Present
ความหมายของความกหามรายตขอลงกาารดตลาด
ความหมายของการตลาด กระบวนการในการดาเนินกิจกรรมทางธุรกิจเพื่อที่จะตอบสนองความตอ้ งการของผูบ้ ริโภคท้งั ในปัจจุบันและอนาคต โดยการเคล่ือนย้ายและการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธ์ิในสินคา้ และบริการต่าง ๆ จากผผู้ ลิตไปยงั ผบู้ ริโภค
กระบวนการแลกเปลยี่ น การตลาด (Marketing) ผู้ผลติ (Manufacturer) ผู้บริโภคหรือผู้ใช้ (Consumers or Users)ความสัมพนั ธ์ระหว่างการตลาดกบั ผู้ผลติ และผู้บริโภค
ประเดน็ สาคญั ของการตลาด 1. การเคล่ือนยา้ ยและเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธ์ิของสินคา้ หรือบริการ 2. การตอบสนองความตอ้ งการของผบู้ ริโภค 3. การตลาดตอ้ งประกอบดว้ ยส่วนที่สาคญั 4. การตลาดควรสร้างความพึงพอใจให้เกิดข้ึนแก่ท้งั สองฝ่ าย
ความสาคญั ของความกสาาครญั ตขอลงกาาดรตลาด
ความสาคญั ของการตลาด การตลาดสามารถตอบสนองความตอ้ งการของผู้บริ โภคในการซ้ื อสิ นค้าหรื อบริ การผูป้ ระกอบการสามารถใช้การตลาดในการสร้างรายได้ สร้างกาไร และความกา้ วหน้าให้แก่ธุรกิจหรือกิจการได้
ความสาคญั ของการตลาด 1. ความสาคญั ของการตลาดท่ีมีต่อธุรกิจ 2. ความสาคญั ของการตลาดท่ีมีต่อสังคมและเศรษฐกิจ
ความสาคญั ของการตลาดทม่ี ตี ่อธุรกจิ 1. การตลาดทาใหธ้ ุรกิจมีรายได้ 2. การตลาดช่วยลดตน้ ทุนต่อหน่วยในการผลิต 3. การตลาดมีส่วนผลกั ดนั ใหธ้ ุรกิจเกิดการศึกษาคน้ ควา้ 4. การตลาดช่วยเพ่ิมคุณค่าหรือสร้างอรรถประโยชน์แก่สินคา้ ของธุรกิจ 5. การตลาดให้บริการขอ้ มูลข่าวสารทางการตลาดแก่ธุรกิจ
การตลาดช่วยเพมิ่ คุณค่าหรือสร้างอรรถประโยชน์แก่สินค้าและบริการของธุรกจิ 1. ดา้ นรูปร่าง (Form Utility) 2. ดา้ นเวลา (Time Utility) 3. ดา้ นสถานท่ี (Place Utility) 4. ด้า น ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ค ว า ม เ ป็ น เ จ้า ข อ ง(Possession Utility 5. ดา้ นภาพลกั ษณ์ (Image Utility)
ความสาคญั ของการตลาด ทม่ี ีต่อสังคมและเศรษฐกจิ 1. การตลาดทาใหก้ ารกระจายสินคา้ และบริการเกิดการ ขยายตวั อยา่ งกวา้ งขวางยง่ิ ข้ึน 2. การตลาดทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใน การใชส้ ินคา้ และบริการของคนในสงั คม 3. การตลาดก่อใหเ้ กิดการขยายตวั ในการเลือกประกอบ อาชีพต่าง ๆ ไดม้ ากข้ึน
ความสาคญั ของการตลาด ทม่ี ตี ่อสังคมและเศรษฐกจิ (ต่อ) 4. การตลาดช่วยยกระดบั มาตรฐานการครองชีพของประชากรในสงั คมใหด้ ีข้ึน 5. การตลาดให้ข้อมูลข่าวสารเก่ียวกับผลิตภัณฑ์แก่ผบู้ ริโภคในสงั คม 6. การตลาดมีบทบาทต่อความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 7. การตลาดเป็นท่ีมาของเงินตราต่างประเทศ
วตั ถุประสงค์ของการตลาดวตั ถุประสงค์ของการตลาด
วตั ถุประสงค์ของการตลาด 1. เพ่ือตอบสนองความต้องการของผบู้ ริโภคและสงั คม 2. เพอ่ื ความสาเร็จในการดาเนินธุรกิจ
วตั ถุประสงค์ในด้านต่าง ๆ 1. ทบทวนยอดขาย 2. ทบทวนตลาดเป้าหมาย 3. ทบทวนปัญหาและโอกาสทางการตลาด 4. การกาหนดเกณฑห์ รือหลกั การท่ีสอดคลอ้ งกนั
1. ทบทวนยอดขาย (Review Sales Objectives) วตั ถุประสงค์ทางการตลาดตอ้ งเป็ นส่ิงท่ีสามารถวดั ได้ (Measurable) เป็ นตวั เลขที่ชดั เจนในเชิงปริมาณ
2. ทบทวนตลาดเป้าหมาย (Review Target Market) ว ัต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ ท า ง ก า ร ต ล า ด ค ว ร มีลกั ษณะที่เฉพาะเจาะจง (Be Specific) หรือสามารถคาดคะเนได้ ไม่ใช่การกาหนดลกั ษณะกวา้ ง ๆ
3. ทบทวนปัญหาและโอกาสทางการตลาด(Review of Problems and Opportunities) วตั ถุประสงค์ทางการตลาดต้องเน้น พฤติกรรมของตลาดเป้าหมาย มีการแกไ้ ข ปัญหาและการตอบรับโอกาสทางการตลาด
4. การกาหนดเกณฑ์หรือหลกั การที่สอดคล้องกนั (Formulate a Rationale) วตั ถปุ ระสงคท์ างการตลาดตอ้ งสามารถ ประเมินไดว้ ่าวตั ถุประสงคท์ างการตลาดมี ความสอดคลอ้ งหรือเป็ นเหตุเป็ นผลมาก นอ้ ยเพียงใด
ววิ ฒั นาการทางววิ ฒั กนาากรารตทาลงกาารดตลาด
ววิ ฒั นาการทางการตลาด เมื่อจานวนประชากรเพิ่มข้ึน มีการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน ทาให้มนุษย์เรียนรู้ถึงความแตกต่างของความสามารถระหว่างบุคคลในสังคมแลว้ นาผลผลิตไปแลกเปล่ียนกบั ส่ิงอ่ืน ๆ จึงเกิดระบบแลกเปล่ียนในเวลาต่อมา
ววิ ฒั นาการทางการตลาด 1. การใชร้ ะบบการแลกเปล่ียน 2. การใชร้ ะบบเงินตรา 3. การใชร้ ะบบตลาด 4. การใชร้ ะบบคนกลาง
1. การใช้ระบบแลกเปลย่ี น เม่ือการผลิตได้รับการพัฒนา มนุษย์รู้จักปรับปรุงการผลิต และมีการนาผลผลิตท่ีไดซ้ ่ึงเกินความตอ้ งการไปแลกเปลี่ยนในทางการคา้ กบั ส่ิงอื่น ๆ ท่ีตนมีความตอ้ งการแต่ไม่สามารถผลิตได้
ปัญหาของระบบการแลกเปลย่ี น 1. ปัญหาเกี่ยวกับความต้องการในสินค้าที่จะแลกเปลี่ยนไม่ตรงกนั 2. ปัญหาเกี่ยวกบั เวลาที่ตอ้ งการไม่ตรงกนั 3. ปัญหาเกี่ยวกบั สัดส่วนในการแลกเปล่ียนและการรักษาค่าของส่ิงท่ีเหลือ 4. ปัญหาเกี่ยวกบั ระยะทางท่ีอยหู่ ่างไกลกนั
2. การใช้ระบบเงนิ ตรา ระบบเงินตรา คือ การใชเ้ งินเป็ นส่ือกลางในการแลกเปล่ียน พฒั นาข้ึนเพื่อแกป้ ัญหาเก่ียวกบัค ว า ม ต้อ ง ก า ร สิ น ค้า ที่ จ ะ แ ล ก เ ป ล่ี ย น ไ ม่ ต ร ง กันและปัญหาเกี่ยวกบั สดั ส่วนในการแลกเปล่ียน
3. การใช้ระบบตลาด ระบบตลาดกาหนดข้ึนเพอื่ แกป้ ัญหาระยะทางในการแลกเปลี่ยนและระยะเวลาบางส่วน เพราะเมื่อพฒั นามาเป็นการซ้ือขายกนั ในช่วงเวลาที่ตลาดยงั คงดาเนินอยู่ จึงเป็ นการขจดั ปัญหาในดา้ นน้ีลงไดบ้ า้ ง
4. การใช้ระบบคนกลาง ระบบคนกลางไดพ้ ฒั นาข้ึนเพ่ือเป็นท่ีรวบรวมสินคา้ ต่าง ๆ ของผทู้ ่ีตอ้ งการจะขาย และเป็ นแหล่งที่จะกระจายสินคา้ เหล่าน้ันออกไป เพราะระบบเงินตราและระบบตลาด ไม่สามารถขจดั ปัญหาได้ท้งั หมด
ลกั ษณะการตลาด ใลนกั ษแณตะก่ลาระตลยาุคด ในแต่ละยุค
ลกั ษณะการตลาดในแต่ละยุค การตลาดเริ่ มข้ึ นเม่ื อมนุ ษย์ได้เร่ิ มมี การอยู่รวมกนั เป็ นกลุ่มสังคม มีความตอ้ งการสินคา้ และบริการ จึงทาใหเ้ กิดการซ้ือขายและการแลกเปลี่ยนระหวา่ งกนั การตลาดจึงแตกต่างกนั ไปแต่ละยคุ
ลกั ษณะการตลาดในแต่ละยุค แบ่งออกเป็นยคุ ที่สาคญั ได้ 4 ยคุ ไดแ้ ก่ 1. ยคุ การผลิต 2. ยคุ การขาย 3. ยคุ การตลาด 4. ยคุ โลกาภิวตั น์
1. ยุคการผลติ ยุคการผลิตเป็ นยุคเริ่มค้า มนุษย์มีความเป็ นอยู่อยา่ งเรียบง่าย จานวนประชากรยงั มีนอ้ ย คู่แข่งขนั มีไม่มาก การผลิตกย็ งั คงอาศยั แรงงานมนุษย์ ผลผลิตที่ไดจ้ ึงมีปริมาณไม่เพียงพอกบั ความตอ้ งการของผูบ้ ริโภคทาใหผ้ ผู้ ลิตหรือผขู้ ายไดเ้ ปรียบผบู้ ริโภค
2. ยุคการขาย เป็ นยุคที่มีการปฏิวตั ิทางอุตสาหกรรม ทาให้การผลิตสินคา้ เร่ิมเนน้ ที่คุณภาพของสินคา้ มากยง่ิ ข้ึน เริ่มมีคู่แข่งขนั ในการตลาดระหว่างผูผ้ ลิตหรือผูข้ าย จึงตอ้ งอาศยั การส่งเสริมการขายเขา้ ช่วย เพื่อเป็ นการกระตุน้ใหผ้ บู้ ริโภคหรือผูซ้ ้ือมีความตอ้ งการสินคา้
3. ยุคการตลาด มีการนาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้มากข้ึนจานวนประชากรและคู่แข่งขนั เพ่ิมสูงข้ึน ผูผ้ ลิตจะตอ้ งให้ความสาคัญกับกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาดรูปแบบต่าง ๆ เขา้ มาประกอบด้วยเพื่อทาให้สิ นค้าหรื อบริ การเป็ นท่ีรู้จักและเป็ นที่ตอ้ งการของตลาดมากที่สุด
4. ยุคโลกาภวิ ตั น์ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ด้า น เ ท ค โ น โ ล ยีที่ เ กิ ด ข้ึ น ใ นปัจจุบนั ทาให้ตลาดเกิดการขยายตวั เป็ นตลาดขนาดใหญ่ระดับโลก มีการลงทุนสูง ความเส่ียงภัยสูง คู่แข่งขนั มากข้ึน นกั การตลาดตอ้ งมีทกั ษะหลายดา้ นเพื่อรั บ มื อ ต่ อ ค ว า ม เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ท่ี เ กิ ด ข้ ึ น ต ล อ ด เ ว ล าสามารถบริหารการตลาดใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคไ์ ด้
การตลาดภายใต้ แนวคดิเศแนรวษคกดิาฐรเศตกรลษจิาดฐพกภจิาอยพใอเตพเ้พยียี งง
การตลาดภายใต้แนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ตลาดในยุคปัจจุบนั เป็ นของผูบ้ ริโภคอย่างแทจ้ ริง ซ่ึงการดาเนินทางการตลาดให้ประสบความสาเร็จน้นั นอกจากจะใชแ้ นวทางการตลาดเดิม ๆ แลว้ แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงตามพระบรมราโชวาทของรัชกาลที่ ๙ กเ็ ป็นอีกทฤษฎีหน่ึงท่ีสามารถนามาใชด้ าเนินงานทางการตลาดในยคุ การตลาดและการตลาดในยคุ โลกาภิวตั นไ์ ดอ้ ยา่ งดียงิ่
ข้อจากดั ของข้อกจาากดัรขตองลกาารตดลาด
ข้อจากดั ของการตลาด การดาเนินงานทางการตลาดมีส่วนทาให้สินคา้ และบริการจากผผู้ ลิตมาสู่ผบู้ ริโภคมีราคาสูงข้ึน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เกิดข้ึนจากการดาเนินกิจกรรมทางการตลาด ซ่ึงธุรกิจตอ้ งนามารวมเขา้ ไปในราคาสินคา้ท้งั สิ้น ทาใหผ้ บู้ ริโภคตอ้ งซ้ือสินคา้ หรือบริการในราคาท่ีสูงข้ึน
จรรยาบรรณจรนรยักาบกรราณรนตักกลาราตดลาด
จรรยาบรรณนกั การตลาด การดาเนินงานการตลาดต้ังอยู่บนพ้ืนฐานของความสัมพนั ธ์กับประชาชนในสังคม เกี่ยวเน่ืองกับเศรษฐกิจของประเทศ นักการตลาดที่ดีจะตอ้ งมีความรับผิดชอบต่อผลที่อาจเกิดจากการกระทาและกิจกรรมทางการตลาดท่ีดาเนินการ เพ่ือให้เกิดประโยชน์ต่อสงั คมและเศรษฐกิจของประเทศ
จรรยาบรรณนกั การตลาด แต่ทุกวันน้ี นักการตลาดท่ัวไปขาดคุณธรรมจริ ยธรรมต่อผู้บริ โภค ผู้ประกอบการ และสังคมสมาคมการตลาดแห่ งประเทศไทยจึงได้จัดทาจรรยาบรรณนักการตลาดข้ึนเป็ นแนวทางปฏิบัติเพ่ือให้อาชีพนักการตลาดเป็ นอาชีพท่ีมีเกียรติและศกั ด์ิศรีอยา่ งแทจ้ ริง
จรรยาบรรณนักการตลาด (ต่อ) 1. หลกั การทวั่ ไป 2. ดา้ นการพฒั นาผลิตภณั ฑแ์ ละบริการ 3. ดา้ นการต้งั ราคา 4. ดา้ นการกระจายสินคา้ 6. ดา้ นการวิจยั ตลาด 7. ขอ้ พงึ ปฏิบตั ิเกี่ยวกบั สมั พนั ธ์ภาพองคก์ ร 8. ขอ้ พงึ ปฏิบตั ิเกี่ยวกบั สภาพแวดลอ้ ม
Search
