Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 3

บทที่ 3

Published by ajtomsarachat20, 2020-04-30 04:32:03

Description: บทที่ 3

Search

Read the Text Version

บทท่ี 3 พวงมาลยั กำลัง (Porwer Steering Wheel) ประเภทของพวงมาลัยกำลงั พวงมาลยั กำลงั (Porwer Steering Wheel) หรือพวงมาลัยเพาเวอร์ เป็นพวงมาลัยที่ตดิ ต้งั อปุ กรณ์ ทชี่ ่วย ในการบังคบั เลยี้ ว เพื่อให้การหมนุ พวงมาลยั น้อยลง หลักการของพวงมาลยั กำลังกค็ อื การจัดการ อปุ กรณ์เพม่ิ กำลัง (Boossure) อุปกรณ์เพิ่มกำลังหนั เลีย้ วรถตามความตอ้ งการ กำลังที่ใช้ได้มาจากแรงดัน นำ้ มนั (Hydraulic Pressure) อุปกรณท์ ี่ช่วยในการบงั คับเลย้ี วภายในระบบมี 2 ระบบ คือ -ใชเ้ คร่อื งยนตค์ วบคมุ การทำงานของปม๊ั น้ำมนั ไฮดรอลิก -ใชม้ อเตอร์ไฟฟา้ ควบคุมการทำงานของป๊มั น้ำมนั การทำงานจะอาศยั แรงดันจากน้ำมนั ไฮดรอลิกมากระทำต่อลูกสูบที่อยภู่ ายในกระบอกสูบกำลังจึงทำให้ เฟืองขบั ในกระปกุ พวงมาลัยได้รับแรงดันไฮดรอลิกไปขบั ฟนั เฟืองสะพาน แรงขับเคล่ือนขน้ึ อยู่กบั แรงดนั ไฮดรอลิก ทก่ี ระทำต่อลกู สูบ พวงมาลัยกำลังแบ่งออกได้เปน็ 2 แบบ 1.แบบรวมชุด (Integral Type) เป็นพวงมาลยั กำลงั ที่มชี ดุ ลิน้ ควบคมุ ลกู สูบกำลงั ประกอบอยู่ภายใน เรือนพวงมาลัย เฟอื งเกยี ร์ท่ีใชใ้ นการกระปุกพวงมาลัยจะเปน็ แบบลูกปนื หมุนวน ส่วนลิน้ ควบคุมน้ำมนั ไฮดรอลกิ จะเปน็ แบบโรตารี และแบบแฟลปเปอรเ์ ปน็ ส่วนใหญ่

2.แบบเฟอื งขับและเฟอื งสะพาน (Rack and Pinion Power Steering Wheel) พวงมาลัยกำลงั ที่มี ลนิ้ ควบคุมจะถกู ตดิ ตั้งอยูภ่ ายในพวงมาลยั ลนิ้ ควบคมุ ที่ใชค้ วบคมุ นำ้ มนั ไฮดรอลิกนั้นจะเปน็ แบบโรตารี และแบบ สพูล (Spool Valve) พวงมาลัยกำลังแบบเฟืองขับและเฟอื งสะพานก็จะมกี ลไกลทีเ่ หมอื นกันกบั แบบรวมชดุ โครงสรา้ งของพวงมาลยั กำลัง พวงมาลัยกำลังหรอื พวงมาลัยเพาเวอร์ประกอบดว้ ยส่วนประกอบทีส่ ำคัญดังน้ี 1.ป๊ัมน้ำมันไฮดรอลกิ ปั๊มนำ้ มนั เปน็ กลไลของระบบไฮดรอลิกทต่ี อ้ งการแรงดนั ในการใชง้ านท่ี สูงมาก ปั๊มนำ้ มันไฮดรอลกิ ทน่ี ำมาใช้กับพวงมาลัยเพาเวอรม์ ีอยูห่ ลายแบบ คอื 1.1 ปั๊มนำ้ มันไฮดรอลิกแบบเวน (Vane Type) ปั๊มน้ำมนั แบบนจี้ ะถกู ขบั ใหห้ มุนโดย พูลเลย์เพลาข้อเหวยี่ งของเครอ่ื งยนตห์ รอื มอเตอรไ์ ฟฟ้า ปรมิ าณนำ้ มันแบบทถ่ี กู จ่ายภายใตแ้ รงดนั ไปยงั กระปุก พวงมาลัยจะเปน็ สดั ส่วนกบั รอบของเครื่องยนต์ แตป่ รมิ าณนำ้ มนั ไฮดรอลิกทส่ี ่งไปยงั กระปกุ จะถกู ควบคุมการ แรงดนั โดยลิน้ การไหลของนำ้ มัน การทำงาน โรเตอรม์ ีลักษณะกลมจะยดึ ติดกับเรอื นปมั๊ นำ้ มันและจะหมุนอยู่ภายในเสื้อป๊ัมรูปวงแหวน ลกู เบยี้ ว โดยท่ใี บพดั จะสอดอยใู่ นรา่ งของโรเตอร์ พน้ื ทผี่ วิ ภายในเสือ้ ปัม๊ รูปวงแหวนลูกเบีย้ วที่มีลักษณะ เป็นวงรี จึงทำให้มี ระยะชอ่ งว่างระหวา่ งโรเตอรก์ บั เส้อื ปมั๊ แผ่นใบพัดทีส่ อดอยู่ภายในรอ่ งของโรเตอร์ จะทำหนา้ ทป่ี ดิ ก้ันระยะช่องวา่ ง และรีดน้ำมนั ทีเ่ ขา้ มาภายในหอ้ งปั๊ม · - ภายในห้องปัม๊ มชี อ่ งดูดและช่องจ่ายนำ้ มนั อยา่ งละ 2 ช่อง เพอื่ ดดู น้ำมันเขา้ และจา่ ยนำ้ มนั ออก 2 ครงั้ ต่อการ

หมุนของโรเตอร์ 1 รอบ 1.2 ป๊มั น้ำมนั ไฮดรอลกิ แบบสลิปเปอร์ (Slipper Type) ปมั๊ แบบน้ีจะมหี ลกั การทำงานที่คล้าย คลงึ กบั ปั๊มแบบเวน เสอ้ื ปม๊ั มีลกั ษณะกลม ใบกวาดน้ำมันจะมสี ปรงิ ดนั ให้ผิวสมั ผัสกบั ผนังดา้ นในของ ห้องปัม๊ อยู่ ตลอดเวลา นำ้ มนั ไฮดรอลกิ จากถงั เก็บนำ้ มันจะไหลเขา้ ทางช่องดดู ขณะท่เี กิดช่องว่างข้ึนภาย ในหอ้ งปั๊ม เม่ือโรเต อรห์ มนุ ตอ่ ไป ชอ่ งว่างจะเรมิ่ แคบลงดันให้น้ำมันถกู รีดออกทางช่องจ่ายนำ้ มนั 1.3 ป๊ัมน้ำมนั ไฮดรอลกิ แบบโรลเลอร์ (Roller Type) ป๊ัมแบบนโี้ รเตอร์จะหมุนกลิง้ เคลือ่ นท่ีไป ตามโรลเลอร์ เมอ่ื เกิดแรงเหวย่ี งโรลเลอร์จะถูกเหวีย่ งใหส้ มั ผัสกบั ผนังเรือนปมั๊ อยตู่ ลอดเวลาเนื่องจากเส้ือ ปั๊มแบบ โรลเลอรม์ ีรปู รา่ งเยื้องศูนย์ ดงั น้ันเม่อื โรเตอรห์ มนุ เคลอ่ื นที่จะเกิดชอ่ งแคบอดั นำ้ มันเกดิ แรงดนั สงู ขน้ึ จา่ ยออกทาง ชอ่ งจา่ ยนำ้ มนั 2. ลิน้ ควบคุมปริมาณการไหลของน้ำมนั และล้ินสพลู ปริมาณน้ำมันทจี่ า่ ยออกของปั๊มจะเพ่ิมข้นึ เปน็ สัดสว่ นโดยตรงกับความเร็วรอบของเครอ่ื งยนต์ กำลังทใ่ี ช้ในการบังคับเลย้ี วจะถกู กำหนดจากปรมิ าณน้ำมนั ท่ีจ่าย ออกจากปม๊ั ไปกระทำตอ่ ลูกสูบกำลังเมอื่ ปม๊ั มีรอบการทำงานเพิ่มขนึ้ ปริมาณนำ้ มันที่จ่ายออกมาจะชว่ ย ในการ บังคับเล้ยี ว ทำให้แรงทใี่ ช้ในการหมนุ พวงมาลยั ลดลง เพือ่ เปน็ การรักษาปริมาณการไหลของนำ้ มัน ใหค้ งทโี่ ดยไม่ คำนึงถงึ รอบการหมุนของปั๊ม เมื่อรถวิง่ ด้วยความเร็วสูง คา่ ความฝดื ของหนา้ ยางจะลดลง แรงท่ีใชใ้ นการหมนุ พวงมาลยั จะลดน้อยลง เชน่ กนั ปรมิ าณการไหลของนำ้ มันจากป๊มั ท่ีไปกระทำภายในกระปกุ พวงมาลยั จะลดลงขณะท่ีขบั ข่ดี ้วย ความเร็ว ทำให้แรงท่ใี ช้ในการบังคับเลย้ี วของรถที่ใชพ้ วงมาลยั เพาเวอร์ลดลง 3. ล้นิ ระบายแรงด้น (Relief Valve) จะตดิ ตง้ั อยู่ภายในล้ินควบคุมปริมาณการไหลของน้ำมนั เมอื่ แรงดนั น้ำมันสูงกว่า 80 กโิ ลกรัม/ตารางเซนติเมตร (หรือ 1,138 ปอนด์/ตารางน้ิว) ลิ้นระบายแรงดนั จะถูกเปดิ เพอื่ ให้ แรงดันน้ำมนั ลดลง เม่อื แรงดนั นำ้ มันลดลง ล้ินควบคุมปรมิ ารการไหลของน้ำมันจะเคล่ือนตวั ไปทาง ด้านซ้าย และ ควบคุมแรงดนั สูงสุด 4.กระปุกพวงมาลัยเพาเวอร์ (Power Steering Box) ภายในกระปกุ พวงมาลยั แระกอบด้วย ลกู สูบที่อย่ใู น กระบอกสบู กำลงั ติดตงั้ อยู่กบั เฟืองสะพาน เฟืองสะพานจะเคลอ่ื นท่ไี ปดว้ ยแรงดนั นำ้ มนั จากปมั๊ ทผี่ ลักดัน ใหไ้ ป ทิศทางทต่ี ้องการ ซีลวงแหวนทีอ่ ยู่บนลกู สบู จะทำหน้าทีป่ อ้ งกันการร่วั ของแรงดัน และทีป่ ลายสดุ ของ การะบอก สบู จะมีซีลปอ้ งการรั่วของนำ้ มันภายนอกอีกชนั้ หนึ่ง เพลาลิ้นควบคุมจะอยู่กับพวงมาลัยด้วยสลกั ยดึ เมื่อหมุนพวงมาลยั ให้อย่ใู นตำแหนง่ ก่ึงกลาง จึงทำให้ นำ้ มนั จากปมั๊ ไม่เกิดแรงดันขึ้นภายในห้องน้ำมนั แตจ่ ะไหลกลบั ไปยงั ถังเก็บน้ำมนั เมือ่ หมนุ พวงมาลัยไปในตำแหน่ง หน่งึ ตำแหนง่ ตำแหนง่ ใด ลน้ิ ควบคุมจะเปลีย่ นชอ่ งทางนำ้ มนั ทำให้น้ำมนั ไหลผา่ นไปยังหอ้ งน้ำมันอกี ห้องหนึ่ง โดย นำ้ มนั ท่อี ยหู่ ้องตรงกันข้ามจะถกู ผลกั ดันผา่ นลนิ้ ควบคมุ ไปยงั ถงั เก็บนำ้ มนั

5.ล้นิ ควบคุม(Control Valve) ภายในกระปุกพวงมาลยั จะทำหนา้ ท่ีควบคุมทิศทางและปรมิ าณการ ไหลของน้ำมนั ไฮดรอลกิ ที่ถูกส่งมาจากป๊ัมนำ้ มัน เพลาลิ้นควบคุมทไ่ี ดร้ บั แรงบิดจากการหมนุ พวงมาลยั และเฟอื ง ขับจะต่อกนั ด้วยทอร์ชนั บาร์ ลน้ิ ควบคุมท่ีใช้ในการกระปกุ พวงมาลัย เพาเวอรใ์ นปจั จบุ นั มี 3 แบบ 5.1 ล้ินความคมุ แบบโรลตารี(Rotary Valve) ล้นิ โรตารจี ะถกู ยึดติดอยู่กบั เฟืองขับดว้ ยสลักลอ็ กเพราะ ลน้ิ ควบคุมกบั ลน้ิ โรตารีหมุนเคล่ือนท่ีเป็นหนว่ ยเดยี วกนั กบั เฟอื งขับ ตัวเรือนของลิ้นดา้ นนอกจะมซี ลี ปอ้ งกัน การร่วั ของน้ำมนั ระหวา่ งช่องทางเดนิ ของน้ำมันในแต่ละชอ่ ง โดยทซี่ ีลทงั้ สี่ตัวจะกดสัมผสั กบั ผวิ ดา้ นในของ เรอื นลิน้ ควบคมุ เพื่อให้น้ำมนั ไฮดรอลิกไหลผ่านเขา้ ออกรูนำ้ มนั ทต่ี ัวเรือนลน้ิ โรตารี (Rotary Housing) เมอื่ หมนุ พวงมาลยั ใหเ้ ลี้ยวขวาหรือซ้ายจะทำใหเ้ พลาลน้ิ ควบคมุ หมนุ บงั คบั ให้เฟืองขับหมนุ ตาม โดยสง่ แรงผา่ นไปยงั ทอรช์ นั บาร์ทีบ่ ิดไปตามสัดสว่ นความฝืด เพลาล้นิ ควบคุมจะถูกกำหนดการเปดิ -ปิดลน้ิ ให้มี ความสัมพันธ์กบั การจ่ายนำ้ มันของโรตารที ำใหแ้ รงดันน้ำมนั ภายในหอ้ งลกู สบู ด้านซา้ ยและขวามีแรง ดนั ทีเ่ พิม่ ขน้ึ แตกตา่ งกนั 5.2 ลนิ้ ควบคมุ แบบสพูล (Spool Valve Type) ลน้ิ ควบคุมแบบสพูลจะติดตัง้ อยูภ่ ายในปลอกลนิ้ และจะมีร่องและทางเดนิ นำ้ มันซงึ่ อยู่ทางตอนลา่ งของตัวล้นิ ควบคุม จะตอ่ การทำงานกับเพลาลนิ้ ควบคมุ โดยมี ลกู ปืนกลมจำนวน 2 ตัว หมุนเคลือ่ นทไ่ี ปในทิศทางเดียวกับเฟืองขับ ทำให้ระยะเคลือ่ นตัวขน้ึ ลงได้ ประมาณ 1 มิลลเิ มตร ส่วนปลอกลน้ิ ควบคมุ จะติดตัง้ ระหวา่ งเรอื นกระปกุ พวงมาลยั และลิน้ ควบคุมท่ยี ึดติดกบั เฟืองขับ โดยมี แผ่นเล่อื นปลอกลิ้นและแหวนลอ็ ก ทำใหไ้ มส่ ามารถเลื่อนขน้ึ ลงไดเ้ มอ่ื หมุนพวงมาลัยจะทำให้ เฟืองขบั หมุน เคลอ่ื นทีไ่ ปตามเพลาล้ินควบคุม ทอร์ชันบาร์จะเกิดการบัดตวั ขึน้ ลงตามการเคลอ่ื นตวั ของ ลูกปนื ทอ่ี ย่ภู ายในรอ่ ง เกลียว 5.3 ลิน้ ควบคมุ แบบแฟลปเปอร์ (Flapper Valve Type) ลนิ้ ควบคุมแบบนจี้ ะถกู ประกอบให้รวมเป็น หนว่ ยเดียวกันกับเพลาทอร์ชนั บาร์ โดยทีล่ น้ิ แฟลปเปอรต์ วั แรกและตัวที่สอง จะถกู แรงดันนำ้ มนั มากระทำ กกกบั ล้นิ ควบคมุ แรงดันให้น้ำมนั ไหลจ่ายไปตามวงจร ทั้งนีข้ ึน้ อยู่กบั การหมนุ ของพวงมาลัย เมอื่ หมุนพวงมาลัยไปในตำแหน่งใด แรงดนั น้ำมันไฮดรอลิกภายในระบบจะเพิม่ สงู และเกิด แรงผลักดนั ลูกสูบเคลื่อนตวั ไปทศิ ทางตรงกันข้าม เมอื่ มแี รงดนั นำ้ มนั มาดนั เพบาตัวหนอนเพม่ิ ขน้ึ จะปิดช่อง ทางน้ำมันจงึ ทำให้ แรงดนั น้ำมันมีเพม่ิ มากข้ึน 6.อุปกรณเ์ พ่ิมรอบเดนิ เบา (Idle-up Device) เมือ่ หมนุ พวงมาลยั เต็มท่ี ป๊ัมจะสรา้ งแรงดนั นำ้ มนั เพมิ่ มากขน้ึ เปน็ ผลใหป้ มั๊ ต้องรับโหลดมากข้นึ ความเรว็ รอบเดินเบาของเครอ่ื งยนตต์ กลง รถยนตส์ ่วนมากที่ ใช้ พวงมาลัยเพาเวอรจ์ งึ ต้องมีอุปกรณเ์ พิ่มรอบเดนิ เบาให้กับเครอ่ื งยนตอ์ ปุ กรณ์เพ่ิมรอบเดนิ เบาจะมีลนิ้ ควบ คมุ อากาศตดิ ตัง้ ทีเ่ รอื นปม๊ั

เม่ือมีแรงดนั นำ้ มนั มากระทำกบั ลูกสูบของลิ้น ทำใหล้ น้ิ อากาศเปิดให้ปริมาณอากาศจากภายนอก ไหลผ่านช่องอากาศใตล้ น้ิ เร่งทำใหค้ วามเร็วรอบของเคร่ืองยนตเ์ พมิ่ ขึ้น การตรวจสอบพวงมาลยั กำลงั เปน็ การตรวจสอบสภาพการทำงานของปมั๊ ความดงึ ของสายพานขับปัม๊ การไลอ่ ากาศภายในระบบ ไฮด รอลิก มีขั้นตอนดังนี้ 1.การตรวจสอบความตงึ ของสายพานป๊ัมนำ้ มนั ไฮดรอลิก ใช้เกจวัดความตงึ ของสายพานคา่ ความตึง ควร อยปู่ ระมาณ 40.5 ถงึ 60.8 กโิ ลกรัม 2.วัดความตงึ ของสายพานด้วยการใชม้ อื กด ค่าความตึงควรอยูป่ ระมาณ 5 ถงึ 6 มิลลิเมตร การตรวจสอบระดับน้ำมนั ไฮดรอลิก ทบ่ี รรจอุ ย่ภู ายในถังเก็บน้ำมนั มีข้ันตอนดงั น้ี 1.ตรวจสอบรถใหอ้ ยู่ในระดับแนวตรง อุน่ อุณหภูมนิ ำ้ มนั ไฮดรอลิกด้วยการตดิ เครื่องยนต์ ทร่ี อบเดนิ เบา ประมาณ 1,000 รอบ/นาที 2.หมุนพวงมาลยั ไปทางขวาหรือซา้ ยจนสุดหลายๆ คร้ัง เพอ่ื ให้น้ำมันไฮดรอลิกมีอณุ หภมู ไิ มน่ อ้ ย กวา่ 80 องศาเซลเซยี ส 3.สังเกตดฟู องอากาศที่ผสมกบั นำ้ มันไฮดรอลกิ ถ้ามฟี องอากาศเกดิ ขนึ้ ภายในระบบหรือระดบั นำ้ มนั ภายในถงั เก็บน้ำมันมีระดบั ที่ตำ่ ควรเติมน้ำมันไฮดรอลกิ ภายในถงั เก็บน้ำมัน และให้ได้ระดบั มาตรฐาน ขอ้ ควรจำ ระดบั นำ้ มันไฮดรอลิกควรอยใู่ นระดับของกา้ นวดั ในขณะอุณหภมู ิสูง และถา้ ระดับนำ้ มันในขณะ ท่ี อุณหภมู ิตำ่ ควรอยู่ทข่ี ีด “COLD LEVEL” การไลอ่ ากาศภายในระบบของพวงมาลัยกำลงั มลี ำดบั ขั้นตอนดงั นี้ 1.ตรวจระดับนำ้ มนั ภายในถังเกบ็ นำ้ มัน ระดบั นำ้ มนั จะต้องอยู่ที่ขีด “HOT LEVEL” ของก้านวัด ในขณะ อณุ หภูมติ ำ่ 2.ตดิ เครื่องยนต์เดินเบาท่ี 1,000 รอบต่อนาที หมุนพวงมาลยั จากซา้ ยสดุ ไปยังขวาสุดกระทำติดตอ่ กนั 3 ถงึ 4 ครงั้ 3.ตรวจระดับน้ำมันภายในถงั เกบ็ น้ำมนั จะต้องไมม่ ีฟองอากาศหรือไม่ขนุ่ มัว และระดับน้ำมัน จะตอ้ งไม่ สูงกวา่ ระดบั สงู สุดในขณะที่ดับเครือ่ งแลว้ คอื จะต้องไมเ่ กนิ จากระดับสงู สุด 5 มิลลิเมตร

การถอดและประกอบป๊มั น้ำมนั ไฮดรอลกิ พวงมาลยั กำลัง การถอดและประกอบป๊ัมนำ้ มนั ไฮดรอลิกพวงมาลยั กำลังมขี ้นั ตอนการปฏิบตั ดิ ังน้ี 1.ติดตง้ั ปม๊ั นำ้ มันพวงมาลัยกำลงั เข้ากับปากกาจับชนิ้ งานและใช้ประแจถอดนอตยดึ พลูเลยข์ บั ปัม๊ และถอด พูลเลยข์ บั ปัม๊ ออกแลว้ จึงถอดลิน้ ควบคุมอากาศออก 2.ถอดถงั เกบ็ น้ำมัน ขายดึ และโอ-ริง แล้วถอดโปลตข์ ้อต่อและปะเก็นของล้ินควบคมุ ปรมิ าณการ ไหล นำ้ มนั 3.ถอดลิน้ ควบคุมปริมาณการไหลของน้ำมนั และสปริงออก ใช้ไขควงสองตัวถอดแหวนล็อก เรอื นปัม๊ และ ถอดเรอื นปมั๊ ด้านหลัง 4.ใช้คอ้ นพลาสติกตอกเพลาตอกเรอื นปั๊มด้านหลังพร้อมแหวนตัวหนอน แหวนโอ-รงิ ออกจาก เรือนปัม๊ 5.ใช้คอ้ นพลาสตกิ ตอกเพลาแผ่นปดิ ด้านหลงั ปั๊ม ถอดเพลาขับปั๊ม วงแหวนลูกเบีย้ วแผ่นใบพัด ออกจาก เรือนป๊ัมดา้ นหน้า 6.ใชไ้ ขควงถอดแหวนลอ็ กและถอดโรเตอร์และแผ่นปดิ ดา้ นหนา้ และใชเ้ คร่อื งมือตอกสลักออก จากแผ่น ปิดด้านหลงั การตรวจสอบปม๊ั น้ำมนั ไฮดรอลกิ พวงมาลยั กำลงั การตรวจสอบชิน้ สว่ นต่างๆ ของป๊มั น้ำมนั ไฮดรอลิก ทำให้ สามารถวิเคราะหส์ ภาพการทำงานของปัม๊ ไดอ้ ย่างถูกต้อง เพ่ือทจ่ี ะทำการซ่อมหรอื เปลย่ี น มขี น้ั ตอนดังน้ี 1.ใช้ไมโครมิเตอรแ์ ละคาลเิ ปอร์วัดชอ่ งว่างน้ำมนั ระหวา่ งเพลาโรเตอร์และบุชที่เรือนปั๊มคา่ ช่องวา่ งน้ำมัน มาตรฐานจะอยู่ท่ีประมาณ 0.01 ถงึ 0.03 มลิ ลิเมตร ค่าช่องวา่ งสูงสุด 0.07 มิลลเิ มตร

2.ใชไ้ มโครมิเตอรว์ ัดความยาวและความหนาของแผน่ ใบพัดและใช้ฟลิ เลอร์เกจวดั ระยะชอ่ งว่างของ โร เตอร์กบั แผ่นใบพัด ค่าชอ่ งว่างควรมีค่าประมาณ 0.028 มิลลิเมตร 3.ตรวจสอบล้นิ ควบคมุ ปรมิ าณการไหลของน้ำมนั โดยการชโลมน้ำมันไฮดรอลกิ ท่ลี นิ้ และตรวจความ คลอ่ งตัวของลน้ิ ภายในชอ่ งลิ้นภายในลนิ้ ด้วยน้ำหนักของตวั ล้นิ 4.ตรวจการรว่ั ของลิน้ ควบคมุ ปริมาณการไหลของน้ำมันดว้ ยการปิดชอ่ งทางผา่ นด้านหนึ่งและอดั อากาศที่ มีแรงดนั ประมาณ 4 ถงึ 5 กโิ ลกรัมต่อตารางเซนติเมตรเขา้ ในด้านตรงขา้ ม และตรวจดูว่าอากาศจะต้อง ไมร่ ่วั ออก ทางรดู า้ นท้าย ขอ้ ควรจำ ถา้ จำเป็นต้องมกี ารเปลี่ยนลนิ้ ควบคุม จะต้องเปล่ียนใหต้ รงกบั ตัวอักษรท่เี รือนปมั๊ และวัดความยาว ของ สปริงในขณะเปน็ อสิ ระ การประกอบปมั๊ น้ำมันไฮดรอลกิ พวงมาลยั กำลงั ให้กระทำยอ้ นกลบั ตามลำดับ การถอดดังนี้ 1.ชโลมน้ำมันไฮดรอลิกหลอ่ ล่ืนชิน้ ส่วนของปั๊มน้ำมนั กอ่ นประกอบ 2.ประกอบสลกั ตัวสัน้ ท่ีแผน่ ด้านหนา้ และแหวนโอ-รงิ และแผ่นปิดดา้ นหนา้ เขา้ กับเพลาป๊ัม 3.ประกอบชดุ โรเตอร์เข้ากบั เพลาโรเตอร์และลอ็ กด้วยแหวนล็อกและประกอบสลักตัวยาวเข้ากับ เรือนป๊มั หนา้ 4.จดั ช่องของแผ่นดา้ นหนา้ เข้ากบั สลัก ใช้ค้อนพลาสตกิ ตอกเพลาปั๊มเขา้ กบั เรือนปม๊ั ด้านหน้า 5.จัดชอ่ งของแหวนลูกเบย้ี วให้ตรงกบั สลกั สอดวงแหวนให้เครอ่ื งหมายในการประกอบออก ด้านหนา้ 6.ประกอบแผ่นใบพดั ให้ส่วนโคง้ ของใบพดั อยู่ด้านนอกและจดั รขู องแผน่ ปดิ ดา้ นหลังให้ตรงกบั สลักและ ประกอบแผน่ ปดิ ด้านหลัง 7.ประกอบแหวนตวั หนอน โอ-รงิ เข้ากบั เรอื นป๊ัม และใชค้ อ้ นพลาสติกตอกเสือ้ ด้านหลังปม๊ั เขา้ กับ เรอื น ปั๊มและล็อกดว้ ยแหวนล็อก 8.ตรวจการหมนุ ของเพลาและประกอบนอตยึดพูลเลยเ์ พอ่ื ตรวจค่าฟรีโหลดของเพลาขณะหมุน 9.ประกอบสปริงและลนิ้ ควบคุมเข้ากบั เรือนป๊ัม ประกอบล้นิ ควบคุมเขา้ กบั เรอื นป๊มั ประกอบลน้ิ ควบคมุ อากาศ ลิม่ เพลาปัม๊ พูลเพลาปม๊ั พูลเลย์ขบั ป๊ัม และนอตยดึ เพลา การถอดและประกอบกระปกุ พวงมาลัยกำลัง การถอดแยกช้นิ สว่ นของกระปุกพวงมาลัยกำลัง มีลำดับขั้นตอนดงั น้ี 1.ยึดกระปกุ พวงมาลยั ดว้ ยปากกาจับชนิ้ งานและใชป้ ระแจถอดทอ่ นำ้ มันไหลกลับดา้ นซ้ายและดา้ น ขวา 2.ถอดคนั สง่ โดยการคลายนอตลอ็ ก และทำเคร่ืองหมายทคี่ ันสง่ และขอ้ ต่อคนั ส่ง 3.ถอดยางกันฝุ่นออกโดยใช้ไขควงงัดคลิปและปลอกรดั ยางกันฝุน่ 4.ถอดข้อต่อคนั สง่ โดยการตอกรอยพบั ของแหวนเฟืองสะพาน 5.ใชเ้ ครือ่ งมอื ถอนข้อต่อคนั ส่งโดยทำเคร่อื งหมายทงั้ ด้านซ้ายและดา้ นขวาของข้อต่อคนั สง่

6.ถอดนอตล็อกตวั ครอบสปรงิ และสปรงิ บังคับเฟืองสะพาน 7.ถอดฝาครอบเรอื นเฟืองสะพานออกแล้วถอดนอตล็อกตวั ในและลูกปนื ตวั ลา่ ง 8.ทำเครือ่ งหมายที่เรือนลนิ้ ควบคุมและเรือนเฟืองสะพาน ถอดโบลต์ยึดท้งั สองตวั และดงึ ล้นิ ควบคุม 9.ใช้คอนพลาสติกตอกล้นิ ควบคุมพรอ้ มซลี น้ำมนั ออกจากเรอื นกระปุกเกียร์ แล้วใชเ้ ครอ่ื งมอื ถอดตัว กนั ปลายกระบอกสูบออก 10.ถอดบุชเฟอื งสะพานและเฟืองสะพานออกจากเรอื นพวงมาลยั และถอดซลี นำ้ มนั และปลอกรอง การตรวจสอบชิ้นส่วนนของกระปกุ พวงมาลัยกำลัง ภายหลังจากถอดชิ้นส่วนของกระปุกพวงมาลัยกำลังแล้ว ควรทำการตรวจสอบความเสยี หายของชิ้นสว่ นนน้ั ๆ ด้วยเครอ่ื งมอื วดั ละเอียดตามลำดับข้ันตอน โดยใช้ ไดอลั เกจ วัดการคดงอ การสกึ หรอ และความเสยี หายของฟนั เฟือง ใชไ้ มโครมเิ ตอรแ์ ละไซลนิ เกจวัดช่อง ว่างนำ้ มนั ของเพลา ควบคมุ และบุช การเปลยี่ นชน้ิ สว่ นของกระปุกพวงมาลัยกำลงั แบบเฟอื งสะพานขบั การเปลี่ยนช้ินส่วนมีลดบั ข้ันตอนดังน้ี 1.ใชค้ มี ถอดแหวนสปรงิ และแหวนล็อกออก ใชไ้ ขควงงดั ซลี น้ำมันออก ระวงั อย่าใหเ้ กิดความ เสยี หายกบั เรือนลนิ้ ควบคมุ 2.อัดลูกปนื ตวั บนออกและเปล่ียนตวั ใหม่เข้าแทนและใชค้ ้อนพลาสติกประกอบซีลตัวใหม่ และควร หล่อ ล่นื ดว้ นน้ำมนั ไฮดรอลกิ 3.อัดลกู ปืนล่างและตัวกลางออกและเปลยี่ นตัวใหมเ่ ข้าแทนที่ 4.ใช้คอ้ นพลาสติกตอกซีลตวั ใหมเ่ ข้ากบั เรือนตัว 5.ใชไ้ ขควงงดั แหวนเทฟบอนและซีลโอ-ริง แลว้ ประกอบแหวนเทฟลอนเขา้ กับเครื่องมอื ขยาย ปากแหวน 6.ประกอบแหวนเทฟลอนทขี่ ยายตัวแล้วเข้ากับเฟืองสะพาน และกดลงรอ่ งดว้ ยมอื 7.หล่อล่นื แหวนเทฟลอนด้วยน้ำมนั ไฮดรอลิก ใชเ้ ครื่องมอื ครอบเข้าท่ีวงแหวนเทฟหลอนให้เข้าที่ 8.ประกอบแหวนเทฟลอนทขี่ ยายตวั ออกแลว้ เข้ากบั ลน้ิ ควบคมุ และกดลงด้วยนวิ้ มือเลอ่ื นแหวนให้ เข้าท่ี การประกอบชุดกระปุกพวงมาลยั กำลัง ใหป้ ฏิบัตติ ามลำดับข้นั ตอนยอ้ นกลบั อย่างระมดั ระวงั โดยกอ่ นทำ การ ประกอบควรทจี่ ะหลอ่ ลื่นช้ินสว่ นต่างๆ ด้วยน้ำมันไฮดรอลิกหรือจาระบีมีขนั้ ตอนดงั นี้ 1.ใช้น้ำมันไฮดรอลิกชโลมแลว้ ใช้จาระบีกับชน้ิ ส่วนตา่ งๆ ของกระปกุ เกยี ร์ก่อนประกอบ 2.ใชค้ ้อนพลาสตกิ ประกอบซลี น้ำมันตวั ใหมแ่ ละปลอกรองเข้ากบั กระบอกสบู 3.สอดเฟืองสะพานเขา้ ในกระบอกสูบ และประกอบบชุ เฟืองสะพาน 4.ประกอบซีลนำ้ มันด้วยการกดลงในกระบอกสบู แล้วต้องไมท่ ำให้ซีลเอยี ง 5.ประกอบตัวกันปลายกระบอกสูบจนกระท่งั ช่องใส่เส้นลวดปรากฏ และเส้นลวดใหม่ เขา้ ชอ่ งน้ัน และ หมุนตัวกันปลายกระบอกสบู ไปนจนกระท่งั ไม่ปรากฏปลายเสน้ ลวดให้เห็น

6.ประกอบลน้ิ ควบคมุ เข้ากับเรอื นกระปุกพวงมาลยั หล่อล่นื ซีลตวั ใหม่และประกอบเขา้ ในตัวเรือน กระปุก พวงมาลยั 7.ประกอบลน้ิ ควบคุมโดยจัดตำแหน่งเครือ่ งหมายบนเรือนลน้ิ และเรือนเฟืองสะพานใหต้ รงกนั และ ขับ โบลต์ให้แนน่ 8.ใชป้ ระแจรบั คา่ ฟรีโหลดดว้ นการคลายฝาปดิ สปริงตวั เฟืองสะพานกลับไปที่คา่ 12 องศา และปรับ ค่า ความตึงของลกู ปนื จนกระทั่งได้ค่าท่ีกำหนด ประมาณ 9 ถึง 12 กโิ ลกรัม/เซนตเิ มตร 9.ประกอบนอตฝาประกับสปรงิ ตวั นำเฟอื งสะพาน และขับค่าแรงบดิ ตามทก่ี ำหนดประมาณ 400-500 กโิ ลเมตร/เซนติเมตร 10.ประกอบแหวนรองเฟอื งสะพานและลูกหมากปลายเฟอื งสะพาน ใช้คอ้ นตอกแท่งทองเหลอื เพ่ือ พับล็ อกแหวนลอ็ กเฟอื งสะพาน 11.ตรวจรรู ะบายแรงดันจะตอ้ งไมอ่ ุดตันแล้วจงึ ประกอบบชุ ยางกันฝนุ่ สายรดั และคลปิ ล็อกโดย ให้หาง ปลายคลิปล็อกหันออกดา้ นหน้า 12.ใช้ประแจประกอบลูกหมากคนั สง่ ให้เครื่องหมายตรงกนั จากน้นั ประกอบท่อนำ้ มนั ไหลกลับ ดา้ นขวา และดา้ นซ้าย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook