Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สื่องานเชื่อมไฟฟ้า

สื่องานเชื่อมไฟฟ้า

Published by นายฉลาด ปิ่นสกุล, 2021-01-21 03:57:20

Description: กระบวนการเชื่อมไฟฟ้าเบื้องต้น

Search

Read the Text Version

133 7. ถ้าจานวนรอบขดลวดของตัวปรับเรียงกระแสมากกว่าขดลวดทุติยภูมิจะมีผลอย่างไรกับหม้อแปลง ไฟฟา้ ของเคร่อื งเชอื่ มแบบปรับกระแส ก. การเหน่ียวนาของกระแสไฟฟา้ ของหม้อแปลงมคี ่ามาก ข. ค่ากระแสไฟฟา้ ในการเชื่อมสงู ค. การเหน่ียวนาของกระแสไฟฟ้าของหมอ้ แปลงมคี ่าปานกลาง ง. ค่ากระแสไฟฟา้ ในการเช่อื มต่า 8. ขดลวดชนิดใดของเครือ่ งเชื่อมแบบปรบั กระแสท่ีสามารถเคลื่อนที่ได้ ก. ขดลวดปฐมภูมิ ข. ขดลวดทุตยิ ภมู ิ ค. ขดลวดเรยี งกระแส ง. ขดลวดปรับแรงเคลือ่ น 9. ตัวอักษรยอ่ ของการตอ่ ไฟฟา้ กระแสตรงตอ่ ขั้วตรง คอื ก. DCSP ข. DCEP ค. DECN ง. DCRP 10. ข้อใดกล่าว ถูกตอ้ ง เก่ยี วกับการตอ่ ขัว้ ไฟเชอื่ มแบบ DCEP ก. ความรอ้ นอยทู่ ่ีลวดเช่ือม 50% และที่ชิ้นงาน 50% ข. ความรอ้ นอย่ทู ่ีลวดเชื่อม 60% และทชี่ นิ้ งาน 40% ค. ความร้อนอยทู่ ี่ลวดเชื่อม 70% และท่ชี น้ิ งาน 30% ง. ความร้อนอยทู่ ี่ลวดเช่อื ม 80% และที่ชิ้นงาน 20% 11. การตอ่ ไฟฟา้ กระแสตรงต่อขั้วตรงจะมผี ลอย่างไรต่อชน้ิ งาน ก. ช้นิ งานมกี ารซึมลึกน้อย ข. ชน้ิ งานได้รับความร้อนนอ้ ยกวา่ ลวดเชอ่ื ม ค. ช้ินงานกบั ลวดเชือ่ มได้รบั ความร้อนเทา่ กัน ง. ช้ินงานมีการซึมลึกดี 12. การตอ่ ไฟฟ้ากระแสตรงต่อขว้ั ตรงเหมาะสาหรบั เชอ่ื มช้นิ งานชนดิ ใด ก. ช้ินงานทม่ี ีความหนานอ้ ย ข. ช้นิ งานโลหะแผ่น ค. ชน้ิ งานทีม่ ีความหนามาก ง. เชื่อมช้ินงานไดท้ ุกชนิด

134 13. วงจรไฟฟ้ากระแสตรงต่อกลบั ขัว้ มีผลทาใหล้ วดเช่ือมเป็นข้ัวชนิดใด ก. ขว้ั บวก ข. ขว้ั ลบ ค. ขวั้ บวกและลบ ง. ขั้วบวกหรอื ลบกไ็ ด้ 14. ข้อใดกลา่ วถึงวฏั จักรการทางานของเครอื่ งเชอ่ื ม (Duty Cycle) ได้ถกู ต้องมากทส่ี ุด ก. ความสามารถในการเช่ือมของเคร่ืองเชอ่ื มในเวลากาหนดไมเ่ กิน 10 นาที ข. ประสทิ ธภิ าพของเคร่ืองเชอื่ มท่ีทาการเชื่อมในเวลา 10 นาที ค. ประสทิ ธภิ าพของเครื่องเชอื่ มทก่ี าหนดเวลาในการเชื่อมไม่นอ้ ยกวา่ 10 นาที ง. ตัวเลขท่ีบง่ ชถี้ งึ ความสามารถของเคร่ืองเชอ่ื มท่กี าหนดไว้ดว้ ยเวลา 10 นาที 15. ในการเชือ่ มดว้ ยลวดเชือ่ มขนาดเสน้ ผ่านศูนย์กลาง 3.2 มลิ ลเิ มตร ควรใช้เบอร์ของกระจกกรองแสง ขนาดเท่าใด ก. เบอร์ 8 ข. เบอร์ 10 ค. เบอร์ 12 ง. เบอร์ 14 16. ลวดเชือ่ มห้มุ ฟลักซม์ ีหนา้ ท่ีอะไร ก. ชว่ ยทาใหก้ ารอารก์ เรยี บสมา่ เสมอ ข. นากระแสไฟฟ้าไปยังการบริเวณอาร์ก ค. สร้างแกส๊ คลุมแนวเชือ่ ม ง. ป้องกนั การเกิดปฏกิ ริ ยิ าออกซิเดชนั 17. ข้อใด ไม่ใช่ หนา้ ท่ขี องฟลักซ์ทใี่ ชห้ มุ้ แกนลวดเช่ือม ก. ช่วยทาใหก้ ารอาร์กเรยี บสม่าเสมอ ข. สร้างแก๊สคลมุ แนวเชือ่ ม ค. ชว่ ยดึงส่ิงสกปรกในบ่อหลอมขน้ึ มารวมตวั กันเป็นสแลก ง. นากระแสไฟฟา้ ไปยังการบริเวณอารก์ 18. ลวดเช่อื ม E6013 มีคา่ ความแข็งแรงดา้ นแรงดงึ ต่าสุดเทา่ ใด ก. 600 ปอนด์/ตารางนว้ิ ข. 6,000 ปอนด์/ตารางนว้ิ ค. 60,000 ปอนด์/ตารางนิ้ว ง. 600,000 ปอนด์/ตารางน้วิ

135 19. ตาแหนง่ การเช่ือมท่เี หมาะสมกับลวดเชอื่ ม E6013 คือ ก. ท่าราบและทา่ ระดับ ข. ทา่ ระดบั ค. ท่าเหนือศรี ษะ ง. เช่ือมไดท้ ุกตาแหนง่ 20. การเชื่อมด้วยลวดเช่อื ม E 6013 ควรปรบั กระแสเชอื่ มอยา่ งไร ก. DCEP ข. DCEN ค. AC ง. DCRP 21. การเชือ่ มช้นิ งานหนา 12.7 มลิ ลิเมตร ดว้ ยลวดเชือ่ ม E6013 ควรใชก้ ระแสไฟเชอื่ มเทา่ ใด ก. 80-130 แอมแปร์ ข. 100-150 แอมแปร์ ค. 105-180 แอมแปร์ ง. 150-230 แอมแปร์ 22. การเลอื กลวดเช่อื มหมุ้ ฟลักซ์มหี ลักเกณฑ์ในการพจิ ารณาอยา่ งไร ก. มีสมบตั ิเหมือนกันหรือใกลเ้ คียงกับชิน้ งานที่นามาเชื่อม ข. เลือกลวดเชอื่ มทส่ี ามารถเช่อื มได้กับวัสดุทกุ ชนดิ ค. เลอื กลวดเชื่อมทม่ี ีราคาถูกเพอื่ ความประหยดั ง. เลือกลวดเชื่อมท่มี คี ่าความแขง็ แรงดา้ นแรงดึงสงู สดุ 23. จากภาพคอื ตาแหนง่ ท่าเชอ่ื มชนิดใด ก. ทา่ ราบ ข. ท่าระดับ ค. ท่าต้ัง ง. ท่าเหนือศรี ษะ 24. จากภาพคอื รอยตอ่ งานเชอื่ มชนดิ ใด ก. รอยต่อเกย ข. รอยตอ่ มมุ ค. รอยตอ่ ชน ง. รอยตอ่ ขอบ

136 25. รอยต่อชนดิ ใดท่ีนาขอบของช้ินงาน 2 ช้ินมาชนกันหรือแนบชิดกันและในการเชื่อมจะเชื่อมที่ผิวหน้า ของขอบงานใหต้ ิดกัน ก. รอยตอ่ มุม ข. รอยตอ่ ขอบ ค. รอยตอ่ เกย ง. รอยต่อชน 26. รอยตอ่ ชนดิ ใดท่ีนาชิ้นงาน 2 ชิ้นวางซ้อนกนั ก. รอยต่อชน ข. รอยตอ่ ตัวที ค. รอยตอ่ เกย ง. รอยตอ่ มมุ 27. จากรปู คือรอยต่อชนิดใด ก. รอยต่อชน ข. รอยต่อตวั ที ค. รอยตอ่ เกย ง. รอยต่อมมุ 28. จากรูป คอื รอยตอ่ ชนดิ ใด ก. รอยต่อมมุ ข. รอยตอ่ เกย ค. รอยต่อขอบ ง. รอยต่อชน 29. มุมท่ีเอยี งลวดเช่อื มไปทางเดยี วกบั การทศิ ทางเช่อื มหรือการเคลอ่ื นท่ีของลวดเชอ่ื ม หมายถงึ มมุ อะไร ก. มุมงาน ข. มุมส่ายลวดเช่ือม ค. มมุ เดินลวดเชือ่ ม ง. มมุ เอียงหัวจับลวดเช่อื ม

30. จากรปู มุม 90 องศาหมายถงึ อะไร 137 ก. มุมเดนิ ลวดเชอื่ ม ข. มุมงาน ค. มุมจับลวดเช่อื ม ง. มุมจบั ชิ้นงาน 31. จากรปู มุม 65-85 องศาหมายถึงอะไร ก. มุมเดินลวดเชอื่ ม ข. มมุ งาน ค. มุมจับลวดเชอ่ื ม ง. มมุ จบั ชนิ้ งาน 32. ระยะอารก์ (Arc Length) หมายถึง ก. ระยะหา่ งระหวา่ งชน้ิ งานกบั หวั จบั ลวดเชอ่ื ม ข. ระยะหา่ งระหวา่ งปลายลวดเชอ่ื มกบั ช้นิ งาน ค. ระยะหา่ งระหวา่ งจากปลายลวดเชื่อมกบั หัวจับลวดเชอ่ื ม ง. ระยะหา่ งระหวา่ งลวดเชอื่ มกับโตะ๊ เช่อื ม 33. ถ้าระยะอารก์ ในการเช่ือมมากเกนิ ไปจะมีผลอย่างไรตอ่ ชนิ้ งาน ก. ความร้อนกระจายทชี่ ิ้นงานน้อย ข. ลวดเชื่อมตดิ กบั ช้ินงาน ค. แนวเชอื่ มเลก็ ง. เกิดรอยกดั ขอบ 34. โดยทั่วไประยะอาร์กในการเช่ือมทเ่ี หมาะสมควรมีขนาดเท่าใด ก. เท่ากับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของลวดเชอ่ื ม ข. เทา่ กบั ความหนาของช้ินงาน ค. 2 เทา่ ของขนาดเสน้ ผ่านศนู ย์กลางของลวดเชอ่ื ม ง. 2 เทา่ ของความหนางาน

138 35. การเลือกใช้ชนิดของกระแสไฟฟ้าเช่ือมขึน้ อยกู่ ับองค์ประกอบอะไรบา้ ง ก. ชนดิ ของลวดเชอ่ื ม ข. ทา่ เชอื่ ม ค. จานวนแนวเชื่อม ง. รอยต่องานเชอ่ื ม 36. การใชก้ ระแสไฟฟา้ สงู เกินไปจะมผี ลตอ่ แนวเชื่อมอย่างไร ก. บ่อหลอมละลายกวา้ งและเกดิ การกดั ขอบตามความยาวของแนวเชื่อม ข. แนวเชอ่ื มกองนูนมาก ค. ขอบแนวเชอื่ มไม่หลอมรวมตัว ง. แนวเชอื่ มเลก็ และไม่เกดิ การซมึ ลกึ 37. จากรูป เปน็ แนวเชื่อมทม่ี ผี ลกระทบมาจากการปรับคา่ ตวั แปรชนดิ ใด ไมถ่ ูกตอ้ ง ก. กระแสไฟฟ้าเชือ่ มตา่ ข. กระแสไฟฟา้ เชอื่ มสูง ค. ระยะอารก์ ยาว ง. ความเร็วเช่ือมสงู 38. จากรปู เปน็ แนวเช่อื มท่ีมีผลกระทบมาจากการปรับคา่ ตัวแปรชนิดใด ไมถ่ กู ตอ้ ง ก. กระแสไฟฟา้ เชอื่ มต่า ข. ระยะอาร์กยาว ค. กระแสไฟฟ้าเช่ือมสูง ง. ความเร็วเชือ่ มสงู 39. ข้อใด ไม่ใช่ องค์ประกอบสาคัญท่ีมีผลต่อการปรับค่ากระแสไฟฟ้าเช่ือม ก. ขนาดของลวดเชอ่ื ม ข. ความหนาของชิน้ งาน ค. ความเร็วในการเชอ่ื ม ง. ทิศทางเชอื่ ม

139 40. การสา่ ยลวดเชือ่ มเรว็ เกนิ ไปจะมผี ลอย่างไรกบั แนวเชือ่ ม ก. เกดิ รอยแหวง่ ขอบแนว ข. เกดิ รอยรา้ วท่จี ุดเช่อื มยึด ค. เกดิ ความเค้นตกคา้ ง ง. เกิดรพู รุน 41. การปรบั กระแสไฟสงู เกนิ ไปจะทาใหเ้ กดิ จุดบกพร่องอย่างไร ก. สแลกฝงั ใน ข. เกดิ รูพรุน ค. เนอื้ แนวเช่ือมไม่ประสาน ง. การเช่อื มซมึ ลกึ ไปขา้ งหลงั มากเกนิ ไป 42. ข้อใด ไม่ใช่ สาเหตกุ ารเกิดรอยเกย (Overlap) ของแนวเชือ่ ม ก. กรแสสงู เกนิ ไป ข. กระแสตา่ เกนิ ไป ค. เลือกใชล้ วดเชอื่ มไม่เหมาะสม ง. มมุ ลวดเช่อื มไมถ่ ูกตอ้ ง 43. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ สาเหตุของการหลอมลกึ ไมบ่ รบิ รู ณ์ทร่ี าก (Incomplete root penetration) ก. ปรบั กระแสไฟเชื่อมต่าเกนิ ไป ข. ความเรว็ เดินลวดเชื่อมไมถ่ กู ตอ้ ง ค. ใช้ลวดเชอื่ มผิดประเภท ง. ขอบงานบางเกนิ ไป 44. สาเหตุที่ทาให้เกิดรอยรา้ ว (Crack) ในแนวเชือ่ ม คอื ก. ชิ้นงาสกปรก ข. เคลอื่ นท่ีลวดเชือ่ มชา้ ค. ใชล้ วดเชื่อมโตเกนิ ไป ง. เช่อื มยดึ แนวเชือ่ มเลก็ เกนิ ไป 45. สาเหตทุ ่ีทาให้เกดิ รอยแหวง่ ขอบแนว (Under cut) คือ ก. กระแสไฟเชื่อมตา่ เกินไป ข. กระแสไฟเช่ือมสงู เกนิ ไป ค. ลวดเชอื่ มเลก็ เกินไป ง. ลวดเช่ือมมขี นาดใหญ่เกินไป 46. ข้อใด ไม่ใช่ วิธกี ารปอ้ งกนั การรอยแหว่งขอบงาน (Undercut) ก. ใชก้ ระแสไฟเชือ่ มในช่วงทเี่ หมาะสม ข. ปรับมมุ เอียงลวดเชอ่ื มใหม้ ากข้ึน ค. ใช้ความเรว็ ในการเดินลวดเชอื่ มทเ่ี หมาะสม ง. รกั ษาระยะอาร์กประมาณเสน้ ผา่ นศูนย์กลางของลวดเชื่อม

140 47. แนวเช่ือมเย็นตัวแลว้ มคี วามเคน้ บางส่วนตกคา้ งอยใู่ นแนวเช่ือมจะเกดิ ข้อบกพร่องใด ก. ช้ินงานบิดงอ ข. แนวเชอ่ื มมรี พู รุน ค. แนวเช่ือมมีสแลกฝังใน ง. แนวเชอ่ื มหลอมลกึ ไมส่ มบรู ณ์ 48. ข้อบกพร่องของแนวเชอื่ มที่เกิดจากสาเหตุมสี ิ่งสกปรกและลวดเช่อื มมคี วามชนื้ สงู คอื ก. ชน้ิ งานบิดงอ ข. แนวเช่ือมมีรพู รนุ ค. แนวเชือ่ มมีสแลกฝงั ใน ง. แนวเชอ่ื มหลอมลกึ ไม่บรบิ รู ณ์ทีร่ าก 49. หากผปู้ ฏิบตั งิ านไม่เคาะสแลกหรือเคาะสแลกออกไม่หมดก่อนเชอ่ื มทับแนวจะเกิดข้อบกพรอ่ งใด ก. ชิ้นงานบดิ งอ ข. แนวเชอื่ มมีรพู รุน ค. แนวเชื่อมมีสแลกฝังใน ง. แนวเชอ่ื มหลอมลกึ ไม่บริบรู ณ์ 50. การบดิ ตัว (Distortion) ของช้นิ งานเชอ่ื มเกิดจากสาเหตใุ ด ก. มีความเค้นบางสว่ นตกค้างอยใู่ นแนวเชอ่ื ม ข. ใช้กระแสไฟเชอื่ มตา่ ค. ใชก้ ระแสไฟเชื่อมสงู ง. ความเร็วในการเชอ่ื มช้าเกินไป 51. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ วิธีการปอ้ งกนั การบิดตัวของช้นิ งาน ก. การอุ่นช้ินงาน (Preheat) กอ่ นการเชือ่ ม ข. การอนุ่ ชนิ้ งานหลงั การเชอ่ื ม (Postheat) ค. การส่ายลวดเชือ่ ม ง. ปรบั กระไสเชอ่ื มให้ต่าลง 52. ข้อใด ไม่ใช่ สาเหตขุ องการเกดิ โพรงอากาศหรือรูพรนุ (Porosity) ก. ผิวงานมสี ่ิงสกปรก ข. ลวดเชอ่ื มมคี วามช้ืนสงู ค. ใชก้ ระแสไฟเช่ือมต่ามาก ง. ระยะอาร์กห่างมากเกนิ ไป 53. วธิ กี ารปอ้ งกนั การเกิดรูพรนุ ในแนวเชอื่ มควรปฏิบัตอิ ยา่ งไร ก. ทาความสะอาดช้ินงานก่อนเช่อื ม ข. อุ่นงานก่อนเช่ือม ค. ใช้กระแสไฟเชอ่ื มให้สงู ง. สา่ ยลวดเชอ่ื มให้กวา้ งเกนิ 3 เทา่ ของความโตลวดเชอื่ ม

141 54. ขอ้ ใด ไม่ใช่ สาเหตุการหลอมลกึ ไม่บรบิ ูรณ์ (Incomplete Penetration) ของแนวเช่ือม ก. ใหค้ วามรอ้ นไม่ถงึ จุดหลอมเหลว ข. ปรับกระแสไฟเชือ่ มตา่ เกินไป ค. เคลือ่ นลวดเชือ่ มเรว็ เกนิ ไป ง. การเว้นระยะของรอยตอ่ มากเกนิ ไป 55. สาเหตุทีท่ าให้เกิดสแลกฝังใน (Slag inclusion) คือ ก. ใชล้ วดเชอื่ มทีม่ ขี นาดเลก็ เกินไป ข. ไมแ่ คะสแลกหรือเคาะออกไม่หมดก่อนเชอื่ มทบั แนว ค. กระแสไฟเชื่อมตา่ เกนิ ไป ง. ความเรว็ ในการเดินลวดเช่ือมสงู เกินไป 56. ข้อใด ไมใ่ ช่ สาเหตุท่ที าให้เกดิ รอยเกย (Overlap) ของแนวเชอ่ื ม ก. การเคลอื่ นลวดเชอ่ื มช้าเกนิ ไป ข. มมุ ของลวดเช่อื มไมถ่ ูกต้อง ค. ระยะอาร์กหา่ งเกินไป ง. การต้งั คา่ กระแสไฟเชอ่ื มตา่ มากเกินไป 57. การอนุ่ ชน้ิ งานก่อนและหลงั การเช่ือมเพื่อการปอ้ งกนั ข้อบกพรอ่ งใด ก. การบดิ งอของช้ินงาน ข. การเกิดโพรงอากาศหรือรพู รนุ ค. รอยร้าว ง. แนวเช่ือมไม่เป็นแนว 58. ข้อใดเปน็ วิธกี ารปอ้ งกนั อันตรายจากกระแสไฟฟ้าขณะเช่ือมอาร์กด้วยลวดหุม้ ฟลกั ซ์ ก. เช่ือมงานโดยไม่สวมถงุ มอื หนัง ข. ใช้สายเชอ่ื มท่ีฉนวนหุ้มสายเช่อื มขาด ค. ต่อสายไฟฟ้าโดยไมม่ สี ายเทปพันป้องกนั ง. ตอ่ สายดนิ เครอ่ื งเช่ือมก่อนปฏบิ ตั งิ านทกุ ครงั้ 59. ข้อใดเปน็ การป้องกนั อันตรายจากการเผาไหมข้ ณะทาเชื่อมที่งา่ ยและสะดวกมากทสี่ ดุ ก. ใช้คอ้ นการเคาะสแลกในขณะที่ชน้ิ งานยงั รอ้ นอยู่ ข. ตรวจสอบเครอื่ งมือ อปุ กรณแ์ ละพน้ื ที่ปฏบิ ัตงิ านทกุ คร้ังกอ่ นเชือ่ ม ค. สวมชุดปอ้ งกันอันตรายสว่ นบุคคลและสวมหนา้ กากเชอ่ื มทกุ คร้งั กอ่ นเชอ่ื ม ง. ตดิ ต้งั ระบบระบายอากาศในพ้ืนที่ปฏิบตั งิ านทกุ คร้ังก่อนเช่ือม 60. อนั ตรายท่ีเกิดจากการได้รบั รงั สอี ัลตราไวโอเลตขณะปฏบิ ตั งิ านเช่อื ม คอื ก. หัวใจหยดุ เต้น ข. ผวิ หนงั อกั เสบ ค. กลา้ มเนื้อเกรง็ และหดตัวอย่างแรง ง. ระบบประสาททางานช้า

142 61. ผลกระทบที่รุนแรงมากทีส่ ดุ จากการสดู ดมควนั และฝนุ่ ละอองจากการเชอ่ื มคืออะไร ก. เปน็ โรคผิวหนงั ข. เป็นโรคปอด ค. ผวิ หนงั ไหม้ ง. นยั นต์ าอักเสบ 62. ไอระเหย (Fumes) ของสารเคมที ีม่ ีผลกระทบกบั ชา่ งเชื่อมอยา่ งไร ก. เป็นอันตรายต่อระบบหายใจ ข. ผวิ หนงั ไหม้ ค. นัยนต์ าอักเสบ ง. ระบบประสาททางานช้า 63. ข้อใด ไม่ใช่ องค์ประกอบทท่ี าใหเ้ กิดไอระเหยขณะทาการเช่อื มอาร์กด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ ก. ธาตทุ ี่เปน็ ส่วนประกอบของโลหะช้นิ งานท่นี ามาเชอ่ื ม ข. วิธีการเชือ่ ม ค. เครอ่ื งเชอ่ื ม ง. ชนิดของลวดเช่อื ม 64. ขอ้ ใด ไม่ใช่ วิธีการป้องกนั อนั ตรายจาการเชือ่ มอาร์กดว้ ยเช่ือมหมุ้ ฟลักซ์ ก. ติดตัง้ ระบบการระบายอากาศเพ่ือดูดควัน ไอระเหย และแก๊สออกจากหอ้ งเชื่อม ข. ติดตงั้ อุปกรณ์ดบั เพลงิ ไว้บรเิ วณใกล้ๆ สถานทเ่ี ชื่อม ค. สวมใส่ชดุ ป้องกันอันตรายสว่ นบคุ คลและหนา้ กากเชอื่ มขณะเช่ือม ง. จดั สถานที่ปฏิบัตงิ านเชื่อมทม่ี ดิ ชดิ เพื่อป้องกันควนั พษิ จากการเชอื่ ม 65. ข้อใด ไมใ่ ช่ วิธกี ารป้องกนั ไฟฟ้าดดู ในขณะเช่ือม ก. ไม่ใชส้ ายเชอ่ื มท่ีชารุด ข. สวมใสช่ ุดปอ้ งกันอันตรายส่วนบุคคล ค. ไมเ่ ช่อื มในสถานท่ีมีพ้นื ปยี กแชะ ง. ไม่สวมถงุ มือขณะเช่ือม 66. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ผลกระทบของชา่ งเชือ่ มเมือ่ ไดร้ บั รงั สอี ัลตราไวโอเลต ก. นยั นต์ าอกั เสบ ข. เกดิ อาการระคายเคอื ง เจบ็ ปวดท่ีดวงตา ค. ดวงตาเป็นสแี ดงและมเี มด็ ทรายเขา้ ตา ง. ผิวหนงั อกั เสบ

143 บรรณานุกรม ประทีป ระงับทุกข.์ งานเชอ่ื มโลหะ 1. นนทบุร:ี เอมพันธ,์ 2547. ราชบณั ฑติ ยสถาน. พจนานุกรมศัพท์การเชื่อม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ: ไอเดยี สแควร,์ 2554. สมบรู ณ์ เต็งหงษเ์ จริญ และสชุ าติ กจิ พทิ กั ษ์. งานเช่อื มและโลหะแผน่ เบื้องต้น รหัส 2100-1005. กรงุ เทพฯ: ศูนย์สง่ เสริมวชิ าการ, 2552. สมบูรณ์ เตง็ หงษ์เจรญิ . งานเชอื่ มโลหะ 1. กรงุ เทพฯ: ศนู ย์ส่งเสรมิ วชิ าการ, ม.ป.ป. อานาจ ทองแสน. งานเชอื่ มและโลหะแผ่นเบอื้ งต้น รหัสวชิ า 2100-1005. กรุงเทพฯ: ซีเอด็ ยเู คชนั่ , 2558. อานาจ ทองแสน และจรูญ พรมสทุ ธิ์. งานเชื่อมและโลหะแผน่ เบือ้ งต้น รหสั 2100-1005. กรงุ เทพฯ: ประสานมิตร, 2546. Andrew D. Althouse, and Others. Modern Welding. 11th Edition, The Goodheart-Willcox Publisher, 2012. Jefferson’s. WELDING ENCYCLOPEDIA. 18th Edition. American Welding Society, 1977. Larry Jeffus. Welding Principles and Application. 7th edition. Delmar Publishers, 2012. เว็บไซต์ (Website) http://www.thomex.com/ebrochures/ranga-enterprises. http://www.plazathai.com/show-569140.html. http://www.parakeet.in/thyristorised-welding-rectifier.htm. http://www.welovesafety.com. http://www.millionwelding.com.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook