Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

Published by ปิยรัตน์ ทองดี, 2020-09-07 02:40:44

Description: สำนักศิลปะและวัฒนธรรม
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

Search

Read the Text Version

สํานักศิลปะและวฒั นธรรม มหาวิทยาลยั ราชภัฏพบิ ลู สงคราม

พพิ ธิ ภณั ฑ์เมืองพษิ ณโุ ลก ➢ แผนผงั จงั หวดั พษิ ณุโลกและวดั ในเมืองพษิ ณุโลก วัดทม่ี คี วามเก่าแก่ในเมืองพษิ ณุโลก (ป้ายสีแดง) ได้แก่ วดั พระศรีรัตนมหาธาตวุ รมหาวหิ าร (วดั ใหญ่) , วดั นางพญา , วดั ราชบูรณะ , วดั วิหารทอง , วดั จุฬามณี

➢ รูปภาพเหตุการณ์สาคญั เกี่ยวกบั จงั หวดั พษิ ณุโลก ภาพพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั (ร.๙) และ สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระ ราชดาเนิน เยยี่ มราษฎรในจงั หวดั พิษณุโลก วนั ท่ี ๒๗ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๐๑

ภาพถา่ ยทางอากาศวดั พระศรีรัตนมหาธาตวุ รมหาวิหาร เมืองพษิ ณุโลก ภาพถ่ายทางอากาศวดั พระศรีรัตนมหาธาตวุ รมหาวิหาร เมืองพษิ ณุโลก ในขณะที่จดั งานสมโภชองคห์ ลวงพอ่ พระพุทธชินราช

ภาพถา่ ยเจดียป์ ระธาน วดั ราชบรู ณะ เมืองพิษณุโลก ในสมยั รัชกาลที่ ๔ วดั เจดียย์ อดทอง เมืองพษิ ณุโลก สภาพก่อนการบูรณะ

ภาพดา้ นหนา้ พระวหิ ารพระพทุ ธชินราช ในขณะเตรียมการรับเสด็จรัชกาลที่ ๕ ภาพถา่ ยทางอากาศโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ถ่ายก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ก่อนท่ีจะยา้ ยอาคารและหอสมดุ ออกไปซ่ึงบดบงั ทางเขา้ ศาลสมเด็จพระนเรศวร

วา่ ที่การอาเภอเมืองพษิ ณุโลก ภาพเหตกุ ารณ์ไฟไหต้ ลาดเมืองพษิ ณุโลก ในวนั ที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๐

ภาพถ่ายทางอากาศสะพานนเรศวร (สะพานเหลก็ ) ถา่ ยเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ภาพสะพานนเรศวรในอดีตซ่ึงเป็นโครงเหล็กพ้ืนปูดว้ ยไมส้ ร้างในปี พ.ศ. ๒๔๗๑ ภาพสองฝั่งริมแมน่ ้าน่านที่เตม็ ไปดว้ ยเรือนแพ

➢ พระมหาธรรมราชราท่ี ๑ พระมหาธรรมราชาที่ ๑ พระยาลิไท เป็ นโอรสของพ่อขุนเลอไทและเป็ นนัดดาของพ่อขุน รามคาแหงมหาราช ศิลาจารึกสุโขทยั กล่าวถึงเร่ืองราวของพระองคใ์ นตอนพระเจริญวยั แลว้ เป็น ส่วนมาก พระองค์ทรงปกครองเมืองศรีสัชนาลยั ในฐานะองค์อุปราชเมืองสุโขทยั เม่ือปี พ.ศ. ๑๘๘๒ และไดท้ รงพระราชนิพนธ์ ไตรภมู ิพระร่วง วรรณคดีชิ้นแรกของสยาม หลงั จากเสดจ็ ข้ึน ครองราชยแ์ ลว้ พระมหาธรรมราชาที่ ๑ พระยาลิไท เสดจ็ มาประทบั ณ เมืองสองแคว

เชื่อกนั วา่ พระบรมธาตทุ ่ีก่อข้ึนในสมยั ของพระองคน์ ้นั น่าจะเป็นพระบรมธาตแุ บบเจดียท์ รงพุ่ม ขา้ วบิณฑห์ รือเจดียท์ รงดอกบวั ตมู ดงั มีหลกั ฐานเหลือปรากฏอยทู่ ่ีวดั เจดียย์ อดทองและเชื่อกนั วา่ ไดท้ รงโปรดฯใหช้ ่างหล่อพระพุทธรูปสาคญั ข้ึน ๓ องค์ คือ พระพทุ ธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา

➢ แผนผงั พระราชวงั จนั ทน์ กรมศิลปากรไดเ้ ร่ิมทาการขดุ คน้ พระราชวงั จนั ทนใ์ นปี พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยนกั โบราณคดี จากหน่วยศิลปากรท่ี ๓ สุโขทัย (ในขณะน้ัน) จากหลักฐานทางโบราณคดีพบว่า พระราชวงั จนั ทน์ไดม้ ีการก่อสร้างเพิ่มเติมทบั ซ้อนกันมาอย่างน้อยสองหรือสามสมยั โดยเบ้ืองตน้ สันนิษฐานว่าสร้างในสมยั สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ซ่อมแซมบูรณะ คร้ังที่สองในสมัยสมเด็จพระนเรศวรและบูรณะอีกคร้ังในสมยั สมเด็จพระนารายณ์ มหาราชตอนปลายกรุงศรีอยธุ ยา

➢ สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ หรือ สมเด็จพระราเมศวรบรมไตรโลกนาถบพิตร มีพระ นามเดิมว่า สมเด็จพระราเมศวร หมายถึง \"พระพุทธเจา้ \" หรือ \"พระอิศวร\" พระราช สมภพท่ีอยธุ ยาเม่ือปี พ.ศ. 1974 แต่เติบโตและมีชีวิตในวยั เยาวท์ ่ีพิษณุโลกโดยเป็ นพระ ราชโอรสของสมเด็จพระบรมราชาธิบดีท่ี 2 (เจา้ สามพระยา) กบั พระราชธิดาของพระ มหาธรรมราชาที่ 2 แห่งสุโขทยั พระองคจ์ ึงเป็นเช้ือสายราชวงศส์ ุพรรณบุรีและราชวงศ์ พระร่วง ในช่วงแรกของการครองราชยเ์ ป็ นพระมหากษัตริยร์ ัชกาลท่ี 8 แห่งกรุงศรี อยุธยา ก็เสด็จมาประทบั ท่ีอยุธยา อีกคร่ึงหน่ึงเสด็จมาประทับท่ีพิษณุโลก เชื่อว่าคง เป็ นไปเพื่อการควบคุมดูแลหัวเมืองทางดา้ นเหนือ และคานอานาจของอาณาจกั รทาง เหนือ คือ อาณาจกั รลา้ นนา ซ่ึงกาลงั มีความเขม้ แข็งและตอ้ งการแผ่อานาจลงมาทางใต้ ในยคุ ของพระเจา้ ติโลกราชสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเสด็จสวรรคต เมื่อปี พ.ศ. 2031 เมื่อพระชนมายุ 57 พรรษา ทรงครองราชยไ์ ด้ 40 ปี ยาวนานที่สุดของอาณาจกั รอยุธยา และเป็นลาดบั 3 ของพระมหากษตั ริยไ์ ทยต้งั แตอ่ ดีตจนถึงปัจจุบนั พระองคป์ ระทบั อยทู่ ี่ กรุงศรีอยธุ ยาประมาณ 20 ปี ที่เหลือทรงประทบั ท่ีเมืองพษิ ณุโลกตลอดรัชกาล

➢ การยทุ ธหตั ถีของสมเดจ็ พระนเรศวร การยทุ ธหตั ถีที่สาคญั ปรากฏในประวตั ิศาสตร์ไทยมีอยู่ ๕ คร้ัง แตค่ ร้ังท่ีสาคญั ท่ีสุดใน ประวตั ิศาสตร์การสงครามของไทยคือ สงครามยทุ ธหตั ถีของสมเดจ็ พระนเรศวรกบั พระ มหาอุปราชา แห่งหงสาวดี เม่ือ พ.ศ.๒๑๓๕ ซ่ึงสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชทรงไดร้ ับชยั ชนะเหนือสมเดจ็ พระมหาอุปราชา การยทุ ธหตั ถีคร้ังน้นั มีผลทาใหก้ องทพั พมา่ ไมม่ าทา สงครามรุกรานกรุงศรีอยธุ ยาอีกนานนบั ร้อยปี

➢ สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. ๒๐๙๘ ณ เมือง พษิ ณุโลก พระนามเดิม พระองคด์ า หรือ พระนเรศวร เมื่อพระราชบิดาเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรจึงเสด็จข้ึนครองราชยเ์ มื่อวนั อาทิตยท์ ี่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๑๓๓ ขณะพระชนมายไุ ด้ ๓๕ พรรษา ทรงพระนามว่า สมเด็จพระนเรศวร หรือสมเดจ็ พระสรรเพชญท์ ี่ ๒

➢ พระเจา้ ตากสิน พระเจา้ ตากฯทรงนาไพร่พล ๓,๐๐๐ คน เขา้ ขบั ไล่กองทพั พม่า ท่ีต้งั อยู่ ณ ค่ายโพธ์ิสาม ตน้ ไดส้ าเร็จ พร้อมกบั ปราบดาภิเษกข้ึนเป็นพระมหากษตั ริย์ สถาปนากรุงธนบุรีเป็นราช ธานี ความเสียหายจากพิษภยั การรุกรานของพม่า เหลือเพียงแค่เมืองจนั ทบุรีที่ยงั คงเป็ น ปกติพระบรมรูปสมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราชท่ีประดิษฐานในศาลสมเด็จพระเจา้ ตาก สินมหาราช ณ วดั ปากพิงตะวนั ตก ตาบลงิ้วงาม อาเภอเมืองฯ จังหวดั พิษณุโลก แต่ กระน้ันแผ่นดินก็ยงั คงมีการแบ่งแยกออกเป็ นก๊กต่างๆ น่ันจึงเป็ นเหตุให้พระองค์ ตอ้ งการท่ีจะรวบรวมแผน่ ดินใหก้ ลบั มาเป็นหน่ึงเดียว โดยการทาศึกกบั ก๊กต่างๆ ซ่ึงหน่ึง ในก๊กที่สาคัญและมีบทบาทในประวัติศาสตร์การทาสงครามรวมแผ่นดิน คือก๊ก เจา้ พระยาพษิ ณุโลกแห่งเมืองพิษณุโลก

➢ แมท่ พั พม่าขอดูตวั พระยาจกั รี “อะแซหวนุ่ ก้ี” ตีหวั เมืองเหนือ ซ่ึงคร้ังน้นั อะแซหวนุ่ ก้ีแม่ทพั แก่พรรษาเป็นผูน้ าทพั พมา่ เขา้ โจมตีหวั เมืองฝ่ ายเหนือสมยั กรุงธนบุรี ซ่ึงฝ่ ายกรุงธนบุรีกม็ ีเจา้ พระยาจกั รีรอรับมือ แมท่ พั พมา่ ท่ีเมืองพิษณุโลก และฝีมือในการรบของเจา้ พระยาจกั รีก็ทาใหแ้ มท่ พั ใหญ่ ของพมา่ ประทบั ใจจนตอ้ ง “ขอดูตวั ” สถานท่ีท่ีขอดูตวั ปัจจุบนั น้ีอยตู่ รงขา้ มกบั สถานี ตารวจพษิ ณุโลกจะมีรูปป้ันของพระยาจกั รีอยสู่ ถานที่ตรงน้นั เป็นสถานที่ดูตวั กนั จริงๆ

➢ มงั คละ หรือ ป่ี กลอง, ปี่ ก วงมงั คละ หรือ ปี่ กลอง, ปี่ กลองมงั คละ เป็ นดนตรีช้นั สูงสาหรับพระพุทธศาสนาของอาณาจกั ร สุโขทยั โบราณ สันนิษฐานวา่ ดนตรีมงั คละน้นั รับธรรมเนียม \"มงคลเภรี\" มาจากศรีลงั กาก่อนท่ี จะกลายมาเป็ นดนตรีพ้ืนบา้ น ในชุมชนกลุ่มคนท่ีใชส้ าเนียงอาณาจกั รสุโขทยั โบราณ ปัจจุบนั พบการละเล่นอยใู่ นเขตภาคเหนือตอนล่าง สมเด็จเจา้ ฟ้ากรมพระยานริศรานุวดั ติวงศ์ บนั ทึกไว้ ในคราวตรวจการที่หัวเมืองพิษณุโลก เม่ือ พ.ศ. ๒๔๔๔ ไดย้ ินดนตรีดงั กล่าวบริเวณวดั สะกดั น้ามนั จึงไดเ้ รียกมาแสดงให้ดู ไดใ้ ห้ทศั นะต่อดนตรี \"มงั คละ\" ว่า \"เครื่องมงั คละน้ีเป็ นเครื่อง เบญจดุริยางคแ์ ท\"้ ปัจจยั สาคญั ที่ทาให้ดนตรีป่ี กลองมงั คละเสื่อมความนิยมในสมยั หลงั เนื่องจาก การเขา้ มามีบทบาทของดนตรีกลองยาว แตรวง และดนตรีสมยั ใหม่ ตามลาดบั ทาใหป้ ัจจุบนั วง มงั คละ ไดร้ ับข้ึนทะเบียนใหเ้ ป็น มรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม

➢ หอ้ งแนะนาจงั หวดั พษิ ณุโลก วดั จุฬามณี ต้งั อย่ทู ี่ ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ฝั่งตะวนั ออกของแม่น้าน่าน มีโบราณสถานท่ีสาคญั คือ พระปรางค์ พระอุโบสถ พระวิหาร และพระมณฑป พระพทุ ธบาท

ปรางคป์ ระธานศิลาแลง ที่เชื่อวา่ ประดิษฐานพระเกศาธาตุ ทรงอิทธิพลแบบขอมที่มีมุกก สันบันไดประตูหันหน้าไปทางทิศตะวนั ออก ส่วนยอดพระปรางค์ชารุดหักไป ตัว องคป์ ระกอบท่ีภายนอกประดบั ปูนและมีลายปูนป้ันตามคติโลกภูมิช้นั ฐานไพที ,มียกั ษ์ ภูต,สูงข้ึนไปมีลายหงส์คาบสร้อยดอกไมร้ อบองค์ปรางคท์ ่ีเป็นอตั ลกั ษณ์ ของพิษณุโลก แต่ละตวั ลวดลายต่างๆกนั จึงเป็ นหน่ึงเดียวและมีลายไทยตน้ แบบที่อ่อนช้อยลายเฟ่ื อง อุบะ,ลายกนก,ลายซุม้ ที่มีพญานาคตวั เหรา สูงข้ึนมีปูนป้ันเทพพนมฯลฯ ที่หาชมไดย้ าก นบั วนั จะชารุดหายไป

วดั พระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวหิ าร ไม่มีหลกั ฐานวา่ สร้างข้ึนเมื่อใด สันนิษฐานวา่ สร้างข้ึนก่อน สมยั สุโขทยั และเป็ นพระอารามหลวงมาแต่เดิม เพราะไดพ้ บหลกั ฐานศิลาจารึกสุโขทยั มีความ ว่า พ่อขนุ ศรีนาวนาถมทรงสร้างพระทนั ตธาตุสุคนธเจดีย์ ส่วนในพงศาวดารเหนือกล่าวไวว้ า่ \" ในราวพุทธศักราช ๑๙๐๐ พระเจ้าศรีธรรมไตรปิ ฎก (พระมหาธรรมราชาลิไท) ทรงเป็ น พระมหากษตั ริยค์ รองกรุงสุโขทยั ทรงมีศรัทธาเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนาเป็นอยา่ งยง่ิ ท้งั ยงั ได้ ทรงศึกษาพระไตรปิ ฎกและคมั ภีร์ศาสนาอื่น ๆ จนช่าชองแตกฉาน หาผูใ้ ดเสมอเหมือนไดย้ าก พระองคไ์ ดท้ รงสร้างวดั พระศรีรัตนมหาธาตุ ในฝ่ังตะวนั ออกของแม่น้าน่าน มีพระปรางคอ์ ยู่ กลาง มีพระวิหาร ๔ ทิศ มีพระระเบียง ๒ ช้นั และทรงรับส่ังให้ป้ันหุ่นหล่อพระพุทธรูปข้ึน ๓ องค์ เพ่ือประดิษฐานเป็ นพระประธานในพระวิหารท้ัง ๓ หลงั \"ต่อมาเม่ือ ปี พ.ศ. ๒๔๕๘ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯให้ยกข้ึนเป็ นพระอาราม หลวงช้นั เอก ชนิดวรมหาวิหาร เม่ือ พ.ศ. ๒๔๕๘ ปัจจุบนั จึงมีช่ือเตม็ วา่ วดั พระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวหิ าร

➢ หอ้ งเกบ็ คมั ภีร์ใบลาน ในยคุ สมยั น้ัน มีท้งั แบบจารึก ที่ปรากฏท้งั บนกอ้ นหิน แผน่ โลหะ และบนคมั ภีร์ใบลาน ที่บรรพบุรุษของเราบรรจงใชเ้ หลก็ แหลมกรีดใบลานให้เกิดเป็ นร่องรอยตวั อกั ษร ส่วนท่ี ปรากฏบนกระดาษที่ทาจากเปลือกไมน้ ้ันเรียกว่าสมุดไทยหรือสมุดข่อยภาษาท่ีใชเ้ ขียน บนใบลาน เพื่อใชส้ ื่อความหมายสร้างความเขา้ ใจให้แก่คนทว่ั ไป ส่วนใหญ่เป็ นเร่ืองใน พุทธศาสนาและมีความเชื่อว่าใบลานเป็ นของศกั ด์ิสิทธ์ิ ห้ามเขียนเร่ืองทางโลก แมบ้ าง ฉบบั จะมีบา้ งแต่ก็มีการโยงใยเกี่ยวขอ้ งกบั พระพุทธเจา้ พระโพธิสัตว์ ชาดก เน้ือเร่ือง ต้องสามารถสะท้อนเร่ืองการทาดีได้ดี ทาช่ัวได้ชั่ว หากต้องการบันทึกเร่ืองทางโลก ลว้ นๆ กจ็ ะเปล่ียนไปใชว้ สั ดุอ่ืนแทน เช่น ไมไ้ ผ่