ววิ ฒั นาการ ดนตรีไทย
เร่ือง ววิ ฒั นาการดนตรีไทย
รายวชิ าดนตรี รหัส ศ23103 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่อง วิวฒั นาการและอทิ ธิพลของดนตรี หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่อื ง ลกั ษณะเดน่ ของดนตรี หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 เรื่อง องคป์ ระกอบดนตรี หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรือ่ ง สรา้ งสรรคง์ านดนตรี หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 เร่อื ง ดนตรีบรู ณาการ
ววิ ัฒนาการดนตรไี ทย
ววิ ฒั นาการดนตรีไทย ขอขอบคณุ VDO จาก https://www.youtube.com/watch?v=7 176vO95eYo 29-04-62
ววิ ัฒนาการดนตรไี ทย ดนตรไี ทย ดนตรีไทย สมยั สุโขทยั สมยั อยธุ ยา ดนตรไี ทย ดนตรไี ทย สมยั ธนบรุ ี สมยั รตั นโกสนิ ทร์
ดนตรีไทยสมยั สุโขทยั
ดนตรไี ทยสมัยสโุ ขทยั 1. ไตรภูมพิ ระรว่ ง ฆ้อง ฉิง่ ฉาบ กลอง พิณฯ “เสยี งพาทย์ เสยี งพณิ ” 2. เปดิ เสรใี นการบรรเลง 3. วรรณกรรมทางด้านดนตรีไทย เชน่ บทเพลง การประสมวง
ดนตรไี ทยสมัยสโุ ขทยั จ า ก ห ลั ก ฐ า น ท า ง ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ คือ ศิลาจารึกพ่อขุนรามคาแหง หลักที่ 1 มีข้อความท่ีปรากฏที่เกี่ยวกับดนตรีตอนหน่ึง ว่า “ดบงคกลอง ด้วยเสียงพาทย์ เ สี ย ง พิ ณ เ สี ย ง เ ลื้ อ น เ สี ย ง ขั บ ใครจักมักเล่น เล่น ใครจักมักหัว หัว ใครจกั มักเล้อื น เล้อื น”
เสยี งพาทย์ เสยี งพณิ
ดนตรไี ทยสมยั สโุ ขทัย ทั้งนี้ ในสมัยสุโขทัยมีวัฒนธรรม ข อ ง อิ น เ ดี ย เ ข้ า ม า แ พ ร่ ห ล า ย โดยเฉพาะในการจัดรูปแบบวงดนตรี อินเดีย มีวงดนตรีวงหนึ่ง คือวง “ปญั จดุริยางค์” ประกอบดว้ ย
ดนตรีไทยสมัยสโุ ขทัย 1. สุสิร หมายถึง เคร่ืองทมี่ ีรูกลวงภายในเป็นเคร่อื งเปา่ 2. อาตต หมายถึง เครอ่ื งขนึ้ หนงั หน้าเดยี ว 3. วติ ต หมายถงึ เครอ่ื งขึ้นหนงั สองหนา้ 4. อาตตวติ ต หมายถึง เครือ่ งหมุ้ หนงั รอบตัว 5. ฆน หมายถงึ เครื่องท่ีเปน็ แทง่ ทึบกระทบเปน็ เสยี ง
ดนตรไี ทยสมัยสุโขทัย วงปี่พาทย์เคร่อื งห้า
ดนตรีไทยสมยั อยธุ ยา
ดนตรีไทยสมัยอยุธยา วงปี่พาทย์ ลกั ษณะวงดนตรใี นสมยั นมี้ ีการพัฒนาจาก วงปพาทย สมยั กรุงสโุ ขทัยโดยเพม่ิ ระนาดเอกในวงดนตรี
ดนตรไี ทยสมยั อยุธยา วงปพ่ี าทย์เคร่อื งหา้
ดนตรีไทยสมยั อยธุ ยา วงมโหรี ผู้หญิงเป็นผู้บรรเลงขับกล่อมถวาย พระมหากษัตรยิ ์ ประกอบด้วย กระจับป่ี ซอสามสาย ทับ (โทน) กรับพวง ต่อมาได้เพ่ิมขลุ่ย รามะนา ฉิ่ง และจะเข้ ซึ่งเป็นเคร่ืองดนตรีของมอญเข้ามาแทนกระจับป่ี เพราะไพเราะกว่า และสามารถวางดดี กับพื้นราบไดถ้ นัดกว่า
ดนตรไี ทยสมัยอยุธยา วงมโหรี
ดนตรไี ทยสมยั อยุธยา ว ง เ ค รื่ อ ง ส า ย ใ น ส มั ย น้ี มีพร้อมทุกอย่าง คือมีซอด้วง ซออู้ ขลุ่ย จะเข้ เป็นเครื่องบรรเลงทานอง โทน ทับ และฉ่ิง เป็นเคร่ืองบรรเลง ประกอบจังหวะ ส่วนขลุ่ย จะมี แต่ขลุ่ยขนาดกลาง คือ ขลุ่ย เพียงออ
ดนตรไี ทยสมยั อยุธยา วงเครอ่ื งสาย
ดนตรไี ทยสมยั อยุธยา ปรากฏ หลักฐานเกี่ยวกับ ดนตรีไทย ในสมัยนี้ ในกฎมลเฑียรบาล ซึ่งระบุชื่อเคร่ืองดนตรีไทย เพิ่มขึ้น จากที่เคยระบุไว้ในหลักฐานสมัยสุโขทัย จึงน่าจะเป็น เครื่องดนตรีท่ีเพิ่งเกิดในสมัยนี้ ได้แก่ กระจับปี่ ขลุ่ย จะเข้ แ ล ะ ร า ม ะ น า น อ ก จ า ก นี้ ใ น ก ฎ ม ณ เ ฑี ย ร บ า ล ส มั ย สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (พ.ศ. 1991-2031) ปรากฏ ข้อหา้ มตอนหน่ึงว่า
ดนตรไี ทยสมัยอยุธยา \"...ห้ามร้องเพลงเรือ เป่าขลุ่ย เป่าป่ี สีซอ ดีดกระจับปี่ ดีดจะเข้ ตีโทนทับ ในเขต พระราชฐาน...\" ซ่ึงแสดงว่าสมัยน้ี ดนตรีไทย เป็นทน่ี ยิ มกันมาก แมใ้ นเขตพระราชฐาน ก็มีคน ไปร้องเพลงและเล่นดนตรีกันเป็นที่เอิกเกริก และเกินพอดี จนกระทั่งพระมหากษัตริย์ ต้องทรงออกกฎมลเฑียรบาล ดงั กลา่ วขน้ึ ไว้
ดนตรไี ทยสมัยอยธุ ยา สรปุ วงดนตรีไทยในสมัยอยธุ ยา ประกอบดว้ ย วงป่ีพาทย์ วงเคร่ืองสาย วงมโหรี
ดนตรไี ทยสมยั ธนบุรี ในสมัยนี้ วงดนตรีมีทั้ง วงป่ีพาทย์ วงมโหรี วงเครอ่ื งสาย ไม่มีสิ่งใดเปล่ียนแปลงเพ่ิมเติม จากสมัยอยุธยา เพียงแต่มีเครื่อง ดนตรีต่าง ๆ ของชาวต่างชาติเข้ามา ร่วมบรรเลง
ประวตั ิดนตรีไทย สรุป ในยคุ สมยั ต่าง ๆ วงดนตรีทโี่ ดดเด่น ได้แก่ วงป่ีพาทย์ สมยั สโุ ขทยั มีเครื่องดนตรปี ระเภทสาย ทง้ั เคร่อื งดีด เคร่ืองสี ซงึ่ เปน็ ตน้ แบบทน่ี ามาผสม จนเกิดเป็นวงมโหรแี ละวงเครอ่ื งสาย
ประวัตดิ นตรีไทย สรุป ในยคุ สมัยต่าง ๆ บา้ นเมืองมศี กึ สงครามอยู่ตลอดเวลา สมัยอยุธยา การดนตรจี ึงไมเ่ จรญิ ไปกว่าเดมิ วงดนตรที ่โี ดดเด่น ไดแ้ ก่ วงมโหรแี ละ วงเครอ่ื งสาย
ประวตั ดิ นตรีไทย สรุป ในยคุ สมยั ตา่ ง ๆ ไมม่ ีส่ิงใดเปล่ียนแปลงจากสมัยอยธุ ยา สมัยธนบุรี แต่มเี ครื่องดนตรตี ่าง ๆ ของตา่ งชาติ เข้ามารว่ มบรรเลง
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: