[วนั ที]่เครื่องคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์
1 หนว่ ยท่ี 4เครอ่ื งคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ์หวั เรอ่ื ง 1. ระบบคอมพวิ เตอร์ 2. สว่ นประกอบของคอมพวิ เตอร์ 3. หนว่ ยรบั เขา้ 4. หนว่ ยประมวลผลกลาง 5. หนว่ ยความจาหลกั 6. หนว่ ยความจารอง 7. หนว่ ยสง่ ออกแนวคดิ 1. ระบบคอมพิวเตอร์ คือ องค์ประกอบหลักที่จะทาให้เคร่ืองคอมพิวเตอร์สามารถทางานได้อย่างสมบูรณ์ถ้าขาดองค์ประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งแล้วคอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถทจ่ี ะทางานได้ ระบบของคอมพวิ เตอรป์ ระกอบดว้ ย องค์ประกอบหลัก ทสี่ าคัญ 5สว่ น คือฮารด์ แวร์ ซอฟตแ์ วร์ และพเี พลิ แวร์ ข้อมลู และสารสนเทศ และกระบวนการทางาน 2. การทางานของคอมพิวเตอร์จะทางานตามโปรแกรมท่ีกาหนดไว้ก่อนล่วงหน้าตัวเคร่ืองคอมพิวเตอร์ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ เรียกรวมว่า ฮาร์ดแวร์ การทางานของคอมพวิ เตอรป์ ระกอบด้วยหน่วยสาคัญ 5 หนว่ ย คือ 1. หนว่ ยรบั ข้อมลู 2. หนว่ ยประมวลผลกลาง 3. หนว่ ยความจาหลกั 4. หนว่ ยความจารอง 5. หนว่ ยสง่ ออก
2 3. หนว่ ยรบั เขา้ เปน็ อปุ กรณท์ น่ี าขอ้ มลู หรอื โปรแกรมเขา้ ไปเกบ็ ไวใ้ นหนว่ ยความจาหลกั และใชใ้ นการประมวลผล อปุ กรณร์ บั ขอ้ มลู มหี ลายประเภท เชน่ แผงแปน้อกั ขระ เมาส์ แทรก็ บอล กา้ นควบคมุ เครอ่ื งกราดตรวจ เครอ่ื งอา่ นอกั ขระหมกึ แมเ่ หลก็จอสมั ผสั 4. หนว่ ยประมวลผลกลาง เรยี กอกี อยา่ งหนงึ่ วา่ ซพี ยี ู (Central Processing Unit :CPU) หนว่ ยประมวลผลกลางเปน็ สว่ นทสี่ าคญั ของคอมพวิ เตอร์ หนว่ ยประมวลผลกลาง แบง่ออกเปน็ 2หนว่ ย คอื หนว่ ยควบคมุ (control unit) และหนว่ ยคานวณและตรรกะ (Arithmetic Logic Unit :ALU) 5. หนว่ ยความจาหลกั มีหน้าทใี่ นการเกบ็ ข้อมลู และโปรแกรมทจ่ี ะใหซ้ ีพยี เู รยี กไปใช้งาน หน่วยความจาหลักเป็นอุปกรณ์ท่ีทามาจากไอซี หน่วยความจาหลักแบ่งได้ 2ประเภท คอื รอม และแรม 6. หน่วยความจารอง มีไว้เพื่อใช้เก็บข้อมูลที่ต้องการใช้งานต่อ และเม่ือต้องการใช้งานเม่ือไรก็จะถ่ายข้อมูลจากหน่วยความจารองมาไว้ที่หน่วยความจาหลักที่เป็นแรม เพ่ือให้หน่วยประมวลผลทางาน หน่วยความจารองที่ใช้กันในระบบคอมพิวเตอร์มีหลายประเภท เช่น แผน่ บันทกึ ฮารด์ ดิสก์ 7. หน่วยส่งออก เป็นหน่วยที่นาข้อมูลท่ีได้รับการประมวลผลแล้วมาแสดงผลหรือเกบ็ ไวใ้ นหนว่ ยความจารอง เป็นอปุ กรณ์ทสี่ าคัญและจาเป็นอย่างหนงึ่ หนว่ ยสง่ ออกที่ใชใ้ นระบบคอมพิวเตอร์ เชน่ จอภาพ เคร่ืองพิมพ์ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกองคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 2. บอกสว่ นประกอบของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 3. อธบิ ายหนา้ ท่ีของสว่ นประกอบของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 4. บอกสว่ นประกอบของหนว่ ยรบั เขา้ ได้
35. บอกสว่ นประกอบของหนว่ ยประมวลผลกลางได้6. บอกสว่ นประกอบของหนว่ ยความจาหลกั ได้7. บอกสว่ นประกอบของหนว่ ยความจารองได้8. บอกสว่ นประกอบของหนว่ ยแสดงผลได้ แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น (กอ่ นเรยี น) หนว่ ยท่ี 4 เรอ่ื ง เครอ่ื งคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ์คาชแ้ี จง จงเลอื กคาตอบทถ่ี ูกทสี่ ดุ เพยี งคาตอบเดยี ว แลว้ ทาเครื่องหมาย (X) ลงในกระดาษคาตอบ1. ขอ้ ใดเปน็ องคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ ก. ฮารด์ แวร์ ข. ซอฟตแ์ วร์ ค. พีเพลิ แวร์ ง. ถกู ทกุ ขอ้2. หนว่ ยประมวลผลกลาง หรอื CPU ยอ่ มาจากคาในขอ้ ใด ก. Center Processor Unit ข. Center Procesing Unit ค. Central Processor Unit ง. Central Processing Unit3. หนว่ ยใดของ CPU ทาหนา้ ทคี่ านวณทางคณติ ศาสตร์ ก. หนว่ ยคานวณและตรรกะ ข. หนว่ ยควบคมุ ค. หนว่ ยรบั เขา้ ง. หนว่ ยวเิ คราะห์4. หนว่ ยความจาที่เกบ็ ขอ้ มลู หรือโปรแกรมขณะทกี่ าลงั ทางานเทา่ นนั้
4 ก. ROM ข. RAM ค. Hard Disk ง. Floppy Disk5. หนว่ ยความจาใดเปน็ หนว่ ยความจาทอ่ี า่ นไดอ้ ยา่ งเดยี วเทา่ นน้ั ก. ROM ข. RAM ค. Hard Disk ง. Floppy Disk6. ข้อใดกลา่ วถงึ หนา้ ท่ีของหนว่ ยความจาสารองไดถ้ กู ตอ้ ง ก. บรรจคุ าสง่ั ในการตรวจสอบอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ข. เกบ็ ขอ้ มลู และชดุ คาสงั่ ไวใ้ ชง้ านตอ่ ไป ค. เกบ็ ชดุ คาสง่ั ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ทใ่ี ชใ้ นการประมวลผล ง. ถกู ทง้ั ข และ ค7. แผน่ บนั ทกึ ทาหนา้ ทต่ี รงกบั ขอ้ ใด ก. หนว่ ยรบั โปรแกรมและขอ้ มลู ข. หนว่ ยประมวลผลกลาง ค. หนว่ ยความจาหลกั ง. หนว่ ยความจารอง8. หนว่ ยรบั ขอ้ มลู ทาหนา้ ทต่ี รงตามขอ้ ใด ก. รบั ข้อมลู เขา้ สเู่ ครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ข. รบั โปรแกรมเขา้ สเู่ ครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ค. รบั โปรแกรมเขา้ สเู่ ครอ่ื งคอมพวิ เตอรเ์ พอ่ื แสดงผล ง. รบั ขอ้ มลู หรอื โปรแกรมเขา้ สเู่ ครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ พอื่ เตรยี มประมวลผล9. อปุ กรณใ์ นขอ้ ใด ไมอ่ ยใู่ นหนว่ ยรบั ขอ้ มลู ก. เมาส์ ข. จอภาพ ค. กา้ นควบคมุ ง. เครอ่ื งขบั แผน่ บันทกึ10. อปุ กรณใ์ ดอยใู่ นหนว่ ยแสดงผล ก. แปน้ พมิ พ์ ข. แผ่นบนั ทกึ ค. ลาโพง ง. จอสมั ผสั11. อปุ กรณใ์ ดใชใ้ นการแสดงผล ก. จอภาพ
5 ข. เครอ่ื งพมิ พ์ ค. ไมโครโฟน ง. ก. และ ข. ถูก12. หนว่ ยแสดงผลทาหนา้ ทตี่ รงตามขอ้ ใด ก. แสดงผลลพั ธจ์ ากหน่วยรบั ขอ้ มูลโดยนาผลลพั ธม์ าจากหนว่ ยความจารอง ข. แสดงผลลัพธจ์ ากหนว่ ยรับข้อมลู โดยนาผลลัพธม์ าจากหนว่ ยความจาหลกั ค. แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผลโดยนาผลลัพธ์มาจากหน่วยความจารอง แสดงทางจอภาพหรอื บันทึกลงสอ่ื ข้อมลู ง. แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผลโดยนาผลลัพธ์มาจากหน่วยความจาหลัก แสดงทางจอภาพหรอื บันทึกลงสื่อข้อมลู13. เครอ่ื งคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณต์ า่ ง ๆ เรยี กวา่ อะไร ก. ฮารด์ แวร์ ข. ซอฟตแ์ วร์ ค. พเี พลิ แวร์ ง. ซีพยี ู14. สว่ นประกอบพื้นฐานของระบบคอมพวิ เตอรม์ กี หี่ นว่ ย ก. 2 หนว่ ย ข. 3 หนว่ ย ค. 4 หนว่ ย ง. 5 หนว่ ย15. อปุ กรณท์ นี่ ิยมใชใ้ นหา้ งสรรพสินคา้ เพอื่ ใหอ้ า่ นรหสั ของสนิ คา้ คอื อปุ กรณใ์ ด ก. กา้ นควบคมุ ข. เครอื่ งอา่ นรหสั แทง่ ค. แทรก็ บอล ง. จอสมั ผสั
6สาระการเรยี นร/ู้ เนอื้ หา1. ระบบคอมพวิ เตอร์ พจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2525 ไดใ้ หค้ าจากดั ความวา่คอมพวิ เตอร์ คอื เครอื่ งอเิ ลก็ ทรอนกิ สแ์ บบอตั โนมตั ทิ าหนา้ ทเ่ี สมอื นสมองกลใชส้ าหรบัแกป้ ญั หาตา่ งๆ ทง้ั ท่ีงา่ ยและซบั ซอ้ นโดยวธิ ที างคณติ ศาสตร์ เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ถกู สรา้ งขึ้นมาเพอื่ ใหม้ จี ดุ เดน่ 4ประการเพอื่ ทดแทนขอ้ จากดั ของมนษุ ยเ์ รยี กวา่ 4Sspecial ดงั นี้ 1. หน่วยเก็บ (Storage) หมายถึง ความสามารถในการเก็บข้อมูลจานวนมากและเปน็ เวลานาน นบั เปน็ จดุ เดน่ ทางโครงสร้างและเปน็ หวั ใจของการทางานแบบอัตโนมัตขิ องเครอื่ งคอมพิวเตอร์ทั้งเปน็ ตัวบ่งชปี้ ระสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์แตล่ ะเครอ่ื งดว้ ย 2. ความเรว็ (Speed) หมายถงึ ความสามารถในการประมวลผลขอ้ มลู(ProcessingSpeed)โดยใชเ้ วลานอ้ ย เปน็ จดุ เดน่ ทางโครงสรา้ งทผี่ ใู้ ชท้ วั่ ไปมสี ว่ นเกี่ยวขอ้ งน้อยทสี่ ดุ เปน็ ตวั บง่ ชี้ประสทิ ธภิ าพของเครอ่ื งคอมพวิ เตอรท์ สี่ าคญั สว่ นหนงึ่ 3. ความเป็นอัตโนมัติ (Self Acting) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลขอ้ มลู ตามลาดบั ข้ันตอนได้อยา่ งถกู ตอ้ งและตอ่ เนอ่ื งอยา่ งอตั โนมตั ิ โดยมนษุ ยม์ ีส่วนเกีย่ วขอ้ งเฉพาะในข้ันตอนการกาหนดโปรแกรมคาส่ังและข้อมูลกอ่ นการประมวลผล 4. ความน่าเชื่อถือ (Sure) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ถูกต้อง ความน่าเชื่อถือนับเป็นส่ิงสาคัญที่สุดในการทางานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ความสามารถนเี้ ก่ยี วข้องกบั โปรแกรมคาสง่ั และข้อมลู ทีม่ นุษยก์ าหนดใหก้ ับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง กล่าวคือ หากมนุษย์ป้อนข้อมูลท่ีไม่ถูกต้องให้กับเคร่ืองคอมพิวเตอร์ก็ย่อมได้ผลลพั ธ์ที่ไมถ่ ูกต้องดว้ ยเชน่ กนั ระบบคอมพวิ เตอร์ คอื องคป์ ระกอบหลกั ทจี่ ะทาใหเ้ ครอื่ งคอมพวิ เตอร์สามารถทางานไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ ถา้ ขาดองคป์ ระกอบสว่ นใดสว่ นหนงึ่ แลว้ คอมพวิ เตอร์ กไ็ มส่ ามารถทจ่ี ะทางานได้ ระบบของคอมพวิ เตอรป์ ระกอบดว้ ย องคป์ ระกอบหลกั ทส่ี าคญั 5 สว่ น คอืฮารด์ แวร์ ซอฟตแ์ วร์ พเี พลิ แวร์ ขอ้ มลู และสารสนเทศ และกระบวนการทางาน ฮารด์ แวร์ (Hardware) หมายถงึ ตวั เครอื่ งคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณท์ เ่ี กยี่ วขอ้ ง(Peripheral Devices) ทเ่ี ห็นไดห้ รอื จบั ตอ้ งได้ ไดแ้ ก่ สว่ นประกอบทกุ สว่ นของเครอ่ื งคอมพวิ เตอรเ์ ชน่ จอภาพ คียบ์ อรด์ ซอฟตแ์ วร์ (Software) คอื โปรแกรมคาสง่ั ท่ีส่งั ให้เครื่องคอมพิวเตอรท์ างานโดยโปรแกรมจะถูกเก็บไวใ้ นหนว่ ยความจา หลังจากนน้ั เครอ่ื งจะทางานด้วยตนเองตามโปรแกรมภายใตก้ ารควบคุมของหน่วยควบคมุ พีเพลิ แวร์ (Peopleware) หมายถงึ บคุ คลทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การใชค้ อมพวิ เตอรท์ ง้ัทรงตรงและทางออ้ ม บคุ คลทเี่ ก่ียวขอ้ งทางตรง ไดแ้ ก่ บคุ คลทตี่ อ้ งใชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั
7คอมพวิ เตอร์ เชน่ นักวเิ คราะหร์ ะบบงาน โปรแกรมเมอร์ ผใู้ ชเ้ ครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ เปน็ ตน้บคุ คลทเ่ี กย่ี วขอ้ งทางออ้ ม ไดแ้ ก่ ผู้ทเ่ี กย่ี วขอ้ งหรอื ไดร้ บั ผลกระทบจากการใช้คอมพวิ เตอร์ ขอ้ มูลและสารสนเทศ (Data / Information) ในการทางานตา่ ง ๆ จะตอ้ งมขี อ้ มูลเกิดข้ึนตลอดเวลา ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานท่ีถูกเก็บรวบรวมมาประมวลผล เพ่ือให้ได้สารสนเทศทเี่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ ผใู้ ช้ ซ้ึงในปจั จบุ นั มีการนาเอาระบบคอมพวิ เตอรม์ าเป็นขอ้ มูลในการดดั แปลงข้อมลู ให้ได้ประสิทธิภาพโดยแตกตา่ งๆ ระหวา่ ง ขอ้ มูล และ สารสนเทศ ข้อมูลคอื ไดจ้ ากการสารวจจรงิ แตส่ ารสนเทศ คือ ได้จากข้อมูลไปผ่านกระบวนการหนง่ึ ก่อน กระบวนการทางาน (Procedure) หรือโพรซเี ยอร์ หมายถึง ขั้นตอนท่ีผู้ใช้จะต้องทาตาม เพอื่ ใหไ้ ดง้ านเฉพาะอยา่ งจากคอมพวิ เตอร์ซ่ึงผู้ใช้คอมพิวเตอรท์ กุ คนตอ้ งรูก้ ารทางานพื้นฐานของเครือ่ งคอมพิวเตอร์ เพื่อทจ่ี ะสามารถใชง้ านได้อย่างถกู ต้อง ตัวอยา่ งเช่น การใช้เคร่อื ง ฝาก-ถอนเงนิ อตั โนมตั ิ รปู ที่ 4.1 ระบบคอมพิวเตอร์ (ทม่ี า: สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี)2. สว่ นประกอบของคอมพวิ เตอร์ ค อมพิวเต อร์เป็นอุปกรณ์ท่ีใช้ใน การประมวลผ ลข้อมูล ให้เป็นสารสนเทศคอมพวิ เตอรม์ จี ดุ เดน่ คอื สามารถจดั การข้อมลู คิดคานวณตวั เลขจานวนมากไดร้ วดเร็วและแม่นยา นอกจากน้คี อมพวิ เตอร์ยงั สามารถเกบ็ ขอ้ มูลไดม้ าก เม่ือจัดเก็บแลว้ สามารถเรียกค้นหรือคัดแยกได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว โดยที่การดาเนินการต่างๆ จะเป็นไปตามเง่ือนไขที่โปรแกรมหรอื ซอฟตแ์ วร์กาหนดไว้ คอมพวิ เตอร์ทางานตามชดุ คาสง่ั หรอื โปรแกรม ตามหลกั การที่ จอห์น วอน นอยแมน (John Von Neumann) เสนอและใช้กันมาจนถึงปัจจุบันคือ คอมพิวเต อร์มีหนว่ ยความจาสาหรับเก็บซอฟต์แวรแ์ ละข้อมลู การทางานของคอมพิวเตอรจ์ ะทางานตามโปรแกรมทกี่ าหนดไวก้ อ่ นลว่ งหนา้ แลว้ ตวั เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ตลอดจนอุปกรณต์ า่ งๆ เรียกรวมว่า ฮาร์ดแวร์ (hardware)
8 รปู ท่ี 4.2 ฮารด์ แวร์ (ทมี่ า : satan-it.exteen.com/20080802/entry) การทางานของคอมพวิ เตอรป์ ระกอบดว้ ยหนว่ ยสาคญั 5 หนว่ ย คอื 1. หน่วยรับข้อมูล ทาหน้าที่รับข้อมูลเข้ามาเก็บไว้ในหน่วยความจาหลักจากน้ันข้อมูลจะถูกส่งไปยงั หน่วยประมวลผลกลาง 2. หน่วยประมวลผลกลาง ทาหน้าท่ีในการคิดคานวณหรือประมวลผลข้อมูลโดยทาตามโปรแกรมท่เี กบ็ ไว้ในหน่วยความจาหลกั 3. หน่วยความจาหลัก เป็นหน่วยสาหรับเก็บข้อมูลและซอฟต์แวร์ท่ีใช้ในการประมวลผล ซ่ึงหน่วยประมวลผลกลางสามารถอ่าน เขียน จากหน่วยความจาหลักรวดเร็วม ากทาใหห้ น่วยประมวลผลกลางนามาตคี วามและกระทาตามไดอ้ ย่างรวดเร็ว 4. หนว่ ยความจารอง มไี วส้ าหรบั เกบ็ ขอ้ มลู หรอื ซอฟตแ์ วรท์ ม่ี จี านวนมากและตอ้ งการนามาใชอ้ กี ในภายหลงั หากจะใชง้ านกม็ กี ารโอนถา่ ยจากหนว่ ยความจารองมายงัหนว่ ยความจาหลกั 5. หน่วยแสดงผล เปน็ หน่วยท่ีนาข้อมลู ท่ีได้รบั การประมวลผลแล้วมาแสดงผลหรอื เกบ็ ไวใ้ นหนว่ ยความจารอง รปู ที่ 4.3 สว่ นประกอบพน้ื ฐานของระบบคอมพวิ เตอร์ (ทม่ี า: สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี)3. หนว่ ยรบั เขา้
9 เปน็ อปุ กรณ์ทน่ี าขอ้ มลู หรอื โปรแกรมเขา้ ไปเกบ็ ไว้ในหน่วยความจาหลกั ใชใ้ นการประมวลผล อุปกรณ์รบั ข้อมูล มีหลายประเภท รปู ที่ 4.4 อปุ กรณร์ บั ขอ้ มลู (ทม่ี า: http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/hardware/index1.htm) 1. แผงแปน้ อกั ขระ (keyboard) เปน็ อปุ กรณท์ ที่ าหน้าทร่ี บั ข้อมลู โดยรบั ขอ้ มลูจากการกดบนแผงแปน้ อกั ขระ (keyboard) แลว้ สง่ รหสั ใหก้ บั คอมพวิ เตอร์ แผงแปน้ อกั ขระมาตรฐานทนี่ ยิ มใชก้ นั มากในขณะน้มี จี านวนแปน้ 101 แปน้ แผงแปน้ อกั ขระ เปน็ อปุ กรณ์รบัข้อมลู ทน่ี ยิ มใชก้ นั โดยทวั่ ไป ซง่ึ จะประกอบดว้ ยสว่ นประกอบหลกั ๆ ดงั น้ี รปู ท่ี 4.5 แผงแป้นอกั ขระ (Keyboard) (ทมี่ า: สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี) - แป้นอักขระ (alphabetic keys) เป็นแป้นท่ีมีการจัดวางอักขระเหมือนกับแปน้ พิมพด์ ดี ทว่ั ไป - แป้นตัวเลข (numeric keypad) เป็นแป้นตัวเลขทางขวามือ ถูกออกแบบมาเพื่อชว่ ยอานวยความสะดวกสาหรับงานที่ต้องปอ้ นข้อมลู ตวั เลขเปน็ ประจา - แป้นฟงั กช์ นั (function keys) เป็นแป้นท่อี ย่บู นแถวแรกของแปน้ พมิ พ์ ใช้สัญลักษณ์ F1-F12 แป้นฟังก์ชันเป็นแป้นทางลัดในการเลือกคาส่ัง ซ่ึงแต่ละแป้นได้มีการบันทึกคาส่ังไว้แล้ว และแป้นฟังก์ชันของแต่ละโปรแกรมจะทาหน้าที่แตกต่างกันออก ไปโปรแกรมสาเรจ็ รปู ส่วนใหญ่จะกาหนดแปน้ ฟงั ก์ชันเพื่อเขา้ ถึงคาสั่งโดยทางลดั ได้ - แป้นลูกศร (arrow keys) เป็นแป้นท่ีทาหน้าท่ีควบคุมการเคล่ือนท่ีของเคอร์เซอร์
10 - แป้นควบคุม (control keys) เป็นแป้นพิมพ์ท่ีทาหน้าที่ร่วมกับแป้นพิมพ์อ่ืน ๆเชน่ แปน้ Ctrl แป้น Shift และแปน้ Alt เปน็ ตน้ รปู ท่ี 4.6 แผงแปน้ อกั ขระ (Keyboard) (ทมี่ า : www.overclockzone.com/.../2008/01/47/) นอกจากแปน้ พิมพท์ ี่ใช้กบั เครื่องคอมพวิ เตอร์โดยทั่วไปแลว้ ยังมีแป้นพิมพ์แบบไร้สาย wireless) ทสี่ ามารถทางานกบั คอมพิวเตอร์ผา่ นแสงอนิ ฟาเรด และยังมปี ุ่มเมาสอ์ ยู่บนแป้นพิมพ์ด้วย นอกจากนี้ยังมีแป้นพิมพ์ท่ีออกแบบมาเพ่ือใช้กับงานเฉพาะด้านเพ่ือเป็นการอานวย ความสะดวกและรวดเร็วในการบันทึก ตัวอย่างเช่น แป้นพิมพ์เพื่องานธนาคารร้านอาหารจานดว่ น (fast food) ตู้ถอนเงินอตั โนมตั ิ (ATM) เป็นตน้ รปู ภาพท่ี 4.7 แปน้ พิมพท์ ใี่ ชก้ บั ตู้ ATM (ทม่ี า: http://www.wangjianshuo.com/personal/places/ pudongairport/shanghai.pvg-ATM-large.jpg) 2. เมาส์ (mouse) เป็นอุปกรณ์รับเข้าท่ีสามารถเล่ือนตัวช้ีไปยังตาแหน่งที่ต้องการบนจอภาพ มีลักษณะเป็นปุ่มกดครอบอยู่กับลูกกลมท่ีเมื่อลากไปกับพ้ืนแล้วจะมีการส่งสัญญาณ ตามแนวแกน x และแกน y เขา้ สู่คอมพิวเตอร์ปัจ จุบันมีห ล า ย รูป แ บ บ ใ ห้ผู้ใ ช้เ ลือ ก ใ ช้ต า มความต้องการ
11 รปู ที่ 4.8 เมาส์ (ทม่ี า : http://home.kku.ac.th/regis/student/success/hardware_1.html ) 3. แทรก็ บอล (trackball) คือ ลูกกลมท่ีกล้ิงไปมาวางอยู่ในเบ้า ผู้ใช้สามารถบังคับลูกกลมให้หมุนไปมาเพ่อื ควบคุมการทางานของตัวชีบ้ นหนา้ จอคอมพวิ เตอร์ ปจั จบุ ันมกี ารสรา้ งแทรกบอลไว้กับเคร่ืองคอมพวิ เตอร์แบบโนต้ บุ๊ก เพราะสะดวกต่อการใช้และใช้พืน้ ทนี่ ้อย รปู ที่ 4.9 ชนดิ ของแทรก็ บอล (ทมี่ า: สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย)ี 4. กา้ นควบคุม มลี กั ษณะเปน็ กา้ นโยกซงึ่ โยกไดห้ ลายทิศทาง ขณะท่ีโยกกา้ นไปมาตาแหน่งของตวัชีจ้ ะเปล่ียนไปด้วย ซ่ึงเป็นการส่งสญั ญาณข้อมลู เข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ก้านควบคุมมักเป็นอุปกรณ์ท่นี ิยมใชก้ นั มากในการเลน่ เกม
12 รปู ท่ี 4.10 กา้ นควบคมุ (ทม่ี า: http://school.obec.go.th/uts_s/webpages/computer/input.htm) 5. เครอื่ งกราดตรวจ (scanner) รปู ท่ี 4.11 เครอ่ื งกราดตรวจ (ทมี่ า: สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี) เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีของการผ่านแสง เพื่อทาการอ่านรหัสสญั ลักษณ์ หรอื รปู ภาพ แล้วให้คอมพวิ เตอร์นาไปประมวลผลต่อไป เครื่องกราดตรวจช่วยให้การรับข้อมลู ทาได้รวดเรว็ กว่าการกดแป้นบนแผงแป้นอักขระ อีกท้ังยงั ลดข้อผิดพลาดอันอาจเกดิ จากการกดแป้นอกี ดว้ ย เคร่อื งกราดตรวจทีน่ ิยมใชก้ ันอยู่ทัว่ ๆ ไปได้แก่ 1) เครอื่ งกราดตรวจรายหนา้ (page scanner) เปน็ อปุ กรณท์ ใี่ ชอ้ า่ นรปู ภาพหรอืตวั หนงั สอื เชน่ รปู ถา่ ย และสญั ลกั ษณต์ า่ งๆ รปู ท่ี 4.12 เครอ่ื งกราดตรวจรายหนา้(ทม่ี า: http://www.thaigoodview.com/roomnet/roomnet46/IT46_4/index.html-page4.htm) 2) เครือ่ งอา่ นรหสั แทง่ (bar code) เปน็ อปุ กรณ์รบั เขา้ ทใี่ ชส้ าหรับอา่ นรหัสแท่ง(bar code) ซ่งึ เป็นแถบเส้นที่ประกอบด้วยเส้นขนาดแตกต่างกนั ใชแ้ ทนรหัสข้อมูลตา่ งๆ การอา่ นจะใชแ้ สงสอ่ งแถบเสน้ ทาใหเ้ กดิ การสะทอ้ นเพอ่ื รบั รหสั เขา้ มาตคี วามหมาย ปจั จบุ นั นยิ มใช้ในห้างสรรพสินค้า สินค้าทุกชนิดจะติดรหัสแท่งไว้ ผู้ขายใชเ้ ครือ่ งอ่านเพื่อจะได้ทราบว่าเปน็ รหัสของสนิ คา้ ใด ราคาเทา่ ใด และสามารถออกใบเสรจ็ รบั เงินให้ไดอ้ ยา่ งอตั โนมตั ิ
13 รปู ที่ 4.13 เครื่องอา่ นรหสั แทง่ (ทม่ี า : http://www.sglcomp.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=376068) 3) เครอื่ งอา่ นอกั ขระหมกึ แมเ่ หลก็ (Magnetic-Ink Character Recognition: MICR)ท่ีพบเห็นได้บ่อยครั้งคือ เครื่องอ่านตัวเลขที่พิมพ์อยู่บนต๋ัวสัญญาใช้เงิน ตัวเลขเหล่าน้ีมีลักษณะพิเศษที่ทาให้เคร่ืองอ่านได้ เน่ืองจากแต่ละวันธนาคารต้องรับและออกต๋ัวสัญญาใช้เงินเป็นจานวนมาก จึงมีการใช้เครอ่ื งอา่ นตัวเลขช่วยในการอ่าน หรือเคร่อื งอ่านตัวเลขท่ีสานักงานไปรษณยี ใ์ ชเ้ พื่อชว่ ยแยกจดหมายตามรหสั ไปรษณีย์ รปู ที่ 4.14 เครอื่ งอา่ นอักขระหมกึ แมเ่ หล็ก (ทม่ี า : http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/techno/WEB% 20_ JAN/p07/p7.html) 4) จอสัมผัส (touch screen) สามารถเป็นได้ทั้งหน่วยรับเข้าและหน่วยส่งออกจอภาพสามารถรับข้อมูลไปประมวลผลได้โดยการสัมผัสบนบริเวณจอภาพ บริเวณจอภาพของจอสมั ผสั ประกอบดว้ ยตาขา่ ยของลาแสงอนิ ฟาเรด เม่ือมวี ตั ถุมาสมั ผสั บนจอภาพจะมกี ารส่งสัญญาณไฟฟ้า ซ่ึงสามารถระบุตาแหน่งบนจอภาพให้กับโปรแกรมที่กาลังทางานอยู่ได้การใช้งานจอสัมผสั มีความสะดวก แต่อาจผดิ พลาดจากการระบุตาแหน่งบนจอภาพ ถ้าตาแหนง่ บนจอภาพมีขนาดเล็กเกินไป จอสัมผัสประยกุ ต์ใชก้ ับงานหลายอย่าง เช่น การจองต๋ัวชมภาพยนตร์ การจองที่น่ังเพื่อรบั ประทานอาหาร รปู ท่ี 4.15 จอสมั ผสั (ทม่ี า : http://atcloud.com/stories/66066)
14 5) กลอ้ งถา่ ยภาพดจิ ติ อล สามารถถา่ ยภาพและบนั ทกึ ไวใ้ นหนว่ ยความจาภายในตวั กลอ้ ง จากนน้ั สามารถสง่ ขอ้ มลู ภาพเขา้ สคู่ อมพวิ เตอรไ์ ด้ รปู ท่ี 4.16 กลอ้ งถา่ ยภาพดจิ ติ อล (ทมี่ า : http://www.banchee.lopburi1.net/input_page_type.html)4. หนว่ ยประมวลผลกลาง หน่วยประมวลผลกลางเรียกอีกอย่างหน่ึงว่า ซีพียู (Central Processing Unit :CPU) หน่วยประมวลผลกลางเปน็ สว่ นทีส่ าคญั ของคอมพิวเตอร์ ปัจจบุ นั เทคโนโลยีทางด้านการผลติ วงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ สไ์ ดก้ า้ วหนา้ มากจนถงึ ข้ันสามารถผลติ วงจรหน่วยประมวลผลกลางทั้งวงจรไว้ในชิปเพียงตัวเดียวได้ ชิปหน่วยประมวลผลกลางน้ีมีช่ือเรียกว่า ไมโค รโพรเซสเซอร์ รปู ที่ 4.17 หนว่ ยประมวลผลกลาง (ทม่ี า: สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี) หน่วยประมวลผลกลางแบ่งออกเป็น 2 หน่วย คือ หน่วยควบคุม (control unit)และหน่วยคานวณและตรรกะ (Arithmetic Logic Unit : ALU) หนว่ ยควบคมุ ทาหนา้ ท่ีในการควบคุมลาดับการทางานภายในหน่วยประมวลผลกลางระหว่างประมวลผล หน่วยคานวณและตรรกะ ทาหน้าที่นาข้อมูลซ่ึงเป็นสัญญาณไฟฟ้าแบบตัวเลขฐานสองมาประมวลผลทางคณติ ศาสตร์ และตรรกศาสตร์
15 รปู ที่ 4.18 ผงั แสดงหนว่ ยประมวลผลกลาง(ทม่ี า: http://www.comcn.in.th/elearnning/e-learning%20kru_fon/WEB- computer/ct103A2.html) พฒั นาการของหนว่ ยประมวลผลกลางไดเ้ รม่ิ จากการใหห้ นว่ ยประมวลผลกลางอา่ นขอ้ มลู จากหนว่ ยความจาหลกั ดว้ ยรหสั เลขฐานสอง ครง้ั ละ 8 บติ เรยี กซพี ยี แู บบนวี้ า่ ซพี ยี ูขนาด 8 บติ ตอ่ มาเมอ่ื สรา้ งหนว่ ยประมวลผลกลางไดด้ ขี น้ึ ทาใหอ้ า่ นคาสงั่ หรอื ขอ้ มลู เขา้ มาไดค้ รงั้ ละ 16 บติ การประมวลผลกก็ ระทา ครง้ั ละ 16 บติ ดว้ ย เรยี กซพี ยี แู บบนวี้ า่ ซพี ยี ูขนาด16 บติ ปจั จบุ นั ซพี ยี ทู ใี่ ชง้ านสามารถอา่ นคาสงั่ หรอื ขอ้ มลู ไดถ้ งึ ครงั้ ละ 128 บติ ทาให้ทางานไดม้ ากและรวดเรว็ ขน้ึ ซพี ยี ู 8 บติ ซีพยี ู 16 บติ ซพี ยี ู32 บติ รปู ท่ี 4.19 พฒั นาการของหนว่ ยประมวลผลกลาง (ทมี่ า: สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี)ววิ ฒั นาการของไมโครโพรเซสเซอร์ 1. ไมโครโพรเซสเซอร์ 8086 เรมิ่ พัฒนาและนาออกมาใช้งานตง้ั แต่ พ.ศ.2523เป็นซีพียูขนาด 16 บิต ซีพียูรุ่นนี้มีโครงสร้างการทางานท่ีต่อเช่ือมกับหน่วยความจาหลักโดยตรงได้มากถงึ 1 เมกะไบต์ หน่วยของหน่วยความจา เปน็ ดงั นี้ 1 ไบต์ (byte) เทา่ กบั 8 บติ 1 กิโลไบต์ (kilobyte) เทา่ กบั 1024 ไบต์ 1 เมกะไบต์ (megabyte) เทา่ กบั 1024 กโิ ลไบต์ 1 กกิ ะไบต์ (gigabyte) เทา่ กบั 1024 เมกะไบต์
16 รปู ท่ี 4.20 ไมโครโปรเซสเซอร์ 8086 (ทมี่ า: สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี) 2. ไมโครโพรเซสเซอร์ 80286 เปน็ พฒั นาการรุ่นตอ่ มาของ 8086 เปน็ ไมโครโพรเซสเซอร์ขนาด 16 บติ แตส่ ามารถเชอ่ื มตอ่ กบั หนว่ ยความจาหลกั ไดโ้ ดยตรงถงึ 16 เมกะไบต์ รปู ที่ 4.21 ไมโครโปรเซสเซอร์ 80286 (ทมี่ า: สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี) 3. ไมโครโพรเซสเซอร์ 80386 เปน็ ซพี ยี รู นุ่ ทส่ี ามทใี่ ชใ้ นไมโครคอมพิวเตอร์ เปน็ไมโครโพรเซสเซอร์ขนาด 32 บิต มีประสิทธิภาพการทางานได้ดีกว่า 80286โดยเฉพาะโครงสร้างการเชอ่ื มต่อกับหน่วยความจาสามารถตอ่ ไดถ้ ึง 4 กกิ ะไบต์ รปู ท่ี 4.22 ไมโครโปรเซสเซอร์ 80386 (ทมี่ า: สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย)ี 4. ไมโครโพรเซสเซอร์ 80486 พฒั นาตอ่เนอื่ งมาจาก 80386 เพมิ่ ขดี ความสามารถในการคานวณจานวนจรงิ ไมโครโพรเซสเซอรน์ มี้ สี ถาปตั ยกรรมทซี่ บั ซอ้ นขน้ึ มจี านวนทรานซสิ เตอร์กวา่ หนงึ่ ลา้ นตวั ในชพิ เดยี วกัน
17 รปู ท่ี 4.23 ไมโครโปรเซสเซอร์ 80486 (ทม่ี า: สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี) 5. ไมโครโพรเซสเซอรท์ ส่ี งู กวา่ ไมโครโพรเซสเซอร์ 80486 บรษิ ทั ผู้ผลติ ไดเ้ ปลยี่ นชอื่ รุ่นซพี ยี จู ากการใชห้ มายเลขมาเป็นชอื่ ทางการคา้ เชน่ เพนเทยี่ ม (pentium) เอทรอน(athlon)ซง่ึ ซพี ยี นู มี้ จี านวนทรานซสิ เตอรม์ ากกวา่ สามลา้ นตวัเปน็ ซพี ียขู นาด 64 บติ และทางานไดเ้ รว็ กวา่ไมโครโพรเซสเซอร์ 80486 โดยเฉพาะมกี ารทางานภายในดว้ ยกระบวนการทางานแบบขนานเพอื่ ให้ทางานไดเ้ รว็ ขนึ้ รูปที่ 4.24 ซพี ยี ู ขนาด 64 บิต(ทม่ี า: สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี) รปู ท่ี 4.25 แสดงร่นุ ของไมโครโปรเซสเซอร์ (ทมี่ า: สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี)5. หนว่ ยความจาหลกั หนว่ ยความจาหลกั มหี น้าทใี่ นการเกบ็ ขอ้ มลู และโปรแกรมทจี่ ะให้ซีพยี เู รยี กไปใชง้ านหน่วยความจาหลักเป็นอุปกรณ์ที่ทามาจากไอซี วงจรหน่วยความจาจะเก็บข้อมูลในรูปตัวเลขฐานสอง
18 รปู ท่ี 4.26 หนว่ ยความจาหลกั (RAM) (ทมี่ า: สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี) หนว่ ยความจาหลกั ทใี่ ชก้ บั ไมโครคอมพวิ เตอร์แบง่ ไดเ้ ปน็ 1. แรม (Random Access Memory : RAM) เป็นหน่วยความจาท่ีเก็บข้อมูลสาหรับใช้งานท่ัวไป การอ้างอิงตาแหน่งที่อยู่ของข้อมูลใดๆ เพ่ือการเขียนและการอ่าน จะกระทาแบบการเข้าถงึ โดยสมุ่ คอื เรยี กไปทต่ี าแหนง่ ทอ่ี ยู่ขอ้ มลู ใดกไ็ ด้ หน่วยความจานี้เรียกวา่แรม หนว่ ยความจาประเภทน้ีจะเก็บขอ้ มูลไว้ตราบเทา่ ทีก่ ระแสไฟฟ้าจ่ายให้วงจร หากไฟฟ้าดบั เมื่อไรขอ้ มูลกจ็ ะสูญหายทนั ที รปู ที่ 4.27 แรม (Random Access Memory : RAM) (ทม่ี า: สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี) 2. รอม (Read Only Memory : ROM) เป็นหน่วยความจาอกี ประเภทหน่ึงทีม่ กี ารอา้ งองิ ตาแหนง่ ทอี่ ยขู่ อ้ มลู แบบเข้าถงึ โดยส่มุ หนว่ ยความจาประเภทนี้มีไวเ้ พ่อื บรรจุ โปรแกรมสาคญั บางอย่าง เม่ือเปดิ เครอ่ื งซีพยี ูจะเริ่มต้นทางานทันทีข้อมูลหรือโปรแกรมท่ีเก็บไว้ในรอมจะถูกบันทึกมาก่อนแล้ว ผู้ใช้ไม่สามารถเขียนข้อมูลใดๆ ลงไปได้แต่สามารถอ่านข้อมูลได้อย่างเดียว ข้อมูลหรือโปรแกรมที่อยู่ในรอมนี้จะอยู่อย่างถาวรแม้จะปิดเครื่องข้อมูลหรือโปรแกรมกจ็ ะไม่ถูกลบไป รปู ที่ 4.28 รอม (Read Only Memory : ROM) (ทม่ี า: สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี)6. หนว่ ยความจารอง แรมเปน็ หนว่ ยความจาหลกั สาหรบั เกบ็ ขอ้ มลู หรอื ซอฟตแ์ วรข์ ณะทางาน ข้อมูลหรือซอฟต์แวรเ์ หลา่ นจี้ ะถูกลบทิง้ ไปถ้าปิดเคร่อื งหรอื ไฟดับ ดังน้ันจงึ ตอ้ งมีหนว่ ยความจารองเพอ่ื
19ใช้เก็บข้อมูลที่ต้องการใช้งานต่อไป หน่วยความจารองท่ีใช้ในระบบคอมพิวเตอร์มีหลายประเภท เชน่ 1. แผ่นบนั ทึก (floppy disk หรอื diskette) ไมโครคอมพวิ เตอรส์ ว่ นใหญม่ หี นว่ ยขบั แผ่นบนั ทกึ อยา่ งนอ้ ยหนงึ่ ตวั แผน่ บนั ทกึ ที่นิยมใชใ้ นปจั จบุ นั มขี นาด 3.5 นว้ิ ตวั แผน่ บนั ทึกเปน็ แผ่นบางฉาบผวิ ดว้ ย สารแม่เหลก็ ยู่ในกรอบพลาสตกิ แขง็ เพอ่ื ปอ้ งกันการขดี ขว่ น การเกบ็ ข้อมลู จะทาโดยบนั ทกึ ลงไปทผ่ี วิ ของแผน่ ปกตใิ ชไ้ ดท้ งั้ สองดา้ น หวั อา่ นของเครอื่ งขบั จงึ มสี องหวั แผน่ จะหมนุ ดว้ ยความเรว็ คงที่ หวั อา่ นวงิ่ เข้าออกเพอ่ื อา่ นข้อมลูในตาแหนง่ ทอ่ี ยทู่ ต่ี อ้ งการ ผวิ ทใ่ี ชเ้ กบ็ ขอ้ มลู จะแบง่ เปน็ วง เรียกวา่ แทรก็ (track) แต่ละแทรก็ จะแบง่ เปน็ ชอ่ งเกบ็ ขอ้ มลู เรยี กวา่ เซกเตอร์ (sector) แผน่ บนั ทกึ ขนาด 3.5 นวิ้มคี วามจุ 1.44 เมกะไบต์ ในอดตี มกี ารใชแ้ ผ่นบนั ทกึ ขนาด 5.25 นว้ิ ซงึ่ มคี วามจุ 1.2เมกะไบต์ รปู ท่ี 4.29 แผ่นบนั ทกึ (floppy disk หรอื diskette) (ทมี่ า: สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย)ี 2. ฮาร์ดดสิ ก์ (Hard disk) จะประกอบด้วยแผ่นบันทึกแบบแข็งที่เคลือบสารแม่เหล็กหลายแผ่นเรียงซ้อนกันหวั อา่ นของหนว่ ยขบั จะมหี ลายหวั ขณะทีแ่ ผน่ บนั ทกึ แตล่ ะแผน่ หมนุ หวั อา่ นจะเคลอ่ื นที่เขา้ ออกเพอื่ อ่านขอ้ มลู ท่เี กบ็ บนพื้นผิวแผ่น การเก็บขอ้ มูลในแต่ละแผ่นจะเป็นวง เรยี กแต่ละวงของทุกแผ่นบันทึกว่า ไซลินเดอร์ (cylinder) แต่ละไซลินเดอร์ จะแบ่งเป็น เซกเตอร์แต่ละเซกเตอร์เก็บขอ้ มูลเปน็ ชดุ ๆ ฮารด์ ดิสก์เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลท่ีมีความจุสูงมาก ขนาดของฮาร์ดดิสก์มีความจุเป็นกกิ ะไบต์ เช่น ฮารด์ ดสิ กค์ วามจุ 15 กิกะไบต์ การเขยี นอา่ นขอ้ มลู บนฮารด์ ดิสก์ จะกระทาเป็น เซกเตอร์ และเขียนอ่านได้เรว็ มาก เวลาที่ใช้ในการวัดการเข้าถึงขอ้ มูลมีหน่วยเป็นมิลลวิ นิ าที
20รปู ท่ี 4.30 ฮารด์ ดสิ ก์ (Hard disk) (ทม่ี า: สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย)ี 3. เทปแมเ่ หลก็ (magnetic tape) เปน็ อปุ กรณท์ มี่ กี ารใชก้ นั มานานแลว้ ลกั ษณะของเทปเปน็ แถบสายพลาสตกิเคลอื บดว้ ยสารแมเ่ หลก็ เหมอื นเทปบนั ทกึ เสยี ง เทปแมเ่ หลก็ ใชส้ าหรบั เกบ็ ขอ้ มลู จานวนมาก มีการจดั เกบ็ และเรยี กคน้ ขอ้ มลู แบบเปน็ ลาดบั การประยกุ ต์ใชเ้ น้นใชส้ าหรบั สารองขอ้ มลู เพอ่ืความมั่นใจ เชน่ ถา้ ฮารด์ ดสิ ก์เสยี หายขอ้ มลู ในฮารด์ ดสิ ก์อาจเสยี หายได้ จงึ จาเปน็ ตอ้ งเกบ็สารองไว้ รปู ท่ี 4.31 เทปแมเ่ หลก็ (magnetic tape) (ทมี่ า: สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย)ี 4. แผน่ ซดี ี (CD-ROM) ววิ ัฒนาการของการใช้หน่วยความจารองได้ก้าวหน้าขึ้นเป็นลาดับ ปัจจุบันได้มีการประดิษฐ์แผ่นซีดี (CompactDisk:CD)ใช้ในการเก็บข้อมูลจานวนมาก การเก็บข้อมูลบนแผ่นซีดใี ชห้ ลกั การทางแสงทาใหส้ ามารถเก็บขอ้ มลู แบบดิจติ อลได้ แผน่ ซีดีท่นี ยิ มใชม้ ากเป็นแผน่ ซีดที อ่ี า่ นไดอ้ ยา่ งเดยี ว เรียกกนั วา่ ซดี รี อม (CD ROM) ข้อมลู ทบี่ นั ทกึ จะถูกบนั ทกึ มาจากโรงงานผู้ผลิตเหมือนการบันทึกเพลงหรือภาพยนตร์ ข้อเด่นของแผ่นซีดีคือ ราคาถูก จุขอ้ มูลไดม้ าก สามารถเกบ็ ขอ้ มลู หรอื โปรแกรมไดม้ ากกวา่ 750 เมกะไบตต์ อ่ แผ่น แผ่นซดี มี ีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 นิ้ว ในปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตแผ่นซีดีได้ก้าวหน้าขึ้นสามารถเขยี นข้อมูลบนแผน่ ซีดีไดเ้ หมอื นฮารด์ ดสิ ก์ เรยี กว่า ออปตคิ ัลดิสก์ (optical disk)
21 รปู ท่ี 4.32 แผน่ ซดี ี (CD-ROM) (ทม่ี า: สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย)ี 5. หนว่ ยความจาแบบแฟลช (flash memory) เป็นหนว่ ยความจาประเภทรอมทเ่ี รยี กวา่ ออี พี รอ็ ม (Electrically ErasableProgrammableRead Only Memory : EEPROM) ซง่ึ เป็นเทคโนโลยขี องรอมและแรมรวมกนั ใหห้ นว่ ยความจาชนดิ นส้ี ามารถเกบ็ ขอ้ มลู ไดเ้ หมอื นฮารด์ ดสิ ก์ คอื สามารถเกบ็ และลบขอ้ มลู ไดต้ ามตอ้ งการและถา่ ยโอนขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ หนว่ ยความจาชนดิ นม้ี ขี นาดเลก็ นา้ หนกั เบา พกพาไดส้ ะดวกปจั จบุ นั สามารถเกบ็ ขอ้ มลู ไดม้ ากรปู ท่ี 4.33 หนว่ ยความจาแบบแฟลช (flash memory) (ทมี่ า: สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี)7. หนว่ ยแสดงผล หน่วยแสดงผลเป็นอุปกรณ์ท่ีสาคัญและจาเป็นอย่างหน่ึง อุปกรณ์ส่งออกท่ีใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ทว่ั ไป คอื จอภาพ และเคร่ืองพมิ พ์ 1. จอภาพ (monitor) มีลักษณะเป็นจอภาพเหมือนจอโทรทัศน์ทั่วไป การส่งออกของขอ้ มลู จะปรากฏบนจอภาพ ซึ่งแสดงไดท้ งั้ ตวั อกั ษร ตัวเลข เครือ่ งหมายพเิ ศษ และยังสามารถแสดงรูปภาพได้ดว้ ยจอภาพมี 2 แบบคือ ซีอาร์ที (Cathode Ray Tube : CRT) ใช้เทคโนโลยีของหลอดรังสีอิเล็กตรอน เช่นเดียวกับจอโทรทัศน์ในการทาให้เกิดภาพ และจอแบบแอลซีดี (LiquidCrystral Display : LCD) ใช้เทคโนโลยีของการบรรจุของเหลวไว้ภายในจอ เช่นเดียวกับหนา้ ปดั นาฬกิ าในระบบตวั เลข การแสดงผลบนจอภาพจะแสดงดว้ ยจดุ เลก็ ๆ ตามแนวนอนและแนวตง้ั แตเ่ ดมิ จอภาพแสดงผลไดเ้ พยี งสีเดียว พฒั นาการต่อมาทาใหก้ ารแสดงผลเป็นสีหลายสไี ด้ นอกจากน้ียงั มคี วามละเอยี ดมากขึ้น จอภาพโดยทั่วไปจะมีขนาด 15 นิ้ว หรอื 17 นิ้ว การแสดงผลของจอภาพควบคมุ โดยแผงวงจรอิเลก็ ทรอนกิ ส์ซ่งึ อยู่ภายในเครอื่ งคอมพวิ เ ตอร์
22 รปู ที่ 4.34 จอภาพ (ทม่ี า: สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย)ี 2. เครอ่ื งพิมพ์ (printer) เคร่อื งพมิ พท์ ใ่ี ชก้ บั คอมพวิ เตอรม์ หี ลายประเภทตามเทคโนโลยีการพมิ พเ์ ครอ่ื งพมิ พ์เป็นอปุ กรณส์ ง่ ออกทพี่ มิ พล์ งบนกระดาษ เครอ่ื งพมิ พท์ ใี่ ชก้ บั คอมพวิ เตอรม์ ดี งั นี้ 1) เครอื่ งพมิ พแ์ บบจดุ (dot matrix printer) เปน็ เครอื่ งพมิ พท์ มี่ หี วั ยงิ เปน็ เขม็ ขนาดเล็ก พงุ่ ไปชนแผน่ ผ้าหมกึ เพอ่ื ใหห้ มกึ ตดิ บนกระดาษเปน็ จุดเลก็ ๆ หลายๆ จดุ เรยี งกนั เปน็ ตวั หนงั สอื หรือรปู ภาพ หวั เขม็ ทใี่ ชย้ งิ ไปยงั ผา้หมกึ มจี านวนหลายหวั โดยปกตใิ ชข้ นาด 24 หวั เขม็ ซง่ึ จดั วางเรยี งกนั ในแนวตงั้ ทาใหไ้ ด้ตวั หนงั สอื ทล่ี ะเอยี ดพอควร รปู ท่ี 4.35 เครือ่ งพมิ พแ์ บบจดุ (ทมี่ า: สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี) 2) เคร่อื งพมิ พเ์ ลเซอร์ (laser printer) เปน็ เครือ่ งพมิ พท์ ใี่ หค้ วามคมชดั และความละเอยี ดสงู การพมิ พจ์ ะใชห้ ลกั การทางแสง ปกตมิ คี วามละเอยี ดไม่นอ้ ยกวา่ 600 จดุ ตอ่ นวิ้ เครอ่ื งพมิ พเ์ ลเซอรจ์ งึ เปน็เครอ่ื งพมิ พท์ เี่ หมาะกบั งานพมิ พท์ ตี่ อ้ งการคณุ ภาพ พฒั นาการทางเทคโนโลยที าให้เครอื่ งพมิ พช์ นดิ นไี้ ดร้ บั ความนยิ มสงู ขน้ึ เพราะเมอื่ เทียบประสทิ ธภิ าพ ตอ่ ราคาแลว้ เครอื่ งพิมพ์ชนดิ นเี้ หมาะทจี่ ะใชใ้ นสานกั งาน แตไ่ มส่ ามารถพมิ พส์ าเนากระดาษคารบ์ อนได้รปู ท่ี 4.36 เครอ่ื งพมิ พเ์ ลเซอร์ (ทมี่ า:
23 http://social.eduzones.com/dotnetengcom/17376) 3) เครือ่ งพมิ พแ์ บบพน่ หมกึ (inkjet printer) เป็นเคร่ืองพิมพ์ที่ใช้วิธีการพ่นหมึกและผสมสีจากแม่สีสามสี คือแดง เหลืองและน้าเงิน โดยจะผสมสีให้ได้สีตามความต้องการและพน่ หมึกเพ่อื ใหต้ ดิ บนกระดาษ ในปัจจุบันเคร่ืองพิมพ์แบบพ่นหมึกเป็นท่ีนิยมกันมาก เน่ืองจากสามารถพิมพ์รูปภาพออกมาเป็นสีท่ีสวยงาม รปู ท่ี 4.37 เครอื่ งพมิ พแ์ บบพน่ หมกึ (ทมี่ า : http://58.147.80.102/online1/Webpage1/File6.htm) 4) เครื่องพมิ พร์ ายบรรทดั (line printer) เครอ่ื งพมิ พช์ นดิ นมี้ คี วามเรว็ ในการพมิ พส์ งู มาก สามารถพมิ พไ์ ดห้ ลายรอ้ ยบรรทดัตอ่ นาที กลา่ วคอื มคี วามเรว็ ในการพมิ พไ์ ดถ้ งึ 2000 บรรทดั ตอ่ นาที ลกั ษณะการพมิ พม์ หี ลายแบบ บางแบบใชพ้ มิ พด์ ว้ ยแถบโซต่ วั อักษรทหี่ มนุ อยู่ และมคี นั เคาะตวั อกั ษรในตาแหนง่ ที่กาหนด บางแบบใชห้ วั ยงิ แบบจดุ แตม่ จี านวนหวั ยงิ เป็นจานวนมากเพอื่ ใหพ้ ิมพไ์ ดเ้ รว็เครอ่ื งพิมพช์ นดิ นจ้ี งึ เหมาะกบั ศนู ยค์ อมพวิ เตอรท์ ตี่ อ้ งพมิ พร์ ายงานเป็นจานวนมาก และพมิ พ์อยา่ งตอ่ เนอื่ ง
24 รปู ที่ 4.38 เครอื่ งพมิ พ์รายบรรทดั(ทมี่ า: สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี)
25 แบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 4 เรอ่ื ง เครอื่ งคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณ์1. ใหพ้ จิ ารณาวา่ อปุ กรณต์ อ่ ไปนเี้ ปน็ อปุ กรณป์ ระเภทใด ความ ความจา หนว่ ย หนว่ ย หนว่ ย แสดงผล ประมวลผลลาดบั อปุ กรณ์ จาหลกั รอง รบั เขา้1. เมาส์2 ซพี ยี ู3 เครอื่ งอา่ นรหสั แทง่4 เครอ่ื งขบั แผน่ บนั ทกึ5 จอภาพ6 เครอ่ื งขบั แผน่ ซดี ี7 กา้ นควบคมุ8 ลาโพง9 แผงแปน้ อักขระ10 เครอื่ งพิมพ์11 แรม12 แผ่นบนั ทกึ13 ฮารด์ ดสิ ก์14 แผน่ ซดี ี15 รอม2. บอกจดุ เดน่ ของคอมพวิ เตอร์ ซง่ึ เปน็ อปุ กรณใ์ นการประมวลผลขอ้ มลู3. บอกสว่ นประกอบพื้นฐานของระบบคอมพวิ เตอร์4. หนว่ ยประมวลผลกลางแบง่ ออกไดเ้ ปน็ ก่หี นว่ ย อะไรบา้ ง จงอธบิ าย5. บอกหนา้ ทข่ี องหนว่ ยประมวลผลกลาง6. บอกหนว่ ยความจาหลกั7. บอกความแตกตา่ งของหนว่ ยความจาหลกั รอมและหนว่ ยความจาหลกั แรม8 บอกหนา้ ท่ีของหนว่ ยความจาหลักและหนว่ ยความจารอง9. ยกตวั อยา่ งอปุ กรณท์ เ่ี ปน็ หนว่ ยรบั เขา้ พรอ้ มอธบิ าย10. ยกตวั อยา่ งอปุ กรณท์ เี่ ปน็ หนว่ ยแสดงผล พรอ้ มอธบิ าย
26
27 เฉลยแบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 4 เรอ่ื ง เครอื่ งคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ์1. ใหพ้ จิ ารณาวา่ อปุ กรณต์ อ่ ไปนเ้ี ปน็ อปุ กรณป์ ระเภทใดลาดบั อปุ กรณ์ ความ ความจา หนว่ ย หนว่ ย หนว่ ย รบั เขา้ แสดงผล ประมวลผล จาหลกั รอง 1. เมาส์ 2 ซีพยี ู 3 เครอ่ื งอา่ นรหสั แทง่ 4 เครอื่ งขบั แผน่ บนั ทกึ 5 จอภาพ6 เครอื่ งขบั แผน่ ซดี ี 7 กา้ นควบคมุ8 ลาโพง9 แผงแปน้ อักขระ10 เครอ่ื งพิมพ์11 แรม 12 แผ่นบนั ทกึ 13 ฮารด์ ดสิ ก์ 14 แผ่นซดี ี 15 รอม 2. บอกจดุ เดน่ ของคอมพวิ เตอร์ ซงึ่ เปน็ อปุ กรณใ์ นการประมวลผลขอ้ มลู เครอ่ื งคอมพวิ เตอรถ์ กู สรา้ งขน้ึ มาเพอ่ื ใหม้ จี ดุ เดน่ 4 ประการ เพอ่ื ทดแทนขอ้ จากดัของมนษุ ย์ เรยี กวา่ 4 S special ดงั นี้ 1. หน่วยเกบ็ (Storage) หมายถงึ ความสามารถในการเกบ็ ขอ้ มูลจานวนมากและเป็นเวลานาน นบั เปน็ จดุ เดน่ ทางโครงสรา้ งและเปน็ หวั ใจของการทางานแบบอัตโนมัตขิ องเครอื่ งคอมพวิ เตอร์
28 2. ความเร็ว (Speed) หมายถงึ ความสามารถในการประมวลผลข้อมลู โดยใช้เวลานอ้ ย เปน็ จุดเดน่ ทางโครงสร้างที่ผใู้ ช้ทวั่ ไปมสี ว่ นเกย่ี วขอ้ งน้อยทสี่ ุด 3. ความเป็นอตั โนมัติ (Self Acting) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลขอ้ มลู ตามลาดับขั้นตอนได้อยา่ งถูกต้องและตอ่ เนื่องอยา่ งอัตโนมตั ิ 4. ความน่าเชื่อถือ (Sure) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลให้เกิดผลลพั ธ์ทถี่ ูกตอ้ ง ความน่าเชอ่ื ถอื นับเปน็ สิง่ สาคัญทส่ี ุดในการทางานของเครื่องคอมพวิ เตอร์3. บอกสว่ นประกอบพนื้ ฐานของระบบคอมพวิ เตอร์ สว่ นประกอบพ้ืนฐานของระบบคอมพวิ เตอรป์ ระกอบดว้ ยหนว่ ยสาคญั 5 หนว่ ยคอื 1. หนว่ ยประมวลผลกลาง ทาหนา้ ทใ่ี นการคานวณหรอื แประมวลผลขอ้ มลู โดยทาตามโปรแกรมทเ่ี กบ็ ไวใ้ นหนว่ ยความจาหลัก 2. หนว่ ยความจาหลกั เปน็ หนว่ ยสาหรบั เกบ็ ข้อมลู และซอฟตแ์ วรท์ ใ่ี ชใ้ นการประมวลผล ซง่ึ หนว่ ยประมวลผลกลางสามารถอา่ น เขยี นจากหนว่ ยความจาหลักรวดเรว็ มาก ทาใหห้ นว่ ยประมวลผลกลางนามาตคี วามและกระทาตามไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ 3. หนว่ ยความจารอง มไี วส้ าหรบั เกบ็ ขอ้ มลู หรือซอฟตแ์ วรท์ ม่ี จี านวนมาก และตอ้ งการนามาใชอ้ กี ในภายหลงั เม่อื จะใชง้ านกม็ กี ารโอนถา่ ยจากหนว่ ยความจารองมายงั หนว่ ยความจาหลกั 4. หนว่ ยรบั ขอ้ มลู ทาหนา้ ทร่ี บั ขอ้ มลู เขา้ มาเกบ็ ไว้บนหนว่ ยความจาหลกั จากนน้ัข้อมลู จะถกู สง่ ไปยงั หนว่ ยประมวลผลกลาง 5. หนว่ ยแสดงผลเปน็ หนว่ ยท่นี าข้อมลู ทไ่ี ดร้ บั การประมวลผลแลว้ มาแสดงผลหรอืเกบ็ ไวใ้ นหนว่ ยความจารอง4. หนว่ ยประมวลผลกลางแบง่ ออกไดเ้ ปน็ กหี่ นว่ ย อะไรบา้ ง จงอธบิ าย หน่วยประมวลผลกลางแบ่งออกเป็น 2 หน่วย คือ หน่วยควบคุม (control unit)และหนว่ ยคานวณและตรรกะ (Arithmetic Logic Unit : ALU) หน่วยควบคุม ทาหน้าท่ีในการควบคมุ ลาดับการทางานภายในหน่วยประมวลผลกลางระหว่างประมวลผล หนว่ ยคานวณและตรรกะท าห น้าท่ีนา ข้อ มูล ซึ่งเป็นสัญ ญ าณ ไฟ ฟ้าแ บ บ ตัวเลขฐานสองมาประมวลผลทางคณิตศาสตร์ และตรรกศาสตร์5. บอกหนา้ ทีข่ องหนว่ ยประมวลผลกลาง
29 หน่วยประมวลผลกลาง หรอื ไมโครโพรเซสเซอร์ของไมโครคอมพวิ เตอร์ มหี น้าที่นาคาสงั่ และขอ้ มลู ทเ่ี กบ็ ไวใ้ นหนว่ ยความจามาแปลความหมาย และกระทาตามคาสงั่ พื้นฐานของไมโครโพรเซสเซอร์ ซึ่งแทนดว้ ยรหสั เลขฐานสอง6. บอกหนว่ ยของหนว่ ยความจาหลกั หน่วยความจาหลกั มหี น้าที่ในการเกบ็ ข้อมูลและโปรแกรมที่จะให้ซีพียเู รียกไปใชง้ านได้ หนว่ ยความจาหลักเป็นอปุ กรณ์ทท่ี ามาจากไอซี วงจรหน่วยความจาจะเกบ็ ขอ้ มูลในรูปตัวเลขฐานสอง หน่วยความจาหลักท่ีใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์แบ่งได้เป็น 2ประเภท คือ รอม (Read Only Memory : ROM) เป็นหน่วยความจาอีกประเภทหนึ่งท่ีมีการอ้างอิงตาแหน่งท่ีอยู่ข้อมูลแบบเข้าถึงโดยสุ่ม หน่วยความจาประเภทนี้มีไว้เพ่ือบรรจุโปรแกรมสาคัญบางอย่างเพ่ือว่าเม่ือเปิดเคร่ืองมาซพี ียูจะเริม่ ต้นทางานได้ทันที ขอ้ มูลหรือโปรแกรมทเี่ กบ็ ไวใ้ นรอมจะถกู บนั ทกึ มากอ่ นแลว้ ผใู้ ชไ้ มส่ ามารถเขียนข้อมูลใดๆ ลงไปได้แต่สามารถอา่ นข้อมูลได้อยา่ งเดียว ขอ้ มูลหรอื โปรแกรมทอี่ ยู่ในรอมน้ีจะอยู่อยา่ งถาวร แม้จะปดิ เครอ่ื งข้อมลู หรือโปรแกรมกจ็ ะไมถ่ กู ลบไป แรม (Random Access Memory : RAM) เปน็ หน่วยความจาท่ีเก็บขอ้ มลู สาหรบั ใช้งานทว่ั ไป การอา้ งองิ ตาแหนง่ ทอ่ี ยขู่ องขอ้ มลู ใดๆเพอื่ การเขยี นและการอ่านจะกระทาแบบการเขา้ ถงึ โดยสมุ่ คอื เรียกไปทตี่ าแหน่งที่อยู่ขอ้ มูลใดกไ็ ด้ หนว่ ยความจานเี้ รยี กวา่ แรม หนว่ ยความจาประเภทนจี้ ะเกบ็ ข้อมลู ไวต้ ราบเทา่ ทก่ี ระแสไฟฟา้ จา่ ยใหว้ งจร ถา้ไฟฟา้ ดบั เมอ่ื ไรขอ้ มลู กจ็ ะสญู หายทนั ที7. บอกความแตกตา่ งของหนว่ ยความจาหลกั รอมและหนว่ ยความจาหลกั แรม ความแตกต่างของหน่วยความจาหลักรอมและหน่วยความจาหลักแรม คือหน่วยความจารอม จะอ่านข้อมูลมาใช้งานได้เพียงอย่างเดียว แต่จะเขียนข้อมูลใหม่เข้าไปไม่ได้ข้อมูลในรอมจึงเปน็ ข้อมูลท่ีไม่ค่อยมีการเปล่ียนแปลง หน่วยความจาแรม ไม่ว่าข้อมูลน้ันจะเกบ็ อยใู่ นตาแหนง่ ใด เครอ่ื งคอมพวิ เตอรส์ ามารถนาข้อมลู ไปเกบ็ (เขยี น) หรอื ดึงข้อมูลออกมา (อ่าน) จากแรมได้ ข้อมูลในแรมจะเปล่ียนไปก็ต่อเม่ือมีการนาเอาข้อมูลใหม่เข้ามาแทนท่ี หรอื เมื่อปิดเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ข้อมูลท้ังหมดในแรมจะหายไป8. บอกหนา้ ที่ของหนว่ ยความจาหลกั และหนว่ ยความจารอง หน่วยความจาหลกั มีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลและโปรแกรมทจี่ ะให้ซีพียูเรียกไปใช้งานได้ หน่วยความจาหลกั เป็นอปุ กรณท์ ท่ี ามาจากไอซี วงจรหน่วยความจาจะเกบ็ ขอ้ มลู ในรปู ตวั เลขฐานสอง หน่วยความจารอง มีหนา้ ทเี่ กบ็ ขอ้ มลู ทตี่ อ้ งการใชง้ านตอ่ และหากตอ้ งการใชง้ านเ ม่ือ ไร ก็จ ะ ถ่า ย จ า ก ห น่ว ย ค ว า ม จ า ร อ ง ม า ไว้ที่ห น่ว ย ค ว า ม จ า ห ลัก ท่ีเ ป็น แ ร ม เ พ่ือ ใ ห้ห น่ว ยประมวลผลทางาน
309. ยกตวั อยา่ งอปุ กรณท์ เ่ี ป็นหน่วยรบั เขา้ พรอ้ มอธบิ าย หนว่ ยรบั เขา้ เปน็ อปุ กรณท์ น่ี าขอ้ มลู หรอื โปรแกรมเข้าไปเก็บไวใ้ นหน่วยความจาหลกั ใชใ้ นการประมวลผล อปุ กรณร์ ับขอ้ มลู มีหลายประเภท 1. แผงแป้นอักขระ (keyboard) เป็นอุปกรณ์ที่ทาหน้าท่ีรับข้อมูล โดยรับข้อมูลจาการกดบนแผงแป้นอักขระ (keyboard) แล้วส่งรหัสให้กับคอมพิวเตอร์ แผงแป้นอักขระมาตรฐานทีน่ ิยมใช้กนั มากในขณะนม้ี จี านวนแปน้ 101 แป้น 2. เมาส์ (mouse) เป็นอุปกรณ์รับเข้าอย่างหน่ึง มีลักษณะเป็นปุ่มกดครอบอยู่กับลูกกลมท่ีเมื่อลากไปกับพ้ืนแล้วจะมีการ ส่งสัญญาณ ตามแนวแกน x และแกน y เข้าสู่คอมพวิ เตอร์ 3. แทร็กบอล (trackball) คือ ลูกกลมท่ีกล้ิงไปมาวางอยู่ในเบ้า ผู้ใช้สามารถบังค ับลูกกล มให้หมุนไปมาเพื่อค วบค ุมการทางานของ ต ัวช้ีบนหน้าจอค อมพิวเต อร์ ปัจ จุบันมีการสรา้ งแทรกบอลไว้กบั เคร่อื งคอมพิวเตอรแ์ บบโน้ตบุ๊ก เพราะสะดวกต่อการใช้และใชพ้ ้ืนที่นอ้ ย 4. ก้านควบคุม มีลักษณะเป็นก้านโยกซึง่ โยกได้หลายทิศทาง ขณะท่ีโยกก้านไปมาตาแหน่งของตัวช้ีจะเปล่ียนไปด้วยเป็นการส่งสัญญาณข้อมูลเข้าเคร่ืองคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณท์ ี่นิยมใชก้ นั มากในการเลน่ เกม 5. เคร่ืองกราดตรวจ (scanner) เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีของการผา่ นแสงเพ่ือทาการอ่านรหัสสญั ลักษณห์ รือรูปภาพ แล้วให้คอมพิวเตอร์นาไปประมวลผลต่อไป เครอื่ งกราดตรวจท่นี ยิ มใช้กนั อยทู่ ่วั ๆ ไปได้แก่ - เคร่ืองกราดตรวจรายหน้า (page scanner) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้อ่านรูปภาพหรือตวั หนังสือ เช่น รูปถา่ ย และ สัญลกั ษณ์ตา่ งๆ เป็นตน้ - เครอ่ื งอา่ นรหสั แทง่ (bar code) เปน็ อปุ กรณ์รบั เขา้ ทใ่ี ชส้ าหรบั อา่ นรหสั แทง่(bar code) ซง่ึ เปน็ แถบเส้นทปี่ ระกอบดว้ ยเสน้ ขนาดแตกตา่ งกัน ใชแ้ ทนรหสั ขอ้ มลู ตา่ งๆ การอา่ นจะใชแ้ สงสอ่ งแถบเสน้ ทาใหเ้ กดิ การสะทอ้ นเพอื่ รบั รหัสเข้ามาตีความหมายนิยมใชใ้ นหา้ งสรรพสนิ คา้ 6. เครอ่ื งอา่ นอกั ขระหมึกแมเ่ หลก็ (Magnetic-Ink Character Recognition: MICR)ทพ่ี บเห็นไดบ้ อ่ ยครงั้ คอื เครอื่ งอา่ นตวั เลขทพ่ี ิมพอ์ ยบู่ นตวั๋ สญั ญาใชเ้ งนิ ตวั เลขเหลา่ นมี้ ลี กั ษณะพเิ ศษทท่ี าใหเ้ ครอ่ื งอา่ นได้ มกี ารใชเ้ ครอ่ื งอา่ นตวั เลขชว่ ยในการอา่ น หรอื เครือ่ งอา่ นตวั เลขท่ีสานกั งานไปรษณยี ใ์ ชเ้ พอื่ ชว่ ยแยกจดหมายตามรหสั ไปรษณยี ์ 7. จอสัมผัส (touch screen) สามารถเป็นได้ท้ังหน่วยรับเข้าและหน่วยส่งออกจอภาพสามารถรบั ข้อมลู ไปประมวลผลไดโ้ ดยการสมั ผสั บนบริเวณจอภาพ บริเวณจอภาพของจอสัมผัสประกอบด้วยตาข่ายของลาแสงอินฟาเรด เม่ือมีวัตถุมาสัมผัสบนจอภาพจะมีการส่งสัญญาณไฟฟ้า ซึ่งสามารถระบุตาแหน่งบนจอภาพให้กับโปรแกรมที่กาลังทางานอยู่ได้ เช่นการจองตวั๋ ชมภาพยนตร์ การจองทนี่ ัง่ เพอ่ื รบั ประทานอาหาร 8. กลอ้ งถา่ ยภาพดจิ ิตอล สามารถถา่ ยภาพและบนั ทกึ ไว้ในหน่วยความจาภายในตวั กล้อง จากนนั้ สามารถส่งข้อมูลภาพเข้าสูค่ อมพิวเตอร์ได้
3110. ยกตวั อยา่ งอปุ กรณท์ เี่ ปน็ หน่วยแสดงผล พรอ้ มอธบิ าย หนว่ ยแสดงผลเปน็ อปุ กรณท์ สี่ าคัญและจาเปน็ อย่างหนึ่ง ตวั อย่างเชน่ 1. จอภาพ (monitor) มีลักษณะเป็นจอภาพเหมือนจอโทรทัศน์ท่ัวไป การส่งออกของข้อมูลจะปรากฏบนจอภาพ ซึ่งแสดงได้ทั้งตัวอักษร ตัวเลข เคร่ืองหมายพิเศษ และยังสามารถแสดงรูปภาพได้ด้วย จอภาพ มี 2 แบบคือ ซีอาร์ที (Cathode Ray Tube : CRT) ใช้เทคโนโลยขี องหลอดรงั สอี เิ ลก็ ตรอน เชน่ เดยี วกบั จอโทรทศั นใ์ นการทาใหเ้ กดิ ภาพ และจอแบบแอลซีดี (Liquid Crystral Display : LCD) ใช้เทคโนโลยีของการบรรจุของเหลวไว้ภายในจอ เช่นเดียวกบั หน้าปดั นาฬกิ าในระบบตวั เลข 2. เคร่ืองพิมพ์ (printer) เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์มีหลายประเภทตามเทคโนโลยีการพิมพ์ เครื่องพิมพ์เป็นอปุ กรณ์ส่งออกท่ีพมิ พ์ลงบนกระดาษ เคร่ืองพิมพ์ทใ่ี ชก้ ับคอมพิวเตอร์มีดงั น้ี 1. เคร่อื งพมิ พแ์ บบจดุ เปน็ เครอื่ งพมิ พท์ ม่ี หี วั ยงิ เปน็ เขม็ ขนาดเล็ก พุง่ ไปชนแผ่นผา้ หมกึ เพอื่ ให้หมึกตดิ บนกระดาษเปน็ จดุ เล็กๆ หลายๆ จดุ เรียงกนั เปน็ ตวั หนังสอื หรอื รูปภาพ 2. เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ให้ความคมชัดและความละเอยี ดสงู การพมิ พจ์ ะใชห้ ลกั การทางแสง ปกตมิ คี วามละเอียดไม่น้อยกว่า 600 จดุ ตอ่ นว้ิ 3. เคร่ืองพิมพ์แบบพ่นหมึก เป็นเครือ่ งพิมพ์ท่ีใช้วธิ กี ารพน่ หมึกและผสมสีจากแมส่ สี ามสคี อื แดง เหลอื งและน้าเงนิ โดยจะผสมสใี หไ้ ดส้ ีตามความต้องการและพน่ หมึกเพ่อื ให้ตดิ บนกระดาษ 4. เครอ่ื งพมิ พร์ ายบรรทดั เครอื่ งพมิ พช์ นดิ นม้ี คี วามเรว็ ในการพมิ พส์ งู มากเครอื่ งพิมพช์ นดิ นจี้ งึ เหมาะกบั ศนู ยค์ อมพวิ เตอรท์ ต่ี อ้ งพมิ พร์ ายงานเปน็ จานวนมาก และพมิ พ์อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
32 แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน (หลงั เรยี น) หนว่ ยท่ี 4 เรอ่ื ง เครอ่ื งคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ์คาชแ้ี จง จงเลอื กคาตอบทถ่ี กู ทส่ี ดุ เพยี งคาตอบเดยี ว แลว้ ทาเคร่อื งหมาย (X) ลงในกระดาษคาตอบ1. ขอ้ ใดเปน็ องคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ ก. ฮารด์ แวร์ ข. ซอฟตแ์ วร์ ค. พีเพลิ แวร์ ง. ถกู ทกุ ขอ้2. หนว่ ยประมวลผลกลาง หรอื CPU ยอ่ มาจากคาในขอ้ ใด ก. Center Processor Unit ข. Center Procesing Unit ค. Central Processor Unit ง. Central Processing Unit3. หนว่ ยใดของ CPU ทาหนา้ ทคี่ านวณทางคณติ ศาสตร์ ก. หนว่ ยคานวณและตรรกะ ข. หนว่ ยควบคมุ ค. หนว่ ยรบั เขา้ ง. หนว่ ยวเิ คราะห์4. หนว่ ยความจาท่ีเกบ็ ขอ้ มลู หรอื โปรแกรมขณะทกี่ าลงั ทางานเทา่ นน้ั ก. ROM ข. RAM ค. Hard Disk ง. Floppy Disk5. หนว่ ยความจาใดเปน็ หนว่ ยความจาทอ่ี า่ นไดอ้ ยา่ งเดียวเทา่ นั้น ก. ROM ข. RAM ค. Hard Disk ง. Floppy Disk6. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ หนา้ ที่ของหนว่ ยความจาสารองไดถ้ กู ตอ้ ง ก. บรรจคุ าสง่ั ในการตรวจสอบอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ข. เกบ็ ขอ้ มลู และชดุ คาสงั่ ไวใ้ ชง้ านตอ่ ไป ค. เกบ็ ชดุ คาสงั่ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ทใี่ ชใ้ นการประมวลผล
33 ง. ถกู ทง้ั ข และ ค7. แผน่ บนั ทกึ ทาหนา้ ทตี่ รงกบั ขอ้ ใด ก. หนว่ ยรบั โปรแกรมและขอ้ มลู ข. หนว่ ยประมวลผลกลาง ค. หนว่ ยความจาหลกั ง. หนว่ ยความจารอง8. หนว่ ยรบั ขอ้ มลู ทาหนา้ ทตี่ รงตามขอ้ ใด ก. รบั ขอ้ มลู เขา้ สเู่ ครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ข. รบั โปรแกรมเขา้ สเู่ ครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ค. รบั โปรแกรมเขา้ สเู่ ครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ พอื่ แสดงผล ง. รบั ขอ้ มลู หรอื โปรแกรมเขา้ สเู่ ครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ พอื่ เตรยี มประมวลผล9. อปุ กรณใ์ นขอ้ ใด ไมอ่ ยใู่ นหนว่ ยรบั ขอ้ มูล ก. เมาส์ ข. จอภาพ ค. กา้ นควบคมุ ง. เครอ่ื งขบั แผน่ บันทกึ10. อปุ กรณใ์ ดอยใู่ นหนว่ ยแสดงผล ก. แปน้ พมิ พ์ ข. แผ่นบนั ทกึ ค. ลาโพง ง. จอสมั ผสั11. อปุ กรณใ์ ดใชใ้ นการแสดงผล ก. จอภาพ ข. เครอ่ื งพมิ พ์ ค. ไมโครโฟน ง. ก. และ ข. ถูก12. หนว่ ยแสดงผลทาหนา้ ทต่ี รงตามขอ้ ใด ก. แสดงผลลัพธจ์ ากหนว่ ยรับขอ้ มลู โดยนาผลลัพธม์ าจากหน่วยความจารอง ข. แสดงผลลัพธ์จากหน่วยรบั ข้อมูลโดยนาผลลัพธ์มาจากหน่วยความจาหลัก ค. แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผลโดยนาผลลัพธ์มาจากหน่วยความจารอง แสดงทางจอภาพหรอื บนั ทึกลงส่ือข้อมูล ง. แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผลโดยนาผลลัพธ์มาจากหน่วยความจาหลัก แสดงทางจอภาพหรอื บนั ทึกลงส่อื ขอ้ มูล13. เครอ่ื งคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณต์ า่ ง ๆ เรยี กวา่ อะไร ก. ฮารด์ แวร์ ข. ซอฟตแ์ วร์ ค. พเี พลิ แวร์ ง. ซพี ยี ู14. สว่ นประกอบพน้ื ฐานของระบบคอมพวิ เตอรม์ กี ห่ี นว่ ย
34 ก. 2 หนว่ ย ข. 3 หนว่ ย ค. 4 หนว่ ย ง. 5 หนว่ ย15. อปุ กรณท์ น่ี ยิ มใชใ้ นหา้ งสรรพสนิ คา้ เพอ่ื ใหอ้ ่านรหสั ของสนิ คา้ คอื อปุ กรณใ์ ด ก. กา้ นควบคมุ ข. เครอื่ งอา่ นรหสั แทง่ ค. แทรก็ บอล ง. จอสมั ผสั
35 เฉลยแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น กอ่ นเรยี น/หลงั เรยี น หนว่ ยที่ 4 เรอ่ื งเครอื่ งคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ์ ขอ้ ที่ คาตอบ ข้อท่ี คาตอบ 1 ง 11 ง 2 ง 12 ค 3 ก 13 ก 4 ข 14 ง 5 ก 15 ข 6ง 7ง 8ง 9ข 10 ค บรรณานกุ รมชมยั พร ถน่ิ สาราญ. (2547). ระบบคอมพวิ เตอร์ สบื คน้ เมื่อวนั ท่ี 20 เมษายน 2549. จากhttp://www.thaigoodview.com/library/teachershow/nongkhai/chamaiporn_t/
36โรงเรยี นจกั รคาคณาทร. (ม.ป.ป.). หนว่ ยรบั ขอ้ มลู เขา้ . เมอ่ื วันที่ 20 เมษายน 2549. จาก http://www.chakkham.ac.th/technology/computer1/index.htmโรงเรยี นสตรอี า่ งทอง. (ม.ป.ป.). ฮารด์ แวร.์ สบื คน้ เมอื่ วนั ที่ 20 เมษายน 2549 จาก http://www.sa.ac.th/elearning/index.htm.สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี.(2546). เทคโนโลยสี ารสนเทศ. กรงุ เทพฯ : ครุ สุ ภาลาดพรา้ ว. . (2546). เครอื่ งคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ.์ สบื คน้ เมอื่ วนั ท่ี 20 เมษายน 2549. จาก http://www.thaigoodview.com/roomnet/roomnet46/IT46_4/index.htm . (2547). เครอ่ื งคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ์. สบื คน้ เมอื่ วนั ท่ี 15 เมษายน 2549. จาก http://203.154.140.4/ebook3/page/index.htmสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน. (ม.ป.ป). ระบบคอมพวิ เตอร์. สบื คน้ เมอื่ วนั ท่ี 20 เมษายน 2549. จากhttp://school.obec.go.th/pasatwit/Di_li/content/comp/comp_ web/lesson3/indexnew.htm
Search
Read the Text Version
- 1 - 37
Pages: