ชดุ ท3่ี คำสั่งรบั ค่ำและแสดงผล บตั รเนื้อหาท่ี 2 ฟังก์ชันแสดงผลข้อมลู ในเน้ือหาฟังก์ชันการแสดงผลข้อมูลของภาษา C มีฟังก์ชันท่ีใช้ในการแสดงผลลัพธ์ออกทางจอภาพ อยู่หลายฟังก์ชันที่จะกล่าวถึง ดังน้ีคือ ฟังก์ชัน printf( ), ฟังก์ชัน putchar( ) และฟังก์ชัน puts( ) ซึ่งแต่ ละฟงั กช์ ันมรี ายละเอยี ดของการใชง้ านดังน้ี ฟังก์ชัน printf( ) เป็นฟังก์ชันท่ใี ช้รบั ข้อมูลชนิดข้อความ (string) จากคยี บ์ อรด์ จากนัน้ นาข้อมลู ทีร่ บั เขา้ ไปเก็บไวใ้ น ตัวแปรสตริง (string variables) ทีก่ าหนดไว้ รูปแบบกำรใช้งำนฟงั กช์ นั printf(control string, argument list); โดยที่ control string คือ รหัสรปู แบบข้อมูลท่ีใชใ้ นการพิมพผ์ ลลพั ธ์ใช้รหัสเหมือนฟงั กช์ ัน scanf( ) และในฟงั กช์ ัน printf( ) นย้ี ังสามารถใช้รหัสควบคมุ เพือ่ ช่วยจัดรปู แบบการพิมพผ์ ลลพั ธ์ใหส้ วยงาม ขึ้น โดยท่ี control string จะตอ้ งเขยี นอยู่ภายใตเ้ คร่ืองหมาย “………” (double quotation) เชน่ เดยี วกับฟงั กช์ ัน scanf( ) argument list คอื ค่าคงที่ หรือตัวแปร หรอื นิพจน์ ในกรณีทมี่ คี ่าคงที่ ตวั แปร หรือนพิ จน์ หลาย ๆ ค่าใหใ้ ช้เครือ่ งหมาย , (comma) คั่นระหวา่ งคา่ คงที่ ตวั แปร หรือนพิ จนแ์ ตล่ ะคา่ ชุดกิจกรรมกำรเรียนรกู้ ำรเขยี นโปรแกรมภำษำคอมพวิ เตอร์ 1 รำยวชิ ำภำษำซี ง30243 ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 5
ชุดท3่ี คำส่ังรับคำ่ และแสดงผล ตำรำงที่ 3.2 แสดงรหสั รูปแบบข้อมูลท่ีสามารถใชใ้ นฟังกช์ นั printf( ) รหัสรปู แบบ ควำมหมำย (format code) ใชก้ บั ขอ้ มูลชนิดตัวอักขระตวั เดียว (single character : char) %c ใช้กบั ขอ้ มลู ชนดิ ตวั เลขจานวนเต็ม (integer : int) โดยสามารถใชก้ บั %d ตวั เลขฐาน 10 เท่าน้นั ใช้กับข้อมลู ชนิดตวั เลขจุดทศนยิ ม (floating point : float) %e ใชก้ ับขอ้ มูลชนดิ float และ double ตามลาดับ %f, %lf ใช้กบั ขอ้ มูลชนิด float ใช้กับข้อมูลชนิด short integer %g ใช้กับขอ้ มูลชนิด int โดยใชก้ บั ตัวเลขฐาน 8, ฐาน 10 และฐาน 16 %h ใช้กบั ข้อมูลชนิด int โดยสามารถใช้กบั ตวั เลขฐาน 8 เทา่ น้นั %l ใชก้ ับขอ้ มูลชนดิ unsigned int โดยใชก้ บั ตัวเลขฐาน 10 เท่าน้นั %o ใชก้ ับขอ้ มูลชนดิ int โดยสามารถใชก้ บั ตัวเลขฐาน 16 เท่านน้ั %u ใชแ้ สดงข้อมูลชนิด string %x ใช้แสดงคา่ address ของตัวแปรพอยน์ เตอร์ %s %p ตำรำงที่ 3.3 แสดงรหสั ควบคมุ ขอ้ มลู ท่ีสามารถใชใ้ นฟงั ก์ชัน printf( ) รหัสควบคมุ ควำมหมำย คำ่ ASCII (control code) Bell 007 \\a Backspace 008 \\b Horizontal tab 009 \\t Newline (line feed) 010 \\n Vertical tab 011 \\v From feed 012 \\f Carriage return 013 \\r Quotation mark (“) 034 \\” Apostrophe (‘) 039 \\’ ชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรกู้ ำรเขยี นโปรแกรมภำษำคอมพวิ เตอร์ 2 รำยวชิ ำภำษำซี ง30243 ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ี่ 5
ชุดท3่ี คำส่ังรับค่ำและแสดงผล รหัสควบคุม ควำมหมำย ค่ำ ASCII (control code) \\? Question mark (?) 063 \\\\ Backslash (\\) 092 \\0 Null (ศนู ย)์ 000 \\ooo Octal number (o) - \\xhh Hexadecimal number (h) - เพอื่ ใหเ้ กิดความเข้าใจการใชง้ านฟงั ก์ชัน printf( ) ได้ดยี ง่ิ ขน้ึ ควรศกึ ษาโปรแกรมตวั อยา่ งที่ 3.8, 3.9 และ 3.10 ดงั ตอ่ ไปน้ี ชุดกจิ กรรมกำรเรยี นรูก้ ำรเขยี นโปรแกรมภำษำคอมพิวเตอร์ 3 รำยวชิ ำภำษำซี ง30243 ช้นั มัธยมศึกษำปที ี่ 5
ชุดท3่ี คำสงั่ รับคำ่ และแสดงผล โปรแกรมตวั อยำ่ งที่ 3.8 แสดงโปรแกรมการใช้ฟงั ก์ชนั printf( ) พิมพ์ขอ้ ความออกแสดงทจ่ี อภาพ /* printf1.c */ #include<stdio.h> /* บรรทดั ที่ 1 */ #include<conio.h> /* บรรทดั ท่ี 2 */ void main(void) /* บรรทัดที่ 3 */ { /* บรรทัดที่ 4 */ clrscr( ); /* บรรทดั ท่ี 5 */ printf(\"Welcome to Thailand !!!\"); /* บรรทัดท่ี 6 */ getch( ); /* บรรทัดท่ี 7 */ } /* บรรทัดท่ี 8 */ ผลลพั ธท์ ่ไี ดจ้ ำกโปรแกรม Welcome to Thailand !!! คำอธบิ ำยโปรแกรม จากโปรแกรมตัวอย่างที่ 3.8 สามารถอธบิ ายการทางานของโปรแกรมทส่ี าคัญ ๆ ได้ดังตอ่ ไปน้ี บรรทัดที่ 6 คาสง่ั printf(“Welcome to Thailand !!!”); เป็นคาสัง่ ทีน่ าข้อความ Welcome to Thailand !!! แสดงที่จอภาพ และหยุดรอรับค่าใด ๆ จากคียบ์ อรด์ ซึ่งถ้าเรากด enter กจ็ ะกลบั สู่โปรแกรม ชดุ กจิ กรรมกำรเรียนรู้กำรเขยี นโปรแกรมภำษำคอมพิวเตอร์ 4 รำยวชิ ำภำษำซี ง30243 ช้นั มธั ยมศึกษำปที ่ี 5
ชดุ ท3่ี คำสั่งรบั ค่ำและแสดงผล โปรแกรมตัวอย่ำงท่ี 3.9 แสดงโปรแกรมการใช้ฟังกช์ ัน printf( ) ควบคู่กับ รหสั รูปแบบ %c และ %s เพอื่ แสดงขอ้ มูลท่ีจอภาพ /* printf2.c */ #include<stdio.h> /* บรรทัดที่ 1 */ #include<conio.h> /* บรรทดั ท่ี 2 */ void main(void) /* บรรทดั ท่ี 3 */ { /* บรรทดั ท่ี 4 */ char ch='A'; /* บรรทัดที่ 5 */ char str[]=\"Computer\"; /* บรรทดั ที่ 6 */ clrscr( ); /* บรรทดั ท่ี 7 */ printf(\"%5c \\t\\tCHARACTER %s\", ch, str); /* บรรทัดที่ 8 */ getch( ); /* บรรทัดท่ี 9 */ } /* บรรทัดท่ี 10 */ ผลลัพธท์ ่ไี ด้จำกโปรแกรม A CHARACTER Computer คำอธิบำยโปรแกรม จากโปรแกรมตัวอย่างท่ี 3.9 สามารถอธบิ ายการทางานของโปรแกรมที่สาคัญ ๆ ได้ดงั ต่อไปน้ี บรรทดั ท่ี 5 ประกาศตวั แปรชนิดอกั ขระ ช่อื ch ใหเ้ กบ็ ตัวอกั ษร A บรรทัดท่ี 6 ประกาศตวั แปรชุดชนดิ อกั ขระ ชอื่ str ให้เกบ็ ขอ้ ความ Computer บรรทัดท่ี 8 ใหน้ าค่าของตวั แปร ch มาแสดงตรงตาแหน่ง %c กอ่ นแสดงใหเ้ วน้ ช่องว่าง 5 ช่อง และพบ \\t \\t คือให้เว้น tab ไป 2 ครั้ง (tab 1 ครั้ง มี 8 ช่องว่าง) แล้วค่อยพิมพ์ข้อความ CHARACTER และนาข้อความที่เก็บในตัวแปร str มาแสดงตรงตาแหน่ง %s แลว้ หยดุ รอรบั ค่าใด ๆ จากคยี ์บอร์ด ซึง่ ถ้าเรากด enter กจ็ ะกลับสโู่ ปรแกรม ชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้กำรเขยี นโปรแกรมภำษำคอมพวิ เตอร์ 5 รำยวชิ ำภำษำซี ง30243 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ 5
ชดุ ท3ี่ คำสง่ั รับค่ำและแสดงผล โปรแกรมตวั อย่ำงที่ 3.10 แสดงโปรแกรมการใชฟ้ ังกช์ นั printf( ) ควบคู่กบั รหัสรปู แบบ %d, %c, %s และ %f เพ่ือแสดงข้อมลู ทจี่ อภาพ /* printf3.c */ #include<stdio.h> /* บรรทัดท่ี 1 */ #include<conio.h> /* บรรทดั ท่ี 2 */ void main(void) /* บรรทดั ท่ี 3 */ { /* บรรทัดที่ 4 */ int a=5, b=2; /* บรรทดั ท่ี 5 */ char c='D', d='F'; /* บรรทัดที่ 6 */ char e[20]=\"Thailand\"; /* บรรทัดที่ 7 */ float f = 9.5 , g; /* บรรทดั ที่ 8 */ clrscr( ); /* บรรทดั ที่ 9 */ b+=a; d+=5; g = f + 2.5; /* บรรทัดที่ 10 */ printf(\"%5d \\t%-5d\\n\",a, b); /* บรรทดั ท่ี 11 */ printf(\"%3c \\t%-3c\\n\",c--, ++d); /* บรรทัดท่ี 12 */ printf(\"%s\\n\",e); /* บรรทดั ท่ี 13 */ printf(\"%.3f \\t%-.3f\\n\", f+2, g); /* บรรทดั ท่ี 14 */ getch( ); /* บรรทดั ที่ 15 */ } /* บรรทดั ที่ 16 */ ผลลัพธ์ทีไ่ ดจ้ ำกโปรแกรม 57 Dl Thailand 11.500 12.000 ชุดกิจกรรมกำรเรยี นรูก้ ำรเขยี นโปรแกรมภำษำคอมพวิ เตอร์ 6 รำยวชิ ำภำษำซี ง30243 ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 5
ชดุ ท3ี่ คำส่งั รบั คำ่ และแสดงผล คำอธิบำยโปรแกรม จากโปรแกรมตัวอย่างที่ 3.10 สามารถอธบิ ายการทางานของโปรแกรมท่ีสาคญั ๆ ได้ดงั ต่อไปนี้ บรรทดั ท่ี 10 คาสง่ั b+ = a คอื b = b + a เพราะฉนั้น b = 2 + 5 = 7 คาส่งั d+ = 5 คอื d = d + 5 เพราะฉนัน้ d = ‘K’ คาสัง่ g = f + 2.5 คอื g = 9.5 + 2.5 = 12.0 บรรทดั ที่ 11 ใช้ฟงั ก์ชัน printf( ) พิมพข์ อ้ มูลชนดิ int ของตวั แปร a และ b โดยใช้รัส ควบคุม เป็น %d สาหรบั ตัวเลข 5 เปน็ การบอกใหเ้ ว้นชอ่ งวา่ ง 5 ช่องก่อนแล้ว ค่อยนาค่าตัวแปร a มาแสดง ส่วนเครอื่ งหมาย – หนา้ ตัวเลขเปน็ การบอกใหพ้ มิ พ์ ตวั เลขชิดซ้าย สาหรับรปู แบบการแสดงตวั แปร b บรรทดั ที่ 12 ใชฟ้ ังกช์ นั printf( ) พิมพ์ขอ้ มูลชนิด char โดยใชร้ หัสควบคุม %c ของตัว แปร c ก่อนแล้วคอ่ ยลดคา่ ตัวแปรลง 1 และ ++d คือ เพิม่ ค่าตวั แปร d ข้ึน 1 ค่ากอ่ นแล้วค่อยแสดงผลออกจอภาพ บรรทัดท่ี 13 ใชฟ้ ังกช์ ัน printf( ) พมิ พ์ขอ้ มลู ชนิด string โดยใชร้ หัสควบคุม %s ของตวั แปร e ออกจอภาพ บรรทัดท่ี 14 ใช้ฟงั ก์ชัน printf( ) พิมพข์ อ้ มูลชนดิ float โดยใช้รหัสควบคุม %f ของตัวแปร f + 2 คือ 11.500 (%3f คอื ทศนิยม 3 ตาแหน่ง) และแสดงค่าตวั แปร g ออก จอภาพ แล้วหยุดรอรับค่าใด ๆ จากคียบ์ อร์ด ซึ่งถ้าเรากด enter ก็จะกลับสู่ โปรแกรม ชดุ กิจกรรมกำรเรยี นรู้กำรเขยี นโปรแกรมภำษำคอมพิวเตอร์ 7 รำยวชิ ำภำษำซี ง30243 ช้ันมัธยมศกึ ษำปที ี่ 5
ชุดท3่ี คำสงั่ รบั ค่ำและแสดงผล ฟังก์ชัน putchar( ) เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการแสดงผลลัพธ์ออกจอภาพทีละ 1 ตัวอักขระ โดยลักษณะของฟังก์ชันนี้เป็น ฟังก์ชนั ท่ตี อ้ งการ argument 1 ค่าทีเ่ ปน็ ข้อมูลชนิด single character (char) รปู แบบกำรใช้งำนฟงั ก์ชัน putchar(char_argument); โดยท่ี putchar( ) คือ ฟงั กช์ ันทใี่ ชแ้ สดงผลลัพธท์ ีละ 1 ตัวอักขระออกทางจอภาพ char_argument คือ ตัวแปรชนดิ single character (char) เพื่อให้เกิดความเข้าใจการใช้งานฟังก์ชัน putchar( ) ได้ดียิ่งขึ้นควรศึกษาโปรแกรมตัวอย่าง ท่ี 3.11 และ 3.12 ดังต่อไปน้ี ชุดกิจกรรมกำรเรยี นร้กู ำรเขยี นโปรแกรมภำษำคอมพวิ เตอร์ 8 รำยวชิ ำภำษำซี ง30243 ชนั้ มัธยมศึกษำปีที่ 5
ชุดท3่ี คำสง่ั รับคำ่ และแสดงผล โปรแกรมตวั อย่ำงที่ 3.11 แสดงโปรแกรมการใช้ฟงั ก์ชนั putchar( ) เพ่อื แสดงข้อมลู ออกจอภาพ /* putchar1.c */ #include<stdio.h> /* บรรทัดท่ี 1 */ #include<conio.h> /* บรรทัดท่ี 2 */ void main(void) /* บรรทดั ที่ 3 */ { /* บรรทัดท่ี 4 */ char p; /* บรรทดั ท่ี 5 */ clrscr( ); /* บรรทัดท่ี 6 */ printf(\"Enter a single character :\"); /* บรรทดั ท่ี 7 */ p=getche( ); /* บรรทัดท่ี 8 */ printf(\"\\nYour character is ...%c\"); /* บรรทดั ท่ี 9 */ putchar(p); /* บรรทัดท่ี 10 */ getch( ); /* บรรทัดที่ 11 */ } /* บรรทดั ที่ 12 */ ผลลัพธ์ท่ไี ด้จำกโปรแกรม Enter a single character : t Your character is ...<<t คำอธิบำยโปรแกรม จากโปรแกรมตัวอย่างท่ี 3.11 สามารถอธบิ ายการทางานของโปรแกรมทีส่ าคญั ๆ ไดด้ งั ต่อไปน้ี บรรทัดที่ 8 ใชฟ้ งั ก์ชนั getche( ) โดยนาคา่ ที่รบั จากคยี ์บอรด์ ไปเกบ็ ไวใ้ นตวั แปร p บรรทัดที่ 10 ใชฟ้ ังก์ชนั putchar( ) โดยนาคา่ ท่เี ก็บไว้ในตวั แปร p ออกแสดงผลทจ่ี อภาพตรง ตาแหนง่ %c ในฟังก์ชัน printf( ) ของบรรทดั ที่ 9 แลว้ หยดุ รอรบั ค่าใด ๆ จาก คียบ์ อร์ด ซ่ึงถ้าเรากด enter ก็จะกลับส่โู ปรแกรม ชุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้กำรเขยี นโปรแกรมภำษำคอมพิวเตอร์ 9 รำยวชิ ำภำษำซี ง30243 ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 5
ชุดท3ี่ คำสัง่ รับคำ่ และแสดงผล โปรแกรมตวั อยำ่ งท่ี 3.12 แสดงโปรแกรมการใช้ฟงั ก์ชนั putchar( ) เพื่อแสดงขอ้ มูลออก จอภาพ และแทรกด้วยการใช้ฟังกช์ นั printf( ) ก่อนนาขอ้ มูลออกแสดงผล /* putchar2.c */ #include<stdio.h> /* บรรทดั ท่ี 1 */ #include<conio.h> /* บรรทดั ที่ 2 */ void main(void) /* บรรทดั ท่ี 3 */ { /* บรรทัดท่ี 4 */ char p; /* บรรทัดท่ี 5 */ clrscr( ); /* บรรทดั ท่ี 6 */ printf(\"Enter a single character : \"); /* บรรทัดที่ 7 */ p=getche( ); /* บรรทัดที่ 8 */ printf(\"\\nThank you !!!\"); /* บรรทัดที่ 9 */ printf(\"\\nYour character is ...%c\"); /* บรรทัดท่ี 10 */ putchar(p); /* บรรทดั ที่ 11 */ getch( ); /* บรรทัดที่ 12 */ } /* บรรทดั ท่ี 13 */ ผลลัพธท์ ่ไี ด้จำกโปรแกรม Enter a single character : r Thank you !!! Your character is ...<<r คำอธิบำยโปรแกรม โปรแกรมตัวอย่างที่ 3.12 จะทางานคล้ายกับโปรแกรมตัวอย่างที่ 3.11 โดยการเก็บค่าที่รับจาก คีย์บอร์ดไว้ในตัวแปร แล้วนาค่าที่เก็บไว้ในตัวแปรออกแสดงผลด้วยฟังก์ชัน putchar( ) ซ่ึงกอ่ นจะแสดงผลมี การใช้ฟังก์ชัน printf( ) พิมพ์ข้อความ Thank you !!! ออกมาแทรกก่อน 1 บรรทัด แล้วหยุดรอรับค่าใด ๆ จากคยี ์บอร์ด ซง่ึ ถา้ เรากด enter ก็จะกลับสโู่ ปรแกรม ชุดกจิ กรรมกำรเรยี นรกู้ ำรเขยี นโปรแกรมภำษำคอมพิวเตอร์ 10 รำยวชิ ำภำษำซี ง30243 ชั้นมธั ยมศึกษำปที ี่ 5
ชุดท3่ี คำส่งั รับคำ่ และแสดงผล ฟงั ก์ชัน puts( ) เป็นฟังก์ชันที่พิมพ์ข้อความออกแสดงทางจอภาพ โดยลักษณะของฟังก์ชันนี้เป็นฟังก์ชันที่ต้องการ argument 1 คา่ ทเ่ี ป็นชนิดขอ้ ความ (string constant) รูปแบบกำรใช้งำนฟังก์ชัน puts(string_argument); โดยที่ puts( ) คอื ฟงั กช์ ันทีใ่ ช้พิมพ์ข้อความออกทางจอภาพ string_argument คอื คา่ คงที่ชนิดสตริง (string constant) ซ่ึงคา่ คงทส่ี ตริงน้ี จะถูกพมิ พอ์ อกแสดงทางจอภาพผ่านฟงั กช์ นั puts( ) เพื่อให้เกิดความเข้าใจการใช้งานฟังก์ชัน puts( ) ได้ดียิ่งขึ้นควรศึกษาโปรแกรมตัวอย่าง ท่ี 3.13 ดังต่อไปน้ี ชุดกิจกรรมกำรเรียนร้กู ำรเขยี นโปรแกรมภำษำคอมพวิ เตอร์ 11 รำยวชิ ำภำษำซี ง30243 ช้ันมธั ยมศึกษำปีท่ี 5
ชุดท3่ี คำสัง่ รับคำ่ และแสดงผล โปรแกรมตวั อย่ำงท่ี 3.13 แสดงโปรแกรมการใชฟ้ ังก์ชัน puts( ) /* puts1.c / #include<stdio.h> /* บรรทดั ท่ี 1 */ #include<conio.h> /* บรรทัดที่ 2 */ void main(void) /* บรรทดั ที่ 3 */ { /* บรรทัดท่ี 4 */ clrscr( ); /* บรรทดั ที่ 5 */ printf(\"Computer Programming Language 1\"); /* บรรทัดที่ 6 */ puts(\" is your course.\" ); /* บรรทดั ที่ 7 */ getch( ); /* บรรทัดที่ 8 */ } /* บรรทัดที่ 9 */ ผลลพั ธ์ทไี่ ด้จำกโปรแกรม Computer Programming Language 1 is your course. คำอธิบำยโปรแกรม 12 จากโปรแกรมตัวอย่างท่ี 3.13 สามารถอธบิ ายการทางานของโปรแกรมท่สี าคัญ ๆ ไดด้ งั ตอ่ ไปนี้ บรรทัดท่ี 6 ใช้ฟังกช์ ัน printf( ) พมิ พข์ อ้ ความออกจอภาพ คือ Computer Programming Language 1 แสดงที่จอภาพ บรรทัดท่ี 7 ใช้ฟังกช์ นั puts( ) พมิ พข์ ้อความ is your course. ต่อทา้ ยของฟังก์ชัน printf( ) ในบรรทัดที่ 6 จะได้ Computer Programming Language 1 is your course. แลว้ หยุดรอรบั คา่ ใด ๆ จากคยี บ์ อรด์ ซึง่ ถ้าเรากด enter ก็จะกลับสู่ โปรแกรม ชุดกจิ กรรมกำรเรยี นรกู้ ำรเขยี นโปรแกรมภำษำคอมพิวเตอร์ รำยวชิ ำภำษำซี ง30243 ชั้นมธั ยมศึกษำปที ่ี 5
ชุดท3ี่ คำสงั่ รับคำ่ และแสดงผล สรปุ ทำ้ ยบท ฟังกช์ นั พ้นื ฐานที่ใชง้ านอย่เู ป็นประจาในการเขยี นโปรแกรมนน้ั คือ ฟังกช์ นั รับขอ้ มูลและ ฟงั ก์ชนั แสดงผลขอ้ มูล โดยฟงั กช์ ันรับขอ้ มูลมดี ังต่อไปน้ี 1. ฟงั กช์ ัน scanf( ) เปน็ ฟงั ก์ชันทีใ่ ช้ในการรับข้อมลู จากคีย์บอร์ดเขา้ ไปเกบ็ ไวใ้ นตวั แปรท่ี กาหนดไวโ้ ดยสามารถรบั ขอ้ มลู ที่เปน็ ตัวเลขจานวนเต็ม ตัวเลขทศนยิ ม ตวั อกั ขระตัวเดยี ว หรือ ข้อความกไ็ ด้ 2. ฟังก์ชนั getchar( ) เปน็ ฟงั กช์ ันทใ่ี ช้รับขอ้ มูลจากคียบ์ อร์ดเพียง 1 ตัวอักขระ โดย การรับข้อมลู ของฟังกช์ นั นี้จะต้องกดแป้น enter ทกุ ครั้งที่ปอ้ นข้อมลู เสรจ็ จึงทาใหเ้ ห็นขอ้ มูลทีป่ ้อน ปรากฏบนจอภาพด้วย ถา้ ต้องการนาข้อมลู ที่ป้อนผา่ นทางคียบ์ อร์ดไปใชง้ าน จะตอ้ งกาหนดตัวแปร ชนิด single character (char) ข้ึนมา 1 ตวั เพือ่ เก็บค่าข้อมูลทีร่ บั ผ่านทางคีย์บอรด์ ในทาง ตรงกันขา้ มถา้ ไมต่ ้องการใช้ข้อมลู ที่ป้อนผ่านทางคียบ์ อร์ดกไ็ ม่ต้องกาหนดตัวแปรชนดิ char ขึน้ มา 3. ฟงั ก์ชนั getch( ) เปน็ ฟงั กช์ นั ท่ใี ชร้ บั ข้อมูลเพยี ง 1 ตวั อกั ขระเหมอื นกับฟังกช์ ัน getchar( ) แตกตา่ งกันตรงทีเ่ ม่อื ใชฟ้ ังก์ชนั นร้ี บั ขอ้ มูล ขอ้ มูลท่ปี อ้ นเข้าไปจะไมป่ รากฏใหเ้ ห็นบน จอภาพและไม่ตอ้ งกดแป้น enter ตาม 4. ฟงั ก์ชนั getche( ) เปน็ ฟังก์ชนั ที่ใช้รบั ข้อมูลจากคียบ์ อรด์ เพยี ง 1 ตัวอักขระ เหมือน ฟงั ก์ชนั getch( ) แตกต่างกนั ตรงท่ีขอ้ มูลท่ีปอ้ นเข้าไปจะปรากฏใหเ้ หน็ บนจอภาพด้วย นอกน้ันมี การทางานและลักษณะการใช้งานเหมือนฟังก์ชนั getch( ) ทกุ ประการ 5. ฟังก์ชัน gets( ) เปน็ ฟงั กช์ ันท่ใี ช้รับขอ้ มลู ชนิดขอ้ ความ (string) จาก คียบ์ อร์ด จากนัน้ นาขอ้ มลู ทีร่ ับเข้าไปเก็บไว้ในตัวแปรสตรงิ (string variables) ท่กี าหนดไว้ สาหรับฟังกช์ ันแสดงผลข้อมลู มีดงั ตอ่ ไปนี้ฟงั ก์ชัน printf( ) เปน็ ฟงั กช์ นั ทใ่ี ช้ในการแสดงผลลัพธ์ออก ทางจอภาพ โดยสามารถกาหนดรหัสรปู แบบข้อมูล (format code) และ รหสั ควบคมุ (control code) ให้เหมาะสมกบั ข้อมูลและรปู แบบผลลัพธ์ทต่ี อ้ งการ 6. ฟงั กช์ ัน putchar( ) เป็นฟังกช์ ันทีใ่ ช้ในการแสดงผลลัพธ์ออกจอภาพทีละ 1 ตวั อักขระ โดยลักษณะของฟังกช์ นั น้เี ปน็ ฟงั ก์ชนั ทีต่ อ้ งการ argument 1 ค่าที่เปน็ ขอ้ มลู ชนดิ single character (char) 7. ฟังกช์ ัน puts( ) เปน็ ฟงั กช์ นั ทพ่ี มิ พ์ขอ้ ความออกแสดงทางจอภาพ โดยลักษณะ ของฟงั กช์ นั น้ีเปน็ ฟงั ก์ชันท่ีตอ้ งการ argument 1 ค่าท่เี ปน็ ชนิดขอ้ ความ (string constant) ชุดกจิ กรรมกำรเรยี นรกู้ ำรเขยี นโปรแกรมภำษำคอมพิวเตอร์ 13 รำยวชิ ำภำษำซี ง30243 ชน้ั มธั ยมศึกษำปีที่ 5
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: