Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบฝึกทักษะเรื่องอิทธิพลของภาษาต่างประเทศและภาษาถิ่น

แบบฝึกทักษะเรื่องอิทธิพลของภาษาต่างประเทศและภาษาถิ่น

Published by mazni3042, 2022-02-06 09:32:03

Description: แบบฝึกทักษะเรื่องอิทธิพลของภาษาต่างประเทศและภาษาถิ่น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

Search

Read the Text Version

คำนำ แบบฝึกทักษะ เร่อื งอิทธพิ ลของภำษำต่ำงประเทศและภำษำถ่ินเล่มน้ี จัดทำข้ึนเพ่ือ เป็นเคร่อื งมือในกำรพัฒนำทักษะกระบวนกำรเรยี นรู้ สำหรบั นักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี ๕ สำระท่ี ๔ หลักกำรใช้ภำษำไทย เน้นทักษะกระบวนกำร กิจกรรมอย่ำงหลำกหลำย ช่วยกระตุ้นให้ผู้เรยี นเกิดกำรเรยี นรู้ ซ่ึงแบบฝึกทักษะประกอบด้วยทั้งหมด ๖ เร่อื ง ดังน้ี เร่อื งท่ี ๑ อิทธพิ ลของภำษำต่ำงประเทศ เร่อื งท่ี ๒ ภำษำอังกฤษ เร่อื งท่ี ๓ ภำษำบำลีและสันสกฤต เร่อื งท่ี ๔ ภำษำเขมร เร่อื งท่ี ๕ ภำษำจีน เร่อื งท่ี ๖ ภำษำถ่ิน ผู้จัดทำหวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำแบบฝึกทักษะเร่อื งอิทธพิ ลของภำษำต่ำงประเทศและ ภำษำถ่ินเล่มน้ี จะช่วยให้นักเรยี นมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเพิ่มข้ึนและสำมำรถนำไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ในชวี ิตประจำวันได้อยำ่ งมีประสิทธภิ ำพ มัซนีย์ นวลแยม้

สำรบัญ หน้ำ เร่อื ง คำแนะนำในกำรใชแ้ บบฝึกทักษะ สำระกำรเรยี นรู้ มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ ตัวช้วี ัด แบบทดสอบก่อนเรยี น ใบควำมรู้ เร่อื งอิทธพิ ลของภำษำต่ำงประเทศและภำษำถ่ิน เร่อื งท่ี ๑ อิทธพิ ลของภำษำต่ำงประเทศ แบบฝกึ กิจกรรมท่ี ๑ เร่อื งท่ี ๒ ภำษำอังกฤษ เร่อื งท่ี ๓ ภำษำบำลีและสันสกฤต แบบฝึกกิจกรรมท่ี ๒ เร่อื งท่ี ๔ ภำษำเขมร แบบฝกึ กิจกรรมท่ี ๓ เร่อื งท่ี ๕ ภำษำจนี แบบฝึกกิจกรรมท่ี ๔ แบบฝกึ กิจกรรมท่ี ๕ เร่อื งท่ี ๖ ภำษำถิ่น แบบฝึกกิจกรรมท่ี ๖ แบบทดสอบหลังเรยี น ภำคผนวก เฉลยแบบฝึกกิจกรรมท่ี ๑ เฉลยแบบฝกึ กิจกรรมท่ี ๒ เฉลยแบบฝึกกิจกรรมท่ี ๓ เฉลยแบบฝกึ กิจกรรมท่ี ๔ เฉลยแบบฝกึ กิจกรรมท่ี ๕ เฉลยแบบฝึกกิจกรรมท่ี ๖ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น-หลังเรยี น เอกสำรอ้ำงอิง

คำแนะนำในกำรใชแ้ บบฝึกทักษะ แบบฝึกทักษะเล่มน้ีสรำ้ งข้ึนเพ่ือเป็นเคร่อื งมือในกำรพัฒนำทักษะกระบวนกำรเรยี นรู้สำหรับ นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี ๕ เร่ือง อิทธพิ ลของภำษำต่ำงประเทศและภำษำถิ่น ดังน้ันเพ่ือประโยชน์ ต่อนักเรยี น จึงควรปฏิบตั ิตำมคำแนะนำดังน้ี ๑. ศึกษำตัวช้วี ัดและจุดประสงค์กำรเรยี นรู้ ๒. ทำแบบทดสอบก่อนเรยี นจำนวน ๒๐ ขอ้ เพ่อื วัดควำมรูพ้ ้นื ฐำนของผเู้ รยี น ๓. เรมิ่ ต้นด้วยกำรศึกษำใบควำมรูแ้ ต่ละบทเรยี น ซ่งึ ประกอบด้วยท้ังส้ิน ๖ เร่อื ง ๔. ทำแบบฝกึ ทักษะแต่ละบทเรยี น โดยในแต่ละแบบฝึกทักษะนักเรยี นสำมำรถสแกน QR Code เขำ้ ไปทำแบบฝึกทักษะแบบออนไลน์ได้ เม่ือทำเสรจ็ กดส่งคำตอบจะทรำบผลคะแนนได้ทันที ๕. ในกำรทำแบบฝกึ ทักษะ นักเรยี นต้องทำด้วยควำมซ่อื สัตย์โดยไม่ดเู ฉลยในบทเรยี น ๖. เม่ือศึกษำบทเรียนครบถ้วน ให้ ทำแบบทดสอบหลังเรียนจำนวน ๒๐ ข้อ เพ่ือทรำบ ควำมก้ำวหน้ำของนักเรยี น

มำตรฐำน ตัวช้วี ดั จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ มำตรฐำน ท ๔.๑ เข้ำใจธรรมชำติของภำษำและหลักภำษำไทย กำรเปล่ียนแปลงของภำษำและพลังของภำษำ ภูมิปญั ญำทำงภำษำ และรกั ษำภำษำไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชำติ ตัวช้วี ดั ท ๔.๑ ม.๔-๖/๕ วิเครำะห์อทิ ธพิ ลของภำษำต่ำงประเทศและภำษำถ่ิน จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ ๑. อธบิ ำยท่ีมำและหลักกำรของคำภำษำต่ำงประเทศและภำษำถ่ินได้ ๒. วเิ ครำะห์คำท่ีมำจำกภำษำต่ำงประเทศได้ ๓. จำแนกคำท่ีมำจำกภำษำถิ่นได้

แบบทดสอบก่อนเรยี น คำช้แี จง : ให้นักเรยี นเลือกตอบคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว ๑. ขอ้ ใดไม่ใช่กำรยมื คำภำษำต่ำงประเทศมำใชท้ ่ีทำ ๖. ช่อื รำ้ นค้ำในขอ้ ใดเปน็ ภำษำบำลี สันสกฤต ให้ภำษำไทยเปล่ียนแปลง ก. ชำบชู ิ ข. โรงเต๊ียม ก. มีคำหลำยพยำงค์ ค. ศิรภิ ัณฑ์ ข. มีคำควบกลำ้ มำกข้ึน ง. ชำยส่ีหม่ีเก๊ียว ค. มีคำไวพจน์มำกข้ึน ง. มีคำท่ีสะกดตรงมำตรำตัวสะกด ๗. “จรยิ ำเปน็ ภรรยำของไอศวรรย์ เธอเปน็ คนท่ี ๒. เพรำะเหตุใดจึงมีกำรยืมคำภำษำต่ำงประเทศมำ ชอบชว่ ยเหลือและคอยให้คำปรกึ ษำแก่บคุ คลท่ี ใช้ในภำษำไทย ทุกขใ์ จ” ข้อควำมข้ำงต้น มีคำท่ีมำจำกภำษำบำลี ก. เพรำะในปจั จุบันมีคนนิยมใชก้ ันมำก ก่ีคำและคำท่ีมำจำกภำษำสันสกฤตก่ีคำ ข. เพรำะมีวทิ ยำกรเขำ้ มำเผยแพรใ่ นประเทศไทย ค. เพรำะมีกำรติดต่อระหวำ่ งประเทศท้ังด้ำน ก. บำลี ๔ คำ สันสกฤต ๒ คำ กำรค้ำ กำรทตู กำรศึกษำ ข. บำลี ๓ คำ สันสกฤต ๓ คำ ง. เพรำะภำษำต่ำงประเทศมีจำนวนมำกจงึ ต้อง ค. บำลี ๒ คำ สันสกฤต ๒ คำ นำมำใช้ในประเทศไทยบำ้ ง ง. บำลี ๒ คำ สันสกฤต ๔ คำ ๓. กำรท่ีภำษำต่ำงประเทศเข้ำมำมีอิทธพิ ลต่อ ๘. ประโยคข้อใดต่อไปน้ี ประกอบด้วยท้ังคำภำษำ ภำษำไทยมีผลดีต่อภำษำไทยอยำ่ งไร บำลีและภำษำสันสกฤต ก. มีคำใช้ในภำษำมำกข้ึน ก. โยษิตำเดินทำงไปเรยี นต่อต่ำงประเทศ ข. คนไทยรูจ้ ักคำภำษำต่ำงประเทศมำกข้ึน ในช่วงปดิ ภำคเรยี น ค. สำมำรถใชค้ ำภำษำต่ำงประเทศแทนคำไทย ข. บปุ ผำเรยี นจบปรญิ ญำโทเม่ือต้นเดือน บำงคำได้ ค. พฤษภำเปน็ นักกีฬำของโรงเรยี น ง. คำไทยเปล่ียนแปลงไปตำมคำศพั ท์ท่ีมำจำก ง. กัญญำณัฐเป็นคนมีเมตตำต่อคนรอบข้ำง ภำษำต่ำงประเทศ ๙. ขอ้ ใดเปน็ คำท่ีมำจำกภำษำอังกฤษทกุ คำ ๔. ประโยคในข้อใดต่อไปน้ีได้รบั อิทธพิ ลมำจำก ก. คอนเสิรต์ แท็กซ่ี กอล์ฟ ภำษำต่ำงประเทศ ข. เบนซนิ สนทนำ กิตติ ก. ตำยำยจงู มือกันเดินในสวน ค. ทีวี เก้ำอ้ี ชอล์ก ข. ถนนวนั น้ีเต็มไปด้วยรถยนต์ ง. วคั ซนี กงสี กีต้ำร์ ค. มะพรำ้ วลูกน้ีน้ำหอมหวำนมำก ๑๐. คำภำษำอังกฤษในขอ้ ใดใชค้ ำไทยแทนได้ ง. พอ่ ซ้อื ดินสอแท่งน้ีให้ฉันในวนั เกิด ก. กำรรบั ประทำนอำหำรท่ีมีไฟเบอรส์ ูงดีต่อ ๕. ข้อใดไม่ใช่หลักสังเกตคำบำลีและสันสกฤตใน สุขภำพ ภำษำไทย ข. ผลกำรวิจัยปรำกฏว่ำใบย่ำนำงต้ำนพษิ กรด ก. ภำษำบำลีสันสกฤตมักใชต้ ัว ศ ษ ฤ ยรู กิ ในหน่อไม้ได้ ข. ภำษำสันสกฤตนิยมคำควบกลำ้ ค. โรคเร้อื รงั เช่น เบำหวำน ไม่มีวคั ซนี ปอ้ งกัน ค. ภำษำบำลีส่วนใหญจ่ ะเขยี นด้วยพยญั ชนะ “ฑ” เหมือนโรคติดเช้อื ง. ภำษำบำลีมีหลักตัวสะกด ตัวตำม ง. ก่อนจะซ้อื ครมี บำรุงผวิ หน้ำควรลองทำท่ี บรเิ วณท้องแขนก่อน

๑๑. “กัปตันทีมวอลเลยบ์ อลของไทยได้รบั แรงเชียร์ ๑๖. ขอ้ ใดกล่ำวถึงภำษำถ่ินไม่ถูกต้อง จำกแฟนคลับ” จำกขอ้ ควำมดังกล่ำวมีคำท่ีมำจำก ก. คำบำงคำออกเสียงต่ำงจำกภำษำกลำง ภำษำอังกฤษก่ีคำ ข. ภำษำถิ่นแสดงถึงควำมเปน็ พวกเดียวกัน ค. คำบำงคำมีควำมหมำยเหมือนภำษำกลำง ก. ๔ คำ ง. ภำษำถ่ินแต่ละท้องถิ่นออกเสียงแตกต่ำง ข. ๕ คำ ค. ๖ คำ กันทุกคำ ง. ๗ คำ ๑๗. คำใดแสดงถึงอิทธพิ ลของภำษำถิ่นใน ๑๒. ขอ้ ใดเปน็ คำท่ีมำจำกภำษำเขมรทั้งหมด ภำษำไทย ก. บุษบำ คัมภีร์ ข. วัฒนำ ตรสั ก. นำ้ ใจ ค. บรรทม สำรวจ ข. รถไฟ ง. จำเรญิ อนุชำ ค. หัวหน้ำ ๑๓. ข้อใดไม่มีคำท่ีมำจำกภำษำเขมร ง. เส่ือสำด ก. จึงเรยี นมำเพ่อื โปรดพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบ ๑๘. ข้อใดเปน็ ภำษำถ่ินเดียวกันทุกคำ ข. คุณปู่ทำลำยกนกแก้วลำยไทยงำมวจิ ติ ร ก. อู้ แล ค. ให้ร่นื เรงิ สุขสำรำญเหมือนดอกไม้บำนยำมเชำ้ ข. พุง เอ้ือย ง. เพลงลำวดำเนินทรำยมีทำนองไพเรำะ ค. สำว แหลง อ่อนหวำน ง. กำด หลำด ๑๔. ขอ้ ใดมีคำท่ีมำจำกภำษำจีน ๑๙. ข้อควำมใดต่อไปน้ีไม่ปรำกฏภำษำถิ่น ก. ลิซำ่ ทำแกงจืดเต้ำหู้ให้ตำกิน ก. ตำบกั หุ่งมีรสชำติแซบอีหลี ข. ธดิ ำซ้อื พวงมำลัยมำบูชำพระ ข. บำ้ นควำยสุพรรณบรุ มี ีรูปป้ นั ควำยยืนมอง ค. เส้ือเช้ติ ของพอ่ ใส่แล้วดูดีมำก ค. คนท่ีจะลดควำมอ้วนควรกินบกั สีดำ ง. กำรแข่งขนั ฟุตบอลบอลค่นู ้ีสนุกจรงิ ๆ ง.เม่ือแลงท่ีบำ้ นมีกำรทำข้ำวปนุ้ ๑๕. “ก๋วยเต๋ียวเก๊ียวบะหม่ี พะโล้น้ีแสนอรอ่ ย ๒๐. ภำษำถ่ินข้อใดต่อไปน้ีแตกต่ำงจำกข้ออ่ืน เต้ำฮวยเฉำก๊วยหวำนช่นื ใจ ซำลำเปำฮอ่ งเต้วันกิน ก. เปดิ ตำเบง่ิ ดู เจ” จำกขอ้ ควำมดังกล่ำวมีคำท่ีมำจำกภำษำจนี ก่ีคำ ข. หลำดใต้โหนด ก. ๗ คำ ค. พูดจรงิ ไม่ข้หี ก ข. ๘ คำ ง. ขำ้ วม้ือน้ีหรอยอย่ำงแรง ค. ๙ คำ ง. ๑๐ คำ

ใบควำมรูท้ ่ี ๑ อิทธพิ ลของภำษำต่ำงประเทศ คนไทยมีเอกลักษณ์ประจำชำติอยู่ประกำรหน่ึงคือมีควำมใจกว้ำง โอบอ้อมอำรี ดังน้ันทำให้ชำวต่ำงชำติท่ีมำติดต่อคบค้ำกับคนไทย มีทัศนคติ ท่ีดีต่อคนไทยและมีกำรแลกเปล่ียนควำมรู้ ควำมคิด รวมทั้งศิลปวัฒนธรรม ด้ำนต่ำง ๆ ตลอดจนด้ำนภำษำ คนไทยก็เปดิ กว้ำงรบั เอำภำษำของชำติต่ำง ๆ มำมำก จนบำงคำก็กลืนเป็นคำไทย บำงคำก็พอสืบต้นตอได้ว่ำมำจำก ภำษำใด ดังน้ันกำรศึกษำท่ีมำของคำต่ำงประเทศท่ีอยู่ในภำษำไทย จะทำให้ เรำทรำบถึงพัฒนำกำรของภำษำไทยในอีกแงม่ ุมหน่ึง สำเหตทุ ่ีมีกำรยมื คำภำษำต่ำงประเทศท่ีใช้ภำษำไทย ๑. สภำพภูมิศำสตร์ ประเทศไทยมีอำณำเขตติดต่อกับประเทศต่ำง ๆ ได้แก่ พม่ำ ลำว เขมร มำเลเซยี จึงทำให้คนไทยท่ีอำศัยอยู่บรเิ วณชำยแดน เดินทำงข้ำมแดนไปมำหำสู่ กันและมีควำมเก่ียวข้องกัน จึงมีกำรแลกเปล่ียนภำษำกัน เช่น คนไทยท่ีอยู่ใน จังหวัดสุรนิ ทร์ ศรีสะเกษ บุรีรมั ย์ก็สำมำรถส่ือสำรด้วยภำษำเขมรได้ คนไทยท่ีอยู่ใน จังหวัดปตั ตำนี ยะลำ สงขลำ นรำธวิ ำสรบั เอำภำษำมลำยเู ขำ้ มำใช้ เปน็ ต้น ๒. ประวัติศำสตร์ ชนชำติไทยเป็นชนชำติท่ีมีประวัติศำสตร์ อันยำวนำน มีกำรอพยพย้ำยถ่ิน ของคนไทยเข้ำมำอำศัยในถิ่นท่ีอำศัยปัจจุบัน ซ่ึงเดิมชนชำติท่ีอำศัยอยู่ก่อน เช่น เขมร ละว้ำ มอญ หรอื กำรทำสงครำมกับชนชำติอ่ืน มีกำรกวำดต้อนชนชำติอ่ืนเขำ้ มำเป็นเชลยศึก หรอื ชนชำติอ่ืน อพยพเข้ำมำอยใู่ นแผ่นดินไทยด้วยเหตผุ ลต่ำง ๆ และจะกลำยเปน็ คนไทยในท่ีสุด ผลท่ีตำมมำ ก็คือคนเหล่ำน้ันนำถ้อยคำภำษำเดิมของตนเองเข้ำมำปะปนกับภำษำไทย ๓. ศำสนำ คนไทยมีเสรภี ำพในกำรนับถือศำสนำมำเปน็ เวลำช้ำนำน เม่ือนับ ถือศำสนำใดก็ย่อมได้รบั ถ้อยคำภำษำท่ีใช้ในคำสอนหรอื คำเรยี กช่ือต่ำง ๆ ในทำง ศำสนำของศำสนำน้ัน ๆ มำปะปนอยู่ในภำษำไทยด้วย เช่น ศำสนำพรำหมณ์ ใช้ภำษำสันสกฤต ศำสนำพุทธใช้ภำษำบำลี ศำสนำอิสลำมใช้ภำษำอำหรบั และ ศำสนำครสิ ต์ใชภ้ ำษำอังกฤษ ดังน้ันภำษำต่ำง ๆ ท่ีใชใ้ นทำงศำสนำก็จะเขำ้ มำปะปนในภำษำไทยด้วย ๔. กำรค้ำขำย จำกหลักฐำนทำงด้ำนประวัติศำสตร์ ชนชำติไทยมีกำรติดต่อค้ำขำยแลกเปล่ียน สินค้ำกับชนชำติต่ำง ๆ มำเป็นเวลำอันยำวนำน เช่น ชำวจีน ชำวโปรตุเกส ฝรง่ั เศส อังกฤษ ฮอลันดำ ตลอดถึงญ่ีปุ่น ทำให้มีถ้อยคำในภำษำของชนชำตินั้น ๆ เข้ำมำปะปนอยู่ในภำษำไทยเป็นจำนวนมำก ตลอดเวลำไม่มีวันสิ้นสุด ๕. ควำมสัมพันธท์ ำงด้ำนวรรณคดีวรรณคดีอินเดียท่ีไทยนำเข้ำมำ เช่น เร่ืองมหำกำพย์รำ มำยณะ และมหำภำรตะ แต่งข้ึนเปน็ ภำษำสันสกฤต อิเหนำ เปน็ วรรณคดีท่ีมำจำกเร่อื งดำหลังของชวำ ด้วยเหตนุ ้ีวรรณคดีทำให้ภำษำสันสกฤตและภำษำชวำเข้ำมำปะปนในภำษำไทย

๖. วัฒนธรรมประเพณีเม่ือชนชำติต่ำง ๆ เข้ำมำติดต่อกับชำติไทยหรือมำตั้งหลักแหล่งอยู่ใน ประเทศไทย ย่อมนำเอำวฒั นธรรมและประเพณีท่ีเคยถือปฏิบตั ิอยู่ในสังคมของตนมำปฏิบตั ิในสังคมไทย นำน ๆ เข้ำถ้อยคำภำษำท่ีเก่ียวข้องกับวัฒนธรรมและประเพณีเหล่ำน้ันก็กลำยมำเป็นถ้อยคำภำษำ ท่ีเก่ียวขอ้ งกับชีวติ ประจำวันของคนไทยมำกข้ึน ๗. กำรศึกษำและวิทยำกำรด้ำนต่ำง ๆ จำกกำรท่ีคนไทยเดินทำงไปศึกษำยังต่ำงประเทศ ทำให้ได้ใช้และพูดภำษำอ่ืน ๆ และรับเอำวิทยำกำรต่ำง ๆ เม่ือสำเร็จกำรศึกษำ จึงนำเอำภำษำของ ประเทศนั้นมำใชป้ ะปนกับภำษำของตน เชน่ ภำษำอังกฤษ ในปจั จุบนั ประเทศไทยกำลังเตรยี มควำมพรอ้ ม ด้ำนกำรศึกษำเพ่ือก้ำวสู่ประชำคมอำเซยี นและมำตรฐำนสำกล โดยกำรจัดกำรศึกษำให้ผู้เรยี นได้เรยี นรู้ ภ ำ ษ ำ แ ล ะ วั ฒ น ธ ร ร ม ป ร ะ เ ท ศ ส ม ำ ชิ ก ส ม ำ ค ม อ ำ เ ซี ย น แ ล ะ ภ ำ ษ ำ ท่ี ส ำ ม ำ ร ถ ส่ ื อ ส ำ ร กั น ใ น ส ำ ก ล โ ล ก ดังนั้นกำรหลั่งไหลของภำษำต่ำง ๆ ท่ีจะเขำ้ มำปะปนในภำษำไทยก็จะเพ่มิ มำกข้นึ ๘. ควำมสัมพันธท์ ำงกำรทูต กำรเจริญสัมพันธไมตรที ำงกำรทูต ในกำรอพยพ โยกย้ำยหรอื ในกำรติดต่อทำงกำรทูต ย่อมทำให้ภำษำของเจ้ำของถิ่นเดิมหรอื ผู้อพยพ โยกย้ำยมำใหม่นำมำใชร้ ว่ มกัน เชน่ อังกฤษ ฝรงั่ เศส ๙. อพยพยำ้ ยถิ่นฐำน กำรอพยพย้ำยถ่ินฐำนมำจำกสำเหตหุ ลำยประกำร เช่น สภำพเศรษฐกิจต้องไปประกอบอำชพี ยังประเทศต่ำง ๆ ภัยสงครำม กำรเมืองกำรปกครอง อิทธพิ ลของภำษำต่ำงประเทศต่อภำษำไทย เน่ืองด้วยภำษำเปน็ วัฒนธรรมอยำ่ งหน่ึง สำมำรถถ่ำยทอดซ่งึ กันและกันได้ จงึ ทำให้ภำษำในโลก น้ีเกิดกำรปะปนในกลุ่มชนท่ีติดต่อสัมพันธก์ ัน ภำษำไทยได้ยืมคำมำจำกภำษำต่ำงประเทศหลำยภำษำ เม่ือนำมำใช้เป็นระยะเวลำนำน ภำษำไทยจึงเกิดกำรเปล่ียนแปลงหลำยด้ำนด้วยกันท้ังด้ำนระบบเสียง คำศพั ท์ ไวยำกรณ์และสำนวนโวหำร ดังน้ี ๑. อิทธพิ ลด้ำนระบบเสียง กำรยืมคำภำษำต่ำงประเทศเข้ำมำใช้ทำให้เกิดกำรเปล่ียนแปลงด้ำน ระบบเสียง ดังน้ี  มีเสียงพยัญชนะควบกลำ้ มำกข้ึน เดิมภำษำไทยมีเสียงควบกล้ำเพียง ๑๑ เสียง ได้แก่ กร กล กว ขร (คร) ขล (คล) ขว (คว) ปร ปล พร พล (ผล) ตร เม่ือรบั ภำษำสันสกฤตเข้ำมำใช้มีเสียงพยัญชนะ ควบกล้ำเพ่ิมข้ึน ๑ เสียง คือ ทร ในคำว่ำ จันทรำ ทฤษฎี และเม่ือรบั ภำษำอังกฤษมีเสียงพยัญชนะควบ กลำ้ เพม่ิ อีก ๕ เสียงคือ เสียง ฟร ในคำ ฟรี ฟรซี เสียง ดร ในคำ ดรมั เมเยอร์ ดรำ้ ฟท์ เสียง บร ในคำ เบรก บรอนซ์ เสียง บล ในคำ บล็อก บลูเบอร่ี เสียง ฟล ในคำ ฟลุ้ค แฟลต

 มีเสียงพยัญชนะตัวสะกดเพมิ่ ข้ึน เติมภำษำไทยมีตัวสะกด ๘ แม่ คือ แม่กก แม่กด แม่กบ แม่ กง แม่กน แม่กม แม่เกย และแม่เกอว อิทธพิ ลของภำษำอังกฤษทำให้มีแนวโน้มในกำรออกเสียง พยัญชนะท้ำยเพม่ิ เช่น -ส -ฟ –ล -ส ได้แก่ วีนัส แก๊ส เทนนิส มัสตำรต์ -ฟ ได้แก่ กรำ๊ ฟ บรูฟ๊ เซฟ ทอฟฟ่ ี –ล ได้แก่ แอปเปลิ ดับเบล้ิ ๒. อิทธพิ ลด้ำนศัพท์ เปน็ อิทธพิ ลท่ีเห็นเด่นชดั คือ ภำษำไทยมีคำศัพท์ใช้เพิม่ ข้นึ อำจเปน็ คำศัพท์ ท่ีหมำยถึงส่ิงใหม่ท่ียังไม่เคยมีในภำษำไทย หรืออำจหมำยถึงส่ิงของหรือควำมคิดท่ีมีอยู่แล้วใน ภำษำไทยก็ได้ กำรเปล่ียนแปลงด้ำนคำศัพท์มีดังน้ี  มีคำศัพท์ใหม่ท่ีใช้แทนส่ิงใหม่หรอื ควำมคิดใหม่ท่ีไม่เคยมีมำก่อน ทั้งท่ีใช้ทั่วไปใช้ในวรรณคดี ศำสนำ วิชำกำร เช่น วันจันทร์ มรกต กรรณิกำร์ กิเลส นรก บำป นิสิต ศึกษำ สุนัข อุจจำระ จิตวิทยำ ตรโี กณมิติ  มีคำศัพท์ใหม่ใช้แทนสิ่งเดิมหรือควำมคิดเดิมท่ีมีอยู่แล้ว ทำให้มีคำใช้หลำกหลำย เช่น พ่อ-บดิ ำ หน่ึง-เอก สิบ-ทศ เกือก-รองเท้ำ  มีคำศัพท์ใหม่ใช้มำกข้ึน ทำให้เกิดคำไวพจน์ เป็นประโยชน์ในกำรพูด กำรเขียนสำมำรถ เลือกใช้คำให้เหมำะกับระดับภำษำและเปน็ ประโยชน์ในกำรแต่งคำประพันธ์ เชน่ กิน = รบั ประทำน เสวย เดิน = เสด็จ หัว = ศรี ษะ เศยี ร กบำล ดวงจนั ทร์ = บหุ ลัน แข จนั ทรำ ศศขิ ร ๓. อิทธพิ ลด้ำนไวยำกรณ์ กำรรับภำษำต่ำงประเทศเข้ำมำใช้ทำให้ภำษำไทยนอกจำกจะมี คำศัพท์มำกข้นึ แล้ว ยังรบั กลวิธใี นกำรเรยี งคำมำใชอ้ ีกด้วย เช่น  กำรเรยี งคำขยำยไว้ข้ำงหน้ำ ภำษำไทยมักเรยี งคำขยำยอยู่หลังคำท่ีถูกขยำย แต่มีลักษณะ กำรเรยี งคำขยำยมำก่อน เช่น หลำยควำมคิด  จำนวนนับอยู่หน้ำคำนำมและไม่นิยมใช้ลักษณนำม เชน่ ๔ โจรปล้นรำ้ นทอง รฐั บำลเรง่ ๒ มำตรกำรพ้นื ฐำนเศรษฐกิจ

แบบฝกึ กิจกรรมท่ี ๑ “รูล้ ึกท่ีมำของภำษำ” คำช้แี จง : ให้นักเรยี นนำตัวอักษรในกรอบส่ีเหล่ียมมำใส่ด้ำนหน้ำขอ้ ควำมท่ีมีควำมสัมพนั ธก์ ันให้ถูกต้อง (ก) ควำมสัมพนั ธด์ ้ำนภูมิศำสตร์ (ข) ควำมสัมพันธด์ ้ำนศำสนำ (ค) ควำมสัมพันธด์ ้ำนกำรทูต (ง) ควำมสัมพันธด์ ้ำนกำรศึกษำและวิทยำกำรด้ำนต่ำง ๆ (จ) ควำมสัมพนั ธด์ ้ำนวรรณคดี (ฉ) ควำมสัมพันธด์ ้ำนกำรค้ำขำย (ช) ควำมสัมพันธด์ ้ำนเทคโนโลยี (ซ) กำรเกิดคำไวพจน์ (ฌ) กลวิธใี นกำรเรยี งคำ (ญ) อิทธพิ ลด้ำนระบบเสียง ๑. ประเทศมีอำณำเขตติดต่อกับประเทศพม่ำ ลำว เขมร มำเลเซยี มีกำรเดินทำงข้ำมแดนไปมำ หำสู่กัน จงึ มีกำรแลกเปล่ียนภำษำกัน ๒. กำรเจรญิ สัมพนั ธไมตรกี ับประเทศต่ำง ๆ ทำให้มีกำรใชภ้ ำษำต่ำง ๆ ในกำรส่ือสำร ๓. คนไทยมีเสรภี ำพในกำรนับถือศำสนำ เม่ือนับถือศำสนำใดก็ตำมยอ่ มได้รบั ถ้อยคำภำษำท่ีใช้ ในคำสอนหรอื คำเรยี กช่อื ต่ำง ๆ ของศำสนำน้ันมำปะปนอยู่ในภำษำไทย ๔. คนไทยไปศึกษำต่อต่ำงประเทศ ใช้ภำษำพูด ภำษำอ่ืน ๆ รบั เอำวิทยำกำรต่ำง ๆ เม่ือสำเรจ็ กำรศกึ ษำจึงนำภำษำของประเทศ นั้น ๆ มำใชป้ ะปนกับภำษำของตน ๕. คำศัพท์จำกวรรณคดีเร่อื ง อิเหนำ เชน่ อสัญแดหวำ กระยำหงัน ๖. คำท่ีมีควำมหมำยเหมือนกัน เช่น ดอกไม้ สุมำลี ผกำ บษุ บำ ๗. ชนชำติไทยมีกำรติดต่อค้ำขำยแลกเปล่ียนสินค้ำกับชนชำติต่ำง ๆ มำเป็นเวลำอันยำวนำน เช่น ชำวจนี ชำวโปรตุเกส ฝรง่ั เศส อังกฤษ ๘. ไม่นิยมใชล้ ักษณนำม เช่น 3 นักกีฬำไทยควำ้ เหรยี ญทองเอเซยี นเกมส์ ๙. มีเสียงพยญั ชนะควบกล้ำมำกข้นึ เช่นคำวำ่ บลูเบอร่ี ดรมั เมเยอร์ ๑๐. กำรใช้คำ เช่น คำว่ำ กิน (ภำษำพดู ) รบั ประทำน (ภำษำเขียน) เสวย (คำรำชำศัพท์)

ใบควำมรูท้ ่ี ๒ คำท่ีมำจำกภำษำอังกฤษ คำภำษำอังกฤษท่ีนำมำใชใ้ นภำษำไทยโดยส่วนใหญ่เปน็ คำทับศพั ท์ ซ่งึ มีหลักเกณฑ์ดังน้ี ๑. สระ ให้ถอดเสียงตำมพจนำนุกรมภำษำอังกฤษ และเทียบกับเสียงสระในภำษำไทย ๒. พยัญชนะ ให้ถอดเป็นพยัญชนะภำษำไทยตำมหลักเกณฑ์ในตำรำ งเทียบพยัญชนะ ภำษำอังกฤษ ๓. กำรใช้เคร่อื งหมำยทัณฑฆำต จะใช้กำกับพยัญชนะท่ีไม่ออกเสียงในภำษำไทย หรอื คำ หรอื พยญั ชนะท่ีมีพยัญชนะสะกดหลำยตัว ให้ใส่พยญั ชนะท่ีไม่ออกเสียงตัวสุดท้ำย เชน่ windsor = วินด์เซอร์ okhotsk = โอค็อตสก์ ๔. กำรใช้ไม้ไต่คู้ จะใช้ในกรณีท่ีแสดงให้เห็นว่ำคำนั้นแตกต่ำงจำกคำไทยและเพ่ือให้ผู้อ่ำน แยกพยำงค์ได้ถูกต้อง เชน่ log = ล็อก knock = น็อก ๕. กำรใชเ้ คร่อื งหมำยวรรณยุกต์ คำทับศัพท์จะไม่นิยมใส่เคร่อื งหมำยวรรณยกุ ต์ ยกเวน้ ใน กรณีท่ีคำนั้นซ้ำเสียงกับคำไทยทำให้เกิดควำมสับสน อำจต้องใส่วรรณยกุ ต์ เช่น coke = โค้ก coma = โคม่ำ ๖. คำท่ีมีพยัญชนะซ้อนเป็นตัวสะกด ถ้ำเป็นคำศัพท์ท่ัวไปให้ตัดพยัญชนะสะกดออกตัวหน่ึง แต่ถ้ำเปน็ ศพั ท์วชิ ำกำรหรอื วิสำมำนยนำม ให้ใส่เคร่อื งหมำยทัณฑฆำตท่ีตัวท้ำย เชน่ football = ฟตุ บอล James Watt = เจมส์ วตั ต์ cell = เซลล์ ถ้ำพยัญชนะซอ้ นอยู่กลำงศัพท์ ให้ถือว่ำพยญั ชนะซอ้ นตัวแรกเป็นตัวสะกดของพยำงค์หน้ำ และ พยญั ชนะซอ้ นตัวหลังเปน็ พยญั ชนะต้นของพยำงค์ต่อไป เชน่ pattern = แพตเทิรน์ broccoli = บรอกโคลี ๗. ถ้ำสระพยำงค์หน้ำเปน็ เสียงสระอะ เม่ือทับศพั ท์ให้เปล่ียนเปน็ ไม้หันอำกำศ และซอ้ นตัวสะกด ของพยำงค์หน้ำเขำ้ ไปอีกตัวหน่ึง แต่ถ้ำเปน็ สระอ่ืนไม่ต้องซอ้ นพยัญชนะ เชน่ double = ดับเบลิ general = เจอเนอรลั ถ้ำเปน็ คำท่ีเติมปัจจัย เช่น –er –ing –ic –y กำรทับศัพท์อำจทำให้เสียงผิดไปจำกเดิม ให้เติม พยญั ชนะสะกดของพยำงค์ต้นอีกหน่ึงตัว เพ่อื ให้คงเค้ำคำเดิม เช่น booking = บกุ กิง sweater = สเวตเตอร์

๘ . คำปร ะ สมท่ี มี เคร่ือ งห มำย ยั ติ ภั งค์ ( -) ใ ห้ เขีย นติ ดกั น ย กเว้ นศัพท์ วิช ำกำร ห รือ วสิ ำมำยนำม เช่น cross-stitch = ครอสสติตช์ cobalt-60 = โคบอลต์-60 ถ้ำคำประสมท่ีเขยี นแยกกัน เม่ือเขียนเปน็ คำไทยให้เขียนติดกัน เช่น calcium carbonate = แคลเซยี มคำรบ์ อเนต night club = ไนต์คลับ ๙. คำคณุ ศัพท์ท่ีมำจำกคำนำม ถ้ำมีควำมหมำยเหมือนคำนำม หรอื มีควำมหมำยว่ำ “เปน็ ของ” หรอื “เปน็ เร่อื งของ” หรอื “เก่ียวขอ้ งกับ”หรอื “เก่ียวเน่ืองจำก” ให้ทับศพั ท์ในรูปคำนำม เชน่ electronic charge = ประจอุ ิเล็กตรอน focal length = ควำมยำวโฟกัส autonomic absorption = กำรดดู กลืนโดยอะตอม ในกรณีท่ีทับศัพท์ในรูปคำนำมแล้วเกิดควำมหมำยกำกวมหรอื คลำดเคล่ือนให้ทับศัพท์ในรูป คำคณุ ศพั ท์ เช่น sulfuric acid = กรดซลั ฟวิ รกิ metric system = ระบบเมตรกิ ๑๐. คำย่อ ให้เขียนช่อื ตัวอักษรนั้นๆ เปน็ ภำษำไทยโดยไม่ต้องใส่จดุ และเว้นช่องไฟ เชน่ BBC = บบี ซี ี F.B.I = เอฟบไี อ คำยอ่ ท่ีอ่ำนออกเสียงเหมือนคำคำหน่ึง ให้เขียนตำมเสียงท่ีออกและไม่ใส่จุด เชน่ UNESCO = ยเู นสโก ASEAN = อำเซยี น ถ้ำเปน็ ช่อื บุคคลให้ใส่จุด และเวน้ ชอ่ งไฟระหวำ่ งช่อื กับนำมสกุล เชน่ G.H.D. cold = จ.ี เอช.ดี. โคลด์ A.D. Smit = เอ.ดี. สมิท

ตัวอย่ำงคำทับศพั ท์ภำษำอังกฤษ golf = กอล์ฟ cream = ครมี guitar siren = กีตำร์ quota = โควตำ diesel tent = ไซเรน fashion = แฟช่นั = ดีเซล microwave = ไมโครเวฟ = เต็นท์ jean = ยนี

ใบควำมรูท้ ่ี ๓ คำท่ีมำจำกภำษำบำลีและสันสกฤต ภำษำบำลีสันสกฤตจัดเป็นภำษำหน่ึงในตระกูลภำษำอินโดยูโรเปียน (อินเดีย-ยุโรป) สำหรับ นักเรียนท่ีถนัดภำษำอังกฤษ หรือภำษำฝร่ังเศสจะเข้ำใจไวยำกรณ์ของภำษำบำลีและสันสกฤต จนสำมำรถฝกึ ฝนวทิ ยำยุทธจนชำนำญได้เลย ภำษำบำลี เรำใช้อักษรย่อวำ่ “ป.” เพรำะมีอีกช่อื ว่ำ “ปำลิ” และภำษำสันสกฤตเป็นภำษำเก่ำแก่ ภำษำหน่ึงในตระกูลท่ีได้กล่ำวไปแล้วข้ำงต้น โดยท้ังสองภำษำมีควำมคล้ำยคลึงกันส่วนใหญ่ ซ่ึงถ้ำพิจำรณำกันลึก ๆ จะเห็นว่ำ “ภำษำบำลีและภำษำสันสกฤตเป็นคนละภำษำกัน” หมำยควำมว่ำ “ภำษำบำลี” มักใช้พูดคุย จดบันทึกท่ีเก่ียวข้องกับพระพุทธศำสนำ เช่น กำรบันทึกอรรถคำถำ ในพระไตรปิฎก ส่วนภำษำสันสกฤตจะเป็นภำษำท่ีค่อนข้ำงมีไวยำกรณ์ท่ียำกกว่ำปกติ จึงเป็นภำษำ สำหรบั วรรณะกษัตรยิ ์ท่ีใช้สนทนำกันหรอื เรียนพระเวทย์กันเท่ำนั้น (ท่ีมำจำกทำงพรำหมณ์เช่ือว่ำเป็น ภำษำท่ีเทพเจำ้ ใชส้ ่ือสำรกับมนุษยเ์ พ่อื ถ่ำยทอดควำมรูแ้ จง้ และปญั ญำญำณแก่เหล่ำฤๅษี) พยัญชนะวรรคภำษำบำลี แถว ๑ แถว ๒ แถว ๓ แถว ๔ แถว ๕ กข คฆง วรรค กะ จฉ ช ฌญ วรรค จะ ฏฐ ฑ ฒณ วรรค ฏะ ตถ ทธน วรรค ตะ ปผ พภม วรรค ปะ เศษวรรค ยรลฬวสห (ยำยเรำเล่ำว่ำเสือหำยอัง) แถวท่ี ๑ สะกด ตัวตำม แถวท่ี ๑ หรอื ๒ ในวรรคเดียวกันเท่ำนั้น แถวท่ี ๓ สะกด ตัวตำม แถวท่ี ๓ หรอื ๔ ในวรรคเดียวกันเท่ำน้ัน แถวท่ี ๕ สะกด ตัวตำมตัวใดก็ได้แต่ต้องอยู่ในวรรคเดียวกันเท่ำน้ัน ตัวอย่ำง แถวท่ี ๑ สะกด ตัวตำม แถวท่ี ๑ หรอื ๒ สักกำระ ทุกข์ ปจั จัย มัจฉำ วัฏ(วฏั ฏ) อัฐิ(อัฏฐิ) เมตตำ หัตถี สิปปะ บุปผำ แถวท่ี ๓ สะกด ตัวตำม แถวท่ี ๓ หรอื ๔ อัคคี พยคั ฆ์ วชิ ชำ อัชฌำสัย วุฒ(ิ วุฑฒ)ิ สัททะ พุทธ ทัพพี คัพภ์ แถวท่ี ๕ สะกด ตัวตำมตัวใดก็ได้ สังคม กุญชร สัญฐำน สันติ กัมปนำท คัมภีร์

สะกดด้วยพยญั ชนะเศษวรรค ย ล ส ตำมตัวเอง อัยยิกำ วัลลภ อัสสุ (นำ้ ตำ) สะกดด้วยพยญั ชนะเศษวรรค ย ล ว ฬ ตำมด้วยพยญั ชนะเศษวรรค คุยห- (ลับ ซอ่ นเรน้ ) ดุล (เท่ำกัน) ชิวหำ (ล้ิน) วริ ุฬห์ (เจรญิ งอกงำม) สะกดด้วยพยัญชนะแถวท่ี ๕ ตำมด้วยพยญั ชนะเศษวรรค สังวร สงสำร บังสุกุล สังหรณ์ สังหรณ์ ปัญหำ กัณหำ สัณห์ (เกล้ียงเกลำ อ่อน) สยัมวรำ (หญิง ท่ีเลือกค่คู รองเอำเอง) ตำรำงเปรยี บเทียบภำษำบำลีและภำษำสันสกฤต เม่ือทรำบพยัญชนะในภำษำบำลีทั้ง ๓๓ ตัว (ตำมตำรำงวรรค) แล้ว ต่อไปจะเปรยี บเทียบ ลักษณะสำคัญ ๆ ระหว่ำงภำษำบำลีและภำษำสันสกฤตท่ีมีควำมแตกต่ำงกันอย่ำงเห็นได้ชัดเจน ดังน้ี ภำษำบำลี ภำษำสันสกฤต ๑. ใช้สระ ๘ เสียง ได้แก่ อะ อำ อิ อี อุ อู เอ โอ ๑. ใช้สระ ๑๔ เสียง ได้แก่ อะ อำ อิ อี อุ อู เอ โอ และ เพิ่ม ฤ ฤำ ฦ ฦำ ไอ เอำ ข้ึนมำ ๒. พยัญชนะในภำษำบำลีมี ๓๓ ตัว (ตำมตำรำง) ๒. พยัญชนะในภำษำสันสกฤตมี ๓๕ ตัว (เพม่ิ ศ ษ) ** ยกเว้น ศอก เศกิ ศึก เศรำ้ = คำไทย ๓. ใช้ “ฬ” เช่น จุฬำ กีฬำ ครุฬ วริ ุฬห์ ๓. ใช้ “ฑ, ฒ” เช่น จุฑำ กรฑี ำ ครุฑ วิรูฒ ๔. ห้ำมใส่ รร ในบำลีเด็ดขำด แต่จะซำ้ พยญั ชนะ ๔. ใช้ รร (ร เรผะ) เช่น พรรค วรรค มรรค กรรม ธรรม สะกด-ตำมแทน เช่น มคฺค วคฺค กมฺม ธมฺม ฯลฯ (ยกเวน้ บำ บรร บนั = เขมร) ๕. นิยมอ่ำน เขยี นเรยี งพยำงค์ (ไม่ควบกลำ้ ) เช่น ๕. นิยมอ่ำน เขยี นควบกล้ำ เชน่ ประชำ ปรชั ญำ ประถม อุตุ สำมี ปฐม ปญั ญำ ปชำ ๖. มักมีคำวำ่ “ร”ิ ปรำกฏอยู่ เชน่ จรยิ ำ ภรยิ ำ ๖. สังเกต ร เช่น อำจำรย์ ภรรยำ อำรยะ อัศจรรย์ อิสรยิ ะ อัจฉรยิ ะ ไอศวรรย์ จรรยำ ๗. ภำษำบำลีใช้ “คห” ห้ำม เครำะห์ (ส) ในภำษำ ๗. ภำษำสันสกฤตใช้ เครำะห์ (ครห) เช่น สงเครำะห์ บำลี เพรำควบกล้ำ เช่น คหบดี อนุเครำะห์ พิเครำะห์ วิเครำะห์ ๘. มีหลักตัวสะกดและตัวตำมท่ีแน่นอน (ตำม ๘. ไม่มีหลักแน่นอน หลักพยัญชนะวรรคในภำษำบำลี)

แบบฝกึ กิจกรรมท่ี ๒ “บัตรคำหรรษำ” คำช้แี จง : ให้นักเรยี นวเิ ครำะห์คำศพั ท์ต่อไปน้ีวำ่ เป็นคำมำจำกภำษำอังกฤษ บำลี หรอื สันสกฤต พรอ้ มทำเคร่อื งหมำยหน้ำคำศพั ท์แต่ละภำษำให้ถูกต้อง ภำษำอังกฤษ ภำษำบำลี ภำษำสันสกฤต ราษฎร คอนเสิรต์ เมตตา วคั ซนี อุปสรรค อัจฉรา เบนซนิ อคั นี กิตติ ตัณหา ครสิ ตม์ าส บษุ บา ครุฑ พฤษภา ลปิ สตกิ คมั ภีร์ พีระมิด สนทนา วเิ คราะห์ ภรยิ า

ใบควำมรูท้ ่ี ๔ คำท่ีมำจำกภำษำเขมร เขมรเป็นชำติท่ีมีควำมสัมพันธก์ ับไทยมำช้ำนำน ท้ังทำงด้ำนถ่ำยทอดวัฒนธรรมและอำรยธรรม ซ่งึ กันและกัน เขมรและไทยมีอำณำเขตติดต่อกัน ทำให้ภำษำเขมรเข้ำมำปะปนกับภำษำไทยอย่ำงแยก ไม่ออก ในสมัยโบรำณเรำเรยี กภำษำเขมรว่ำ “ภำษำขอม” ซ่ึงถือกันว่ำเป็นภำษำท่ีศักดิ์สิทธิ์ ใช้บันทึก เร่อื งรำวต่ำง ๆ ลงบนแผ่นหิน ใบลำน แผ่นไม้แม้กระท่ังแผ่นศิลำจำรกึ ต่ำง ๆ จำรกึ เร่อื งทำงศำสนำ ถือเป็นอักษรแม่บท นอกจำกน้ีตัวอักษรขอมใช้เขียนคำถำอำคมต่ำง ๆ ปรำกฏตำมพระพิมพ์ เหรยี ญ พระเคร่อื ง ตะกรุด ผ้ำยนั ต์ต่ำง ๆ จำกจำรึกในสมัยสุโขทัยและอยุธยำปรำกฏคำท่ียืมจำกภำษำเขมรโบรำณเป็นจำนวนมำก แสดงให้เห็นถึงควำมสัมพันธข์ องภำษำเขมรในสมัยสุโขทัย ท้ังยังพบแผ่นลำนเงิน ลำนทอง ในกรุพระ ปรำงค์วดั มหำธำตุ กรุงศรอี ยุธยำ ท่ีจำรกึ ด้วยอักษรขอม ภำษำเขมรโบรำณ รวมท้ังวรรณคดี สมัยอยธุ ยำ ตอนต้น เช่น มหำชำติคำหลวง สมุทรโฆษคำฉันท์ และอนิรุทธคำฉันท์ เป็นต้น มีคำท่ียืมมำจำกภำษำ เขมรปะปนอยู่มำก แสดงว่ำคำท่ียืมมำจำกภำษำเขมรนำจะมีอิทธพิ ลต่อภำษำไทย สมัยอยุธยำตอนต้น และมีกำรใช้สืบทอดมำจนถึงทุกวนั น้ี นอกจำกน้ียงั มีกำรแต่งวรรณคดีประเภทรอ้ ยกรอง นอกจำกจะแต่งถูกต้องตำมฉันทลักษณ์แล้ว ยังต้องมีควำมศักด์ิสิทธอิ์ ีกด้วย ในวรรณคดีทำงศำสนำและพิธคี นไทยได้รบั กำรถ่ำยทอดมำจำกขอม โบรำณ เช่น วรรณคดีเร่อื งลิลิตโองกำรแช่งนำ้ คำฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้ำง เปน็ ต้น สำเหตุท่ีไทยนำภำษำเขมรมำใช้ มีดังน้ี ๑. ไทยกับเขมรมีกำรติดต่อและรบั ถ่ำยทอดวฒั นธรรมและอำรยธรรมกันมำชำ้ นำน ๒. ประชำชนไทยและเขมรตำ่ งมีควำมน้อมนับถือภำษำของกันและกัน ๓. ไทยรบั เอำคำรำชำศัพท์จำกเขมร เน่ืองจำกรบั รูปแบบกำรปกครองมำใช้ ๔. ภำษำเขมรมีจำนวนหน่วยเสียงใกล้เคียงกับภำษำไทย และมีเสียงคล้ำยคลึงกันอยู่มำก ๕. นักปรำชญ์รำชบัณฑิตผู้รูภ้ ำษำเขมร นำเอำภำษำเขมรมำสอดแทรกในคำจำรกึ และในคำ ประพันธท์ ้ังรอ้ ยแก้วและรอ้ ยกรองอันเก่ียวกับศำสนำและพิธกี รรม ๖. ภิกษุ สำมเณร ทำงพระพุทธศำสนำ โดยมำกเล่ำเรียนอักษรขอมโบรำณและมักถือว่ำเป็น อักษรสำคัญและศกั ด์ิสิทธใ์ิ นทำงศำสนำ ไสยศำสตรแ์ ละคำถำอำคม

ภำษำไทยได้รบั ภำษำเขมรใชอ้ ยำ่ งแพรห่ ลำย แบง่ เปน็ ด้ำนต่ำง ๆ ดังน้ี ๑. ใช้เป็นคำสำมัญทั่วไป คำยืมภำษำเขมรท่ีปรำกฏใช้เป็นคำสำมัญทั่วไปในภำษำไทย มีอยู่เป็น จำนวนมำก เช่น เกิด กรำบ กำลัง ควร เจรญิ เชลย ๒. ใชเ้ ปน็ คำในด้ำนวรรณคดีถ้อยคำในวรรณคดีไทยหลำยเร่อื ง มีคำยมื ภำษำเขมรปะปนอยู่เปน็ จำนวนมำก เช่น กรรเจยี ก กรรแสง ขจี ไพร ทรวง ผกำ พนม จำงำย พเยีย (พวงดอกไม้) เมิล (ดู) เพ็ญ (เต็ม) ๓. ใช้เปน็ คำรำชำศัพท์ คำยืมภำษำเขมรท่ีใช้เปน็ คำรำชำศพั ท์ในภำษำไทยมีอยู่ ๒ ประเภท คือ ๓.๑ คำท่ีเป็นรำชำศัพท์อยู่แล้วในภำษำเขมร ไม่ต้องมีคำว่ำ “ทรง” “พระ” หรอื “ทรง พระ” เชน่ เสวย ถวำย ขนง โปรด ตรสั เสด็จ ๓.๒ คำธรรมดำของเขมรท่ีนำมำใชเ้ ปน็ คำรำชำศัพท์จะเติมคำวำ่ “ทรง” “พระ” หรอื “ทรงพระ” นำหน้ำ เช่น ทรงดำเนิน ทรงกรำบ พระดำริ ทรงพระเจรญิ หลักกำรสังเกตและลักษณะของภำษำเขมรในภำษำไทย ๑. คำภำษำเขมรมักจะใชพ้ ยัญชนะ จ ร ล ญ เปน็ ตัวสะกด เช่น พยญั ชนะตัวสะกด คำศัพท์ จ เผด็จ เสด็จ สมเด็จ กำจ อำจ อำนำจ สำเรจ็ สำรวจ ร ควร จำร บงั อร ขจร จร ล ดล ถกล บนั ดำล ทูล กังวล ถวิล ญ เพ็ญ เจรญิ จำเรญิ เชิญ อัญเชิญ ชำญ ชำนำญ ลำญ ๒. คำยืมภำษำเขมรมักจะมีพยัญชนะต้น ๒ ตัว เรยี งกันในลักษณะของคำควบกล้ำ เม่ือออก เสียงไทยอ่ำนพยัญชนะ ๒ ตัวเรียงกันโดยมีสระท่ีพยำงค์แรกทำให้คำเดิมพยำงค์เดียวกลำยเป็น ๒ พยำงค์ เช่น โตนด จมูก ไถง (ดวงอำทิตย์) ฉนำ (ป)ี โขนง ขจี ไผท ถนน เขนย โขมด ขยำ ขนุน ๓. คำท่ีมำจำกภำษำเขมรนำมำใช้ในภำษำไทยจะเปน็ คำ ๒ พยำงค์ พยำงค์ต้นจะ ข้นึ ต้นด้วย “บงั บนั บำ บรร” เช่น บงั บงั คม บงั อำจ บงั ควร บงั คับ บนั บนั ดำล บนั เทิง บนั ได บนั ลือ บำ บำเรอ บำเพญ็ บำนำญ บำเหน็จ บรร บรรเทำ บรรทุก บรรจุ

๔. คำท่ีมำจำกภำษำเขมรพยำงค์แรกมักจะข้นึ ต้นด้วยสระอำ เช่น กำ คำ ชำ ดำ ตำ ทำ สำ เชน่ กำ กำเนิด กำหนด ตำ ตำรวจ ตำหนัก คำ คำนับ ทำ ทำนบ ทำเนียบ ชำ ชำรุด ชำนำญ สำ สำรำญ สำเรจ็ สำคัญ ดำ ดำริ ๕. ภำษำเขมรไม่มีกำรใช้วรรณยุกต์และเคร่อื งหมำยอ่ืน ๆ เช่น แข กระจำย ประทม กระโดง ประจบ ทหำร สำเนำ อุตพดิ ฉบบั จัด เดิน โดม ๖. คำภำษำเขมร ไทยนำมำใช้เป็นคำรำชำศัพท์จำนวนมำก เช่น เสด็จ ถวำย ตรสั เสวย สรง ขนง โปรด บรรทม ๗. คำภำษำเขมร เม่ือนำมำใช้ในภำษำไทยมีกำรแผลงคำ เชน่ ๗.๑ ข แผลงเปน็ กระ เชน่ ขจัด แผลงเปน็ กระจัด ขจอก แผลงเปน็ กระจอก ขจำย แผลงเปน็ กระจำย ๗.๒ ผ แผลงเปน็ ประ เช่น แผลงเปน็ ประสม แผลงเปน็ ประสำน ผสม แผลงเปน็ ประกำย ผสำน ผกำย ๗.๓ ประ แผลงเปน็ บรร เช่น ประทม แผลงเปน็ บรรทม ประทกุ แผลงเปน็ บรรทกุ ประจง แผลงเปน็ บรรจง

๘. คำภำษำเขมรมีลักษณะเปน็ ภำษำคำโดด เชน่ โฉด (โง่) ปรงิ (ฤดแู ล้ง) แข (ดวงจันทร)์ มำน (มี) ขลำด อวย (ให้) เขลำ บำย (ข้ำว) โปรด เล็ก (ยก) ดำ (ปลูก) เนำ (อยู)่ ตัก (วำง,ใส่) เฌอ (ต้นไม้)

แบบฝึกกิจกรรมท่ี ๓ “เติมให้ถูกกับภำษำเขมร” คำช้แี จง : ให้นักเรยี นเลือกคำภำษำเขมรท่ีกำหนดให้ มำเติมลงในชอ่ งวำ่ งของประโยค ให้ได้ใจควำมสมบูรณ์ ๑. กรมพลังงำนได้ทำกำร ________________ แหล่งปิโตรเลียมในอ่ำวไทย ถนน ๒. รฐั บำลได้มอบนโยบำยสรำ้ ง ______________ ทุกสำยให้เป็นมำตรฐำนเดียวกัน เชลย ๓. _____________ หมำยถึง ดวงอำทิตย์ บำเพญ็ ๔. ในเทศกำลวนั ข้ึนปีใหม่มีกำร ______________ วนั ข้ึนปีใหม่อยำ่ งสนุกสนำน ไถง ๕. บรรยำกำศรอบนอก ______________ จัดแต่งด้วยสวนดอกไม้อย่ำงสวยงำม สลึง ๖. พระมหำเวสสันดรได้ ______________ ทำนบำรมีอันยำกยิง่ ท่ีมนุษยธ์ รรมดำจะทำได้ สำรวจ ๗. ______________ หมำยถึง หมอน ฉลอง ๘. โบรำณสถำนมีสภำพ ___________ ควรได้รบั กำรอนุรกั ษ์แหล่งโบรำณสถำนต่อไป เขนย ๙. มี ______________ พึงบรรจบให้ครบบำท ตำหนัก ๑๐. ไก่บ้ำนใครไม่รูห้ ลงมำอยบู่ ้ำนเรำ เลยยึดไว้เป็นไก่ ______________ ชำรุด ทรุด

ใบควำมรูท้ ่ี ๕ คำท่ีมำจำกภำษำจีน ภำษำจีนปะปนกับคำภำษำไทยในกำรดำเนินชีวิตประจำวัน ภำษำจีนมีลักษณะและระเบียบ คล้ำยคลึงกับภำษำไทย จึงเป็นภำษำอยู่ในตระกูลเดียวกับภำษำไทย เรยี กว่ำภำษำตระกูล “ไทย จีน” คำในภำษำจีนจึงเหมือนกับภำษำไทยมำกท่ีสุด จะแตกต่ำงตรงท่ีกำรออกเสียงผิดเพ้ียนไปบ้ำงเท่ำนั้น คำภำษำจนี ท่ีไทยนำมำใชส้ ่วนใหญเ่ ปน็ ช่อื อำหำรและเคร่อื งใช้ต่ำงๆ ภำษำจีนมีลักษณะคล้ำยกับภำษำไทยทั้งเร่อื งเสียงและไวยำกรณ์ มีข้อสังเกตลักษณะเฉพำะ ของภำษำจนี ดังน้ี ๑. นำคำท่ีมำจำกภำษำจีนท่ีเรำรับมำใช้ส่วนมำกจะเป็นคำท่ีเป็นช่ือของอำหำรกำรกิน เช่น ก๋วยเต๋ียว เต้ำทึง แปะ๊ ซะ เปน็ ต้น ๒. คำไทยท่ีรบั มำจำกภำษำจีนส่วนหน่ึงเป็นคำท่ีเก่ียวกับสิ่งของเคร่อื งใช้ท่ีเรำรบั มำจำกชำวจนี เช่น ตึก เก้ำอ้ี ฮวงซยุ้ เก๋ง เปน็ ต้น ๓. คำไทยท่ีรบั มำจำกภำษำจีนส่วนหน่ึงเป็นคำท่ีเก่ียวกับกำรค้ำและกำรจัดระบบทำงกำรค้ำ เชน่ ก๊ยุ เจ๊ง บว๊ ย เปน็ ต้น ๔. คำไทยท่ีรบั มำจำกภำษำจนี ส่วนมำกจะใช้เคร่อื งหมำยวรรณยกุ ต์ตรแี ละจตั วำและพยัญชนะ ต้นเป็นอักษรกลำง คือ ก จ ด ต บ ป อ มำกกวำ่ พยัญชนะต้นตัวอ่ืน เชน่ เจ๊ ต๊ยุ ก๋ง เก๋ง เจ๊ง อู๋ เปน็ ต้น ๕. มักเปน็ คำท่ีประสมด้วยสระเอียะและสระอัวะ เชน่ เพยี ะ เผียะ ผวั ะ เจ๊ยี ะ ยวั ะ เก๊ียะ ตัวอยำ่ งคำภำษำจนี ท่ีใช้ในภำษำไทย กงสี เก๊ กงเต๊ก เก้ียว เก้ำอ้ี เข่ง ข้ึนฉ่ำย จบั กัง เจำ๊ แจว แฉ ซอ้ ซม้ิ ตังเก ต๋ัว เต่ีย ต้ือ ตนุ ต๋นุ ทู่ซ้ี บะฉ่อ ปุง้ ก๋ี ผำ้ ผวย พะโล้ โพย หม่ีสั่ว ย่หี ้อ โสหุ้ย ห้ำง เอ่ียว ฮวงซุย้

แบบฝกึ กิจกรรมท่ี ๔ “ปรศิ นำอักษรไขว้” คำช้แี จง : ให้นักเรยี นหำคำยมื ท่ีมำจำกภำษำจีนจำกตำรำงต่อไปน้ี น ล บ ว พ า ถ โ ม ง้ิ ใ ล ห ขึ้ จ ค ร ย่ี ห ก ง เ ต๊ ก า ว บ ล ว น ท เ บ เ ห น ต ห ตั ง ม ท ต ะ ง ฉ่ ค ก๋ ง ก้ ถ ใ น ม ท ช ะ ไ ม้ ง ส า ว ล บ า จ ย ง ส ง ข่ เ ซี ย ม ซี ย ะ ง ล อ้ี เ มี่ ห ใ ก ต ง ข ม ย เ ด ง ก เ อ ะ สั่ ม ง ต อ ไ ย ม ตี๋ บ ม ส ตุ๋ ม น ฮ ว แ ปุ้ น ถ ม ถ ย ม ง เ ย น ใ บ ช ฮ่ อ ง เ ต้ ฝี ว ล้ โ ะ พ ช ง จ ล ย ค ฝ กี้ ตั มื เ ฝ อ บ จ ป ล ง ด ว อิ๊ ซ ท ก ช ง น้ ำ จ เ จ๋ ง ป ป ท อ๊ิ แ ไ จ ล โ ห เ ผั ก บุ้ ฟ จ ห พ จ ซี ม ะ ค ท สี ม ฟ ก ะ ม อ ห้ ย่ี ข กจภเ กา เหลาหยามวห

แบบฝกึ กิจกรรมท่ี ๕ “ทบทวนกับภำษำต่ำงประเทศ” คำช้ีแจง : ให้นักเรยี นวิเครำะห์คำศัพท์ดังต่อไปน้ีว่ำมำจำกภำษำใด พร้อมเติมคำตอบลงในช่องว่ำง ให้ถูกต้อง ภำษำอังกฤษ ภำษำบำลี ภำษำสันสกฤต ภำษำเขมร ภำษำจีน ลำดับ คำศพั ท์ ภำษำ ลำดับ คำศพั ท์ ภำษำ ๑ เกำเหลำ ๑๖ โอลิมปิก ๒ แฟนคลับ ๑๗ กษัตรยิ ์ ๓ ๑๘ ๔ หัตถี ๑๙ ตรสั ๕ วชิ ชำ ๒๐ กังฟู ๖ เต้ำหู้ ๒๑ ปรศิ นำ ๗ เจรญิ ๒๒ ประเทศ ๘ จุฬำ ๒๓ ตรวจ ๙ เฉำก๊วย ๒๔ เทคโนโลยี ๑๐ บำนำญ ๒๕ ทัพพี ๑๑ ฟิล์ม ๒๖ ไปรษณีย์ ๑๒ ขัตติยะ ๒๗ ขนง ๑๓ หฤทัย ๒๘ ทรมั เป็ต ๑๔ จับฉ่ำย ๒๙ เก้ำอ้ี ๑๕ สังคม ๓๐ อนุเครำะห์ อัศจรรย์ บรรทม

ใบควำมรูท้ ่ี ๖ อิทธพิ ลของภำษำถิ่น อิทธพิ ลของภำษำถิ่นในประเทศไทย ภำษำถ่ิน หมำยถึง ภำษำท่ีใชพ้ ูดส่ือสำรกันในท้องถ่ินต่ำง ๆ ของประทศไทย คำศัพท์บำงคำอำจ ออกเสียงและมีควำมหมำยต่ำงจำกภำษำกลำงไปบ้ำง แต่ก็สำมำรถส่ือสำรทำควำมเข้ำใจกับ ภำษำกลำงได้ กำรท่ีคนไทยในแต่ละท้องถิ่นมีเสียงพูดท่ีแตกต่ำงกันอำจมีสำเหตุมำจำก ๑. สภำพทำงภูมิศำสตรแ์ ตกต่ำงกัน ทำให้กำรออกเสียงต่ำงกัน เช่น ภำคเหนือมีภูมิอำกำศท่ี หนำวเย็น คนเหนือจึงออกเสียงช้ำ ๆ เนิบ ๆ ภำคใต้อยู่ติดทะเล คนใต้จึงออกเสียงห้วน ๆ รวดเรว็ และ เสียงดังแขง่ กับเสียงคล่ืนและลมทะเล ๒. ภำษำเปล่ียนแปลงตำมกำลเวลำ ระยะเวลำจำกสมัยหน่ึงไปสู่อีกสมัยหน่ึง ทำให้ภำษำ เปล่ียนแปลงเน่ืองจำกกำรรบั เอำเทคโนโลยหี รอื ควำมเจรญิ ก้ำวหน้ำใหม่ ๆ เขำ้ มำ ๓. อิทธพิ ลของภำษำอ่ืน ท้องถ่ินท่ีอยู่ใกล้เคียงประเทศเพ่ือนบ้ำนย่อมรบั ภำษำของตนเองนั้น เข้ำมำปะปน เช่น ภำษำใต้ย่อมมีคำภำษำมลำยู ชวำ เข้ำมำปะปน ภำคอีสำนย่อมมีภำษำลำว ภำษำเขมร เข้ำมำปะปน ๔. กำรแลกเปล่ียนทำงวัฒนธรรม ทำให้มีกำรรบั ภำษำมำด้วย เช่น คนไทยรบั วัฒนธรรมของ ขอมมำก็รบั ภำษำขอมเข้ำมำใช้ด้วย ภำษำถ่ินก็เช่นกัน เม่ือรบั วัฒนธรรมของชำติใดมำก็รบั ภำษำมำด้วย ไม่เฉพำะระหว่ำงประเทศนั้น แม้ในประเทศไทยด้วยกันก็เกิดกำรผสมผสำนของภำษำ เช่น ภำษำไทย กลำงกับภำษำถิ่นอีกเปน็ ภำษำโครำช ควำมสำคัญของภำษำถ่ิน ภ ำ ษ ำ ถ่ิ น เ ป็ น เ อ ก ลั ก ษ ณ์ ท ำ ง วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ถ่ิ น น้ั น ๆ เ ป็ น สั ญ ลั ก ษ ณ์ ค ว ำ ม เ ข้ ำ ใ จ อันดีของคนในท้องถิ่นท่ีแสดงถึงควำมเป็นพวกเดียวกันหรอื คนถิ่นเดียวกัน ทำให้เกิดควำมรกั ควำม สำมัคคีในท้องถ่ินของตน นอกจำกน้ีภำษำถิ่นยังเป็นท่ีมำของภำษำและวรรณคดีไทย ดังนั้นกำรศึกษำ ภำษำถ่ินจะทำให้เรำเข้ำใจภำษำและวรรณคดีไทยลึกซ้งึ ยิง่ ข้ึน ภำษำถ่ินในประเทศไทย แบง่ ตำมควำมแตกต่ำงของสภำพภูมิศำสตรไ์ ด้เปน็ 4 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ ๑. ภำษำถ่ินกลำง ได้แก่ ภำษำท่ีใช้พูดในจังหวัดทำงภำคกลำงของประเทศไทย ซ่ึงบำงตำรำก็ ไม่ได้จัดให้เป็นภำษำถ่ิน เพรำะถือว่ำมีลักษณะใกล้เคียงกับภำษำไทยกรุงเทพฯ อันเป็นภำษำไทย มำตรฐำน

๒. ภำษำถ่ินใต้ ได้แก่ กลุ่มผูพ้ ดู ภำษำใต้ท่ีเรยี กวำ่ แหลงใต้ ใช้พดู ต้ังแต่จงั หวัดชุมพรถึงจังหวดั นรำธวิ ำส ภำษำถิ่นใต้ในแต่ละจังหวัดมีสำเนียงเพ้ียนกันบำ้ งตำมท้องถ่ิน นอกจำกน้ียังมีกำรใช้ภำษำชน กลุ่ม ได้แก่ ภำษำยำวี ในจงั หวดั สตูล ยะลำ นรำธวิ ำส ปตั ตำนี ภำษำเซมังหรอื ซำไก และภำษำชำวเล ลักษณะของภำษำถิ่นใต้ ๑. มีกำรกลำยเสียงสระ ๒. มีกำรกลำยเสียงพยัญชนะ เชน่ สระอิ อี ใช้ เอะ เอ (อ่ิม - เอม) เช่น เสียง ง ออกเปน็ ฮ, ห (งำน – ฮ่ำน) สระอุ อู ใช้ โอะ โอ (พรุ - โพระ) เสียง ร ออกเปน็ ล (รว่ั – หล่ัว) สระโอะ โอ ใช้ เอำะ ออ (ซด - ซอ็ ด) ๓. คำควบกลำ้ บำงคำกลำยเสียงเป็นคำใกล้เคียง เชน่ คว, ขว เปน็ ฟ (ขวำน - ฟ้ำน) กว เปน็ ว (ไกว - เว) ๓. ภำษำถ่ินเหนือ ได้แก่ กลุ่มท่ีพูดภำษำถ่ินเหนือหรอื เรียกว่ำอู้คำเมือง จะใช้พูดกันในแถบ จังหวัดทำงภำคเหนือ และบำงบรเิ วณของจังหวัดตำก อุตรดิตถ์ และสุโขทัย นอกจำกน้ียังมีภำษำถ่ิน ยอ่ ย ๆ อีก ซ่งึ กำรออกเสียงจะเพ้ยี นไปจำกกลุ่มท่ีอู้คำเมือง คือ ภำษำไทยเขิน ไทยยอง ไทยล้ือ ลักษณะของภำษำถ่ินเหนือ ๑. มีกำรกลำยเสียงพยัญชนะ ๒. ไม่มีเสียงควบกล้ำ เช่น เสียง พ ออกเปน็ เสียง ป (พ่ี - ป้ )ี เช่น ไมตรี – ไมถี เสียง ร ออกเปน็ เสียง ฮ,ห (เรำ - เฮำ) ปรำสำท – ผำสำด เสียง ช ออกเปน็ เสียง จ (ชำ้ ง - จำ๊ ง) โคลง – กะลง เสียง ร ออกเปน็ เสียง ล (รำคำ - ลำคำ) มะปรำง – หม่ำผำง ๓. กำรกลำยเสียงพยญั ชนะตัวสะกด เช่น เสียง ก ออกเปน็ บ (สัก – สับ) เสียง บ ออกเปน็ ด (หีบ - หีด) เสียง ง ออกเป็น ก (พรุง่ – พกู )

๔. ภำษำถ่ินอีสำน ได้แก่ กลุ่มท่ีพูดภำษำอีสำนท่ีเรียกว่ำ เว้ำอีสำน ใช้พูดในจังหวัดทำงภำค อีสำน เชน่ จังหวดั นครรำชสีมำ อุบลรำชธำนี มหำสำรคำม รอ้ ยเอ็ด ลักษณะของภำษำถิ่นอีสำน ๑. มีกำรกลำยเสียงพยัญชนะ ๒. มีกำรกลำยเสียงสระ เชน่ เสียง ช ออกเปน็ ซ (ช้ำง - ซำ่ ง) เชน่ สระเอือ ใช้ เอีย (เกลือ - เกีย) เสียง ร ออกเปน็ ฮ, ล (รกั - ฮัก) สระอัว ใช้ โอ (ตัว - โต) เสียง ช,ฉ ออกเปน็ ซ, จ, ส (ฉ่ิง - สิ่ง) สระอู ใช้ อือ (ถูก - ถืก) สระออ ใช้ แอ (งอน - แงน้ ) ๓. มีกำรกลำยเสียงพยัญชนะอ่ืน ๆ เช่น กร เปน็ ข (กรำบ - ขำบ) ปร เปน็ ผ (เปรต - เผด) ท เปน็ ต (ทู่ - ต้)ู ล เปน็ ม (ล่ืน - ม่ืน) ตัวอย่ำงคำภำษำถิ่น คำไทยกลำง คำไทยเหนือ คำไทยอีสำน คำไทยใต้ เครอื ญำติ ปู่ ปอ้ อุ๊ย ปู่ โป ย่ำ แม่อุ๊ย ย่ำ, ญำ่ หย่ำ พ่สี ำว เอ้ือย, ป้ ี เอ้ือย (พ่)ี สำว รำ่ งกำย จมูก ดัง, ฮูด้ ัง ดัง, หูดัง มู้ก ฟัน เข้ยี ว แข่ว ฟัน ท้อง ต๊อง ท้อง พงุ วันเวลำ เชำ้ เจ๊ำ เช่ำ หัวชำ่ ว สำย ขวำย ยำวสำย,กองงำย สำย

คำไทยกลำง คำไทยเหนือ คำไทยอีสำน คำไทยใต้ เท่ียง เม่ือตอน, ตำวันเท่ียง ยำมเท่ียง, กลำงเวน หวั่นเท่ียง บำ่ ย มะบำ่ ย, ตองบำย, ซำ้ ย, บำ่ ย บำย, หวันฉ่ำย ตะวันบำ่ ย เยน็ เม่ือแลง, แลง, ตะวัน แลง หวันเยน็ แลง กิรอิ ำกำร พูด อู้ เวำ้ แหลง คอย ถ้ำ ถ่ำ ถ้ำ, เครำ่ วิง่ ล่น แลน แล่น กระโดด วดิ โตน โดด มอง, ดู ผอ่ , กอย เบง่ิ แล พืชผักและผลไม้ต่ำง ๆ ขมิ้น ขำ้ วหม้ิน ข่ีหม้ิน, เข้ำหมิ้น ข้ีหม้ิน ขนุน มะหนุน บกั ม่ี, หมำกม่ี โลกหนุน สัตว์ต่ำง ๆ แมลงปอ กัมบ้ี แมงปอ แมงบ้ี ผเี ส้ือ ก๋ำเบอ้ แมงกะเบ้ยี , แมงกะเบ้อื ผีเส้ือ ต๊กุ แก ต๋กโต กับแก้ ตกุ แก, ตักแก, ตกแก เบด็ เตล็ด อรอ่ ย ลำ แซบ หรอ้ ย ภเู ขำ ดอย ภู เขำ,ควน ตลำด กำด ตลำด หลำด โกหก ข้จี ุ๊ ข้ตี ัวะ ข้หี ก สนุก ม่วน ม่วน หนุก

ภำษำถ่ินเข้ำมำปะปนอยูใ่ นภำษำไทยทำให้เกิดปรำกฏกำรณ์ทำงภำษำท่ีน่ำสนใจ ดังน้ี ๑. มีคำภำษำถ่ินเข้ำมำปะปนกับภำษำมำตรฐำนมำกข้ึน ซ่งึ ใชท้ ั่วไปในชีวติ ประจำวนั ทั้งภำษำพูด และภำษำเขียน เช่น แซบ (ถิ่นอีสำน หมำยถึง อรอ่ ย) เว้ำ (ถ่ินเหนือ หมำยถึง พูด) พ่อเล้ียง (ถิ่นเหนือ หมำยถึง คนท่ีมีฐำนะรำ่ รวย) ๒. คำไทยกลำงซอ้ นกับคำไทยถ่ิน เชน่ พดั วี -วี ภำษำถ่ินใต้ หมำยถึง พดั เส่ือสำด -สำด ภำษำถิ่นใต้ หมำยถึง เส่ือ เขด็ หลำบ -หลำบ ภำษำถ่ินใต้ หมำยถึง เข็ด เติบโต -เติบ ภำษำถ่ินใต้ หมำยถึง โต อิดโรย -อิด ภำษำถ่ินเหนือ หมำยถึง เหน่ือย บำดแผล -บำด ภำษำถิ่นอีสำน หมำยถึง แผล มำกหลำย -หลำย ภำษำถ่ินอีสำน หมำยถึง มำก ๓. พบภำษำถิ่นในสำนวนโวหำรของไทย เช่น ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น (ถ่ินกลำง) หมำยถึง ลูกย่อมไม่ต่ำงกับพอ่ แม่มำกนัก แถกจนเกล็ดแห้ง (ถ่ินใต้) หมำยถึง พยำยำมจนสุดควำมสำมำรถ * แถก = ดิ้น,เกลือก

แบบฝกึ กิจกรรมท่ี ๖ “สนุกกับภำษำถิ่น” คำช้ีแจง : ให้นักเรียนวิเครำะห์คำจำกข้อควำมต่อไปน้ี ให้สัมพันธ์กับควำมหมำย ท่ีกำหนดให้ พรอ้ มระบุท่ีมำของภำษำถ่ินให้ถูกต้อง แต่ก่อนแต่ไร ไปแอ่วต่ำงได๋กัน เฮำก็ไปโตยกัน ตึงวนั แสนม่วนใจ๋ พอพบฮู้จักสำวชำวกรุงบ่เต้ำใด อ้ำยก็ไปเอำอกเอำใจ๋แต่เขำ ฮักกันมำแต่โดนแล้ว บ่มีว่มี ีแววเปล่ียนแปลงไป ต้ังแต่ทำงมีแต่ข้ไี หง่ แล้วจงั ได๋คือมำเป็นลำยต่ำง สิบสิฮ่ำงหรอื ซำวสิฮ่ำง สิจับมือกันหย่ำงวำ่ ซ่ันว่ำ ไม่รูอ้ ิทำพรอื ได้แค่หยบแล เขำ้ แค่แค่ ก็ไม่กล้ำ แค่เด็กบ้ำน บ้ำนท่ีไม่เจียมตัว ก็โรต้ ัวก็รกั เธอเหม็ดใจ เรำเด็กบ้ำน บ้ำน คงไม่สำไหร่ ไม่ถูกใจเหมือนเด็กหำดใหญใ่ นหลำด

ควำมหมำย คำศัพท์ ภำษำถิ่น ไปเท่ียว ไปแอ่ว เหนือ ใกล้ ๆ ว่ำอยำ่ งน้ัน, ประมำณนั้น เรำ,พวกเรำ ทำอยำ่ งไร สุขใจ ฝุ่น, ฝุ่นตลบ ไม่ได้เร่อื ง , ไม่เอำไหน รูต้ ัว พ่ีชำย แอบมอง แบบไหน,ยังไง หมดใจ แตกต่ำงอยำ่ งส้ินเชงิ หรอื เปล่ียนแปลงไป ไม่มี ตลำด

แบบทดสอบหลังเรยี น คำช้แี จง : ให้นักเรยี นเลือกตอบคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว ๑. เพรำะเหตใุ ดจึงมีกำรยืมคำภำษำต่ำงประเทศมำ ๖. “จรยิ ำเปน็ ภรรยำของไอศวรรย์ เธอเปน็ คนท่ี ใชใ้ นภำษำไทย ชอบชว่ ยเหลือและคอยให้คำปรกึ ษำแก่บุคคลท่ี ทุกขใ์ จ” ข้อควำมข้ำงต้น มีคำท่ีมำจำกภำษำบำลี ก. เพรำะในปจั จบุ ันมีคนนิยมใช้กันมำก ก่ีคำและคำท่ีมำจำกภำษำสันสกฤตก่ีคำ ข. เพรำะมีวิทยำกรเข้ำมำเผยแพรใ่ นประเทศไทย ค. เพรำะมีกำรติดต่อระหวำ่ งประเทศท้ังด้ำน ก. บำลี ๒ คำ สันสกฤต ๒ คำ กำรค้ำ กำรทูต กำรศึกษำ ข. บำลี ๓ คำ สันสกฤต ๓ คำ ง. เพรำะภำษำต่ำงประเทศมีจำนวนมำกจงึ ต้อง ค. บำลี ๔ คำ สันสกฤต ๒ คำ นำมำใชใ้ นประเทศไทยบำ้ ง ง. บำลี ๒ คำ สันสกฤต ๔ คำ ๒. ข้อใดไม่ใช่กำรยมื คำภำษำต่ำงประเทศมำใช้ท่ีทำ ๗. ช่อื รำ้ นค้ำในข้อใดเปน็ ภำษำบำลี สันสกฤต ให้ภำษำไทยเปล่ียนแปลง ก. ชำบชู ิ ก. มีคำหลำยพยำงค์ ข. ศิรภิ ัณฑ์ ข. มีคำควบกลำ้ มำกข้ึน ค. โรงเต๊ียม ค. มีคำไวพจน์มำกข้ึน ง. ชำยส่ีหม่ีเก๊ียว ง. มีคำท่ีสะกดตรงมำตรำตัวสะกด ๘. ประโยคข้อใดต่อไปน้ี ประกอบด้วยท้ังคำภำษำ ๓. กำรท่ีภำษำต่ำงประเทศเข้ำมำมีอิทธพิ ลต่อ บำลีและภำษำสันสกฤต ภำษำไทยมีผลดีต่อภำษำไทยอยำ่ งไร ก. โยษิตำเดินทำงไปเรยี นต่อต่ำงประเทศ ก. มีคำใช้ในภำษำมำกข้ึน ในช่วงปดิ ภำคเรยี น ข. คนไทยรูจ้ ักคำภำษำต่ำงประเทศมำกข้ึน ข. พฤษภำเปน็ นักกีฬำของโรงเรยี น ค. สำมำรถใช้คำภำษำต่ำงประเทศแทนคำไทย ค. บปุ ผำเรยี นจบปรญิ ญำโทเม่ือต้นเดือน บำงคำได้ ง. กัญญำณัฐเป็นคนมีเมตตำต่อคนรอบข้ำง ง. คำไทยเปล่ียนแปลงไปตำมคำศพั ท์ท่ีมำจำก ๙. ขอ้ ใดเปน็ คำท่ีมำจำกภำษำอังกฤษทกุ คำ ภำษำต่ำงประเทศ ก. คอนเสิรต์ แท็กซ่ี กอล์ฟ ๔. ประโยคในขอ้ ใดต่อไปน้ีได้รบั อิทธพิ ลมำจำก ข. เบนซนิ สนทนำ กิตติ ภำษำต่ำงประเทศ ค. ทีวี เก้ำอ้ี ชอล์ก ก. ถนนวันน้ีเต็มไปด้วยรถยนต์ ง. วัคซนี กงสี กีต้ำร์ ข. ตำยำยจูงมือกันเดินในสวน ๑๐. “กัปตันทีมวอลเลย์บอลของไทยได้รบั แรง ค. มะพรำ้ วลูกน้ีน้ำหอมหวำนมำก เชียรจ์ ำกแฟนคลับ” จำกข้อควำมดังกล่ำวมีคำ ง. พ่อซ้อื ดินสอแท่งน้ีให้ฉันในวนั เกิด ท่ีมำจำกภำษำอังกฤษก่ีคำ ๕. ขอ้ ใดไม่ใช่หลักสังเกตคำบำลีและสันสกฤตใน ก. ๔ คำ ภำษำไทย ข. ๕ คำ ก. ภำษำบำลีสันสกฤตมักใชต้ ัว ศ ษ ฤ ค. ๖ คำ ข. ภำษำสันสกฤตนิยมคำควบกลำ้ ง. ๗ คำ ค. ภำษำบำลีมีหลักตัวสะกด ตัวตำม ง. ภำษำบำลีส่วนใหญจ่ ะเขียนด้วยพยญั ชนะ “ฑ”

๑๑. คำภำษำอังกฤษในข้อใดใช้คำไทยแทนได้ ๑๖. ขอ้ ใดกล่ำวถึงภำษำถิ่นไม่ถูกต้อง ก. กำรรบั ประทำนอำหำรท่ีมีไฟเบอรส์ ูงดีต่อ ก. คำบำงคำออกเสียงต่ำงจำกภำษำกลำง ข. ภำษำถิ่นแสดงถึงควำมเปน็ พวกเดียวกัน สุขภำพ ค. คำบำงคำมีควำมหมำยเหมือนภำษำกลำง ข. ผลกำรวิจัยปรำกฏว่ำใบยำ่ นำงต้ำนพษิ กรดยรู กิ ง. ภำษำถิ่นแต่ละท้องถิ่นออกเสียงแตกต่ำง ในหน่อไม้ได้ กันทกุ คำ ค. โรคเร้อื รงั เช่น เบำหวำน ไม่มีวัคซนี ปอ้ งกัน ๑๗. ขอ้ ใดเป็นภำษำถิ่นเดียวกันทกุ คำ เหมือนโรคติดเช้อื ก. อู้ แล ง. ก่อนจะซ้อื ครมี บำรุงผวิ หน้ำควรลองทำท่ีบรเิ วณ ข. พงุ เอ้ือย ค. กำด หลำด ท้องแขนก่อน ง. สำว แหลง ๑๒. ขอ้ ใดไม่มีคำท่ีมำจำกภำษำเขมร ๑๘. คำใดแสดงถึงอิทธพิ ลของภำษำถิ่นใน ภำษำไทย ก. คณุ ปทู่ ำลำยกนกแก้วลำยไทยงำมวจิ ติ ร ก. น้ำใจ ข. จึงเรยี นมำเพ่อื โปรดพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบ ข. รถไฟ ค. ให้ร่นื เรงิ สุขสำรำญเหมือนดอกไม้บำนยำมเชำ้ ค. เส่ือสำด ง. เพลงลำวดำเนินทรำยมีทำนองไพเรำะ ง. หัวหน้ำ อ่อนหวำน ๑๙. ภำษำถ่ินข้อใดต่อไปน้ีแตกต่ำงจำกข้ออ่ืน ๑๓. ข้อใดเปน็ คำท่ีมำจำกภำษำเขมรทั้งหมด ก. เปดิ ตำเบงิ่ ดู ก. บรรทม สำรวจ ข. หลำดใต้โหนด ข. บุษบำ คัมภีร์ ค. พูดจรงิ ไม่ข้หี ก ค. วฒั นำ ตรสั ง. ข้ำวม้ือน้ีหรอยอย่ำงแรง ง. จำเรญิ อนุชำ ๒๐. ขอ้ ควำมใดต่อไปน้ีไม่ปรำกฏภำษำถิ่น ๑๔. ขอ้ ใดมีคำท่ีมำจำกภำษำจนี ก. เม่ือแลงท่ีบำ้ นมีกำรทำข้ำวปนุ้ ก. ธดิ ำซ้อื พวงมำลัยมำบูชำพระ ข. บำ้ นควำยสุพรรณบรุ มี ีรูปป้ นั ควำยยืนมอง ข. ลิซำ่ ทำแกงจืดเต้ำหู้ให้ตำกิน ค. คนท่ีจะลดควำมอ้วนควรกินบกั สีดำ ค. เส้ือเช้ติ ของพ่อใส่แล้วดูดีมำก ง. ตำบกั หุ่งมีรสชำติแซบอีหลี ง. กำรแข่งขันฟตุ บอลบอลค่นู ้ีสนุกจรงิ ๆ ๑๕. “ก๋วยเต๋ียวเก๊ียวบะหม่ี พะโล้น้ีแสนอรอ่ ย เต้ำฮวยเฉำก๊วยหวำนช่นื ใจ ซำลำเปำฮ่องเต้วันกิน เจ” จำกขอ้ ควำมดังกล่ำวมีคำท่ีมำจำกภำษำจนี ก่ีคำ ก. ๗ คำ ข. ๘ คำ ค. ๙ คำ ง. ๑๐ คำ

เฉลยแบบฝึกกิจกรรมท่ี ๑ “รูล้ ึกท่ีมำของภำษำ” คำช้แี จง : ให้นักเรยี นนำตัวเลขในกรอบส่ีเหล่ียมมำใส่ด้ำนหน้ำข้อควำมท่ีมีควำมสัมพันธใ์ ห้ถูกต้อง (ก) ควำมสัมพนั ธด์ ้ำนภูมิศำสตร์ (ข) ควำมสัมพันธด์ ้ำนศำสนำ (ค) ควำมสัมพันธด์ ้ำนกำรทูต (ง) ควำมสัมพันธด์ ้ำนกำรศึกษำและวทิ ยำกำรด้ำนต่ำง ๆ (จ) ควำมสัมพันธด์ ้ำนวรรณคดี (ฉ) ควำมสัมพนั ธด์ ้ำนกำรค้ำขำย (ช) ควำมสัมพันธด์ ้ำนเทคโนโลยี (ซ) กำรเกิดคำไวพจน์ (ฌ) กลวธิ ใี นกำรเรยี งคำ (ญ) อิทธพิ ลด้ำนระบบเสียง ง ๑. ประเทศมีอำณำเขตติดต่อกับประเทศพม่ำ ลำว เขมร มำเลเซยี มีกำรเดินทำงข้ำมแดนไปมำ หำสู่กัน จึงมีกำรแลกเปล่ียนภำษำกัน ค ๒. กำรเจรญิ สัมพันธไมตรกี ับประเทศต่ำง ๆ ทำให้มีกำรใชภ้ ำษำต่ำง ๆ ในกำรส่ือสำร ข ๓. คนไทยมีเสรภี ำพในกำรนับถือศำสนำ เม่ือนับถือศำสนำใดก็ตำมย่อมได้รบั ถ้อยคำภำษำท่ีใช้ ในคำสอนหรอื คำเรยี กช่อื ต่ำง ๆ ของศำสนำน้ันมำปะปนอย่ใู นภำษำไทย ก ๔. คนไทยไปศึกษำต่อต่ำงประเทศ ใช้ภำษำพูด ภำษำอ่ืน ๆ รบั เอำวิทยำกำรต่ำง ๆ เม่ือสำเรจ็ กำรศกึ ษำจงึ นำภำษำของประเทศ น้ัน ๆ มำใชป้ ะปนกับภำษำของตน จ ๕. คำศพั ท์จำกวรรณคดีเร่อื ง อิเหนำ เช่น อสัญแดหวำ กระยำหงนั ซ ๖. คำท่ีมีควำมหมำยเหมือนกัน เชน่ ดอกไม้ สุมำลี ผกำ บุษบำ ฉ ๗. ชนชำติไทยมีกำรติดต่อค้ำขำยแลกเปล่ียนสินค้ำกับชนชำติต่ำง ๆ มำเป็นเวลำอันยำวนำน เช่น ชำวจีน ชำวโปรตุเกส ฝรง่ั เศส อังกฤษ ฌ ๘. ไม่นิยมใช้ลักษณนำม เช่น 3 นักกีฬำไทยควำ้ เหรยี ญทองเอเซยี นเกมส์ ญ ๙. มีเสียงพยัญชนะควบกล้ำมำกข้นึ เช่นคำวำ่ บลูเบอร่ี ดรมั เมเยอร์ ซ ๑๐. กำรใชค้ ำ เช่น คำวำ่ กิน (ภำษำพูด) รบั ประทำน

เฉลยแบบฝึกกิจกรรมท่ี ๒ “บตั รคำหรรษำ” คำช้แี จง : ให้นักเรยี นวเิ ครำะห์คำศัพท์ต่อไปน้ีวำ่ เป็นคำมำจำกภำษำอังกฤษ บำลี หรอื สันสกฤต พรอ้ มทำเคร่อื งหมำยหน้ำคำศัพท์แต่ละภำษำให้ถูกต้อง ภำษำอังกฤษ ภำษำบำลี ภำษำสันสกฤต ราษฎร คอนเสริ ์ต เมตตา วคั ซีน อุปสรรค อัจฉรา เบนซนิ อคั นี กติ ติ ตัณหา ครสิ ต์มาส บุษบา ครฑุ พฤษภา ลปิ สติก คัมภรี ์ พรี ะมิด สนทนา วิเคราะห์ ภรยิ า

เฉลยแบบฝึกกิจกรรมท่ี ๓ “เติมให้ถูกกับภำษำเขมร” คำช้แี จง : ให้นักเรยี นเลือกคำภำษำเขมรท่ีกำหนดให้ มำเติมลงในชอ่ งวำ่ งของประโยค ให้ได้ใจควำมสมบูรณ์ ถนน ๑. กรมพลังงำนได้ทำกำร สำรวจ แหล่งปิโตรเลียมในอ่ำวไทย เชลย ๒. รฐั บำลได้มอบนโยบำยสรำ้ ง ถนน ทุกสำยให้เป็นมำตรฐำนเดียวกัน บำเพญ็ ๓. ไถง หมำยถึง ดวงอำทิตย์ ไถง ๔. ในเทศกำลวนั ข้ึนปีใหม่มีกำร ฉลอง วนั ข้ึนปีใหม่อยำ่ งสนุกสนำน สลึง ๕. บรรยำกำศรอบนอก ตำหนัก จัดแต่งด้วยสวนดอกไม้อย่ำงสวยงำม สำรวจ ๖. พระมหำเวสสันดรได้ บำเพ็ญ ทำนบำรมีอันยำกย่งิ ท่ีมนุษย์ธรรมดำจะทำได้ ฉลอง ๗. เขนย หมำยถึง หมอน เขนย ๘. โบรำณสถำนมีสภำพ ชำรุด ควรได้รบั กำรอนุรกั ษ์แหล่งโบรำณสถำนต่อไป ตำหนัก ๙. มี สลึง พึงบรรจบให้ครบบำท ชำรุด ๑๐. ไก่บ้ำนใครไม่รูห้ ลงมำอยบู่ ้ำนเรำ เลยยึดไวเ้ ป็นไก่ เชลย . ทรุด

เฉลยแบบฝกึ กิจกรรมท่ี ๔ “ปรศิ นำอักษรไขว้” คำช้แี จง : ให้นักเรยี นหำคำยืมท่ีมำจำกภำษำจีนจำกตำรำงต่อไปน้ี น ล บ ว พ า ถ โ ม งิ้ ใ ล ห ขึ้ จ ค ร ยี่ ห ก ง เ ต๊ ก า ว บ ล ว น ท เ บ เ ห น ต ห ตั ง ม ท ต ะ ง ฉ่ ค ก๋ ง ก้ ถ ใ น ม ท ช ะ ไ ม้ ง ส า ว ล บ า จ ย ง ส ง ข่ เ ซี ย ม ซี ย ะ ง ล อ้ี เ ม่ี ห ใ ก ต ง ข ม ย เ ด ง ก เ อ ะ ส่ั ม ง ต อ ไ ย ม ตี๋ บ ม ส ตุ๋ ม น ฮ ว แ ปุ้ น ถ ม ถ ย ม ง เ ย น ใ บ ช ฮ่ อ ง เ ต้ ฝี ว ล้ โ ะ พ ช ง จ ล ย ค ฝ กี้ ตั มื เ ฝ อ บ จ ป ล ง ด ว อ๊ิ ซ ท ก ช ง น้ ำ จ เ จ๋ ง ป ป ท อ๊ิ แ ไ จ ล โ ห เ ผั ก บุ้ ฟ จ ห พ จ ซี ม ะ ค ท สี ม ฟ ก ะ ม อ ห้ ยี่ ข กจภเ กา เหลาหยามวห ก๋วยเต๋ียว เก้ำอ้ี พะโล้ หม่ีสั่ว ฮ่องเต้ กงเต๊ก ข้นึ ฉ่ำย ย่หี ้อ เขง่ ปุ้งก๋ี ตุ๋น ตังเก เซยี มซี เจ๋ง ซีอ๊ิว เกำเหลำ

เฉลยแบบฝกึ กิจกรรมท่ี ๕ “ทบทวนกับภำษำต่ำงประเทศ” คำช้ีแจง : ให้นักเรียนวิเครำะห์คำศัพท์ดังต่อไปน้ีว่ำมำจำกภำษำใด พร้อมเติมคำตอบลงในช่องว่ำง ให้ถูกต้อง ภำษำอังกฤษ ภำษำบำลี ภำษำสันสกฤต ภำษำเขมร ภำษำจีน ลำดับ คำศัพท์ ภำษำ ลำดับ คำศพั ท์ ภำษำ ๑ เกำเหลำ จีน ๑๖ โอลิมปิก อังกฤษ ๒ แฟนคลับ อังกฤษ ๑๗ กษัตรยิ ์ สันสกฤต ๓ ๑๘ ๔ หัตถี บำลี ๑๙ ตรสั เขมร ๕ วชิ ชำ บำลี ๒๐ กังฟู จีน ๖ เต้ำหู้ จีน ๒๑ ปรศิ นำ สันสกฤต ๗ เจรญิ เขมร ๒๒ ประเทศ สันสกฤต ๘ จุฬำ บำลี ๒๓ ตรวจ เขมร ๙ เฉำก๊วย จีน ๒๔ เทคโนโลยี อังกฤษ ๑๐ บำนำญ เขมร ๒๕ ทัพพี บำลี ๑๑ ฟิล์ม อังกฤษ ๒๖ ไปรษณีย์ สันสกฤต ๑๒ ขตั ติยะ บำลี ๒๗ ขนง เขมร ๑๓ หฤทัย สันสกฤต ๒๘ ทรมั เป็ต อังกฤษ ๑๔ จับฉ่ำย จีน ๒๙ เก้ำอ้ี จีน ๑๕ สังคม บำลี ๓๐ อนุเครำะห์ สันสกฤต อัศจรรย์ สันสกฤต บรรทม เขมร

เฉลยแบบฝึกกิจกรรมท่ี ๖ “สนุกกับภำษำถิ่น” คำช้ีแจง : ให้นักเรียนวิเครำะห์คำจำกข้อควำมต่อไปน้ี ให้สัมพันธ์กับควำมหมำย ท่ีกำหนดให้ พรอ้ มระบุท่ีมำของภำษำถิ่นให้ถูกต้อง แต่ก่อนแต่ไร ไปแอ่วต่ำงได๋กัน เฮำก็ไปโตยกัน ตึงวันแสนม่วนใจ๋ พอพบฮู้จักสำวชำวกรุงบ่เต้ำใด อ้ำยก็ไปเอำอกเอำใจ๋แต่เขำ ฮักกันมำแต่โดนแล้ว บ่มีว่ีมีแววเปล่ียนแปลงไป ต้ังแต่ทำงมีแต่ข้ไี หง่ แล้วจังได๋คือมำเปน็ ลำยต่ำง สิบสิฮ่ำงหรอื ซำวสิฮ่ำง สิจับมือกันหย่ำงวำ่ ซ่นั ว่ำ ไม่รูอ้ ิทำพรอื ได้แค่หยบแล เขำ้ แค่แค่ ก็ไม่กล้ำ แค่เด็กบ้ำน บ้ำนท่ีไม่เจียมตัว ก็โรต้ ัวก็รกั เธอเหม็ดใจ เรำเด็กบ้ำน บ้ำน คงไม่สำไหร่ ไม่ถูกใจเหมือนเด็กหำดใหญใ่ นหลำด

ควำมหมำย คำศพั ท์ ภำษำถ่ิน ไปเท่ียว ไปแอ่ว เหนือ ใกล้ ๆ แค่แค่ ใต้ วำ่ ซน่ั อีสำน วำ่ อยำ่ งน้ัน, ประมำณน้ัน เรำ,พวกเรำ เฮำ เหนือ,อีสำน ทำอยำ่ งไร ทำพรอื ใต้ สุขใจ ม่วนใจ๋ เหนือ ฝุ่น, ฝุ่นตลบ ข้ไี หง่ ไม่สำไหร่ อีสำน ไม่ได้เร่อื ง , ไม่เอำไหน โรต้ ัว ใต้ รูต้ ัว ใต้ พ่ีชำย อ้ำย หยบแล เหนือ,อีสำน แอบมอง จังได๋ ใต้ แบบไหน,ยังไง เหม็ดใจ ลำยต่ำง อีสำน หมดใจ ใต้ แตกต่ำงอยำ่ งส้ินเชิง หรอื บม่ ี หลำด อีสำน เปล่ียนแปลงไป ไม่มี อีสำน ตลำด ใต้

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น

เอกสำรอ้ำงอิง บ้ำนจอมยทุ ธ. (2543). คำยมื ภำษำต่ำงประเทศท่ีมีใช้ในภำษำไทย. สืบค้น 18 กันยำยน 2564, จำก https://www.baanjomyut.com/library_2/extension- 1/loanwords/01.html บ้ำนจอมยทุ ธ. (2543). คำภำษำเขมรในภำษำไทย. สืบค้น 18 กันยำยน 2564, จำก https://www.baanjomyut.com/library_2/extension- 1/loanwords/08.html ทรูปลูกปญั ญำ. (2564). คำบำลีและสันสกฤต. สืบค้น 18 กันยำยน 2564, จำก https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/27486 บำ้ นจอมยทุ ธ. (2543). ควำมเปน็ มำของภำษำถ่ิน. สืบค้น 18 กันยำยน 2564, จำก https://www.baanjomyut.com/library_2/extension-1/dialect/02.html สยำมโซน. (2547). เน้ือเพลง ไวใ้ จ๋ได้กำ. สืบค้น 18 กันยำยน 2564, จำก https://www.siamzone.com/music/thailyric/5122 สยำมโซน. (2558). เน้ือเพลง ไสวำ่ สิบ่ถ่ิมกัน. สืบค้น 18 กันยำยน 2564, จำก https://www.siamzone.com/music/thailyric/10632 สยำมโซน. (2559). เน้ือเพลง มหำลัยววั ชน. สืบค้น 18 กันยำยน 2564, จำก https://www.siamzone.com/music/thailyric/11299 เสนีย์ วิลำวรรณและคณะ. (2559). อิทธพิ ลภำษำถ่ินและภำษำต่ำงประเทศ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์วฒั นพำณิช จำกัด.