Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แนวทางการบูรณาการกิจกรรมแนะแนวในระดับประถมศึกษา E-book

แนวทางการบูรณาการกิจกรรมแนะแนวในระดับประถมศึกษา E-book

Published by อาร์ม เอ็นทีพี, 2020-11-05 06:37:09

Description: แนวทางการบูรณาการกิจกรรมแนะแนวในระดับประถมศึกษา E-book

Search

Read the Text Version

คำนำ คมู่ อื แนวทางการบรู ณาการกิจกรรมแนะแนวในชั้นเรียน- ประถมศึกษาเลม่ น้ี เป็นส่วนหนง่ึ ของกระบวนวชิ า 052466 การศกึ ษาคน้ คว้าอิสระ สาขาวชิ าประถมศกึ ษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ ผู้จดั ทาได้ทาคมู่ อื แนวทางการบูรณาการ กิจกรรมแนะแนวในชั้นเรยี นประถมศกึ ษา เพอื่ ให้ครูหรือผมู้ สี ว่ น เก่ียวข้องในการจัดการเรียนสอน นาไปเปน็ ค่มู ือการจดั การเรียนการ สอนกิจกรรมแนะแนวกับ 5 ขอบขา่ ยการเรียนรูใ้ นกรอบหลักสูตร ฐานสมรรถนะแบบบูรณาการ โดยมีวตั ถปุ ระสงค์การจัดทาเพือ่ ส่งเสริมการบรู ณาการการจดั กิจกรรมแนะแนวกบั การเรยี นการสอน และเพ่ือส่งเสรมิ กิจกรรมแนะแนวใหม้ ีความน่าสนใจและเกดิ ประสทิ ธิภาพตอ่ ผู้เรียนอยา่ งสูงสุด ผู้จดั ทาหวังเปน็ อยา่ งย่ิงวา่ คูม่ ือแนวทางการบูรณาการ กจิ กรรมแนะแนวในชั้นเรยี นประถมศกึ ษาเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ตอ่ ผู้อา่ นหรือผู้ทก่ี าลงั ศึกษาและมคี วามสนใจในเรอ่ื งนไ้ี ม่มากกน็ อ้ ย หาก มขี อ้ ผิดพลาดประการใด ผูจ้ ดั ทาขอนอ้ มรับและอภยั มา ณ ท่นี ี้ด้วย นติ ภิ มู ิ มูลไชย ผ้จู ดั ทา

สำรบัญ เรอ่ื ง หนา้  คานา  สารบญั  ตอนท่ี 1 กจิ กรรมแนะแนว กับ กรอบหลกั สูตรฐาน 1 สมรรถนะ  ความหมายของกจิ กรรมแนะแนวในกจิ กรรม- 1 พฒั นาผเู้ รยี น ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษา ขน้ั พ้นื ฐานพุทธศกั ราช 2551  วัตถปุ ระสงค์ของการจดั กิจกรรมแนะแนวใน 1 กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศกึ ษาข้นั พ้ืนฐานพุทธศักราช 2551  ความหมายของกรอบหลกั สตู รฐานสมรรถนะ 2  ฐานคดิ ของหลกั สูตรการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน 2 (หลกั สูตรฐานสมรรถนะ)

สำรบัญ (ต่อ) เรื่อง หน้า  ตอนที่ 2 การบรู ณาการกิจกรรมแนะแนวใน 5 ช้นั เรียนประถมศึกษา  การบูรณาการกจิ กรรมแนะแนวกบั ขอบขา่ ยการ 6 เรยี นรสู้ ขุ ภาวะกายและจิต  การบรู ณาการกิจกรรมแนะแนวกบั ขอบขา่ ยการ 12 เรียนรภู้ าษา ศิลปะและวฒั นธรรม  การบรู ณาการกจิ กรรมแนะแนวกบั ขอบขา่ ยการ 18 เรียนร้โู ลกของงานและการประกอบอาชพี  การบูรณาการกจิ กรรมแนะแนวกบั ขอบขา่ ยการ 22 เรียนรคู้ ณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี  การบูรณาการกิจกรรมแนะแนวกบั ขอบขา่ ยการ 28 เรียนร้สู ังคม และความเปน็ มนษุ ย์  บรรณนุกรม  ผจู้ ัดทา

1 ตอนที่ 1 กิจกรรมแนะแนว กับกรอบหลกั สตู รฐำนสมรรถนะ ความหมายของกิจกรรมแนะแนวในกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ตามหลักสตู ร แกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานพุทธศักราช 2551 กิจกรรมแนะแนวในกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนตามหลกั สตู รแกนกลาง การศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 เปน็ กจิ กรรมที่สง่ เสรมิ และพัฒนา ผ้เู รียนใหร้ ู้จกั ตนเอง รู้รักษ์ส่ิงแวดลอ้ ม สามารถตดั สินใจ คิดแก้ปญั หา กาหนด เป้าหมาย วางแผนชีวติ ทัง้ ในดา้ นการศกึ ษาและอาชีพ สามารถปรบั ตนได้ อยา่ งเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้ครรู จู้ ักและเขา้ ใจผู้เรยี น รวมทั้งเป็น กจิ กรรมทช่ี ว่ ยเหลอื และให้คาปรกึ ษาแกผ่ ปู้ กครองในการมสี ่วนร่วมในการ พัฒนาผู้เรียน (สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, 2551) วัตถุประสงค์ของการจดั กจิ กรรมแนะแนวในกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น ตาม หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐานพทุ ธศักราช 2551 หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 กาหนดให้ กิจกรรมแนะแนวเป็นกจิ กรรมหนงึ่ ในกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น ซ่งึ กาหนด วัตถุประสงคข์ องการจดั กิจกรรมแนะแนวดงั ตอ่ ไปนี้ 1. เพอ่ื ให้ผู้เรียนรู้จกั เข้าใจ รกั และเหน็ คณุ ค่าในตนเองและผอู้ ่ืน 2. เพ่ือใหผ้ ู้เรียนสามารถวางแผนการศึกษา อาชีพ รวมทง้ั ส่วนตวั และสงั คม 3. เพื่อให้ผเู้ รยี นสามารถปรับตัวได้อยา่ งเหมาะสม อยู่ร่วมกบั ผอู้ นื่ ไดอ้ ย่างมี ความสขุ (สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ, 2551)

2 ความหมายของกรอบหลกั สูตรฐานสมรรถนะ หลักสูตรฐานสมรรถนะ คือหลกั สตู รทีเ่ น้นการวัดผลแบบ สมรรถนะ แทนการท่องจาเน้ือหาเพียงเพื่อนามาสอบ เดิมวดั ผลจากการจา ความรู้ แตฐ่ านสมรรถนะ วัดผลจากการนาความรมู้ าใชง้ าน ที่นามาใช้ แทนท่หี ลกั สูตรในปัจจบุ นั (กลุ่มนเิ ทศติดตามและประเมินผลการจดั การศึกษา สพป.นครปฐม เขต 2, 2563) ฐานคดิ ของหลกั สูตรการศึกษาขนั้ พื้นฐาน (หลกั สูตรฐานสมรรถนะ)  1. ส่งเสรมิ การพฒั นาศกั ยภาพของผู้เรยี นรายบคุ คล (Personalization) การเป็นเจ้าของการเรยี นรแู้ ละพัฒนาตนเองอยา่ ง ต่อเนือ่ ง  2. พฒั นาให้ผเู้ รยี นเกดิ สขุ ภาวะ (Well-being) ทัง้ ในดา้ นสขุ ภาพ ความ ฉลาดรู้ สังคมและอารมณ์อย่างสมดุล รอบด้านและเป็นองค์รวม โดย ยึดหลกั ความเสมอภาค  3. พัฒนาสมรรถนะท่ี จาเปน็ เพ่ือใช้ในการ ดารงชีวิต การแกป้ ญั หา ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ใน ชีวิตประจาวัน และการ สรา้ งประโยชนต์ อ่ สงั คม  4. พัฒนาผู้เรียนให้รู้เทา่ ทันและสามารถปรับตัว ต่อการเปลี่ยนแปลงของ สภาพสังคมและ ความก้าวหน้าทาง วทิ ยาการ (สานักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา สพฐ., 2563)

3 หลักสูตรการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐานหลกั สูตรกาหนดสมรรถนะหลกั (Core Competency) ไว้ 5 ประการ เพอื่ เป็นเปา้ หมายในการพฒั นา ความสามารถท่ีจาเปน็ ของผเู้ รยี นต่อการใช้ชวี ติ ในปัจจบุ ันและอนาคต ไดแ้ ก่ 1. สมรรถนะการจดั การตนเอง 2. สมรรถนะการสอ่ื สาร 3. สมรรถนะการรวมพลังทางานเป็นทมี 4. สมรรถนะการคดิ ข้นั สูง และ 5. สมรรถนะการเป็นพลเมืองที่เข้มแขง็ (สานกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ., 2563)

4 สมรรถนะทั้ง 5 ด้าน จะได้รับการพัฒนาผ่านขอบข่ายการเรยี นรู้ (Learning Area) 5 ดา้ น เพอื่ บูรณาการหัวขอ้ การเรียนรูข้ า้ มศาสตร์ให้ ผู้เรียนสามารถพัฒนาและแสดงความสามารถผ่านมุมมองตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ 1. ขอบข่ายการเรียนรู้ดา้ นสุขภาวะกายและจิต 2. ขอบขา่ ยการเรียนรดู้ า้ นภาษา ศลิ ปะและวัฒนธรรม 3. ขอบข่ายการเรยี นรูด้ ้านโลกของงานและการประกอบอาชพี 4. ขอบขา่ ยการเรยี นรดู้ า้ นคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ 5. ขอบข่ายการเรยี นรู้ด้านสงั คมและความเป็นมนุษย์ ทงั้ สมรรถนะและขอบข่ายการเรยี นรู้ถกู ออกแบบและพัฒนาบน รากฐานสขุ ภาวะ (Well being Foundation) 4 ด้าน ซึง่ สถานศกึ ษาจะต้อง สรา้ งบรรยากาศ สภาพแวดลอ้ ม ส่งิ แวดลอ้ ม และกลไกการบริหารสถานศกึ ษา ให้เอื้อต่อการพฒั นา ได้แก่ 1. รากฐานดา้ นสุขภาพ กายและจติ 2. รากฐานด้านสังคม และ อารมณ์ 3. รากฐานด้านความ ฉลาดรู้ (Literacy, Nu- meracy, Digital Lit- eracy) 4. รากฐานดา้ นคณุ ธรม และจรยิ ธรรม (สานักวิชาการและ มาตรฐานการศึกษา สพฐ., 2563)

5 ตอนที่ 2 กำรบรู ณำกำรกจิ กรรมแนะแนว ในชน้ั เรยี นประถมศกึ ษำ จากวัตถปุ ระสงค์รายข้อของการจัดกจิ กรรมแนะแนว ทาง ผู้จัดทาไดน้ ามาบูรณาการกับ 5 ขอบขา่ ยการเรยี นรู้จากกรอบหลักสตู ร ฐานสมรรถนะ ไดเ้ ปน็ 5 กจิ กรรมการเรียนรู้ ดงั น้ี

6 กิจกรรมท่ี 1 “รูเ้ ท่ำทนั พรอ้ มจัดกำรกับอำรมณ์”

7 กจิ กรรมท่ี 1 “ร้เู ท่าทัน พรอ้ มจัดการกบั อารมณ์” บรู ณาการกจิ กรรมแนะแนว วตั ถุประสงค์ ข้อท่ี 3 กับขอบขา่ ยการเรียนรู้สุขภาวะกายและจติ วัตถุประสงค์ 1. รเู้ ท่าทนั อารมณข์ องตนเอง 2. จดั การกบั อารมณ์ของตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม วธิ ีการจดั กิจกรรม ขั้นนา ครูเล่านทิ านเรอื่ ง “ก่องขา้ วน้อยฆ่าแม่” ใหน้ กั เรียนฟงั พรอ้ มสนทนา ซักถามถงึ ประเด็นเกย่ี วกบั  ส่ิงทที่ าให้เกดิ อารมณโ์ กรธ  เหตกุ ารณท์ ่เี กิดขึน้  พฤติกรรมทแี่ สดงออกมา ขัน้ ดาเนนิ การ 1. ครนู าใบกจิ กรรมให้นกั เรยี นไดศ้ ึกษาสถานการณ์ ในแต่ละอารมณ์ ว่าเราจะจัดการกับอารมณแ์ ละรเู้ ท่าทนั อารมณข์ องตนเองไดอ้ ยา่ งไร

8 วิธกี ารจัดกิจกรรม (ตอ่ ) ขั้นดาเนนิ การ (ตอ่ ) 2. นักเรยี นรว่ มกันอภปิ ราย เพ่อื วิเคราะหผ์ ลกระทบและวิธกี าร ควบคุมอารมณแ์ ละการจัดการกบั อารมณข์ องตนเอง 3. ให้ตัวแทนนกั เรียนแสดงบทบาทสมมติตามสถานการณ์ที่ครู ยกตวั อย่างในใบกิจกรรม แลว้ ให้นักเรยี นในช้ันเรยี นบนั ทึกพฤติกรรม นกั เรยี นตวั แทนว่าเป็นอยา่ งไร และนามาอภปิ รายร่วมกัน ข้นั สรปุ นกั เรียนและครรู ่วมกนั อภปิ รายพรอ้ มสรุป ดังน้ี “การใช้สตแิ ละมี เหตุผล ตลอดจนรจู้ ักอดทนอดกล้นั ในการจัดการกับอารมณข์ องตนเอง และรู้เทา่ ทันอารมณ์ของตนเองจะทาให้สามารถควบคมุ อารมณแ์ ละ แสดงออกได้อยา่ งเหมาะสม จะทาให้เกดิ สมั พนั ธภาพที่ดีต่อกันและอยู่ ร่วมกันในสังคมได้อย่างเปน็ สขุ ” อุปกรณ์/ส่อื 1. นทิ านเร่อื ง “ก่องข้าวนอ้ ยฆา่ แม่” 2. ใบกจิ กรรมเร่ือง “รูเ้ ท่าทัน พรอ้ มจัดการกับอารมณ์” 3. สมดุ บนั ทึก 4. กระดาษ 5. ปากกา ดนิ สอ สี

9 การประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั แบบสังเกตพฤติกรรม เกณฑ์การประเมนิ ผล มี 3 ระดบั คุณภาพ ดงั น้ี  ดี หมายถงึ มกี ารแสดงออกถงึ การใช้อารมณแ์ ละการจัดการกับ อารมณไ์ ดอ้ ย่างเหมาะสม  ปานกลาง หมายถึง มีการแสดงออกถงึ การใช้อารมณแ์ ละการ จัดการกบั อารมณไ์ ดป้ านกลาง  ต้องพัฒนา หมายถึง มีการแสดงออกถงึ การใชอ้ ารมณแ์ ละการ จดั การกบั อารมณไ์ ด้นอ้ ย

10 นิทานเรอื่ ง “ก่องข้าวนอ้ ยฆ่าแม”่ ครัง้ หนึง่ นานมาแลว้ ในฤดูฝน มกี ารเตรียมปักดากล้าข้าว ทุกครอบครวั จะ ออกไปไถนาเตรียมการเพาะปลกู มคี รอบครวั ของชายหนุม่ คนหน่งึ กาพรา้ พอ่ ก็จะออกไป ปฏบิ ัตภิ ารกจิ เช่นเดยี วกนั วันหนงึ่ เขาไถนาอยนู่ านจนสายตะวนั ขนึ้ สงู แล้ว เขาร้สู กึ เหนด็ เหนอื่ ยออ่ นเพลยี มากกวา่ ปกติและหวิ ขา้ วมากกวา่ ทกุ วนั ปกตแิ ลว้ แม่ผชู้ ราจะมาส่งขา้ วใหท้ ุก วัน แต่วนั น้ีกลบั มาชา้ ผิดปกติเขาจงึ หยุดไถนา เขา้ มาพกั ผ่อนอยใู่ ตต้ น้ ไม้ปลอ่ ยเจ้าทุยไปกนิ หญา้ สายตาเหลอื บมองไปทางบ้านรอคอยแมท่ ีจ่ ะมาส่งข้าวด้วยความร้สู กึ กระวนกระวายใจ ยิ่งสายตะวนั ข้นึ สงู แดดยงิ่ รอ้ นความหิวกระหายย่งิ ทวีคูณข้นึ ทันใดน้นั เขามองเหน็ แม่เดิน เลยี บมาตามคันนา พร้อมกับกอ่ งขา้ วนอ้ ย ๆ เขาร้สู ึกไมพ่ อใจทแ่ี ม่เอากอ่ งข้าวน้อยนัน้ มาช้า มาก ดว้ ยความหวิ กระหายจนตาลายอารมณพ์ ลงุ่ พล่าน เขาคดิ วา่ ในกอ่ งขา้ วน้อยน้ันคงกนิ ไมอ่ ม่ิ เปน็ แน่ จงึ เอย่ ตอ่ วา่ แม่ของตนวา่ “อแี ก่มงึ ไปทาอะไรอยู่ถึงมาส่งข้าวใหก้ กู ินชา้ นัก กอ่ ง ขา้ วกเ็ อามาแตก่ ่องนอ้ ย ๆ กูจะกินอม่ิ หรือ” ผเู้ ป็นแม่เอ่ยปากตอบลูกวา่ “ถงึ ก่องขา้ วจะนอ้ ย แตก่ ็น้อยตอ้ นแต้นแนน่ ในดอกลูกเอย๋ ลองกนิ เบง่ิ กอ่ น” ความหวิ ความเหน็ดเหนอื่ ย ความโมโหหอู อ้ื ตาลาย ไม่ยอมฟังเสยี งใดๆเกิด บันดาลโทสะอยา่ งแรง จึงคว้าไดไ้ มเ้ ขา้ ตีแม่ที่แก่ชราล้มลง แล้วเดนิ ไปกนิ ขา้ วจนอมิ่ แลว้ แต่ ขา้ วยงั ไม่หมดกอ่ ง หลงั จากรู้สึกตวั จึงรบี ไปดอู าการของแม่ เมอ่ื เหน็ ว่าแมต่ ายแลว้ ชายหนุม่ รอ้ งไหโ้ ฮ สวมกอดรา่ งของผเู้ ปน็ แม่ สานึกผดิ ทฆ่ี า่ แม่ของตนดว้ ยอารมณเ์ พียงช่ัววบู เมอ่ื ชายหนุ่มปลงศพแม่แล้วขอร้องชกั ชวนญาติมิตรชาวบา้ น ช่วยกันป้ันอฐิ กอ่ เปน็ ธาตุเจดยี ์ บรรจุอัฐแิ มไ่ ว้จึงให้ชื่อวา่ “ธาตกุ ่องขา้ วนอ้ ยฆา่ แม”่ จนตราบทุกวันนี้ (ท่มี า : https://www.tewfree.com/ก่องขา้ วน้อยฆ่าแม)่

11 ใบกิจกรรมเรื่อง “รูเ้ ทา่ ทนั พร้อมจัดการกบั อารมณ์” สถานการณท์ ่ี 1 เคก้ โกรธมากที่ถูกเพอ่ื นล้อวา่ อว้ น สถานการณ์ที่ 2 ปูนดีใจมากทส่ี อบได้คะแนนเตม็ สถานการณ์ท่ี 3 จ๋ากงั วลใจเพราะไม่ไดน้ าการบ้านมาโรงเรียน สถานการณท์ ่ี 4 กัปตนั กลวั ทจ่ี ะตอ้ งนอนในหอ้ งคนเดยี ว สถานการณ์ที่ 5 กลอยใจรสู้ ึกตื่นเตน้ กอ่ นข้นึ แสดงเต้นทีง่ านวนั เดก็ สถานการณท์ ี่ 6 มิกเสียใจท่ีเจา้ ดาสุนขั แสนรกั ของเขาถกู รถชนตาย สถานการณ์ที่ 7 รวงผง้ึ เขนิ อายท่ีต้องทากิจกรรมรว่ มกับเพื่อนตา่ งห้อง

12 กิจกรรมที่ 2 “เจอกนั เมอ่ื ใด ทกั ทำยยิ้มแยม้ ”

13 กิจกรรมที่ 2 “เจอกนั เมอ่ื ใด ทกั ทายยม้ิ แยม้ ” บูรณาการกจิ กรรมแนะแนว วัตถุประสงค์ ข้อท่ี 3 กับขอบข่ายการเรยี นรู้ภาษา ศลิ ปะและวัฒนธรรม วัตถปุ ระสงค์ 1. นกั เรียนทกั ทายผู้อื่นด้วยความนอบน้อม 2. นักเรียนมีความสามารถในการใชภ้ าษา 3. นักเรยี นรูจ้ กั วัฒนธรรมไทยดา้ นการไหว้ 4. นกั เรยี นรอ้ งเพลงตามแบบท่ฟี ังและทาทา่ ประกอบเพลงได้ วธิ กี ารจัดกิจกรรม ข้ันนา ครูและนกั เรียนรว่ มกันร้องเพลงและทาทา่ ประกอบเพลง “เดก็ ดี ทักทายสวัสดี” พร้อมสนทนาซกั ถามถึงประเดน็ เกย่ี วกบั  การทกั ทายผ้อู ืน่ ตามแบบวัฒนธรรมไทย  การใชภ้ าษาในการทักทาย

14 วธิ ีการจดั กิจกรรม (ตอ่ ) ข้ันดาเนินการ 1. ครูนารปู ภาพแสดงการไหวต้ ามมารยาทไทยมาใหน้ ักเรียนสังเกต และถามว่าการไหว้มีความแตกต่างกันอย่างไร 2. ครูเปิดวีดิทศั น์ การไหว้ 3 ระดับ ใหน้ ักเรียนดู และให้นกั เรยี น อภิปรายวา่ การไหว้แตล่ ะประเภทเป็นอย่างไร และใชแ้ ตกตา่ งกันอยา่ งไร 3. ครูถามนกั เรียนว่า เราใชค้ าทักทายบคุ คลตา่ ง ๆ (พระสงฆ์ พ่อแม่ ครู เพือ่ น และนอ้ ง) แตกตา่ งกนั หรอื ไม่ อย่างไร 4. ครใู ห้นักเรียนแสดงบทบาทสมมตุ ิการทกั ทายบคุ คลต่าง ๆ (พระสงฆ์ พ่อแม่ ครู เพ่ือน และน้อง) ข้ันสรุป นกั เรยี นและครรู ่วมกันอภิปรายพรอ้ มสรุป ดังน้ี “การใชค้ าพูด กริ ยิ า ทา่ ทาง และการแสดงออกท่เี หมาะสมในการทักทายกับบคุ คลโดยคานงึ ถึง เหมาะสมและความนอบน้อม จะทาให้เกิดสมั พนั ธภาพทดี่ ตี อ่ กันและทาใหอ้ ยู่ ร่วมกนั ในสังคมได้อย่างเปน็ สขุ ” ช้นิ งาน/ภาระงาน แสดงบทบาทสมมุติการใช้ภาษา และกริ ยิ าท่าทางในการทักทาย บุคคลโดยคานงึ ถงึ เหมาะสม

15 อปุ กรณ์/สือ่ 1. เพลง “เด็กดี ทักทายสวัสดี” 2. รูปภาพแสดงการไหว้ตามมารยาทไทย 3. วดี ิทศั น์ “การไหว้ 3 ระดบั ” 4. การแสดงบทบาทสมมตุ ิ การประเมนิ ผล เคร่อื งมอื วดั แบบสงั เกตพฤตกิ รรม เกณฑก์ ารประเมนิ ผล มี 3 ระดบั คุณภาพ ดังน้ี  ดี หมายถึง มกี ารแสดงการใช้ภาษาและกริ ยิ าทสี่ ุภาพในการ ทกั ทายได้อย่างเหมาะสม  ปานกลาง หมายถงึ มกี ารแสดงการใช้ภาษาและกิรยิ าท่ีสุภาพใน การทกั ทายไดป้ านกลาง  ตอ้ งพฒั นา หมายถึง มีการแสดงการใชภ้ าษาและกริ ิยาทีส่ ภุ าพใน การทกั ทายไดน้ ้อย

16 เพลง “เด็กดี ทักทายสวัสดี” วีดิทศั น์ “การไหว้ 3 ระดบั ”

17 รปู แสดงการไหวต้ ามมารยาทไทย (ที่มา : https://www.m-culture.go.th/nonthaburi/ewt_news.php?nid=679&filename=index)

18 กจิ กรรมที่ 3 “อำชีพนำ่ รู้”

19 กิจกรรมท่ี 3 “อาชีพนา่ ร”ู้ บูรณาการกิจกรรมแนะแนว วัตถุประสงค์ ขอ้ ที่ 2 กับขอบขา่ ยการเรียนรู้โลกของงานและการประกอบอาชพี วตั ถุประสงค์ 1. บอกอาชพี ทสี่ นใจพรอ้ มอธิบายเหตุผลได้ วิธกี ารจัดกิจกรรม ขั้นนา 1. ครนู าภาพบคุ คลทมี่ อี าชพี ต่าง ๆ ใหน้ ักเรยี นดู เช่น เกษตรกร, คร,ู พยาบาล, แพทย์, นักโบราณคด,ี นกั วทิ ยาศาสตร์ ฯลฯ 2. ครสู นทนากบั นักเรียนถึงอาชพี ของบคุ คลในภาพวา่ มอี าชพี อะไรบา้ ง ขัน้ ดาเนนิ การ 1. ใหน้ ักเรยี นเลือกภาพท่ีชอบและบอกเหตผุ ลวา่ ทาไมจงึ ชอบ 2. ให้นกั เรียนเลอื กภาพอาชีพท่ชี อบ หรอื หากไมม่ ี ให้นักเรียนคดิ ขึ้นมาเองได้ คนละ 1 อาชพี 3. ให้นกั เรียนออกมาพดู บอกอาชีพที่นักเรียนสนใจ และบอกเหตุผล

20 วธิ ีการจัดกจิ กรรม (ตอ่ ) ขัน้ สรุป ผู้เรียนและครูร่วมกันอภิปรายสรปุ ดงั นี้ “ความสนใจในอาชีพของ บุคคลขึ้นอย่กู บั เหตุผลของแต่ละบคุ คล ซึง่ ไมจ่ าเปน็ ต้องเหมือนกนั แต่ควร คานงึ ถึงความสามารถ ความถนัด ความสนใจในการประกอบอาชีพน้นั ๆ” อปุ กรณ/์ ส่อื 1. ภาพบคุ คลทีม่ อี าชีพต่าง ๆ การประเมินผล วิธกี าร พจิ ารณาจากการทนี่ กั เรียนบอกอาชีพท่สี นใจและอธบิ ายเหตุผล ประกอบ เกณฑก์ ารประเมิน มี 3 ระดับคุณภาพ ดังน้ี  ดี หมายถงึ สามารถระบุอาชพี ที่สนใจและใหเ้ หตผุ ลได้สอดคลอ้ ง กบั อาชีพน้นั ๆ  ปานกลาง หมายถึง สามารถระบอุ าชีพทส่ี นใจและอธิบายใหเ้ หตุ- ผลไดส้ อดคลอ้ งกับอาชีพน้ัน ๆ ไดบ้ ้าง  ตอ้ งพฒั นา หมายถึง สามารถระบอุ าชพี ท่ีสนใจแตอ่ ธบิ ายให้ เหตุผลไมส่ อดคลอ้ งกับอาชพี นน้ั ๆ

21 ตัวอย่าง ภาพบุคคลทีม่ อี าชีพตา่ ง ๆ (ทมี่ า : https://sites.google.com/site/webjobthai/)

22 กิจกรรมท่ี 4 “พัฒนำตนเอง 360 องศำ”

23 กิจกรรมที่ 4 “พัฒนาตนเอง 360 องศา” บรู ณาการกจิ กรรมแนะแนว วตั ถุประสงค์ ข้อท่ี 2 กบั ขอบข่ายการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี วัตถปุ ระสงค์ 1. อธิบายวิธีการพัฒนาตนเองท่ีทาใหเ้ กิดความเปล่ียนแปลงในด้านที่ดีได้ วิธกี ารจดั กิจกรรม ขัน้ นา ครแู ละนกั เรียนพูดคุยถงึ ความสาเร็จหรอื การเปลย่ี นแปลงทเ่ี กดิ ขน้ึ ใน ชวี ิตในด้านที่ดีของครูและนักเรียน ขัน้ ดาเนนิ การ 1. ครแู จกใบกจิ กรรมตารางแหง่ การเปล่ียนแปลงใหน้ กั เรยี นทุกคน 2. ให้นักเรียนเขยี นวา่ ตนเองเปน็ อย่างไรในปจั จุบัน และต่อจากนจี้ ะ เปลยี่ นแปลงเปน็ อยา่ งไรในใบกิจกรรมตารางแหง่ การเปล่ยี นแปลง 3. ใหน้ ักเรยี นอภิปรายกันในกลุ่ม 3-4 คน ว่าถา้ อยากจะเปลยี่ นแปลง ตามที่เขียนไว้จะต้องทาอยา่ งไร 4. ใหน้ ักเรยี นเขยี นสงิ่ ท่ีต้องทาเพอื่ ใหเ้ กดิ การเปลีย่ นแปลงตามทต่ี อ้ งการ ไว้ในใบกจิ กรรมตารางแหง่ การเปลยี่ นแปลง และขอตวั แทนนกั เรยี นออกมา นาเสนอ

24 วิธีการจัดกจิ กรรม (ตอ่ ) ขัน้ สรุป ครูและนกั เรยี นช่วยกันสรปุ วธิ ปี ฏิบัติทีจ่ ะนาไปสู่การเกิดความ เปลี่ยนแปลง และครูสรปุ ว่า “ความสาคัญของการปฏบิ ัติตนตามแนวทางใน การพัฒนาตนเองท่ไี ด้กล่าวมาว่า ถา้ นาไปปฏิบตั อิ ย่างเคร่งครดั กจ็ ะ สามารถนาพาตนเองให้ประสบกับความสาเรจ็ ตามต้องการได้” ชนิ้ งาน/ภาระงาน 1. เขยี นสง่ิ ท่ีนักเรยี นเปน็ อยใู่ นปจั จุบัน 2. เขยี นสง่ิ ที่นกั เรยี นตอ้ งการเปลีย่ นแปลง 3. เขยี นวธิ ที ่ีนักเรียนต้องทาเพื่อนาไปสูก่ ารเปล่ียนแปลง อปุ กรณ์/สือ่ 1. ใบกิจกรรมตารางแหง่ การเปลี่ยนแปลง 2. ปากกา/ดนิ สอ/สี

25 การประเมินผล วธิ กี าร ตรวจใบกิจกรรม ”ตารางแห่งการเปลี่ยนแปลง” เกณฑ์การประเมนิ มี 3 ระดบั คุณภาพ ดงั นี้  ดี หมายถงึ เขียนสงิ่ ทีต่ นเองตอ้ งการเปล่ียนแปลงและสง่ิ ทต่ี อ้ งทา เพือ่ นาไปสูค่ วามเปล่ยี นแปลงไดอ้ ยา่ งสอดคลอ้ งกบั เหตุผลมาก  ปานกลาง หมายถึง เขียนส่ิงทีต่ นเองตอ้ งการเปล่ยี นแปลงและส่ิงที่ ต้องทา เพือ่ นาไปส่คู วามเปล่ียนแปลงไดอ้ ยา่ งสอดคลอ้ งกบั เหตผุ ล บา้ ง  ตอ้ งพัฒนา หมายถึง เขียนส่ิงทต่ี นเองตอ้ งการเปลี่ยนแปลงและส่งิ ทตี่ อ้ งทา เพ่อื นาไปสคู่ วามเปล่ยี นแปลงได้อย่างสอดคลอ้ งกบั เหตุผลไม่ค่อยได้

26 ใบกิจกรรม ”ตารางแห่งการเปลีย่ นแปลง” ปัจจบุ ัน ตอ่ จากน้ี วธิ นี าไปสู่ความ เปลีย่ นแปลง

27 ใบกิจกรรม ”ตารางแหง่ การเปล่ยี นแปลง” (รายข้อ) ปจั จุบัน ตอ่ จากนี้ วธิ ีนาไปสู่ความ เปล่ยี นแปลง

28 กจิ กรรมที่ 5 “ขอ้ ดีของเธอ ขอ้ ดีของฉัน เรยี นร้รู ่วมกนั อย่ำงมีควำมสขุ ”

29 กจิ กรรมที่ 5 “ขอ้ ดีของเธอ ขอ้ ดีของฉนั เรยี นรรู้ ว่ มกนั อย่างมคี วามสุข” บรู ณาการกจิ กรรมแนะแนว วัตถุประสงค์ ขอ้ ที่ 1 กับขอบข่ายการเรยี นรู้สงั คมและความเป็นมนุษย์ วัตถุประสงค์ 1. นกั เรยี นบอกขอ้ ดีของตนเองได้ 2. นักเรยี นบอกขอ้ ดีของผู้อนื่ ได้ วธิ ีการจดั กจิ กรรม ข้ันนา ครูและนักเรยี นสนทนากันเรอื่ งความดขี องคนท่ีครแู ละนักเรยี นช่ืนชอบ และบอกเหตุผลว่าทาไมถงึ ชอบ ขัน้ ดาเนินการ 1. ครูแจกกระดาษใหน้ กั เรยี นเขียนชือ่ เล่น และขอ้ ดีของตนเองไว้ ด้านหนา้ ของกระดาษ เสร็จแล้วนาไปใส่กล่องทคี่ รเู ตรียมไว้ 2. นักเรยี นแต่ละคนไปหยิบกระดาษในกล่อง (ถ้าหยิบไดข้ องตนเอง ให้ ใส่กลบั คืน) คนละ 1 แผ่น แล้วนามาเขยี นขอ้ ดีของเพอ่ื นทเี่ ป็นเจา้ ของ กระดาษ และสง่ คนื เจ้าของ 3. นักเรยี นแต่ละคนอ่านขอ้ ความท่อี ย่ใู นกระดาษให้เพอ่ื นฟงั

30 วิธกี ารจดั กิจกรรม (ต่อ) ขั้นสรปุ นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรปุ ดังน้ี “ขอ้ ดีของคนเรามีด้วยกันทุกคน แต่ จะมมี ากหรือมีนอ้ ยแตกตา่ งกันขนึ้ อยู่กับประสบการณ์ผ่านมาทไ่ี ด้รับ บางครั้งเราไมบ่ อกแตค่ นรอบข้างจะมองเห็นข้อดขี องเราจากการกระทา ซง่ึ จะทาใหเ้ ราเห็นคุณค่าในตนเองและผอู้ ่ืน และมคี วามเชอ่ื ม่ันในการกระทา ความดีนน้ั ตอ่ ไป” ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. เขยี นข้อดีของตนเอง 2. เขียนข้อดีของเพือ่ น อปุ กรณ/์ สอื่ 1. กระดาษ 2. กล่อง 3. ปากกา/ดนิ สอ/สี

31 การประเมินผล วธิ กี าร ตรวจผลงานการเขียนความดีของตนเองและของเพื่อนจากกระดาษ เกณฑ์การประเมนิ มี 3 ระดบั คุณภาพ ดงั นี้  ดี หมายถึง เขียนความดีของตนเองและของเพ่ือนได้ 3 ข้อขึ้นไป  ปานกลาง หมายถงึ เขียนความดขี องตนเองและของเพ่ือนได้น้อย นอ้ ยกวา่ 3 ข้อ  ต้องพัฒนา หมายถึง เขียนความดขี องตนเองและของเพ่ือนไม่ได้

32 กระดาษท่แี จกใหน้ กั เรียน ด้านหน้า ชอ่ื เล่น ............................................................................ ขอ้ ดีของตนเอง คือ ........................................................................................... ........................................................................................... ........................................................................................... ........................................................................................... ...................................................................................... ดา้ นหลัง ข้อดีของเพ่อื น คอื ........................................................................................... ........................................................................................... ........................................................................................... ........................................................................................... ........................................................................................... ........................................................................................... ..........................................................................................

บรรณำนกุ รม กรมวชิ าการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. แนวทางจดั กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน. กกกกกกก2546. หนา้ 1-286. กลุ่มนิเทศติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา สพป.นครปฐม เขต 2. กกกกกกกกรอบหลักสูตรฐานสมรรถนะ. สบื คน้ จาก https:/กกกกกก กกกกกกกsites.google.com/a/hisupervisory5.net/npt2/home/กก กกกกกกกsmrrthna เม่อื วนั ท่ี 15 ตลุ าคม 2563. พริ ดาภร ปะนนั ท์. การสอนแบบบูรณาการเปน็ อย่างไร. สืบค้นจากกก กกกกกกกhttps://sites.google.com/site/กกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกreiynbaebburnakarpenyangri/ เมอื่ วันที่ 15 สิงหาคม กก กกกกกกก2563. โรงเรยี นดรณุ ศษิ ย์พิทยรงั สรรค์. กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนแบบองคร์ วม. กกกกกกกสืบค้นจากhttps://sites.google.com/site/กกกกกกกกกก กกกกกกกdarunsitpattanarangsan/sara-na-ru/kickrrm-กกกก กกกกกกกphathna-phu-reiyn-baeb-xngkh-rwm เมื่อวันท่ี 15 กก กกกกกกกสิงหาคม 2563. สานกั วชิ าการมาตรฐานการศกึ ษา และสานกั งานคณะกรรมการการศึกษา กกกกกกกขัน้ พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. แนวทางการจดั การเรียนรู้ กกกกกกกแบบบรู ณาการ. พิมพค์ รั้งที่ 2. โรงพมิ พช์ ุมนมุ สหกรณ์กกกก กกกกกกกการเกษตรแห่งประเทศไทย. 2549. หนา้ 3-13.

ผู้จัดทำ ชื่อ-สกุล : นายนิตภิ มู ิ มูลไชย ช่ือเล่น : อาร์ม รหัสประจาตัวนักศึกษา : 610210014 วันเกิด : วนั เสาร์ ท่ี 9 ตลุ าคม พ.ศ. 2542 ภมู ลิ าเนา : บ้านเลขท่ี 90 หมู่ 2 ตาบลปา่ ก่อดา อาเภอแม่ลาว จงั หวดั เชียงราย ประวัติการศกึ ษา :  ระดับประถมศกึ ษา : โรงเรยี นบา้ นโป่งมอญ จังหวดั เชียงราย  ระดบั มธั ยมศกึ ษา : โรงเรยี นสามคั ควี ทิ ยาคม จงั หวัดเชยี งราย  ปจั จุบัน : นักศึกษาชน้ั ปที ี่ 3 สาขาวชิ าประถมศกึ ษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ เบอรต์ ิดต่อ : 08-9670-6277