Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้

แผนการจัดการเรียนรู้

Published by apisityotayut, 2020-06-14 22:46:04

Description: แผนการจัดการเรียนรู้

Search

Read the Text Version

กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ทาไมต้องเรียนสุขศึกษาและพลศึกษา สุขภาพ หรือ สุขภาวะ หมายถึง ภาวะของมนุษยท์ ี่สมบูรณ์ท้งั ทางกาย ทางจิต ทางสงั คม และทางปัญญา หรือจิตวิญญาณ สุขภาพหรือสุขภาวะจึงเป็นเรื่องสาคญั เพราะเกี่ยวโยงกบั ทุกมิติของชีวิต ซ่ึงทุกคนควรจะได้ เรียนรู้เรื่องสุขภาพ เพื่อจะไดม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจที่ถูกตอ้ ง มีเจตคติ คุณธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม รวมท้งั มี ทกั ษะปฏิบตั ิดา้ นสุขภาพจนเป็นกิจนิสยั อนั จะส่งผลใหส้ งั คมโดยรวมมีคณุ ภาพ เรียนรู้อะไรในสุขศึกษาและพลศึกษา สุขศึกษาและพลศึกษาเป็ นการศึกษาด้านสุขภาพที่มีเป้าหมาย เพื่อการดารงสุขภาพ การสร้างเสริม สุขภาพและการพฒั นาคุณภาพชีวิตของบุคคล ครอบครัว และชุมชนใหย้ ง่ั ยนื สุขศึกษา มุ่งเน้นให้ผูเ้ รียนพฒั นาพฤติกรรมด้านความรู้ เจตคติ คุณธรรม ค่านิยม และการปฏิบตั ิ เก่ียวกบั สุขภาพควบคไู่ ปดว้ ยกนั พลศึกษา มุ่งเนน้ ให้ผูเ้ รียนใชก้ ิจกรรมการเคล่ือนไหว การออกกาลงั กาย การเล่นเกมและกีฬา เป็ น เคร่ืองมือในการพฒั นาโดยรวมท้งั ด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญา รวมท้งั สมรรถภาพเพื่อ สุขภาพและกีฬา สาระที่เป็ นกรอบเน้ือหาหรือขอบข่ายองค์ความรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ประกอบดว้ ย • การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ผเู้ รียนจะไดเ้ รียนรู้เรื่องธรรมชาติของการเจริญ เติบโต และพฒั นาการของมนุษย์ ปัจจยั ท่ีมีผลต่อการเจริญเติบโต ความสัมพนั ธ์เช่ือมโยงในการทางานของระบบต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงวิธีปฏิบตั ิตนเพ่อื ใหเ้ จริญเติบโตและมีพฒั นาการท่ีสมวยั • ชีวิตและครอบครัว ผูเ้ รียนจะไดเ้ รียนรู้เร่ืองคุณค่าของตนเองและครอบครัว การปรับตวั ต่อการ เปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ความรู้สึกทางเพศ การสร้างและรักษาสัมพนั ธภาพกบั ผูอ้ ื่น สุขปฏิบตั ิ ทางเพศ และทกั ษะในการดาเนินชีวติ • การเคลื่อนไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล ผูเ้ รียนไดเ้ รียนรู้เร่ืองการ เคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ การเขา้ ร่วมกิจกรรมทางกายและกีฬา ท้งั ประเภทบุคคล และประเภททีมอย่าง หลากหลายท้งั ไทยและสากล การปฏิบตั ิตามกฎ กติกา ระเบียบ และขอ้ ตกลงในการเขา้ ร่วมกิจกรรมทางกาย และกีฬา และความมีน้าใจนกั กีฬา

• การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกนั โรค ผเู้ รียนจะไดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั หลกั และวิธีการ เลือกบริโภคอาหาร ผลิตภณั ฑแ์ ละบริการสุขภาพ การสร้างเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ และการป้องกนั โรค ท้งั โรคติดต่อและโรคไมต่ ิดต่อ • ความปลอดภัยในชีวิต ผูเ้ รียนจะได้เรียนรู้เรื่องการป้องกนั ตนเองจากพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ท้งั ความเส่ียงต่อสุขภาพ อุบตั ิเหตุ ความรุนแรง อนั ตรายจากการใชย้ าและสารเสพติด รวมถึงแนวทางในการสร้าง เสริมความปลอดภยั ในชีวติ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน มีการกาหนดสมรรถนะสาคัญ ๕ ด้านเพ่ือเป็ นจุดเน้นในการพฒั นาผูเ้ รียนในระดับการศึกษาข้ัน พ้นื ฐาน ไดแ้ ก่ ๑) ความสามารถในการสื่อสาร ๒) การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ ๓) ทกั ษะการแกป้ ัญหา ๔) ทกั ษะชีวิต ๕) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ในการจดั การเรียนการสอน ครูผูส้ อนตอ้ งปลูกฝังและพฒั นาให้ผูเ้ รียนเกิดสมรรถนะเหล่าน้ีในทุกกลุ่ม สาระการเรียนรู้ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน มุ่งพฒั นาผูเ้ รียนให้มีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือให้ สามารถอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นในสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลกดงั น้ี ๑) รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒) ซ่ือสัตยส์ ุจริต ๓) มีวินยั ๔) ใฝ่เรียนรู้ ๕) อยอู่ ยา่ งพอเพียง ๖) มงุ่ มน่ั ในการทางาน ๗) รักความเป็นไทย ๘) มีจิตสาธารณะ

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี ๑ การเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ มาตรฐาน พ ๑.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ สาระที่ ๒ ชีวติ และครอบครัว มาตรฐาน พ ๒.๑ เขา้ ใจและเห็นคณุ คา่ ตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทกั ษะในการดาเนินชีวิต สาระท่ี ๓ การเคลื่อนไหว การออกกาลงั กาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบตั ิเป็นประจาอย่างสม่าเสมอ มีวินยั เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้าใจนกั กีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขนั และชื่นชมในสุนทรียภาพ ของการกีฬา สาระที่ ๔ การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกนั โรค มาตรฐาน พ ๔.๑ เห็นคุณคา่ และมีทกั ษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การป้องกนั โรคและการ สร้างเสริมสมรรถภาพเพอื่ สุขภาพ สาระท่ี ๕ ความปลอดภยั ในชีวติ มาตรฐาน พ ๕.๑ ป้องกนั และหลีกเลี่ยงปัจจยั เส่ียง พฤติกรรมเสี่ยงตอ่ สุขภาพ อบุ ตั ิเหตุ การใชย้ า สารเสพติด และความรุนแรง คุณภาพผู้เรียน เมื่อจบการศึกษาข้นั พ้ืนฐานในกลุ่มสุขศึกษาและพลศึกษาแลว้ ผเู้ รียนจะมีความรู้ ความเขา้ ใจที่ถกู ตอ้ ง มีเจตคติและค่านิยมที่ดีในเรื่องธรรมชาติ การเจริญเติบโต และพฒั นาการของมนุษย์ การสร้างเสริมสุขภาพและ การดารงสุขภาพที่ดีใหย้ งั่ ยนื มีทกั ษะปฏิบตั ิดา้ นสุขภาพและสมรรถภาพ จนเป็นกิจนิสยั เม่ือจบการเรียนรู้กลุม่ วิชาสุขศึกษาและพลศึกษาในระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ ผเู้ รียนจะมีคุณภาพ ดงั น้ี • เขา้ ใจและเห็นความสาคญั ของปัจจยั ท่ีส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพฒั นาการท่ีมีต่อสุขภาพ และชีวิตในช่วงวยั ต่างๆ

• เขา้ ใจ ยอมรับ และสามารถปรับตวั ต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ ความรู้สึกทางเพศ ความเสมอภาคทางเพศ สร้างและรักษาสมั พนั ธภาพกบั ผอู้ ื่นและตดั สินใจแกป้ ัญหาชีวิตดว้ ยวิธีการท่ีเหมาะสม • เลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม ไดส้ ัดส่วน ส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตและพฒั นาการในช่วงวยั รุ่น • มีทกั ษะในการประเมินอิทธิพลของเพศ เพ่ือน ครอบครัว ชุมชนและวฒั นธรรมที่มีต่อเจตคติค่านิยม เก่ียวกบั สุขภาพและชีวิต และสามารถจดั การไดอ้ ยา่ งเหมาะสม • ป้องกนั และหลีกเล่ียงปัจจยั เสี่ยง พฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพ โรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธ์ อุบตั ิเหตุ การ ใชย้ า สารเสพติด และความรุนแรง รู้จกั สร้างเสริมความปลอดภยั ใหแ้ ก่ตนเอง ครอบครัว และชุมชน • เขา้ ร่วมกิจกรรมทางกาย กิจกรรมกีฬา กิจกรรมนันทนาการ กิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย เพ่ือสุขภาพและสมรรถภาพทางกลไกไดอ้ ย่างปลอดภยั สนุกสนาน และปฏิบตั ิเป็ นประจาสม่าเสมอตามความ ถนดั และความสนใจ • แสดงความตระหนกั ในความสมั พนั ธ์ระหว่างพฤติกรรมสุขภาพ การป้องกนั โรค การดารงสุขภาพ การ จดั การกบั อารมณ์และความเครียด การออกกาลงั กายและการเลน่ กีฬากบั การมีชีวติ ท่ีมีสุขภาพดี • สานึกในคณุ คา่ ศกั ยภาพและความเป็นตวั ของตวั เอง • ปฏิบตั ิตามกฎ กติกา หนา้ ที่ความรับผิดชอบ เคารพสิทธิของตนเองและผูอ้ ่ืน ให้ความร่วมมือในการ แข่งขนั กีฬาและการทางานเป็นทีมดว้ ยความมุ่งมน่ั และมีน้าใจนกั กีฬาจนประสบความสาเร็จตามเป้าหมายดว้ ย ความชื่นชมและสนุกสนาน

คาอธบิ ายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา วชิ าพลศึกษา พ 22103 รายวชิ าพื้นฐาน ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยกติ ศึกษาการนาผลการปฏิบตั ิตนเก่ียวกบั ทกั ษะกลไกและทกั ษะการเคลื่อนไหวในการเล่นกีฬา จาก แหลง่ ขอ้ มูลท่ีหลากหลายมาสรุปเป็นวธิ ีทีเหมาะสมในบริบทของตนเอง ในการเลน่ กีฬา ประสิทธิภาพ ของ รูปแบบการเคลื่อนไหวที่ส่งผลตอ่ การเลน่ กีฬาและกิจกรรมในชีวติ ประจาวนั การนาประสบการณ์จาก การร่วม กิจกรรมนนั ทนาการไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาวนั สาเหตุการเปลี่ยนแปลงทางดา้ นร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา จากการออกกาลงั กายและเลน่ กีฬาอยา่ งสม่าเสมอจนเป็นวถิ ีชีวิต โดยใชก้ ระบวนการฝึ กปฏิบตั ิทกั ษะพ้ืนฐานการเล่นกระบี่กระบอง ความรู้ทวั่ ไปเกี่ยวกบั กระบ่ีกระบอง การอบอุ่นร่างกาย การถวายบงั คม การข้ึนพรหมนงั่ การข้ึนพรหมยนื การยา่ งสามขมุ เขา้ หาคู่ต่อสู่ ไมร้ าท้งั 12 ไมร้ า ลอยชาย ควงทดั หู เหน็บขา้ ง ต้งั ศอก จวงหนา้ จวงหลงั ปกหนา้ ปกหลงั ท่ายกั ษ์ สอยดาว ควงแตะ หนุ มานแหวกฟองน้า ลดลอ่ เชิญเทียน รวมทกั ษะท้งั 12 ไมร้ า เพอ่ื ใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย เห็นคุณคา่ ประโยชน์ รักการ ออกกาลงั กาย การเลน่ เกม รูปแบบการรุก การป้องกนั การทางานเป็นทีม และกีฬามีวนิ ยั เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้าใจนกั กีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขนั และช่ืนชมในความสุนทรียภาพของการกีฬา นาไป ปฏิบตั ิเป็นประจา อยา่ งสม่าเสมอ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกาลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กีฬา ปฏิบตั ิเป็นประจาอยา่ ง สม่าเสมอ มีวนิ ยั เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้าใจนกั กีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขนั และชื่นชมใน สุนทรียภาพของการกีฬา ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ พ 3.1 ม.2/1 นาผลการปฏิบตั ิตนเกี่ยวกบั ทกั ษะกลไกและทกั ษะการเคล่ือนไหวในการเล่นกีฬาจาก แหล่งขอ้ มลู ที่หลากหลายมาสรุปเป็นวธิ ีที่เหมาะสมในบริบทของตนเอง พ 3.1 ม.2/2 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ท้งั ประเภทบุคคลและทีมไดอ้ ยา่ งละ 1 ชนิด พ 3.1 ม.2/3 เปรียบเทียบประสิทธิภาพของรูปแบบการเคล่ือนไหวที่ส่งผลต่อการเล่นกีฬาและ กิจกรรมในชีวิตประจาวนั พ 3.1 ม.2/4 ร่วมกิจกรรมนนั ทนาการอยา่ งนอ้ ย 1 กิจกรรม และนาความรู้และหลกั การที่ไดไ้ ปปรับ ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั อยา่ งเป็นระบบ พ 3.2 ม.2/1 อธิบายสาเหตุการเปล่ียนแปลงทางกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ท่ีเกิดจาก การ ออกกาลงั กาย และเลน่ กีฬาเป็นประจาจนเป็นวถิ ีชีวิต พ 3.2 ม.2/2 เลือกเขา้ ร่วมกิจกรรม การออกกาลงั กาย เลน่ กีฬาตาม ความถนดั และความสนใจ พร้อมท้งั วิเคราะห์ความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล เพ่ือเป็นแนวทางในการพฒั นาตนเอง พ 3.2 ม.2/3 มีวนิ ยั ปฏิบตั ิตามกฎ กติกา และขอ้ ตกลงในการเลน่ กีฬาที่เลือก พ 3.2 ม.2/4 วางแผนการรุกและการป้องกนั ในการเลน่ กีฬาที่เลือกและนาไปใช้ ในการเลน่ อยา่ ง เหมาะสมกบั ทีม พ 3.2 ม.2/5 ผลการปฏิบตั ิในการเลน่ กีฬามาสรุปเป็นวธิ ีท่ีเหมาะสมกบั ตนเองดว้ ยความมุ่งมน่ั รวม 9 ตวั ชี้วดั

โครงสร้างรายวชิ า กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มวชิ าพืน้ ฐาน รายวิชา พลศึกษา 22103 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 20 ช่ัวโมง/ภาคเรียน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หน่วยกติ หน่วย เป้าหมายการเรียนรู้ เวลาเรียน น้าหนัก ท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน ประวตั ิและประโยชนข์ อง อธิบายประวตั ิความเป็นมาและประเภทของ 5 การเลน่ กระบี่ไทย กระบ่ีกระบองได้ บอกและยกตวั อยา่ งประวตั ิ 3 1 ความเป็นมาและประเภทของกระบ่ีกระบองได้ 1 2 2 ใหค้ วามร่วมมือในการเรียนการสอนและ รับผดิ ชอบงานท่ีมอบหมาย การบริหารร่างกายก่อนการ บอกวธิ ีการบริหารร่างกายก่อนการเล่นกีฬาและ เลน่ กีฬา ประโยชนก์ ารบริหารร่างกายก่อนได้ ปฏิบตั ิกิจ 2 กรรมการบริหารร่างกายก่อนการเลน่ กีฬาของ ตนเองได้ ใหค้ วามร่วมมือในการเรียนการสอน และรับผดิ ชอบงานท่ีมอบหมาย 1 การถวายบงั คมในการเลน่ อธิบายการถวายบงั คมของการเล่นกระบ่ี 3 กระบ่ีกระบอง กระบองได้ ปฏิบตั ิการถวายบงั คมในการเล่น กระบ่ีกระบองได้ ใหค้ วามร่วมมือในการเรียน การสอนและรับผิดชอบงานที่มอบหมาย การข้นึ พรหมนงั่ อธิบายการข้ึนพรหมนงั่ ของการเลน่ กระบ่ี 1 4 กระบองได้ ปฏิบตั ิการข้ึนพรหมนง่ั ในการเลน่ กระบี่กระบองได้ ใหค้ วามร่วมมือในการเรียน

การสอน มีความตระหนกั รักความเป็นไทย และ รับผดิ ชอบงานท่ีมอบหมาย การข้ึนพรหมยนื อธิบายการข้ึนพรหมยนื ของการเลน่ กระบี่ 1 3 5 กระบองได้ ปฏิบตั ิการข้ึนพรหมยนื ในการเลน่ กระบี่กระบองได้ ใหค้ วามร่วมมือในการเรียน การสอน มีความตระหนกั รักความเป็นไทย และ รับผิดชอบงานที่มอบหมาย ทกั ษะการยา่ งสามขมุ ใน อธิบายการยา่ งสามขมุ ของการเล่นกระบี่ 1 2 การเลน่ กระบี่กระบอง กระบองได้ ปฏิบตั ิการการยา่ งสามขมุ ในการ 3 เลน่ กระบี่กระบองได้ ให้ความร่วมมือในการ 6 เรียนการสอน มีความตระหนกั รักความเป็นไทย และรับผิดชอบงานที่มอบหมาย ท่าไมร้ าที่ 1 “ลอยชาย” สามารถอธิบาย ท่าไมร้ าที่ 1 ลอยชาย ของการ 1 7 เล่นกระบ่ีกระบองได้ ปฏิบตั ิการ ท่าไมร้ าที่ 1 ลอยชาย ในการเล่นกระบี่กระบองได้ ใหค้ วาม ร่วมมือในการเรียนการสอน มีความตระหนกั รัก ความเป็นไทย และรับผิดชอบงานที่มอบหมาย

ทา่ ไมร้ าที่ 2 “ควงทดั หู” อธิบาย ท่าไมร้ าท่ี 2 ควงทดั หู ของการเล่นกระบ่ี 1 2 8 กระบองได้ ปฏิบตั ิการ ท่าไมร้ าท่ี 2 ควงทดั หู 1 3 ในการเลน่ กระบ่ีกระบองได้ ใหค้ วามร่วมมือใน 1 5 การเรียนการสอน มีความตระหนกั รักความเป็น 1 5 ไทย และรับผิดชอบงานที่มอบหมาย ท่าไมร้ าที่ 3 “เหนบ็ ขา้ ง” สามารถอธิบาย ทา่ ไมร้ าที่ 3 เหน็บขา้ ง ของการ เล่นกระบ่ีกระบองได้ ปฏิบตั ิการ ท่าไมร้ าท่ี 3 9 เหน็บขา้ ง ในการเลน่ กระบ่ีกระบองได้ ให้ ความร่วมมือในการเรียนการสอน มีความ ตระหนกั รักความเป็นไทย และรับผดิ ชอบงานที่ มอบหมาย ทา่ ไมร้ าท่ี 4 “ต้งั ศอก” สามารถอธิบาย ทา่ ไมร้ าท่ี 4 ต้งั ศอก ของการ 10 เลน่ กระบี่กระบองได้ สามรถปฏิบตั ิการ ท่าไม้ ราที่ 4 ต้งั ศอก ในการเล่นกระบ่ีกระบองได้ ให้ ความร่วมมือในการเรียนการสอน มีความ ตระหนกั รักความเป็นไทย และรับผิดชอบงานท่ี มอบหมาย ท่าไมร้ าที่ 5 “จวงหนา้ จวง สามารถอธิบาย ทา่ ไมร้ าที่ 5 จวงหนา้ จวงหลงั หลงั ” ของการเล่นกระบ่ีกระบองได้ สามรถ ปฏิบตั ิการ ทา่ ไมร้ าที่ 5 จวงหนา้ จวงหลงั ใน 11 การเลน่ กระบี่กระบองได้ ให้ความร่วมมือใน การเรียนการสอน มีความตระหนกั รักความเป็น ไทย และรับผดิ ชอบงานที่มอบหมาย

ท่าไมร้ าที่ 6 “ปกหนา้ ปก สามารถอธิบาย ท่าไมร้ าท่ี 6 ปกหนา้ ปกหลงั หลงั ” ของการเล่นกระบี่กระบองได้ สามรถปฏิบตั ิการ 12 ทา่ ไมร้ าท่ี 6 ปกหนา้ ปกหลงั ในการเลน่ กระบี่ 1 5 กระบองได้ ใหค้ วามร่วมมือในการเรียนการ 1 5 1 5 สอน มีความตระหนกั รักความเป็นไทย และ 1 5 รับผดิ ชอบงานท่ีมอบหมาย ท่าไมร้ าท่ี 7 “ท่ายกั ษ”์ สามารถอธิบาย ทา่ ไมร้ าท่ี 7 ท่ายกั ษ์ ของการ 13 เล่นกระบี่กระบองได้ สามรถปฏิบตั ิการ ท่าไม้ ราที่ 7 ท่ายกั ษ์ ในการเล่นกระบ่ีกระบองได้ ให้ ความร่วมมือในการเรียนการสอน มีความ ตระหนกั รักความเป็นไทย และรับผิดชอบงานที่ มอบหมาย ท่าไมร้ าท่ี 8 “สอยดาว” สามารถอธิบาย ทา่ ไมร้ าท่ี 8 สอยดาว ของการ 14 เล่นกระบ่ีกระบองได้ สามรถปฏิบตั ิการ ท่าไม้ ราที่ 8 สอยดาว ในการเลน่ กระบ่ีกระบองได้ ให้ ความร่วมมือในการเรียนการสอน มีความ ตระหนกั รักความเป็นไทย และรับผิดชอบงานท่ี มอบหมาย ทา่ ไมร้ าที่ 9 “ควงแตะ” สามารถอธิบาย ท่าไมร้ าท่ี 9 ควงแตะ ของการ 15 เล่นกระบ่ีกระบองได้ สามรถปฏิบตั ิการ ทา่ ไม้ ราที่ 9 ควงแตะ ในการเล่นกระบี่กระบองได้ ให้ ความร่วมมือในการเรียนการสอน มีความ ตระหนกั รักความเป็นไทย และรับผดิ ชอบงานที่ มอบหมาย

ทา่ ไมร้ าท่ี 10 “หนุมาน สามารถอธิบาย ทา่ ไมร้ าที่ 10 หนุมานแหวก 1 5 แหวกฟองน้า” ฟองน้า ของการเลน่ กระบี่กระบองได้ สามรถ 1 5 ปฏิบตั ิการ ทา่ ไมร้ าท่ี 10 หนุมานแหวกฟองน้า 1 5 16 ในการเล่นกระบี่กระบองได้ ใหค้ วามร่วมมือ 1 5 ในการเรียนการสอน มีความตระหนกั รักความ เป็นไทย และรับผดิ ชอบงานที่มอบหมาย ทา่ ไมร้ าที่ 11 “ลด-ล่อ” สามารถอธิบาย ทา่ ไมร้ าที่ 11 ลด-ล่อ ของการ 17 เล่นกระบี่กระบองได้ สามรถปฏิบตั ิการ ท่าไม้ ราท่ี 11 ลด-ลอ่ ในการเลน่ กระบ่ีกระบองได้ ให้ ความร่วมมือในการเรียนการสอน มีความ ตระหนกั รักความเป็นไทย และรับผิดชอบงานท่ี มอบหมาย ท่าไมร้ าท่ี 12 “เชิญเทียน” สามารถอธิบาย ท่าไมร้ าท่ี 12 เชิญเทียน ของการ เลน่ กระบ่ีกระบองได้ สามรถปฏิบตั ิการ ทา่ ไม้ ราที่ 12 เชิญเทียน ในการเล่นกระบี่กระบองได้ 18 ใหค้ วามร่วมมือในการเรียนการสอน มีความ ตระหนกั รักความเป็นไทย และรับผดิ ชอบงานที่ มอบหมาย รวมฝึกทกั ษะไมร้ าที่ 1 – 6 สามารถอธิบายท่าไมร้ าท้งั 6 ไมไ้ ด้ 1.ลอยชาย 2. ควงทดั หู 3.เหนบ็ ขา้ ง 4.ต้งั ศอก 5.จวกหนา้ จวง 19 หลงั 6.ปกหนา้ ปกหลงั ของการเลน่ กระบี่ กระบองได้ นกั เรียนสามรถไมร้ าท้งั 6 ไมไ้ ด้ 1. ลอยชาย 2.ควงทดั หู 3.เหนบ็ ขา้ ง 4.ต้งั ศอก 5. จวกหนา้ จวงหลงั 6.ปกหนา้ ปกหลงั ในการ

เลน่ กระบี่กระบองได้ ใหค้ วามร่วมมือในการ เรียนการสอน มีความตระหนกั รักความเป็นไทย และรับผิดชอบงานท่ีมอบหมาย รวมฝึกทกั ษะไมร้ าที่ 7 – นกั เรียนสามารถอธิบายท่าไมร้ าท้งั 6 ไมไ้ ด้ 7. 1 5 12 ท่ายกั ษ์ 8.สอยดาว 9.ควงแตะ 10.หนุมานแหวก ฟองน้า 11.ลด-ล่อ 12.เชิญเทียน ของการเลน่ 1 20 20 กระบ่ีกระบองได้ นกั เรียนสามรถปฏิบตั ิทกั ษะ 20 100 ไมร้ าท้งั 6 ไมไ้ ด้ 7.ท่ายกั ษ์ 8.สอยดาว 9.ควง แตะ 10.หนุมานแหวกฟองน้า 11.ลด-ลอ่ 12. เชิญเทียน ในการเล่นกระบ่ีกระบองไดใ้ หค้ วาม ร่วมมือในการเรียนการสอน มีความตระหนกั รัก ความเป็นไทย และรับผิดชอบงานที่มอบหมาย สอบวดั ผลกลางภาค รวมคะแนน

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 ช่ือรายวชิ าพลศึกษา (กระบี่กระบอง) รหัสวิชา พ22103 ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ความรู้พืน้ ฐานเกยี่ วกบั กระบก่ี ระบอง ผ้สู อน ว่าท่ีร้อยตรีอภิสิทธ์ิ โยธายุทธ เรื่อง ประวตั แิ ละประโยชน์ของการเล่นกระบไี่ ทย เวลา 1 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกาลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กีฬา ปฏิบตั ิเป็นประจาอยา่ ง สม่าเสมอ มีวนิ ยั เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้าใจนกั กีฬา มีจิตวญิ ญาณในการแข่งขนั และชื่นชมใน สุนทรียภาพของการกีฬา ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ พ 3.1 ม.2/1 นาผลการปฏิบตั ิตนเก่ียวกบั ทกั ษะกลไกและทกั ษะการเคลื่อนไหวในการเล่นกีฬาจาก แหล่งขอ้ มลู ท่ีหลากหลายมาสรุปเป็นวธิ ีที่เหมาะสมในบริบทของตนเอง พ 3.1 ม.2/2 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ท้งั ประเภทบคุ คลและทีมไดอ้ ยา่ งละ 1 ชนิด พ 3.1 ม.2/3 เปรียบเทียบประสิทธิภาพของรูปแบบการเคลื่อนไหวที่ส่งผลต่อการเลน่ กีฬาและ กิจกรรมในชีวิตประจาวนั พ 3.1 ม.2/4 ร่วมกิจกรรมนนั ทนาการอยา่ งนอ้ ย 1 กิจกรรม และนาความรู้และหลกั การที่ไดไ้ ปปรับ ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั อยา่ งเป็นระบบ พ 3.2 ม.2/1 อธิบายสาเหตุการเปลี่ยนแปลงทางกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ท่ีเกิดจาก การ ออกกาลงั กาย และเล่นกีฬาเป็นประจาจนเป็นวถิ ีชีวติ พ 3.2 ม.2/2 เลือกเขา้ ร่วมกิจกรรม การออกกาลงั กาย เล่นกีฬาตาม ความถนดั และความสนใจ พร้อมท้งั วิเคราะห์ความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล เพื่อเป็นแนวทางในการพฒั นาตนเอง พ 3.2 ม.2/3 มีวนิ ยั ปฏิบตั ิตามกฎ กติกา และขอ้ ตกลงในการเลน่ กีฬาท่ีเลือก

พ 3.2 ม.2/4 วางแผนการรุกและการป้องกนั ในการเล่นกีฬาที่เลือกและนาไปใช้ ในการเล่นอยา่ ง เหมาะสมกบั ทีม พ 3.2 ม.2/5 ผลการปฏิบตั ิในการเล่นกีฬามาสรุปเป็นวธิ ีที่เหมาะสมกบั ตนเองดว้ ยความมุ่งมนั่ 2.สาระสาคญั การเลน่ กระบี่กระบองเป็นพ้ืนฐานเบ้ืองตน้ ส่วนหน่ึงของศิลปะการตอ่ สู้ของไทย ที่เรียกวา่ กระบ่ี กระบอง เพราะเป็นกีฬาที่บรรพบุรุษไทยนาเอาศิลปะการตอ่ สู้ป้องกนั ตวั ดว้ ยอาวุธที่ใชส้ ูร้ บกนั ในสมยั โบราณ มาฝึกซอ้ มและเลน่ ในยามสงบ โดยนาหวายมาทาเป็นกระบ่ี ดาบ งา้ ว ฯลฯ เอาหนงั มาทาโล่ เขน ด้งั ฯลฯ แลว้ จดั มาตีต่อสูก้ นั เลน่ หรือแขง่ ขนั กนั เป็นคู่ ๆ ดุจสู้กนั ในสนามรบเป็นการฝึกหดั รุกและรับไปในตวั 3.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.เพื่อใหน้ กั เรียนสามารถอธิบายประวตั ิความเป็นมาและประเภทของกระบ่ีกระบองได้ (K) 2.เพอ่ื ใหน้ กั เรียนสามรถบอกและยกตวั อยา่ งประวตั ิความเป็นมาและประเภทของกระบ่ีกระบองได้ (P) 3.เพ่ือใหน้ กั เรียนใหค้ วามร่วมมือในการเรียนการสอนและรับผิดชอบงานที่มอบหมาย (A) 4. สาระการเรียนรู้ 4.1. ความรู้ (K) - ความเป็นมาและประวตั ิของกระบ่ีกระบอง 4.2. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด - การใหเ้ หตผุ ล การสรุปความรู้ การประยกุ ต์ การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ 4.3. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - มีวินยั ใฝ่เรียนรู้ ม่งุ มน่ั ในการทางาน 5. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 5.1 ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน [10 นาที] 1.สารวจรายชื่อนกั เรียน แลว้ แนะนาตนเอง กาหนดขอ้ ตกลงในการเรียน ทาความรู้จกั กบั นกั เรียนเพื่อ สร้างความคุน้ เคย 2. ใชค้ าถามใหน้ กั เรียนร่วมกนั บอกประวตั ิของกระบี่กระบอง ความเป็นมา รวมท้งั ประโยชนท์ ี่ไดจ้ าก การเลน่ กระบี่กระบอง ตามความเขา้ ใจของนกั เรียน

5.2 ข้นั อธบิ ายและสาธิต [15 นาที] 3. แจง้ จุดประสงคใ์ นการเรียนใหน้ กั เรียนทราบ แลว้ แจกใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความเป็นมาของการเล่น กระบี่กระบอง ใหน้ กั เรียนศึกษาเบ้ืองตน้ 4. นกั เรียนดูคลิปตดั ตอ่ การเล่นกระบ่ีกระบองในอดีตจนถึงปัจจุบนั จาก PowerPoint เรื่อง ความรู้พ้ืนฐาน เก่ียวกบั การเรียนกระบี่กระบอง แลว้ อธิบายความเป็นมาของการเลน่ กระบ่ีกระบอง และหลกั การสาคญั ของการ เล่นกระบ่ีกระบอง ตามหวั ขอ้ ดงั น้ี - ประวตั ิความเป็นมาของการเลน่ กระบี่กระบอง - การเริ่มแข่งขนั เลน่ กระบ่ีกระบอง - การถวายบงั คมและการข้นึ พรหม - ไมร้ ากระบี่ 12 ไมร้ า - ไมต้ ี 6 ไมต้ ี 5.3 ข้นั ปฏบิ ตั ิ [15 นาที] 5. นกั เรียนทาใบงานท่ี 1 เรื่อง ความรู้เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั กระบ่ีกระบองและศึกษาประวตั ิความเป็นมาของ การเล่นกระบ่ีกระบอง โดยการศึกษาจากใบความรู้และแหลง่ คน้ ควา้ ต่างๆแลว้ มาตอบคาถามในใบงานท่ีครู มอบหมาย 5.4 ข้นั นาไปใช้ [10 นาที] 6. สุ่มนกั เรียนออกมาอธิบายประวตั ิความเป็นมาของการเลน่ กระบี่กระบอง และประโยชนข์ องการเล่น กระบี่กระบอง วา่ มีอะไรบา้ ง 5.5 ข้นั สรุป [10 นาที] 7. นกั เรียนและครูสรุปเน้ือหาบทเรียน เรื่องประวตั ิความเป็นมาของการเล่นกระบ่ีกระบอง การเลน่ กระบี่ กระบองเป็นพ้ืนฐานเบ้ืองตน้ ส่วนหน่ึงของศิลปะการต่อสู้ของไทย ที่เรียกวา่ กระบ่ีกระบอง เพราะเป็นกีฬาท่ี บรรพบุรุษไทยนาเอาศิลปะการต่อสู้ป้องกนั ตวั ดว้ ยอาวธุ ท่ีใชส้ ูร้ บกนั ในสมยั โบราณ มาฝึกซอ้ มและเล่นในยาม สงบ โดยนาหวายมาทาเป็นกระบ่ี ดาบ งา้ ว ฯลฯ เอาหนงั มาทาโล่ เขน ด้งั ฯลฯ แลว้ จดั มาตีตอ่ สู้กนั เลน่ หรือ แขง่ ขนั กนั เป็นคู่ ๆ ดุจสูก้ นั ในสนามรบเป็นการฝึกหดั รุกและรับไปในตวั รัชกาลท่ี 5 ทรงโปรดใหม้ ีการเล่น กระบ่ีกระบอง และชกมวยไทยหนา้ พระที่นงั่ ในงานสมโภชอยเู่ นือง ๆ พระองคเ์ สดจ็ ทอดพระเนตรและ พระราชทานรางวลั แก่ผแู้ สดงและแข่งขนั บอ่ ย ๆ ฉะน้นั กระบ่ีกระบองจึงเป็นที่รู้จกั มกั คนุ้ กนั มากในสมยั น้นั และในแตล่ ะปี อาจจะดูไดห้ ลายคร้ัง อยา่ งไรกต็ าม ในช่วงน้นั กีฬากระบี่กระบองเป็นท่ีนิยมมาก จึงทาใหก้ ระบี่ กระบองมีอยดู่ าษด่ืน และมีมากคณะดว้ ยกนั ท้งั น้ี ทา่ นอาจารย์ นาค เทพหสั ดิน ณ อยธุ ยา เป็นผหู้ น่ึงท่ีไดเ้ ล่า เรียนวชิ าน้ีมาต้งั แตย่ งั เป็นเด็ก และเป็นผทู้ ี่รักใคร่ในศิลปะวิชาน้ีอยเู่ สมอ จึงพยายามสงวนและเผยแพร่วิชากระบ่ี

กระบองของไทยมากข้นึ ต่อมาเม่ือท่านโอกาสท่ีทา่ นเป็นอาจารยใ์ หญข่ องโรงเรียนพลศึกษากลาง ท่านไดเ้ ริ่ม ลองสอนนกั เรียนพลศึกษากลางเกี่ยวกบั การเล่นกระบี่กระบองข้ึนเป็นคร้ังแรก เมื่อ พ.ศ. 2478 หลงั จากทดลอง สอนอยู่ 1 ปี พบวา่ ไดผ้ ลดีเป็นท่ีน่าพอใจของทา่ นผใู้ หญ่ จึงไดก้ าหนดวิชากระบี่กระบองไวใ้ นหลกั สูตรของ ประโยคครูผสู้ อนพลศึกษา เม่ือ ปี พ.ศ.2479 นบั แตน่ ้นั มาไดม้ ีผเู้ ล่าเรียนและสาเร็จการศึกษามากข้นึ เป็นลาดบั **** ชมเชยนกั เรียนที่ช่วยสรุปเนื้อหาได้ถกู ต้อง**** 8. ครูนดั หมายกิจกรรมการเรียนการสอนในชว่ั โมงถดั ไป 6. แหล่งเรียนรู้และสื่อการเรียน 1. คอมพวิ เตอร์ 2. เครื่องฉาย (โปเจค็ เตอร์) 3. คลิปตดั ต่อการเลน่ กระบี่กระบอง 4. PowerPoint เรื่อง ความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกบั การเลน่ กระบ่ีกระบอง 5. ใบความรู้ที่ 1 เร่ือง ความเป็นมาของการเลน่ กระบ่ีกระบอง 7. เกณฑ์การวดั และประเมินผล ส่ิงท่ตี ้องการวัด วธิ กี ารวัด เครื่องมือการวัด เกณฑ์การวัด 1.นกั เรียนสามารถอธิบาย ใบงาน การตรวจผลงาน ผเู้ รียนไดค้ ะแนน ประวตั ิความเป็นมาของ ถาม-ตอบ ต้งั แต่ ร้อยละ 50 ข้นึ ไป กระบี่กระบองได้ (K) 2. นกั เรียนสามรถบอก สงั เกตพฤติกรรม แบบตอบคาถาม ผเู้ รียนปฏิบตั ิกิจกรรมได้ และยกตวั อยา่ งประวตั ิ ระดบั คณุ ภาพต้งั แต่ 2 ข้ึนไป ความเป็ นมาของกระบ่ี กระบองได้ (P) แบบสงั เกตพฤติกรรม ผเู้ รียนมีพฤติกรรมท่ีพึง 3.นกั เรียนใหค้ วามร่วมมือ ประสงคไ์ ดร้ ะดบั คุณภาพ ในการเรียนการสอนและ รับผดิ ชอบงานท่ีไดร้ ับ ต้งั แต่ 2 ข้ึนไป มอบหมาย (A)

รูปแบบเกณฑ์การประเมนิ ตามสภาพจริง ระดบั คณุ ภาพ รายการประเมิน ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง 4321 เน้ือหาถูกตอ้ ง มี เน้ือหาถกู ตอ้ ง มี เน้ือหาถกู ตอ้ ง เน้ือหาไมถ่ ูกตอ้ ง ความรู้ สาระสาคญั สาระสาคญั ครบ บางส่วน เป็ นส่วนใหญ่ ครบถว้ นและมี แต่ไม่ชดั เจน สาระสาคญั ไม่ครบ ความชดั เจน สามารถปฏิบตั ิได้ สามารถปฏิบตั ิได้ สามารถปฏิบตั ิได้ ไม่สามารถปฏิบตั ิ ทกั ษะ อยา่ งถูกตอ้ ง อยา่ งถูกตอ้ งเป็น เป็นบางส่วน ได้ และการปฏิบตั ิ ไม่ถูกตอ้ งเป็นส่วน ครบถว้ น ทนั เวลา ส่วนใหญ่ ใหญ่ ใหค้ วามร่วมมือดี ใหค้ วามร่วมมือดี ไม่คอ่ ยใหค้ วาม ไมใ่ หค้ วามร่วมมือ มาก ผลงานการ ผลงานการปฏิบตั ิ ร่วมมือในการ ในการปฏิบตั ิ คณุ ลกั ษณะ ปฏิบตั ิออกมาดีมาก ออกมาดี และเสร็จ ปฏิบตั ิ ตอ้ ง กิจกรรม และเสร็จทนั เวลาท่ี ทนั เวลาที่กาหนด ตกั เตือนอยเู่ สมอ กาหนด 8. กจิ กรรมเสนอแนะ กจิ กรรมฝึ กคิดวิเคราะห์ ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. กจิ กรรมบูรณาการ ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................

บันทกึ หลงั การใช้แผนการจัดการเรียนรู้ 1. ผลการสอน........................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. 2. ปัญหาและอปุ สรรค........................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. 3. ข้อเสนอแนะ แนวทางแก้ไข............................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงช่ือ................................................................... (ว่าทร่ี ้อยตรีอภสิ ิทธ์ิ โยธายุทธ) ข้อเสนอแนะเพ่ือการตรวจสอบ นิเทศ รับรอง หวั หน้ากลุ่มสาระ กลุ่มบริหารวิชาการ ผ้อู านวยการโรงเรียน ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ลงช่ือ........................................... ลงช่ือ........................................... (ว่าท่ีร้อยตรีอภสิ ิทธ์ิ โยธายทุ ธ) ลงช่ือ...................................... ( นางสาวจนิ ตนา มณีศรี ) ( นายสุดใจ ศรีใหญ่ )

ใบงานท่ี 1 เร่ือง ความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกบั การเล่นกระบ่กี ระบอง คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ ง 1. จงอธิบายประวตั ิความเป็นมาของการเลน่ กระบี่กระบอง ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 2. การเล่นกระบ่ีกระบองมีประโยชน์อยา่ งไรกบั นกั เรียน ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 3. การเล่นกระบ่ีกระบองในสมยั รัชกาลท่ี 5 ไดร้ ับความนิยมเป็นอยา่ งมากเพราะเหตุใด ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ช่ือ-สกุล........................................................................................ช้นั ...............เลขท่ี................

แบบประเมินผลการจดั การเรียนการสอน คาชีแ้ จง ใหค้ รูผสู้ อนเขยี นระดบั คะแนน ลงในช่องรายการประเมินนกั เรียนตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ท่ีกาหนด เลขที่ ชื่อ-สกุล ความรู้ (K) รายการ สรุปผล ทกั ษะ (P) คุณลกั ษณะ (A) การ 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ประเมนิ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 เกณฑ์การให้คะแนน 4 = ดีมาก, 3 = ดี, 2 = ปานกลาง, 1 = ตอ้ งปรับปรุงแกไ้ ข (ลงช่ือ) .............................................ผปู้ ระเมิน (ว่าที่ร้อยตรีอภิสิทธ์ิ โยธายทุ ธ) วนั ท่ี.............เดือน................................พ.ศ.............

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม (ในช้ันเรียน) คาชีแ้ จง ใหท้ าเคร่ืองหมาย ✓ ลงในช่องรายการประเมินและสังเกตพฤติกรรมท่ีกาหนด สรุปผล การ รายการ ประเมิน เลขที่ ชื่อ-สกลุ ร่วมมือในการ สนใจใน มีความ ทากิจกรรม การเรียน รับผดิ ชอบ 1 32 1 3213 2 1 2 3 (ลงชื่อ) .............................................ผปู้ ระเมนิ 4 (ว่าที่ร้อยตรีอภิสิทธ์ิ โยธายทุ ธ) 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ด,ี 2 = ปานกลาง, 1 = ตอ้ งปรับปรุงแกไ้ ข

ใบความรู้ท่ี 1 เรื่อง ประวตั คิ วามเป็ นมาของการเล่นกระบี่กระบอง กระบี่กระบอง เป็นกีฬาที่เราไม่คอ่ ยจะคนุ้ หูกนั ซกั เทา่ ไหร่นกั อาจเพราะไม่มีการแข่งขนั ในระดบั สากล แต่คณุ รู้หรือไมว่ า่ กระบ่ีกระบองน้ีเป็นกีฬาที่มีมาแต่คร้ังบรรพบุรุษ เป็นการนาเอาศิลปะการต่อสูป้ ้องกนั ตวั ดว้ ย อาวธุ ท่ีใชส้ ู้รบกนั ในสมยั โบราณท่ีช่วยปกบา้ นป้องเมืองเราเอาไว้ แตป่ ัจจุบนั วชิ ากระบี่กระบองไดม้ ีการพฒั นา บรรจุเป็นหลกั สูตรในวชิ าพลศึกษา การเลน่ กระบี่กระบองเป็นพ้ืนฐานเบ้ืองตน้ ส่วนหน่ึงของศิลปะการต่อสู้ของไทย ท่ีเรียกวา่ กระบ่ีกระบอง เพราะเป็นกีฬาท่ีบรรพบุรุษไทยนาเอาศิลปะการต่อสู้ป้องกนั ตวั ดว้ ยอาวธุ ที่ใชส้ ูร้ บกนั ในสมยั โบราณ มาฝึกซอ้ ม และเล่นในยามสงบ โดยนาหวายมาทาเป็นกระบี่ ดาบ งา้ ว ฯลฯ เอาหนงั มาทาโล่ เขน ด้งั ฯลฯ แลว้ จดั มาตีต่อสู้ กนั เล่นหรือแข่งขนั กนั เป็นคู่ ๆ ดุจสู้กนั ในสนามรบเป็นการฝึกหดั รุกและรับไปในตวั อยา่ งไรก็ตาม ประวตั ิเริ่มตน้ ของการเล่นกระบ่ีกระบองท่ีแทจ้ ริงน้นั ไม่ทราบไดแ้ น่ชดั วา่ เริ่มกนั มาต้งั แต่ คร้ังไหน และใครเป็นผคู้ ิดคน้ ข้ึน เพราะไมส่ ามารถคน้ ควา้ จากแหลง่ ใดได้ แต่เน่ืองดว้ ยไทยเราเป็นชาตินกั รบมา แต่โบราณ กระบี่กระบองซ่ึงเป็นกีฬาของนกั รบจึงน่าจะไดม้ ีการเลน่ กนั มาเป็นเวลาชา้ นานควบคู่กบั ชนชาติไทย ในสมยั รัตนโกสินทร์มีหลกั ฐานท่ีพออา้ งอิงไดค้ ือ วรรณคดี ซ่ึงในสมยั รัชกาลท่ี 2 ในพระราชนิพนธ์เรื่องอิเหนา กล่าวถึงอิเหนาชานาญในการกระบ่ี ในรัชกาลที่ 3 สุนทรภู่แต่งเร่ืองพระอภยั มณี กลา่ วถึงศรีสุวรรณเล่าเรื่อง กระบี่กระบองกบั อาจารยท์ ิศาปาโมกข์ ต่อมาในรัชกาลท่ี 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงโปรดปรานกระบ่ีกระบองเป็นพิเศษ ถึงกบั โปรดใหส้ มเด็จพระเจา้ ลูกยาเธอหลายพระองคท์ รงหดั กระบ่ีกระบองจนครบวง และและโปรดใหเ้ ล่น กระบี่กระบองเป็นการสมโภชที่หนา้ พระอุโบสถ วดั พระศรีรัตนะศาสดาราม เน่ืองในการทรงผนวชเป็น สามเณรของพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั เมื่อปี พ.ศ. 2409 ตอ่ มา รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดใหม้ ีการเลน่ กระบี่กระบอง และชกมวยไทยหนา้ พระท่ีนงั่ ในงานสมโภชอยู่ เนือง ๆ พระองคเ์ สด็จทอดพระเนตรและพระราชทานรางวลั แก่ผแู้ สดงและแขง่ ขนั บ่อย ๆ ฉะน้นั กระบี่กระบอง จึงเป็นท่ีรู้จกั มกั คุน้ กนั มากในสมยั น้นั และในแต่ละปี อาจจะดูไดห้ ลายคร้ัง อยา่ งไรกต็ าม ในช่วงน้นั กีฬากระบ่ี กระบองเป็นที่นิยมมาก จึงทาใหก้ ระบี่กระบองมีอยดู่ าษด่ืน และมีมากคณะดว้ ยกนั คร้ันถึงในสมยั รัชกาลท่ี 6 ความครึกคร้ืนในการเล่นกระบ่ีกระบองลดนอ้ ยลง เพราะไมท่ รงโปรดเทา่ รัชกาลท่ี 5 และตอ่ มา ในรัชกาลท่ี 7 กีฬากระบี่กระบองค่อย ๆ หมดไปจนเกือบหาดูไมไ่ ด้ เนื่องจากการ

เปลี่ยนแปลงประเทศใหท้ นั กบั ความเจริญกา้ วหนา้ ของโลกอตุ สาหกรรม ทาใหป้ ระชาชนทวั่ ไปมุง่ ในเร่ือง เศรษฐกิจ สงั คมมากข้ึน ท้งั น้ี ทา่ นอาจารย์ นาค เทพหัสดิน ณ อยธุ ยา เป็นผหู้ น่ึงท่ีไดเ้ ล่าเรียนวิชาน้ีมาต้งั แต่ยงั เป็นเด็ก และเป็นผทู้ ี่ รักใคร่ในศิลปะวิชาน้ีอยู่เสมอ จึงพยายามสงวนและเผยแพร่วชิ ากระบี่กระบองของไทยมากข้ึน ต่อมาเมื่อท่าน โอกาสที่ท่านเป็นอาจารยใ์ หญข่ องโรงเรียนพลศึกษากลาง ทา่ นไดเ้ ร่ิมลองสอนนกั เรียนพลศึกษากลางเกี่ยวกบั การเล่นกระบี่กระบองข้ึนเป็นคร้ังแรก เม่ือ พ.ศ. 2478 หลงั จากทดลองสอนอยู่ 1 ปี พบวา่ ไดผ้ ลดีเป็นท่ีน่าพอใจ ของทา่ นผใู้ หญ่ จึงไดก้ าหนดวิชากระบ่ีกระบองไวใ้ นหลกั สูตรของประโยคครูผสู้ อนพลศึกษา เม่ือ ปี พ.ศ.2479 นบั แตน่ ้นั มาไดม้ ีผเู้ ล่าเรียนและสาเร็จการศึกษามากข้นึ เป็นลาดบั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook