ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ Piper nigrum L ชื่อทอ้ งถน่ิ พริกน้อย (ภาคเหนือ) สว่ นท่ใี ช้ ใบ ผล เมล็ด ดอก สรรพคณุ ใบ - แกล้ มจกุ เสยี ดแนน่ ท้องอืดเฟูอ ผล - ผลที่ยงั ไมส่ กุ นามาเปน็ เคร่อื งเทศ แต่งกลน่ิ อาหาร เมล็ด - ขับลม ขับเสมหะ ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ บารุงธาตุ อาหาร ไม่ย่อย ดอก - แก้ตาแดง ถนอมอาหารหลายชนดิ เช่น มะม่วงดอง การปลูก การเตรยี มดินปลูกพริกไทย การเตรียมดินเป็นปัจจัยสาคัญท่ีทาให้พริกไทยเจริญเติบโตได้ดี และสามารถหลีกเลี่ยงการเกิดโรครากเน่าและโคนเน่าของพริกไทย การเตรยี ม ดินไม่ให้เหมาะสมกับการเจริญและพัฒนาของเชื้อสาเหตุโรค สามารถทาได้ ดงั นี้ 1. แปลงปลูกจะต้องเป็นพ้ืนท่ีที่มีการระบายน้าได้ดี ไม่ชื้นแฉะหรือ เป็นแอ่งน้า ปรับพื้นที่ไม่ให้มีสภาพน้าขัง ไถพรวนดินลึก 40-60 เซนติเมตร ตากดนิ 15 วัน 2. ทาแปลงปลกู ให้มีสภาพเปน็ ลอนลูกฟกู เพอ่ื ให้มีการระบายน้าดี 3. หากดินเป็นกรด ควรปรับด้วยปูนขาวหรือปูนโดโลไมด์ เพอ่ื ใหค้ วามเปน็ กรดน้อยลง โดยคา่ pH ของดินควรเป็น 5.5
4. ปรับปรุงดินด้วยอินทรียวัตถุ โดยการใส่ปุ๋ยคอก เพื่อให้ดิน สามารถดูดซับธาตุอาหารได้ดี และรากพืชสามารถพัฒนาและนาอาหารไป ใช้ไดง้ ่าย 5. เสริมสร้างสภาพแวดล้อมของดินปลูกให้เหมาะสมกับการ เจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ปฏิปักษแ์ ละจลุ นิ ทรยี อ์ ่ืนๆ ท่ีมีประโยชน์ในดิน ได้แก่ เชื้อราไตรโคเดอม่า เช้ือแบคทีเรยี Bacillus subtilis เป็นต้น นาไปใส่ในแปลง ปลูกร่วมกับอินทรีย์วัตถุต่าง ๆ เพื่อเพิ่มปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ในแปลงปลูกให้ มากข้นึ การกาหนดระยะปลูกพรกิ ไทย 1. พันธ์ซุ าราวคั ใช้ระยะ 2 x 2 เมตร 2. พนั ธ์ุซีลอน ใชร้ ะยะปลูก 2.25 x 2.25 หรือ 2.25 x 2.5 เมตร อัตราการใช้พนั ธ์/ุ ไร่ จานวนค้างต่อไร่ 400 ค้าง ค้างละ 2 ตน้ รวม 800 ต้น/ไร่ การเตรยี มก่ิงพนั ธุพ์ รกิ ไทย ใช้ลาต้น (เถา) ของส่วนยอดหรอื ส่วนอน่ื ท่ีไม่แก่จัดของพริกไทย ท่ี มีอายอุ ยูร่ ะหว่าง 1-2 ปี โดยควรตัดจากตน้ ทมี่ คี วามอดุ มสมบูรณ์ ใหผ้ ลผลิตสูง ไม่เป็นโรคและไม่มีแมลงทาลายเมื่อคัดต้นพันธ์ุได้แล้ว จึงค่อยๆ แกะตีนตุ๊กแก ให้หลุดออกจากค้าง อย่าให้ต้นหักหรือช้า จากนั้นนากิ่งพันธุ์มาตัดเป็นท่อนๆ ยาว 40-50 เซนติเมตร มีข้อ 5-7 ข้อ รดิ ใบท้ิงและตัดกิ่งแขนงตรง 3-4 ข้อล่าง ออก นายอดไปปักชาในกระบะชาหรือชาใส่ถุงพลาสติก ให้ข้ออยู่ใต้ระดับดิน 3-4 ขอ้ จนรากออกแข็งแรงดีจงึ ย้ายไปปลูก วิธกี ารปลูกพริกไทย ใช้ค้างไม้แกน่ หรือค้างปนู ซเี มนต์ ขนาด 4x4x4 เมตร ฝึกลึก 50-60 เซนติเมตร กลบดินให้แน่น หลังจากนั้น ขุดหลุมจาก 40×60 เซนติเมตร ลึก 40 เซนติเมตร ค้างละ 1 หลุม ห่างจากโคนค้าง 15 เซนติเมตร ผสมดินกับ
ปุ๋ยอนิ ทรยี ์ อตั รา 1:1 แล้วใส่ในหลุมประมาณคร่งึ หลุมนาก่ิงพันธ์ุที่เตรยี มไว้ให้ ปลกู หลุมละ 2 กงิ่ ใหป้ ลายยอดเอนเขา้ หาค้าง หันคา้ งที่มีราก (ตีนตุ๊กแก) ออก ดา้ นนอกคา้ ง กลบดนิ ให้แน่นรดน้าให้ชมุ่ การพรางแสงใหพ้ รกิ ไทย ใช้สแลนหรือวัสดุพรางแสงอ่ืนๆ เช่น ทางมะพร้าว หรือ ใบปรง ทะเล พรางแสงประมาณ 3-6 เดอื น จนกว่าพรกิ ไทยจะตงั้ ตวั ได้ การให้น้า 1. เลือกระบบน้าตามสภาพแวดล้อมท่ีให้พริกไทยได้รับน้าอย่าง เพียงพอและสม่าเสมอท่ัวท้ังแปลง การให้น้าแบบร่องต้องปรับพ้ืนท่ีให้เรียบ และมีความลาดเท การใช้มนิ ิสปรงิ เกอรเ์ ปน็ วิธที ปี่ ระหยัดน้ากว่า 2. ระยะเวลาการให้น้า หลังปลูกควรรดน้าทุกวันหรือวันเว้นวัน เมื่อพริกไทยตั้งตัวได้ ลดเหลือ 2-3 วัน/ครั้ง พริกไทยท่ีให้ผลผลิตแล้วควรให้ 3-4 วนั /คร้งั ตามสภาพดินฟูาอากาศ 3. ในฤดูแล้งอาจประหยัดการให้น้าโดยการคลุมดินในแปลงปลูก ด้วยฟางหรือหญ้าแห้ง แตใ่ นฤดูฝนไมค่ วรคลมุ ดนิ จนชิดโคนต้นควรเว้นหา่ งเพื่อ ไม่ให้โคนต้นชื้นแฉะเกินไปละเกิดโรค เตรียมให้น้าระบายออกจากแปลงปลูก อย่างรวดเร็ว และขณะดินชื้นแฉะไม่ควรเหยียบย่าในแปลงจะทาให้ดินแน่นทึบ รากเสียหายได้ การใสป่ ยุ๋ 1. ใส่ dolomite หรือปูนขาว ปีละ 2 ครัง้ คร้ังละ 400-500 กรัม/ คา้ ง กอ่ นใสป่ ยุ๋ เคมี 2-4 สปั ดาห์ เฉพาะในกรณที ดี่ ินมสี ภาพเปน็ กรด 2. ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอกปุ๋ยหมัก อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง อัตรา 2-5 กิโลกรัม/ค้าง หรือแบ่งใส่ปีละ 2-3 ครั้ง ปุ๋ยดังกล่าวจะช่วยปรับ สภาพความเป็นกรด – ด่างของดินให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของพริกไทย
และช่วยทาให้ดินโปร่งมีความสามารถดูดซับความช้ืนและเพ่ิมแร่ธาตุ จาเป็นต้องใช้ควบคกู่ ับป๋ยุ เคมีในการบารงุ รักษาแต่ละปี การใสป่ ุ๋ยเคมี 1. ปีท่ี 1 : สูตร 15-15-15 หรือ 12-12-17+2Mg อัตรา 400-500 กรัม/ค้าง แบ่งใส่ 2-3 คร้ัง 2. ปีท่ี 2 : สูตร 15-15-15 หรือ 12-12-17+2Mg อัตรา 800- 1,000 กรมั /คา้ ง แบง่ ใส่ 3-4 คร้ัง 3. ปีท่ี 3 และปตี ่อๆ ไป – คร้ังท่ี 1 สูตร 15-15-15 อัตรา 400-500 กรัม/ค้าง ใส่หลัง เก็บเกี่ยว – คร้ังท่ี 2 สูตร 8-24-24 อัตรา 400-500 กรมั /ค้าง ใส่ประมาณ เดอื นพฤษภาคม-มถิ นุ ายน – คร้ังที่ 3 สูตร 12-12-17+2Mg อัตรา 400-500 กรัม/ค้าง ใส่ประมาณเดอื นกนั ยายน-ตลุ าคม การขน้ึ ค้าง หลังจากปลูกพรกิ ไทยได้ประมาณ 30-50 วัน พรกิ ไทยจะเริม่ แตกยอดออ่ น ให้ เลือกยอดอ่อนที่สมบูรณ์ไว้ต้นละประมาณ 3 ยอด จัดยอดให้เรียงขนานข้ึน รอบค้าง อยา่ ให้รอบทับกนั เพราะจะทาใหไ้ ดท้ รงพุ่มที่ไม่ดี ใช้เถาวัลย์หรือเชือก ฝากผูกยอด ให้แนบติดกับค้าง โดยผูกข้อเว้นข้อ ผูกยอดจนกระท่ังยอดท่วม ค้าง ใช้เวลาประมาณ 10-12 เดือน ปีท่ี 1 หลังจากท่ีเลือกยอดสมบูรณ์ข้ึนค้าง แล้ว ถ้ามียอดอ่อนแตกออกมา ให้คอยปลิดยอดอ่อนท้ิง จนกระทั่งพริกไทย อายุ 1 ปี ตัดเถาให้เหลือ 50 เซนติเมตร จากระดับผิวดิน ปีที่ 2 ตัดแต่ง เช่นเดียวกบั ปีแรก จนกว่าพรกิ ไทยจะสงู เลยค้างไปประมาณ 30 เซนติเมตร ให้
ผูกไว้บนยอดค้าง และใช้เชือกไนล่อนผูกทับเถาวัลย์เดิมเป็นเปลาะๆ ห่างกัน 40-50 เซนติเมตร การกาจัดวัชพชื ต้องทาตั้งแต่การเตรียมดิน การกาจัดวัชพืชต้องปฏิบัติสม่าเสมอ ขณะวัชพชื มขี นาดเล็กเพอื่ ไมใ่ หก้ ระทบกระเทือนรากพรกิ ไทยซึ่งไม่หยั่งลึกมาก นักแต่แพร่กระจายในระดับเดียวกับระดับรากวัชพืช ไม่ควรใส่สารเคมีในการ กาจดั วชั พืช การตดั แตง่ กงิ่ และควบคมุ ทรงพมุ่ พรกิ ไทย ต้นพริกไทยจะออกดอกได้ดีข้ึนกับการเตรียมต้น หลังการเก็บเก่ียว ให้สมบูรณ์ โดยการตัดแต่งกิ่งและการใส่ปุ๋ย การเพ่ิมการติดผล ข้ึนกับสภาพ ภูมิอากาศ ซ่ึงต้องไม่แห้งแล้ง ควรมคี วามชน้ื สงู วิธีการตัดแต่งก่ิง เพ่ือให้พริกไทยต้นสมบูรณ์ ออกดอกและให้ ผลผลติ สูง 1. ตดั ยอดทเ่ี จรญิ เตบิ โตพน้ คา้ งท้ิง 2. ตัดไหลและปรางบริเวณผิวดินโคนต้นเหนือพื้นดินประมาณ 8-10 เซนตเิ มตร 3. เด็ดใบท่ีเกิดบริเวณข้อของลาต้นในทรงพุ่มออกให้หมด เพ่ือให้ โคนตน้ โปรง่ ปูองกนั การเกิดโรครากเน่า 4. ตดั ก่ิงท่ีไม่ค่อยสมบูรณ์ กิ่งท่ีเป็นโรคออกให้หมด เพื่อไม่ใหเ้ ป็นที่ สะสมของโรคแมลง โรครากเนา่ และโคนเนา่ ของพริกไทย สาเหตุ : เช้ือสาเหตุ เชือ้ รา Phytophthora parasitica ลักษณะอาการ : อาการระยะแรกเถาจะเห่ียวใบเปลี่ยนเป็นสี เหลืองและร่วง ต่อมาปราง (กิ่งแขนง) เร่ิมหลุดเป็นข้อๆ ต้ังแต่โคนต้นถึง ยอดขวั่ ก่งิ เปน็ สเี หลืองและดา สว่ นรากเน่าดาและมกี ลน่ิ เหม็น
การระบาด : สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการระบาด คือ ใน พ้นื ท่ที ม่ี กี ารระบายน้าไมด่ ี ต้นพรกิ ไทยอ่อนแอ และเกิดการสะสมของเช้ือ ราสาเหตุ การปอ้ งกนั กาจัด : 1. การลดความเสียหายจากโรคในแปลงปลูก โดยการจดั การดินใน พ้ืนที่แปลงปลูกให้มีการระบายน้าได้ดี ไม่มีสภาพน้าขังปรับปรุงดินด้วย อินทรียวัตถุ โดยการใสป่ ยุ๋ คอก ป๋ยุ อนิ ทรยี ์ เพ่ือใหด้ ินสามารถดดู ซบั ธาตุอาหาร ได้ดี และรากพชื สามารถพัฒนาและนาอาหารไปใช้ได้ง่าย หากดินเป็นกรดควร ปรับด้วยปูนขาวหรือปูนโดโลไมท์ตัดแต่งก่ิงหรือแขนงตามบริเวณโคนต้นออก ให้โปร่ง เพ่ือลดความช้ืนและให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกข้ึนเก็บใบ ก่ิง ก้าน ทร่ี ว่ งหลน่ อยู่ตามบรเิ วณโคนตน้ ออกไปเผาไฟ เพอ่ื ไมใ่ ห้เปน็ แหลง่ สะสมโรค เลือกยอดพันธจ์ุ ากแหลง่ ปลกู หรือแปลงปลกู ทไ่ี มม่ ีการระบาดของโรค 2. การปูองกันกาจัดโดยชีวะวิธี โดยการเสริมสร้างสภาพแวดล้อม ของดินปลูก ให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ และ จุลินทรีย์อ่ืนๆ ท่ีมีประโยชน์ในดิน ได้แก่ เช้ือราไตรโคเดอม่า เชื้อแบคทีเรีย Bacillus subtilis เป็นต้น หรือนาจลุ ินทรยี ์ซึ่งมีผู้ผลิตขายเป็นการค้าในรปู ผง ไปใส่ในแปลงปลูกร่วมกันอินทรียวัตถุต่างๆ เพ่ือเพิ่มปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ ปฏิปักษ์ในแปลงปลูกให้มากขึ้น และควรเร่ิมดาเนินการตั้งแต่ต้นพริกไทยยังมี อายุนอ้ ย 1-2 ปี นอกจากนก้ี ารใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพชนิดต่างๆ ราดดิน ช่วยยับย้ัง การเกดิ โรครากเนา่ โคนเน่าพริกไทยได้ 3. การปูองกันกาจดั เมื่อพบต้นท่ีเป็นโรคโดยใช้สารเคมี ฉดี พ่นด้วย สารเคมีเช่นฟอสอีทิลอลูมเนียม 820% WP และฟอสฟอริค แอซิค 40%L ต้น ทเ่ี ปน็ โรคตายขดุ เผาทาลายแล้วแล้วรดดินหลุมปลูกด้วยสารเมตาแลกซิลใหท้ ่ัว แล้วจงึ ปลกู ซ่อม การปลกู ซ้าควรเวน้ ระยะห่าง 1 ปี
ศัตรูพชื ของพริกไทย สาเหตุ : แมลงสาเหตุมี 2 ชนิด ช่ือ Ferrisiana virgate และ Planococcus citri ลักษณะอาการ : ฝักตัวดูดกินน้าเลี้ยงจากช่อรวง ตั้งแต่เร่ิมออก ช่อรวงจนกระท่ังติดเมล็ดทาให้พริกไทยไม่ค่อยติดเมล็ด หรือติดเมล็ดก็จะด้อย คณุ ภาพ ช่วงเวลาการระบาด : เพลี้ยแปูงบนช่อรวงพริกไทยสามารถมี การระบาดได้ตลอดทั้งปีและพบมากในช่วงฤดูฝนต่อฤดูแล้ง เป็นแมลงศัตรู สาคญั ของพรกิ ไทย การป้องกนั กาจดั : หมัน่ ตรวจแปลง และสารวจศัตรพู ืช ในช่วงท่ีสภาพแวดล้อมเหมาะ แก่การระบาดพบเพล้ียแปูง พบเพล้ียแปูงบนยอดหรือช่อดอก 1-3 ตัว ควรแก้ไข ห้ามใช้สารเคมีท่ีมีอันตราย เพราะมักจะมีการปนเปื้อนของสารฆ่า แมลงโดยเฉพาะในการผลิตเพ่ือส่งออกพริกไทยอ่อน ใช้สารที่ปลอดภัยและมี อันตรายนอ้ ย น้ามันธรรมชาติ เช่น white oil, petroleum spray oil สารเคมีท่ีใหผ้ ลดีท่ีสุดในการปูองกันกาจัดเพลี้ยแปูงบนช่อรวงพริกไทยคือ carbaryl (Sevin 85% WP) อตั รา 50 กรมั /นา้ 20 ลิตร การเก็บเก่ยี วพริกไทย 1. พรกิ ไทยออ่ น : บรโิ ภคสด เกบ็ เกยี่ วหลังตดิ ผล 3-4 เดือน 2. พริกไทยดอง : เพื่อส่งโรงงานทาพริกไทยดอง เก็บเกี่ยวหลังติด ผล 4-5 เดือน 3. พริกไทยดา : เก็บ เกี่ยวผลแก่ที่ยังเขียวอยู่เมื่อผลสีเขียวแก่จัด แตไ่ มส่ กุ ระยะเวลา หลงั ตดิ ผล 6-8 เดอื น
4. พรกิ ไทยขาว: ต้องเก็บเก่ียวพรกิ ไทยที่แก่จดั และผลเร่มิ สุกเป็น สแี ดงทีโ่ คนชอ่ ประมาณ 3-4 ผล ระยะเวลาหลงั ติดผล 6-8 เดือน อุปกรณแ์ ละวิธเี ก็บเก่ยี ว ใช้มือปลิดท้ังรวง ภาชนะบรรจุขณะเก็บเก่ียวต้องสะอาดแรงงาน ตอ้ งมคี วามชานาญ จดุ เน้นหรอื ข้อควรระวงั เพ่ือให้มีคุณภาพดีควรเก็บเก่ียวพริกไทยในระยะเก็บเก่ียวที่ เหมาะสมกับชนิดพรกิ ไทยที่ตอ้ งการ การปฏบิ ัติหลังการเก็บเก่ยี วพรกิ ไทย พรกิ ไทยอ่อน 1. เก็บเก่ียวโดยใส่ภาชนะท่ีสะอาดจากแปลง นามายังจุดรวบรวม ผลผลติ 2. เกลยี่ บนพื้นทร่ี องด้วยวสั ดุสะอาด 3. จากน้ันคัดแยกโรค แมลง เช่น เพลี้ยแห้ง เพล้ียหอย หรือ สง่ิ เจอื ปน เชน่ ใบ 4. เมื่อทาความสะอาดแล้ว บรรจุด้วยถุงพลาสติกและคลุมด้วยผ้า สะอาดเปียกช้นื เพื่อรกั ษาความชืน้ รอการขนสง่ ต่อไป พริกไทยดา 1. นาพริกไทยมากองรอมบนลานท่ีมีการรองพื้นที่สะอาดบ่มไว้ ประมาณ 3 วนั 2. แยกผลพริกไทยออกจากก้านโดยใชเ้ ครอื่ งนวด 3. นาไปร่อนด้วยเคร่ืองแยกโดยผ่านตะแกรงเพื่อแยกก้านออกจาก รวง 4. การทาแห้งโดยการอบแห้ง ใช้เครื่องอบแห้งอบร้อน ที่อุณหภูมิ ประมาณ 60 องศาเซลเซียสหรือการตากแดด ซึ่งต้องเข้มงวดในเร่ืองความ
สะอาดและสุขอนามัย วางผลผลิตพริกไทยในภาชนะสะอาด บนพื้นที่ยกสูงมี วสั ดุรองรับเพือ่ ปูองกันฝนุ ละออง และสง่ิ เจอปนอื่นๆ รวมทงั้ การปนเปื้อน 5. เมื่อผลพรกิ ไทยแห้งสนทิ จะเปลย่ี นเปน็ สดี า แล้วนาไปรอ่ น ด้วย ตะแกรงหรอื กระด้งเพ่ือแยกเอาเศษฝนุ และเมล็ดทล่ี บี ออก 6. บรรจุพรกิ ไทยในถุงภาชนะท่สี ะอาดปราศจากการปนเปอ้ื น อัตราการทาแห้ง พริกไทยสด 100 กิโลกรัม จะได้พริกไทยดา 33 กิโลกรัม 7. การทาพริกไทยดาคุณภาพสูง หลังจากนาเข้าเครอื่ งแยกผลจาก รวง จะต้องล้างทาความสะอาดพริกไทยโดยใช้เครือ่ งล้าง 3-4 ครั้ง เพื่อลดการ ปนเป้ือนของเชื้อจุลินทรีย์ ลวกด้วยน้าร้อนเพื่อให้ผิวของพริกไทยดาและเป็น มัน แล้วอบให้แห้งด้วยเคร่ืองอบแห้งแบบลมร้อนท่ีอุณหภูมิ 55-60 องศา เซลเซียส หรือตากให้ถูกแดดอย่างสม่าเสมอประมาณ 3 แดด จะสามารถ หลีกเลย่ี งการเกดิ เชือ้ ราในพริกไทยได้ พรกิ ไทยขาว 1. นาผลพริกไทยท่ีเก็บมาแล้วตากแดดเล็กน้อย หรือผึ่งลมค้างคืน เพอื่ ให้ข้ัวผลหลดุ งา่ ยข้ึน 2. นาเข้าเครอื่ งนวด เพอื่ แยกผลออกจากรวง 3. นาผลพริกไทยแช่น้าในบ่อซีเมนต์ หรือถังไม้ หรือภาชนะอ่ืนที่ เหมาะสม นานประมาณ 7-14 วัน 4. นาพริกไทยข้ึนจากนา้ ทแ่ี ช่ แล้วนามานวดเพอ่ื ลอกเปลอื กออก 5. นามาเกลีย่ บนตะแกรงเหลก็ หรือตะแกรงไม้ไผ่สะอาดท่ีมีช่องให้ เปลือกพริกไทยหลุดออกได้ ใช้นา้ ล้างเปลอื กออกจนหมด 6. การทาแห้ง หลังล้างทาความสะอาดแล้ว นาไปทาให้แห้งสนิท โดยการอบแห้ง ใช้เคร่ืองอบแห้งลมร้อนท่ีอุณหภูมิประมาณ 60% เซลเซียส หรือการตากแดด ซ่ึงต้องเข้มงวดในเร่ืองความสะอาดและสุขอนามัย วาง
ผลผลิตพริกไทยในภาชนะสะอาด บนพื้นท่ียกสูงมีวัสดุรองรับเพ่ือปูองกันฝุน ละอองและสงิ่ เจอื ปนอ่ืนๆ รวมทงั้ การปนเป้ือน 7. กระบวนการทาแห้งเพื่อลดความช้ืนในพริกไทยให้มีความช้ืน ตามมาตรฐานกระทรวงอุตสาหกรรม ซ่ึงต้องไม่เกนิ ร้อยละ 12 8. บรรจกุ ระสอบหรอื ภาชนะบรรจุท่สี ะอาดเพ่ือการจาหน่าย 9. ในการผลิตพรกิ ไทยขาวไม่ควรใช้สารฟอกขาวใดๆ ท่ีอาจตกค้าง ในผลผลิต โดยต้องมีการดาเนินการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจการบริโภค พรกิ ไทยทป่ี ลอดภยั โดยส่งเสริมการบริโภคพริกไทยทมี่ สี ีตามธรรมชาติ ทม่ี า http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_06_ 5.htm https://www.plookphak.com/how-to-plant-pepper/
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: