การบัญชีของกิ จการให้บริการ หน่วยที่ 2 สาระสำคัญ การบัญชีของกิจการให้บริการ ถือเป็นพื้ นฐานของการเรียน วิชาการบัญชี โดยเริ่มจากรายการค้าโดยอาศัยสมการบัญชี จากนั้นนำผลการวิเคาระห์ไปบันทึกบัญชีตามกระบวนการจนถึงของ การดำเนินงานของกิจการในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี สาระการเรียนรู้ 1.หลักการบันทึกรายการค้าในสมุดบันทึกรายการขั้นต้น 2.การบันทึกรายการค้าในสมุดบันทึกรายการขั้นต้น 3.การผ่านรายการไปยังบัญชีแยกประเภท 4.งบทดลองของกิจการให้บริการ สมรรถนะย่อย 1.แสดงความรู้เกี่ยวกับการบัญชีของกิจการให้บริการ 2.ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบันทึกบัญชีและจัดทำงบทดลอง ของกิจการให้บริการ จุดประสงค์การเรียนรู้ บอกความหมายของกิจการให้บริการได้ อธิบายและทำความเข้าใจเกี่ยวกับกิจการให้บริการ
แบบทดสอบ ก่อนเรียน 1. รอบระยะเวลาบัญชี หมายถึงอะไร ก.รายการแรกขอการบันทึกบัญชีในสมุดรายวันทั่วไป ข.ช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ต้องแสดงผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงิน ของกิจการ ค.เป็นการบันทึกรายการในสมุดรายวันทั่วไปต่อจากรายการเปิดบัญชี ง.เป็นการบันทึกบัญชีในสมุดรายวันทั่วไปในวันสิ้นงวด จ.เป็นระยะเวลาที่จะต้องทำการปิดบัญชี 2.ข้อใดเรียงลำดับหมวดหมู่บัญชีได้ถูกต้อง ก.สินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ ค่าใช้จ่าย รายได้ ข.สินทรัพย์ ส่วนของเจ้าของ หนี้สิน ค่าใช้จ่าย รายได้ ค.สินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ รายได้ ค่าใช้จ่าย ง.สินทรัพย์ รายได้ ค่าใช้จ่าย หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ จ.ค่าใช้จ่าย รายได้ ส่วนของเจ้าของ หนี้สิน สินทรัพย์ 3.ขั้นตอนการจัดทำงบทดลองมีกี่ขั้นตอน ก.2ขั้นตอน ข.4ขั้นตอน ค.6ขั้นตอน ง.8ขั้นตอน จ.10ขั้นตอน 4.การกำหนดเลขที่บัญชีเรียกอีกอย่างนึงว่า ก.การจัดทำบัญชี ข.ผังบัญชี ค.การจัดหมวดหมู่ ง.การจำแนก จ.การอ้างอิง 5..งบทดลองข้อใดถูกต้อง ก. Liabilities ข. Current Assets ค. Accounting Equation ง. statement of financial position จ. Trial Balance
2.4 หลักการบันทึกรายการค้าในสมุดบันทึกรายการขั้นต้น การบันทึกรายการค้าในสมุดบัญชีเป็นการบันทึกรายการค้าที่เกิด ขึ้นทุกรายการที่ผ่านการวิเคราะห์รายการค้ามาแล้ว นำมาบันทึกบัญชี ทางดด้านเดบิตและเครดิต ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากัน ด้านเดบิต (Debit) จะใช้ตัวย่อว่า Dr. คือด้านซ้ายของสมการบัญชี ดังนั้นด้านเดบิตจึงเป็นด้าน ที่ใช้บันทึกรายการบัญชีที่ทำให้ด้านซ้ายของสมการบัญชีเพิ่ มขึ้นหรือรายการ บัญชีที่ทำให้ด้านขวาของสมการบัญชีลดลง คือการเพิ่ มขึ้นของสินทรัพย์ การลดลงของหนี้สินและการลดลงของส่วนของเจ้าของ ด้านเครดิต (Credit) จะใช้ตัวย่อว่า Cr. คือ ด้านขวาของสมการบัญชี ดังนั้นด้านเครดิตจึงเป็น ด้านที่ใช้บันทึกรายการบัญชีที่ทำให้ด้านขวาของสมการบัญชีเพิ่ มขึ้นหรือรายการ บัญชีที่ทำให้ด้านซ้ายของสมการบัญชีลดลง คือ การลดลงของสินทรัพย์ การ เพิ่ มขึ้นของหนี้สิน และการเพิ่ มขึ้นของส่วนของเจ้าของ สรุปหลักการบันทึกบัญชีตามหลักการบัญชีคู่ ด้านเดบิต ด้านเครดิต 1. สินทรัพย์เพิ่ ม 1.สินทรัพย์ลด 2. หนี้สินลด 2. หนี้สินเพิ่ ม 3. ส่วนของเจ้าของลด 3. ส่วนของเจ้าของเพิ่ ม - รายได้ลด - รายได้เพิ่ ม - ค่าใช้จ่ายเพิ่ ม - ค่าใช้จ่ายลด
2.5 การบันทึกรายการค้าในสมุดบันทึกรายการขั้นต้น 2.5.1 ผังบัญชี (Chart of account ผังที่แสดงรายชื่อแยกประเภททุกบัญชีของกิจการ โดยจัดเรียงตามลำดับ หมวดหมู่บัญชี อันได้แก่ หมวดบัญชีสินทรัพย์ หนี้สิน ทุน รายได้ และค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งกำหนดเลขที่บัญชีของแต่ละบัญชีด้วยเพื่ อความสะดวกในการค้นหา บัญชีต่างๆ การกำหนดเลขที่บัญชีหรือ “ผังบัญชี” ซึ่งจะกำหนดอย่างมีระบบตาม มาตรฐานโดยทั่วไปแล้ว เลขที่บัญชีจะถูกกำหนดตามหมวดบัญชี ซึ่งแบ่งออก เป็น 5 หมวด ดังนี้ หมวดที่ 1 หมวดสินทรัพย์ รหัสบัญชีคือ 1 หมวดที่ 2 หมวดหนี้สิน รหัสบัญชีคือ 2 หมวดที่ 3 หมวดส่วนของเจ้าของ รหัสบัญชีคือ 3 หมวดที่ 4 หมวดรายได้ รหัสบัญชีคือ 4 หมวดที่ 5 หมวดค่าใช้จ่าย รหัสบัญชีคือ 5 2.5.2 การบันทึกรายการเปิดบัญชีในสมุดรายวันทั่วไป (Opening Entries) รายการเปิดบัญชี (Opening Entry) หมายถึง รายการแรกของการ บันทึกบัญชีในสมุดรายวันทั่วไป ซึ่งอาจจะเกิดจากมีการลงทุนครั้งแรก หรือ เมื่อมีการ เริ่มรอบระยะเวลาบัญชีใหม่ 1.1 การลงทุนครั้งแรกมี 3 กรณี ดังนี้ กรณีที่ 1 การนำเงินสดมาลงทุนเพี ยงอย่างเดียว ตัวอย่างที่ 1 นายณัฐวุฒิเปิดกิจการเครื่องเขียน โดยเริ่มกิจการเมื่อวันที่ 1 มกราคม 25x1 และนำเงินสดมาลงทุนในกิจการจำนวน 10,000 บาท ทุน-นายณัฐวุฒิ เพิ่ม บันทึกด้านเครดิตนำไปบันทึกในสมุดรายวันดังนี้ สมุดรายวันทั่วไป พ.ศ.25x1 เดบิต เครดิต เลขที่ เดือน วันที่ รายการ บาท สต. บาท สต. บัญชี ม.ค 1 เงินสด 10,000 - ทุน-นายณัฐวุฒิ 10,000 - นายณัฐวุฒินำเงินสดมาลงทุน
กรณีที่ 2 การนำเงินสด และสินทรัพย์อื่นมาลงทุน ตัวอย่างที่ 2 นายณัฐนนท์ เปิดกิจการรายเสริมสวย \"นนท์บิวตี้\" เมื่อวันที่ 1 มกราคม 25x1 โดยนำเงินสด 40,000 บาท เงินฝากธนาคาร 100,000 บาท อุปกรณ์ 40,000 บาท มาลงทุน สมุดรายวันทั่วไป พ.ศ.25x1 รายการ เลขที่ เดบิต เครดิต เดือน วันที่ บัญชี บาท สต. บาท สต. ม.ค 1 เงินสด 40000 - เงินฝากธนาคาร 100000 - อุปกรณ์ 40000 - ทุนนาย-ณัฐนนท์ 180000 - นายณัฐนนท์ นำเงินสดและสินทรัพย์ อื่นมาลงทุนมาลงทุน กรณีที่ 3 การนำเงินสด สินทรัพย์อื่น และหนี้สินมาลงทุน ตัวอย่างที่ 3 นางสาวณัฐกานต์ เปิดร้านสปา ในวันที่ 1 มกราคม 25x1 ได้นำเงินสดจำนวน 60,000 บาท เงินฝากธนาคาร 40,000 บาท อุปกรณ์ 70,000 บาท อาคาร 300,000 บาท และเจ้าหนี้การค้า 20,000 บาท มาลงทุน สมุดรายวันทั่วไป พ.ศ.25x1 รายการ เลขที่ เดบิต เครดิต เดือน วันที่ บัญชี บาท สต. บาท สต. ม.ค 1 เงินสด 60000 - เงินฝากธนาคาร 40000 - อุปกรณ์ 70000 - อาคาร 300000 - เจ้าหนี้ - นางสาวณัฐกานต์ 20000 - ทุน - นางสาวณัฐกานต์ 1180000 - นางสาวณัฐกานต์ นำเงินสดและสินทรัพย์อื่น และ หนี้สินมาลงทุนมาลงทุน
1.2 เริ่มรอบระยะเวลาบัญชีใหม่ (งวดบัญชีใหม่) การบันทึกรายการในสมุดรายวันทั่วไปเหมือนกรณีการลงทุนครั้งแรก คือต้อง บันทึกในสมุดรายวัน ทั่วไปแบบรวม (Compound Journal Entry) โดย เขียนเงินสด สินทรัพย์อื่นให้หมดก่อน แล้วจึงเขียนหนี้สินให้ หมด (ถ้ามี) ตามด้วยทุนเป็นลำดับสุดท้ายและเขียนคำอธิบายรายการว่าบันทึกสินทรัพย์ หนี้สินและทุนที่มีอยู่ ณ วันเปิดบัญชี การบันทึกรายการเปิดบัญชี เมื่อเริ่มรอบระยะเวลาบัญชีใหม่นี้ อาจจะใช้ สมุดรายวันทั่วไปและบัญชี แยกประเภทเล่มเดิม เพื่ อบันทึกรายการต่อไป หรือจะใช้สมุดเล่มใหม่ก็ได้ แล้วแต่กิจการ รอบระยะเวลาบัญชี หมายถึง ช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ต้องแสดงผลการ ดำเนินงานและฐานะทาง การเงินของกิจการ เช่น 3 เอือน 6 เดือน หรือ 12 เดือน ก็ได้ ขึ้นอยู่กับกิจการแต่ละแห่ง ตัวอย่างที่ 4 ต่อไปนี้เป็นรายการค้าของร้านนครชัยการช่าง ระหว่างเดือน มกราคม 2550 ม.ค. 1 นายนครเปิดร้านบริการซ่อมวิทยุ โทรทัศน์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ โดยนำ เงินสด 40,000 บาท เงินฝากธนาคาร 60,000 บาท อาคาร 400,000 บาท อุปกรณ์การซ่อม 50,000 บาทและ เจ้าหนี้ 60,000 บาท มาลงทุน 5 รับเงินค่าซ่อมโทรทัศน์ 3,000 บาท 8 ซื้ออุปกรณ์ในการซ่อมเป็นเงินเชื่อ จากร้านโกมล 12,000 บาท 11 จ่ายค่าเช่าอาคารเพิ่ มเติมเนื่องจากพื้ นที่คับแคบ 12,000 บาท 15 ซ่อมพั ดลมให้โรงเรียนเก่งวิทยา 35,000 บาท ยังไม่ได้รับเงิน 20 รับชำระหนี้จากโรงเรียนเก่งวิทยาตามรายการวันที่ 15 ม.ค. 25 จ่ายชำระหนี้ให้ร้านโกมล 12,000 บาท 28 กู้เงินจากธนาคารไทย 80,000 บาท 29 นายนครถอนเงินไปใช้ส่วนตัว 14,000 บาท 31 จ่ายเงินเดือนให้คนงาน 28,000 บาท ให้ทำ บันทึกรายการในสมุดรายวันทั่วไป
พ.ศ.25x1 รายการ สมุดรายวันทั่วไป เดบิต เครดิต เดือน วันที่ เลขที่ บาท สต. บาท สต. ม.ค. 1 เงินสด บัญชี 40,000 - เงินฝากธนาคาร - 60,000 อุปกรณ์ - 50,000 อาคาร - 400,000 - เจ้าหนี้การค้า 60,000 - ทุน-นนท์ทก 490,000 บันทึกการลงทุนของนายนนท์ทก 5 เงินสด - 3,000 - รายได้ค่าบริการ 3,000 รับเงินค่าซ่อมโทรทัศน์
สมุดรายวันทั่วไป พ.ศ.25x1 เลขที่ เดบิต เครดิต รายการ บาท สต. เดือน วันที่ บัญชี บาท สต. ม.ค. 8 อุปกรณ์ 12,000 - เจ้าหนี้-ร้านนนท์นะ 12,000 - ซื้ออุปกรณ์ในการซ่อมเป็นเงินเชื่อ 11 ค่าเช่า - 12,000 - เงินสด 12,000 จ่ายค่าเช่าอาคาร 15 ลูกหนี้-นายวิรักษ์ - 35,000 - รายได้ค่าบริการ 35,000 ซ่อมพัดลมให้นายวิรักษ์ยังไม่ได้รับเงิน 20 เงินสด - 35,000 - ลูกหนี้-นายวิรักษ์ 35,000 รับชำระหนี้จากนายวิรักษ์
สมุดรายวันทั่วไป พ.ศ.25x1 เลขที่ เดบิต เครดิต รายการ บาท สต. เดือน วันที่ บัญชี บาท สต. 25 เจ้าหนี้-ร้านนนท์นะ - 12,000 - เงินสด 12,000 จ่ายชำระหนี้ให้ร้านนนท์นะ 28 เงินสด - 80,000 - เงินกู้-ธนาคาร 80,000 กู้เงินจากธนาคาร 29 ถอนใช้ส่วนตัว - 14,000 - เงินสด 14,000 นายนนท์ทกถอนใช้ส่วนตัว 31 เงินเดือน - 28,000 - เงินสด 28,000 จ่ายเงินเดือนคนงาน
2.5.3 การบันทึกรายการที่เกิดขึ้นระหว่างงวดบัญชี เป็นการบันทึกรายการค้าลงใ นสมุดรายวันทั่วไปต่อจากรายการเปิดบัญชี การบันทึกรายการค้าระหว่างงวดบัญชีจะบันทึกเรียงตามลำดับเหตุการณ์วัน ที่เกิดขึ้น 2.6 การผ่านรายการไปยังบัญชีแยกประเภท หมูบ่ัหญรือชีปแยระกเภปทระหเภลังทจ(าLกeกdาgรeบ ัrน)ทึหกมในายสถมึุงดรบาัยญวัชนีทีท่ัร่ววไบปรแวล้มวรเาชย่นกาบรัญค้าชไีวป้เรปะ็เนภหทมวด สินทรัพย์ บัญชีประเภทหนี้สินและบัญชีประเภทส่วนของเจ้าของ และในบัญชีหนึ่งๆ ยังแยกออกเป็นบัญชีย่อยๆ เช่น บัญชีประเภทสินทรัพย์ แยกออกเป็น บัญชี เงินสด บัญชีเงินฝากธนาคาร บัญชีลูกหนี้ บัญชีประเภทหนี้สิน แยกออกเป็น บัญชีเจ้าหนี้ บัญชีเงินกู้ยืมระยะสั้น บัญชีเงินกู้ยืมระยะยาว และบัญชีประเภทส่วน ของเจ้าของ แยกออกเป็น บัญชีทุน บัญชีถอนใช้ส่วนตัว บัญชีรายได้ และบัญชี ค่าใช้จ่าย เมื่อวิเคราะห์รายการค้าและบันทึกรายการในสมุดรายวันทั่วไปแล้ว ให้นำรายการจากสมุดรายวันทั่วไป ผ่านรายการไปบัญชีแยกประเภท การผ่านรายการแบ่งเป็น 4 กรณี ดังนี้ กรณีที่ 1 การนำสินทรัพย์มาลงทุนเพี ยงชนิดเดียวและการผ่านรายการระหว่างเดือน การผ่านรายการจะใช้ชื่อบัญชีตรงข้ามที่บันทึกในสมุดรายวันทั่วไป กรณีที่ 2 การนำสินทรัพย์หลายชนิดมาลงทุน การผ่านรายการจะใช้ชื่อบัญชีตรงข้ามที่บันทึกในสมุดรายวันทั่วไป หรือเขียนว่า “สมุดรายวันทั่วไป” ก็ได้ กรณีที่ 3 การนำสินทรัพย์และหนี้สินมาลงทุน การผ่านรายการจะเขียนว่า “สมุดรายวันทั่วไป” เพราะในสมุดรายวันทั่วไปมีทั้ง สินทรัพย์และหนี้สิน ทำให้ไม่สามารถแยกจำนวนเงินได้ กรณีที่ 4 เมื่อเริ่มรอบระยะเวลาบัญชีใหม่ การผ่านรายการจะเขียนว่า “ยอดยกมา” ด้านเดียวกับยอดคงเหลือของบัญชีใน สมุดรายวันทั่วไป การผ่านรายการจากสมุดรายวันทั่วไปไปบัญชีแยกประเภทจะทำทันที เมื่อบันทึก รายการในสมุดรายวันทั่วไป หรือ ผ่านทุกวัน ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือนก็ได้ ทั้งนี้แล้ว แต่ความมากน้อยของรายการในกิจการ
ข้อแตกต่างของการผ่านรายการไปบัญชีแยกประเภท 1.การผ่านรายการไปบัญชีแยกประเภทของวันเปิดบัญชี (วันที่ 1) แบ่งเป็น 4 กรณี ดังนี้ กรณีที่ 1 การนำสินทรัพย์มาลงทุนเพี ยงชนิดเดียว การผ่านรายการจะใช้ชื่อบัญชี ตรงข้ามที่บันทึก ในสมุดรายวันทั่วไป กรณีที่ 2 การนำสินทรัพย์หลายชนิดมาลงทุน การผ่านรายการจะใช้ชื่อบัญชีตรงข้าม ที่บันทึกในสมุดรายวันทั่วไป หรือเขียนว่า “สมุดรายวันทั่วไป” ก็ได้ กรณีที่ 3 การนำสินทรัพย์และหนี้สินมาลงทุน การผ่านรายการจะเขียนว่า “สมุดราย วันทั่วไป” เพราะในสมุดรายวันทั่วไปมีทั้งสินทรัพย์และหนี้สิน ทำให้ไม่สามารถแยก จำนวนเงินได้ กรณีที่ 4 เมื่อเริ่มรอบระยะเวลาบัญชีใหม่ การผ่านรายการจะเขียนว่า “ยอดยกมา” ด้านเดียวกับยอดคงเหลือของบัญชีในสมุดรายวันทั่วไป 2.การผ่านรายการจากสมุดรายวันทั่วไปไปบัญชีแยกประเภท สำหรับรายการค้าที่เกิด ขึ้นระหว่างเดือน การผ่านรายการจะใช้ชื่อบัญชีตรงข้ามที่บันทึกในสมุดรายวันทั่วไป 2.7 งบทดลองของกิจการให้บริการ 2.7.1 การหายอดค งเหลือของบัญชีแยกประเภทด้วยดินสอ (Pencil Footing) การหายอดคงเหลือของบัญชีแยกประเภทด้ว ยดินสอ 1.รวมยอดจำนวนเงินในช่องเดบิต 2.รวมยอดจำนวนเงินในช่องเครดิต 3.หาผลต่างระหว่างจำนวนเงินในช่องเดบิตและเครดิตใส่ไว้ช่องที่มียอดคงเหลือ มากกว่าเขียนหัวงบทดลอง 4.เขียนชื่อบัญชีแยกประเภททุกบัญชีที่มียอดคงเหลือ ลงในช่องชื่อบัญชี โดยเรียง ลำดับตามเลขที่บัญชี 5.เขียนจำนวนเงินในงบทดลอง หากบัญชีแยกประเภทที่มียอดคงเหลือเดบิตให้เขียน จำนวนเงินไว้ด้านเดบิต บัญชีแยกประเภทที่มียอดคงเหลือเครดิตให้เขียนจำนวนเงิน ไว้ด้านเครดิต 6.รวมยอดในช่องจำนวนเงินเดบิตและช่องจำนวนเงินเครดิต ถ้ายอดรวมด้านเดบิต และยอดรวมด้านเครดิต มียอดดุลเท่ากัน จะเรียกว่า งบทดลองลงตัว (ln Balance)
ตัวอย่างที่ 2.9 การจัดทำงบทดลอง จากการหายอดคงเหลือของบัญชีแยกประเภทด้วยดินสอ (Pencil Footing) แล้ว สามารถนำมาจัดทำงบทดลอง ได้ดังนี้ ร้านนนท์ธนนท์ งบทดลอง วันที่ 31 ธันวาคม 25x1 ชื่อบัญชี เลขที่ เดบิต เครดิต บัญชี บาท สต. บาท สต. เงินสด 254,000 - ลูกหนี้ 50,000 - วัสดุสำนักงาน 10,000 - อุปกรณ์สำนักงาน 54,000 - เครื่องตกแต่ง 100,000 - อาคาร 600,000 - เจ้าหนี้ 60,000 - เงินกู้ 200,000 - ทุน-นนท์ธนนท์ 500,000 - ถอนใช้ส่วนตัว 7,000 - รายได้ค่าบริการ 400,000 - ค่าเช่า 20,000 - ค่าโทรศัพท์ 5,000 - ค่าน้ำค่าไฟ 20,000 - เงินเดือน 40,000 - 1,160,000 - 1,160,000 -
2.7.3 การหาข้อผิดพลาดเมื่องบทดลองไม่ลงตัว หลังจากที่จัดทำงบทดลอง ห ากงบทดลองไม่ลงตัว กล่าวคือยอดรวมช่องเดบิต และเครดิตไม่เท่ากัน จะต้องดำเนิ นการตรวจสอบ ตามขั้นตอนได้ดังนี้ 1.ถ้าผลต่างของยอดรวมเดบิตและยอดรวมเครดิตหารด้วย 9 ลงตัว แสดงว่า มีการเขียนจำนวนเงินกลับกัน 2.ตรวจสอบการยกยอดคงเหลือในบัญชีแยกประเภทที่นำมาลงในงบ ทดลองว่าลงในจำนวนเงินที่ถูกต้องและลงถูกด้านของงบทดลอง 3.ตรวจสอบการหายอดคงเหลือในบัญชีแยกประเภท 4.ตรวจสอบการผ่านรายการจากสมุดรายวันทั่วไปไปยังบัญชีแยกประเภท 2.7.4 ข้อผิดพลาดที่ไม่แสดงให้เห็นจากการทำงบทดลอง ในการจัดทำงบทดลองตามปกติแล้วจะต้องลงตัว แต่ไม่ได้หมายความว่างบทดล องนั้นถูกต้องทุกประการ ทั้งนี้อาจมีข้อผิดพลาดที่ไม่แสดงให้เห็นจากการทำงบ ทดลองขึ้น ดังนี้ 1.ไม่บันทึกรายการค้าที่เกิดขึ้น เช่น จ่ายค่าเช่าไปแล้วแต่ลืมบันทึกบัญชี ยอด รวมของงบทดลองจะลงตัว แต่บัญชีเงินสดและค่าเช่า จะแสดงจำนวนเงินไม่ถูก ต้อง 2.บันทึกบัญชีผิด เช่น ลูกค้านำเงินสดมาชำระแต่กิจการบันทึกเป็นเงินฝาก ธนาคารยอดรวมงบทดลองจะลงตัว แต่บัญชีเงินสดและบัญชีเงินฝากธนาคาร จะ แสดงจำนวนเงินกลับกัน 3.บันทึกจำนวนเงินผิด เช่น ลูกค้านำเงินสดมาชำระ 5,000 บาท แต่บันทึก บัญชีเป็น 500 บาท ยอดรวมของงบทดลองจะลงตัว แต่บัญชีเงินสดและลูกหนี้ จะ แสดงจำนวนเงินไม่ถูกต้อง 4.บันทึกรายการผิดที่ชดเชยกันเอง เช่น บันทึกสินทรัพย์เกินไป และบันทึก เจ้าหนี้เกินไปรายการทั้ง 2 รายการชดเชยกันได้เพราะทำให้ยอดรวมของงบทดลอง เกินทั้ง 2 ด้าน
แบบทดสอบ หลังเรียน .1.การบันทึกรายการเปิดบัญชีในสมุดรายวันทั่วไปในการลงทุนครั้งแรกมีกี่กรณี ก.3 กรณี ข.4 กรณี ค.5 กรณี ง.6กรณี จ.7กรณี 2.การเปิดบัญชีในสมุดรายวันทั่วไปกรณีสุดท้ายในการลงทุนครั้งแรกคืออะไร ก.การนำเงินสดมาลงทุนเพี ยงอย่างเดียว ข.การนำเงินสดและสินทรัพย์อื่นมาลงทุน ค.นำสินทรัพย์อื่นมาลงทุนเพี ยงครั้งเดียว ง.การนำเงินสด สินทรัพย์อื่นและหนี้สินมาลงทุน จ.นำเงินสดและหนี้สินมาลงทุน 3.Ledger คืออะไร ก.งบทดลอง ข.งวดบัญชีใหม่ ค.สมุดรายวันทั่วไปแบบรวม ง.บัญชีแยกประเภท จ.งบแสดงฐานะการเงิน 4.การผ่านรายการไปบัญชีแยกประเภทที่นำสินทรัพย์หลายชนิดมาลงทุนอยู่ในกรณีใด ก.กรณีที่6 ข.กรณีที่5 ค.กรณีที่4 ง.กรณีที่3 จ.กรณีที่2 5.ยอดรวมด้านเดบิตและยอดรวมด้านเครดิตมียอดดุลเท่ากันจะเรียกว่า อะไร ก.งบแสดงฐานะการเงิน ข.งบทดลอง ค.บัญชีแยกประเภท ง.กระดาษทำการ จ.สมุดรายวันทั่วไป
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: