ต่อมไทรอยด์(Thyroid Gland) -ต่อมไทรอยด์เป็นอวยั วะหนึง่ อยบู่ ริเวณคอสว่ นลา่ งใต้กระดกู ไทรอยด์ ซงึ่ ตาแหน่งท่ีสงั เกตง่ายๆคือใต้ตอ่ ลกู กระเดือกนน่ั เอง ลกั ษณะ จะคล้ายผีเสอื ้ กางปีก คือ มกี ลบี ขาวและกลีบซ้าย หน้าท่ีของต่อมไทรอยด์ -สร้างฮอร์โมน triiodothyronine (T3) และ thyroxine (T4) -ทาหนา้ ท่ีควบคุม กระบวนการเมตาบอลิสม -ควบคุมการสร้างโดย TSH
ต่อมไทรอยด์(Thyroid Gland) • หน้าที่ของตอ่ มไทรอยด์เพิม่ เติม ตอ่ มไทรอยด์จะผลติ ฮอร์โมนไทรอยด์ซงึ่ มีหน้าที่หลายอย่าง ได้แก่ จาเป็นในการเจริญเตบิ โตของร่างกายและอวยั วะตา่ งๆ ซงึ่ เริ่มใช้ตงั ้ แต่ยงั อย่ใู นครร์์ มารดา ในเดก็ เลก็ ๆฮอร์โมนนีม้ ีความสาคญั อยา่ ย่ิงตอ่ พฒั นาการและสมอง ถ้าขาดฮอร์โมนตวั นีอ้ าจทาให้เดก็ ตวั เตีย้ แคระแกร็น พฒั นาการทางสมองและร่างกาย ช้ากวา่ ปกติ นอกจากนี่ฮอร์โมนไทรอยด์ยงั ชว่ ยในการเผาผลาญอาหารและควบคมุ อณุ ห์มู ใิ นร่างกาย กระต้นุ การทางานของหวั ใจและหลอดเลอื ด รวมทงั ้ ระบบ ประสาทอตั โนมตั ิ ทงั ้ นีท้ งั ้ หมดจะชว่ ยปรับการทางานของร่างกายให้เหมาะสมกบั ส์าพแวดล้อม
โรคทีเ่ กดิ จากต่อมไทรอยด์ผดิ ปกติ โรคที่เกิดขนึ ้ กบั ต่อมไทรอยด์จะสง่ ผลให้เกิดการสร้างฮอร์โมนมากเกนิ ไป (ต่อมไทรอยด์ทางานมากเกินไป หรือ hyperthyroidism), สร้างฮอร์โมนน้อยเกินไป (ต่อมไทรอยด์ทางานน้อยเกินไป หรือ hypothyroidism), ก้อนท่ีตอ่ มไทรอยด์ (thyroid nodules) และ/หรือ คอ พอก (goiter) โดยโรคของต่อมไทรอยด์จะพบมากในผ้หู ญิงมากกว่าผ้ชู าย สาเหตขุ องโรคตอ่ มไทรอยด์ สาเหตขุ องโรคตอ่ มไทรอยด์มีได้หลายสาเหตุ เช่น ร่างกายมกี ารสร้าง์มู คิ ้มุ กนั มาทาลายตอ่ มไทรอยด์ของตนเอง, การได้รับยาบางชนิด, ความผิดปกตขิ องตอ่ มไทรอยด์แตก่ าเนิด, การสญู เสียเนือ้ เยอื่ ของต่อมไทรอยด์, เนือ้ งอกหรือมะเร็ง, โรคบางชนิด รวมไปถึงการได้รับธาตไุ อโอดีนไม่ เพียงพอ
ต่อมพาราไทรอยด์(Parathyroid Glands) ตอ่ มพาราไทรอยด์ หรือ Parathyroid Glands เป็นต่อมไร้ทอ่ ประเ์ทที่จาเป็นตอ่ ชีวิต (Essentail endocrine gland) ขนาดเลก็ เทา่ เมลด็ ถวั่ เขียว ฝังอยดู่ ้านหลงั ของตอ่ มไทรอยด์ด้านละ 2 ตอ่ ม รวมเป็น 4 ตอ่ ม ทาหน้าท่ีผลติ และหลง่ั ฮอร์โมน \"พาราทอร์โมน\" (Parathormone) ซงึ่ เป็นสารพอลิเพปไทด์ ประกอบด้วยกรดอะมโิ น 84 โมเลกลุ ทาหน้าที่ร่วมกบั แคลซิโทนิน และวติ ามนิ ดี หน้าที่ของตอ่ มพาราไทรอยด์ -ผลติ พาราทอร์โมน (PTH) หรือ พาราไทรอยด์ฮอร์โมน ซงึ่ ชว่ ยรักษาสมดลุ ของแคลเซียม และฟอสฟอรัส ในเลือด และเนือ้ เยื่อให้ปกติ โดยทางานร่วมกบั วิตามนิ ซี วติ ามนิ ดี และแคลซิโทนินซง่ึ ผลติ จากตอ่ มไทรอยด์ - กระต้นุ การสร้างเซลล์ osteoclasts ที่ทาหน้าที่สลายกระดกู โดยวติ ามนิ ดีจะรวมกบั พาราทอร์โมน ชว่ ยสลายแคลเซียมออกจากกระดกู เพื่อรักษา ระดบั ปกตขิ องแคลเซียมในเลือด - เพิม่ การดดู แคลเซียมกลบั จากท่อหน่วยไตเข้าสเู่ ลือด ทาให้การขบั ถ่ายแคลเซียมไปกบั ปัสสาวะลดลง และมีระดบั แคลเซียมในเลือดเพิ่มขนึ ้ - กระต้นุ ให้มีการสงั เคราะห์วิตามนิ ดีเพม่ิ ขนึ ้ เพ่ือทาให้มีการดดู ซมึ แคลเซยี มทลี่ าไส้เลก็ เพ่ิมขนึ ้ - ลดระดบั ของฟอสเฟตท่กี ระดกู ไต และลาไส้เลก็ กระต้นุ การขบั ฟอสเฟตออกไปกบั ปัสสาวะ
โรคทเี่ กดิ จากต่อมพาราไทรอยด์ผดิ ปกติ 1. ไฮเปอร์พาราไทรอยด์ (Hyperparathyroidism) เป็น์าวะท่ีตอ่ มพาราไทรอยด์ผลติ ฮอร์โมนสงู ผดิ ปกติ โดยไปกระต้นุ ให้มกี ารละลายแคลเซยี มและฟอสเฟตออกจากกระดกู และฟัน แล้วเข้าสู่ กระแสเลอื ดมากกว่าปกติ ทาให้แคลเซียมสงู (Hypercalcimia) แต่ฟอสเฟตต่า (Hypophosphatemia) ดงั นนั ้ จงึ มแี คลเซียมปนออกมาใน ปัสสาวะ การที่แคลเซียมที่ถกู ดงึ ออกมาจากกระดกู และฟัน จะทาให้กระดกู เปราะบาง ฟันผุ ฟันหกั ได้ง่าย อาจทาให้กล้ามเนือ้ อ่อนแรง เปลยี ้ ประสาท ตอบสนองได้น้อย และอาจเกิดการสะสมแคลเซียมที่ไตมากเกินไป จนทาให้เป็นนิ่วในไตได้
โรคที่เกดิ จากต่อมพาราไทรอยด์ผดิ ปกติ 2. ไฮโปพาราไทรอยด์ (Hypoparathyroidism) เป็น์าวะที่มกี ารหลงั่ พาราฮอร์โมนออกมาน้อยกว่าปกติ มกั เกิดจากการตดั ต่อมไทรอยด์ และตดั ตอ่ มพาราไทรอยด์ออกด้วย สง่ ผลให้การดดู แคลเซียมกลบั ท่ีทอ่ หน่วยไตลดน้อยลง แคลเซียมสญู เสยี ออกไปกบั นา้ ปัสสาวะ ทาให้ระดบั แคลเซียมในเลอื ดลดลง ฟอสเฟตสงู ขนึ ้ ดงั นนั ้ เมอื่ มีบาดแผล จะทาให้เลือดไหลไมห่ ยดุ ระบบประสาทและกล้ามเนือ้ ไวตอ่ สงิ่ เร้า มอี าการชาตามมอื ตามเท้า เป็นตะคริว ชกั กระตกุ กล้ามเนือ้ เกร็งที่เรียกว่า Tetany หรืออาจถึงขนั ้ ปอดทางานไมไ่ ด้ จนเสยี ชีวิตได้ 3. ตอ่ มพาราไทรอยด์โต เกิดขนึ ้ โดยไมท่ ราบสาเหตุ โดยกลมุ่ เสย่ี งคือ ผ้ปู ่วยไตวายเรือ้ รังที่ไมไ่ ด้รับการฟอกไตอยา่ งเพียงพอ ทาให้ร่างกายขาดวิตามนิ ดี และมีสาร ฟอสฟอรัสคงั่ อยมู่ าก ตอ่ มพาราไทรอยด์จงึ ต้องทางานหนกั และโตขนึ ้ ในท่ีสดุ โดยมีโอกาสเป็นเนือ้ งอกในตอ่ มเดี่ยว 85 เปอร์เซ็นต์ และมโี อกาสเป็นทงั ้ 4 ต่อม 15 เปอร์เซ็นต์
รายชื่อผู้จดั ทา 1. นายจิรวชั ร จิรวรนนั ท์ เลขท่ี 7 ชนั้ ม.6/3 2.นายธนายทุ ธ ร้องบญุ ลือ เลขที่ 11 ชนั้ ม.6/3 3.นายปณต สอดสี เลขที่ 13 ชนั้ ม.6/3 4.นายส์ุ ทั รดศิ สวา่ ง เลขที่ 15 ชนั้ ม.6/3 5.นายปรินทร อษุ ณวศิน เลขที่ 17 ชนั้ ม.6/3 6.นายชิน์ทั ร วรวทิ ยาทร เลขที่ 20 ชนั้ ม.6/3 7.นายธรรมธชั เชยทอง เลขที่ 21 ชนั้ ม.6/3
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: