(1) แผนการจดั การเรียนรู้ มุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง วชิ าโครงงาน 1 ( Project1) รหัสวชิ า 2501-8502 หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ(ปวช) พุทธศักราช 2562 สาขาวชิ าเกษตรศาสตร์ สาขางานสัตวศาสตร์ จัดทาโดย นางสาวฉัตรชนก แสนวงษ์ ครู เชี่ยวชาญ แผนกวชิ าสัตวศาสตร์ วทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยกี ระบ่ี สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
(2) คำนำ การจดั ทาแผนการจดั การเรยี นร้วู ิชา โครงงาน 1 รหสั วิชา 20501-8502 หลักสตู รประกาศนยี บตั ร วิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562 ประเภทวิชาเกษตรกรรม สาขาวิชาเกษตรศาสตร์ โดยมีเนื้อหา ดังต่อไปน้ี ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับ หลักการเกี่ยวกับการทาโครงงาน การวางแผน การดาเนินงาน การ แก้ไขปัญหาการประเมนิ ผล การจดั ทารายงานและการนาเสนอผลงาน โดยปฏิบัติจดั ทาโครงงานสร้างและ หรือพัฒนางานที่ใช้ความรู้และทักษะในระดับฝีมือ สอดคล้องกับสาขาวิชาชีพที่ศึกษา ดาเนินการเป็น รายบุคคลหรือกลุ่มตามลักษณะของงานให้ แลว้ เสร็จในระยะเวลาที่กาหนด เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปการศึกษา ผู้เรียนได้รับการพัฒนาอย่างสมดุล ทั้งด้านความรู้ ทักษะ คา่ นิยม และคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ท่ีเหมาะสมกับการปฏิบตั ิงาน และอยูใ่ นสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสขุ โดยนาเสนอในรูปแบบหน่วยการเรียนรู้ ผู้สอนและผู้เรียนสามารถใช้เป็นกรอบแนวทางในการ จัดการเรียนรู้และการประเมินผลการเรียนรู้ มีการนาเสนอเน้ือหาท่ีเหมาะสมกับการเรียนรู้ โดยมุ่งเน้นให้ สัมพันธ์กับผลการเรียนที่คาดหวัง มีการแทรกกิจกรรมการฝึกกระบวนการคิด การปฏิบัติงาน ตามความ เหมาะสม นางสาวฉตั รชนก แสนวงษ์ ตาแหน่ง ครูเชี่ยวชาญ วิทยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีกระบี่
(3) สำรบัญ หน่วย / เร่อื ง หนำ้ คานา (1) สารบัญ (2) ลกั ษณะรายวิชา (3) ตารางวิเคราะห์เน้ือหารายวิชา เพอ่ื พฒั นาการจดั กระบวนการเรยี นรู้ (DIF) (4) ตารางวิเคราะห์จุดประสงค์จากคาอธบิ ายรายวชิ า (5) แผนการจัดการเรยี นรู้ (6) กาหนดการจดั การเรยี นรู้ (7) ตารางวิเคราะหห์ ลักสูตร (8) คุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (9) กรอบแนวทางในการจดั การเรียนรู้และประเมนิ ผล การประเมินผลสภาพจรงิ ประจาหน่วยการเรียนรู้ (10) กรอบแนวทางการจดั การเรยี นรูแ้ ละการประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ ประจาหน่วยการเรยี นรู้ (11) แผนการจัดการเรียนรู้ บทท่ี 1 ความรเู้ กย่ี วกบั หลักการและกระบวนการจัดทาโครงงาน 1 บูรณาการหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง บูรณาการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ แผนการจัดการเรียนรู้ บทท่ี 2 การเลอื กหัวข้อโครงงาน 10 แผนการจดั การเรยี นรู้ บทท่ี 3 การศกึ ษาค้นควา้ ข้อมูลและเอกสารอา้ งองิ การเขียนโครงงาน 20 แผนการจดั การเรียนรู้ บทที่ 4 การดาเนินงานโครงงาน 30 แผนการจัดการเรียนรู้ บทท่ี 5 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู วิเคราะหแ์ ละแปลผล 40 แผนการจัดการเรยี นรู้ บทที่ 6 การสรุปจดั ทารายงาน 50 แผนการจัดการเรียนรู้ บทท่ี 7 การนาเสนอผลงานโครงงาน ภำคผนวก (ถำ้ มี) ….. ภำคผนวก ก ….. ภำคผนวก ข .....
(3) ลกั ษณะรำยวิชำ รหสั วิชำ 20501-8502 ชื่อวิชำ โครงงำน 1 จำนวน 2 หน่วยกติ ระดบั ช้ัน ปวช. 3 สำขำวิชำผลติ สัตว์ เวลำเรียน จำนวน 2 ช่ัวโมง/สปั ดำห์ จำนวนรวมชั่วโมงรวม 36 ช่ัวโมง / ภำคเรียน จุดประสงคร์ ำยวิชำ 1. เพ่อื ให้เขา้ ใจหลักการและกระบวนการวางแผนจัดทาโครงงานสร้างและหรอื พัฒนางาน 2. เพื่อให้สามารถประมวลความรู้และทักษะในการสรา้ งและหรือพฒั นางานในสาขาวิชาชีพตาม กระบวนการวางแผน ดาเนินงาน แก้ไขปญั หา ประเมินผล ทารายงานและนาเสนอผลงาน 3. เพื่อให้มีเจตคติและกิจนิสัยในการทางานด้วยความรับผิดชอบ มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม ความคดิ รเิ รม่ิ สร้างสรรค์ขยัน อดทนและสามารถทางานร่วมกับผู้อ่ืน มำตรฐำนรำยวชิ ำ 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการและกระบวนการวางแผน จัดทาโครงงาน ดาเนินงาน แก้ไข ปัญหา ประเมินผลจัดทารายงานและนาเสนอผลงาน 2. เขยี นโครงงานสรา้ งและหรอื พัฒนางานตามหลักการ 3. ดาเนินงานตามแผนงานโครงงานตามหลักการและกระบวนการ 4. ประเมินผลการดาเนินงานโครงงานตามหลักการ 5. รายงานผลการปฏิบัตงิ าน คำอธบิ ำยรำยวิชำ ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับ การวางแผนจัดทาหรือพัฒนางานโครงงาน การดาเนินงาน การแก้ไข ปัญหาการประเมินผล การจัดทารายงานและการนาเสนอผลงาน โดยปฏิบัติจัดทาโครงงานสร้างและหรอื พัฒนางานท่ีใช้ความรู้และทักษะในระดับฝีมือ สอดคล้องกับสาขาวิชาชีพท่ีศึกษา ดาเนินการเป็น รายบุคคลหรือกลุม่ ตามลักษณะของงานให้ แล้วเสร็จในระยะเวลาทก่ี าหนด
ตำรำงวเิ ครำะหเ์ นอ้ื หำรำยวิชำ เพ รำยวชิ ำ โครงงำน 1 ร ระดับช้นั ปวช. 3 วิทยำลยั เ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง ควำมหม กำรวเิ ครำะห์ DIF ที่ หัวข้อ ควำมยำก ควำมสำคัญ ควำมถ่ี ควำ (D) (I) (F) (K *1 หลักการและกระบวนการ M M M หลักก จัดทาโครงงาน กระบว
พื่อพัฒนำกำรจดั กระบวนกำรเรียนรู้ รหัสวิชำ 20501-8502 เกษตรและเทคโนโลยีกระบี่ มำย และควำมสำคัญของโครงงำน กำรวิเครำะหเ์ ชิงสมรรถนะ ตวั ชวี้ ัด ข้อเสนอแนะ ำมรู้ ทกั ษะ เจตคติ (Indicator) เพิม่ เติม K) (S) (A) ารและ - เข้าใจ - ใฝ่รู้ - อธิบายความรู้เกี่ยวกับ วนการ หลักการและ - รับผดิ ชอบ หลักการและกระบวน การจัดทาโครงงาน กระบวนการ (4)
(5) ตำรำงวเิ ครำะห์จดุ ประสงค์จำกคำอธิบำยรำยวิชำ รหัสวิชำ 20501-8502 รำยวิชำ โครงงำน 1 จำนวน 2 หน่วยกติ กจิ กรรม สำระกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรูท้ ่คี ำดหวัง (เนื้อหำ) (จดุ ประสงคป์ ลำยทำง) 1 ความรู้เกยี่ วกับหลกั การและกระบวนการจัดทา - อธิบายความหมายของกระบวนการ โครงงาน จัดทาโครงงาน 2 การเลอื กหวั ขอ้ โครงงาน -สามารถเลือ กหัว ข้ อ ใ นก าร จั ด ท า โครงงานได้ 3 การศึกษาค้นคว้าข้อมูลและเอกสารอ้างอิงการ - สามารถศึกษา ค้นคว้าข้อมูลและ เขยี นโครงงาน เอกสารอ้างองิ การเขยี นโครงงาน 4 การดาเนนิ งานโครงงาน - สามารถจดั ทาและดาเนนิ งานโครงงาน 5 การเก็บรวบรวมข้อมลู วเิ คราะหแ์ ละแปลผล - สามารถวิเคราะห์การเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์และแปลผล 6 การสรปุ จดั ทารายงาน - สามารถจัดทารูปเล่มรายงานได้อย่าง สมบูรณ์ 7 การนาเสนอผลงานโครงงาน -สามารถดาเนินผลงานโครงงานได้อย่าง ครบถ้วน
(6) แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ รหัสวชิ ำ 20501-8502 รำยวิชำ โครงงำน 1 จำนวน 2 หนว่ ยกิต หน่วยที่ หนว่ ย/สำระกำรเรยี นรู้ ผลกำรเรียนรู้คำดหวัง เวลำ 1 (ชม.) 2 (จดุ ประสงคน์ ำทำง) 3 2 ค ว า ม รู้ เ กี่ ย ว กั บ ห ลั ก ก า ร แ ล ะ - อ ธิ บ า ย ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง 4 4 4 5 กระบวนการจดั ทาโครงงาน กระบวนการจัดทาโครงงาน 4 6 การเลอื กหัวข้อโครงงาน - สามารถเลือกหัวข้อในการ 6 7 จดั ทาโครงงานได้ 10 6 ก า ร ศึ ก ษ า ค้ น ค ว้ า ข้ อ มู ล แ ล ะ - สามารถศึกษาค้นคว้าข้อมูล 36 เอกสารอา้ งองิ การเขยี นโครงงาน แ ล ะ เ อ ก ส า ร อ้ า ง อิ ง ก า ร เขยี นโครงงาน การดาเนินงานโครงงาน - สามารถจัดทาและดาเนินงาน โครงงาน การเก็บรวบรวมข้อมูลวิเคราะห์และ - สามารถวิเคราะห์การเก็บ แปลผล รวบรวมข้อมูลวิเคราะห์และ แปลผล การสรุปจดั ทารายงาน - สามารถจัดทารูปเล่มรายงาน ได้อย่างสมบูรณ์ การนาเสนอผลงานโครงงาน - ส า ม า ร ถ ด า เ นิ น ผ ล ง า น โครงงานได้อยา่ งครบถว้ น รวม
(7) กำหนดกำรจัดกำรเรียนรู้ รหัสวชิ ำ 20501-8502 รำยวิชำ โครงงำน 1 จำนวน 2 หน่วยกติ ชอื่ ครูผสู้ อน นำงสำวฉัตรชนก แสนวงษ์ จำนวน 2 ชั่วโมง จำนวน 2 หนว่ ยกติ หน่วย ชอ่ื หน่วยกำรเรยี นรู้ วธิ ีกำรสอน/ สื่อกำรสอน กำรวดั ผล จำนวน ชัว่ โมง ท่ี เทคนิคกำรสอน 4 1 ค ว า ม รู้ เ ก่ี ย ว กั บ ห ลั ก ก า ร แ ล ะ บรรยาย เพาเวอร์พ้อย การทดสอบ 4 กระบวนการจดั ทาโครงงาน ใบความรู้ 4 ใบงาน 4 2 การเลือกหวั ข้อโครงงาน บรรยาย/ปฏิบัติ เพาเวอร์พ้อย ใบงาน 6 ใบความรู้ 10 6 ใบงาน 36 3 ก า ร ศึ ก ษ า ค้ น ค ว้ า ข้ อ มู ล แ ล ะ บรรยาย/สืบค้น/ google แบบประเมิน เอกสารอา้ งองิ การเขียนโครงงาน ปฏบิ ตั ิ 4 การดาเนินงานโครงงาน บรรยาย/ปฏบิ ัติ ใบงาน แบบประเมนิ 5 การเก็บรวบรวมข้อมูลวิเคราะห์และ บรรยาย/ปฏิบตั ิ ใบงาน แบบประเมนิ แปลผล 6 การสรปุ จดั ทารายงาน บรรยาย/ปฏิบตั ิ ใบงาน รปู เลม่ รายงาน 7 การนาเสนอผลงานโครงงาน ปฏิบัติ เพาเวอร์พ้อย การนาเสนอ รวม
(9) ตำรำงวิเครำะหห์ ลกั สูตร รหัสวิชำ 20501-8502 รำยวชิ ำ โครงงำน 1 จำนวน 2 หน่วยกติ พฤติกรรมท่ีพึงประสงค์ พทุ ธพสิ ัย ห ่นวยท่ี ควำมรู้ควำมจำ ควำมเข้ำใจ น้ำไปใช้ ิวเครำะห์ ัสงเครำะห์ ประเมินค่ำ ทักษะพิ ัสย จิต ิพ ัสย รวม ลำ ัดบควำมสำคัญ จำนวน ชอื่ หน่วย / หัวข้อย่อย 1. ค ว า ม รู้ เ ก่ี ย ว กั บ ห ลั ก ก า ร แ ล ะ 2 2 2 2 2 10 1 4 กระบวนการจดั ทาโครงงาน 2. การเลอื กหัวข้อโครงงาน 222 2 2 10 2 4 3. ก า ร ศึ ก ษ า ค้ น ค ว้ า ข้ อ มู ล แ ล ะ 2 2 2 2 2 10 3 4 เอกสารอา้ งองิ การเขียนโครงงาน 4. การดาเนินงานโครงงาน 222 2 2 10 4 4 5. การเก็บรวบรวมข้อมูลวิเคราะห์และ 2 2 2 2 2 10 5 6 แปลผล 6. การสรปุ จัดทารายงาน 555 5 5 25 6 10 7. การนาเสนอผลงานโครงงาน 555 5 5 25 7 6 รวม 20 20 20 20 20 100 36 รวมทั้ง 3 ด้ำน 60 20 20 100 ลำดบั ควำมสำคัญ 123456
(9) คณุ ธรรมจรยิ ธรรม ค่ำนยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รหัสวชิ ำ 20501-8502 รำยวิชำ โครงงำน 1 จำนวน 2 หน่วยกติ นักศึกษามีพฤติกรรมที่สอดคล้องกับการบูรณาการคุณธรรม จริยธรรม และหลักการปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง (คุณธรรม) ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ควำมขยัน พจิ ารณาพฤติกรรมบ่งชีด้ งั น้ี 2. ควำมซ่อื สัตย์สจุ รติ 1.1 ปฏบิ ตั ิงานด้วยความตง้ั ใจ 3. ควำมรักสำมคั คี 1.2 ปฏิบตั งิ านท่ไี ดร้ บั มอบหมายเสร็จตามกาหนด 4. ควำมมวี ินัย พิจารณาพฤติกรรมบ่งชด้ี งั นี้ 5. ควำมสนใจใฝร่ ู้ 2.1 ไม่นาผลงานของผู้อืน่ มาแอบอ้างเปน็ ของตนเอง 2.2 ไม่ทจุ ริตในการสอบ พิจารณาพฤติกรรมบง่ ชีด้ ังน้ี 3.1 ไม่ทะเลาะววิ าท 3.2 ร่วมมือในการทางาน พจิ ารณาพฤติกรรมบง่ ชด้ี ังน้ี 4.1 ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ข้อบังคับและข้อตกลงต่าง ๆ ของ สถานศึกษา ได้แก่ การแต่งกายถูกต้องตามระเบียบ และ ข้อบังคับ ตรงต่อเวลา รักษาสาธารณสมบัติ สิ่งแวดล้อม และ เข้ารว่ มกิจกรรมที่ครูผู้สอนกาหนด 4.2 ประพฤตติ นถูกตอ้ งตามศีลธรรมอนั ดีงาม พิจารณาพฤติกรรมบง่ ชีด้ ังนี้ 5.1 ศึกษาค้นควา้ ด้วยตนเอง 5.2 ซักถามปัญหาข้อสงสัย 5.3 แสวงหาประสบการณ์และค้นหาความรใู้ หม่ ๆ 5.4 มีความกระตือรือร้นในการใฝ่หาความรใู้ หม่
(10) กรอบแนวทำงในกำรจดั กำรเรยี นรแู้ ละประเมินผล กำรประเมนิ ผลตำมสภำพจริงประจำหน่วยกำรเรยี นรู้ รหัสวิชำ 20501-8502 รำยวชิ ำ โครงงำน 1 จำนวน 2 หนว่ ยกิต คะแนนตลอดภำคกำรเรยี น 100 คะแนน จำแนกได้ดงั นี้ 1. ทดสอบ 20 คะแนน คะแนน 2. แบบฝึกหดั 10 คะแนน คะแนน 3. ใบงาน 10 คะแนน คะแนน 4. งานกลมุ่ 20 คะแนน 5. คุณธรรมจริยธรรม 20 6. สอบปลายภาค 20 รวม 100 เกณฑ์กำรประเมนิ ผล การให้ระดับคะแนน แบง่ เป็น 8 ช่วงระดับ คอื 80 – 100 ใหเ้ กรด 4.0 75 – 79 ใหเ้ กรด 3.5 70 – 74 ให้เกรด 3.0 65 – 69 ให้เกรด 2.5 60 – 64 ให้เกรด 2.0 55 – 59 ให้เกรด 1.5 50 – 54 ให้เกรด 1.0 0 – 49 ให้เกรด 0
(11) กรอบแนวทำงกำรจัดกำรเรยี นรูแ้ ละกำรประเมนิ ผลตำมสภำพจรงิ ประจำหน่วยกำรเรยี นรู้ แนวทำงกำรประเมิน หน่วย รำยกำรสอน สมรรถนะ เกณฑ์กำร ทดสอบควำมรู้ ท่ี ปฏิบัติงำน ประเ ิมนกำรปฏิบั ิตงำน ประเ ิมนผลงำน ประเ ิมนพฤติกรรม ื่อน ๆ 1. กระบวนการจัดทา - อธิบายความหมายของ บ อ ก ข้ั น ต อ น ก า ร โครงงาน กระบวนการจดั ทา จัดทาโครงงาน โครงงาน 2 ก า ร เ ลื อ ก หั ว ข้ อ -สามารถเลือกหัวข้อใน เลือกหัวข้อ แผนการ โครงงาน การจดั ทาโครงงานได้ ดาเนนิ โครงงาน 3 การศกึ ษาค้นควา้ - สามารถศึกษาค้นคว้า สืบค้นข้อมูล เขียน ขอ้ มลู และ ขอ้ มูลและเอกสารอ้างอิง เอกสารอา้ งองิ เอกสารอ้างองิ การ การเขยี นโครงงาน เขียนโครงงาน 4 ก า ร ด า เ นิ น ง า น - สามารถจัดทาและ ด า เ นิ น โ ค ร ง ง า น โครงงาน ดาเนนิ งานโครงงาน อย่างเปน็ ระบบ 5 ก า ร เ ก็ บ ร ว บรว ม - สามารถวิเคราะห์การ เก็บข้อมูล วิเคราะห์ ข้อมูลวิเคราะห์และ เก็บรวบรวมขอ้ มูล และแปลผล แปลผล วิเคราะห์และแปลผล 6 ก า ร ส รุ ป จั ด ท า - สามารถจัดทารูปเล่ม จัดทาเลม่ รายงาน รายงานได้อยา่ งสมบรู ณ์ 7 การนาเสนอผลงาน -สามารถดาเนินผลงาน นาเสนอ โครงงาน โ ค ร ง ง า น ไ ด้ อ ย่ า ง ครบถ้วน
1 ช่อื วิชำ แผนกำรเรยี นร้ทู ่ี 1 หน่วยที่ 1 สอนครงั้ ที่ 1-3 ชือ่ หน่วย โครงงำน คำบรวม 12 ชือ่ หน่วย ควำมรเู้ ก่ียวกบั หลกั กำรและกระบวนกำรจัดทำโครงงำน จำนวนคำบ 72 ควำมรเู้ กยี่ วกบั หลักกำรและกระบวนกำรจัดทำโครงงำน สำระสำคัญ โครงงานเป็นการศึกษาค้นคว้าเก่ียวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือหลายๆ สิ่งที่อยากรู้คาตอบให้ลึกซึ้ง หรือ เรียนรใู้ นเรอ่ื งน้นั ๆ ให้มากขึ้น โดยใชก้ ระบวนการ วิธกี ารทศ่ี ึกษาอย่างมรี ะบบ เปน็ ขน้ั ตอน มีการวางแผน ในการศึกษาอย่างละเอียด ปฏิบัติงานตามแผนท่ีวางไว้ จนได้ข้อสรุปหรือผลสรุปท่ีเป็นคาตอบในเรื่องน้ัน ๆ การจัดการเรียนการสอนแบบโครงงาน คือการจัดประสบการณ์ในการปฏิบัติงานให้แก่เด็ก เหมือนกับการทางานในชีวติ จริง เพื่อให้เด็กมีประสบการณ์ตรง เด็กจะได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหา รู้จักรู้จัก การทางานอย่างมีระบบ รู้จักการวางแผนในการทางาน ฝึกการคิดวิเคราะห์และเกิดการเรียนรดู้ ้วยตนเอง โครงงานจัดเป็นการเรียนรู้รูปแบบหน่ึงท่ีทาให้ผู้เรียนรู้เรียนรู้ด้วยตนเอง โดยใช้กระบวนการทาง วทิ ยาศาสตรอ์ ย่างเป็นข้นั ตอนและใชค้ วามรทู้ ่ตี นเองได้มาบรู ณาการเข้าดว้ ยกัน สมรรถนะรำยหนว่ ย 1. เพื่อให้ทราบถึงประเภทของโครงงาน 2. เพอ่ื ใหท้ ราบถึงข้ันตอนการจัดทาโครงการ จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ จดุ ประสงค์ปลำยทำง (ทั่วไป) แสดงความร้เู ก่ยี วกบั ประเภทของโครงงานและข้นั ตอนการจัดทาโครงงานได้ จดุ ประสงค์นำทำง (เชงิ พฤติกรรม) 1. นักศึกษาอธบิ ายประเภทและขน้ั ตอนการจดั ทาโครงงานได้ 2. น้อมนาหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งดา้ นมเี หตผุ ล พอประมาณ ภูมคิ ุ้มกนั 4. แสดงพฤติกรรมลกั ษณะนสิ ัยด้านความใฝ่เรียนรู้ ความรับผดิ ชอบ มงุ่ มั่นในการทางาน 5. บูรณาการกจิ กรรมป้องกนั การทจุ รติ มีความซื่อสตั ย์ สำระกำรเรยี นรู้ (เนื้อหำสำระ) 1. ประเภทของโครงงานและขนั้ ตอนการจดั ทาโครงงาน 2. ปราบทจุ ริตดว้ ยจติ พอเพยี ง
2 กำรบรู ณำกำรปอ้ งกันและปรำบปรำมกำรทจุ ริต สรา้ งสงั คมทไี่ มท่ นและไม่เพิกเฉยต่อปัญหาการทจุ รติ และร่วมตา้ นทจุ ริตในทุกรูปแบบ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 1. ครนู าเข้าส่บู ทเรียนโดยผสู้ อนเรยี กชือ่ สารวจการตรงตอ่ เวลาและการแต่งกายของผเู้ รยี น พร้อมทั้ง บันทกึ ลงในแบบสังเกตพฤติกรรม 2. นาเข้าสู่บทเรียนดว้ ยการให้ผู้เรียนทดสอบตนเองเร่ืองการมีมนุษยสมั พันธ์ โดยให้ผู้เรยี นแต่ละคน ทารายการทดสอบตนเองตามใบทดสอบ 3. ผู้เรียนทาแบบทดสอบดว้ ยความซอ่ื สตั ย์สจุ รติ อยา่ งตรงไปตรงมา และพจิ ารณาคะแนนท่ีไดต้ าม แบบทดสอบ ผเู้ รียนจะทราบไดว้ า่ ตนเองมีพฤติกรรมอยู่ในระดบั ใด เพื่อเป็นแนวทางในการเปลยี่ น แปลง พฤติกรรมตนเอง 4. แจกคู่มอื การเรียนการสอนวชิ าโครงงาน 1 5. ผู้เรยี นศึกษาการเรียนการสอนจากคู่มือการเรยี นการสอนโดยผ้สู อนและผู้เรยี นรว่ มกันตกลงใน การจดั การเรียนการสอน 6. แจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ในหัวขอ้ เรือ่ งประวติ วิ ิชาความหมายและความสาคัญของการจัดทา โครงงาน 7. แจกใบความรทู้ ี่ 1 ในหัวขอ้ เรอื่ งตามที่แจ้งในจดุ การเรียนรู้ ผ้สู อนอธบิ ายเนอ้ื หาและเปดิ โอกาสให้ ผเู้ รยี นซกั ถามเมอ่ื มขี ้อสงสัย 8. เมอื่ จบเนอ้ื หาผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรปุ เนือ้ หาอีกครั้ง 9. ครูให้นักเรียนดูส่ือการเรียนรู้ การปราบทุจริตด้วยจิตพอเพียง เร่ือง สร้างสังคมที่ไม่ทนและไม่ เพิกเฉยต่อปญั หาการทจุ รติ และรว่ มต้านทจุ ริตในทกุ รูปแบบ สอื่ กำรเรยี นรู้ 1. ใบความรู้ 2. VDO 3. PPT 4. การสืบคน้ แหล่งกำรเรียนรู้ 1. หอ้ งสมดุ 2. ห้องปฏบิ ตั ิการคอมพวิ เตอร์
3 3. ห้องอินเทอรเ์ นต็ หลักฐำนกำรเรยี นรู้ 1. หลักฐานความรู้ 2. หลักฐานการปฏบิ ัติงาน กำรวัดผลและกำรประเมินผล (ด้ำนควำมรู้ ด้ำนทักษะ และดำ้ นเจตคติ) วิธปี ระเมนิ ผล 1. การสงั เกต 2. การซกั ถามในชน้ั เรียน 3. ทดสอบ 4. ประเมิน เคร่ืองมือวดั 1. ทาใบงาน 2. การเขา้ เรียน กำรประเมนิ ผล 1. แบบความพึงพอใจ แบบฝกึ หดั /ใบงำน/ใบควำมรู้ 1. ใบความรู้ 2. ใบงาน เอกสำรอำ้ งอิง
4 บันทึกหลังกำรสอน
5 ใบควำมรู้ หน่วยที่ 1 โครงงำน คืออะไร แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยท่ี 1 โครงงานเป็นการศึกษาค้นคว้าเก่ียวกับส่ิงใดสิ่งหนึ่ง หรือหลายๆส่ิงที่อยากรคู้ าตอบใหล้ ึกซ้ึง หรือ เรียนรู้ในเร่อื งนัน้ ๆ ให้มากขึน้ โดยใช้กระบวนการ วธิ กี ารทศ่ี กึ ษาอยา่ งมีระบบ เป็นข้ันตอน มกี ารวางแผน ในการศึกษาอย่างละเอียด ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้ จนได้ข้อสรุปหรือผลสรุปที่เป็นคาตอบในเรื่องน้ัน ๆ การจัดการเรียนการสอนแบบโครงงาน คือการจัดประสบการณ์ในการปฏิบัติงานให้แก่เด็กเหมือนกับ การทางานในชีวติ จริง เพอื่ ใหเ้ ด็กมีประสบการณ์ตรง เด็กจะได้เรยี นรวู้ ิธีการแก้ปัญหา รู้จกั รู้จกั การทางาน อย่างมีระบบ รู้จักการวางแผนในการทางาน ฝึกการคิดวิเคราะห์และเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง โครงงาน จัดเป็นการเรียนรู้รปู แบบหนึ่งที่ทาใหผ้ ู้เรยี นรูเ้ รียนรู้ด้วยตนเอง โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่าง เปน็ ขนั้ ตอนและใช้ความรู้ท่ตี นเองได้มาบรู ณาการเข้าด้วยกัน ประเภทโครงงำน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. โครงงำนตำมสำระกำรเรียนรู้ เป็นการใช้บูรณาการร่วมกับการเรียนรู้ ทักษะและเป็นพื้นฐานในการ กาหนดโครงงานและปฏิบตั ิ 2. โครงงำนตำมควำมสนใจ เป็นโครงงานท่ีผู้เรียนกาหนดขั้นตอน ความถนัด ความสนใจ ความต้องการ โดยใชท้ ักษะความรู้ จากกลุ่มสาระการเรยี นร้ตู ่างๆมาบรู ณาการเป็นโครงงานและปฏิบัติ สามารถแบ่งได้ 4 รปู แบบ ตามวตั ถุประสงค์ 1. โครงงานท่ีเป็นการสารวจ รวบรวมข้อมูล โครงงานประเภทน้ี เป็นโครงงานท่ีมีวตั ถุประสงค์ใน การรวบรวมข้อมูล เรื่องใดเร่ืองหนึ่ง แล้วนาข้อมูลนั้นมาจาแนกเป็นหมวดหมู่ ในรูปแบบท่ีเหมาะสม เช่น แบบสอบถาม แบบสมั ภาษณ์ แบบบันทึก เป็นตน้ 2. โครงงานที่เป็นการค้นคว้า ทดลอง เป็น โครงงานท่ีมีวัตถุประสงค์ เพ่ือการศึกษาเร่ืองใดเร่ือง หนงึ่ โดยเฉพาะ โดยออกแบบในรูปผลการทดลอง เพือ่ ศกึ ษาตัวแปรหน่ึง จะมผี ลต่อตวั แปรทีต่ ้องการศึกษา อย่างไร ด้วยการควบคุมตวั แปร 3. โครงงานทเ่ี ปน็ การศึกษาทฤษฎี หลักการ หรือแนวคิดใหม่ๆ เป็น โครงงานทีม่ วี ตั ถปุ ระสงค์เพ่ือ เสนอความรู้ หรือหลักการใหม่ๆ เกี่ยวกับเร่ืองใดเร่ืองหน่ึงที่ยังไม่มีใครเคยคิดหรือขัดแย้ง หรือขยายจาก ของเดมิ ท่ีมีอยู่ ซ่งึ ตอ้ งผ่านการพสิ ูจนอ์ ยา่ งมหี ลักการก่อน 4. โครงงานทเ่ี ป็นการประดิษฐ์ คดิ คน้ เป็นโครงงานท่ีมีวัตถุประสงค์ในการนาความรทู้ ฤษฎี หลกั การ มาประยุกต์ใช้ โดยประดิษฐเ์ ปน็ เคร่ืองมอื เคร่ืองใชต้ า่ งๆ เพื่อประโยชน์ต่างๆ หรืออาจเป็นการ ประดษิ ฐ์ข้นึ มาใหม่ หรือปรับปรุงของเดิมใหด้ ีขึ้นก็ได้
6 ขน้ั ตอนกำรทำโครงงำน ขน้ั ตอนท่ี 1 การคดิ และเลือกหัวเร่อื ง เปน็ การหาหวั ข้อในการทดลอง ในการทจ่ี ะอยากรู้อยากเห็น ขนั้ ตอนท่ี 2 การศึกษาเอกสารทเ่ี กย่ี วข้อง รวมไปถึงการขอคาปรึกษา หรือข้อมลู ต่างๆจากผู้ทรงคุณวุฒิท่ี เก่ยี วข้อง ขน้ั ตอนที่ 3 การเขยี นเคา้ โครงของโครงงานโดยท่วั ไปเคา้ โครงของโครงงานจะมหี วั ข้อดังตอ่ ไปนี้ - หวั ขอ้ /รายการ รายละเอียดทต่ี อ้ งระบุ 1. ชอ่ื โครงงาน 2. ชือ่ ผู้ทาโครงงาน 3. ช่ือทปี่ รึกษาโครงงาน 4. ระยะเวลาดาเนินการ 5. หลกั การและเหตผุ ล 6. จดุ หมาย/วตั ถปุ ระสงค์ 7. สมมติฐานของการศึกษาโครงงาน 8. ขั้นตอนการดาเนินงาน 9. ปฏิบตั โิ ครงงาน 10. ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั 11. บรรณานกุ รม ขน้ั ตอนท่ี 4 การปฏบิ ตั โิ ครงงาน เปน็ การดาเนนิ งานตามแผน ท่ไี ดก้ าหนดไว้ในเค้าโครงของโครงงาน และ ตอ้ งมกี ารจดบันทกึ ขอ้ มลู ต่าง ๆ ไดอ้ ย่างละเอยี ด และต้องจัดทาอย่างเป็นระบบ ระเบียบเพ่ือทจี่ ะได้ใช้เป็น ขอ้ มลู ตอ่ ไป ขัน้ ตอนท่ี 5 การเขียนรายงาน ควรใช้ภาษาที่เขา้ ใจงา่ ย กระชับ ชดั เจน และครอบคลมุ ประเดน็ สาคัญของ โครงงานโดยสามารถเขียนให้อยู่ในรูปต่าง ๆ เช่น การสรุป รายงานผล ซึ่งประกอบไปด้วยหัวข้อต่าง ๆ เช่น บทคัดย่อ บทนา เอกสารท่ีเกีย่ วข้อง เป็นตน้ ขัน้ ตอนที่ 6 การแสดงผล การแสดงผลงาน เปน็ การนาเสนอผลงาน สามารถจัดไดห้ ลายรูปแบบ เชน่ การ จัดนิทรรศการ หรือทาเป็นสิ่งตีพิมพ์ การสอนแบบเพื่อนสอนเพ่ือน ตามแต่ความเหมาะสมของโครงงาน แนวคิดการจดั ทาโครงงานควรคานงึ ถึงสง่ิ ต่อไปนี้ 1. การจดั โครงงานตา่ งๆ ท้ังครูผ้สู อนและเด็กจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเร่ืองที่ทาคอ่ นข้างมาก ตอ้ งมีการศึกษาคน้ คว้าเอกสาร ความรตู้ า่ งๆ เพือ่ ใช้เป็นขอ้ มูลสนับสนุนระหวา่ งทาการทดลอง 2. เร่ืองทท่ี าตอ้ งเป็นสง่ิ ที่ใกลต้ วั ผลทไ่ี ดค้ วรเกดิ ประโยชน์แกต่ วั นักเรยี นหรอื บุคคลในทอ้ งถน่ิ 3. เรอ่ื งทท่ี าต้องเหมาะสมกบั วัยของเดก็ เดก็ สามารถทดลองได้ 4. การออกแบบทดลองจะตอ้ งครอบคลุมจดุ หมายท่ีกาหนดไว้
7 5.ระหว่างการทาโครงงานจะต้องมีการแก้ปัญหาเด็กจะต้องมีความรู้ความเข้าใจ เรื่องของ กระบวนการแกป้ ัญหาและกระบวนการทางวิทยาศาสตรก์ ารสอนตามหลักการสอนแบบโครงการ การสอน แบบโครงการ หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีให้นักเรียนศึกษาในเร่ืองใดเร่ืองหนึ่งอย่าง ลุ่ม ลึกศึกษาลงไปในรายละเอียดของเรื่องน้ันๆ จนพบคาตอบที่ต้องการ เร่ืองที่นักเรียนศึกษาน้ันเป็นเรื่องที่ นักเรยี นเป็นผู้ตดั สินใจเลือกเอง ตามความสนใจของตน ประเด็นที่ศึกษาก็เป็นประเด็นที่นักเรยี นตัง้ คาถาม ขึน้ มาเอง การศึกษาจะเป็นการศึกษาในลักษณะของการให้นักเรียนได้มีประสบการณ์ตรงกบั เรือ่ งท่ีศึกษา น้ัน ในการศึกษาจะใช้ระยะเวลาที่ยาวนานอย่างเพียงพอที่จะให้นักเรียนได้ค้นพบคาตอบ และคล่ีคลาย ความสงสัยใคร่รู้ เมื่อนักเรียนค้นพบคาตอบท่ีเป็นความรู้ท่ีต้องการแล้วจะนาความรู้นั้นมานาเสนอในรูป ของงานท่ีนักเรียนเลือกเองอาจจะเป็นงานเขียน งานวาดภาพระบายสี การสร้างแบบจาลอง การเล่น สมมุติ ละคร การทาหนังสือ หรือรูปแบบอื่น ๆ เพื่อนาเสนอต่อเพื่อน ๆ และคนอื่น ๆ อันจะแสดงให้เห็น ถึงความสาเร็จของกระบวนการศึกษาของตนกระบวนการการเรียนการสอน การสอนแบบโครงการเป็น รูปแบบการเรียนการสอนที่มีความยืดหยุ่นสูงมาก แต่ก็มีขั้นตอนในการสอนที่ชัดเจน ตลอดโครงการหน่ึง ใดๆทีน่ ักเรยี นเลอื กทาจะใช้เวลาในการทาโครงการ วันละ 50-70 นาที ตลอดโครงการบางทอี าจจะใชเ้ วลา 1 สัปดาห์ หรือ 3 สัปดาห์ หรือ 4 สัปดาห์ หรือ 3 เดือน ข้ึนอยู่กับหัวข้อโครงการท่ีนักเรียนเลือกและ ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่นักเรียน เลือกปฏิบัติเพื่อค้นหาคาตอบและนาเสนอผลการศึกษาในครั้งนั้น ขั้นตอน การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนตาม รปู แบบกำรสอนแบบโครงกำรมี 3 ข้ันตอนใหญๆ่ คอื 1. การวางแผนโครงการ เปน็ การเลอื กหวั ข้อ โครงการโดยครูและนักเรียนรว่ มกนั หวั ข้อโครงการ มาจากความสนใจของนักเรียนเป็นหลัก แต่ครูก็ต้องมีส่วนในการแนะนาการเลือกหัวข้อโครงการโดยครู พิจารณาเร่ืองท่ีมีอยู่จริงและเป็นไปได้ มีคุณค่าต่อการเรียนรู้ของนักเรียน เป็นเร่ืองที่นักเรียนสนใจ และ นักเรียนพอมีประสบการณ์เก่ียวกับเร่ืองนั้นอยู่บ้างนักเรียนมีโอกาสได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ตลอดจนมแี หลง่ ทรพั ยากรในการเรยี นรเู้ ก่ียวกับเรื่องน้ัน 2. พัฒนาโครงการ ในขั้นนี้นักเรียนจะได้ทางานภายใต้การดูแลแนะนาของครู เป็นท้ังการทางาน เดี่ยว งานกลุ่มเล็ก ๆ ของคนท่ีมีความสนใจตรงกันหรือกลุ่มใหญ่ งานที่ทาเป็นการนาเสนอการเรียนรู้ที่ เปน็ ผลของการศกึ ษาหาคาตอบ โดยแสดงออกในรูปของการสร้างสง่ิ ต่าง ๆ งานศลิ ปะ การเล่นสมมุติ และ เปน็ ข้ันทนี่ ักเรยี นจะได้ออกไปศึกษาข้อเท็จจริงโดยการมีประสบการณต์ รงกบั สิ่งนัน้ ๆ 3. รวบรวมข้อมูล สรุปและนาเสนอโครงการ ขั้นน้ีครูจัดเตรียมสถานการณ์เพื่อรวบรวมผล การศึกษาตามโครงการจัดนาเสนอแก่คนอ่ืน ๆ เช่น นักเรียนในช้ันเรียนอื่น ๆ บุคลากรในโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียน ผปู้ กครอง
8 กจิ กรรมหลกั ของกำรสอนแบบโครงกำร แม้ว่าการสอนแบบโครงการจะมีลักษณะยืดหยุ่นสูงกิจกรรมการเรียนการสอนส่วน ใหญ่ขึ้นอยู่ กบั ความสนใจของนกั เรยี น ครเู ปน็ ผคู้ อยสังเกตบันทกึ ความคดิ และคาถามตามความสนใจของนกั เรยี นแล้ว จัด กิจกรรมสนองตอบความตอ้ งการเหล่าน้ันก็ตาม แต่ก็ยังมีกิจกรรมหลักๆ ท่ีใช้ในทุกข้ันของการสอนใน แบบนี้ กจิ กรรมหลกั ดังกล่าวเป็นกจิ กรรมทใ่ี ชใ้ นขน้ั การสอนท้งั 3 ขน้ั ตลอดโครงการ กจิ กรรมดังกลา่ วคอื 1. การอภิปราย จะช่วยให้นักเรียนได้มีโอกาสสนทนากับครู ครูได้ตรวจสอบ บันทึกความรู้และ ความสนใจของนักเรียน และเป็นการชว่ ยพฒั นาความคดิ ของนักเรียน 2. การทัศนศึกษา ในที่นี้หมายถึงการท่ีนักเรียนได้มีโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงทุก ๆ อยา่ ง ไม่ไดห้ มายความถงึ การเดินทางออกไปศึกษายังสถานทตี่ ่างๆนอกโรงเรียนเพยี งอย่างเดยี ว แตร่ วมถึง การได้พูดคุยสัมภาษณ์บุคคลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครองหรือคนอ่ืนๆ การสารวจ สังเกตส่ิงต่างๆ อย่างใกล้ชิดนอกหอ้ งเรยี นในบรเิ วณโรงเรยี น 3. กิจกรรม การนาเสนอ เป็นกิจกรรมท่ีเปิดโอกาสให้นักเรียนได้นาเสนอความรู้ ทั้งที่เป็นความรู้ เดิมก่อนการเร่ิมโครงการ หรือความรู้ท่ีได้จากการทาโครงการ ซ่ึงเป็นการย้อนกลับไปคิดและรวบรวม ความรู้และความคิดท่ีเขามีอยูอ่ ันจะนาไป สกู่ ารตัง้ ขอ้ คาถามทจ่ี ะทาการคน้ หาคาตอบต่อไป 4. กิจกรรมการศึกษาค้นคว้า นักเรียนสามารถศึกษาค้นคว้าหาคาตอบของคาถามที่เขาสนใจได้ จากแหล่งความรู้หลากหลาย ไม่ว่าจะจากบุคคล ส่ิงของ สถานท่ี หรือหนังสือ ด้วยการสัมภาษณ์ หรือ สงั เกตอยา่ งใกล้ชดิ การสัมผสั จับตอ้ งการบนั ทึกรวบรวม 5. การจดั แสดง เปน็ งานนาผลงานของนักเรียนท่ีเกิดขึน้ ในกระบวนการของโครงการต้ังแต่เร่ิมต้น โครงการ มาจดั แสดงในห้องเรียน ในรูปของการติดบนป้ายนเิ ทศ บนผนังห้องเรียน ในกรณที ี่เปน็ ภาพวาด งานเขียน ภาพถ่าย หรือจัดแสดงบนโต๊ะหรือมุมใดมุมหนึ่งของห้องเรียน การจัดแสดงผลงานจะเป็น แหล่งข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์ เป็นการแลกเปล่ียนความคิดระหว่างนักเรียนกับเพื่อนคนอื่นๆในห้องเรียน เป็นการแสดงให้เห็นความก้าวหน้าในการทาโครงการของนักเรียน เป็นการย้านักเรียนให้เห็นถึงประเด็นที่ นักเรยี นกาลังศึกษา และยังเปน็ การแสดงให้บุคคลภายนอกเห็นถงึ เรอ่ื งราวของโครงการท่ีนักเรียนศึกษา
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: