ระบบสุริยะ
ระบบสุริยะ คือระบบดาวท่ีมีดาวฤกษเ์ ป็นศนู ยก์ ลาง และมีดาวเคราะห์ (Planet) เป็นบริวารโคจรอยโู่ ดยรอบ เม่ือสภาพแวดลอ้ มเอ้ืออานวย ต่อการดารงชีวติ สิ่งมีชีวติ กจ็ ะเกิดข้ึนบนดาวเคราะห์เหล่าน้นั หรือ บริวารของดาวเคราะห์เองที่เรียกวา่ ดวงจนั ทร์(Satellite) นกั ดาราศาสตร์เชื่อวา่ ในบรรดาดาวฤกษท์ ้งั หมดกวา่ แสนลา้ นดวงในกาแลกซ่ีทางชา้ งเผอื ก ตอ้ งมีระบบสุริยะที่เอ้ืออานวยชีวติ อยา่ ง ระบบสุริยะที่โลกของเราเป็นบริวารอยอู่ ยา่ งแน่นอน เพียงแต่วา่ ระยะทางไกลมากเกินกวา่ ความสามารถในการติดต่อจะทาไดถ้ ึง ที่โลกของเราอยเู่ ป็นระบบที่ประกอบดว้ ย ดวงอาทิตย์ (The sun) เป็นศนู ยก์ ลาง มีดาวเคราะห์ (Planets) 9 ดวง ท่ีเราเรียกกนั วา่ ดาวนพเคราะห์ ( นพ แปลวา่ เกา้ ) เรียงตามลาดบั จากในสุดคือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก ดาวองั คาร ดาวพฤหสั ดาวเสาร์ ดาวยเู รนสั ดาวเนปจนู ดาวพลโู ต ชื่อของดาวเคราะหท์ ้งั 9 ดวงยกเวน้ โลก ถกู ต้งั ชื่อตามเทพของชาวกรีก เพราะเช่ือวา่เทพเหล่าน้นั อยบู่ นสรวงสวรค์ และเคารพบชู าแต่โบราณกาล ในสมยั โบราณจะรู้จกั ดาวเคราะหเ์ พยี ง 5 ดวงเท่าน้นั (ไม่นบั โลกของเรา) เพราะสามารถเห็นได้ ดว้ ยตาเปล่าคือ ดาวพธุ ดาวศุกร์ ดาวองั คาร ดาวพฤหสั ดาวเสาร์ ประกอบกบั ดวงอาทิตย์ และดวงจนั ทร์
รวมเป็น 7 ทาใหเ้ กิดวนั ท้งั 7 ในสัปดาหน์ น่ั เอง และดาวท้งั 7 น้ีจึงมีอิทธิกบั ดวงชะตาชีวติ ของคนเราตามความเชื่อถือทางโหราศาสตร์ ส่วนดาวเคราะห์อีก 3 ดวงคือ ดาวยเู รนสั ดาวเนปจนู ดาวพลโู ต ถกู คนพบภายหลงั แต่นกั ดาราศาสตร์กต็ ้งั ช่ือตามเทพของกรีก เพอื่ ใหส้ อดคลอ้ งกนั นนั่ เอง ดาวเคราะห์ (Planets) ดาวเคราะห์ หมายถึง ดาวท่ีไม่มีแสงสวา่ งในตวั เอง แต่สะทอ้ นแสงอาทิตยส์ ่องเขา้ ไปตาเรา ดาวเคราะห์ แต่ละดวง มีขนาดและจานวนดวงจนั ทร์บริวารไม่เท่ากนั อยหู่ ่างจากดวงอาทิตยเ์ ป็น ระยะทางต่างกนั และดวง ต่างกอ็ ยใู่ นระบบสุริยะ โดยหมุนรอบตวั เองโคจรรอบ ดวงอาทิตยด์ ว้ ย ความเร็วต่างกนั ไป จากการศึกษา เรื่องราว เกี่ยวกบั ดาวเคราะห์โดยใชโ้ ลกเป็นหลกั ในการแบ่ง ดาวเคราะห์ เป็นดาวที่ไม่มีแสงในตวั เอง ไม่เหมือนกบั ดวงอาทิตย์ หรือดาวฤกษ์ ซ่ึงสามารถส่องสวา่ งดว้ ยตนเองได้ แต่เราสามารถมองเห็นดาวเคราะหไ์ ด้ เน่ืองจากการท่ีดาวเคราะห์ สะทอ้ นแสงจากดวงอาทิตย์ เขา้ สู่ตาของเรานน่ั เองแมด้ าวเคราะห์ในระบบสุริยะจกั รวาลของเรา จะมีถึง 8 ดวง (ไม่รวมโลก) แต่เราสามารถมองเห็นได้ ดว้ ยตาเปล่าเพยี ง 5 ดวงเท่าน้นั คือ ดาวพธุ , ดาวศกุ ร์, ดาวองั คาร, ดาวพฤหสั และดาวเสาร์ เท่าน้นั ซ่ึงชาวโบราณเรียก ดาวเคราะห์ท้งั หา้ น้ีวา่ \"The Wandering Stars\" หรือ \"Planetes\" ในภาษากรีก และเรียกดวงอาทิตย์ และดวงจนั ทร์ ท้งั สองดวงวา่ \"The Two Great Lights\" ซ่ึงเมื่อรวมกนั ท้งั หมด 7 ดวง จะเป็นที่มาของชื่อวนั ใน 1 สปั ดาห์ นนั่ เอง
ดาวเคราะห์ท้งั 9 สามารถแบ่งออกเป็ นกล่มุ ๆ ได้ดังนี้1. แบ่งตามลกั ษณะทางกายภาพ - ดาวเคราะห์ช้ันใน (Inner or Terrestrial Planets): จะเป็นกลุ่มดาวเคราะห์ ที่อยู่ใกลด้ วงอาทิตยม์ ากกวา่ อีกกลุ่ม เป็นดาวเคราะห์ที่เยน็ ตวั แลว้ มากกวา่ ทาใหม้ ีผวิ นอกเป็นของแขง็ เหมือนผวิ โลกของเรา จึงเรียกวา่ Terrestrial Planets (หมายถึง \"บนพ้นืโลก\") ไดแ้ ก่ ดาวพธุ (Mercury), ดาวศุกร์(Venus), โลก (Earth) และดาวองั คาร (Mars)ซ่ึงจะใชแ้ ถบของ ดาวเคราะหน์ อ้ ย (Asteroid Belt) เป็นแนวแบ่ง - ดาวเคราะห์ช้ันนอก (Outer or Jovian Planets): จะเป็นกลุ่มดาวเคราะห์ ท่ีอยไู่ กลดวงอาทิตยม์ ากกวา่ อีกกลุ่ม เป็นดาวเคราะหท์ ี่เพง่ิ เยน็ ตวั ทาใหม้ ีผวิ นอก ปกคลุมดว้ ยกา๊ ซเป็นส่วนใหญ่ เหมือนพ้ืนผวิ ของดาวพฤหสั ทาใหม้ ีช่ือเรียกวา่ Jovian Planets (Jovian มาจากคาวา่ Jupiter-like หมายถึง คลา้ ยดาวพฤหสั ) ไดแ้ ก่ ดาวพฤหสั (Jupiter), ดาวเสาร์(Saturn), ดาวยเู รนสั (Uranus), ดาวเนปจูน (Neptune) และดาวพลโู ต (Pluto)
2. แบ่งตามวงทางโคจรดังนี้ คอื - ดาวเคราะห์วงใน (Interior planets) หมายถึงดาวเคราะหท์ ่ีอยใู่ กลด้ วงอาทิตย์มากกวา่ โลก ไดแ้ ก่ดาวพุธ และดาวศุกร์ - ดาวเคราะห์วงนอก (Superior planets) หมายถึง ดาวเคราะห์ท่ีอยถู่ ดั จากโลกออกไป ไดแ้ ก่ ดาวองั คาร ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ดาวยเู รนสั ดาวเนปจนู และดาวพลูโต3. แบ่งตามลกั ษณะพนื้ ผวิ ดังนี้ - ดาวเคราะห์กอ้ นหินไดแ้ ก่ ดาวพธุ ดาวศุกร์ โลก และดาวองั คาร ท้งั 4 ดวงน้ีมีพ้นื ผวิแขง็ เป็นหิน มีช้นั บรรยากาศบางๆ ห่อหุม้ ยกวน้ ดาวพธุ ที่อยใู่ กลด้ วงอาทิตยท์ ี่สุดไม่มีบรรยากาศ - ดาวเคราะหก์ ๊าซ ไดแ้ ก่ ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ดาวยเู รนสั และดาวเนปจูน จะเป็นกา๊ ซทวั่ ท้งั ดวง อาจมีแกนหินขนาดเลก็ อยภู่ ายใน พ้ืนผวิ จึงเป็นบรรยากาศท่ีปกคลุมดว้ ยกา๊ ซมีเทน แอมโมเนีย ไฮโดรเจน และฮีเลียม(สาหรับดาวพลูโตน้นั ยงั สรุปไม่ไดว้ า่ เป็นพวกใด เนื่องจากยงั อยหู่ ่างไกลจากโลกมาก) ภาพแสดงการหมุนของดาวเคราะห์แต่ละดวง
ดวงอาทิตยเ์ ป็นดาวฤกษท์ ่ีสาคญั ในระบบสุริยะ เป็นดาวฤกษ์ สีเหลือง มีอายเุ กือบ5,000 ลา้ นปี อยหู่ ่าจากโลกของ เราประมาณ 150 ลา้ นกิโลเมตร แสงจากดวงอาทิตยใ์ ช้เวลาเดินทางมายงั โลกเพียง 8.3 นาที หรือ 499 วนิ าทีเท่าน้นั พลงั งานจานวนมหาศาล ในดวงอาทิตยไ์ ดม้ า จากการ เปลี่ยนก๊าซไฮโดรเจนเป็น ฮีเลียมท่ีอุณหภูมิประมาณ 15 ลา้ นเคลวนิ หรือประมาณ 27 ลา้ นองศาฟาเรนไฮต์ ดวงอาทิตยม์ ีเส้นผา่ นศนู ยก์ ลางขนาดใหญ่มากกวา่ โลกของเรา109 เท่า มีปริมาตร1,300,000 เท่าของโลก และมีมวล มากกวา่ โลกของเรา 333,434 เท่า กาลิเลโอเป็นคนแรก ที่พิสูจนใ์ หเ้ ห็นวา่ ดวงอาทิตยห์ มุนรอบตวั เอง และจากการศกึ ษาของนกั ดาราศาสตร์ทาใหท้ ราบวา่ การหมุนรอบตวั เองของดวงอาทิตย์ ในบริเวณเสน้ ศนู ยส์ ูตรจะมีความเร็วกวา่ ที่บริเวณข้วั เหนือและข้วั ใต้
ส่วนประกอบของดวงอาทติ ย์ ดวงอาทิตยเ์ ป็นกลุ่มแก๊ซขนาดใหญ่ เน่ืองจากมวลของแก๊ซมีขนาดมหาศาล ทาใหม้ ีความดนั ท่ีแกนกลางสูง มาก ทาใหส้ ามารถเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบรวมตวั (นิวเคลียร์ฟิ วชนั ) ไดอ้ ยา่ งต่อเนื่อง พลงั งานท่ีไดท้ าใหบ้ ริเวณแกนกลางของดวงอาทิตยม์ ีอุณหภมู ิ กวา่ ๑๕ ลา้ นเคลวนิ พลงั งานความร้อนท่ีไดท้ าใหเ้ กิดกระบวนการต่อเนื่องต่าง ๆมากมาย โดยส่วนใหญ่จะถกู ดูดกลืนโดยแกซ๊ ในดวงอาทิตยเ์ อง ส่งผลให้ บริเวณผวิ นอกของดวงอาทิตยม์ ีอุณหภูมิเหลือเพยี งประมาณ ๖๐๐๐ เคลวนิ และทาใหแ้ สงแดด มีการ กระจายความเขม้ ใกลเ้ คียงกบั การแผร่ ังสีของวตั ถุดาท่ี ๖๐๐๐ เคลวนิ
สญั ลกั ษณ์ ดาวพุธเป็นดาวเคราะหท์ ่ีใกลด้ วงอาทิตยม์ ากท่ีสุด ช่ือของดาวเคราะห์ คือ Mercuryเป็นชื่อในภาษาโรมนั โดยเป็นชื่อของผสู้ ่งสารของพระเจา้ ซ่ึงมีความรวดเร็ว เน่ืองจากดาวพธุ ปรากฏและหายไปอยา่ งรวดเร็ว ในช่วงเชา้ หรือช่วงค่านน่ั เอง ดาวพธุ เป็นดาวเคราะหด์ วงที่อยใู่ กลด้ วงอาทิตยท์ ่ีสุด จึงเคลื่อนรอบดวงอาทิตยเ์ ร็วท่ีสุด โดยใชเ้ วลาเพยี ง 87.969 วนั ในการโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ ดาวพุธหมุนรอบตวั เองในทิศทางเดียว กบั การเคล่ือนรอบดวงอาทิตย์ คือ จากทิศตะวนั ตกไป ทิศตะวนั ออก หมุนรอบตวั เองรอบละ 58.6461 วนั เมื่อพจิ ารณาจากคาบของการหมุนรอบตวั เอง และการคาบการเคลื่อนท่ีรอบดวงอาทิตย์ จะพบวา่ ระยะเวลากลางวนั ถึงกลางคืนบนดาวพุธยาวนานถึง 176 วนั ซ่ึงยาวนานที่สุดในระบบสุริยะ
ข้อมูลจาเพาะของดาวพธุ โดยเฉล่ีย 57.90 ลา้ นกิโลเมตร(0.387 a.u.)ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ ใกลส้ ุด 45.90 ลา้ นกิโลเมตร (0.306 a.u.) ไกลสุด 69.70 ลา้ นกิโลเมตร (0.467 a.u.)Eccentricity 0.206คาบการหมุนรอบตวั เอง 58.6461 วนัคาบการหมุนรอบดวง 87.969 วนั บนโลก ดว้ ยความเร็ว 47.87อาทิตย์ กิโลเมตรต่อวนิ าทีระนาบโคจร (Inclination) 7:00:15.5 องศาแกนเอียงกบั ระนาบโคจร 0 องศามวล 3.33x1026กรัม หรือ 0.055 เท่าของโลกเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 4,878 กิโลเมตร (โลก 12,756 กิโลเมตร ที่เส้น ศนู ยส์ ูตร)แรงโนม้ ถ่วง 0.38 เท่าของโลกความเร็วหลุดพน้ 4.25 กิโลเมตรต่อวนิ าทีความหน่าแน่น 1 ต่อ 5.44 เม่ือเทียบกบั น้าความสวา่ งสูงสุด -1.9
สญั ลกั ษณ์ เป็นชื่อเทพธิดาแห่งความงาม (Venus) เน่ืองจาก เป็นดาวเคราะห์ที่สวา่ งท่ีสุด เม่ือมองจากโลก และสังเกตเห็นไดง้ ่าย แมว้ า่ ความเป็นจริงแลว้ ดาวดวงน้ี จะไม่สามารถมีส่ิงมีชีวติ อาศยั อยไู่ ด้ เน่ืองจากอุณหภมู ิเฉลี่ยสูงมากกต็ าม แต่คร้ังหนี่ง นกั วทิ ยาศาสตร์เคยเชื่อวา่ ดาวศกุ ร์ มีสิ่งมีชีวติ อาศยั อยู่ ดาวศุกร์ ดาวเคราะห์ท่ีอยหู่ ่างจากดวงอาทิตยเ์ ป็นลาดบั ที่สอง มีขนาดใกลเ้ คียงกบัโลก จึงช่ือวา่ เป็น \"ฝาแฝดโลก\" ดาวศุกร์มีวงโคจรอยชู่ ้นั ในเช่นเดียวกบั ดาวพุธ จึงทาให้เราสามารถมองเห็นดาวศุกร์ไดเ้ ช่นเดียวกบั ดาวพธุ คือ ทางดา้ นทิศตะวนั ตกหลงั อาทิตย์ลบั ของฟ้ าไปแลว้ สูงประมาณ 45 องศา เรียกวา่ ดาวศกุ ร์น้ีวา่ \"ดาวประจาเมือง\" และดา้ นทิศตะวนั ออกก่อนดวงอาทิตยข์ ้ึน เรียกวา่ \"ดาวรุ่ง\" หรือ \"ดาวประกายพรึก\" ซ่ึงเรา
สามารถมองเห็น เป็นดาวเด่นอยบู่ นทอ้ งฟ้ าสวยงามมาก ชาวกรีกโบราณจึงยกใหด้ าวศกุ ร์แทน เทพวนี สั เทพแห่งความงาม เมื่อมองดว้ ยกลอ้ งโทรทรรศนจ์ ะเห็นลกั ษณะของดาวศุกร์เวา้ แวง่ เป็นเส้ียวคลา้ ย กบั ดวงจนั ทร์เช่นกนั ดาวศกุ ร์เป็นดาวเคราะห์มีขนาดเลก็ กวา่ โลกเลก็ นอ้ ย จึงไดช้ ื่อวา่ เป็นดาวฝาแฝดกบัโลก เป็นดาวเคราะห์ท่ีปรากฏสวา่ งที่สุด สวา่ งรองจากดวงอาทิตยแ์ ละดวงจนั ทร์ ถา้ เห็นทางทิศตะวนั ตกในเวลาค่าเรียกวา่ ดาวประจาเมือง และถา้ เห็นทางทิศตะวนั ออกในเวลาก่อนรุ่งอรุณ เรียกวา่ ดาวประกายพรึก ดาวศกุ ร์เป็นดาวเคราะหท์ ี่เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกอยา่ งรุนแรง เพราะมีบรรยากาศหนาทึบดว้ ยคาร์บอนไดออกไซด์ ดาวศุกร์จึงร้อนมาก อุณหภมู ิพ้ืนผวิ เฉลี่ยสูงกวา่ ดาวพธุ ดาวศุกร์มีโอกาสเขา้ มาใกลโ้ ลกท่ีสุด ใกลก้ วา่ดาวพธุ ซ่ึงนกั ดาราศาสตร์ยคุ โบราณเขา้ ใจผดิ คิดวา่ อยใู่ กลโ้ ลกที่สุด ลกั ษณะพเิ ศษของดาวศกุ ร์คือ หมุนรอบตวั เอง 1 รอบใชเ้ วลานานกวา่ การเคล่ือนท่ีรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบและถา้ เราอยบู่ นดาวศุกร์เวลา 1 วนั จะไม่ยาวเท่ากบั เวลาท่ีดาวศกุ ร์หมุนรอบตวั เอง 1รอบ นี่คือลกั ษณะพเิ ศษท่ีดาวศกุ ร์ไม่เหมือนดาวเคราะหด์ วงใดๆ นอกจากน้ีดาวศุกร์ยงัหมุนตามเขม็ นาฬิกาหรือหมุนจากทิศตะวนั ออกไปทิศตะวนั ตก ในขณะที่เคลื่อนที่รอบดวงอาทิตยจ์ ากทิศตะวนั ตกไปทิศตะวนั ออก ดาวศุกร์จึงหมุนสวนทางกบั ดาวเคราะห์ดวงอ่ืน และหมุนสวนทางกบั การเคล่ือนท่ีรอบดวงอาทิตย์ ดาวศกุ ร์หมุนรอบตวั เองรอบละ 243 วนั แต่ 1 วนั ของดาวศกุ ร์ยาวนานเท่ากบั 117 วนั ของโลก เพราะต้งั แต่ดวงอาทิตยข์ ้ึนจนถึงดวงอาทิตยต์ กยาวนาน 58.5 วนั ของโลก ดาวศุกร์เคลื่อนรอบดวงอาทิตย์รอบละ 225 วนั 1 ปี ของดาวศุกร์จึงยาวนาน 225 วนั ของโลก
ข้อมูลจาเพาะของดาวศุกร์ โดยเฉล่ีย 108.2 ลา้ นกิโลเมตร(0.723 a.u.)ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ ใกลส้ ุด 107.4 ลา้ นกิโลเมตร (0.718 a.u.) ไกลสุด 109 ลา้ นกิโลเมตร (0.728 a.u.)Eccentricity 0.007คาบการหมุนรอบตวั เอง 243.16 วนั หมุนกลบั ทิศกบั โลกคาบการหมุนรอบดวง 224.701 วนั บนโลก ดว้ ยความเร็ว 35.02อาทิตย์ กิโลเมตรต่อวนิ าทีระนาบโคจร (Inclination) 3:23:39.8 องศาแกนเอียงกบั ระนาบโคจร 178 องศามวล 4.870x1027 กรัม หรือ 0.815 เท่าของโลกเส้นผา่ นศนู ยก์ ลาง 12,104 กิโลเมตร (โลก 12,756 กิโลเมตร ที่ เส้นศนู ยส์ ูตร)แรงโนม้ ถ่วง 0.903 เท่าของโลกความเร็วหลุดพน้ 10.36 กิโลเมตรต่อวนิ าทีความหน่าแน่น 1 ต่อ 5.25 เมื่อเทียบกบั น้าความสวา่ งสูงสุด -4.4
สัญลกั ษณ์ โลก เป็นดาวเคราะหส์ ีน้าเงิน ซ่ึงเป็นที่อยอู่ าศยั ของมวลมนุษย์ และสรรพสิ่งมีชีวติท้งั หลาย โลกอยหู่ ่างจากดวงอาทิตยเ์ ป็นลาดบั ท่ี 3 ในจานวน ดาวเคราะห์ท้งั หมด ในระบบสุริยะ มีพ้ืนผวิ ส่วนใหญ่ปกคลุมไปดว้ ยน้าถึง 2 ใน 3 ของพ้นื โลก จึงไดช้ ่ือวา่ เป็นดาวเคราะห์แห่งพ้ืนน้า โลก เป็นช่ือของเทพเจา้ แห่งโลก ชื่อ \"จีอา\" (Gaea) เป็นดาวเคราะหท์ ี่มนุษยเ์ ราอาศยัอยู่ มีพ้ืนผวิ ที่ปกคลุมดว้ ยน้า กวา่ 70% มีช้นั บรรยากาศ และอุณหภมู ิท่ีเหมาะสม ที่ทาให้ส่ิงมีชีวติ เช่นเรา อาศยั อยไู่ ด้ และเน่ืองจาก เรายงั ไม่เคยพบสิ่งมีชีวติ อ่ืนใดนอกโลก และมนุษยเ์ รา ยงั ไม่เคยอาศยั ดาวดวงอื่นนอกโลก นกั วทิ ยาศาสตร์ จึงพยายามศึกษาโลก เพ่ือเป็นแบบอยา่ ง ในการศึกษาดาวเคราะห์ต่อไป
ข้อมูลเกย่ี วกบั โลก โลกมีอายปุ ระมาณ 4,700 ปี โลกไม่ไดม้ ีรูปร่างกลมโดยสิ้นเชิง เสน้ รอบวงท่ีเส้นศนู ย์สูตรยาว 40,077 กิโลเมตร (24,903 ไมล)์ และท่ีขวั่ โลกยาว 40,009 กิโลเมตร (24,861ไมล)์ โครงสร้างภายในเปลอื กโลก การโคจรรอบดวงอาทิตยข์ องโลกในลกั ษณะที่แกนเอียง ทาใหเ้ กิดฤดูกาลต่างๆข้ึนบนโลก ซ่ึงสามารถสังเกตได้ โดยพิจารณา ณ ตาแหน่งใด ตาแหน่งหน่ึงบนโลก จะพบวา่ พลงั งานความร้อน ที่ซีกโลกเหนือไดร้ ับจากดวงอาทิตย์ จะไม่เท่ากนั ตลอดปีดงั น้นั จึงทาใหเ้ กิดฤดูกาลต่าง ๆ เช่นในเดือนมิถุนายน ข้วั โลกเหนือจะหนั เขา้ หาดวงอาทิตย์ ซีกโลกเหนือจะไดร้ ับความร้อนมากกวา่ เดือนอื่นๆ และจะเป็น ฤดูร้อน ตรงขา้ มกบั เดือนธนั วาคม ซ่ึงข้วั โลกเหนือหนั ออก จากดวงอาทิตย์ แสงอาทิตยท์ ่ีตกลงมาบนโลกจะเฉมาก ซ่ึงจะไม่ร้อนมากเหมือนท่ีแสงตกลงมาตรงๆ ดงั น้นั ในช่วงน้ี จะเป็น ฤดูหนาวส่วนในเดือนกนั ยายนและมีนาคม โลกหนั ดา้ นขา้ งเขา้ หาดวงอาทิตยจ์ ะไม่ร้อนหรือหนาว เหมือน เดือนมิถุนายนหรือธนั วาคม ในช่วงเดือนกนั ยายนจึงเป็น ฤดูใบไมร้ ่วงและเดือนมีนาคมโลกอบอุ่นข้ึน จึงเป็น ฤดูใบไมผ้ ลิ
สาหรับประเทศ ซ่ึงมีลกั ษณะภูมิประเทศ ใกลเ้ สน้ ศนู ยส์ ูตรของโลก ปกติจะเป็นเขตร้อนแต่เน่ืองจาก ลมมรสุม พดั ผา่ น เป็นประจาฤดูกาล จึงเปล่ียนไปจากบริเวณอ่ืน ๆ ของโลก กล่าวคือ จะไม่มีฤดูใบไมร้ ่วง และฤดูใบไมผ้ ลิ แต่จะมีฤดูฝน ฤดูหนาว และฤดูร้อนโดยจะเกิดข้ึนในช่วงประมาณดงั น้ี ฤดูร้อน เริ่มต้งั แต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ฤดูฝน เร่ิมต้งั แต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม ฤดูหนาว เริ่มต้งั แต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกมุ ภาพนั ธ์
สัญลกั ษณ์ ดาวองั คารเป็นช่ือของเทพเจา้ แห่งสงคราม และการเกษตร มกั รู้จกั กนั ในนามของ \"ดาวแดง\" (The Red Planets) ซ่ึงมกั จะมี นิยายวทิ ยาศาสตร์มากมาย ท่ีกล่าวถึงดาวดวงน้ี โดยเฉพาะ เม่ือกล่าวถึง สิ่งมีชีวติ ที่อาศยั อยู่ บนดาวองั คาร ดาวองั คาร ดาวเคราะหอ์ นั ดบั ท่ี 4 ในระบบสุริยะ เมื่อมองดว้ ยกลอ้ งโทรทรรศนจ์ ะเห็นเป็นดวงสีแดง ชาวกรีกและโรมนั จะยกใหเ้ ป็นเทพแห่งสงคราม ดาวองั คารมีลกั ษณะหลายอยา่ งคลา้ ยโลกมากคือ 1 วนั บนดาวองั คารมี 24 ชวั่ โมงใกลเ้ คียงกนั มีแกนเอียงทามุม 24 องศาใกลเ้ คียงกบั โลก ทาใหม้ ีฤดูกาล 4 ฤดูคลา้ ยกนั แต่ 1 ปี ของ ดาวองั คารยาวนานกวา่ โลกเกือบสองเท่า จึงทาใหน้ กั วทิ ยาศาสตร์ สนใจดาวองั คารเป็นพิเศษ และเช่ือวา่ ตอ้ งมี สิ่งมีชีวติ อาศยั อยู่
โครงสร้างของดาวองั คาร เปลือกช้นั นอกของดาวองั คารเป็นช้นั ของหิน มีสีแดงเพราะเป็นออกไซดข์ องเหลก็(สนิมเหลก็ ) พ้นื ผวิ เป็นท่ีราบส่วนใหญ่ มีกอ้ นหินเลก็ กระจดั กระจ่ายไปทวั่ ช้นั กลางจะเป็นช้นั ของหินซิลิเกต แกนกลางเป็นโลหะแขง็
ภเู ขาไฟโอลิมปัส (Olympus) เป็นภเู ขาไฟท่ีสูงท่ีสุดในระบบสุริยะ มี ความสูง 25 กิโลเมตรสูงเป็น สามเท่าของ ยอดเขาเอเวอร์เรสบนโลก รอบฐานกวา้ ง 600 กิโลเมตร ร่องรอยบนท่ีราบของดาวองั คารลกั ษณะคลา้ ยกบั วา่ เคยมีน้าในอดีต ที่ข้วั เหนือและใตข้ องดาวองั คารจะปรากฏเป็นข้วั น้าแขง็ ของ คาร์บอนไดออกไซด์ ซ่ึงจะขยายตวั มากข้ึนเม่ือดาวองั คารหนั ข้นั น้นั ออกจากดวงอาทิตย์ ปริศนารูปหนา้ คนท่ียานอวกาศไวกิง้ ถ่ายภาพไวไ้ ด้ หุบเหวมาริเนอร์ เป็นหุบเหวขนาดใหญ่กวา้ งขนาดเท่ากบั ความกวา้ ง ของทวปี อเมริกาเหนือ กวา้ งราว 4,700 กิโลเมตร ลึก 2-7 กิโลเมตร เป็นหุบเหวเหยยี ดยาวผา่ กลางดาวองั คารบริเวณ เสน้ ศนู ยส์ ูตร บรรยากาศบนดาวองั คาร มีบรรยากาศที่เบาบางมากใชห้ ายใจไม่ได้ ประกอบดว้ ยคาร์บอนไดออกไซด์ 95% ไนโตรเจน 2.7% อาร์กอน 1.6% ออกซิเจนและไอน้า 0.7%บรรยากาศของดาวองั คารแปรปรวนมากกระแสลมแรง และทาใหเ้ กิดฝ่ นุ คลุง้ ไปทว่ั ท้งัดาวองั คารนานหลายเดือน ซ่ึงบางคร้ังสามารถมองเห็นเป็นแถบมืดครอบคลุม ดาวองั คารไดจ้ ากโลก อณุ หภูมขิ องดาวองั คาร อยรู่ ะหวา่ ง +25 องศาเซลเซียสในเวลากลางวนั ถึง -120องศาเซลเซียสในเวลากลางคืน บริวารของดาวองั คาร มีอยู่ 2 ดวงเป็นดาวขนาดเลก็ นกั วทิ ยาศาสตร์คิดวา่ คงเป็นสะเกด็ ดาวเคราะหน์ อ้ ย ท่ีถกู สนามแรงโนม้ ถ่วงของดาวองั คารจบั ไว้
สัญลกั ษณ์ ดาวพฤหสั บดีเป็นชื่อของเทพเจา้ Jupiter (หรือ Zeus) ซ่ึงเป็นราชาของเทพเจา้ ท้งัปวง และดาวพฤหสั กเ็ ป็นดาวเคราะห์ ที่ใหญ่ท่ีสุด ในระบบสุริยะจกั รวาลของเรา มีขนาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง ประมาณ 11 เท่าของโลก มีระบบดาวบริวารของตนเอง ไม่ต่ากวา่ 16 ดวง ดาวพฤหสั บดี เป็นดาวเคราะห์ท่ีอยหู่ ่างจากดวงอาทิตยเ์ ป็นอนั ดบั ท่ี 5 และเป็นดาวเคราะหด์ วงใหญ่ท่ีสุด ในระบบสุริยะ มีมวลมากกวา่ โลกกวา่ 317 เท่าแต่มีขนาดใหญ่กวา่โลก 1,400 เท่า หากดาวพฤหสั มีมวลมากกวา่ อีก 100 เท่า ดาวพฤหสั กจ็ ะกลายเป็นดาวฤกษข์ นาดเลก็ ๆไดเ้ ลย ดาวพฤหสั บดีเป็นดาวเคราะหท์ ี่มีขนาดใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ เป็น ดาวเคราะห์กา๊ ซยกั ษโ์ คจรห่างจากดวงอาทิตยเ์ ป็นลาดบั ที่ 5 ถดั จากดาวองั คาร มีเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง142,984 กิโลเมตร มีเน้ือสารมากท่ีสุด และมากกวา่ ดาวเคราะห์ ทุกดวงรวมกนั มีมวลราว 318.1 เท่าของโลก ใชเ้ วลาในการหมุนรอบ ตวั เอง เร็วมากประมาณ 9 ชว่ั โมง 55นาที หรือ 10 ชวั่ โมงต่อ 1 รอบ แต่ใชเ้ วลา โคจรรอบ ดวงอาทิตย์ 1 รอบ ใชเ้ วลานานถึง
12 ปี ของโลก ดว้ ยความเร็ว 13.06 กิโลเมตรต่อวนิ าที ดาวพฤหสั จะเคล่ือนท่ีชา้ ๆ ผา่ นกลุ่มดาวจกั รราศไี ด้ ประมาณ ปี ละ 1 กลุ่ม ดาวพฤหสั บดีอยหู่ ่างจากโลก 5.2 หน่วยดาราศาสตร์หรือประมาณ 780 ลา้ นกิโลเมตรแรงดึงดูดท่ีผวิ ของ ดาวพฤหสั บดีสูงกวา่ โลก 2.64 เท่า นนั่ หมายถึงวา่ ถา้ อยบู่ นโลกเราหนกั 50 กิโลกรัม แต่ถา้ ไปอยบู่ นดาวพฤหสั บดี จะมีน้าหนกั ถึง 132 กิโลกรัม ดาวพฤหสั บดีมีดวงจนั ทร์เป็นบริวาร ขณะน้ีถึง 16 ดวง แต่ถา้ ใชก้ ลอ้ งโทรทศั นส์ ่อง ดูแลว้จะเห็นดวงจนั ทร์บริวารขนาดใหญ่ 4 ดวง แต่ละดวงจะโตกวา่ ดวงจนั ทร์ของโลกเรา ดวงจนั ทร์ท้งั 4 ดวง ส่องกลอ้ งพบโดย กาลิเลโอ บิดาวชิ าดาราศาสตร์ภาคสังเกตการณ์ ชาวอิตาลี เม่ือปี พ.ศ. 2153 (ค.ศ.1610) จึงไดช้ ่ือวา่ ดวงจนั ทร์กาลิเลียน เรียงตามลาดบัระยะห่างจากดาวพฤหสั บดี คือ ไอโอ (lo) ยโุ รปา (Europa) แกนิมีด (Ganymede) และคลั ลิสโต (Callisto) ดวงท่ีใหญ่ที่สุดคือแกนิมีด (Ganymedq aze) บรรยากาศของดาวพฤหสั บดีมีลกั ษณะเป็นแถบกวา้ งหลายแถบ ระหวา่ งแถบเป็นรอยมืด เรียกวา่ เขม็ ขดั ขนานไป กบั แนวเส้นศนู ยส์ ูตร ซ่ึงแถบกวา้ งน้ีแทท้ ่ีจริงแลว้ คือ แถบเมฆท่ีหนาทึบทอดตวั ยาวออกไป เคล่ือนที่หมุนวนไป รอบตวั ดวง มีองคป์ ระกอบ เป็นธาตุไฮโดรเจนและฮีเลียม ไม่มีพ้ืนผวิ แขง็ แต่มแี กนใจกลางขนาดเลก็ เป็นหินแขง็บรรยากาศมีอตั ราส่วนเหมือนกนั มาก กบั บรรยากาศของดวงอาทิตย์ ใตเ้ สน้ ศนู ยส์ ูตรไปทางซีกใต้ จุดน้ีคือพายหุ มุนวน ดว้ ยความเร็วสูงเป็นลกั ษณะเด่นท่ีปรากฎเห็นมานานแลว้
สัญลกั ษณ์ดาวเสาร์เป็นช่ือของเทพเจา้ แห่งการเกษตร ช่ือ Saturn เป็นดาวเคราะห์ ท่ีมีวงแหวนท่ีสวยงาม ซ่ึงประกอบดว้ ยฝ่ นุ และน้าแขง็ นบั ร้อยวงเลยทีเดียว ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะหข์ นาดใหญ่เป็นที่ 2 รองจากดาวพฤหสั บดี ่่โคจรห่างจากดวงอาทิตยเ์ ป็นลาดบั ที่ 6 ถดั จากดาวพฤหสั บดี เป็นดาวเคราะหท์ ี่สวยงามท่ีสุด เพราะปรากฏมีวงแหวนลอ้ มรอบตวั ดวง เม่ือส่องดูดว้ ยกลอ้ งโทรทรรศน์ มีสีค่อนขา้ งเหลืองจะเคลื่อนตวั ชา้ ๆ ผา่ นไปยงั กลุ่มดาวจกั รราศี ดาวเสาร์มีเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางโดยเฉล่ียประมาณ 119,871 กิโลเมตร หรือประมาณ 9เท่าของโลก โคจรอยหู่ ่างจากดวงอาทิตยเ์ ป็นระยะทางเฉลี่ย 9.54 หน่วยดาราศาสตร์ แสงจากดวงอาทิตยต์ อ้ งใชเ้ วลาเดินทาง 1 ชวั่ โมง 15 นาที จึงจะถึงดาวเสาร์ ใชเ้ วลาโคจรรอบดวงอาทิตยน์ านถึง 29.46 ปี ของโลก ดว้ ยอตั รา ความเร็ว 9.64 กิโลเมตรต่อวินาที และหมุนรอบตวั เอง 1 รอบกินเวลา 10 ชวั่ โมง 40 นาที ซ่ึงเร็วมากทาใหด้ าวเสาร์มีลกั ษณะป่ องในแนวเสน้ ศนู ยส์ ูตร และสามารถเห็นไดช้ ดั เจนเม่ือมองดว้ ยกลอ้ งโทรทรรศนจ์ ากโลก
ข้อมูลจาเพาะของดาวเสาร์ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ โดยเฉลี่ย 1,427 ลา้ นกิโลเมตร(9.539 a.u.) ใกลส้ ุด 1,347 ลา้ นกิโลเมตร (9.008 a.u.) ไกลสุด 1,507 ลา้ นกิโลเมตร (10.069 a.u.)Eccentricity 0.056คาบการหมุนรอบตวั เอง 10 ชว่ั โมง 13 นาที 59 วนิ าทีคาบการหมุนรอบดวง 29.46 ปี บนโลก ดว้ ยความเร็ว 9.60 กิโลเมตรต่อวินาที อาทิตย์ระนาบโคจร (Inclination) 2:29:21.6 องศาแกนเอียงกบั ระนาบโคจร 26:44 องศามวล 586.5 x 1024 Kg. หรือ 95.17 เท่าของโลกเส้นผา่ นศนู ยก์ ลาง 119,871 กิโลเมตร (74,500 ไมล)์ หรือ 9 เท่าของโลก (โลก 12,756 กิโลเมตร ท่ีเส้นศนู ยส์ ูตร)แรงโนม้ ถ่วง 1.16 เท่าของโลกความเร็วหลุดพน้ 32.26 กิโลเมตรต่อวนิ าทีความหนาแน่น 687 kg/CBM หรือ 1 ต่อ 0.71 เมื่อเทียบกบั น้าความสวา่ งสูงสุด -0.3 ถึง +0.8 ข้ึนอยรู่ ะนาบวงแหวนที่หนั เขา้ หาโลกอุณหภูมิของเมฆช้นั บนสุด -170 องศาเซลเซียสหมายเหตุ:Eccentricity เป็นค่าคงทีของวงโคจร ที่บอกวา่ วงโคจรน้นั รีมากหรือนอ้ ย หาไดจ้ ากระยะห่างของจุด โฟกสั ท้งั สอง หารดว้ ย ความยาวของแกนหลกั ซ่ึงวงกลมจะมีค่าEcc=0 และพาลาโบล่าจะมีค่า Ecc=1Inclination มุมเอียงที่ระนาบการโคจรของดาวเคราะหห์ รือดาวหาง ทากบั ระนาบอิคลิปติค มีหน่วยเป็น องศา
ดาวยเู รนสั เป็นดาวเคราะห์ท่ีถูกคน้ พบ เมื่อปี พ.ศ. 2324 (ค.ศ.1781) โดย WilliamHerschel ชาวองั กฤษ เป็นดาวเคราะห์ ที่มีวงแหวนคลา้ ยดาวเสาร์ แต่ค่อนขา้ งจางมากและเป็นดาวเคราะหด์ วงเดียว ในระบบสุริยะจกั รวาล ท่ีหมุนรอบตวั เอง โดยทิศต้งั ฉากกบั แนวการเคล่ือนท่ี รอบดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ช้นั นอกดวงต่อไปถดั จากดาวเสาร์ไดแ้ ก่ดาวยเู รนสั ดาวยเู รนสั เป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่เป็นท่ีสามในระบบสุริยะ มนั มีลกั ษณะเลือนลาง จะตอ้ งมองดูดว้ ยกลอ้ งโทรทศั นเ์ ท่าน้นั จึงสามารถมองเห็น เราเคยคิดวา่ มนั เป็นดาวฤกษ์ ในปี 1781William Herschel ไดใ้ ชก้ ลอ้ งโทรทศั นค์ น้ พบวา่ ดาวยเู รนสั เป็นดาวเคราะห์ เขาเห็นแผน่กลมสีเขียวที่ไม่มีรอย ต่อมา นกั ดาราศาสตร์ไดพ้ บดาวบริวารหา้ ดวง ในปี 1977 ไดม้ ีการพบวงแหวนของดาวยเู รนสั ถึงแมว้ า่ นกั ดาราศาสตร์จะใชก้ ลอ้ งโทรทศั นข์ นาดใหญ่ที่สุดแต่เขากย็ งั ไม่สามารถคน้ หาอะไรไดม้ ากมายนกั เก่ียวกบั ดาวยเู รนสั เอง ในปี 1986 ยานอวกาศวอยาเจอร์2 ไดบ้ ินผา่ นดาวยเู รนสั และไดส้ ่งภาพท่ีชดั เจนของดาวยเู รนสั และวงแหวนตลอดจนดาวบริวารของมนั กลบั มายงั พ้ืนโลก ในท่ีสุดเรากไ็ ดค้ วามรู้เพ่ิมข้ึนเกี่ยวกบั ดาวยเู รนสั
โลกของนา้ ภาพของดาวยเู รนสั จากยานอวกาศไดอ้ ธิบายวา่ ทาไมนกั ดาราศาสตร์จึงไม่สามารถมองเห็นดาวยเู รนสั ไดม้ ากนกั ดาวยเู รนสั ท้งั ดวงปกคลุมดว้ ยหมอกสีเขียวแก่ ยานวอยาเจอร์ไดพ้ บกลุ่มควนั สองสามกลุ่มใตห้ มอก แสดงใหเ้ ห็นวา่ ลมกาลงั พดั รอบๆดาวยเู รนสัในอตั ราความเร็วถึง 440 ไมลต์ ่อชวั่ โมง บรรยากาศประกอบดว้ ยแกซ๊ ไฮโดรเจน ฮีเลียมและมีเธน นกั ดาราศาสตร์บางคนคิดวา่ พ้นื ผวิ ของดาวยเู รนสั ปกคลุมดว้ ยมหาสมุทรท่ีร้อน เหมือนกบั ดาวจูปิ เตอร์และดาวเสาร์ แต่ประกอบดว้ ยน้าร้อนแทนท่ีจะเป็นแก๊ซ ท่ีใจกลางของดาวยเู รนสั จะมีแกนกอ้ นหินเลก็ ๆด้านในของดาวยูเรนัส ถึงแมว้ า่ จะไม่สามารถมองเห็นไดม้ ากนกั บนดาวยเู รนสั แต่นกั ดาราศาสตร์ไดพ้ บส่ิงประหลาดอยา่ งหน่ึงเกี่ยวกบั ดาวยเู รนสั คือดาวยเู รนสั จะเอียงขา้ ง แกนของมนั จะเอียงเพ่ือวา่ ข้วั ของมนั จะต้งั เกือบอยใู่ นทิศทางเดียวกบั การเคลื่อนไหวของดาวยเู รนสั ไม่มีดาวเคราะห์ดวงใดท่ีมีลกั ษณะดงั กล่าว เหตุผลท่ีดาวยเู รนสั มีการเอียงมากอาจเห็นเพราะวา่คร้ังหน่ึงเคยถูกกระแทกโดยดาวเคราะห์นอ้ ย ในขณะที่ดาวยเู รนสั หมุนรอบดวงอาทิตย์ขง่ั ขา้ งหน่ึงจะช้ีไปทางดวงอาทิตย์ ข้วั ที่ช้ีไปทางดวงอาทิตยจ์ ะเห็นแสงสวา่ งของเวลากลางวนั เป็นเวลา 22 ปี แลว้ ดา้ นน้ีจะหมุนไปดา้ นตรงขา้ มกบั ดวงอาทิตยอ์ ยใู่ นความมืดอีก 22 ปี ยานวอยาเจอร์พบวา่ ข้วั มืดจะอบอุ่นกวา่ ข้วั ท่ีมีแสงสวา่ งเลก็ นอ้ ยไม่มีใครรู้วา่เป็ นเพราะเหตุใด
ข้อมูลจาเพาะของดาวพธุระยะห่างจากดวงอาทิตย์ 2,870,972,200 ก.ม. 19.19126393 A.U.หมุนรอบตวั เอง 0.71833 วนั (หมุนกลบั หลงั )หมุนรอบดวงอาทิตย์ 83.74740682 ปีเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 51,118 ก.ม. (4.007 เท่าของโลก)ปริมาตร 52 เท่าของโลกมวล 8.6849 x1025 ก.ก.ความหนาแน่น 1300 ก.ก./ม3ความเร่งท่ีพ้ืนผวิ 869 ซ.ม./วนิ าที2ความเร็วเฉลี่ย 6.8352 ก.ม./วนิ าทีความเร็วการผละหนี 21.29 ก.ม./วนิ าทีความรีของวงโคจร 0.04716771ความเอียงระนาบวงโคจร 0.76986 องศาความเอียงของแกนหมุน 97.86 องศาอุณหภูมิช้นั บรรยากาศ 76 องศาเคลวนิก๊าซในช้นั บรรยากาศ H2, He, CH4
ดาวเนปจนู เป็นดาวเคราะหท์ ี่ถกู คน้ พบ เมื่อปี พ.ศ. 2389 (ค.ศ.1846) โดย JohannGalle และ Heinrich D'Arrest เป็นดาวเคราะห์ ท่ีไกลท่ีสุด ท่ีมีการส่งยานไปสารวจ (โดยVoyager) ซ่ึงนกั วทิ ยาศาสตร์คาดวา่ อาจมีมหาสมุทร ขนาดมหึมา ปกคลุมผวิ ดาวดวงน้ีอยู่ เม่ือดาวเนปจูนถกู คน้ พบ คนไดว้ นั เสน้ ทางของมนั ผา่ นอวกาศ การหมุนรอบของดาวเนปจูนมีลกั ษณะผดิ ปกติบางคนคิดวา่ จะตอ้ งมีดาวเคราะห์ดวงใหญ่อีกดวงหน่ึง ดาวเคราะห์ท่ีไม่เป็นที่รู้จกั อาจอยถู่ ดั จากดาวเนปจูน แรงโนม้ ถ่วงของมนั อาจจะดึงไปท่ีดาวเนปจนู จึงทาใหก้ ารหมุนของมนั เปลี่ยนแปลง ในปี 1845 นกั ดาราศาสตร์สองคนที่ทางานคนละที่ในองั กฤษและฝร่ังเศสรู้วา่ ดาวเคราะหด์ วงใหม่อยทู่ ่ีใหน ท้งั สองมีความเห็นตรงกนั คนอื่นๆกเ็ ริ่มลงมือศกึ ษาดาวเคราะหด์ วงใหม่น้ี ในปี 1846 ชาวเยอรมนั ชื่อ Johann Galle ไดพ้ บโลกใหม่ดว้ ยกลอ้ งโทรทศั นข์ นาดใหญ่ มนั อยใู่ นตาแหน่งที่นกั ดาราศาสตร์คนอ่ืนไดร้ ะบุไวก้ ่อนแลว้ ดาวเคราะหด์ วงใหม่มีสีน้าเงินมีช่ือวา่ ดาวเนปจูนตามชื่อเทพเจา้ แห่งทะเลโรมนั ดาวเนปจูนโตเกือบเท่าดาวยเู รนสั มนั เป็นดาวเคราะห์ท่ีใหญ่เป็นอนั ดบั สี่ในระบบสุริยะ มนั อยหู่ ่างไกลจากโลกมาก จึงทาใหม้ องเห็นสลวั มาก ดาวเนปจูนสามารถมองเห็นไดด้ ว้ ยกลอ้ งสองตา มนั ดูคลา้ ยกบั ดาวฤกษ์ ยงั ไม่มียานอวกาศที่เคยไปยงั ดาวเนปจูน สิ่งท่ีเรารู้ท้งั หมดกค็ ือ ดาวเคราะหด์ วงน้ีมองเห็นจากโลก กเ็ หมือนกบั ดาวยเู รนสั
มีมหาสมุทร น้าที่ลึกลอ้ มรอบแกนหินซ่ึงอยใู่ จกลางของดาวเนปจูน บรรยากาศของดาวเนปจนู ไม่เตม็ ไปดว้ ยหมอกเหมือนกบั ดาวยเู รนสั กลอ้ งโทรทศั นข์ นาดใหญ่แสดงให้เห็นแถบกลุ่มควนั ขาวที่หมุนรอบดาวเนปจูน บรรยากาศจะเยน็ มาก กลุ่มควนัประกอบดว้ ยมีเทนที่แขง็ บางคร้ังกลุ่มควนั เหล่าน้ีจะกระจายออกและปกคลุมดาวเนปจูนท้งั ดวง อาจมีลมพดั จดั บนดาวเนปจนู ลมเกิดจากอากาศร้อนที่ลอยข้ึน ลมเยน็ พดัเขา้ ไปแทนท่ี บนดาวเนปจนู ความร้อนตอ้ งมาจากภายในเพอ่ื ทาใหล้ มพดั ในเดือนสิงหาคม ปี 1989 ยานวอเยเจอร์ 2 ไดไ้ ปถึงดาวเนปจูน มนั บินผา่ นและส่งภาพและการวดั กลบั มายงั พ้นื โลกเราคงมีความรู้มากข้ึนเกี่ยวกบั ดาวเนปจูน ต่อจากน้นั ยานวอเยเจอร์2 จะบินออกจากระบบสุริยะต้งั แต่ไดอ้ อกจากโลกไปในปี 1977 ยานอวกาศจะบินผา่ นดาวเคราะห์ช้นั นอกส่ีดวง ยงั ไม่มียานลาใดท่ีไดไ้ ปยงั ดาวเคราะหต์ ่างๆมากเหมือนยานวอยาเจอร์ ส่ วนโค้งและดาวบริวารของดาวเนปจูน หลงั จากท่ีไดม้ ีการคน้ พบวา่ ดาวยเู รนสั มีวงแหวน คนเร่ิมมองหาวงแหวนรอบๆดาวเนปจนู เขาใชก้ ลอ้ งโทรทศั นม์ องดูดาวเนปจนู เมื่อมนั เคลื่อนใกลด้ าวฤกษ์ ถา้ ดาวเนปจนูมีวงแหวนมนั กจ็ ะผา่ นดา้ นหนา้ ของดาวฤกษ์ วงแหวนแต่ละวงจะตดั แสงของดาวฤกษ์ชว่ั ขณะหน่ึง ในปี 1981 นกั คณิตศาสตร์คนหน่ึงไดเ้ ห็นการลิบหร่ืของดาวฤกษ์ ต้งั แต่น้นัคนบางคนไดเ้ ห็นการลิบหร่ืแต่บางคนไม่เห็นอะไรเลย บางมีดาวเนปจนู อาจมีวงแหวนท่ีเป็นชิ้นส่วนท่ีแตกออกเป็นชิ้นๆมนั อาจมีส่วนโคง้ ส้ันๆ แทนท่ีจะเห็นวงแหวนท้งั วงส่วนโคง้ จะหมุนรอบดาวเนปจูน
สัญลกั ษณ์ ดาวพลูโต เป็นดาวเคราะหท์ ่ีไกลท่ีสุด ในระบบสุริยะจกั รวาล มีขนาดเลก็ มาก และวงโคจร กต็ ่างไปจาก ดาวดวงอ่ืนๆ จนเม่ือปี พ.ศ.2542 (ค.ศ.1999) มีนกั วทิ ยาศาสตร์บางกลุ่ม เสนอใหด้ าวพลูโต เป็นเพียงแค่ดาวเคราะหน์ อ้ ย (Asteroid) เท่าน้นั ดาวพลูโต เป็นดาวเคราะห์ทีอยหู่ ่างจากดวงอาทิตยไ์ กลที่สุดเป็นลาดบั ท่ี 9 ส่องกลอ้ งคน้ พบดาวพลูโตโดย ไคลด์ ทอมบอห์ (Clyde Tombaugh) เม่ือวนั ท่ี 23 มกราคม พ.ศ.2473 (ค.ศ.1930) เป็นดาวเคราะห์ท่ีมี ขนาดเลก็ ที่สุด ในระบบสุริยะ ความรู้เรื่องต่างๆของดวงดาวน้ียงั มีความชดั เจนไม่มากนกั เพราะเป็นดาวที่อยหู่ ่างจากโลกถึง 38.46หน่วยดาราศาสตร์ หรือประมาณ 7,400,000,000 กิโลเมตร ซ่ึงหากจะส่งยานอวกาศข้ึนไปสารวจดาวพลูโต จะตอ้ งใชเ้ วลาเดินทางอยา่ งนอ้ ย 10-15 ปี ทีเดียว
ข้อมูลจาเพาะของดาวพลโู ต โดยเฉล่ีย 5,900 ลา้ นกิโลเมตร(39.5 a.u.)ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ ใกลส้ ุด 4,425 ลา้ นกิโลเมตร (29.65 a.u.) ไกลสุด 7,375 ลา้ นกิโลเมตร (49.28 a.u.)Eccentricity 0.248คาบการหมุนรอบตวั เอง 6 วนั 9 ชว่ั โมง 17 วนิ าทีคาบการหมุนรอบดวงอาทิตย์ 247.7 ปี บนโลก ดว้ ยความเร็ว 4.70 กิโลเมตรต่อวนิ าทีระนาบโคจร (Inclination) 17:15 องศาแกนเอียงกบั ระนาบโคจร 122:46 องศามวล 0.0022 เท่าของโลกเส้นผา่ นศนู ยก์ ลาง 2,324 กิโลเมตร (โลก 12,756 กิโลเมตร ท่ีเสน้ ศนู ย์ สูตร)แรงโนม้ ถ่วง 0.04 เท่าของโลกความเร็วหลุดพน้ 1.18 กิโลเมตรต่อวนิ าทีความหน่าแน่น 1 ต่อ 2.0 เม่ือเทียบกบั น้าความสวา่ งสูงสุด +14
Search
Read the Text Version
- 1 - 29
Pages: