู่ในแดนหน้าก็ให้เป็นผู้ตบลูก ซ่ึงทาให้การเล่นระบบน้ีมีผู้ตบลูกในแดนหน้า3 คนตลอด ทาให้สามารถสรา้ งกลยุทธ์ในการรกุ ไดอ้ ย่างหลากหลาย

เลม่ ท่ี 9 เรือ่ ง การเล่นวอลเลย์บอลเป็นทีม 17 6.3 ผู้ต้ังลูก 1 คน เป็นการเล่นอีกระบบหนึ่งท่ีนิยมใช้กนั มากท่สี ุดในการเลน่วอลเลย์บอล โดยแต่ละทมี จะมผี ู้ตั้งลกู เพยี งคนเดยี ว และเข้าไปทาการต้ังลกู ทุกครงั้ แม้วา่ จะอยใู่ นตาแหน่งท่ีแดนหลังก็ตาม การเล่นในระบบน้ีเม่ือผ้ตู ้ังลูกอยู่ในแดนหน้าจะทาให้มผี ตู้ บลูกเพียง 2 คน แต่ถ้าผตู้ บลกู อยู่ในแดนหลังจะทาใหม้ ผี ู้ตบลกู ถึง 3 คน ทาให้สามารถสรา้ งกลยุทธ์ในการรุกได้หลากหลายเชน่ กนั ต- ผู้ต้งั ลกู ล - ผูต้ บลูก ผูเ้ ล่นท่วั ไป - ทศิ ทางการวิ่ง รูปภาพท่ี 9.6 แสดงระบบการเล่นเป็นทมี ผ้ตู ง้ั ลกู 1 คน7. รปู แบบการยนื รบั ลูก รูปแบบของการยืนรบั ลกู ทม่ี าจากการส่งลกู เปน็ รูปแบบเฉพาะของแต่ละทีมทจี่ ะนามาใช้ในการเลน่ แต่ละทีมอาจมรี ปู แบบแตกตา่ งกันไป ทง้ั นข้ี ้ึนอยกู่ ับความเหมาะสม และสถานการณ์ของการเล่น ซ่งึ อาจแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ 7.1 การยนื รบั ลูกแบบท่ัวไป เป็นรปู แบบการยืนของผูเ้ ล่นทั้ง 6 คน เพื่อให้มโี อกาสในการรบั ลูกบอล มลี ักษณะการยนื ดงั น้ี

เล่มที่ 9 เรอื่ ง การเลน่ วอลเลย์บอลเป็นทมี 18 7.1.1 การยืนรับลูกแบบตัวดับเบิลยู (W) การยืนรับลูกแบบนี้เหมาะสาหรับใช้กบั การรับลูกบอลท่ีมาจากการส่งลูกส่ายท่ีตกบริเวณกลางสนาม รปู ภาพที่ 9.7 แสดงการยนื รบั ลูกแบบตัวดบั เบลิ ยู (W) 7.1.2 การยนื แบบรูปตัวเอ็ม (M) การยืนรับลูกแบบนเี้ หมาะสาหรับใช้กับการรบั ลกู บอลทีม่ าจากการส่งลกู ที่จะตกบรเิ วณด้านหลังของสนามรปู ภาพท่ี 9.8 แสดงการยืนแบบรปู ตวั เอ็ม (M)

เลม่ ท่ี 9 เรือ่ ง การเลน่ วอลเลย์บอลเปน็ ทีม 19 7.1.3 การยืนแบบรปู ตัววี (V) การยืนรบั ลูกแบบนเ้ี หมาะสาหรับใช้กับการรบัลูกบอลที่มาจากการส่งลกู ท่ีจะตกบรเิ วณกลางหลัง แตจ่ ดุ บกพร่องของการยนื ในรปู แบบนีจ้ ะทาให้มีพ้ืนทว่ี ่างบริเวณกลางสนามมาก รปู ภาพที่ 9.9 แสดงการยืนแบบรปู ตัววี (V) 7.1.4 การยืนแบบรูปคร่ึงวงกลม การยืนรับลูกแบบนเี้ หมาะสาหรบั ใชก้ ับการรบัลูกบอลที่มาจากการส่งลูกท่ีมคี วามรุนแรงมักจะตกบริเวณด้านหลงั ของสนาม รปู ภาพที่ 9.10 แสดงการยืนแบบรูปครง่ึ วงกลม

เลม่ ท่ี 9 เร่อื ง การเล่นวอลเลยบ์ อลเป็นทีม 20 7.2 การยืนรับลูกตามผู้ตั้งลูก เป็นรูปแบบการยืนรับลูกบอลที่ใช้กับระบบการเล่นท่ีมีผู้ต้ังลูกของทีมคนเดียว ซ่ึงรูปแบบการยืนอาจแตกต่างกันได้ข้ึนอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละทีมที่จะเลือกนามาใช้ แต่ต้องยึดหลักการยืนรับลูกที่สาคัญว่า ผู้เล่นจะต้องไม่ยืนบังกันเองและสามารถกระจายได้เต็มสนาม การยืนรับลูกตามผู้ตงั้ ลกู มอี ยู่ 6 รปู แบบ คอื 7.2.1 ผู้ตงั้ ลูกอยูใ่ นตาแหนง่ ที่ 2 ให้ยืนดังน้ี รปู ภาพที่ 9.11 แสดงการยืนรับลกู ตามผตู้ ั้งลกู อย่ใู นตาแหนง่ ที่ 27.2.2 ผูต้ ้ังลูกอยใู่ นตาแหน่งที่ 3 ใหย้ ืนดังนี้ รปู ภาพที่ 9.12 แสดงการยืนรับลกู ตามผู้ตง้ั ลูกอยู่ในตาแหน่งท่ี 3

เล่มท่ี 9 เรือ่ ง การเล่นวอลเลย์บอลเป็นทีม 217.2.3 ผตู้ ั้งลกู อยู่ในตาแหน่งที่ 4 ใหย้ ืนดังน้ี รปู ภาพท่ี 9.13 แสดงการยนื รับลูกตามผูต้ ั้งลกู อยใู่ นตาแหน่งที่ 47.2.4 ผตู้ ั้งลกู อยู่ในตาแหน่งท่ี 5 ให้ยนื ดังน้ีรปู ภาพท่ี 9.14 แสดงการยืนรบั ลูกตามผตู้ ้ังลกู อยู่ในตาแหน่งท่ี 5

เล่มท่ี 9 เรือ่ ง การเลน่ วอลเลย์บอลเปน็ ทีม 227.2.5 ผู้ต้ังลูกอยู่ในตาแหน่งที่ 6 ใหย้ นื ดังนี้ รปู ภาพที่ 9.15 แสดงการยืนรบั ลกู ตามผู้ตัง้ ลกู อยู่ในตาแหน่งท่ี 6 ทีม่ า : นายนิรันดร์ วรกลุ ธนวรรธน์7.2.6 ผูต้ งั้ ลูกอยู่ในตาแหน่งที่ 1 ให้ยนื ดงั น้ี รูปภาพท่ี 9.16 แสดงการยนื รับลูกตามผตู้ ั้งลกู อยใู่ นตาแหนง่ ท่ี 1 ทมี่ า : นายนิรันดร์ วรกลุ ธนวรรธน์

เลม่ ท่ี 9 เรอื่ ง การเล่นวอลเลย์บอลเป็นทีม 238. รูปแบบของการรกุ แต่เดิมรูปแบบการรุกของการเล่นกีฬาวอลเลย์บอลใช้การรุกแบบตบลูกสูงหรือลูกหัวเสาเป็นหลัก ไม่มีการรุกที่ซับซ้อนต่อมาได้มีการพัฒนานารูปแบบการรุกแบบต่าง ๆ เข้ามาใช้ในการเล่นเพื่อให้เกิดความสนุกสนานและเร้าใจ เช่น การตบลูกส้นั การวิ่งไขว้ตบ เปน็ ต้น ทาให้การรุกของทีมมีประสทิ ธภิ าพสงู ข้ึน และส่งผลให้การเล่นเรา้ ใจมากยงิ่ ขนึ้ รูปแบบของการรุกมี 2 แบบ คอื 8.1 การรกุ แบบมีผู้ตบลูก 2 คน การรุกแบบน้ีจะเกิดข้ึนในกรณีท่ีผู้ตั้งลูกของทีมอยู่ในแดนหนา้ ทาใหเ้ หลือผตู้ บลูกเพยี ง 2 คน แต่ก็สามารถสรา้ งรปู แบบการรกุ ได้หลายแบบ คือ 8.1.1 ผตู้ บลูก 2 คน ตบลกู หวั เสาหรือลูกสูงในพน้ื ท่ขี องตนเองเป็นหลกั ต - ผตู้ ้ังลูก ห - ผูต้ บลูกหัวเสา รูปภาพท่ี 9.17 แสดงการรุกแบบมีผู้ตบลูก 2 คนตบลูกหัวเสาหรือลกู สงู ในพ้นื ทขี่ องตนเองเปน็ หลัก 8.1.2 ผู้ตบลูก 2 คน คนหนงึ่ ตบลูกหัวเสาอกี คนตบลกู ส้ันในพ้นื ทีข่ องตนเองเปน็หลัก 4 ต - ผตู้ ง้ั ลกู ส - ตบลกู ส้ัน ห - ผตู้ บลูกหัวเสารปู ภาพท่ี 9.18 แสดงการรกุ แบบมีผู้ตบลูก 2 คนคนหนงึ่ ตบลูกหัวเสาอีกคนตบลกู สั้นในพ้ืนท่ขี องตนเองเปน็ หลกั

เลม่ ท่ี 9 เรือ่ ง การเลน่ วอลเลย์บอลเป็นทีม 24 8.1.3 ผตู้ บลกู 2 คน มีการวงิ่ เขา้ หลอก ต- ผตู้ ั้งลกู ส - ว่ิงเข้าตบลูกสัน้ ห - ผ้ตู บลูกหัวเสา รปู ภาพที่ 9.19 แสดงการรกุ แบบมีผู้ตบลูก 2 คนมีการว่งิ เข้าหลอก 8.1.4 ผูต้ บลูก 2 คน คนหน่ึงตบลกู สน้ั อกี คนตบลูกดา้ นหลังในพื้นทข่ี องตนเองเป็นหลกั ต - ผู้ตั้งลกู ส - ว่ิงเข้าตบลูกสั้น ล - ผตู้ บลูกดา้ นหลงัรูปภาพที่ 9.20 แสดงการรกุ แบบมีผู้ตบลูก 2 คนคนหนง่ึ ตบลูกสั้นอกี คนตบลกู ดา้ นหลังในพ้นื ท่ขี องตนเองเป็นหลัก

เล่มที่ 9 เรือ่ ง การเลน่ วอลเลย์บอลเปน็ ทีม 25 8.2 การรุกแบบมีผู้ตบลกู 3 คน การรกุ แบบน้ีทาให้ประสทิ ธิภาพของการรุกเพิ่มมากขึ้น เพราะมีผู้ตบลูกในแดนหน้าถึง 3 คน สามารถใช้กลยุทธ์เข้าหลอกคู่แข่งขันได้หลายแบบ ทาให้แนวสกดั ก้ันของคู่แขง่ ขนั เกดิ ปัญหาด้วยไมร่ ู้วา่ ผู้เลน่ คนใดจะเป็นผตู้ บลูก ดังตวั อย่างดังน้ี 8.2.1 ผู้ตบลูก 3 คน รบั ผดิ ชอบพืน้ ทเี่ ฉพาะ ต - ผ้ตู ้ังลูก ล - ผตู้ บลกู ดา้ นหลงั ห - ผตู้ บลูกหัวเสา ด้านหนา้ ส – ผู้ตบลูกสนั้ ด้านหน้า รปู ภาพท่ี 9.21 แสดงการรกุ แบบมีผู้ตบลูก 3 คนรับผดิ ชอบพนื้ ทเี่ ฉพาะ 8.2.2 ผ้ตู บลูก 3 คน หลอกเข้าตบลูกสัน้ แลว้ ให้คนกลางว่ิงไขวม้ าตบลูกด้านหนา้ ต - ผ้ตู ัง้ ลูก ส - ผเู้ ข้าหลอกลกู สน้ั ข – ผูว้ ิ่งไขว้ไปตบ ด้านหน้า ล – ผตู้ บลูกทาง ดา้ นหลังรูปภาพท่ี 9.22 แสดงการรุกแบบมีผู้ตบลูก 3 คนหลอกเขา้ ตบลูกสัน้ แลว้ ใหค้ นกลางว่ิงไขวม้ าตบลูกดา้ นหน้า

เล่มท่ี 9 เรอ่ื ง การเลน่ วอลเลย์บอลเปน็ ทีม 26 8.2.3ผูต้ บลกู 3 คน หลอกเข้าตบลูกสั้นดา้ นหลงั แลว้ ใหค้ นกลางว่งิ ไขวไ้ ปตบลูกด้านหลงั ต - ผตู้ ง้ั ลกู น - ผตู้ บลูกด้านหน้า ข – ผู้ว่งิ ไขว้ไปตบ ดา้ นหลัง ส – ผู้เขา้ หลอกตบ ลูกสัน้ ด้านหลังรปู ภาพท่ี 9.23 แสดงการรกุ แบบมีผู้ตบลูก 3 คนหลอกเขา้ ตบลกู สนั้ ดา้ นหลงั แลว้ ใหค้ นกลางว่ิงไขวไ้ ปตบลูกดา้ นหลงั 8.2.4 ผู้ตบลูก 3 คน ผเู้ ลน่ สองคนหลอกเขา้ ตบลูกสน้ั แตใ่ ห้ตบลกู ทางด้านหน้า ต - ผู้ตัง้ ลกู น – ผู้ตบลูกหัวเสา ดา้ นหน้า ส – ผ้เู ขา้ ตบลกู ส้ัน ดา้ นหนา้ ล – ผู้เขา้ หลอกตบ ลูกสั้นทาง ด้านหลังรปู ภาพที่ 9.24 แสดงการรุกแบบมีผู้ตบลูก 3 คนผู้เลน่ สองคนหลอกเข้าตบลกู สัน้ แต่ใหต้ บลูกทางดา้ นหน้า

เลม่ ที่ 9 เร่อื ง การเลน่ วอลเลยบ์ อลเป็นทมี 27 8.2.5 ผตู้ บลูก 3 คน ผเู้ ลน่ สองคนหน้าเข้าหลอกทางดา้ นหนา้ แต่ใหต้ บทางด้านหลัง ต - ผตู้ ้ังลูก น – ผูต้ บลกู ดา้ นหน้า ส – ผ้เู ข้าตบลูกสั้น ดา้ นหน้า ล – ผเู้ ขา้ ตบลกู ทาง ด้านหลัง รปู ภาพท่ี 9.25 แสดงการรุกแบบมีผู้ตบลูก 3 คนผูเ้ ล่นสองคนหลอกเข้าตบลูกส้นั แตใ่ หต้ บลูกทางดา้ นหนา้ 8.2.6 ผู้ตบลูก 3 คน ผู้เลน่ สองคนหน้าเข้าหลอกให้ผเู้ ลน่ คนหลงั วงิ่ อ้อมมาตบลูกทางดา้ นหน้า ต - ผตู้ งั้ ลกู ส- ผู้ตบลกู ส้ัน ดา้ นหนา้ ข – ผวู้ งิ่ ไขว้ไปตบ ดา้ นหน้า อ – ผ้วู ่ิงอ้อมไปตบลูก ดา้ นหน้ารูปภาพท่ี 9.26 แสดงการรุกแบบมีผู้ตบลูก 3 คนผเู้ ล่นสองคนหน้าเข้าหลอกใหผ้ ู้เลน่ คนหลงั วิ่งอ้อมมาตบลูกทางดา้ นหน้า

เลม่ ที่ 9 เร่ือง การเลน่ วอลเลยบ์ อลเปน็ ทีม 28 การท่ีผ้เู ล่นจะนารูปแบบการรุกแบบตา่ ง ๆ มาใช้นน้ั จะต้องทาการฝึกซ้อมใหเ้ กิดความชานาญ มีการประสานงานทีด่ ี รูบ้ ทบาทของตนเอง และก่อนท่ีจะนามาใช้ในสถานการณ์ของการเลน่ควรมีการนดั หมายกัน เพื่อให้ผูเ้ ลน่ ทกุ คนได้เตรียมพรอ้ มและทาหน้าที่ของตนเองได้อย่างถกู ต้องโดยการนัดหมายกนั นน้ั อาจทาไดด้ ้วยการพดู หรอื ใช้สัญญาณมือดังที่ทีมต่าง ๆ นิยมใช้กัน เช่นชนู ้ิวหวั แม่มือหมายถึงการเข้าตบลกู สัน้ หรอื ชสู องนิว้ หมายถงึ การเข้าตบลูกปานกลาง เปน็ ตน้ รปู แบบของการใชส้ ัญญาณมือของแตล่ ะทมี จะกาหนดขึ้นมากนั เองรบั รเู้ ฉพาะผู้เลน่ ภายในทมี และพยายามปกปดิ ไม่ให้คู่แข่งขันได้รู้ความหมายหรอื ได้เหน็ ในขณะทีก่ าลงั ให้สัญญาณ9. รปู แบบของการรองรบั ลกู บอล ในขณะที่คู่แข่งขันกาลังทาการรุกด้วยการตบลูก ผู้เล่นฝ่ายรับจะต้องเตรียมพร้อมในการรองรับลูกบอล โดยกระจายกาลังกันให้ครอบคลุมพ้ืนที่ในสนามให้เต็ม จัดให้มีผู้เล่นข้ึนไปทาการสกัดก้ันอย่างน้อย 2 คน การรองรับลูกบอลที่ดีย่อมสามารถนาลูกบอลกลับเข้าสู่การเป็นฝ่ายรุกได้และพึงระลึกอยู่เสมอว่าการรองรับลูกบอลที่ดีนั้นต้องมีผู้เล่นอย่างน้อย 3 คน เตรียมพร้อมในการรับลกู บอลอย่ใู นแดนหลัง รปู แบบของการรองรบั ลกู บอลที่นยิ มใช้กันอยู่มี 3 แบบ คอื 9.1 ผู้เล่นตาแหน่งที่ 6 (กลางหลัง) รองรับลูกบอลหมายถึง การเข้ารองรับลูกบอลท่ีมาจากการสกัดก้ัน การตบลูก หรือการหยอดลูกของคู่แข่งขัน โดยให้ผู้เล่นตาแหน่งท่ี 6 เป็นผู้เข้ารองรับลูกบอลทุกครั้ง 9.1.1 รองรับลูกบอลด้านริมขวารูปภาพท่ี 9.27 แสดงผเู้ ลน่ ตาแหนง่ ที่ 6 (กลางหลงั ) รองรบั ลกู บอลดา้ นรมิ ขวา

เลม่ ที่ 9 เร่ือง การเล่นวอลเลย์บอลเป็นทมี 29ทางดา้ นรมิ ขวา - ผู้เลน่ ตาแหนง่ ที่ 2 และ 3 ทาการสกดั กน้ั ทางด้านรมิ ขวาของสนาม - ผู้เล่นตาแหน่งที่ 6 จะเคลอื่ นตวั เข้าไปรองรบั ลูกบอลหลังการสกัดกั้น - ผเู้ ลน่ ตาแหน่งท่ี 4 ถอยลงมาร่วมต้งั รับกบั ผู้เล่นตาแหน่งที่ 5 และ 1 9.1.2 รองรบั ลูกบอลตรงกลางสนาม รูปภาพที่ 9.28 แสดงผเู้ ล่นตาแหนง่ ที่ 6 (กลางหลงั ) รองรบั ลูกบอลตรงกลางสนาม - ผเู้ ล่นตาแหน่งท่ี 2 และ 3 ทาการสกัดกน้ั ที่บรเิ วณกลางสนาม - ผเู้ ล่นตาแหนง่ ท่ี 6 จะเคลือ่ นตวั เข้าไปรองรบั ลกู บอลหลงั การสกัดกัน้ - ผูเ้ ล่นตาแหนง่ ที่ 4 ถอยลงมาร่วมตง้ั รับกบั ผเู้ ลน่ ตาแหนง่ ที่ 5 และ 1 9.1.3 รองรบั ลูกบอลทางดา้ นริมดา้ นซ้าย รูปภาพที่ 9.29 แสดงผเู้ ล่นตาแหนง่ ท่ี 6 (กลางหลงั ) รองรบั ลกู บอลทางดา้ นรมิ ดา้ นซา้ ย

เล่มท่ี 9 เรอ่ื ง การเลน่ วอลเลยบ์ อลเป็นทีม 30 - ผเู้ ล่นตาแหนง่ ท่ี 3 และ 4 ทาการสกดั ก้นั ท่ีบรเิ วณริมซา้ ยของสนาม - ผเู้ ลน่ ตาแหน่งท่ี 6 จะเคล่ือนตัวเขา้ ไปรองรบั ลูกบอลหลงั การสกัดก้นั - ผเู้ ลน่ ตาแหน่งที่ 2 ถอยลงมารว่ มต้ังรบั กับผู้เลน่ ตาแหนง่ ที่ 5 และ 1 9.2 ผ้เู ลน่ ที่อยู่หลังการสกดั ก้ันเข้ารองรบั ลกู บอล หมายถงึ การเขา้ รองรบั ลูกบอลโดยใหผ้ ู้เล่นที่อย่ทู างด้านหลงั ของการสกัดกน้ั เป็นผ้เู ขา้ ไปรองรบั ลกู บอล ดงั ตวั อยา่ งต่อไปน้ี 9.2.1 ผูเ้ ล่นตาแหน่งท่ี 1 เขา้ รองรบั ลูกบอลทางด้านริมขวารูปภาพที่ 9.30 แสดงผู้เลน่ ท่อี ยหู่ ลงั การสกดั กนั้ เขา้ รองรับลูกบอลผูเ้ ล่นตาแหน่งท่ี 1 เข้ารองรบั ลูกบอลทางดา้ นรมิ ขวา - ผ้เู ล่นตาแหนง่ ที่ 2 และ 3 ทาการสกดั กัน้ ท่ีบริเวณดา้ นริมขวาของสนาม - ผู้เลน่ ตาแหนง่ ที่ 1 ใหเ้ คลอื่ นตวั เข้าไปรองรับลูกบอลหลังการสกัดก้นั - ผู้เลน่ ตาแหนง่ ที่ 4 ถอยลงมาร่วมต้งั รับกับผเู้ ลน่ ตาแหน่งท่ี 5 และ 6 9.2.2 ผู้เล่นตาแหน่งที่ 6 เข้ารองรบั ลูกบอลทางด้านกลางสนามรปู ภาพที่ 9.31 แสดงผ้เู ล่นท่ีอย่หู ลงั การสกัดกัน้ เขา้ รองรับลูกบอลผ้เู ล่นตาแหน่งท่ี 6 เขา้ รองรบั ลูกบอลทางดา้ นกลางสนาม

เลม่ ที่ 9 เรื่อง การเลน่ วอลเลย์บอลเป็นทมี 31 - ผเู้ ล่นตาแหน่งที่ 2 และ 3 ทาการสกดั กั้นทบี่ ริเวณด้านกลางของสนาม - ผูเ้ ลน่ ตาแหนง่ ท่ี 6 ให้เคล่ือนตัวเขา้ ไปรองรับลูกบอลหลงั การสกัดกัน้ - ผ้เู ล่นตาแหนง่ ท่ี 4 ถอยลงมาตง้ั รับกบั ผูเ้ ลน่ ตาแหนง่ ที่ 5 และ 19.2.3 ผู้เลน่ ตาแหน่งที่ 5 เขา้ รองรับลูกบอลทางด้านริมซา้ ย รปู ภาพที่ 9.32 แสดงผเู้ ลน่ ทีอ่ ยหู่ ลังการสกัดกน้ั เขา้ รองรบั ลกู บอลผูเ้ ล่นตาแหนง่ ท่ี 5 เขา้ รองรบั ลกู บอลทางดา้ นรมิ ซ้าย - ผู้เลน่ ตาแหน่งที่ 3 และ 4 ทาการสกดั กั้นทบี่ ริเวณด้านริมซ้ายของสนาม - ผเู้ ล่นตาแหนง่ ท่ี 5 เคล่ือนตวั เข้าไปรองรับลูกบอลหลงั การสกัดก้นั - ผู้เลน่ ตาแหน่งท่ี 2 ถอยลงมาต้ังรับกับผูเ้ ลน่ ตาแหน่งที่ 1 และ 6 9.3 ผู้เล่นหน้าเข้ารองรับลกู บอล หมายถึง การเข้ารองรบั ลกู บอลโดยผเู้ ล่นที่อยใู่ นแดนหน้าทีไ่ ม่ได้ทาการสกัดก้ันโดยให้เคลอื่ นท่ีเขา้ รองรับลกู บอลบริเวณหลังการสกัดก้ันซึง่ จะทาใหผ้ ู้เล่นในแดนหลังสามารถทาการต้ังรับไดท้ ้งั 3 คน จึงมโี อกาสทจ่ี ะรบั ลกู บอลไดม้ ากข้ึน ดังตวั อย่างต่อไปน้ี

เลม่ ท่ี 9 เรอื่ ง การเล่นวอลเลย์บอลเปน็ ทีม 32 9.3.1 ผเู้ ลน่ ตาแหนง่ ท่ี 4 เขา้ รองรับลูกบอลทรี่ มิ ด้านขวา รูปภาพที่ 9.33 แสดงผู้เลน่ หนา้ เขา้ รองรบั ลกู บอลผเู้ ลน่ ตาแหนง่ ท่ี 4 เข้ารองรบั ลกู บอลทีร่ ิมด้านขวาการสกดั กน้ั - ผูเ้ ลน่ ตาแหนง่ ที่ 2 และ 3 ทาการสกดั กัน้ ท่รี ิมขวาของสนาม - ผู้เลน่ ตาแหนง่ ที่ 4 เคลื่อนตวั เข้าไปรองรับลกู บอลบรเิ วณพน้ื ทีด่ ้านหลัง - ผ้เู ลน่ ตาแหนง่ ที่ 1, 5 และ 6 เตรียมพร้อมเพื่อรบั ลูกบอล 9.3.2 ผู้เลน่ ตาแหน่งที่ 2 เข้ารองรับลกู บอลทางด้านริมซา้ ยรปู ภาพที่ 9.34 แสดงผ้เู ลน่ หนา้ เขา้ รองรับลกู บอลผเู้ ล่นตาแหน่งท่ี 2 เข้ารองรับลูกบอลทางดา้ นรมิ ซา้ ย

เลม่ ท่ี 9 เรอื่ ง การเล่นวอลเลย์บอลเป็นทีม 33การสกดั ก้ัน - ผู้เลน่ ตาแหนง่ ท่ี 3 และ 4 ทาการสกดั กนั้ ทรี่ ิมซ้ายของสนาม - ผเู้ ล่นตาแหนง่ ที่ 1 เคลอื่ นตวั เข้าไปรองรบั ลูกบอลบรเิ วณพืน้ ทด่ี ้านหลงั - ผเู้ ล่นตาแหน่งท่ี 1, 5 และ 6 เตรียมพร้อมเพ่ือรับลูกบอล10. คณุ ลักษณะของการเลน่ เป็นทีมท่ีดี การเล่นกีฬาวอลเลย์บอลจะเกิดความสนุกสนานและเร้าใจข้ึนได้น้ัน นอกจากจะต้องประกอบด้วยการประสานสัมพันธ์ท่ีดีระหว่างทักษะส่วนบุคคลและตัวผู้เล่นแล้ว ยังต้องอาศัยคุณลกั ษณะท่สี าคัญต่อไปนี้ 1. ต้องมีความชานาญ คือ ความชานาญในทักษะพื้นฐานและนาไปใช้ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ของการเล่น 2. ต้องรู้จักตาแหน่งและหน้าที่ความรับผิดชอบ ผู้เล่นต้องรู้ว่าตาแหน่งท่ีตนกาลังเลน่ อยู่นัน้ มหี น้าท่ตี อ้ งปฏบิ ัตอิ ย่างไร และจะสร้างความกดดนั ให้คู่แข่งขันได้แค่ไหน 3. ต้องมกี ารประสานงานภายในทีมที่ดี ผู้เล่นทุกคนภายในมีทีมจะต้องมีการประสานงานกันให้ดี ไม่แย่งกันเล่น หรือปล่อยให้ลูกบอลตกลงสู่พื้นโดยไม่มีผู้ใดเข้าไปเล่นหากมกี ารประสานงานระหวา่ งผ้เู ลน่ ภายในทีมเป็นอย่างดแี ลว้ ย่อมทาใหป้ ระสทิ ธภิ าพของการเลน่ เป็นทมี ดีขึน้ อย่างแน่นอน 4. ตอ้ งมคี วามสมั พันธ์ภายในทีมท่ดี ี ผู้เลน่ ทกุ คนต้องชว่ ยเหลือกนั และสรา้ งความสัมพนั ธ์ที่ดีให้เกิดข้ึนภายในทีม มีบรรยากาศของความเป็นกันเอง เป็นน้าหน่ึงใจเดียวกันให้ความร่วมมือกันอยา่ งจรงิ ใจและเป็นมิตรทดี่ ีตอ่ กนั 5. ต้องยอมรับความสามารถของเพ่ือนรว่ มทีม ในการเลน่ ทกุ คร้ังผู้เลน่ ทุกคนต้องยอมรบั ความสามารถของกันและกัน ให้กาลงั ใจหรือปลอบใจซ่งึ กันและกัน เมื่อมีการเลน่ ทีผ่ ิดพลาดเกิดขนึ้ ให้คาชมเชยเม่ือเพ่ือนเลน่ ไดด้ ี และไมค่ วรให้ความสาคัญกับผู้เลน่ เดน่ ของทีมมากเกินไปจนทาให้ผู้เลน่ คนอ่นื น้อยใจ ผู้เล่นทุกคนควรใหค้ วามสาคญั ของกันและกัน เพราะผู้เล่นเดน่ จะดไี ปไม่ได้เลยถา้ ไม่มผี ้เู ลน่ คนอืน่ คอยชว่ ยเหลอื 6. ต้องรจู้ ักแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ในการเลน่ แต่ละครงั้ อาจมเี หตกุ ารณ์ทเี่ กดิ ขึ้นไม่เหมอื นกับที่ฝึกซ้อมมา ดังนั้น ผู้เล่นที่ดีจะต้องรู้จักการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นได้อย่างทันทีทันใดและไม่เกิดผลเสยี ต่อเพ่ือนรว่ มทีม เช่น ผู้ต้ังลกู ว่ิงไปชนกับผู้เล่นที่ขวางอยู่ทาให้ล้มลง เม่ือเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ผู้เล่นคนอ่ืนและอยู่ใกล้กับลกู บอลจะต้องแก้ปญั หาดว้ ยการเข้าไปเป็นผูต้ ้ังลูกแทนก่อนที่ลูกบอลจะตกลงสพู่ ืน้ สนาม 7. ต้องมีความเข้าใจในระบบและรูปแบบการเล่นของทีม ระบบและรูปแบบของทีมอาจมีหลายแบบหลายอย่าง จึงควรที่ผู้เล่นจะต้องทาความเขา้ ใจและหมั่นฝึกหัดให้เกิดความชานาญเมื่อนามาใช้ในการเล่นจะได้ไม่สับสนหรือเกิดความผิดพลาดอันเน่ืองมาจากความเข้าใจไม่ตรงกันอันก่อให้เกดิ ผลเสียกับทมี และหากเกิดข้อผดิ พลาดบ่อย ๆ อาจทาใหท้ มี พ่ายแพใ้ นการแขง่ ขันกเ็ ปน็ ได้

เล่มที่ 9 เรือ่ ง การเล่นวอลเลย์บอลเปน็ ทีม 34กิจกรรมท่ี 1 ตาแหน่งการเลน่ และการหมนุ ตาแหนง่ การเลน่วิธีฝึกตามรูปภาพ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่ม เลือกตัวแทนกลุ่ม ๆ ละ 6 คน 2. ยืนตาแหน่งการเลน่ ในสนาม คือ ตาแหน่งหมายเลข 1 เรียกวา่ หลงั ขวา ตาแหน่งหมายเลข 2 เรยี กวา่ หนา้ ขวา ตาแหนง่ หมายเลข 3 เรยี กวา่ กลางหน้า ตาแหนง่ หมายเลข 4 เรียกวา่ หนา้ ซ้าย ตาแหนง่ หมายเลข 5 เรียกวา่ หลงั ซา้ ย ตาแหนง่ หมายเลข 6 เรียกวา่ กลางหลงั 3. แบง่ เปน็ ผ้เู ล่นแดนหน้า 3 คน คอื ตาแหน่งหมายเลข 2 , 3 , 4 4. แบง่ เป็นผู้เล่นแดนหลงั 3 คน คอื ตาแหนง่ หมายเลข 1 , 5 , 6 5. ในการหมุนตาแหนง่ ในการเล่น ใช้วิธีหมุนตามเข็มนาฬิกาทีละตาแหน่ง เม่ือเสิร์ฟไปแล้วผู้เล่นจะยืนตาแหน่งใดกไ็ ด้ ในแดนตนเอง 6. เม่ือปฏิบัติข้อ 1 - 5 ไดแ้ ล้วใหเ้ พิม่ ความเร็วและหม่นั ฝกึ ฝนจนเกิดความชานาญรูปภาพท่ี 9.35 แสดงตาแหน่งการเลน่ และการหมุนตาแหนง่ การเล่น

เลม่ ท่ี 9 เรอ่ื ง การเล่นวอลเลย์บอลเป็นทีม 35กิจกรรมท่ี 2 ตาแหน่งการยืนรับลูกเสริ ฟ์ แบบตัวดับเบลิ ยู (W)วิธีฝึกตามรูปภาพ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่ม เลือกตัวแทนกลุ่ม ๆ ละ 6 คน 2. ยืนตาแหน่งการเลน่ ในสนาม คือ ตาแหนง่ หมายเลข 1 เรียกว่า หลงั ขวา ตาแหนง่ หมายเลข 2 เรียกว่า หน้าขวา ตาแหน่งหมายเลข 3 เรียกวา่ กลางหน้า ตาแหนง่ หมายเลข 4 เรียกว่า หน้าซ้าย ตาแหน่งหมายเลข 5 เรียกว่า หลังซ้าย ตาแหนง่ หมายเลข 6 เรยี กว่า กลางหลัง 3. แบ่งเปน็ ผเู้ ล่นแดนหน้า 3 คน คือ ตาแหน่งหมายเลข 2 , 3 , 4 4. แบ่งเปน็ ผเู้ ลน่ แดนหลัง 3 คน คือ ตาแหน่งหมายเลข 1 , 5 , 6 5. ตาแหน่งหมายเลข 3 กลางหนา้ จะไมเ่ กย่ี วกับรปู แบบการยนื รบั ลกู เสริ ์ฟ 6. เมอ่ื ปฏบิ ัตขิ ้อ 1 - 5 ได้แล้วให้เพ่มิ ความเร็วและหม่ันฝกึ ฝนจนเกิดความชานาญรูปภาพท่ี 9.36 แสดงตาแหนง่ การยืนรบั ลกู เสิรฟ์ แบบตวั ดบั เบลิ ยู (W)

เล่มท่ี 9 เรือ่ ง การเลน่ วอลเลยบ์ อลเป็นทมี 36กจิ กรรมท่ี 3 ตาแหนง่ การยนื รับลูกเสริ ฟ์ แบบตัวเอ็ม (M)วิธีฝกึ ตามรูปภาพ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่ม เลือกตัวแทนกลุ่ม ๆ ละ 6 คน 2. ยืนตาแหนง่ การเล่นในสนาม คือ ตาแหนง่ หมายเลข 1 เรยี กวา่ หลังขวา ตาแหน่งหมายเลข 2 เรียกวา่ หน้าขวา ตาแหน่งหมายเลข 3 เรียกวา่ กลางหนา้ ตาแหน่งหมายเลข 4 เรียกว่า หนา้ ซา้ ย ตาแหน่งหมายเลข 5 เรยี กวา่ หลงั ซ้าย ตาแหนง่ หมายเลข 6 เรยี กวา่ กลางหลงั 3. แบง่ เป็นผู้เลน่ แดนหนา้ 3 คน คอื ตาแหนง่ หมายเลข 2 , 3 , 4 4. แบง่ เปน็ ผเู้ ลน่ แดนหลงั 3 คน คอื ตาแหนง่ หมายเลข 1 , 5 , 6 5. ตาแหน่งหมายเลข 3 กลางหนา้ จะไมเ่ ก่ยี วกบั รปู แบบการยนื รับลูกเสริ ฟ์ 6. เมอ่ื ปฏบิ ัติข้อ 1 - 5 ได้แล้วใหเ้ พมิ่ ความเรว็ และหมน่ั ฝึกฝนจนเกิดความชานาญรปู ภาพท่ี 9.37 แสดงตาแหนง่ การยืนรบั ลกู เสิร์ฟแบบตัวเอม็ (M)

เล่มที่ 9 เรอ่ื ง การเลน่ วอลเลยบ์ อลเปน็ ทีม 37กจิ กรรมที่ 4 ตาแหน่งการยนื รับลกู เสิร์ฟแบบตัววี (V)วธิ ีฝกึ ตามรปู ภาพ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่ม เลือกตัวแทนกลุ่ม ๆ ละ 6 คน 2. ยืนตาแหนง่ การเลน่ ในสนาม คือ ตาแหนง่ หมายเลข 1 เรยี กวา่ หลงั ขวา ตาแหน่งหมายเลข 2 เรยี กว่า หนา้ ขวา ตาแหน่งหมายเลข 3 เรยี กว่า กลางหนา้ ตาแหน่งหมายเลข 4 เรียกวา่ หนา้ ซ้าย ตาแหน่งหมายเลข 5 เรียกวา่ หลงั ซา้ ย ตาแหนง่ หมายเลข 6 เรียกวา่ กลางหลัง 3. แบ่งเป็นผู้เลน่ แดนหนา้ 3 คน คือ ตาแหนง่ หมายเลข 2 , 3 , 4 4. แบ่งเปน็ ผูเ้ ล่นแดนหลัง 3 คน คือ ตาแหนง่ หมายเลข 1 , 5 , 6 5. ตาแหน่งหมายเลข 3 กลางหน้าจะไมเ่ กยี่ วกับรปู แบบการยืนรบั ลกู เสริ ์ฟ 6. เม่อื ปฏิบตั ิข้อ 1 - 5 ได้แล้วให้เพม่ิ ความเรว็ และหม่ันฝกึ ฝนจนเกดิ ความชานาญรปู ภาพที่ 9.38 แสดงตาแหนง่ การยนื รบั ลูกเสิรฟ์ แบบตวั วี (V)

เล่มที่ 9 เรอื่ ง การเลน่ วอลเลย์บอลเป็นทีม 38กิจกรรมที่ 5 การต้ังเกมรกุ แบบ 1 : 3 : 2วธิ ีฝึกตามรปู ภาพ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่ม เลือกตัวแทนกลุ่ม ๆ ละ 6 คน 2. ยืนตาแหน่งการเล่นในสนาม คือ ตาแหน่งหมายเลข 1 เรียกวา่ หลงั ขวา ตาแหนง่ หมายเลข 2 เรยี กว่า หนา้ ขวา ตาแหน่งหมายเลข 3 เรียกว่า กลางหนา้ ตาแหนง่ หมายเลข 4 เรยี กว่า หน้าซา้ ย ตาแหนง่ หมายเลข 5 เรียกวา่ หลังซ้าย ตาแหนง่ หมายเลข 6 เรียกวา่ กลางหลัง 3. แบง่ เป็นผู้เลน่ แดนหนา้ 3 คน คือ ตาแหน่งหมายเลข 2 , 3 , 4 4. แบง่ เปน็ ผู้เลน่ แดนหลัง 3 คน คือ ตาแหนง่ หมายเลข 1 , 5 , 6 5. ผู้เล่นที่มีความสามารถในการตั้งลูก หรือเซตลูกได้ดี ไปยืนอยู่ท่ีแดนหน้ากลางสนามเพ่ือตั้งลูกให้ผู้ร่วมทีมเข้าตบลูกข้ามตาข่าย 6. ผู้เล่นอ่ืนๆก็รับผิดชอบในบริเวณท่ีตนยืนอยู่ 7. เมอ่ื ปฏบิ ัติข้อ 1 - 6 ไดแ้ ล้วให้เพิ่มความเร็วและหมนั่ ฝึกฝนจนเกดิ ความชานาญรปู ภาพที่ 9.39 แสดงการต้ังเกมรุกแบบ 1 : 3 : 2

เลม่ ที่ 9 เรื่อง การเลน่ วอลเลยบ์ อลเปน็ ทีม 39กิจกรรมที่ 6 การต้ังเกมรกุ แบบ 1 : 5วธิ ีฝึกตามรปู ภาพ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่ม เลือกตัวแทนกลุ่ม ๆ ละ 6 คน 2. ยืนตาแหน่งการเล่นในสนาม คอื ตาแหนง่ หมายเลข 1 เรยี กว่า หลังขวา ตาแหนง่ หมายเลข 2 เรียกว่า หน้าขวา ตาแหน่งหมายเลข 3 เรียกว่า กลางหน้า ตาแหนง่ หมายเลข 4 เรยี กวา่ หน้าซ้าย ตาแหนง่ หมายเลข 5เรยี กวา่ หลงั ซา้ ย ตาแหน่งหมายเลข 6 เรยี กวา่ กลางหลัง 3. แบ่งเปน็ ผเู้ ลน่ แดนหน้า 3 คน คอื ตาแหน่งหมายเลข 2 , 3 , 4 4. แบง่ เปน็ ผู้เล่นแดนหลงั 3 คน คอื ตาแหน่งหมายเลข 1 , 5 , 6 5. มีผู้ต้ังลูกหรือเซตลูก 2 คนอยู่ในแดนหน้า1คนอยู่แดนหลัง 1 คน 6. ผู้ตบลูกยืนเป็น 4 จุด แต่ละคนก็รับผิดชอบบริเวณที่ตนยืนอยู่ 7. เมือ่ ปฏิบตั ิข้อ 1 - 6 ไดแ้ ล้วให้เพม่ิ ความเร็วและหม่นั ฝกึ ฝนจนเกิดความชานาญ - ผู้ต้ังลกูรปู ภาพท่ี 9.40 แสดงการต้ังเกมรกุ แบบ 1 : 5

เลม่ ท่ี 9 เร่ือง การเลน่ วอลเลย์บอลเป็นทมี 40กิจกรรมที่ 7 การตง้ั เกมรุกแบบ 1 : 2 - 1 : 2วิธีฝึกตามรูปภาพ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่ม เลือกตัวแทนกลุ่ม ๆ ละ 6 คน 2. ยืนตาแหน่งการเลน่ ในสนาม คือ ตาแหนง่ หมายเลข 1 เรยี กวา่ หลังขวา ตาแหนง่ หมายเลข 2 เรยี กว่า หนา้ ขวา ตาแหนง่ หมายเลข 3 เรยี กวา่ กลางหนา้ ตาแหนง่ หมายเลข 4 เรยี กว่า หน้าซ้าย ตาแหนง่ หมายเลข 5 เรียกวา่ หลงั ซา้ ย ตาแหนง่ หมายเลข 6 เรียกวา่ กลางหลงั 3. แบ่งเปน็ ผู้เล่นแดนหน้า 3 คน คอื ตาแหน่งหมายเลข 2 , 3 , 4 4. แบง่ เปน็ ผเู้ ลน่ แดนหลงั 3 คน คอื ตาแหน่งหมายเลข1 , 5 , 6 5. มีผู้ต้ังลูกหรือเซตลูก 2 คนอยู่ในแดนหน้า1คนอยู่แดนหลัง 1 คน 6. ผู้ตบลูกยืนเป็น 4 จุด แต่ละคนก็รับผิดชอบบริเวณที่ตนยืนอยู่ 7. เมือ่ ปฏบิ ตั ิข้อ 1 - 6 ไดแ้ ล้วให้เพ่มิ ความเรว็ และหมนั่ ฝึกฝนจนเกิดความชานาญ - ผู้ต้งั ลกูรปู ภาพท่ี 9.41 แสดงการตงั้ เกมรกุ แบบ 1 : 2 - 1 : 2

เล่มที่ 9 เร่อื ง การเลน่ วอลเลยบ์ อลเป็นทีม 41กิจกรรมที่ 8 การเล่นทมี แขง่ ขันวธิ ีฝกึ ตามรูปภาพ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่ม เลือกตัวแทนกลุ่ม ๆ ละ 6 คน 2. ยืนตาแหนง่ การเลน่ ในสนาม คือ ตาแหน่งหมายเลข 1 เรยี กวา่ หลังขวา ตาแหนง่ หมายเลข 2 เรียกวา่ หนา้ ขวา ตาแหน่งหมายเลข 3 เรียกวา่ กลางหน้า ตาแหน่งหมายเลข 4 เรียกวา่ หน้าซา้ ย ตาแหน่งหมายเลข 5 เรยี กวา่ หลงั ซา้ ย ตาแหนง่ หมายเลข 6 เรียกวา่ กลางหลัง 3.แบ่งเป็นผู้เล่นแดนหน้า 3 คน คอื ตาแหน่งหมายเลข 2 , 3 , 4 4. แบ่งเปน็ ผู้เลน่ แดนหลงั 3 คน คือ ตาแหน่งหมายเลข 1 , 5 , 6 5. ทาการเส่ยี ง ผูช้ นะเปน็ ฝา่ ยเสิร์ฟลกู ไปยงั อีกฝ่ายหน่งึ จุดใดกไ็ ด้ในสนาม 6. เมือ่ ฝา่ ยเสิรฟ์ เป็นฝ่ายเสีย จะต้องเสียท้งั คะแนนและเสียสิทธิ์ในการเสริ ์ฟ 7. เมือ่ เปลย่ี นเสริ ์ฟ ผู้เสริ ์ฟจะต้องทาการหมนุ ตาแหนง่ 1 ตาแหน่งเพื่อทาการเสิรฟ์ 8. ฝ่ายใดทาลกู บอลตกในแดนของตนเอง หรอื ทาลกู บอลออกนอกสนามจะเสียคะแนนและเสียสทิ ธ์ิในการเสริ ์ฟ ซึ่งฝ่ายใดทาคะแนนไดถ้ ึง 25 คะแนนก่อน เป็นฝ่ายชนะรูปภาพที่ 9.42 แสดงการเล่นทีมแข่งขนั

เล่มที่ 9 เรอื่ ง การเล่นวอลเลยบ์ อลเป็นทีม 42 แบบทดสอบหลังเรียน เรอ่ื ง การเล่นวอลเลยบ์ อลเป็นทีมจานวน 10 ข้อ 10 คะแนนคาช้แี จง ให้นกั เรยี นเลือกคาตอบท่ีถกู ทีส่ ดุ เพยี งคาตอบเดียว โดยทาเครื่องหมาย × ลงในกระดาษคาตอบ1. ถา้ ลกู วอลเลยบ์ อลติดตาขา่ ย ผเู้ ล่นตาแหน่งใดควรเป็นผู้เลน่ ลูกวอลเลย์บอลจากตาข่าย ก. ตาแหนง่ หลังขวา ข. ตาแหน่งหลงั ซา้ ย ค. ตาแหนง่ กลางหลงั ง. ตาแหน่งกลางหนา้2. การนบั ตาแหน่งผูเ้ ลน่ นบั จากทิศทางใด ก. นบั จากหลงั ไปหนา้ ข. นบั จากซ้ายไปขวา ค. นับจากขวาไปซา้ ย ง. นับตาแหนง่ เสริ ฟ์ เปน็ ตาแหน่งท่ี 13. การยืนรบั ลูกเสริ ฟ์ มีแบบใดบา้ ง ก. แบบ W N V ข. แบบ W N E ค. แบบ W M U ง. แบบ W N M4. เมอื่ ไมม่ ีการสกัดกัน้ ให้วางตาแหนง่ การรบั ในลักษณะใด ก. เปน็ เสน้ ตรง ข. เปน็ วงกลม ค. เป็นสามเหลย่ี ม ง. เป็นรูปครงึ่ วงกลม5. การสกัดกั้น ในการป้องกัน ผู้เล่นแดนหนา้ จะทาหน้าท่ีอะไร

เล่มที่ 9 เรื่อง การเลน่ วอลเลย์บอลเปน็ ทีม 43 ก. รับลูกวอลเลยบ์ อล ข. สง่ ลกู วอลเลยบ์ อล ค. ตบลกู วอลเลยบ์ อล ง. สกัดกัน้ ลูกวอลเลย์บอล6. เม่ือสถานการณ์ อยู่ในเกมรับ ผู้ท่อี ยู่ในตาแหนง่ กลางหลังควรเปน็ ผูเ้ ล่นลกั ษณะใด ก. เซตลูกวอลเลย์บอลได้แม่นยา ข. เลน่ ลูกหยอดได้แม่นยา ค. เลน่ ลูกวอลเลย์บอลสองมือลา่ งไดด้ ี ง. ตบลกู วอลเลย์บอลได้รุนแรงแมน่ ยาจากรูป ใหต้ อบคาถาม ข้อ 7-8   7. การเรม่ิ เล่นลกู แรก ผ้เู สิร์ฟ หมายถึง หมายเลขใด ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 48. ผูเ้ ลน่ ตาแหน่งหมายเลข 3 เรียกตาแหน่งใด ก. หนา้ ซา้ ย ข. หน้าขวา ค. หนา้ กลาง ง. กลางหลงั9. ถา้ หากต้องการจะเป็นฝ่ายรุกที่ดี จะต้องฝึกอะไรให้มากที่สุด

เล่มท่ี 9 เรื่อง การเลน่ วอลเลยบ์ อลเป็นทีม 44 ก. การรบั ลกู วอลเลยบ์ อล ข. การสง่ ลกู วอลเลยบ์ อล ค. การเซตลกู วอลเลยบ์ อล ง. การส่งลกู วอลเลยบ์ อลและการเซตลูกวอลเลยบ์ อล10. ความสาเรจ็ ของทีมรกุ ขึ้นอยกู่ บั ข้อใดมากท่สี ุด ก. การรบั ลูกวอลเลย์บอล ข. การตบลูกวอลเลยบ์ อล ค. การเสิรฟ์ ลูกวอลเลย์บอล ง. ความสัมพนั ธ์ในทมี

เล่มที่ 9 เรื่อง การเล่นวอลเลย์บอลเป็นทมี 45กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลงั เรียน เรื่อง การเล่นวอลเลยบ์ อลเป็นทมีชื่อ - สกลุ ..................................................................... ชน้ั ............ เลขท่ี ..............ขอ้ ท่ี ก ข ค ง 1 2 3 4 5 6 7 8 910

เล่มที่ 9 เร่อื ง การเลน่ วอลเลยบ์ อลเปน็ ทีม 46 เฉลยคาตอบแบบทดสอบก่อนเรยี น เร่ือง การเลน่ วอลเลยบ์ อลเป็นทีมจานวน 10 ข้อ 10 คะแนน ขอ้ ที่ คาตอบทถ่ี กู 1. ก 2. ข 3. ค 4. ง 5. ก 6. ง 7. ง 8. ก 9. ค 10. ข

เลม่ ท่ี 9 เรอื่ ง การเลน่ วอลเลยบ์ อลเปน็ ทีม 47 เฉลยคาตอบแบบทดสอบหลังเรยี น เร่ือง การเลน่ วอลเลยบ์ อลเป็นทมีจานวน 10 ข้อ 10 คะแนน ขอ้ ท่ี คาตอบทีถ่ ูก 1. ง 2. ง 3. ค 4. ค 5. ง 6. ค 7. ก 8. ค 9. ง 10. ง

เล่มที่ 9 เรอ่ื ง การเลน่ วอลเลย์บอลเป็นทมี 48 เอกสารอ้างอิงฉตั รชัย แฝงสาเคนและคณะ (2555). วอลเลยบ์ อล. กรงุ เทพฯ : เอมพันธ์.พลศึกษา, กรม. คู่มอื การวดั และประเมินผล, กรุงเทพฯ : ครุสภา, 2531.พศิ ิษฐ์ ไตรรตั น์ผดงุ ผล.กติกาใหมว่ อลเลย์บอล. กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพโ์ อเดียนสโตร์, 2537.พิชติ ภตู จิ นั ทร.์ วอลเลยบ์ อล. กรุงเทพฯ : โอเดยี นสโตร์, (2546)ฟอง เกดิ แก้ว. แบบเรยี นวิชาพลานามัย พ. 103. กรงเทพฯ : วฒั นาพานชิ , 2521วีระพงษ์ บางท่าไม้. ค่มู อื วอลเลยบ์ อลขั้นพ้นื ฐาน. กรงเทพฯ : เอช-เอน็ การพิมพ,์ 2521.วิโรจน์ มุทุกันต์. วอลเลย์บอล.กรุ่งเทพมหานคร : ภาควิชาพลศึกษา คณะพลศึกษา มหาวิทาลัยศรี นครนิ ทรวิโรฒ มหาสารคาม, 2535.สุพิตร สมาหิโต (2534). การทดสอบสมรรถภาพทางกาย. กรุงเทพฯ : ตะเกยี ง.สุพิตร สมาหิโต (2541). การสร้างแบบทดสอบสมรรถภาพทางกายสาหรับเด็กไทย ระดับประถมศกึ ษา. กรงุ เทพฯ : มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์.ศิริรัตน์ หิรญั รัตน์. (2539). สมรรถภาพทางกายและทางกีฬา. กรงุ เทพฯ : มหาวทิ ยาลยั มหิดล. (อัดสาเนา).


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook