ประโยค2

รูปประโยค 1. ประธาน - ฉันทอดปลา 2. กริยา - มปี ลาในกระทะ - เกดิ โรคระบาดทจี่ ีน -ปรากฏวตั ถุประหลาดบนท้องฟ้า 3. กรรม - ปลาตัวนีฉ้ ันทอด 4. การิต - แม่ใช้ให้ฉันทอดปลา 5. กริยาสภาวมาลา -กนิ ปลาทาให้สุขภาพดี

ชนิดของประโยค 1. ประโยคความเดยี ว - มใี จความสาคญั ใจความเดยี ว - กริยาหลกั ตัวเดียว ป+ก นกบนิ ม้าวง่ิ งูเลือ้ ย เต่าคลาน ป+ก+กรรม นกกนิ งู งูกนิ กบ กบกนิ แมลง ป+ก+ส่วนเตมิ เตม็

ฉันเป็ นนักเรียน เธอคือนางฟ้า ไถงแปลว่าพระอาทติ ย์ พคี่ ล้ายพ่อ น้องเหมือนแม่ จานวนAเท่ากบั B

2. ประโยคความรวม – ประโยคความเดยี วสอง ประโยคขนึ้ ไปมารวมกนั โดยมีสันธานเช่ือม 2.1 คล้อยตาม – พอ..ก็ คร้ัน...จึง แล้ว..จงึ กด็ ี กต็ าม และ หาก... ก็ พอครูมานักเรียนกเ็ งยี บทนั ที 2.2 ขดั แย้ง – แต่ แต่ทว่า ถงึ ..ก็ แม้..ก็ กว่า..ก็ ท้งั ๆท.ี่ .แต่ กว่าเขาจะสานึกได้กส็ ายไปเสียแล้ว

2.3 เหตุผล - เพราะฉะน้ัน..จงึ ดงั น้ัน..จึง เพราะ...จงึ (เหตุอยู่หน้า ผลอยู่หลงั ) ฝนตกหนักดงั น้ันนา้ จงึ ท่วม 2.4 เลือก - หรือ ไม่เช่นน้ัน ไม่.. ก็ เธอจะไปกบั ฉันหรือจะไปกบั เขา

3. ประโยคความซ้อน – มปี ระโยคหลกั 1 ประโยคและประโยคย่อยอกี 1 ประโยค 3.1 นามานุประโยค -ประโยคย่อยทาหน้าทแี่ ทนนาม -ฉันเห็นนกบิน -ฉันปลูกต้นไม้เป็ นงานอดเิ รก -พระพทุ ธเจ้าสอนว่าตนเป็ นทพ่ี งึ่ แห่งตน

3.2 คุณานุประโยค -ประโยคย่อยทาหน้าทขี่ ยายนาม มปี ระพนั ธสรรพนามท่ี ซึ่ง อนั ผู้ เป็ นคาเชื่อม -คนทขี่ ยนั ย่อมประสบความสาเร็จ -พระพทธรูปซึ่งอยู่ในโบสถ์คือพระพทุ ธชินราช -ธรรมอนั ก่อให้เกดิ สันตสิ ุขคืออหิงสา -บุคคลผู้ไม่ประสงค์ออกนามบริจาค 1 ล้านบาท

3. วเิ ศษณานุประโยค -ประโยคย่อยทาหน้าทขี่ ยายกริยาหรือวเิ ศษณ์ มีประพนั ธวเิ ศษณ์ เป็ นคาเชื่อม – เมื่อ เพ่ือ เพราะ ตาม จน เหมือน นา้ ท่วมเพราะฝนตกหนัก (ผลอยูหน้า เหตุอยู่หลงั ) เธอมาเม่ือฉันไปแล้ว พ่อทางานหนกั เพื่อส่งลูกเรียน

เขาทาตามทคี่ รูสั่ง เธอเล่นนา้ นานจนเป็ นตะคริว เธอสวยอย่างทนี่ างงามยงั อาย เขาตกใจเหมือนถูกผหี ลอก ประโยคชนิดนี้ อาจเรียกเป็ นประโยคความรวม