การเปลยี่ นแปลงของเปลือกโลก บทนำ เปลือกโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เน่ืองจากไดร้ ับอิทธิพลจากส่ิงต่างๆ ท่อี ย่ใู ต้เปลือกโลก เป็นสาเหตุที่ทำให้ เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุ นอกจากน้ีเปลือกโลกยงั เปลี่ยนแปลงเนื่องจากอิทธิพลของสิ่งต่างๆ ที่อยู่บนผิวโลกได้เชน่ กนั แม้แต่วัตถุที่แข็งแกร่งอย่างอย่างหินกส็ ามารถพงั ทลายอยา่ งช้าๆ โดยอากาศน้ำแข็ง ปฏิกิริยาเคมี และสิ่งมีชีวิตซึ่งเป็นตัวการ สำคัญของการเปล่ยี นแปลงบนพืน้ ผิวโลก --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- การผุพงั อยกู่ บั ที่ เปน็ กระบวนการทีท่ ำให้หนิ ผุพังสลายตวั ลงเป็นเศษหินขนาดต่างๆกนั การผพุ ังอยู่กับที่แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ การผุพังทางกายภาพ (mechanical weathering) การผุพังทางเคมี (chemical weathering) และการผุพงั อยกู่ ับท่ที างชีวภาพ 1. การผพุ งั อยกู่ บั ทท่ี างกายภาพ เป็นการเปลยี่ นแปลงขนาดและรปู ร่างของหนิ เฉพาะ ภายนอกไมม่ กี ารเปล่ียนแปลงองประกอบภายในเน้ือหิน การเปล่ยี นแปลงดังกล่าวทำให้หินมีขนาดและรูปร่างเปล่ียนแปลงไป จากเดิม เช่น มีขนาดเลก็ ลง การผุพงั ทางกายภาพเกดิ จากปัจจยั ตา่ งๆทางกายภาพ ไดแ้ ก่ ประเภทและชนดิ ของหิน ลกั ษณะ โครงสร้างทางธรณีวิทยา การกระทำของน้ำ ลม ธารน้ำแข็ง แรงโน้มถ่วงของโลก สิ่งมีชีวิต และการเปลี่ยนแปลงของ อณุ หภมู ิ 2. การผุพงั อยูก่ ับท่ีทางเคมี เป็นการเปล่ยี นแปลงองคป์ ระกอบทางเคมีของหิน เนือ่ งจากปฏกิ ิรยิ าเคมีต่างๆ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้หินมีสมบัติเปล่ียนแปลงไปจากเดิม เชน่ นำ้ ท่ีมีสมบัติเป็นกรดคาร์ บอนิก เมื่อทำปฏิกิริยากับสารประกอบแคลเซียมคาร์บอเนตที่เป็นส่วนประกอบของหินปูนจะเกิดเป็นสารใหม่ คือ สารละลายแคลเซียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต ซง่ึ สามารถละลายน้ำได้ ปฏิกริ ิยาดังกล่าวจงึ ทำใหห้ ินปูนสึกกรอ่ นออกไป การ ผพุ งั ทางเคมเี กิดจากปัจจยั ตา่ งๆ ตามธรรมชาติได้แก่ การเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี ประเภทและชนิดของหนิ 3. การผุพังอยู่กับที่ทางชีววิทยา เป็นกระบวนการผุพังอยู่กับที่ที่เกิดจากการกระทำของสิ่งมีชีวิต เช่น การเจรญิ เตบิ โตของรากพืชมีผลใหร้ อยแตกในช้ันหนิ ขยายกว้างขึน้ ได้ นอกจากน้ีสตั ว์พวกไส้เดอื น มด ปลวก หนู จะนำหินหรือ เศษหนิ ขึ้นมาสัมผสั กับอากาศ ซึ่งจะทำใหเ้ กิดการผพุ งั ทางเคมีต่อไป การกร่อน เป็นกระบวนการที่ทำให้สารที่เป็นองค์ประกอบของเปลือกโลกหลุดออกหรือสลายตัวไปจากผิวโลก เช่น กระแสน้ำกดั เซาะเปลือกโลกให้พังทลายเปน็ ชนิ้ เลก็ ชน้ิ นอ้ ย พัดพาใหเ้ คลอื่ นไปตามแนวทางน้ำไหล เมอื่ ฝนตกนำ้ ไหลบ่าลงสู่ท่ีต่ำ ตามแรงโน้มถ่วงของโลกเกิดการกัดเซาะผิวหน้าดิน แล้วพัดพาไปทับถมภูมิประเทศที่มีพื้นที่ต่ำกว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดการกัด กรอ่ นมี ดังน้ี 1. การกร่อนของเปลอื กโลกเนอ่ื งจากกระแสน้ำ การกดั เซาะของกระแสนำ้ เกิดบริเวณรมิ ฝัง่ แมน่ ้ำ ลำคลอง ลำธาร เกิด การเปล่ียนแปลงไปอยา่ งชา้ ๆ ซ่ึงมีผลทำใหเ้ ปลือกโลกเกิดการเปล่ียนแปลง การกดั กรอ่ น การพัดพา และการทบั ถมของตะกอน เน่ืองจากกระแสน้ำสรปุ ไดด้ ังน้ี
จากรูป กระแสนำ้ ไหลตามลกู ศรจากซ้ายไปขวา เร่ิมจากลูกศรหมายเลข 1 กระแสนำ้ พ่งุ ปะทะชายฝั่ง ก ทำให้ชายฝั่ง ถูกกัดเซาะพังทลาย ตะกอนถูกพดั พาไป กระแสนำ้ จากลูกศรหมายเลข 2 พุ่งปะทะชายฝ่ัง ค ทำให้ถูกกัดเซาะเชน่ เดยี วกนั แต่ ตะกอนที่ถูกพัดพามา เมื่อถึงบริเวณที่กระแสน้ำไหลอ่อนลง จะเกิดตะกอนทับถมในบริเวณนั้น บริเวณ ข และ ง กระแสนำ้ ไหลอ่อนกว่า บริเวณ ก และ ค ดังนน้ั ตะกอยจงึ ทบั ถม ณ บรเิ วณ ข และ ง ทำให้เกิดแผน่ ดินยนื่ ออกมา ภาพแสดงการกดั กรอ่ นของกระแสนำ้ 2. การกร่อนของเปลือกโลกเนื่องจากปฏิกิริยาเคมี เกิดจากน้ำฝนละลายแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ออกไซด์ของ ไนโตรเจน แก๊สซลั เฟอรไ์ ดออกไซดใ์ นอากาศ ทำใหเ้ กดิ ฝนกรดไปกัดกร่อนเปลอื กโลกให้ผพุ ัง 3. การกัดกร่อนเปลือกโลกเน่ืองจากการเปล่ียนแปลงของอุณหภูมิ ทำให้เกิดการกัดกร่อนของเปลอื กโลกได้ เนื่องจาก อณุ หภูมิของอากาศทำให้เปลือกโลกเกิดการขยายตัวและหดตัว ถา้ การขยายตวั ของหินชั้นในกับหินช้นั นอกไม่เท่ากันอาจทำให้ หินเกดิ การแตกร้าวได้ และในบางครง้ั น้ำในโพรงกอ้ นหนิ กลายเปน็ น้ำแข็ง อาจทำใหเ้ กดิ การขยายตัวดันให้ก้อนหินแตกเป็นชิ้น เล็กๆ ได้ 4. การกัดกร่อนเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก ในธรรมชาติแรงโน้มถ่วงของโลกจะพยายามดึงดูดส่ิงต่างๆ ให้ตกลงสู่ พื้นผิวโลก และดึงดูดวัตถุให้เกิดการเคลื่อนที่จากที่สูงลงสู่ทีต่ ่ำกว่า เรียกว่า “ธารน้ำแขง็ ” ขณะเคลื่อนที่ก้อนน้ำแข็งที่มีขนาด ใหญ่และมมี วลมากจะกระแทกและขัดสีกบั ก้อนหนิ ในลำธาร ทำให้เปลือกโลกเกดิ การกดั กร่อนได้ 5. การกัดกรอ่ นเนอื่ งจากกระแสลม เชน่ บรเิ วณทีร่ าบสูง ทะเลทราย ภูเขาสงู ซ่งึ ได้รับอทิ ธิพลจากกระแสลมเป็นประจำ กระแสลมจะทำให้เปลือกโลกเกิดการกัดกร่อนได้เช่นกัน “กระแสลมนัน้ ทำใหเ้ ปลือกโลกกร่อนได้ และถ้ากระแสลมแรงหรอื มี
ความเร็วสูงจะทำให้เกิดการกรอ่ นได้มาก แต่ถ้าความแรงของกระแสลมลดลงหรอื มีส่ิงกีดขวางความเร็วของกระแสลมจะทำให้ เปลอื กโลกกรอ่ นได้น้อยกวา่ ” การกร่อนเน่ืองจากกระแสลมจะเกดิ กับผวิ ดนิ ท่ีแห้งแล้งขาดพชื ปกคลุม ตะกอนทีเ่ กิดจากการสึกกร่อนผพุ ัง ด้วยอิทธิพลของกระแสน้ำ ปฏิกิริยาเคมี ความร้อน และกระแสลมจะถูกพัดพาไป ด้วยความแรงของกระแสนำ้ หรือกระแสลม เมื่อความแรงลดลงจะเกดิ การทับถมของตะกอนท่ีพัดพามา การเกิดการทับถมของ ตะกอน ตะกอนจะทบั ถมกันเป็นช้ันๆ ตะกอนทมี่ ีขนาดใหญจ่ ะถูกพัดพาไปตกที่ใกล้ สว่ นตะกอนทมี่ ขี นาดเลก็ จะถูกพัดพาไปตก ที่ไกล การทับถมของตะกอนมีลักษณะแตกต่างกันไปตามลักษณะของ ภูมิประเทศและกระแสน้ำที่พัดผ่าน ดังนี้ การทบั ถมของตะกอนรูปพัด เกิดจากกระแสน้ำไหลจากภูเขาตกลงสู่ที่ราบต่ำกว่ามรี ่องน้ำ ขนาดใหญก่ ว่าร่องน้ำเดิมมาก ทำให้ เกิดการทบั ถมของตะกอนรูปพัด การทับถมของตะกอนรูปดินดอนสามเหลยี่ ม เกดิ จากการทบั ถมของตะกอนทีบ่ รเิ วณปากแม่น้ำ เป็นรูปสามเหลีย่ ม เนอื่ งจากกระแสน้ำบริเวณปากแมน่ ำ้ เคลอื่ นทชี่ ้าลง จงึ เกิดการทับถมของตะกอนอยู่ตลอดเวลา การพดั พา(transportation) และการทบั ถม (depostion) เป็นกระบวนการทตี่ อ่ เน่อื งจากการกรอ่ น เศษหิน กรวด ดนิ หรอื ตะกอนตา่ งๆ ทกี่ ระแสนำ้ พดั พา เรยี กวา่ วตั ถพุ ัดพา เม่ือไปเสียดสีหับหนิ อ่นื หรือท้องน้ำจะทำให้สกึ กรอ่ น และเมื่อการ ไหลของนำ้ ออ่ นกำลังหรือหยดุ ลง จะทำให้ตะกอนท่พี ัดพามาสะสมตวั ทับถมกันเปน็ ชัน้ ๆ มีลักษณะตา่ งๆ กนั ไปตามลักษณะของ พ้นื ท่ีท่ีกระแสน้ำพดั ผา่ น ตะกอนที่เกิดจากการสึกกร่อนผพุ งั ด้วยอิทธิพลของกระแสน้ำ ปฏิกิริยาเคมี ความร้อน และกระแสลมจะถูกพัดพาไป ดว้ ยความแรงของกระแสนำ้ หรือกระแสลม เมอื่ ความแรงลดลงจะเกิดการทบั ถมของตะกอนทพ่ี ัดพามา การเกิดการทับถมของตะกอน ตะกอนจะทบั ถมกันเปน็ ชนั้ ๆ ตะกอนท่มี ีขนาดใหญจ่ ะถูกพัดพาไปตกที่ใกล้ สว่ นตะกอน ทีม่ ขี นาดเล็กจะถูกพดั พาไปตกทไี่ กล การทับถมของตะกอนมีลกั ษณะแตกต่างกนั ไปตามลักษณะของภูมปิ ระเทศและกระแสน้ำที่ พดั ผา่ น ดงั น้ี 1) การทบั ถมของตะกอนรปู พดั เกดิ จากกระแสน้ำไหลจากภูเขาตกลงส่ทู ่ีราบตำ่ กว่า มีรอ่ งน้ำ ขนาดใหญก่ วา่ รอ่ งนำ้ เดิม มาก ทำให้เกดิ การทับถมของตะกอนรปู พัด 2) การทับถมของตะกอนรปู ดินดอนสามเหลีย่ ม เกิดจากการทับถมของตะกอนทีบ่ ริเวณปากแม่น้ำ เป็นรูปสามเหล่ยี ม เน่ืองจากกระแสนำ้ บริเวณปากแม่น้ำเคลอ่ื นทช่ี า้ ลง จึงเกดิ การทบั ถมของตะกอนอยู่ตลอดเวลา การทับถมของตะกอนที่เกิดจากลำน้ำ ทำให้เกิดลักษณะภูมปิ ระเทศท่ีสำคญั เช่น ทางน้ำโค้งตวดั หรือบึงโคง้ ที่ราบนำ้ ท่ัวถงึ เนินตะกอนรูปพดั ดนิ ดอนสามเหล่ียมปากแม่นำ้ เปน็ ต้น
ความรู้เพิ่มเติม การเคลื่อนทข่ี องแผ่นเปลือกโลก แผ่นเปลือกโลกทงั้ หมดไม่หยุดนง่ิ อยกู่ ับท่จี ะมกี ารเคลื่อนทตี่ ลอดเวลาใน 3 แบบ ได้แกก่ ารเคล่ือนทเี่ ขา้ หากนั แยกออกจากกนั และไถลตัวขนานออกจาก กันซ่งึ ผลของการเคลือ่ นทขี่ องเปลอื กโลกทำใหเ้ กิดปรากฎการณ์ต่าง ๆ ขึ้น เช่น แผน่ ดนิ ไหว เทือกเขา ภูเขาไฟ และกระบวนการเกิดแร่และหิน การกรอ่ น หมายถงึ กระบวนการทท่ี ำใหส้ ารเปลอื กโลกหลดุ ไป สาเหตุที่ทำใหเ้ ปลือกโลกเกดิ การกรอ่ น ได้แก่ กระแสน้ำ ปฏิกิริยาเคมี การเปล่ียนแปลงอณุ หภมู ิ แรงโนม้ ถว่ งของโลก กระแสลม และธารนำ้ แข็ง การกรอ่ นเนือ่ งจากกระแสนำ้ โดยกระแสนำ้ จะกดั เซาะฝงั่ และพัดพาตะกอนไป ถา้ พื้นทอ้ งน้ำที่มคี วามชนั มาก น้ำจะไหล แรง ทำให้เกิดการกร่อนของพืน้ ท้องนำ้ มาก และถ้าฝั่งแมน่ ้ำท่ีมีความโคง้ มาก กระแสน้ำจะมคี วามเรว็ มากกวา่ กระแสน้ำท่ีฝ่ังแม่น้ำ ด้านตรงข้าม จึงเป็นเหตุให้บริเวณฝั่งด้านโค้งมากเกิดการกร่อนของฝั่งแม่น้ำ และฝั่งแม่น้ำตรงข้ามตะกอนจะตกทับถม เพราะ ความเร็วของน้ำลดลง การทบั ถมของตะกอนอันเน่อื งมาจากการกรอ่ นและพัดพาโดยน้ำน้นั ตะกอนจะถูกพดั พามาและทับถมกัน เปน็ ช้ัน ๆ มีลกั ษณะต่าง ๆ กนั ตามแต่ลกั ษณะพนื้ ที่ทีก่ ระแสนำ้ พดั พาไป เช่น ตะกอนรปู พัด ท่ีราบนำ้ ทว่ มถึง ดนิ ดอนสามเหลี่ยม สันดอน การกร่อนเนือ่ งจากการเปลีย่ นแปลงอุณหภูมิ การเกิดกลางวันและกลางคืน ทำให้หินยืดตัวและหดตัวไม่เท่ากัน เกิด การแตกร้าวและกรอ่ นได้ หรือนำ้ ตามโพรงหนิ เมอื่ อุณหภมู ลิ ดลงจะกลายเปน็ น้ำแขง็ ซ่ึงมปี รมิ าณมากขนึ้ ดนั ให้หินแตกร้าวได้และ จะเกิดการกรอ่ นในเวลาตอ่ มา การกรอ่ นเน่อื งจากปฏิกิริยาเคมี = ฝนตกนำ้ ฝนจะละลายแกส๊ ต่างๆ ในบรรยากาศ เชน่ แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ (������������2) ทำให้น้ำฝนมสี ภาพเป็นกรด(กรดคาร์บอนิก(������2������������3)กรดกัดกรอ่ นหินได้ โดยเฉพาะหินปนู จะไดส้ ารละลาย แคลเซียมไฮโดรเจนคารบ์ อเนต ไหลไปตามเพดานถำ้ เมื่อไดร้ ับความร้อนจะสลายตวั ได้ แคลเซยี มคาร์บอเนตสะสม เปน็ หินยอ้ นลงมาจากเพดานถ้ำ และบรเิ วณพนื้ ถำ้ ทสี่ ารละลายหยดลงมา จะมกี ารสะสมแคลเซยี มคารบ์ อเนตขึน้ มาเรอื่ ยๆ กลายเป็นหินงอก การกร่อนเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก แรงโน้มถ่วงของโลกจะดึงดูดมวลของเปลือกโลกอยู่ตลอดเวลา ส่วนใดของ เปลือกโลกไมแ่ ข็งแรงจะแตกร้าวและร่วงหล่นสพู่ ้ืนดิน จงึ เกดิ การกร่อน การกร่อนเน่ืองจากกระแสลม กระแสลมจะพัดพาทรายและตะกอนฝนุ่ ไปขัดสีกบั หินซง่ึ โผล่ยน่ื ออกมาให้กร่อนได้ การ กรอ่ นจะมมี ากเม่ืออากาศแหง้ แลง้ หรือในบริเวณทะเลทราย หรือในบางครง้ั ตะกอนจะถูกพดั พาแลว้ ทับถมในลกั ษณะที่แตกต่าง กนั การกรอ่ นเนอ่ื งจากธารน้ำแขง็ ในบริเวณท่อี ยใู่ กลข้ ้วั โลก เมอ่ื ธารน้ำแข็งเคล่อื นลงสู่ทตี่ ่ำจะเสยี ดสกี ระทบกระแทก ทำ ใหเ้ กิดการกรอ่ นตลอดทางท่ีธารน้ำแขง็ ไหลผ่าน
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: