Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชนิดของคำในภาษาไทย

ชนิดของคำในภาษาไทย

Published by Phakanrt Sukontharat, 2021-10-27 04:29:12

Description: อธิบายชนิดของคำเป็นแผนผังความคิด ประกอบการสอนภาษาไทย ป. 3-6

Search

Read the Text Version

ชนิดของคำในภำษำไทย จดั ทำโดยนำงสำวผะกำนำจ สุคนธรัตน์ ครูโรงเรียนบ้ำนเก่ำร้ำง By kadphakanart

คำนำม คำสรรพนำม คำกริยำ คำอุทำน ชนิดของคำในภำษำไทย คำวเิ ศษณ์ คำสันธำน คำบุพบท By kadphakanart

วิสำมำนยนำม แผนผงั ควำมคิดชนิดของคำ เรื่อง คำนำม (นำมวสิ ำมัญ,นำมชี้เฉพำะ) สำมำนยนำม เป็ นคำนำมเจำะจงที่ใช้เรียกช่ือ หน้ำทขี่ องคำนำม (นำมท่ัวไป,นำมสำมัญ) คน สัตว์ สิ่งของ สถำนที่ เช่น ย่ำ ๑. เป็ นประธำน เป็ นคำนำมท่ัวไป เช่น โรงเรียน โม สะพำนพระรำมแปด -สมชำยกนิ ก๋วยเตยี๋ ว -มหำวทิ ยำลยั สงขลำนครินทร์เป็ น คุณครู ช้ำง นำฬิกำ ห้องสมุด เข่ือนอุบลรัตน์ ครูผะกำนำจ มหำวทิ ยำลัยทมี่ ีช่ือเสียงของภำคใต้ ไดโนเสำร์ โต๊ะ เก้ำอี้ สมดุ โรงพยำบำลคลองหอยโข่ง ๒. เป็ นกรรม หนังสือ รองเท้ำ กระเป๋ ำ ฯ เด็กชำยสมชำย ฯ ลักษณนำม -น้องจับปลำ - แม่ไปตลำด คำนำม คือ คำที่ใช้เรียกคน เป็ นคำนำมท่บี อกลักษณนำม เช่น ผ้ำทุกผืนสะอำด แก้ว ๑ ใบ ๓. ขยำยคำนำม สมหุ นำม สัตว์ สิ่งของ สถำนที่ ช้ำงป่ ำ ๑ โขลง เทียน ๑ เล่ม -ยทุ ธนำน้องชำยของผมเป็ นคนเก่ง -สุนัขลำยตัวน้ันเห่ำเสียงดงั เป็ นคำนำมบอกหมวดหมู่ อำกำรนำม ขลุ่ย ๑ เลำ ถนนสำยน้ัน เช่น คณะครู กองลูกเสือ สร้อยเส้นนี้ แม่นำ้ สำยนี้ ๔. เป็ นส่วนเตมิ เต็ม กองทพั ทหำร กองหนังสือ เป็ นคำนำมบอกอำกำร มคี ำว่ำ ปำกกำด้ำมนีฯ้ คณะทวั ร์ กลุ่มนักเรียน “กำร” และ “ควำม” แต่ “กำร” ต้อง โขลงช้ำง ฝูงนกฯ ตำมด้วยคำกริยำเท่ำน้ัน และ “ควำม” ต้องตำมด้วยคำวเิ ศษณ์ เท่ำน้ัน ข้อสังเกต -สมชำยเป็ นคณุ ครู -สมศรีเป็ นทนำย กำร กำรเดิน กำรนั่ง กำรนอน กำรวิง่ กำร ตำมด้วยคำนำม กำรออกกำลงั กำย กำรไหว้ กำรกนิ กำรพูด ฯ จะกลำยเป็ นสำมำยนำม ๕. เป็ นคำเรียกขำน เช่น กำรไฟฟ้ำ กำรประปำ -มุกดำจ๋ำ มำหำฉัน ควำม ควำมรัก ควำมดี ควำมชั่ว ควำมเศร้ำ กำรบ้ำน กำรเมือง หน่อย ควำมต่ืนเต้น ควำมคดิ ฯ ควำม กเ็ ช่นกนั ควำมแพ่ง -แดงเอ๊ย ทำอะไรอยู่ ควำมอำญำ By kadphakanart

สรรพนำมบรุ ุษที่ ๑ แผนผงั ควำมคดิ ชนิดของคำ เรื่อง คำสรรพนำม แทนผู้พูด เช่น ผม กระผม ดิฉัน ข้ำพเจ้ำ หนู ข้อย เรำ พวกเรำ ฯ ประพันธสรรพนำม คอื คำสรรพนำมที่ หน้ำทีข่ องคำสรรพนำม สรรพนำมบุรุษท่ี ๒ แทนผู้ฟัง เช่น เธอ คณุ ท่ำน ฯ ใช้เช่ือมประโยค มีคำว่ำ ผู้ ท่ี ซึ่ง อนั ๑.เป็ นประธำน สรรพนำมบุรุษท่ี ๓ แทนผู้ที่กล่ำวถงึ เช่น เขำ พวกเขำ - ผมชอบเล่นฟุตบอล  ปลำท่ีแม่ซื้อมำรำคำไม่แพง - ท่ำนจะไปกรุงเทพฯ มนั ท่ำน หล่อน ฯ เด็กวยั รุ่นท่ีใกล้ชิดกบั พ่อแม่มักจะไม่มีปัญหำ นักเรียนผู้สอบผ่ำนมสี ิทธ์ไิ ด้ไปเรียนต่อ ๒. เป็ นส่วนเตมิ เตม็ บรุ ุษสรรพนำม คอื คำสรรพนำมที่ใช้ (คำสรรพนำมจะอย่หู ลงั คำกริยำเหล่ำนี้ แทนผู้พูด ผู้ฟัง และผู้ท่กี ล่ำวถึง ต่ำงประเทศ เป็ น เหมือน คล้ำย เท่ำ คือ) ตวั อย่ำง เขำ วภิ ำคสรรพนำม คือ คำ คำสรรพนำม นิยมสรรพนำม คอื คำสรรพนำมที่ใช้ช้ี้ หน้ำเหมือนเธอมำก สรรพนำมแบ่งส่วน แยก คือ คำทใ่ี ช้แทนนำม เพ่ือ เฉพำะเจำะจง มคี ำว่ำ น่ี น่ัน โน่น นี้ น้ัน โน้น ออกเป็ นส่วน ๆ มคี ำว่ำ ต่ำง ไม่ให้กล่ำวซ้ำหลำยคร้ัง ๓. เป็ นกรรม  น่ีทีน่ ั่งของฉัน - ผมจะไปหำเธอ บ้ำง กนั นั่นพ่อของธิดำ - เรำซื้อของให้เขำ โน่นบ้ำนของฉัน  เดก็ ๆ บ้ำงกว็ ง่ิ บ้ำงก็เดิน ๔. เชื่อมประโยคในประโยคควำมซ้อน -ผลไม้ ที่อร่ อยมำจำกส่ วนขอบเขำ นักเรียนต่ำงช่วยกันทำควำมสะอำด อนิยมสรรพนำม คอื คำสรรพนำมที่ไม่ใช้ -เพชรอนั เจยี ระไนแล้วย่อมมีค่ำ ปฤจฉำสรรพนำม คอื คำสรรพนำม ชี้เฉพำะเจำะจง มีคำว่ำ ใคร อะไร ไหน ทเี่ ป็ นคำถำม เช่น อะไร ท่ีไหน ผู้ใด ใคร ๆ อะไร ๆ ไหน ๆ สิ่งใด อนั ใด ฯ  ใครจะไปกบั ฉันกไ็ ด้  อะไรอยู่ในตู้ อะไรในโลกนีไ้ ม่แน่นอน ใครจะไปกบั ฉันบ้ำง ฉันนอนไหนกไ็ ด้ เธอจะกินอะไร By kadphakanart

อกรรมกริยำ คือ กริยำท่ีไม่ต้องมกี รรม แผนผงั ควำมคดิ ชนิดของคำ เรื่อง คำกริยำ มำรองรับ ประโยคก็สมบูรณ์ สกรรมกริยำ คือ กริยำที่ต้องมีกรรม ตัวอย่ำงประโยค มำรองรับ เพ่ือให้ประโยคสมบูรณ์ ไก่ขัน น้องร้อง สุนัขเห่ำ ตวั อย่ำงประโยค พ่ีหลบั น้ำนอน นกบิน นิดฟังเพลง พ่อตัดหญ้ำ ฝนตก ถนนลื่น แม่เยบ็ ผ้ำ ไก่จกิ อำหำร สุนัขกนิ ไก่ นำรีทำกำรบ้ำน คำกริยำ วกิ ตรรถกริยำ คอื กริยำที่ไม่สมบูรณ์ หมำยถงึ คำท่บี อกอำกำร กำรกระทำ หรือบอกสภำพ ใช้เพียงลำพงั ไม่ได้ ต้องอำศัยส่วน หน้ำท่ขี องคำกริยำ กริยำนุเครำะห์(กริยำช่วย) ของคำนำม และคำสรรพนำม เติมเต็ม คือ คำนำมและสรรพนำม เป็ นตวั แสดงในภำคแสดงของประโยค มีหน้ำที่ช่วยคำหลักให้มี เด็ก ๆ เดินไปโรงเรียน ควำมหมำยชัดเจนขนึ้ ได้แก่คำ เท่ำน้ันท่ีมำต่อท้ำยประโยค ได้แก่คำ ๑. พวกเรำกนิ ผลไม้ ว่ำ กำลงั จะ คง เคย ต้อง อำจ ว่ำ เป็ น เหมือน คล้ำย เท่ำ คือ ขยำยนำม ถูก ถ้ำประโยคไม่มีคำกริยำก็ ตำรวจห้ำมเล่นปื นฉีดน้ำ ยงั คงสมบูรณ์ ตัวอย่ำงประโยค ๒. วันเดนิ ทำงของเขำคือวนั พรุ่งนี้ ๓. ขยำยคำกริยำ ตัวอย่ำงประโยค ปรีชำหน้ำเหมือนแม่ เดก็ คนน้ันนั่งดูปลำ นำยแดงจะไปโรงพยำบำล น้ำเป็ นตำรวจ มะลิเดนิ เล่นตอนเช้ำ สุนัขกำลังเห่ำ สำยรุ้งสวยเหมือนเแม่ เหมือนคำนำม ฝนกำลงั จะตก ซันน่ีตัวสูงเท่ำพ่อ เด็กชอบเดนิ เร็ว ๆ เขำคงจะไม่มำแล้ว ต่ืนนอนตอนเช้ำทำให้ร่ำงกำยสดช่ืน ๔. By kadphakanart

ลกั ษณวเิ ศษณ์ คือ คำขยำยบอกลกั ษณะ กำลวเิ ศษณ์ คือ คำขยำยบอก สถำนวเิ ศษณ์ คือ คำขยำยบอกสถำนที่ หน้ำท่ขี องคำวเิ ศษณ์ ต่ำง ๆ เช่น สี กลน่ิ รส สัณฐำน เช่น สูง เวลำ เช่น วนั นี้ พรุ่งนี้ อดตี เช่น ซ้ำย ขวำ บน ล่ำง ริม หน้ำ หลงั อนำคต ปัจจุบนั เช้ำ สำย ๑.ขยำยคำนำม ตำ่ ดำ ขำว ขม เปรีย้ ว เหมน็ กลม บ่ำย เยน็ ดึก คำ่ เป็ นต้น ใกล้ ไกล เหนือ ใต้ เป็ นต้น นกั เรียนหลำยคนช่วยอำจำรย์ รี แบน ร้อน เยน็ เป็ นต้น (“หลำย” เป็ นคำวิเศษณ์ เขำนอนดกึ บ้ำนฉันอยู่ไกล กระเป๋ ำสีแดงวำงอย่บู นโต๊ะ วนั นีเ้ ขำไม่มำโรงเรียน เธอนงั่ ใกล้ ขยำยคำนำม “นักเรียน”) น้องชอบกนิ ขนมหวำน ปี นีห้ วำนเรียนช้ัน ป.๖ พน่ี อนอยู่ช้ันบน ๒.ขยำยคำสรรพนำม เรำทุกคนชอบช่ วยเหลือผู้อื่น ประพนั ธวเิ ศษณ์ คือ คำทท่ี ำหน้ำทเ่ี ชื่อมคำ คำวิเศษณ์ ประมำณวเิ ศษณ์ คือ คำขยำยบอกจำนวน (“ทกุ คน” เป็ นคำวิเศษณ์ หรือประโยคให้เกย่ี วข้องกนั หรือปริมำณ เช่น หนึ่ง สอง สำม สี่ หมำยถึง คำที่ใช้ขยำย สรรพนำม ทห่ี น่งึ ทสี่ อง มำก น้อย บ่อย หลำย ขยำยคำสรรพนำม “เรำ”) เช่น ท่ี ซ่ึง อนั ดงั ที่ เพ่ือว่ำ อย่ำงท่ี เป็ นต้น กริยำ หรือ วิเศษณ์ด้วยกัน เพ่ือทำให้ บรรดำ ต่ำง บ้ำง จุ เป็ นต้น ๓.ขยำยคำกริยำ เขำเป็ นคนเก่งทใี่ คร ๆ ไม่กล้ำดูถูกเขำ ฉันชอบกนิ ก๋วยเตย๋ี วมำก เขำพดู เร็ว( “เร็ว” เป็ นคำวิเศษณ์ขยำย เขำทำงำนหน่ึงซึ่งทำให้เขำไม่สบำยบ่อย เข้ำใจควำมหมำยชัดเจนยิง่ ขนึ้ บ้ำนเขำมแี มวหลำยตวั คำกริยำ “พูด”) อ้วนกนิ จุ ๔.ขยำยคำวเิ ศษณ์ ปฤจฉำวเิ ศษณ์ คือ คำทแ่ี สดงคำถำม นิยมวเิ ศษณ์ คือ คำทบี่ อกควำมชี้เฉพำะ อำจำรย์คนน้ีใจดีมำก( “มำก” เป็ นคำ เช่น อะไร ใด ไหน ใคร ฉันใด ทำไม เป็ นต้น เช่น น่ี นน่ั โน่น นี้ น้ัน โน้น ประตเิ ษธวเิ ศษณ์ คือ คำแสดงปฏเิ สธหรือไม่ วิเศษณ์ขยำย คำวิเศษณ์ “ใจดี”) ท้งั นี้ ท้งั น้ัน แน่นอน เป็ นต้น ยอมรับ เช่น ไม่ ไม่ใช่ มใี ช้ ๕.เป็ นภำคแสดงหรือกริยำของประโยค “เป็ นประโยคคำถำมทตี่ ้องกำรคำตอบ” มไิ ด้ ไม่ได้ หำมไิ ด้ เป็ นต้น พสี่ ูงกว่ำฉัน (“สูง” ทำหน้ำทเ่ี หมือน เธอไม่ชอบวชิ ำอะไร คำกริยำในประโยค) คนไหนทม่ี ำก่อนเพ่ือน เรำไม่ได้มำจำกประเทศญป่ี ่ ุน รถคนั น้นั ไม่ใช่ของฉัน อนิยมวเิ ศษณ์ คือ คำทบี่ อกควำมไม่ชี้ บ้ำนหลงั น้ันไม่มใี ครอย่เู ลย ประตชิ ญำวเิ ศษณ์ คือ คำทใ่ี ช้แสดง เขำไม่มำสำยแน่นอน กำรขำนรับหรือโต้ตอบ เช่น ครับ ขอรับ เฉพำะเจำะจง เช่น อะไร ใด ไหน ค่ะ เจ้ำค่ะ เพคะ เป็ นต้น คนอะไรสวยขนำดน้ัน ใคร ฉันใด เป็ นต้น ฉันจะมำพบท่ำนใหม่พรุ่งนีค้ ่ะ คณุ จะน่งั ตรงไหนกไ็ ด้ ครับ ผมจะทำให้เสร็จครับ แผนผงั ควำมคดิ ชนิดของคำ เร่ือง คำวิเศษณ์ By kadphakanart

๑ ๒ คำบุพบทบอกเวลำ เช่น ต้งั แต่ แผนผังควำมคดิ ชนิดของคำ เรื่อง คำบุพบท คำบุพบทบอกสถำนท่ี เช่น ไกล ใกล้ เหนือ ใต้ ซ้ำย ขวำ บน ล่ำง ฯ กระทัง่ จน เม่ือ เป็ นต้น เขำมำโรงเรียนต้งั แต่เช้ำ เขำอยู่ใกล้จงั หวัดพทั ลุง ปิ ยะทำกำรบ้ำนจนดึก หน้ำทข่ี องคำบุพบท เสื้อสีแดงอยู่ในตู้ พ่อกลับถึงบ้ำนจนกระทง่ั เยน็ หนังสือว่ำงอยู่บนโต๊ะ เธอมำถึงเม่ือเช้ำนี้ ๑.นำหน้ำคำนำม อะไรอยู่ใต้เตยี ง ผมเหน็ คณุ แม่ของเพ่ือน(เพ่ือนเป็ นคำนำม) ๒.นำหน้ำคำสรรพนำม พ่อให้ของขวญั แก่ฉัน( ฉันเป็ นคำสรรพนำม) ๓.นำหน้ำคำกริยำ เรำต้องกนิ เพื่ออย่ไู ม่ใช่อยู่เพื่อกนิ ๕ ๓คำบุพบทบอกควำมเป็ นเจ้ำของ (อยู่, กนิ เป็ นคำกริยำ) คำบพุ บทบอกกำรให้และควำมประสงค์ ๔.นำหน้ำคำวเิ ศษณ์ เช่น แก่ ต่อ แด่ สำหรับ เป็ นต้น เช่น ของ แห่ง จำก เป็ นต้น เรำต้องพูดไปตำมจริง (จริง เป็ นคำวเิ ศษณ์) แม่ให้ของขวัญแก่ฉัน ๕.นำหน้ำประโยค เขำมำถึงต้งั แต่ฝนเริ่มตก (ฝนเริ่มตก เป็ นประโยค) นำ้ ขวดนีม้ ีไว้สำหรับด่ืม คำบุพบท ย้ยุ ทำงำนท่หี อสมุดแห่งชำติ ข้อควรจำ ดำรำถวำยสังฆทำนแด่พระสงฆ์ ผมเห็นคุณแม่ของเพื่อน ๑.บุพบทจะต้องมคี ำตำมมำข้ำงหลังไม่สำมำรถ หมำยถึง คำทที่ ำหน้ำที่นำหน้ำ หนังสือเล่มนี้ของฉัน ใช้ลำพงั ได้ ๔ คำบพุ บทบอกควำม คำนำม คำสรรพนำม และข้อควำม รถไฟฟ้ำแห่งประเทศไทย ๒.ถ้ำคำทเ่ี ป็ นบุพบท เช่น ใน นอก ใกล้ ไกล อย่ลู ำพงั คำเหล่ำนี้จะกลำยเป็ น เกยี่ วข้อง เช่น กับ ด้วย เพื่อแสดงควำมสัมพนั ธ์หรือทำให้ คำวิเศษณ์ โดย ตำม เป็ นต้น เกดิ ควำมต่อเน่ืองและชัดเจนมำก ๓.คำวิเศษณ์บอกสถำนที่(สถำนวเิ ศษณ์) และคำบุพบทบอกสถำนทีเ่ ป็ นคำเดียวกัน ยงยทุ ธเดินทำงโดยสวัสดภิ ำพ ยง่ิ ขนึ้ แต่มกี ำรใช้ต่ำงกนั ดงั นี้ ฉันเห็นกบั ตำ บ้ำนเขำอยู่ใกล้(เป็ นคำวเิ ศษณ์ เพรำะไม่มคี ำตำมหลงั ) วิชัยทำตำมคำสั่ง  บ้ำนเขำอยู่ใกล้ตลำด (เป็ นบุพบท เพรำะมคี ำว่ำ “ตลำด” ตำมหลงั ) เขำมำโรงเรียนโดยรถยนต์ By kadphakanart

คำสันธำนทเ่ี ช่ือมควำมคล้อยตำมกนั แผนผงั ควำมคดิ ชนิดของคำ เร่ือง คำสันธำน เช่น กบั และ ก็ แล้ว พอ....ก็ เป็ นต้น คำสันธำนท่เี ชื่อมควำมขัดแย้งกนั หน้ำที่ของคำสันธำน ครูและนักเรียนกำลัง เช่น แต่ แต่ทว่ำ กว่ำ....ก็ ถงึ ....ก็ แม้....ก็ ๑. เชื่อมคำกับคำหรือกลุ่มคำ รับประทำนข้ำวเทีย่ ง แต่....ก็ เป็ นต้น ฉันเห็นอำจำรย์และภรรยำ  เขำกับเธอไป เธอเป็ นคนขยนั ทำงำนแต่ไม่มเี งินเก็บ ๒.เชื่อมข้อควำมกบั ข้อควำม ร้ำนอำหำรด้วยกนั คำสันธำน หมำยถงึ คำที่ใช้  แดงซื้อขนมแต่ดำซื้อของเล่น ปัจจุบนั ประเทศไทยมี ทรัพยำกรธรรมชำติน้อยลงมำกด้วยเหตนุ ี้ ฉันและน้องนอนดู แม้เขำจะไม่มีพ่อแม่แต่ทว่ำเขำก็ดูแล โทรทัศน์ ตวั เองได้ดี เรำจึงควรช่วยกันดูแล รักษำป้องกันไม่ให้ ทรัพยำกรธรรมชำตทิ มี่ ีอยู่ในปัจจุบัน พอแม่ทำงำนบ้ำน กว่ำถ่วั จะสุกงำกไ็ หม้ ถูกทำลำยลงไป เสร็จกอ็ อกไปข้ำงนอก เช่ือมคำหรือข้อควำมให้เป็ น ๓.เชื่อมประโยคกบั ประโยค คำสันธำนทเี่ ช่ือม เรื่องเดยี วกนั และมคี วำม พ่อแม่ทำงำนหนักเพอื่ ส่งลูก ๆ สละสลวย เรียน มหำวิทยำลยั ควำมให้เลือกอย่ำง คำสันธำนทเ่ี ช่ือมควำมเป็ นเหตุเป็ นผล ข้อสังเกต ใดอย่ำงหน่ึง เช่น จงึ ฉะน้ัน...จึง เพรำะ....จึง เช่น หรือ ไม่....ก็ เพรำะฉะน้ัน....จงึ เป็ นต้น ๑. คำสันธำนบำงคำสำมำรถเป็ นคำบุพบทได้ มิฉะน้ัน หรือไม่ก็ เช่นคำว่ำ “เม่ือ” เป็ นต้น  เพรำะปิ ติไม่สบำยจึงไม่มำโรงเรียน ๒.ถ้ำคำว่ำ “เม่ือ” ตำมด้วยประโยค ถือเป็ น  เพรำะเขำต้งั ใจเรียนจงึ สอบได้ที่ ๑ คำสันธำน แต่ถ้ำตำมด้วยคำ ถือเป็ นคำบุพบท เช่น  ถ้ำเธอไม่ดื่มนมสดก็ด่ืมนำ้ เต้ำหู้  เด็ก ๆ ในห้องไม่ต้งั ใจเรียนเพรำะฉะน้ันจงึ ถูกครูลงโทษ  เธอจะกนิ ข้ำวหรือก๋วยเตี๋ยว งำนนี้จะเร่ิมเมื่อประธำนเดนิ ทำงมำถงึ งำนนี้จะเริ่มเม่ือเวลำ ๑๐.๐๐ น  ไม่เธอก็ฉันทต่ี ้องไปช่วยงำนคุณครู  ลูกต้องอ่ำนหนังสือหรือไม่กข็ นึ้ ไปนอน By kadphakanart

แผนผงั ควำมคดิ ชนิดของคำ เรื่อง คำอุทำน คำอุทำน หมำยถึง คำท่ีเปล่ง หน้ำท่ีของคำอุทำน ออกมำ เพ่ือแสดงอำรมณ์และ ควำมรู้สึกต่ำง ๆ ของผ้พู ูด ๑,แสดงควำมรู้สึกของผู้พูด ตำยจริง! ฉันลืมกญุ แจรถไว้บนโต๊ะ ๑. คำอุทำนบอกอำกำร ๒. คำอทุ ำนเสริมบท เอ๊ะ! ใครหยบิ หนังสือของฉันไป ๑.๑ อำกำรร้องเรียกหรือบอกให้รู้ตัว อทุ ำนเสริมบท คอื คำอทุ ำนทใี่ ช้เป็ นคำสร้อย ๒.เพมิ่ น้ำหนักของคำ เช่น น่ีแน่ะ! เฮ้ย! โว้ย! หรือคำท่นี ำมำเสริม เพื่อให้เกดิ ควำมสละสลวย มำกนิ ข้ำวกินปลำ เดย๋ี วจะได้ไปทำงำนกนั ๑.๒ อำกำรโกรธเคอื ง เช่น ดูดู๋! ชะ! ชิๆ! เช่น ๑.๓ อำกำรดใี จ เช่น เย่! ไชโย! ข้อควรจำ ๑.๔ อำกำรประหลำดใจหรือตกใจ เช่น หนังสือหนังหำ เอ๊ะ! ว๊ำย! แม่เจ้ำโว้ย! อำบน้ำอำบท่ำ ๑.คำอทุ ำนบอกอำกำร จะวำงอยู่หน้ำประโยค ๑.๕ อำกำรสงสำรหรือปลอบโยน เช่น กินข้ำวกนิ ปลำ และมีเครื่องหมำยอัศเจรีย์(!) อยู่ข้ำงหลัง อนิจจำ! พุธโธ่! วัดวำอำรำม ๒. คำอทุ ำนเสริมบทไม่มเี คร่ืองหมำยอศั เจรีย์อยู่ ๑.๖ อำกำรเข้ำใจหรือรับรู้ เช่น เออ! ข้ำงหลัง สำมำรถวำงตรงไหนของประโยคกไ็ ด้ เออน่ะ! อ้อ! ๑.๗ อำกำรเจ็บปวด เช่น โอย! โอ๊ย! ๑.๘ อำกำรจำกส่ิงธรรมชำติ เช่น ตูม! โครม! เปรี้ยง! By kadphakanart


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook