Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทเรียนสำเร็จรูป Augmented Reality Book (AR)

บทเรียนสำเร็จรูป Augmented Reality Book (AR)

Published by yingchart777, 2020-01-25 23:20:34

Description: บทเรียนสำเร็จรูป Augmented Reality Book (AR)

Search

Read the Text Version

จัดณาโดย ตางสาวฉัตรระวี มฒีขัติย์ ติ สิ ตธึ ก ป ร ะส ถ ก า ร ฒ์ วิ จ า จี นครู โร ง เ รี ย ตวั ดสั ตป่ า สั ก สาขาวิจาสังคมศึกษา คฒะครุศาสตร์ มหาวิณยาลยั มหาจหุ าลงกรฒราจวณิ ยาลัย วณิ ยาลยั สงฆล์ านูต

คาตา บทเรียนสาเร็จรูป Augmented Reality Book (AR) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เป็นบทเรยี นทไ่ี ดจ้ ัดทาขน้ึ โดยนาเนือ้ หาสาคัญของวิชาเศรษฐศาสตร์ ระดับช้ัน ประถมศึกษาปที ่ี 5 มาออกแบบขอ้ มูลของเน้อื หาประกอบภาพ Infographic ในรูปแบบต่างๆ ในแต่ละ เนือ้ หาทแ่ี ตกต่างกันอย่างสรา้ งสรรค์ นอกจากน้ีได้นาเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) หรอื การสร้างภาพสามมติ เิ สมือนจริง มา ผสมผสานกบั การออกแบบขอ้ มูลของเน้ือหาประกอบภาพ Infographic ด้วย ซ่ึงการสื่อสารด้วยภาพ Infographic และภาพเคลื่อนไหว Augmented Reality (AR) ในบทเรียนสาเร็จรูป Augmented Reality Book (AR) เปน็ เทคโนโลยีท่ผี สานเอาโลกแห่งความเป็นจริง (Real) เข้ากบั โลกเสมือน (Virtual) แสดงผลออกมาเปน็ ลักษณะ 3 มิติ ซง่ึ มีมมุ มองถึง 360 องศา โดยผ่านทางอุปกรณ์ เช่น กล้องมือถือ Tablet เปน็ ต้น แสดงผลในจอภาพกลายเปน็ วัตถุ 3 มติ ลิ อยอยเู่ หนอื พื้นผิวจรงิ จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถ จดจาและเข้าใจเน้อื หาสาระและองคค์ วามรู้ท่ีซบั ซอ้ นไดง้ า่ ย รวดเรว็ และแม่นยา มากกวา่ การอ่านหนังสือ ปกติ แนวคดิ สาคัญของการสรรค์สร้าง บทเรียนสาเร็จรูป Augmented Reality Book (AR) นี้ก็ เพ่ือต้องการท่ีจะเปลย่ี นมุมมองใหม่ในการจัดการเรียนการสอน ด้วยการนาเทคโนโลยีล้าสมัยเข้ามา ประยกุ ต์ใชเ้ พอ่ื ให้เกดิ ความน่าสนใจในบทเรียน อีกทั้งยงั เป็นการเสริมองค์ความรู้ในรูปแบบของการใช้ เทคโนโลยคี วามเป็นจริงเสมือน หรอื AR เพื่อสง่ เสริมการเรยี นรูผ้ ่านเทคโนโลยสี มัยใหม่ สอดคล้องกับการ เรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21 และหวังว่าหนังสือเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์แก่ครูผู้สอน ผู้เรียน และผู้สนใจได้ นาไปใชใ้ นการจัดการเรียนรู้ให้เกดิ ประสทิ ธิภาพและบรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ข้ันพืน้ ฐานพุทธศกั ราช ๒๕๕๑ นางสาวฉตั รระวี มณขี ัติย์ นิสติ ฝกึ ประสบการณ์วชิ าชพี ครู โรงเรยี นวดั สนั ป่าสัก

ถณเรียตสาเรจ็ รปู Augmented Reality Book (AR) เศรษฐศาสตร์ต่ารู้ สาระสาคชั ปจั จยั การผลติ สนิ ค้าและบริการ ประกอบด้วย ทีด่ นิ แรงงาน ทุน และผู้ประกอบการ และยังมปี จั จยั อ่นื ทเ่ี ปน็ ตัวกาหนดปรมิ าณสนิ คา้ และบรกิ าร ซง่ึ สง่ ผลให้การผลติ สินค้าและบริการในแต่ละท้องถ่ินมี ความแตกตา่ งกนั รวมทงั้ เข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพ่อื การดารงชีวติ อย่างมดี ุลยภาพ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมีหลักการสาคญั ใหป้ ระชาชนดาเนินชีวิตอยู่บนความพอประมาณ ความมี เหตุผล การมภี ูมคิ ุม้ กันทด่ี ีในตัว เปน็ แนวทางสาคัญในการทากิจกรรมต่างๆ ในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน สอดคล้องกับหลกั การสาคัญของสหกรณ์ จึงควรนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและหลักการสาคัญของ สหกรณไ์ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ ธนาคาร เปน็ องค์กรทท่ี าหน้าทรี่ ับฝากเงินและให้กยู้ ืมเงนิ ซึง่ การกู้ยมื เงนิ มที ้ังผลดีและผลเสีย จาเป็นต้องรู้ ถึงบทบาทหน้าท่เี บื้องต้นของธนาคาร และประเภทของธนาคาร สาร มาตรฐาตการเรียตรแู้ ละตวั จว้ี ดั ะสา มาตรฐาน ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรพั ยากรในการผลิตและการบรโิ ภค การใชท้ รัพยากร ทีม่ อี ยจู่ ากดั ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพและคุ้มคา่ รวมท้งั เขา้ ใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการดารงชีวิตอย่างมี ดลุ ยภาพ สาร ตวั จ้วี ดั ป.5/1 อธบิ ายปัจจยั การผลิตสินคา้ และบริการ ะสา ป.5/2 ประยุกต์ใช้แนวคิดของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการทากิจกรรมต่าง ๆ ใน ครอบครวั โรงเรียนและชุมชน ป.5/3 อธบิ ายหลักการสาคัญและประโยชนข์ องสหกรณ์ มาตรฐาน ส 3.2 เขา้ ใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและความ จาเป็นของการรว่ มมอื กันทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก ส า ตัวจีว้ ัด ป.5/1 อธบิ ายบทบาทหนา้ ท่เี บือ้ งต้นของธนาคาร ระ จุดประสงคก์ ารเรยี ตรู้ 1. อธิบายปจั จัยการผลิตสนิ คา้ และบรกิ าร แนวคิดของปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง หลักการสาคัญ และประโยชนข์ องสหกรณ์ และบทบาทหน้าทีเ่ บอื้ งตน้ ของธนาคารได้ (K) 2. ประยกุ ตใ์ ช้ความรเู้ ก่ียวกับปจั จัยการผลิตสินค้าและบริการ แนวคิดของปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง สหกรณ์ และธนาคารได้ (P) 3. เหน็ คณุ คา่ และความสาคญั ของปจั จยั การผลติ สนิ คา้ และบริการ แนวคิดของปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง หลักการสาคญั และประโยชนข์ องสหกรณ์ และบทบาทหน้าทีเ่ บอ้ื งตน้ ของธนาคารได้ (A)

คาจีแ้ จงและคาแตะตา การใจ้ถณเรียตสาเรจ็ รปู Augmented Reality Book (AR) บทเรียนสาเร็จรูป Augmented Reality Book (AR) มที ้งั หมด 3 ชุดการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การผลิตสินค้าและการบริการ ธนาคารและการกู้ยืมเงิน และเศรษฐกิจพอเพียง และสหกรณ์ ซง่ึ บทเรยี นสาเรจ็ รูปนี้ ประกอบไปด้วย สาระสาคัญการเรียนรู้ มาตรฐาน การเรยี นร้แู ละตวั ช้ีวัด แบบทดสอบก่อนเรียน ชุดความรู้ แบบทดสอบหลังเรียน และ คาถามกระตุ้นความคิด บทเรยี นสาเร็จรูป Augmented Reality Book (AR) มีจดุ มุ่งหมายเพ่ือต้องการที่จะเปล่ียนมุมมองใหม่ใน การจดั การเรยี นการสอน ดว้ ยการนาเทคโนโลยีลา้ สมยั เขา้ มาประยุกต์ใช้เพ่ือให้เกิดความน่าสนใจในบทเรียน อกี ท้ังยังเปน็ การเสรมิ องคค์ วามรูใ้ นรูปแบบของการใช้เทคโนโลยีความเปน็ จริงเสมือน หรือ AR เพ่ือส่งเสริมการ เรียนรู้ผา่ นเทคโนโลยีสมัยใหม่ สอดคล้องกับการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 เมื่อครผู สู้ อนไดน้ าบทเรยี นสาเรจ็ รปู นี้ไปใช้ ควรปฏิบตั ิดงั นี้ ข้ัตตฬตการณากจิ กรรม ๑. บทเรียนสาเร็จรูป Augmented Reality Book (AR) ใช้เวลาในการจัดกิจกรรม 5 ช่วั โมง 2. แจ้งให้นกั เรยี นอ่านมาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชวี้ ดั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ก่อนศึกษาจาก บทเรียน สาเรจ็ รูป Augmented Reality Book (AR) 3. แจ้งใหน้ กั เรยี นทากิจกรรมด้วยความรอบคอบและรับผดิ ชอบต่องานที่ได้รบั มอบหมาย 4. ใหน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน โดยใช้เวลา 15 นาที เพ่อื วัดความรูพ้ ืน้ ฐานของนักเรียน 5. ให้นกั เรียนศกึ ษาเนือ้ หาสาระ และตอบคาถามกระต้นุ ความคิดให้ครบตามท่ีกาหนดไว้ ครูคอยให้ คาแนะนาและสรปุ เนือ้ หาสาระท่ีสาคญั 6. ให้นกั เรยี นทาข้อสอบจากแบบทดสอบหลงั เรยี น โดยใชเ้ วลา 15 นาที 7. ใหน้ ักเรยี นตรวจคาตอบจากการทาแบบทดสอบกอ่ นและหลังเรียน ในเฉลยท้าย บทเรียนสาเร็จรูป Augmented Reality Book (AR) แล้วบนั ทึกผลคะแนนการสอบท่ไี ด้ไว้ 8. เมือ่ สิน้ สุดการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ นาคะแนนท่ีได้จากการทาแบบทดสอบก่อนเรียนและ แบบทดสอบหลังเรียน มาวเิ คราะห์และประเมนิ ผล

คาแตะตาสาหรัถตักเรยี ต ๑. นักเรยี นอ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรูก้ อ่ นศึกษา บทเรยี นสาเร็จรูป Augmented Reality Book (AR) ๒. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนจานวน 10 ข้อ ในเวลา 15 นาที ๓. นกั เรียนศกึ ษาเนือ้ หาสาระใน บทเรียนสาเร็จรูป Augmented Reality Book (AR) ให้ครบตามที่ กาหนดไว้ และใชอ้ ปุ กรณ์อิเทคทรอนิคตา่ งๆ ด้วยความระมดั ระวัง ๔. นกั เรียนทาขอ้ สอบจากแบบทดสอบหลงั เรยี น จานวน 10 ขอ้ โดยใช้เวลา 15 นาที ๕. นกั เรยี นตรวจคาตอบจากเฉลยแลว้ บนั ทึกผลคะแนนการทดสอบหลงั เรยี น ๖. นกั เรียนต้องมคี วามซ่อื สตั ย์ต่อตนเอง ไม่ดูเฉลยก่อนทาแบบทดสอบ ขฬ้ ควรปฏถิ ตั ิ ๑. หากมขี ้อสงสยั ให้ขอคาอธิบายหรือถาม ครผู ้สู อนเพื่อรว่ มกนั สรปุ ขอ้ สงสัยน้ันๆ ๒. เพ่อื ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสดุ นักเรยี น ตอ้ งมีความซ่ือสัตยต์ ่อตนเอง ไมเ่ ปดิ ดเู ฉลย จนกวา่ นักเรยี นจะทากิจกรรมเสร็จ เพือ่ ตรวจสอบความก้าวหน้าทางการเรยี น

การใจ้โปรแกรม HP Reveal สาหรัถตักเรียต 1. Download application “HP Reveal” จาก google play หรือ app store ลงมาติดตงั้ บนโทรศพั ท์ smart phone 2. log in ด้วย user name : [email protected] password : 0906703835 3. ใชส้ แกนภาพทม่ี สี ญั ลักษณ์นี้ เพ่ือชม Augmented Reality (AR) รูปภาพ และวดี ิโอ

GUIDELINE FOR LEARNING การผลติ สนิ ค้าและการบริการ ธนาคารและการกู้ยมื เงนิ เศรษฐกิจพอเพยี งและสหกรณ์

แถถณดสฬถก่ฬตเรยี ต (Pre-test) คาจี้แจง แบบทดสอบน้ีเป็นแบบปรนัย จานวน 10 ข้อ คะแนน 10 คะแนน ให้นักเรียนทาแบบทดสอบใน กระดาษคาตอบทคี่ รแู จกให้ และจงทาเครื่องหมาย X คาตอบท่ถี ูกทีส่ ุด 1. สิ่งใดเป็นแรงจงู ใจของผผู้ ลติ 6. ข้อใด คอื แนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพียง ก. ความต้องการของผู้บริโภค ก. ใช้จา่ ยเกินตวั ข. เทคโนโลยีท่ีใช้ในการผลิตและบรกิ าร ข. ตามทนั เทคโนโลยีอยเู่ สมอ ค. การกระจายสนิ คา้ และการบริการไปยัง ค. ใชเ้ งินเดอื นไปกับการแต่งตวั ทานอาหาร ผูบ้ ริโภค ในหา้ ง ซื้อของใชฟ้ ุมเฟือย ง. ถูกตอ้ งทกุ ขอ้ ง. ประหยัด อดออม 2. ข้อใดไมใ่ ชป่ จั จัยการผลติ 7. หลักของเศรษฐกจิ พอเพียง คอื ข้อใด ก. ทนุ ก. การพึ่งพาตนเอง ข. ท่ีดิน ข. การแข่งขนั ค. รัฐบาล ค. การชิงดีชิงเด่น ง. แรงงาน ง. การแกง่ แยง่ 3. สินคา้ และบริการในชมุ ชนสง่ ผลดหี ลายอย่างยกเวน้ ข้อใด 8. ขอ้ ใดเปน็ การนาหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง ก. ทาให้ชุมชนอื่น ๆ ไมพ่ อใจ มาประยกุ ตใ์ ช้ในโรงเรียน ข. ทาให้ชุมชนมชี อื่ เสียง ค. สรา้ งรายไดใ้ ห้ชุมชน ก. นาภูมิปัญญาท้องถนิ่ มาใช้ในการดาเนินชวี ติ ง. เปน็ การสบื ทอดภมู ิปัญญาท้องถ่นิ ข. ขวนขวายใฝุหาความรูเ้ พอื่ จะได้ 4. ข้อใดไม่ใชบ่ ทบาทหน้าทข่ี องธนาคาร นาไปประกอบอาชพี ก. การรบั ฝากเงิน ค. ดาเนินงานและวางแผนในการเรยี น ข. การให้กู้ยมื เงิน ง. ปลกู พชื ผกั ไว้บรโิ ภค ค. การรับแลกเปล่ียนเงินตราต่างประเทศ ง. การแสวงหากาไรสูงสุด 9. การจดั ตงั้ สหกรณ์ควรคานึงถงึ เร่ืองใดมากทสี่ ดุ ก. ผลประโยชน์ของสมาชกิ 5. เงนิ ฝากทไ่ี ม่มกี าหนดระยะเวลาของการรบั ฝาก สามารถ ข. ความสามัคคขี องสมาชกิ ถอนออกมาใช้เม่อื ไรกไ็ ด้ คือเงินฝากประเภทใด ค. ความซอื่ สัตย์ของสมาชกิ ง. ความประหยดั ของสมาชิก ก. เงินฝากกระแสรายวนั ข. เงนิ ฝากออมทรพั ย์ 10. ข้อใดไม่ใชห่ ลกั การของสหกรณ์ ค. เงนิ ฝากประจา ก. หลักความสมัครใจ ง. เงนิ ฝากไมจ่ ากดั ข. ผลกาไรตกเป็นของเอกชน ค. หลักประชาธิปไตย ง. หลักการมีสว่ นร่วมทางเศรษฐกจิ ให้เวลาณาขฬ้ สฬถ ๑๕ ตาณี

๑ การทลิตสติ ค้าและการถรกิ าร การผลติ สินค้าและบรกิ าร ต้องอาศัยปัจจัยการผลิตต่างๆ มาทาให้เกดิ สนิ ค้าและบริการ แตก่ ารทจ่ี ะได้มาซ่ึงปัจจัยการผลิต ผ้ผู ลติ ตอ้ งจา่ ยคา่ ตอบแทนใหก้ ับเจ้าของปัจจัย และค่าใช้จ่ายน้ัน จะกลายเป็นตน้ ทุนการผลิตทมี่ ีผลตอ่ ราคาสินค้าและบริการต่อไป การผลิตสินคา้ และการบริการ การผลิต หมายถึง การแปรสภาพทรพั ยากรท่ีมีอยู่อย่างจากัด ให้เกิดประโยชน์เป็นสินค้าหรือบริการ เพื่อ ตอบสนองความตอ้ งการของมนุษย์ รปู แบบการผลิต การผลติ สินคา้ และบรกิ ารอาจมรี ปู แบบต่างๆ ดังตอ่ ไปนี้ 1. การเปลย่ี นแปลงรูปแบบ คอื การนาวตั ถุดิบหรอื ปัจจัยการผลิตมาแปรสภาพ เพื่อให้เกิดเป็นสินค้าและ บรกิ ารชนิดใหม่ 2. การเปล่ียนแปลงสถานท่ี คอื การเคลอ่ื นย้ายสนิ ค้าและวตั ถุดิบจากสถานทีห่ นึ่งไปยังอีกสถานท่ีหน่ึงเพื่อให้ เกดิ ประโยชน์ในการผลิตสินคา้ และบรกิ าร 3. การเปลย่ี นแปลงกรรมสิทธ์ิ คือการกอ่ ใหเ้ กดิ กิจกรรมทางเศรษฐกิจข้ึนโดยการโอนเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ จากบุคคลหนึ่งไปยงั อีกบคุ คลหนงึ่ 4. การเปล่ียนแปลงเวลา คือ การสรา้ งความพอใจให้แกผ่ ู้บริโภคอนั เน่อื งมาจากการแปรรูปปัจจัยการผลิตให้ เปน็ สินค้า และบรกิ ารที่มีอายกุ ารใชง้ านนานขนึ้ 5. การใหบ้ ริการ คือ การสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกจิ หรือการอานวยความสะดวกหรือสร้างความพอใจ อัน เนื่องมาจากการให้บรกิ ารโดยตรงแก่ผู้บริโภค การผลิตสนิ คา้ และการบริการของท้องถิ่นตา่ งๆ การผลติ สินคา้ และบริการของแต่ละทอ้ งถน่ิ มีความแตกตา่ งกนั ตามลักษณะทอ้ งถ่นิ ทัง้ ในดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติ ภูมปิ ญั ญา วฒั นธรรมประเพณี และการขยายตวั ของทอ้ งถ่นิ การผลิตสนิ ค้าและบริการจากทรพั ยากรในท้องถิ่น เช่น ทอ้ งถ่นิ ท่ีมไี มม้ าก จะนาไมม้ าทา เปน็ เคร่ืองเรอื น งานแกะสลกั จากไม้ ท้องถิน่ ท่ตี ิดทะเลมีสัตวน์ า้ มาก จะนาสตั วน์ า้ มาแปรรปู เป็นอาหารแห้ง และมบี รกิ ารดา้ นการท่องเที่ยว การผลติ สินคา้ และบริการจากการถา่ ยทอดของบรรพบรุ ษุ เช่น การทาบาตรพระ การทามดี อรญั ญิก การผลติ สินค้าและบริการจากวฒั นธรรมและประเพณี เชน่ ชาวบ้านในท้องถน่ิ ภาคใต้มีการแสดงหนงั ตะลุง จึงมีการผลิตสนิ คา้ ที่เปน็ หนังตะลงุ ออกจาหน่ายเปน็ ทรี่ ะลึก การผลิตสนิ ค้าและบริการจากการสร้างอาชีพข้นึ ใหม่ เชน่ ทอ้ งถนิ่ ทีม่ ลี กั ษณะภมู ปิ ระเทศสวยงาม ผู้คน นิยมมาท่องเทย่ี ว ชาวบา้ นอาจทาโฮมสเตยเ์ พ่ือต้อนรับนักท่องเที่ยว

ปจั จยั การทลิต หมายถึง สง่ิ ตา่ งๆ ท่ีนามาใช้ในกระบวนการแปรรูปออกมาเป็นสินค้าและบริการ ซึ่ง ประเภทของปัจจยั การผลิต ไดแ้ ก่ - แรงงาน เป็นแรงงานท้ังกาลังกายและความคิดในการผลิต - ทนุ เป็นเคร่อื งมอื ท่ีมนุษยส์ ร้างขึ้นเพอื่ ใชท้ ุ่นแรงในการผลติ เช่น เครื่องจักรตา่ งๆ - ทีด่ ินและทรัพยากร เช่น ทดี่ ิน ปุาไม้ แร่ - ผ้ปู ระกอบการ คือ ผูน้ าทดี่ นิ แรงงาน และทุน มาเพื่อผลิตเปน็ สินคา้ และบรกิ าร เนราะเหตุใดท้ทู ลิต จึงต้ฬงมกี ารวางแทตการทลติ การตาเณคโตโลยมี าจว่ ยใตการ ทลิตสติ คา้ มีทลดีฬย่างไร ใตการทลิตสิตคา้ ททู้ ลิตควร คาตึงถงึ สิ่งใด

มาดเู ฉลยกนั นะจะ๊ เนราะณรนั ยากรมฬี ยู่ฬยา่ งจากัด จงึ ตามาใจ้ฬยา่ งคุม้ คา่ จ่วยลดการทลิต สติ ค้ามีราคาถกู ลง สามารถ ทลติ ได้ครง้ั ละมากๆ ท้ถู รโิ ภคสามารถเลืฬกฉฬ้ื สิตค้าได้ และมคี วามนฬใจใตสิตคา้ ความตฬ้ งการขฬงทถู้ รโิ ภค ตอบถกู ไหมจะ๊ เดก็ ๆ

๒ ดตาคารและการก้ยู มื เงิต ธนาคาร มีบทบาทสาคัญในการการรับฝากเงินและให้การ กู้ยมื เงนิ เมอื่ ธนาคารรบั เงินฝากแล้วกจ็ ะนาเงินไปให้บุคคล หรือ หน่วยงานต่าง ๆ กู้ยมื โดยธนาคารได้รับผลตอบแทนในรูปของ ดอกเบีย้ เงนิ กู้ ธนาคารได้กาไรจากส่วนตา่ งของดอกเบย้ี เงินฝากกบั ดอกเบี้ยเงินกู้ ซงึ่ อัตราดอกเบย้ี เงินกู้จะสงู กว่าดอกเบย้ี เงนิ ฝาก ความหมายขฬงดตาคาร ธนาคาร หมายถงึ หนว่ ยงานหรอื องค์กรท่ีทาหนา้ ท่รี ับฝากเงินและให้กู้ยืมเงิน หรือเป็น ตัวกลางท่ีรับเงินออกมาจากผู้มีเงินออมต่างๆ มาให้ผู้ท่ีต้องการกู้ยืม เพื่อใช้ในการอุปโภค บรโิ ภค หรือเพือ่ การลงทนุ ประเภณและถณถาณหต้าณ่ีขฬงดตาคาร ธนาคารในประเทศไทยแบ่งเปน็ 2 ประเภทคือ - ธนาคารพาณิชย์ เป็นสถาบนั ทางการเงนิ ท่ที าหน้าท่ีระดมเงินฝากจากประชาชน เพื่อใหบ้ คุ คลหรือหน่วยงานธรุ กจิ กู้ยมื - ธนาคารที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ เป็นธนาคารท่ีจัดต้ังข้ึนเพ่ือดาเนินการโดยมี วัตถปุ ระสงคเ์ ฉพาะอย่าง เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารเพ่ือ การเกษตรและสหกรณก์ ารเกษตร (ธ.ก.ส.) บทบาทหน้าทีส่ าคญั ของธนาคาร มดี ังนี้ - รบั ฝากเงิน ธนาคารจะรับฝากเงินจากบคุ คลและห้างรา้ นทวั่ ไป - ให้กยู้ มื เงนิ ธนาคารจะแสวงหาผลประโยชน์จากเงินฝากของลูกค้า โดยนาเงินให้ บุคคลและหา้ งร้านทว่ั ไปกูย้ ืม แล้วธนาคารจะคดิ ดอกเบ้ยี จากผู้ทก่ี ูย้ มื เงินไปลงทนุ - บริการอื่นๆ เช่น โอนเงินภายในประเทศและระ หว่างประเทศ รับชาระค่า สาธารณูปโภค ใหบ้ รกิ ารแลกเปลยี่ นเงินตราตา่ งประเทศ ให้คาแนะนาด้านการลงทนุ เปน็ ต้น

การธากเงิตและการถฬตเงิต การฝากเงิน คือ การนาเงินไปฝากไว้ท่ี ธนาคารเพอื่ เปน็ การเกบ็ รกั ษาเงนิ ใหป้ ลอดภัย และ ป้องกันการสูญหาย ซง่ึ เงินฝากมอี ยหู่ ลายประเภท ดงั นี้ ๑. เงนิ ฝากออมทรัพย์ เป็นเงนิ ฝากทไี่ ม่มีกาหนดระยะเวลาของการรับฝาก สามารถถอนออกมาใช้เม่ือไรก็ได้ จึงเหมาะกับผ้อู อมโดยทัว่ ไป 2. เงินฝากกระแสรายวนั เป็นเงนิ ฝากท่ผี ู้ฝากสามารถโอนจ่ายเงินในบญั ชีของตนเองให้กับ ผูอ้ ื่นได้ด้วยเช็คสง่ั จ่าย โดยธนาคารจะทาการโอนเงนิ ตามจานวนทีร่ ะบุอยูใ่ นเช็คให้กบั ผ้ทู ่ี นาเช็คมาขน้ึ เงิน 3. เงินฝากประจา เป็นเงนิ ฝากท่ผี ู้ฝากเลือกกาหนดระยะเวลาของการฝากตามท่ีธนาคาร ระบไุ ว้ เชน่ ระยะเวลา 3 เดือน ระยะเวลา 6 เดือน 4. ดอกเบยี้ เงินฝาก เปน็ คา่ ตอบแทนทธี่ นาคารจะต้องจ่ายให้แก่ผู้ฝาก เม่ือมีผู้นาเงินไป ฝากไว้กับธนาคาร ธนาคารจะคิดดอกเบย้ี ของเงินฝากให้กบั ผ้นู าเงินไปฝากตามเงื่อนไข ของการฝาก การถอนเงิน คอื การเบิกเงนิ ของตนเองท่ไี ด้ฝากไวก้ บั ธนาคาร เพือ่ นาออกมาใชจ้ า่ ย

คาถามชวนคดิ ดตาคาร หมายถงึ ฬะไร ๑ ๒ ณาไม เราจึงต้ฬงธากเงติ ไว้กัถ ดตาคาร เงิตธาก มีก่ีประเภณ ฬะไรถ้าง ๓ ๔ ดตาคาร มีหตา้ ณ่ีสาคชั ฬยา่ งไร

เฉลย คาตฬถคืฬ... ขฬ้ ๑ หต่วยงาตหรฬื ฬงค์กรณี่ณาหตา้ ณี่รถั ธากเงติ และให้กยู้ มื เงิต หรืฬเป็ตตัวกลางณ่ี ขฬ้ ๒ รถั เงิตฬฬกมาจากทู้มเี งิตฬฬมตา่ งๆ มาให้ทู้ณ่ีตฬ้ งการกู้ยืม ขฬ้ ๓ ข้ฬ ๔ เนื่ฬเปต็ การเก็ถรักษาเงิตให้ปลฬดภัย และปฬ้ งกัตการสูชหาย ๓ ประเภณ ไดแ้ ก่ เงิตธากฬฬมณรนั ย์ เงิตธากกระแสรายวตั และ เงิตธากประจา ให้การรัถธากเงติ การถฬตเงิต การใหก้ ู้ยืมเงิต ธากให้คิด เมือ่ เราร้จู ักธนาคาร การฝากเงนิ และการกู้ยืมเงินแล้ว นักเรียนคดิ วา่ เราจะใชจ้ ่ายเงนิ ให้คุม้ ค่า และเกิดประโยชนส์ งู สุดไดอ้ ย่างไร

๓ เศรษฐกจิ นฬเนยี งและสหกรฒ์ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมหี ลักการสาคัญให้ประชาชน ดาเนินชีวติ อยูบ่ นความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การมภี มู คิ มุ้ กัน ท่ีดีในตัว เ ป็นแนวทางสาคัญในการทากิจกรรมต่างๆ ใน ครอบครวั โรงเรยี น และชุมชน สอดคล้องกับหลักการสาคัญของ สหกรณ์ จึงควรนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและหลักการ สาคัญของสหกรณไ์ ปประยุกตใ์ ช้ให้เกดิ ประโยชน์ ใจ้เงิตฬยา่ งไร ใหค้ มุ้ ค่า การใชจ้ า่ ยนนั้ จาเปน็ ทจ่ี ะตอ้ งมคี วามรอบคอบ พจิ ารณาถงึ ประโยชนท์ เ่ี กิดขน้ึ จากการใช้ จ่าย คานึงถงึ ความจาเปน็ ในการใชจ้ า่ ยเงนิ มีความประหยดั มธั ยสั ถ์ รู้จกั อดออม เห็นถึงคณุ ค่า และความสาคญั ของเงนิ ประการสาคัญ คือ การใช้ชีวติ ตามหลักปรัชญ าเศรษฐกจิ พอเพยี ง

เศรษฐกิจนฬเนยี ง แตวคดิ เศรษฐกจิ นฬเนยี ง เศรษฐกิจนฬเนียง เป็ตแตวนระราจดาริขฬงนระถาณสมเด็จนระถรม จตกาดเิ ถศร มหาภมู ินลฬดุลยเดจมหาราจ ถรมตาถถนติ ร (รจั กาลณี่ ๙) ณน่ี ระฬงค์ ณรงจ้แี ตะแตวณางใหป้ ระจาจตดาเตติ จวี ิตฬยู่ถตความนฬประมาฒ นฬฬยู่ นฬกิต นฬใจ้ เป็ตนตื้ ฐาตใตการนถั ตาประเณศใหเ้ จริชกา้ วหต้าฬย่างมั่ตคงสถื ต่ฬไป ความ นฬเนียงใตณี่ต้ีคื ฬ ความนฬประมาฒตามฬัตภา น ฉื่ฬตรง ไม่โลภมาก และไม่ เถียดเถียตทู้ฬื่ต ปรจั ชาเศรษฐกจิ นฬเนยี ง เศรษฐกิจนฬเนยี ง เป็ตกรฬถแตวคิด ฉ่ึงมุ่งใ ห้ณุกคตสามารถนึ่งนาตัวเฬ งได้ รวมถงึ การนถั ตาให้ดียิ่งขึ้ต จตเกิดความ ย่ังยตื คาว่า นฬเนียง คืฬ การดาเติตจีวิต แถถณางสายกลาง โดยตั้งฬยถู่ ตหลักสาคัช สามประการ คฬื ความนฬประมาฒ ความมี เหตทุ ล และการมีภมู ิคุ้มกัตณ่ีดี โดยการดารงจีวติ ตามหลกั การณั้งสาม ข้ฬตั้ต จาเป็ตต้ฬงมีความรู้และคุฒดรรม ประกฬถด้วย

หลกั ปรจั ชาเศรษฐกิจนฬเนยี ง พอประมาณ มเี หตุผล มีภูมิคมุ้ กนั ความรู้ คุณธรรม 3 คุณลกั ษณะ - พอประมาณ หมายถงึ การจะทาอะไรมีความพอดี ไมน่ อ้ ยเกินไป ไมม่ ากเกนิ ไป และต้องไม่ เบียดเบียนตนเองและผู้อนื่ เชน่ การบริโภคทป่ี ระหยดั ไมฟ่ ุมเฟอื ย การใชท้ รัพยากรท่เี หมาะสมกบั การผลติ - มเี หตุผล หมายถึง การตดั สินใจกระทาเร่อื งต่างๆ ตอ้ งเป็นไปอย่างมเี หตุผล บนพ้ืนฐานของ ความถูกต้อง ความเป็นจรงิ ตามหลักวชิ าการ โดยพิจารณาจากเหตุปจั จยั ท่เี กีย่ วขอ้ ง ตลอดจนคานงึ ถึงผลท่ีคาด วา่ จะเกิดขึ้นจากการกระทานั้นๆ ท้งั ตอ่ ตนเอง และสว่ นรวม อย่างรอบคอบ - มีภูมิคมุ้ กนั หมายถึง การเตรียมตวั ให้พรอ้ มรับต่อผลกระทบและการเปล่ียนแปลงในด้าน ต่างๆ คือ ไมท่ าอะไรทเี่ ส่ยี งเกินไป ไมป่ ระมาท คดิ ถึงแนวโนม้ ความเป็นไปได้ของสถานการณต์ ่างๆ ท่ีอาจเกิดขึ้น แล้วเตรยี มวธิ กี ารทางาน เพื่อรบั มือกบั การเปลี่ยนแปลงต่างๆ เพ่ือให้การทางานสามารถดาเนินไปไดอ้ ยา่ งต่อเนือ่ ง 2 เงอ่ื นไข - ความรู้ ซ่ึงต้องมีความรอบรเู้ กย่ี วกับวิชาการต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน มคี วามรอบคอบ ในการนาความรเู้ หลา่ น้ันมาพจิ ารณาให้เช่ือมโยงกนั เพ่ือใชใ้ นการวางแผน และมคี วามระมดั ระวังในการปฏบิ ตั ทิ ุก ขัน้ ตอน - คณุ ธรรม ทจี่ ะต้องทาการเสรมิ สรา้ งประกอบดว้ ย การมีความตระหนักในคณุ ธรรม ละอายใน การทาความชว่ั มีความซื่อสัตย์สุจริต ขยัน อดทน ใช้สติปัญญาในการดาเนินชีวิต และรู้จักการแบ่งปัน เอ้อื เฟ้อื เผอื่ แผแ่ ก่ผ้อู ืน่

การปฏิถตั ติ ตตามแตวเศรษฐกจิ นฬเนียง การตาหลกั เศรษฐกิจนฬเนยี งมาประยกุ ตใ์ จ้ใตกิจกรรมตา่ งๆ ใตจีวิตประจาวัต สามารถปฏถิ ตั ิได้ ดังตี้ ตามรฬยนฬ่ ด้วยเศรษฐกิจนฬเนยี ง ระดับครอบครวั มีหลกั ปฏิบตั ิ เช่น มคี วามประหยัด ประกอบอาชีพด้วยความสุจริต ปฏิบัตติ นในแนวทางท่ีดี ขยัน อดทน ไมท่ อ้ ถอยต่ออุปสรรคต่างๆ และใช้สติปัญญาในการแก้ไข ปัญหา จดั ทาบัญชคี รวั เรอื น เพอ่ื จดั สรรรายรบั -รายจา่ ย ระดับโรงเรียน มหี ลักปฏบิ ตั ิ เชน่ สรา้ งเสรมิ นิสยั ทดี่ ใี นการใช้ทรพั ยากรในโรงเรียนอยา่ ง ประหยัด ไม่สรา้ งขยะให้กับโรงเรียนเกนิ ความจาเป็น และนาวัสดุเหลอื ใชก้ ลับมาใชใ้ หม่ ส่งเสริมให้ นักเรยี นฝกึ ทางาน ระดบั ชุมชน มหี ลักปฏบิ ตั ิ เชน่ เข้าร่วมเปน็ สมาชิกกลุ่มต่างๆ ของชุมชน จัดสวัสดิการที่ จาเป็นให้แกค่ นในชมุ ชน จดั ใหม้ ตี ลาดนดั สาหรบั แลกเปลย่ี นสินค้าและบริการภายในชุมชน เพื่อ ชว่ ยเหลือกันเรือ่ งแหลง่ จาหน่ายสินค้า

การทลิตสติ คา้ และถรกิ ารใตจมุ จต ใตจมุ จตต่างๆ จะมกี ารทลติ สติ คา้ และถริการ เน่ืฬถริโภคภายใตจุมจต และตาสิตค้า ถางสว่ ตฬฬกจาหตา่ ยเนื่ฬสรา้ งรายได้ ฉึ่งจะณาให้จมุ จตสามารถน่ึงนาตตเฬงได้ เจ่ต การ ทลติ สิตค้าหต่ึงตาถลหต่ึงทลติ ภฒั ฑ์ (OTOP) ขฬงจุมจตต่างๆ สิตค้าณ่ีเกิดขึ้ตใตจุมจต ต่างๆ ตตั้ มคี วามตา่ สตใจและมเี ฬกลกั ษฒ์แตกต่างกตั ไป ส่วตมากเป็ตสิตค้าณี่เกิดจากภูมิ ปัชชาขฬงคตใตจุมจตณ่ีสั่งสมความรู้ ประสถการฒ์ และตาถ่ายณฬดให้ลูกหลาตได้ จว่ ยกัตสืถตฬ่ ภูมิปัชชาณ้ฬงถ่ิตไวไ้ ม่ให้สชู หาย บ้านแม่สารบ้านตอง เป็นหนง่ึ ในหมู่บ้านทอ่ งเทยี่ วทางวฒั นธรรมของจังหวัดลาพูน ทีม่ ชี ื่อเสยี งทางด้านการทอผา้ ยกดอก ซ่ึงมีเอกลักษ ณ์เฉพาะตัวท่ีถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. 2435 เป็นต้นมา ผ้าไหมยกดอกหรือผา้ ไหมทอด้วยมือ ฝมี อื ประณตี จากลาพูน เป็นท่ตี ้องการท่วั ไปไมเ่ ฉพาะแตใ่ นราชสานักเทา่ นั้น คนลาพูนมองเห็นการณ์ไกล เร่ิมสร้าง โรงงานทอผา้ ยกดอกออกจาหนา่ ยจนเปน็ หตั ถกรรมท่ขี ้ึนชอ่ื ปัจจุบันกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศใหผ้ า้ ไหมทอยกดอกลาพูน เปน็ ผา้ ไหมประเภทแรกของโลก ท่ีไดร้ ับการข้ึนทะเบียน GI (Geographical Indication) ในประเทศไทยเมื่อเดอื นตลุ าคม 2 550 สินค้าบ่งชี้ทาง ภมู ศิ าสตร์ (GI) คอื ชือ่ สัญลักษณ์หรอื สิง่ อนื่ ใด ทบ่ี อกตาแหนง่ ผลิตสินค้าโดยส่ือให้ผู้บริโภค เข้าใจว่าสินคา้ นนั้ มคี ุณภาพหรอื คณุ ลกั ษณะพิเศษ แตกตา่ งจากสนิ ค้าท่ีผลติ ในแหล่งอน่ื ดาเนินการร่วมกบั กลมุ่ ผ้ปู ลูกลาไยในตาบลประตปู ่า เกิดเป็นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ลาไยอบกึ่งแห้งครั้งแรกของประเทศไทย ชว่ ยเพ่มิ มลู ค่า รวมทัง้ เป็นหน่งึ ในวิธกี ารแก้ไขปัญหา ราคาลาไยตกตา่ จากสถานการณผ์ ลผลิตล้นตลาด ซ่ึงจดุ เดน่ ของลาไยอบกึ่งแห้ง \"ละพูน\" คือ การคดั คุณภาพลาไยพนั ธอุ์ ดี อ เกรด A และ AA ท่มี ลี ักษณะพิเศษ ลกู โต เน้อื หนา เพื่อนาไป ผา่ นกระบวนการแปรรปู ด้วยวิธีการ \"อบกึ่งแห้ง\" ซง่ึ ถือวา่ เปน็ ผลติ ภัณฑ์ท่ีใช้นวัตกรรมการ แปรรูปด้วยการอบกงึ่ แหง้ ครงั้ แรกในประเทศไทย สามารถคงความสด มีเนื้อสีทอง หอมนุ่ม รสชาตหิ วานอมเปรี้ยว มรี สสัมผสั เหมือนการรบั ประทานลาไยสด สามารถเก็บไดน้ านสูงสุดถึง 6 เดือน และไดร้ บั การรบั รองมาตรฐานจาก สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

จ่วง...คาถามตา่ รู้ หลกั ปรัจชาเศรษฐกิจนฬเนยี ง คฬื ฬะไร ใครเปต็ ทคู้ ิดคต้ ปรจั ชาเศรษฐกจิ นฬเนยี ง ปรจั ชาเศรษฐกจิ นฬเนียง ประกฬถด้วยฬะไรถา้ ง ตักเรียตสามารถตาแตวคิดเศรษฐกิจนฬเนยี งไปใจใ้ ตครฬถครวั ใตเร่ืฬงใดถา้ ง พอประมาณ มีเหตุผล .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. ......................................... ......................................... มีภูมิค้มุ กัน .................................................. .................................................. .................................................. ......................................... เง่ือนไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม ...................................................... ................................................... ...................................................... ................................................... ......

มาดเู ฉลยกัตเลย กรฬถแตวคิด ฉึ่งมุ่งใหณ้ กุ คตสามารถนึ่งนาตวั เฬงได้ รวมถึงการนัถตาให้ดีย่ิงข้ึต จตเ กิด ความยั่งยตื คาวา่ นฬเนยี ง คืฬ การดาเตติ จีวิตแถถณางสาย กลาง โดย ต้ังฬยู่ถตหลักสาคัช สาม ประการ คฬื ความนฬประมาฒ ความมีเหตุทล และการมีภูมิคมุ้ กตั ณ่ีดี โดยกา รดาร งจีวิตต ามหลั กการณั้ งสาม ข้ฬต้ัต จาเ ป็ ตต้ฬงมี ความ รู้และ คุ ฒ ด รร ม ประกฬถด้วย นระถาณสมเด็จนระถรมจตกาดิเถศร มหาภูมินลฬดุลยเดจมหาราจ ถรมตาถถนติ ร (รัจกาลณี่ ๙) เศรษฐกิจนฬเนยี ง ประกฬถด้วย ๓ คฒุ ลกั ษฒะ และ ๒ เง่ืฬตไข ได้แก่ ความนฬประมาฒ ความมีเหตุทล การสรา้ งภมู ิคุ้มกัตใตตวั ณ่ีดี เง่ืฬตไข ความรู้ และ เงื่ฬตไขคุฒดรรม ๑. การรูจ้ ักใจ้จ่ายใตส่ิงณี่จาเปต็ และเปต็ ประโยจตต์ ฬ่ ครฬถครวั ๒. รูจ้ กั เก็ถสะสมเงิตไวใ้ จจ้ ่ายยามจาเปต็ ๓. มคี วามรัถทิดจฬถต่ฬหตา้ ณ่ีใตครฬถครวั ๔. ใจจ้ ีวติ ไม่ประมาณ พอประมาณ มีเหตผุ ล ทาอะไรมีความพอดี ไม่ การตดั สนิ ใจกระทาเรือ่ ง นอ้ ยเกินไป ไมม่ ากเกินไป และ ต่างๆ ตอ้ งเป็นไปอยา่ งมเี หตผุ ล ต้องไม่เบียดเบียนตนเองและ บนพนื้ ฐานของความถูกตอ้ ง ผู้อืน่ ความเป็นจรงิ ตามหลักวิชาการ มภี ูมคิ มุ้ กัน การเตรียมตวั ให้พรอ้ มรบั ตอ่ ผลกระทบและการเปลี่ยนแปลง ในด้านต่างๆ คิดถงึ แนวโน้มความ เปน็ ไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ทอี่ าจเกิดขึน้ เงอ่ื นไขความรู้ เงอื่ นไขคณุ ธรรม มีความรอบรูเ้ กย่ี วกับวิชาการ การมคี วามตระหนกั ในคณุ ธรรม ตา่ งๆ ทเี่ ก่ียวขอ้ งอยา่ งรอบด้าน ละอายในการทาความชัว่ มคี วาม ซ่อื สัตย์สุจรติ

สหกรฒ์ แตวคิดสหกรฒ์ สหกรฒ์ คืฬ ฬงคก์ รณางเศรษฐกิจและสังคมณ่ีสมาจิกร่วมกัตจัดตั้งข้ึตด้วยการ ลงหุ้ตรว่ มกัต จัดการร่วมกัตใตการทลิต การจาหต่ายสิตค้า หรืฬถริการตาม ความต้ฬงการหรฬื ทลประโยจตฬ์ ย่างเดยี วกตั ขฬงถรรดาสมาจิก สมาจิกแต่ละคต มสี ณิ ดิ์ฬฬกเสียงได้หต่ึงเสยี งใตการถรหิ ารสหกรฒ์ โดยไมข่ ตึ้ กัถจาตวตหุ้ตณี่ถืฬฬยู่ เจ่ต สหกรฒฬ์ ฬมณรนั ย์ สหกรฒ์การเกษตร สหกรฒ์โคตม เป็ตต้ต สหกรฒ์ ยังมีจุดมุ่งหมายและหลักกา รใตกา ร จัดต้งั ดว้ ย ฬตั เป็ตแตวณางขฬงสหกรฒ์ณ่ีสหกรฒ์รูปแถถ ต่าง ๆ ยดึ ถืฬปฏถิ ัติ เนื่ฬใหถ้ รรลวุ ัตถปุ ระสงค์ตามความ ม่งุ หมาย

จดุ มงุ่ หมายและหลักการขฬงสหกรฒ์ จุดมงุ่ หมายขฬงสหกรฒ์ 1) เพือ่ ให้สมาชิกได้รวมกลุ่มในการผลิตสินค้าและบริการ การจัดหาตลาด จาหนา่ ยสินคา้ ท้งั นเ้ี พอ่ื ต้องการให้สมาชิกไดร้ บั ประโยชนจ์ ากธรุ กิจของสหกรณ์ โดยมุ่ง ในการช่วยเหลือสมาชกิ มากกว่าต้องการผลกาไร 2) เพอื่ แลกเปล่ียนความคิดเห็นซึง่ กนั และกนั และเพื่อยกระดบั ความ เปน็ อย่ทู ั้งทางด้านเศรษฐกจิ และสังคมของสมาชกิ ให้มคี วามอยดู่ กี นิ ดี หลกั การขฬงสหกรฒ์ 1) หลกั ความสมัครใจ คือ เปดิ รบั สมาชกิ ทั่วไปตามความสมคั รใจ และให้โอกาส การเขา้ เป็นสมาชิกโดยไมม่ กี ารแบง่ เพศ ชนช้ัน เชื้อชาติ การเมอื ง และศาสนา 2) หลักประชาธปิ ไตย คือ บริหารตามหลักประชาธปิ ไตย เปิดโอกาสใหท้ กุ คนมี สว่ นร่วมกาหนดนโยบาย และสมาชกิ ทกุ คนมีสทิ ธใิ นการออกเสยี งอย่างเทา่ เทียมกนั โดย 1 คน ออกเสียงได้ 1 เสียง 3) หลกั อสิ ระ คอื ดาเนนิ งานโดยอสิ ระ ไมม่ ีผทู้ รงอทิ ธพิ ล รฐั บาล หรอื องค์กรใดๆ มาเก่ยี วขอ้ ง 4) หลักการมสี ว่ นร่วมทางเศรษฐกจิ สมาชกิ มสี ิทธิลงทุนและกากับดูแลการใช้ เงินทุนของสหกรณ์อยา่ งเทา่ เทียมกนั

ประเภณขฬงสหกรฒ์ ๑. สหกรณ์การเกษตร เป็นสหกรณ์ทีเ่ กษตรกรร่วมกันจัดตั้งเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของเกษตรกรด้าน สนิ เช่ือเพือ่ การเกษตร จัดหาเครื่องมอื ทางการเกษตรทีจ่ าเป็นมาจาหน่ายในราคาถูก จัดหาตลาด จาหนา่ ยผลติ ผลและผลติ ภณั ฑข์ องเหลา่ สมาชิก สง่ เสริมความรูเ้ กย่ี วกบั การทาเกษตรแผนใหม่ และ ให้บรกิ ารดา้ นการจัดหาเงนิ ทุนแกส่ มาชิก 2. สหกรณก์ ารประมง เปน็ สหกรณส์ าหรับผ้มู ีอาชีพประมงโดยเฉพาะ ทั้งอาชีพประมงน้าจืด และ ประมงทะเล มวี ตั ถุประสงค์ เพอื่ ให้ความร้ทู างด้านวิชาการ และดาเนินธุรกิจ เพื่อส่งเสริมอาชีพ ประมง ทัง้ การจาหน่ายสัตว์นา้ ผลิตภัณฑ์ สัตว์นา้ และอปุ กรณป์ ระมง 3. สหกรณอ์ อมทรัพย์ เปน็ สหกรณ์สาหรบั ผูท้ มี่ รี ายได้ประจาโดยท่ัวไป ที่ต้องการพึ่งตนเอง ด้วยการ ออมทรพั ย์เปน็ ประจา และช่วยเหลอื ซงึ่ กันและกัน ดว้ ยการใหก้ ยู้ ืม เมอื่ เกิดความจาเปน็ 4. สหกรณบ์ ริการ เป็นสหกรณ์ของกลุ่มคนที่มีความสมคั รจะทากจิ การหรอื ธุรกจิ ที่เกี่ยวกับการบริการ รว่ มกนั มีหลายรูปแบบและเป็นการบรกิ ารท่ีแตกต่างไปจากสหกรณป์ ระเภทอนื่ ๆ 5. สหกรณน์ ิคม เปน็ สหกรณท์ ี่ผปู้ ระกอบอาชีพเกษตรกรรมท่ีไม่มีที่ดินทากินเป็นของตนเองร่วมกัน จัดต้งั เพอ่ื จดั หาที่ดนิ ใหส้ มาชิกในการประกอบอาชีพ สมาชิกจะได้สิทธิในการครอบครองและ สามารถตกทอดเปน็ มรดกไปยงั ลูกหลานได้ 6. สหกรณร์ ้านคา้ สว่ นใหญ่มักเรียกชือ่ วา่ รา้ นสหกรณ์ จดั ตัง้ ขน้ึ โดยกลุ่มผู้บริโภครวมกัน เพื่อจัดหา สนิ ค้าเครอื่ งอุปโภคบรโิ ภค และ รวบรวมผลติ ผลผลติ ภณั ฑ์มาจาหนา่ ยแก่สมาชิกและส่งเสริมความ เปน็ อย่ขู องสมาชิกใหด้ ีขึ้น 7. สหกรณเ์ ครดติ ยูเนย่ี น ตง้ั ขึน้ โดยความสมคั รใจของสมาชกิ ทอ่ี ยู่ในวงสมั พันธ์เดียวกัน เช่น อาศัยใน ชมุ ชนเดียวกัน ประกอบอาชีพเดยี วกนั หรือในสถานทีเ่ ดียวกัน หรือมกี ิจกรรมร่วมกันเพื่อการรู้จัก ช่วยเหลือตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยมุง่ เน้นใหส้ มาชกิ ประหยัดและอดออม เพื่อการรู้จักช่วยตนเอง เปน็ เบื้องตน้ และเป็นพนื้ ฐานในการสร้างความม่นั คงแก่ตนเองและครอบครัว ธากไว้ใหค้ ิด ในฐานะทเี่ ราเป็นนกั เรยี น เราจะสามารถนา หลกั สหกรณม์ าใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้อยา่ งไรบ้าง

การธกึ ปฏิถตั ิงาตสหกรฒใ์ ตโรงเรียต สหกรฒ์ใตโรงเรยี ต สว่ ตใหชเ่ ปต็ สหกรฒ์ร้าตคา้ โดยมวี ัตถปุ ระสงคเ์ น่ืฬขายสิตคา้ ณม่ี ี ความจาเปต็ ใตจีวติ ประจาวตั และเปต็ สติ คา้ ณม่ี ีคุฒภานดี มีราคาตามณ้ฬงตลาด หรืฬถูกกว่า ณ้ฬงตลาด เจ่ต ฬปุ กรฒ์การเรยี ต เครื่ฬงเขยี ต เครื่ฬงด่ืม สหกรฒใ์ ตโรงเรียตเปต็ การรวมกลุม่ ดาเติตงาตขฬงครแู ละตกั เรยี ต โดยระดมณุตจากครู และตักเรียตใตโรงเรียต ไม่ตฬ้ งเสียค่าสถาตณดี่ าเติตดรุ กิจ ฬกี ณงั้ สมาจกิ จะไดร้ ัถเงิตปัตทลตาม หตุ้ และจากยฬดการฉฬ้ื สติ ค้าใตสหกรฒ์ หลักการและข้ตั ตฬตการดาเตติ งาตขฬงสหกรฒโ์ รงเรียต 1) จัดการประชมุ บุคลากรและนักเรียนในโรงเรยี น เพือ่ สร้างความรู้และ ความเข้าใจเกย่ี วกับสหกรณ์ 2) รวบรวมสมาชิกและหุ้นเพือ่ ดาเนินการ 3) เลอื กตวั แทนเพ่ือเปน็ คณะผดู้ าเนินการสหกรณ์โรงเรยี น 4) คณะผูด้ าเนินการสหกรณ์โรงเรียนจัดประชุมเพื่อดาเนินการต่างๆ ได้แก่ กาหนดแผนกจิ กรรมสหกรณ์โรงเรยี น จดั ทาบัญชีรายชอ่ื ผู้ท่เี ปน็ สมาชิก จัด ประชุมผู้เปน็ สมาชิก จดั ทาร่างข้อบงั คบั สหกรณโ์ รงเรยี น 5) ดาเนินกจิ กรรมสหกรณโ์ รงเรียน 6) รวบรวมสมาชกิ และหนุ้ เพอ่ื ดาเนินการ 7) เมอื่ ครบปี สหกรณ์โรงเรียนจะทาการปดิ บัญชสี หกรณ์ และจัดประชุม ใหญ่เพื่อสรปุ ผลการดาเนินงานรายปีและจา่ ยเงินปันผลประจาปี

คาถามจวตคดิ สหกรฒ์ หมายถงึ ฬะไร สหกรฒ์ มกี ี่ประเภณ ฬะไรถา้ ง COOPERATIVE

ตฬถถกู กัตไหมเด็ก ๆ 1. สหกรณ์ หมายถึง กลุ่มบุคคลตั้ง 10 คนรวมตัวกัน เพื่อดาเนินการทาง เศรษฐกจิ และสงั คมรว่ มกนั โดยไม่มงุ่ หวังผลกาไร 2. สหกรณ์ มีหลกั การสาคญั ดงั น้ี 1) หลักความสมคั รใจ คอื เปิดรบั สมาชกิ ท่วั ไปตามความสมัครใจ และให้ โอกาสการเขา้ เปน็ สมาชกิ โดยไม่มกี ารแบง่ เพศ ชนช้ัน เช้ือชาติ การเมือง และ ศาสนา 2) หลักประชาธปิ ไตย คือ บริหารตามหลกั ประชาธิปไตย เปิดโอกาสให้ ทุกคนมสี ่วนร่วมกาหนดนโยบาย และสมาชิกทกุ คนมีสทิ ธิในการออกเสียงอย่าง เท่าเทียมกนั โดย 1 คน ออกเสยี งได้ 1 เสียง 3) หลักอสิ ระ คอื ดาเนินงานโดยอิสระ ไม่มีผู้ทรงอิทธิพล รัฐบาล หรือ องค์กรใดๆ มาเกยี่ วขอ้ ง 4) หลักการมีส่วนรว่ มทางเศรษฐกจิ สมาชกิ มีสิทธิลงทุนและกากับดูแล การใช้เงนิ ทุนของสหกรณอ์ ย่างเท่าเทยี มกนั 3. สหกรณ์ มีจุดมงุ่ หมาย ดงั น้ี 1) เพื่อใหส้ มาชกิ ไดร้ วมกลุ่มในการผลิตสินค้าและบริการ การจัดหา ตลาดจาหนา่ ยสนิ ค้า ทั้งน้เี พ่ือต้องการใหส้ มาชิกได้รับประโยชน์จากธุรกิจของ สหกรณ์ โดยมงุ่ ในการช่วยเหลอื สมาชิกมากกวา่ ต้องการผลกาไร 2) เพื่อแลกเปลีย่ นความคดิ เห็นซึ่งกันและกัน และเพ่ือยกระดับความ เปน็ อยูท่ ง้ั ทางดา้ นเศรษฐกจิ และสงั คมของสมาชิกให้มีความอยดู่ กี ินดี 4. สหกรณ์ แบ่งออกเป็น 7 ประเภท ดงั น้ี 1) สหกรณก์ ารเกษตร 2) สหกรณ์การประมง 3) สหกรณ์ออมทรพั ย์ 4) สหกรณบ์ ริการ 5) สหกรณน์ คิ ม 6) สหกรณร์ ้านค้า 7) สหกรณ์เครดิตยูเนย่ี น

แถถณดสฬถหลังเรียต คาจี้แจง แบบทดสอบนี้เป็นแบบปรนัย จานวน 10 ข้อ คะแนน 10 คะแนน ให้นักเรียนทาแบบทดสอบใน กระดาษคาตอบท่คี รแู จกให้ และจงทาเครือ่ งหมาย X คาตอบท่ีถูกทสี่ ุด 1. ข้อใด ไมใ่ ช่ความหมายของการผลติ 6. ขอ้ ใด ไม่จดั อยู่ในคณุ ลักษณะ 3 ประการของ ก. การแปรรปู เศรษฐกจิ พอเพยี ง ข. การนาทรพั ยากรมาทาใหม่ ค. การจาหน่ายสินคา้ ก. ความพอประมาณ ง. กระบวนการเพ่ิมมลู ค่าใหก้ ับสินคา้ ข. ความรู้ ค. ความมีเหตุผล 2. ขอ้ ใด ไมอ่ ยูใ่ นปัจจยั การผลติ ง. การสรา้ งภมู ิคมุ้ กันในตวั ทดี่ ี ก. เจา้ ของสินค้า ข. ผ้ซู ้อื สนิ คา้ 7. เง่ือนไขใด ในหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง ท่ีส่ือให้ ค. ทนุ เห็นถงึ การเตรียมตัวใหพ้ รอ้ มรบั ผลกระทบและ ง. แรงงาน การเปลีย่ นแปลงดา้ นการต่างๆ 3. เทศกาลโคมแสนดวงท่ีเมืองลาพูน จัดเป็นการผลิต ก. ความมเี หตผุ ล สนิ คา้ และบริการ ประเภทใด ข. ความรู้ ค. การมภี ูมิคุ้มกนั ทีด่ ี ก. การผลิตสินค้าและบริการจากการถ่ายทอดของ ง. ความพอประมาณ บรรพบุรุษ 8. ใครปฏิบัติตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพยี งใน ระดับครอบครวั ข. การผลิตสิน ค้าและบริการจ ากวัฒนธรรมและ ก. เนต็ ขอเงนิ แม่ซอื้ ขนมทกุ เย็น ประเพณี ข. นัตเอาเงนิ ค่าขนมไปเล่นเกม ค. นนท์ช่วยแมข่ ายของหลังเลิกเรยี น ค. การผลติ สนิ ค้าและบรกิ ารจากการสร้างอาชีพขึ้นใหม่ ง. เนยชอบทาความสะอาดสวนสาธารณะ ง. การผลติ สนิ ค้าและบริการจากเทคโนโลยี 9. ข้อใด ไมใ่ ชห่ ลักการสาคญั ของสหกรณ์ 4. ธนาคารโดยทวั่ ไปมหี น้าทีห่ ลกั คอื อะไร ก. หลักความสนใจ ก. รับฝากเงนิ และใหก้ ู้เงนิ ข. หลักความสมคั รใจ ข. ใหค้ าปรึกษาด้านการเงนิ ค. หลักประชาธปิ ไตย ค. ใหก้ ารสนับสนุนการสง่ ออก ง. หลกั การมสี ่วนร่วม ง. ให้บริการชาระคา่ นา้ ประปา 10. สหกรณป์ ระเภทใด มีหน้าท่จี ัดสรรท่ดี ิน 5. การฝากเงนิ แบบใดได้ดอกเบี้ยมากที่สุด ให้กบั ผูท้ ีไ่ มม่ ที ่ดี นิ ทากนิ เป็นของตนเอง ก. ฝากออมทรัพย์ ข. ฝากกระแสรายวัน ก. สหกรณ์การเกษตร ค. ฝากประจา 3 เดอื น ข. สหกรณ์ออมทรัพย์ ง. ฝากประจา 12 เดอื น ค. สหกรณบ์ ริการ ง. สหกรณ์นคิ ม ให้เวลาณาขฬ้ สฬถ ๑๕ ตาณี

เฉลยแถถณดสฬถกฬ่ ตเรียต – หลังเรยี ต 1. ง 2. ค 3. ก 4. ง 5. ข 6. ง 7. ก 8. ค 9. ง 10. ข 1. ค 2. ข 3. ข 4. ก 5. ง 6. ข 7. ข 8. ค 9. ก 10. ก

Bibliography ถรรฒาตุกรม กมล จันชลี อน และ สาธิต นจิ รมย์. คมู่ ือครู สงั คมศกึ ษา ป.5. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญ ทัศน์, 2561. จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา. \"คาปรารภ\" ใน คาพ่อสอน ประมวลพระบรมราโชวาท และพระ ราชดารสั เก่ียวกบั เศรษฐกจิ พอเพยี ง. กรุงเทพมหานคร : มลู นิธิพระดาบส, 2551.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook