แผนการจัดการเรยี นรหู นวยท1่ี ระบบสารสนเทศเบื้องตน นายจิรพิพฒั น วงษวัฒนะ วทิ ยาลัยเทคนิคปราจีนบรุ ี
หน่วยที่ 1 พื้นฐานเก่ียวกับเทคโนโลยีสารสนเทศสาระสาคญั เทคโนโลยีสารสนเทศในปจั จบุ ันมีการเปลีย่ นแปลงอย่างรวดเรว็ เม่อื เข้าสยู่ คุ สงั คมดิจิตอลท่มี ีการตดิ ตอ่ สอื่ สารกันด้วยความรวดเร็ว ทาใหเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศไม่ไดเ้ ปน็ เพียงเครอื่ งมือทใ่ี ช้สนับสนุนในการดาเนนิ กิจกรรมต่างๆ ใหส้ ะดวก และรวดเร็วขึ้นเท่าน้ัน แต่ได้กลายเปน็ ส่วนหนึ่งในการดาเนนิ ชีวติ ประจาวันของมนษุ ย์ดว้ ย ดังนั้นการปรับตัวใหท้ ันกบั ความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และสามารถใช้เป็นเครือ่ งมือในการเพิม่ ประสทิ ธภิ าพในการดาเนินงานจงึ เป็นส่งิ ที่จาเป็นอยา่ งมากสาหรบั ทุกคนหัวขอ้ เรือ่ ง 1. ความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ 3. องคป์ ระกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ 4. การประยกุ ต์เทคโนโลยสี ารสนเทศกับการพฒั นาประเทศ 5. นโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทย 6. ทศิ ทางของเทคโนโลยสี ารสนเทศในอนาคตสมรรถนะประจาหน่วย 1. แสดงความรู้เกยี่ วกบั หลกั การและระบบสบื คน้ จัดดาเนินการและส่อื สารข้อมูลสารสนเทศในงานอาชพี โดยใช้คอมพวิ เตอรอ์ ุปกรณ์โทรคมนาคม ระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ และสารสนเทศและโปรแกรมสาเร็จรูปท่ีเก่ยี วขอ้ ง
2จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เม่อื เรียนหน่วยการเรยี นน้แี ล้ว ผู้เรยี นสามารถ 1. บอกความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศได้ถูกตอ้ ง 2. อธบิ ายความสาคัญของเทคโนโลยสี ารสนเทศได้ถกู ต้อง 3. บอกองค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศได้ถกู ต้อง 4. แยกประเภทของฮาร์ดแวร์ไดถ้ กู ต้อง 5. แยกประเภทของซอฟตแ์ วรไ์ ด้ถกู ตอ้ ง 6. บอกหนา้ ทีข่ องบคุ ลากรที่เก่ยี วขอ้ งกับเทคโนโลยสี ารสนเทศได้ถกู ตอ้ ง 7. อธิบายเก่ยี วกบั การประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยใี นการพัฒนาประเทศได้ถูกต้อง 8. สามารถใช้ E-Learning ในการศึกษาได้อย่างเหมาะสม 9. พัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรมในดา้ นการมีระเบยี บวนิ ัย การตรงตอ่ เวลา ความรบั ผิดชอบความสนใจใฝ่รู้ และความซอ่ื สัตย์สุจรติ
3 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยที่ 1 เรอ่ื งพื้นฐานเกย่ี วกับเทคโนโลยีสารสนเทศคาสัง่ จงเลือกคาตอบทถี่ ูกต้องทส่ี ุดเพียงข้อเดียว1. ข้อใด กล่าวถงึ ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศถูกต้องที่สดุ ก. ความทนั สมัย ก้าวลา้ ในวทิ ยาศาสตร์ ข. วิทยาการทางดา้ นการจัดการข้อมูล ค. การประยุกต์ความรทู้ างดา้ นวทิ ยาศาสตรม์ าจัดการสารสนเทศ ง. การประยกุ ตค์ วามรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ประดิษฐ์สิง่ อานวยความสะดวก จ. ระบบเฉพาะเจาะจงท่ีเกย่ี วขอ้ งกับการผลติ ประมวลผล จัดเก็บและนาเสนอขอ้ มูล2. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ บทบาทสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ ก. ชว่ ยมนษุ ยส์ ามารถทางานไดท้ ุกที่ ทุกเวลา ข. ชว่ ยให้มนุษย์มีความเจริญกา้ วหนา้ มคี ุณธรรม จริยธรรมมากข้นึ ค. ชว่ ยใหม้ นษุ ย์สามารถตดิ ต่อสื่อสารกันไดอ้ ย่างสะดวก และรวดเรว็ ง. เกดิ การเปลี่ยนแปลงระบบการทางานเปน็ แบบระบบอัตโนมตั ิมากขึน้ จ. ช่วยใหม้ นุษย์สามารถเกบ็ ข้อมลู สารสนเทศได้อย่างมากมายและมปี ระสิทธิภาพ3. ขอ้ ใดกลา่ วถึง องค์ประกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศไดถ้ ูกต้องที่สุด ก. ฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์ บคุ ลากร ข้อมูล ข. อปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ อปุ กรณโ์ ทรคมนาคม อปุ กรณ์การสอ่ื สาร ค. หน่วยรับขอ้ มูล หน่วยประมวลผล หนว่ ยแสดงผล หน่วยเก็บข้อมลู ง. ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บุคลากร ขอ้ มูล กระบวนการทางาน การสื่อสารขอ้ มูล จ. หนว่ ยรับขอ้ มลู หน่วยประมวลผล หนว่ ยแสดงผล หน่วยเก็บข้อมลู หน่วยส่อื สารข้อมลู4. ข้อมูลทนี่ าเข้ามาใช้กบั คอมพวิ เตอร์ จะถูกแปลงใหอ้ ยูใ่ นรปู แบบใด ก. พกิ เซล ข. ตวั อักษร ค. สญั ลกั ษณ์ ง. ตวั เลขฐานสบิ จ. ตวั เลขฐานสอง5. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ี คือฮาร์ดแวร์ประมวลผลท้งั หมด ก. เมาส์ ซพี ยี ู จอยสตก๊ิ ข. ลาโพง ผู้ใช้ เมมโมรส่ี ตก๊ิ ค. ซพี ียู แผงวงจรหลัก ชปิ เซต ง. กล้องดิจิตอล หูฟงั สแกนเนอร์ จ. เคร่ืองฉายภาพ แผงวงจรหลัก สแกนเนอร์
46. Android จัดอย่ใู นซอฟต์แวร์ประเภทใด ก. โปรแกรมระบบปฏบิ ัติการ ข. โปรแกรมตวั แปลภาษา ค. โปรแกรมอรรถประโยชน์ ง. โปรแกรมบบี อดั ไฟล์ข้อมลู จ. โปรแกรมประยุกต์ใช้งานทว่ั ไป7. บุคลากรในข้อใด มีหน้าที่พัฒนา ทดสอบ และแก้ไขซอฟต์แวร์ ใหไ้ ด้ผลลัพธต์ ามท่ีตอ้ งการ ก. วิศวกรซอฟตแ์ วร์ ข. โปรแกรมเมอร์ ค. นักวิเคราะห์ระบบ ง. ช่างเทคนิคคอมพิวเตอร์ จ. ผบู้ รหิ ารระบบฐานขอ้ มูล8. เทคโนโลยีอีคอมเมิร์ช (E-Commerce) คือขอ้ ใด ก. การประกอบธรุ กรรมทางด้านการคา้ ผา่ นสือ่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ข. โครงการระบบเครือข่ายไร้สายสถาบันทางการศกึ ษา ค. การจดั กระบวนการเรียนการสอนผ่านส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์ ง. ระบบสารสนเทศเพือ่ การจัดการงานทางดา้ นการผลิต จ. ระบบการปรึกษาแพทย์ทางไกลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ9. ข้อใดคอื การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในดา้ นการแพทย์ ก. Digital Commerce ข. Industrial Robots ค. Telemedicine ง. E-Learning จ. E-Doctor10. ข้อใด ไมใ่ ช่ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศึกษา ก. E-Book ข. E-Learning ค. Computer Assisted Instruction ง. Video Teleconference จ. E-Government
51. ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสนเทศ (Information Technology : IT) หรอื ไอที มีบทบาทสาคัญอย่างมากต่อการดาเนนิ ชวี ติ ในยุคปัจจุบนั ซง่ึ เปน็ ยคุ ที่เทคโนโลยีทาใหม้ นษุ ยก์ า้ วสู่สังคมดิจิตอลอย่างเตม็รปู แบบ ด้วยวถิ ชี วี ิตท่พี ง่ึ พาอปุ กรณค์ อมพิวเตอร์ และอปุ กรณส์ ื่อสารเพือ่ เขา้ ถึงอนิ เตอรเ์ น็ต การเรียนรใู้ นปัจจบุ นั ใช้ช่องทางการเรยี นผา่ นทางออนไลน์มากขึ้น ดงั นัน้ จึงจาเป็นอย่างยง่ิ ท่จี ะตอ้ งเรียนรู้พื้นฐานเก่ยี วกับเทคโนโลยสี ารสนเทศใหเ้ ข้าใจอย่างถกู ต้อง มผี รู้ หู้ ลายท่านให้คาจากดั ความของเทคโนโลยีสารสนเทศไวด้ ังน้ี โอภาส เอ่ยี มสริ วิ งษ์ (2557 : 14) อธบิ ายวา่ เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีท่นี ามาใช้เพอ่ื การผลิต การจดั การ การจัดเก็บ การสอื่ สาร และการเผยแพร่ขอ้ มลู รวมถงึ คอมพวิ เตอร์ที่มกี ารเชื่อมโยงเข้ากับระบบส่ือสารความเร็วสูงเพื่อนาสง่ ขอ้ มูล เสยี ง และวิดโี อ พจนานุกรมคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศ (2557 : 180) ระบวุ า่ เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยขี องการจดั การขอ้ มูล และประมวลผลข้อมูล เศรษฐชยั ชยั สนิท (2558 : 4) อธบิ ายวา่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ คือ ความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยดี ้านต่างๆ ที่ทาให้เกิดวธิ กี ารใหมๆ่ ในการจัดเก็บความรู้ การส่งผา่ น และการส่ือสารสารสนเทศ การเข้าถงึ ขอ้ มลู สารสนเทศ รวมไปถึงการสรา้ งอตุ สาหกรรมสารสนเทศ ความตอ้ งการสารสนเทศ และการจัดการสารสนเทศให้มีประสิทธภิ าพ สุพรรษา ยวงทอง (2558 : 218) อธบิ ายวา่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ คอื การประยกุ ต์เอาความรทู้ างดา้ นวทิ ยาศาสตรม์ าจัดการสารสนเทศท่ตี ้องการ โดยอาศัยเครอื่ งมือทางเทคโนโลยีใหม่ๆเชน่ เทคโนโลยีดา้ นคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีด้านเครอื ขา่ ยโทรคมนาคมและการส่ือสาร ตลอดจนอาศยั ความรใู้ นกระบวนการดาเนินงานสารสนเทศในขน้ั ตอนต่างๆ ตงั้ แต่การแสวงหา การวิเคราะห์การจัดเก็บ รวมถึงการจัดการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนสารสนเทศดว้ ยเพอื่ เพิม่ ประสิทธภิ าพความถูกตอ้ ง แมน่ ยา และความรวดเรว็ ทนั ตอ่ การนามาใชป้ ระโยชน์ วิกพิ เี ดยี สารานกุ รมเสรี (2559 : ออนไลน์) อธบิ ายวา่ เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ การประยกุ ต์ใชค้ อมพิวเตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคม เพื่อจดั เกบ็ คน้ หา สง่ ผา่ น และจัดดาเนนิ การข้อมูล ซ่งึ มักเกย่ี วข้องกับธรุ กจิ หนึ่งหรือองค์การอนื่ ๆ โดยปกตกิ ็ใชแ้ ทนความหมายของเครอื่ งคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ และยงั รวมไปถงึ เทคโนโลยีการกระจายสารสนเทศอย่างอ่ืนเชน่ โทรทศั น์ และโทรศัพท์ อตุ สาหกรรมหลายอย่างเกีย่ วขอ้ งกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ จากความหมายดังกลา่ วข้างตน้ สรุปได้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ คอื การประยุกต์ใช้คอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคมมาจัดการสารสนเทศ ต้งั แตก่ ารผลติ การจัดเกบ็ การสืบคน้การจดั การ การส่ือสาร และการเผยแพรข่ อ้ มูล เพ่ือเพิม่ ประสิทธภิ าพ ความถกู ตอ้ ง รวดเร็วทันตอ่การนาไปใช้ประโยชน์
62. ความสาคญั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศ ในปจั จุบันเทคโนโลยสี ารสนเทศมกี ารเปลีย่ นแปลงอยา่ งมาก เมอ่ื เข้าสยู่ ุคสงั คมดิจติ อลทม่ี ีการตดิ ตอ่ สือ่ สารกันด้วยความรวดเรว็ และซับซ้อน ตลอดจนมกี ารแข่งขันท่ีรุนแรง ทาใหเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศไม่ไดเ้ ป็นเพียงเครื่องมือสนับสนุนในการดาเนนิ กจิ กรรมต่างๆ ใหส้ ะดวกและรวดเรว็ ข้นึเทา่ น้นั แต่ไดก้ ลายเปน็ ส่วนหนึ่งในชีวติ ประจาวนั ของมนษุ ย์ มีความสาคัญ และเกย่ี วขอ้ งกบั คนทุกระดบั ทัง้ ในระดับประเทศ ระดับองคก์ ร หรอื ระดับบุคคล ดงั นี้ ระดับประเทศ ตามนโยบายเศรษฐกิจและสังคมดิจติ อลของรัฐบาลให้มกี ารนาเทคโนโลยีสารสนเทศท่ที ันสมัย และหลากหลายมาเปล่ยี นแปลงวิธีการการดาเนนิ ชวี ติ ของประชาชน การดาเนนิธุรกิจ การดาเนนิ งานของภาครฐั ซึ่งจะสง่ ผลให้ประชาชนมีความรอบรู้ สามารถพัฒนา และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างรู้เทา่ ทนั มโี อกาสในการสรา้ งรายได้ และมีคุณภาพชวี ิตท่ีดขี ้ึน เกิดความมง่ั คงั่ ทางเศรษฐกิจท่ีแข่งขันได้ในเวทโี ลก และความมน่ั คงทางสงั คมของประเทศต่อไป ระดับองค์กร ในยุคของสังคมดิจิตอลท่ีทาให้สามารถทางานไดท้ ุกสถานท่ี และทกุ เวลาตลอด24 ช่ัวโมง ท้ังองคก์ รภาครฐั และเอกชนต้องพบกบั ข้อมลู จานวนมหาศาลอยา่ งหลกี เลี่ยงไม่ได้ ดงั นั้นความสามารถในการทางานผ่านเครอื ขา่ ยอินเตอร์เนต็ ความเขา้ ใจเครือข่ายสงั คมออนไลน์ การซ้อืสินค้าและบริการทางอินเตอร์เนต็ และการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างชาญฉลาด จึงเปน็ สิ่งจาเป็นเพื่อความอย่รู อดขององคก์ ร การดาเนินงานในองคก์ รจึงต้องมีเทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ เปน็ เคร่ืองมอื ช่วยในการปฏิบตั ิงานทีร่ วดเรว็ ชว่ ยเพ่มิ ผลผลติ ลดต้นทุน ใช้เปน็ กลยุทธ์เพอ่ื ความไดเ้ ปรยี บในการแขง่ ขนัสร้างความพงึ พอใจกับลกู คา้ หรอื กลมุ่ เปา้ หมาย และเกดิ ประสิทธภิ าพในการดาเนินงาน ระดบั บคุ คล สาหรับคนท่ัวไปเทคโนโลยีสารสนเทศช่วยใหเ้ ข้าถงึ ข้อมูลข่าวสาร สามารถพฒั นาตนเองใหเ้ ปน็ คนทฉี่ ลาด รเู้ ทา่ ทันสอื่ เท่าทันโลก และยงั เป็นเคร่ืองมอื ในการสรา้ งศกั ยภาพของบคุ คล ชว่ ยยกระดับคนไปสู่สังคมแห่งการเรยี นรู้ และสามารถนาไปใชใ้ นการประกอบอาชพี ไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพ นอกจากน้เี ทคโนโลยีสารสนเทศยงั เปน็ ส่วนหนึง่ ในดาเนินชวี ติ ประจาวนั ของคนปัจจุบนั เช่นดูรายการโทรทัศนผ์ ่านเครอื ขา่ ยสังคมออนไลน์ ซอ้ื สินค้าผ่านทางอนิ เตอร์เนต็ จองต๋วั เดนิ ทางแบบออนไลน์ การลงทะเบียนหรือดผู ลการเรยี นทางเว็บไซต์ เป็นตน้ นอกจากนี้เทคโนโลยสี ารสนเทศยังมีความสาคญั และเกีย่ วขอ้ งกับคนทกุ ระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักเรยี น นักศกึ ษา ขา้ ราชการ ผู้ประกอบการ ผบู้ ริหาร นักธุรกิจ หรือบคุ คลทว่ั ไป ดงั นนั้ ในฐานะนกั เรียน นกั ศกึ ษาจงึ จาเป็นตอ้ งมีทกั ษะในการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้เป็นเคร่ืองมือสาหรับการแสวงหาความรู้อย่างถกู วิธี นามาปรบั ใช้อย่างถกู ต้อง และเกิดประโยชน์สงู สดุ สามารถนาองค์ความรทู้ ่มี อี ยูม่ าบูรณาการเชงิ สรา้ งสรรค์ เพอื่ พฒั นานวัตกรรมตา่ งๆ ใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ ละสามารถตอบสนองความต้องการของสงั คม และมีทักษะในการปฏสิ ัมพนั ธ์กับคนในสังคมปกติ และในสงั คมออนไลน์ เพ่อื ทีจ่ ะสามารถทางาน หรอื อยรู่ ่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข
73. องคป์ ระกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ เปน็ การนาเอาเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์มาทางานรว่ มกบั เทคโนโลยีการส่ือสาร เพือ่ ใชใ้ นการจดั การสารสนเทศให้เกดิ ประโยชน์ในการนาขอ้ มลู มาประมวลผลและส่อื สารสารสนเทศไปยังผ้ทู ่ีเกย่ี วขอ้ งไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ซง่ึ องค์ประกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศมี 6 สว่ น ดังน้ี 1) ฮาร์ดแวร์ (Hardware) 2) ซอฟตแ์ วร์ (Software) 3) บคุ ลากร (People) 4) ข้อมลู (Data) 5) กระบวนการทางาน (Procedure) 6) การสอื่ สารขอ้ มูล (Data Communication) ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ซอฟตแ์ วร์ (Software)กระบวนการทางาน การสือ่ สารขอ้ มูล (Procedure) (Data Communication) บุคลากร (People)ขอ้ มลู (Data) ภาพท่ี 1.1 แสดงองค์ประกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ ที่มา : สายฝน ซาทรง, [2559]
8 3.1 ฮาร์ดแวร์ ฮาร์ดแวร์ (Hardware) เปน็ อปุ กรณท์ ่ีสามารถจับต้องได้ ใชส้ าหรบั จดั การข้อมูล โดยจะทางานประสานกนั ต้ังแตก่ ารรับข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ และการเกบ็ ขอ้ มลู เพ่อื ให้ไดส้ ารสนเทศตามท่ีต้องการ สามารถแบง่ ประเภทของฮาร์ดแวร์ตามหนา้ ท่ีได้ 4 ประเภทดังน้ี 3.1.1 อุปกรณ์รบั ขอ้ มลู อุปกรณ์รบั ขอ้ มลู (Input Device) เปน็ อุปกรณ์ท่ีทาหนา้ ท่รี ับข้อมูล ทอ่ี าจอยใู่ นรูปแบบตัวอักษร ตวั เลข รปู ภาพ เสยี ง หรอื คาสงั่ ต่างๆ จากมนษุ ย์ แล้วแปลงใหอ้ ยู่ในรปู แบบท่ีระบบคอมพิวเตอรเ์ ขา้ ใจ เพื่อสง่ ไปประมวลผลตอ่ อปุ กรณ์รบั ขอ้ มลู ท่ีนิยมใชก้ นั อย่างแพร่หลาย เชน่ เมาส์แป้นพิมพ์ เครอื่ งสแกน เครอ่ื งอา่ นบารโ์ คด้ จอสัมผสั ปากกาป้อนขอ้ มูล กลอ้ งดจิ ิตอล เวบ็ แคมจอยสติ๊ก และ ไมโครโฟน เป็นตน้ ตัวอย่างของอุปกรณ์รับข้อมลู ดังแสดงในภาพท่ี 1.2แป้นพิมพ์ (Keyboard) เมาส์ (Mouse)เครอื่ งสแกน (Scanner) เคร่ืองอ่านบารโ์ ค้ด (Barcode Reader)จอสัมผสั (Touch Screen) ปากกาป้อนข้อมลู (Stylus)กล้องดิจติ อล (Digital Camera) เวบ็ แคม (Web Cam)จอยสติก๊ (Joystick) ไมโครโฟน (Microphone) ภาพท่ี 1.2 แสดงตวั อยา่ งของอุปกรณร์ บั ขอ้ มลู ท่มี า : สายฝน ซาทรง, [2559]
9 3.1.2 อุปกรณป์ ระมวลผล อุปกรณ์ประมวลผล (Process Device) เปน็ อุปกรณ์ท่ที าหน้าที่นาขอ้ มูลทีไ่ ด้รบัมาจากอุปกรณร์ บั ข้อมูลมาคานวณ ประมวลผลตามคาสงั่ ทีก่ าหนดไว้ เพอ่ื สง่ ใหร้ ะบบต่อไป เชน่ ซพี ยี ูชปิ เซต แผงวงจรหลัก แรม รอม ตวั อย่างของอปุ กรณ์ประมวลผลดังแสดงในภาพที่ 1.3ซีพยี ู (Central Processing Unit) แผงวงจรหลัก (Mainboard) ชปิ เซต (Chipset)แรม (RAM) รอม (ROM) ภาพที่ 1.3 แสดงตวั อยา่ งของอุปกรณ์ประมวลผล ที่มา : สายฝน ซาทรง, [2559] 3.1.3 อปุ กรณแ์ สดงผลลพั ธ์ อปุ กรณ์แสดงผลลพั ธ์ (Output Device) เปน็ อุปกรณท์ ี่ทาหน้าทแี่ ปลงข้อมลู ที่ผ่านการประมวลผล มาแสดงให้อยู่ในรปู แบบท่มี นษุ ย์สามารถเข้าใจได้ เชน่ จอภาพ เครอ่ื งพิมพ์เครอื่ งวาด เครือ่ งฉายภาพ ลาโพง เป็นต้น ตัวอย่างของอุปกรณแ์ สดงผลลัพธด์ ังแสดงในภาพท่ี 1.4 จอภาพ (Monitor) เครื่องพิมพ์ (Printer) เครื่องวาด (Plotter)เคร่ืองฉายภาพ (Projector) ลาโพง (Speaker)ภาพที่ 1.4 แสดงตัวอยา่ งของอปุ กรณ์แสดงผลลัพธ์ ที่มา : สายฝน ซาทรง, [2559]
10 3.1.4 อปุ กรณเ์ กบ็ ขอ้ มลู อปุ กรณ์เก็บขอ้ มลู (Storage Device) เปน็ อปุ กรณท์ ่ีทาหนา้ ท่ีจดั เก็บ บันทกึขอ้ มูล สารสนเทศ หรือคาสง่ั ตา่ งๆ เพอ่ื นามาใช้ประโยชนใ์ นอนาคต ซึง่ มใี ห้เลือกใชอ้ ยา่ งหลากหลายตามความเหมาะสมในการใช้งาน เช่น ฮารด์ ดิสก์ ออปตคิ อลดสิ ก์ แฟลชไดรฟ์ โซลดิ สเตดไดรฟ์ การ์ดหน่วยความจา สมารท์ การ์ด เป็นต้น ตวั อย่างของอปุ กรณ์เก็บขอ้ มลู ดงั แสดงในภาพท่ี 1.5 ฮารด์ ดิสก์ (Hard Disk) ออปติคอลดสิ ก์ (Optical Disk) แฟลชไดร์ฟ (Flash Drive) โซลดิ สเตดไดร์ฟ (Solid State Drive) การด์ หนว่ ยความจา (Memory Card) สมารท์ การด์ (Smart Card) ภาพที่ 1.5 แสดงตวั อย่างของอปุ กรณ์เก็บข้อมูล ทมี่ า : สายฝน ซาทรง, [2559] ฮารด์ แวร์ คอื อปุ กรณท์ ี่สามารถจบั ตอ้ งได้ แบง่ เป็นฮารด์ แวรส์ าหรบั การนาเขา้ ขอ้ มูลการประมวลผล การแสดงผล และการจัดเก็บขอ้ มูล ปจั จุบนั ฮาร์ดแวรม์ ีการเปล่ียนแปลงและพฒั นาอยา่ งรวดเรว็ โดยมขี นาดเล็กลงทาให้สะดวกตอ่ การพกพา แต่มีสมรรถนะสูงขนึ้ ปฏิบัตงิ านไดห้ ลายอยา่ ง สามารถวเิ คราะหข์ ้อมลู เชงิ ลกึ แจ้งเตือนหรือคาดการณ์เรื่องตา่ งๆ ท่ีอย่รู อบตวั ไดล้ ว่ งหนา้ทาให้คุณภาพชวี ติ ของมนุษย์ดีข้ึน สามารถตอบสนองความต้องการไดห้ ลากหลายรูปแบบเหมาะกบัการนาไปใช้ในชีวติ ประจาวันของมนษุ ย์ทแี่ ตกตา่ งกัน
11 3.2 ซอฟต์แวร์ ซอฟตแ์ วร์ (Software) หรอื โปรแกรม เปน็ ชดุ คาสั่งท่ีพัฒนาข้ึนสาหรับควบคุมให้ฮารด์ แวร์ทางานตามข้นั ตอนท่กี าหนดไว้ เพ่ือประมวลผลข้อมูลให้เปน็ สารสนเทศในรูปแบบท่ีต้องการการเลอื กใชซ้ อฟตแ์ วร์ตา่ งๆ ควรพจิ ารณาถึงสทิ ธิในการใช้งานเนื่องจาก ซอฟตแ์ วรม์ ที ้งั แบบมีลขิ สิทธ์ิแชรแ์ วร์ ฟรแี วร์ และซอฟตแ์ วร์สาธารณะ สามารถแบง่ ซอฟต์แวร์ตามลกั ษณะการทางานได้เปน็ 2ประเภท ดังนี้ 3.2.1 ซอฟต์แวร์ระบบ ซอฟต์แวรร์ ะบบ (System Software) เปน็ ซอฟตแ์ วร์ที่พัฒนาข้ึนเพ่ือควบคมุการทางานของคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณต์ า่ งๆ ใหท้ างานอย่างมปี ระสิทธภิ าพและสอดคลอ้ งกนัรวมถึงเป็นตวั กลางเชอื่ มโยงระหวา่ งฮาร์ดแวร์และมนษุ ย์ให้สามารถทางานร่วมกนั ได้ ซอฟต์แวรร์ ะบบแบง่ ตามหน้าท่ไี ดเ้ ป็น 3 ประเภท คอื ระบบปฏิบัตกิ าร ตัวแปลภาษา และโปรแกรมอรรถประโยชน์ 3.2.1.1 ระบบปฏบิ ตั กิ าร (Operating System : OS) หรือ โอเอส เป็นซอฟตแ์ วร์ ท่ีทาหนา้ ท่ีควบคมุ ฮาร์ดแวร์ให้ทางานอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ จัดสรรทรพั ยากรต่างๆ ให้กบัซอฟต์แวร์ประยุกต์อย่างเหมาะสม และเปน็ ตวั กลางที่ทาให้ผใู้ ชง้ าน และฮาร์ดแวร์สามารถทางานรว่ มกนั ได้ อยา่ งถกู ตอ้ ง ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ ระบบปฏิบตั ิการมหี ลายชนิด ชนดิ ท่ีใชง้ านกบั เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ทวั่ ไป เช่น ระบบปฏิบัติการดอส (DOS), ระบบปฏิบัตกิ ารวินโดวส์ (Windows OS) และระบบปฏิบัติการแมค (Mac OS) เป็นตน้ ชนิดทใี่ ชก้ ับระบบเครือข่าย เช่น ระบบปฏบิ ัติการวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ (Windows Server), ระบบปฏบิ ัติการยูนิกซ์ (Unix) และระบบปฏิบตั กิ ารลีนุกซ์ (Linux)เปน็ ตน้ และชนิดท่ใี ช้กับอุปกรณ์เคลื่อนท่ี เชน่ ระบบปฏิบตั กิ ารวนิ โดวสโ์ ฟน (Windows Phone)ระบบปฏบิ ตั ิการไอโอเอส (iOS) และระบบปฏบิ ัติการแอนดรอยด์ (Android) เปน็ ต้น ตัวอย่างระบบปฏบิ ัติการดงั แสดงในภาพท่ี 1.6 ภาพท่ี 1.6 แสดงตวั อยา่ งระบบปฏิบตั กิ าร ทม่ี า : สายฝน ซาทรง, [2559]
12 3.2.1.2 ตวั แปลภาษา ตัวแปลภาษา (Language Translator) เปน็ ซอฟตแ์ วร์ทท่ี าหนา้ ที่เปน็ ตัวกลางในการแปลชุดคาส่ังทผ่ี ู้เขียนโปรแกรมเขยี นข้ึนดว้ ยภาษาระดบั สูง ทเ่ี รยี กวา่ โปรแกรมตน้ ฉบับ (Source Code) ให้เปน็ ภาษาทีเ่ คร่ืองคอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจและปฏบิ ตั ิตามคาสั่งได้ทเี่ รยี กว่าภาษาเครือ่ ง (Machine Language) ซ่ึงประกอบด้วยรหัสเลขฐานสอง (0 และ 1) เท่าน้นัตวั แปลภาษาสามารถแบง่ ตามลกั ษณะการทางานได้เป็น 3 ประเภท ดงั น้ี 1) คอมไพเลอร์ (Complier) เปน็ ตวั แปลภาษาระดับสูง โดยใช้หลักการแปลโปรแกรมต้นฉบบั ท้งั หมด แล้วบันทึกไว้ในลักษณะของแฟ้มข้อมูล หรอื ไฟล์ เมือ่ ต้องการเรียกใชง้ านโปรแกรมกส็ ามารถเรยี กจากไฟล์ทีเ่ ก็บไว้ โดยไมต่ อ้ งทาการแปลอีก ทาให้การทางานเปน็ ไปอยา่ งรวดเร็ว ตวั อยา่ งโปรแกรมภาษาทีใ่ ชต้ ัวแปลคอมไพเลอร์ เช่น ภาษาโคบอล (COBOL),ภาษาซี (C) และภาษาจาวา (JAVA) เปน็ ตน้ 2) อนิ เทอรพ์ รีเตอร์ (Interpreter) เปน็ ตวั แปลภาษาระดบั สูงเชน่ เดยี วกับคอมไพเลอร์ แต่จะแปลพร้อมกับทางานตามคาส่ังทีละคาส่งั ไปจนจบโปรแกรม ทาให้การแกไ้ ขโปรแกรมกระทาไดง้ า่ ย ตวั อย่างภาษาที่ใช้ตัวแปลอนิ เทอรพ์ รเี ตอร์ เชน่ ภาษาเบสิก(BASIC), ภาษาพีเอชพี (PHP) และภาษาเพิรล์ (Perl) เปน็ ตน้ 3) แอสเซมเบลอ (Assembler) เป็นตวั แปลภาษาสัญลกั ษณ์ หรอืภาษาแอสเซมบลี (Assembly) ซ่งึ เป็นภาษาระดบั ต่าให้เป็นภาษาเครือ่ งโปรแกรมต้นฉบบั (Source Code) ภาษาเครอื่ ง (Machine Language)ตวั แปลภาษา (Language Translator)ผู้เขียนโปรแกรม (Programmer) เคร่ืองคอมพิวเตอร์ (Computer)ภาพที่ 1.7 แสดงการทางานของโปรแกรมตวั แปลภาษา ทม่ี า : สายฝน ซาทรง, [2559]
13 3.2.1.3 โปรแกรมอรรถประโยชน์ โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility Program) เป็นซอฟต์แวรท์ ่ีทาหน้าทบี่ ารุงรกั ษา ชว่ ยเพ่มิ ประสิทธภิ าพในการทางานของคอมพิวเตอร์ ให้สามารถทางานไดง้ า่ ยสะดวก รวดเรว็ และปลอดภัยยงิ่ ขึน้ โปรแกรมอรรถประโยชน์มหี ลากหลายประเภท ในท่ีนจี้ ะกลา่ วถงึ บางประเภทท่จี าเป็นสาหรับการใชง้ าน (รุ่งรัศมี บุญดาว, 2559 : 79) ดังนี้ 1) โปรแกรมตรวจสอบขอ้ ผิดพลาด (Diagnostic Program) เปน็ซอฟตแ์ วร์ทใ่ี ช้ในการตรวจสอบขอ้ ผิดพลาดของฮารด์ แวร์และซอฟตแ์ วร์ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ตัวอย่างโปรแกรมตรวจสอบขอ้ ผิดพลาด เช่น Sidebar diagnostics,CCleaner และ TuneUp Utilities เป็นตน้ 2) โปรแกรมปอ้ งกนั ไวรสั (Antivirus Program) เปน็ ซอฟต์แวร์ที่ใช้ตรวจสอบ ปอ้ งกัน และกาจัดโปรแกรมที่จะทาให้ระบบคอมพิวเตอรเ์ กดิ ความเสียหาย มีปัญหาในการทางาน ไดแ้ ก่ ไวรัส เวริ ม์ สปายแวร์ ม้าโทรจัน สเปมเมล์ เปน็ ต้น ตัวอย่างโปรแกรมปอ้ งกันไวรสัทใ่ี ชก้ ันอย่างแพรห่ ลาย เชน่ ESET, Nod32, Avira และ Panda เปน็ ต้น 3) โปรแกรมสารองขอ้ มลู (Backup Program) เป็นซอฟตแ์ วรท์ ใ่ี ช้สาหรบั สาเนาขอ้ มูลสาคัญ เพ่ือปอ้ งกนั ขอ้ มลู ตน้ ฉบับสญู หาย ตวั อย่างโปรแกรมสารองขอ้ มลู เชน่File History และ Time Machine เปน็ ตน้ 4) โปรแกรมบีบอดั ไฟล์ (Compression Program) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สาหรับลดขนาดของไฟลใ์ ห้เลก็ ลง เพอ่ื ประหยัดเน้ือทใ่ี นการเกบ็ ข้อมลู และเพ่มิ ความเร็วในการส่งไฟลข์ อ้ มลู ผ่านอินเตอรเ์ นต็ ตัวอย่างโปรแกรมบบี อดั ไฟล์ เชน่ WinRAR, WinZip และ 7-Zip เป็นต้น ภาพท่ี 1.8 แสดงตวั อย่างโปรแกรมอรรถประโยชน์ ท่ีมา : [Online], http://smkn2takalarbisa.blogspot.com, [2559]
14 3.2.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ซอฟต์แวรป์ ระยุกต์ (Application Software) เป็นโปรแกรมที่พัฒนาข้ึนเพือ่ ใช้สาหรบั ทางานด้านตา่ งๆ ตามความต้องการของผใู้ ชง้ าน คุณสมบตั ิการใช้งานคอ่ นขา้ งหลากหลายขน้ึ อยกู่ ับการเลือกนาไปใชง้ านใหเ้ หมาะสม เช่น การพิมพ์เอกสาร การตกแต่งออกแบบ หรอื เพือ่ความบันเทิง ในปัจจุบันมีโปรแกรมประเภทนี้มมี ากมาย สามารถแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ดงั นี้ 3.2.2.1 โปรแกรมประมวลผลคา (Word Processor) เป็นโปรแกรมทีใ่ ช้สาหรับงานพิมพ์เอกสารรายงานตา่ งๆ ท่สี ามารถแกไ้ ข และจดั เก็บไฟลเ์ อกสารลงบนสื่อบันทึกไดต้ ามความต้องการ มกี ารนาไปใชง้ านท้ังบุคคลทัว่ ไป และในหน่วยงานต่างๆ เช่น นักศกึ ษาใช้ในการพมิ พ์รายงาน หน่วยงานราชการใช้ในการพิมพห์ นังสอื ราชการ แผน่ พบั เอกสารประชาสัมพนั ธ์ สานักพิมพ์ใช้ในการพมิ พว์ ารสาร นิตยสาร และหนงั สือ ตัวอย่างโปรแกรมประมวลผลคา เชน่ Microsoft Word,OpenOffice Writer และ Google Docs 3.2.2.2 โปรแกรมตารางคานวณ (Spread Sheet) เป็นโปรแกรมทใ่ี ช้สาหรบัสร้างตาราง คานวณค่าตวั เลข สรา้ งแผนภมู ิ วิเคราะห์ขอ้ มูล รายงานทางการเงิน โปรแกรม มีลกั ษณะเป็นชอ่ งตาราง ท่ีเรียกวา่ เซลล์ สามารถใชส้ ูตรคานวณ และฟงั ก์ชน่ั ตา่ งๆ ที่โปรแกรมมใี หไ้ ด้ตามความเหมาะสมของงาน มกี ารนาไปใช้งานในหน่วยงานตา่ งๆ เช่น สถานศกึ ษาใช้ในการบันทกึ คะแนนคานวณผลการเรียน หนว่ ยงานราชการใช้ในการคานวณ วิเคราะห์งบประมาณการเงนิ องคก์ รเอกชนใชว้ ิเคราะห์ยอดขายสนิ ค้า ตัวอย่างโปรแกรมตารางงาน เช่น Microsoft Excel, OpenOffice Calcและ Google Sheets 3.2.2.3 โปรแกรมนาเสนอ (Presentation) เปน็ โปรแกรมทีใ่ ช้สาหรบั ถา่ ยทอดขอ้ มลู ขา่ วสาร ในรูปแบบของสไลด์ สามารถนาเสนอแนวคิด เน้อื หา รูปภาพ เสยี ง วิดีโอหรอื เทคนิคการเคล่อื นไหว เพอ่ื ดงึ ดดู ความสนใจ จึงถกู นามาใช้งานอยา่ งกวา้ งขวาง เชน่ ใชใ้ นการทาสอ่ื ประกอบการเรียนการสอน การประชมุ สัมมนา การเสนอขายสนิ ค้า ตัวอยา่ งโปรแกรมนาเสนอ เชน่ MicrosoftPowerPoint, OpenOffice Impress และ Google Slices 3.2.2.4 โปรแกรมฐานข้อมลู (Database) เป็นโปรแกรมทใ่ี ช้สาหรับจัดการข้อมลู โดยมีเคร่อื งมือสาหรบั สร้าง แก้ไข บนั ทึก ค้นหา และรายงานข้อมลู ทาใหผ้ ใู้ ช้งานสามารถเรียกใชข้ ้อมลู ไดโ้ ดยสะดวกรวดเรว็ ทุกองค์กรลว้ นแล้วแตม่ ีความจาเปน็ ในการนาโปรแกรมฐานขอ้ มูลมาบริหารจัดการขอ้ มูลของตนเองใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ ทันตอ่ การใช้งาน เชน่ สถานศกึ ษามีฐานข้อมลู ท่ีใช้จัดการขอ้ มลู นกั ศึกษา ผลการเรียน รายวิชา ครผู ู้สอน โรงพยาบาลมฐี านขอ้ มลู เพอ่ื ใช้ในการจดั การข้อมูลผู้ป่วย การรกั ษา ยารกั ษาโรค บุคลกรทางการแพทย์ บริษทั มีฐานขอ้ มลู เพื่อใช้ในการจดั การขอ้ มลู ลกู ค้า สินค้า การขาย การแขง่ ขนั ทางการตลาด ตวั อยา่ งโปรแกรมฐานข้อมลู เช่น MicrosoftAccess, Oracle และ Visual FoxPro 3.2.2.5 โปรแกรมสาหรับงานทางดา้ นกราฟิก และมัลติมเี ดยี (Graphic andMultimedia) ใช้สาหรบั งานทางดา้ นการออกแบบ ตกแต่งภาพ วาดรปู ปรบั เสยี ง ตดั ต่อคลปิ วีดโิ อภาพเคลือ่ นไหวรวมถงึ การสรา้ ง และพฒั นาเวบ็ ไซต์ ตัวอย่างโปรแกรมประเภทน้ี เช่น AdobePhotoshop, Hear, CorelDraw, Camera360, Adobe Premiere และ Apple iMovie
15 3.2.2.6 โปรแกรมสาหรับการติดตอ่ ส่อื สาร (Communication) ใช้สาหรบัตดิ ตอ่ ส่ือสารผ่านระบบเครือข่ายหรอื อนิ เตอร์เนต็ เช่น ใช้จัดการอีเมล์ ใช้ประชุมทางไกล ถ่ายโอนไฟล์ขอ้ มูล สนทนาออนไลน์ ตวั อย่างโปรแกรมประเภทนี้ เชน่ Google Chrome, InternetExplorer, FTP, Conference Me และ Line 3.2.2.7 โปรแกรมประยกุ ตอ์ ื่น ๆ เปน็ โปรแกรมประยกุ ต์ทน่ี อกเหนอื จากท่ีกลา่ วมาแล้ว เช่นโปรแกรมประยุกต์เฉพาะองคก์ รทีพ่ ัฒนาขึน้ เพอื่ ใชใ้ นองค์กรของตนเองเทา่ นน้ัเชน่ โปรแกรมระบบบริหารจดั การอาชีวศึกษา โปรแกรมระบบจัดการคลงั สนิ ค้าMicrosoft Word Microsoft Excel Microsoft Power PointMicrosoft Access Adobe Photoshop Google Chrome ภาพท่ี 1.9 แสดงตัวอยา่ งโปรแกรมประยกุ ต์ ที่มา : สายฝน ซาทรง, [2559] ซอฟต์แวร์ ในปจั จุบนั ถกู พฒั นาให้ใชง้ านไดง้ า่ ย เนน้ ให้มคี วามเปน็ ธรรมชาติใกล้เคียงกับการดาเนินชวี ิตประจาวันของมนุษย์มากยิง่ ขน้ึ เชน่ การใช้เสียง การแสดงสหี นา้ เพ่อื สงั่ ใหฮ้ ารด์ แวร์ทางาน นอกจากน้ยี งั มีการให้บริการซอฟแวร์ผา่ นทางอินเตอรเ์ น็ต ผใู้ ช้สามารถใชซ้ อฟต์แวร์ได้ทุกท่ีทกุ โอกาส โดยไม่ตอ้ งติดตง้ั ซอฟต์แวร์ เนอ่ื งจากซอฟต์แวรเ์ หลา่ นั้นจะถูกติดตั้ง และทางานบนเครื่องเซิร์ฟเวอรข์ องผใู้ ห้บริการ
16 3.3 บคุ ลากร (People) บคุ ลากร เปน็ บคุ คลท่ีปฏิบัติงานเกีย่ วข้องกับเทคโนโลยสี ารสนเทศ หรอื ไอที ซ่ึงบุคลากรเป็นองคป์ ระกอบสาคัญที่สุด เพราะถา้ บุคลากรมีความรู้ความสามารถ และทักษะในการใช้งานด้านไอทีเปน็ อยา่ งดี กจ็ ะสามารถนาประโยชน์ของไอทีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสดุ เกิดประสทิ ธภิ าพในการปฏิบตั งิ าน และไดผ้ ลลพั ธต์ ามเปา้ หมายท่ตี อ้ งการ บคุ ลากรท่ีเกีย่ วข้องกับไอทีเชน่ ผู้ใชง้ าน ช่างเทคนิค นักวเิ คราะห์ระบบ โปรแกรมเมอร์ มหี นา้ ท่แี ละลกั ษณะการทางานท่ีแตกตา่ งกัน ตวั อยา่ งอาชพี และลักษณะงานท่ีเกยี่ วข้องกบั ไอทีดังแสดงในตารางท่ี 1.1ตารางท่ี 1.1 แสดงลกั ษณะการทางานของอาชพี ทางดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศ อาชพี ลักษณะการทางานชา่ งเทคนิค แก้ปัญหาทีเ่ กิดขึ้นกับระบบสารสนเทศในหน่วยงานให้สามารถใช้นกั วเิ คราะหร์ ะบบ งานไดต้ ามปกติโปรแกรมเมอร์วศิ วกรซอฟตแ์ วร์ วิเคราะห์และออกแบบระบบงานให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ผู้ดูแลระบบเครอื ขา่ ย และผูท้ ีเ่ กี่ยวข้องเว็บมาสเตอร์ พฒั นา ทดสอบ และแกไ้ ขโปรแกรม ให้ได้ผลลัพธต์ ามที่ตอ้ งการไอทีซัพพอร์ต วเิ คราะห์ พฒั นา รวมถงึ ตรวจสอบ แก้ไขซอฟตแ์ วร์ที่พฒั นาขน้ึ อย่างมีแบบแผน โดยอาศยั หลกั ทางวศิ วกรรมศาสตร์ ดูแล จัดการทรัพยากร ปอ้ งกนั การบุกรุกในเครอื ข่ายขององคก์ ร ให้สามารถทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้าง ออกแบบเวบ็ ไซต์ พัฒนาและดูแลเวบ็ ไซต์ ให้มคี วามทนั สมัย เปน็ ปจั จุบนั ใหค้ าปรึกษา และจัดการปัญหาเทคโนโลยสี ารสนเทศที่ผู้ใชง้ าน ประสบโดยทวั่ ไป เชน่ ปญั หาเรื่องฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์ ระบบเครอื ขา่ ย เป็นต้น บคุ ลากรที่มีความรู้ ความเชย่ี วชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ จะเปน็ ท่ีต้องการของภาคธุรกจิ มากขึน้ เนอ่ื งจากเทคโนโลยเี ข้ามามบี ทบาทในการเปลี่ยนแปลงโลก ทกุ สิ่งอยา่ งสามารถเชือ่ มต่อผ่านระบบอินเตอรเ์ น็ต ประกอบกบั ภาครฐั ท่ีมีนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy)ออกมาสนบั สนนุ ซ่งึ เปน็ การขบั เคล่อื นเศรษฐกิจของประเทศโดยการนาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใชเ้ พื่อเพิม่ ผลผลติ เพ่มิ ผลงาน โดยใช้เวลาน้อยลง สร้างมลู ค่าเพมิ่ ให้แก่สินคา้ และบริการต่างๆเพ่อื ใหส้ ามารถแข่งขันกบั ตา่ งชาติได้ อีกหนึง่ ปจั จัยสาคัญท่ีทาใหอ้ าชีพด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศของประเทศไทยมีการตน่ื ตวั มากขึน้ คอื การก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี นนัน่ เอง
17 3.4 ข้อมลู ขอ้ มูล (Data) เป็นข้อเทจ็ จรงิ ต่างๆ ที่เกยี่ วกับบคุ คล สถานท่ี สงิ่ ของ หรอื เหตกุ ารณ์ทยี่ ังไมผ่ า่ นการประมวลผล ข้อมูลเป็นองค์ประกอบท่ีมีความสาคญั เพราะการทางานของเทคโนโลยีสารสนเทศจะเก่ียวขอ้ งกบั ข้อมลู ตั้งแตก่ ารนาเขา้ การประมวลผล เพอ่ื ให้ได้ขอ้ มลู ท่ีสามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้ท่ีเรยี กว่า สารสนเทศ (Information) ขอ้ มูลท่ีคอมพวิ เตอรส์ ามารถนามาประมวลผลได้มหี ลายรปู แบบ เช่น ตัวเลข ตัวอกั ษร ภาพน่ิง ภาพเคล่ือนไหว และเสยี ง ดงั นี้ 3.4.1 ตวั เลข ตัวเลข (Numeric) เป็นขอ้ มลู ทีเ่ ป็นจานวน เชงิ ปริมาณ สามารถนามาคานวณได้ซงึ่ อาจเป็นตวั เลขจานวนเตม็ หรอื ตัวเลขทศนยิ ม เช่น จานวนเงนิ จานวนคน อายุ ความสูง น้าหนกั 3.4.2 ตัวอกั ษร ตัวอกั ษร (Character) เป็นขอ้ มูลตวั อักขระ ตัวเลข และสัญลักษณพ์ เิ ศษ โดยข้อมูลท่เี ปน็ ตัวเลขจะไม่สามารถนามาคานวณได้ แตส่ ามารถนามาจดั เรียงลาดบั หรอื เปรยี บเทยี บได้เชน่ รหัสประจาตัว ชือ่ นามสกุล ทอี่ ยู่ รหสั ผ่าน 3.4.3 ภาพนิง่ ภาพนงิ่ (Image) เปน็ ขอ้ มูลภาพถ่าย ภาพวาด หรือภาพลายเสน้ จะประกอบด้วยจุดสีเลก็ ๆ ที่เรียกวา่ พกิ เซล (Pixel) มารวมกัน ซ่ึงแต่ละจดุ เมอื่ ยู่ในตาแหน่งทเี่ หมาะสมจะกลายเป็นภาพที่มีลกั ษณะและขนาดแตกตา่ งกนั เช่น ภาพถา่ ยของบุคคล ภาพอาคารสถานท่ีภาพวาดการ์ตูน 3.4.4 ภาพเคลือ่ นไหว ภาพเคลื่อนไหว (Animation) เปน็ ขอ้ มูลภาพและเสยี งประกอบกนั ซึ่งการเคลือ่ นไหวเกดิ จากการนาภาพนง่ิ หลายๆ ภาพแสดงแบบตอ่ เนือ่ งในเวลาทรี่ วดเร็ว ทาให้เหน็ เปน็ภาพเคล่อื นไหว เชน่ ภาพยนตร์ คลิปวิดีโอ สารคดี 3.4.5 เสียง เสียง (Audio) เป็นข้อมูลในรูปลักษณะความดงั และคล่ืนความถี่ของเสยี ง เชน่เสยี งพดู เสียงเพลง เสยี งธรรมชาติ ข้อมลู ทกุ รปู แบบท่ีนามาใชก้ ับคอมพวิ เตอร์น้นั จะถกู แปลงให้อยู่ในรปู แบบที่คอมพิวเตอร์สามารถเขา้ ใจ และนาไปประมวลผลได้ ซงึ่ เป็นระบบตวั เลขฐานสองประกอบดว้ ยตัวเลขเพยี ง 2 ตัวคอื 0 และ 1 ทเี่ รยี กวา่ ไบนารดี ิจิต หรือ บิต (Binary Digit : Bit) ในยุคของสังคมดิจิตอลทม่ี ีข้อมูลมากมายมหาศาล หลากหลายรูปแบบ องค์กรต่างๆ จาเป็นอยา่ งยง่ิ ทีต่ ้องอาศยั เทคโนโลยีสารสนเทศเปน็ เครือ่ งมือใชใ้ นการบรหิ ารจัดการข้อมูลด้านต่างๆ เพ่ือนามาวเิ คราะห์ และประมวลผลให้เกิดประโยชนต์ อ่ การตัดสนิ ใจของผบู้ รหิ าร และต่อการดาเนินการขององค์กร
18 2.5 กระบวนการทางาน กระบวนการทางาน (Procedure) เป็นข้ันตอนการทางานท่ีผู้ใช้จะตอ้ งปฏิบตั ติ ามเก่ียวกับการใชฮ้ าร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรอื ข้อมลู เพ่ือใหไ้ ด้งานเฉพาะอย่างจากคอมพวิ เตอร์อย่างถกู ต้อง และเกิดประโยชนส์ ูงสุด โดยท่ัวไปกระบวนการทางานจะเขียนเป็นคมู่ อื การปฏิบัตงิ านที่ชัดเจน เชน่ คูม่ อื สาหรับผู้ใช้ คมู่ อื การใช้งานโปรแกรม เพ่ือให้ผู้ใช้เกิดความเขา้ ใจสามารถปฏิบัตงิ านได้ถกู ต้อง และเปน็ แนวทางเดียวกัน 2.6 การส่อื สารขอ้ มลู การส่อื สารขอ้ มูล (Data Communication) เป็นการเชอ่ื มตอ่ คอมพิวเตอรห์ รืออปุ กรณ์ไอทตี ่างๆ เพอื่ ทาให้เกิด การแลกเปล่ยี นซอฟต์แวร์ และข้อมลู สารสนเทศกนั อย่างแพร่หลาย ช่วยขยายขดี ความสามารถ และประโยชนข์ องเทคโนโลยสี ารสนเทศไปไดม้ ากข้ึน การสื่อสารข้อมูลมที ง้ัแบบท่ีใชส้ าย เช่น สายโทรศพั ท์ สายเคเบิล สายใยแกว้ นาแสง และการสอื่ สารแบบไรส้ ายท่นี ิยมใชใ้ นปจั จุบัน เช่น ระบบ Wi-Fi ระบบ 3G และระบบ 4G เป็นตน้การส่ือสารแบบมสี าย การสอื่ สารแบบไร้สาย ขอ้ มูลภาพท่ี 1.10 แสดงองค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการส่ือสารข้อมูล ทีม่ า : สายฝน ซาทรง, [2559]
194. การประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาประเทศ ในยคุ ทขี่ อ้ มูลข่าวสารไหลเวียนไปทวั่ โลกอย่างไมม่ ขี ีดจากัด เทคโนโลยสี ารสนเทศจงึ เปน็เคร่ืองมือสาคญั ท่ที าให้เกิดการเปลย่ี นแปลงของโลกในหลายๆ ดา้ น รวมถึงดา้ นเศรษฐกิจและสังคมอนั นาไปสู่การปรับตัวเพอื่ ให้เกดิ ความสามารถในการแข่งขนั ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์ ทกุ ประเทศทั่วโลกกาลังมงุ่ สูก่ ระแสของการเปลยี่ นแปลงทเ่ี รยี กว่า สังคมแหง่ ความรู้ (Knowledge Society) ซึ่งตอ้ งใหค้ วามสาคัญตอ่ การใช้ความรู้ และนวัตกรรมทเ่ี ปน็ ปจั จยั ของการพฒั นา และการผลติ มากกว่าการใชเ้ งินทุน และแรงงาน ความเจรญิ ก้าวหนา้ ของเทคโนโลยีสนเทศสามารถนามาประยุกตใ์ ช้ และเป็นเครอื่ งมือทีส่ นบั สนนุ การดาเนนิ การทุกด้าน ทุกสาขาทั้งภาครฐั และเอกชน การพฒั นาสังคมและคณุ ภาพชีวติ ของประชาชน โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ในด้านของ การจดั ใหบ้ ริการสงั คมพ้ืนฐาน ไดแ้ ก่ด้านการศึกษา ด้านอตุ สาหกรรม ด้านเศรษฐกิจ ด้านการแพทย์ และดา้ นสังคมอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพVideo Teleconference ( A S Industrial RoboRts S )E-Commerce Telemedicineภาพท่ี 1.11 แสดงตวั อย่างการประยกุ ต์เทคโนโลยสี ารสนเทศในการพัฒนาประเทศ ทม่ี า : สายฝน ซาทรง, [2559]
20 4.1 ด้านการศึกษา ดา้ นการศกึ ษา มกี ารนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้เปน็ เครื่องมอื ถ่ายทอดความรู้ และการจัดการเรียนการสอน ผู้เรยี น สามารถเข้าถงึ ความร้ไู ด้ทกุ ที่ ทุกเวลา เออ้ื ตอ่ การเรียนรู้ท่ีเป็นการเรยี นรู้ตลอดชีวติ รวมถึงการเรยี นรทู้ างไกลทไี่ มจ่ ากดั สถานทใ่ี นการเรียนรู้ อาจจะเรียนท่บี า้ นหรอื เรียนในสถานศึกษากไ็ ด้ สามารถนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ด้านการศึกษา ดังนี้ 4.1.1 การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ การเรียนการสอนแบบออนไลน์ (E-Learning) เปน็ การจดั การเรยี นการสอนผ่านเครือข่ายอนิ เตอร์เน็ต ทีผ่ ู้เรียนสามารถเขา้ ไปศกึ ษาเนอื้ หาการเรยี น ทาใบงาน ทาแบบฝกึ หัด และทาแบบทดสอบ ไดด้ ้วยตนเองทกุ ท่ี ทกุ เวลา ผู้สอนสามารถประเมินผลการเรียนและการปฏิบตั งิ านได้แบบทันที เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนแต่ละคนทราบจุดบกพรอ่ งของตน และสามารถนากลบั ไปปรบั ปรุงพฒั นาได้ 4.1.2 การเรยี นการสอนผ่านการประชมุ ทางไกลดว้ ยวดิ ีทัศน์ การเรยี นการสอนผ่านการประชุมทางไกลด้วยวิดีทัศน์ (Video Teleconference)เป็นการนาเอาระบบการประชมุ ด้วยภาพและเสียงมาถ่ายทอดการสอนครูผสู้ อนไปยงั ผเู้ รียนที่อย่หู า่ งไกลกัน ทาให้ผู้เรยี นและผสู้ อนสามารถติดตอ่ กนั ได้ทันที ผู้เรยี นสามารถเห็นการเคล่อื นไหว และไดย้ นิเสียงของผู้สอนได้เสมอื นอย่ใู นห้องเรยี นเดยี วกนั ลดปัญหาการเหลอ่ื มล้าทางการศกึ ษาไดเ้ ป็นอย่างดี 4.1.3 การเรียนการสอนด้วยเทคโนโลยีไร้สาย การเรยี นการสอนด้วยเทคโนโลยไี รส้ าย (M-Learning) เป็นการเรียนการสอนที่นาเสนอเนอ้ื หาการเรยี น และกจิ กรรมการเรียนการสอนโดยใช้โทรศัพท์เคลื่อนท่ี หรือคอมพิวเตอร์แบบพกพาท่ีเชอ่ื มต่อกนั แบบไรส้ าย ช่วยสร้างโอกาสในดา้ นการเรียนรใู้ หม่ๆ ใหก้ ับผู้เรยี น ทาให้การเรียนรู้ ไม่ถกู จากัดอยูเ่ ฉพาะในห้องเรียน สามารถสรา้ งปฏิสมั พันธร์ ะหวา่ งผู้เรยี นกบั ผู้สอนหรอืเพอ่ื นรว่ มชน้ั เรยี นได้ทันที ผ่านทางการสนทนา การส่งข้อความ การส่งไฟลร์ ปู ภาพ(E-Learning) (Video Teleconference) (M-Learning)ภาพที่ 1.12 แสดงการประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศในการศึกษา ทีม่ า : สายฝน ซาทรง, [2559]
21 4.2 ดา้ นอุตสาหกรรม ดา้ นอตุ สาหกรรม มีการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพอื่ เพมิ่ ประสิทธิภาพในการผลติและการบริหารจัดการ ส่งผลใหส้ ามารถผลิตผลติ ภัณฑ์ไดร้ วดเร็ว มคี ุณภาพสงู ขึ้นแต่ต้นทนุ ตา่ ลง ช่วยเพิ่มประสทิ ธภิ าพการทางานในองคก์ รใหท้ นั กบั ความต้องการของตลาด ตัวอย่างการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยกุ ต์ดา้ นอตุ สาหกรรม มีดังนี้ 4.2.1 ระบบการวางแผนทรัพยากรขององค์กร ระบบการวางแผนทรพั ยากรขององค์กร (Enterprise Resource Planning :ERP) เปน็ ระบบที่นามาใช้ในการจดั การ และวางแผนการใชท้ รพั ยากรตา่ งๆ ของโรงงานอุตสาหกรรมโดยเชือ่ มโยงขอ้ มลู ของทกุ แผนกไว้ที่ศูนย์กลาง เช่น การจัดซ้อื การผลิต การเก็บรักษา การขายจนถงึ การขนส่งสนิ ค้าให้ลกู คา้ สามารถตรวจสอบสถานะของข้อมูลได้แบบทันที ชว่ ยให้โรงงานสามารถบริหารทรัพยากรได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ทง้ั ยงั ช่วยลดเวลาและข้นั ตอนการทางานได้ 4.2.2 ระบบคลงั สินค้าอตั โนมตั ิ ระบบคลงั สนิ คา้ อตั โนมัติ (Automatic Storage and Retrieval System :ASRS) เปน็ ระบบที่นามาใช้ในโรงงานอตุ สาหกรรมในการจดั เก็บและเคลอื่ นยา้ ยสินคา้ ดว้ ยระบบอตั โนมตั ิ ทที่ าได้อยา่ งรวดเรว็ และแม่นยา และยงั ลดอบุ ตั ิเหตทุ ่ีจะเกดิ กับผปู้ ฏิบัติงาน เชน่ อบุ ัตเิ หตุจากการตกจากท่สี ูง และอุบตั ิเหตุจากการร่วงหล่นของสนิ คา้ 4.2.3 หุ่นยนต์อตุ สาหกรรม หุ่นยนต์อตุ สาหกรรม (Industrial Robots) เป็นการนาหุน่ ยนต์มาใช้ในงานทต่ี ้องเส่ยี งภยั และเปน็ อนั ตรายต่อสุขภาพ เชน่ โรงงานผลติ ยา โรงงานผลิตสารเคมี หรอื ใชใ้ นการหยิบจับชน้ิ งาน การเชื่อมตอ่ การยึดจับดว้ ยสกรู และการใชง้ านอ่นื ๆ ท่ีต้องทาด้วยความละเอียด ถกู ต้องและรวดเร็ว เช่น โรงงานประกอบรถยนต์ โรงงานท่ผี ลิตอปุ กรณ์ขนาดเล็กเช่นไมโครชิป(Industrial Robots) (ERP) (ASRS)ภาพท่ี 1.13 แสดงการประยกุ ตเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศด้านการอุตสาหกรรม ทมี่ า : https://www.linkedin.com, [2559]
22 4.3 ด้านเศรษฐกจิ ดา้ นเศรษฐกิจได้นาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ และเพ่มิ ขดี สามารถในการแขง่ ขนั ทั้งภาคการผลติ และบริการ ภาคการเงินการคลงั ทง้ั ภายในประเทศ และเพอ่ื การส่งออกตา่ งประเทศ อกี ท้งั ยังนาไปใชใ้ นการพฒั นาเศรษฐกิจชมุ ชนวสิ าหกิจ ดงั นี้ 4.3.1 พาณิชย์อิเลก็ ทรอนกิ ส์ พาณิชย์อิเล็กทรอนกิ ส์ (E-Commerce) นามาใช้ในการดาเนินธรุ กจิ อย่างธุรกจิขนาดกลางและขนาดย่อมทเ่ี รียกว่า เอสเอ็มอี (SMEs) เป็นการคา้ ขายผา่ นส่ืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ทีท่ าให้ผู้ประกอบการธุรกจิ และผ้บู รโิ ภคสามารถโฆษณา นาเสนอ ซื้อขาย แลกเปลีย่ น สง่ สนิ ค้า ชาระเงินและแลกเปลยี่ นข้อมูลไดส้ ะดวกตลอดเวลาผา่ นระบบอตั โนมตั ิ ทาให้ลดตน้ ทุน ลดเวลา ลดคา่ ใชจ้ ่ายในการเดนิ ทาง เพิ่มช่องทางการตลาด รวมถึงสามารถเขา้ ถึงลกู คา้ ได้ทั่วโลก 4.3.2 ระบบธรุ กจิ อัจฉริยะ ระบบธรุ กิจอัจฉริยะ (Business Intelligence : BI) นามาใชเ้ ป็นเครอ่ื งมือในการจดั ทารายงานเพอ่ื การวิเคราะหข์ อ้ มูลในรูปแบบตา่ งๆ เพอื่ ชว่ ยในการตดั สินใจ พรอ้ มแจง้ ผลแบบออนไลน์ เพื่อประโยชนใ์ นการวางแผนกลยุทธ์ ตอบปญั หาเชงิ ธุรกจิ สามารถตอบสนองความต้องการของลกู คา้ ให้เกิดความพงึ พอใจสูงสุด (E-Commerce)ขอ้ มลู ขององค์กร ผลลพั ธ์ คลังข้อมลู ระบบธรุ กิจอัจฉริยะ (BI) ผู้ใช้ภาพท่ี 1.14 แสดงการประยุกตเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศดา้ นเศรษฐกิจ ท่มี า : สายฝน ซาทรง, [2559]
23 4.4 ด้านการแพทย์ ดา้ นการแพทยม์ ีการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการพฒั นาดา้ นแพทย์และสาธารณสุขอย่างกวา้ งขวาง เชน่ ดา้ นการบรหิ ารจัดการภายในโรงพยาบาล ด้านการรักษาพยาบาลการให้คาปรกึ ษาทางไกลโดยแพทย์ผู้เชยี่ วชาญ การแลกเปลี่ยนขอ้ มูลของผ้ปู ่วยทาไดอ้ ย่างสะดวกรวดเรว็ ตัวอยา่ งการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาประยุกต์ใชด้ า้ นการแพทยม์ ดี งั นี้ 4.4.1 ระบบแพทยท์ างไกล ระบบแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เป็นระบบการรกั ษาผู้ป่วยท่อี ยู่ห่างไกลในถน่ิ ทุรกันดารท่ีตอ้ งปรึกษาแพทย์ผเู้ ชีย่ วชาญเฉพาะโรคทีอ่ ย่อู กี ท่หี น่งึ ผา่ นระบบวดิ ีโอคอนเฟอเรนซ์เพ่ือติดตอ่ สื่อสาร และส่งข้อมลู ที่จาเป็นในการักษา เชน่ อาการ การเต้นของหัวใจ ฟลิ ม์เอ็กซ์เรย์ ทาให้แพทย์สามารถวินจิ ฉัยอาการ และให้คาปรกึ ษาจากทางไกลไดเ้ หมือนอยู่ทเี่ ดียวกนั ระบบแพทยท์ างไกลทาใหเ้ กิดความเทา่ เทยี มกนั ในดา้ นคุณภาพชีวิตของประชาชนมากขนึ้ ลดปัญหาขาดแคลนบุคคลกรทางการแพทย์ทเ่ี ช่ยี วชาญ และลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสขุ ของรัฐบาล 4.4.2 การผา่ ตัดจากระยะไกล การผ่าตดั จากระยะไกล (Telerobotic Operation) เปน็ การผ่าตัดขนาดเลก็ โดยใช้หนุ่ ยนต์ ทถี่ กู ควบคุมการทางานจากคณะศลั ยแพทย์ที่อยหู่ า่ งไกลจากโรงพยาบาลทีผ่ ู้ปว่ ยเขา้ รับการผ่าตัด การผ่าตัดจากระยะไกลโดยหนุ่ ยนต์เกิดขึน้ ครงั้ แรกในประเทศแคนาดา ซ่ึงถอื ว่าเปน็ความสาเรจ็ และความก้าวหน้าด้านสาธารณสุขทถ่ี ูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การแพทยข์ องโลก (Telemedicine) ภาพที่ 1.15 แสดงระบบแพทยท์ างไกล ทมี่ า : [Online], http://www.texasmedicalconcierge.com/blog/?p=240, [2559]
24 4.5 ดา้ นสงั คม ด้านสงั คมมีการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการพัฒนาคนในสังคมใหเ้ กิดการเรยี นรู้ทส่ี ร้างสรรค์ เขา้ ถงึ แหลง่ ความรู้และแหลง่ ข้อมลู ไดม้ ากและรวดเร็ว ซงึ่ เป็นกลไกท่ีสาคัญในการสร้างเครอื ข่ายการเรียนรตู้ ่างๆ ใหเ้ กดิ ขึ้นในชมุ ชน ในการนาความรูต้ ่างๆ เหล่าน้ีไปพัฒนาคณุ ภาพชวี ติช่วยลดช่องว่างระหว่างกลมุ่ คนในสังคม ตัวอยา่ งการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ดา้ นสังคมมีดังนี้ 4.5.1 รฐั บาลอเิ ลก็ ทรอนิกส์ รัฐบาลอิเลก็ ทรอนิกส์ (E-Government) เป็นวิธีการบริหารจัดการภาครัฐสมยั ใหม่ เพ่ือเพ่มิ ประสิทธภิ าพและประสิทธิผลในการบรกิ ารสารสนเทศระหวา่ งหนว่ ยงานภาครัฐรวมทงั้ การให้บรกิ ารแกป่ ระชาชน เชน่ การชาระภาษี การจดทะเบียน การรับฟังความคดิ เห็นของประชาชนแบบออนไลน์ การค้นหาขอ้ มลู ของรัฐผ่านเวบ็ ไซต์ เพ่ือเปน็ ช่องทางอานวยความสะดวกด้านงานบรกิ ารประชาชน ซึง่ จะชว่ ยลดปัญหาความเหลอื่ มล้า และสร้างโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถงึ บรกิ ารของภาครฐั ไดอ้ ยา่ งทวั่ ถึง และเท่าเทียมกัน 4.5.2 ระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร์ ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System : GIS) เปน็ระบบท่ีรวบรวมและประมวลผลขอ้ มลู ทางภูมิศาสตรด์ ว้ ยการระบตุ าแหน่งบนผิวโลกโดยใช้อุปกรณ์จีพเี อส (Global Positioning System : GPS) ซึ่งจะนาไปรวบรวมพร้อมกับข้อมลู ด้านต่างๆ เชน่แผนท่ี ภาพถ่ายทางอากาศ ภาพถ่ายจากดาวเทียม หรอื ข้อมูลจราจร เพอ่ื นามาเปน็ ขอ้ มูลพน้ื ฐานในการพัฒนาเชิงพื้นที่ ผงั เมอื ง การพยากรณอ์ ากาศ การเกษตรกรรม Digital Data Tabular DataDigital Maps New InformationAerial Photographs Satellite Data ภาพท่ี 1.16 แสดงระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์ทม่ี า : [Online], http://www.gitta.info/what_gis/en/html/index.html, [2559]
25สรุปสาระสาคัญ เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณโ์ ทรคมนาคมมาจัดการสารสนเทศ ต้งั แต่การผลติ การจดั เก็บ การสบื ค้น การจัดการ การส่ือสาร และการเผยแพรข่ อ้ มูลเพอื่ เพ่มิ ประสิทธภิ าพ ความถกู ต้อง รวดเรว็ ทันต่อการนาไปใชป้ ระโยชน์ ดงั นนั้ เทคโนโลยสี ารสนเทศจงึ เปน็ เคร่ืองมอื สนับสนนุ ในการดาเนนิ กจิ กรรมต่างๆ ในทุกวงการ และได้กลายเป็นสว่ นหนึง่ ในการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวันของมนษุ ย์ดว้ ย เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นการนาเอาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาทางานรว่ มกบั เทคโนโลยีการสอ่ื สาร ประกอบด้วยองคป์ ระกอบ 6 ส่วน คือฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์บุคลากร ขอ้ มลู กระบวนการทางาน และการสอื่ สารขอ้ มูล ประเทศไทยได้ตระหนกั ถึงความสาคญั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศทีส่ ามารถนามาประยกุ ต์ใช้และเป็นเคร่อื งมอื ที่สนบั สนนุ การดาเนินการทุกดา้ น ทุกสาขาท้งั ภาครัฐและเอกชน การพฒั นาสังคมและคณุ ภาพชวี ติ ของประชาชน ทิศทางของเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคตนน้ั มีการเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเร็ว การปรบั ตัวให้ทนั กบั ความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศเปน็ สง่ิ จาเป็นอย่างมากท้งั ในระดบั บุคคล องคก์ รภาครัฐ และภาคเอกชน เพอื่ พฒั นาประเทศมงุ่ สู่สงั คมอุดมปัญญาหรอืทีเ่ รยี กว่า สมาร์ทไทยแลนด์
26กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นา 1. ผู้สอนชี้แจงจุดประสงค์การเรยี นรู้ สมรรถนะรายวชิ า คาอธบิ ายรายวิชา การประเมินผลและข้อปฏิบตั ิในการเรยี นการสอนรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชพี 2. ผสู้ อนให้ผู้เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ และข้อปฏิบตั ใิ นการเรียนการสอนร่วมกัน 3. ผสู้ อนชแ้ี จง เนือ้ หาสาระ จุดประสงค์การเรยี น และการประเมินผล หนว่ ยที่ 1 เร่ืองพ้ืนฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยสี ารสนเทศ 4. ใหผ้ ู้เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยท่ี 1 5. ผสู้ อนสนทนาซกั ถามเกย่ี วกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชวี ติ ประจาวนั ของผู้เรยี นเพื่อนาเขา้ ส่เู นอื้ หา ขน้ั สอน 1. ผู้สอนแจกเอกสารประกอบการสอน เร่ือง พ้ืนฐานเกี่ยวกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. ผู้สอนบรรยายเน้อื หาโดยใชส้ อื่ PowerPoint ประกอบตามหวั ขอ้ ในเอกสารประกอบการสอน พรอ้ มท้ังเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถาม 3. ผสู้ อนแนะนาและสาธติ การใช้ E-Learning รายวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ 4. ผู้สอนแจกใบงานท่ี 1 เรอื่ ง การประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการศึกษาให้ผู้เรยี นปฏิบัติ โดยผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมในขณะท่ผี ูเ้ รียนปฏบิ ัติตามขัน้ ตอนในใบงาน 5. ผู้สอนให้ผเู้ รียนรว่ มกันสรุปปัญหาในการปฏบิ ตั ิงาน ขั้นสรุป 1. ผเู้ รียนทาแบบฝกึ หัดทา้ ยหนว่ ยการเรยี น 2. ผู้สอนให้ผู้เรยี นรว่ มกันตรวจความถูกต้องในการทาแบบฝกึ หัดโดยผู้สอนเปน็ ผเู้ ฉลย 3. ผู้เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยท่ี 1 4. ใหผ้ เู้ รยี นเปรียบเทยี บผลการทดสอบกอ่ นเรียน – หลังเรียน เพ่อื ดูการพัฒนาการเรยี นรู้และนาไปแก้ไขปรบั ปรงุ ตอ่ ไป 5. แนะนาใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาคน้ คว้าเพิ่มเตมิ นอกชัน้ เรียนโดยใช้ E-Learningงานท่มี อบหมาย 1. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนหน่วยที่ 1 จานวน 10 ข้อ 2. ปฏิบัติตามข้นั ตอนในใบงาน 3. ผ้เู รยี นทาแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยการเรยี น 4. ผ้เู รยี นทาแบบทดสอบหลังเรียนหนว่ ยที่ 1 5. ผู้เรียนศกึ ษาค้นคว้าเพมิ่ เตมิ นอกชน้ั เรยี นโดยใช้ E-Learning
27สื่อประกอบการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ รหัสวิชา3001-2001 หน่วยท่ี 1 เร่อื งพ้ืนฐานเก่ยี วกับเทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. ใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการศึกษา 3. สื่อวดี ที ศั น์ เรอ่ื ง แนวโน้มเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต 4. แบบฝกึ หดั ทา้ ยหนว่ ยการเรียน เร่อื ง พน้ื ฐานเก่ยี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 5. แบบทดสอบก่อนเรยี น - หลังเรียน 6. สอื่ ประกอบการสอน E-Learning 7. สอ่ื PowerPoint 8. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ และอปุ กรณ์ต่อพว่ ง 9. เครื่องฉายภาพการประเมนิ ผลการเรียน วิธกี ารวดั และประเมินผล 1. ประเมนิ ผลจากแบบทดสอบก่อนเรียน – หลงั เรยี น 2. ประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ านตามใบงาน เป็นการวดั ผลตามสภาพจรงิ ที่ผู้เรียนได้ ลงมือปฏบิ ัตติ ามลาดับขนั้ ตอน 3. ประเมินจากการทาแบบฝกึ หดั ท้ายหน่วยการเรียน 4. สงั เกตพฤติกรรมขณะมีการเรียนการสอน การซักถาม การฝึกปฏิบัติตามใบงาน การทาแบบฝึกหัด และการทาแบบทดสอบ เพื่อประเมินผลด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คณุ ลกั ษณะพึงประสงค์เครือ่ งมือวดั และประเมนิ ผล1. แบบทดสอบก่อนเรียน – หลงั เรยี น2. แบบประเมินผลผลการปฏบิ ัติงาน3. แบบประเมนิ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คณุ ลักษณะพึงประสงค์4. แบบฝกึ หัดท้ายหน่วยการเรยี นเกณฑ์การวัดและประเมินผล1. แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียนมีจานวน 10 ขอ้ วัดผล คะแนนเต็ม 10 คะแนน(เกณฑค์ ะแนนผ่าน) ดมี าก คือ ทาได้ 9 - 10 คะแนน ดี คอื ทาได้ 7-8 คะแนน พอใช้ คอื ทาได้ 5-6 คะแนน(เกณฑ์คะแนนไม่ผ่าน) ตอ้ งปรบั ปรงุ คือ ทาได้ต่ากวา่ 5 คะแนน
282. แบบประเมินผลการปฏิบัตงิ าน เกณฑใ์ หค้ ะแนน คือตามแบบประเมินผลการปฏิบัตงิ าน (เกณฑ์คะแนนผา่ น) ดมี าก คอื ทาได้ 9 - 10 คะแนน คะแนน ดี คอื ทาได้ 7 - 8 พอใช้ คือ ทาได้ 5-6 คะแนน คะแนน (เกณฑ์คะแนนไม่ผา่ น) ตอ้ งปรบั ปรุง คอื ทาไดต้ ่ากวา่ 53. แบบวัดผลด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คุณลกั ษณะพึงประสงค์ เกณฑ์ให้คะแนน คือตามแบบวดั ผลตามสภาพจริงดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คณุ ลกั ษณะพงึ ประสงค์ (เกณฑค์ ะแนนผา่ น) ดีมาก คอื ทาได้ 5 คะแนน ดี คือ ทาได้ 4 คะแนน พอใช้ คอื ทาได้ 3 คะแนน (เกณฑ์คะแนนไม่ผา่ น) ต้องปรับปรุง คอื ทาไดต้ า่ กว่า 3 คะแนน
29 ใบงานท่ี 1 รหัสวิชา 3001 - 2001 เวลา 1 ชว่ั โมงรายวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชพีเรอ่ื ง การประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการศกึ ษาจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. สมคั รใชง้ าน E-Learning ตามขนั้ ตอนท่ีกาหนดได้ 2. ทาแบบทดสอบผ่าน E-Learning ได้ 3. ดาวน์โหลดใบงานผา่ น E-Learning ได้ 4. ส่งงานผา่ น E-Learning ได้วสั ดุและอุปกรณ์ 1. เครอ่ื งไมโครคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณต์ อ่ พ่วง 2. เครื่องฉายภาพขนั้ ตอนการปฏิบตั ิ 1. ให้ผเู้ รยี นเข้าสู่เว็บเบราวนเ์ ซอร์ Google Chrome แลว้ พิมพ์ Http://comuttc/itเพ่ือเขา้ สู่ E-Learning รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ 2. กรอก Username และ Password ดว้ ยรหสั ประจาตัวนักศึกษา 10 หลกั เพ่อื สมคั รเขา้ เรยี น 3. เมื่อเข้าสู่ E-Learning แลว้ ให้คลกิ ท่ีอัพเดตประวัติสว่ นตัว แล้วพมิ พร์ ายละเอียดตา่ งๆ ที่ปรากฏให้ครบถว้ น คลกิ ตกลงเพื่อกลับมาหน้าหลัก 4. คลิกท่ี ดาวนโ์ หลดแบบบันทึกผลการปฏิบตั ิงาน 5. บนั ทกึ ไฟลท์ ีด่ าวนโ์ หลดไวท้ ่หี น้า Desktop ตัง้ ช่ือไฟลว์ า่ Work1 6. คลิกท่ี แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยที่ 1 เพื่อทาแบบทดสอบ (ทาแบบทดสอบแตล่ ะขอ้โดยคลิกปุม่ วงกลมหนา้ ตัวเลือกที่ผู้เรียนคิดวา่ ถูกต้องทสี่ ดุ ) 7. เมือ่ ทาแบบทดสอบครบแลว้ ทุกข้อ ให้คลิกท่ีปุ่ม สง่ คาตอบแลว้ สิ้นสุดการทาแบบทดสอบ 8. คลกิ ที่ใบความรู้หนว่ ยท่ี 1 เรอ่ื งพื้นฐานเก่ียวกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ เพอ่ื ศึกษาใบความรู้ 9. บนั ทกึ รายละเอยี ดในแบบบนั ทกึ ลาดับข้ันตอนการปฏบิ ตั ิงานลงในไฟล์ Work1 10. บนั ทกึ ไฟล์แล้ว คลกิ ที่ ส่งใบงานที่ 1 เร่ือง การประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศกึ ษา เพ่อื อพั โหลดไฟล์ Work1 11. คลกิ เลอื กท่หี นา้ หลัก เพอ่ื กลบั เขา้ สูห่ นา้ บทเรียน
30 แบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 1 เร่อื ง พ้ืนฐานเกย่ี วกับเทคโนโลยสี ารสนเทศคาส่ัง ให้ผเู้ รยี นตอบคาถามต่อไปนีใ้ หถ้ ูกต้องและไดใ้ จความสมบรู ณ์1. บอกความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. อธิบายความสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. บอกองค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ..........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................4. ยกตวั อยา่ งของฮาร์ดแวรด์ ังต่อไปน้ี อยา่ งน้อย 3 ตัวอยา่ ง 4.1 อปุ กรณร์ ับข้อมูล (Input Device)………………………………………..……………….…………..……………. 4.2 อปุ กรณ์ประมวลผล (Process Device).…………………………………..…….………..…………………..…. 4.3 อปุ กรณแ์ สดงผลลพั ธ์ (Output Device)…………………………………….…………………………….….…. 4.4 อปุ กรณเ์ กบ็ ขอ้ มลู (Storage Device)………………………………………..…………….………………………5. บอกประเภทของโปรแกรมตอ่ ไปน้ี พร้อมทง้ั อธิบายลักษณะการใช้งาน 5.1 Windows 10……………………………………………………………………………………………………..…..… ................................................................................................................................................. 5.2 WinRAR …………….…………………………..………..………………………………………..……………...…... .................................................................................................................................................
31 5.3 Adobe Photoshop…………………….……………………………………………………..….……………….… ................................................................................................................................................. 5.4 ระบบ RMS2012....…………………….………………………………………………………..…….…………….… .................................................................................................................................................6. บอกหน้าทขี่ องบุคลากรทเี่ กยี่ วขอ้ งกับเทคโนโลยสี ารสนเทศตอ่ ไปน้ี 6.1 ชา่ งเทคนิค.................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. 6.2 โปรแกรมเมอร.์ ........................................................................................................................... .................................................................................................................................................7. อธิบายเกี่ยวกับเทคโนโลยสี ารสนเทศตอ่ ไปน้ีพร้อมทง้ั บอกวา่ เป็นการนามาประยุกต์ใชใ้ นด้านใด 7.1 Computer Assisted Instruction : CAI คือ............................................................................ ..........................................................................ประยกุ ตใ์ ชใ้ นด้านใด......................................... 7.2 Electronic Commerce : E-commerce คือ…………………………………….………………….…..….. ..........................................................................ประยกุ ต์ใชใ้ นด้านใด......................................... 7.3 Industrial Robots คอื ............................................................................................................. ..........................................................................ประยกุ ตใ์ ช้ในด้านใด......................................... 7.4 Telemedicine คือ................................................................................................................... ..........................................................................ประยกุ ตใ์ ช้ในด้านใด......................................... 7.5 Electronic learning : E-Learning คือ………………………………………………..…….……….…………. ..........................................................................ประยกุ ตใ์ ชใ้ นดา้ นใด......................................... 7.6 Medical Consultation คอื ……………………………………………………………….……………….……….. ..........................................................................ประยุกตใ์ ช้ในด้านใด......................................... 7.7 Geographic Information System : GIS คอื …………………………………….…………………………. ..........................................................................ประยุกต์ใชใ้ นด้านใด.........................................
32 เฉลยแบบฝกึ หดั หน่วยท่ี 1เร่ือง พ้นื ฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยสี ารสนเทศเกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 1 คะแนน ให้ 0.5 คะแนน - ถูกต้องและสมบูรณ์ ให้ 0 คะแนน - ถกู ตอ้ งแตไ่ ม่สมบรู ณ์ - ไมถ่ กู ตอ้ ง1. บอกความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ ตอบ การประยกุ ต์ใช้คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคมมาจัดการสารสนเทศ ตัง้ แตก่ ารผลิต การจดั เกบ็ การสบื ค้น การจัดการ การสอื่ สาร และการเผยแพรข่ ้อมูล เพื่อเพ่มิ ประสิทธิภาพ ความถกู ต้อง รวดเร็วทนั ต่อการนาไปใช้ประโยชน์2. อธบิ ายความสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศตอบ เทคโนโลยีสารสนเทศเปน็ เคร่อื งมือสนับสนนุ ในการดาเนินกจิ กรรมตา่ งๆ ใหส้ ะดวกและรวดเรว็ ขนึ้ และเปน็ สว่ นหนง่ึ ในชวี ติ ประจาวันของมนุษย์ มีความสาคญั และเก่ียวขอ้ งกบั คนทุกระดบั ท้งั ในระดับประเทศ ระดับองคก์ ร หรอื ระดับบุคคล ในฐานะนักเรียน นกั ศกึ ษาจาเปน็ตอ้ งมที กั ษะในการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาเป็นเครอ่ื งมอื สาหรับการแสวงหาความร้อู ยา่ งถกู วธิ ีนามาปรบั ใช้อยา่ งถูกต้อง และเกิดประโยชนส์ งู สดุ สามารถนาองค์ความร้ทู มี่ ีอยู่มาบรู ณาการเชิงสรา้ งสรรค์ เพ่ือพัฒนานวตั กรรมต่างๆ มาตอบสนองความตอ้ งการของสงั คม และมที ักษะในการปฏสิ มั พันธก์ บั สงั คมท้ังในชีวติ จรงิ และในสังคมออนไลน์ เพื่อทจ่ี ะสามารถทางาน หรอื อยรู่ ่วมกนัในสังคมได้อยา่ งมคี วามสขุ3. บอกองค์ประกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศมกี ี่สว่ น อะไรบา้ งตอบ องคป์ ระกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ 6 ส่วน ดังน้ี1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) 2. ซอฟตแ์ วร์ (Software)3. บุคลากร (People) 4. ข้อมูล (Data)5. กระบวนการทางาน (Procedure) 6. การส่ือสารข้อมูล (Data Communication)4. ยกตวั อยา่ งของฮาร์ดแวร์ดงั ตอ่ ไปน้ี อย่างน้อย 3 ตวั อย่าง ตอบ 4.1 อุปกรณ์รับข้อมลู (Input Device) แป้นพมิ พ์, เมาส์ และ สแกนเนอร์ เปน็ ต้น 4.2 อปุ กรณป์ ระมวลผล (Process Device) ซพี ยี ู, แผงวงจรหลัก และ ชปิ เซต เปน็ ตน้ 4.3 อุปกรณแ์ สดงผลลัพธ์ (Output Device) จอภาพ, ลาโพง และ เคร่ืองพิมพ์ เป็นตน้ 4.4 อปุ กรณ์เก็บขอ้ มลู (Storage Device) ฮาร์ดดิสก์, ดวี ีดี และ แฟลชไดรฟ์ เปน็ ตน้5. บอกประเภทของโปรแกรมตอ่ ไปน้ี พรอ้ มทัง้ อธิบายลักษณะการใช้งาน ตอบ 5.1 Windows 10 ประเภท โปรแกรมระบบปฏิบัติการ ใช้สาหรับควบคมุ ฮาร์ดแวรใ์ หท้ างานอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ จัดสรรทรพั ยากรตา่ งๆ ให้กบั ซอฟต์แวร์ ประยุกต์อย่างเหมาะสม และเป็นตวั กลางที่ทาให้ผใู้ ช้งาน และฮาร์ดแวร์สามารถทางานรว่ มกันได้ 5.2 WinRAR ประเภท โปรแกรมบบี อัดไฟล์
33ใชส้ าหรับลดขนาดของไฟล์ให้เลก็ ลง เพอ่ื ประหยดั เน้อื ทใ่ี นการเก็บข้อมลู5.3 Adobe Photoshop ประเภท โปรแกรมสาหรับงานทางด้านกราฟิกใชส้ าหรับงานทางด้านการออกแบบ ตกแต่งภาพ วาดรปู5.4 ระบบ RMS2012 ประเภท โปรแกรมประยกุ ต์อืน่ ๆใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอนของสถานศึกษาในสังกัดสานกั งานคณะกรรมการอาชีวศกึ ษา6. บอกหนา้ ทขี่ องบุคลากรทเ่ี กี่ยวข้องกบั เทคโนโลยีสารสนเทศต่อไปน้ี ตอบ 6.1 ชา่ งเทคนคิ มีหน้าที่ แก้ปัญหาที่เกิดขน้ึ กับระบบสารสนเทศในหนว่ ยงานให้สามารถ ใชง้ านไดต้ ามปกติ 6.2 โปรแกรมเมอร์ มหี นา้ ที่ พฒั นา ทดสอบ และแก้ไขโปรแกรม ให้ได้ผลลพั ธ์ตามทีต่ ้องการ7. อธิบายเก่ยี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศตอ่ ไปนพ้ี รอ้ มท้งั บอกวา่ เป็นการนามาประยกุ ต์ใช้ในดา้ นใดตอบ 7.1 Computer Assisted Instruction : CAI คือกระบวนการเรยี นการสอน โดยใชส้ ือ่คอมพวิ เตอร์ ในการนาเสนอเนอื้ หาเรือ่ งราวต่างๆ ประยุกต์ใช้ในดา้ นใด ด้านการศึกษา7.2 Electronic Commerce : E-commerce คอื การคา้ ขาย นาเสนอ สง่ สินค้า ชาระเงนิและแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ผา่ นสื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์ ประยุกต์ใชใ้ นดา้ นใด ด้านการศกึ ษา7.3 Industrial Robots คอื การนาหุ่นยนตม์ าใช้ในงานท่ีตอ้ งเส่ียงภัย และเปน็ อนั ตรายต่อสุขภาพในโรงงานอุตสาหกรรม ประยกุ ต์ใชใ้ นด้านใด ดา้ นอุตสาหกรรม7.4 Telemedicine คอื ระบบการรกั ษาผูป้ ่วยท่ีอยหู่ ่างไกล โดยใชก้ ารตดิ ตอ่ ส่อื สาร และส่งขอ้ มูลการรักษาให้กบั แพทยผ์ ู้เช่ยี วชาญทอ่ี ยู่ตา่ งสถานท่ี ประยกุ ตใ์ ช้ในดา้ นใด ดา้ นการแพทย์7.5 Electronic learning : E-Learning คอื การจัดการเรียนการสอนผ่านเครือข่ายอินเตอรเ์ นต็ทผี่ ูเ้ รียนสามารถเข้าไปศึกษาเนือ้ หาการเรยี นได้ตลอดเวลา ประยกุ ต์ใช้ในดา้ นใด ดา้ นการศึกษา7.6 Medical Consultation คอื ระบบการปรกึ ษาระหว่างโรงพยาบาลกับ โรงพยาบาล ซึง่ จะสามารถใช้งานพรอ้ มๆ กันได้ ประยุกต์ใช้ในดา้ นใด ด้านการแพทย์7.7 Geographic Information System : GIS คอื ระบบการระบตุ าแหน่ง เพอ่ื นามาเปน็ ขอ้ มลูพืน้ ฐานในการพัฒนาเชิงพ้ืนท่ี ประยุกตใ์ ชใ้ น ด้านสงั คม
34 แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยท่ี 1 เร่อื งพืน้ ฐานเกย่ี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศคาสงั่ จงเลอื กคาตอบท่ีถูกต้องท่สี ุดเพียงข้อเดียว1. ข้อใด กล่าวถงึ ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศถกู ตอ้ งที่สุด ก. วิทยาการทางด้านการจัดการข้อมูล ข. การประยุกตค์ วามรู้ทางด้านวทิ ยาศาสตร์ประดษิ ฐ์สงิ่ อานวยความสะดวก ค. ระบบเฉพาะเจาะจงทีเ่ กี่ยวข้องกับการผลติ ประมวลผล จัดเก็บและนาเสนอข้อมูล ง. การประยกุ ตค์ วามรู้ทางด้านวทิ ยาศาสตร์มาจดั การสารสนเทศ จ. ความทันสมัย ก้าวล้าในวิทยาศาสตร์2. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ บทบาทสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ ก. ชว่ ยให้มนษุ ย์มีความเจรญิ ก้าวหนา้ มีคุณธรรม จริยธรรมมากขนึ้ ข. เกดิ การเปลีย่ นแปลงระบบการทางานเปน็ แบบระบบอัตโนมตั มิ ากขนึ้ ค. ชว่ ยใหม้ นษุ ย์สามารถเก็บข้อมลู สารสนเทศได้อยา่ งมากมายและมปี ระสิทธิภาพ ง. ช่วยให้มนุษยส์ ามารถตดิ ต่อสอื่ สารกนั ได้อยา่ งสะดวก และรวดเร็ว จ. ช่วยมนษุ ยส์ ามารถทางานไดท้ ุกท่ี ทุกเวลา3. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ องคป์ ระกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศไดถ้ กู ต้องท่ีสุด ก. ขอ้ มลู หน่วยรับข้อมลู หนว่ ยประมวลผล หนว่ ยแสดงผล หนว่ ยเก็บขอ้ มูล หนว่ ยสือ่ สารขอ้ มลู ข. ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บุคลากร ข้อมูล กระบวนการทางาน การส่ือสารขอ้ มูล ค. หนว่ ยรบั ข้อมูล หน่วยประมวลผล หนว่ ยแสดงผล หน่วยเก็บข้อมลู ง. อปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ อุปกรณ์โทรคมนาคม อุปกรณก์ ารสือ่ สาร จ. ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บุคลากร4. ขอ้ มลู ท่นี าเข้ามาใช้กบั คอมพิวเตอร์ จะถกู แปลงให้อยใู่ นรปู แบบใด ก. ตัวเลขฐานสอง ข. ตวั เลขฐานสบิ ค. สัญลักษณ์ ง. ตัวอักษร จ. พกิ เซล5. ขอ้ ใดต่อไปน้ี คือฮาร์ดแวร์ประมวลผลท้งั หมด ก. เมาส์ ซพี ยี ู จอยสตก๊ิ ข. กล้องดจิ ิตอล หูฟงั สแกนเนอร์ ค. เคร่อื งฉายภาพ แผงวงจรหลกั สแกนเนอร์ ง. ลาโพง ผ้ใู ช้ เมมโมร่ีสติ๊ก
35 จ. ซพี ยี ู แผงวงจรหลัก ชิปเซต6. Android จัดอย่ใู นซอฟตแ์ วรป์ ระเภทใด ก. โปรแกรมประยุกต์ใช้งานทัว่ ไป ข. โปรแกรมบีบอัดไฟล์ข้อมลู ค. โปรแกรมอรรถประโยชน์ ง. โปรแกรมระบบปฏิบตั กิ าร จ. โปรแกรมตัวแปลภาษา7. บคุ ลากรในขอ้ ใด มีหน้าท่ีพัฒนา ทดสอบ และแกไ้ ขซอฟตแ์ วร์ ใหไ้ ดผ้ ลลัพธต์ ามท่ีต้องการ ก. โปรแกรมเมอร์ ข. ผ้บู รหิ ารระบบฐานขอ้ มูล ค. นักวเิ คราะห์ระบบ ง. วิศวกรซอฟต์แวร์ จ. ช่างเทคนคิ8. เทคโนโลยีอคี อมเมริ ์ช (E-Commerce) คอื ขอ้ ใด ก. ระบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการงานทางด้านการผลติ ข. โครงการระบบเครือข่ายไร้สายสถาบนั ทางการศกึ ษา ค. การจดั กระบวนการเรยี นการสอนผ่านสอื่ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ง. การประกอบธรุ กรรมทางดา้ นการคา้ ผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ จ. ระบบการปรึกษาแพทย์ทางไกลผา่ นเทคโนโลยีสารสนเทศ9. ขอ้ ใดคอื การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในดา้ นการแพทย์ ก. E-Doctor ข. E-Learning ค. Digital Commerce ง. Industrial Robots จ. Telemedicine10. ข้อใด ไมใ่ ช่ การประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศกึ ษา ก. E-Book ข. E-Learning ค. E-Government ง. Video Teleconference จ. Computer Assisted Instruction
36เร่อื งพน้ื ฐานเก่ียวกับเทคโนโลยีสารสนเทศขอ้ ที่ คาตอบกอ่ นเรียน คาตอบหลังเรยี น 1ค ง 2ข ก 3ง ข 4จ ก 5ค จ 6ก ง 7ข ก 8ก ง 9ค จ10 จ ค
37 บรรณานกุ รมฝ่ายตาราวิชาการคอมพวิ เตอร์. (2557). พจนานุกรมคอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ารสนเทศ. กกกกกกกกรุงเทพฯ : ซีเอด็ ยูเคช่นั .รุ่งรัศมี บญุ ดาว. (2559). ระบบสารสนเทศเพือ่ การจัดการธรุ กิจในยุคดจิ ทิ ัล. กรุงเทพฯ :กกกกกกกซเี อ็ดยเู คช่ัน.วรญั ญา ปุณณวัฒน์. (2554). เทคโนโลยีสารสนเทศเบ้อื งต้น. กรงุ เทพฯ : มหาวทิ ยาสโุ ขทยักกกกกกกธรรมาธิราช.วิกพิ ีเดีย สารานกุ รมเสรี. (2559). เทคโนโลยสี ารสนเทศ. สบื คน้ จาก https://th.wikipedia.org/กกกกกกกwiki/เทคโนโลยสี ารสนเทศศศลกั ษณ์ ทองขาว และคณะ. (2558). คอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศสมยั ใหม่.กกกกกกกกรงุ เทพฯ : สานักพิมพแ์ มคกรอ-ฮิล.เศรษฐชัย ชยั สนทิ . (2558). เทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การจดั การอาชพี . กรงุ เทพฯ : โสภณกกกกกกกการพมิ พ์.สพุ รรษา ยวงทอง. (2557). ความร้เู บอื้ งตน้ เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศ. กกกกกกกกรงุ เทพฯ : บรษิ ัท พมิ พด์ ี จากัด.โอภาส เอ่ยี มสริ วิ งศ.์ (2557). วิทยาการคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ารสนเทศ. กรงุ เทพฯ :กกกกกกกซเี อ็ดยเู คชน่ั .
Search
Read the Text Version
- 1 - 38
Pages: