เอกสารประกอบการนิเทศ กศน.อำเภอแวงใหญ่

๕๑ นวัตกรรมส่งเสริมการอา่ น “จับคคู่ วามรู้ราชาศพั ท์” กศน.ตำบลโนนสะอาด ชื่อนวัตกรรม การใช้เกมจบั คู่รูปภาพให้ตรงคำในการจดั การเรียนการสอน วิชาภาษาไทย เรอื่ งคำราชา กรอบแนวคดิ ศพั ท์ นวตั กรรมมคี วามสำคญั ต่อการศกึ ษาหลายประการ ทงั้ นี้เนื่องจากในโลกยคุ โลกาภวิ ัตน์ วตั ถุประสงค์ วธิ ดี ำเนนิ Globalizationมีการเปลย่ี นแปลงในทกุ ดา้ นอยา่ งรวดเรว็ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กิจกรรม ความกา้ วหนา้ ทั้งดา้ นเทคโนโลยี และสารสนเทศ การศกึ ษาจงึ จา เป็นต้องงมีการพัฒนา สือ่ /อปุ กรณ์ เปลยี่ นแปลงจากระบบการศึกษาที่มอี ยูเ่ ดิม เพื่อให้ ทนั สมัยต่อการเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยีและสภาพสังคมทีเ่ ปลีย่ นแปลงไป อีกท้งั เพ่ือแก้ไขปัญหา ทางด้านการศึกษา บางอยา่ งทเี่ กดิ ข้นึ อย่างมีประสิทธภิ าพเช่นเดียวกันการเปล่ียนแปลงทางด้านการศึกษาจึง จา เปน็ ตอ้ งการศกึ ษาเกี่ยวกับนวัตกรรมการศึกษาที่จะมาใชเ้ พ่ือแกไข้ปัญหาทางด้าน การศกึ ษาในบาง เรอื่ ง เชน่ ปัญหาท่ีเก่ียวเน่ืองกับจำนวนผเู้ รียนท่ีมากขึ้น การพัฒนาหลัก สูตรใหท้ นั สมยั การผลติ และพัฒนา สื่อใหมๆ่ ขึ้นมาเพ่ือตอบสนองการเรียนรู้ของมนษุ ย์ให้ เพิม่ มากขึ้นดว้ ยระยะเวลาทสี่ ้ันลงการใชน้ วัตกรรม มาประยุกตใ์ นระบบการบรหิ ารจัดการ ด้านการศึกษากม็ สี ่วนชว่ ยให้การใชท้ รพั ยากรการเรียนร้เู ป็นไปอยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ เช่น เกดิ การเรียนรดู้ ้วยตนเองสรา้ งความน่าสนใจ ผเู้ รยี นสามารถเข้าถึงส่ือทางการศกึ ษาได้ สะดวกและง่ายขนึ้ 1. เพอื่ จัดการเรยี นการสอนท่ีเนน้ ผู้เรยี นมีทกั ษะและได้ปฏิบตั จิ ริง โดยนำหลกั การจดั การ เรียนรูแ้ บบ Active Learning และส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นได้ฝึกทักษะจำ เป็นตามศตวรรษท่ี21 2. เพือ่ ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรียนเกิดความรคู้ วามเขา้ ใจเร่ืองคำราชาศพั ทแ์ ละมีผลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรียนดีขนึ้ ขน้ั นำ 1. ประชมุ บุคลากรเพ่ือช้แี จงวัตถปุ ระสงค์ บทบาทหน้าท่ี จดั ทำคำสง่ั ผูร้ บั ผิดชอบงาน 2. ประชาสมั พนั ธ์การจัดกิจกรรม โดยจัดทำหนงั สอื ประชาสัมพันธ์ 3. กำหนดวนั เวลา และสถานทีใ่ นการจัดกิจกรรม 4. จดั เตรียมอุปกรณ์ 5. บัญชลี งเวลาสาหรับผู้เข้ารว่ มกจิ กรม ข้ันจดั การเรยี นรู้ 1. ลงทะเบยี นผ้เู ข้ารว่ มกจิ กรรม 2. ช้แี จงวัตถปุ ระสงคข์ องการจัดกิจกรรม 3. แนะนำขั้นตอนวธิ ีทำ 4. ลงมือปฏิบัติ 5. สรุปผลการดำเนินงาน 1. กระดาษ A4 ที่พิมพ์เน้ือหาไว้แล้ว 2. กรรไกร 3. กาว 4. คัตเตอร์

๕๒ กลมุ่ เปา้ หมาย เด็กและเยาวชน การวัดผล 1. สงั เกตการณ์พฤติกรรมของเด็กและเยาวชน ทีเ่ ขา้ ร่วมกิจกรรม และ 2. ตรวจผลงาน/ชิ้นงาน ประเมนิ ผล 3. ประเมนิ ผลการแบบสอบถามความพงึ พอใจ ข้อเสนอแนะ ผู้จัดกิจกรรมควรสำรวจความต้องการของผู้เข้าร่วมกจิ กรรมก่อนดำเนนิ การ ท้งั นเ้ี พ่ือ กระตุ้นใหเ้ กิดการเรยี นรู้ และให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงานในทุกๆครง้ั ผู้เสนอผลงาน 1.นายภรี ะพทั ธิ์ อายนิ ดี ครู กศน.ตำบล 2นายเตชทตั เสนารักษา ครูศูนยนก์ ารเรยี นชุมชน 3.นางสาวปยิ ดา พลมติ ร ครศู ูนยนก์ ารเรียนชุมชน

๕๓ นวัตกรรมส่งเสริมการอ่าน “ต้นไม้ตน้ ความร้”ู กศน.ตำบลแวงใหญ่ ช่อื นวัตกรรม ต้นไมต้ น้ ความรู้ กรอบแนวคิด ตน้ ไมต้ น้ ความรู้ เปน็ กจิ กรรมสง่ สรมิ การอ่าน โดยการนำต้นไมด้ อกไม้ประดับ รวบรวม ความรู้เกีย่ วกับต้นไมต้ ่าง เช่น เทคนิคการปลูกการดูแล สรรพคณุ ต้นไม้ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อใหผ้ ูเ้ ขา้ ร่วมกิจกรรม ได้อ่านหนังสอื อย่างทว่ั ถงึ และทันสมัย วิธีดำเนนิ 2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมมีแนวทางใหม่ในต่อยอดอาชีพท่มี ีอยู่ กจิ กรรม 3. เพือ่ ใหผ้ ู้เขา้ รว่ มกิจกรรมมีนิสัยรกั การอ่าน สามารถใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ สื่อ/อปุ กรณ์ ข้นั นำ 1. ประชุมบคุ ลากรเพ่ือช้แี จงวตั ถุประสงค์ บทบาทหนา้ ที่ จดั ทำคำสัง่ ผ้รู บั ผดิ ชอบงาน 2. ประชาสัมพันธก์ ารจัดกจิ กรรม โดยจัดทำหนังสือประชาสมั พันธ์ 3. กำหนดวัน เวลา และสถานที่ในการจัดกจิ กรรม 4. จดั เตรยี มอปุ กรณ์ 5. บัญชลี งเวลาสาหรบั ผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรม ขนั้ จดั การเรยี นรู้ 1. ลงทะเบียนผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรม 2. ช้แี จงวตั ถุประสงคข์ องการจัดกิจกรรม 3. แนะนำข้ันตอนวธิ ีทำ 4. ลงมอื ปฏิบตั ิ 5. สรุปผลการดำเนินงาน 1. ตน้ ไมด้ อกไมป้ ระดับ และตน้ ไม้อนื่ ๆ 2. อุปกรณ์ทำป้ายใหค้ วามรู้เกีย่ วกับต้นไม้ 3. หนงั สือรวบรวมความรเู้ กี่ยวกบั ต้นไม้ กลุม่ เปา้ หมาย เด็ก เยาวชน นกั ศกึ ษา กศน.และประชาชนทว่ั ไป การวดั ผล 1. สงั เกตการณพ์ ฤติกรรมของผูท้ ี่เขา้ ร่วมกจิ กรรม และ 2. ตรวจผลงาน/ชน้ิ งาน ประเมนิ ผล 3. ประเมนิ ผลการแบบสอบถามความพงึ พอใจ ข้อเสนอแนะ ผูจ้ ดั กจิ กรรมควรสำรวจความต้องการของผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรมกอ่ นดำเนินการ ท้ังน้เี พื่อ กระตุ้นให้เกดิ การเรยี นรู้ และใหเ้ กดิ ประสิทธภิ าพในการดำเนนิ งานในทุกๆ คร้ัง ผ้เู สนอผลงาน 1. นางกณั ฑมิ ล ทานา ครู กศน.ตำบล 2. นายมนูญ ต้นกนั ยา ครปู ระจำศนู ย์การเรียนชุมชน

๕๔ นวัตกรรมสง่ เสริมการอ่าน “คู่ฉันอย่ไู หน” กศน.ตำบลใหม่นาเพียง ชื่อนวตั กรรม คู่ฉันอยู่ไหน กรอบแนวคิด 1. สื่อมีความสมั พนั ธก์ บั เนื้อหาและจดุ มงุ่ หมายทีจ่ ะสอน 2. เป็นสื่อที่ช่วยพฒั นาทักษะทางด้านภาษาสำหรับผู้เรยี น 3. สื่อมคี วามเหมาะสมกบั วยั ระดบั ช้นั ความรู้ และประสบการณข์ องผ้เู รียน 4. สอื่ มีเนือ้ หา ถูกต้อง ทันสมัย น่าสนใจ และเปน็ ส่ือทจ่ี ะให้ผลตอ่ การเรยี นการสอนมากท่สี ดุ ชว่ ย ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจเนอ้ื หาสาระนน้ั ไดด้ ี เปน็ ลำดับขั้นตอน 5. เปน็ ส่ือที่ชว่ ยเรา และกระตุน้ ความสนใจ ทัศนคตทิ ี่ดีของผู้เรียน ชว่ ยใหเ้ รยี นไดง้ ่าย รวดเรว็ และ เพลิดเพลิน 6. เป็นสื่อให้ผเู้ รียนจำและอา่ นคำไดง้ ่ายขึ้น 7. เกมจับคู่ภาพกบั คำ วตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื พัฒนาทักษะการอา่ นและเขยี นคำพ้นื ฐาน วธิ ดี ำเนิน ข้นั นำ กิจกรรม 1. ประชุมบคุ ลากรเพอื่ ชี้แจงวัตถปุ ระสงค์ บทบาทหนา้ ท่ี จัดทำคำสั่งผรู้ ับผิดชอบงาน 2. ประชาสัมพันธก์ ารจดั กิจกรรม โดยจัดทำหนังสือประชาสมั พันธ์ สือ่ /อุปกรณ์ 3. กำหนดวนั เวลา และสถานทใี่ นการจดั กิจกรรม 4. จัดเตรียมอุปกรณ์ 5. บญั ชีลงเวลาสาหรบั ผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรม ขัน้ จดั การเรียนรู้ 1. ลงทะเบียนผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรม 2. ชีแ้ จงวัตถุประสงคข์ องการจดั กจิ กรรม 3. แนะนำข้ันตอนวธิ ที ำ 4. ลงมือปฏิบตั ิ 5. สรุปผลการดำเนนิ งาน 1. กระดาษสี 2. กาว 3. กรรไกร 4. ภาพและคำพ้ืนฐาน กลุ่มเปา้ หมาย เดก็ เยาวชน นกั ศึกษา กศน.

๕๕ การวัดผล 1. สังเกตการณ์พฤติกรรมของผู้ที่เขา้ ร่วมกิจกรรม และ 2. ตรวจผลงาน/ช้นิ งาน ประเมินผล 3. ประเมินผลการแบบสอบถามความพงึ พอใจ ข้อเสนอแนะ ผ้จู ดั กจิ กรรมควรสำรวจความต้องการของผู้เขา้ รว่ มกิจกรรมกอ่ นดำเนินการ ทั้งน้เี พ่ือกระตนุ้ ให้เกดิ การเรียนรู้ และให้เกิดประสทิ ธิภาพในการดำเนนิ งานในทกุ ๆครง้ั ผู้เสนอผลงาน 1. นางสาวรุจริ ัตน์ ทานา ครู กศน.ตำบล 2. นางสาวสพุ ัตรา ชาวเหนือ ครปู ระจำศนู ยก์ ารเรยี นชุมชน

๕๖ Best Practice กลุ่มปลกู ผักปลอดสารพิษ บ้านบะแค หมู่ที่ 5 ตำบลแวงใหญ่ กลุ่มผักปลอดสารพิษ บ้านบะแค ตั้งอยู่ บ้านบะแค หมู่ที่ 5 ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัด ขอนแก่น 40330 ประวัติความเป็นมา ศูนย์เรียนรู้เกษตรพอเพียงนี้ดำเนินการเมื่อเดือน มิถุนายน 2548 โดยได้รับการสนับสนุนที่ดินจำนวน 10 ไร่ จาก นางประพาต แก้วจันทร์ อยู่บ้านเลขที่ 83 มอบให้ใช้ ประโยชนเ์ พ่ือสาธารณะเป็นแปลงเกษตรตัวอย่างและเรียนรรู้ ่วมกันของชมุ ชน จดุ เดน่ ของภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน • พชื ผักท่ไี ดม้ คี ุณภาพ ไมม่ ีสารพิษตกค้าง เกดิ ความปลอดภัยแกผ่ ู้บริโภค • ลดต้นทนุ การผลติ ของเกษตรกร ลดค่าใชจ้ า่ ยในการซอ้ื สารเคมีป้องกนั และกำจัดศตั รูพืช • ลดปรมิ าณสารปอ้ งกันและกำจดั ศัตรูพชื ทีป่ นเปื้อนในอากาศและนำ้ ซึ่งเป็นการอนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติและลดมลพษิ ของส่ิงแวดล้อมไดท้ างหนง่ึ • การมสี ่วนรว่ มของสมาชิกและชมุ ชน • การมีกจิ กรรมทีห่ ลากหลายและสอดคล้องกบั ความต้องการของสมาชิก/ชุมชน • สามารถเชือ่ มประสานกับแหลง่ งบประมาณต่าง ๆ

๕๗ Best Practice ชอื่ สถานศึกษา กศน.อำเภอแวงใหญ่ หลักสูตร นา 1 ไร่ ขา้ ว 100 ถัง จำนวน 100 ชว่ั โมง หลักการและเหตุผล ตามยุทธศาสตรช์ าติ ๒๐ ปี ต้องการพัฒนาประเทศไทยใหก้ ้าวสู่ไทยแลนด์ ๔.๐ เพ่ือใหบ้ รรลุเปา้ หมาย ประเทศ มัน่ คง มั่งคงั่ ย่ังยนื โดยเนน้ ให้เกษตรกรพัฒนาสกู่ ารเป็นผปู้ ระกอบการ แต่เกษตรกรสว่ นใหญ่ไม่มี ความรู้ดา้ นการแปรรูป การเพม่ิ มลู ค่าสนิ ค้า การบรหิ ารจดั การและการตลาดจึงทำให้การลงทนุ ในการผลิตทาง การเกษตรผลลพั ธไ์ ม่คมุ้ ค่ากับการลงทนุ และราคาพืชผลทางการเกษตรทเี่ กษตรกรผลติ ไดก้ ลบั ไมเ่ ปน็ ไปตามที่ คาดหวัง รฐั บาลจึงตอ้ งการที่จะพฒั นาใหเ้ กษตรกรได้เรียนร้ทู ีจ่ ะแปรรปู สนิ คา้ ของตนเองและเป็นผ้กู ำหนด ราคาสนิ ค้าของตนเอง ตามท่ี สำนักงาน กศน. มีนโยบายให้ กศน.สง่ เสริมอาชพี เพ่ือการมีงานทำ มุ่งเน้นใหก้ ลุ่มเป้าหมาย สามารถนำความรู้ทีไ่ ด้รับจาการศึกษาไปใช้ในการประกอบอาชพี พฒั นาอาชพี พฒั นาทักษะชีวติ และพฒั นา สังคมและชุมชน เพื่อให้สามารถอย่ใู นสงั คมไดอ้ ย่างมคี วามสขุ โดยยึดหลักความสอดคล้องกบั ความต้องการ และความจำเป็นของกลมุ่ เป้าหมาย เป็นไปตามสภาพบรบิ ทชมุ ชนและสังคม จงั หวดั ขอนแก่น เป็นสงั คมเกษตรกรรม ซึ่งมีพืชเศรษฐกิจ ไดแ้ ก่ ขา้ ว อ้อย มนั สำปะหลัง การปลกู หม่อนเล้ียงไหม ซ่งึ ปลกู ทกุ อำเภอ ในเขตอำเภอแวงใหญ่ มีพนื้ ท่ปี ลกู ข้าวเปน็ สว่ นใหญ่ ในทกุ ปีจะมีข้าวท่เี กบ็ ไว้เพื่อบริโภค และนำไปจำหนา่ ยในตลาดซ่ึงราคาข้ึนอยกู่ ับราคาตลาด ทำให้ได้ราคาต่ำไมค่ มุ้ กบั การลงทุน แตเ่ ดมิ การดำเนนิ ชีวิตค่อนขา้ งยากลำบากอาศัยการดำเนินชวี ิตตามแบบ ป่ยู ่า-ตายาย คือการปลูก ข้าวอยา่ งเดยี วเป็นอาชพี หลัก อาชีพเสริมก็คอื ขายยาเร่ตามหมบู่ ้านตา่ งๆ ทำเฟอรนฺ เิ จอร์ ขายหมี่ ได้เงินมาก แต่ไม่เหลือเก็บ พอเล้ยี งครอบครัวได้แต่ไมม่ ีความสขุ บุตรหลานกแ็ ยกย้ายกนั ไปทำงานคนละทิศละทาง ครอบครัวไม่อบอุน่ วนั ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2545 พอ่ หนกู าลไดใ้ หค้ วามสนใจแนวทางการทำเกษตรผสมผสานจึงได้เขา้ มา เป็นสมาชกิ เครือขา่ ยการทำเกษตรผสมผสาน ของพอ่ บุญเต็ม ชัยลา ปราชญ์ชาวบา้ นทม่ี แี นวคดิ “กนิ ทุกอย่าง ที่ปลกู ปลูกทุกอย่างทกี่ ินได้ เหลอื กินแจก เหลือแจกขาย เปน็ การลดรายจา่ ย เพ่ิมรายได้ให้ครอบครวั ” ตอ่ มา ปี พ.ศ.2549 พอ่ หนูกาล ได้น้อมนำพระราชดำริเศรษฐกจิ พอเพยี งของพระบาทสมเดจ็ พระ เจ้าอยูห่ ัวมาปรบั ใชใ้ นการดำรงชวี ิตประจำวันรวมทั้งเปลยี่ นแนวคิดจากการลงทนุ มากเพ่อื หวังผลกำไรสงู แต่ ขาดทุนไมค่ ุ้มคา่ จงึ หนั มาปลูกข้าวน้อยลง ใช้ทนุ ไม่มากดูแลขา้ วไดท้ ัว่ ถึง ไมต่ ้องจา้ งแรงงานในการเพาะปลูก ไถหวา่ นเกบ็ เก่ยี ว สามารถทำเองได้ทกุ ข้นั ตอน จนเป็นที่มาของ นา 1 ไร่ ได้ข้าว 100 ถัง

๕๘ หลักการของหลักสูตร หลกั สตู รการแปรรปู ขา้ วฮางงอกอบสมนุ ไพรมีหลักการที่สอดคลอ้ งกบั การจัดการศึกษาเพื่อพฒั นา อาชีพเพือ่ การมงี านทำของสำนักงาน กศน. ดงั น้ี 1.เป็นหลกั สูตรทีเ่ นน้ การจดั การศกึ ษาอาชพี เพ่ือการมีงานทำ ท่ีเนน้ การบูรณาการเน้ือหาสาระ ภาคทฤษฎคี วบคู่ไปกับการฝึกปฏิบัติจริง ผ้เู รยี นสามารถนำความรูแ้ ละทักษะไปประกอบอาชีพได้จรงิ อยา่ งมี คุณภาพและมีคุณธรรมจริยธรรม 2.เปน็ หลักสตู รอาชีพทส่ี ง่ เสริม และอนรุ ักษ์ความร้ขู องภูมิปัญญาท้องถ่นิ และต่อยอดผลิตภัณฑ์ การเกษตรเพื่อสขุ ภาพ 3.เปน็ หลักสูตรทผี่ ู้เรียนสามารถนำผลการเรยี นรไู้ ปเทียบโอนเขา้ สู่หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ในรายวชิ าเลือกของสาระการประกอบอาชีพ 4. เปน็ หลกั สตู รการศกึ ษาท่ีเน้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั จดุ ม่งุ หมาย 1. เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รียนเกิดทักษะมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ความชำนาญในการประกอบอาชีพการทำข้าวนา 2. เพ่ือใหผ้ ้เู รียนสามารถทำนาใหม้ ีผลผลิตเพม่ิ ขึน้ พัฒนา (UP Skill) เปน็ สนิ ค้าเพ่ือสุขภาพสรา้ ง อาชพี สามารถเขา้ ถึงแหลง่ เงินทนุ เปน็ อาชพี 3. เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนไดพ้ ฒั นาอาชีพของตนเอง และมีรายได้ที่ยั่งยนื กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนผตู้ ้องการเรียนรู้การทำนา 1 ไร่ ได้ข้าว 100 ถัง เพอื่ ทำเปน็ อาชพี ในเขตตำบลคอนฉิม 1. ผทู้ ่วี ่างงาน 2. ผ้ทู ี่มอี าชพี แล้วและต้องการพัฒนาอาชพี 3. เกษตรกรทำนาที่ต้องการเพมิ่ ผลผลิต ระยะเวลาเรยี นทั้งหมด 100 ช่วั โมง ภาคทฤษฎี 20 ชวั่ โมง ภาคปฏบิ ัติ 80 ช่ัวโมง โครงสร้างหลักสูตร 1. พนื้ ฐานการทำข้าวฮางงอกสมนุ ไพร(3ช่ัวโมง ) 1.1 ความรู้พื้นฐานการทำข้าวฮางงอกสมนุ ไพร

๕๙ 1.2 ขา้ วฮางงอกสมนุ ไพรบ้านถลงุ เหลก็ 1.3 วัสดอุ ุปกรณ์ 1.4 ความปลอดภยั ในอาชพี 1.5 คุณธรรมในการประกอบอาชพี 2. การทำขา้ วฮางงอกสมุนไพร(40 ชม.) 2.1 การทำข้าวฮางสด 2.2 การทำขา้ วฮางแหง้ 2.3 การแปรรูปข้าวฮางงอกเปน็ อาหาร 2.4 การศึกษาและคดั เลือกสมนุ ไพรท่ีสามารถนำมาเสรมิ คุณคา่ ทางอาหาร 2.4 การทำน้ำข้าวฮางงอกผสมธัญพืช 2.5 การทำขนมข้าวฮางงอก 2.6การทำไอศกรีมจากข้าวฮางงอก 3. การจัดการตลาดเบ้ืองต้นและการบรรจุภณั ฑ์ ( 4 ชม.) 3.1 การตลาดชุมชน 3.2 การออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ 3.3 มาตรฐานผลิตภณั ฑอ์ าหารและยา 3.4 การตลาดออนไลน์ 4. การบริหารหนีส้ ินและบญั ชเี บ้อื งต้น ( 3 ชม.) 4.1 การคำนวณตน้ ทุน กำไร 4.2 แหลง่ เงินทุนและการกยู้ ืม 4.3 การบรหิ ารหนสี้ นิ และการบรหิ ารสัญญา 4.4 การจัดทำบญั ชคี รัวเรอื น

๖๐ รายละเอียดโครงสร้างหลกั สูตรการทำข้าวฮางงอกสมนุ ไพร เรอื่ ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนอ้ื หา การจัดกระบวนการ ชว่ั โมง รวม เรียนรู้ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 3ชม. 1. พ้นื ฐานการ 1.1 บอกความสำคญั 1.1 ความเป็นมาและ 1.1 วทิ ยากรบรรยาย ทำข้าวฮางงอก ของการประกอบอาชีพ ความสำคัญของการ 1.2 ผู้เรียนศกึ ษาข้อมลู สมุนไพร การทำข้าวฮางงอก ประกอบอาชีพการทำ เพิม่ เติมจากเอกสาร (3ช่ัวโมง) สมนุ ไพรได้ ข้าวฮางงอกสมนุ ไพร สื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ 1.2 บอกความเป็นไปได้ 1.2 ความเปน็ ไปไดใ้ น สถานประกอบการ สอ่ื ในอาชีพหลกั สตู รการ การประกอบอาชพี การ ของจรงิ สอื่ บุคคลใน ทำขา้ วฮางงอกสมุนไพร ทำขา้ วฮางงอกสมุนไพร ชมุ ชน ได้ 1.2.1 ความเปน็ มาของ 1.3 บอกถึงแหล่งท่ีมา ขา้ วฮางสมุนไพรบ้าน จัดหาวัสดุอปุ กรณ์ได้ ถลุงเหล็ก 1.4 บอกถึงความ 1.2.2 การจัดหาวสั ดุ ปลอดภยั ในอาชีพ อุปกรณ์ อาหารและยาได้ 1.3วิทยากรบรรยาย 1.5คณุ ธรรมในการ ความปลอดภัยในอาชพี ประกอบอาชีพ อาหารและยา 1.4 วทิ ยากรบรรยาย คณุ ธรรมในการประกอบ อาชีพ 2.การทำขา้ ว 2.1 มีความรูพ้ ื้นฐาน 2.1 ความรู้พืน้ ฐานการ 1. วิทยากรสาธติ การ ฮางงอก สมนุ ไพร การทำข้าวฮางงอก ทำขา้ วฮางงอกสมุนไพร ทำขา้ วฮางงอก (๔๐ชัว่ โมง) สมนุ ไพรเพ่อื เตรียมการ เพือ่ เตรียมการประกอบ สมุนไพร แบบตา่ งๆ ประกอบอาชีพการทำ อาชพี การทำข้าวฮางงอก ข้าวฮางงอกสมุนไพร สมุนไพร 2. การฝกึ ปฏิบตั จิ รงิ 14 ไดแ้ ก่ สถานที่/พื้นท่ี 2.1.1การทำข้าวฮาง ของผเู้ ข้ารบั การอบรม 14 8 ความรทู้ ่เี กี่ยวข้องได้ งอก 2.2 สามารถทำข้าวฮา 2.1.2การทำข้าวฮางสด งงอกสมนุ ไพรรูปแบบ 2.1.2 การทำขา้ วฮาง ตา่ งๆได้ แหง้ 2.1.4การทำน้ำข้าว

๖๑ เรอื่ ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนอ้ื หา การจัดกระบวนการ ช่วั โมง เรียนรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ัติ รวม 2.3 สามารถเก็บรักษา ฮางงอกผสมธญั พชื 3 ข้าวฮางงอกสมุนไพรได้ 2.1.5 การทำขนมจาก ข้าวฮางงอก 3 2.1.6การทำไอศกรมี จาก ขา้ วฮางงอก 6 3.การจัดการ 3.1 สามารถเรยี นรู้ 3.1 การบริหารการทำ 3.1 บรรยายองค์ 1 ตลาดเบื้องต้น พ้นื ฐานการตลาดได้ ข้าวฮางงอกสมนุ ไพร ความรู้เกย่ี วกบั การ 1 การบรรจุภัณฑ์ - การควบคมุ คุณภาพ ควบคมุ การทำขา้ วฮา 1 (4ชวั่ โมง) - การลดตน้ ทนุ 3.2 การจัดการตลาดใน งงอกสมนุ ไพรและการ 3.2 สามารถเรียนรู้ถงึ การทำข้าวฮางงอก บริหารการตลาด 1 4. การบริหาร พ้ืนฐานการพฒั นาบรรจุ สมนุ ไพรและการพฒั นา 3.2 การบริหารจดั การ 30 หนส้ี นิ และ ภณั ฑ์ได้ บรรจุภัณฑ์ การตลาดพืน้ ฐาน การ นาที บญั ชเี บอ้ื งตน้ 3.3 สามารถวาง 3.3 การวางแผนการ พฒั นาบรรจภุ ณั ฑท์ ี่ (3ชั่วโมง) แผนการกำหนด ดำเนินงาน การควบคุม เหมาะสมกบั สนิ คา้ มาตรฐานผลิตภณั ฑ์ มาตรฐานผลติ ภัณฑ์ของ 3.3 การวางแผนการ อาหารและยาได้ ชุมชน ดำเนนิ งาน การ ควบคมุ มาตรฐาน 3.4 สามารถวางแผน 1. การคำนวณต้นทุน ผลิตภัณฑข์ องชุมชน การตลาด จัดจำหน่าย และกำไร การควบคมุ มาตรฐาน ออนไลน์ได้ ผลิตภัณฑข์ องชุมชนให้ 1. สามารถคำนวณ อยู่ระดบั แนวหน้าและ ต้นทุนและกำไรได้ มีความน่าเชื่อถอื ของ 2. ร้จู ักแหล่งเงนิ ทนุ ผู้บริโภค และการเขา้ ถงึ การขอ 3.4 การวางแผน การตลาด จัดจำหน่าย ออนไลน์ 1. อธบิ ายและศึกษา จากใบความรู้ในการ คำนวณตน้ ทนุ และ กำไรการจดั ใหผ้ ้เู รยี น

๖๒ เร่ือง จุดประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา การจดั กระบวนการ ชว่ั โมง เรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ รวม สนิ เชอ่ื จากสถาบัน 2.แหลง่ เงนิ ทนุ และการ ศึกษาเน้ือหาจากใบ 1 การเงนิ เพื่อลงทนุ ใน เขา้ ถงึ การขอสินเชือ่ จาก ความรู้และคน้ ควา้ จาก อาชพี สถาบันการเงนิ Google 1 ๓.เข้าใจวธิ ีการบริหาร ๓. การบริหารจดั การ ๒.จดั เวทเี สวนาและ จัดการหนีส้ นิ และการ หนสี้ นิ และการบรหิ าร การแนะแนวจาก 30 บริหารสญั ญาได้ สญั ญา ตัวแทนสถาบนั การเงนิ นาที ๔. ผู้เรยี นสามารถ ๔. การจัดทำบัญชี เรอื่ ง แหล่งเงินทนุ และ จดั ทำบญั ชีครวั เรอื น ครัวเรอื น การเข้าถึงการขอ สนิ เชื่อจากสถาบัน การเงนิ การบรหิ าร จัดการหนีส้ ินและการ บรหิ ารสัญญา ๓.ผู้เรียนฝกึ จดั ทำบัญชี ครัวเรอื น แลว้ จัด กจิ กรรมการสนทนา แลกเปลย่ี นขอ้ มลู ความ คดิ เห็น เพ่ือสรา้ ง แนวคดิ ในการดำเนิน กจิ กรรมการเรียนรู้ รวม 10 40 50 สื่อการเรียนรู้ ในการจัดการเรยี นรู้ ใชส้ อื่ การเรียนร้ทู หี่ ลากหลาย ไดแ้ ก่ สื่อสิ่งพิมพ์ ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ สอื่ บุคคล ภูมิปัญญา แหลง่ เรียนรกู้ ลมุ่ ทำขา้ วฮางงอกสมุนไพรบ้านถลงุ เหล็ก ตำบลใหม่นาเพียง อำเภอแวงใหญ่ การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ความรู้ภาคทฤษฎีระหว่างเรียนและจบหลกั สูตร 2. การประเมินผลงานระหวา่ งเรยี นจากการปฏบิ ตั ิ ไดผ้ ลงานทีม่ คี ุณภาพสามารถสร้างรายได้ และจบ หลักสูตร

๖๓ การจบหลักสตู ร 1. มีเวลาเรียน ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 80 2. มผี ลการประเมินตลอดหลกั สูตร ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 60 3. มีผลงานที่มีคุณภาพ เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา 1. หลกั ฐานการประเมินผล 2. ทะเบยี นคุมวุฒิบัตร 3. วุฒิบัตร ออกโดยสถานศึกษา การเทยี บโอน ผ้เู รยี นทจี่ บหลักสตู รนส้ี ามารถนำไปเทยี บโอนผลการเรียนรกู้ ับหลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกเสรีทีส่ ถานศกึ ษาได้จดั ทำขึ้น

๖๔ Best Practice ผ้าไหม มัดหมี่บ้านหนองทุม่ หมทู่ ี่ 8 ตำบลใหมน่ าเพยี ง อำเภอแวงใหญ่ ผ้าไหมมัดหมี่ เป็นการทอผ้าอย่างหนึ่งที่มกี ารสร้างลวดลายก่อนที่จะทำการย้อมสี การทำลายผ้าไหม มดั หมเ่ี ปน็ การเอาเชือกมามัดดา้ ยหรือมดั เสน้ ไหมตามลวดลายท่ีได้ออกแบบไว้ การมดั และยอ้ มลายจะมีการทำ ทง้ั เส้นทางแนวยนื และแนวนอนหรอื ท่ีเรยี กวา่ แนวพุ่ง มีการสันนิษฐานวา่ การมดั ลายในแนวยืนน่าจะมีมาก่อน ในแนวพุง่ และจากการสืบคน้ มีข้อสันนิษฐานว่านา่ จะได้รบั แบบอยา่ งมาจากประเทศอินเดยี โดยในสมัยโบราณ ทีม่ ีการคา้ ขายกนั และติดมากบั สินค้าอ่นื การทอผ้ามัดหมี่โบราณนิยมการย้อมสีด้วยสธี รรมชาติ เช่น สีแดงจากครั่ง สีน้ำเงินจากคราม เป็นตน้ ส่วนผ้าไหมมัดหมี่จะนิยมทำในกลุ่มไท-ลาวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากเส้นทางการรับแบบอย่างของผ้า มดั หม่ี ปจั จบุ นั ผา้ มัดหมีม่ ีการทำกันอยา่ งแพร่หลาย สามารถทำได้ดีทงั้ ผ้าฝ้ายและผา้ ไหม โดยเฉพาะผ้าไหมจะมีความ สวยงามมาก นอกจากตัวผ้าไหมเองแล้ว ลวดลายและสสี ันยังเป็นปัจจัยท่ีช่วยสร้างความสวยงามให้มากยิ่งขึน้ การอนรุ กั ษ์ลวดลายโบราณ และนำมาประยุกตใ์ ช้ จงึ เป็นส่งิ ทน่ี า่ จะไดร้ บั การส่งเสริมพฒั นาเป็นอยา่ งย่ิง ดังนั้น การเก็บรวบรวมองคค์ วามรู้เกี่ยวกบั การผลติ ผ้าไหมมัดหมส่ี ีธรรมชาตเิ พ่ือการถา่ ยทอดสู่คนรุ่นต่อไปจึงเป็นเร่ือง ที่ดีและควรให้การสนับสนุน สำหรับลวดลายต่างๆ ที่มีการสร้างสรรค์มาแต่โบราณ จึงเป็นงานศิลป์ที่ควรแก่ คุณคา่ ใหเ้ ป็นสนิ ทรัพย์ของแผ่นดินไทยตลอดไป กศน.อำเภอแวงใหญ่ จึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรม 1 อำเภอ 1 อาชีพ หลักสตู รการทอผา้ ไหมลายแคน แก่นคูณ ให้กับประชาชนผู้ที่สนใจ เพื่อเป็นการสร้างอาชีพของผู้เรียนและชุมชนโดยเน้นกระบวนการเรียนรู้ ตามแนวทางปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพือ่ เพม่ิ ศักยภาพและขีดความสามารถให้ประชาชนได้มอี าชพี สามารถ สร้างรายได้เสริม เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยสำนักงาน กศน.ได้กำหนดหลักการในการจัดทำ แผนพัฒนาการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำไว้ว่า ต้องเป็นการดำเนินงานที่มีความยืดหยุ่นด้านหลักสูตร การ จัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล รวมถึงการบริการจัดการกลุ่ม โดยเน้นการบูรณาการให้ สอดคล้องกับศักยภาพดา้ นต่างๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและการมีงานทำอย่างมี คุณภาพ ทวั่ ถงึ และเทา่ เทยี มกัน สามารถสรา้ งรายไดท้ ีม่ ่ันคง

๖๕ สถานท่ตี ้ัง บ้านหนองทุ่ม หมู่ท่ี 8 ตำบล ใหมน่ าเพียง อำเภอแวงใหญ่ จงั หวดั ขอนแก่น รหสั ไปรษณยี ์ 40330

๖๖ ระดับความสำเรจ็ ในการจัดทำผลการปฏบิ ตั งิ านทด่ี ี (Best Practice) กศน.ตำบลโนนทอง ระดบั ความสำเร็จของการดำเนินงานด้านใดดา้ นหนึ่งทม่ี ีผลการปฏิบัติงานท่ดี สี ูงกวา่ เกณฑ์ มาตรฐาน สามารถเป็นแบบอย่าง ผลการปฏิบัติงานที่ดี Best Practice ประจำปี งบปราณ ๒๕๖๔ กศน.ตำบลโนนทอง ผลิตภณั ฑ์ ดีเดน่ ศูนยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน กศน.ตำบลโนนทอง ช่ือผลิตภัณฑ์การทอผ้าฝ้ายยอ้ มสธี รรมชาติ โดยนางสมัย ประสงค์ บ้านเลขที่ 101 หมู่ 1 ตำบลโนนทอง อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น ช่อง ทางการจำหน่าย จำหน่ายในชุมชน หนว่ ยงานราชการ เพจfacebook ชอื่ ผลงาน ผ้าฝา้ ยมัดหมี่ย้อมสธี รรมชาติ ความสำคญั และความเปน็ มา หลักการและเหตุผล การรวมกนั เป็นกลุ่มเพื่อรว่ มกันสรา้ งผลติ ภณั ฑ์ประจำท้องถ่ินเนื่องจากชาวบา้ นโนนทองตำบลโนน ทองเสร็จจากการทำนาแล้วไม่ได้ทำอาชพี อะไร นางสมัยประสงคซ์ ่งึ เปน็ ประธานกลุ่มจงึ มคี วามคดิ ทีจ่ ะสรา้ ง รายได้เสริมประกอบกับสมาชิกในกลมุ่ มีอาชีพทอผ้าฝา้ ยอยู่แลว้ จงึ ไดม้ กี ารประชุมและจดั ต้ังกลุ่มทอผ้ายย้อมสี ธรรมชาติขึน้ เพื่อให้สมาชกิ ในกลุ่มมีรายไดแ้ ละไดจ้ ดทะเบยี นเป็นวิสาหกจิ ชมุ ชน ซงึ่ ผลิตภัณฑไ์ ด้รับการรับรอง จากกรมพฒั นาชมุ ชน ใหเ้ ป็นผลติ ภัณฑ์ หนง่ึ ตำบลหนงึ่ ผลิตภัณฑ(์ OTOP) และไดเ้ ปน็ ตัวแทนไปจำหนา่ ย สินคา้ ท่เี มืองทองธานี วัตถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ ให้สมาชิกในกลุ่มมรี ายได้เสริม 2. เพือ่ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 3. มกี ารแปรรปู เป็นผลิตภณั ฑอ์ ย่างอ่ืน

๖๗ เป้าหมาย สมาชิกในกลมุ่ จำนวน 10 คน วิธีการปฏิบตั ิสูค่ วามเป็นเลิศ - วธิ ดี ำเนินงาน มกี ารประชุมวางแผนในการบริหารจัดการ มีการเชญิ หนว่ ยงานราชการเพอื่ มาเป็นทป่ี รึกษาในการจดั การกล่มุ เชน่ กศน. อำเภอแวงใหญ่ พัฒนาชมุ ชนอำเภอแวงใหญ่ - ผลทีค่ าดว่าจะได้รับ 1. สมาชกิ มรี ายได้เสรมิ จาการขายผลิตภัณฑ์ 2. ทำใหก้ ลมุ่ มชี อ่ื เสยี งในระดบั ประเทศ

๖๘ รายงานผลการปฏิบตั ิงานทเี่ ป็นเลศิ (Best Practice) ช่อื ผลงานการทอผ้าฝ้ายยอ้ มสีธรรมชาติ สอดคล้องกับนโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน ตามยุทธศาสตร์ : ข้อที่ 4 ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาส และความเสมอภาคทางการศึกษา หลกั การและเหตุผล กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ได้กำหนดนโยบายการจดั การศกึ ษาอาชีพเพ่ือการมีงานทำ เพ่อื ให้ สถานศกึ ษาได้จดั การเรยี นการสอนให้กบั ประชาชน เพอ่ื เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งสำหรบั ประชาชนให้สามารถ นำไปปฏบิ ัตไิ ด้จริงและนำไปเป็นอาชีพ เพ่ือเพิ่มรายได้ให้กับครอบครวั และชมุ ชนได้ ศนู ย์การศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอแวงใหญ่ เป็นหนว่ ยงานของรัฐที่มีหนา้ ทจี่ ัดการศึกษาเพื่ออาชีพการมีงานทำ ใหส้ อดคล้องกบั วิถีชวี ติ ของชมุ ชน ทม่ี ีบริบทในการดำรงชวี ติ อันเปน็ องคป์ ระกอบสำคญั เช่น สภาพภมู ิประเทศ ภมู อิ ากาศ ทรพั ยากรธรรมชาติ วิถชี ีวติ ของคนในทอ้ งถิ่นนำมาจดั หลกั สูตรการเรียนการสอนตอ่ ไป เนื่องจากปัจจุบันนี้ประชากรและคนในชุมชนมีอาชีพ คือ การทำนา เพียงอย่างเดียว เมื่อมีเวลาว่าง จากการทำนา ก็ไม่มีอาชีพรองรับทำเพื่อเสริมรายได้ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอแวงใหญ่ จึงมีแนวความคิดทจ่ี ะจัดหาอาชีพเสริม เพอื่ แก้ปัญหาการว่างงาน พัฒนาฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน เพอื่ เพิม่ รายได้ใหก้ ับนักศึกษาและประชาชนท่ัวไป ดังนั้น “การทอผ้าฝ้ายยอ้ มสธี รรมชาติ” จึงเป็นอกี ทางเลือก หน่งึ ที่ทำเพื่อเปน็ การเพิม่ รายได้ใหก้ ับกลุ่มบุคคลทสี่ นใจ มีรายได้และมงี านทำอย่างยง่ั ยืน ดังน้นั ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอแวงใหญ่ โดยกศน. ตำบลโนน สะอาดจึงไดจ้ ัดทำโครงการเพ่ิมทกั ษะพัฒนาอาชีพการทอผ้าฝ้ายย้อมสธี รรมชาติข้ึน เพ่ือให้ผ้ทู ี่สนใจสามารถ นำไปปฏบิ ตั ไิ ด้จรงิ ผลการดำเนินงาน 1. มีการวางแผน มีการวางแผนการจัดกิจกรรมโครงการ โดยมีการกำหนดสภาพปัญหา ความ ต้องการของผู้เรียน ชุมชน สังคม ให้เชื่อมโยงกับประสบการณ์ และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ของ หลกั สูตร โดยผู้เรียนทำความเข้าใจกับสภาพปัญหา ความต้องการนนั้ ๆ แลว้ กำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ และ วางแผนการเรยี นรู้ของตนเองเพื่อนำไปสู่ การปฏิบัติ ตามแผนการจัดการเรียนรู้ของศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอแวงใหญ่ และวางแผนการจัดกิจกรรม เตรยี มแบบทดสอบก่อนเรียน เน้ือหา สือ่ การสอน แบบทดสอบหลังเรยี น เพือ่ วัดและประเมินผลและเตรยี มวสั ดอุ ุปกรณใ์ นการดำเนนิ โครงการ 2. ดำเนนิ การตามแผน ดำเนนิ งานตามแผนการจดั การเรยี นรู้ เพอื่ ใหน้ กั ล่มุ เปา้ หมายได้ศึกษา คน้ คว้า ที่หลากหลาย มีการสะท้อนความคิด ระดมความคิดเห็น อภิปราย วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล และสรุปเป็น ความรู้ และนำความรทู้ ่ไี ด้ไปประยกุ ตใ์ ช้ให้สอดคล้องกบั สถานการณ์ทีเ่ หมาะสมกบั สังคม และวัฒนธรรม

๖๙ 3. ตรวจสอบการดำเนินงานตามแผน ประเมินผลการเรียนรู้ โดยให้มีการประเมิน ทบทวนแก้ไข ข้อบกพร่อง และตรวจสอบ ผลการเรียนรู้ให้บรรลุตามเป้าหมายการเรียนรู้ที่วางไว้ โดยการสังเกต ตรวจ แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรียน การประเมินความพึงพอใจ และการบนั ทึกกจิ กรรมการเรยี นรู้ 4. ปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ได้นำปัญหาที่พบระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมา ปรับปรุง แก้ไข พัฒนาสื่อการการเรียนการสอนให้หลากหลาย ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา และต่อยอดในรายวิชา อนื่ ๆตอ่ ไป รวมทงั้ มกี ารทำวจิ ยั ในชัน้ เรยี นเพ่อื แก้ไขปัญหาการเรยี น 5. รายงานผล จัดทำรายงานผลการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เสนอต่อผู้บังคับบัญชาเป็นราย สัปดาห์ ตามแบบบันทึกหลังการสอน พร้อมข้อเสนอแนะและข้อควรพัฒนาในการจัดกิจกรรมครั้งต่อไป ใน รูปแบบบันทึกข้อความรายงานผลการปฏิบัติงาน การรายงานผ่านเว็บไซต์ของ กศน.ตำบล แฟนเพจ กศน. ตำบล และเอกสารจดหมายขา่ ว กศน.ตำบลโนนสะอาด ผลงานมปี ระโยชน์ตอ่ หน่วยงานและสถานศึกษารวมทง้ั มกี ารขยายผล 1. มีผลการนำไปใช้ตามภารกิจหลักสูตรหรือกิจกรรม มีการนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากภูมิปัญญา ชาวบ้านในชมุ ชน ภมู ิปญั ญาท้องถ่ิน มาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยให้ประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้ จากวทิ ยากร/อินเตอรเ์ น็ตทำให้เกิดกระบวนการคิดที่สร้างสรรค์ สามารถปรบั ใช้ทำรวดลายของตะกร้าออกมา อย่างสวยงามและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ผู้เรียนเกิดองค์ความรู้จากกระบวนเรียนรู้ที่ครูและ วิทยากรได้สอนการศึกษาค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ตและวิทยากร คือนางระเบียบ ศรีวรรณ์ นักศึกษาระดับ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ไดน้ ำความรทู้ เี่ รียนรูจ้ ากภมู ิปัญญาชาวบ้านเร่ืองการทอผ้าฝ้ายย้อมสธี รรมชาติมาขยาย ผลในกลุ่มอาชพี อีกกลุม่ หนึ่งบา้ นโนนสะอาด หมู่ที่ ๑ ตำบลโนนสะอาด อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น โดย เกิดแนวคิดจากการต่อยอดอาชีพที่กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ หมู่ที่ ๘ ตำบลโนนสะอาด อำเภอแวงใหญ่ จังหวัด ขอนแก่น แล้วต่อยอดองค์ความรู้เดิมเป็นกาทอผ้าฝ้ายย้อมสธี รรมชาติ โดยสามารถจำหน่ายได้เดือนละ 2,000 บาท คิดเป็นรายไดเ้ สรมิ ใหก้ ับครอบครัวได้ 2. มีความพึงพอใจของผู้รับบริการ จากการนำแผนการจัดการเรียนการแบบบูรณาการร่วมกับ เครือข่ายในชมุ ชน จากแบบประเมินความพึงพอใจของผูร้ ับบริการปรากฏว่าอยู่ในระดบั ดีมาก 3. มกี ารขยายผล ระดบั กล่มุ ยอ่ ยไปในหมบู่ า้ นชุมชนและไดร้ ับเชญิ ไปเปน็ วิทยากรสอนในต่างตำบล

๗๐ คณะผจู้ ดั ทำ 1. นางยพุ ิน อาษานอก ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอแวงใหญ่ 2. นางสาวพนิดา โคตา ครผู ู้ชว่ ย 3. นางสาวเมธินี คำดี ครูผู้ช่วย 4. นางเกวรินทร์ ไชยรถ บรรณารักษ์ปฏบิ ัตกิ าร 5. นายเสฎฐวุฒิ กุพลงั ครอู าสาสมคั ร กศน. 6. นางสาวกัณฑมิ ล ทานา ครู กศน.ตำบล 7. นางอรนชุ ดำแกว้ ครู กศน.ตำบล 8. นางสาวรจุ ิรตั น์ ทานา ครู กศน.ตำบล 9. นายภรี ะพทั ธ์ิ อายินดี ครู กศน.ตำบล 10. นางสาวรัชนี หงสแ์ ดง ครู กศน.ตำบล 11. นายจักรพงษภ์ ูวณัฐ ลมดา ครู กศน.ตำบล 12. นางสาวสุจิตรา โพธศ์ิ รี ครู กศน.ตำบล 13. นางสาวพิศมยั วงษช์ ารี บรรณารักษ์ 14. นายมนูญ ตน้ กันยา ครู ศรช. 15. นางสาวสุนิษา ชาลพี รม ครู ศรช. 16. นางสาวสายเพ็ญ อามาตสมบตั ิ ครู ศรช. 17. นางสาวสุพตั รา ชาวเหนือ ครู ศรช. 18. นางสาวปิยดา พลมิตร ครู ศรช. 19. นายเตชทตั เสนารักษ์ ครู ศรช. 20. นายศริ ศิ กั ด์ิ สว่างตา ครู ศรช. ผู้เรียบเรียง ครู กศน.ตำบล 1. นางสาวรุจิรัตน์ ทานา จัดทำรูปเล่ม ครู กศน.ตำบล 1. นางสาวรุจริ ตั น์ ทานา