Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรท้องถิ่นผ้าทอไทลื้อ โรงเรียนบ้านทุ่งกล้วย

หลักสูตรท้องถิ่นผ้าทอไทลื้อ โรงเรียนบ้านทุ่งกล้วย

Published by Manow Sinarr, 2021-02-27 19:17:58

Description: หลักสูตรท้องถิ่นผ้าทอไทลื้อ โรงเรียนบ้านทุ่งกล้วย
จัดทำโดย นางสาวศศินา ผาลัย รหัสนิสิต 61105010090
คณะศึกษาศาสตร์ เอกการประถมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

Search

Read the Text Version

หลักสตู รท้องถ่ิน เรอื่ ง อนรุ ักษ์งานหัตถกรรมผ้าทอไทลอ้ื สำหรบั นักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ โรงเรยี นบา้ นทุง่ กล้วย สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาพะเยา เขต ๒ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

ก คำนำ หลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง อนุรักษ์งานหัตถกรรมผ้าทอไทลื้อ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เป็น หลักสูตรที่โรงเรียนบ้านทุ่งกล้วยได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับแนวการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติ การศกึ ษาแห่งชาติ พุทธศกั ราช ๒๕๔๒ แกไ้ ขเพม่ิ เติม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ พร้อมกฎกระทรวงทเี่ กยี่ วข้อง และ พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาภาคบงั คบั พ.ศ. ๒๕๔๕ ในการพัฒนาหลักสตู รทอ้ งถนิ่ เรอื่ ง อนุรกั ษง์ านหัตถกรรมผ้าทอ ไทลอื้ ซง่ึ เป็นภูมิปญั ญาท้องถ่นิ ของหมู่บา้ นทุ่งกลว้ ย อำเภอภซู าง จังหวัดพะเยา เพือ่ นำไปประยุกต์ใช้ประกอบการ เรียนการสอนของผู้เรียนให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยมุ่งให้ผู้เรียนได้มีความ ตระหนักถึงความสำคัญของภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงพัฒนาหลักสูตร เรื่อง อนุรักษ์งานหัตถกรรมผ้าทอไทลือ้ เพื่อสืบ สานภูมปิ ัญญาและวัฒนธรรมให้คงอยตู่ ลอดไป ผู้จัดทำหลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง อนุรักษ์งานหัตถกรรมผ้าทอไทลื้อ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หวงั วา่ จะเป็นประโยชน์ให้กบั ผทู้ ่มี ีความสนใจ และขอขอบพระคุณ ผศ.ดร. กติ ติชยั สุธาสิโนบล อาจารย์ที่ปรกึ ษาที่ ให้ขอ้ เสนอแนะในการพฒั นาหลกั สตู รอย่างดีย่งิ มาไว้ ณ โอกาสน้ี ศศนิ า ผาลัย

สารบัญ ข หน้า คำนำ............................................................................................................................................................................................... ก สำรบญั ........................................................................................................................................................................................... ข บทนำ ............................................................................................................................................................................................. ๑ วสิ ยั ทศั นโ์ รงเรียน....................................................................................................................................................................... ๒ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ..................................................................................................................................................... ๒ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์........................................................................................................................................................๓ ที่ต้งั และสภำพชุมชน..................................................................................................................................................................๓ ควำมเป็ นมำ ..................................................................................................................................................................................๔ จุดม่งุ หมำย................................................................................................................................................................................... ๕ โครงสร้ำงหลกั สูตร .................................................................................................................................................................... ๖ คำอธิบำยรำยวิชำ.................................................................................................................................................................. ๖ โครงสร้ำงรำยวิชำ ............................................................................................................................................................... ๗ แนวกำรจดั กิจกรรม ............................................................................................................................................................. ๙ รูปแบบกิจกรรม.................................................................................................................................................................... ๙ สื่อและแหล่งกำรเรียนรู้ .................................................................................................................................................. ๑๒ กำรวดั และประเมินผล......................................................................................................................................................๑๓

๑ บทนำ พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พุทธศกั ราช ๒๕๔๒ แกไ้ ขเพ่มิ เตมิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๒๗ กำหนดให้สถานศกึ ษาข้นั พนื้ ฐานมหี นา้ ที่จัดทำสาระของหลักสตู รในสว่ นทีเ่ ก่ียวกบั สภาพปญั หาในชุมชน และสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่น คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ, มาตรา ๒๙ ให้สถานศึกษาร่วมกับบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการและสถาบันสังคมอื่น ส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน โดยจัด กระบวนการเรียนรู้ภายในชุมชนเพื่อให้ชุมชนมีการจัดการศึกษา อบรม มีการแสวงหาความรู้ ข้อมูลข่าวสาร และ รู้จกั เลอื กสรรภมู ปิ ัญญาและวทิ ยาการต่างๆเพื่อพัฒนาชมุ ชนใหส้ อดคลอ้ งกับสภาพปญั หาและความตอ้ งการรวมท้ัง วิธีการ สนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนาระหว่างชุมชน ดังนั้นสถานศึกษาจึงต้องพัฒนา หลักสูตรเฉพาะท้องถิ่นเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน โดยการจัดการเรียนรู้ให้ เหมาะสมกับสภาพและ ความต้องการของท้องถนิ่ เพ่อื ให้ผเู้ รยี นนำความรู้ ประสบการณไ์ ปพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน และเพ่อื ปลกู ฝัง ให้ผ้เู รียนมีความรักความภมู ิใจ ผกู พนั กบั ทอ้ งถ่นิ ของตน, มาตรา ๗ ได้บัญญตั ิไวว้ า่ “ในกระบวนการเรยี นรู้ ต้องมุ่ง ปลูกฝัง จิตสำนึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข รู้จักรักษาผลประโยชนส์ ่วนรวมและของประเทศชาติ รวมทั้งส่งเสริมศาสนา ศิลปวัฒนธรรมของชาติ การ กีฬา ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และความรู้อันเป็นสากล ตลอดจนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อม มีความสามารถในการประกอบอาชีพ รู้จักพึ่งตนเอง มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ใฝ่รู้ และเรียนรู้ด้วย ตนเองอย่างต่อเนื่อง” พร้อมด้วยกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. ๒๕๔๕ มงุ่ เนน้ ใหก้ ารปฏิรปู ระบบบรหิ ารและการจัดการทางการศึกษาใหม้ ีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยให้มีเอกภาพ ทางนโยบายและมีความหลากหลายในทางปฏิบตั ิ กระทรวงศึกษาธกิ ารได้มีคำสั่งให้ใช้หลกั สตู รแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ พร้อมกันทั่วประเทศ ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ โดยกำหนดให้สำนักงานเขตพื้นท่ี การศึกษามีบทบาทสำคัญในการจัดทำกรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่นเพื่อเชื่อมโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พนื้ ฐานและความต้องการของท้องถิ่นสกู่ ารพัฒนาหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนบ้านทุ่งกล้วย จึงได้จัดทำหลักสูตรท้องถิ่น เพื่อนำไปใช้ประโยชน์และเป็นกรอบในการวางแผน และพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา และจัดการเรียนการสอน โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้ ผู้เรียนมีทักษะ กระบวนการนำไปสู่การปฏิบัติ อนุรักษ์สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่ และสามารถนำเอาองค์ ความรู้ไปพัฒนาตนเอง ครอบครัว และชุมชน โดยมีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

๒ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวัด โครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑก์ ารวดั ประเมินผล ใหม้ ีความสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ การจดั ทำหลกั สูตรทอ้ งถิ่นประสบผลสำเรจ็ อย่างมีประสิทธิภาพตามเปา้ หมายท่ีคาดหวังไว้ โดยมที ุกฝ่ายท่ี เกี่ยวข้องได้ร่วมกันทำงานอย่างเป็นระบบในการวางแผน ดำเนินงาน และปรับปรุงจนแล้วเสรจ็ เพื่อพัฒนาผู้เรยี น ใหม้ ีคณุ ภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้ทกี่ ำหนดไว้ วิสัยทัศน์โรงเรยี น โรงเรียนบ้านทุ่งกล้วยจัดการศึกษาให้ผู้เรียนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ ควบคู่คุณธรรม นำเทคโนโลยี มี สขุ ภาพกาย สุขภาพจติ ดี มีความพอเพยี ง สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน หลักสตู รโรงเรียนบา้ นทงุ่ กล้วย มุ่งเนน้ ใหผ้ ูเ้ รยี นเกดิ สมรรถนะสำคญั คือ ๑. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มวี ัฒนธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอด ความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อัน จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพ่ือขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งตา่ งๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ที่มี ประสิทธิภาพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบทมี่ ีตอ่ ตนเองและสังคม ๒. ความสามารถในการคิด เปน็ ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ การคดิ สงั เคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ และการคิดเปน็ ระบบ เพ่อื นำไปสู่การสรา้ งองค์ความรหู้ รือสารสนเทศเพ่ือการตัดสินใจ เกยี่ วกับตนเองและสงั คมไดอ้ ย่างเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆที่เผชิญได้อย่าง ถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรม และข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา และมกี ารตัดสนิ ใจทมี่ ปี ระสิทธิภาพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบทีเ่ กดิ ขน้ึ ต่อตนเอง สังคม และสงิ่ แวดลอ้ ม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่างๆไปใช้ในการดำเนิน ชีวติ ประจำวัน การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การเรยี นรอู้ ย่างตอ่ เน่ือง การทำงาน และการอยูร่ ว่ มกนั ในสงั คมดว้ ยการสร้าง

๓ เสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่างๆอย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทัน กับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบ ต่อตนเองและผ้อู น่ื ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆ และมี ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน การ แกป้ ัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมคี ุณธรรม คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒. ซ่ือสตั ยส์ จุ ริต ๓. มวี นิ ัย ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง ๖. มงุ่ ม่ันในการทำงาน ๗. รักความเปน็ ไทย ๘. มีจติ สาธารณะ ท่ีต้งั และสภาพชุมชน โรงเรียนบ้านทุ่งกล้วย ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๕ บ้านทุ่งกล้วย ตำบลทุ่งกล้วย อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา อยู่ห่าง จากตัวอำเภอภูซางประมาณ ๙.๘ กิโลเมตร จัดทำการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาล – ประถมศึกษาปีที่ ๖ ก่อตั้งเม่ือ วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๔๘๖ ครอบคลุมเขตพื้นที่บริการบ้านทุ่งกล้วย หมูที่ ๔, บ้านทุ่งกล้วย หมู่ที่ ๕ และบ้านงุ้น หมูที่ ๙ ตำบลทุ่งกล้วย อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา นักเรียนที่เข้าศึกษาในโรงเรียนผู้ปกครองมีฐานะยากจน ส่วน ใหญป่ ระกอบอาชีพเกษตรกรรม มกี ารช่วยเหลอื กนั และกันภายในชุมชนและช่วยเหลือโรงเรยี นเป็นอยา่ งดี

๔ ความเป็นมา ผ้าทอไทลื้อเป็นผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มแม่บ้านบ้านทุ่งกล้วย หมู่ที่ ๕ ได้จัดตั้งเป็นกลุ่มทอผ้าขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๐ โดยการรวมตัวของสมาชิกกลุ่มแม่บ้านในตำบล มีสมาชิกรวม ๖๕ คน ต่อมาปี พ.ศ.๒๕๒๕ ได้ แยกตัวออกมาจดั ตง้ั เป็นกลุ่มแม่บา้ นหมทู่ ่ี ๕ มสี มาชกิ รวม ๒๒ คน ซ่งึ ไดด้ ำเนนิ กิจกรรมกลุ่มมาอย่างต่อเน่ือง โดย ไดร้ บั งบประมาณสนับสนุนจากหลายหนว่ ยงาน ในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้รบั งบประมาณจดั สรา้ งศูนย์ทอผา้ และงบประมาณสำหรับฝึกอบรมการทอผ้าสำหรับ กลุ่มแม่บ้านในหมู่บ้าน เพื่อเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมและศิลปการทอผ้าลายน้ำไหลหรือผ้าไทลื้อ โดยจัดตั้งกลุ่ม ชื่อ “กลุ่มทอผ้าไทลื้อบ้านทุ่งกล้วย หมู่ ๕ ” ดำเนินกิจกรรมการทอผ้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งทำเป็นอาชีพหลักและ อาชีพเสริมยามว่างจากการทำเกษตรกรรม เร่ิมแรกไดท้ ำเป็นอาชพี เสริมหลังจากเก็บเก่ยี วพืชผลทางการเกษตรเสรจ็ แล้ว ซ่งึ ตอนนั้นยังไม่มีกี่กะตุก ใช้ กี่เมืองที่ทำขึ้นแบบง่ายๆในการทอผ้า และเริ่มต้นจากทอผ้าฝ้ายดิบทำเป็นเครื่องนุ่มห่ม หลังจากนั้นได้พัฒนาใช้ก่ี กะตุกในการทอและเริ่มย้อมสีธรรมชาติ ในอดีตนั้นจะใช้ฝ้ายที่มีในท้องถิ่น โดยเริ่มจากการปลูกฝ้าย และเข้าสู่ ขบวนผลติ เปน็ เส้นด้าย โดยภมู ิปญั ญาของท้องถ่ินทั้งหมด รวมทงั้ กรรมวิธียอ้ มสธี รรมชาติ เชน่ สีดำได้มาจากน้ำค้ัน จากผลมะเกลอื สแี ดงได้จากครง่ั สีเหลืองไดจ้ ากขมิน้ แกน่ ไม้ ขนุน สีน้ำตาลได้จากเปลือกต้นสน เป็นต้น ผ้าทอพื้นเมืองมีท่ีมาหลายแห่งด้วยกัน มที ้ังผา้ ท่ีทอขนึ้ โดยสืบทอดจากบรรพบุรุษ และผ้าทอพ้ืนเมืองท่ีมา จากแหล่งอื่น สืบเนื่องมาจากความสัมพันธ์ทางการเมือง และการอพยพโยกย้ายถิ่นของผู้คน ประวัติศาสตร์ของ

๕ หมู่บ้านทุ่งกล้วยนั้นบรรพบุรุษได้อพยพถิ่นฐานมาจากจังหวัดน่าน ฉะนั้นการทอผ้าฝ้าย การทำฝ้ายจึงอยู่ใน สายเลือดของผู้หญิง เพราะรับวัฒนธรรมมาจากเมืองน่านนั่นเอง ผ้าพื้นเมืองดั้งเดิม ได้แก่ ผ้าสีพื้น ผ้าขาวม้า ถุง ยา่ ม ผ้าห่ม ฯลฯ ส่วนลายผา้ ไดแ้ ก่ ลายนำ้ ไหล ลายดอก ลายหางปลา ฯลฯ จากผ้าพื้นเมืองทีท่ อขึ้นเพื่อใช้ในประจำวันและลวดลายแบบดั้งเดิม ปัจจุบันได้มีการพัฒนาลวดลาย และ เส้นใยให้มีลวดลายหลากหลายตามความต้องการของตลาด และคุณภาพของผ้าดีขึ้น จึงได้มีการทอขึ้นอย่าง หลากหลายเพื่อใช้ประโยชน์อย่างอื่นมากมายตามแต่ประยุกต์ใช้ได้อย่างสวยงาม เช่น ผ้าปูโต๊ะ ที่รองจาน/แก้ว พรมเช็ดเท้า ผ้าม่าน ผา้ บุเกา้ อ้ี กรอบรปู ผ้าเชด็ หนา้ กล่องใส่ทิชชู ฯลฯ เนื่องจากการทอผ้าไทลื้อเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมาอย่างยาวนาน จึงได้นำอาภูมิปัญญาท้องถิ่นการทอ ผ้าไทลื้อจัดขึ้นเป็นหลักสูตรท้องถิ่น เพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ได้รับความรู้ ทักษะของภูมิปัญญ า ท้องถิน่ ทส่ี ะท้อนวิถีชีวติ ของคนในหมบู่ า้ น เหน็ ถึงคณุ ค่าและความสำคัญ ภาคภูมิใจในภูมิปัญญาท้องถน่ิ ของตนเอง อนุรักษ์ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่นจากรุน่ ส่รู ุ่น และสามารถตอ่ ยอดเปน็ ผลติ ภัณฑส์ ร้างรายให้แกต่ นเอง และชมุ ชนได้ จุดม่งุ หมาย ๑. เพื่อให้ผู้เรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจเรื่องการทอผา้ ไทล้ือ ๒. เพอ่ื ให้ผู้เรียนฝกึ ทักษะการทอผา้ ไทล้อื อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ๓. เพอ่ื ให้ผู้เรยี นมีนิสยั รกั การทำงาน และสามารถทำงานร่วมกบั ผอู้ น่ื ได้ ๔. เพอื่ ให้ผู้เรียนเห็นถงึ คุณค่า มีความภาคภมู ิใจในภูมปิ ัญญาและความสามารถของบุคคลในทอ้ งถิน่ ๕. เพอ่ื ให้ผู้เรยี นอนรุ กั ษ์ภูมปิ ญั ญาท้องถนิ่ การทอผ้าไทลื้อ และสบื สานให้คงอย่ตู ลอดไป ๖. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้และทักษะ เพ่ือเป็นแนวทางพนื้ ฐานในการประกอบอาชีพ สามารถสร้างรายไดท้ ่ี มัน่ คง ม่ังคงั่

๖ โครงสรา้ งหลกั สูตร คำอธบิ ายรายวิชา หลักสูตรท้องถิ่น : ผ้าทอไทลื้อ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง ศึกษาความรู้เบื้องต้นเก่ยี วกับลักษณะทว่ั ไปของฝา้ ย การปลูก การเก็บเก่ยี ว การทำเส้นด้ายจากฝ้าย การ ย้อมสีธรรมชาติ การทอผ้าไทลื้อ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ การนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับผู้เรียน การทำบัญชรี ายรบั - รายจ่าย โดยใช้กระบวนการทำงานอย่างเป็นระบบ เห็นความสำคัญ และประโยชน์ของการทำงานแล้วนำมา วเิ คราะห์ วางแผน คน้ คว้ารวบรวมข้อมูลเกีย่ วกับการแสวงหาความรู้ดว้ ยวธิ ีการที่หลากหลาย เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เกิดทักษะ มีความรับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน ตระหนักในคุณค่าของ พลังงาน ทรัพยากรและสิง่ แวดลอ้ ม พ่งึ พาตนเองโดยยดึ หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลการเรยี นรู้ ๑. ผเู้ รียนบอกถึงลกั ษณะทัว่ ไป การปลกู การเก็บเกย่ี วของฝ้ายได้ ๒. ผู้เรยี นสามารถผลติ เสน้ ด้ายสำหรับทอผา้ ได้ ๓. ผู้เรยี นสามารถหาวตั ถุดิบภายในชมุ ชนมาทำสีธรรมชาตทิ ่ใี ช้เป็นสียอ้ มผ้าได้ ๔. ผเู้ รยี นสามารถทอผ้าไทล้ือลายพื้น และลายตา่ งๆได้ ๕. ผูเ้ รยี นนำเอาผ้าทอไทล้ือไปแปรรูปเปน็ ผลติ ภณั ฑต์ ่างๆได้ ๖. ผเู้ รียนเหน็ ถงึ คณุ ค่า มคี วามภาคภูมใิ จในภูมิปญั ญาและความสามารถของบุคคลในท้องถ่ิน ๗. ผู้เรยี นอนรุ กั ษ์ภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ การทอผ้าไทลือ้ และสบื สานให้คงอยู่ตลอดไป ๘. ผู้เรยี นมคี วามรู้และทักษะ เพื่อเปน็ แนวทางพืน้ ฐานในการประกอบอาชีพสร้างรายได้ ๙. ผเู้ รียนสามารถทำบัญชีรายรบั - รายจ่ายได้ รวม ๙ ผลการเรียนรู้

๗ โครงสร้างรายวชิ า หลกั สูตรท้องถิน่ : ผ้าทอไทลื้อ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๔๐ ช่วั โมง หนว่ ยการ ชอ่ื หน่วย สาระสำคัญ เร่ือง เวลา นำ้ หนกั เรียนรูท้ ่ี การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน ฝ้ายเปน็ พืชล้มลกุ ทปี่ รบั ตวั ๑. การปลกู และการเกบ็ ๑ กว่าจะมา เข้ากับดนิ ฟา้ อากาศได้ดีมาก เก่ยี วฝา้ ย ๘ ๒๐ เป็นเสน้ ดา้ ย สามารถทนความหนาวเย็น ๒. การนำฝา้ ยมาผลิตเป็น ๒ ได้ แบง่ ออกเป็น ฝ้ายปา่ เส้นด้าย ๘ ๒๐ การย้อมสี และฝา้ ยปลกู เส้นใยทเี่ กิด ๓ ธรรมชาติ จากเปลือกเมลด็ ของฝ้าย - การอดี ฝ้าย ๑๕ ๓๐ ปลูกจะยาวมีรปู บิด สามารถ - การตีฝ้ายให้ฟู กรรมวธิ กี าร ปั่นเป็นเส้นด้ายได้ - การกลิง้ ฝ้าย ทอผ้าไทลอ้ื - การเข็นฝา้ ย สยี อ้ มผ้าตามทว่ั ไปไดม้ าจาก - การเฝือฝา้ ย การสังเคราะห์สารเคมี แตส่ ี ๑. การหาวตั ถดุ บิ สำหรบั สังเคราะห์หลายชนดิ อาจ นำมาทำสยี อ้ มธรรมชาติ เป็นอนั ตรายต่อรา่ งกาย ๒. การย้อมสธี รรมชาติ แตกตา่ งจากสที ่ีได้จาก - สดี ำ (นำ้ ค้นั จากผล ธรรมชาติไมเ่ ปน็ อนั ตรายต่อ มะเกลือ) สุขภาพของผู้ผลติ และ - สีแดง (ครงั่ ) ผู้บริโภค ใชเ้ ป็นสียอ้ มผ้าที่ - สเี หลอื ง (ขมิน้ แกน่ ไม้ ใหส้ ีสนั สวยงาม วตั ถดุ บิ หา ขนนุ ) ได้งา่ ยในชมุ ชน สามารถได้ - สนี ำ้ ตาล (เปลอื กต้น จากบางสว่ นของต้นไม้ เช่น สน) ราก แกน่ เปลือก ต้น ผล - สีอ่ืนๆ ดอก เมลด็ ใบ เป็นต้น ผ้าทอไทลื้อความเดน่ อยูท่ ี่ ๑. การทอผา้ ไทล้อื สีพน้ื ตวั ผ้า ซง่ึ มรี ว้ิ ลายขวางสลับ ๒. การทอผ้าไทลอื้ ลายตา่ งๆ

๘ สีสดใส และตรงชว่ งกลางมี - ลายนำ้ ไหล ลวดลายท่ีทอดว้ ยเทคนิคขดิ - ลายดอก จก เกาะหรือล้วง หรอื ที่เปน็ - ลายหางปลา ทรี่ ้จู ักกนั วา่ “ลายน้ำไหล” - ลายอนื่ ๆ ซ่ึงเป็นเทคนิคทมี่ ีความ ยุง่ ยากซบั ซ้อน แต่ทำใหเ้ กิด ลวดลายและสีสันทงี่ ดงาม แปลกตา และเป็น เอกลกั ษณ์อนั โดดเดน่ เฉพาะ กลุม่ ท่ีแตกตา่ งจากผา้ ทอ ของกลุ่มชาติพนั ธุ์ไทกลุ่ม อ่นื ๆ ตอ่ มาได้มีการดดั แปลง ลวดลายต่างๆขึน้ มามากข้นึ การแปรรูปผลติ ภัณฑ์จากผ้า ๑. แปรรปู ผลติ ภัณฑจ์ ากผ้า ทอไทล้ือ ช่วยให้มผี ลิตภัณฑ์ ทอไทลอื้ ที่หลากหลาย เปน็ การต่อ เชน่ ยอดเพื่อเพ่มิ มลู คา่ - ผ้าพันคอ ผลติ ภัณฑ์สรา้ งเปน็ สินค้า - ผ้าปโู ตะ๊ ๔ แปรรปู ตามความต้องการของตลาด - ทรี่ องจาน/รองแก้ว ๙ ๓๐ ผลิตภัณฑ์ และยคุ สมยั และชว่ ยเพม่ิ - กรอบรูป รายได้ใหก้ ับตนเอง - กลอ่ งกระดาษชำระ ครอบครวั และชุมชนไดเ้ ป็น - กระเป๋า อย่างดี - เคสโทรศัพทม์ ือถือ - พวงกุญแจ - อื่นๆ รวม ๔๐ ๑๐๐

๙ แนวการจดั กิจกรรม เพื่อให้การจัดกิจกรรมตามหลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง อนุรักษ์งานหัตถกรรมผ้าทอไทลื้อ สำหรับนักเรียนชั้น ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ ประสบความสำเรจ็ ตามจดุ มุ่งหมายทกี่ ำหนดไว้ จงึ กำหนดแนวดำเนนิ การจัดกจิ กรรมไว้ดงั น้ี ๑. การจัดกิจกรรมใหย้ ดื หยุ่นตามสภาพและความเหมาะสมของท้องถ่ิน ๒. การจัดกจิ กรรมโดยการยดึ ผู้เรียนเป็นสำคัญ สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน ให้โอกาส นักเรียนไดแ้ สดงความสามารถอยา่ งเท่าเทยี มกนั ๓. ผ้สู อนเปน็ ผู้ใหค้ วามรูใ้ นเรอ่ื งเน้ือหาและภาคทฤษฎี และวทิ ยากรทอ้ งถนิ่ ที่มีความรู้ความชำนาญในการทอ ผา้ ไทล้อื จะเปน็ ผใู้ หค้ วามรู้เสริมและคอยให้คำแนะนำในการลงมือปฏบิ ัติ ๔. การจดั กิจกรรมโดยเนน้ กระบวนการกลมุ่ ๕. การจัดกิจกรรมภาคปฏบิ ัติโดยวิธกี ารให้วิทยากรท้องถ่ินสาธติ ให้ดู แลว้ ใหน้ กั เรยี นลงมอื ปฏิบัติตาม ๖. การจัดกจิ กรรมควรจัดให้ผู้เรยี นมโี อกาสฝึกปฏิบัติอย่างตอ่ เนื่องตามข้ันตอน ๗. เม่อื สนิ้ สุดการจัดกจิ กรรมใหน้ ักเรียนจดั แสดงผลงาน และจดั จำหนา่ ยผลติ ภัณฑ์ท่ตี นเองไดล้ งมือปฏบิ ัติ รปู แบบกจิ กรรม จัดกิจกรรมในรปู แบบต่างๆตามหน่วยการเรียนรู้ ดังน้ี หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ กวา่ จะมาเปน็ เส้นด้าย ๑. การปลูกและการเกบ็ เก่ียวฝา้ ย จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับฝ้าย ตั้งแต่ลักษณะทั่วไป การปลูก การดูแล การเก็บเกี่ยว โดยการให้นักเรียนลงพื้นที่จริง เพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้และประสบการณ์โดยตรง โดยมีผู้สอนและวิทยากร ท้องถิน่ เปน็ ผูใ้ หค้ วามรูโ้ ดยการอธิบาย และผูเ้ รยี นทำการจดบันทึกความร้ลู งในสมุดใบงาน

๑๐ ๒. การนำฝา้ ยมาผลิตเปน็ เส้นด้าย จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนไดศ้ ึกษากระบวนการการผลติ เส้นด้ายจากฝา้ ย โดยมีผู้สอนและวิทยากรท้องถิ่นเปน็ ผู้ให้ความรู้โดยการอธิบาย จากนั้นวิทยากรทำการสาธิตกระบวนการผลิตเส้นด้ายแต่ละขั้นตอน ผู้เรียนทำการจด บนั ทึกความรู้ลงในสมดุ ใบงาน และใหผ้ เู้ รยี นได้ลองฝกึ ปฏิบัตจิ ริงตามข้นั ตอนตา่ งๆ ดังน้ี - การอดี ฝ้าย - การตีฝ้ายให้ฟู - การกลงิ้ ฝา้ ย - การเขน็ ฝา้ ย - การเฝอื ฝ้าย หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๒ การย้อมสธี รรมชาติ ๑. การหาวตั ถุดบิ สำหรบั นำมาทำสียอ้ มธรรมชาติ จัดกิจกรรมโดยการแบ่งกลุ่มผเู้ รยี นทำภารกจิ หาวตั ถุดิบสำหรบั นำมาทำสีย้อมธรรมชาติ สมาชิกแตล่ ะกลุ่ม ร่วมกันวางแผนและทำการสำรวจไปตามพื้นที่ในชุมชนและจดบันทึกลงในสมุดใบงาน โดยมีผู้สอนเป็นผู้แลอย่าง ใกลช้ ิด และมวี ทิ ยากรท้องถนิ่ คอยให้ความรแู้ ละคำแนะนำ ๒. การย้อมสธี รรมชาติ จัดกิจกรรมโดยการให้ผู้เรียนนำวัตถุดิบที่หาได้จากการสำรวจมาทำสีย้อมธรรมชาติ และทำการย้อมผ้า ด้วยสธี รรมชาติ โดยวทิ ยากรท้องถิ่นทำการสาธิตและอธิบายวธิ ีการทำ ผู้เรยี นทำการจดบันทึกความรู้ลงในสมุดใบ

๑๑ งาน และลงมือปฏิบัติการทำสีย้อมธรรมชาติและการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ เช่น สีดำ (น้ำคั้นจากผลมะเกลือ) สี แดง (ครงั่ ) สีเหลอื ง (ขมนิ้ แกน่ ไม้ ขนนุ ) สนี ้ำตาล (เปลอื กตน้ สน) และสอี ่นื ๆ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ กรรมวธิ กี ารทอผา้ ไทลอื้ ๑. การทอผ้าไทลอื้ สีพน้ื จัดกิจกรรมการทอผ้าไทลื้อสีพื้น โดยวิทยากรท้องถิ่นเป็นผู้สาธิตกรรมวิธีการทอผ้าไทลื้อสีพื้น ผู้สอนให้ คอยอธิบายและดูความเรยี บร้อย ผ้เู รียนทำการจดบนั ทกึ ความรลู้ งในสมุดใบงาน และลองลงมอื ปฏิบัติการทอผ้าไท ลอ้ื สีพ้นื ๒. การทอผา้ ไทล้อื ลายตา่ งๆ จัดกิจกรรมต่อยอดจากการทอผ้าสีพื้นเป็นการทอผ้าไทลื้อลายต่างๆ โดยวิทยากรท้องถิ่นเป็นผู้สาธิต กรรมวิธีการทอผ้าไทลื้อลายต่างๆ ผู้สอนให้คอยอธิบายและดูความเรียบร้อย ผู้เรียนทำการจดบันทึกความรู้ลงใน สมุดใบงาน และลองลงมือปฏิบัติการทอผ้าไทล้ือลายต่างๆ เช่น ลายน้ำไหล ลายดอก ลายหางปลา และลายอื่นๆ ตามจนิ ตนาการ

๑๒ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๔ แปรรูปผลติ ภณั ฑ์ ๑. แปรรูปผลติ ภณั ฑจ์ ากผา้ ทอไทล้ือ จัดกิจกรรมการนำผ้าทอไทลื้อมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น ผ้าพันคอ ผ้าปูโต๊ะ ที่รองจาน/รองแก้ว กรอบรูป กล่องกระดาษชำระ กระเปา๋ เคสโทรศัพทม์ อื ถอื พวงกญุ แจ เปน็ ตน้ โดยมวี ทิ ยากรท้องถิ่นทำการอธบิ ายและสาธิต ขั้นตอนการทำ ผู้เรียนทำการจดบันทึกความรู้ลงในสมุดใบงาน จากนั้นให้ผู้เรียนลองฝึกปฏิบัติโดยมีผู้สอนและ วิทยากรท้องถิ่นคอยกำกับดูแล จากนั้นให้ผู้เรียนนำผ้าทอไทลื้อที่ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ตาม จนิ ตนาการและความสนใจ และนำไปจัดแสดงผลงานและทำการจัดจำหน่ายสรา้ งร้ายได้ ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ ๑. วิทยากรทอ้ งถ่นิ (แหล่งเรยี นรปู้ ระเภทบุคคล) ๒. ศูนยห์ ตั ถกรรมทอผ้า บ้านท่งุ กล้วย หมู่ ๕ ตำบลท่งุ กลว้ ย อำเภอภูซาง จงั หวดั พะเยา ๓. สวนปลกู ฝา้ ย ๔. เอกสารเกี่ยวกบั การทอผา้ ไทล้ือ

๑๓ ๕. ผา้ ทอไทล้ือลายต่างๆ ๖. วสั ดุ อุปกรณ์ ท่ีใช้ในการย้อมสีธรรมชาติ ๗. วสั ดุ อุปกรณ์ ท่ีใช้ในการทอผ้าไทลอื้ ๘. ผลิตภัณฑ์จากผ้าทอไทล้ือ ๙. สมุดใบงาน การวัดและประเมินผล การวัดและประเมินผลระหว่างเรียนและหลังเรียนตามจดุ มุ่งหมายท่ีกำหนด โดยเน้นให้ครอบคลุมทั้งดา้ น ความรู้ ทกั ษะการปฏบิ ตั งิ าน และคณุ ลักษณะของนักเรยี น ดังนี้ เคร่อื งมือการวดั และประเมินผล ไดแ้ ก่ ๑. แบบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล นักเรียนที่เรียนจบหลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง อนุรักษ์งานหัตถกรรมผ้าทอไทลื้อ สำหรับนักเรียนช้ัน ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ มผี ลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น หลงั เรียนผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ๒. แบบประเมินทกั ษะการปฏบิ ัติงานของนักเรยี น เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การใหค้ ะแนนทกั ษะการปฏบิ ัตงิ านของนักเรยี น ดงั น้ี ดมี าก ให้ ๕ คะแนน ดี ให้ ๔ คะแนน ปานกลาง ให้ ๓ คะแนน พอใช้ ให้ ๒ คะแนน ปรบั ปรุง ให้ ๑ คะแนน

๑๔ เกณฑ์ในการประเมนิ ทกั ษะการปฏิบตั ิงานของนักเรียน ดังนี้ ค่าเฉลยี่ ๔.๕๐ – ๕.๐๐ หมายถึง นกั เรียนมีทักษะการปฏิบตั ิงาน ในระดบั มากที่สุด ค่าเฉลยี่ ๓.๕๐ – ๔.๔๙ หมายถงึ นกั เรียนมที ักษะการปฏบิ ัตงิ าน ในระดบั มาก คา่ เฉลี่ย ๒.๕๐ – ๓.๔๙ หมายถึง นักเรียนมที ักษะการปฏบิ ัตงิ าน ในระดบั ปานกลาง ค่าเฉล่ยี ๑.๕๐ – ๒.๔๙ หมายถึง นักเรยี นมที ักษะการปฏิบตั ิงาน ในระดับนอ้ ย คา่ เฉลีย่ ๑.๐๐ – ๑.๔๙ หมายถึง นกั เรยี นมีทกั ษะการปฏิบัติงาน ในระดบั น้อยทีส่ ุด ๓. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะของนักเรียน เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล เกณฑ์ในการประเมนิ คณุ ลักษณะของนักเรียน ดงั นี้ นกั เรยี นมสี ่วนรว่ มและให้ความรว่ มมือในกิจกรรม ให้ ผ่าน นักเรยี นไมม่ ีส่วนร่วมและไมใ่ ห้ความรว่ มมือในกิจกรรม ให้ ไมผ่ ่าน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook