โดย นาย อคั รพล คูหาคติภพ
2 ส่ิงท่ีตอ้ งระลึกเสมอกิอนเขียนวิจยั ระบุสมมติฐานและวตั ถุประสงคใ์ หช้ ดั (มนั จะอยูใ่ นคาํ นําดว้ ย) ทบทวนเอกสารท่ีเก่ียวขอ้ งเพ่ือเลือกมาอา้ งอิง(ประมาณ 30)
เตรียมรูปและตาราง เขียนวิธีวิจยั เขียนผลการวิจยั เขียนสว่ นการถกปัญหา เป็นการรวบรวมผลและขอ้ ถกปญั หาไปเขียนในคาํ นํา เขียนขอ้ สรุปท่ีชดั เจน เขียนคาํ นําท่ีจบั ใจ เขียนบทคดั ยอ่ ร่างหวั ขอ้ ท่ีกระชบั และอธิบายความ เลือกคาํ สาํ คญั สาํ หรบั นิยามศพั ท์ เขียนกิตติกรรมประกาศ เขียนบรรณานุกรม
จาํ ไวว้ า่ รูปภาพมีคา่ เทา่ พนั คาํ พูด เพราะ มนั เป็นวิธีท่ีไดผ้ ลในการนําเสนอมากท่ีสุด ตาราง แสดงผลการทดลองตามจริง และ รูปตาราง(figure) แสดงการ เปรียบเทียบผลการทดลอง เม่ ื อนําเสนอรู ปกราฟและตาราง -หลีกเล่ียงตารางท่ียุง่ เหยิง เลือก ตารางท่ีจดั วางเหมาะสม -หลีกเล่ียงการใชเ้ สน้ แนวตง้ั ในตาราง -ใสส่ ญั ลกั ษณท์ ่ีชดั เจนและงา่ ยตอ่ การอา่ น -ไมค่ วรใชต้ ารางท่ียาวและน่าเบ่ือ -ใชท้ ศนิยมในตารางแค2่ จุด ยกเวน้ ขอ้ มูลท่ีสาํ คญั จริงๆ
สว่ นน้ีตอบสนองตอ่ คาํ ถามวา่ ปญั หาวิจยั ถูกศึกษาอยา่ งไร อยา่ งไรก็ตาม หา้ มทวนขอ้ มูลของวิธีเดิมท่ีใช้ ใหใ้ ชอ้ า้ งอิงแทน รายการรายขอ้ วิธีวิจยั ท่ีจะประกฎในสว่ นของผลวิจยั 1.คาํ อธิบายสถานท่ี 2.คาํ อธิบายการสาํ รวจหรือผลทดลอง 3.คาํ อธิบายวิธีทางแล็บ(วิทยาศาสตร)์ 4.คาํ อธิบายทางสถิติ
สว่ นน้ีตอบสนองตอ่ คาํ ถาม คุณคน้ พบอะไร พยายามอยา่ ซอ่ นขอ้ มูล ถา้ ขอ้ มูลเยอะเกินไป ใชข้ อ้ มูลเสริมแทน ใชห้ วั ขอ้ รอง(1.1 1.2) ในการจดั ผลการทดลองประเภทเดียวกนั อยูด่ ว้ ยกนั สาํ หรบั ขอ้ มูล ตดั สินจากลาํ ดบั ทางตรรกศาสตรท์ ่ีบอกเร่ืองอยา่ งชดั เจน ปกติก็คือ เรียงลาํ ดบั ตามท่ีเสนอในวิธีวิจยั ไมต่ อ้ งใสอ่ า้ งอิงในสว่ นน้ี ผลการทดลองของเรา ไมต่ อ้ งอา้ งอิงใคร
ในสว่ นน้ีคุณตอ้ งบอกวา่ ผลการทดลองหมายความวา่ ไง เพราะน่ีคือสว่ นท่ีสาํ คญั ท่ ีสุดของบทความ เขียนถึงประเด็นท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ผลการทดลอง ควรเปรียบเทียบผลการทดลองท่ี ตีพิมพก์ บั เพ่ือนของคุณดว้ ย Tips -หลีกเล่ียงขอ้ ความท่ีเกินกวา่ ผลการทดลองจะรองรบั ได้ -หลีกเล่ียงคาํ พูดท่ีไมเ่ จาะจง -หลีกเล่ียงการนําเสนอไอเดียใหมแ่ บบกะทนั หนั -การคาดการถึงผลกระทบน้นั อนุญาตและตอ้ งมีฐานบนความจริงมากกวา่ จินตนาการ -การทบทวนผลและขอ้ ถกปญั หาไมใ่ ชแ่ คง่ น่ เอกสาร
สว่ นน้ีแสดงถึงงานท่ีทาํ ชว่ ยพฒั นาสาขางานจากสภาพท่ีเป็นอยูใ่ นปจั จุบนั อยา่ งไร จุดพลาดท่ีพบบอ่ ยในสว่ นน้ีคือการทวนบทคดั ยอ่ หรือแคก่ ารไลเ่ รียงผลการทดลอง ควรแสดงถึงความชดั เจนของความเหมาะสมในงานของคุณในสว่ นน้ี คุณสามารถนําเสนอขอ้ สรุปในระดบั ทว่ั ไปหรือเจาะจงได้ ท่ีสอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงคท์ ่ีมีในบทท่ี1
น่ีคือโอกาสในการชกั จูงผูอ้ า่ นวา่ คุณรูช้ ดั วา่ ทาํ ไมงานคุณถึงมีประโยชน์ คาํ นําท่ีดีควรตอบคาํ ถามเหลา่ น้ี อะไรคือปัญหาท่ีจะแก้ มีวิธีท่ีมีอยูแ่ ลว้ ไหม แลว้ วิธีไหนดีท่ีสุด ขอ้ จาํ กดั คุณมีอะไร คุณหวงั วา่ จะไดอ้ ะไร Tips -อยา่ ยาว -ช้ีภาพรวม -โยงจากภาพกวา้ งสูท่ อ้ งท่ี -ช้ีเป้าหมายและวิธีท่ีตอบตอ่ คาํ ถาม -หลีกเล่ียงการใชค้ าํ ประมาณ ครงั้ แรก
บทคดั ยอ่ บอก คุณทาํ อะไรและคน้ พบอะไร คุณตอ้ งมีความถูกตอ้ ง ใชค้ าํ ท่ีมีความหมายชดั เจนตอ่ งานวิจยั คุณ บทคดั ยอ่ ท่ีชดั เจนสง่ ผลอยา่ งรุนแรงไมว่ า่ งานคุณจะไดอ้ า้ งอิงหรือไม่ อยา่ งไรก็ตาม บทคดั ยอ่ ควรจะสน้ั ท่ีสุดเทา่ ท่ีจะทาํ ได้ ประมาณ 200-250คาํ
หวั ขอ้ ตอ้ งอธิบายวา่ งานวิจยั โดยกวา้ งเก่ียวกบั อะไร ผูอ้ า่ นไมไ่ ดม้ ีเวลาพอท่ีจะอา่ นผลลพั ทท์ ง้ั หมด เขาจะเลือกและเลือกจากหวั ขอ้ ผูร้ ีวิวจะตรวจวา่ หวั ขอ้ เจาะจงและสะทอ้ นถึงตวั งานไหม
คาํ สาํ คญั ใชใ้ นภาคผนวกของงานวิจยั หลีกเล่ียงคาํ ท่ีมีความหมายกวา้ งและคาํ ท่ีมีใน หวั ขอ้ คาํ ยอ่ ท่ีเป็นทางการเทา่ น้ันท่ีอนุญาตและตอ้ งใชใ้ นสาขาท่ีศึกษาดว้ ย
ขอบคุณคนท่ีมีสว่ นร่วมในงานวิจยั สาํ คญั ท่ีสุดคือ ขอบคุณคนท่ีใหท้ ุนเราในการทาํ วิจยั ในงานวิจยั ของยุโรป อยา่ ลืมใสห่ มายเลขผูใ้ หก้ ารสนบั สนุน
มนั คือสว่ นท่ีน่าลาํ คาญท่ีสุดและสรา้ งความปวดหวั ตอ่ ผูต้ ีพิมพ์ คุณตอ้ งอา้ งอิงถึงงานวิจยั ท่ีก่ีขอ้ งกบั ฐานการวิจยั ขอ้ งคุณ และอยา่ ใสเ่ ยอะเกินไป อยา่ ใสง่ านท่ีไมไ่ ดต้ ีพิมพห์ รือท่ียงั ไมไ่ ดย้ อมรบั จากสาํ นักพิมพ์
เหมาะสมอยูร่ ะหวา่ ง 25 – 40 หนา้ หวั ขอ้ สนั้ และไดใ้ จความ คาํ นํา 1.5-2 หนา้ วิธีวิจยั 2-3 หนา้ ผลการทดลอง 6-8 หนา้ ถกปญั หา 4-6 หนา้ สรุป 1 พารากราฟ รูปกราฟ 6-8(1 ตอ่ หนา้ ) ตาราง 1-3(1 ตอ่ หนา้ ) อา้ งอิง 20-50 งาน(2-4หนา้ )
นวตั กรรมท่ีใชใ้ นการเรียนการสอน IT Non-IT แนวการสอนใหม่ แนวคิดใหม่ ทฤษฎีใหม่
-แนวคิดใหม่ นวตั กรรม เพ่ิมประสิทธิภาพ ประสิทธิผล -วิธีใหม่ และ ประหยดั เวลาและ แรงงาน -ส่ิงประดิษฐใ์ หม่ -การดดั แปลงของเดิมใหด้ ีข้ึน
ตอ้ งคาํ นึงถึงความพรอ้ มของสถานศึกษา ดา้ น อปุ กรณก์ ารศึกษา สถานท่ี งบประมาณ บุคลากร ดงั นน้ั สถานศึกษาท่ีมีความพรอ้ มนอ้ ยกวา่ อาจพฒั นาไดช้ า้ กวา่ แตไ่ มไ่ ด้ หมายความวา่ ไมไ่ ดใ้ ชน้ วตั กรรม เพราะ นวตั กรรมรวมถึงแนวคิดดว้ ย
ไมจ่ าํ เป็นตอ้ งใชเ้ ทคโนโลยีเสมอไป สามารถใชแ้ นวคืด วิธี ใหมๆ่ เป็นนวตั กรรมได้ ตวั อยา่ ง Flipped classroom Activity-base learning Problem-base learning Small group learning Collaborative learning Color paper tag
Diffusion of innovation model Innovator 2.5% สนใจตอ่ นวตั กรรมใหมโ่ ดยคิดวา่ ตนเป็นสว่ นของการเปล่ียนแปลง Early adopter 13.5% พรอ้ มจะเปล่ียนตนเองเม่ือคนอ่ืนเร่ิมใช้ และเห็นประโยชน์ ตระหนักถึงการเปล่ียนแปลง ไม่ จาํ เป็นตอ้ งโนม้ นา้ ว Early majority 34% ระมดั ระวงั และใชเ้ หตุผลในการตดั สินใจกอ่ นเปล่ียนแปลง Late majority 34% เปล่ียนชา้ ท่ีสุด ถา้ ไมโ่ ดนสง่ั หรือโดนบงั คบั แคต่ อ้ งการไมต่ กกระแส แตไ่ มไ่ ดค้ ิดถึงประโยชน์ Laggard 16% ไมย่ อมเปล่ียนแปลง ยึดติดเทคโนโลยีเดิม ไมต่ อ้ งการเรียนรูใ้ หม่ และตอ่ ตา้ น
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: