โครงงานเร่ือง สมนุ ไพรกำจัดปลวก รายวิชา IS-1 (I30201) โดย 1.นางสาว นภสั กร สรุ ิยา เลขที่ 3 ม.5/5 2.นางสาว มณีรัตน์ อิทธพิ ลปัญญา เลขที่ 4 ม.5/5 3.นางสาว นภิ าดา หมธู่ รรมไชย เลขที่ 6 ม.5/5 4.นางสาว ชวิศา จันทรส์ วา่ ง เลขที่ 32 ม.5/5 5.นางสาว ชนกภทั ร์ ช่างกอ่ เลขท่ี 39 ม.5/5 เสนอ ครูดำรงค์ คันธะเรศย์ โรงเรียนปัว อำเภอปวั จงั หวัดนา่ น สำนกั งานเขตพ้ืนที่มธั ยมศึกษาน่าน
ชอื่ โครงงาน : สมุนไพรกำจดั ปลวก ผจู้ ัดทำโครงงาน : .นางสาว นภสั กร สรุ ยิ า นางสาว มณีรตั น์ อทิ ธพิ ลปญั ญา นางสาว นิภาดา หมู่ธรรมไชย นางสาว ชวศิ า จนั ทร์สว่าง นางสาว ชนกภัทร์ ชา่ งกอ่ บทคดั ยอ่ สมุนไพร ทเี่ ลอื กนามากาจัดปลวกคือ ใบสัก ใบน้อยหน่า ใบข้ีเหลก็ และใบเสลดพังพอนโดย นำใบพชื ทั้ง 4 ชนิด ชนิดละ 50 กรมั มาโขลกใหล้ ะเอียดเตมิ นำ้ ให้พอท่วม คนั้ นำ้ จากใบพชื แล้ว เตมิ นำ้ เปล่าลงไปใหไ้ ด้ 200 มิลลิลิตร นาไปฉดี พน่ ปลวก ท่ีใสไ่ วใ้ นถาดพลาสตกิ ถาดละ 20 ตัว จบั เวลา 2 นาที สงั เกตพฤติ กรรมของปลวก ปรากฏว่าปลวกทีถ่ กู ฉีด พ่นด้วยน้ำจากใบข้ีเหลก็ ตาย ทัง้ หมด และปลวก ทถี่ ูกฉดี พ่นดว้ ยน้ำคั้นจากใบนอ้ ยหน่า ใบสกั ใบเสลดพงั พอนตายเป็นจำนวน มากตามลาดับ แสดงวา่ น้ำที่คนั้ จากใบข้เี หล็กสามารถกำจัดปลวกได้ดี แต่การกำจัดปลวกดว้ ยนำ้ จากใบขี้เหล็กต้องฉดี พ่นที่ตวั ปลวก ถา้ ไมพ่ บตัวปลวกกไ็ ม่สามารถใชไ้ ดท้ างกลมุ่ ทดลองจึงคิดวิธี ที่ จะทำใหน้ ้ำจากใบขเ้ี หลก็ เปน็ ผงสาหรบั โรยไว้ที่รงั ปลวก เพ่อื ช่วยปอ้ งกันปลวกไดไ้ ม่ใหม้ าข้นึ บริเวณเดิมอกี จึงนำน้ำจากใบขี้เหล็กมาผสมกับ แปง้ ดนิ สอพอง ใหเ้ ขา้ กนั ดี แล้วใส่พมิ พผ์ ่งึ แดดให้ แหง้ เวลาจะใชก้ ท็ บุ ให้เป็นผงแล้วนำไป โรยบรเิ วณรังปลวก หลังจากท่ีฉดี พน่ นำ้ จากใบขีเ้ หล็ก แลว้ ทำการทดลอง 3 สถานท่ี ท่ีมปี ลวก ทำรงั อยู่ โดยใชน้ ำ้ คั้นจากใบขี้เหล็ก ราดรดใหต้ วั ปลวก ตายท้งั หมดก่อน แล้วโรยดว้ ยแปง้ สมุนไพรจากใบขี้เหล็ก ตดิ ตามดผู ลการทดลอง 30 วนั ปรากฏ ว่าปลวกไมก่ ลับมาทำรังใน บรเิ วณเดมิ อีก แสดงว่า แปง้ สมนุ ไพรจากใบข้ีเหลก็ สามารถป้องกนั ไมใ่ ห้ปลวกกลบั มาทำรงั ที่ เดมิ อีก
กิตติกรรมประกาศ โครงงานเรอื่ ง “สมนุ ไพรกำจดั ปลวก” นไ้ี ด้สำเรจ็ ลุลว่ งไปดว้ ยดีเพราะได้รับความ อนเุ คราะหแ์ ละความช่วยเหลือจาก คุณครูดำรงค์ คนั ธะเรศย์คณุ ครูท่ปี รึกษาโครงงาน นอกจากนี้ ยงั ได้รับความอนเุ คราะห์จากผู้ปกครองและสมาชิกในกลมุ่ จึงสามารถท าใหโ้ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ ฉบบั นส้ี ำเร็จลลุ ่วงไปดว้ ยดี คณะผู้จัดทำมคี วามซาบซง่ึ ในความกรุณาของทกุ ทา่ นที่ได้กลา่ วมาข้างต้นนี้รวมทั้งผู้ท่ีไดม้ ี สว่ นสนับสนนุ ทีไ่ ม่อาจกล่าวได้ทัง้ หมด ตลอดจนแหลง่ เรียนรูต้ ่างๆท่ีเราไดน้ ำมาประกอบทางคณะ ผู้จัดทำจึงขอขอบพระคณุ ทกุ ๆท่านเปน็ อย่างสูงด้วยความจริงใจขอบคณุ เพื่อนๆ ทร่ี ว่ มช่วยกันทำ คุณคา่ และประโยชน์ทพี่ งึ มขี อมอบใหผ้ ูม้ พี ระคณุ ทกุ ๆท่านดว้ ยใจจรงิ ทีไ่ ดใ้ ห้ความสนับสนุน โครงงานนนจ้ี นสำเร็จสมบรู ณ์ คณะผจู้ ดั ทำ
สารบัญ บทคดั ยอ่ ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบญั ค บทท่1ี บทนำ 1-2 -ทม่ี าของโครงงาน -วัตถุประสงค์ของการทำโครงงาน 3-9 -ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะไดร้ ับ 10-12 -สมมตฐิ านของการศึกษา -ตวั แปรที่ใชใ้ นการศกึ ษา 13 บทท2ี่ เอกสารทเี่ ก่ยี วข้อง 14 บทที่3 วิธีการดำเนินการศกึ ษาค้นควา้ -วสั ดแุ ละอุปกรณ์ -วธิ ีการดำเนนิ การ บทที่4 ผลการดำเนินงาน บทท่ี 5สรปุ และอภิปรายผล -อภปิ รายผลการทดลอง -สรปุ ผลการทดลอง -ขอ้ เสนอแนะ บทท่ี 1
บทนำ ที่มาของโครงงาน เนอื่ งจาก วนั หน่ึงได้ไปช่วยยกหนังสอื เกา่ ทเี่ ก็บในตู้หอ้ งเก็บของ ของโรงเรียนปรากฏว่า พบปลวก จำนวนมาก กดั กนิ หนงั สือเสยี หายเกอื บทงั้ หมด และตูไ้ ม้กถ็ ูกปลวกกัดกินจนพัง นักเรียนหลายคนบอกว่าทีบ่ ้านของเพ่ือนก็มปี ลวกข้ึนตาม ฝาผนังไมต้ ู้เสอ้ื ผา้ ผปู้ กครองตอ้ งซ้อื ยา กำจดั ปลวก มาฉดี พ่นอย่เู สมอ ๆ เมอ่ื มีปลวกก็ทำใหส้ ง่ิ ของเสียหาย สนิ้ เปลอื งเงนิ และสารเคมีที่ ใชฉ้ ีดฆ่าปลวกกเ็ ปน็ อันตรายอกี ด้วย จากความรเู้ ดมิ ทราบว่า มีใบพืชบางชนิด ทชี่ ว่ ยปอ้ งกันแมลง พวก มด และยงุ ได้กน็ ่า จะมพี ชื ท่ี กำจัดปลวกได้ จงึ คน้ คว้าจากอนิ เตอร์เน็ต ทำให้ทราบว่า น้ำคน้ั จากใบสัก ใบขเ้ี หลก็ ใบน้อยหนา่ และใบเสลดพงั พอน สามารถนำมา กำจดั ปลวกได้ คณะผูจ้ ดั ทำโครงงาน จงึ ได้ทำการทดลองนำใบพชื ทั้ง ชนิด และ มาโขลก กรองเอาน้ำ มากำจดั ปลวก ปรากฏว่า น้ำจากใบขี้เหลก็ กำจัดปลวกได้ดที ่สี ุด โดยฉีดพ่น หรือราดทตี่ ัวปลวก และเพือ่ ปอ้ งกนั ไมใ่ ห้ปลวกรนุ่ ใหม่มาขน้ึ อกี พวกเราไดท้ ดลองนำนำ้ จาก ใบขี้เหลก็ มาผสมกับ แปง้ ดินสอพอง ใส่พิมพ์ ตากให้แหง้ เวลาใชก้ ็ทบุ ให้เป็นผง นำไปโรยบรเิ วณที่เคยมีพวกขึ้น ปรากฏ วา่ ในเวลาที่ทดลอง 4 สัปดาห์ปลวกไมก่ ลบั มาขน้ึ บรเิ วณทีโ่ รยแป้งอีก วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงงาน 1. เพอ่ื เปรียบเทียบการกำจดั ปลวกดว้ ย น้ำคน้ั จาก ใบสกั ใบน้อยหนา่ ใบขี้เหลก็ และใบ เสลดพังพอน 2. เพื่อนำพชื สมนุ ไพรทมี่ ีสมบัตกิ ำจัดปลวกไดด้ มี าทำแปง้ ป้องกันการทำรังของปลวก 3. เพ่ือกำจดั และปอ้ งกันปลวกดว้ ยสมุนไพรในท้องถน่ิ 4. เพ่อื ใชท้ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ มาทำสารกำจดั ปลวก อยา่ งปลอดภัย และ ประหยดั คา่ ใช้จ่าย ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะไดร้ บั 1. ร้วู า่ ใบพชื ชนิดใดสามารถนำมากำจัดปลวกได้สามารถนำไปใช่ในชวี ิตประจาวนั ได้ 2. รวู้ ิธีทาแป้งสมนุ ไพรเพื่อใชโ้ รยป้องกันการทำรงั ของปลวก 3. ได้รูจ้ กั การทำงานเปน็ กลุ่ม 4. ได้ฝกึ วธิ ีการ กระบวนการทดลองทางวิทยาศาสตร์ สมมตุ ิฐาน
1. นำ้ ท่ีคน้ั จากใบขเี้ หลก็ สามารถกาจัดปลวกไดด้ ีกว่าน้ำทีค่ นั้ จากใบสกั ใบน้อยหนา่ และใบ เสลดพังพอน 2. แป้งดินสอพองที่ผสมด้วยน้ำคน้ั จากใบข้เี หลก็ ปอ้ งกันปลวกได้ ตัวแปรทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ตัวแปรต้น ชนิดของสมนุ ไพร(ใบสัก ใบนอ้ ยหน่า และใบ เสลดพงั พอน) ตัวแปรตาม จำนวนของปลวกท่ีตาย ตวั แปรควบคมุ ปรมิ าณของน้ำสมุนไพร,จำนวนปลวกท่ใี ช้ทดลองตอ่ สมนุ ไพร ๑ ชนดิ
บทที่ 2 เอกสารที่เก่ยี วข้อง การศึกษาวิธีการกำจดั ปลวกดว้ ยใบข้ีเหลก็ มีวัตถุประสงค์เพือ่ ศึกษาประสิทธภิ าพของ ใบ ขี้เหลก็ ในการกำจัดปลวก ผ้ศู ึกษาไดท้ ำการค้นควา้ ข้อมูลที่เก่ยี วข้อง ดงั น้ี ชนดิ และ ประเภท ของปลวก การจำแนกปลวก อยา่ งกว้างๆ แบ่งออกเป็น 2 พวกใหญ่ๆ คอื ปลวกที่อาศยั อยู่ในดิน และ ปลวกท่ีไม่อาศยั อยใู่ นดนิ ปลวกอาศยั อย่ใู นดิน จำแนกได้เปน็ 3 พวก คอื 1. ปลวก ใต้ดิน (Subterranean termites) พวกน้จี ะอาศัยอยใู่ นดนิ เกอื บตลอดอายขุ องมนั แม้ว่าจะออกจากผิวดนิ ไปแลว้ ก็ยงั มีการตดิ ต่อกับพ้นื ดนิ อยู่ โดยการทำอโุ มงคท์ างเดินด้วยดนิ ไปสู่แหล่งอาหารต่าง ๆ ท่อี ยเู่ หนอื ดิน นอกจากนอี้ ุโมงคท์ างเดนิ ยงั เป็นเคร่อื งป้องกนั อนั ตรายจาก ศตั รูเชน่ มด 2. ปลวก ท่อี ยู่ตามจอมปลวก (Mound-building termites) เป็นปลวกที่สร้างรังหรือ อาณาจกั ร ขนาดใหญ่ อยู่บนพน้ื ดินโดยใชเ้ ม็ดดินเล็ก ๆ สร้างขน้ึ เปน็ เนนิ สงู ใหญท่ ่เี รียกวา่ จอม ปลวก จะพบ เห็นทั่วไปทุกภาคของประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ในทวปี เอเซีย อเมรกิ า และ ออสเตรเลีย 3. ปลวก ที่ อยู่ตามรงั ขนาดเล็ก (Carton-nest-building termites) รังของ ปลวก ชนิดน้ี เกดิ จากมูลของปลวก ผสมกบั เศษไม้เลก็ ๆ และสรา้ งเป็นรังทม่ี ีรูปรา่ งและขนาดแตกตา่ งกันไป อาจจะ อยใู่ นดนิ บนพน้ื ดินหรอื เหนอื พ้ืนดนิ เชน่ ตามตน้ ไมเ้ สาไฟ หรอื อาคารบ้านเรือน 4. ปลวก ไม้แหง้ (Dry-wood termites) เป็นพวกทมี่ ีอาณาจกั รหรอื รงั เล็กกว่า ปลวกใต้ดนิ อาศัยอย่ใู นเนื้อไม้และจะไม่ลงไปในดนิ ปลวก ชนดิ นตี้ ้องการความชน้ื ในไม้แต่เพยี งเล็กนอ้ ย เท่านัน้ และเปน็ พวกทที่ าความเสยี หายรา้ ยแรงตอ่ อาคารบา้ นเรือนและเคร่ืองเฟอร์นิเจอรอ์ ่นื ๆ 5. ปลวก ไม้ชื้น (Damp-wood termites) อาศัยอยู่ในเนอ้ื ไมท้ ่ีมีความชื้นสงู เช่น เปลอื กไม้ ไม้ซงุ หรือไม้ทีผ่ แุ ล้ว หอ้ งทมี่ ีความช้นื และความเยน็ นับวา่ เป็นสถานที่เหมาะสม สาหรบั ปลวก ประเภทนี้อาศัยอยู่ ตามปกติแล้ว เป็น ปลวก ทีไ่ มม่ ีอันตรายต่ออาคารบ้านเรือนมากนกั ชีวิตและความเป็นอยขู่ องปลวก ปลวก เป็นแมลงท่ีอยู่เปน็ หมูส่ งั คมประกอบดว้ ยวรรณะตา่ งๆ รวม 3 วรรณะ และมหี น้าที่ แตกตา่ ง กนั ไป
ปลวก สืบพันธคุ์ ือปลวกตวั ผู้และตวั เมยี มีปกี และเพศดงั แมลงอนื่ ๆ ทั่วไป ตามปกตใิ น รัง หรอื อาณาจกั รจะพบปลวกคนู่ ้ีทำหนา้ ที่ผสมพันธแุ์ ละสบื พนั ธุ์ ตัวผู้เรยี กวา่ ราชาปลวก และตวั เมีย เรีย กว่า ราชินีปลวก ออกไข่เกิดเปน็ ปลวก ชนิดต่างๆ ในรัง นอกจากนี้ ปลวก สืบพนั ธุ์ยังมี หน้าท่ี กระจาย พนั ธุ์และสร้างอาณาจักรใหมเ่ กิดขน้ึ อีกด้วย ปลวกชนิดน้ีมีปีกทัง้ ตวั ผ้แู ละตวั เมยี เรียกวา่ แมลงเม่า เมอ่ื จบั คผู่ สมพนั ธ์แุ ลว้ จะสลดั ปีก และเลือกสถานท่เี หมาะสมเพอื่ สร้างรงั และ เกิดเปน็ อาณาจักรใหม่ต่อไป ปลวกงาน เป็นปลวก ตวั เล็กไมม่ ีปกี ไม่มเี พศ และไมม่ ีตา อาศยั อยู่ในดนิ หรือเนื้อไม้ที่ มนั กดั และทำลาย มีหนา้ ทกี่ ่อสร้าง หาอาหารมาเลี้ยงปลวกวรรณะอ่ืนๆ ปลวกชนดิ นจี้ ะทำงาน ทกุ อยา่ งภายในรัง ปลวกทหารเปน็ ปลวก ตัวเล็กแตม่ หี ัวโต และขากรรไกรขนาดใหญเ่ พื่อใช้ในการตอ่ สู้ ไมม่ ปี ีก ไม่มีตา และไมม่ ีเพศ ปลวกชนดิ น้มี หี น้าที่ปกป้องอันตรายทจี่ ะเกดิ ขึน้ กบั รัง ศตั รูสำคัญ ของมนั คือ มด การสร้างอาณาจักร การสรา้ งรังหรอื อาณาจกั รของปลวกแตล่ ะชนิด จะมีแบบแผนที่แน่นอน แต่แตกต่างตาม พนั ธแ์ุ ละภมู ิอากาศ สภาพแวดลอ้ ม การเกิดอาณาจักร แมลงเมา่ มกั จะออกมาใหเ้ ราได้พบเห็นใน บางโอกาสของปี ซงึ่ เปน็ ช่วง ระยะเวลาสนั้ ๆ เม่อื ตัวผแู้ ละตัวเมยี จบั ค่ผู สมพนั ธุ์ ชนดิ ปลวกไมแ้ หง้ ก็จะหารอยแตกแยกของ เนอ้ื ไมเ้ พือ่ สรา้ งรงั ใหม่ ชนดิ ปลวกใต้ดนิ กจ็ ะหาแหล่งดนิ ในบริเวณใกล้ๆ แหลง่ อาหาร เชน่ บริเวณเศษไม้หรอื รากไมใ้ น ดินเพอื่ สรา้ งรงั ใหม่ การขยายอาณาจกั ร เมือ่ ถึงฤดูกาลที่เหมาะสม แมลงเมา่ จะบินออกจากรัง ภมู ปิ ระเทศ สิง่ แวดล้อมและเผ่าพันธุ์ จะทาให้แมลงเมา่ ออกจากรักต่างวาระกัน ในภมู ิอากาศท่ีร้อน แมลงเมา่ จะออกจากรงั ชว่ งเวลา หลงั ฤดูฝน แมลงเมา่ เหล่านจ้ี ะบนิ เข้าอาคารเพ่อื รับความอบอุ่นจากแสงไฟ หรอื แสงอาทติ ย์และ ทำความรำคาญให้กับเรา แมลงเม่าแต่ละคเู่ มอื่ ผสมพนั ธ์แุ ลว้ จะเลือกสถานที่ สร้างรังใหม่ และ ภายใน 2-3 วันจะเรมิ่ วงไข่ครัง้ แรกๆ จะมไี ข่ไมก่ ่ีฟองแตต่ อ่ ไปจะเพม่ิ จานวนไข่ มาก ขึน้ เรอ่ื ยๆ ตลอดอายกุ ารเจริญเติบโต ของมันไขจ่ ะฟักออกเป็นตวั อ่อนภายใน 30-50วันและ ตวั ออ่ นจะ เจริญเตบิ โตอยา่ งรวดเร็ว ซึ่งสว่ นมากจะเปน็ ปลวกทีอ่ ยู่ในวรรณะ ปลวกทหาร และ ปลวกงาน แมลงเมา่ ค่แู รกที่สรา้ งรงั จะเจรญิ เติบโตเป็นราชาปลวก และ ราชินปี ลวก มีอายยุ นื ยาว และมี
จำนวนไข่มากกวา่ 30,000 ฟองตอ่ วัน จำนวนประชากรของปลวกในอาณาจกั รหน่งึ ๆ มี มาก หรอื น้อยข้นึ อยกู่ บั ภูมิประเทศ และแหลง่ อาหาร ปลวกชนิดต่างๆในอาณาจักรปลวกใต้ดนิ แมลงเมา่ ปลวกสืบพันธ์ุ (แมลงเม่าสลัดปกี ) ตวั อ่อน ระยะแรก ตวั ออ่ นระยะ กลาง ปลวกสืบพันธ์ุระยะเจริญพนั ธ์ุ ปลวกงาน ปลวกทหาร ราชนิ ปี ลวก ปลวกสบื พนั ธส์ุ ารองปกี สั้น และไมม่ ีปกี ปลวกสบื พนั ธส์ุ ารองปกี ส้นั และไมม่ ีปีก -การอาศยั อยู่ในระบบสงั คม ขนาดของอาณาจักร จะขยายใหญ่ได้ด้วยความสมบรู ณ์ของ แหล่ง อาหาร -ปลวก แตล่ ะชนดิ จะมีหน้าท่ีเฉพาะ และเก่ียวโยงเป็นระบบการอยู่ร่วม (ระบบสงั คม) -จกั รเกดิ จากราชาปลวกและราชนิ ีปลวก 1 คู่ ทาการผสมพนั ธ์ุ และเพิม่ ประชากร มากขน้ึ ๆ จาก ไข่ จะกลายเปน็ ปลวกตวั อ่อน -และเจรญิ เตบิ โตเปน็ ปลวกชนิดตา่ ง ๆ เช่น ปลวกสบื พันธส์ ารอง , ปลวกทหาร, ปลวกงาน และ แมลงเมา่ -ปลวกสืบพนั ธส์ุ ารอง จะทาหนา้ ทอ่ี อกไขเ่ พม่ิ ประชากรในกรณที ่ี ราชาปลวก หรอื ราชนิ ีปลวก ได้ ตาย -ปลวกงาน ทาหน้าท่ี ดูแลสรา้ งหรอื ซ่อมแซมรงั , หาอาหาร เพือ่ เลี้ยงปลวกชนดิ อ่ืน และทางาน ทุกชนิดภายในรัง -แมลงเมา่ คอื ปลวกสืบพันธุท์ อ่ี ยู่ในรงั เมอื่ โตเต็มท่ีจะบนิ ออกนอกรงั เพื่อสรา้ งอาณาจักรใหม่ ความตอ้ งการของปลวก เพราะปลวกต้องหาอาหารจงึ เกดิ การทาลาย และ ตอ้ งการความชนื้ ของดินจงึ เกิดวธิ กี าจดั โดยใช้ สารเคมี
1. อาหาร อาหารของปลวกสว่ นมากคือ เนือ้ ไม้หรือสารท่ีมีเซลลโู ลส เศษไม้จะถกู ยอ่ ย โดย เชอ้ื โปรโตซวั ซงึ่ มีอยูใ่ นตัวของมัน 2. ความช้นื ปลวกและแมลง ท่ตี อ้ งอาศัยความชน้ื เพอ่ื ใหเ้ กิดนำ้ ในลำตัวตลอด เวลา ปลวก ไม้แห้ง จะปดิ ทาง เข้าออกของรังอยา่ งมดิ ชิดใน ขณะทีอ่ ากาศภายนอกมีความชนื้ ต่ำ ปลวก ใต้ดินจะปรบั อากาศในรังหรอื ทางเดินใหเ้ หมาะสม โดยทำรังในดินที่มคี วามช้นื และมนั จะเดิน กลับ เข้ารงั วนั ละ หลายๆ เที่ยว ในพื้นทชี่ ้นื และน่คี ือวิธที ป่ี ลวก นาความชน้ื เขา้ สรู่ ังได้ สภาพแวดลอ้ มท่ีเหมาะสม ต่อการทำลายของปลวก ทกุ ท่ที ่เี ราพบว่ามีปลวกใต้ดนิ อาศยั อยู่ ประเทศไทยตงั้ อยใู่ นเขต มรสุม ซึ่งเปน็ เขตท่ี เหมาะสมสาหรับปลวกใตด้ ินจะอาศัยอยู่เป็นอย่างมาก และเราพบว่าปญั หาปลวกนจ้ี ะมีอยูใ่ นทกุ ภาคของประเทศ ปลวก จะมวี ธิ ีทำลายสงิ่ ของในลกั ษณะตา่ งกนั โดยขึน้ อยกู่ บั ชนิดโครงสรา้ งของส่งิ ของ ใน กรณี ทเ่ี ป็นสงิ่ ของชนิดเดียวกนั ปลวกจะทำลายของน้ัน ในลกั ษณะเหมือนๆ กนั มันจะสรา้ ง อุโมงคด์ ิน ไปตามทิศทางตา่ งๆ จนพบอาหาร บางครง้ั อาจมีระยะไกลมาก เมื่อมนั ไปพบกบั ส่งิ กีด ขวางมัน จะหาช่องทางแทรกจน พบอาหาร ได้เม่อื มันเข้าส่ใู นอาคาร ส่งิ ของต่าง ๆ ท่ีทำจาก ไม้ คือ อาหารของมนั พ้ืนไม้วงกบประตู หนา้ ต่าง ฝา และผา้ คือบรเิ วณทเี่ ราอาจพบปลวกได้ ประโยชนท์ ี่ได้รับจากปลวก ปลวกเปน็ แมลงที่มบี ทบาทสำคัญมากในระบบนิเวศวทิ ยาป่าไม้ คอื ชว่ ยย่อยสลาย อินทรีย์วตั ถตุ ่าง ๆ ไดแ้ กเ่ ศษไม้ท่อนไมก้ ง่ิ ไมใ้ บไม้และ ส่วนตา่ ง ๆ ของพืช ท่หี ักรว่ งลม้ ตายทบั ถม กนั อยู่ในป่า แลว้ เปล่ยี นใหก้ ลายสภาพเป็น ฮวิ มสั ในดนิ เป็นกระบวนการหมนุ เวยี นธาตุ อาหาร จากพชื ไปส่ดู นิ ทาใหด้ ินอดุ มสมบรู ณ์ ซงึ่ จะสง่ ผลใหพ้ รรณพชื ทุกระดบั ในปา่ ธรรมชาติ เจริญเติม โต สมบรู ณ์ บทบาทสำคญั ในหว่ งโซอ่ าหาร ในระบบนเิ วศน์ นอกจากจะชว่ ยให้พืชในป่าเจรญิ เตมิ โต แลว้ ยังเปน็ อาหารของสตั วป์ า่ ได้อกี ด้วย โดยตัวปลวกเองเปน็ อาหารทอ่ี ดุ มสมบรู ณ์ไปด้วยโปรตีน ของสตั วข์ นาดเล็กหลายชนิด เช่น ไก่ กบ นก คางคก และ สตั วเ์ ลื้อยคลานต่าง ๆ ซ่งึ จะกลายเป็น อาหารสัตวใ์ หญ่ตอ่ ไปเปน็ ทอด ๆ เป็นแหลง่ ผลติ โปรตนี สำคญั ของมนุษย์โดยปลวกบางชนิด สามารถสร้างเหด็ โคน ซึ่งเป็นอาหารอันโอชะและมรี าคาแพง สามารถสรา้ งรายไดเ้ สรมิ ให้แก่ เกษตรกร ทงั้ นีโ้ ดยมเี ชอ้ื ราท่ีอย่ใู นปลวกหลายชนิดชว่ ยในการผลติ จลุ ินทรียท์ อี่ าศัยอยู่ในทางเดนิ
อาหารของปลวก สามารถผลติ เอ็นไซม์บางชนดิ ทมี่ ีประสิทธภิ าพสงู สามารถนำมาพฒั นาเพอ่ื ประโยชน์ในเชงิ พาณิชย์ด้านการเกษตร อุตสาหกรรม หรอื ใช้ในการ แกไ้ ขควบคุมมลภาวะ ส่ิงแวดล้อมในอนาคตต่อไป เช่น การยอ่ ยสลายสารกำจัดศัตรพู ชื ทม่ี ฤี ทธิ์ ตกค้างนานหรือ การ กำจดั น้าเสยี จากโรงงานอตุ สาหกรรมเป็นตน้ โทษทเี่ กิดจากปลวก ปลวกเป็นแมลงที่กอ่ ให้เกิดความเสยี หายทางเศรษฐกจิ ต่อ *กล้าไม้และไม้ยนื ตน้ ในป่าธรรมชาตแิ ละสวนป่า *ไมใ้ ชป้ ระโยชนท์ ีอ่ ย่กู ลางแจ้ง *ไมใ้ ชป้ ระโยชน์ที่เป็นโครงสร้างภายในอาคารบา้ นเรอื น * วัสดขุ องเคร่อื งใช้ต่าง ๆ ที่ทามาจากไม้และพชื เสน้ ใย เช่น โต๊ะ ตู้กระดาษ หนงั สอื พรม และ เสือ้ ผ้าเป็นตน้ * กัดทำลายรากของพชื เกษตร พืชไร่ พืชผกั พืชสวนและไม้ผล การปอ้ งกันและดูแลรกั ษา * ปดิ รอยแตกรา้ วให้มิดชดิ -ตรวจสอบพนื้ ท่ที ี่มีความชืน้ สูงเชน่ หอ้ งนา้ ใต้บนั ใด อยา่ ง สม่ำเสมอ หากพบการกัดทำลายเกิดข้ึนแสดงวา่ มปี ลวกเกิดขนึ้ * สังเกตแมลงเมา่ บินในบา้ น หรือนอกบา้ น ให้ปิดชอ่ งทางเดินของแมลงเม่า เพราะเปน็ ชอ่ งทาง หนง่ึ ท่แี มลงเม่าจะสรา้ งรังในบา้ น *เก็บเศษไมต้ า่ งๆออกจากตัวบา้ น-ดูแลรักษาบ้านทงั้ ภายในและภายนอกให้แห้ง *ตรวจสอบวา่ ในบ้านมผี งไมซ้ ่งึ เป็นรอยกดั กนิ ของปลวกอยา่ งสม่ำเสมอ *ซอ่ มรอยรวั ซมึ ทนั ทีเมอ่ื มีรอยรัว่ ซมึ เกิดขึ้น * เม่อื พบปลวกตอ้ งกำจัดทันที เพราะจะเกดิ ความสูญเสียไปทกุ เวลานาที ปลวกทางาน ตลอดเวลา ความเสยี หายจงึ เกิดขึน้ ทุก ๆ วนิ าที การกำจัดปลวก 1. การกำจดั ปลวกโดยใช้สารเคมี 1.1 การใชส้ ารกำจัดปลวก (Termiticides) เป็นการปอ้ งกนั กำจัดโดยการฉดี พน่ หรอื อดั สาร ปอ้ งกนั กำจัดปลวกลงไปในพนื้ ดินเพ่ือทาให้ภายไต้อาคารเปน็ พษิ ปลวกไมส่ ามรถเจาะผ่านทะลุ ข้ึนมาไดห้ รอื อาจใช้สารเคมีกาจดั ปลวก โรยและฉีดพน่ โดยตรง วิธีการฉดี พ่นดว้ ยสารเคมี ปอ้ งกนั ปลวกก่อนการปลูกสรา้ งอาคารสามารถให้ผลในการปอ้ งกันปลวกใตด้ ินไดด้ ีทสี่ ดุ
1.2 การใชส้ ารปอ้ งกันเนื้อไม(้ Wood preservatives) ดาเนนิ การโดยการพน่ ทา แช่ จมุ่ หรอื อดั โดยใช้กาลงั อดั เพื่อให้สารเคมีแทรกซมึ เขา้ ไปในเน้ือไม้ 2.การปอ้ งกันโดยไมใ่ ชส้ ารเคมี 2.1 การใช้แผน่ โลหะ โลหะผิวล่ืน เชน่ แผ่นอลมู เิ นยี ม สามารถใช้เปน็ แนวปอ้ งกนั ไวร้ อบๆ เสา หรือรอย ต่อระหว่างฐานลา่ งกบั ส่วนท่เี ปน็ โครงสร้างไม้เพื่อกนั้ เสน้ ทางเดินของปลวกจาก พ้ืนดินเขา้ สอู่ าคาร 2.2 การใช้วัสดอุ น่ื ๆ เชน่ เศษหินบท เศษแก้วบด หรือแผ่นตะแกรงโลหะ ปูรองพื้นอาคาร ในสว่ นทตี่ ิดพื้นดิน ทั้งหมด 3. การป้องกนั และกำจดั โดยใช้เหยือ่ พิษ เป็นแนวทางใหมใ่ นการป้องกันกำจัดปลวก โดยมี หลกั การดงั น้ี * ใชส้ ารเคมอี อกฤทธิช์ ้า ทม่ี ีความเป็นพิษตอ่ สงิ่ มีชวี ติ แ ละสง่ิ แวดลอ้ มค่อนข้างต่ำ ซึ่งมี ประสิทธิภาพ ในการขัดขวางกระบวนการตามธรรมชาติในการดำรงชวี ติ ของปลวก เชน่ ยบั ยัง้ ขบวนการสร้างผนังลำตวั ซงึ่ มผี ลต่อการลดจำนวนประชากรลงไปจนถงึ ระดบั ท่ีไมก่ ่อใหเ้ กิด ความ เสยี หาย * มีคุณสมบตั พิ เิ ศษท่ีดึงดูดใหป้ ลวกเขา้ มากนิ และสามารถ คงรูปอยภู่ ายในตัวปลวกไดด้ ใี น ระยะเวลาที่เหมาะสมท่จี ะเกิดการถา่ ยทอดไปสสู่ มาชกิ อ่ืนๆภายในรงั ได้ 4. สมุนไพรกำจดั ปลวกสกดั จากพืชสมนุ ไพรไทย เช่น หางไหล ตระไคร้ หอม ขา่ ขมิ้นชนั หวั แหว้ หมู พรกิ ข้หี นู เมลด็ งาและใบสาบเสือฯ สมนุ ไพรเหลา่ น้ีเปน็ พชื ทปี่ ลวกไมส่ ามารถสรา้ งกลไก ใน การยอ่ ยสลายสารสำคญั จากพชื เหล่านีไ้ ด้สารสำคัญจากพชื เหลา่ น้ี มผี ลในการควบคมุ ประชากร ปลวกโดยกลไกท่แี ตกต่างกันต้งั แต่ การยับย้งั การเจรญิ เตบิ โตของตวั อ่อน การวางไข่ การกิน อาหาร ตลอดถงึ การลดการพฒั นาการ ของ จุลนิ ทรยี ใ์ นลำไส้ ปลวก ซึ่งมผี ลโดยตรงตอ่ ความอยู่ รอดและการทำลายของปลวก ซึง่ ทำให้มกี ารควบคมุ ประชากรของปลวกโดยลด ขี้เหลก็ ข้ีเหลก็ เดมิ เป็นไมใ้ นบริเวณเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้นบั จากหมเู่ กาะต่างๆ ของ ประเทศ อนิ โดนีเซียไปจนกระทง่ั ถงึ ประเทศศรลี งั กา ต่อมามผี ู้นำเอาไม้ขเี้ หล็กไปปลกู ในบริเวณ ต่างๆ สาหรับในประเทศไทยเราจะพบไม้ข้เี หล็กในแทบทกุ จังหวัดไม่วา่ จะเป็นภาคเหนอื , ภาค กลาง , ภาคใตช้ าวบ้านนิยมปลกู ไม้ขีเ้ หล็กเป็นไม้ให้รม่ และเป็นไมป้ ระดบั ข้ึนได้ในดินร่วนปนทราย
ทีม่ กี ารระบายนำ้ ดี การใชป้ ระโยชนท์ างดา้ นสมนุ ไพร - ดอก รกั ษาโรคเส้นประสาท นอนไม่หลบั ทำใหห้ ลบั สบาย รกั ษาโรคหืด รกั ษาโรคโลหติ พิการ ผายธาตุ รักษารงั แค ขับพยาธิ - ราก รักษาไข้ รักษาโรคเหน็บชา ทาแก้เสน้ อมั พฤกษ์ใหห้ ย่อน แกฟ้ กชำ้ แกไ้ ขบ้ ำรุงธาตุ ไข้ผิด สาแดง - ลำตน้ และกิง่ เปน็ ยาระบาย รกั ษาโรคผิวหนงั แก้โรคกระษยั แก้น่ิว ขบั ปัสสาวะ ขบั ระดขู าว - ทั้งต้น แก้กระษยั ดับพษิ ไข้แกพ้ ิษเสมหะ รกั ษาโรคหนองใน รักษาอาการตัวเหลือง เปน็ ยา ระบาย บำรุง น้าดีทาใหเ้ สน้ เอ็นหยอ่ น - เปลือกตน้ รกั ษาโรคริดสีดวงทวาร โรคหิด แก้กระษยั ใชเ้ ปน็ ยาระบาย - กระพ้ี รสขมเฝ่ือน แกร้ อ้ นกระสบั กระส่าย บำรุงโลหติ คมุ กำเนดิ - ใบ รกั ษาโรคบิด รักษา โรคเบาหวาน แก้รอ้ นใน รกั ษาฝมี ะม่วง รักษาโรคเหนบ็ ชา ลดความดัน ใบขีเ้ หลก็ มีสารอะไรในการกำจดั ปลวก สารเคมใี นใบข้ีเหล็ก พบว่ามสี ารกลมุ่ โครโมน (Chromone) ซง่ึ มีฤทธ์ิคลายเครียดและช่วยใหน้ อนหลบั เช่น แอนไฮโดรบาราคอล (anhydrobarakol) และกลุม่ anthraquinones ซึ่งมฤี ทธชิ์ ว่ ย ให้ถา่ ยหรอื ระบายทอ้ ง เช่น แอน โทรน และไดแอนโทรน (anthrone and dianthrone) เป็นตน้ ซง่ึ จากการศึกษาพบวา่ ขเี้ หล็กมี ทั้งประโยชนแ์ ละโทษ การบรโิ ภคขเี้ หลก็ โดยนำมาตม้ และทิง้ นำ้ กอ่ นนำมาแกง ซงึ่ เป็นวธิ ีที่ สามารถชว่ ยลดปริมาณความเขม้ ข้นของสารพิษในขี้เหลก็ ทำใหป้ ลอดภัยในการนำมารับประทาน แตเ่ ม่ือนำใบข้ีเหลก็ มาทำเป็นยาเม็ดโดยไมต่ ม้ นำ้ ท้ิง จะส่งผล ใหป้ ริมาณสารพษิ ยังคงมีปรมิ าณสูง ดงั นัน้ ก่อนการรับประทานขี้เหลก็ ควรศึกษากรรมวิธีเตรียม และไมค่ วรรับประทานอย่างตอ่ เนอื่ ง ซงึ่ จะทำใหเ้ กดิ ผลเสียมากกวา่ ผลดี
บทที่ 3 วัสดุอปุ กรณ์และวธิ กี ารทดลอง อุปกรณก์ ารทดลอง วสั ดุอปุ กรณ์และวิธีการทดลอง อปุ กรณก์ ารทดลอง 1. ใบสกั ใบน้อยหน่า ใบขเ้ี หล็ก และใบเสลดพังพอน 2. มดี บาง 3. เขียง 4. เครื่องชงั่ 5. ครก และสาก 6. ชอ้ น 7. บกี เกอร์ 8. ผ้าขาวบาง 9. หลอดหยอด 10. จานพลาสตกิ 11. แปง้ ดนิ สอพอง 12. แบบพมิ พ์ 13. ปลวก ตัวแปรท่เี กยี่ วข้อง ตอนท่1ี ตัวแปรตน้ ใบสกั ใบนอ้ ยหน่า ใบข้เี หล็ก ใบเสลดพังพอน ตวั แปรตาม การตายของปลวก ตัวแปรควบคมุ 1. ปรมิ าณของใบพชื 2. ปริมาณน้ำสะอาด
ตอนที่ 2 ตวั แปรตน้ แปง้ ดินสอพองผสมนำ้ จากใบขี้เหลก็ ตัวแปรตาม การทำรังของปลวก วธิ ีทดลอง ตอนท่1ี 1.นำใบสัก ใบนอ้ ยหนา่ ใบข้เี หล็ก และใบเสลดพงั พอน อย่างและ 20 กรมั มาห่นั เปน็ ฝอย และ โขลกให้ละเอยี ด แยก ใส่ บีกเกอร์ไว้ 2.ใสน่ ้ำลงในบีกเกอร์ พอทว่ ม ใบพชื ทโ่ี ขลกไว้ ใชช้ ้อนคนใหเ้ ข้ากันดี แล้วกรองดว้ ยผา้ ขาว บาง ใส่ บีกเกอร์แยกกันไว้ 3.เติมนำ้ เปลา่ ลงในนำ้ คน้ั จากใบพชื ท้ัง 4 ชนดิ ใหไ้ ดช้ นดิ ละ 200 มลิ ลิลิตร 4.นำปลวก มาใส่ในจานพลาสติก จานละ 10 ตวั หยดน้ำคน้ั จากพืชทั้ง 1 ชนดิ ลงทีต่ วั ปลวก 5.ปลวกแต่ละจาน จบั เวลา 2 นาที 6.สงั เกตการตายปลวก ในจานพลาสติก ทัง้ 4 ใบ แล้วบนั ทึกผล 7.ทำการทดลอง ซ้ำ เชน่ เดิม อกี 4 คร้ัง ตอนท่ี 2 1.นำใบขี้เหล็ก 100 กรัม มาโขลกให้ละเอียด ตักใสบ่ ีกเกอร์ 2. ใสน่ ำ้ พอทว่ มแล้วคนให้เขา้ กัน กรองดว้ ยผ้าขาวบาง 3. ใสแ่ ปง้ ดนิ สอพอง ลงในจานพลาสตกิ ใสน่ ำ้ ท่ีคัน้ จากใบขเ้ี หลก็ ลงไปกวนให้เข้ากนั แล้วตักใส่แบบพิมพน์ ำไปผ่ึงแดดจนแห้งสนทิ 4. นำแปง้ ทีไ่ ดไ้ ปโรยใส บริเวณท่มี รี ังของปลวกใหท้ ั่ว โดยทดลอง 3สถานที่ 5. สงั เกตการณเ์ ปล่ียนแปลงบรเิ วณรงั ของปลวก เปน็ เวลา 4 สัปดาห์ 6. บันทกึ ผลการทดลอง
ข้นั ตอนการดำเนนิ งาน 1. นักเรยี นนำเสนอหวั ขอ้ โครงงานทตี่ นเองสนใจต่อครู 2. คณะผจู้ ดั ทำชว่ ยกนั คดิ คำถาม ต้ังสมมตุ ิฐาน 3. เตรยี มอปุ กรณแ์ ละลงมอื ทำ 4. ทดลองนำนำ้ และ แปง้ จากใบขเ้ี หลก็ ไปทดลองกำจดั ปลวก 5. บนั ทกึ ผลและสรุปผลการทดลอง 6. สรุปและเขยี นรายงานโครงงาน
บทที่ 4 ผลการทดลอง ผลการทดลอง การทดลองเพอื่ การศึกษาว่า ใบพืชสมุนไพร คือ ใบสกั ใบนอ้ ยหน่า ใบข้ีเหล็ก และใบเสลดพงั พอน ใบพชื ชนดิ ใบ สามารถจาจดั ปลวกได้ดที ี่สุด โดยทาการทดลอง 5 ครง้ั ไดผ้ ล ดังน้ี ตารางบนั ทึกผลการทดลอง ใบพชื จำนวนปลวกที่ตาย (ในเวลา 2 นาท)ี ครั้งที่ 1 ครงั้ ที่ 2 ครัง้ ท่ี 3 คร้งั ท่ี 4 ครง้ั ท่ี 5 ใบสกั 17 19 18 20 18 ใบน้อยหน่า 18 18 17 18 17 ใบข้เี หลก็ 20 20 20 20 20 ใบสลด 17 18 17 16 18 พังพอน
บทที่ 5 สรุปและอภิปรายผล อภปิ รายผล จากการทดลอง เปรยี บเทยี บการกำจดั ปลวกดว้ ยน้ำคน้ั จากใบพชื สมนุ ไพร 4 ชนดิ คือ ใบสกั ใบนอ้ ยหน่า ใบข้ีเหลก็ ใบเสลดพงั พอน ปรากฏ วา่ นำ้ คน้ั จาก ใบขีเ้ หล็ก สามารถกำจัด ปลวกได้ท้งั หมด ทุกครง้ั ลองลงมา คอื นำ้ ค้ันจากใบสัก ใบนอ้ ยหนา่ และใบเสลดพังพอน ตามลา ดับและเม่ือนำนำ้ คน้ั จากใบขเ้ี หล็กมาผสมกบั แปง้ ดินสอพอง นำไปผง่ึ แดดให้แหง้ แลว้ นำไปโรยที่ รงั ปลวก หลังจากทก่ี ำจัดดว้ ยนำ้ ใบขีเ้ หลก็ แล้ว สงั เกตการณ์ทำรงั ของปลวก ใน เวลา 4 สปั ดาห์ ปรากฏว่าสมุนไพรจากใบข้ีเลก็ สามารถปอ้ งกันปลวกไม่ใหก้ ลับมาทำรงั ได้ เปน็ เวลา ประมาณ 3 สัปดาห์ สรุปผลการทดลอง นำ้ คน้ั จากใบข้ีเหลก็ สามารถกำจัดปลวกได้ดีกว่า นำ้ คนั้ จากใบสกั ใบนอ้ ยหนา่ และใบ เสลดพงั พอน และแป้งสมุนไพรทีท่ าจากดินสอพองผสมน้ำค้นั จากใบข้ีเหลก็ สามารถปอ้ งกัน ปลวกไม่ให้กลบั มาทำรงั ทีเ่ ดิมไดใ้ นระยะเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ ขอ้ เสนอแนะ 1. ควรใบข้เี หล็กขนาดกลางไมอ่ ่อนหรือแก่เกนิ ไป 2. ถ้าตอ้ งการฉีดนำ้ คัน้ จากใบขี้เหลก็ เขา้ ในรังปลวก ตามฝาบา้ นหรอื ควรใช้กระบอกฉดี ยา และ เขม็ ฉดี ยา ฉีดพ่นลงไป
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: