คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชพี ก คานา
แผนการจัดการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเล่มนี้ จัดทาขึ้น เพื่อเป็นแนวทางให้ครูสามารถดาเนินการสอนรายวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ รหัสวิชา 20001-2001 ตามจุดประสงค์ของหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ จานวน 5 หน่วย ใช้เวลาเรียน 18 สัปดาห์ แต่ละหน่วยได้แสดงกิจกรรมการเรียนการสอนของครูและกิจกรรมการเรียนของนักเรียนไว้ค่อนข้างชัดเจนโดย มุ่งเนน้ สมรรถนะที่พงึ ประสงค์ พร้อมกับได้สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ด้วย อย่างไรก็ตาม การนาไปใช้สอนจริงต้องข้ึนอยู่กับองค์ประกอบอีกหลายอย่าง จงึ จะทาให้ผู้เรยี นบรรลตุ ามวัตถุประสงค์ท่ีต้ังไว้ เช่น ความพร้อมของครู ความพร้อมของผู้เรียน อุปกรณ์การเรียน การสอน ครภุ ัณฑ์ สอื่ การเรียนการสอน ตลอดจนสภาพสงิ่ แวดล้อมในขณะทาการเรียนการสอน ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างย่ิงว่าแผนการจัดการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพบูรณาการปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอน หา กมีข้อบกพร่องข้าพเจ้ายินดี รับขอ้ เสนอแนะและคาแนะนาจากท่านผรู้ ูด้ ว้ ยความเตม็ ใจยิ่ง วชรพล สขุ สอาด
สารบญั ข คานา หนา้ สารบญั คาช้แี จงในการใชม้ อดูลสาหรับนักเรยี น ก จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ข แบบทดสอบก่อนเรยี น 1 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น 2 ความหมายของโปรแกรมสาเรจ็ รูป 3 โปรแกรมสาเรจ็ รปู 4 ซอฟท์แวร์ชุดสานกั งาน 5 ประเภทของโปรแกรมประมวลผลคา 6 วิวฒั นาการของโปรแกรมประมวลผลคา 6 คุณสมบัติของโปรแกรมประมวลผล 8 ซอฟทแ์ วร์ 8 กิจกรรม(ย่อย)ระหวา่ งเน้ือหา 9 แบบทดสอบหลังเรียน 10 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 12 13 14
1 คาช้แี จงในการใช้มอดลู สาหรับนักเรยี น การใช้บทเรียนโมดลู ใหเ้ กดิ ประสิทธิภาพต่อการจัดการเรียนการสอนได้อย่างสูงสดุ นกั เรยี นควรปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ 1. การเตรียมตวั ของนักเรยี น ศึกษาบทเรียนโมดลู ลว่ งหน้ากอ่ นท่ีจะเรียน เพอื่ ใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั จดุ ประสงค์ 2. ดาเนินการจัดกจิ กรรมในแตล่ ะคร้ัง นักเรยี นควรปฏบิ ัติ ดงั น้ี 2.1 ศึกษาแนวทางในการปฏิบัติกิจกรรมให้มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ หากพบปัญหา หรือไม่ เข้าใจให้ สอบถามจากครู 2.2 สามเณรนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ตามแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามลาดับ ขน้ั ตอนทกี่ าหนด 2.3 สามเณรสง่ ผลงานหรือชน้ิ งานในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม มสี ว่ นรว่ มในการนาเสนอผลงาน 2.4 สามเณรทาแบบทดสอบความร้หู ลงั เรยี น
2 จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. ด้านความรู้ 1.1 เข้าใจหลกั การใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูป 1.2 บอกขัน้ ตอนการใชโ้ ปรแกรมสาเรจ็ รปู 2. ด้านทกั ษะ 2.1 ใช้งานโปรแกรมประยุกต์ 2.2 แยกลักษณะของซอฟตแ์ วรป์ ระยุกต์ 2.3 วิเคราะห์ประเภทของซอฟต์แวรป์ ระยุกต์ 2.4 ประยกุ ต์ใชโ้ ปรแกรมสาเรจ็ รูป 3 ด้านคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ 3.1 ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความมวี นิ ัย ตรงต่อเวลา 3.2 มีความรับผิดชอบต่องานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย
3 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 1. คาสั่งใดใช้สาหรบั ปดิ งานเอกสาร ข. File > Close ก. File > Close Window ง. ถกู ท้ัง ก. และ ข. ค. File > Exit 2. ป่มุ เครื่องมือใดสาหรับเปิดเอกสารเดมิ มาใช้งาน ก. ข. ค. ง. 3. ปมุ่ เคร่อื งมือใดใชส้ าหรบั บนั ทกึ ทับไฟล์เดมิ ท่ีเปิดใชง้ านอยู่ ก. ข. ค. ง. 4. ปมุ่ บนแป้นพมิ พ์ใดใชส้ าหรับสลบั ระหว่างการพิมพภ์ าษาไทยและภาษาอังกฤษ ก. Home ข. Shift ค. ง. Insert 5. เมื่อกดป่มุ ใดบนแปน้ พมิ พห์ มายถงึ เป็นการลบตวั อักษร ก. Enter ข. Spacebar ค. Insert ง. Delete 6. คาสง่ั ใดเป็นคยี ์ลัดสาหรับการคดั ลอกข้อความ ก. Ctrl + X ข. Ctrl + C ค. Ctrl + R ง. Ctrl + V 7. คาส่งั ใดเปน็ คียล์ ดั สาหรบั การวางข้อความ ก. Ctrl + X ข. Ctrl + C ค. Ctrl + R ง. Ctrl + V 8. ใช้เปลี่ยนแบบข้อใด ก. เปลย่ี นลกั ษณะตัวอกั ษร ข. เปลย่ี นแบบตัวอักษร ค. เปลี่ยนขนาดตวั อักษร ง. ถูกทกุ ข้อ 9. เป็นปุ่มเครอื่ งมอื ใช้สาหรบั ข้อใด ข. สญั ลกั ษณพ์ ิเศษ ก. สญั ลกั ษณ์หน้าข้อความ ง. ถกู ทุกข้อ ค. เครอ่ื งหมายเนน้ ขอ้ ความ ข. เพ่ิมหรือลบเสน้ ขอบ 10. เปน็ ปุม่ เครื่องมอื ใช้สาหรบั ขอ้ ใด ง. ถูกทกุ ข้อ ก. สรา้ งตาราง ค. แก้ไขเสน้ ขอบ
4 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 1. คาสัง่ ใดใช้สาหรบั ปิดงานเอกสาร ข. File > Close ก. File > Close Window ง. ถูกทงั้ ก. และ ข. ค. File > Exit 2. ปมุ่ เครือ่ งมอื ใดสาหรบั เปดิ เอกสารเดิมมาใชง้ าน ก. ข. ค. ง. 3. ป่มุ เครือ่ งมือใดใชส้ าหรบั บันทึกทบั ไฟลเ์ ดิมที่เปิดใช้งานอยู่ ก. ข. ค. ง. 4. ป่มุ บนแปน้ พิมพใ์ ดใชส้ าหรบั สลบั ระหว่างการพมิ พ์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ก. Home ข. Shift ค. ง. Insert 5. เมอ่ื กดปุ่มใดบนแป้นพมิ พห์ มายถึงเปน็ การลบตัวอักษร ก. Enter ข. Spacebar ค. Insert ง. Delete 6. คาสง่ั ใดเป็นคยี ล์ ัดสาหรบั การคดั ลอกขอ้ ความ ก. Ctrl + X ข. Ctrl + C ค. Ctrl + R ง. Ctrl + V 7. คาสั่งใดเป็นคยี ล์ ดั สาหรับการวางข้อความ ก. Ctrl + X ข. Ctrl + C ค. Ctrl + R ง. Ctrl + V 8. ใช้เปลยี่ นแบบขอ้ ใด ก. เปลยี่ นลกั ษณะตวั อกั ษร ข. เปล่ียนแบบตัวอกั ษร ค. เปลีย่ นขนาดตัวอักษร ง. ถกู ทกุ ขอ้ 9. เปน็ ปมุ่ เคร่ืองมอื ใชส้ าหรบั ขอ้ ใด ข. สญั ลักษณพ์ ิเศษ ก. สัญลกั ษณห์ น้าขอ้ ความ ง. ถูกทกุ ขอ้ ค. เครื่องหมายเนน้ ข้อความ ข. เพม่ิ หรอื ลบเส้นขอบ 10. เปน็ ปมุ่ เครือ่ งมือใชส้ าหรบั ขอ้ ใด ง. หถูกทุกข้อ ก. สรา้ งตาราง ค. แกไ้ ขเสน้ ขอบ
5 ความหมายของโปรแกรมสาเร็จรูป โปรแกรม หรือ ซอฟแวร์ หมายถงึ ชุดของคาสัง่ ที่มกี ารจัดเรียงลาดบั ได้อยา่ งถูกต้อง ซึง่ สามารถทางาน และได้ผลลพั ธ์ตามทีผ่ ใู้ ช้โปรแกรมตอ้ งการ นอกจากนี้ โปรแกรมจาแนกได้เปน็ 2 ประเภท คือ () 1. โปรแกรมทผ่ี ู้ใช้เขยี นข้นึ เอง (User's Written Program) เปน็ โปรแกรมทผ่ี ู้ใช้เขียนสง่ั ให้ คอมพิวเตอร์ทางานไดต้ ามความตอ้ งการ หรือ ตรงตามวัตถุประสงค์ และเหมาะสมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ โดยใช้ เทคนคิ และความชานาญของผู้เขยี นโปรแกรมดว้ ย ภาษาคอมพวิ เตอร์ ทน่ี ยิ มใช้ เช่น ภาษาเบสกิ ภาษาซี เป็นตน้ 2. โปรแกรมสาเร็จรูป (Package Program) เป็นโปรแกรมที่มีผเู้ ขยี นได้เขียนไว้เรียบร้อย แลว้ โปรแกรมสาเร็จรปู จะให้ความสะดวกในการใชง้ านมาก โดยทผ่ี ูใ้ ชไ้ มจ่ าเปน็ ต้องมีความรทู้ างดา้ นคอมพวิ เตอร์ มากนัก เพียงแต่เรียนรู้วธิ ีการใช้งาน ซ่ึงส่วนมากจะมีคาอธิบายการใช้โปรแกรมมาให้ และในขณะทางานกส็ ามารถ ขอรายละเอียดเพม่ิ เติมได้ตลอดเวลาในการใช้โปรแกรมสาเรจ็ รูป
6 โปรแกรมสาเร็จรูป (Package Software) โปรแกรมสาเรจ็ รปู (Package Software) คอื ซอฟตแ์ วร์หรอื โปรแกรมประยุกต์ทม่ี ีผูจ้ ัดทาไว้ เพื่อใชใ้ น การทางานประเภทตา่ งๆ โดยท่ีผใู้ ชค้ นอ่ืนๆ สามารถนาโปรแกรมไปใชก้ บั ข้อมลู ของตนเองได้ แตจ่ ะไมส่ ามารถทา การดัดแปลงหรือแก้ไขโปรแกรมภายในได้ ผูใ้ ชไ้ มจ่ าเปน็ ตอ้ งเขียนโปรแกรมเองทั้งหมด ซึ่งประหยัดเวลาและ แรงงาน เพียงแต่มาเรยี นรู้วิธใี ช้เทา่ นั้น บางครง้ั จะเรียกซอฟต์แวรป์ ระเภทนีว้ ่า COTS : Commercial off the Shelf (http://202.143.168.214/uttvc/HardwareUtility/page2_2.html) ซอฟต์แวร์ทสี่ ร้างขึ้นเพื่อใชใ้ นสานักงานท่วั ๆ ไป สรา้ งโดยบรษิ ัทท่มี ีความชานาญในด้านนัน้ ๆ โดยเฉพาะ มกี ารปรับปรุงร่นุ (Version) ของซอฟตแ์ วร์ใหม้ ปี ระสิทธภิ าพสูงขึน้ อย่เู สมอโปรแกรมสาเร็จรูปสามารถแบ่ง ออกเปน็ ประเภทต่างๆ ดงั น้ีคือ 1. โปรแกรมประมวลผลคา ใช้สาหรับพมิ พเ์ อกสารรายงานหรือสรา้ งตารางแบบต่าง ๆ 2. โปรแกรมตารางงาน ใชส้ าหรบั คานวณ สรา้ งกราฟ และจดั การด้านฐานข้อมูล 3. โปรแกรมนาเสนอผลงาน ใชใ้ นการนาเสนอผลงานและนาเสนอขอ้ มูลในรูแปบบสไลด 4. โปรแกรมจดั การฐานขอ้ มูล คือ โปรแกรมที่ทาหน้าท่ีในการจัดการฐานข้อมูล 5. โปรแกรมเวบ็ เพจ ใช้ในการเขียนเวบ็ เพจเพ่ือใช้งานในเว็บไซตข์ องอินเทอร์เน็ต 6. โปรแกรมสื่อสารระยะไกล ใช้ในการติดตอ่ ส่ือสารทางอนิ เตอร์เน็ต 7. โปรแกรมเขียนแบบ ใช้ในการออกแบบและเขยี นแบบดา้ นตา่ ง ๆ เชน่ ชนิ้ งาน อาคาร 8. โปรแกรมการฟิกส์ ใช้ในการสร้างและจดั การรปู ภาพในคอมพวิ เตอร์ 9. โปรแกรมเพื่อความบนั เทิง ได้แก่ เกมส์ ภาพยนตแ์ ละเสียงเพลงตา่ ง ๆ 10. ฯลฯ ซอฟต์แวรช์ ดุ สานักงาน ซอฟตแ์ วร์ชดุ สานักงาน โปรแกรมสานักงาน (Office Suite) เป็นซอฟต์แวร์ท่ีใช้ในการทางานในสานักงาน โดยมีการรวม ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน โดยมีรูปแบบการใช้งานง่ายๆ และโดยปกติ สามารถนาซอฟต์แวร์ในชุดมาใช้งาน ร่วมกันได้ (วิกิพเี ดยี , 2556 : ออนไลน)์
7 ซึ่งรูปแบบของชุดโปรแกรมสานักงานส่วนใหญ่นั้น อย่างน้อยจะมีการรวมเอา โปรแกรมประมวลผลคา (Word Processor) และ โปรแกรมตารางงาน (Spreadsheet) เป็นต้น หากมีเพิ่มเติมในชุดโปรแกรมอาจมี โ ป ร แ ก ร ม น า เ ส น อ ( Presentation) เ ค รื่ อ ง มื อ ( Tools) ฐ า น ข้ อ มู ล ( Database) ชุ ด แ ก้ ไ ข ง า น ก ราฟคิ (Graphics) และ เคร่อื งมือท่ใี ช้ในการสือ่ สาร (Networks) นอกจากน้ี ในชุดโปรแกรมสานักงาน อาจะมีการ เพม่ิ โปรแกรมรับส่งอีเมลแ์ ละโปรแกรมจัดการขอ้ มูลสว่ นตัว หรอื ชดุ โปรแกรมใชง้ านระบบกลมุ่ โปรแกรมสาเร็จรปู สานักงาน หรือ ซอฟตแ์ วรช์ ุดสานกั งาน (Office Package) สามารถแบง่ ออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ - โปรแกรมสาเร็จรูปสานกั งานติดตง้ั บนเครื่อง - โปรแกรมสาเรจ็ รูปสานักงานออนไลน์Microsoft Office โปรแกรมในชุดไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ (Microsoft Office Suit) คือ ชดุ โปรแกรมสานักงาน พฒั นาโดยไมโครซอฟท์ ซึ่งสามารถใช้งานได้ในระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ วนิ โดวส์ และแอปเปิล แม็คอินทอช (Wiki Pedia) ไดแ้ ก่ - ไมโครซอฟท์ เวิร์ด (Microsoft Word)ไมโครซอฟท์ เวิร์ด เป็นโปรแกรมที่นิยมในการประมวลผลคา มีความสามารถในการจัดรปู แบบตัวอักษร ย่อหนา้ ใส่รูปภาพ จดหมายเวยี น และอืน่ ๆ อกี มากมาย - ไมโครซอฟท์ เอ็กเซล (Microsoft Excel) ไมโครซอฟท์ เอ็กเซล เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการจัดทาตาราง งาน มีความสามารถในการคานวณสตู รตา่ งๆ พร้อมทงั้ ฟงั กช์ ันท่ีช่วยในการคานวณทางคณิตศาสตรอ์ กี ดว้ ย - ไมโครซอฟท์ แอคเซส (Microsoft Access) ไมโครซอฟท์ แอคเซส เป็นโปรแกรมฐานข้อมูล ที่เป็นที่ นิยมสาหรับการทางานในระดับสานักงาน และ องค์กรขนาดเล็ก สามารถเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูล ออกแบบฟอร์มเก็บข้อมูล พิมพ์รายงาน จัดทาเว็บไซต์ในการรับ/ส่ง ข้อมูล และยังสามารถเขียนกลุ่มโปรแกรม (Module) เพอ่ื ใช้ในการทางานได้
- ไมโครซอฟท์ ฟรอนตเ์ พจ (Microsoft Front Page) ไมโครซอฟท์ ฟรอนต์เพจ เป็นโปรแกรมออกแบบ 8 เว็บเพจ ซึ่งมีความสามารถในการจัดการเว็บไซต์ ออกแบบโครงสร้างเว็บเพจ และติดต่อฐานข้อมูล ไมโครซอฟท์ แอคเซส - ไมโครซอฟท์ พาวเวอร์พอยต์ (Microsoft PowerPoint) ไมโครซอฟท์ พาวเวอร์พอยต์ เป็นโปรแกรม นาเสนอผลงาน สามารถนาเสนอผลงานในแบบต่างๆ รวมถึงมีแม่แบบท่ีช่วยผู้ใช้ใช้งานอย่างง่ายดาย และมี แอฟเฟค็ แบบตา่ งๆ ช่วยตกแต่งให้งานนาเสนอมคี วามสวยงาม - ฯลฯ 7 ประเภทของโปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมประมวลผลคาแบง่ เปน็ 2 ประเภท คอื (http://www.cicec.ac.th/Office_Project/Index3.html) 1. เวิร์ดโพรเซสเซอร์ (Word Processor) เปน็ โปรแกรมประมวลผลคาทที่ างานด้านการพมิ พ์เอกสาร การ สร้างตาราง การจัดหนา้ เอกสาร การจัดคอลัมน์ การจัดรูปแบบอกั ษร (Font) สามารถใส่ภาพกราฟิก (Graphic) หรอื แผนภูมิ (Chart) ลงในเอกสาร โปรแกรมที่นิยมใช้ไดแ้ ก่ โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วิร์ด (Microsoft Word) 2. เทก็ ซอ์ ดิ ิเตอร์ (Text Editor) เป็นโปรแกรมประมวลผลคาขนาดเล็ก ใชส้ าหรับการพิมพ์และแก้ไข เอกสาร คาสงั่ ต่าง ๆ ซ่ึงมรี ปู แบบการใชง้ าน เชน่ ลักษณะตัวหนา (Bold) ตวั เอยี ง (Italic) ขนาดตัวอักษรไม่มาก เหมอื นกบั เวิร์ดโพรเซสเซอร์ แต่สามารถพมิ พ์ข้อความในเอกสาร เกบ็ บันทึก สั่งพมิ พ์ออกทางเครอ่ื งพิมพ์ ได้ เทก็ ซ์อิดเิ ตอร์ที่นิยมใช้ ได้แก่ โปรแกรม WordPad โปรแกรมNotepad วิวัฒนาการของโปรแกรมประมวลผล คา โปรแกรมประมวลผลคายุคแรก ๆ ใช้โปรแกรมของต่างประเทศ เช่น โปรแกรม WORDSTAR ของบริษัท ไมโครโปร จากัด ซึ่งสามารถพิมพ์ข้อความได้เฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น จึงทาให้ไม่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ ชาวไทยนัก ต่อมาในปี 2529 นายแพทย์ชุษณะ มะกรสาร ได้พัฒนาโปรแกรมประมวลผลคาท่ีมีช่ือว่า ราชวิถี ซึ่งโปรแกรมนี้เขียนขึ้นด้วยภาษา Assembly ท้ังหมด การใช้งานเหมือนกับโปรแกรม WORDSTAR แต่สามารถ
9 พิมพ์ข้อความภาษาไทยได้ และมีการปรับปรุงพัฒนามาเร่ือยๆ จึงทาให้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานอย่างสูงสุดใน เวลาต่อมา ต่อมาในปี พ.ศ. 2532สถาบันบริการคอมพิวเตอร์ และภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะ วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมมือกันพัฒนาโปรแกรมประมวลผลคาภาษาไทยและอังกฤษ โดยออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งาน และมีความสามารถในการทางานเช่นเดียวกับโปรแกรมประมวลผลคาอื่น ๆ โดยต้ังชื่อว่า \"ซียูไรด์เตอร์ \" (CU Writer)\" มีลักษณะการทางานเหมือน WORDSTAR และประกาศให้ใช้เป็น โปรแกรมสาธารณะ (Public Domain) การประมวลผลคาในปัจจุบันจะใช้ชุดซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นโปรแกรมสาเร็จ (Package) ชุดซอฟแวร์นี้บางที เรียกว่า โปรแกรมชุดสานักงาน (Office Program) โดยบริษัทไมโครซอฟต์คอร์เปอร์เรชัน จากัด (Microsoft Corporation) ได้ผลิตโปรแกรมชุดไมโครซอฟต์ออฟฟิศ (Microsoft Office) ออกสู่ตลาดคร้ังแรกมีช่ือว่า ไมโครซอฟต์ออฟฟิศ รุ่น 4.3 ซึ่งประกอบด้วย เวิร์ด (WORD) เป็นซอฟต์แวร์ประมวลผลคา (Word Processing Software) เอกซ์เซล (Excel) เป็นซอฟต์แวร์ตารางทาการ แอ็กเซส (Acess) เป็นซอฟต์แวร์ด้านฐานข้อมูล (Database Software) พาวเวอร์พอยต์ (PowerPoint) เป็นซอฟต์แวร์นาเสนอภาพกราฟิก (Presentation Software) ซึ่งได้มีการพัฒนามาเรื่อย ๆ ไมโครซอฟต์เวิร์ด 2.0 และ 6.0 เป็นโปรแกรมท่ีทางานบน ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 3.1 และพัฒนาปรับบปรุงเป็นโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด 7.0 หรือไมโครซอฟออฟ ฟิศ 95 , 97 , 2000 , 2002 , XP , 2003 , 2007 , และ 2013 ซึ่งจะทางานบนระบบปฎิบัติการวินโดวส์ (Windows) ของบริษัทไมโครซอฟตแ์ ละเปน็ ซอฟตแ์ วร์ทม่ี ีลขิ สิทธิ์ (License) หรือ เชงิ พานชิ ย์อีกท้ัง ยังมีโปรแกรม ประมวลผลคาที่เป็นที่นิยมได้แก่ เวิร์ดเพอร์เฟกต์ เป็นต้น นอกจากน้ี ยังมีโปรแกรมโอเพนซอร์สที่ให้ใช้งานได้ฟรี เชน่ โอเพน ออฟฟิศดอตออ็ ก ไรเตอร์ และ เคเวริ ด์ และรวมถึงโปรแกรมประมวลคาออนไลน์ เชน่ กูเกิลดอกส์ คณุ สมบัตทิ ั่วไปของโปรแกรมประมวลผลคา ในปัจจบุ นั คุณสมบตั ิทั่วไปของโปรแกรมประมวลผลคา ส่วนใหญจ่ ะมคี ุณสมบัติที่ช่วยให้สามารถใช้งานได้ ง่ายกว่าเคร่ืองพิมพ์ดีดธรรมดา คุณสมบัติพ้ืนฐานต่างๆ ของโปรแกรมประมวลผลคารุ่นใหม่ จะประกอบด้วย เครือ่ งมอื ชว่ ยในการพมิ พ์ เครื่องมอื ช่วยในการแก้ไขข้อมูล การควบคุมการ แสดงตัวอักษรและการจัดรูปแบบหน้า เอกสาร การทาจดหมายเวียนและจ่าหน้าซองจดหมาย เคร่ืองมือช่วยในการพิมพ์ของโปรแกรมประมวลผลคาน้ัน ช่วยให้ผู้ใช้งานพิมพ์ข้อความได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยคุณสมบัติที่เรียกว่า การม้วนคา (Word Wrap) ที่ช่วยแยกข้อความขึ้นบรรทัดใหม่ เม่ือจบคาในแต่ละบรรทัด พอดี ผู้ใชส้ ามารถพิมพข์ ้อความ โดยไมต่ อ้ งกังวลวา่ ข้อความจะยาวกวา่ เส้นขอบขวาของบรรทดั ท่ีกาหนดไว้
10 เมื่อพิมพ์ข้อความเสร็จเรียบร้อย ก็สามารถบันทึกเก็บไว้ในรูปของแฟ้มข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่มีช่ือ แฟม้ ขอ้ มลู กากับ โดยไมจ่ าเปน็ ต้องพมิ พ์ซา้ ใหมท่ ัง้ หมด เคร่ืองมือช่วยในการแก้ไขข้อมูลของโปรแกรมประมวลผลคา เช่น การพิมพ์เพิ่มเติมที่เรียกว่า การแทรก (Insert) โดยโปรแกรมจะทาการร่นคาที่มีอยู่เดิมนั้น ให้เลื่อนไปทางขวามือ เพ่ือให้มีช่องว่าสาหรับคาใหม่ หรือ การเขียนทับ (Overwrite) ด้วยการพิมพ์ข้อความใหม่ที่ถูกลงไป ทับแทนคา หรือข้อความเดิมที่ผิด โดยไม่ จาเป็นต้องลบคาเดิมออกก่อน และยังมีเครื่องมือท่ีช่วยในการค้นหา และแทนท่ีคา เพ่ือช่วยให้สามารถแก้ไขคา ตา่ งๆ ได้เร็วขึ้น ด้วยการไม่ต้องพิมพ์คาที่ผิดเหมือนกันใหม่ทุกครั้ง โปรแกรมก็จะทาการค้นหา และแทนที่ให้อย่าง อตั โนมัติ และครบทกุ คา การควบคุมการแสดงตัวอักษร และการจัดรูปแบบหน้าเอกสารนั้น โปรแกรมประมวลผลคาส่วนใหญ่ จะมีความสามารถในการจัดตัวอักษร และย่อหน้าได้อย่างสวยงาม อีกทั้งกาหนดขนาดและรูปแบบตัวอักษรได้ หลายรูปแบบ และยังมีชุดตัวอักษรให้เลือกหลายรูปแบบ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ได้ตามความพอใจ และตาม ความเหมาะสมของเอกสาร ส่วนการจัดหน้าเอกสารน้ัน โปรแกรมประมวลผลคาสามารถควบคุมการจัดวางหน้า ใหม่ โดยอัติโนมัติทุกครั้ง ท่ีมีการแก้ไขเอกสาร เช่น การกาหนดให้ข้อความในบรรทัด เริ่มที่เส้นขอบซ้ายตรงกัน หรือกาหนดใหข้ อ้ ความอยตู่ รงกลางของบรรทัด เปน็ ตน้ เครื่องมอื ช่วยในการทาจดหมายเวยี น และจา่ หน้าซองจดหมาย เครือ่ งมือน้ีจะช่วยสร้างจดหมายหลักไว้ ๑ ฉบับ พร้อมท้ังกาหนดตาแหน่ง ท่ีจะต้องเปลี่ยนแปลงข้อมูล และสร้างแฟ้มข้อมูล สาหรับบันทึกช่ือและที่อยู่ของ ผูร้ ับไว้ เม่ือส่ังพิมพ์จดหมายเวียนนั้น หรือจ่าหน้าซองจดหมาย โปรแกรมจะนาข้อมูลมาใส่ในตาแหน่งที่กาหนดไว้ ให้อย่างอตั โนมัติจนครบทกุ คน ในปัจจุบัน โปรแกรมประมวลผลคามีการพัฒนาไปอย่างมาก คือ มีเคร่ืองมือต่างๆ ท่ีช่วยในการพิมพ์ หรือสร้างเอกสารเป็นพิเศษ เช่น งานสร้างตาราง การจัดแบ่งข้อความเป็นคอลัมน์ การตรวจสอบตัวสะกด การตรวจสอบไวยากรณ์ การแทรกรปู ภาพลงในเอกสาร การใชง้ านรว่ มกับโปรแกรมอน่ื ๆ และความสามารถในการ สร้างเว็บเพจ ดังน้ัน โปรแกรมประมวลผลคา จึงถูกนามาใช้แทนการใช้เครื่องพิมพ์ดีด และสามารถใช้งานเสมือน โรงพมิ พ์ต้งั โต๊ะ คณุ สมบัติพเิ ศษทช่ี ว่ ยสรา้ งเอกสาร 1. มีแม่แบบของเอกสารให้เลือกใช้ โปรแกรมประมวลผลคารุ่นใหม่ๆ จะมีแม่แบบของเอกสารที่ใช้ โดยทัว่ ไป ในสานกั งาน ให้สามารถเลือกใช้ได้ทันที เช่น จดหมายบนั ทึกข้อความ ใบปะหน้าโทรสาร ประวัติส่วนตัว เป็นต้น จึงทาใหไ้ ดเ้ อกสารทถ่ี ูกตอ้ งตามมาตรฐาน และสร้างเอกสารได้อยา่ งสะดวก และรวดเร็วยงิ่ ขน้ึ 2. การสรา้ งตาราง การใช้โปรแกรมประมวลผลคาในยคุ แรกนัน้ การสรา้ งตารางเป็นเรื่องท่ียุ่งยาก เพราะ ต้องคานวณ และกะระยะเอง แตส่ าหรับโปรแกรมประมวลผลคาในยุคหลังน้ี จะมีเครื่องมือช่วยให้งานสร้างตาราง ง่ายข้ึน เพียงแต่กาหนดจานวนแถว และจานวนคอลัมน์ท่ีต้องการทาเป็นตาราง โปรแกรมก็จะสร้างตารางให้มี ขนาดตามทร่ี ะบุได้ทันที นอกจากน้ี ยังสามารถแก้ไขเพิ่มความกว้างของแต่ละคอลัมน์ หรือความสูงของแต่ละแถว ได้ อีกทั้งสามารถกาหนดเส้นแบ่งคอลัมน์ และเส้นแบ่งแถวของตารางได้ตามต้องการ เช่น กาหนดให้เป็นเส้นทึบ หรือเส้นคู่ เป็นต้น
11 ซอฟต์แวร(์ Software) ความหมายของซอฟต์แวร์ หมายถงึ โปรแกรมหรือชุดคาสั่งท่ถี กู เขยี นขนึ้ เพอ่ื สัง่ ให้เคร่ืองคอมพิวเตอร์ทางานถ้าไม่มีซอฟต์แวร์เราก็ไม่ สามารถใช้เครอื่ งคอมพวิ เตอรท์ าอะไรไดเ้ ลย ประเภทของซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์อาจได้รับการพัฒนาโดยผู้ใช้งานเองหรือผู้พัฒนาระบบ หรือผู้ผลิตจาหน่ายหากแบ่งแยกชนิด ของซอฟต์แวร์ตามสภาพการทางานพอแบ่งแยกซอฟต์แวร์ได้เป็นสองประเภท คือซอฟต์แวร์ระบบ (system software) และซอฟต์แวรป์ ระยุกต์ (application software) โดยมีรายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ซอฟต์แวร์สาหรับระบบ (System Software) คือ ชุดของคาสั่งท่ีเขียนไว้เป็นคาส่ังสาเร็จรูปซ่ึงจะ ทางานใกล้ชิดกับคอมพิวเตอร์มากท่ีสุดเพ่ือคอยควบคุมการทางานของฮาร์ดแวร์ทุกอย่างและอานวยความสะดวก ให้กบั ผูใ้ ชใ้ นการใช้งานซอฟตแ์ วร์หรือโปรแกรมระบบท่ีรจู้ ักกนั ดกี ็คอื DOS, Windows, Unix, Linux ,MAC รวมท้ังโปรแกรมแปลคาส่ังท่ีเขียนในภาษาระดับสูง เช่น ภาษา Basic, Fortran, Pascal, Cobol, C เป็นต้น นอกจากน้ีโปรแกรมที่ใช้ในการตรวจสอบระบบเช่น Norton’s Utilities ก็นับเป็นโปรแกรมสาหรับระบบ ด้วยเชน่ กนั 2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (application software) คือ ซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นตามความต้องการของผู้ใช้ เพ่ือช่วยในผู้ใช้ ใช้คอมพิวเตอร์ทางานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามลักษณะของงานด้าน ตา่ งๆ ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ตส์ ามารถจาแนกไดเ้ ป็น 2 ประเภท คือ 2.1 ซอฟต์แวร์สาหรับงานเฉพาะด้าน คือโปรแกรมซึ่งเขียนข้ึนเพื่อการทางานเฉพาะอย่างที่เราต้องการ บางที่เรียกว่า User’s Program เช่น โปรแกรมบัญชี โปรแกรมระบบเช่าซื้อ โปรแกรมจัดการคลังสินค้าของ บริษัทห้างร้านต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งแต่ละโปรแกรมก็มักจะมีเงื่อนไขหรือแบบฟอร์มแตกต่างกันออกไปตามความ ต้องการ หรอื กฎเกณฑข์ องแตล่ ะหนว่ ยงานทใ่ี ช้ซึง่ สามารถดัดแปลงแก้ไขเพมิ่ เติม (Modifications) ในบางส่วนของ โปรแกรมไดเ้ พื่อใหต้ รงกับความต้องการของผใู้ ช้และซอฟต์แวร์ประยุกต์ท่ีเขียนข้ึนนี้โดยส่วนใหญ่มักใช้ภาษาระดับ สงู เป็นตัวพฒั นา
2.2 ซอฟต์แวร์สาหรับงานท่ัวไป เป็นโปรแกรมประยุกต์ท่ีมีผู้จัดทาไว้เพื่อใช้ในการทางานประเภทต่างๆ ทั่วไป โดยผู้ใช้คนอ่ืนๆสามารถนาโปรแกรมน้ีไปประยุกต์ใช้กับข้อมูลของตนได้ แต่จะไม่สามารถทาการดัดแปลง หรอื แก้ไขโปรแกรมได้ ผู้ใช้ไมจ่ าเป็นต้องเขยี นโปรแกรมเอง ซ่ึงเป็นการประหยัดเวลาแรงงาน และค่าใช้จ่ายในการ เขยี นโปรแกรม นอกจากนีย้ งั ไม่ต้องใชเ้ วลามากในการฝึกและปฏิบัติ ซ่ึงโปรแกรมสาเร็จรูปน้ีมักจะมีการใช้งานใน หนว่ ยงานทข่ี าดบุคลากรทีม่ ีความชานาญเป็นพิเศษในการเขียนโปรแกรมดังน้ันการใช้โปรแกรมสาเร็จรูปจึงเป็นส่ิง ท่ีอานวยความสะดวกและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งตัวอย่างโปรแกรมสาเร็จรูปท่ีนิยมใช้ได้แก่ MS-Office, Lotus, Adobe Photoshop, SPSS, Internet Explorer และ เกมส์ตา่ งๆ เป็นต้น
12 กจิ กรกริจมก(ยร่อรยม)ยรอ่ะหยว่างเนอื้ หา ข้ันนาเขา้ สู่บทเรยี น 1. ตรวจสอบรายชอื่ นักศึกษาท่เี ข้าเรียน 2. ร่วมสนทนาซักถามเก่ียวกับการใช้โปรแกรมสาเร็จรปู ข้ันดาเนินการสอน 1. บอกจดุ ประสงคก์ ารเรียน ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 2. บรรยาย อธบิ าย ยกตัวอยา่ ง แสดงวธิ ีการในแต่ละหัวขอ้ การเรียน และให้นักศึกษาฟัง 3. บอกวธิ กี ารและแนวคดิ ในการปฏิบตั ิท่ถี ูกต้องให้แกผ่ ูเ้ รยี น 4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยซักถามเปน็ รายคน ขน้ั นาเข้าสรุป 1. ครูและนกั เรียน นกั ศึกษารว่ มกนั สรุปสาระสาคัญ 2. เปิดโอกาสใหผ้ ูเ้ รียนซักถามข้อสงสยั 3. มอบหมายให้หดั ทาและศึกษาเพ่ิมเติม 4. มอบหมายให้นักศึกษาทาแบบทดสอบ
13 แบบทดสอบหลังเรยี น 1. คาสงั่ ใดใชส้ าหรบั ปดิ งานเอกสาร ข. File > Close ก. File > Close Window ง. ถูกทั้ง ก. และ ข. ค. File > Exit 2. ปุ่มเคร่อื งมือใดสาหรบั เปิดเอกสารเดิมมาใช้งาน ก. ข. ค. ง. 3. ปมุ่ เครื่องมอื ใดใชส้ าหรับบันทึกทบั ไฟลเ์ ดมิ ที่เปิดใช้งานอยู่ ก. ข. ค. ง. 4. ปุ่มบนแป้นพิมพใ์ ดใชส้ าหรับสลับระหว่างการพมิ พ์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ก. Home ข. Shift ค. ง. Insert 5. เมื่อกดปมุ่ ใดบนแป้นพิมพห์ มายถึงเป็นการลบตวั อักษร ก. Enter ข. Spacebar ค. Insert ง. Delete 6. คาสัง่ ใดเป็นคียล์ ัดสาหรบั การคัดลอกขอ้ ความ ก. Ctrl + X ข. Ctrl + C ค. Ctrl + R ง. Ctrl + V 7. คาสั่งใดเปน็ คยี ์ลัดสาหรบั การวางข้อความ ก. Ctrl + X ข. Ctrl + C ค. Ctrl + R ง. Ctrl + V 8. ใชเ้ ปลีย่ นแบบขอ้ ใด ก. เปลีย่ นลักษณะตัวอกั ษร ข. เปลี่ยนแบบตวั อกั ษร ค. เปล่ยี นขนาดตัวอกั ษร ง. ถกู ทกุ ข้อ 9. เปน็ ปุม่ เครอ่ื งมือใช้สาหรบั ขอ้ ใด ข. สัญลกั ษณ์พิเศษ ก. สัญลกั ษณ์หนา้ ข้อความ ง. ถูกทกุ ข้อ ค. เครื่องหมายเนน้ ขอ้ ความ ข. เพมิ่ หรือลบเสน้ ขอบ 10. เปน็ ปุ่มเครื่องมือใช้สาหรับขอ้ ใด ง. ถูกทกุ ขอ้ ก. สร้างตาราง ค. แกไ้ ขเส้นขอบ
14 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น 1. คาสัง่ ใดใช้สาหรับปดิ งานเอกสาร ข. File > Close ก. File > Close Window ง. ถกู ทง้ั ก. และ ข. ค. File > Exit 2. ป่มุ เครอื่ งมือใดสาหรบั เปิดเอกสารเดิมมาใชง้ าน ก. ข. ค. ง. 3. ปุ่มเครือ่ งมือใดใช้สาหรบั บนั ทกึ ทบั ไฟลเ์ ดิมทเ่ี ปิดใชง้ านอยู่ ก. ข. ค. ง. 4. ป่มุ บนแป้นพมิ พใ์ ดใชส้ าหรับสลับระหวา่ งการพิมพ์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ก. Home ข. Shift ค. ง. Insert 5. เมอ่ื กดป่มุ ใดบนแปน้ พิมพห์ มายถึงเป็นการลบตัวอักษร ก. Enter ข. Spacebar ค. Insert ง. Delete 6. คาสงั่ ใดเป็นคีย์ลดั สาหรบั การคดั ลอกขอ้ ความ ก. Ctrl + X ข. Ctrl + C ค. Ctrl + R ง. Ctrl + V 7. คาสั่งใดเปน็ คีย์ลัดสาหรบั การวางขอ้ ความ ก. Ctrl + X ข. Ctrl + C ค. Ctrl + R ง. Ctrl + V 8. ใช้เปล่ียนแบบขอ้ ใด ก. เปลี่ยนลกั ษณะตัวอักษร ข. เปล่ยี นแบบตวั อกั ษร ค. เปลีย่ นขนาดตัวอักษร ง. ถกู ทุกขอ้ 9. เปน็ ปมุ่ เครอ่ื งมือใชส้ าหรับขอ้ ใด ข. สญั ลักษณ์พเิ ศษ ก. สัญลักษณห์ น้าข้อความ ง. ถกู ทุกขอ้ ค. เครอ่ื งหมายเนน้ ข้อความ 10. เปน็ ปมุ่ เครอ่ื งมือใชส้ าหรับขอ้ ใด ข. เพม่ิ หรือลบเสน้ ขอบ ก. สรา้ งตาราง ง. ถูกทุกขอ้ ค. แก้ไขเส้นขอบ
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: