การติดตา (Budding)
การติดตา เป็นวิธีการขยายพันธุ์พืช ที่นำเอาส่วนตาของพืชต้นหนึ่งไปติดเข้ากับ พืชอีกต้นหนึ่ง เพื่อให้ตาของพืชเจริญเติบโต เร็วทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้ดี พืชที่นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีนี้ ได้แก่ ไม้ดอก ไม้ประดับ และไม้ผล
การติดตาแบ่งออกเป็น 5 วิธี
1. การติดตาแบบตัวที (T-Budding) คือ วิธีการขยายพันธุ์โดยการเตรียมต้นตอ ด้วยการกรีด เปลือกเป็นแนวยาวลงมาประมาณ ๑ นิ้ว และกรีดเป็นแนว ขวางบนรอยแรกทางด้านบนคล้ายรูปตัวที วิธีนี้นิยมทำ กับพืชที่ลอกเปลือกง่าย และเปลือกล่อน เช่น ส้ม พลับ ท้อ ขั้นตอนการติดตาแบบตัวที มีดังนี้
ขั้นตอนการติดตาแบบตัวที มีดังนี้
2.การติดตาแบบเพลต (Plate Budding) เป็นวิธีการติดตาคล้ายกับการติดตาแบบตัว ทีแต่ขนาดต้นตอใหญ่กว่า นิยมทำกับพืชที่ลอกเปลือก ง่าย เช่น ขนุน เงาะ มะขาม มะม่วง ขั้นตอนการติดตาแบบเพลต มีดังนี้
3.การติดตาแบบแพตช์ (Patch Budding) เป็นวิธีการติดตาโดยกรีดเปลือกต้นตอเป็นรูป สี่เหลี่ยมผืนผ้า นิยมทำกับพืชที่ลอกเปลือกได้ เช่น ส้ม น้อยหน่า ยางพารา อะโวคาโด ขั้นตอนการติดตาแบบแพตช์ มีดังนี้
4.การติดตาแบบชิป (Chip Budding) เป็นวิธีการติดตาโดยเฉือนเข้าไปในเนื้อไม้ให้ลึกเป็น รูปสี่เหลี่ยม นิยมทำกับพืชที่ลอกเปลือกยาก เช่น องุ่น ขั้นตอนการติดตาแบบแพตช์ มีดังนี้
ขั้นตอนการติดตาแบบแพตช์ มีดังนี้
5.การติดตาแบบซ้อน (Double Working by Budding) เป็นการติดตาโดยเฉือนชิ้นส่วนให้เกิดรอยเชื่อม สามารถประสานกับต้นตอและกิ่งพันธุ์ นิยมทำกับพืชที่กิ่ง พันธุ์และต้นตอไม่สามารถประสานกันได้ เช่น สาลี่ และพืช เมืองหนาวอื่น ๆ ขั้นตอนการติดตาแบบซ้อน มีดังนี้
ขั้นตอนการติดตาแบบซ้อน มีดังนี้
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: