การเพาะเหด็ ฟาง / 45 ใชฟางแชน้ําหรอื ฟางหมักท่เี ตรยี มไวป ูรองพื้นช้ันเพาะใหสูงประมาณ 4-5 น้ิว จากนั้นจึง นาํ เอาขฝี้ า ยหมกั ท่ีตปี น แลวปทู ับใหห นาประมาณ 3-4 นิ้ว (ใช 200 กิโลกรัม ตอ 1 หอง) โดยเกลี่ยขี้ ฝายใหกระจายทั่วท้ังชั้นเพาะอยาใหแนนมาก เมื่อนําวัสดุเพาะขึ้นชั้นเรียบรอยแลว จึงปดหองและ เลยี้ งเชื้อราอาหารเหด็ ตอ อกี 1 คืน แลว จึงคอยทาํ การอบไอนํา้ ฆา เชื้อราตอ ไป การเลยี้ งเชอ้ื ราอาหารเห็ด เมื่อนําขี้ฝายที่เตรียมไดข้ึนชั้นเพาะเสร็จแลว ก็ใหตรวจสอบดูความช้ืนของขี้ฝายอีกคร้ัง ถาข้ีฝายมีความชื้นไมเพียงพอก็ใหรดน้ําบนข้ีฝายเสีย แตอยาแฉะเกินไป อาจใชสเปรยพนน้ําหรือใช บัวรดน้ําแบบฝอยรดผานเร็ว ๆ ก็ไดแลวปดหองท้ิงไว จากระยะน้ีก็จะมีจุลินทรียจําพวกเช้ือรา ชนิดหนึ่งเจริญขึ้นบนข้ีฝาย พรอม ๆ กับเปล่ียนธาตุอาหารที่เห็ดฟางเอาไปใชไมได ใหอยูในรูปท่ี เห็ดฟางสามารถนําไปใชได (จับแกสแอมโมเนียที่เกิดขึ้นระหวางการหมักมาสรางเปนโปรตีนเพ่ือ การเจริญเติบโต) ซึ่งการเจริญเติบโตและเปล่ียนธาตุอาหารน้ีจะชาหรือเร็วก็ขึ้นอยูกับอาหาร ความช้ืนสภาพอากาศ และอุณหภมู ิภายในหอ ง โดยเฉพาะอุณหภูมจิ ะตอ งสูงประมาณ 42-50 องศา เซลเซยี สเช้ือราชนิดน้ีจึงเจริญเติบโตไดดี ดังน้ัน หลังจากท่ีรดน้ําแลวจึงควรปดหองท้ิงไว ความรอน ภายในหองก็จะคอยๆ เกิดขึ้นมาเอง ปดหองทิ้งไวและรักษาอุณหภูมิขนาดดังกลาวไวประมาณ 1-2 วัน จะทําใหมีเชื้อราเจริญเติบโตไดมากย่ิงขึ้นและถาเชื้อราเจริญขึ้นมากเทาไหรก็จะไดผลผลิตสูงข้ึน เปนเงาตามตัวเทานน้ั เม่ือเห็นข้ีฝายมีเช้ือราเจริญขึ้นมามากพอแลว คือ เห็นเปนเสนใยหรือฝาบาง ๆ ตามผิว ขี้ฝายหรือเปนปุยคลายสําลีอยูทั่วขี้ฝาย ถือวาพอไดแลว ก็ใหดําเนินการอบไอนํ้าฆาเช้ือรานี้ได ความรอ นจากการอบไอนา้ํ จะทําใหเ ชอ้ื ราตายและสลายตวั เปนธาตอุ าหารของเหด็ ฟางในเวลาตอมา การอบไอนา้ํ ฆาเช้ือราและศัตรเู ห็ด เม่ือนําวัสดุเพาะขึ้นใสช้ันเรียบรอยและทุกอยางพรอมแลว ก็ใสนํ้าลงในหมอตมไอนํ้า ในกรณีที่เราจะอบไอน้ําโรงเพาะเห็ด 2 หอง ใหใสนํ้าประมาณ 3 สวน ใน 4 สวนของถัง และ ถาตองการอบไอน้ํา 3 หอง ก็ใหใสนํ้า 3.5 สวนใน 4 สวนของถัง แลวดําเนินการตมน้ําใหเดือดจน กลายเปนไอน้ําอยางเต็มที่ จึงคอยอัดไอน้ําเขาสูหองน้ัน ๆ สําหรับขอควรระวังขณะที่ตมนํ้า ไมควร ปดวาลวใหแนนจนสนิท ควรเปดใหไอน้ําสามารถระบายไดบาง ไมเชนน้ันแลวจะทําใหถังตมนํ้าเกิด ระเบิดขน้ึ ได ในระหวางการอัดไอนํ้าเขาหอง จะตองปดหองใหสนิททุกดาน โดยเฉพาะดานลางที่ติด กับพื้นจะใชไมทับหรือจะใชทรายโรยทับก็ได แลวตอสายยางเขาหอง โดยผูกปลายทอสายยาง
การเพาะเห็ดฟาง / 46 ซึ่งเสียบดวยไมไผเพ่ือใหขนาดรูพนเล็กลงเอาไวกับเสาใหแนน เพื่อไมใหสายยางสะบัดดิ้นไปด้ินมา ขณะพนไอนํ้าที่ดานในตรงประตูหองก็ใหติดต้ังเทอรโมมิเตอรเอาไวเพื่อวัดอุณหภูมิ คร้ันเมื่อทําการ ตมนํ้าจนเดือดไดที่แลวก็ใหเปดวาลว ปลอยไอนํ้าเขาหอง อุณหภูมิภายในหองจะสูงข้ึนเรื่อย ๆ จนกระท่ังมีขนาดอุณหภูมิสูง 60-72 องศาเซลเซียส ขึ้นไปแลวจึงเริ่มจับเวลาใหไอน้ําเขาไปอีกนาน ประมาณ 2-3 ชั่วโมง จึงหยุดการพนไอนํ้า (ปดทิ้งใหมีอุณหภูมิลดลงประมาณ 35 องศาเซลเซียส เพื่อที่จะไดทําการโรยเชื้อเห็ดตอไป) แลวยายสายยางไปยังหองอ่ืนถัดไปและทําการพนไอน้ํา ในลักษณะเชนเดียวกันและจงจําไว การอบไอนํ้าในเรือนเพาะใหมีอุณหภูมิสูงถึง 72 องศาเซลเซียส เปนเวลาอยางนอย 2 ชั่วโมงติดตอกัน จะฆาเชื้อราและเช้ือเห็ดข้ีมา (ขี้วัว) ที่ปะปนมาไดผลเปน อยางดี แตถาอุณหภูมิต่ํากวา 60 องศาเซลเซียสแลว แมจะใชเวลานานเทาใดก็ตามก็ไมสามารถ ฆา เช้อื เหด็ ขม้ี า (ขี้วัว) ไดห มด ซึง่ จะเปน ปญ หาในการเพาะคอื มีเหด็ ขมี้ า (ขว้ี ัว) เกิดข้ึน การจัดเตรียมเชือ้ เห็ดฟางและการโรยเชื้อเหด็ ฟาง กอนที่จะเริ่มเพาะเห็ดฟาง ผูเพาะควรจะตองทําความรูจักกับเช้ือเห็ดฟางใหดีเสียกอน ทั้งน้ีเพราะเช้ือเห็ดฟางมีบทบาทที่สําคัญมากที่สุดในกระบวนการเพาะเห็ดชนิดน้ีอาจกลาวไดวา ในการเพาะเห็ดฟางนอกเหนือจากเรื่องปญหาเทคนิคเล็ก ๆ นอย ๆ อยางอื่นในการเพาะแลวปญหา เรื่องข้ีเห็ดน่ีเองท่ีเปนเร่ืองใหญโต เปนเรื่องท่ีมีคําถามกันอยางไมสิ้นสุด ทั้งน้ีเพราะนักเพาะเห็ด มือใหมวิธีการหรือเทคนิคตาง ๆ ในการเพาะน้ันเปนเรื่องท่ีสามารถเรียนรูกันได และสามารถที่จะ แกไขปญหาท่ีเกิดขึ้นไดอยางรวดเร็ว แตปญหาเร่ืองเช้ือเห็ดนักเพาะเห็ดมือใหมตองเรียนรูและ ทาํ ความเขา ใจใหม าก ๆ ปจจุบันน้ีแหลงท่ีมีการจําหนายเช้ือเห็ดฟางมากและใหญที่สุดยังอยูบริเวณสามแยก เกษตรใกลๆ กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร อาจมีอยูบางในตางจังหวัดใหญๆ เชน หาดใหญ เชียงใหม และขอนแกน แตมีไมมากหรืออาจเปนเช้ือเห็ดท่ีสงไปจากในกรุงเทพฯ ไมใชเปนเช้ือท่ีผลิต ในทองที่นั้น ๆ โดยตรง ท้ังน้ีเปนเพราะการต้ังโรงงานผลิตเช้ือเห็ดฟางจะตองมีตนทุนสูงในการ ผลิตสูง ตองมีตลาดขายเช้ือที่แนนอนและมากพอ และท่ีสําคัญคือจะตองหาซื้อวัตถุดิบหรือขี้มาสด ไดงาย ขี้มาสดเปนสวนประกอบท่ีสําคัญท่ีสุดของเช้ือเห็ดฟาง คอกมาในเมืองไทยมีไมมากและไม แพรหลายมากนัก ทําใหไมสามารถกะงานโรงงานการผลิตเช้ือเห็ดไปตางจังหวัดได เชื้อเห็ดฟางมี ลักษณะคลาย ๆ กับปุยหมัก สวนประกอบสําคัญ คือข้ีมาสดผสมกับเปลือกเมล็ดบัวและไสนุน บรรจุถุงพลาสติกเปนถุงเด่ียว ๆ บางย่ีหอก็มีลักษณะเปนรูปกอนกลม เพราะมีการนึ่งดวยกระปอง เวลาขายจึงเทออกมาใสถุง ๆ ละ 4 กระปอง หรือ 4 กอน อยางไรก็ตามเช้ือเห็ดท้ัง 2 ชนิด คือทั้งท่ี
การเพาะเห็ดฟาง / 47 บรรจุกระปองน่ึงและบรรจุถุงน่ึงมีคุณสมบัติท่ีดีเหมือนกันทุกประการ แมวาในทองตลาดจะมีเชื้อ เหด็ ฟางอยูหลายย่หี อ มตี ัวแทนจําหนายมากราย แตมีแหลงผลิตหรือโรงงานไมก่ีแหงหรือแทบจะนับ รายได เชอ้ื เห็ดฟางอาจมหี ลายตราหลายย่ีหอวางขายอยตู ามรานตวั แทนจาํ หนายทว่ั ไป แตส ว นใหญ แลวมาจากโรงงานเดียวกัน หรือจากโรงงานท่ีผลิตจริง ๆ เพียงไมก่ีแหงแตผูจําหนายนําไปติดตรา หรือย่ีหอของตัวเองลงไปกอนขายใหแกผูซื้อ ดังน้ันเวลาซื้อเชื้อเห็ดไปเพาะควรดูที่เช้ือหรือดูลักษณะ ของเชื้อมากกวาดูท่ีตราหรือยี่หอ การดูเช้ือเปนจะทําใหทราบวาเปนเช้ือที่เคยซื้อไปแลวเพาะดอกดี หรือไมดี นอกเหนือจากจะตองซื้อเชอื้ จากรานท่ไี วใจได การปฏิบัติดูแลรักษาใหเกิดดอก การปฏิบัติดูแลรักษาใหเห็ดฟางออกดอก แบงเปน 3 ระยะคือ ระยะที่ 1 หลังจากโรยเช้ือเห็ดฟางแลวตองควบคุมอุณหภูมิใหอยูประมาณ 35 องศา เซลเซียส เปน เวลา 3 วนั เสน ใยจะเจรญิ เตม็ วัสดุ ระยะท่ี 2 ในวันท่ี 4 จะทําการตัดเสนใยเห็ดโดยการรดน้ําเพ่ิมความชื้นบนวัสดุเพาะ เพ่ือรักษาอุณหภูมิใหอยูประมาณ 28 – 32 องศาเซลเซียส น้ําท่ีใชตองสะอาดหรืออาจใชนํ้าฝนก็ได เพื่อไมใหเกิดการปนเปอนของจุลินทรีย เปนเวลา 6 – 8 วัน ระวางนี้ควรเปดชองใหแสงเขากระตุน การเกิดดอกวันละ 2 – 3 ชม. หรือหากอุณหภูมิสูงข้ึนก็เปดชองระบายความรอนหรือพนนํ้าเปนฝอย ตามผนังโรงเรือนและบนชั้นเพาะ แตตองระวังอยาใหตุมดอกเห็ดเปยกน้ํา สังเกตวาในชวงนี้อากาศ ในโรงเรือนจะเย็นสบาย หายใจสะดวกไมรอนอบอาว แตไมควรเปดโรงเรือนเขาออกบอยๆ จะทําให อุณหภมู ิผนั ผวนเปน อนั ตรายตอ เห็ดฟาง ดอกเห็ดจะโตขนึ้ เร่อื ยๆจนถึงเกบ็ จาํ หนายได ระยะท่ี 3 หลังจากเก็บผลผลิต 2-3 รุนจะไดนํ้าหนักประมาณ 100 กก. ตอโรง ควรทําความสะอาดโรงเรือน โดยขนวัสดุเพาะออกใหหมด ลางทําความสะอาดช้ันเพาะและ พ้ืนโรงเรือน ถามีการหมักหมมของจุลินทรียมากก็ควรอบไอนํ้าฆาเช้ือจุลินทรีย กอนการเพาะเห็ด ครัง้ ตอ ไป การเก็บผลผลิตเห็ดฟางควรเก็บเม่ือดอกเห็ดฟางยังตูมอยู ไมควรปลอยใหดอกบานจะ เสียราคา ควรเก็บในชวงเวลาเชา และนํามาตัดแตงและคัดขนาด ไมตองลางน้ําจะทําใหเห็ดอุมน้ํา เสยี ราคาและเนางาย การซอ้ื เช้ือเห็ดฟางไปเพาะมอี ยู 2 วิธีดว ยกนั วิธีแรกคือ การเลือกซ้ือดวยตนเอง หากดูเชื้อเปนสามารถทําใหไดเช้ือดีไปเพาะและ สามารถเลอื กรา นที่เช้ือมีคุณภาพได โอกาสท่ีเชอ้ื เสยี มนี อย
การเพาะเหด็ ฟาง / 48 วธิ ที ี่สองคอื การติดตั้งสั่งซื้อเชื้อทางไปรษณีย เปนวิธีการท่ีตอเนื่องกับวิธีแรกคือ เมื่อทราบที่ซื้อแลวไดมีการตกลงท่ีจะสั่งซ้ือทางไปรษณีย สวนใหญผูซ้ือจะตองสงเงินไปใหแกผูขาย ทางธนาณัติตามจํานวนเช้ือที่ตองการ โดยทางผูซื้อจะตองบวกคาขนสงลงไปในเชื้อแตละกระปอง ดวยอาจบวกคาขนสงเพ่ิมจากราคาเชื้อกระปองหรือถุงละ 1-2 บาท เช้ือเห็ดฟางที่ดี จะตองไมออน หรอื แกเกินไป สงั เกตเชอ้ื ไดจากลักษณะของเสนใยกลาวคืออายุของเชื้อฟางจากออนถึงแก มีอายุ ประมาณ 20 วัน เชื้อเห็ดฟางที่ยังออน เสนใยของเห็ดจะเร่ิมลาม จากดานบนเช้ือลงมาดานลาง ถาเสน ใยเพง่ิ ลามลงไปไดค รึ่งถุงแสดงวา เชื้อยังออนอยู ถาลามไปถึงกนถุงหรือกนกระปองแสดงวา เช้ือมีอายุพอดี เช้ือเห็ดที่มีเสนใยลามเต็มถุงไมควรเก็บไวนานเกินไป เชื้อท่ีมีอายุมากหรือเสนใย เจรญิ เตม็ ถงุ แลว ตอไป เสนใยจะยุบมีสีเหลือง แสดงวาเชื้อเริ่มแกมาก แตเช้ือที่เพ่ิงเริ่มแกเล็กนอยแต มีคุณภาพดีอยูเสนใย จะเริ่มรวมตัวทางดานบนของปากถุง หรือชักใยเกาะฝากระปองเล็กนอยและ เสนใยจะรวมตัวกันสรางสปอรชนิดหนึ่งซ่ึงมองเห็นเปนแผนเล็กๆ สีนํ้าตาลแดง เรียกวา คลามิโด สปอร หรือรวมกลุมกันเปนจุดสีขาวในบางสายพันธุ แสดงวาเปนเชื้อท่ีดีและไมเปนหมัน เช้ือที่เปน หมนั เพาะแลว ไมเ กดิ ดอกเสน ใยจะรวมตวั กันมากมายขาวฟูผดิ ปกตไิ มค วรใชเ พาะ นอกจากน้ีเช้ือเห็ดฟางที่ดีจะตองมีกล่ินหอมแบบกล่ินเห็ด เม่ือเทออกมาจากถุงเชื้อ จะจับตัวรวมกันเปนกอนไมรวงหรือแฉะและไมมีน้ําหนักมากเกินไป นอกจากนี้จะตองตรวจดูวา ภายในถุงตองไมมีตวั ไรเล็กๆหรือมีราตา ง ๆ เชน ราแดง ราเหลอื ง ราเขียว ขึ้นไปปะปนอยู ซง่ึ แสดงวา เช้อื ไมดี การโรยเชื้อเหด็ ฟาง หลังจากท่ีไดอบไอนํ้าและปลอยท้ิงไวจนวัสดุเพาะมีอุณหภูมิประมาณ 35 องศา เซลเซยี ส แลว เราจะเรมิ่ โรยเชื้อเหด็ ลงวสั ดเุ พาะ (ขฝี้ า ย) ในแตล ะชน้ั การเตรียมและโรยเชื้อเห็ดฟางนี้ ก็ทําไดโ ดยแกะถุงเชอื้ เห็ดฟางท่คี ดั เลอื กแลว วามีคุณภาพดใี สลงในกาละมังที่ลางสะอาด และฆาเชื้อ ดวยแอลกอฮอลเรียบรอยแลว และควรลางมือใหสะอาดกอนจึงทําการขย้ีเชื้อใหกระจายทั่วกัน เพ่ือสะดวกในการโรยเชือ้ เห็ดฟางใน 1 หอ ง จะใชเ ชือ้ เหด็ ฟาง 30-50 ถุง เม่ือเตรียมเช้ือเห็ดฟางเรียบรอยแลวก็ใหนํามาโรยลงบนช้ันวัสดุเพาะ (ขี้ฝาย) ในหอง ใหสม่ําเสมอและทั่วถึงกันทุกชั้น แลวรีบปดหองทันที ลักษณะภายในหองใหมีอุณหภูมิ 35 องศา เซลเซียส (นานประมาณ 3 วัน) หลังจากน้ันประมาณ 6 ชั่วโมง ใหสังเกตดูวามีเสนใยเห็ดเดินเปน สีขาวบนวัสดุเพาะหรือยัง ปกติแลวเสนใยเห็ดฟางจะเริ่มแตกตัวประมาณ 6-8 ชั่วโมง หลังจาก โรยเชอื้
การเพาะเห็ดฟาง / 49 ถา ท้งิ ไวประมาณ 15-16 ชั่วโมง เสนใยเห็ดยังไมเจริญเติบโตก็แสดงวามีปญหาประการ ใดประการหนงึ่ เกดิ ขน้ึ ดงั น้ี 1. วัสดุเพาะยังมีกาซแอมโมเนียเหลืออยู จึงเปนพิษตอเสนใยเห็ดทําใหเสนใยเห็ด ไมเ จรญิ 2. ทําการโรยเช้ือเห็ดขณะที่วัสดุเพาะยังมีอุณหภูมิสูงอยูมาก ทําใหเชื้อเห็ดเสื่อมลง หรือตาย 3. เชอ้ื เห็ดมคี ุณภาพไมด ี อาจเปนหวั เชื้อไมบ รสิ ุทธ์ิ 4. สภาพอณุ หภมู ิและอากาศภายในหองไมเหมาะแกการเจริญเตบิ โตของเสนใยเหด็ ในการเพาะเห็ดฟางในโรงเรือนนั้น หลังจากท่ีไดโรยเช้ือเห็ดฟางใสวัสดุเพาะเสร็จและ ปดหองพรอมกับรักษาอุณหภูมิประมาณ 32-38 องศาเซลเซียส ท้ิงไว 2-3 วันแลว เชื้อเห็ดฟางจะ เจริญเติบโตเปนเสนใยเห็ด มีสีขาวฟูเปนปุย เจริญแผกระจายเต็มหนาวัสดุเพาะ จากน้ันเสนใยเห็ด จะสะสมอาหารเพ่ือท่ีจะนําไปใชในการสรางดอกเห็ด ในระหวางวันที่ 3-4 เสนใยเห็ดก็จะเร่ิมยุบตัว ลง เปลี่ยนจากสีขาวเปนสีนํ้าตาล และจับตัวกันเกิดเปนดอกเห็ดเล็กๆ มีลักษณะเปนเม็ดคลาย ผงซกั ฟอก ตอ จากนั้นกจ็ ะเจริญพัฒนาเปน ดอกเหด็ ท่สี มบรู ณตอไป ดังนั้น นับจากระยะวันท่ี 3-4 น้ีเปนตนไป เราจําเปนตองคอยปรับอุณหภูมิและอากาศ ภายในหอ ง เพื่อใหเ หมาะสมกบั ความตอ งการในการเจริญพฒั นาเปนดอกเหด็ ที่สมบูรณด ังน้ี 1. เมื่อโรยเชื้อเห็ดฟางไวไดประมาณ 3-4 วัน ก็ใหเปดแงมดูภายในหอง ถาเสนใยเห็ด ยังมีลักษณะสีขาวอยูตามผิวหนาขี้ฝายเปนจํานวนมาก แสดงวาภายในหองมีอุณหภูมิสูงเกินไป ลักษณะเชนนี้แมเสนใยยุบตัวเกิดเปนดอกเห็ดเล็ก ๆ เต็มผิวหนาข้ีฝายก็ตาม แตดอกเห็ดเล็ก ๆ เหลานี้ก็จะไมพัฒนาเปนดอกเห็ดท่ีสมบูรณได เพราะเสนใยเห็ดไมสามารถจะพักตัวและสะสม อาหารไดมากพอ ดังนั้นเพ่ือชวยใหเสนใยไดฟกตัวและสะสมอาหารไดอยางเต็มท่ี จึงควรเปดชอง ระบายอากาศใหอุณหภูมิภายในหองลดลงพรอมกับเปนการถายเทอากาศไปในตัวดวย โดยควบคุม ใหม ีอณุ หภูมปิ ระมาณ 28-32 องศาเซลเซยี ส โดยเปด ชอ งระบายอากาศทิง้ ไว 2. ถาแงมดูพบวาเสนใยเห็ดเร่ิมยุบตัวและมีดอกเห็ดเล็ก ๆ เกิดขึ้นบางแลว ก็ใหปรับ อณุ หภูมภิ ายในหองใหอยูร ะหวา ง 28-32 องศาเซลเซยี สโดยเปดชองระบายอากาศทง้ิ ไว 3. หลังจากเสนใยเห็ดไดเริ่มยุบตัวลงแลวประมาณ 1-2 วัน คือวันท่ี 4-5 ก็ใหสังเกตดู วา เม็ดเห็ดดอกเล็ก ๆ เกดิ ขน้ึ ทั่วผิวหนาขี้ฝา ยทกุ ช้ันหรือยัง ถามดี อกเหด็ เลก็ ๆ เกดิ ข้ึนท่ัวทุกช้ันดีแลว ก็ใหแงมประตูใหอากาศภายในหองมีการระบายถายเทมากข้ึน โดยแงมประตูใหกวางประมาณ 20 เซนติเมตร ในระดับความสูงระหวางช้ันลางกับช้ันบน และควบคุมใหมีอุณหภูมิสูงประมาณ
การเพาะเห็ดฟาง / 50 28-32 องศาเซลเซียส ในระยะนี้ถาสภาพอากาศและข้ีฝายมีความช้ืนนอยลงไปมาก (ตํ่ากวา 80%) ก็ใหรดนา้ํ โดยใชเ ครอ่ื งพน ฝอยฉีดพน แตจ ะตองระวังอยาใหละอองนํา้ จับกนั เปน หยดนาํ้ ได 4. ในชวงวันท่ี 6-7 ก็จะสังเกตเห็นวาดอกเห็ดมีขนาดโตประมาณน้ิวหัวแมมือบางแลว ในระยะนถี้ าพบวา บรเิ วณโคนดอกเห็ดมีปยุ สขี าวฟอู ยูรอบ ๆ และผิวของดอกเห็ดเปนขุยขรุขระคลาย ผิวหนงั คางคกกแ็ สดงวา อากาศภายในหอ งไมเ พยี งพอ มกี า ซคารบอนไดออกไซดในปริมาณที่สูงมาก เกินไป จะตองเพ่ิมการระบายอากาศภายในหองใหมากข้ึนอีก โดยเปดประตูเขาใหกวางออกไปอีก และรักษาอุณหภูมิใหอยูระดับ 30-32 องศาเซลเซียสและถาตองการใหไดดอกเห็ดที่มีขนาดโต น้ําหนักดี และดอกขาว ก็ใหทําการอบไอน้ําในเวลากลางคืนในชวงที่อุณหภูมิตํ่าสุดคือ ระหวาง 02.00-04.00 น. (ทั้งน้ีก็เพราะวาในชวงเวลาดังกลาวที่มีอุณหภูมิต่ํา จะทําใหดอกเห็ดชะงัก การเจริญเติบโต) อบไอนํ้าใหไดอุณหภูมิสูงประมาณ 32-34 องศาเซลเซียส จะชวยใหดอกเห็ดเจริญ พฒั นาไดอ ยางเต็มท่ี ทําใหไ ดดอกเหด็ ตรงตามตอ งการ ซ่ึงในเร่ืองนี้เกษตรกรผูเพาะเห็ด จะตองหม่ันคอยสังเกตพรอมกับหาขอสรุปท่ีถูกตอง และควรจดบันทึกไวเปนขอ มลู เพ่อื ชว ยใหก ารดาํ เนนิ ครั้งตอ ๆ ไปสะดวกไดผลดียิ่งข้ึน
การเพาะเหด็ ฟาง / 51 ใบงานท่ี 6 ข้นั ตอนการเพาะเห็ดฟางในโรงเรือน 1. ใหอ ธบิ ายขนั้ ตอนการวางแผนการจัดการเพาะเหด็ ฟางโรงเรือน ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 2. ใหอ ธิบายขัน้ ตอนการการหมกั ขฝ้ี า ยหรือไสน นุ ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 3. อธิบายขนั้ ตอนการทําความสะอาดโรงเรือนเพือ่ เตรยี มการเพาะเห็ดฟาง ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................
การเพาะเห็ดฟาง / 52 ใบความรทู ่ี 7 การเก็บผลผลติ และการทําความสะอาดโรงเรือน การดูแลพฒั นาของดอกเหด็ และการเกบ็ ผลผลติ หลังจากเสนใยเห็ดไดรวมตัวกันเปนดอกเห็ดเล็ก ๆ แลว ดอกเห็ดดังกลาวน้ีจะพัฒนา เปน ดอกเห็ดทสี่ มบรู ณไ ดหรอื ไม หรือจะชาจะเร็วกข็ ้นึ อยูกับปจ จยั ดงั น้ี 1. เชื้อเห็ด ถาเปนเช้ือเห็ดที่ไดมาจากการตอเช้ือมามากชวงแลว ดอกเห็ดที่ไดจะ มีขนาดเล็ก โตเร็ว บานเร็ว และมีเกิดเปนจํานวนมาก นอกจากน้ีตัวเชื้อเห็ดนั้นเปนสายพันธุเบาก็จะ โตเรว็ กวา พันธุหนกั 2. การสะสมอาหารของเสนใยเห็ด ถาหากวัสดุเพาะมีอาหารเห็ดไมสมบูรณและการ สะสมอาหารของเสนใยเห็ดเพื่อใชพัฒนาเปนดอกเห็ดไมพอเพียงแลว ถึงแมวาจะเกิดเปนดอกเห็ด ขนาดเล็ก ๆ ข้นึ แลวก็ตามก็ไมส ามารถพฒั นาเปน ดอกเห็ดท่สี มบรู ณได 3. อากาศ ระยะการพัฒนาเปนดอกเห็ดท่ีสมบูรณนี้จะตองการอากาศสูงมาก จึงควร เปดชองระบายอากาศ และประตูใหอากาศบริสุทธิ์เขาไปบาง ถาหากอากาศไมเพียงพอแลวจะทําให มีกาซคารบอนไดออกไซดเกิดข้ึนภายในหองมากเกินไป ทําใหเน้ือเย่ือภายนอกดอกเห็ดเจริญ เติบโตเปนเสนใยอีกครั้ง คือทําใหดอกเห็ดเปนปุยสีขาวหรือทําใหผิวดอกเห็ดมีลักษณะคลาย หนังคางคก หรือถาหากดอกเห็ดนั้นยังเล็กอยูก็จะทําใหดอกเห็ดมีลักษณะผิดปกติไป เชน มีรอยบุม ตรงกลาง ปลอกหุม ดอกคลุมไมหมด หรือไมมหี มวกดอก เปนตน 4. อุณหภูมิ ท่ีเหมาะสมควรอยูระหวาง 28-32 องศาเซลเซียส ถาหากมีอุณหภูมิต่ํา เกนิ ไปจะทาํ ใหดอกเจริญเติบโตชา แตด อกที่ไดน ้ันจะมขี นาดโตและหนกั ตรงกันขามถา หากอุณหภูมิ สูงจะทําใหดอกเห็ดโตเร็ว ปลอกหุมบางและบานงาย แตถาอุณหภูมิสูงมากเกินไปแลวก็อาจทําให ดอกเห็ดไมเจริญเตบิ โตได 5. แสง ระยะนี้ควรควบคุมแสงใหผานเขาไปเพียงเล็กนอย เพ่ือใหดอกเห็ดมีสีซีดลง และคอ นขา งยาว ถา หากใหแ สงผา นเขาไปมากแลว จะทาํ ใหสีของดอกเหด็ เปล่ียนเปนสคี ลาํ้ มาก และ ไมไดเ ปน ท่นี ิยมของผูบ ริโภค ถาหากสภาพแวดลอมเหมาะสมและมีการดูแลรักษาดีแลว หลังจากโรยเชื้อประมาณ 2-3 วัน เสนใยก็จะเจริญเติบโตเต็มช้ันเพาะ ประมาณวันท่ี 3-4 เสนใยก็จะจับตัวกันเปนดอกเห็ด
การเพาะเห็ดฟาง / 53 เล็กๆ และประมาณวันท่ี 6-7 ก็จะเร่ิมเก็บดอกเห็ดได การเก็บดอกเห็ด ควรเก็บเม่ือดอกเห็ดฟาง โตเต็มทค่ี อื มลี กั ษณะเตงตึง ปลอกหุม ขยายตัวเต็มท่ีในกรณีท่ดี อกเหด็ มีลักษณะเปน หวั อยูก็ควรรอไว อีกวันหนึ่งหรือคร่ึงวัน แตเมื่อเห็ดมีลักษณะหัวยืดข้ึนแบบหัวพุง ก็ตองเก็บทันทีมิฉะน้ันดอกเห็ด จะบานออก ทําใหขายไมไดราคา วิธีการเก็บดอกเห็ดใหใชน้ิวหัวแมมือกดดอกเห็ดแลวหมุนเล็กนอย ยกขนึ้ เบาๆ ดอกเหด็ ก็จะหลุดออกมา หลังจากเกบ็ ดอกเห็ดมาแลว ก็ใหใชมดี คมๆ ตดั โคนดอกทมี่ เี ศษ ขี้ฝายติดมาออกเสีย จากน้ันก็นําไปเก็บไวในท่ีเย็นๆ (อาจเปนตูเย็นก็ได) เพราะถาเก็บไวในที่รอน อบอาวแลว จะทําใหดอกเห็ดบานเร็วข้ึน ในการเพาะครั้งหนึ่งๆ ผลผลิตท่ีไดควรอยูระหวาง 50-60 กิโลกรัมตอหอง จะเห็นไดวาการเพาะเห็ดฟางในโรงเรือนจะประสบผลสําเร็จหรือไมขึ้นอยูกับ การสังเกต การเอาใจใส ความขยัน ความอดทน ของเกษตรกรเอง และกลาที่จะทดลองหาขอมูล ใหมๆ มาปรับปรุงวิธีการของตนเองใหไดผลดีอยูเสมอ ประการที่สําคัญที่สุดคือ จะตองบันทึกขอมูล ตางๆ เอาไวเ พ่ือนําไปเปรียบเทยี บปรบั ปรงุ แกไ ขในการปฏิบตั ิการครง้ั ตอ ไป การทาํ ความสะอาดโรงเรอื นเพอื่ เตรียมการเพาะคร้งั ตอ ไป หลงั จากที่เกบ็ ผลผลิตจนหมดแลว ก็ไดเอาข้ีฝายและฟางออกไปใชประโยชนอื่นๆ ตอไป เม่ือเอาข้ีฝายและฟางออกจากชั้นเพาะจนหมดแลว ก็ทําการลางช้ันเพาะและหอง อาจลางดวย ผงซักฟอกหรืออาจใชนํ้ายาคลอรอกซหรือนํ้ายาฟอรมาลีนดวยก็ได แลวลางดวยน้ําจนสะอาด ปลอยทิ้งไวใหแหงสนิทอยางนอย 2-3 วัน จึงทําการอบไอนํ้าท่ีอุณหภูมิ 60-70 องศาเซลเซียส ข้ึนไป นานประมาณ 1-2 ชัว่ โมง เพอ่ื ฆาเชือ้ ราและศัตรทู ่ีอาจหลงเหลอื อยู จากนั้นจึงคอยเริ่มดําเนินการเพาะตอไป แตถาหากปลอยโรงเรือนทิ้งไวนานวันเกินไป แลว เม่ือทําการเพาะก็ใหอบไอน้ําเสียกอน ท่ีอุณหภูมิประมาณ 60-70 องศาเซลเซียสขึ้นไป นาน ประมาณ 1-2 ชว่ั โมง จงึ คอยใชทําการเพาะครั้งตอไป
การเพาะเหด็ ฟาง / 54 ใบงานท่ี 7 การเกบ็ ผลผลติ และการทาํ ความสะอาดโรงเรือน 1. อธิบายขน้ั ตอนการอบไอนา้ํ เพื่อฆาเชื้อ ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 2. ใหอ ธิบายขน้ั ตอนการ การควบคมุ อุณหภมู ใิ นโรเรอื นเห็ดฟาง ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................
การเพาะเหด็ ฟาง / 55 ใบความรูท ่ี 8 การปองกันและกาํ จดั ศัตรเู ห็ด โรคแมลงและการปองกันกาํ จดั ถึงแมวาการเพาะเห็ดฟางจะใชระยะเวลาสั้น แตก็มีศัตรูเห็ดหลายชนิดท่ีมักเกิดข้ึน คอยทําลายและรบกวนผลผลิตเห็ดท่ีออกมา เชน มด ปลวก แมลงสาบ หนู ไรและเช้ือราตางๆ ซึ่งผูเ พาะเห็ดฟางควรท่ีจะไดทราบและหาทางปองกนั รกั ษาดงั น้ี มด ปลวก แมลงสาบ จะเขาไปทํารังหรือเขาไปทําลายเสนใยเห็ดและกัดกินดอกเห็ด ทาํ ใหผ ลผลิตตกตํา่ ดอกเห็ดไมสมบรู ณ วิธกี ารปองกนั ใชน้ํายาเอ็ฟตาคลอรหรือคลอเดนหยดใสตรงปากรูทางเขารังมดหรือปลวก (ภายนอก โรงเรอื น) มด และปลวกจะตายหรือยายหนีไป หรือจะใชข้ีเถาแกลบผสมผงซักฟอกโรยบนพ้ืนดิน โดยโรยรอบนอกโรงเรอื น ไร มีขนาดเล็ก สีขาวเหลืองมีขนสีนํ้าตาลยาวท่ีสวนหลังและขาสามารถเจริญและแพร พันธุไดดี ในบริเวณท่ีชื้นๆ ทําลายโดยการกัดกินเสนใยเห็ดฟางหรือดอกเห็ดท่ีมีขนาดเล็ก กอใหเ กดิ ความเสยี หายและเกิดความรําคาญ เวลาเขาปฏบิ ตั งิ านในโรงเรอื น วิธกี ารปอ งกัน 1. ทําความสะอาดโรงเรือนบอยๆ อยาปลอยใหมีวัสดุตกหลนตามพ้ืนและเม่ือ เพาะเห็ดเสรจ็ แตละคร้งั ควรเก็บปุยหมักออกใหหมดและลา งโรงเรือนใหสะอาด 2. ใชสารเคมีฆาไรท่ีไมมีพิษตกคางฉีดพนกอนเกิดดอกเห็ด เพื่อกันสารเคมีซึ่งอาจ ตกคา งในดอกเห็ดได แลว โรยปูนขาวซ้ําอกี ครง้ั หนง่ึ จะปองกันตวั ไรและเชือ้ ราตางๆ ได 3. วัชเห็ด ท่ีพบเปนคูแขงขันแยงอาหารเห็ดฟางน้ันที่พบมาก ไดแก เห็ดหมึกหรือเห็ด ขี้มาสาเหตุท่ีเกิดข้ึน เพราะภายในปุยหมักรอนเกินไปหรือขั้นตอนผสมสูตรอาหารอาจใสอาหารเสริม มากมายในโรงเรือนไมมีการระบายอากาศ
การเพาะเหด็ ฟาง / 56 4. โรคของเหด็ ฟางทเ่ี กิดจากเชื้อรา เห็ดฟางเปนเห็ดที่คนไทยรูจักบริโภคและเพาะมา เปนเวลานานแลว การเพาะเห็ดฟางโดยทั่วไป มักนิยมเพาะหลังฤดูทํานา เม่ือเก่ียวขาวและนวดขาว เสร็จแลว โดยเพาะกนั เปน อาชีพเสริมเพ่ือเพ่ิมรายไดใหแกครอบครัว สาเหตุที่การเพาะเห็ดฟางเปนที่ นิยมกันอยางกวางขวาง เนื่องจากวัสดุเพาะหาไดงายสวนใหญเปนวัสดุเหลือใชทางการเกษตร เชน ฟางขาว เปลือกถ่ัวเขียว (เปลือกฝกถั่ว) ประเภทอาหารเสริมไดแก ข้ีฝาย ไสนุน ละอองขาว ปุยคอก ผกั ตบชวาตากแหง เปน ตน ผูเพาะเห็ดควรไดศึกษาใหเขาใจอยางถองแทถึงเทคนิควิธีการเพาะเห็ดแบบตางๆ การเลือกซ้ือเช้ือเห็ด ปจจัยท่ีเอื้ออํานวย ตอการออกดอกจนกระท้ังวิธีการดูแลรักษาแปลงเพาะเห็ด หรือโรงเพาะเห็ดอยางถูกตองเสียกอนลงมือเพาะ และยังมีเร่ืองการตลาดอีกดวย นอกจากปญหา และอุปสรรคดังกลาวแลว หากแกไขไมถูกจุดอาจทําใหโรคแมลงน้ันระบาดทําความเสียหายแก การเพาะเห็ดได ในที่น้ีจะไดแยกกลาวถึงโรคและเช้ือราท่ีสําคัญในการเพาะเห็ดฟางกองเต้ียและ การเพาะเห็ดอุตสาหกรรม รวมท้ังการดแู ลรกั ษาและปอ งกนั กาํ จัด โรคราเม็ดผกั กาด โรคราเม็ดผักกาด มกั เกิดกับกองเห็ดฟางท่ีใชฟางเกาเก็บคางป และ ถูกแดดฝนมากอ น มักเกดิ กับการเพาะเหด็ ฟางกองเตย้ี ลักษณะที่สังเกต เสนใยของเชื้อรามีลักษณะหนากวาเสนใยของเห็ดฟาง เร่ิมเกิดข้ึน ในวันท่ี 3 หรือ 4 ของการเพาะเห็ดและเจริญเติบโตอยางรวดเร็ว ตอมาจะเกิดเสนใยแผขยายออกไป มีลักษณะเปนวงกลม โดยเฉพาะที่หลังกอง เมื่อเสนใยมีอายุมากข้ึน จะสรางสวนขยายพันธุ รูปราง กลม มีสีขาวเมื่อออนและเปล่ียนเปนสีน้ําตาลเมื่อแก ทําใหมีลักษณะคลายคลึงกับเมล็ดผักกาด จงึ ไดช อ่ื วา ราเมด็ ผักกาด เช้ือรามักเกิดเปนยอมเทานั้น ไมกระจายไปทั้งแปลงเพาะ แตทําลายเสนใยของเห็ด โดยตรง ทําใหบริเวณท่ีเกิดราเม็ดผักกาดไมมีดอกเห็ด นอกจากนั้นราเม็ดผักกาดยังทําลายดอกเห็ด ออนๆ ทาํ ใหด อกเห็ดออนมลี ักษณะนิม่ กวาปกติ โรคราเม็ดผักกาดเกิดจากเช้อื รา Sclerotium rolfsii โรคราเขียว โรคราเขียวเกิดขึ้นไดทั้ง ข้ีฝาย ฟางขาว บนดินและดอกเห็ด ทั้งใน การเพาะเห็ดฟางแบบกองเตีย้ หรอื การเพาะเห็ดฟางแบบอุตสาหกรรม ราเขียวทพ่ี บมี 3 ชนดิ เปน เชื้อราอาศัยอยูในดินหรือในอากาศก็ได เม่ือดินหรือวัสดุเพาะ มีความช้ืน จะเร่ิมเจริญขึ้นที่ดินและเจริญตอไปถึงข้ีฝายและฟางขาว มีบางชนิดอาจติดมากับขี้ฝาย หรือไสนุนกอนแลวก็ได ราเขียวเปนราประเภทสรางสปอรมาก สปอรมีขนาดเล็ก สปอรปลิวไดใน อากาศและเจริญเติบโตเร็วมาก เมื่อปริมาณท่ีอาศัยเชนกองเพาะเห็ดมีอุณหภูมิและความช้ืน
การเพาะเห็ดฟาง / 57 เหมาะสมจึงเจริญเติบโตขยายพันธุตอไป เช้ือราเหลาน้ีเปนเช้ือราแขงขัน หรือราคูแขงของเชื้อ เห็ดฟาง ทําใหเช้ือเห็ดฟางบริเวณท่ีมีราเขียวเจริญไมทัน นอกจากนี้ราเขียวยังทําลายดอกเห็ด ออนๆ ได ขณะเสนใยออน มีลักษณะเปนสีขาว เสนใยบางเม่ืออายุได 3 วันข้ึนไป เชื้อราจะเร่ิม สรางสปอรซึง่ มสี เี ขยี ว ทาํ ใหเ กดิ การระบาดได ราเขียว 3 ชนดิ ดังกลาวคอื ราเขียว Trichoderma และ Gliocladium มีสีเขียวออน หรือ เขียวเขม ราเขียว Penicillium มสี เี ขียวอมเทา ราเห็ดหมึก หรือเห็ดขี้มา ราเห็ดหมึกหรือเห็ดข้ีมา (Coprinus spp.) เกิดไดทั้งในการ เพาะเห็ดฟางกองเต้ียและเห็ดฟางอุตสาหกรรมเห็ดหมึก ในกองเพาะเห็ดฟางอุตสาหกรรม แสดงถึง การหมักฟางไมไดที่มีกาซแอมโมเนียหลงเหลืออยู การอบไอนํ้าในอุณหภูมิท่ีไมไดที่ เปนการกระตุน จุลนิ ทรยี ต างๆ ใหเร่ิมทาํ งานอีกครั้ง ทําใหเกิดกาซแอมโมเนยี ได ในการเพาะเห็ดฟางกองเต้ีย การเกิดเห็ดหมึกเกิดจากการใชฟางเกาหรือวัสดุเพาะมี เช้อื เหด็ หมึกอยู หรอื อาจเกิดจากกองเพาะรอนและแฉะเกินไป จงึ เสมอื นกับลกั ษณะการเกิดการหมัก ขึ้นได ราขาวนวล เชื้อราชนิดนี้มีลักษณะสีขาวนวลหรือสีเหลืองออน ๆ พบต้ังแตวันแรกของ การเพาะเห็ด เช้ือราน้ีมักจะเกิดบนวัสดุเพาะและเจริญแผขยายติดตอกันเปนปนใหญ ทําใหมองเห็น เปนกอน ๆ หรือเปนแผน ๆ เช้ือราชนิดนี้เปนเช้ือราที่เจริญเติบโตเร็ว ข้ึนแขงกับเช้ือเห็ดฟาง แตเจริญ ไดเร็วกวาทําใหบรเิ วณทีม่ ีเช้ือรานีไ้ มม ีเชือ้ เห็ดฟางข้ึนเลย นอกจากนีถ้ ามีตมุ ดอกเกิดขึน้ เช้อื ราชนิดน้ี มักเจริญปกคลุมดอกเห็ดเล็ก ๆ หรือทําใหดอกเห็ดกลุมนั้นมีลักษณะผิดปกติหรือดอกเห็ดไมเจริญ ตอ ไป สว นใหญจ ะพบเชอ้ื ราชนดิ น้บี นกองวัสดุเพาะเห็ดฟางเปนคร้งั แรก ราขาวฟู เช้อื รานีเ้ สนใยมลี กั ษณะขาวจดั และฟู มกั พบบนหลงั กองเพาะ พบตั้งแตว นั แรก หรือวันท่ี 2 ของการเพาะเห็ด เม่ือราชนิดน้ีอายุมากข้ึนจะมีสีเทา เชื้อราน้ีเกิดเร็ว ถาเกิดแลวไปปก คลุมดอกเห็ดทําใหดอกเห็ดฝอ ดังนั้น ถาเกิดมีเช้ือราเหลานี้เกิดขึ้น ควรแยกออกจากกองเพาะและ เผาทําลายเสียเพื่อปอ งกนั การระบาดของโรค การปอ งกนั โรคเห็ดฟาง ต้ังแตเริ่มเพาะเห็ด จนถึงส้ินสุดการเก็บผลผลิตของเห็ดฟางมีเพียง 15-20 วันเทานั้น จึงเปน เหตุผลอันหนึ่งท่ีไมมีการใชยาเคมีเหมือนพืชผักชนิดอ่ืน ๆ ดังนั้นวิธีการสําคัญในการปองกัน โรคเห็ดฟาง คือวิธีการรักษาความสะอาดและการปฏิบัติดูแลรักษาอยางสม่ําเสมอและการเอาใจใส
การเพาะเห็ดฟาง / 58 อยางใกลชิด ขอแนะนําเล็กๆ นอยๆ เหลาน้ีอาจเปนประโยชนในการเพาะเห็ดฟางเพ่ือปองกันใหเกิด โรคนอ ยลง 1. เลือกหัวเชื้อจากแหลงท่ีเชอื้ ถอื ไดว า เปน พันธุด ใี หผ ลผลิตสงู มีการปนเปอ นนอ ยทสี่ ดุ หรือไมม ี 2. เลือกตอซังหรือฟางขาวนวดท่ีสะอาดปราศจากเช้ือราเมล็ดผักกาดฟางขาวตองมี ลกั ษณะแหง สนิทและอมน้ําไดง าย 3. เขาใจถึงสภาพความตองการตาง ๆ ในการเจริญเติบโตของเห็ดฟาง เพื่อจะได ปฏบิ ัติดูแลไดอยางถูกตอง เชน เร่ืองอุณหภูมิภายในหอง ขณะท่ีเสนใยเจริญเติบโตตองการอุณหภูมิ ระหวาง 34-36 องศาเซลเซียส ถาในหองอากาศรอนหรือเย็นเกินไปก็ควรระบายอากาศเพื่อใหเกิด การถายเทออกซิเจน หรือใหไอน้ําเพ่ือเพ่ิมอุณหภูมิ นอกจากนี้ยังมีเร่ืองความช้ืน แสงสวางและ ความสามารถในการกินอาหารของเห็ดฟางอีกดวย 4. ระมัดระวงั ในเรอื่ งความสะอาดของโรงเรอื นท้งั ภายในและนอกโรงเรอื น
การเพาะเหด็ ฟาง / 59 ใบงานที่ 8 การปองกนั และกําจดั ศัตรเู หด็ 1. ใหอธบิ าย การปอ งกันศตั รูเหด็ ฟาง 2. บอกวิธกี ารกาํ จดั ศัตรูเห็ด ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 2. ใหอ ธบิ ายขน้ั ตอนการการกาํ จัดศตั รูเห็ดเห็ดฟาง ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 3. หากอากาศรอนเกนิ ไปดอกเห็ดฟางจะมีลกั ษณะอยา งไร และมวี ธิ กี ารแกไขอยางไร
การเพาะเห็ดฟาง / 60 ใบความรทู ี่ 9 การดแู ลผลผลิต การดูแลพัฒนาของดอกเห็ดและการเก็บผลผลิต หลังจากเสนใยเห็ดไดรวมตัวกันเปนดอกเห็ดเล็ก ๆ แลว ดอกเห็ดดังกลาวน้ีจะพัฒนา เปนดอกเหด็ ทสี่ มบรู ณไ ดห รอื ไม หรอื จะชาจะเรว็ ก็ขึน้ อยูก บั ปจ จยั ดังน้ี 1. เช้ือเห็ด ถาเปนเช้ือเห็ดท่ีไดมาจากการตอเชื้อมามากชวงแลว ดอกเห็ดที่ไดจะมี ขนาดเล็ก โตเร็ว บานเร็ว และมีเกิดเปนจํานวนมาก นอกจากน้ีตัวเชื้อเห็ดน้ันเปนสายพันธุเบาก็จะ โตเร็วกวา พนั ธหุ นัก 2. การสะสมอาหารของเสนใยเห็ด ถาหากวัสดุเพาะมีอาหารเห็ดไมสมบูรณและ การสะสมอาหารของเสนใยเห็ดเพ่ือใชพัฒนาเปนดอกเห็ดไมพอเพียงแลว ถึงแมวาจะเกิดเปน ดอกเห็ดขนาดเลก็ ๆ ขึ้นแลวก็ตามกไ็ มสามารถพฒั นาเปน ดอกเห็ดทสี่ มบรู ณได 3. อากาศ ระยะการพัฒนาเปนดอกเห็ดท่ีสมบูรณนี้จะตองการอากาศสูงมาก จึงควร เปด ชองระบายอากาศ และประตูใหอากาศบริสุทธิ์เขาไปบาง ถาหากอากาศไมเพียงพอแลวจะทําให มีกาซคารบอนไดออกไซดเกิดขึ้นภายในหองมากเกินไป ทําใหเนื้อเยื่อภายนอกดอกเห็ดเจริญเติบโต เปนเสนใยอีกคร้ัง คือทําใหดอกเห็ดเปนปุยสีขาว หรือทําใหผิวดอกเห็ดมีลักษณะคลายหนังคางคก หรือถาหากดอกเห็ดน้ันยังเล็กอยูก็จะทําใหดอกเห็ดมีลักษณะผิดปกติไป เชน มีรอยบุมตรงกลาง ปลอกหมุ ดอกคลมุ ไมหมด หรอื ไมมีหมวกดอก เปนตน 4. อุณหภูมิ ที่เหมาะสมควรอยูระหวาง 28-32 องศาเซลเซียส ถาหากมีอุณหภูมิต่ํา เกินไปจะทาํ ใหด อกเจรญิ เตบิ โตชา แตด อกทีไ่ ดน นั้ จะมีขนาดโตและหนัก ตรงกนั ขา มถา หากอุณหภูมิ สูงจะทําใหดอกเห็ดโตเร็ว ปลอกหุมบางและบานงาย แตถาอุณหภูมิสูงมากเกินไปแลวก็อาจทําให ดอกเหด็ ไมเ จริญเตบิ โตได 5. แสง ระยะนี้ควรควบคุมแสงใหผานเขาไปเพียงเล็กนอย เพ่ือใหดอกเห็ดมีสีซีดลง และคอนขา งยาว ถาหากใหแสงผา นเขา ไปมากแลวจะทําใหสีของดอกเห็ดเปล่ียนเปนสีคล้ํามากและ ไมไ ดเปน ทีน่ ิยมของผบู รโิ ภค
การเพาะเหด็ ฟาง / 61 ถาหากสภาพแวดลอมเหมาะสมและมีการดูแลรักษาดีแลว หลังจากโรยเชื้อประมาณ 2-3 วัน เสนใยก็จะเจริญเติบโตเต็มชั้นเพาะ ประมาณวันที่ 3-4 เสนใยก็จะจับตัวกันเปนดอกเห็ด เล็กๆ และประมาณวันที่ 6-7 ก็จะเร่ิมเก็บดอกเห็ดได การเก็บดอกเห็ด ควรเก็บเม่ือดอกเห็ดฟาง โตเตม็ ทคี่ ือมลี กั ษณะเตงตึง ปลอกหุมขยายตวั เตม็ ทีใ่ นกรณีทด่ี อกเหด็ มีลกั ษณะเปนหัวอยกู ็ควรรอไว อีกวันหนึ่งหรือครึ่งวัน แตเมื่อเห็ดมีลักษณะหัวยืดขึ้นแบบหัวพุง ก็ตองเก็บทันทีมิฉะนั้นดอกเห็ดจะ บานออก ทําใหขายไมไดราคา วิธีการเก็บดอกเห็ดใหใชน้ิวหัวแมมือกดดอกเห็ดแลวหมุนเล็กนอย ยกข้นึ เบาๆ ดอกเหด็ ก็จะหลดุ ออกมา หลงั จากเกบ็ ดอกเหด็ มาแลว กใ็ หใชม ดี คมๆ ตัดโคนดอกทม่ี เี ศษ ขฝ้ี า ยติดมาออกเสีย จากน้ันก็นําไปเก็บไวในที่เย็นๆ (อาจเปนตูเย็นก็ได) เพราะถาเก็บไวในท่ีรอนอบ อาวแลว จะทําใหดอกเห็ดบานเร็วข้ึน ในการเพาะครั้งหน่ึงๆ ผลผลิตที่ไดควรอยูระหวาง 50-60 กิโลกรัมตอหอง จะเห็นไดวาการเพาะเห็ดฟางในโรงเรือนจะประสบผลสําเร็จหรือไมข้ึนอยูกับ การ สังเกต การเอาใจใส ความขยัน ความอดทน ของเกษตรกรเอง และกลาท่ีจะทดลองหาขอมูลใหมๆ มาปรับปรุงวิธีการของตนเองใหไดผลดีอยูเสมอ ประการท่ีสําคัญท่ีสุดคือ จะตองบันทึกขอมูลตางๆ เอาไวเพื่อนาํ ไปเปรยี บเทียบปรบั ปรงุ แกไ ขในการปฏบิ ัตกิ ารครง้ั ตอไป การทําความสะอาดโรงเรือนเพอ่ื เตรียมการเพาะครงั้ ตอ ไป หลังจากท่เี ก็บผลผลิตจนหมดแลว ก็ไดเอาข้ีฝายและฟางออกไปใชประโยชนอ่ืนๆ ตอไป เม่ือเอาข้ีฝายและฟางออกจากช้ันเพาะจนหมดแลว ก็ทําการลางช้ันเพาะและหอง อาจลางดวย ผงซักฟอกหรืออาจใชนํา้ ยาคลอรอกซหรือนํ้ายาฟอรมาลีนดวยก็ได แลวลางดวยน้ําจนสะอาด ปลอย ทิ้งไวใหแหงสนิทอยางนอย 2-3 วัน จึงทําการอบไอนํ้าที่อุณหภูมิ 60-70 องศาเซลเซียส ขึ้นไป นาน ประมาณ 1-2 ชว่ั โมง เพ่อื ฆา เช้ือราและศตั รทู ่ีอาจหลงเหลอื อยู จากน้ันจึงคอยเร่ิมดําเนินการเพาะตอไป แตถาหากปลอยโรงเรือนท้ิงไวนานวันเกินไป แลว เมื่อทําการเพาะก็ใหอบไอนํ้าเสียกอน ที่อุณหภูมิประมาณ 60-70 องศาเซลเซียสขึ้นไป นานประมาณ 1-2 ช่ัวโมง จงึ คอ ยใชทาํ การเพาะครั้งตอไป ลักษณะอาการผิดปกติภายในกองเพาะเหด็ และการเกิดดอกเหด็ 1. เพาะแลวเห็ดไมเจริญเลย เม่ือทําการเพาะเห็ดฟางแลวเสนใยเห็ดอาจไมเจริญเลย หากสภาพแวดลอมอ่ืนๆ เปนปกติ สาเหตุเกิดจากเช้ือเห็ดเสีย หมดอายุหรือไมแข็งแรง หาเช้ือเห็ด เปนกติดีโรงเรือนที่เพาะอาจมีเชื้อรารบกวนหรือมีสารเคมีบางอบางตกคางตามพ้ืนดินหรือติดมากับ
การเพาะเห็ดฟาง / 62 ฟางกอนแลว หรืออาจเกิดจากน้ําท่ีใชในการแชฟางและใชรดกองเห็ดมีสารท่ีมีฤทธิ์ยับย้ัง การเจรญิ เติบโตของเชือ้ เหด็ ปะปนอยู 2. เสนใยเห็ดเจริญเติบโตไดนอยมาก สาเหตุเกิดจากเชื้อเห็ดไมบริสุทธิ์ เปนเช้ือท่ีมี การตอเช้ือมาหลายครั้ง ทําใหเช้ือมีคุณภาพต่ํา ควรเลือกซื้อจากแหลงที่เชื่อถือได การเพาะ ซํ้าหลายๆ ครั้งจะทําใหมีการสะสมของโรคและแมลงท่ีลายเสนใยเห็ดฟาง ควรทําความสะอาด โรงเรือน โดยใชน้ําลางใหสะอาดแลวโรยปูนขาวฆาเชื้อตาม อีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากการที่อุณหภูมิ ภายในโรงเรือนต่ําเกินไป เนื่องจากอากาศหนาวเย็นหรือใชฟางขาวเกาท่ีฤดูฝนเปยกแฉะมากอน ทาํ ใหเ สนใยของเหด็ ฟางชะงักการเจรญิ เตบิ โต จึงควรใชฟางที่ไมเคยเปยกฝนทําการเพาะหาอากาศ หนาวควรใหไอนาํ้ เพอื่ เพ่ิมอณุ หภมู ิ 3. เสนใยเจริญแตไมออกดอก บางกรณีพบวา เสนใยเจริญอยางสมํ่าเสมอแตไมเกิด ดอกเห็ด สาเหตุเกิดจากวัสดุเพาะมีอาหารเห็ดไมเพียงพอ กองเพาะแนนและชื้นมากเกินไปทําให เสนใยไมสามารแทรกเขาไปได สวนมากมักเกิดกับตอซังถอน จึงตองใชอาหารเสริมใหเพียงพอ ทุกครั้ง อีกสามาเหตุหน่ึงเกิดจากช้ันเพาะเห็ดไมไดรับแสงหรืออุณหภูมิในโรงเรียนสูงเกินไป วิธีการ แกไ ขใหชั้นเห็ดไดรบั แสงสวา งในชวงวนั ท่ี 5-6 ถา อุณหภมู ิสงู มากเกินไปใหใ ชวธิ ีเปดระบายอากาศ การนาํ เอาวสั ดทุ ี่เหลือจากการเพาะเห็ดฟางมาใชประโยชน ข้ีฝาย เราสามารถนําเอาชี้ฝายที่ผานการเพาะเห็ดฟางมาแลวไปใชไดอีกครั้ง โดย นําเอาไปผสมอาหารเสริมและเล้ียงเช้ือราอีกสัก 1-2 วัน แลวจึงนําข้ึนช้ันอบไอน้ําฆาเชื้อโรค ตลอดจนดูแลรักษาเหมือนเดมิ ก็ไดผ ลผลิตอกี ครงั้ แตผ ลผลิตอาจลดลงไปบางเล็กนอ ย ฟาง สําหรับฟางท่ีเพาะเห็ดฟางแลวกอนอื่นเราควรนําไปใชเพาะเห็ดนางฟา นางรม เปา ฮอ้ื ในถงุ พลาสติกกอ น โดยนําฟางน้ันมาหมักกอนตามสูตรนี้ ฟางที่เพาะเห็ดแลว 100 กก.แหง ยูเรีย 0.5-1 กก. ปนู ขาว 1 กก. ยิบซม่ั 0.2 กก. (ถา มี) ดีเกลือ 0.2 กก. (ถา ม)ี รําละเอยี ด 5 กก.
การเพาะเห็ดฟาง / 63 วิธีการหมกั ฟางบรรจถุ งึ และทําถุงเชอื้ เห็ด 1. เอาฟางท่ีเพาะเห็ดแลวมาขยี้ใหแตกเปนเสนๆ ไมจับตัวเปนกอนหรือแผน แลวใส ยูเรีย 0.5-1 กก. โดยใหท่ัวแลวรวมกองเปนกองสามเหล่ียม เอาผาพลาสติกคลุมไว 2 วัน ถาฟาง แหง มากกใ็ หรดนาํ้ ชว งนีต้ องการความช้นื สูง 2. กลบั กองขยฟี้ างใหแ ตกเปนเสนๆ แผออก ชวงนี้จะไดกล่ินฉุนของยูเรียแลวโรยดวย ปูนขาว 1 กก. คลกุ ใหท ว่ั แลวต้ังกองสามเหลี่ยมตามเดิม หมกั ตอ อีก 2 วนั ระยะนยี้ ังมีกลิ่นฉุนยูเรีย อยู 3. กลับกองใสยิบซม่ั 0.2 กก. ชว งน้ีจะเริม่ เกิดราขาว ต้ังกองสามเหลยี่ มตามเดิมหมัก ตอ 2 วัน ระยะน้ีไมต องคลุมผาพลาสตกิ ตอ งการความชื้นประมาณ 6% กองไมส ูง 4. กลับกอง ราขาวจะเกิดมากขึ้น อุณหภูมิในกองสูงถึง 50-60 องศาเซลเซียส กล่ิน ยเู รียเรมิ่ จางลงจนเกือบหมด ใสดีเกลือ 0.2 กก. ละลายน้ํา รดนํ้า ½ ปบ คลุกใหเทากันหมักตอจน หมดกลิ่นยเู รีย 5. เม่ือหมดกลิ่นยูเรีย ฟางจะออนตัวลงผสมรําละเอียด 5 กก. คลุกใหท่ัวแลวนํามา บรรจถุ ุง 6. บรรจุใสถุงทนรอนขนาด 8x12 น้ิว น้ําหนักบรรจุ 8-10 ขีด ทุบใหแนนใสคอขวดจุก สาํ ลี 7. น่ึง 100 องศาเซลเซียส 2 ชั่วโมง หรือถึง 200 ลิตร ต้ังแตนํ้าเดือดจัดๆ จับเวลาไป 3 ชวั่ โมง 8. พกั ถงุ ใหเ ยน็ ตอ เช้ือเหด็ นางฟา -นางรม เปาฮอื้ ตามตองการ 9. บมถุงในที่อากาศถายเทสะดวก สะอาด อุณหภูมิหอง ถาเปนหลังคาจากจะดี ประมาณ 20-30 วนั เสนใยจะเดนิ เต็มถุง 10. นําไปรดน้ําในโรงเปดดอก โดยดึงสําลีออก วางในแนวนอนรดน้ําเชา กลางวัน เย็น อยารดน้ําเชาในถุงเดด็ ขาด รกั ษาความชนื้ ในโรงเรือนประมาณ 80 เปอรเ ซ็นต หลงั จากเพาะเหด็ และเกบ็ ผลผลติ กนั หมดแลว ฟางท่ีเหลือยงั สามารถใชป ระโยชนไดอีก ถามีบอปลาก็เอาฟางที่เพาะเห็ดแลวเลี้ยงปลาหรือผูที่ไมมีบอปลาอาจจะมาทําปุยหมักเลยก็ได โดย นําไปใสต นไม
การเพาะเห็ดฟาง / 64 ใบงานท่ี 9 การดแู ลผลผลิต 1. ใหอธิบายขั้นตอนการ วิธกี ารเก็บเหด็ ฟาง ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 2. อธบิ ายขน้ั ตอน การดูแลหลงั การเกบ็ ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................
การเพาะเห็ดฟาง / 65 ใบงานท่ี 10 ชองทางการจาํ หนา ยเหด็ ฟาง 1. ใหอธบิ ายและยกตวั อยา งชองทางการจาํ หนายเหด็ ฟาง ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 2. ใหอ ธบิ ายขนั้ ตอนการ วเิ คราะหก ารตลาดเหด็ ฟาง ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 3. ใหอธบิ ายขน้ั ตอนการกาํ หนดราคาขาย ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................
การเพาะเหด็ ฟาง / 66 ใบความรูท ี่ 10 ชอ งทางการจําหนา ยเหด็ ฟาง ในการเพาะเหด็ ฟางแตละคร้ังใชเวลาประมาณ 12-17 วนั (หรอื 20 วนั ถา ตอ งการเกบ็ ดอก เห็ดรุนท่ี 2) ผลผลติ ท่ีไดค วรอยูระหวา ง 80-100 กิโลกรมั /หอง เม่อื หักคา ใชจ ายในการเพาะแลวกจ็ ะ ไดก ําไรพอสมควร หมายเหตุ : 1 ป สามารถเพาะเห็ดได 15 รนุ ราคาดอกเหด็ ก็เฉลยี่ กิโลกรัมละ 30-35 บาท การแปรรปู เหด็ ฟาง วธิ กี ารทําเหด็ ฟางแหง 1. นําดอกเหด็ มาลวกในนาํ้ เดอื ด (จะสังเกตเหน็ ฟองออกทด่ี อกเหด็ ตมจนหมดฟอง) 2. นําข้ึนมาตากในตะแกรง ตากจนดอกเห็ดแหงสนทิ 3. นําดอกเห็ดทตี่ ากแหง แลว ใสในถุงพลาสตกิ เย็บปากถงุ ใหส นิท และเก็บไวใ น ทร่ี ม 4. เวลานาํ มารบั ประทานกน็ าํ ดอกเห็ดท่แี หง มาแชนาํ้ เยน็ ทง้ิ ไวสกั ครูดอกเห็ดกจ็ ะ บานออก นาํ ไปประกอบอาหารได วิธีการทาํ เหด็ ดอง 1. นาํ เหด็ มาลวกนํา้ ในนาํ เดอื ด (สังเกตเห็นฟองอากาศจากดอกเหด็ พอหมดฟองกน็ าํ เห็ดมาท้งิ ไวใ หเ ยน็ ) 2. ตม นาํ้ กับเกลอื โดยใชน ้ํา 970 กรัม เกลือ 30 กรัม ตม นาํ้ ใหเดือด ยกลง 3. นาํ เหด็ ทต่ี ม แลว ใสในขวดโหลท่ีสะอาด ใสป ระมาณ 3/4 ของขวด แลว เตมิ นา้ํ เกลอื ลง ไปใหท วมดอกเหด็ หรือแคคอขวด ปด ฝาขวดไมต อ งใหแนน 4. นาํ ขวดดอกเหด็ มาใสใ นหมอ น่ึงความดนั นึ่งทค่ี วามดนั 5 ปอนด เพ่อื ฆา เช้ือโรคนาน 25 นาที 5. นําขวดออกจากหมอนึ่ง ทงิ้ ไวใหเยน็ แลว ปด ฝาใหแ นน
การเพาะเห็ดฟาง / 67 ใบงานที่ 11 การทําบัญชีรับ-จา ย 1. ใหอธบิ ายขัน้ ตอนการ ทําบญั ชีทรพั ยส นิ ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 2. ใหอธบิ ายขั้นตอนการ ทาํ บญั ชีรายรับ-รายจา ย ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 3. ใหอ ธบิ ายแนวทางการลดตน ทุนการผลิต ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................
การเพาะเห็ดฟาง / 68 ใบความรทู ี่ 12 การอนรุ ักษทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ ม การอนรุ กั ษท รพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ ม การอนรุ ักษทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ ม หมายถงึ การใชทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ สิ่งแวดลอมอยางฉลาด โดยใชใหนอย เพื่อใหเกิดประโยชนสูงสุด โดยคํานึงถึงระยะเวลาในการใชให ยาวนาน และกอใหเกิดผลเสียหายตอส่ิงแวดลอมนอยที่สุด รวมท้ังตองมีการกระจายการใช ทรัพยากรธรรมชาตอิ ยา งท่วั ถึง อยางไรก็ตาม ในสภาพปจจุบันทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอมมี ความเส่ือมโทรมมากขึ้น ดังนั้นการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมจึงมีความหมายรวม ไปถึงการพัฒนาคณุ ภาพสิ่งแวดลอมดว ย การอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมสามารถกระทําไดหลายวิธี ท้ังทางตรง และทางออ ม ดังน้ี 1. การอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมโดยทางตรง ซ่ึงปฏิบัติไดในระดับ บคุ คล องคก ร และระดบั ประเทศ ทสี่ ําคญั คอื 1.1 การใชอยางประหยัด คือ การใชเทาที่มีความจําเปน เพื่อใหมีทรัพยากรไวใช ไดน านและเกดิ ประโยชนอยา งคมุ คามากทส่ี ุด 1.2 การนํากลับมาใชซํ้าอีก สิ่งของบางอยางเม่ือมีการใชแลวคร้ังหน่ึงสามารถท่ีจะ นํามาใชซํ้าไดอีก เชน ถุงพลาสติก กระดาษ เปนตนหรือสามารถที่จะนํามาใชไดใหมโดยผาน กระบวนการตางๆ เชน การนํากระดาษท่ีใชแลวไปผานกระบวนการตางๆ เพ่ือทําเปนกระดาษแข็ง เปน ตน ซ่ึงเปน การลดปริมาณการใชท รพั ยากรและการทําลายสิ่งแวดลอ มได 1.3 การบูรณซอมแซม ส่ิงของบางอยางเม่ือใชเปนเวลานานอาจเกิดการชํารุดได เพราะฉะนน้ั ถา มกี ารบูรณะซอมแซม ทาํ ใหสามารถยืดอายกุ ารใชงานตอไปไดอ ีก 1.4 การบําบัดและการฟนฟู เปนวิธีการที่จะชวยลดความเสื่อมโทรมของทรัพยากร ดวยการบําบัดกอน เชน การบําบัดนํ้าเสียจากบานเรือนหรือโรงงานอุตสาหกรรม เปนตน กอนที่จะ ปลอยลงสูแหลง นํา้ สาธารณะ สวนการฟนฟเู ปน การร้อื ฟน ธรรมชาตใิ หกลับสูส ภาพเดมิ เชน การปลกู ปา ชายเลน เพือ่ ฟนฟคู วามสมดลุ ของปา ชายเลนใหก ลบั มาอุดมสมบูรณ เปน ตน
การเพาะเห็ดฟาง / 69 1.5 การใชสิ่งอ่ืนทดแทน เปนวิธีการท่ีจะชวยใหมีการใชทรัพยากรธรรมชาตินอยลง และไมทําลายส่ิงแวดลอม เชน การใชถุงผาแทนถุงพลาสติก การใชใบตองแทนโฟม การใชพลังงาน แสงแดดแทนแรเช้ือเพลิง การใชป ุยชีวภาพแทนปุย เคมี เปน ตน 1.6 การเฝาระวังดูแลและปองกัน เปนวิธีการท่ีจะไมใหทรัพยากรธรรมชาติและ ส่งิ แวดลอมถกู ทําลาย เชน การเฝา ระวงั การท้ิงขยะ ส่ิงปฏิกูลลงแมน้ํา คูคลอง การจัดทําแนวปองกัน ไฟปา เปน ตน 2. การอนุรกั ษท รพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอมโดยทางออ ม สามารถทําไดหลายวิธี ดงั น้ี 2.1 การพัฒนาคุณภาพประชาชน โดนสนับสนุนการศึกษาดานการอนุรักษ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ มทถี่ กู ตอ งตามหลกั วชิ า ซึ่งสามารถทําไดทุกระดับอายุ ท้ังในระบบ โรงเรียนและสถาบันการศึกษาตางๆ และนอกระบบโรงเรียนผานสื่อสารมวลชนตางๆ เพื่อให ประชาชนเกิดความตระหนักถึงความสําคัญและความจําเปนในการอนุรักษ เกิดความรักความหวง แหน และใหความรวมมอื อยา งจริงจัง 2.2 การใชมาตรการทางสังคมและกฎหมาย การจัดต้ังกลุม ชุมชน ชมรม สมาคม เพื่อการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอมตางๆ ตลอดจนการใหความรวมมือท้ังทางดาน พลังกาย พลังใจ พลังความคิด ดวยจิตสํานึกในความมีคุณคาของส่ิงแวดลอมและทรัพยากรท่ีมีตอ ตัวเรา เชน กลุมชมรมอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมของนักเรียน นักศึกษา ในโรงเรียน และสถาบันการศึกษาตางๆ มูลนิธิคุมครองสัตวปาและพรรณพืชแหงประเทศไทย มูลนิธิสืบ นาคะ เสถียร มลู นิธิโลกสเี ขยี ว เปน ตน 2.3 สง เสริมใหประชาชนในทอ งถ่ินไดมีสวนรวมในการอนุรักษ ชวยกันดูแลรักษาให คงสภาพเดิม ไมใหเกิดความเสื่อมโทรม เพื่อประโยชนในการดํารงชีวิตในทองถ่ินของตน การประสานงานเพื่อสรางความรูความเขาใจ และความตระหนักระหวางหนวยงานของรัฐ องคกร ปกครองสวนทองถิ่นกับประชาชน ใหมีบทบาทหนาท่ีในการปกปอง คุมครอง ฟนฟูการใชทรัพยากร อยางคุมคา และเกิดประโยชนส ูงสุด 2.4 สงเสริมการศึกษาวิจัย คนหาวิธีการและพัฒนาเทคโนโลยีมาใชในการจัดการ กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมใหเกิดประโยชนสูงสุด เชน การใชความรูทางเทคโนโลยี สารสนเทศมาจัดการวางแผนพฒั นา การพัฒนาอปุ กรณเครอ่ื งมือเครื่องใชใหมีการประหยัดพลังงาน มากข้ึน การคนควาวิจัยวิธีการจัดการ การปรับปรุง พัฒนาส่ิงแวดลอมใหมีประสิทธิภาพและย่ังยืน เปนตน
การเพาะเห็ดฟาง / 70 2.5 การกําหนดนโยบายและวางแนวทางของรัฐบาล ในการอนุรักษและพัฒนา สิ่งแวดลอมทั้งในระยะสันและระยะยาว เพ่ือเปนหลักการใหหนวยงานและเจาหนาท่ีของรัฐท่ี เก่ยี วขอ งยึดถือและนําไปปฏิบัติ รวมท้ังการเผยแพรขาวสารดานการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ ม ทง้ั ทางตรงและทางออ ม
การเพาะเหด็ ฟาง / 71 ใบงานที่ 12 การอนรุ ักษทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ ม 1. จงใหค วามหมายของคาํ วา ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมทด่ี ี ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 2. จงใหค วามหมายของคําวา ทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอมท่ีไมดี ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 3. ใหอธิบายวธิ กี ารอนรุ กั ษท รพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอม ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................
การเพาะเห็ดฟาง / 72 ใบความรูที่ 13 คุณธรรมในการประกอบอาชพี คณุ ธรรมในการประกอบอาชพี คนทท่ี ําดจี ะไดผ ลดตี อบสนอง คนเราเกิดมาชาตหิ นงึ่ ควรแสวงหาความสุขใหก บั ตนเอง และความสุขนน้ั จะตอ งไมท าํ ใหค นอน่ื เปน ทกุ ขห รือเดือดรอน การดาํ รงชีวติ อยใู นสงั คมอยางเปนสขุ ควรยดึ หลกั เอาใจเขามาใสใจเรา และควรยดึ หลักคุณธรรม ในการประกอบอาชพี ดงั นี้ 1. ซ่อื สตั ยส ุจรติ 2. ขยันหม่นั เพียร 3. มคี วามรับผดิ ชอบ 4. มคี วามละเอียดรอบคอบ 5. ตัดสนิ ใจอยา งฉลาดและมีเหตุผล 6. ตรงตอ เวลา 7. เห็นแกประโยชนส ว นรวม 8. รูจกั แกป ญ หาตา งๆ ได
การเพาะเหด็ ฟาง / 73 ใบงานที่ 13 คุณธรรมในการประกอบอาชพี ใหผ ูเรยี นศกึ ษาคน ควา ความหมายของคาํ วา คณุ ธรรมในการประกอบอาชพี ดังตอ ไปนี้ 1. ความรบั ผดิ ชอบ ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 2. ความซอื่ สัตยส ุจริต ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 3. ความขยนั อดทน ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................
การเพาะเห็ดฟาง / 74 ใบความรทู ่ี 14 ปญ หาอุปสรรคในการเพาะเห็ดฟางในโรงเรอื น ปญหาอุปสรรคของการเพาะเหด็ ฟางในโรงเรอื น 1. หมักวัสดุเพาะแลวอุณหภูมิในกองปุยไมสูงเทาที่ควร มักพบเสมอถาวัสดุเพาะเกา หรือมีการเก็บรักษาไมดีทําใหอาหารเหลือนอย จึงทําใหเกิดกิจกรรมการหมักของจุลินทรียนอย มีผลทําใหอุณหภูมิในกองปุยไมสูงเทาที่ควร เกษตรกรจึงควรเลือกวัสดุเพาะใหมๆ มีธาตุอาหาร สาํ หรบั จุลินทรยี ม าก 2. อบไอน้ําในโรงเรือนไมไดระดับอุณหภูมิที่ตองการ อาจเน่ืองมาจากอุปกรณกําเนิด ไอน้ําไมสามารถใหไ อนา้ํ ไดเพยี งพอกับทีต่ องการ คือ 60-72 องศาเซลเซียส นานตอ เน่ือง 2 ชม. 3. โรยเชื้อแลวเสนใยไมเดินหรือเดินไมดีเทาที่ควร เนื่องจากเช้ือเห็ดฟางคุณภาพไมดี เกษตรกรจึงควรเลอื กซอ้ื จากแหลง ท่ีเช่ือถอื ได และอายขุ องเชอื้ พอเหมาะไมแ กจนเกนิ ไป 4. หลังจากตัดเสนใยแลว 2-3 วันเสนใยไมรวมตัวกันเปนดอก อาจมีสาเหตุมาจาก หอ งปด มดื ไมไ ดรับแสงเพ่ือกระตุนการสรางดอก ถาตําแหนงโรงเรือนทําใหไดรับแสงไมพออาจติดต้ัง หลอดไฟฟา เพม่ิ ให 5. การเกิดราเขียวข้ึนบนช้ันเพาะ มักมีสาเหตุมาจากการอบไอนํ้าอุณหภูมิไมสูงถึง 60 -72 องศาเซลเซียส และนานอยางนอย 2 ชม. ทาํ ใหเ กดิ ราเขียวเขา รบกวน 6. การเกิดเห็ดถ่ัวหรือเห็ดขายาวข้ึนบนช้ันเพาะ มักเกิดกับปุยหมักที่มีแอมโมเนียหรือ ใสย เู รยี มากเกินไป หรอื ควรหลกี เลีย่ งการใชยูเรยี โดยการใชส ตู ร 15 – 15 – 15 แทน 7. การเกดิ รารอ นเปนวงสขี าวขึน้ บนชัน้ เพาะ มักมีสาเหตุมาจากการอบไอน้ําไมไดตาม กําหนด และอีกสาเหตุหนึ่งคือเช้ือเห็ดฟางไมแข็งแรง ทําใหรารอนเจริญขึ้นคลุมวัสดุเพาะ ซึ่งอาจ แกปญหาโดยการโรยปูนขาว บริเวณทีม่ ีรารอ นในระยะเรม่ิ แรก 8. ดอกเห็ดท่ีมีขนาดเล็กและบานเร็ว ผลผลิตนอยมีสาเหตุ คือ สาเหตุแรกคือเชื้อ เห็ดฟางไมแข็งแรง เนื่องจากการตอเชื้อหลายครั้ง อีกประการหนึ่งคือวัสดุเพาะมีอาหารอยูนอยหรือ วัสดเุ กา เก็บรักษาไมดี 9. ดอกเหด็ มีลักษณะคลา ยหนังคางคก เนื่องจากอากาศรอนเกินไป ควรมีการเปดชอง ระบายอากาศ และรดนํา้ บรเิ วณพ้ืนและผนังโรงเรอื นรักษาอณุ หภมู ใิ หอ ยทู ่ี 28 – 32 องศาเซลเซยี ส 10. ไรศัตรเู หด็ เขา ทาํ ลาย มกั เกิดจาดเชื้อเหด็ ฟางไมบ ริสุทธ์ิ มไี รหรอื ไขไ รปะปนมา
การเพาะเห็ดฟาง / 75 ใชวิธีการที่หลากหลายตามสภาพความเปนจริงใหสอดคลองกับเนื้อหาและทักษะ ที่ตองการวัดและประเมินผล เชน เชน การทําใบงาน การทดสอบความรู การมีสวนรวมในการทํา กิจกรรมการเรยี นรขู องผูเ รยี น และการนําเสนอผลงาน การสงั เกต การปฏบิ ตั ิจริง เปนตน
การเพาะเห็ดฟาง / 76 ใบงานที่ 14 ปญ หาอปุ สรรคในการเพาะเห็ดฟางในโรงเรือน 1. จงบอกปญหาปญหาดานกระบวนการผลติ ของการเพาะเห็ดฟางในโรงเรือน ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 2. จงบอกปญหาดา นการตลาดของการเพาะเห็ดฟางในโรงเรือน ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... . ......................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................
การเพาะเหด็ ฟาง / 77 คณะผจู ดั ทํา ทปี่ รกึ ษา นายประเสริฐ หอมดี ผอู ํานวยการสถาบนั กศน.ภาคเหนือ นางนาถยา ผวิ ม่นั กิจ รองผูอํานวยการสถาบัน กศน.ภาคเหนอื นางสาวสุดใจ บตุ รอากาศ ครเู ช่ยี วชาญ สถาบนั กศน.ภาคเหนอื นางสาวพมิ พาพร อินทจักร ครเู ชี่ยวชาญ สถาบัน กศน.ภาคเหนอื นางดวงทิพย แกวประเสรฐิ ครูชาํ นาญการพเิ ศษ สถาบนั กศน.ภาคเหนอื คณะทาํ งาน ผอู ํานวยการ ศนู ย กศน. อําเภอสนั ทราย จ.เชยี งใหม นางอุบล ทัศนโกวิท ผอู ํานวยการ ศูนย กศน. อําเภอเทิง จ.เชยี งราย นายเจรญิ ศักด์ิ ดแี สน ผูอํานวยการ ศนู ย กศน. อําเภอเมือง จ.เชียงราย นางอรุณประเสริฐ ศรวี ชิ ยั มูล ผูอ าํ นวยการ ศูนย กศน. อําเภอวชิรบารมี จ.พิจติ ร นางเบญจมาศ สระทองหยอ ม ครชู าํ นาญการพเิ ศษ ศูนย กศน. อําเภอสนั ทราย จ.เชียงใหม นางดารณี คงมนั่ ครอู าสาฯ ศูนย กศน. อําเภอสนั ทราย จ.เชียงใหม นางสาวสวุ ชิ า อนิ หนองฉาง ครูอาสาฯ ศูนย กศน. อําเภอเทงิ จ.เชียงราย นางทับทิม พุทธตาล ครู ศรช. ศูนย กศน. อําเภอเทิง จ.เชยี งราย นางสายสุนยี โกฏฐา ครชู าํ นาญการ ศนู ย กศน. อําเภอเมือง จ.เชียงราย นายธัญญา ศรเี อม ครู ศรช. ศูนย กศน. อาํ เภอเมอื ง จ.เชยี งราย นายบุญชุม ดวงมา ครู ศรช. ศนู ย กศน. อําเภอเมือง จ.เชียงราย นางศภุ านัน อนิ แกน ครู ศรช. ศูนย กศน. อาํ เภอเมอื ง จ.เชียงราย นางสาววาสนา แกว บุญยนื ครู ศรช. ศูนย กศน. อําเภอเมือง จ.เชียงราย นางสาวอนสุ รา มหาคํา ครู ศรช. ศนู ย กศน. อาํ เภอวชิรบารมี จ.พิจิตร นางหทัยรตั น ขนุ งามขาํ ครู ศรช. ศูนย กศน. อําเภอวชิรบารมี จ.พิจิตร นายธนัญชัย วิเชยี รสรรค ครูผชู ว ย ศูนย กศน. อําเภอดงเจริญ จ.พจิ ิตร นางจันทนี อนิ นันชัย ครู ศรช. ศูนย กศน. อาํ เภอวชริ บารมี จ.พิจิตร นายอทุ ัย นนทอง ครชู าํ นาญการพเิ ศษ สถาบนั กศน.ภาคเหนือ นางกานดา ธิวงศ ครูชํานาญการพิเศษ สถาบัน กศน.ภาคเหนอื นางณิชากร เมตาภรณ ครูชาํ นาญการ สถาบนั กศน.ภาคเหนอื นางอุบลรตั น มีโชค ครชู ํานาญการ สถาบนั กศน.ภาคเหนอื นางกรรณิการ ยศต้ือ
การเพาะเหด็ ฟาง / 78 บรรณาธกิ าร ครูเช่ียวชาญ สถาบัน กศน.ภาคเหนือ นางสาวพิมพาพร อินทจักร ครชู าํ นาญการพเิ ศษ สถาบัน กศน.ภาคเหนอื นางดวงทิพย แกวประเสริฐ ครูชาํ นาญการพเิ ศษ สถาบัน กศน.ภาคเหนอื นางดษุ ณยี เหลย่ี มพันธุ ครูชาํ นาญการพิเศษ สถาบนั กศน.ภาคเหนอื นางกานดา ธิวงศ ครชู าํ นาญการพเิ ศษ สถาบนั กศน.ภาคเหนอื นายนพิ นธ ณ จันตา ครูชาํ นาญการพิเศษ สถาบนั กศน.ภาคเหนอื นางนงนุช ถาวรวงศ ครูชาํ นาญการพเิ ศษ สถาบนั กศน.ภาคเหนือ นางณิชากร เมตาภรณ ครชู าํ นาญการพเิ ศษ สถาบัน กศน.ภาคเหนือ นายพรี ะชัย มาลินกี ลุ ผูพ ิมพ/จดั หนา /รปู เลม นางมุกดา ภตู าสบื
Search