379 คาชี้แจง การใชช้ ดุ กจิ กรรมสง่ เสรมิ ศักยภาพการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ดว้ ยเทคนคิ ATLAS 1. ชุดกจิ กรรมส่งเสรมิ ศกั ยภาพการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ด้วยเทคนคิ ATLAS หน่วยการเรียนร้เู ร่ือง การจาแนกสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 เป็นเอกสารที่ ใชป้ ระกอบการเรยี นมีท้งั หมด 7 ชุด ดงั นี้ ชดุ ที่ 1 เรอื่ ง การแยกสาร ชุดท่ี 2 เรอ่ื ง การแยกสารเนอ้ื ผสม ชุดที่ 3 เร่ือง การแยกสารเนื้อเดียว ชุดที่ 4 เรื่อง ธาตุ ชุดที่ 5 เร่อื ง สมบัติของธาตุ ชุดที่ 6 เร่อื ง ธาตกุ ัมมันตรงั สี ชุดท่ี 7 เรอ่ื ง สารประกอบ 2. ชุดกจิ กรรม ฉบับนเี้ ป็นชดุ กจิ กรรมสง่ เสริมศักยภาพการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ด้วยเทคนิค ATLAS ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ชดุ ที่ 1 เรอ่ื ง การแยกสาร ใช้เวลาเรยี น 2 ชวั่ โมง 3. ชดุ กิจกรรมส่งเสริมศกั ยภาพการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ด้วยเทคนคิ ATLAS ชุดนี้ ประกอบดว้ ย คาชแ้ี จง ขอ้ แนะนา ลาดับขน้ั ตอน การใช้ชุดกจิ กรรม สาระสาคญั ตัวชี้วัด จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน แบบฝกึ กจิ กรรมส่งเสรมิ ศกั ยภาพการเรียนรู้เทคนคิ ATLAS กิจกรรมติดตามผล (Fllow-up) แบบทดสอบหลงั เรยี น เฉลยแบบฝกึ กิจกรรมส่งเสรมิ ศกั ยภาพการเรียนรูเ้ ทคนิค ATLAS เฉลยกจิ กรรมติดตามผล (Fllow-up) และเฉลยแบบทดสอบ กอ่ นเรียนและหลังเรียน
380 ขอ้ แนะนา การใชช้ ุดกิจกรรมสง่ เสริมศักยภาพการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ดว้ ยเทคนคิ ATLAS 1. อ่านคาช้ีแจง และลาดับขั้นตอนการเรียนชุดกิจกรรมส่งเสริมศกั ยภาพการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ดว้ ยเทคนิค ATLAS กอ่ นทีจ่ ะศึกษาชดุ กจิ กรรม 2. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นเพ่ือประเมินความรู้พนื้ ฐานของนักเรียน 3. ศึกษาชุดกิจกรรมสง่ เสริมศกั ยภาพการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ดว้ ยเทคนคิ ATLAS โดยปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนาสาหรบั นักเรยี นและคาชี้แจงท่ีระบุไว้ ในแบบฝึกกจิ กรรมสง่ เสรมิ ศักยภาพการเรยี นรู้ และกิจกรรมติดตามผล (Fllow-up) ใหค้ รบถว้ นทุกเรือ่ ง 4. หากนกั เรยี นยงั ไม่เข้าใจในสาระการเรยี นรูใ้ หก้ ลับไปศกึ ษาอีกครั้งและขอคาแนะนา จากครูเพ่ือให้เกิดความเข้าใจมากยิง่ ขนึ้ 5. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพื่อเปรียบเทียบความก้าวหนา้ ในการเรยี นของนกั เรยี น 6. ในการทากจิ กรรมใหน้ ักเรยี นทาดว้ ยความตั้งใจและมีความซื่อสัตยต์ อ่ ตนเองให้มากท่ีสดุ โดยไมด่ ูเฉลยก่อน
381 ลาดบั ขน้ั ตอนการเรียน ชุดกจิ กรรมสง่ เสรมิ ศักยภาพการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ดว้ ยเทคนิค ATLAS อ่านคาชแี้ จง / ข้อแนะนา ทดสอบก่อนเรียน กิจกรรมการเรยี นรู้ -ศึกษาสาระการเรยี นรู้ -ทากิจกรรมสง่ เสรมิ ศักยภาพการเรยี นรู้ -ทากจิ กรรมตดิ ตามผล (Fllow-up) ทดสอบหลงั เรยี น ผา่ นเกณฑ์ (80 %) ไม่ผ่านเกณฑ์ (80 %)
382 ศึกษาชดุ กิจกรรม ชดุ ตอ่ ไป ผังมโนทัศน์สาระการเรยี นรชู้ ดุ กิจกรรม สง่ เสรมิ ศกั ยภาพการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ด้วยเทคนคิ ATLAS หนว่ ยการเรียนรูเ้ รอ่ื ง การจาแนกสาร สญั ลักษณ์ของธาตุ สมบัตขิ องธาตุ การแยกสาร ธาตุ ประโยชน์ เน้อื ผสม ของธาตุและ การจาแนกสาร สารประกอบ การแยกสาร สารประกอบ
383 การแยกสาร ความหมาย เน้ือเดยี ว สารประกอบ สาระสาคญั การแยกสาร คอื กระบวนการแยกสารผสมใหบ้ ริสุทธ์ิด้วยกระบวนการต่าง ๆ โดยอาศัยความ แตกตา่ งของสมบัติทางกายภาพและทางเคมีของสารมาใชเ้ ปน็ เกณฑ์ในการแยกสารผสมออกจากกัน การแยกสารมี 2 ประเภท คอื 1. การแยกสารเนือ้ ผสม เช่น การกรอง การกลนั่ การระเหย การ ตกตะกอน การตกผลกึ เปน็ ต้น 2. การแยกสารเนอื้ เดียว เช่น การกลนั่ การสกดั ดว้ ยตัวทาละลาย โครมาโทกราฟี เปน็ ตน้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม เมอื่ นักเรียนศกึ ษาบทเรยี นจบแล้ว นกั เรยี นสามารถทาสิ่งตอ่ ไปนี้ได้ จดุ ประสงค์ดา้ นความรู้ (K) 1. บอกความหมายของการแยกสารได้
384 2. บอกวิธกี ารแยกสารผสมได้ จุดประสงค์ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) 1. ออกแบบวธิ ีการแยกสารผสมออกจากกันด้วยวิธีการอยา่ งงา่ ยได้ 2. เลือกใช้อปุ กรณ์หรือเครื่องมอื ที่เหมาะสมสาหรับการแยกสารทต่ี ้องการได้ 3. กระบวนการกลมุ่ 4. การนาเสนอข้อมลู จุดประสงค์ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 3. มวี นิ ัย 4. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต 5. มีจิตสาธารณะ คาแนะนาสาหรบั นักเรยี น 1. ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้นี้ใช้เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง 2. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มจานวน 7 กลมุ่ กลุ่มละ 5 คน คละความสามารถ เลือกประธานกลุ่ม กรรรมการ และเลขานกุ าร 3. แตล่ ะคนเข้ากลุ่มตามทีแ่ บ่งไว้เพ่อื ร่วมกนั ศกึ ษา 4. นักเรียนศึกษาชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ตง้ั ใจอ่านขอ้ ความ ศกึ ษาเนอ้ื หา ทาความเขา้ ใจให้ดี ตั้งแต่หน้าแรกถึงหนา้ สุดท้ายตามลาดบั อย่าข้ามข้ันตอน 5. เม่ือพบคาชีแ้ จงหรอื คาถามในแต่ละชดุ ใหอ้ ่านและตอบคาถามอย่างรอบคอบ 6. ถ้าสงสยั อะไรใหถ้ ามครู 7. เมอื่ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเรยี บรอ้ ยแลว้ ใหน้ ักเรยี นเกบ็ อุปกรณแ์ ละทาความสะอาดใหเ้ รยี บร้อย
385
386 แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การแยกสาร คาชแ้ี จง 1. ข้อสอบมที ั้งหมด 10 ขอ้ เวลาในการทา 10 นาที 2.. ใหน้ ักเรียนเลอื กทาเคร่ืองหมายกากบาท () ลงในข้อที่เหน็ ว่าถูกต้องทสี่ ดุ 1. ข้อใดคอื สง่ิ ท่ตี อ้ งพจิ ารณาอันดับแรก เมอื่ จะแยกสารออกจากกัน ก. จุดเดอื ดหรอื จดุ เยอื กแข็งของสาร ข. ความสามารถในการละลายของสาร ค. การเปน็ สารเนื้อเดยี วหรือสารเนอ้ื ผสม ง. สมบัติทแี่ ตกต่างกนั มากทส่ี ดุ ของสาร …………………………………………………………………………………………………….…………………………………………. 2. ถ้ามีผงถ่านปนอยใู่ นน้าตาลทราย นักเรียนจะแยกสารท้ังสองออกจากกันดว้ ยวิธีการใด ก. ละลายน้าแลว้ กลัน่ ข. ละลายนา้ กรอง แลว้ ต้มด้วยถว้ ยกระเบอ้ื ง ค. ใชต้ ะแกรงรอ่ นออก ง. ละลายนา้ แลว้ ทาโครมาโทกราฟี ………………………………………………………………………………………………………….……………………………………. 3. ข้อใดไมใ่ ชว่ ธิ ีแยกสารเนอื้ ผสม ก. การระเหย ข. การกรอง ค. โครมาโทกราฟี ง. การใช้กรวยแยก ……………………………………………………………………………………………………………….………………………………. 4. การคน้ั นา้ กะทิเป็นวิธกี ารแยกกากมะพร้าวออกจากนา้ กะทดิ ว้ ยวิธใี ด ก. การกรอง ข. การใชม้ ือหยิบ ค. การตกตะกอน ง. การระเหยแหง้ …………………………………………………………………………………………………………………..……………………………. 5. นาของเหลวชนดิ หน่งึ ไประเหยแหง้ พบว่าไมม่ ีสารใดเหลือในภาชนะเลยการสรปุ ท่ีดีที่สุดเกีย่ วกบั ของเหลวชนิดนค้ี อื ขอ้ ใด ก. เปน็ สารละลาย ข. เป็นสารบริสทุ ธิ์ ค. เป็นตัวทาละลาย ง. ไมม่ ีของแขง็ เป็นองคป์ ระกอบเลย …………………………………………………………………………………………………………………..……………………………. 6. สารในขอ้ ใดท่ีสามารถแยกออกจากกันไดโ้ ดยใชต้ ะแกรงร่อน ก. พริกผสมเกลอื ข. ผงตะไบเหล็กกบั แปง้ ค. ผงตะใบเหลก็ กับนา้ ตาลทราย ง. นา้ เกลอื ผสมกบั น้ามนั ……………………………………………………………………………………..…………………………………………………………. 7. สารในข้อใดท่ีแยกออกจากกนั ไดง้ ่ายโดยอาศัยแท่งแมเ่ หล็ก ก. พรกิ ผสมเกลือ ข. ผงตะไบเหล็กกับแป้ง ค. ผงตะใบเหลก็ กับนา้ ตาลทราย ง. นา้ เกลือผสมกบั น้ามัน
387 8. น้าเกลือผสมกบั น้ามันนักเรยี นจะแยกสารทงั้ สองออกจากกนั ด้วยวิธีการใด ก. ละลายน้า แล้วกล่ัน ข. ใช้หลอดหยดดูดนา้ มันทีอ่ ยู่ด้านบนออก ค. ละลายน้า กรอง แล้วตม้ ด้วยถว้ ยกระเบื้อง ง. ใชห้ ลอดหยดดูดน้ามันที่อยู่ดา้ นบนออกแลว้ นาสารทีเ่ หลือไประเหยแห้ง ………………………………………………………………………………………….……………………………………………………. 9. สารใดทน่ี ามาผสมนา้ แลว้ จะแยกออกจากกนั โดยวิธกี ารกรอง และการระเหยแห้ง ก. พรกิ ผสมเกลอื ข. ผงตะไบเหล็กกับแป้ง ค. ผงตะใบเหล็กกับนา้ ตาลทราย ง. นา้ เกลอื ผสมกับนา้ มนั ………………………………………………………………………………………….……………………………………………………. 10. สารในขอ้ ใดที่สามารถแยกออกจากกันได้โดยวธิ ีการเขย่ี หรือหยบิ ออกได้ ก. พิมเสนกบั เกลอื แกง ข. กามะถนั กบั ผงตะไบเหลก็ ค. ลกู เหมน็ กับผงถ่าน ง. ดินกบั ผงชูรส
388 กระดาษคาตอบก่อนเรียน-หลังเรียน เรือ่ ง การแยกสาร ชอ่ื ..............................นามสกุล................................ช้นั .........เลขท.ี่ ......... ทดสอบกอ่ นเรียน ทดสอบหลงั เรยี น ขอ้ ท่ี ก ข ค ง ข้อที่ ก ข ค ง 1. 1. 2. 2. 3. 3. 4. 4. 5. 5. 6. 6. 7. 7. 8. 8. 9. 9. 10. 10. รวม....................คะแนน รวม....................คะแนน
389 สรปุ ผลการเรียน ประเมนิ ผล กอ่ นเรยี น หลงั เรยี น พฒั นา คะแนนเตม็ 10 10 ได้ กิจกรรมท่ี 1.1 เรอื่ ง ความหมายของการแยกสาร เร กิจกรรมสง่ เสริมศกั ยภาพการเรยี นร้เู ทคนคิ ATLAS การอ่านทส่ี ง่ เสริมศักยภาพการเรยี นรู้ (Active Reading) : การเน้นคา (Emphasis) จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ บอกความหมายของการแยกสารได้ คาชแี้ จง ให้นักเรยี นปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตามขน้ั ตอนต่อไปน้ี 1. ศกึ ษาเน้ือหาสาระ เรือ่ งความหมายของการแยกสาร 2. ทากิจกรรมส่งเสริมศักยภาพการเรียนรเู้ ทคนิค ATLAS โดย อา่ นเน้อื หาขอ้ มลู ขา้ งล่าง แลว้ ทาตามข้อแนะนาดังนี้ ขีดเส้นใต้สแี ดงขอ้ ความ ที่แสดงความหมายของการแยกสาร ขดี เส้นใต้สนี ้าเงนิ ข้อความทีแ่ สดงประเภท ของการแยกสาร ขีดเสน้ ใต้สีเขยี วข้อความท่แี สดงถึงความหมายของสารเน้อื ผสม และสารเน้ือเดียว (5 คะแนน)
390 การแยกสาร คือ กระบวนการแยกสารผสมใหบ้ รสิ ุทธิด์ ้วยกระบวนการตา่ งๆ โดย อาศยั ความแตกตา่ งของสมบัติทางกายภาพและทางเคมีของสารมาใช้เป็นเกณฑ์ในการแยก สารผสมออกจากกนั การแยกสารโดยท่ัวไปมี 2 ประเภท ได้แก่ 1. การแยกสารเนอื้ ผสม เช่น การกรอง การระเหิด การตกตะกอน การใชก้ รวยแยก การใช้มือหยิบ การระเหยแห้ง การ ใช้อานาจแม่เหล็ก การหลอมเหลว เป็นตน้ 2. การแยกสารเน้ือเดยี ว เช่น การสกดั สาร การกลน่ั โครมาโทกราฟี เป็นต้น สารเนือ้ ผสม ( Heterogeneous Substance ) หมายถึง สารท่มี ีลักษณะของเนอื้ สารคละกัน ไมผ่ สมกลมกลืนเป็นเนอื้ เดยี วกัน สารทเ่ี ป็นสว่ นผสมแตล่ ะชนิดกย็ ังคงแสดง สมบตั ขิ องสารเดมิ เพราะเป็นการรวมกนั ทางกายภาพไมม่ กี ารเปล่ียนแปลงทางเคมี เกิดขน้ึ เราสามารถใชต้ าเปล่าสงั เกตและจาแนกได้ว่าสารเนอ้ื ผสมนัน้ ประกอบดว้ ยสาร ใดบ้าง และสามารถแยกสารเหล่านนั้ ออกจากกันได้โดยวิธีทางกายภาพธรรมดา โดยไม่ทา ใหส้ มบัตเิ ดิมเปลยี่ นแปลงไป ภาพท่ี 1.1 ภาพท่ี 1.2 สารเนือ้ เดียวก(าHรoกmรอoงgeneous Substance )กหามราใชย้กถรึงวสยาแรยทก่มี ีลกั ษณะของเน้อื สารผสมกลมกลืนกันเปน็ เนือ้ เดียว และมอี ตั ราสว่ นของผสมเท่ากัน ถ้านาสว่ นใดสว่ นหนงึ่ ของสารเน้ือเดียวไปทดสอบจะมีสมบัติเหมอื นกนั ทุกประการ เชน่ น้ากล่นั และเกลอื แกงเปน็ สารเนอ้ื เดยี ว เมอื่ นาเกลอื แกงใสใ่ นน้าแล้วคนใหล้ ะลายจะไดส้ ารละลายน้าเกลือ ซงึ่ เป็นสาร เน้ือเดยี วที่มีอัตราส่วนของน้าและเกลือแกงเหมอื นกนั ทุกส่วน ภาพที่ 1.3 ภาพท่ี 1.4 การสกดั โดยวธิ ีการกลน่ั ดว้ ยไอนา้ การกล่ันแบบธรรมดา
391 กิจกรรมติดตามผล (Fllow-up) คาชแ้ี จง รปู ภาพที่กาหนดใหต้ ่อไปน้เี ป็นวธิ ีการแยกสารเน้อื เดียว หรือการแยก สารเนือ้ ผสม (5 คะแนน) …………………………………… …………………………………… ……………………………..……. .
392 …………………………………… …………………………………… ….……………………..………. ………………. …………………………………… …………………………………… ….……………………..………. ………………. …………………………………… …………………………………… ….……………………..………. ………………. …………………………………… …………………………………… ….……………………..……….. กิจกรรมที่ 1.2 เร่อื ง การทดลองแยกสารผสม เร
393 กจิ กรรมส่งเสริมศกั ยภาพการเรยี นรู้เทคนิค ATLAS การทดลอง (Experiment) และ การเขยี นทีส่ ่งเสริมศักยภาพการเรยี นรู้ (Active Writing) กจิ กรรมการทดลอง เรื่อง การแยกสารผสม จุดประสงคก์ ารทดลอง 1. ออกแบบวธิ ีการแยกสารผสมออกจากกันดว้ ยวธิ ีการอยา่ งงา่ ยๆ และเลอื กใชอ้ ุปกรณ์ หรอื เคร่อื งมือท่เี หมาะสมสาหรับการแยกสารที่ต้องการได้ 2. สรุปหลักการแยกสารผสมโดยการใชแ้ ม่เหล็กดูด การละลาย การกรอง และ การ ระเหยแหง้ สมมุตฐิ านการทดลอง ……………………………………………………….……………………………………………………………….…… ……………………………………………………………………………………..……………………………………… วสั ดุอุปกรณแ์ ละสารเคมี รายการ ปริมาณ/กลุ่ม 1. พริกป่นหยาบ 1g 2. เกลือปน่ 1g 3. ผงตะไบเหลก็ 2g 4. แปง้ 2g 5. น้าตาลทราย 2g 6. นา้ เกลอื 10 cm3
394 7. นา้ มนั พชื 10 cm3 8. น้า 10 cm3 วสั ดุอปุ กรณ์และสารเคมี ปรมิ าณ/กล่มุ (ตอ่ ) 1 แท่ง 1 อัน รายการ 1 อัน 9. แมเ่ หลก็ 1 แผน่ 10. ตะแกรงร่อน 1 ใบ 11. กรวยกรอง 1 ใบ 12. กระดาษกรอง 1 ชุด 13. ถว้ ยระเหย 1 อัน 14. บีกเกอร์ขนาด 50 cm3 1 อัน 15. ตะเกยี งแอลกอฮอล์ พร้อมทก่ี ้ันลม และตะแกรงลวด 16. แทง่ แกว้ คนสาร 17. ทจ่ี บั หลอดทดลอง หมายเหตุ หากไม่มีอุปกรณต์ ามรายการ อาจใชอ้ ุปกรณอ์ น่ื ทดแทนไดต้ ามความเหมาะสม วธิ ีการทดลอง 1. ใหน้ กั เรยี น ตงั้ สมมตุ ฐิ าน ออกแบบวิธีการแยกสาร และวิธกี ารทดลองการแยก สาร จากวัสดอุ ปุ กรณแ์ ละสารเคมีท่แี ต่ละกลุม่ ไดร้ ับ 2. ให้นกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายภายในกลุ่มว่าจะเลอื กวธิ ีการ ออกแบบ และปรบั ปรุง การทดลองอยา่ งไร เพือ่ ให้ไดว้ ธิ ีการทดลองทเี่ หมาะสม 3. ใหส้ มาชกิ ภายในกลมุ่ รว่ มกันทดลอง ออกแบบตารางบนั ทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และตอบคาถามท้ายกิจกรรมการทดลอง
395 ตวั อยา่ งตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง สารผสมตัวอยา่ ง ลกั ษณะทสี่ งั เกตไดก้ อ่ นแยก ตวั อย่างวธิ กี ารแยก ผลทไ่ี ด้ ………………………. …………………………………………. ……………………………… ……………………………… ……………………… ………………………………………… ……………………………… ……………………………… ……………………… ………………………………………… ……………………………… ……………………………… ………………………. …………………………………………. ……………………………… ……………………………… ……………………… ………………………………………… ……………………………… ……………………………… ……………………… ………………………………………… ……………………………… ……………………………… ………………………. …………………………………………. ……………………………… ……………………………… ……………………… ………………………………………… ……………………………… ……………………………… ……………………… ………………………………………… ……………………………… ……………………………… ………………………. …………………………………………. ……………………………… ……………………………… ……………………… ………………………………………… ……………………………… ……………………………… ……………………… ………………………………………… ……………………………… ……………………………… สรุปผลการทดลอง …………………………………………………………………………………….……………….. ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
396 คาถามท้ายกจิ กรรม 1. ใช้วธิ ีการใดเพื่อแยกสารผสมออกจากกนั ผลทไี่ ด้สอดคล้องกบั สมมตุ ฐิ านหรือไม่ อยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… 2. วธิ ีการท่ีกลมุ่ เลอื กสามารถแยกสารออกจากกนั ได้หรือไม่ ค้มุ คา่ กบั เวลา และคา่ ใช้จา่ ย หรือไมอ่ ยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… 3. นกั เรียนนาวิธีการแยกสารไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งไร พร้อมทงั้ ยกตวั อยา่ ง ประกอบการอธิบาย …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………
397 กิจกรรมติดตามผล (Fllow-up) ให้นกั เรยี นเขียนรายงานการทดลอง (15 คะแนน) แบบทดสอบหลังเรียน เรือ่ ง การแยกสาร คาชีแ้ จง 1. ข้อสอบมที ง้ั หมด 10 ขอ้ เวลาในการทา 10 นาที 2. ให้นกั เรียนเลือกทาเคร่ืองหมายกากบาท () ลงในขอ้ ทีเ่ หน็ ว่าถูกตอ้ งทีส่ ุด 1. ถ้ามผี งถา่ นปนอย่ใู นน้าตาลทราย นักเรียนจะแยกสารทัง้ สองออกจากกนั ดว้ ยวธิ กี ารใด ก. ละลายน้าแล้วกลน่ั ข. ละลายนา้ กรอง แลว้ ตม้ ดว้ ยถว้ ยกระเบ้ือง ค. ใชต้ ะแกรงรอ่ นออก ง. ละลายนา้ แล้วทาโครมาโทกราฟี ………………………………………………………………………………………………………….……………………………………. 2. ขอ้ ใดคือส่ิงท่ตี ้องพจิ ารณาอันดบั แรก เม่อื จะแยกสารออกจากกนั ก. จุดเดือดหรือจดุ เยอื กแขง็ ของสาร ข. ความสามารถในการละลายของสาร ค. การเปน็ สารเนอื้ เดยี วหรือสารเนือ้ ผสม ง. สมบตั ิท่ีแตกตา่ งกันมากทสี่ ดุ ของสาร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. การค้ันนา้ กะทิเป็นวิธกี ารแยกกากมะพรา้ วออกจากนา้ กะทดิ ว้ ยวิธีใด
398 8. สารในขอ้ ใดทสี่ ามารถแยกออกจากกนั ได้โดยวิธีการเข่ยี หรอื หยบิ ออกได้ ก. พมิ เสนกับเกลอื แกง ข. ดนิ กับผงชูรส ค. ลูกเหมน็ กบั ผงถ่าน ง. กามะถันกบั ผงตะไบเหล็ก ………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 9. สารในข้อใดที่แยกออกจากกันได้ง่ายโดยอาศยั แทง่ แมเ่ หลก็ ก. พริกผสมเกลอื ข. ผงตะไบเหลก็ กบั แป้ง ค. ผงตะใบเหลก็ กบั น้าตาลทราย ง. นา้ เกลอื ผสมกบั นา้ มัน ………………………………………………………………………………………….……………………………………………………. 10. สารใดทนี่ ามาผสมนา้ แล้วจะแยกออกจากกันโดยวธิ กี ารกรอง และการระเหยแห้ง ก. พริกผสมเกลอื ข. ผงตะไบเหล็กกบั แปง้
399 เฉลย ชุดกิจกรรมท่ี 1 การแยกสาร เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน - หลงั เรียน เร่ือง การแยกสาร
400 ทดสอบกอ่ นเรยี น ทดสอบหลังเรยี น ข้อท่ี ก ข ค ง ขอ้ ท่ี ก ข ค ง 1. 1. 2. 2. 3. 3. 4. 4. 5. 5. 6. 6. 7. 7. 8. 8. 9. 9. 10. 10. รวม....................คะแนน รวม....................คะแนน
401 เฉลยกจิ กรรมท่ี 1.1 เรือ่ ง ความหมายของการแยกสาร คาชแี้ จง เร อา่ นเน้อื หาขอ้ มูลข้างล่าง แล้วทาตามข้อแนะนาดังนี้ ขดี เส้นใตส้ ีแดงขอ้ ความท่ีแสดง ความหมายของการแยกสาร สนี า้ เงินขอ้ ความทแี่ สดงประเภทของการแยกสาร และ สีเขียวข้อความทแ่ี สดงถงึ ความหมายของสารเนอื้ ผสมและสารเน้อื เดยี ว ( 5 คะแนน) การแยกสาร คอื กระบวนการแยกสารผสมใหบ้ รสิ ทุ ธดิ์ ว้ ยกระบวนการต่างๆ โดย อาศยั ความแตกตา่ งของสมบตั ิทางกายภาพและทางเคมีของสารมารถใช้เปน็ เกณฑ์ในการ แยกสารผสมออกจากกัน การแยกสารโดยทว่ั ไปมี 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. การแยกสารเนอ้ื ผสม เชน่ การกรอง การระเหดิ การตกตะกอน การใช้กรวยแยก การใชม้ อื หยิบ การระเหยแหง้ การใชอ้ านาจแม่เหลก็ การหลอมเหลว เปน็ ตน้ 2. การแยกสารเนอื้ เดียว เชน่ การสกัดสาร การกล่นั โครมาโทกราฟี เปน็ ตน้ สารเนื้อผสม ( Heterogeneous Substance ) หมายถึง สารทม่ี ีลกั ษณะของเนือ้ สารคละกัน ไม่ผสมกลมกลนื เป็นเนือ้ เดยี วกนั สารทีเ่ ป็นส่วนผสมแต่ละชนิดก็ยงั คงแสดง สมบัตขิ องสารเดิม เพราะเป็นการรวมกันทางกายภาพไม่มีการเปล่ยี นแปลงทางเคมี เกิดขน้ึ เราสามารถใชต้ าเปล่าสังเกตและจาแนกไดว้ ่าสารเนอ้ื ผสมนน้ั ประกอบด้วยสาร ใดบ้าง และสามารถแยกสารเหลา่ นั้นออกจากกนั ไดโ้ ดยวิธที างกายภาพธรรมดา โดยไม่ทา ใหส้ มบัตเิ ดมิ เปลีย่ นแปลงไป สารเนอ้ื เดียว ( Homogeneous Substance ) หมายถึง สารทีม่ ีลักษณะของเนอ้ื สารผสมกลมกลนื กันเป็นเนอื้ เดยี ว และมีอัตราส่วนของผสมเท่ากนั ถา้ นาส่วนใดส่วนหนงึ่ ของสารเนื้อเดยี วไปทดสอบจะมสี มบัติเหมือนกันทุกประการ เชน่ น้ากล่นั และเกลอื แกงเป็น สารเน้ือเดยี ว เมอ่ื นาเกลอื แกงใส่ในน้าแลว้ คนให้ละลายจะไดส้ ารละลายนา้ เกลือ ซ่ึงเปน็ สาร เนอื้ เดียวทมี่ ีอัตราส่วนของนา้ และเกลอื แกงเหมอื นกนั ทกุ สว่ น
402 เฉลยกจิ กรรมตดิ ตามผล (Fllow-up) การสกัดสารโดยวธิ ีการกลนั่ ดว้ ยไอนา้ เปน็ วิธีการแยกสารเนอ้ื เดยี ว การกรองเป็นการการแยกสารเน้ือผสม การกลน่ั แบบธรรมดาเป็นการแยกสาร เนอื้ เดียว การทาโครมาโทกราฟกี ระดาษ เป็นการแยกสารเนือ้ เดียว
403 การใชก้ รวยแยกออกเป็นการการแยกสาร เน้อื ผสม เฉลยกิจกรรมท่ี 1.2 เร่ือง วิธีการแยกสารผสม สมมตุ ิฐานการทดลอง เร สารเนื้อผสมสามารถแยกออกจากกันไดโ้ ดยวธิ กี ารกรอง การระเหยแห้ง การใชแ้ ม่เหล็กดูด ตัวอย่างตารางบันทึกผลการทดลอง สารผสมตวั อย่าง ลักษณะท่ีสังเกตไดก้ อ่ นแยก ตัวอยา่ งวิธกี ารแยก ผลทไ่ี ด้ ขา้ วสารผสมกบั เป็นสารผสมเนื้อผสม แยกโดยการหยบิ เหลอื เฉพาะข้าวสาร ข้าวเปลอื ก มองเห็นข้าวสารและ ออก ขา้ วเปลือกวา่ ผงตะไบเหล็กติดอยู่กบั ผงตะไบเหลก็ มีขนาดแตกต่างกนั อย่าง ใช้แท่งแม่เหลก็ ดดู ผง แท่งแม่เหล็ก กับแป้ง ชัดเจน ตะไบเหล็ก เปน็ สารเนือ้ ผสม มองเหน็ ผง ตะไบเหล็กกับแป้งชัดเจน
404 เหลอื เพียงแต่แปง้ ผงตะไบเหล็ก เป็นสารเนื้อผสม มองเห็นผง ละลายน้าและกรอง ผงตะไบเหล็กถูกกรอง กับน้าตาลทราย ตะไบเหลก็ กับนา้ ตาลชดั เจน นาสารละลายมา ออกมาสารละลายเมอื่ นา้ เกลอื ผสม เปน็ สารละลาย 2 ชนิด กับนา้ มัน แยกช้นั กนั อยโู่ ดยมนี ้ามนั อยู่ ระเหยแห้ง ระเหยแห้งจะเหลอื แต่ ด้านบนและนาเกลือทีเ่ ปน็ สารละลายใสไม่มีสีอยู่ นา้ ตาลทราย ด้านลา่ ง ใช้หลอดหยดดูด ได้นา้ มันทด่ี ดู ออกมา นา้ มันท่ีอยดู่ า้ นบน และไดเ้ กลือท่ีเป็น ออกให้หมด จากนัน้ ของแขง็ สีขาวจากการ นาสารละลายท่ีเหลอื ระเหยแหง้ มาระเหยแห้ง สรปุ ผลการทดลอง การแยกสารผสมกนั อยู่ใหไ้ ด้สารเพียงชนิดเดยี วนั้น ทาได้โดยอาศัยสมบัติทางกายภาพของสาร เชน่ ขนาดของสาร สมบตั คิ วามเปน็ แมเ่ หลก็ การละลายนา้ การระเหยแห้ง คาถามทา้ ยกิจกรรม 1. ใชว้ ธิ กี ารใดเพอ่ื แยกสารผสมออกจากกนั ผลท่ีไดส้ อดคล้องกบั สมมุตฐิ านหรือไม่ อยา่ งไร แนวคาตอบ การแยกสารผสมออกจากกันสามารถทาได้หลายวิธี ขึ้นอยกู่ บั สมบตั ิทางกายภาพ ของสารที่ผสมกัน หากผลที่ได้สอดคล้องกบั สมมุติฐานจะมีวิธกี ารแยกสารผสมเปน็ ไปตามตวั อย่าง ผลการทากิจกรรม 2. วธิ ีการที่กลุม่ เลือกสามารถแยกสารออกจากกันได้หรือไม่ คุ้มคา่ กบั เวลา และค่าใชจ้ า่ ยหรอื ไม่ อย่างไร แนวคาตอบ วิธีการท่กี ลุ่มเลอื กใช้ในการแยกสาร ควรแยกสารจนได้สารเพยี งชนิดเดยี ว เพยี งแต่ สารผสมบางชนดิ ทาไดย้ าก เช่น แยกผงตะไบเหล็กออกจากทราย ต้องใช้แมเ่ หล็กดดู และทาซา้ หลายๆ ครง้ั แตส่ ารผสมบางชนิดกแ็ ยกออกจากกนั ไดง้ ่าย เช่น ตะปกู บั ทราย เป็นต้น สาหรบั ความคุ้มค่าเมอ่ื เทียบกบั เวลากับค่าใช้จา่ ยที่เสยี ไปน้นั นักเรยี นน่าจะได้แนวคดิ ว่า ถ้าแยก สารผสมทมี่ ปี ริมาณมากๆ แล้วไดส้ ารทต่ี ้องการในปรมิ าณมากพอทีจ่ ะสามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้ จึงคุม้ คา่ แต่ถา้ ได้สารเพยี งเล็กนอ้ ยก็ไม่คมุ้ คา่ 3. นกั เรียนนาวธิ ีการแยกสารไปใช้ในชวี ติ ประจาวันไดอ้ ยา่ งไร พร้อมท้ังยกตัวอยา่ งประกอบการ
405
406
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: