Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความปลอดภัย

ความปลอดภัย

Published by สันติ ศรีตระกูล, 2019-11-01 02:55:59

Description: ความปลอดภัย

Search

Read the Text Version

ความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในสถานประกอบการ อาจารย์ สนั ติ ศรตี ระกูล สาขาเทคโนโลยี ไฟฟ้า

1.1 ความปลอดภัยในการปฏบิ ัตงิ าน (Safety Health and Environmental) อบุ ัติเหตุ คือ เหตกุ ารณท์ เ่ี กิดขน้ึ สร้างความเสยี หายอยา่ งไม่คาดหมายและเม่อื เกิดขึน้ แล้ว จะมผี ลกระทบตอ่ การทาํ งานทรพั ย์สินและบุคคล สิง่ ต้องคํานึงถงึ เสมอในการปฏบิ ัตงิ านคอื ความ ปลอดภยั โดยเฉพาะการก่อสร้างการผลติ โดยเคร่ืองจักร ซง่ึ มีความเสี่ยงสูงหากการปอ้ งกันไม่รดั กุม เพยี งพออาจกอ่ ให้เกดิ ความเสยี หายท้งั ผูป้ ฏิบัตงิ าน ผลิตภณั ฑ์ และเครื่องจกั รในการผลิตได้ ผลเสียการเกิดอบุ ตั ิเหตุแต่ละครงั้ มีต่อองค์กร ไดแ้ ก่ เสียหายตอ่ ทรัพย์สนิ เสียชวี ิต เสียอวยั วะหรือ พิการ เสียอิสรภาพต้องโทษทางกฎหมาย เสียเวลากสู้ ถานการณ์ เสียขวญั และกาํ ลงั ใจ เสียเวลา ฟ้นื ฟูสภาพจิตใจเสยี ประสทิ ธ์ิภาพการทาํ งานตกํต่าเสยี ชอื่ เสยี งเช่นคอนโดที่มอี บุ ตั เิ หตุคนเสียชีวติ มกั จะขายไดไ้ มม่ าก 1.1.1 กฎหมายทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับความปลอดภยั ในการปฏบิ ัติงาน งานด้านวิศวกรรม เป็นงานท่เี กย่ี วข้องกบั ความปลอดภยั ของผู้คนจํานวนมาก วศิ วกร จาํ เปน็ ต้องมีความรู้ดีความเข้าใจถึงเหตทุ จี่ ะกอ่ ใหเ้ กิดอนั ตรายและหาวธิ กี ารป้องกันกอ่ นทจ่ี ะเกดิ อบุ ตั เิ หตขุ นึ้ ถ้าเกดิ อบุ ตั ิเหตุจนมีผไู้ ด้รับบาดเจ็บหรอื เสียชีวติ จะเปน็ การละเมิดกฎหมายทนั ทีและ มีความผิดต้องโทษอาญา เน่ืองจากเปน็ ผูร้ ับผดิ ชอบในหน้าทีด่ งั นน้ั วศิ วกรจาํ เป็นตอ้ งรใู้ นขอ้ กฎหมายทเ่ี กี่ยวข้องกบั ความปลอดภยั และปฏิบัติตามอย่างเครง่ ครดั ทง้ั กฎหมายโดยทวั่ ไปไดร้ ับ การกล่ันกรองเพ่ือนํามาปฏบิ ตั เิ พอื่ ป้องกัน ความผดิ พลาดท่ีอาจจะเกดิ ข้นึ และส่งผลกระทบต่อ ผู้อน่ื กฎหมายทเ่ี ก่ียวข้องกบั ความปลอดภยั จะอยู่ ภายใต้การกํากับดแู ลหลายกระทรวง ภายใต้ พระราชบญั ญัตติ ่างๆ ได้แก่ พระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 พระราชบญั ญัตคิ วามปลอดภัยอาชวี อนามัยและสภาพแวดล้อมในการทางาน ํ พ.ศ. 2554 พระราชบัญญัตคิ ุม้ ครองแรงงานกรมสวัสดกิ ารและคมุ้ ครองแรงงาน พระราชบญั ญัตโิ รงงาน พ.ศ. 2535 กฎหมายความปลอดภยั ในโรงงาน กฎหมายความปลอดภัยในการทํางาน พระราชบญั ญตั ิวตั ถอุ ันตราย พ.ศ. 2535 พระราชบญั ญตั ิการควบคมุ ํน้ามันเชอื้ เพลิง พ.ศ. 2542 พระราชบญั ญัติ และกฎหมาย อ่นื ๆ พระราชบัญญตั ติ า่ งๆ จะกาํ หนดกฎหมายออกมาควบคุมในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านแรงงาน ด้านกอ่ สร้าง ดา้ นเครื่องจักร ด้านอาชวี อนามยั หรือเฉพาะดา้ น เชน่ ด้านกัมมันตภาพรังสี หรอื ด้านสิง่ แวดล้อม เปน็ ตน้

1.1.2 สาเหตุของอบํัติเหตุ (Causes of Accidents) H.W. Heinrich ไดศ้ ึกษาถึงสาเหตทุ ก่ี ่อให้เกิดอบุ ตั เิ หตุในงานอุตสาหกรรมต่างๆ ในปี ค.ศ. 1920 ผลการศกึ ษาวจิ ัย สรปุ ไดส้ าเหตุของอุบตั ิเหตุ ทสี่ ําคญั มี 3 ประการ ไดแ้ ก่ ก. สาเหตุท่ีเกดิ จากคน (Human Cause) มีจาํ นวนสงู ทส่ี ดุ คือ 88% ของการเกิดอุบัตเิ หตุ ทุกคร้ัง ตวั อย่างเช่น การทํางานท่ีไม่ถูกต้อง ความพลั้งเผลอ ความประมาท การมีนิสยั ชอบเส่ียงใน การทํางานเป็นตน้ ก.1 สาเหตุจากการออกแบบที่ไมถ่ ูกตอ้ งเหมาะสม เชน่ ด้านกระบวนการผลิต ดา้ นวิศวกรรม ด้านการดัดแปลงไม่เป็นตามหลักวชิ าการ (Health, Safety, Environmental impact,Energy) เปน็ ตน้ ก.2 สาเหตจุ ากการสรา้ ง ตดิ ต้งั ไมถ่ ูกตอ้ งเหมาะสม เชน่ ด้านความรใู้ นการติดต้ังไมล่ ะเอียด ด้านการไมศ่ ึกษาการทาํ งานของเครอ่ื งจักรท่ตี ดิ ตัง้ ความรู้ด้านเดนิ เครอ่ื ง การหยุดเครื่องกะทนั หนั ระบบนริ ภัยทจ่ี าํ เป็น อปุ กรณ์ช่วยกรณีฉกุ เฉิน ก.3 การใช้งานและการบาํ รุงรักษา เชน่ การตรวจเชค็ ตามระยะเวลาต่างๆ การสอบเทยี บ อุปกรณ์ตรวจวัด การบาํ รุงรกั ษา การซอ่ มแซม เป็นต้น ข. สาเหตทุ ี่เกดิ จากความผิดพลาดของเครื่องจกั ร (Mechanical Failure) มจี าํ นวนเพยี ง 10%ของการเกิดอุบัตเิ หตุทกุ ครั้ง ตวั อย่างเช่น สว่ นทเ่ี ป็นอนั ตรายของเครอ่ื งจกั รท่ไี ม่มีเครอื่ ง ป้องกนั เครื่องจักรเครื่องมือหรืออปุ กรณต์ า่ งๆ ชํารุดบกพรอ่ ง รวมถงึ การวางผังโรงงานไม่ เหมาะสม สภาพแวดลอ้ มในการทาํ งานไม่ปลอดภยั เปน็ ต้น ค. สาเหตุทเี่ กิดจากธรรมชาติ (Natural Disaster) มจี าํ นวนเพยี ง 2 % เปน็ สาเหตุท่ี เกิดข้นึ โดยธรรมชาติ นอกเหนอื การควบคุมได้ เช่น แผน่ ดนิ ไหว พายุ ํน้าทว่ ม ฟ้าผ่า เกิดพิกัดท่ี ออกแบบรองรบั เป็นต้น 1.1.3 การสร้างความปลอดภยั ในการทาํ งาน หวั ใจสําคญั ของการทาํ งานคือการช่วยกนั สร้างความปลอดภยั ในการทาํ งานโดยวิธกี าร ป้องกนั (PassiveหรือPrevention)มใิ ห้เกดิ ขน้ึ ได้แกก่ ารอบรมใหค้ วามรคู้ วามเข้าใจท่ีถูกตอ้ งก่อน เข้าปฏิบตั ิงานการตดิ ตามประเมินผลพฤตกิ รรมในการทาํ งานของพนักงาน และสภาพแวดล้อม สถานท่ที าํ งาน และโดยวธิ ีปกปอ้ ง (Active หรอื Protection) ไดแ้ ก่ การนําเอาอุปกรณ์ภายนอก มาปกปอ้ งอวัยวะปกปดิ ผลติ ภณั ฑแ์ ละปกคลุมเครือ่ งจักรท่ีจําเป็นต่อการปฏบิ ัตงิ านเพื่อผ่อนหนัก ใหเ้ บาลงเพ่ือเป็นการสร้างความปลอดภยั ในการทาํ งานอย่างมปี ระสิทธภิ าพน้นั ตอ้ งยดึ หลกั การ 3E ไดแ้ ก่

การใชค้ วามรูท้ างวชิ าการ ด้านวศิ วกรรมศาสตร์ -(Engineering- E) คอื ในด้านการออกแบบ และคํานวณเครื่องจักร เครือ่ งมือ ท่ีมสี ภาพ การใชง้ านทีป่ ลอดภยั ทีส่ ดุ การติดตัง้ เครื่องป้องกันอนั ตรายใหแ้ ก่สว่ นท่เี คลอื่ นไหวหรืออนั ตราย ของเคร่อื งจักรการวางผังโรงงาน ระบบไฟฟา้ แสงสวา่ ง เสียง การระบายอากาศเป็นตน้ การให้ การศึกษาหรอื การฝึกอบรม -(Education-E) คือและแนะนาํ คนงานหวั หนา้ งานตลอดจนผูท้ เี่ ก่ยี วขอ้ งในการทํางานให้มี ความรู้ความเข้าใจในการปอ้ งกนั อบุ ัติเหตุ และการสรา้ งความปลอดภยั ในงานใหร้ ู้ว่าอบุ ตั เิ หตจุ ะ เกิดข้นึ และป้องกนั ไดอ้ ยา่ งไร และจะทาํ งานวิธใี ดจะปลอดภัยท่ีสดุ เป็นต้นการใช้มาตรการบังคบั ควบคมุ -(Enforcement-E) คอื การกําหนดวิธกี ารทํางานอยา่ งปลอดภยั และการควบคุมบังคับ อยา่ งจริงจังและเขม้ งวดกดั ขัน ให้คนงานปฏิบัตติ ามเปน็ กฎระเบยี บปฏบิ ตั ิและต้องประกาศให้ ทราบทัว่ กันหากผูใ้ ดฝา่ ฝืนหรือไม่ปฏิบตั ิตามจะตอ้ งถกู ลงโทษเพื่อให้เกิดจิตสาํ นึกเกิดเปน็ วัฒนธรรมองค์กรขน้ึ และหลีกเลีย่ งการกระทาํ ทไ่ี ม่ถูกตอ้ งหรอื เป็นอันตรายถ้าพจิ ารณาความ ปลอดภยั ในการทํางานถูกกําหนดเปน็ กฎหมายบงั คับใชใ้ นดา้ นตา่ งๆ ซึ่งจําเป็นตอ้ งศกึ ษาและ ปฏิบตั ติ ามอย่างเคร่งครดั และการทาํ งานจริงจําเป็นตอ้ งศึกษารายละเอียดเพม่ิ มากขน้ึ เพื่อความ ปลอดภัยสูงสุดซ่ึงเกี่ยวข้องกับดา้ นบคุ คลผู้ปฏิบตั ิงานสถานที่ปฏบิ ตั งิ านเครอ่ื งจกั รอุปกรณ์ และ สง่ิ แวดลอ้ มในปฏิบตั งิ าน เป็นตน้ 1.1.4 ความปลอดภัยส่วนบคคล ุ ความปลอดภยั ส่วนบคุ คล เปน็ สง่ิ ที่ต้องคาํ นึงถึงเป็นลําดบั แรก ความปลอดภัยส่วนบคุ คล มักจะ เป็นเชงิ ปกปอ้ งดว้ ยอปุ กรณส์ าํ หรบั ความปลอดภยั เป็นหลกั โดยตอ้ งสวมใส่อุปกรณ์ปกปอ้ งอวยั วะ ตา่ งๆ ของรา่ งกาย ในการปฎิบตั งิ าน ผปู้ ฎิบตั ิงานจําเป็นตอ้ งทราบหลักการใชง้ าน ชนิด ข้อจาํ กดั ตลอดจนการดูแลรกั ษาอย่างถกู ต้องเพื่อประโยชน์ต่อตัวผู้ปฎิบัติงานเองอุปกรณค์ ุ้มครองความ ปลอดภยั สว่ นบคุ คล หมายถึง อุปกรณ์หรือส่งิ หนงึ่ ส่ิงใดทจ่ี ะนํามาสวมใส่บนสว่ นใดสว่ นหนึง่ หรือ หลายส่วนของบคุ คลน้นั ๆ เพอ่ื ปอ้ งกนั ไมไ่ ห้ได้รับอนั ตรายจากการทํางาน หรือลดความรุนแรงของ การประสบอันตรายท่อี าจเกิดขึน้ ประเภทของอปุ กรณ์ปอ้ งกันอนั ตรายส่วนบคุ คลสามารถจาํ แนก ตามลกั ษณะของงานที่ใชป้ อ้ งกนั อันตรายได้ ดังน้ี อุปกรณป์ ้องกนั ศีรษะ (Head Protection) อุปกรณป์ อ้ งกนั เทา้ (Foot Protection) อปุ กรณป์ อ้ งกันหน้าและดวงตา (Face and Eye Protection)

อปุ กรณป์ ้องกนั ระบบทางเดนิ หายใจ (Respiratory Protection) อุปกรณป์ อ้ งกันระบบการได้ยนิ (Hearing Protection) อุปกรณป์ ้องกนั มอื และแขน (Hand and Arm Protection) อุปกรณป์ อ้ งกนั การตกจากท่ีสูง (Fall Protection) อุปกรณ์ตรวจจบั ปรมิ าณสารพษิ ประจาํ ตัว 1.1.4.1 อุปกรณ์ป้องกนศรษี ะ (Head Protection) อุปกรณป์ อ้ งกนั ศรีษะ สําหรบั ปอ้ งกนั ศีรษะจากการกระแทก ชน หรือวัสดุจากท่สี งู มา กระทบโดยอุปกรณ์จะมลี ักษณะแขง็ แรง และทําดว้ ยวสั ดุทแี่ ตกตา่ งกนั ออกไป ซ่งึ ประกอบดว้ ย หมวกนิรภยั ซ่ึงใช้ป้องกันการกระแทกการเจาะทะลุของวัสดุทต่ี กลงมากระทบกับศีรษะหรอื ใช้ ต้านทานกระแสไฟฟา้ ทนไฟไหม้หมวกกันศีรษะชนซงึ่ ใช้งานในทแ่ี คบๆและหมวกคลุมผมเพ่ือ ปอ้ งกนั เสน้ ผมไมใ่ ห้เกี่ยวพันกับเครื่องจักรหรอื ช้นิ ส่วนใดๆซึ่งจะดึงร้ัง กระชากเป็นอนั ตรายตอ่ ศรี ษะได้ ไดแ้ ก่ หมวกนิรภยั (Safety Helmet) ใช้เพอ่ื ป้องกันศีรษะจากการกระแทก การเจาะ ทะลุ วัตถปุ ลวิ หรือกระเด็นมาโดน และไฟฟ้า มีลกั ษณะแข็งแรงทาํ ด้วยวัสดทุ ี่แตกต่างกนั ไปหมวก นิรภัยประกอบไปดว้ ยตวั หมวก (Head Shell) รองในหมวก (SuspensionLine) และสายรดั คาง (Chin Straps) รปู ท่ี 1.1.4.1 หมวกป้องกันนริ ภัยลกั ษณะต่างๆ 1.1.4.2 อปุ กรณป์ อ้ งกนั เท้า (Foot Protection) อุปกรณป์ ้องกนั เทา้ มคี วามสําคญั และจาํ เป็นอย่างยิ่งสําหรบั ผู้ท่ตี อ้ งทํางานในสถานท่ีท่ีอาจ เกิดอันตรายกบั เทา้ ไดซ้ ่งึ ผปู้ ฏบิ ัตงิ านควรจดั หารองเท้าหุม้ ขอ้ หรือรองเท้าท่ีเสรมิ ด้วยอปุ กรณ์ ปอ้ งกนั ตา่ ง ๆท่ีเรียกวา่ รองเท้านริ ภัย(SafetyShoes)เปน็ รองเทา้ ที่สวมใสใ่ นการทํางานเพอื่ ปอ้ งกัน การบาดเจ็บของเทา้ อาจจะเปน็ รองเทา้ ธรรมดาทีใ่ ช้งานท่วั ไปแต่ใส่อปุ กรณ์ปอ้ งกันลงไปอาจครอบ ลงทหี่ ัวหรือพ้นื รองเทา้ อุปกรณป์ ้องกนั ควรจะรับได้ประมาณ 11,000 กิโลกรมั และแรงกระแทก (Impact Load) เกินกว่า 20 กิโลกรมั ท่ีระยะทาง 1 ฟุต รองเท้านิรภยั แบ่งเป็น 6 ประเภท ไดแ้ ก่

ก. รองเทา้ นริ ภยั ชนดิ หัวโลหะมีเหลก็ หัวบัว (Steel Toe Cap) ป้องกันอันตรายทอี่ าจเกิด กบั นิว้ เท้า อาจมแี ผน่ โลหะรองพ้ืนกนั การแทงทะลุของของมีคมนิยมใช้แพรห่ ลาย ข. รองเท้าตวั นําไฟฟา้ มตี วั นําไฟฟ้าประกอบเหลก็ อยทู่ ่ีตัวรองเทา้ เพ่ือให้ประจุไฟฟ้าไหล ผา่ นไปได้ และสว่ นประกอบจาํ พวก nonferrous เพอ่ื ลดการเกิดประกายไฟเนือ่ งจากการเสยี ดสี ค. รองเทา้ หล่อหลอมโลหะเพ่ือป้องกันความร้อนและอันตรายจากโลหะท่หี ลอมเหลว มักทาํ จากวสั ดุปอ้ งกันความร้อนเชน่ อลูมิเนียมหรือแอสเบสทอส ง. รองเทา้ ปอ้ งกันการระเบิดเป็นรองเท้านิรภัยทปี่ ้องกันไม่ใหเ้ กดิ ประกายไฟขณะการใช้ งาน จ. รองเทา้ ปอ้ งกันอนั ตรายจากไฟฟ้าวัสดทุ ีใ่ ช้เป็นยางเพ่ือรองเทา้ จะไมม่ สี ว่ นทเี่ ป็นโลหะ ยกเวน้ สว่ นที่เปน็ เหลก็ หัวบัว ซงึ่ จะถูกหมุ้ ดว้ ยฉนวน ฉ. รองเทา้ ปอ้ งกันสารเคมีทาํ ดว้ ยวสั ดุที่ทนต่อการกดั กรอ่ นของนํ้ามัน หรือสารเคมี 1.1.4.3 อปุ กรณป์ อ้ งกันดวงตาและ ใบหนา้ (Eye and Face Protection) การปฏิบตั ิงานบางอย่างทเี่ ส่ียงอันตรายที่อาจจะเกดิ ขึน้ บรเิ วณใบหนา้ ดงั น้ัน อปุ กรณ์ ป้องกันใบหนา้ และดวงตาจําเปน็ สําหรบั การปอ้ งกันความร้อนการแผร่ ังสที ่เี ป็นอนั ตรายการเช่ือม โลหะการตัดโลหะได้แก่หนา้ กากกรองแสงหมวกครอบกนั กรดหมวกครอบแบบจ่ายอากาศและ อุปกรณป์ ้องกันแบบใชม้ ือถอื โดยจะผลติ จากวสั ดุทนไฟปอ้ งกนั แสงที่เปน็ อันตรายและทนต่อการใช้ นํ้ายาทําความสะอาดํน้าหนกั เบาสําหรบั แวน่ ครอบตาประกอบด้วยถว้ ยครอบตาพร้อมดว้ ยเลนส2์ ชิน้ ถว้ ยครอบตาท้งั สองยดึ ตดิ กันด้วยสะพานเชอื่ มถ้วยครอบตาทําด้วยพลาสติกหรือวสั ดุท่ีทนร้อน ป้องกันการติดเช้ือป้องกันํน้าซึมที่ ถ้วยครอบตาแต่ละขา้ งจะยึดดว้ ยกรอบเลนส์ซึ่งจะทําดว้ ยโลหะ หรอื พลาสติกกไ็ ดไ้ ด้แก่แวน่ ตานิรภัย(SafetyGlassesorSpectacles)แวน่ ตานิรภัยมีรูปรา่ งคลา้ ย แว่นตาที่ใชท้ ว่ั ไปแตกต่างตรงที่เลนสข์ อง แว่นตานริ ภยั สามารถทนตอ่ แรงกระแทกแรงเจาะความ

รอ้ นและสารเคมีได้ดแี วน่ ตานิรภัยเหมาะท่ีจะใช้ กับงานกลึง ไสเจยี ระไนหรอื งานทเ่ี สีย่ งต่อวัสดุ กระเดน็ มากระทบดวงตา 1.1.4.4 อปุ กรณป์ ้องกันอนั ตรายระบบทางเดนิ หายใจ (Respiratory Protection) ผ้ปู ฏิบัติงานควรจะจัดหาสําหรบั ป้องกันอันตรายท่ีเกิดข้ึนกับระบบหายใจในสภาวะ แวดล้อมที่มี มลพิษหรือมีอปุ สรรคตอ่ การหายใจ ซึ่งผ้ปู ฏิบตั ิงานควรเลอื กใชอ้ ุปกรณป์ อ้ งกันระบบ ทางเดินหายใจให้ เหมาะกบั สภาพแวดล้อมในการทาํ งานแต่ละสถานทซี่ ึ่งอุปกรณ์ป้องกันระบบ ทางเดนิ หายใจเปน็ การหายใจเอาอากาศสะอาดเขา้ สู่ร่างกายยอ่ มสง่ ผลดีตอ่ สุขภาพแต่ในสภาวะ แวดล้อมในการทํางานบางแห่งท่ีมีสารอันตรายปนเปือ้ นในสงิ่ แวดล้อม อาจจะสง่ ผลกระทบทเี่ ป็น อนั ตราย ตอ่ สุขภาพของคนทาํ งานได้ โดยปกติแล้ว สารปนเปือ้ นในสง่ิ แวดล้อมสามารถแบง่ ตาม ชนิดของสารปนเป้ือนได้ดังนี้ ก. ฝุน่ เกดิ จากการแตกตัวของของแข็งเช่น บด กระแทก ขัด ได้แก่ ฝนุ่ ไม้ ฝุน่ หิน เปน็ ต้น ข. ละออง เป็นอนุภาคของเหลวขนาดเล็กเกดิ จากการผสมฉีดพน่ เชน่ ละอองจากการฉีด พ่นสารเคมี ค. ควัน เกิดจากโลหะถูกหลอมกลายเปน็ ไอและเยน็ ตวั ลงอยา่ งรวดเร็ว เช่น งานบัดกรี หลอมโลหะ ง. แก๊ส เปน็ สิง่ ปนเปือ้ นที่ฟุ้งกระจายไปได้ไกล เชน่ แอมโมเนีย จ. ไอ พบได้ในงานทีเ่ ป็นสารตัวทาํ ละลาย เชน่ ทาสี ผสมสี นอกจากส่งิ ปนเปอื้ นแลว้ ใน อากาศเหล่านบ้ี างสภาวะการทํางานก็จะมีออกซิเจนไมเ่ พียงพอ ก็จะทําให้เกดิ อนั ตรายต่อร่างกาย ได้ เช่นการทาํ งานในทอ่ ใตด้ ิน ในถงั ขนาดใหญ่ เป็นตน้

1.1.4.5 อปุ กรณป์ ้องกันระบบการได้ยนิ (Hearing Protection Devices) ในการทาํ งานทต่ี ้องสมั ผัสกับเสียงทีด่ ังกว่า 90 เดชิเบลตลอดเวลาการทํางานจะทาํ ให้เกิด อนั ตรายตอ่ การไดย้ ินในทางวิชาการหากตรวจวดั เสียงในสถานทที่ ํางานดังเกนิ กว่า85เดชเิ บลแลว้ ต้อง ลดระดับความดังของเสยี ง อาจจะโดยท่แี หล่งกําเนิด (Source) และทางผ่าน (Pathway) แล้ววธิ กี ารใช้ PPE.กเ็ ป็นมาตรการทล่ี ดอนั ตรายจากเสยี งลงได้ ก. ทอ่ี ุดหู (Ear Plug) ข.ท่ีอุดหูชนิดน้ีจะมสี ว่ นของวัสดทุ ีเ่ ตม็ ชอ่ งหูด้านนอกช่วยในการลดระดับเสยี งการอดุ ให้ สนทิ กบั ช่องหจู ะมีแถบสปรงิ หรอื ทค่ี าดศีรษะเป็นตัวยดึ - ชนิดปดิ คลมุ (Enclosure) จะปดิ คลมุ ทง้ั ศีรษะ เช่นหมวกนกั บนิ อวกาศ ประสิทธภิ าพและราคาสูงจงึ ไมน่ ิยมใช้ ค. ครอบหู (Earmuffs) มลี กั ษณะคล้ายถ้วย ใชค้ รอบหูทัง้ สองข้างทีค่ รอบหจู ะช่วยลด พลงั งานเสยี งไดโ้ ดยมวี สั ดปุ อ้ งกนั เสยี งอยู่ภายในทค่ี รอบหซู ่ึงอาจจะเป็นของเหลว โฟม ยาง หรอื พลาสติกทําหนา้ ท่ดี ูดซับเสียง 1.1.4.6 อปุ กรณป์ ้องกนม ั ือและแขน (Hand and Arm Protection) ถงุ มอื นริ ภัยแบง่ ตามลักษณะงานไดเ้ ป็น 6 ประเภท ไดแ้ ก่

ก. ถงุ มอื ปอ้ งกนั ความร้อน ต้องพิจารณาเลือกใชใ้ ห้เหมาะกบั งานเพราะว่าไมม่ กี ารระบุ ระดับอุณหภมู ิ และระยะเวลาในการปอ้ งกนั ความรอ้ นไว้ ข. ถงุ มือปอ้ งกันสารเคมี ค. ถงุ มือปอ้ งกันการขดี ขว่ นของมคี มและรังสีอาจเปน็ ถงุ มอื ผา้ ถุงมอื ตาข่ายลวด ถุงมือหนัง ง.ถุงมอยางป้องกนั ไฟฟา้ การทํางานกับไฟฟ้าเปน็ งานท่เี สี่ยงค่อนข้างสูงจึงจาํ เปน็ ต้องเลือก ถงุ มอื หรอื ปลอกแขนปอ้ งกนั ไฟฟา้ ตามความสามารถในการต้านตอ่ แรงดนั ไฟฟ้าซ่ึงแบง่ เป็น 5 Class (0 – 4) จ. ถุงมอื ติดผนงั ตู้ สําหรับตดิ ผนงั ตู้ ตอ้ งสอดแขนจากภายนอกเข้าไปเพ่ือป้องกนั การ ปนเปอื้ น หรอื อนั ตรายท่จี ะเกดิ กบั ผู้ทาํ งาน เชน่ งานวิจัยงานทางการแพทย์ รังสี หรอื งานที่ เขม้ งวดกับมาตรฐานอุตสาหกรรม ฉ.แผน่ รองป้องกนั มอื เปน็ แผ่นวัสด2ุ แผน่ ประกบกนั ใชฝ้ า่ มอื สอดเข้าไปเพอ่ื ป้องกันอนั ตราย จากการขดั เสยี ด สีอย่างแรงมกั จะใช้ในงานขนยา้ ยวัสดจุ ะไม่ใชก้ ับงานทอ่ี ยู่รอบๆเคร่ืองจกั รทม่ี ี การเคลือ่ นท่ี 1.1.4.7 อปุ กรณ์ป้องกนการตกจากท่สี งู การทาํ งานในที่สูงหรอื ท่ตี ่างระดบั เปน็ งานทเี่ ส่ียงจําเปน็ ต้องใชอ้ ปุ กรณป์ อ้ งกันการตกจาก ทส่ี งู ซึง่ แบง่ เป็น 3 ประเภทคอื ก. เข็มขดั นิรภัย (Safety Belt) ประกอบดว้ ยตัวเขม็ ขัดนิรภัยเชือกนิรภยั (Safety Rope or Lanyards) หรอื แถบนิรภัย (Safety Strap) โดยตวั เขม็ ขัด จะใชก้ บั ลําตัว ส่วนเชอื กนิรภยั จะ คล้องตวั เข็ม ขัดโยงไวก้ ับเสาโครงสรา้ งเหลก็ หรือสายรดั ช่วยชีวติ สายรดั ตวั นริ ภยั เขม็ ขัดนริ ภยั ข. สายรัดตวั นิรภยั (Safety Harnesses) เป็นอุปกรณท์ ใ่ี ช้กบั งานท่เี สี่ยงตอ่ การตกจากท่ี สูงหรือทตี่ า่ งระดบั ทม่ี คี วามปลอดภัยกวา่ เข็มขัดนิรภยั สายรัดตัวจะใชร้ ่วมกับสายรัดช่วยชวี ติ เสมอ

สายรดั ตวั นิรภยั แบง่ เปน็ 3 ชนดิ คอื ชนดิ คาดหน้าอก ชนิดคาดเอว ขา และชนิดแขวนตัวสายรดั ชว่ ยชวี ิต ค. สายรดั ชว่ ยชวี ิต (Life Line) เส้นเชือกทใี่ ชร้ ง้ั ผูกยดึ เก่ียวตวั คน เพื่อความปลอดภยั ใน กรณีเคลอ่ื นทีต่ ้องใช้กบั เข็มขดั นริ ภยั หรือสายรัดลาํ ตวั เมือ่ ทํางานในที่สูง วัสดทุ ่ีใช้มีหลายชนิด เช่น ไนลอนมนลิ า ลวดสปรงิ การเลือกใช้ขนึ้ กบั ลักษณะของงาน 1.1.4.8 อุปกรณ์ตรวจจับปรมิ าณสารพษิ ประจาํ ตวั การทาํ งานในพ้ืนทท่ี ่ีมสี ารอันตรายมกั จะติดอปุ กรณต์ รวจจบั หรือตรวจวดั ปริมาณสารพิษ ร่วั ไหลทไี่ ม่มสี ี หรือกล่ิน เช่น ก๊าซพิษต่างเช่น ก๊าซแอมโมเนยี กา๊ ซไนตรสั กา๊ ซโอโซน กา๊ ซคลอรีน ก๊าซฟอสจนี ก๊าซซารนิ เปน็ ตน้ หรือ กมั มันตภาพรังสีต่างๆ เชน่ สารโคบอล รังสีแกรมมา่ รังสี เอ็กซ์ เม่ือจาํ เปน็ ต้องเข้าไปปฏบิ ัตงิ านในบริเวณดังกล่าวจําเปน็ ต้องติดอุปกรณ์ตรวจจับเพื่อแสดง ใหเ้ หน็ ชัดเจนถึงอันตรายท่ีกําลังเกิดขน้ึ อปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการตรวจจบั มีเป็นแบบแถบตรวจจบั สารพิษ (Personal gas detectorBadge)ติดทป่ี กเสอ้ื หรือกระเป๋าเสื้อส่วนอกี แบบลงทนุ สูงหนอ่ ยเป็น อุปกรณต์ รวจจับกมั มนั ตภาพรังสีแบบพกพา (Personal gasdetector Device) รูปที่ 1.1.4.8 อปุ กรณ์ตรวจจับปริมาณสารพิษประจําตัว

1.1.5 ความปลอดภัยเก่ียวกบั ทีอ่ ับอากาศ โศกนาฏกรรมท่เี กดิ ขึน้ จากการทาํ งานในสถานทอ่ี บั อากาศครัง้ แลว้ ครั้งเลา่ ท่ผี ่านมา เช่น อุบตั เิ หตทุ ่ีเกิดขึน้ กบั คนงานทําความสะอาดหอ้ งเก็บของใต้ทอ้ งเรอื ขนาดใหญ่ คนงานซอ่ มแซม บ่อ ํน้าทิ้งฯลฯมีผลใหค้ นงานที่แม้จะแขง็ แรงมากประสบอันตรายสญู เสยี ชวี ิตและในจํานวนนม้ี กั ผนวก ชีวติ ของผูร้ ว่ มงานท่พี ยายามจะเขา้ ไปใหค้ วามชว่ ยเหลือผู้เคราะหร์ ้ายเหล่านัน้ ด้วยอุบัติเหตุ ดังกลา่ วจะเกิดข้นึ ตอ่ ไปอกี หากผู้ปฏบิ ัติงานและผูเ้ กี่ยวข้องขาดความรู้เกี่ยวกับอันตรายและวธิ ีการ ทาํ งานในสถานที่อบั อากาศ 1.1.5.1 สถานท่อี บั อากาศสถานทีอ่ ับอากาศ หมายถึง สถานท่ีทม่ี ีอากาศหรือปรมิ าณกา๊ ซ ออกชิเจนบางเบาไม่เพยี งพอตอ่ การหายใจมีปรมิ าณก๊าซออกชิเจนในบรรยากาศํต่ากวา่ 19.5% ซง่ึ มไี มเ่ พียงพอต่อการหายใจสถานท่ที ี่มกี า๊ ชพิษหรือไอพิษสะสมอยู่ เชน่ บอ่ หมักตา่ งๆบ่อนํ้าเสีย พ้นื ผิวํน้าเสยี ทางระบายนํ้าท่ปี ิดทบึ ท่อนํ้าเสียขนาดใหญ่สถานที่ทม่ี ีการถา่ ยเทอากาศหรือระบาย อากาศไม่ดีพอ เช่น หอ้ งใตด้ ิน บ่อลกึ อโุ มงค์ ถงั ท่ีปดิ ฝาตลอดเวลา ท่อส่งํน้าขนาดใหญ่ สถานทท่ี มี่ ีอากาศเบาบาง เชน่ พืน้ ทีเหนือฝ้าเพดาน ถังสงู ๆ ท่เี ปิดฝาทิง้ ไวเ้ ตาเผาขนาดใหญ่ 1.1.5.2 สาเหตขุ องการเสียชวี ิต ขณะทาํ งานในสถานทีอ่ ับอากาศ การเสยี ชวี ติ ได้ง่ายในสถานท่อี บั อากาศขณะเข้าการทาํ งานสาเหตมุ าจากขาดออกซเิ จนใน การหายใจหรือหายใจเอาก๊าซพษิ ทคี่ งตกคา้ งอยู่ในสถานทนี่ ั้นหรือก๊าชพษิ เกดิ ขึน้ จากการเข้าไป ทํางานในถังนอกจากน้ยี ังมีภยั ที่เกดิ จากการระเบิดและอคั คภี ยั ด้วย ก. สว่ นใหญ่ไมเ่ ขา้ ใจว่าในสถานที่ท่ีเข้าไปเป็นทอ่ี ับอากาศ ข. สว่ นใหญไ่ ม่ใหค้ วามสาํ คัญเร่ืองการระบายอากาศ สําหรับสถานที่ทอี่ บั อากาศ ค. ส่วนใหญ่เข้าใจผิดคิดว่าในสถานที่ท่ีเข้าไปมอี อกซิเจนเพียงพอเพราะยังหายใจไดอ้ ยู่ ร่างกายใช้ออกซิเจนท่ีละลายอย่ใู นกระแสเลือด เมอ่ื ใชอ้ อกซเิ จนหมดจากเลอื ดจะหมดสติทันที (ภายใน 3-5 นาที) ง. การหมดสตเิ กดิ จาก ออกซเิ จนในเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพยี งพอ จ. ส่วนใหญไ่ ม่ทราบวา่ มกี ๊าซพิษปนเปื้อนมาก ฉ. สว่ นใหญ่เขา้ ใจวา่ การหมดสติจากสดู ดมก๊าซพิษเขา้ ไปแท้จรงิ ขาดอากาศหายใจ 1.1.5.3 ข้อปฏบิ ัตคิ วามปลอดภยั ของการทํางานในสถานทอ่ี ับอากาศ การเข้าไปปฏบิ ตั งิ านในสถานทอี่ ับอากาศน้นั ต้องคํานึงถึงอากาศท่ใี ช้หายใจและเพยี งพอที่ สามารถกลบั ออกมาไดอ้ ย่างปลอดภยั ดังนัน้ ในการเข้าไปปฏบิ ตั ิงานในสถานท่อี บั อากาศจําเป็นต้อง ปฏิบตั ดิ งั น้ี

ก. การศกึ ษารายละเอียดของสถานที่ทจ่ี ะเข้าไปปฏบิ ตั ิงาน ประเมินอันตรายท่ีอาจเกดิ ขนึ้ และเขียนวธิ กี ารทํางานในสถานทอ่ี ับอากาศ ข.ในกรณีตอ้ งให้คนงานเข้าไปทาํ งานต้องให้ความรแู้ กค่ นงานให้ทราบถึงอนั ตรายต่างๆที่ อาจ เกิดข้ึนวิธีการทํางานให้ปลอดภัยการใช้เคร่ืองชว่ ยหายใจเคร่อื งป้องกนั ตา่ งๆรวมทง้ั การปฐม พยาบาลและการช่วยชวี ิตผู้ประสบภัย ค. การเตรยี มเครอื่ งมอื อปุ กรณ์ เครื่องช่วยหายใจ เคร่ืองระบายอากาศทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั การ ทํางานสถานท่ีอับอากาศ ง. ก่อนปฏิบัตงิ านต้องขออนญุ าตปฏบิ ตั งิ านในสถานท่อี บั อากาศ ตามแบบฟอร์ม ใบอนญุ าตให้ทํางานในสถานท่ีอบั อากาศ จ. ตรวจวัดกา๊ ชพิษและปรมิ าณออกซเิ จน ซ่งึ จะเปน็ ตวั ช้ีว่าการเข้าไปทํางานในสถานที่น้นั มคี วามปลอดภยั มากน้อยเพยี ง ใด และมีความจําเป็นต้องสวมใส่อุปกรณช์ ว่ ยหายใจหรือไม่ หรอื สามารถทาํ งานไดโ้ ดยไมใ่ ชอ้ ุปกรณช์ ว่ ยหายใจได้เปน็ ระยะเวลา นานเท่าใดในแตล่ ะครั้ง ฉ.ตรวจสอบปรมิ าณออกซิเจนสารเคมฝี นุ่ ละอองไอฟมู คา่ LELของสารเคมีตา่ งๆให้ค่าต่างๆ อยู่ภายใต้เกณฑ์ความปลอดภัยตามที่กฎหมายกาํ หนดกอ่ นทจี่ ะปฏิบัตงิ านบันทกึ ลงในแบบฟอรม์ แบบตรวจวดั ปริมาณแก๊สและอณุ หภูมิในสถานท่ที าํ งาน ช. ตรวจสอบอปุ กรณ์การทาํ งานในท่อี บั อากาศ เชน่ เครอื่ งช่วยหายใจ (SCBA) เชือกนริ ภัย หรืออุปกรณ์ป้องกันอันตรายตา่ ง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องให้อยใู่ นสภาพพร้อมใช้งาน อยตู่ ลอดเวลา ซ. ตรวจสอบ ทดสอบ ไฟฟ้าแสงสว่าง สายไฟ อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ท่ีใช้ใหอ้ ยใู่ นสภาพท่ี ปลอดภัยจึงเขา้ ไปปฏิบตั ิงานได้ ฌ. เครื่องมือ เครื่องใช้ เครือ่ งจักรอุปกรณต์ ้องถูกตอ้ งเหมาะสมอยใู่ นสภาพทีพ่ รอ้ มจะ ใชง้ าน ญ. หา้ มปฏบิ ัติงานตามลําพังคนเดียว ต้องมีผู้ชว่ ยเหลือหรอื ผู้เฝ้าระวัง และผคู้ วบคมุ งาน คอยสังเกตและตรวจสอบการทํางานอยตู่ ลอดเวลา ฎ. หากอากาศมีการถา่ ยเทไมเ่ หมาะสม ควรใช้พัดลมเปา่ ชว่ ยระบายอากาศขณะ ปฏิบัติงาน ฏ. ก่อนและหลังปฏบิ ัตงิ าน ตอ้ งตรวจเช็คจํานวนผู้ปฏบิ ัติงานร่วมทมี งานทกุ คร้งั ฐ. หลงั จากปฏบิ ตั งิ านเสร็จแลว้ ทุกครั้ง ใหท้ ําการตรวจสอบอปุ กรณก์ ารทํางานในท่ี อับอากาศ เชน่ เคร่อื งช่วยหายใจ (SCBA) เชอื กนิรภยั หรืออุปกรณ์ปอ้ งกนั อนั ตรายต่าง ๆ ท่ี เก่ียวข้องใหอ้ ยูใ่ นสภาพพรอ้ มใชง้ าน อยู่ตลอดเวลา

ฑ. หากเครอื่ งช่วยหายใจ (SCBA) ถกู นําไปใชง้ านจนอากาศภายในถงั หมดแล้วหรอื เหลอื น้อยกว่าท่ีจะนาํ ไปใช้งานเพอ่ื ใหเ้ กิดความปลอดภัยแก่ผปู้ ฏบิ ตั ิงานได้ ให้ทําการแยกออกจากจดุ เกบ็ หรือตดิ ปา้ ยบง่ ชว้ี า่ “ถังเก็บอากาศหมดแลว้ รอสง่ ไปเตมิ ” ฒ. คนงานที่ลงไปทํางานในสถานทอี่ ับอากาศต้องผกู เชือกช่วยชีวิต โดยมีอกี คนหน่ึงผู้ สังเกตการณ์ถอื ปลายเชอื กอยู่ ปากทางเข้าเพือ่ เป็นผ้ใู ห้ความชว่ ยเหลอื แก่คนงานในสถานทอี่ ับ อากาศได้ทนั ที ณ. ใหป้ ฏิบัตติ ามกฎความปลอดภยั ทเี่ ก่ยี วข้องตามทกี่ ฎหมายกําหนดทกุ ประการ เครือ่ งชว่ ยหายใจ-SCBA (Self Contained Breathing Apparatus) หรือ BA ลักษณะ เป็นถงั อากาศสะพายหลังพร้อมสายสง่ อากาศและหน้ากากเต็มหน้าเปน็ อปุ กรณท์ ใ่ี ช้ในบรเิ วณท่มี ี อากาศไม่ เพียงพอหรอื เป็นอนั ตรายตอ่ ชวี ติ และสุขภาพ เป็นอปุ กรณ์ทถ่ี ูกจดั อยู่ในกลุม่ สินคา้ \"ยุทธภัณฑ์\" ซงึ่ เม่ือมีการซือ้ ขายครอบครองจาํ เป็นจะตอ้ งทาํ เร่ืองแจ้งกบั ทางราชการการ ครอบครองแตไ่ มไ่ ดถ้ ูกอก แบบมาเพอ่ื ใช้กับงานประดานนํา้ ซึง่ ใช้เปน็ ชนดิ SCUBA(SelfContainedUnderwaterBreathingApparatus)

ออกซเิ จนกระปอ๋ ง (Oxygen Can) ชนิดพกพา นํ้าหนักเบา ราคาไมส่ ูงมากนกั ให้ ผปู้ ฏิบตั งิ านพกตดิ ตัวเข้าปฏิบัตงิ านในทที่ ่ไี ม่มนั่ ใจว่ามีอากาศเพยี งพอสําหรับหายใจหรือไม่ หาซ้อื ได้ท่ัวไป วธิ ใี ชง้ ่ายๆ ก. เปดิ ฝาครอบแล้วนาํ มาเสยบเข ี ้ากับปุ่มกดสเปรย์ ข. นําฝาครอบมาประกบที่จมกู และปาก กดสเปรย์และสดู หายใจเข้า ประมาณ 2 วนิ าทีตอ่ ครั้งได้ 45 - 50 ครั้งสว่ นประกอบที่สาํ คญั : ออกซเิ จนบริสทุ ธ์ิ 93 % ปริมาณสทุ ธิ : 4.5 ลติ ร ํน้าหนกั 150 กรัม 1.1.6 ความปลอดภัยในการทาํ งานในสถานทท่ี ี่มีอันตราย จากการตกจากทส่ี งู วัสดกุ ระเดน็ ตก หลน่ และการพังทลายการพลดั ตกจากที่สูงเปน็ สาเหตกุ ารเสยี ชวี ิตหรอื พิการอันดับหน่งึ ในงาน ก่อสรา้ งเพราะ ร่างกายตกลงมากระทบกับพ้นื ดา้ นล่างอยา่ งแรงตามความสูงท่ีพลดั ตกลงมา กระดูกแตกหัก สมองกระทบกระเทอื นอวัยวะของรา่ งกายฉีกขาดเนือ่ งจากร่างกายตกลงมาไป กระทบโดนวัสดตุ า่ ง ถูกบาด ถกู แทง 1.1.6.1 สาเหตุของการเกดิ อุบัตเิ หตุของการพลดั ตกจากทสี่ ูง การทาํ งานบนที่สงู พ้ืนทค่ี บั แคบ มีท่ยี ึดรัง้ น้อย การปรบั สมดลุ ยรา่ งกายไม่ค่อยเสถยี ร มีแรง กระทาํ จากภายนอก แรงลม แรงกระแทกของวสั ดทุ ีท่ าํ งานอยู่ ของตกใส่ พื้นท่ียืนอยู่สัน่ ไหวไม่ มั่นคงการพล้ังเผลอ การเกิดอบุ ัตเิ หตมุ ักเกิดขน้ึ งา่ ย สาเหตกุ ารเกดิ อบุ ตั ิเหตุ สรุปไดด้ งั น้ี ก. การก้าวเดิน ยืนพลาด ล่ืนไถล เดินสะดดุ บนพ้นื ทางเดนิ ข. การโดนแรงภายนอกกระทาํ เชน่ โดนวสั ดุชนกระแทก แรงลมพดั ของล่นใส่ ค. โครงสรา้ งท่รี องรบั ชาํ รุด พัง เสียหาย

1.1.6.2 หลกั ความปลอดภัยในการปฏิบัตงิ าน การป้องกันอันตรายจากอบุ ตั ิเหตุจากการปฏิบตั งิ าน ผู้ปฏิบัติงานตอ้ งตระหนักถึง ความปลอดภยั ตลอดเวลาท่ที าํ งานบนที่สูง เพราะไม่มีโอกาสพลาดได้ เพ่อื เป็นการป้องกนั อนั ตราย จากอุบตั เิ หตจุ ากการทํางานในท่ีสูงต้องปฏิบัติดงั นี้ ก. การปฏิบัตติ าม กฎกระทรวงกาํ หนดมาตรฐานในการบริหารและการจดั การ ด้านความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งานเกยี่ วกับงานกอ่ สร้างพ.ศ. 2551 หมวด 1 บททั่วไป ขอ้ 8 ในกรณีที่ลูกจ้างต้องทาํ งานก่อสรา้ งบนพื้นต่างระดบั ท่มี คี วามสูงตั้งแต่1.50 เมตรข้นึ ไป ใหน้ ายจา้ งจัดให้มีบันไดหรือทางลาดพร้อมท้งั ติดตั้งราวกนั้ หรือรว้ั กนั ตกทมี่ นั่ คงแข็งแรงเพ่อื ให้ เกดิ ความปลอดภยั หมวด11การทํางานในสถานที่ท่ีมอี ันตรายจากการตกจากทสี่ ูงการพังทลายและการกระเด็นหรอื ตกหลน่ ของวัสดุส่วนที่ 1 การปอ้ งกันการตกจากที่สงู ข้อ 89 ในกรณีท่ีนายจ้างให้ลูกจา้ งทํางานในที่สูงจากพ้นื ดินหรือพื้นอาคารต้ังแต่ 2 เมตร ขนึ้ ไป ให้นายจา้ งจัดให้มีนั่งร้านบนั ไดขาหย่งั หรอื ม้ายนื ทป่ี ลอดภยั ตามสภาพของงานสาํ หรับ ลูกจา้ งในการทํางานนัน้ ข้อ 90 ในกรณที น่ี ายจา้ งให้ลกู จ้างทาํ งานบนทล่ี าดชนั ที่ทํามมุ เกินสามสิบองศาจาก แนวราบและสงู ต้ังแต่2เมตรข้ึนไปนายจ้างต้องจัดใหม้ นี ัง่ ร้านทเ่ี หมาะสมกบั สภาพของงานสาย หรือเชือกช่วยชวี ิตและเข็มขัดนิรภยั พรอ้ มอุปกรณ์หรอื เคร่อื ง ป้องกนั อื่นใดท่มี ลี ักษณะเดยี วกันให้ ลูกจา้ งใช้ในการทํางานเพ่อื ให้เกิดความปลอดภัย ข้อ91ในกรณีท่นี ายจ้างให้ลูกจ้างทํางานในสถานทที่ ่ีลูกจ้างอาจไดร้ บั อนั ตรายจากการพลัด ตก หรือถกู วัสดพุ ังทบั เช่น การทํางานบนหรือในเสา ตอม่อเสาไฟฟ้าปล่องหรือคานทีม่ คี วามสูง ตั้งแต4่ เมตร ข้ึนไปหรือทาํ งานบนหรอื ในถงั บ่อกรวยสาํ หรับเทวัสดหุ รอื ส่ิงอน่ื ใดท่มี ีลกั ษณะ เดยี วกันนายจา้ งตอ้ งจัด ทาํ ราวกน้ั หรือร้ัวกันตกตาขา่ ยส่ิงปดิ กนั้ หรอื อปุ กรณป์ ้องกันอื่นใดทีม่ ี ลักษณะเดียวกนั เพ่อื ป้องกนั การ พลดั ตกของลกู จ้างหรือสง่ิ ของ และจัดให้มกี ารใชส้ ายหรอื เชือก ชว่ ยชวี ติ และเข็มขดั นิรภยั พร้อมอุปกรณ์ หรอื เคร่ืองป้องกันอ่ืนใดทีม่ ีลักษณะเดยี วกนั ให้ลูกจา้ งใช้ ในการทาํ งานเพือ่ ใหเ้ กดิ ความปลอดภยั ข้อ92งานกอ่ สร้างท่มี ปี ลอ่ งหรอื ชอ่ งเปดิ ซ่งึ อาจทาํ ให้ลูกจา้ งหรอื ส่ิงของพลดั ตกนายจา้ งต้อง จดั ทาํ ฝาปดิ ทแ่ี ขง็ แรงราวกน้ั หรือร้วั กนั ตกท่มี ีความสูงไม่นอ้ ยกว่า90เซนติเมตรและแผงทึบหรือ ขอบกันของตกมีความสงู ไม่นอ้ ยกวา่ 7 เซนตเิ มตรพรอ้ มทง้ั ตดิ ปา้ ยเตอื นอันตราย

ข้อ93ในกรณที น่ี ายจ้างใหล้ ูกจา้ งทาํ งานในช้ันของอาคารหรือส่งิ ก่อสร้างทเ่ี ปิดโล่งและอาจ พลัดตกลงมาไดน้ ายจ้างตอ้ งจัดทาํ ราวก้ันหรือรั้วกันตกตามมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมสถาน แห่งประเทศ ไทย ในพระบรมราชูปถมั ภ์ หรืออุปกรณป์ อ้ งกนั อื่นใดทม่ี ลี ักษณะเดยี วกนั ข. จดั ทําแผนการทาํ งาน, ขน้ั ตอนวธิ กี ารทํางาน, การตรวจสอบพนื้ ทแ่ี ละอุปกรณ์ ค. การแตง่ กายต้องรดั กมุ เพือ่ ลดโอกาสโดนวสั ดุเก่ยี วเม่ืออยูบ่ นท่สี ูง ง. สขุ ภาพของผปู้ ฏบิ ตั งิ านต้องดีพรอ้ มปฏิบัติงาน ตน่ื ตวั พักผอ่ นเพียงพอ จ. การสวมใสอ่ ปุ กรณ์ป้องกันภยั สว่ นบคุ คลสาํ หรับทํางานบนทส่ี ูงตลอดเวลา ฉ. ตรวจสอบสภาพอปุ กรณป์ ้องกันภยั สาํ หรับทาํ งานบนที่สงู พร้อมใช้งาน ไมช่ ํารดุ ช. ไดก้ ารฝึกอบรมการปฏบิ ตั งิ านบนที่สงู เรยี บรอ้ ยแล้ว ซ. มกี ารจดั ระบบงาน เพ่อื จํากดั การทาํ งานบนทีส่ ูง ฌ. ตดิ ตงั้ อุปกรณ์ปอ้ งกันการตกเพ่อื ลดความเส่ยี ง เชน่ ราวกันตก แผ่นกนั ของตก นั่งร้าน ตาขา่ ย ญ. พืน้ ทท่ี าํ งานตอ้ งปราศจากปจั จยั ท่จี ะทําใหเ้ กิดการสะดุด ลืน่ ฎ. ตดิ ตง้ั หลังคาบรเิ วณทางเข้า-ออก อาคารเพ่อื ปอ้ งกนั การร่วงตกของวสั ดุ ฏ. บนพ้นื ทท่ี ํางานจะต้องไม่มเี ศษวัสดทุ ่ีสามารถร่วงหล่นได้ ฐ. รวมถึงมาตรการป้องกนั การรว่ งหล่นของวัสดอุ ุปกรณ์และการจัดเกบ็ ท่ีดใี สใ่ นภาชนะที่ แขง็ แรง ฑ. ช่องเปิดหรอื ปลอ่ งต่างๆ ต้องมีฝาปิดหรอื รวั้ กน้ั ความสูงไมน่ ้อยกวา่ 90 ซม. ฒ. วสั ดุอุปกรณ์ทุกชนดิ จะตอ้ งไม่วางกดี ขวางทางเดนิ ณ.ใชเ้ ชือกผกู รัดเครอื่ งมือและอุปกรณ์ท่ีใช้ในการทาํ งานบนที่สงู เช่นอปุ กรณ์ไขควง เคร่อื งมอื ต่างๆ ต้องผกู ยึด ไมใ่ หต้ กลงทําอนั ตรายตอ่ ผอู้ ยู่ดา้ นลา่ ง ด. สายไฟ สายยาง ห้ามลากผ่านพื้นทางเดิน ต. ห้ามเคลอื่ นยา้ ยรา่ งกายบนทส่ี ูงโดยปราศจากการเกาะเกี่ยวเข็มขัดนิรภยั ถ. การกนั้ ล้อมเขตบริเวณพนื้ ที่ปฏิบัติงานด้านล่างเพอ่ื ป้องกันอนั ตรายกบั บคุ คลไม่ เกยี่ วข้องดา้ นล่าง ท. แสงสว่างเหมาะสมกับการปฏบิ ตั งิ านในทส่ี งู ธ. การติดตั้งสญั ญาณไฟเตอื นเวลากลางคนื น. มีแผนการชว่ ยเหลือเมอ่ื เกดิ เหตุฉกุ เฉิน

1.1.7ความปลอดภยั ในการทํางานเก่ยี วกบั เคร่ืองจักรเคร่ืองจักรขณะทาํ งานโดยส่วนใหญจ่ ะใช้ มอเตอรข์ ับเคลอ่ื นซ่งึ จะหมนุ เร็วและแรงตลอดเวลาการเกดิ อบุ ัตเิ หตมุ กั เกิดข้นึ ง่ายและรุนแรง พกิ ารหรอื เสียชวี ติ อยู่เสมอ 1.1.7.1 สาเหตขุ องการเกดิ อุบัตเิ หตุในการทํางานเกย่ี วกับเครือ่ งจักร จากสถติ กิ ารเกิดอุบัติเหตุเก่ียวกับเครอื่ งจกั ร สาเหตุการเกิดอบุ ัติเหตุมาจากหลากหลายเหตุ ดว้ ยกนั และ สามารถพึงหลีกเลีย่ งได้ หรอื ปอ้ งกันให้เกิดน้อยที่สดุ ซ่ึงสรปุ สาเหตุทเ่ี กิดไดด้ งั น้ี ก. พฤติกรรมของคน ก.1 การแตง่ กายไมเ่ หมาะสม เช่น ปลอ่ ยผมยาวปลิวไสวทาํ ใหเ้ คร่อื งจกั รดงึ หมุนม้วน พนั เขา้ ไป สวมเสอ้ื ผ้าหลวมรุ่มราม หอ้ ยแขวนเคร่ืองประดบั แกว่งออกมาเกรอะกะใส่รองเท้าแตะ ล่ืนไถล ก.2 ความประมาท เลินเลอ่ มักงา่ ย ไมร่ ะมัดระวัง เชน่ วางประแจไวบนฝาครอบ เครอ่ื งจักรกําลังหมนุ เม่อื เกิดการสน่ั ประแจจะเลื่อนตกใส่เครอ่ื งจักรกาํ ลังหมนุ และเหว่ียงออกมา โดน ก.3 ไมส่ วมใส่อุปกรณป์ อ้ งกันภยั สว่ นบคุ คล เช่น แวน่ ตาป้องกนั วตั ถุกระเดน็ ใสต่ า ขณะกลงึ เจียร ตดั ไส เชื่อม ถุงมือปอ้ งกนั การบาดและทม่ิ แทง ก.4 ขาดประสบการณการทาํ งานอยา่ งถูกวธิ ี ก.5 ขาดวินยั ในการทาํ งาน เชน่ ไม่หยุดเดินเครอื่ งขณะซอ่ มแก้ไขใชม้ ือสัมผัสโดยตรง แทนท่ีจะใชอ้ ปุ กรณ์ ข. สภาพของเครอ่ื งจกั ร ข.1 นาํ เครื่องจักรชาํ รุดใช้งานไมห่ ยุดซอ่ มแซมกอนใช ่ ้งาน ข.2 เครอ่ื งจกั รขาดการบํารุงรกั ษา ข.3 การใชเ้ ครอื่ งจักรทีไ่ ม่มรี ะบบป้องกนั อนั ตราย ค. สภาพแวดล้อมในการทางาน ํ ค.1 การวางวัสดุ อุปกรณ์เกะกะ ไมเ่ ปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ย ค.2 ไมก่ ําหนดขอบเขตพืน้ ทีต่ ่างๆในการปฏิบัติงาน เส้นทางจราจรคน พาหนะขนถ่าย วัสดใุ ห้ชัดเจน ค.3 แสงสว่างทเ่ี หมาะสมกับการทางานในเคร ํ ่ืองจักร เชน่ แสงสว่างน้อยเกนิ ไป ค.4 พื้นท่ปี ฏบิ ตั งิ าน เปอื้ นนํ้ามัน เปยี กล่ืน

1.1.7.2 หลักความปลอดภัยในการปฏิบตั งิ าน เพอ่ื เปน็ การปอ้ งกันอนั ตรายจากอุบตั ิเหตุจากการปฏบิ ัตงิ าน กอ่ นอ่ืนผูป้ ฏิบัติงานต้องศึกษา และรู้จกั กฎความปลอดภัยในการปฏบิ ัตงิ าน ดงั น้ี ก. รับการฝกึ อบรมในการใช้เคร่อื งจกั รอย่างถูกวิธี ก่อนควบคุมเครอ่ื งจกั ร ข. ต้องเชื่อฟัง หรือปฏิบัติตามคาํ สั่งของหัวหน้างานผู้ควบคมุ โดยเครง่ ครัด ค. แต่งกายใหร้ ดั กมุ เหมาะสมกบั การปฏบิ ตั ิงาน ไมส่ วมเคร่ืองประดับตา่ งๆ ง. ตรวจสอบสภาพของเครอ่ื งมือ อุปกรณ์ เคร่ืองจักร วา่ อยู่ในสภาพพร้อมทํางานหรือไม่ จ. ไม่ใช้เครอื่ งมอื เครือ่ งจักร ท่ียังไมไ่ ดร้ ับคําแนะนําวิธกี ารใช้ ฉ. ตอ้ งสวมอุปกรณป์ ้องกันอันตรายทุกครั้ง เม่ือปฏิบัตงิ าน ช. ไม่เล่น หรอื หยอกล้อกันในขณะปฏิบัติงาน ซ. ถ้าเครอื่ งมือ อปุ กรณห์ รอื เคร่ืองจกั รชํารดุ ขณะปฏบิ ัติงาน ตอ้ งแจ้งหวั หนา้ งานผคู้ วบคุม ทราบทันที ฌ. ถา้ เกดิ อบุ ัติเหตุ ขณะปฏบิ ตั งิ าน ต้องแจ้งหวั หนา้ งานผู้ควบคมุ ทราบทันที ญ. เม่ือเลกิ ปฏิบตั ิงาน ตอ้ งทาํ ความสะอาดเครอื่ งมอื อปุ กรณ์ เคร่ืองจกั ร พ้นื โรงงาน ใหส้ ะอาดปราศจากเศษโลหะ และคราบนํ้ามนั ฎ. งานแต่ละประเภท จะมีกฎความปลอดภัยเฉพาะ ผูป้ ฏบิ ตั ิงานตอ้ งศกึ ษา และปฏิบัติ ตามกฎความปลอดภัยอย่างเคร่งครดั ฏ. ขณะปฏิบตั ิงาน จะตอ้ งเอาใจจดจ่ออย่กู บั งานทีต่ นเองรับผิดชอบ อย่าเหมอ่ ลอย ฐ. ในการยกชิน้ งานท่หี นัก ควรจะตอ้ งตรวจสอบกอ่ นวา่ สามารถยกคนเดยี วได้หรือไม่ ถ้ายกไดค้ วรใช้กล้ามเนื้อบริเวณขาช่วยยก เมื่อยกขึ้นแล้ว พยายามยืดหลังใหต้ รง หากยกคนเดยี ว ไมไ่ ดค้ วรเรยี กเพอื่ นใกล้เคยี งมาช่วยยก ฑ. การถือเคร่ืองมอื อปุ กรณม์ คี มทุกประเภท เช่น มดี ส่วิ สกดั ฯลฯ ให้หนั เอาคมตดั ออก จากตวั ผ้ถู อื และควรระมัดระวังในการถอื ฒ. เครือ่ งจักรแตล่ ะตวั ตอ้ งมี สวทิ ชห์ ยุดฉุกเฉิน (Emergency Stop)

1.1.9 ความปลอดภัยเกี่ยวกบั ไฟฟํา ไฟฟา้ เป็นปจั จยั สําคญั ในกิจการอตุ สาหกรรมด้านตา่ งๆ ไฟฟ้านนั้ มีประโยชนม์ ากมายแต่ในเวลา เดียวกันก็มอี นั ตรายถา้ ใช้ผดิ วิธกี อ็ าจได้รบั อันตรายถงึ ชีวิต ดังนั้นจงึ ควรเข้าใจและรู้พ้นื ฐาน ทางด้านความปลอดภัย 1.1.9.1 สาเหตุของการเกดิ อุบัตเิ หตเุ ก่ียวกับไฟฟ้า โดยปรกติไฟฟ้าจะไหลอยใู่ นสายไฟฟ้าทมี่ ีฉนวนห่อหุม้ ป้องกันอันตรายไว้อยา่ งดีแตถ่ ้ามีการกระทํา ให้ ฉนวนทห่ี ่อหุ้มสายไฟฟา้ น้ันเกิดการชํารดุ เสยี หายและมี การตอ่ เช่ือมทีไ่ ม่แนน่ ไมม่ นั่ คงแขง็ แรง มั่นคง เม่ือมกี ารใช้งานจะเกดิ อุบเิ หตไุ ด้ โดยสาเหตขุ องอบุ ัติเหตุไดแ้ ก่ ก.ไฟฟา้ รัว่ ตามฉนวนสายไฟฟ้าทชี่ าํ รดุ แตกเนอื่ งจากแรงกดกระแทกทบั บนฉนวนทบ่ี ริเวณ หนา้ งานทาํ ใหฉ้ นวนฉกี ขาดรอยตอ่ ของสายไฟฟา้ ท่พี นั เทปฉนวนไมด่ กี ารเชือ่ มตอ่ สายไฟฟ้ากับ อปุ กรณไ์ มด่ ที าํ ให้เกิดไฟรว่ั ชอ็ กคนท่ไี ปสัมผัสได้ ข.ความช้นื ทส่ี มั ผสั กับบรเิ วณไฟฟา้ รัว่ จะนํากระแสไฟฟา้ ชอ็ กคนท่ไี ปสมั ผัสได้ ค.การเช่ือมตอ่ ที่ไมแ่ ข็งแรงพอทาํ ใหข้ ั้วท่ีต่อหลวมเกดิ ความรอ้ นหหลอมละลายฉนวนหรือ หลดุ ไปสัมผสั อุปกรณท์ ่เี ปน็ ส่ือนาํ ไฟฟา้ อาจเกดิ การชอ็ กคนท่ีไปสัมผสั ได้ ง.การเกดิ ไฟฟ้ากระโดดเน่ืองจากระยะใกล้ชิดสายไฟฟ้าเปลือยหรอื ฉนวนชาํ รุดจนไฟฟ้า สามารถกระโดดผ่านคนท่เี ข้าใกลไ้ ด้ จ.การใชส้ ายไฟฟ้าผิดขนาด ผดิ ประเภททาํ ให้กระแสไฟฟา้ มีความต้านทานสูง จนเกิดความ ร้อนหลอมละลายฉนวนไดร้ บั ความเสยี หายเกดิ กระแสไฟฟา้ ร่วั ได้ ฉ.การใช้อปุ กรณ์ไฟฟา้ ผิดสถานท่ีเชน่ ใชห้ ินเจยี รตดั เสาเขม็ ในหลมุ น้าํ ขงั ช.ต่อสายไฟฟ้าหลายชดุ ในปล๊กั เดียว ซ.ไมม่ เี บรกเกอร์ป้องกันไฟฟา้ รั่วหรอื อุปกรณ์ปอ้ งกนั ไฟฟา้ ร่วั (Earth leakage protection)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook