Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book 4 - สำหรับการผสาน

E-book 4 - สำหรับการผสาน

Published by taew1989_21, 2022-06-01 08:39:49

Description: E-book 4 - สำหรับการผสาน

Search

Read the Text Version

ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Boesenbergia rotunda (L.) Mansf. จดั อยูใ่ นวงศข์ งิ (ZINGIBERACEAE) ชอ่ื ทอ้ งถน่ิ : ว่านพระอาทิตย์ (กรุงเทพมหานคร), กระชายดา กะแอน ขงิ ทราย (มหาสารคาม), จีป๊ ู ซีฟู เปาซอเร๊าะ เป๊าส่ี เป๊าะสี่ ระแอน เปา๊ ะซอ เร้าะ (กะเหร่ียง-แมฮ่ ่องสอน), ละแอน (ภาคเหนอื ), ขงิ จีน สว่ นท่ใี ชเ้ ปน็ ยา เหงา้ , ราก, ใบ สรรพคุณ เหงา้ ใต้ดนิ - มรี สเผด็ ร้อนขม แก้ปวดท้อง มวนในท้อง ท้องอืดทอ้ งเฟ้อ บารุงกาลงั บารุงกาหนัด แก้กามตายดา้ น เปน็ ยารักษาริดสีดวงทวาร เหงา้ และราก - แก้บิดมูกเลอื ด เป็นยาขับปสั สาวะ แก้ปัสสาวะพกิ าร ใช้เป็น ยาภายนอกรักษาขกี้ ลาก ใบ - บารุงธาตุ แก้โรคในปาก คอ แก้โลหิตเปน็ พษิ ถอนพิษต่างๆ - กระชาย สรรพคุณชว่ ยบารงุ ร่างกาย เป็นยาอายวุ ัฒนะ - ช่วยบารงุ ธาตใุ นร่างกาย (ใบ) - กระชายเหลอื ง สรรพคุณชว่ ยแก้ลมวงิ เวยี น แน่นหนา้ อก - ชว่ ยบารงุ กาลงั เสรมิ สมรรถภาพทางเพศ บาบัดโรคนกเขา ไม่ขนั หรอื โรคอดี ี (Erectile Dysfunctional หรือ ED) (เหงา้ ใตด้ ิน)

- ชว่ ยบารงุ หวั ใจ ด้วยการใช้เหง้าและรากของกระชายนามา ปอกเปลือก ล้างน้าใหส้ ะอาด แลว้ นามาห่นั ตากแหง้ แล้วบดจนเป็นผง และใหใ้ ช้ผงแหง้ ทเี่ ตรยี มไว้ประมาณ 1 ช้อนชา นามาชงกับน้ารอ้ นคร่งึ ถว้ ยชา แล้วรับประทานเพยี งครง้ั เดียว (เหงา้ ,ราก) - ช่วยบารงุ กระดกู ชว่ ยทาให้กระดูกไม่เปราะบาง - ชว่ ยปรบั สมดลุ ของฮอรโ์ มนตา่ ง ๆ ในรา่ งกาย - ชว่ ยบารุงกาหนัด แก้อาการกามตายด้าน (เหง้าใตด้ ิน) - ช่วยบารงุ สมอง เพราะช่วยทาให้เลือดไปเลยี้ งสมองส่วนกลางไดด้ ี มากขนึ้ - ช่วยปรบั สมดุลของความดนั โลหติ ในรา่ งกาย ช่วยลดความดัน โลหิตเมอื่ ความดันโลหติ สูง แตเ่ มื่อความดนั โลหิตต่ากจ็ ะช่วยทาให้ความดนั เพมิ่ ข้นึ จนเปน็ ปกติ - ช่วยแก้ฝา้ ขาวในปาก ดว้ ยการใชก้ ระชายทล่ี ้างสะอาดนามา บดแบบไมต่ ้องปอกเปลือก แลว้ ใส่ในโถป่ันปนั่ พอหยาบ แลว้ นามาใส่ขวด ปิดฝาแช่ไวใ้ นตู้เยน็ แลว้ นามากนิ ก่อนอาหารครง้ั ละ 1 ช้อนชาเลก็ กินวนั ละ 3 มือ้ ก่อนอาหารประมาณ 15 นาทีสกั ประมาณ 1 อาทิตย์ (ราก) - เหงา้ ใต้ดนิ มีรสเผ็ดรอ้ นและขม มีสรรพคณุ ช่วยแก้อาการ ปวดทอ้ ง มวนในท้อง อาการท้องอดื ท้องเฟ้อ ดว้ ยการใชเ้ หงา้ และราก ประมาณครง่ึ กามอื ถ้าสดให้ใชป้ ระมาณ 5-10 กรัม แต่ถา้ เปน็ แห้งใหใ้ ช้ ประมาณ 3-5 กรมั แล้วนามาตม้ เอาน้าดื่มแกอ้ การ หรือจะนามาใช้ปรุง เปน็ อาหารไว้รับประทานกไ็ ด้เชน่ กนั (เหง้าใตด้ ิน) - ช่วยแก้อาการท้องร่วง ทอ้ งเดิน ดว้ ยการใช้เหงา้ สด 1-2 เหง้า ใชเ้ หงา้ ท่ีปิ้งไฟแล้วนามาฝนหรือตาผสมกับน้าปูนใส หรือจะคนั้ ให้ ขน้ ๆ แลว้ นามารับประทานคร้ังละ 1-2 ชอ้ นชากไ็ ด้ (เหง้า,ราก)

- ชว่ ยแก้บดิ โดยใช้เหง้าสดประมาณ 2 เหง้า นามาบดจน ละเอียดแลว้ เตมิ น้าปูนใส คนั้ เอาแตน่ ้ามาดื่ม (เหงา้ สด) - ชว่ ยรักษาอาการทอ้ งเดนิ ในเดก็ (เหง้า,ราก) - รากกระชาย สรรพคณุ ชว่ ยแก้โรคกระเพาะ (ราก) - ชว่ ยแก้อาการบดิ มกู เลอื ด (เหงา้ ,ราก) - ใชเ้ ปน็ ยาขบั ปัสสาวะ แก้อาการปัสสาวะพิการ (เหงา้ ,ราก) - ชว่ ยบารุงตบั และไตใหแ้ ข็งแรง ชว่ ยรักษาโรคไต ช่วยทาให้ ไตทางานไดด้ ียิ่งขนึ้ - ช่วยปอ้ งกันไทรอยดเ์ ป็นพษิ - ชว่ ยรักษาอาการกระเพาะปัสสาวะเกร็ง ซงึ่ ในกรณีนีอ้ าจจะ ตอ้ งใช้เมด็ บวั ทตี่ ม้ แล้วนามารับประทานรว่ มด้วย - ช่วยแก้อาการไส้เล่ือนในเพศชาย - ช่วยควบคมุ ไม่ใหต้ ่อมลกู หมากโต - ชว่ ยบารุงมดลกู ของสตรี ปอ้ งกันไม่ใหม้ ดลูกโต - แกอ้ าการตกขาว ชว่ ยขบั ระดขู าวของสตรี (เหงา้ ) - ชว่ ยขบั น้าคาวปลาของสตรหี ลงั คลอดบุตร - ใช้เป็นยารกั ษารดิ สดี วงทวาร ด้วยการใช้เหงา้ สดประมาณ 60 กรมั (6-8 เหง้า) นามาผสมกับเนอื้ มะขามเปียกประมาณ 60 กรมั เกลอื แกง 3 ช้อนแกง และนามาตาแล้วต้มกบั น้า 6 แก้ว แลว้ เคี่ยวจน เหลือ 2 แกว้ นามารับประทานครงั้ ละครง่ึ แกว้ ก่อนนอน แลว้ รับประทาน - ชว่ ยบารงุ เสน้ เอน็ ให้แข็งแรง - เหง้าและรากใช้เปน็ ยาภายนอก สรรพคุณชว่ ยรักษาขี้กลาก ขีเ้ กลอ้ื น (เหงา้ ,ราก) - ชว่ ยรักษาโรคน้ากัดเทา้ ดว้ ยการใช้รากกระชายท้งั เปลือกมา ลา้ งแลว้ ผ่งึ ใหแ้ ห้ง ฝานเปน็ แว่น ๆ และนาไปบดใหเ้ ปน็ ผงหยาบ ๆ และใช้

นา้ มนั มะกอกหรือน้ามนั มะพร้าวมาอุน่ ในหมอ้ ใบเลก็ ๆ เติมผงกระชายใช้ น้ามนั 3 เทา่ ของปริมาณกระชาย แล้วนามาหุงด้วยไฟอ่อน ๆ ราว 15-20 นาที แลว้ กรองกระชายออก เก็บน้ามนั ไวใ้ นขวดแกว้ สีชานามาใชท้ า บรเิ วณทีเ่ ปน็ (ราก) - ชว่ ยแก้อาการคันหนงั ศีรษะจากเชอื้ รา ด้วยการใชน้ ้ามนั ดังกลา่ ว (จากสตู รรกั ษาโรคนา้ กัดเทา้ ) นามาเขา้ สตู รทาเป็นแชมพูสระผม หรือจะใช้น้ามนั กระชายโกรกผมแล้วนวดใหเ้ ข้าหนังศรี ษะก็ได้ แลว้ ค่อย ล้างออก (น้ามันกระชาย) - ชว่ ยรักษาฝดี ว้ ยการใช้เหงา้ กับรากมาตาใหล้ ะเอียด แล้ว นามาทาหัวฝีท่ีบวมจะทาใหห้ ายเรว็ ย่งิ ขน้ึ (เหงา้ ,ราก) - เหง้ามีฤทธใ์ิ นการช่วยต้านเช้ือรา ทเี่ ป็นสาเหตุของการเกิด โรคผวิ หนงั และโรคในชอ่ งปากดพี อสมควร (เหง้า) - กระชายมสี ารที่ออกฤทธิช์ ่วยต้านการก่อกลายพันธุ์ โดยการ บริโภครากกระชายสามารถช่วยลดความเสยี่ งของการเกดิ โรคมะเร็งได้ - กระชายมีสารท่ีออกฤทธิ์ทาให้อนมุ ลู อิสระเป็นกลาง จงึ มีผล ชว่ ยลดความเสยี หายของการเกดิ อนมุ ูลอิสระภายในร่างกายได้ - กระชายมฤี ทธ์ชิ ว่ ยต้านการอกั เสบ การบรโิ ภคกระชายเป็น ประจาอาจได้ผลคล้ายกบั การกินยาแอสไพรนิ และอาจะชว่ ยปอ้ งกนั การ เกิดโรคท่มี สี าเหตุมาจากการอกั เสบเรื้อรังภายในร่างกายได้ - งานวิจบั จากมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ร่วมกบั มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ศึกษาพบวา่ สารสกัดจากกระชายสามารถ ช่วยต้านการเสื่อมของกระดูกออ่ นในหลอดทดลองได้ และได้ผลเปน็ ทนี่ ่า พอใจ

- งานวจิ ัยในประเทศกานาพบว่าสาร Pinostrobin จากราก และใบมีฤทธ์ชิ ่วยต้านเชอ้ื Plasmodium falciparum ซึง่ เป็นสาเหตุของ การเกิดโรคมาลาเรีย - งานวิจัยของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทรพ์ บวา่ สารสกดั คลอโรฟอรม์ และเมทานอลจากรากของกระชายมีฤทธิใ์ นการตา้ นการ เจรญิ เติบโตของเช้อื Giardia intestinalis ซึ่งเป็นพยาธิเซลล์เดยี วในลาไส้ ทีก่ อ่ ให้เกิดภาวะทอ้ งเสีย ซึง่ เปน็ ปญั หาท่สี าคัญอย่างมากสาหรับผู้ปว่ ยท่ี เปน็ โรคภมู คิ ุม้ กันบกพร่อง - งานวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั พบวา่ สาร Pinostrobin, Pinocembrin, Panduratin A และ Alpinetin ของ กระชายนั้นมฤี ทธต์ิ ้านแบคทีเรยี ไดห้ ลายชนิด วธิ ีใช้และปริมาณทใ่ี ช้ แก้ทอ้ งรว่ งทอ้ งเดิน ใช้เหง้าสด 1-2 เหง้า ตาหรือฝนเหง้าท่ีปิ้งไฟแล้วกับน้าปูนใส หรอื คั้นใหข้ น้ ๆ รบั ประทานคร้ังละ 1-2 ชอ้ นแกง แก้อาการทอ้ งอดื ทอ้ งเฟ้อ จุกเสียด ปวดมวนในท้อง ใชเ้ หงา้ และราก ประมาณครง่ึ กามอื (สดหนัก 5-10 กรัม, แห้ง 3-5 กรมั ) ตม้ เอาน้าด่มื หรอื ใช้ปรุงเป็นอาหารรับประทาน แก้บิด ใชเ้ หงา้ สด 2 เหงา้ บดให้ละเอยี ด เติมน้าปนู ใส คนั้ เอาแตน่ ้าดม่ื เป็นยาบารุงหวั ใจ ใช้เหง้าและรากกระชายปอกเปลือก ล้างน้าให้สะอาด ห่ันตากแห้ง บดเปน็ ผง ใช้ผงแหง้ 1 ชอ้ นชา ชงนา้ ร้อน ½ ถว้ ยชา รบั ประทานคร้ังเดียว ยารักษาริดสดี วงทวาร

ใช้เหง้าสด 60 กรัม ประมาณ 6-8 เหง้า ผสมกับเนื้อมะขามเปียก 60 กรัม เกลือแกง 3 ช้อนแกง ตาแล้วต้มกับน้า 6 แก้ว เค่ียวให้เหลือ 2 แก้ว รับประทานครง้ั ละ ½ แก้ว ก่อนนอน รับประทานติดต่อกัน 1 เดือน ริดสีดวง ทวารควรจะหาย การปลูก 1. การเตรียมดนิ ปลกู กระชาย - ไถพรวนหรือขุดดินเพอื่ ใหด้ ินรว่ นซุย - ถ้าดินระบายน้าดี ไมจ่ าเป็นต้องยกร่อง กระชาย สามารถข้ึนได้ดีในดินทกุ ชนดิ โดยเป็นดนิ ทม่ี กี ารระบาย นา้ ไดด้ ีไม่ท่วมขัง การเตรยี มดนิ ควรไถพรวนตอนต้นฤดฝู น และควรมีการยก รอ่ งปลูกโดยมีระยะห่างระหว่างแถว 75 ซม. ระหวา่ งต้น 30 ซม. 2. ฤดูการปลกู กระชาย ปลกู ในชว่ งฤดฝู นปลายเดือน เมษายน-พฤษภาคมและจะเกบ็ หัว ในชว่ งฤดหู นาว คือปลายเดอื น ธนั วาคม-มกราคม ซ่ึงชว่ งดงั กลา่ วหวั จะแหง้ 3. การปลกู การเตรียมเหงา้ พันธกุ์ ระชาย - คดั เลอื กหวั พนั ธ์ทุ ่ีมอี ายุ 7-9 เดอื น มีตาสมบรู ณ์ ไมม่ ีโรคแมลง ทาลาย - แบ่งหัวพันธุ์โดยการห่นั ขนาดของเหง้าควรมตี าอยา่ งนอ้ ย 3-5 ตาหรือแงง่ มนี า้ หนัก 15-50 กรมั - แชท่ อ่ นพนั ธด์ุ ้วยสารเคมปี อ้ งกันกาจดั แมลง มาลาไธออน หรอื คลอไพรีฟอส 1-2 ชัว่ โมง ตามอตั ราแนะนา - ชบุ ทอ่ นพนั ธ์ุด้วยสารเคมีป้องกนั กาจดั เช้อื ราก่อนปลูก

4. การเตรยี มหวั พันธุ์กระชาย การปลูกใชท้ ่อนพันธมุ์ ี 2 ลกั ษณะคือหัวแม่และแง่ง - การปลกู โดยหวั แมค่ วรมีนา้ หนกั ประมาณ 15-50 กรัม/ หัว - การปลกู ด้วย แงง่ พันธ์ุมปี ล้อง 7-9 ปลอ้ ง / ชนิ้ น้าหนัก 15-30 กรมั ยาว 8-12 ซม. กอ่ นปลูกกระชาย หัวพันธคุ์ วรแช่ด้วยยาป้องกนั เชื้อรา และยาฆ่า เพล้ียโดยแชไ่ วป้ ระมาณ 30 นาทีการปลูกควรรองกน้ หลมุ ด้วยปุย๋ สตู ร 13-13- 21 อัตรา 50 กก. / ไร่ และวางทอ่ นพันธ์ุ กลบดินหนาประมาณ 5-10 ซม. ขมิน้ จะใช้เวลาในการงอก ประมาณ 30-70 วัน หลังปลูก 5. การปลกู กระชาย - ระยะระหวา่ งต้น และระหว่างแถว 30×30 ซม. - ขดุ หลุมขนาด กว้าง x ยาว x ลึก 15×15x15 ซม. - ใส่ปุ๋ยคอกรองกน้ หลุมประมาณหลุมละ 200 กรมั ( 1 กระปอ๋ ง นม ) - นาหวั พันธุ์ที่เตรียมไว้ลงปลูก กลบดนิ หนา 5 ซม. - คลมุ แปลงด้วยฟางหรือหญา้ คาหน้าประมาณ 2 นว้ิ เพ่ือป้องกัน การงอกของวัชพืชและรักษาความช้นื ในดนิ - รดน้าใหช้ มุ่ 6. การใสป่ ยุ๋ และกาจดั วัชพชื กระชายงอก ยาวประมาณ 5-10 ซม. ควรรบี ทาการกาจดั วัชพชื และใส่ป๋ยุ แอมโมเนียซัลเฟต อัตรา 50 กก. / ไร่ เชอื้ กาจัดวัชพืชคร้งั ท่ี 2 ควร พรวนดนิ กลบโคนแถว ระยะปลูก ระยะระห่างตน และระยะระหวา่ งแถว 50 x 70 เซนติเมตร จานวนตน้ ต่อไร่4,000 – 5,000 ต้น การเก็บเกย่ี ว :

เมื่อกระชายดาอายุได้ 10 -12 เดือน สังเกตจากใบและลาต้นจะ เร่ิมเห่ียวแห้งและหลุดออกจากต้น ระยะน้ี คือ ระยะพักตัวของกระชายดา เพราะจะทาให้กระชายดามีโอกาส ได้สะสมอาหารและตัวยาได้เข้มข้นอย่าง เต็มที่ เพื่อท่ีจะขยายพันธุ์ต่อไป จึงเป็นระยะที่เก็บเก่ียวได้ดี ทาให้ได้กระชาย ดาทม่ี คี ุณภาพดี กระชายดาท่ีปลูกในเขตพ้ืนท่ีอาเภอนาแห้ว - อาเภอภูเรอื จะ ไดร้ ับผลผลิตประมาณ 650 - 900 กก./ไร่ 1.ใช้วิธีขุด การใช้ขี้เถ้าและแกลบผสมจะทาให้ขุดง่าย ดินรว่ นซุย หวั กระชายโต อวบอ้วน ขาว เปน็ ทตี่ อ้ งการของตลาด 2.การใช้ขี้เถ้าแกลบผสมกับแกลบ เป็นการปรับโครงสร้างดิน เหนยี วท่ดี วี ธิ หี นึง่ 3.เป็นการประหยดั และทาง่ายตอ่ เกษตรกร ท่ีมา 1. https://sites.google.com/site/krachay005/my-map 2. http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_07_1.htm


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook