Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปโครงการรจนา A

สรุปโครงการรจนา A

Published by Rojana khunket, 2021-11-08 07:29:07

Description: สรุปโครงการรจนา A

Search

Read the Text Version

สรปุ ผลโครงการ ค่ายเสริมสรา้ งคุณธรรม จรยิ ธรรม นาความร้สู ่คู วามพอเพยี ง ประจาปี งบประมาณ 2561 ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอโชคชัย สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดนครราชสีมา

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอโชคชัย สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดนครราชสีมา



ก คำนำ เอกสารสรปุ ผลโครงการเลม่ นี้ จดั ทำขนึ้ เพ่ือสรุปผลการดำเนนิ งานโครงการค่ายเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม นำความรู้สู่ความพอเพียง ของศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอโชคชัย เพือ่ รวบรวมข้อมูลสรุปผลการดำเนินงาน วิธีการดำเนินงาน ปญั หา อปุ สรรค ขอ้ เสนอแนะ และแนวทางแกไ้ ข เพื่อเปน็ ขอ้ มูลสำหรบั ใช้ในการพัฒนาการดำเนนิ งานในครั้งตอ่ ไป คณะผูจ้ ัดทำหวงั เป็นอย่างยิง่ ว่าเอกสารเล่มน้ี จะเปน็ ประโยชนต์ อ่ การศึกษาค้นคว้าและเป็นแนวทาง ในการจดั กิจกรรมเพือ่ พฒั นาผเู้ รียนดา้ นอ่นื ๆ ต่อไป ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอโชคชยั ธันวาคม 2561

ข สารบญั เนอื้ หา หนา้ คำนำ ก สารบัญ ข บทที่ 1 บทนำ 1 หลกั การและเหตผุ ล 1 วัตถปุ ระสงค์ 2 เป้าหมาย 2 ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ 2 เครือข่ายท่เี กีย่ วข้อง 2 โครงการทีเ่ กี่ยวขอ้ ง 2 ผลลพั ธ์ 2 ดัชนชี วี้ ดั ผลสำเรจ็ ของโครงการ 3 การตดิ ตามและประเมินผล บทท่ี 2 เอกสารการศึกษาและรายงานทเี่ กีย่ วขอ้ ง 4 ความหมายของคุณธรรมจรยิ ธรรม 5 ความสำคัญของคณุ ธรรมจริยธรรม 8 สอดคล้องกับนโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน. ประจำปี งบประมาณ พศ. 2561 9 บทท่ี 3 วธิ กี ารดำเนินงาน 14 บทที่ 4 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู 19 บทที่ 5 สรปุ ผล อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ 21 บรรณานกุ รม ภาคผนวก ตารางวิเคราะห์ขอ้ มูล โดยใช้โปรแกรม SPSS คณะผจู้ ดั ทำ ภาพถา่ ยกิจกรรม แบบประเมนิ โครงการค่ายคณุ ธรรม จริยธรรม นำความรู้สู่ความพอเพียง คำกล่าวเปดิ รายช่อื ผูเ้ ข้ารว่ มโครงการ คำสง่ั โครงการค่ายเสรมิ สร้างคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรู้ส่คู วามพอเพียง โครงการค่ายเสริมสรา้ งคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความร้สู ู่ความพอเพยี ง



บทท่ี 1 บทนำ 1. หลักการและเหตผุ ล ปจั จบุ นั พบว่าเยาวชนมีปัญหาทางดา้ นจติ ใจ มีความเสือ่ มในเรอื่ งคุณธรรมและจริยธรรม นบั วนั มีความรุนแรงเพม่ิ มากขึ้น จำเปน็ ตอ้ งมีมาตรการแก้ไขที่ดีพอ เพอื่ ปอ้ งกันปัญหาทม่ี ีผลกระทบต่อความมนั่ คงของ ชาติ ปญั หาสังคม ทม่ี เี ยาวชนเกยี่ วขอ้ งเป็นปญั หาท่ีมมี านาน เนือ่ งจากขาดการปลกู ฝงั คณุ ธรรมจริยธรรม การ แก้ปญั หาขาดความต่อเน่ืองขาดความเอาใจใส่อย่างจริงจงั เยาวชนเป็นอนาคตและเป็นกำลงั อันสำคญั ของ ประเทศชาติทจี่ ะชว่ ยกันพัฒนาบา้ นเมอื งใหม้ คี วามเจริญรงุ่ เรืองมคี วามม่นั คงทุก ๆ ด้าน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง สงั คม และเทคโนโลยี และด้านอ่ืน ๆ ดั้งนัน้ เยาวชนจงึ ตอ้ งเป็นผู้ไดร้ บั การอบรม ดูแล และปลูกฝังทง้ั ความรคู้ ณุ ธรรม และจริยธรรม ใหเ้ ปน็ ผมู้ ีความพรอ้ ม ความสมบรู ณ์ เปน็ ผู้มคี วามรู้ความสามารถ และ จำเปน็ ตอ้ งมีการปลกู ฝงั เยาวชนใหต้ ระหนัก ท้งั กาย วาจา ใจ ใหเ้ ปน็ ผมู้ ีจติ ใจงดงาม จำเปน็ ตอ้ งไดร้ ับการฝึกฝน การเรียนรู้ เพือ่ พฒั นาสุนทรียภาพและลกั ษณะนิสยั สำนักงาน กศน. ไดก้ ำหนดยุทธศาสตรส์ รา้ งอดุ มการณ์ รกั ชาติ ศาสนา กษตั ริย์ และสรา้ งค่านิยม ท่พี ึงประสงค์ โดยมจี ุดเนน้ การดำเนินงานให้สถานศึกษาส่งเสริมการจัดกจิ กรรม เพื่อพฒั นาทักษะชวี ิต การสรา้ ง คุณธรรมจรยิ ธรรม มจี ิตอาสา จิตสาธารณะ การตา้ นยาเสพตดิ ซ่งึ มีการจดั กิจกรรมการศกึ ษาและการจดั กิจกรรม การพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน โดยผา่ นกระบวนการคา่ ยคุณธรรมจรยิ ธรรม อันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข และ เป็นกระบวนการพฒั นาคนและแก้ไขปัญหาสังคม ให้มคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงคส์ บิ เอด็ ประการ และเปน็ กจิ กรรม หน่ึงที่จะปลูกฝังใหน้ ักศึกษา กศน. เปน็ ผมู้ ีคณุ ธรรมจริยธรรม มคี วามกตัญญูกตเวที มคี วามประพฤติและปฏบิ ตั ิตน เป็นคนดี และดำรงชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอโชคชยั ไดต้ ระหนักถึงความสำคญั ในการ ปลูกจติ สำนึก การปลกู ฝงั ทงั้ ความรู้ คณุ ธรรม และจริยธรรม ใหเ้ ป็นผู้มคี วามพรอ้ ม ความสมบูรณ์ และการ ปลกู ฝงั นกั ศึกษาให้ตระหนัก ทง้ั กาย วาจา ใจ ใหเ้ ป็นผมู้ จี ิตใจงดงามและคุณคา่ ความหลากหลายของศิลปะและ วัฒนธรรมไทย ค่านิยมที่ดงี าม จึงไดจ้ ดั โครงการคา่ ยเสริมสร้างคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ ่คู วามพอเพียง ขน้ึ 2. วตั ถปุ ระสงค์ 2.1 เพ่ือส่งเสรมิ ให้นักศึกษา กศน.อำเภอโชคชยั มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำหลักธรรมไปใช้ใน การดำรงชีวิตให้เกิดประโยชน์สงู สดุ และมีสุขภาพทัง้ กายและจิตใจทส่ี มบูรณ์อยรู่ ่วมกบั สังคมไดอ้ ย่างมคี วามสุข 2.2 เพือ่ ใหน้ ักศึกษา สามารถพัฒนาตัวเอง ให้คิดเปน็ ทำเป็น แก้ปญั หาเปน็ สรปุ โครงการคา่ ยเสรมิ สร้างคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ ูค่ วามพอเพียง ประจำปงี บประมาณ 2561 1

3. เป้าหมาย 3.1 เชงิ ปรมิ าณ นกั ศกึ ษา กศน. อำเภอโชคชยั จำนวน 110 คน 3.2 เชิงคณุ ภาพ 3.2.1 นกั ศกึ ษา กศน.อำเภอโชคชัย มีคณุ ธรรม จริยธรรม มีทัศนคตทิ ี่ดตี ่อการดำรงชวี ติ สามารถแก้ปญั หาชวี ติ โดยนำธรรมะ มาประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวนั อยา่ งมีประสิทธิภาพ เกิดทักษะในการอยู่ ร่วมกนั ในสังคม และรคู้ ุณคา่ ของหลักธรรมในทางศาสนาว่าสามารถนำมาปรับใช้ในการดำเนินชวี ิตได้อยา่ งมี ความสุข 3.2.2 นักศกึ ษา กศน.อำเภอโชคชยั มคี วามรู้ความเขา้ ใจในสิทธิและหนา้ ทค่ี วามเป็นพลเมอื งไทย ดำเนินชีวิตตามวถิ ีไทยได้อยา่ งมีความสขุ 4. ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ คีรแี ลง ครู 4.1 นางพกิ ลุ กานต์ ขวญั เกตุ ครู กศน.ตำบล 4.2 นางสาวรจนา ปรอื ทอง ครู กศน.ตำบล 4.3 นางสาวพรรณี ขวญั เกตุ ครู ศรช. 4.4 นางสาวสภุ าวดี คูณเพิม่ พูนทอง ครู ศรช. 4.5 นางสาวอณญั ญา 5. เครอื ขา่ ยทเ่ี กย่ี วขอ้ ง วัดยองแยง ตำบลหนองระเวียง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสมี า 6. โครงการทเี่ กย่ี วขอ้ ง โครงการคา่ ยเปดิ โลกการศึกษาส่กู ารเรียนรู้ตลอดชีวิต กศน.อำเภอโชคชัย 7. ผลลพั ธ์ (Outcomes) นักศึกษา กศน. อำเภอโชคชัยที่เข้าร่วมโครงการฯ มีคุณธรรม จริยธรรม เกิดทักษะในการดำรงชีวิตตาม วัฒนธรรมไทยและพัฒนาศักยภาพในการทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีสุขภาพทั้งกายและจิตใจท่ีสมบูรณ์อยู่ ร่วมกบั ผู้อ่ืนได้อย่างมคี วามสขุ 8. ดชั นชี ว้ี ดั ความสำเรจ็ ของโครงการ 8.1 ตัวชีว้ ัดผลผลิต ( Outputs ) นักศึกษา กศน.อำเภอโชคชัย ที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 110 คน ตระหนักถึงความสำคัญด้าน คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ และปฏิบตั ติ นเปน็ คนดี สรปุ โครงการค่ายเสริมสรา้ งคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ ู่ความพอเพยี ง ประจำปีงบประมาณ 2561 2

8.2 ตัวชี้วัดผลลัพธ์ ( Outcomes ) นักศึกษา กศน.อำเภอโชคชัยที่เข้าร่วมโครงการฯ ร้อยละ 90 นำหลักคุณธรรม จริยธรรม คุณค่าของหลักธรรมในทางศาสนามาปรับใช้ในการทำงาน การดำเนินชีวิตของตนและครอบครัว พัฒนาตัวเอง ให้คิดเปน็ ทำเปน็ แกป้ ญั หาเปน็ รสู้ ิทธิและหนา้ ท่ีของตนเองในฐานะพลเมืองไทย 9. การตดิ ตามและการประเมินผลโครงการ 9.1 การสังเกตการมีส่วนรว่ ม 9.2 แบบประเมินโครงการ สรุปโครงการคา่ ยเสริมสรา้ งคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรู้สู่ความพอเพียง ประจำปีงบประมาณ 2561 3

บทท่ี 2 เอกสารการศกึ ษาและงานวจิ ยั ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ในการจดั ทำรายงานครง้ั นี้ได้ทำการศึกษาค้นคว้าเนื้อหาจากเอกสารการศึกษาและงานวิจัยท่เี กีย่ วขอ้ ง ดังต่อไปน้ี 1. ความหมายของคุณธรรมจรยิ ธรรม 2. ความสำคญั ของคุณธรรมจรยิ ธรรม 3. สอดคลอ้ งกับนโยบายและจดุ เนน้ การดำเนนิ งาน สำนักงาน กศน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 1. ความหมายของคุณธรรมจรยิ ธรรม คำวา่ “คุณธรรมจริยธรรม” น้ี เปน็ คำทค่ี นส่วนใหญจ่ ะกล่าวควบคู่กันเสมอ จนทำใหเ้ ข้าใจผดิ ได้ว่า คำทง้ั สองคำมีความหมายอยา่ งเดียวกันหรือมีความหมายเหมือนกนั แท้ท่ีจรงิ แล้วคำวา่ “คณุ ธรรม” กบั คำว่า “จรยิ ธรรม” เป็นคำแยกออกได้ 2 คำ และมคี วามหมายแตกต่างกันคำว่า “ คุณ” แปลว่า ความดี เปน็ คำที่มี ความหมายเปน็ ทางนามธรรม ส่วนคำว่า “จรยิ ” แปลวา่ ความประพฤติกริยาทค่ี วรประพฤติเปน็ คำทม่ี ีความหมาย ทางรูปธรรม ดงั นั้น จึงควรท่ผี ู้บรหิ ารจะต้องทำความเข้าใจเกย่ี วกบั ความหมายของคำสองคำนี้ให้ถ่องแทก้ ่อน พจนานกุ รมฉบับราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ. 2525 (2538 : 189) ใหค้ วามหมายว่า “คุณธรรม หมายถึง สภาพคณุ งามความดี” พระธรรมปฎิ ก (ป.อ.ยตุ โต ) (2540: 14) ได้กลา่ วว่าคุณธรรมเปน็ ภาพของจิตใจกล่าวคือคณุ สมบัตทิ ่ี เสรมิ สร้างจิตใจใหด้ งี าม ใหเ้ ป็นจิตใจทส่ี ูง ประณีตและประเสริฐ เช่น เมตตา คือ ความรักปรารถนาดี เป็นมิตร อยากให้ผูอ้ น่ื มีความสุข กรณุ า คือ ความสงสารอยากชว่ ยเหลอื ผู้อ่นื มคี วามสุข มทุ ิตา คือ ความพลอยยนิ ดีพร้อมที่จะสง่ เสรมิ สนับสนุนผู้ท่ีประสบความสำเรจ็ ให้มีความสุขหรือ กา้ วหนา้ ในการทำสิง่ ท่ดี งี าม อุเบกขา คือ การวางตวั วางใจเป็นกลาง เพ่ือรักษาธรรมเมื่อผู้อน่ื ควรจะต้องรับผดิ ชอบต่อการ กระทำของเขาตามเหตุและผล จาคะ คือ ความมีน้ำใจเสียสละ เอ้ือเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่เห็นแกต่ ัว วศิน อินทสระ (2541: 106,113) กล่าวตามหลักจริยศาสตร์วา่ คณุ ธรรม คอื อุปนสิ ัยอันดงี ามซึง่ สั่งสมอยู่ ในดวงจิต อุปนสิ ัยอันน้ีได้มาจากความพยายามและความประพฤติติดต่อกันมาเป็นเวลานาน คณุ ธรรมสมั พันธ์กับ หน้าท่อี ย่างมาก เพราะการทำหนา้ ทจ่ี นเปน็ นิสยั จะกลายเปน็ อุปนิสยั อันดีงามท่สี งั่ สมในดวงจิตเปน็ บารมี มลี ักษณะอยา่ งเดยี วกันน้ี ถ้าเป็นฝ่ายชั่ว เรยี กว่า “อาสวะ” คือ กเิ ลสทีห่ มักหมมในดวงจิต ย้อมจิตใหเ้ ศรา้ หมอง เกรอะกรงั ด้วยความชวั่ นานาประการกลายเปน็ สนั ดานชว่ั ทำให้แก้ไขยากสอนยาก กลา่ วโดยสรปุ คุณธรรม คือ สรุปโครงการค่ายเสรมิ สร้างคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ คู่ วามพอเพยี ง ประจำปงี บประมาณ 2561 4

ความล้ำเลศิ แหง่ อุปนิสัยซงึ่ เป็นผลของการการะทำหนา้ ท่ีจนกลายเปน็ นิสัยนัน่ เอง พระเมธีธรรมาภรณ์ (ประยรู ธมมจิตโต) (2538: 15-16) กลา่ ววา่ คณุ ธรรมคือคุณสมบตั ิทด่ี ีของจิตใจ ถ้าปลกู ฝังเร่ืองคุณธรรมได้จะเป็นพืน้ ฐานจรรยาบรรณ จรรยาบรรณน้ีเปน็ เรื่องพฤตกิ รรมในการที่จะพฒั นาต้อง ตคี วามออกไปวา่ พฤตกิ รรมเหลา่ นมี้ พี ้ืนฐานจากคณุ ธรรมข้อใด เชน่ เบญจศีลเปน็ จริยธรรม เบญจธรรมเป็น คณุ ธรรมคือ ความเมตตากรุณา ถา้ มีความเมตตากรณุ าจะมฐี านของศลี ข้อท่ี 1 เป็นต้น ส่วนจรยิ ธรรม พจนานกุ รม ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ.2525 (2538 : 216 ) ใหค้ วามหมายว่า “จริยธรรมหมายถึง ธรรมที่เปน็ ขอ้ ประพฤติ ปฏิบัติ ศีลธรรม กฎศีลธรรม” พระเมธธี รรมาภรณ์ (ประยูร ธมมจติ โต) (2535: 81-82) กล่าวว่าจริยธรรม คอื หลักแห่งความประพฤติ หรอื แนวทางการปฏบิ ัติ หมายถงึ แนวทางของการปฏิบัติ หมายถงึ แนวทางของการประพฤตปิ ฏิบตั จิ นให้เป็นคนดี เพือ่ ประโยชน์สขุ ของตนเองและสว่ นรวม นอกจากนพี้ ระเมธีธรรมาภรณ์ (ประยรู ธมมจติ โต) (2538: 2) ยังให้แนวคดิ ว่าจริยธรรมคอื หลกั แห่งความ ประพฤตดิ ีงามสำหรบั ทุกคนในสังคม ถ้าเป็นขอ้ ปฏิบตั ิท่วั ไป เรียกว่าจริยธรรม ถ้าเป็นข้อควรประพฤติทมี่ สี าสนา เข้ามาเกยี่ วข้อง เราเรยี กวา่ ศีลธรรม แตท่ ัง้ นมี้ ิไดห้ มายความวา่ จริยาธรรมองิ อยู่กับหลกั คำสอนทางศาสนาเพยี ง อย่างเดยี ว แท้ท่ีจริงนน้ั ยังหยั่งรากอยู่บนขนบธรรมเนียมประเพณี แมน้ ักปราชญค์ นสำคัญ เชน่ อรสิ โตเตลิ คานท์ มหาตมะคานธี กม็ สี ว่ นสร้างจรยิ ธรรมสำหรับเป็นแนวทางในการดำรงชวี ติ ของคนจำนวนหนึง่ จากทศั นะของพระเมธีธรรมภรณด์ ังกล่าวข้างตน้ นี้ จะเห็นได้ว่าจริยธรรมไม่แยกเดด็ ขาดจากศีลธรรม แต่ มคี วามหมายกว้างกวา่ ศลี ธรรม ศีลธรรมเป็นหลกั คำสอนท่ีว่าดว้ ยความประพฤตชิ อบ ส่วนจรยิ ธรรม หมายถึง หลักแห่งความประพฤติดีประพฤตชิ อบอนั วางรากฐานอยูบ่ นหลกั คำสอนของศาสนา ปรัชญาและขนบธรรมเนียม ประเพณี ทา่ นผู้นีม้ องจริยธรรมในฐานะทเ่ี ปน็ ระบบ อนั มศี ีลธรรมเปน็ ส่วนประกอบสำคัญ แตก่ ็มีแนวคดิ ปรัชญา คา่ นยิ ม ตลอดจนธรรมเนียมประเพณีเขา้ มาเก่ยี วข้องดว้ ยจากท่กี ล่าวมาทง้ั หมดพอสรุปได้วา่ คำว่า คุณธรรม จริยธรรม สองคำนี้เป็นคำที่มีความหมายเก่ยี วขอ้ งกันในด้านคุณงามความดี กลา่ วคือ จริยธรรมคอื ความประพฤติ ทถ่ี กู ต้องดงี ามทง้ั กายและวาจา สมควรทีบ่ คุ คลจะประพฤติปฏบิ ตั ิ เพอื่ ให้ตนเองและคนในสงั คมรอบข้างมีความสขุ สงบ เยอื กเยน็ จริยธรรมเปน็ เรื่องของการฝกึ นิสยั ท่ดี ี โดยกระทำอยา่ งต่อเนอื่ งสมำ่ เสมอจนเป็นนิสัย ผู้มคี วาม ประพฤติดงี ามอย่างแท้จรงิ จะต้องเป็นผมู้ ีความร้สู กึ ในด้านดีอยตู่ ลอดเวลา คือ มี “คุณธรรม” อยู่ในจติ ใจหรืออาจ กลา่ วได้วา่ จรยิ ธรรมเป็นเรือ่ งของการประพฤติปฏิบตั เิ ปน็ พฤติกรรมภายนอก ส่วนคณุ ธรรมเปน็ สภาพคณุ งามความ ดีภายในจิตใจ ซึง่ ทง้ั สองส่วนต้องเกี่ยวขอ้ งสมั พันธก์ ัน พฤติกรรมของคนทีแ่ สดงออกมาทั้งทางกายและวาจานั้น ย่อมเก่ียวเนื่องสัมพนั ธ์และเป็นไปตามความร้สู ึกนกึ คิดทางจิตใจและสติปญั ญา การพฒั นาคุณธรรมจริยธรรมของ บคุ คลจึงต้องพฒั นาทัง้ 3 ด้าน ควบคู่กนั ไป คือ การพฒั นาดา้ นสติปญั ญา ดา้ นจติ ใจและด้านพฤติกรรม 2. ความสำคญั ของคณุ ธรรมจรยิ ธรรม คุณธรรมจรยิ ธรรมนบั ว่าเป็นพน้ื ฐานท่ีสำคัญของคนทุกคนและทุกวิชาชพี หากบุคคลใดหรอื วชิ าชีพใดไม่มี คณุ ธรรมจรยิ ธรรมเป็นหลกั ยึดเบือ้ งต้นแล้วก็ยากทจ่ี ะก้าวไปสคู่ วามสำเรจ็ แห่งตนและแห่งวิชาชพี น้ัน ๆ ที่ ยิง่ กว่านนั้ กค็ ือการขาดคณุ ธรรมจรยิ ธรรมท้งั ในส่วนบุคคลและในวิชาชีพ อาจมผี ลรา้ ยต่อตนเอง สงั คมและวงการ วชิ าชพี ในอนาคตได้อกี ดว้ ย ดังจะพบเห็นได้จากการเกดิ วิกฤติศรทั ธาในวิชาชีพหลายแขนงในปัจจบุ นั ทั้งวงการ สรุปโครงการคา่ ยเสรมิ สรา้ งคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรูส้ ู่ความพอเพียง ประจำปงี บประมาณ 2561 5

วชิ าชพี ครู แพทย์ ตำรวจ ทหาร นักการเมืองการปกครอง ฯลฯ จงึ มคี ำกลา่ ววา่ เราไมส่ ามารถสร้างครดู บี นพืน้ ฐาน ของคนไม่ดี และไม่สามารถสรา้ งแพทย์ ตำรวจ ทหารและนักการเมืองทดี่ ี ถา้ บุคคลเหล่านนั้ มพี นื้ ฐานทางนิสัยและ ความประพฤติทไ่ี มด่ ี ดังพระบรมราโชวาทพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ภมู ิพลอดลุ ยเดชฯ ในพระราชพธิ ี บวงสรวงสมเดจ็ พระมหากษัตริยาธริ าช ณ ท้องสนามหลวง เมือ่ วนั จันทร์ท่ี 5 เมษายน พ. ศ. 2525 ไว้ ดงั น้ี “.....การจะทำงานให้สัมฤทธิ์ผลทพ่ี ึงปรารถนา คือใหเ้ ปน็ ประโยชนแ์ ละเป็นธรรมดว้ ยนน้ั จะอาศัยความรู้ แตเ่ พยี งอย่างเดียวมิได้ จำเป็นต้องอาศยั ความสจุ ริต ความบรสิ ทุ ธใ์ิ จ และความถูกต้องเป็นธรรม ประกอบดว้ ย เพราะเหตุว่าความรู้น้นั เสมือนเคร่ืองยนต์ทีท่ ำให้ยวดยานเคลอื่ นท่ีไปไดป้ ระการเดยี ว สว่ นคุณธรรมดงั กล่าวแลว้ เปน็ เสมือนหนึ่งพวงมาลัยหรือหางเสอื ซ่ึงเป็นปัจจยั ทน่ี ำทางให้ยวดยานดำเนินไปถูกทางด้วยความสวัสดี คอื ปลอดภัย บรรลุจดุ ประสงค.์ .” จรยิ ธรรมจงึ เป็นสิง่ สำคัญในสังคม ทจ่ี ะนำความสุขสงบและความและความเจรญิ ก้าวหนา้ มาสู่สงั คมนน้ั ๆ เพราะเม่อื คนในสังคมมีจรยิ ธรรม จติ ใจกย็ อ่ มสูงส่ง มคี วามสะอาด และสว่างในจิตใจ จะทำการงานใดก็ไม่ ก่อใหเ้ กิดความเดือดร้อน ไม่ก่อให้เกิดทกุ ขแ์ ก่ตนเองและผู้อื่น เปน็ บคุ คลมีคุณค่ามีประโยชน์ และสรา้ งสรรคค์ ณุ งามความดี อันเป็นประโยชน์ตอ่ บา้ นเมืองต่อไป วศนิ อินทสระ (2541 : 6-9) ได้กลา่ วถงึ ความสำคญั และประโยชน์ของจรยิ ธรรมดังจะกล่าวโดยย่อ ดงั น้ี 1. จริยธรรมเปน็ รากฐานอนั สำคญั แห่งความเจรญิ รงุ่ เรือง ความมน่ั คงและความสงบสุขของ ปจั เจกชน สังคมและประเทศชาตอิ ย่างย่ิง รัฐควรส่งเสริมประชาชนใหม้ จี รยิ ธรรมเป็นอันดบั แรก เพื่อให้เปน็ แกนกลางของการพฒั นาดา้ นอื่น ๆ ท้ังเศรษฐกจิ การศกึ ษา การเมอื งการปกครอง ฯลฯ การพฒั นาท่ีขาดจริยธรรม เปน็ หลักยึดย่อมเกิดผลรา้ ยมากกวา่ ดี เพราะผู้มีความรู้แต่ขาดคุณธรรม ยอ่ มก่อให้เกิดความเสือ่ มเสยี ได้มากกวา่ ผดู้ ้อยความรู้ โดยท่านกลา่ ววา่ “ ผูม้ คี วามรูแ้ ต่ไม่ร้วู ิธีที่จะประพฤตติ น ยอ่ มก่อให้เกิดความเสือ่ มเสียได้มากกว่า ผมู้ คี วามรู้นอ้ ย ถ้าเปรยี บความรู้เหมอื นดนิ จรยิ ธรรมย่อมเปน็ เหมือนนำ้ ดนิ ที่ไม่มนี ำ้ ยดึ เหน่ียวเกาะกุมย่อมเปน็ ฝุน่ ละอองใหค้ วามรำคาญมากกว่าให้ประโยชน์ คนท่ีมีความร้แู ต่ไมม่ จี ริยธรรมจงึ มักเป็นคนที่ก่อความรำคาญหรือ เดือดรอ้ นใหแ้ กผ่ ู้อ่นื อยู่เนือง ๆ” 2. การพัฒนาบา้ นเมอื ง ต้องพัฒนาจติ ใจคนก่อน หรอื อยา่ งน้อยกใ็ ห้พรอ้ มๆไปกบั การพัฒนา เศรษฐกิจ สังคม การศึกษาวชิ าการอน่ื ๆ เพราะการพฒั นาท่ีไม่มีจรยิ ธรรมเป็นแกนนำน้ันจะสญู เปลา่ และเกิด ผลเสยี เปน็ อนั มากทำใหบ้ คุ คลลุม่ หลงในวตั ถุและอบายมุข การทเ่ี ศรษฐกิจต้องเส่ือมโทรม ประชาชนทุกขย์ าก เพราะคนในสังคมละเลยจริยธรรม กอบโกยทรัพย์สนิ เป็นประโยชน์ส่วนตัวมากเกนิ ไปขาดความเมตตาปราณี แลง้ นำ้ ใจในการดำเนนิ ชวี ติ ซ่ึงกันและกนั 3. จริยธรรม มไิ ดห้ มายถงึ การถอื ศลี กินเพล เขา้ วดั ฟังธรรม จำศลี ภาวนา โดยไม่ชว่ ยเหลือทำ ประโยชนใ์ ห้แก่สงั คม แต่จรยิ ธรรมหมายถงึ ความประพฤติ การกระทำและความคิดที่ถูกต้องเหมาะสมการทำ หนา้ ท่ีของตนอย่างถูกต้องสมบรู ณ์ เว้นสงิ่ ควรเวน้ ทำส่ิงควรทำ ดว้ ยความฉลาดรอบคอบ รเู้ หตุรผู้ ลถูกต้องตาม กาลเทศะและบุคคล ดงั นัน้ จะเห็นวา่ จรยิ ธรรมจึงจำเปน็ และมคี ุณคา่ สำหรับทุกคนในทุกวิชาชพี ทกุ สงั คม สังคมจะ อยู่รอดดว้ ยจริยธรรม สรปุ โครงการค่ายเสริมสร้างคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรูส้ ่คู วามพอเพยี ง ประจำปีงบประมาณ 2561 6

4. การทจุ รติ คดโกง การเบียดเบียนกนั ในรูปแบบต่าง ๆ อันเปน็ เหตุให้สงั คมเสื่อมโทรม มีสาเหตุ มาจากการขาดจรยิ ธรรมของคนในสังคม ทรัพยากรธรรมชาติในโลกนน้ี า่ จะพอเลยี้ งชาวโลกไปไดอ้ ีกนาน ถ้า ชาวโลกช่วยกนั ละทง้ิ ความละโมบโลภมาก แล้วมามีชีวิตอยอู่ ยา่ งเรียบง่าย ช่วยกนั สรา้ งสรรคส์ ังคม ยดึ เอา จริยธรรมเป็นทางดำเนินชวี ิต ไม่ใช่ยึดเอาลาภยศความมหี น้ามีตาในสงั คมเป็นจดุ หมาย ถ้าสิ่งน้ันจะเกดิ ขน้ึ ก็ถอื เป็นเพียงผลพลอยได้และนำมาใช้เปน็ เครื่องมอื ในการประพฤตธิ รรม เช่น อาศยั ลาภผลเปน็ เครื่องมือในการ บำเพ็ญสาธารณประโยชน์อาศัยยศและความมหี น้ามีเกยี รติในสงั คมเป็นเครอ่ื งมือในการจูงใจคนผู้เคารพนบั ถือ เข้าหาธรรม 5. จริยธรรมสอนให้เราเลิกดูหม่นิ กดข่ีคนจน ให้เอาใจใสด่ ูแลเออ้ื อาทรต่อผู้สงู อายุ ซ่ึงเปน็ บุพการี ของชาติ สอนใหเ้ ราถ่อมตัวเพ่ือเข้าหากนั ได้ดีกบั คนทั้งหลาย และไม่วางตวั โอหังอวดดีหรือกา้ วร้าวผู้อ่นื สอนให้เรา ลดทิฐมิ านะลงให้มาก ๆ เพ่อื จะได้มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ตามความจรงิ ไม่หลงสำคญั ตวั ว่ารู้ดกี วา่ มีความสามารถกวา่ ใคร ผูน้ ำทม่ี จี รยิ ธรรมสงู ย่อมเป็นทีเ่ คารพกราบไหวข้ องทัง้ หลายได้อย่างสนิทใจ เราควรเลือกผู้นำทีส่ ามารถนำ ความสงบสขุ ทางใจมาสูม่ วลชนไดด้ ว้ ย เพ่ือสนั ตสิ ุขจะเกิดข้ึนทัง้ ภายในและภายนอก ความแขง็ แกร่งทางกำลังกาย กำลงั ทรพั ย์และอาวุธนั้น ถ้าปราศจากความแขง็ แกร่งทางจริยธรรมเสยี แลว้ บคุ คลหรอื ประเทศชาตจิ ะมน่ั คงอยู่ได้ ไม่นาน สงั คมทเ่ี จริญม่นั คงต้องมีจริยธรรมเป็นแกนกลาง เหมือนถนนท่มี น่ั คงหรอื ตึกท่ีแข็งแรง เขาใช้คอนกรีต เสรมิ เหล็กแม้เหล็กจะไม่ปรากฏออกมาใหเ้ ห็นภายนอก แตม่ คี วามสำคัญอยูภ่ ายในนายชา่ งย่อมร้ดู ี ทำนองเดยี วกนั กับบัณฑิตยอ่ มมองเหน็ อยา่ งแจม่ แจ้งวา่ จรยิ ธรรมมีความสำคญั ในสงั คมเพยี งใด จากข้อความที่กลา่ วมาทั้งหมดน้ี พอสรุปไดว้ า่ คุณธรรมจรยิ ธรรมเป็นรากฐานสำคญั ในการพฒั นาคน ปัญหาของสังคมไทยทป่ี ระสบพบเห็นอยู่ทุกวันน้เี กดิ จาก “คน” ปญั หาเรมิ่ ตน้ ที่ “คน” และมผี ลกระทบถึง “คน” การแกป้ ัญหาสงั คมไทยจงึ ต้องแก้ด้วย “การพฒั นาคน” เพ่ือใหค้ นมปี ัญญา มีความรู้มีคุณธรรมและมีทกั ษะในการ แกป้ ญั หาชวี ติ ปัญหาจึงอยู่ทีว่ า่ เราจะพฒั นาคนอยา่ งไรเพ่ือให้คนมีชีวติ ทีด่ ีงามสามารถใช้ความรแู้ ละแก้ปญั หาได้ สรา้ งสรรคไ์ ด้ ปฏบิ ตั ิตอ่ เทคโนโลยีอย่างถูกต้อง อยู่ในระบบการแขง่ ขันทางเศรษฐกิจได้ บริโภคผลผลติ ด้วยปญั ญา รู้อะไรดี อะไรช่วั มีทศั นคติทางจรยิ ธรรมท่เี หมาะสม ฯลฯ ทง้ั หมดนเ้ี ป็นคุณสมบัติของคนทีม่ ีคณุ ธรรม การจัดการ ศึกษาคงต้องยดึ หลักสำคัญคือ “ใหค้ วามรู้คู่คณุ ธรรม” สังคมไทยจงึ จะมีสมาชิกของสงั คมที่เป็นทงั้ คนเก่งและคนดี ดังคำกลอนของอำไพ สุจรติ กุล (2534 : 186) กลา่ วไว้ ดังนี้ เมื่อความรยู้ อดเย่ยี มสูงเทียมเมฆ แตค่ ุณธรรมต่ำเฉกยอดหญ้านนั่ อาจเสกสร้างมิจฉาสารพนั ดว้ ยจิตอนั ไร้อายในโลกา แม้คุณธรรมเยี่ยมถึงเทียมเมฆ แต่ความรตู้ ่ำเฉกเพียงยอดหญ้า ยอ่ มเป็นเหยื่อทรชนจนระอา ด้วยปัญญาออ่ นดอ้ ยน่านอ้ ยใจ หากความรู้สงู ลำ้ คุณธรรมเลิศ แสนประเสริฐกอปริกิจวนิ จิ ฉัย จะพฒั นาประชาราษฎรท์ ้ังชาตไิ ทย ตอ้ งฝกึ ให้ความรู้คู่คุณธรรม อำไพ สจุ รติ กุล (2534: 186) สรุปโครงการคา่ ยเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรู้สูค่ วามพอเพยี ง ประจำปีงบประมาณ 2561 7

คณุ ธรรมพ้นื ฐานของผนู้ ำ “....ในฐานะทีเ่ ปน็ ครอู าจารย์ หวั หนา้ งาน จำเปน็ ตอ้ งมีความสุจรติ ยุติธรรม ทำตัวใหเ้ ป็นตวั อยา่ ง เปน็ ทีพ่ ึ่ง ของผูอ้ ย่ใู ตบ้ ังคบั บัญชา ไม่ยอมแพพ้ ่ายตอ่ ความโลภ ความลมื ตวั ความริษยา ความแตกรา้ ว ต้องมุง่ มัน่ ในประโยชน์อนั รงุ่ เรอื งไพศาล ของส่วนรวมเป็นเปา้ หมาย จึงจะไดช้ ื่อว่าประสบความสำเร็จ และมีชอื่ เสียงเกียรติคุณทุกประการ ดงั ท่ปี รารถนา.........” พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช 3. สอดคลอ้ งกับนโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน.ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2561 ภารกิจตอ่ เนื่อง 1. ด้านการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ ข้อ 6.) ส่งเสรมิ ให้ผเู้ รียนต้องเรยี นรูแ้ ละปฏิบตั ิกิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต เพ่ือดำเนินกิจกรรม เสรมิ สรา้ งความสามคั คี บำเพ็ญสาธารณประโยชน์อยา่ งต่อเนื่อง และส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุข เช่น กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี และยวุ กาชาด กจิ กรรมอาสา การจดั ต้ัง ชมรม/ชมุ นุม และเปิดโอกาสให้ผเู้ รียนนำกิจกรรมการบำเพ็ญประโยชน์อื่น ๆ นอกหลักสูตร มาใชเ้ พิม่ ชั่วโมง กิจกรรมใหผ้ เู้ รียนจบตามหลกั สูตรได้ สรุปโครงการค่ายเสรมิ สร้างคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรู้สูค่ วามพอเพยี ง ประจำปงี บประมาณ 2561 8

บทที่ 3 วธิ กี ารดำเนนิ งาน การดำเนินงานโครงการค่ายเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม นำความรู้สู่ความพอเพียง คณะทำงานได้ ดำเนินงาน ดังน้ี 1. ประชุม/ชี้แจงวางแผนการดำเนินงาน แก่บุคลากร กศน.อำเภอโชคชัย เพ่ือกำหนดรูปแบบ และแผนการดำเนินงาน ในวนั ท่ี 15 พฤศจกิ ายน 2561 ณ ห้องประชุม กศน.อำเภอโชคชยั 2. ขออนุมัติโครงการ กำหนดกรอบการดำเนินงาน และแนวทางการบริหารจัดการโครงการ ในวนั ที่ 25 พฤศจกิ ายน 2561 ณ กศน.อำเภอโชคชยั 3. จัดเตรียมเอกสาร,วัสดุอุปกรณ์, ประสานวิทยากร และประสานสถานที่ เพ่ือเตรียมความ พร้อมดา้ นเอกสาร,วัสดุอปุ กรณ์, วิทยากร และสถานท่ี ในวันท่ี 22 พฤศจกิ ายน 2561 4. ดำเนินการจดั โครงการคา่ ยเสริมสรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรูส้ ูค่ วามพอเพยี ง ในวันท่ี 6-7 ธันวาคม 2561 วัดยองแยง ต.หนองระเวยี ง อ.เมอื ง จ.นครราชสีมา โดยมีกิจกรรม ดังนี้ ประธานเปดิ โครงการ โดย นายสันติ จริ พรเจรญิ ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษา กศน. อำเภอโชคชยั นางสุมาลี วชั ระมโนกานต์ ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอโชคชัย กลา่ วรายงาน ประธานกลา่ วเปิด โครงการอย่างเปน็ ทางการ วิทยากรบรรยายความรู้ ดังน้ี 4.1 อทิ ธบิ าท 4 และมารยาทชาวพทุ ธ โดยพระสรุ พงษ์ และคณะวิทยากร ดงั นี้ 4.1.2 อทิ ธบิ าท แปลวา่ บาทฐานแหง่ ความสำเรจ็ หมายถึง ส่งิ ซึ่งมีคณุ ธรรม เคร่ืองให้ลถุ ึง ความสำเรจ็ ตามที่ตนประสงค์ ผ้หู วังความสำเร็จในส่ิงใด ตอ้ งทำตนให้สมบูรณ์ ด้วยสง่ิ ที่เรียกวา่ อิทธิบาท ซึง่ จำแนก ไว้เป็น 4 คอื ฉันทะ คอื ความพอใจ ในฐานะเป็นส่งิ ท่ี ตนถือว่า ดที ีส่ ุด ที่มนษุ ย์เรา ควรจะได้ ข้อนี้ เป็น กำลังใจ อนั แรก ท่ที ำให้เกิด คณุ ธรรม ข้อตอ่ ไป ทุกขอ้ วริ ยิ ะ คือความพากเพยี ร หมายถงึ การการะทำทตี่ ิดต่อ ไม่ขาดตอน เปน็ ระยะยาว จนประสบ ความสำเรจ็ คำนี้ มีความหมายของ ความกล้าหาญ เจืออยู่ด้วย ส่วนหนึง่ จติ ตะ หมายถึงความไม่ทอดทิ้ง สิ่งนั้น ไปจากความรูส้ กึ ของตวั ทำสิ่งซงึ่ เปน็ วัตถปุ ระสงค์ นน้ั ใหเ้ ดน่ ชัด อยู่ในใจเสมอ คำนี้ รวมความหมาย ของคำวา่ สมาธิ อยดู่ ว้ ยอย่างเต็มท่ี วมิ ังสา หมายถึงความสอดส่องใน เหตแุ ละผล แหง่ ความสำเร็จ เกยี่ วกับเรื่องน้ัน ๆ ให้ลึกซึง้ ย่ิงๆ ข้นึ ไปตลอดเวลา คำนี้ รวมความหมาย ของคำว่า ปัญญา ไว้อยา่ งเตม็ ท่ี สรปุ โครงการคา่ ยเสริมสร้างคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ ูค่ วามพอเพียง ประจำปีงบประมาณ 2561 9

4.2.2 มารยาทชาวพทุ ธ พทุ ธศาสนกิ ชนพึงปฏบิ ัติตนใหเ้ หมาะสม สงเคราะหแ์ ละบูชาพระภกิ ษุตามควรแกก่ าลเทศะ ทั้งน้ี เพราะพระภิกษเุ ปน็ สาวกของพระบรมศาสนา ถือวา่ ผู้มีความประพฤติดแี ละปฏิบตั ชิ อบ ท้ังต่อพระพทุ ธศาสนา และต่อสงั คม การปฏิบัตติ นท่ีเหมาะสมต่อพระสงฆ์ให้ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา และระเบยี บประเพณที ี่ เป็นแบบแผนสบื ตอ่ กันมา รวมท้ังช่วยส่งิ เสรมิ พระภกิ ษุใหป้ ระกอบกจิ ทางพระพทุ ธศาสนา ซึ่งถอื วา่ เปน็ การเผยแผ่ พระพทุ ธศาสนา และเป็นผ้สู บื ทอดพระพทุ ธศาสนาให้ยั่งยืนนาน ในอนั ท่ีจะก่อประโยชนใ์ ห้แกส่ งั คม และ มนุษยชาติโดยรวมสบื ต่อไป 1. การปฏบิ ตั ิตนทเี่ หมาะสมตอ่ พระภกิ ษุทางกาย การปฏบิ ตั ติ นทเ่ี หมาะสมต่อพระภกิ ษทุ างกาย เปน็ การแสดงความเคารพต่อพระภกิ ษุซ่ึงแสดง ถงึ ความเคารพอ่อนน้อม แสดงถึงมารยาทท่ีปฏิบัติสืบต่อกนั มาเปน็ ระเบียบประเพณี การปฏิบตั ติ นทเ่ี หมาะสมทาง กาย เชน่ การลกุ ข้ึนต้องรบั และยกมือไหว้ เมื่อพระภิกษุมาถึงยังบริเวณพิธนี ้นั ๆ การประนมมือฟังพระธรรม เทศนา การเจริญพระพุทธมนต์ การฟังสวดอภิธรรม หรือขณะท่ีพดู กับพระภิกษุ เปน็ ต้น การกราบแบบเบญจาง คประดิษฐ์ การถวายสง่ิ ของใหพ้ ระสงฆ์ด้วยการประเคน การเดินผ่านพระสงฆ์ การยืนต้อนรบั พระสงฆ์ การน่ังในที่ ทีเ่ หมาะสม ซึ่งจะต้องปฏบิ ตั ใิ ห้ถูกต้องตามแบบแผน เป็นต้น นอกจากน้ันจะต้องไมแ่ สดงกิริยาท่ไี ม่สภุ าพอนั เป็น การไม่เคารพตอ่ พระภิกษุ ไม่แสดงกริ ยิ าดหู มิ่นเหยียดหยามต่อพระภิกษุ ไม่แสดงกริ ยิ าเป็นกันเองสนิทสนมกบั พระภิกษุเกนิ ควรแมจ้ ะเคยสนทิ สนมกนั มาก่อนกต็ าม 2. การปฏบิ ตั ติ นทเ่ี หมาะสมตอ่ พระภกิ ษทุ างวาจา การปฏบิ ตั ติ นที่เหมาะสมต่อพระภิกษุทางวาจา เปน็ การแสดงความเคารพต่อพระภิกษุดว้ ยวาจา ทงั้ ต่อหน้าและลบั หลงั เช่น การพดู จากกับพระภกิ ษุด้วยคำสุภาพนุ่มนวล ใชค้ ำศัพท์เฉพาะท่ีพูดกับพระภิกษุให้ อย่างถูกต้อง น่นั คือใช้สรรพนามแทนตนเองและแทนพระสงฆ์ในระดับตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ไมพ่ ดู ล้อเล่น ไม่พูด คำหยาบ หรือพดู ดูหมน่ิ พระภิกษุ และควรเปน็ เร่อื งท่ีสมควรหรอื เหมาะสมท่ีจะพดู กับพระสงฆ์ เป็นต้น รายละเอยี ดเพิม่ เตมิ การใช้คำราชาศพั ท์กบั พระสงฆ์ 3. การปฏบิ ตั ติ นที่เหมาะสมตอ่ พระภกิ ษุทางใจ การปฏิบตั ิตนท่ีเหมาะสมต่อพระภกิ ษุทางใจ เปน็ การแสดงความเคารพต่อพระภกิ ษุด้วยจิตใจท่ี บริสุทธิ์ ด้วยความเคารพอยา่ งแท้จรงิ ไมไ่ ด้เกดิ จากการเสแสร้งแกลง้ ทำ ซงึ่ พระพทุ ธศาสนาถือวา่ การคดิ คำนึง ดว้ ยใจ (มโนกรรม) เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะถ้าความคดิ มีพลงั มากก็จะเป็นแรงผลกั ดันให้เกิดพฤตกิ รรมทางกาย และวาจาได้ เพราะฉะนัน้ พระพทุ ธเจา้ จึงมงุ่ สอนให้คิดคำนึงในเรอ่ื งท่ีดีงาม ท่เี ป็นกุศล ไม่คดิ ในแงร่ า้ ยต่อใคร ดังนั้นเมือ่ เราทราบว่าพระภิกษเุ ป็นผปู้ ฏิบตั ิดี ปฏิบัติถูกต้อง สมควรทีจ่ ะใหค้ วามเคารพสักการะ เปน็ ผทู้ ่ีมีคุณต่อ พระพุทะศาสนาและศาสนิกชนอย่างมาก เปน็ ผู้สบื ทอดและธำรงพระพทุ ธศาสนาให้ดำรงอยู่ยาวนานสบื ไป เราจงึ ควรแสดงความเคารพท่านทางใจทางที่ดที ีส่ ดุ ก็คอื การเคารพพระภิกษดุ ้วยใจท่ีบรสิ ทุ ธิ์ ไดแ้ ก่ การระลึกถึงพระคุณ ของพระภิกษุแต่ในสว่ นทีด่ ี ตัง้ ใจท่จี ะนำคำสอนของทา่ นไปปฏบิ ัติ รองลงมาไดแ้ ก่ การไม่คดิ ทจ่ี ะทำให้ท่านยุง่ ยาก เดอื ดร้อน คดิ หาโอกาสทจี่ ะสนับสนนุ บำรุงทา่ นด้วยปจั จัยส่ี หรอื คดิ ท่ีจะสร้างสรรคแ์ ต่ส่ิงที่เปน็ ประโยชน์ พรอ้ มท่ี จะให้ความช่วยเหลอื ท่านเทา่ ทโี่ อกาสจะอำนวย เปน็ ตน้ สรุปโครงการค่ายเสริมสรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ คู่ วามพอเพยี ง ประจำปีงบประมาณ 2561 10

4.2 พธุ ประวตั แิ ละศาสนพธิ ี โดยพระวิทยากร ดงั น้ี 4.2.1 พุทธประวตั ิ พระพทุ ธเจ้าประสูติเมือ่ วันข้นึ 15 คำ่ เดอื น 6 ณ สวนลมุ พินีวันใตต้ น้ สาละ มพี ระนามเดิม ว่า สทิ ธัตถะ เปน็ พระโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะกับพระนางสริ ิมหามายา เม่ือพระองค์ประสูตพิ ระองคท์ รง เจา้ ชายสิทธัตถะทรงดำเนนิ ด้วยพระบาท 7 ก้าว และมีดอกบวั ผดุ ข้ึนมารองรบั พระบาท พรอ้ มเปล่งพระวาจา วา่ \"เราเปน็ เลศิ ทสี่ ดุ ในโลก ประเสรฐิ ทส่ี ดุ ในโลก การเกดิ ครง้ั นเี้ ปน็ ครงั้ สดุ ทา้ ยของเรา\"แต่หลงั จากเจ้าชายสทิ ธัต ถะประสตู กิ าลได้แล้ว 7 วนั พระนางสิริมหามายากส็ ้ินพระชนย์ เม่อื พระองคม์ ีอายุได้ 8 พรรษาพระองค์ได้เรียน จบทกุ หลกั สูตรในสำนักครูวศิ วามติ ร แลว้ ก็ทรงอยใู่ นปราสาท 3ฤดทู ่ีพระบดิ าทรงสร้างไวใ้ ห้ เม่อื พระองค์อายุ ได้ 16 พรรษาพระองค์ได้อภเิ ษกสมรสกบั พระนางพิมพาจนเมื่อมีพระชนมายุ 29 พรรษา พระนางพมิ พาได้ให้ ประสูตพิ ระราชโอรส มพี ระนามว่า\"ราหลุ \" ซง่ึ หมายถงึ \"บว่ ง\" พระองค์ทรงเบื่อในปราสาทสามฤดูจงึ ชวนสารถีพา ออกไปเทยี่ วที่อุทธยานและพระองคท์ รงไดพ้ บกบั เทวฑตู ท้งั 4 คือเหน็ คนแก่ คนเจบ็ คนตาย และนักบวช พระองค์จึงคดิ วา่ นแี้ หละคอื ธรรมชาติของโลก พระองคจ์ งึ ออกผนวชเพอ่ื หาทางพน้ ทุกข์ พระองค์เริม่ การพน้ ทกุ ข์ จากการอดอาหาร กล้นั หายใน กดั ลิน้ แตพ่ ระองค์ก็พบวา่ ไม่ใช่ทางดบั ทุกข์พระองค์จงึ เลิกทำแลว้ บำเพ็ญเพียรจน เห็นธรรม 4 หมวดหรอื อรยิ สัจ4แลว้ พระองค์จงึ ตรสั รแู้ ล้สแสดงธรรมเทศนากัณฑ์แรกคือ \"ธัมมจักกัปปวตั ตนสตู ร\" ตลอดระยะเวลา 45 พรรษา ท่พี ระองค์ก็ได้แสดงธรรมให้กับสาวกของพระองคแ์ ละทรงปรนิ พิ พานเม่อื วนั ข้ึน15 ค่ำเดอื น6รวมพระชนม์ 80 พรรษา และวันน้ีถือเปน็ การเริ่มต้นของพทุ ธศักราช 4.2.2 ศาสนพิธี ศาสนพิธี หมายถึง ระเบียบแบบแผนหรือแบบอย่างที่ถือปฎิบัติในศาสนา เม่ือนำมาใช้ใน พระพุทธศาสนา จึงหมายถึงระเบียบแบบแผนหรือแบบอย่างท่ีพึงปฎิบัติในพระพุทธศาสนา ศาสนพิธีต่างๆ ช่วย ทำให้ความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนิกชนมีความแน่นแฟ้นย่ิงขึ้นเป็นส่ิงตอกย้ำใจให้ระลึกถึงคุณของพร ะรัตนตรัย ไดอ้ ยา่ งดเี ยี่ยม จงึ เป็นระเบียบแบบแผนอันดงี ามท่คี วรรกั ษาไว้คู่กับพระพุทธศาสนาตลอดไป ศาสนพิธี เป็นพิธีกรรมทางศาสนาซ่ึงถือปฏิบัติเป็นแบบอย่าง เป็นธรรมเนียมสืบต่อกันมา เพ่ือ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงามเป็นแบบเดียวกัน เหตุให้เกิดศาสนพิธีนี้คือความนิยมทำบุญของ พุทธศาสนิกชนซึ่งไม่ว่าจะปรารภเหตอุ ะไรทำกัน ก็มักจะให้ตรงและครบตามหลักวิธีทำบุญในทางพระพุทธศาสนา ซ่ึงพระสัมมาสมั พุทธเจ้าทรงแนะแนวไว้ 3 หลัก คือ 1. ทาน การบริจาควตั ถสุ งิ่ ของของตนเพือ่ ประโยชน์แก่ผอู้ ่ืน 2. ศีล การรกั ษากายวาจาใหส้ งบเรยี บร้อย 3. ภาวนา การยกระดบั จติ ให้สูงข้ึนด้วยการอบรมใหส้ งบนิง่ และให้เกิดปัญญา 4.3 สทิ ธิและหน้าทกี่ ารเปน็ พลเมอื งดวี ถิ ปี ระชาธปิ ไตย โดยพระวิทยากร พระสรุ พงษ์ และคณะ ดงั น้ี 4.3.1 พลเมอื งดีตามวิถชี วี ติ ประชาธปิ ไตย การปฏบิ ตั ิตนของพลเมืองไทยที่ดีตามวถิ ปี ระชาธิปไตย มีคุณลักษณะทส่ี ำคัญ คือ เป็นผู้ท่ียดึ ม่ัน สรุปโครงการคา่ ยเสริมสร้างคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรูส้ คู่ วามพอเพียง ประจำปงี บประมาณ 2561 11

ในหลกั ศลี ธรรมและคณุ ธรรมของศาสนา เช่น ปฏิบัตติ นในสว่ นท่ีเกี่ยวข้องกับศาสนาท่ีตนนับถอื มีความซ่ือสตั ย์ สุจริต มีความเสียสละ ฯลฯ ยดึ มัน่ และปฏบิ ัตติ นตามประเพณี วัฒนธรรมใชห้ ลกั การประชาธิปไตยในการ ดำรงชวี ติ ปฏิบัติตนตามกฎหมาย ซงึ่ ตอ้ งคำนึงถงึ บทบาทหนา้ ที่ สทิ ธิ เสรีภาพของการเป็นพลเมอื งดขี องสังคม และปฏบิ ตั ิตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์ต่อสงั คมโดยมกี ารช่วยเหลือเกอ้ื กลู ซึง่ กนั และกันอยรู่ ่วมกันอยา่ งสนั ตสิ ุข เพ่ือให้การ ดำรงชีวติ อยา่ งมีคุณค่าในวถิ ปี ระชาธปิ ไตย อันจะก่อให้เกดิ การพฒั นาสงั คมและประเทศไทยให้เป็นประชาธปิ ไตย อยา่ งแทจ้ รงิ 4.3.2 พลเมอื งดตี ามวถิ ชี วี ติ ประชาธปิ ไตยในสังคมไทยและสงั คมโลก การปฏิบตั ติ นตามหนา้ ที่ของการเป็นพลเมืองดตี ามวิถีชวี ิตประชาธปิ ไตย ในยุคโลกาภวิ ตั น์ ซึ่ง เปน็ ยคุ ขา่ วสารข้อมูลในปจั จุบันที่ประเทศต่าง ๆ ทัว่ โลก มีความสมั พนั ธแ์ ละติดต่อกนั โดยระบบเครือข่ายของการ สอ่ื สาร กอ่ ให้เกิดความเขา้ ใจซงึ่ กันและกันอยา่ งรวดเร็วและทนั ต่อเหตุการณ์ดงั น้ัน การเป็นพลเมืองดใี นวถิ ชี ีวติ ประชาธิปไตยในสงั คมไทยย่อมมีผลกระทบต่อสังคมโลกอย่างต่อเนื่อง องค์ประกอบสำคัญของการเปน็ พลเมืองดี ตามวถิ ชี ีวติ ประชาธปิ ไตยในสังคมไทยและสังคมโลก ไดแ้ ก่ 1.2.1 หลกั การทางประชาธปิ ไตย การปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมืองดี ตามหลักการสำคัญของการปกครองตามระบอบ ประชาธปิ ไตย คือ ปฏิบัตติ ามกฎหมายรัฐธรรมนูญซ่ึงนำมาประยกุ ตใ์ ช้ในวถิ ชี วี ติ ประจำวนั เพื่อใหเ้ กดิ เปน็ สงั คม ประชาธปิ ไตยหลกั การทางประชาธิปไตยที่สำคญั ได้แก่ 1) หลกั อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน หมายถึง ประชาชนเปน็ เจ้าของอำนาจสูงสุด ในการปกครองประเทศ ดงั น้ันวถิ ชี ีวติ ของประชาชนในสงั คมประชาธปิ ไตยจงึ ต้องใช้สทิ ธิ์ ใช้เสียงตามท่ี ขอบเขตกฎหมายกำหนด เพ่ือทำหน้าท่ีในฐานะเป็นพลเมืองดี และให้เกดิ ประโยชนต์ อ่ สังคมและประเทศชาติ 2) หลกั ความเสมอภาค หมายถงึ ประชาชนทกุ คนในสังคมประชาธปิ ไตยมีความเทา่ เทียมกนั ในฐานะการเป็นประชากรของรฐั เคารพในศกั ดิ์ศรี สทิ ธิ เสรภี าพ และความเสมอภาคของเพอ่ื นมนษุ ย์ ดว้ ยกัน ไมม่ ีการแบง่ ชนช้ันหรือการเลือกปฏิบตั ิ ดำรงชีวติ อยู่ร่วมกนั ในสงั คม โดยการเกื้อกลู ซึง่ กนั และกนั อย่างสันติ ไมข่ ม่ เหงรงั แกคนทีอ่ ่อนแอหรือยากจนกวา่ 3) หลักนติ ิธรรม หมายถงึ การใช้หลักกฎหมาย ระเบยี บ ข้อบังคบั ต่าง ๆ เป็นกฎเกณฑ์ การอยู่ร่วมกนั อย่างเป็นธรรมเพื่อความสงบสุขของสงั คม 4) หลกั เหตผุ ล หมายถึง การใชเ้ หตุผลที่ถกู ต้องในการตัดสนิ หรือยุตปิ ญั หา หรอื ใช้ เหตุผล 4.4 โทษของยาเสพตดิ โดยพระวิทยากร พระสรุ พงษ์ และคณะ ดังนี้ โทษพิษภัยอันเกิดจากการใช้ยาเสพติด นอกจากจะมีผลกระทบโดยตรง ก่อให้เกิดโทษอันตราย ต่อร่างกายและจิตใจของผู้เสพเองแล้ว ยังก่อให้เกิดผลกระทบทางอ้อม ต่อระบบครอบครัว ระบบสังคมและ ประเทศชาตไิ ด้ ดงั นี้ 4.4.1.โทษพิษภัยต่อผ้เู สพ ฤทธขิ์ องยาเสพติด จะมีผลต่อระบบประสาทและระบบอวยั วะต่าง ๆ ของรา่ งกาย ตลอดจนจติ ใจ ของผู้ท่ีเสพเสมอ ดังนั้นจะพบว่า สุขภาพร่างกายของผู้ที่เสพยาจะทรุดโทรมทั้งร่างกายและจิตใต เช่น มีรูปร่าง สรุปโครงการค่ายเสริมสร้างคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรู้สคู่ วามพอเพยี ง ประจำปีงบประมาณ 2561 12

ผอม ซูบซีด ผิวคล้ำ ไม่มีแรง อ่อนเพลียง่าย สมองเส่ือม ความคิดความจำสับสน เป็นโรคติดเช้ืออ่ืน ๆ ได้ง่าย เช่น โรคตับอักเสบ ไตอักเสบ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ โรคมะเร็งปิด ภูมิต้านทานในร่างกายจะลดลง มี สภาวะทางจิตใจไม่ปกติ สมรรถภาพจิตใจเสือ่ มลง อารมณ์แปรปรวนงา่ ย ซึมเศร้า วติ กกงั วล ความรูส้ ึกฟุ้งซ่าน ซ่ึง จากผลร้ายท่ีเกดิ ขึ้นดังกล่าว จะผลกั ดันให้ผู้เสพยาเสพติด กลายเป็นบุคคลทไี่ รส้ มรรถภาพท้ังร่ายกายและจิตใจใน การดำเนินชีวิตในสังคม ขาดความเชื่อมั่น บุคลิกภาพสูญเสีย ไม่สนใจตนเอง ไม่สนใจการงาน - การเรียนและผู้ เสพบางรายอาจประสบอุบตั เิ หตุจนถึงข้นั พิการแขน - ขา เชน่ พลัดตกจากที่สงู ขณะทำงาน หกลม้ อันเนอื่ งมาจาก ฤทธ์ขิ องยาเสพตดิ ที่มผี ลตอ่ ระบบประสาทและสมอง 4.4.2 โทษพิษภัยตอ่ ครอบครวั การตดิ ยาเสพติด นอกจากจะทำให้เส่ือมเสยี ชือ่ เสียงของตนเองและครอบครัวแลว้ ยงั ทำให้ผู้เสพ กลายเป็นบุคคลที่ขาดความรับผิดชอบต่อครอบครัว ไม่ห่วงใย ดูแลครอบครัวอย่างที่เคยปฏิบัติ ทำให้สภาพ ครอบครัวขาดความอบอุ่น ต้องสูญเสียเศรษฐกิจและรายได้ของครอบครัว เนื่องจากต้องนำเงินมาซื้อยาเสพติด บางรายอาจต้องสูญเสียเงินจำนวนไมน่ ้อยเพ่ือรักษาตนเองจากโรคร้ายแรงต่าง ๆ อันเกิดจากการใช้หรือเสพยาเสพ ตดิ กลายเปน็ ภาระของครอบครวั ในที่สดุ อีกท้งั นำไปสู่ปัญหาครอบครัวเกิดการทะเลาะวิวาทกันบ่อย ๆ เกิดความ แตกแยกภายในครอบครัว เปน็ ตน้ 4.4.3 โทษพิษภัยต่อสงั คมและเศรษฐกิจผูท้ เ่ี สพยาเสพติด นอกจากจะเป็นผู้ที่มีความรู้สึกว่าตนเองด้อยโอกาสทางสังคมแล้ว ยังอาจมีความคิดหรือ พฤติกรรมท่ีนำไปสู่ปัญหาสังคมส่วนรวม เช่น ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม (ปล้นจี้ทำร้ายร่างกายผู้อ่ืนเพื่อชิง ทรัพย์) ก่อให้เกิดปัญาหาอุบัติเหตุ (รถชน พลัดตกจากท่ีสูง) และปัญหาโรคเอดส์ เป็นต้น อันเป็นการสูญเสีย ทรัพยากรบุคคลอันมีค่า ตลอดจนทรัพย์สินของตนและส่วนรวมอย่างไร้ประโยชน์ เป็นการถ่วงความเจริญ ความก้าวหน้า การพฒั นาของสังคม สภาวะการณ์ดังกลา่ วกลับกลายเป็นภาระของสงั คมส่วนรวมในการจัดสรรบุค คากร แรงงานและเงนิ ในการปราบปรามและบำบดั รักษาผู้ตดิ ยาในทีส่ ุด 4.4.4 โทษพิษภยั ตอ่ ประเทศชาติผทู้ เ่ี สพยาเสพติดและตกเปน็ ทาสของเสพติด อาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้ที่บ่อนทำลายเศรษฐกิจ และความมั่นคงความสงบสุของประเทศชาติ เนื่องจากผู้เสพยาเหล่าน้ี ทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียกำลังคนและงบประมาณแผ่นดินจำนวนมหาศาล เพื่อใช้จ่ายใน การป้องกันปราบปรามและบำบัดรักษาผู้ติดยา ทำให้ต้องสูญเสียทรัพยากรบุคคลอันมีค่า เกิดความไม่สงบสุขของ บ้านเมือง ทำให้เศรษฐกิจทรุด บ่ันทอนความมั่นคงของประเทศชาติต้องสูญเสียกำลังของชาติอย่างน่าเสียดาย โดยเฉพาะถา้ ผ้เู สพตดิ เปน็ เยาวชน 5. วัดและประเมนิ ผลกิจกรรม หลงั จากเสรจ็ สิน้ โครงการ ให้ผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรมตอบแบบประเมนิ โครงการ คา่ ยเสรมิ สรา้ งคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ คู่ วามพอเพียง และมีผู้ประเมินผลโครงการเข้ารว่ มสงั เกตการณ์ด้วย 6. สรปุ ผล รายงานผลและการติดตามผลการดำเนนิ การจัดกจิ กรรม ผู้เก่ยี วข้องจดั ทำสรปุ ผลโครงการค่าย เสรมิ สร้างคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความร้สู ู่ความพอเพยี ง เพือ่ เป็นแนวทางการพัฒนากจิ กรรมครง้ั ต่อไป สรุปโครงการคา่ ยเสรมิ สร้างคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรู้สูค่ วามพอเพียง ประจำปีงบประมาณ 2561 13

บทที่ 4 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู การวิเคราะห์ข้อมลู คร้งั น้ี มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลกจิ กรรมโครงการคา่ ยเสริมสร้างคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรู้สคู่ วามพอเพียง จากผตู้ อบแบบประเมิน จำนวน 110 คน เครือ่ งมือท่ีใช้ในการเกบ็ รวบรวม ข้อมลู คือ แบบประเมนิ โครงการ ไดน้ ำเสนอผลการวิเคราะหข์ ้อมูลในแบบตารางความถี่ คา่ เฉลี่ย และคา่ เบยี่ งเบน มาตรฐาน (Standard deviation) ซึง่ ใช้โปรแกรม SPSS เพื่อวเิ คราะห์ค่าสถิติท้งั หมด ดังมรี ายละเอยี ดต่อไปนี้ ตอนที่ 1 วิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบประเมินโครงการ โดยการแจกแจงความถ่ีและค่าร้อยละ ของตวั แปร ตอนท่ี 2 วิเคราะห์ผลการประเมินกิจกรรมโครงการค่ายเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม นำความรู้สู่ความ พอเพียง โดยการแจกแจงคา่ เฉล่ยี คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน ตอนท่ี 3 วเิ คราะห์ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ ตอนที่ 1 วิเคราะหข์ อ้ มลู สว่ นตวั ของผตู้ อบแบบประเมินโครงการ โดยการแจกแจงความถี่และคา่ รอ้ ยละ ของตัว แปร ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบประเมินโครงการ ท่ีเข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการค่ายเสริมสร้างคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรูส้ คู่ วามพอเพียง โดยการแจกแจงความถแ่ี ละค่ารอ้ ยละของตัวแปร ดงั ตารางท่ี 1 ตารางท่ี 1 จำนวน และคา่ รอ้ ยละ ของผ้ตู อบแบบประเมนิ โครงการ จำแนกตามเพศ อายุ และสถานภาพ (N=110) ขอ้ มลู สว่ นตวั จำนวน รอ้ ยละ 1. เพศ ชาย 65 59.09* หญงิ 45 40.91 รวม 110 100 2. อายุ 15 – 29 ปี 90 81.82* 30 – 49 ปี 15 13.64 มากกวา่ 50 ปขี น้ึ ไป 5 4.55 รวม 110 100 3. ระดบั ประถมศกึ ษา 5 4.55 การศกึ ษา มัธยมศึกษาตอนตน้ 40 36.36 มัธยมศึกษาตอนปลาย 65 59.09* รวม 110 100 สรุปโครงการคา่ ยเสริมสรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรู้สูค่ วามพอเพยี ง ประจำปงี บประมาณ 2561 14

4. อาชีพ ขอ้ มลู สว่ นตวั จำนวน รอ้ ยละ เกษตรกรรม 20 18.18 คา้ ขาย 10 9.09 ธรุ กจิ ส่วนตวั 30 27.27 รับจ้าง 50 45.45* 110 100 รวม หมายเหตุ : * หมายถึง ข้อมูลส่วนใหญ่ จากตาราง ท่ี 1 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมนิ โครงการ จำนวน 110 คน ส่วนใหญเ่ ป็นเพศชาย จำนวน 65 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 59.09 เพศหญงิ จำนวน 45 คน คิดเป็นร้อยละ 40.91 ส่วนใหญ่มีอายุ 15 – 29 ปี จำนวน 90 คน คิดเปน็ ร้อยละ 81.82 รองลงมา คอื อายุ 30 – 49 ปี จำนวน 15 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 13.64 และอายุมากกวา่ 50 ปีข้ึนไป จำนวน 5 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 4.55 ตามลำดับ ส่วนใหญศ่ ึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 65 คน คิดเป็นร้อยละ 59.09 รองลงมา คือ มธั ยมศึกษาตอนต้น จำนวน 40 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 36.36 และประถมศึกษา จำนวน 5 คิดเป็นร้อยละ 4.55 สำหรับอาชพี สว่ นใหญ่มีอาชพี รบั จา้ ง จำนวน 50 คน คิดเป็น ร้อยละ 45.45 รองลงมาคือ ธุรกิจสว่ นตัว จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 27.27 เกษตรกรรม จำนวน 20 คน คดิ เป็นร้อยละ 18.18 และคา้ ขาย จำนวน 10 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 9.09 ตามลำดบั ตอนท่ี 2 วเิ คราะหผ์ ลการประเมนิ กจิ กรรมโครงการคา่ ยเสริมสรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ คู่ วาม พอเพยี ง โดยการแจกแจงค่าเฉลยี่ คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน การจำแนกระดับ ผลการประเมินโครงการ แบบมาตรฐานประมาณคา่ (Rating Scale) มี 5 ระดับ ดังน้ี 5 คะแนน คอื ระดับผลการประเมนิ มากทส่ี ุด 4 คะแนน คือ ระดบั ผลการประเมินมาก 3 คะแนน คือ ระดับผลการประเมินปานกลาง 2 คะแนน คอื ระดับผลการประเมินน้อย 1 คะแนน คอื ระดบั ผลการประเมนิ น้อยท่สี ุด N คือ จำนวนผู้ตอบแบบประเมนิ X̅ คือ ระดับคา่ เฉลยี่ ผลการประเมนิ S.D. (Standard deviation) คือ คา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน คา่ เฉลย่ี ระดบั ผลการประเมินของผตู้ อบแบบประเมินโครงการ คา่ เฉลยี่ 4.50 – 5.00 คะแนน หมายถึง มผี ลการประเมินอย่ใู นระดับมากทีส่ ุด ค่าเฉล่ยี 3.50 – 4.49 คะแนน หมายถงึ มผี ลการประเมนิ อยู่ในระดับมาก คา่ เฉล่ยี 2.50 – 3.49 คะแนน หมายถึง มผี ลการประเมินอยใู่ นระดบั ปานกลาง คา่ เฉลย่ี 1.50 – 2.49 คะแนน หมายถงึ มผี ลการประเมินอยใู่ นระดบั น้อย ค่าเฉล่ยี 1.00 – 1.49 คะแนน หมายถงึ มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั น้อยทส่ี ดุ สรุปโครงการคา่ ยเสริมสรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ คู่ วามพอเพียง ประจำปีงบประมาณ 2561 15

ตารางท่ี 2.1 คา่ เฉลย่ี คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน และระดบั ผลการประเมนิ กจิ กรรมโครงการค่ายเสรมิ สรา้ ง คณุ ธรรม จริยธรรม นำความรสู้ คู่ วามพอเพียง ของผตู้ อบแบบประเมนิ โครงการ ในภาพรวมและรายดา้ น รายการ N = 110 ระดบั ผลการประเมนิ มาก 1. ด้านเนอ้ื หา X̅ S.D. 4.27 0.75 2. ด้านวิทยากร 4.66 0.55 มาก 3. ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพงึ พอใจ 4.39 0.70 มาก รวม 4.44 0.67 มาก จากตารางท่ี 2.1 พบวา่ โครงการค่ายเสรมิ สร้างคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ คู่ วามพอเพียง มผี ลการ ประเมนิ โครงการ ในภาพรวมอยูใ่ นระดบั มาก (̅X=4.44) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบวา่ มีผลการประเมิน โครงการ ด้านวิทยากร อย่ใู นระดบั มากท่สี ุด (X̅=4.66) รองลงมาคือ ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก (̅X=4.39) และด้านเนื้อหา อยู่ในระดับมาก (X̅=4.27) ตามลำดบั ตารางที่ 2.2 คา่ เฉลย่ี คา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน และระดบั ผลการประเมนิ กจิ กรรมโครงการค่ายเสรมิ สรา้ ง คณุ ธรรม จริยธรรม นำความรสู้ ูค่ วามพอเพยี ง ของผตู้ อบแบบประเมนิ โครงการ ดา้ นเนอ้ื หา รายการ N = 110 ระดบั ผลการประเมนิ X̅ S.D. ดา้ นเนอ้ื หา 1. กจิ กรรมสอดคล้องกบั วัตถุประสงคข์ องโครงการ 4.30 0.69 มาก 2. การจัดกจิ กรรมส่งเสริมให้ผู้รว่ มกิจกรรมสามารถ คิดเป็น 4.19 0.80 มาก ทำเปน็ แกป้ ญั หาเปน็ 3. ผู้ร่วมกิจกรรมมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็ ต่อการ 4.32 0.69 มาก จัดทำโครงการ 4. ผู้ร่วมกจิ กรรมสามารถนำความรไู้ ปปรับใช้ในการ 4.27 0.80 มาก ปฏิบตั งิ าน รวม 4.27 0.75 มาก จากตารางที่ 2.2 พบวา่ โครงการคา่ ยเสรมิ สรา้ งคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ ู่ความพอเพยี ง ในดา้ น เนอื้ หา อยใู่ นระดับมาก (X̅=4.27) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อพบวา่ ผู้รว่ มกิจกรรมมีส่วนรว่ มในการแสดงความ คดิ เหน็ ตอ่ การจดั ทำโครงการ อยู่ในระดบั มาก (̅X=4.32) รองลงมาคือ กิจกรรมสอดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์ของ โครงการ อยู่ในระดบั มาก (̅X=4.30) ผู้รว่ มกจิ กรรมสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการปฏิบตั งิ าน อยู่ในระดับมาก (X̅=4.27) และการจดั กิจกรรมสง่ เสริมใหผ้ ู้รว่ มกจิ กรรมสามารถ คดิ เปน็ ทำเป็น แก้ปัญหาเปน็ อยู่ในระดบั มาก (̅X=4.19) ตามลำดบั สรุปโครงการค่ายเสรมิ สร้างคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ ู่ความพอเพียง ประจำปงี บประมาณ 2561 16

ตารางท่ี 2.3 คา่ เฉลย่ี คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน และระดบั ผลการประเมนิ กจิ กรรมโครงการคา่ ยเสริมสรา้ ง คุณธรรม จริยธรรม นำความรสู้ คู่ วามพอเพยี ง ของผตู้ อบแบบประเมนิ โครงการ ดา้ นวิทยากร รายการ N = 110 ระดบั ผลการประเมนิ ̅X S.D. ด้านวทิ ยากร 5. วิทยากรมคี วามร้คู วามสามารถในการถา่ ยทอดองค์ 4.55 0.72 มากทีส่ ุด ความรู้ 6. วิทยากรมเี ทคนิค วธิ กี ารในการจดั การถ่ายทอดองค์ 4.77 0.41 มากที่สดุ ความรู้ 7. วทิ ยากรมกี ารใช้ส่อื ทส่ี อดคล้องและเหมาะสมกับ 4.73 0.44 มากท่สี ดุ กิจกรรม 8. บุคลิกภาพของวิทยากร 4.61 0.64 มากที่สุด รวม 4.66 0.55 มากทสี่ ดุ จากตารางที่ 2.3 พบวา่ โครงการคา่ ยเสริมสรา้ งคุณธรรม จริยธรรม นำความรสู้ ูค่ วามพอเพยี ง ในดา้ น วิทยากร อยู่ในระดบั มากทส่ี ดุ (̅X=4.66) เม่อื พิจารณาเป็นรายข้อพบวา่ วิทยากรมีเทคนิค วธิ ีการในการจดั การ ถ่ายทอดองคค์ วามรู้ อยใู่ นระดบั มากท่สี ุด (X̅=4.77) รองลงมาคือ วทิ ยากรมกี ารใช้สอื่ ที่สอดคล้องและเหมาะสม กับกิจกรรม อยู่ในระดับมากทส่ี ุด (X̅=4.73) บุคลิกภาพของวิทยากร อยู่ในระดบั มากท่ีสดุ (̅X=4.61) และ วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการถา่ ยทอดองค์ความรู้ อย่ใู นระดับมากทส่ี ุด (̅X=4.62)ตามลำดบั ตารางท่ี 2.4 คา่ เฉลยี่ คา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน และระดบั ผลการประเมนิ กจิ กรรมโครงการค่ายเสรมิ สรา้ ง คณุ ธรรม จริยธรรม นำความรสู้ ูค่ วามพอเพยี ง ของผู้ตอบแบบประเมินโครงการ ดา้ นสถานท่ี ระยะเวลา และ ความพงึ พอใจ รายการ N = 110 ระดบั ผลการประเมนิ ดา้ นสถานที่ ระยะเวลา และความพงึ พอใจ X̅ S.D. 9. สถานท่ใี นการจดั กิจกรรมเหมาะสม 4.23 0.79 มาก 10. ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรมเหมาะสม 4.32 0.76 มาก 11. ความพงึ พอใจในภาพรวมของผูร้ ่วมกิจกรรมต่อการเข้า 4.36 0.77 มาก รว่ มกจิ กรรม 12. ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั จากการเขา้ รว่ มกจิ กรรมตามโครงการ 4.64 0.48 มากทส่ี ดุ รวม 4.39 0.70 มาก สรปุ โครงการคา่ ยเสริมสรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ คู่ วามพอเพียง ประจำปีงบประมาณ 2561 17

จากตารางท่ี 2.4 พบวา่ โครงการคา่ ยเสรมิ สรา้ งคุณธรรม จริยธรรม นำความรู้สู่ความพอเพยี ง ในดา้ น สถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ อยู่ในระดบั มาก (̅X=4.39) เมอ่ื พิจารณาเปน็ รายขอ้ พบว่า ประโยชนท์ ี่ ได้รับจากการเข้ารว่ มกิจกรรมตามโครงการ อยู่ในระดับมากทีส่ ุด (X̅=4.64) รองลงมาคือ ความพงึ พอใจใน ภาพรวมของผ้รู ่วมกจิ กรรมต่อการเขา้ ร่วมกิจกรรม อยใู่ นระดบั มาก (X̅=4.36) ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรม เหมาะสม อยใู่ นระดบั มาก (̅X=4.32) และสถานทีใ่ นการจดั กิจกรรมเหมาะสมอยู่ในระดบั มาก (̅X=4.23) ตามลำดบั ตอนท่ี 3 ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ อยากใหน้ ำเทคนิคการสอนจากคณะวทิ ยากรไปใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอนในชนั้ เรียน สรปุ โครงการคา่ ยเสรมิ สรา้ งคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความร้สู ู่ความพอเพยี ง ประจำปงี บประมาณ 2561 18

บทที่ 5 สรปุ ผล อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ สรปุ ผล ผลการวิเคราะห์ สามารถสรุปได้ดงั น้ี ตอนท่ี 1 ข้อมลู ส่วนตวั ของผตู้ อบแบบประเมนิ โครงการ ตอนที่ 2 ผลการประเมนิ กิจกรรมโครงการคา่ ยเสริมสร้างคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ คู่ วามพอเพียง ตอนที่ 3 ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะอื่น ๆ ตอนท่ี 1 วเิ คราะหข์ อ้ มลู สว่ นตวั ของผตู้ อบแบบประเมนิ ในภาพรวม ผ้ตู อบแบบประเมนิ โครงการ จำนวน 110 คน สว่ นใหญเ่ ป็นเพศชาย จำนวน 65คน คิดเปน็ ร้อยละ 59.09 เพศหญงิ จำนวน 45 คน คดิ เป็นร้อยละ 40.91 สว่ นใหญ่มีอายุ 15 – 29 ปี จำนวน 90 คน คดิ เป็นร้อยละ 81.82 รองลงมา คืออายุ 30 – 49 ปี จำนวน 15 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 13.64 และอายุมากกว่า 50 ปีข้นึ ไป จำนวน 5 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 4.55 ตามลำดับ สว่ นใหญ่ศกึ ษาอยูใ่ นระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 65 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 59.09 รองลงมา คือ มธั ยมศึกษาตอนต้น จำนวน 40 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 36.36 และประถมศึกษา จำนวน 5 คิด เปน็ รอ้ ยละ 4.55 สำหรับอาชพี ส่วนใหญม่ อี าชีพรับจา้ ง จำนวน 50 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 45.45 รองลงมาคือ ธุรกิจสว่ นตัว จำนวน 30 คน คิดเปน็ ร้อยละ 27.27 เกษตรกรรม จำนวน 20 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 18.18 และ คา้ ขาย จำนวน 10 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 9.09 ตามลำดบั ตอนท่ี 2 วิเคราะหผ์ ลการประเมนิ กิจกรรมโครงการคา่ ยเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ คู่ วามพอเพยี ง จากตารางที่ 2.1 พบวา่ โครงการค่ายเสรมิ สรา้ งคุณธรรม จริยธรรม นำความรสู้ ่คู วามพอเพียง มีผลการ ประเมนิ โครงการ ในภาพรวมอยูใ่ นระดับมาก (X̅=4.44) เมื่อพจิ ารณาเปน็ รายดา้ นพบว่า มีผลการประเมิน โครงการ ด้านวิทยากร อยู่ในระดบั มากทส่ี ดุ (X̅=4.66) รองลงมาคือ ดา้ นสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ อยใู่ นระดับมาก (X̅=4.39) และดา้ นเน้ือหา อยู่ในระดับมาก (X̅=4.27) ตามลำดบั จากตารางที่ 2.2 พบว่าโครงการค่ายเสรมิ สรา้ งคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรูส้ ่คู วามพอเพยี ง ในดา้ น เน้ือหา อยู่ในระดับมาก (̅X=4.27) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อพบวา่ ผู้ร่วมกจิ กรรมมีส่วนรว่ มในการแสดงความ คิดเห็นตอ่ การจดั ทำโครงการ อยู่ในระดับมาก (X̅=4.32) รองลงมาคือ กจิ กรรมสอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงค์ของ โครงการ อยใู่ นระดับมาก (X̅=4.30) ผรู้ ่วมกจิ กรรมสามารถนำความรู้ไปปรบั ใช้ในการปฏิบตั ิงาน อย่ใู นระดับมาก (X̅=4.27) และการจัดกิจกรรมสง่ เสริมใหผ้ ู้รว่ มกิจกรรมสามารถ คดิ เป็น ทำเป็น แก้ปญั หาเป็น อยใู่ นระดบั มาก (X̅=4.19) ตามลำดับ จากตารางท่ี 2.3 พบว่าโครงการค่ายเสริมสร้างคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความร้สู ู่ความพอเพียง ในดา้ น วิทยากร อยู่ในระดับมากทสี่ ดุ (X̅=4.66) เม่ือพิจารณาเปน็ รายข้อพบวา่ วิทยากรมีเทคนคิ วิธกี ารในการจัดการ ถ่ายทอดองค์ความรู้ อยใู่ นระดับมากทีส่ ุด (̅X=4.77) รองลงมาคือ วิทยากรมีการใชส้ อ่ื ที่สอดคลอ้ งและเหมาะสม สรปุ โครงการคา่ ยเสรมิ สรา้ งคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ ู่ความพอเพยี ง ประจำปีงบประมาณ 2561 19

กบั กิจกรรม อยใู่ นระดบั มากท่ีสุด (̅X=4.73) บุคลิกภาพของวิทยากร อยใู่ นระดบั มากที่สดุ (X̅=4.61) และ วทิ ยากรมีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดองค์ความรู้ อยู่ในระดับมากทส่ี ุด (X̅=4.62)ตามลำดบั จากตารางที่ 2.4 พบว่าโครงการค่ายเสรมิ สร้างคุณธรรม จริยธรรม นำความรู้สคู่ วามพอเพยี ง ในดา้ น สถานที่ ระยะเวลา และความพงึ พอใจ อย่ใู นระดบั มาก (̅X=4.39) เมื่อพิจารณาเปน็ รายข้อพบว่า ประโยชน์ที่ ไดร้ ับจากการเข้ารว่ มกจิ กรรมตามโครงการ อยู่ในระดับมากทส่ี ุด (̅X=4.64) รองลงมาคือ ความพึงพอใจใน ภาพรวมของผรู้ ว่ มกิจกรรมต่อการเข้าร่วมกิจกรรม อยใู่ นระดับมาก (̅X=4.36) ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรม เหมาะสม อยู่ในระดบั มาก (̅X=4.32) และสถานทใี่ นการจดั กิจกรรมเหมาะสมอยู่ในระดบั มาก (̅X=4.23) ตามลำดบั ตอนที่ 3 วเิ คราะหค์ วามคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ อยากใหน้ ำเทคนคิ การสอนจากคณะวทิ ยากรไปใช้ในการจดั การเรยี นการสอนในชนั้ เรยี น อภปิ รายผล จากการสรุปผลการดำเนินโครงการค่ายเสริมสรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ คู่ วามพอเพียง พบวา่ วิทยากรมีเทคนิควธิ กี ารในการจดั การถา่ ยทอดองค์ความรู้ อย่ใู นระดับมากที่สดุ (̅X=4.77) ทั้งนอ้ี าจเป็นเพราะวา่ คณะทำงานไดว้ างแผนการดำเนนิ งาน จัดหาสถานที่ และประสานวทิ ยากรเกี่ยวกบั เนื้อหาสาระให้สอดคลอ้ งกับ กลุ่มเปา้ หมาย ทำใหน้ ักศกึ ษา กศน.อำเภอโชคชยั มีคุณธรรม จริยธรรม นำหลกั ธรรมไปใชใ้ นการดำรงชวี ติ ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสุด และมีสขุ ภาพทัง้ กายและจิตใจท่สี มบูรณ์อยรู่ ว่ มกับสงั คมได้อยา่ งมีความสุขและสามารถพฒั นา ตัวเอง ใหค้ ิดเปน็ ทำเปน็ แก้ปญั หาเป็น ซ่ึงสอดคล้องกบั งานวจิ ัย ของไชยพร เรืองแหล้ (2556). ท่ที ำการศึกษา เรอ่ื งบทบาทของสถานศึกษาในการสง่ เสรมิ คุณธรรม จริยธรรม แก่ผู้เรียน สังกดั สำนกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษา ประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 กล่าวไวว้ า่ วทิ ยากรสง่ เสริมให้นกั เรียนทำกจิ กรรมรว่ มกันและนกั เรียนไดแ้ สดงออก ซ่ึงคุณธรรม จรยิ ธรรม อยา่ งเหมาะสม และปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม แก่ผูเ้ รียนดว้ ยกระบวนการเรียนการสอน และจะทำให้นกั เรียนมคี วามรู้ทางดา้ นพระพุทธศาสนาหลักคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจา้ อยา่ งคงทนและ สามารถนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั จนเกิดเป็นพฤติกรรมที่เหมาะสมของพ่อ แม่ ครู เพอ่ื น และสังคม เมื่อทุกฝา่ ย ร่วมกนั จดั กจิ กรรมโครงการและการฝึกอบรมขัดเกลาผู้เรยี นอยา่ งต่อเนอื่ ง ย่อมทำให้พฤติกรรมและคณุ ลักษณะที่ พึงประสงค์ เป็นคนดี และมีความสุข สามารถพง่ึ พาตนเองได้ส่งผลให้โครงการคา่ ยเสริมสร้างคณุ ธรรม จริยธรรม นำความรู้สูค่ วามพอเพยี ง ประสบผลสำเรจ็ ตามวัตถุประสงคท์ ่กี ำหนด ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื การพฒั นาครงั้ ตอ่ ไป ควรปรบั ปรุงเรือ่ งการตรงต่อเวลาของนกั ศกึ ษาในการมาเข้าร่วมกิจกรรม เนือ่ งจากนักศึกษาบางสว่ นมาไม่ ตรงเวลา ทำใหก้ ารเดินทางเพื่อไปสถานทีจ่ ดั โครงการลา่ ชา้ สรุปโครงการคา่ ยเสริมสร้างคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความร้สู ูค่ วามพอเพยี ง ประจำปงี บประมาณ 2561 20

บรรณานกุ รม ไชยพร เรอื งแหล้. (2556). รายงานวิจยั เรอ่ื งบทบาทของสถานศกึ ษาในการสง่ เสรมิ คุณธรรม จริยธรรม แก่ผู้เรียน สงั กดั สำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1. [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก http://www.mcu.ac.th/userfiles/file/thesis/Educational-Administration/56-2-11-060.pdf ไทยโพสต์. (2561). พลเมืองดีตามวิถปี ระชาธปิ ไตย. [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก https://www.thaipost.net/main/detail/9097 ลกั ษณา พวงเพชร. (2556). พษิ ภัยจากยาเสพตดิ . [ออนไลน์]. http://saebteed.blogspot.com/ สำนักงาน กศน. (2560). สอดคล้องกับนโยบายและจุดเนน้ การดำเนนิ งาน สำนักงาน กศน.ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2561. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก http://ubon.nfe.go.th/index.php?option=com อดศิ ร ผันอากาศ. (2556). ความหมายของคุณธรรม จริยธรรม. [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก http:// first66bobo.blogspot.com.\\ สรปุ โครงการคา่ ยเสริมสรา้ งคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความร้สู ่คู วามพอเพยี ง ประจำปีงบประมาณ 2561 21

ภาคผนวก

ตารางวเิ คราะหผ์ ลขอ้ มลู โครงการค่ายคณุ ธรรม จริยธรรม นำความรสู คู่ วามพอเพยี ง โดยใชโ้ ปรแกรม SPSS เพศ Valid ชาย Frequency Percent Valid Percent Cumulative หญงิ 65 59.1 59.1 Percent Total 45 40.9 40.9 110 100.0 100.0 59.1 100.0 อายุ Valid 15-29 ปี Frequency Percent Valid Percent Cumulative 30-49 ปี 90 81.8 81.8 Percent มากกว่า 50 ปีขน้ึ ไป 15 13.6 13.6 81.8 Total 5 4.6 4.6 95.4 110 100.0 100.0 100.0 ระดบั การศกึ ษา Valid ประถมศกึ ษา Frequency Percent Valid Percent Cumulative มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ 5 4.6 4.6 Percent มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 40 36.4 36.4 4.6 Total 65 59.0 59.0 41.0 100.0 110 100.0 100.0 อาชีพ Valid เกษตรกรรม Frequency Percent Valid Percent Cumulative คา้ ขาย 20 18.2 18.2 Percent ธรุ กจิ สว่ นตวั 10 9.0 9.0 18.2 รบั จา้ ง 30 27.3 27.3 27.2 Total 50 45.5 45.5 54.5 110 100.0 100.0 100.0 ด้านเนื้อหา

ขอ้ ท่ี 1 กิจกรรมสอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 48 43.6 43.6 43.6 มาก 47 42.7 42.7 86.4 มากทส่ี ุด 15 13.6 13.6 100.0 Total 110 100.0 100.0 ข้อท่ี 2 การจดั กิจกรรมส่งเสริมให้ผ้รู ่วมกิจกรรมสามารถ คิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็ น Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 48 43.6 43.6 43.6 มาก 35 31.8 31.8 86.4 มากทส่ี ุด 27 24.5 24.5 100.0 Total 110 100.0 100.0 ข้อที่ 3 ผรู้ ่วมกิจกรรมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็ ต่อการจดั โครงการ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 50 45.5 45.5 45.5 มาก 45 40.9 40.9 86.4 มากทส่ี ุด 15 13.6 13.6 100.0 Total 110 100.0 100.0 ขอ้ ที่ 4 ผรู้ ว่ มกิจกรรมสามรถนาความรไู้ ปปรบั ใช้ในชีวิตประจาวนั ได้ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 55 50.0 50.0 50.0 มาก 30 27.3 27.3 77.3 มากทส่ี ุด 25 22.7 22.7 100.0 Total 110 100.0 100.0 ดา้ นวิทยากร

ข้อที่ 5 วิทยากรมีความรู้ ความสามารถ ในการถ่ายทอดองคค์ วามรู้ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 75 68.2 68.2 68.2 มาก 20 18.2 18.2 86.4 มากทส่ี ดุ 15 13.6 13.6 100.0 Total 100 100.0 100.0 ขอ้ ท่ี 6 วิทยากรมีเทคนิค วิธีการในการจดั การถ่ายทอดองคค์ วามรู้ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid มาก 85 77.3 77.3 77.3 มากทส่ี ุด 25 22.7 22.7 100.0 Total 110 100.0 100.0 ขอ้ ท่ี 7 วิทยากรมกี ารใชส้ ่ือที่สอดคล้องและเหมาะสมกบั กิจกรรม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid มาก 80 72.7 72.7 72.7 มากทส่ี ุด 30 27.3 27.3 100.0 Total 110 100.0 100.0 ขอ้ ที่ 8 บุคลิกภาพของวิทยากร Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 77 70.0 70.0 70.0 มาก 23 20.9 20.9 90.9 มากทส่ี ดุ 10 9.1 9.1 100.0 Total 110 100.0 100.0 ดา้ นสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ ขอ้ ที่ 9 สถานท่ีในการจดั กิจกรรมเหมาะสม

Valid ปานกลาง Frequency Percent Valid Percent Cumulative มาก 50 45.5 45.5 Percent มากทส่ี ดุ 35 31.8 31.8 45.5 Total 25 22.7 22.7 77.3 110 100.0 100.0 100.0 ข้อที่ 10 ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมเหมาะสม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 55 50.0 50.0 50.0 มาก 35 31.8 31.8 81.8 มากทส่ี ดุ 20 18.2 18.2 100.0 Total 110 100.0 100.0 ขอ้ ท่ี 11 ความพงึ พอใจในภาพรวมของผรู้ ่วมกิจกรรมต่อการเข้ารว่ มกิจกรรม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 60 54.5 54.5 54.5 มาก 30 27.3 27.3 81.3 มากทส่ี ุด 20 18.2 18.2 100.0 Total 110 100.0 100.0 ขอ้ ท่ี 12 ประโยชน์ที่ไดร้ บั จากการเขา้ ร่วมกิจกรรมตามโครงการ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid มาก 70 63.6 63.6 63.6 มากทส่ี ดุ 40 36.4 36.4 100.0 Total 110 100.0 100.0 Descriptive Statistics N Range Minimum Maximum Mean Std. Deviation ขอ้ ท่ี 1 กจิ กรรมสอดคลอ้ งกับ 110 2.00 3.00 5.00 4.30 .6948 วตั ถปุ ระสงค์ของโครงการ

ขอ้ ที่ 2 การจัดกจิ กรรมสง่ เสริม 110 2.00 3.00 5.00 4.19 .8034 .6998 ให้ผรู้ ว่ มกิจกรรมสามารถ คิด .8080 .7216 เปน็ ทำเป็น แกป้ ญั หาเป็น .4191 .4454 ข้อท่ี 3 ผู้ร่วมกจิ กรรมมีส่วนร่วม 110 2.00 3.00 5.00 4.32 .6480 .7938 ในการแสดงความคดิ เหน็ ต่อการ .7620 .7714 จดั โครงการ .4810 ข้อท่ี 4 ผรู้ ่วมกิจกรรมสามรถนำ 110 1.00 3.00 5.00 4.27 ความรู้ไปปรบั ใช้ใน ชวี ิตประจำวันได้ ข้อท่ี 5 วิทยากรมคี วามรู้ 110 2.00 3.00 5.00 4.55 ความสามารถ ในการถ่ายทอด องค์ความรู้ ข้อท่ี 6 วทิ ยากรมเี ทคนคิ 110 1.00 4.00 5.00 4.77 วิธกี ารในการจัดการถา่ ยทอด องค์ความรู้ ขอ้ ที่ 7 วิทยากรมกี ารใช้สอ่ื ที่ 110 1.00 4.00 5.00 4.73 สอดคลอ้ งและเหมาะสมกบั กจิ กรรม ข้อท่ี 8 บคุ ลกิ ภาพของวทิ ยากร 110 2.00 3.00 5.00 4.61 ขอ้ ที่ 9 สถานทีใ่ นการจดั 110 2.00 3.00 5.00 4.23 กจิ กรรมเหมาะสม ขอ้ ที่ 10 ระยะเวลาในการจดั 110 2.00 3.00 5.00 4.32 กิจกรรมเหมาะสม ข้อที่ 11 ความพึงพอใจใน 110 2.00 3.00 5.00 4.36 ภาพรวมของผรู้ ่วมกจิ กรรมตอ่ การเข้าร่วมกิจกรรม ข้อท่ี 12 ประโยชน์ท่ไี ด้รับจาก 110 2.00 4.00 5.00 4.64 การเขา้ ร่วมกิจกรรมตาม โครงการ Valid N (listwise) ภาพกจิ กรรม

แบบประเมนิ โครงการคา่ ยเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ คู่ วามเปน็ ไทย

คำกลา่ วเปดิ

รายชอ่ื นกั ศกึ ษาทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการค่ายเสรมิ สร้างคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ คู่ วามเป็นไทย วนั ท่ี 6 - 7 ธนั วาคม พ.ศ.2561

ณ วดั ยองแยง อ.เมอื ง จ.นครราชสมี า ลำดบั ชอื่ – สกลุ เลขบตั รประจำตวั ประชาชน หมายเหตุ

โครงการคา่ ยเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ คู่ วามพอเพยี ง คณะผจู้ ดั ทำ

ทป่ี รกึ ษา ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอโชคชัย นางสุมาลี วชั ระมโนกานต์ ครผู ชู้ ว่ ย นางพิกลุ กานต์ คีรแี ลง บรรณารกั ษ์ชำนาญการพิเศษ นางสวุ ิมล หาญกล้า วเิ คราะห์ เรยี บเรยี ง และจดั ทำตน้ ฉบบั ครูผู้ช่วย นางพิกลุ กานต์ คีรแี ลง ครู กศน.ตำบล นางสาวรจนา ขวญั เกตุ ครู กศน.ตำบล นางสาวพรรณี ปรอื ทอง ครู ศรช. นางสาวสภุ าวดี ขวัญเกตุ ครู ศรช. นางสาวอณญั ญา คณู เพ่มิ พนู ทอง บรรณาธกิ าร ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอโชคชัย นางสมุ าลี วชั ระมโนกานต์ ครูผู้ชว่ ย นางพกิ ุลกานต์ คีรแี ลง บรรณารักษช์ ำนาญการพิเศษ นางสุวิมล หาญกลา้

ภาคผนวก

ตารางวเิ คราะหผ์ ลขอ้ มลู โครงการคา่ ยคณุ ธรรม จริยธรรม นำความรสู คู่ วามพอเพยี ง โดยใชโ้ ปรแกรม SPSS เพศ Valid ชาย Frequency Percent Valid Percent Cumulative หญงิ 65 59.1 59.1 Percent Total 45 40.9 40.9 59.1 110 100.0 100.0 100.0 อายุ Valid 15-29 ปี Frequency Percent Valid Percent Cumulative 30-49 ปี 90 81.8 81.8 Percent มากกวา่ 50 ปีขึน้ ไป 15 13.6 13.6 81.8 Total 5 4.6 4.6 95.4 110 100.0 100.0 100.0 ระดบั การศกึ ษา Valid ประถมศึกษา Frequency Percent Valid Percent Cumulative มัธยมศึกษาตอนตน้ 5 4.6 4.6 Percent มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 40 36.4 36.4 4.6 Total 65 59.0 59.0 41.0 100.0 110 100.0 100.0 อาชพี Valid เกษตรกรรม Frequency Percent Valid Percent Cumulative ค้าขาย 20 18.2 18.2 Percent ธรุ กจิ สว่ นตัว 10 9.0 9.0 18.2 รบั จ้าง 30 27.3 27.3 27.2 Total 50 45.5 45.5 54.5 110 100.0 100.0 100.0

ดา้ นเนอ้ื หา ขอ้ ที่ 1 กจิ กรรมสอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 48 43.6 43.6 43.6 มาก 47 42.7 42.7 86.4 มากท่สี ดุ 15 13.6 13.6 100.0 Total 110 100.0 100.0 ขอ้ ที่ 2 การจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ ใหผ้ รู้ ว่ มกจิ กรรมสามารถ คดิ เปน็ ทำเปน็ แกป้ ญั หาเปน็ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 48 43.6 43.6 43.6 มาก 35 31.8 31.8 86.4 มากทสี่ ุด 27 24.5 24.5 100.0 Total 110 100.0 100.0 ขอ้ ที่ 3 ผรู้ ว่ มกจิ กรรมมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็ ตอ่ การจดั โครงการ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 50 45.5 45.5 45.5 มาก 45 40.9 40.9 86.4 มากทส่ี ุด 15 13.6 13.6 100.0 Total 110 100.0 100.0 ขอ้ ที่ 4 ผรู้ ว่ มกจิ กรรมสามรถนำความรไู้ ปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 55 50.0 50.0 50.0 มาก 30 27.3 27.3 77.3 มากทส่ี ุด 25 22.7 22.7 100.0 Total 110 100.0 100.0

ดา้ นวทิ ยากร ขอ้ ที่ 5 วทิ ยากรมคี วามรู้ ความสามารถ ในการถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 75 68.2 68.2 68.2 มาก 20 18.2 18.2 86.4 มากท่ีสุด 15 13.6 13.6 100.0 Total 100 100.0 100.0 ขอ้ ที่ 6 วทิ ยากรมเี ทคนคิ วิธกี ารในการจดั การถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid มาก 85 77.3 77.3 77.3 มากทสี่ ุด 25 22.7 22.7 100.0 Total 110 100.0 100.0 ขอ้ ท่ี 7 วทิ ยากรมกี ารใชส้ อ่ื ทสี่ อดคลอ้ งและเหมาะสมกบั กจิ กรรม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid มาก 80 72.7 72.7 72.7 มากทส่ี ุด 30 27.3 27.3 100.0 Total 110 100.0 100.0 ขอ้ ที่ 8 บคุ ลกิ ภาพของวทิ ยากร Valid ปานกลาง Frequency Percent Valid Percent Cumulative มาก 77 70.0 70.0 Percent มากที่สุด 23 20.9 20.9 70.0 Total 10 9.1 9.1 90.9 110 100.0 100.0 100.0

ดา้ นสถานท่ี ระยะเวลา และความพงึ พอใจ ขอ้ ท่ี 9 สถานทใี่ นการจดั กจิ กรรมเหมาะสม Valid ปานกลาง Frequency Percent Valid Percent Cumulative มาก 50 45.5 45.5 Percent มากทีส่ ดุ 35 31.8 31.8 45.5 Total 25 22.7 22.7 77.3 110 100.0 100.0 100.0 ขอ้ ที่ 10 ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรมเหมาะสม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 55 50.0 50.0 50.0 มาก 35 31.8 31.8 81.8 มากทส่ี ดุ 20 18.2 18.2 100.0 Total 110 100.0 100.0 ขอ้ ที่ 11 ความพงึ พอใจในภาพรวมของผรู้ ว่ มกจิ กรรมตอ่ การเขา้ รว่ มกจิ กรรม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 60 54.5 54.5 54.5 มาก 30 27.3 27.3 81.3 มากทสี่ ดุ 20 18.2 18.2 100.0 Total 110 100.0 100.0 ขอ้ ท่ี 12 ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั จากการเขา้ รว่ มกจิ กรรมตามโครงการ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid มาก 70 63.6 63.6 63.6 มากทสี่ ุด 40 36.4 36.4 100.0 Total 110 100.0 100.0 Descriptive Statistics

N Range Minimum Maximum Mean Std. Deviation 110 ข้อที่ 1 กจิ กรรมสอดคลอ้ งกบั 110 2.00 3.00 5.00 4.30 .6948 วัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ ขอ้ ท่ี 2 การจดั กจิ กรรมสง่ เสริม 110 2.00 3.00 5.00 4.19 .8034 ใหผ้ ู้รว่ มกิจกรรมสามารถ คดิ เป็น ทำเปน็ แก้ปญั หาเป็น 110 2.00 3.00 5.00 4.32 .6998 ขอ้ ที่ 3 ผู้ร่วมกิจกรรมมสี ว่ นร่วม ในการแสดงความคดิ เห็นต่อการ 110 1.00 3.00 5.00 4.27 .8080 จัดโครงการ ขอ้ ที่ 4 ผู้รว่ มกจิ กรรมสามรถนำ 110 2.00 3.00 5.00 4.55 .7216 ความรไู้ ปปรบั ใชใ้ น ชีวติ ประจำวันได้ 110 1.00 4.00 5.00 4.77 .4191 ขอ้ ท่ี 5 วทิ ยากรมคี วามรู้ ความสามารถ ในการถ่ายทอด 110 1.00 4.00 5.00 4.73 .4454 องคค์ วามรู้ 110 ขอ้ ท่ี 6 วิทยากรมีเทคนคิ 110 2.00 3.00 5.00 4.61 .6480 วธิ กี ารในการจดั การถ่ายทอด 110 2.00 3.00 5.00 4.23 .7938 องคค์ วามรู้ 2.00 3.00 5.00 4.32 .7620 ขอ้ ที่ 7 วิทยากรมีการใช้ส่อื ที่ 110 2.00 3.00 5.00 4.36 .7714 สอดคล้องและเหมาะสมกบั กิจกรรม 2.00 4.00 5.00 4.64 .4810 ขอ้ ที่ 8 บคุ ลกิ ภาพของวทิ ยากร ข้อท่ี 9 สถานท่ีในการจดั กิจกรรมเหมาะสม ข้อท่ี 10 ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรมเหมาะสม ข้อที่ 11 ความพึงพอใจใน ภาพรวมของผรู้ ว่ มกิจกรรมต่อ การเข้ารว่ มกิจกรรม ข้อท่ี 12 ประโยชนท์ ่ีได้รบั จาก การเขา้ ร่วมกิจกรรมตาม โครงการ Valid N (listwise) ภาพกจิ กรรม

แบบประเมนิ โครงการคา่ ยเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ คู่ วามเปน็ ไทย

คำกลา่ วเปดิ

รายชอ่ื นกั ศกึ ษาทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการคา่ ยเสรมิ สรา้ งคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ คู่ วามเป็นไทย

วันท่ี 6 - 7 ธนั วาคม พ.ศ.2561 ณ วดั ยองแยง อ.เมอื ง จ.นครราชสมี า ลำดับ ชอ่ื – สกลุ เลขบตั รประจำตวั ประชาชน หมายเหตุ

โครงการคา่ ยเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำความรสู้ คู่ วามพอเพยี ง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook