Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ilovepdf_merged_3

ilovepdf_merged_3

Published by sity193, 2020-04-29 03:26:27

Description: ilovepdf_merged_3

Search

Read the Text Version

บนั ทกึ องคค์ วามรูร้ ายบุคคล เรือ่ ง การสร้างเครอื ข่ายเพอ่ื การพฒั นาทย่ี งั ยนื ดว้ ยหลกั 5 มี 4 เอา เจ้าขององค์ความรู้ นายนคเรศ หลกิ แก้ว ตาแหน่ง นกั วชิ าการพฒั นาชมุ ชนชานาญการ สงั กดั สานกั งานพฒั นาชมุ ชนอาเภอรือเสาะ โทร. 073-571503

แบบบนั ทกึ องคค์ วามรู้รายบคุ คล 1. ชอ่ื องค์ความรู้ การสรา้ งเครือข่ายเพือ่ การพัฒนาทย่ี ่ังยืน ด้วย หลกั 5 มี 4 เอา 2. ชื่อเจ้าของความรู้ นายนคเรศ หลิกแกว้ นักวชิ าการพฒั นาชมุ ชนชานาญการ 3. องค์ความรูท้ ีบ่ ่งชี้  หมวดท่ี 1 สร้างสรรค์ชุมชนพึง่ ตนเองได้  หมวดท่ี 2 สง่ เสริมเศรษฐกจิ ฐานรากให้ขยายตวั อย่างสมดุล  หมวดที่ 3 เสริมสรา้ งทนุ ชมุ ชนให้มีธรรมาภิบาล  หมวดที่ 4 เสริมสรา้ งองคก์ รใหม้ ีขดี สมรรถนะสูง 4. ที่มาและความสาคัญในการจัดทาองค์ความรู้ รัฐบาลได้กาหนดกรอบยุทธศาตร์ชาติ 20 ปี ม่ันคง ม่ังคั่ง ย่ังยืน สู่ประเทศไทย 4.0 ระบบ ราชการตอ้ งมกี ารปรับเปลย่ี นเปน็ ยดึ หลักธรรมมาภิบาล เพื่อประโยชน์สขุ ของประชาชน ประกอบด้วยภาครัฐ ทเ่ี ปดิ กวา้ งและเช่ือมโยงกนั โดยยดึ หลักประชาชนเปน็ ศนู ย์กลาง ตอบสนองความต้องการ และใหบ้ รกิ ารอย่าง สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส หนว่ ยงานของรฐั ต้องร่วมมือและช่วยเหลือกันในการปฏิบัติหน้าท่ี มรี ะบบ การบริหาร จัดการทที่ ันสมัย เพอื่ ใหก้ ารบรหิ ารราชการแผน่ ดินทง้ั สว่ นกลาง ส่วนภูมภิ าค สว่ นทอ้ งถ่นิ เป็นไปตามหลกั การ บริหารกจิ การบ้านเมอื งท่ีดี เกิดประโยชน์สขุ แก่ประชาชน พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มีเจตนารมสาคัญที่จะเปล่ียนแปลง มุมมองต่อระบบบริหารราชการจากเดิมที่เน้นพัฒนาข้าราชการให้มีความเช่ียวชาญเฉพาะด้าน มาเป็นให้ ขา้ ราชการมีความรรู้ อบ รลู้ กึ และเปน็ แรงผลกั ดนั ต่อความสาเร็จขององคก์ าร รวมทงั้ ใหข้ า้ ราชการปรับเปลี่ยน บทบาท วิธคี ดิ วิธีปฏบิ ตั งิ านโดยมงุ่ เน้นท่ปี ระชาชน และผลสัมฤทธ์ิ กรมการพฒั นาชมุ ชนมุ่งหวงั ที่จะสรา้ งบุคลากรใหม้ คี ุณภาพ เปน็ องค์กรทมี่ ขี ีดสมรรถนะสงู ใน การบรหิ ารงานพัฒนาชมุ ชน เพ่อื ขับเคล่ือนภารกจิ ของกรมการพัฒนาชุมชนตามแผนยุทธศาตรช์ าติ 20 ปี โดย มีเป้าหมายสงู สดุ ภายใต้ วิสยั ทศั น์ “เศรษฐกจิ ฐานรากมัน่ คงและชมุ ชนพ่ึงตนเองได้ ภายในปี 2565” งานพัฒนาชุมชนต้องครอบคลุมในทุกเร่ืองท่ีจะช่วยในการพัฒนาคนได้ ทาอย่างไรให้คนใน ชุมชนมีความมั่นคงในการดารงชีวิตได้อย่างยั่งยืนน้ัน การทางานเป็น “ทีม” เป็นสิ่งที่สาคัญที่สุด พัฒนาการ จังหวัด พัฒนาการอาเภอ พัฒนากร รวมไปถึงพี่ๆนอ้ งๆภาคประชาสังคมที่เป็นเครือข่ายการพฒั นาต้องร่วมมือ กันคน้ หาขอ้ มูลความเป็นอยู่ ปัญหา ตลอดจนความต้องการของคนในชุมชนเพอ่ื จะไดน้ าข้อมูลเหล่าน้ันมาเป็น ฐานในการวางแผนดแู ลชว่ ยเหลอื และความรว่ มมือกนั จากทกุ ภาคส่วน ทั้งภาคประชาชน ภาครฐั ภาคประชา สงั คม และภาคเอกชน จะสรา้ งให้เกิดการพัฒนาคน พัฒนาชุมชนให้ม่ันคงและยั่งยนื ได้ บรรลตุ ามเป้าประสงค์ ที่สอดคล้องตรงกันว่า “พัฒนาคนให้เข้มแข็ง และสามารถพึ่งพาตนเองได้” ภารกิจหน้าท่ีของข้าราชการ คือ ทางานเพื่อชาวบา้ น ฉะนัน้ อะไรทท่ี าดว้ ยกนั ได้ ชว่ ยกนั ทาได้ ซึ่งเรียกคาน้ีวา่ “ทีม” ทมี ในการพฒั นาชุมชนไม่ได้ หมายความแต่ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชน แต่หมายรวมถึงข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ตลอดจน ภาคประชาสงั คมซึง่ เป็นเครือขา่ ยในการพฒั นาชุมชน /5. รปู แบบ กระบวนการ..

-2- 5. รปู แบบ กระบวนการ หรอื ลาดับขัน้ ตอน ภายใต้สถานการณด์ งั กล่าว พฒั นากร ซง่ึ เปน็ ข้าราชการทต่ี อ้ งปฏิบัตงิ านรว่ มกับประชาชนอยู่ ในหมู่บ้าน/ตาบล จาเป็นจะต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ เพ่ือไปสู่การเป็นบุคลากรท่ีมีประสิทธิภาพ และ เสรมิ สรา้ งองคก์ รให้มขี ีดสมรรถนะสงู การทางานแบบ (One Man Show) หรอื การทางานแบบตวั คนเดยี ว จึง ไมป่ ระสบผลสาเร็จเท่าท่ีควร การสร้างทีมงาน (Team Work) จึงเปน็ สิ่งจาเป็นและสาคัญเปน็ อนั ดับแรก ซง่ึ ถ้า ทีมมีคุณภาพ ก็จะทาให้การดาเนินงานมีประสิทธิภาพเกิดผลสัมฤทธ์ิตามเป้าหมาย เกิดประโยชน์สุขต่อ ประชาชน ในการท่ีจะสร้างทีมงาน (Team Work) ท่ีมีประสิทธิภาพนน้ั จาเป็นท่ีจะต้องมอี งค์ประกอบในการ ถอื ปฏิบตั ติ ามหลกั 5 มี. 4 เอา. ดังตอ่ ไปนี้ 6. เทคนคิ ในการปฏบิ ตั ิงาน 6.1 หลัก 5 มี. ม.ี ท่ี 1 มคี วามคดิ สร้างสรรค์ พฒั นา คอื สรา้ งสรรค์ การมคี วามคิดที่สรา้ งสรรค์เป็นอกี อย่าง ท่ีทาใหก้ ารทางานรว่ มกันเกิดความท้าทายอยากลองทางานเพ่ือใหเ้ ห็นผลสาเรจ็ อกี ทั้งยงั เป็นแรงกระต้นุ ให้ทีม หรือหรือเพ่ือนร่วมงานเกิดความคิดท่ีแตกต่างออกไปจากเดิม การจะมีความคิดสร้างสรรค์ในเรื่องใดๆ ได้นั้น จาเปน็ ทีจ่ ะต้องมีความเข้าใจในงานท่จี ะทาเป็นอย่างดี และเข้าใจสถานการณ์ตา่ งๆท่ีเกดิ ข้นึ ในปจั จุบนั ด้วย มี. ท่ี 2 มีความรู้ ความเข้าใจ ในงานมี่จะทาอย่างทะลุปรุโปร่ง การจะทางานให้ประสบ ผลสาเร็จได้น้ัน จะต้องมีความรู้และความเข้าใจ ในงานที่จะทา อย่างทะลุปรุโปร่ง เข้าใจถึงแนวทางและ นโยบาย ท่รี ฐั บาลต้องการให้เกิดข้ึน และตอ้ งเขา้ ใจถงึ ความต้องการทแี่ ท้จรงิ ของประชาชน จึงสามารมองเห็น และเข้าใจขั้นตอนในการทางานพัฒนาชุมชนได้ อีกประการหนึง่ การท่ีเรามีความเข้าในในงานที่จะทานัน้ เป็น อย่างดี ก็ทาให้สามารถช่วยอธิบายการดาเนินงานให้เพื่อร่วมงานหรือสมาชิกในทีมให้เข้าใจตรงกัน รู้ เหมอื นๆกันได้ ม.ี ท่ี 3 มีอธั ยาศยั ท่ีดี การทางานเปน็ ทมี หมายถึงจะต้องทางานร่วมกันหลายคน การทางาน ในรูปแบบดังกล่าว ความสัมพันธ์ที่ดี คือส่ิงจาเป็น และความสัมพันธ์ที่ดีต้องเกิดจากสื่อสารท่ีดี อัธยาศัยเป็น ส่วนหน่ึงของการสื่อสาร การมีอัธยาศัยที่ดี จะนาพาซ่ึงความรู้สึกดีของผู้พบเห็นหรือผู้ร่วมสนทนาด้วย ซ่ึงจะ ช่วยให้การทางานเป็นทมี สามารถเปน็ “Team Work” ได้ ม.ี ท่ี 4 มเี หตุมผี ล ความมเี หตมุ ผี ลกเ็ ปน็ อย่างหน่ึง ทท่ี าให้ทมี หรอื เพือ่ นร่วมงานยอมรบั และ เคารพในความคดิ เหน็ ของเรา พฒั นากรจะตอ้ งนาเสนอขอมูลและเรอื่ งราวต่างๆ อยา่ งมเี หตมุ ผี ล เพื่อใช้ในการ นาเสนอความคิดเหน็ หรอื ตดั สินใจในเรอื่ งตา่ งๆ และความมีเหตมุ ีผลทถ่ี ูกต้องนั้นจะต้องมาจากเรื่องราวท่ีเป็น ความจรงิ ในปัจจุบัน ม.ี ท่ี 5 มีส่วนรว่ ม การมีสว่ นร่วมในการดาเนนิ งานนัน้ ถึงแม้งานน้นั อาจจะไมใ่ ชภ่ ารกิจหรือ บทบาทหน้าที่หลักของเราโดยตรง แต่การท่ีเราเอาตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมต่างๆอย่างน้อยท่ีสุดคือการร่วมคิด เท่านี้ก็ทาให้เราไดเ้ ป็นสว่ นหนึ่งของงานนั้นๆ ทมี ของเราก็จะเห็นซึ่งความตง้ั ใจท่ตี วั เรา /พยายามชว่ ย…

-3- พยายามชว่ ยเหลือในงานนนั้ ๆ กจ็ ะทาให้เกิดการเป็นสว่ นหนงึ่ ของกนั และกนั ไดน้ ามาซง่ึ ความชว่ ยเหลือเก้ือกูล กนั ในครง้ั ตอ่ ๆไป 6.2 หลกั 4 เอา. เอา ท่ี 1 เอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เป้าหมายสูงสุดในการดาเนินงานคือ ประโยชน์ของประชาชน ในการตัดสินใจในการดาเนนิ งานตามโครงการต่างๆ สิ่งท่ีต้องคานึงถึงเป็นอันดับแรก คือ ประชาชนต้องเป็นผู้รับประโยชน์สูงสุด หากทุกส่วนราชการหรือเพ่ือนร่วมงานทุกคนต่างยึดเอา ผลประโยชนข์ องประชาชนเป็นท่ีต้งั แลว้ การปฏิบัติงานยอ่ มประสบสมผลสัมฤทธต์ิ ามเปา้ หมายที่ตงั้ ไว้ เอา ท่ี 2 เอาใจเขามาใส่ใจเรา ส่ิงสาคัญท่ีสุดอีกอย่างหนึ่งในการทางานร่วมกัน คือความ เข้าใจซ่ึงกันและกัน มีจิตสานึกรู้วา่ สิ่งใดควรปฏบิ ัติแก่เพ่อื นร่วมงานสิ่งใดไม่ควรปฏิบตั ิแก่เพ่ือนรว่ มงาน ไม่เอา เปรียบเพื่อนรว่ มงานดว้ ยกัน การเอาใจเขามาใส่ใจเราจึงเป็นวิธหี นง่ึ ในการทางานรว่ มกันให้ประสบผลสาเร็จได้ เป็นอย่างดี เอา ท่ี 3 เอาไงเอากัน หลังจากท่ีมีข้อสรุปหรือเป้าหมายในการดาเนินงาน ท่ีมาจากการ ยอมรับ และเหน็ ด้วยของเพื่อรว่ มงานทุกคน จึงลงมือปฏบิ ตั ิงานตามหน้าท่ีหรอื ภารกิจท่ตี นได้รับมอบหมายให้ เต็มที่ และเต็มกาลังความสามารถของตนเองตามกระบวนการ ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมดาเนินการ ร่วมรับ ผลประโยชน์ และรว่ มรับผดิ ชอบ เอา ที่ 4 เอาใจไปเลย การทางานร่วมกันนั้นต้องรู้จักการให้รางวัลแก่เพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะคนท่ีทางานได้อย่างดีเย่ียมและมีประสิทธิภาพ การให้รางวัลไม่จาเป็นต้องให้ส่ิงของมีค่า แค่การ ยอมรับและคาชื่นชมออกจากความจรงิ ใจถอื เปน็ รางวัลและเป็นกาลงั ใจให้แก่เพื่อนร่วมงานไดเ้ ปน็ อย่างดี 7. ปญั หาท่พี บและแนวทางการแก้ไขปัญหา 7.1 ความมีทิฐิ เป็นปัญหาอย่างมากในการทางานร่วมกัน ในความเป็นจริงในการทางานนนั้ ไม่มีใคร เก่งกว่าใคร ไม่มีใครดีกว่าใคร ไม่มีส่วนราชการใหนดีกว่ากัน แต่เราทุกคนดีกันคนละอย่าง เก่งกันคนละแบบ ฉะน้ัน จึงดงึ เอาความดีและความเก่งแต่ละด้านของแตล่ ะคนมาทางานให้เกิดประสทิ ธภิ าพและประโยชนส์ ูงสุด 7.2 การมองการดาเนินงานพัฒนาแบบจุด คือจุดเล็กๆ ไม่มองแบบวงกลม หรือมองภาพใหญ่ เช่น ไม่ใช่งานในหน้าที่ของตน ไม่สนใจ ใครจะทาก็ทาไป ฉันไม่เกี่ยว อีกประการคือ อันน้ีงานของพัฒนาชุมชน หน่วยงานอื่นมายุ่งทาไม การมองหรือคิดแบบนเ้ี ป็นการคิดที่ผิดโดยส้ินเชิง จริงๆแล้วงานพัฒนาชุมชนคืองาน ทุกอย่างทท่ี าให้คุณภาพชวี ิตของประชาชนดขี นึ้ 8. ประโยชน์ขององค์ความรู้ 8.1 สามารถนาเทคนคิ ที่กล่าวมาไปใชใ้ นการทางานรว่ มกับผอู้ นื่ ได้เป็นอยา่ ดี และสามารถทาให้ ทมี งานเป็น Team Work ทมี่ ีประสทิ ธภิ าพสูง 8.2 ทาให้การดาเนินงานพฒั นาชุมชนมปี ระสิทธภิ าพเกดิ ผลสัมฤทธิต์ ามเป้าหมายทกี่ าหนด เกดิ ประโยชนส์ ุขต่อประชาชน 8.3 เป็นกลไกไปสกู่ ารเสริมสร้างองคก์ รใหม้ ขี ีดสมรรถนะสูง

พฒั นาคอื สรา้ งสรรค์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook