ระบบสืบพนั ธุ์ (REPRODUCTIVE SYSTEM)
ส่ิงมีชีวติ ทง้ั หลายมีคุณสมบตั ิอย่างหน่ึงคือ มีการสืบพนั ธุ์ เพื่อการดารงเผ่าพนั ธุ์ของ สิ่ ง มี ชี วิ ต นั้น ๆ ก า ร สื บ พัน ธุ์ ก า ร เจริญเติบโต และพฒั นาการ และการสง่ ตอ่ ลักษณะต่างๆ ทางพันธุ กรรมไปให้ ลกู หลาน จะดาเนินไปไม่ไดเ้ ลยถา้ ปราศจาก การสืบพนั ธุ์ของเซลล์ หรือการแบ่งเซลล์ เซลลส์ ืบพนั ธุใ์ นเพศชาย คือ อสุจิ และเซลล์ สืบพนั ธุใ์ นเพศหญิง คือ ไข่ เมื่ออสุจิและไข่ มีการปฏิสนธิ จะมีการแบ่งเซลล์ เจริญและ พัฒนาจนเป็ นเอมบริโอ และเป็ นตัวที่ สมบูรณ์แลว้ เม่ือคลอดออกมาก็จะมีการ เจรญิ และพฒั นาอกี ครงั้ หนึ่ง จนกระทงั่ เขา้ สู่ วยั รุ่นจะมีการเจริญทางเพศท่ีสมบูรณ์ และ สามารถทจ่ี ะสบื พนั ธุไ์ ดอ้ กี
ระยะพฒั นาการของชวี ติ มนุษย์ ระยะพฒั นาการของชวี ติ มนุษย์ แบง่ ออกไดเ้ ป็นระยะตา่ งๆ ดงั น้ี 2. ระยะหลงั เกิด (Postnatal Life) 2.1 ระยะแรกเกิด (Period of Newborn) เริ่ม ต้งั แต่แรกเกิด จนถึงปลายสปั ดาห์ท่ี 2 1. ระยะกอ่ นเกิด (Prenatal Life) 2.2 ระยะทารก (Period of Infant) เร่ิมจาก 1.1 ระยะไข่สุก (Period of Ovum) สปั ดาห์ท่ี 3 จนถึงสิ้นปี ที่ 1 เริ่มตง้ั แตม่ ีการปฏิสนธิ(Fertilization) ไป 2.3 ระยะเด็กเลก็ (Period of Childhood) จนถึงปลายสปั ดาหท์ ่ี 2 1.2 ระยะเอมบรโิ อ (Period of Embryo) เริ่มจากสิ้นปี ท่ี 1 จนย่างเข้าสู่วยั รุ่น คือ ใน เด็กหญิงอายปุ ระมาณ 14 ปี และในเด็กชาย เรม่ิ จากสปั ดาหท์ ี่ 3 จนถึงปลายเดอื นท่ี 2 อายปุ ระมาณ 16 ปี 1.3 ระยะเป็นตวั (Period of Fetus) เริ่ม 2.4 ระยะวยั รุ่น (Period ofAdolescence) จากตน้ เดอื นท่ี 3 ไปจนถึงปลายเดือนที่ 9 หรือ จากระยะเริ่มเขา้ สู่วยั รุ่น จนถึงอายุ 20 ปี คลอด 2.5 ระยะผใู้ หญ่ (Period of Maturity) เริ่ม ต้งั แต่อายุ 20 ปี ไปจนถึงแก่ชรา
ระยะทมี่ นุษยม์ ีความพรอ้ มในการสบื พนั ธุ์ คอื ระยะตงั้ แตว่ ยั รุน่ ข้ึนไป รา่ งกายทง้ั ชาย และหญงิ จะมกี าร เปลีย่ นแปลงลกั ษณะทางเพศ (Secondary sex development) ผชู้ ายสว่ นใหญก่ ลอ่ งเสยี งจะยน่ื โตออกมา ทาใหม้ องเห็นเป็นลูกกระเดอื ก (Adam’s apple) เสยี งเรม่ิ เปล่ยี นหา้ วข้ึน มหี นวดเครา และ ขนทบ่ี รเิ วณอวยั วะสบื พนั ธุ์ รกั แร้ มีการขบั นา้ กาม และอสจุ อิ อกมา สว่ นใหญใ่ นหญงิ รูปรา่ งคอ่ ยเปล่ียนแปลงทลี ะ นอ้ ย สะโพกและทรวงอกขยายใหญ่ มขี นทบ่ี รเิ วณอวยั วะสบื พนั ธุ์ และรกั แร้ เรมิ่ มปี ระจาเดอื น (Menstruation) เสียงแหลม การเปล่ยี นแปลงดงั กลา่ ว เนื่องจากระบบสบื พนั ธุเ์ ตรยี มพรอ้ มเพ่ือการ สบื พนั ธุ์ อวยั วะทเี่ กี่ยวกบั การสบื พนั ธุ์ เรยี กวา่ โกแนด (Gonads) ในเพศชายคอื อณั ฑะ(Testis) สว่ นในเพศ หญงิ คอื รงั ไข่ (Ovary) โกแนดทาหนา้ ที่ 2 ประการ คอื 1. ผลติ อสจุ ิ (Spermatozoa) ในชาย และผลิตไข่ (Ova) ในหญงิ 2. ผลติ ฮอรโ์ มน และ ถ่ายทอดลกั ษณะการเปล่ียนแปลงทางเพศ
อวยั วะสบื พนั ธ์เุ พศชาย (Male GenitalOrgan) อวยั วะสบื พนั ธุเ์ พศชาย แบง่ เป็น 2 สว่ น คอื 1. อวยั วะสบื พนั ธ์ภุ ายนอก ไดแ้ ก่ ถุงอณั ฑะ ลึงค์ 1.1 ถงุ อณั ฑะ (Scrotum) เป็นสว่ นของผิวหนงั ที่ ไมม่ ไี ขมนั ใตผ้ วิ หนงั ยนื่ ลงมาจากหนา้ ทอ้ ง มกี ลา้ มเน้ือเรยี บ ปรากฏอยู่ (Dartus muscle) เป็นกลา้ มเน้ือทชี่ ว่ ย ปรบั อณุ หภูมขิ องอณั ฑะ ใหต้ า่ กวา่ อณุ หภมู ิของรา่ งกาย ประมาณ 3-5 องศาเซลเซยี ส 1.2 ลงึ ค์ (Penis) ทาหนา้ ทเ่ี ป็นทางผา่ นของปัสสาวะ และ เป็นอวยั วะในการรว่ มเพศ ลึงคเ์ ป็นเน้ือเยือ่ เกี่ยวพนั ชนิดพิเศษ โดยปกตจิ ะหดตวั อยู่ (Detumescence) แตถ่ า้ มี ความรูส้ กึ ทางเพศ จะสามารถแข็งตวั (Erection of penis) ได้
2. อวยั วะสบื พนั ธ์ุภายใน ไดแ้ กอ่ ณั ฑะ ทอ่ และตอ่ มตา่ งๆ 2.1 อณั ฑะ (Testis) เป็นอวยั วะสาคญั ทสี่ ุดในระบบสบื พนั ธุเ์ พศชาย ทาหนา้ ทสี่ รา้ งอสจุ ิ และฮอรโ์ มนเพศชาย อณั ฑะมลี กั ษณะรูปไขอ่ ยใู่ นถุง อณั ฑะ ทาหนา้ ทส่ี รา้ งฮอรโ์ มนเพศชาย คอื เทสโทสเตอโรน โดยมที อ่ นาอสุจิ ออกสภู่ ายนอก คอื เอพิดไิ ดมิส (Epididymis)
2.2 หลอดเกบ็ อสจุ ิ (Epididymis) เป็นทอ่ ขดไปมา วางตวั ตดิ กบั ดา้ นหลงั ของอณั ฑะ ประกอบดว้ ย สว่ นหวั สว่ นลาตวั และสว่ นหาง หลอดเก็บอสุจิ ยาวประมาณ 4-6 เซนตเิ มตร ทาหนา้ ทเ่ี ป็นที่ เก็บอสุจทิ สี่ รา้ งสมบรูณแ์ ลว้
2. ส่วนภายใน ไดแ้ ก่ รงั ไข่ มดลกู และ ชอ่ งคลอด 2.1 รงั ไข่ (Ovary) เป็นอวยั วะทส่ี าคญั ทส่ี ดุ ในระบบสบื พนั ธุเ์ พศหญงิ มอี ยู่ 2 ขา้ งในชอ่ งทอ้ งนอ้ ยยึดตดิ กบั มดลกู โดยเอ็น สว่ นดา้ นนอกยึดตดิ กบั ลาตวั ภายในรงั ไขจ่ ะพบไขม่ ากมาย ประมาณ 3-4 แสนใบ รงั ไขท่ า หนา้ ท่ี 2 อยา่ ง คอื สรา้ งไข่ และสรา้ งฮอรโ์ มนเพศหญงิ ไขใ่ บทส่ี ุกเต็มทแี่ ลว้ จะหลุดออกมาจากรงั ไข่ เรยี กวา่ การตกไข่ (Ovulation) ซงึ่ ถกู ควบคมุ และกระตนุ้ โดยฮอรโ์ มน LH และ FSH จากตอ่ มใต้ สมอง รงั ไขจ่ ะสรา้ งฮอรโ์ มนโพรเจสเตอโรน F ในรอบ 28 วนั ไขจ่ ะสุกเพียงในเดยี ว และ ระยะตกไขจ่ ะมเี วลาประมาณ 14 วนั หากไขไ่ มไ่ ดร้ บั การ ผสม ก็จะสลายไป และหลุดออกมาสภู่ ายนอกพรอ้ มๆ กบั ผนงั มดลูก เรยี กวา่ ประจาเดอื น (Menstruation) ประจาเดอื น จะหมดเม่ืออายุประมาณ 45-50 ปี 2.2 ท่อนาไข่ (Oviduct) เป็นทอ่ ซงึ่ ดา้ นหน่ึงตดิ กบั มดลกู อกี ดา้ นหนึ่งอสิ ระอยใู่ กลๆ้ รงั ไข่ เป็นทางผา่ นของ ไขแ่ ละอสุจิ ซงึ่ จะพบกนั ประมาณ 1 ใน 3 ของทอ่ นาไข่ 2.3 ช่องคลอด (Vagina) อยรู่ ะหวา่ งทวารหนกั กบั ปากทอ่ ปัสสาวะผนงั ดา้ นในมีเยื่อเมอื กบุอยู่ ยดื หดไดด้ ี ท่ี ปากชอ่ งคลอดมีกลา้ มเน้ือหูรูสามารถบงั คบั ได้ 2.4 มดลกู (Uterus) มขี นาดกวา้ ง 2 น้ิว ยาว 3 น้ิว และหนา 1 น้ิว อยใู่ นชอ่ งทอ้ งนอ้ ย ผนงั ยืดหดได้ มากเป็นพิเศษ และขยายตวั ไดม้ ากในเวลาตงั้ ครรภ์ ในระยะคลอด ฮอรโ์ มนออกซโิ ทซนิ จะกระตนุ้ ใหก้ ลา้ มเน้ือบรเิ วณน้ีหดตวั อยา่ งรุนแรง ทาใหค้ ลอดไดง้ ่ายข้นึ
การตง้ั ครรภ์ หญงิ สามารถมีบุตร หลงั จากมีประจาเดอื นแลว้ 3 ปี โดยเฉลยี่ หญงิ มบี ุตรไดเ้ มอ่ื อายุประมาณ 17 ปี พบวา่ มารดาทอ่ี ายุยงั นอ้ ยจะใหบ้ ุตรผิดปกติ เนื่องจากสภาพทางสรรี วทิ ยาของรา่ งกายยงั ไมพ่ รอ้ มทจี่ ะมีบุตร หญงิ พรอ้ มทจ่ี ะมีบุตรไดอ้ ยา่ งสมบูรณเ์ มื่ออายุ 21-28 ปี หลงั จากมกี ารรว่ มเพศแลว้ อสุจจิ ะเคลอื่ นผา่ นมดลูกเขา้ ไปทางทอ่ นาไข่ การบีบตวั ของมดลูก และทอ่ นาไข่ ก็มีผลชว่ ยทาใหอ้ สุจเิ คลื่อนทไี่ ดเ้ ร็วข้ึน อสุจเิ จาะเขา้ ไปผสมกบั ไขโ่ ดยอาศยั เอนไซมจ์ ากสว่ นหวั ของอสจุ ไิ ปยอ่ ยเยอื่ หุม้ ไข่ (Corona radiata) อสุจติ วั เดยี วเทา่ นนั้ ทส่ี ามารถผสมกบั ไขไ่ ด้ ซง่ึ หลงั จากการผสมแลว้ เรยี กวา่ ไซโกต จะเคล่ือนตวั มาฝังตวั ทผี่ นงั ชน้ั ในสดุ ของมดลกู การคลอด (Parturiticn) การตงั้ ครรภใ์ นคน กินเวลาประมาณ 270 วนั นบั ตง้ั แตก่ ารผสมของไข่ หรอื 284 วนั นบั ตงั้ แตว่ นั แรกของประจาเดอื นครง้ั สดุ ทา้ ย ในระยะสุดทา้ ยของการตง้ั ครรภ์ มดลกู จะบีบตวั เป็นครงั้ คราว และการบีบตวั น้ีจะเกิดบอ่ ยข้ึน ในระยะน้ี กลา้ มเน้ือมดลูกจะมีความไวในการตอบสนองตอ่ ออกซโิ ท ซนิ มากข้ึน เมอ่ื เรม่ิ เจบ็ ทอ้ ง ศีรษะของเดก็ ทด่ี นั ขยายสว่ นลา่ งของมดลูก จะมผี ลกระตนุ้ ใหม้ กี ารขบั ออกซโิ ทซนิ อ อกมามากข้นึ มีผลทาใหม้ ดลูกบบี ตวั แรงข้ึน ทาใหเ้ กิดการคลอดได้
การมีลูกแฝด การมลี ูกแฝด เกิดจากการแบง่ เซลล์ ของไขท่ ไี่ ดร้ บั การผสมแลว้ ผดิ ปกติ หรอื เกิดจากการสกุ ของไข่ ผดิ ปกติ ฝาแฝด แบง่ ออกเป็น 2 ลกั ษณะ คอื 1. ฝาแฝดแท้ (Indentical Twins) เกิดจากไขใ่ บเดยี วผสมกบั อสุจติ วั เดยี ว แตเ่ มอื่ มีการแบง่ เซลล์ แลว้ เกิดแยกออกเป็น 2 กลุม่ ฝังตวั อยใู่ นผนงั มดลูกทเี่ ดยี วกนั จนี สเ์ หมอื นกนั เด็กเพศเดยี วกนั หนา้ เหมอื นกนั และลาตวั จะตดิ กนั ดว้ ย 2. ฝาแฝดเทียม (Fraternal Twins) เกิดจากไข่ 2 ใบ และอสุจิ 2 ตวั ผสมกนั ฝังตวั ในผนงั มดลูก คนละทก่ี นั รกและถุงหุม้ ตวั ออ่ นแยกจากกนั แตล่ ะสว่ นจะแบง่ เซลลด์ ว้ ยตวั เอง จนี สต์ า่ งกนั เด็กจะไมต่ ดิ กนั อาจ เป็นเพศเดยี วกนั หรอื ตา่ งเพศ กนั ก็ได้ การเลอื กเพศบตุ ร C ในนา้ อสจุ ขิ องเพศชาย จะมีอสจุ อิ ยู่ 2 ชนิด คอื อสจุ ิ X และ อสจุ ิ Y โดยเฉพาะอสจุ ิ X จะมีขนาดใหญก่ วา่ และเคลือ่ นทไ่ี ดช้ า้ กวา่ อสจุ ิ Y C เมอ่ื อสจุ ิ X หรอื อสุจิ Y เดนิ ทางผา่ นชอ่ งคลอด ผา่ นเขา้ สปู่ ากมดลูก และเขา้ ไปผสมกบั ไขใ่ นทอ่ นาไข่ ไดน้ นั้ ข้ึนอยูก่ บั สภาพแวดลอ้ ม ในชอ่ งคลอด และปากมดลูกของเพศหญงิ C โดยปกตใิ นชอ่ งคลอดจะมสี ภาพเป็นกรด สว่ นบรเิ วณปากมดลูก และมดลกู มสี ภาพเป็นเบส ขณะทใ่ี กลไ้ ขส่ กุ หรอื ในขณะทเี่ พศหญงิ มคี วามรูส้ กึ ทางเพศถึงจดุ สุดยอด (Orgasm) นา้ เมือกจากมดลูกมเี พ่ิมมากข้ึน ทาใหบ้ รเิ วณปากมดลกู เป็นเบสมากข้ึน ในชอ่ งคลอดจะมีความเป็นกรดลดลง
C ถา้ ในสภาพทเ่ี ป็นกรด อสุจิ Y ซงึ่ มีขนาดเล็กกวา่ อสุจิ X ถูกทาลายก่อน แตใ่ นสภาพทเ่ี ป็นเบส ทงั้ อสุจิ X และ อสจุ ิ Y จะไมถ่ กู ทาลาย อสจุ ิ Y ซงึ่ มขี นาดเล็กกวา่ และเคล่ือนทไี่ ดเ้ ร็วกวา่ อสจุ ิ X M เมอ่ื ทราบความจรงิ ขอ้ น้ีแลว้ สามารถจะชว่ ยใหอ้ สจุ ิ X หรอื อสจุ ิ Y วา่ ยไปผสมกบั ไข่ เพื่อให้ ได้ บุตรทม่ี ีเพศตามความตอ้ งการได้ ถา้ ตอ้ งการบตุ รเพศหญงิ ใหร้ ว่ มเพศก่อนไขส่ กุ 2-3 วนั ก่อนรว่ มเพศใหล้ า้ งชอ่ งคลอดดว้ ยนา้ สม้ สายชู 2 ชอ้ นโตะ๊ ผสมนา้ 1 ลติ ร เพ่ือใหช้ อ่ งคลอดเป็นกรดมากข้นึ หญงิ ขณะรว่ มเพศไมค่ วรมคี วามรูส้ กึ ถึงจดุ สดุ ยอด เพราะจะทาใหน้ า้ เมอื กจากปากมดลกู ซงึ่ มีฤทธ์เิ ป็นเบสถูก ปลอ่ ยออกมา ขณะทชี่ ายหลง่ั นา้ อสจุ ไิ มค่ วรใหล้ ึงคอ์ ยลู่ ึก จดุ ประสงคเ์ พื่อใหอ้ สุจถิ ูกกรดในชอ่ งคลอดมากทสี่ ุด ถา้ ตอ้ งการบตุ รเพศชาย ควรรว่ มเพศเวลาไขส่ ุกมากทส่ี ุด หรอื เวลาทไ่ี ขส่ ุกพอดี ไดย้ ิง่ ดี เพราะสภาพ บรเิ วณปากมดลูกจะเป็นเบสมาก ข้นึ ลา้ งชอ่ งคลอดดว้ ยนา้ โซดาไฮโดรเจนคารบ์ อเนต 2 ชอ้ นโตะ๊ ผสมนา้ 1 ลิตร เพื่อใหช้ อ่ งคลอดมีสภาพเป็นเบส
การคุมกาเนดิ การคมุ กาเนิด เป็นการป้ องกนั การตงั้ ครรภ์ แบง่ ออกเป็น 2 แบบ คอื 1. การคมุ กาเนดิ แบบชว่ั คราว สามารถทาไดห้ ลาย วธิ ี ไดแ้ ก่ 1.1 การนบั ระยะปลอดภยั โดยไมร่ ว่ มเพศในระหวา่ ง วนั ที่ 11-17 ของรอบประจาเดอื น ซงึ่ ระยะปลอดภยั จรงิ ๆ คอื 7 วนั ก่อนมปี ระจาเดอื น และ อกี 7 วนั นบั ตง้ั แตว่ นั มีประจาเดอื นรวมเป็น 14 วนั 1.2 การใชย้ าคมุ กาเนิด ทงั้ ชนิดฉดี หรอื ยาเม็ด รบั ประทาน ซงึ่ มีผลป้ องกนั การสกุ ของไข่ 1.3 การใชห้ ว่ งคมุ กาเนิด 1.4 การใชว้ สั ดุอนื่ ๆ คมุ กาเนิด เชน่ โฟม เยล 1.5 การใชถ้ ุงยางอนามยั สาหรบั เพศชาย 1.6 การหลงั่ นา้ อสุจภิ ายนอก 1.7 การทาแทง้
2. การคุมกาเนดิ แบบถาวร ไดแ้ ก่ 2.1 การทาหมนั ในเพศหญงิ โดยการผูก หรอื ตดั ทอ่ นาไข่ มี 2 แบบ คอื การ ทาหมนั เปียกภายหลงั คลอดใหมๆ่ และ การทาหมนั แหง้ ในระยะอนื่ ๆ 2.2 การทาหมนั ในเพศชาย โดยการผกู หรอื ตดั ทอ่ นาอสจุ ิ
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: