สรุปงานปี64นายเก่งกาจ เข่งหล้า เมษายน -กันยายน64

สรปุ ผลการปฏิบตั งิ านประจาปงี บประมาณ 2564 1 [ดึงดูดความสนใจของผอู้ ่านของคุณดว้ ยคาอา้ งองิ ทย่ี อด เยีย่ มจากเอกสาร หรือใชพ้ ้ืนที่น้ีเพื่อเนน้ จุดสาคญั เม่ือ ตอ้ งการวางกลอ่ งขอ้ ความท่ีส่วนใดของหนา้ ก็ได้ ก็เพียงแค่ ลากกล่องขอ้ ความน้นั ] [อ้างถงึ แหลง่ ข้อมลู ของคณุ ทีน่ ี่]

สรปุ ผลการปฏิบตั งิ านประจาปงี บประมาณ 2564 ก คานา เอกสารฉบับนี้ ข้าพเจา้ ได้จัดรวบรวมเพ่อื เป็นการสรปุ ผลการดาเนนิ งาน ครูผูส้ อนคนพกิ ารอาเภอ ค้อวัง สังกัด สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สานักงานปลัดกระทรวง ศึกษาธิการ ซ่ึงประกอบไปด้วย ข้อมูลพ้ืนฐาน กศน. อาเภอค้อวัง ผลการปฏิบัติงาน และคุณลักษะในการ ปฏบิ ัติงาน ตลอดจนหลกั ฐานร่องรอยการดาเนินงาน ในหว้ ง 1 เม.ย.64 – 30 ก.ย.64 ข้าพเจา้ หวังเปน็ อย่างยิง่ ว่าเอกสารฉบบั นี้ จะเป็นเอกสารท่สี ามารถใชป้ ระกอบในการพจิ ารณาเพื่อวาง แผนการดาเนนิ งานในปีตอ่ ๆไป ให้มปี ระสิทธภิ าพและประสิทธิผลมากยงิ่ ขน้ึ เก่งกาจ เขง่ หล้า

สรปุ ผลการปฏบิ ตั งิ านประจาปีงบประมาณ 2564 ข สารบัญ 1 เร่อื ง 5 หนา้ 5 คานา 14 สารบัญ 19 ส่วนท่ี 1 ข้อมูลพื้นฐาน กศน.อาเภอคอ้ วงั 22 ส่วนท่ี 2 ผลการปฏบิ ัตงิ าน 23 1.1 ผลการปฏิบัติงาน 24 1.2 การศึกษาต่อเนอ่ื ง 25 1.3 กิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศยั 26 ส่วนท่ี 3 คุณลักษณะในการปฏิบตั ิงาน 27 2.1 การมงุ่ ผลสัมฤทธ์ขิ องงาน 28 2.2 การบรกิ ารทดี่ ี 29 2.3 การสั่งสมความชานาญในงานทป่ี ฏบิ ตั ิ 30 2.4 จริยธรรม 31 2.5 การทางานเป็นทีม 32 2.6 การคานึงถงึ การใชท้ รัพยากร 33 2.7 ความรอบรู้ในงานและความสามารถในการเรียนรู้ 34 2.8 ความเชื่อถอื ไวว้ างใจและความเอาใจใสใ่ นงาน 35 2.9 การมาทางานและการตรงตอ่ เวลาในงาน 36 2.10 การปฏิบัติตามคาสงั่ และคาแนะนาของผ้บู งั คบั บัญชา 37 2.11 ความคดิ รเิ รมิ่ สร้างสรรค์ 2.12 การวางแผนการทางาน 2.13 การตดั สนิ ใจแกป้ ัญหา 2.14 ความสามารถในการสื่อสาร 2.15 ความสามารถในการเป็นผูน้ าทมี งาน ภาคผนวก

สรปุ ผลการปฏบิ ตั ิงานประจาปงี บประมาณ 2564 ๑ สว่ นที่ 1 ข้อมูลพื้นฐานของสถานศกึ ษา 1. ช่อื สถานศึกษา ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอคอ้ วัง 2. ทต่ี ั้ง /การติดต่อ อาคารสานกั งานการประถมศกึ ษา (หลงั เดมิ ) หมู่ท่ี 7 อาเภอค้อวงั จงั หวดั ยโสธร รหัสไปรษณีย์ 35160 โทรศัพท์ 0-4579-7123 โทรสาร 0-4579-7013 Website http//yaso. nfe.go.th/4405 3. สงั กัด สานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จังหวดั ยโสธร สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั (สานกั งาน กศน.) สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 4.ประวัตคิ วามเป็นมาของสถานศกึ ษา 4.1 ประวัติสถานศึกษา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอค้อวัง ห่างจาก จังหวัดยโสธรประมาณ 75 กิโลเมตร พ้ืนท่ีประมาณ 150 ตารางกิโลเมตร หรือ เท่ากับ 93,750 ไร่ ศูนย์ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอค้อวัง เปล่ียนจากชื่อเดิมคือ ศูนย์บริการการศึกษานอก โรงเรียนอาเภอค้อวัง เป็นสถานศึกษาสังกัดส่วนกลางขึ้นตรงต่อ สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดยโสธร สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กระทรวงศึกษาธกิ าร ประกาศจัดตั้งเมื่อ วนั ท่ี 26 กรกฎาคม 2536 โดยเริ่มกอ่ ตง้ั ปี พ.ศ. 2537 โดยใช้ศาลา กลางบ้านหมู่ท่ี 7 ตาบลค้อวัง อาเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร ปี พ.ศ. 2540 ย้ายมารวมกับห้องสมุดประชาชน อาเภอคอ้ วัง ปี 2545 ย้ายไปอยทู่ ี่หอประชุมอาเภอค้อวัง (ปัจจุบนั เป็นท่ีพกั อาสาสมัครรักษาดินแดนอาเภอค้อ วงั ) ปี พ.ศ.2547-ปจั จุบัน อยทู่ ีส่ านกั งานการประถมศกึ ษา (เดิม) 4.2 อาณาเขต -ทศิ เหนือตดิ กบั อาเภอมหาชนะชยั จงั หวัดยโสธร -ทศิ ใตต้ ดิ กบั อาเภอยางชุมน้อย จังหวดั ศรีสะเกษ -ทศิ ตะวนั ตกตดิ กบั อาเภอราษไี ศล จงั หวดั ศรีสะเกษ -ทิศตะวันออกติดกบั อาเภอเขื่องใน จังหวดั อุบลราชธานี 4.3 แผนทอี่ าเภอคอ้ วงั

สรปุ ผลการปฏบิ ตั งิ านประจาปีงบประมาณ 2564 ๒ 4.4 สภาพชุมชน พ้ืนท่ีส่วนใหญ่ของอาเภอค้อวัง เป็นที่ราบ ลักษณะของดินเป็นดินปนทราย มีฝนตกระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึง เดือนกันยายน และแห้งแล้งมากระหว่างเดือนมีนาคม ถึง เดือนเมษายน ของทกุ ปปี ระชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีหลกั คือ ทานาข้าว อาชีพเสรมิ คือ ปลูกหอม ปลูกกระเทียมเลี้ยงสัตว์ ฯลฯ 5. สภาพทางภูมศิ าสตร์ 5.1 ที่ต้ังและขนาด อาเภอคอ้ วงั ตัง้ อยู่ทางทิศใต้ของจังหวดั ยโสธร หา่ งจากจังหวดั ยโสธร ประมาณ 70กิโลเมตร มีพ้ืนที่ 150 ตารางกิโลเมตรหรือเท่ากบั 93,750 ไร่ 5.2 ลักษณะภมู ปิ ระเทศ สภาพพื้นทส่ี ่วนใหญ่ของอาเภอคอ้ วงั เป็นที่ราบ ลักษณะของดินปนทราย มี ฝนตกระหวา่ งเดอื นกรกฎาคม ถงึ เดือนกนั ยายน และแหง้ แล้งมากระหว่างเดอื นมีนาคม ถงึ เดือนเมษายน ของ ทุกปี 5.3 สภาพภูมอิ ากาศ ลกั ษณะทางภมู ิอากาศ เปน็ แบบมรสมุ มี 3 ฤดู คือ - ฤดรู ้อน เริม่ ตน้ เดอื นมนี าคม ถงึ เดอื นพฤษภาคม มีอากาศร้อนจดั อุณหภูมโิ ดยเฉล่ียประมาณ 38 องศาเซลเซยี ส - ฤดฝู น เร่ิมตน้ ประมาณเดือนพฤษภาคม ถึง เดอื นตุลาคม มีปริมาณน้าฝนโดยเฉลย่ี 980 มิลลิเมตรต่อ ปี - ฤดูหนาว เริ่มตน้ ประมาณเดอื นพฤศจิกายนถึงเดือนกมุ ภาพนั ธ์ มสี ภาพอากาศหนาวจัด ลมกระโชก แรง อากาศแหง้ แล้ง 6. อาชพี ของประชากร อาชีพหลักสว่ นใหญ่ของประชากรในหมู่บ้านคอื ทาการเกษตรโดยเฉพาะการทานาปลกู ข้าวซึ่งมีมาต้งั แต่ สมัยปู่ยาตายายมีการปลูกผักผลไม้แต่ส่วนมากจะปลูกไวก้ ินและมอี าชีพรองคือการเลีย้ งสัตว์ซ่ึงก็มีอยหู่ ลายชนิด อย่างเช่น วัว ควาย หมู เป็ด ไก่ การเลี้ยงจ้ิงหรีดประชากรส่วนใหญ่ของประชากรในหมู่บ้านคือ ทาการเกษตรโดยเฉพาะการทานา ปลูกข้าวรายได้ต่อหัวเฉล่ีย 42,161 บาท/คน/ปีมีพ้ืนท่ีการเกษตรท้ังสิ้น 65,062 ไร่ ครอบครวั เกษตร จานวน 4,039 ครอบครวั สภาพการผลติ พืชเศรษฐกิจท่สี าคัญ ๆ แยกไดด้ งั นี้ 7. การเกษตร ขา้ วนาปี พื้นท่ีเพาะปลกู 62,815 ไร่ พืชฤดูแลง้ เชน่ นาปรัง หอมแดง ถวั่ ลิสง พรกิ ฟักทองฯลฯ 8. สภาพสงั คมและความเปน็ อยูข่ องประชากร สภาพสังคมโดยทั่วไปเปน็ แบบช่วยเหลือพง่ึ พาอาศัยซ่ึงกันและกัน อยู่แบบพ่แี บบน้องทุกคนในหม่บู ้านมี ความรักใคร่สามัคคีกลมเกลียวกนั ส่วนใหญ่คนเฒ่าคนแก่จะอยู่บ้านสว่ นคนในวัยหนุ่มสาวจะออกไปรับจ้างตาม ต่างจังหวัดบ้างไปเรยี นหนังสือบ้าง สาหรับในเรื่องความเป็นอยู่นั้นประชากรส่วนใหญ่ จะอยู่แบบพอมีพอกิน ชว่ ยเหลือเก้อื กลู กัน

สรปุ ผลการปฏบิ ัตงิ านประจาปงี บประมาณ 2564 ๓ 9. ประชากร ประชากรทั้งสิ้น 25,336 คน มีจานวนครัวเรือนรวมท้ังหมด 5,426 ครัวเรือน มีความหนาแน่น เฉล่ยี ตอ่ พนื้ ท่ปี ระมาณ 183 คน/ตารางกโิ ลเมตร 9.1 ตาบลฟ้าหว่ น จานวนประชากร 5,596 คน 9.2 ตาบลกดุ นา้ ใส จานวนประชากร 7,461 คน 9.3 ตาบลนา้ ออ้ ม จานวนประชากร 5,133 คน 9.4 ตาบลคอ้ วงั จานวนประชากร 7,146 คน รวม 25,336 คน 10. ศาสนาและศลิ ปวฒั นธรรม ประชากรส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 99 นับถือศาสนาพุทธ ศาสนาอ่ืนๆ มีประมาณ ร้อยละ 1 มีสถาบันหรือองค์กรทางศาสนา คือ วัด และท่ีพักสงฆ์ จานวน 34 แห่งศิลปวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียม ประเพณี ประชากรของอาเภอค้อวังส่วนใหญ่เป็นคนพื้นบ้านชาวอีสาน ภาษาพูดใช้ภาษาพื้นเมืองอีสาน มีความเป็นอยู่ท่ีเรียบง่าย สนุกสนาน ร่าเริงและมีความเช่ือในสิ่งศักด์ิสิทธิเ์ ช่นผีปู่ตา จะมีการบวงสรวงเซ่นไหว้ เปน็ ประจาทุกปี เพ่อื ให้เกิดความสุขราบร่นื ในชีวิตประเพณีที่สาคัญ มีงานประเพณี บุญเดือนหก บญุ บ้ังไฟ ของ อาเภอค้อวัง จัดงานในห้วงกลางเดือนมิถุนายนของทุกปีเพ่ือบูชาเทพยดาบัลดาลให้ฝนตกตามฤดูกาล และบุญ แข่งเรือ ในห้วงเทศกาลออกพรรษา ท่ีตาบลฟ้าห่วน นอกจากนี้ชาวบ้านยังยึดถือและปฏิบัติในจารีตประเพณี ดง้ั เดมิ ท่เี รยี กว่า“ฮตี สบิ สอง ครองสิบส่ี”

สรุปผลการปฏบิ ตั ิงานประจาปงี บประมาณ 2564 ๔ 11. ทาเนยี บผ้บู ริหาร ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอคอ้ วงั มีผบู้ ริหารสถานศึกษา ตง้ั แตเ่ รม่ิ เปดิ ทาการจนถงึ ปัจจุบนั จานวน 12 คน ดังนี้ ลาดับ ชื่อ – สกลุ ตาแหนง่ ระยะเวลาท่ี ท่ี ดารงตาแหน่ง 1 นายโม โรปริรัมย์ หวั หนา้ ศนู ย์ฯอาเภอคอ้ วัง พ.ศ.2537-พ.ศ.2539 2 นางกรรณิการ์ รอบคอบ หัวหนา้ ศูนยฯ์ อาเภอคอ้ วัง พ.ศ.2540-พ.ศ.2543 3 วา่ ท่ีร้อยตรีสานติ ย์ เจอื จนั ทร์ อาจารย์ 1ระดบั 5 รกั ษาการตาแหนง่ พ.ศ.2454 หวั หน้า ศบอ.อาเภอคอ้ วัง 4 นางสาวบญุ เลศิ นาสนิ สรอ้ ย เจา้ หน้าทห่ี อ้ งสมุด 4 รักษาการตาแหน่ง พ.ศ.2544-พ.ศ.2545 หัวหนา้ ศบอ.อาเภอค้อวัง 5 นายจกั รกรชิ บญุ เดช หัวหนา้ ศบอ.อาเภอค้อวงั พ.ศ.2545-พ.ศ.2548 6 นายเจยี ม ขันเงนิ ผู้อานวยการ ศบอ.อาเภอ กุดชุม รกั ษาการ พ.ศ.2548 7 นายเจียม ขันเงิน ผู้อานวยการ ศบอ.อาเภอ พ.ศ.2549-พ.ศ.2551 ค้อวงั ผู้อานวยการ ศบอ.อาเภอ ค้อวงั 8 วา่ ทร่ี ้อยตรีสานติ ย์ เจอื จนั ทร์ ผู้อานวยการ กศน.อาเภอ ค้อวัง พ.ศ.2551-พ.ศ.2554 9 นางกรรณกิ าร์ รอบคอบ ผูอ้ านวยการ กศน.อาเภอมหาชนะชัย รักษาการ เดือนกมุ ภาพันธ์ พ.ศ.2554 – ตาแหน่งผอู้ านวยการ กศน.อาเภอ ค้อวงั เดือนสงิ หาคม พ.ศ.2554 10 นางพิศมัย ชมภูบุตร 11 นางแสงเพญ็ โล่ห์คา ผูอ้ านวยการ กศน.อาเภอค้อวัง เดือนสงิ หาคม พ.ศ.2554 – เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2558 12 นางสาวียะ พันธุฤ์ ทธิ์ ผู้อานวยการ กศน.อาเภอค้อวัง เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2558 ผู้อานวยการ กศน.อาเภอค้อวัง 2560 -เดือนตุลาคม พ.ศ. 2560 เดอื นพฤศจกิ ายน พ.ศ.2560 จนถึงปัจจุบัน

สรุปผลการปฏิบตั งิ านประจาปงี บประมาณ 2564 ๕ ส่วนที่ ๒ สรุปผลการปฏบิ ัตงิ าน ๑. การจัดการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน ข้าพเจา้ ได้จัดการศกึ ษาขัน้ พื้นฐานทเี่ ปน็ ไปตามหลักการ จุดหมาย และมาตรฐานการเรยี นรู้ ของ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 โดยแบ่งระดบั การศึกษา และ จานวนผูเ้ รียน ออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้ 1. ระดบั ประถมศึกษา 2. ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ 3. ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย สรุปจานวนนกั ศึกษาคนพิการที่ลงทะเบยี นเรยี น ประจาภาคเรยี นท่ี 1/2564 ระดับการศึกษา จานวน ประเภทความพกิ าร (คน) ชาย หญงิ รวม ประถม ๑ - ๑ พิการทางการมองเห็น พิการทางการสอื่ ความหมาย พกิ ารทางจิตใจ พิการทางด้านสตปิ ัญญา = ๑ คน 24 6 พิการทางการมองเห็น พกิ ารทางจิตใจ =1 คน ม.ตน้ พกิ ารทางการเคล่อื นไหว = 2 คน พกิ ารทางดา้ นสติปญั ญา = 3 คน 44 8 พกิ ารทางการมองเห็น พกิ ารทางการเคลื่อนไหว = 2 คน ม.ปลาย พกิ ารทางการไดย้ ิน = 1 คน พกิ ารทางด้านสตปิ ญั ญา = 5 คน รวม 7 8 15

สรปุ ผลการปฏบิ ัตงิ านประจาปงี บประมาณ 2564 ๖ นักศึกษาปกติ ระดับการศึกษา ชาย หญิง รวม ประถม ๕ ๑๑ ๑๖ ม.ต้น 4 ๖ 1๐ ม.ปลาย รวม ๖ 8 1๔ 1๕ 2๕ 40 กศน.อาเภอคอ้ วงั จัดกิจกรรมเพอื่ ยกระดบั การศึกษาพฒั นาทกั ษะการเรยี นรขู้ องประชาชนทกุ กลุม่ เป้าหมายใหเ้ หมาะสมทกุ ช่วงวยั ดังนี้ 1) โครงการคา่ ยพฒั นาผู้เรยี นเพือ่ ยกระดับผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของนกั ศึกษา กศน. Plan : ข้ันการวางแผนทางาน ตามทีไ่ ด้ร่วมประชุมจัดทาแผนปฏิบตั ิการ กศน.อาเภอคอ้ วัง ประจาปีงบประมาณ 2564 ได้มี การกาหนดจัดโครงการ โดยมีการประชุมวางแผน ขออนุมัติโครงการ แต่งตั้งคณะกรรมการดาเนินงาน ดาเนนิ การ จดั กิจกรรม/โครงการตามทว่ี างแผน ประเมินผลและรายงานผลการจัดกิจกรรม/โครงการ ซ่ึงเหตผุ ล ความจาเป็นในการจัดโครงการนี้ เพอื่ ใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบาย สอดคลอ้ งกับนโยบาย และจดุ เนน้ การดาเนินงาน กศน. ภารกจิ ต่อเน่ือง ข้อ 1.ดา้ นการจัดการศกึ ษาและการเรยี นรู้ 1.1 การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน 1) สนับสนนุ การจดั การศกึ ษานอกระบบต้งั แต่ปฐมวัยจนจบการศึกษาข้ันพื้นฐาน โดย ดาเนินการให้ผเู้ รียนได้รบั การสนับสนุนค่าจัดซ้ือหนังสือเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียน และ คา่ จดั การเรียนการสอนอย่างทว่ั ถึงและเพยงพอ เพอ่ื เพ่มิ โอกาสในการเข้าถงึ บรกิ ารทางการศกึ ษาอย่างมคี ุณภาพ โดยไม่เสียค่าใช้จา่ ย

สรปุ ผลการปฏบิ ัติงานประจาปีงบประมาณ 2564 ๗ สอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน/ตวั บ่งช้ี มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผเู้ รยี น/ผรู้ ับบรกิ าร ตวั บง่ ช้ี 1.2 ผเู้ รียนการศึกษาขั้นพน้ื ฐานมที ักษะกระบวนการคดิ ทกั ษะการแสวงหาความรู้ เรยี นรอู้ ย่างต่อเนอื่ ง และสามารถนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นการดารงชีวติ มาตรฐานที่ 2 คณุ ภาพการจดั การศกึ ษาการให้บรกิ าร ตวั บง่ ช้ี 2.4 คุณภาพการจัดกระบวนการเรียนร้ตู ามหลักสูตรสถานศกึ ษา 1.หลกั การและเหตุผล การเสริมสร้างคุณค่าคลังปัญญา พัฒนาความรู้ คณุ ภาพผเู้ รียนเพื่อใหส้ ถานศึกษาปฏบิ ัติ ไปเป็น แนวทางเดียวกันอย่างมีประสิทธภิ าพประสิทธิผลเกิดความคมุ้ ค่า และ เกิดประโยชน์ต่อผเู้ รยี นน้ัน มีหลากหลาย วธิ ีการ และ กจิ กรรมพัฒนาวิชาการเป็น กจิ กรรมท่ี กศน.อาเภอคอ้ วงั ได้เลือกมาใชเ้ พอื่ มงุ่ หวังท่ีจะให้นักศึกษา ได้เพ่ิมเติมความรู้ พัฒนาความรู้เพื่อก้าวทันกับเทคโนโลยี การเปล่ียนแปลงทางสังคม และปรับใช้ใน ชีวิตประจาวันได้ การจัดกิจกรรมเสริมสร้างคุณค่าคลังปัญญา พัฒนาความรู้ ภาคเรียนที่ 2 / 2563 โดย ดาเนินการจานวน 5 สาระวิชา คือ สาระทักษะการเรยี นรู้ สาระความร้พู ื้นฐาน สาระการประกอบอาชีพ สาระ ทักษะการดาเนินชีวิต และ สาระการพัฒนาสังคมชุมชน เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพในการสอบให้มีค่าคะแนนใน ระดบั ที่สูงขึน้ และผ่านเกณฑท์ ีก่ าหนด 2.วตั ถปุ ระสงค์ 1.เพอื่ ใหน้ ักศกึ ษามีพัฒนาการผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นที่สูงขึน้ 2.เพ่อื ใหน้ กั ศกึ ษามพี ฒั นาการทางด้านสตปิ ัญญาร้จู ักคิดอย่างมเี หตผุ ล 3.เพ่ือให้นกั ศึกษามีทกั ษะในการแก้ปัญหาในชีวิตปิ ระจาวนั ได้ 3. เปา้ หมาย เชิงปรมิ าณ - นกั ศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน จานวน 109 คน เชิงคณุ ภาพ - นกั ศึกษาร้อยละ 80 ได้เพิ่มเติมความรู้ พัฒนาความร้เู พอ่ื ก้าวทันกับเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทาง สังคมสามารถนาไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันได้ และเพ่ิมประสทิ ธิภาพผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนให้มีค่าคะแนนใน ระดบั ท่สี ูงขนึ้ และผา่ นเกณฑ์ทีก่ าหนด 4. สถานท่ีจัดกิจกรรม กศน.ตาบลทงั้ 4 แหง่ 5. เงินงบประมาณ จากงบอดุ หนุน (ค่ากจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รยี น) จานวน 34,255.- บาท 6. วทิ ยากร ครวู ทิ ยากรรายวชิ าภาษาไทย คุณครูสมาน ศรีบุญเรือง ครูวทิ ยากรรายวิชาวิทยาศาสตร์ คุณครปู ิยรัตน์ พิมพ์สวัสดิ์ 7. เงินงบประมาณ จากงบกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพผูเ้ รยี น จานวน 34,255.- บาท

สรปุ ผลการปฏบิ ัตงิ านประจาปงี บประมาณ 2564 ๘ 8. จานวนผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการ/กิจกรรม นกั ศกึ ษาข้นั พื้นฐาน จานวน 109 คน โดยแยกเป็นระดับ ดังน้ี ระดบั ประถม จานวน 13 คน ระดับ ม.ต้น จานวน 47 คน ระดับ ม.ปลาย จานวน 49 คน วิธีการประเมนิ โครงการ ประเมนิ จากการเกบ็ แบบสอบถาม Do :ขั้นลงมอื ปฏบิ ตั ิงาน ผลการประเมินโครงการ กิจกรรมสอดคล้องกับวตั ถุประสงค์ของโครงการ ผู้รับบริการมสี ว่ นร่วมในการ แสดงความสามารถ และรว่ มจดั กจิ กรรม คิดเป็นรอ้ ยละ 92.00 และเมื่อพจิ ารณาโดยรวมท้ัง 109 ฉบบั พบวา่ ร้อยละความพงึ พอใจตอ่ โครงการอยูใ่ น ระดบั ดีมาก คดิ เปน็ รอ้ ยละ 92.00 สรุปผลการจดั กจิ กรรม กจิ กรรม งบประมาณ เปา้ หมายเชงิ ปรมิ าณ เป้าหมายเชิงคณุ ภาพ -ครูดเป็น วิทยากรให้ควา ม -งบทีไ่ ดร้ บั จดั สรร - เปา้ หมาย จานวน -นักศึกษาทเี่ ข้าร่วมกจิ กรรมมี ความพรอ้ มและนาความร้ทู ี่ โร ง เรี ย น ค้ อ วั ง วิ ท ย า ค ม เป็ น จานวน 34,255.- 109 คน ได้รับไปใชใ้ นการสอบปลาย วิทยากร รู้ในเนื้อหารายวิชาที่ บาท ภาคภาคเรยี นท่ี ๒ ปี การศึกษา ๒๕๖3 ลงทะเบียน - ดาเนนิ การใช้จา่ ย - ผลการดาเนนิ งานได้ จานวน 34,255.- จานวน ๑09 คน อยูใ่ นระดบั ดี บาท คิดเปน็ รอ้ ย คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ละ ๑๐๐ Check :ขั้นตรวจสอบผลโครงการค่ายพัฒนาผู้เรียนเพ่ือยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของ นักศึกษา กศน. √ ดมี าก คดิ เปน็ ร้อยละ............92.00............ ดี คิดเป็นร้อยละ.................................... พอใช้ คิดเปน็ ร้อยละ.................................... ต้องปรบั ปรงุ คิดเปน็ ร้อยละ.................................... ตอ้ งปรบั ปรุงเร่งดว่ น คดิ เป็นร้อยละ.................................... หมายเหตุ เกณฑ์การใหค้ ะแนน 90-100 คดิ เป็น ดีมาก

สรุปผลการปฏิบัตงิ านประจาปีงบประมาณ 2564 ๙ 70-89 คิดเปน็ ดี 50-69 คิดเปน็ พอใช้ 30-49 คิดเป็น ต้องปรบั ปรงุ 0 -29 คิดเปน็ ตอ้ งปรับปรุงเรง่ ดว่ น Action :ขน้ั การปรับปรงุ แกไ้ ข แบบสงั เกต มาก ปานกลาง น้อย ประเมินโครงการโดย แบบสมั ภาษณ์ √ แบบสอบถาม --- แบบเก็บข้อมูล ไดร้ บั ความรว่ มมอื จาก บุคลากร --- ครู กศน.อาเภอคอ้ วงั --- ผบู้ รหิ าร √- - เครอื ข่าย 100 - - นกั ศึกษา/ประชาชน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ผลสัมฤทธิ์ของโครงการ √ สูง ปานกลาง น้อย ปัญหา/อุปสรรค - ไมม่ ี แนวทางแกไ้ ข - ไม่มี ข้อเสนอแนะ ควรจดั กิจกรรมโครงการนอ้ี กี ทุกๆภาคเรยี น

สรุปผลการปฏบิ ัติงานประจาปงี บประมาณ 2564 ๑๐ 2) โครงการเย่ียมบา้ นนักศกึ ษาผ้พู ิการ ประจาภาคเรยี นท่ี 1/2564 Plan : ขนั้ การวางแผนทางาน ตามที่ได้รว่ มประชมุ จดั ทาแผนปฏิบตั ิการ กศน.อาเภอค้อวัง ประจาปีงบประมาณ 2564 ได้มี การกาหนดจัดโครงการ โดยมีการประชุมวางแผน ขออนุมัติโครงการ แต่งตั้งคณะกรรมการดาเนินงาน ดาเนนิ การ จดั กิจกรรม/โครงการตามที่วางแผน ประเมินผลและรายงานผลการจัดกิจกรรม/โครงการ ซึ่งเหตผุ ล ความจาเป็นในการจัดโครงการนี้ เพื่อใหส้ อดคล้องกบั นโยบาย สอดคลอ้ งกบั นโยบาย และจุดเน้นการดาเนินงาน กศน. ภารกจิ ตอ่ เนือ่ ง ขอ้ 1.ดา้ นการจดั การศกึ ษาและการเรียนรู้ 1.1 การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน 1) สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบตั้งแต่ปฐมวัยจนจบการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน โดย ดาเนินการให้ผู้เรียนไดร้ ับการสนบั สนนุ คา่ จัดซ้ือหนังสอื เรยี น คา่ จัดกิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รียน และ ค่าจัดการเรียนการสอนอย่างทว่ั ถึงและเพยงพอ เพือ่ เพ่มิ โอกาสในการเขา้ ถึงบรกิ ารทางการศกึ ษาอย่างมีคุณภาพ โดยไมเ่ สยี ค่าใช้จ่าย สอดคล้องกับมาตรฐาน/ตวั บง่ ชี้ มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของผู้เรียน/ผู้รบั บริการ ตัวบ่งช้ี 1.2 ผู้เรยี นการศึกษาข้ันพื้นฐานมีทกั ษะกระบวนการคิด ทกั ษะการแสวงหาความรู้ เรียนรู้อย่างต่อเนือ่ ง และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดารงชีวิต มาตรฐานที่ 2 คุณภาพการจดั การศึกษาการใหบ้ ริการ ตัวบง่ ช้ี 2.4 คณุ ภาพการจัดกระบวนการเรยี นร้ตู ามหลกั สตู รสถานศึกษา 1.หลักการและเหตผุ ล ปัจจุบันนี้ ปัญหาด้านเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะวิกฤติ ทาให้มีผลกระทบต่อบุคคลทั่วไปรวมท้ังคน พิการ ท่ีสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และคนพิการที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงเป็นภาวะต่อ ครอบครวั ท่ตี อ้ งดแู ลดา้ นตา่ งๆ ให้กับคนพกิ าร ส่วนหนงึ่ ผู้ดแู ลคนพิการยงั ขาดความรู้เขา้ ใจในการดูสขุ ภาพ ไม่ว่า จะเป็นดา้ นร่างกาย ด้านจิตใจ ทาให้คนพกิ ารบางคนมคี วามรู้สึกทอ้ แท้เหนอ่ื ยหน่ายต่อชีวติ ขาดกาลังใจในการ ดารงชวี ติ บางคนถึงกบั ไม่อยากมชี วี ติ อยู่ กศน.อาเภอค้อวงั ได้ดาเนนิ จัดทาโครงการดูแลช่วยเหลือคนพิการ และ ตระหนักถึงความจาเป็นท่ีต้องดาเนินการให้ความช่วยเหลือคนพิการอย่างเร่งด่วนภายใต้สภาวการณ์ที่ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และหลากหลายในปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมให้คนพิการเป็นคนดี มีความสุข มี ความสามารถทางสติปัญญา ควบคู่ ไปด้วยคุณธรรมจริยธรรม และสามารถดารงตนอยู่ในสังคมได้อย่างมี ความสขุ ตลอดจนส่งเสรมิ ครู ผู้ปกครอง และเพื่อนคนพิการด้วยกัน ใหม้ ศี ักยภาพในการร่วมกนั ดูแลช่วยเหลือ คนพกิ ารอยา่ งเปน็ ระบบ

สรุปผลการปฏบิ ตั งิ านประจาปีงบประมาณ 2564 ๑๑ ด้วยเหตุผลดังกล่าว จาเป็นท่ี กศน.อาเภอค้อวัง ควรเข้ามามีส่วนในการดูแลสร้างความเช่ือม่ัน สร้าง ขวญั กาลังใจ โดยการให้ความรู้ ทาความเข้าใจกบั ผู้ดูแลใหม้ ากข้นึ เพอ่ื ใหค้ นพิการไมร่ ู้สึกโดดเดยี ว และมีกาลงั ใจ พร้อมท่ีจะต่อสู้กับชวี ิตด้วยสุขภาพจิตท่ีดีขึ้น กศน.อาเภอค้อวัง จึงไดจ้ ัดทาโครงการออกเย่ยี มบ้านนักศึกษาคน พิการและผดู้ ้อยโอกาสข้นึ 2.วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อให้คนพิการได้รับการดูแลช่วยเหลือและส่งเสริมพัฒนาเต็มตามศักยภาพเป็นคนท่ีสมบูรณ์ท้ังทาง รา่ งกาย อารมณ์ สังคม และสติปญั ญา 2. เพ่ือจดั และพัฒนาระบบดแู ลช่วยเหลอื คนพิการให้มคี ณุ ภาพและทั่วถงึ 3. เพ่ือสร้างสัมพันธภาพความเข้าใจและส่งเสริมให้ผู้มีส่วนเก่ียวข้องมีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือคน พิการ 3. เปา้ หมาย เปา้ หมายเชงิ ปริมาณ นกั ศกึ ษาทล่ี งทะเบียนเรยี น ภาคเรยี นที่ 1/2564 จานวน 30 คน เปา้ หมายเชิงคณุ ภาพ 1. คนพิการไดร้ บั การดแู ลช่วยเหลอื และสง่ เสรมิ พัฒนาเต็มตามศกั ยภาพเปน็ คนทส่ี มบรู ณท์ ั้งทาง รา่ งกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา 2. จัดและพฒั นาระบบดแู ลช่วยเหลือคนพิการใหม้ คี ุณภาพและทัว่ ถึง 3. สร้างสัมพันธภาพความเข้าใจและส่งเสริมให้ผู้มีส่วนเก่ียวข้องมีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือคน พิการ 4. สถานทีจ่ ดั กจิ กรรม บา้ นนักศึกษาผพู้ ิการ กศน.อาเภอค้อวงั วิธกี ารประเมนิ โครงการ ประเมินจากการเกบ็ แบบสอบถาม Do :ขั้นลงมอื ปฏบิ ัตงิ าน ผลการประเมนิ โครงการ กจิ กรรมสอดคล้องกบั วัตถุประสงค์ของโครงการ ผรู้ บั บรกิ ารมีส่วนร่วมในการ แสดงความสามารถ และร่วมจดั กจิ กรรม คิดเปน็ ร้อยละ 92.00 และเมอ่ื พิจารณาโดยรวมทัง้ 30 ฉบบั พบวา่ รอ้ ยละความพงึ พอใจต่อโครงการอยู่ใน ระดบั ดีมาก คิดเปน็ ร้อยละ 92.00

สรุปผลการปฏิบตั งิ านประจาปงี บประมาณ 2564 ๑๒ สรปุ ผลการจัดกิจกรรม กจิ กรรม งบประมาณ เปา้ หมายเชิงปริมาณ เปา้ หมายเชิงคุณภาพ -ครูผู้สอนคนพิการดาเนินการ -งบสอื่ ส่งิ อานวย - เปา้ หมาย จานวน -นักศึกษาท่เี ข้ารว่ ม 30คน กิจกรรมมีความพร้อม เย่ียมบ้านนักศึกษาผู้พิการ ได้ ความสะดวก - ผลการดาเนินงานได้ และนาความรทู้ ี่ไดร้ ับไปป จานวน 30คน ใชใ้ นการเรยี นได้ แจกส่ือการเรียนการสอน และ นกั ศึกษาผพู้ กิ าร คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ท า ก า ร ส อ น แ บ บ เรี ย น แบบฝึกหัด หลังจาก นั้น ได้ ติ ด ต า ม ก า ร ท า ง า น ข อ ง นักศึกษาอยา่ งตอ่ เนื่อง Check :ข้ันตรวจสอบผลโครงการค่ายพัฒนาผู้เรียนเพ่ือยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของ นกั ศึกษา กศน. √ ดมี าก คดิ เปน็ ร้อยละ............92.00............ ดี คิดเป็นร้อยละ.................................... พอใช้ คิดเป็นรอ้ ยละ.................................... ต้องปรบั ปรงุ คิดเป็นร้อยละ.................................... ต้องปรบั ปรงุ เร่งดว่ น คิดเปน็ รอ้ ยละ.................................... หมายเหตุ เกณฑ์การให้คะแนน 90-100 คิดเป็น ดีมาก คิดเป็น ดี 70-89 คิดเป็น พอใช้ 50-69 คดิ เป็น ต้องปรับปรุง 30-49 คิดเป็น ตอ้ งปรบั ปรุงเร่งด่วน 0 -29 Action :ขน้ั การปรบั ปรุงแก้ไข ประเมนิ โครงการโดย แบบสงั เกต แบบสมั ภาษณ์ √ แบบสอบถาม แบบเกบ็ ขอ้ มูล บุคลากร มาก ปานกลาง น้อย ได้รบั ความร่วมมือจาก ครู กศน.อาเภอค้อวัง ผบู้ ริหาร --- เครอื ข่าย นกั ศกึ ษา/ประชาชน --- คดิ เปน็ รอ้ ยละ --- √- - 100 - -

สรุปผลการปฏบิ ัติงานประจาปงี บประมาณ 2564 ๑๓ ผลสัมฤทธข์ิ องโครงการ √ สงู ปานกลาง นอ้ ย ปัญหา/อปุ สรรค - ไม่มี แนวทางแกไ้ ข - ไมม่ ี

สรุปผลการปฏบิ ตั ิงานประจาปงี บประมาณ 2564 ๑๔ ด้านที่ 2 งานการศกึ ษาต่อเนือ่ ง ดา้ นที่ 2 งานการศกึ ษาต่อเน่อื ง 1. งานการศกึ ษาเพื่อพฒั นาอาชีพ 1.1 โครงการ กศน.เพื่อประชาชน กลมุ่ สนใจวิชา ปลกู พชื สมนุ ไพรสู้โควิด หลกั สูตร 6 ชว่ั โมง Plan : ขัน้ การวางแผนทางาน ตามที่ได้ร่วมประชุมจัดทาแผนปฏิบัติการ กศน.อาเภอค้อวัง ประจาปีงบประมาณ 2564 ได้มีการ กาหนดจัดโครงการ โดยมกี ารประชุมวางแผน ขออนมุ ตั ิโครงการ แต่งต้ังคณะกรรมการดาเนนิ งาน ดาเนนิ การ จัดกิจกรรม/โครงการตามทีว่ างแผน และประเมินผลและรายงานผลการจดั กิจกรรม/โครงการ ซ่ึงเหตุผลความ จาเป็นในการจัดโครงการน้ี เพ่ือให้สอดคล้องกับนโยบายและจุดเน้นการดาเนินงาน สานักงาน กศน. ประจาปี งบประมาณ 2564 ยุทธศาสตร์ 2. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 2.1. เร่งปรับ หลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพ กคน. เพื่อยกระดับทักษะด้านอาชีพของประชาชนให้เป็นอาชีพที่รองรับ อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (First S-curve และ New S-curve) โดยบูรณาการความร่วมมือในการ พฒั นาและเสรมิ ทกั ษะใหม่ดา้ นอาชีพ (Upskill&Reskill) รวมถึงมุ่งเนน้ สร้างโอกาสในการสร้างงาน สร้างรายได้ และตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงานทั้งภาคอุตสาหกรรมและการบริการ โดยเฉพาะในพ้ืนที่เขต ระเบียงเศรษฐกิจ และเขตพัฒนาพิเศษตามภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศสาหรับพ้ืนที่ปกติให้พัฒนาอาชีพท่ีเน้น การต่อยอดศักยภาพและตามบริบทของพื้นท่ี2.3. พัฒนาและส่งเสริมประชาชนเพื่อต่อยอดการผลิตและ จาหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ออนไลน์1.)เร่งจัดต้ังศูนย์ให้คาปรึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ Brand กศน. เพื่อ ยกระดับคุณภาพของสินค้าและผลิตภัณฑ์ การบรหิ ารจัดการที่ครบวงจร (การผลิต การตลาด การส่งออก และ สร้างช่องทางจาหน่าย) รวมท้ังส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในการเผยแพร่และจาหน่าย ผลิตภัณฑ์ 2.)พัฒนาและคัดเลือกสุดยอดสินค้าและผลิตภัณฑ์ กคน. ในแต่ละจังหวัด พร้อมท้ังประสานความ ร่วมมือกับสถานีบริการน้ามันในการเป็นช่องทางการจาหน่ายสุดยอดสินค้าและผลิตภัณฑ์ กศน.ให้กว้างขวาง ยิง่ ขนึ้ 1.หลักการและเหตผุ ล สานักงาน กศน. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการส่งเสริม สนับสนุน และประสานความร่วมมือ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ไดจ้ ดั ทาเอกสาร นโยบายและจุดเน้นการดาเนินงาน สานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ขึ้นตามบทบัญญตั ิแห่งกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริม การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อเป็นกรอบทิศทางและเครื่องมือในการดาเนินงาน ตามบทบาทหน้าท่ีในการ ส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย ในอันที่จะเพ่ิมและ กระจายโอกาสทางการศึกษาให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับการศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย

สรุปผลการปฏบิ ัตงิ านประจาปีงบประมาณ 2564 ๑๕ อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ ภายใต้กรอบทิศทางการพัฒนา ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 – 2580) แผนการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2560 – 2579 นโยบาย แนวทางหลักในการดาเนินงาน และโครงการสาคัญของ กระทรวงศกึ ษาธิการ สืบเน่ืองจากรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร มอบหมายนโยบายการจดั การศึกษาและ ภารกิจเร่งด่วน เพื่อขับเคล่ือนการจัดการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะทางอาชีพ ส่งเสริมการจัดการศึกษาท่ี เน้นทักษะอาชีพของผู้เรียน เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างอาชีพและรายได้ที่เหมาะสม เพิ่มขีดความสามารถใน การแขง่ ขนั ของประเทศ และมอบให้สานักงาน กศน. ดาเนินงานส่งเสริมการจัดการศึกษาพัฒนาอาชพี เพื่อการมี งานทา re-skill up-skill สาหรับประชาชนที่ได้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์แพร่เชื้อระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 (COVID) ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอค้อวัง ได้เล็งเห็น ความสาคัญในเร่ืองนี้จึงมีการจัดโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน “ โครงการ กศน.เพื่อประชาชน (กลุ่มสนใจ) ” ให้กับประชาชนในพื้นที่ ที่ว่างงาน หรือมีอาชีพอยู่แล้วและต้องการต่อยอดอาชีพเดิม หรือประชาชนที่มี ผลกระทบทางเศรษฐกจิ จากโรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา่ 2019 (COVID) ตอ้ งการมรี ายไดเ้ พิ่ม ซ่ึงจะทาให้ประชาชน มรี ายไดเ้ พ่มิ ขนึ้ และอยูใ่ นสังคมอย่างมคี วามสุข 2.วตั ถุประสงค์ 1. มีความร้แู ละทกั ษะในการประกอบอาชพี สามารถสร้างรายได้ทม่ี ่นั คง ม่งั คั่ง 2. ตัดสินใจประกอบอาชีพให้สอดคล้องกับศักยภาพของตนเอง ชุมชน สังคม และส่ิงแวดล้อมอย่างมี คุณธรรม จรยิ ธรรมและมเี จตคติที่ดีในการประกอบอาชพี 3. ประชาชนในพ้ืนที่ท่ีวา่ งงานมอี าชพี เสริมและยังต่อยอดอาชีพเดมิ มรี ายไดเ้ พิ่มขึ้น 4. มีโครงการประกอบอาชีพเพอ่ื ใช้เปน็ แนวทางในการพัฒนาอาชีพของตนเอง 3.เป้าหมาย เชงิ ปริมาณ ประชาชนท่วั ไปในเขตตาบลค้อวัง จานวน 6 คน เชิงคุณภาพ ประชาชนท่ัวไปในเขตตาบลค้อวังร้อยละ 90 มีความรู้และทักษะในประกอบอาชีพ ทีส่ อดคล้องกบั ศักยภาพของตนเอง ชุมชน สงั คม และสิ่งแวดล้อมอยา่ งมี คณุ ธรรม จรยิ ธรรม 4. สถานที่จัดกิจกรรม ณ ท่ีทาการผู้ใหญบ่ า้ น บ้านบกนอ้ ย หมู่ 6 ตาบลกุดนา้ ใส อาเภอคอ้ วัง จังหวดั ยโสธร 5. เงินงบประมาณ 1,838 บาท 6.ชอ่ื วทิ ยากร นายจนั ตัย อินทะนิล เปน็ วทิ ยากรให้ความรู้ 7. ระยะเวลาในการจัดกิจกรรม วนั ที่ 17 - 18 มิ.ย. 2564 8. ดชั นีชีว้ ดั ผลสาเรจ็ ของโครงการ ตัวชี้วัดผลผลิต (Output) ผู้เข้าร่วมโครงการ จานวน 6 คนมีความรู้และทักษะในประกอบอาชีพ ที่3 สอดคลอ้ งกับศักยภาพของตนเอง ชุมชน สงั คม และส่งิ แวดล้อมอยา่ งมี คุณธรรม จรยิ ธรรม ตัวชี้วัดผลลัพธ์ (Outcome) ผู้เข้าร่วมโครงการความรู้และทักษะในประกอบอาชีพ ท่ีสอดคล้องกับ ศกั ยภาพของตนเอง ชุมชน สงั คม และส่ิงแวดล้อมอย่างมี คุณธรรม จริยธรรม

สรุปผลการปฏบิ ตั ิงานประจาปงี บประมาณ 2564 ๑๖ Do : ขั้นลงมอื ปฏบิ ัตงิ าน โครงการ กศน. เพ่อื ประชาชน “แบบกลมุ่ สนใจ” วิชา ปลกู พชื สมนุ ไพรสโู้ ควดิ หลักสตู ร 6 ชวั่ โมง โดยมวี ทิ ยากรคือ นางสาวพิศมยั คาเอี่ยม เปน็ วิทยากรให้ความรู้ กลมุ่ เป้าหมายทงั้ 6 คน สถานที่จดั ณ ทา การผู้ใหญ่บ้าน บา้ นบกนอ้ ย หมู่ 6 ตาบลกุดน้าใส อาเภอค้อวัง จงั หวดั ยโสธร โดยการจดั กจิ กรรมดังน้ี 1. ความสาคัญในการประกอบอาชพี - บรรยายให้ความรเู้ กย่ี วกบั การปลกู พชื สมนุ ไพร - สาธติ วธิ ที า เพือ่ เป็นตัวอย่างแกผ่ ูเ้ รียน - ฝกึ ปฏิบตั ิ - การทาบัญชีรายรบั รายจา่ ย 2. การเตรยี มวสั ดอุ ุปกรณ์ - พชื ในการปลูก กระชาย ขงิ และฟ้าทะลายโจร - ถุงปลกู - ดนิ ปลกู - ปยุ๋ ขีว้ ัว - บัวรดนา้ 3. วิธกี ารทา การปลูกกระชาย 1.การเพาะปลกู – ปลกู ในดนิ ร่วนท่อี ุดมสมบรู ณส์ ูง ท่มี ีร่มเงาราไรโดยมากจะเปน็ การปลูกในทด่ี อน หรือปลูก กลางแจง้ ในเขตพน้ื ทล่ี าดเอยี งทีม่ คี วามช้นื สูง โดยไถพรวนและขดุ หลุมปลูกเป็นแถว ระยะระหวา่ งแถวและต้น 30 ซม. ส่วนการปลูกเปน็ การคา้ จะปลูกกลางแจง้ ในเขตชลประทานหรอื สามารถให้นา้ ได้ ไถพรวนดนิ และยก รอ่ งปลูกกวา้ ง 80 – 120 ซม. ใช้ระยะปลกู ระหวา่ งแถวและต้น 25 – 30 ซม. ขึ้นอย่กู ับความอดุ มสมบูรณ์ ของดนิ ปลูกแล้วใชฟ้ างคลุมรักษาความชนื้ ของดิน รดนา้ ทุก 2 – 3 วัน/ครงั้ กาจดั วัชพืชให้แปลงสะอาด และใส่ ป๋ยุ เคมสี ูตรเสมอ อัตรา 30 กก./ไร่ เม่อื อายปุ ระมาณ 3 เดือนหลังปลกู และเกบ็ เกีย่ วเมือ่ อายุ 8 เดือนขึ้นไป ถา้ ต้องการขยายชว่ งเวลาเก็บเก่ยี วให้นานขึ้นหรอื ไวท้ าพันธจ์ุ ะตอ้ งคลมุ ฟางและรดนา้ เป็นคร้ังคราวเพ่อื รกั ษา ความชืน้ ของดนิ ใหเ้ หง้าและรากกระชายไมฝ่ ่อในช่วงแลง้ การปลกู ขิง 1.การรวบรวมแม่ขงิ เอาขงิ ทีเ่ ก็บไว้ทาพันธุ์ ซ่งึ เปน็ หวั ขิงแกม่ าทาความสะอาด เอาเปลือกแหง้ ๆ ออกในกรณที ่ี ตอ้ งซื้อหัวพันธุข์ งิ จะใช้ประมาณ 1,200 กิโลกรัมต่อไร่ 2.การชาขงิ ถ้าเอาแงง่ ขิงพันธทุ์ ีแ่ ก้นนั้ ไปเพาะในแปลงเลย จะใชเ้ วลาหลายวนั กวา่ จะงอก ซง่ึ จะเสียเวลานาน มากและอาจตอ้ งปลกู ซอ่ มภายหลงั ดงั น้นั จึงนิยมชาขิงพนั ธ์ุเสียก่อน วิธชี าโดยเอาขงิ มาวางซ้อนๆ กนั เรยี งใหม้ ี อากาศถา่ ยเทได้สะดวก โดยเฉพาะดา้ นใตก้ องอยา่ ให้อบั ทึบ แล้วจึงเอาฟางหรือกระสอบคลมุ ทับไว้ เอานา้ พรม ให้มีความชน้ื อยู่เสมอ ทิ้งไวป้ ระมาณ 1 เดือนจะมีหนอ่ งอกออกมา 3.การตดั แบง่ ตัดแบ่งแง่งขงิ ให้แต่ละสว่ นมหี น่อติดมาอยา่ งน้อี ยา่ งนอ้ ย 1 หน่อ ทัง้ น้ี เพอื่ เป็นการประหยดั แม่ พันธุ์ เพือ่ ใหไ้ ดแ้ ม่ขงิ มากขึน้ การตัดแบง่ น้อี าจทาไดก้ อ่ นนาไปชาแตแ่ ง่งจงึ อาจเน่าไดง้ า่ ย หากเช้อื โรคเขา้ ทาง แผลรอยตดั

สรุปผลการปฏบิ ตั ิงานประจาปงี บประมาณ 2564 ๑๗ 4.ปลูกในแปลง แปลงปลกู นัน้ ควรทาเป็นลอนๆ ลูกฟูก ขนาดห่างกันประมาณ 40 เซนตเิ มตร แลว้ นาขิงลงปลูก ในร่องระหวา่ งลอน โดยให้ระยะระหว่างตน้ หา่ งกนั 8-10 เซนติเมตร แล้วกลบดนิ บางๆ ถ้ากลบหนาหน่อจะแทง ออกมาลาบาก หลงั จากนัน้ รดนา้ ใหช้ ่มุ แลว้ หาวัสดุคลมุ ดิน เช่น ขยามะพรา้ ว หรอื ซงั ขา้ วโพดคลุมดินจะทาให้ หน่อขงิ ทงี่ อกออกมางามดี เพราะหากไมท่ าวสั ดุคลมุ ดิน หนอ่ ขิงที่ออกมาโดนแสงแดดมากแล้ว หน่ออ่อนจะ แคระแกรน็ 5.การดแู ลรักษา ในระยะแรกควรรดนา้ ทกุ วัน และเมอื่ ต้นขงิ โตได้ประมาณ 1 นวิ้ เศษๆ จะใหน้ ้า 2-3 วนั /ครัง้ ระยะนข้ี ิงจะอายไุ ดป้ ระมาณ 2 เดอื น ควรจะทาการพูนโคน คือเอาดนิ บนลกู ฟูกลงมากลบขิง จะทาให้แงง่ ขิงขาว อวบในการพูนโคน ควรทาโดยความระมัดระวงั อยา่ ใหเ้ ครือ่ งมอื โดนแง่งขงิ ควรใช้เครือ่ งมอื ลกั ษณะคลา้ ยพาย โกยดนิ ลงกลบ หา้ มใช้จอบหรือเสียม สรุปผลการจัดกจิ กรรม งบประมาณ เปา้ หมายเชิงปรมิ าณ เปา้ หมายเชงิ คุณภาพ กจิ กรรม -งบทไ่ี ดร้ บั จดั สรร - เป้าหมาย - ประชาชนท่ัวไปในเขต จานวน 1,838 จานวน 6 คน อาเภอคอ้ วัง - บรรยายให้ความรเู้ ก่ียวกับการ บาท - ผลการดาเนินงานได้ - ประชาชนท่วั ไปในเขต ปลูกพืชสมุนไพรสู้โควิด - ดาเนินการใช้จา่ ย จานวน 6 คน ตาบลคอ้ วัง มคี วามรู้และ - สาธิตวธิ ีทา เพ่ือเป็นตัวอย่าง จานวน 1,838 คดิ เปน็ ร้อยละ100 ทักษะในประกอบอาชพี แก่ผู้เรียน บาท คดิ เปน็ รอ้ ย ท่สี อดคล้องกับศักยภาพ - ฝกึ ปฏิบัติ ละ 100 ของตนเอง ชมุ ชน สังคม - การทาบัญชีรายรบั รายจ่าย และส่ิงแวดล้อมอยา่ งมี คุณธรรม จรยิ ธรรม คดิ เป็นรอ้ ยละ 90 อยใู่ น ระดับดมี าก โครงการ กศน. เพอ่ื ประชาชน “แบบกลุ่มสนใจ” วชิ า ปลูกพชื สมนุ ไพรสโู้ ควดิ หลกั สูตร 6 ชวั่ โมง กลมุ่ เป้าหมายเป็นประชาชนท่ัวไป ตาบลค้อวงั จานวน 6 คน ได้รับการฝกึ อบรมจากวิทยากรผูม้ คี วามรู้ ความสามารถในดา้ นการปลกู พืชสมุนไพรสโู้ ควดิ คอื นางสาวพศิ มัย คาเอี่ยม จัดการเรียนการสอน 2 วนั วัน ละ 3 ชั่วโมง จัดในวันท่ี 17 - 18 เดือน มิถุนายน 2564 จดั กจิ กรรม ณ ที่ทาการผใู้ หญบ่ ้าน บ้านบกนอ้ ย หมู่ 6 ตาบลกุดน้าใส อาเภอคอ้ วงั จังหวดั ยโสธร กลุ่มเปา้ หมายมีความพงึ่ พอใจในระดับ ดมี าก คดิ เป็นร้อยละ 92

สรปุ ผลการปฏบิ ตั งิ านประจาปีงบประมาณ 2564 ๑๘ Check : ขน้ั ตรวจสอบผลโครงการ กศน.เพ่ือประชาชน กลุ่มสนใจวิชา ปลกู พชื สมนุ ไพรสู้โควิด หลักสูตร 6 ชว่ั โมง ดีมาก คิดเป็นรอ้ ยละ............92............ √ ดี คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................................... คิดเป็นรอ้ ยละ.................................... พอใช้ คิดเปน็ รอ้ ยละ.................................... ตอ้ งปรับปรุง คิดเปน็ รอ้ ยละ.................................... ต้องปรบั ปรงุ เร่งดว่ น หมายเหตุ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 90-100 คิดเป็น ดมี าก 70-89 คิดเปน็ ดี 50-69 คดิ เปน็ พอใช้ 30-49 คิดเป็น ตอ้ งปรับปรงุ 0 -29 คิดเปน็ ตอ้ งปรบั ปรุงเรง่ ดว่ น Action : ขัน้ การปรับปรุงแก้ไข ประเมินโครงการโดย แบบสงั เกต แบบสมั ภาษณ์ √ แบบสอบถาม แบบเกบ็ ขอ้ มูล บคุ ลากร มาก ปานกลาง นอ้ ย ไดร้ บั ความร่วมมือจาก ครู กศน.อาเภอคอ้ วงั ผบู้ ริหาร --- เครอื ข่าย นกั ศึกษา/ประชาชน --- คิดเป็นร้อยละ --- √- - 100 - - ผลสมั ฤทธิ์ของโครงการ √ สูง ปานกลาง น้อย ปญั หา/อปุ สรรค - ไม่มี

สรุปผลการปฏบิ ัตงิ านประจาปงี บประมาณ 2564 ๑๙ ด้านที่ 3 งานการศกึ ษาตามอธั ยาศัย 1.กจิ กรรมหอ้ งสมดุ ประชาชน 1.1 โครงการหอ้ งสมดุ เคล่อื นทีส่ าหรบั ชาวตลาด ประจาปงี บประมาณ2564 วัตถุประสงค์ เพ่ือพฒั นาผ้เู รียนใหม้ ีทักษะการอ่าน การคดิ และการวเิ คราะห์ พัฒนาผเู้ รียนให้มีทกั ษะ การแสวงหาความรู้ รกั การเรยี นรู้ และพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเนื่อง และเพือ่ เฉลมิ พระเกียรติ สมเดจ็ พระเทพ รตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรม ระหวา่ งวันท่ี 1 เมษายน 2563 - 30 กันยายน 2564 สถานทจ่ี ดั กิจกรรม ตลาดสดเทศบาลค้อวัง วทิ ยากร - เงนิ งบประมาณ - จานวนเป้าหมาย ประชาชนทัว่ ไปจานวน 1,000 คน จานวนผ้เู ข้าร่วมโครงการ/กิจกรรม ท้งั หมด 2,536 คน วิธกี ารประเมนิ โครงการ ประเมินจากการเกบ็ แบบสอบถาม ผลการประเมินโครงการ นกั ศึกษา กศน.อาเภอค้อวงั สามารถอา่ น คิดและวิเคราะห์ได้ และนักศึกษา กศน.อาเภอคอ้ วัง สามารถแสวงหาความรู้ รักการเรยี นรู้ และพฒั นาตนเองไดอ้ ยา่ งต่อเนือ่ ง คดิ เป็นร้อยละ 95.00 อย่ใู นระดบั ดมี าก

สรุปผลการปฏบิ ัตงิ านประจาปีงบประมาณ 2564 ๒๐ 2. กิจกรรมส่งเสรมิ การอา่ น 2.1 โครงการสง่ เสรมิ การอ่านบา้ นหนงั สอื ชมุ ชน วัตถปุ ระสงค์ เพื่อกระตนุ้ ให้เด็กนกั เรยี น เยาวชน นกั ศกึ ษา และประชาชนท่ัวไปในชมุ ชนมนี ิสยั รัก การอา่ น รกั การเรยี นรู้ และเพอื่ สง่ เสริมและสนับสนนุ การเรียนรู้ ผา่ นกิจกรรมในรปู แบบตา่ ง ๆ ตามความ เหมาะสม ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรม ระหว่างวนั ท่ี 1 เมษายน 2564- 30 กันยายน 2564 สถานท่จี ัดกิจกรรม บา้ นหนงั สือชมุ ชน จานวน 8 จดุ วิทยากร - เงินงบประมาณ - จานวนเปา้ หมาย ประชาชนทวั่ ไปจานวน 1,000 คน จานวนผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ/กจิ กรรม ทง้ั หมด 1,352 คน วธิ ีการประเมินโครงการ ประเมนิ จากการเกบ็ แบบสอบถาม ผลการประเมินโครงการเดก็ เยาวชนและประชาชนท่ัวไป จานวน 1,352 คน ได้รบั การส่งเสริมและ พฒั นาศักยภาพทัง้ ด้านรา่ งกาย จิตใจ สตปิ ัญญา อารมณ์ และสงั คม เหน็ ความสาคัญในคุณคา่ ของตนเองและมี จิตสานกึ ในสิทธหิ น้าทคี่ วามรับผิดชอบ ระเบยี บวินยั ที่มตี ่อตนเองและสงั คม มีความยดึ มน่ั ในสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษตั รยิ ์ ได้ร่วมกิจกรรมการแสดงออกทีก่ ่อใหเ้ กิดความภาคภมู ิใจและความเชอื่ ม่ันในตนเอง มีความคิดสรา้ งสรรค์ มคี วามขยนั หมัน่ ศกึ ษา หาความรู้ รจู้ กั ใช้เวลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ คิดเปน็ รอ้ ยละ94.40 อยูใ่ นระดับดีมาก

สรปุ ผลการปฏบิ ัติงานประจาปงี บประมาณ 2564 ๒๑ 4. งานอนื่ ๆร่วมกบั ภาคเี ครือขา่ ย 1. โครงการคณุ ธรรม จริยธรรม นาสขุ สผู่ สู้ งู วยั ประจาปี 2564 วัตถุประสงค์ ยึดหลักการดารงชีวิตในด้านคุณธรรม จริยธรรม และสามารถ ดารงชวี ิตอยกู่ ับชมุ ชนไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรม 1 วัน ในวันที่ 10 กมุ ภาพันธ์ 2564 สถานทจี่ ัดกิจกรรม วัดสว่าง ตาบลกดุ น้าใส วดั บ้านเหล่านอ้ ย ตาบลคอ้ วงั วดั ฟา้ ห่วน ใต้ ตาบลฟา้ หว่ น วัดศริ ิมงั คลาราม ตาบลน้าออ้ ม วิทยากร - พระวิทยากรพระครูปริยตั คิ ณาภิรกั ษ์วดั สว่าง ตาบลกุดนา้ ใส - พระวทิ ยากรพระครวู ิสนธธ์ รรมกิจวัดบ้านเหลา่ น้อย - พระวิทยากระพระอธกิ ารสกิฏวสิ ิฏโฐวดั ฟา้ หว่ นใต้ ตาบลฟา้ ห่วน - พระวทิ ยากรพระอธกิ ารประเสริฐ ชุตนิ ธโรวัดศิรมิ งั คลาราม ตาบลนา้ ออ้ ม เงนิ งบประมาณ งบรายจา่ ยอน่ื ค่าใช้จ่ายโครงการจดั และส่งเสรมิ การจัดการศึกษา ตลอดชีวิต เพอื่ คงพัฒนาการทางกายและจิตและสมองของผูส้ ูงอายุ จานวน 7,000 บาท จานวนเปา้ หมาย ประชาชนทัว่ ไปจานวน 100คน จานวนผ้เู ขา้ ร่วมโครงการ/กจิ กรรม ทง้ั หมด 100คน วธิ กี ารประเมนิ โครงการ ประเมนิ จากการเก็บแบบสอบถาม ผลการประเมนิ โครงการ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายมีสว่ นรว่ มในการแสดง ความสามารถ และร่วมจัดกจิ กรรม คดิ เปน็ ร้อยละ 92.00 และเม่อื พิจารณาโดยรวมทัง้ 100 ฉบับ พบว่า รอ้ ยละความพงึ พอใจตอ่ โครงการอย่ใู น ระดบั ดมี าก คิดเปน็ รอ้ ยละ 92.00 ตาบลค้อวัง

สรปุ ผลการปฏบิ ัติงานประจาปงี บประมาณ 2564 ๒๒ ส่วนท่ี 3 คุณลกั ษณะในการปฏิบัตงิ าน

สรปุ ผลการปฏิบตั ิงานประจาปงี บประมาณ 2564 ๒๓ 2.1 การม่งุ ผลสัมฤทธข์ิ องงาน ข้าพเจา้ มีความม่งุ มนั่ จะปฏิบตั ริ าชการให้ดตี ามเกณฑ์มาตรฐานทม่ี อี ยู่ และมีการสรา้ งสรรค์ พฒั นาผลงานหรือกระบวนการปฏบิ ัตงิ านตามเป้าหมายท่กี าหนดไว้ ดังต่อไปน้ี 1. ได้รบั รู้ ทาความเขา้ ใจ และใหค้ วามรว่ มมอื ในการดาเนนิ งานตามนโยบายสาคัญของ องคก์ ร อนั ประกอบดว้ ย การประกนั คณุ ภาพการศึกษาทง้ั ภายในและภายนอก การจัดกระบวนการเรยี นรู้ การจดั การความรู้ การทากิจกรรม 5 ส. และนานโยบายดงั กล่าวสู่การปฏิบัติงานที่รบั ผดิ ชอบของตนเองใหไ้ ด้ ตามมาตรฐานท้งั ดา้ นประสิทธภิ าพและประสทิ ธผิ ล 2. ไดป้ ฏิบตั งิ านท่ีรบั ผิดชอบใหบ้ รรลุเป้าหมายตามกรอบของแผนงาน ตามกระบวนการ ขนั้ ตอน และวิธีการของแผนเป็นเคร่ืองมือสาคัญในการบริหารจดั การ 3. มกี ารวางแผนพัฒนางาน และพัฒนาตนให้สอดคล้องกับเป้าหมายองคก์ รอย่างเป็นระบบ 4. พฒั นาตนเองใหม้ คี วามสามารถตามมาตรฐานสากลด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การวิจยั บรกิ ารวิชาการ การใชภ้ าษา เทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงร่วมสืบสานสง่ เสริม อนุรกั ษ์ศิลปวฒั นธรรม ไทยและวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ

สรปุ ผลการปฏิบัติงานประจาปีงบประมาณ 2564 ๒๔ 2.2 การบริการทด่ี ี ขา้ พเจา้ มีความตง้ั ใจและความพยายามในการใหบ้ ริการทด่ี ี เพอื่ ตอบสนองความตอ้ งการของ ผ้บู ังคบั บญั ชา เพือ่ นร่วมงาน นกั ศกึ ษา ตลอดจนบคุ ลากรของภาครฐั อืน่ ๆ ทเี่ กี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้ 1. มีพฤตกิ รรมแสดงออกถึงความรัก ความโอบอ้อมอารี ความเมตตา กรุณา ทัง้ ความคิด คาพดู และการปฏิบัติตอ่ ผ้บู ังคบั บัญชา ตลอดจนเพื่อนรว่ มงานอย่างเสมอภาค 2. มีการแสดงวฒุ ภิ าวะทางอารมณโ์ ดยสามารถจัดการและควบคุมอารมณไ์ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม รวมถงึ เปน็ ที่พ่ึงทางอารมณต์ ่อตนเองและผอู้ ื่นได้ 3. มคี วามสามารถในการขจัดความขดั แย้งได้อยา่ งเหมาะสม และสามารถติดตอ่ สือ่ สาร ประชาสัมพันธด์ ว้ ยรอยย้มิ อย่างจรงิ ใจ 4. มกี ารแสดงออกดา้ นการแต่งกายทถี่ กู กาลเทศะ ตามวัฒนธรรมองคก์ รและวชิ าชพี โดย คานงึ ถงึ เอกลักษณ์ความเปน็ ไทย เป็นแบบอยา่ งด้านบุคลิกภาพท้ังภายในและภายนอก 5. คดิ ดี มีไหวพริบ สภุ าพ อ่อนโยน กิริยามารยาทเรียบรอ้ ย เป็นที่ชนื่ ชมนา่ ศรทั ธาเลอื่ มใส ของสังคม

สรปุ ผลการปฏิบตั ิงานประจาปงี บประมาณ 2564 ๒๕ 2.3 การส่ังสมความชานาญในงานที่ปฏิบัติ ข้าพเจ้ามีความขวนขวาย สนใจใฝร่ ู้ เพอ่ื ส่ังสม พัฒนาศักยภาพ ความรูค้ วามสามารถของตน ในการปฏบิ ตั ิงานท่ีได้รบั มอบหมาย ด้วยการศึกษา ค้นคว้าหาความรู้ พฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เนื่อง อีกท้ังรจู้ กั พฒั นา ปรบั ปรุง ประยุกต์ใชค้ วามรู้เชิงวิชาการและเทคโนโลยีต่างๆ เข้ากับการปฏิบัติงานให้เกิดผลสมั ฤทธ์ิ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. มีความร้คู วามเข้าใจสามารถนาศาสตรท์ ่ีเก่ียวข้องมาใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านให้ทนั ต่อการ เปลีย่ นแปลงของสังคมไทยและสังคมโลก 2. สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มาประยุกตใ์ ชใ้ นการปฏิบัตงิ านอย่างหลากหลาย 3. มคี วามสามารถในการค้นคว้าหาความรู้ เพอ่ื นามารวบรวม วิเคราะห์ สังเคราะห์ เปน็ ผลงานทางวชิ าการ ตลอดจนสรา้ งองคค์ วามรู้ใหม่ดว้ ยกระบวนการวจิ ยั จนเป็นทย่ี อมรบั 4. มีความรู้ความเขา้ ใจทกั ษะในหนา้ ท่ีท่ีได้รบั มอบหมาย รวมถงึ สามารถใช้สอ่ื นวตั กรรม และเทคนิคต่างๆ ในการปฏบิ ัตงิ านของตนเองเพือ่ ให้งานมปี ระสทิ ธิภาพ

สรุปผลการปฏิบตั ิงานประจาปงี บประมาณ 2564 ๒๖ 2.4 จริยธรรม ขา้ พเจา้ ไดค้ รองตนและประพฤตปิ ฏบิ ัติตนอยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสมท้งั ตามหลักกฎหมายและ คณุ ธรรมจริยธรรม ตลอดจนหลกั การแนวทางในวิชาชีพของตน โดยม่งุ ประโยชนข์ องประเทศชาติมากกว่า ประโยชนส์ ว่ นตน ท้ังนเี้ พ่ือธารงรักษาศกั ดศ์ิ รแี หง่ อาชพี อีกท้งั เพ่อื เปน็ กาลงั สาคญั ในการสนับสนุนผลกั ดนั ให้ ภารกิจหลกั ขององคก์ รบรรลุเป้าหมายทีก่ าหนดไว้ ดังตอ่ ไปน้ี 1. มคี วามสามารถในการทาความเขา้ ใจและจบั ประเดน็ ปัญหา แนวคิด ทฤษฎี โดยวเิ คราะห์ ประเดน็ ออกเป็นส่วนยอ่ ยๆ จัดลาดับความเปน็ เหตเุ ปน็ ผล เชื่อมโยงแง่มุมตา่ งๆ จนเป็นระบบความคิดและ แสดงผลของความคิดไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์ 2. ครองตนและประพฤติปฏิบตั ติ นตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทยและวฒั นธรรมองค์กร โดยยึดกฎระเบียบของสังคม จรรยาบรรณวิชาชพี จรรยาบรรณครู อทุ ิศตนเพอ่ื ประโยชนส์ ว่ นรวมมากกว่า ประโยชน์สว่ นตน 3. มีความเปน็ กัลยาณมติ รต่อเพอ่ื นรว่ มงาน นกั ศึกษา และผรู้ บั บริการ 4. ปฏบิ ตั ติ นตามระเบยี บข้าราชการและองคก์ รด้วยความซื่อสตั ย์ สจุ รติ ตลอดจนเป็น แบบอยา่ งทีด่ ีตอ่ ผอู้ ื่นได้ 5. มคี วามภมู ใิ จในวฒั นธรรมไทย สามารถส่งเสริมและพฒั นาเอกลกั ษณ์ไทย เห็นคณุ ค่าและ เคารพศักด์ิศรีตนเอง ประพฤติตนบนพ้นื ฐานความพอเพยี ง

สรปุ ผลการปฏบิ ตั ิงานประจาปีงบประมาณ 2564 ๒๗ 2.5 การทางานเป็นทีม ขา้ พเจา้ มีความตัง้ ใจทจ่ี ะทางานร่วมกับผอู้ ื่น เปน็ สว่ นหนงึ่ ในทมี งาน หนว่ ยงาน หรือองคก์ ร โดย ปฏิบัติตนในฐานะเปน็ สมาชิกในทีม มิใชห่ ัวหน้าทีม และมีความสามารถในการสร้างและดารงรกั ษา สัมพันธภาพกบั สมาชิกในทีม ดังตอ่ ไปนี้ 1. มคี วามสามารถในการร่วมดาเนนิ การเป็นทมี โดยแสดงออกถึงความเป็นผนู้ า จูงใจหรือ ส่อื สารใหอ้ งคก์ รเกดิ การขบั เคล่ือนสูเ่ ปา้ หมายอยา่ งราบรื่นและเต็มประสทิ ธภิ าพ 2. กลา้ แสดงความคิดเห็นในเชิงสรา้ งสรรค์ตอ่ องคก์ ร และผลกั ดันภารกิจขององค์กรให้ ประสบความสาเรจ็ 3. ร่วมพิทักษผ์ ลประโยชนข์ ององค์กร ใหค้ วามร่วมมอื รว่ มแรง รว่ มใจในกจิ กรรมของ องคก์ รอย่างสมา่ เสมอและตอ่ เนื่อง

สรปุ ผลการปฏิบัติงานประจาปีงบประมาณ 2564 ๒๘ 2.6 การคานงึ ถงึ การใช้ทรพั ยากร ข้าพเจ้าใหค้ วามสาคญั กับรายละเอยี ดของงานที่ไดร้ บั มอบหมายในทุกแง่มุมอย่างตอ่ เนอื่ ง และการตรวจสอบความถูกต้องของขอ้ มลู หรอื งานที่ปฏิบตั กิ อ่ นส่งมอบงาน ทัง้ นีเ้ พอื่ ลดการใช้วัสดุทสี่ ิ้นเปลือง ไดแ้ ก่ กระดาษ นา้ หมกึ และวสั ดสุ านกั งานต่างๆ อันเนือ่ งมาจากความผดิ พลาดของขอ้ มลู ดงั ต่อไปนี้ 1. รว่ มพิทกั ษ์ผลประโยชน์ขององค์กร 2. กาหนดแนวทาง/วิธกี ารตรวจสอบมาตรฐานงานที่ได้รับมอบหมาย 3. คน้ หาความผดิ พลาด/ความบกพรอ่ งของงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 4. ระบแุ นวทางในการปฏิบัตงิ านใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย ให้สอดคลอ้ งกบั บรบิ ทของงานทไี่ ด้รบั มอบหมาย 5. ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของผลงาน กอ่ นสง่ มอบงานทีไ่ ด้รบั มอบหมายตามเวลาท่ีกาหนด อยา่ งสม่าเสมอ

สรุปผลการปฏบิ ตั ิงานประจาปงี บประมาณ 2564 ๒๙ 2.7 ความรอบรใู้ นงานและความสามารถในการเรียนรู้ ขา้ พเจา้ มีความรแู้ ละความเข้าใจในระบบหรอื ขัน้ ตอนการทางาน รวมทั้งสามารถประยุกตใ์ ช้ความรู้และ ทักษะต่างๆ ในการปฏิบัตงิ านให้เกดิ ผลสาเร็จ มีการแสดงออกถงึ ความตั้งใจในการเรยี นรู้สิ่งใหมๆ่ อยู่ตลอดเวลา แสดงออกถึงการมีความรูใ้ นสายวิชาชีพของตนทัง้ หนา้ ท่ีหลกั และหนา้ ที่รอง เพื่อให้มคี วามรแู้ ละสามารถในการ จัดการกบั ปญั หาและสถานการณ์ที่เปลย่ี นไป ดงั ต่อไปนี้ 1. เข้าร่วมกิจกรรมขององค์กรอยา่ งสมา่ เสมอ 2. สามารถปฏบิ ตั งิ านได้ตามขั้นตอนมาตรฐานในการปฏิบตั งิ านทีร่ บั ผิดชอบ 3. ระบปุ ัจจยั ท่ีมีผลตอ่ ความสาเร็จและความล้มเหลวในหน้าทที่ ่รี ับผดิ ชอบ 4. ปรบั ปรงุ และพฒั นาขน้ั ตอนการปฏิบัตงิ านท่รี บั ผดิ ชอบให้มคี ุณภาพตามมาตรฐานได้ 5. รับร้แู ละตดิ ตามขอ้ มูลขา่ วสาร การดาเนนิ งานขององค์กรอย่างตอ่ เนือ่ ง 6. ระบุปัญหาและแนวทางการปฏบิ ตั ิงานทไี่ ด้รบั มอบหมายจากประสบการณแ์ ละการส่งั สมความรู้ ความสามารถของตน 7. ประเมนิ สถานการณ์และแนวโน้มทีเ่ กีย่ วข้องกับหน้าทีท่ ่ีไดร้ ับมอบหมาย เพื่อพฒั นาเทคนิค สื่อ นวัตกรรมทใ่ี ช้ในการปฏิบัตงิ าน

สรปุ ผลการปฏิบัตงิ านประจาปีงบประมาณ 2564 ๓๐ 2.8 ความเช่อื ถอื ไวว้ างใจและความเอาใจใสใ่ นงาน ขา้ พเจา้ ความสามารถในการจดั ลาดับงานที่หลากหลาย ทง้ั ท่ีเป็นงานประจา งานเชงิ รกุ และ งานอ่ืนๆ ทไี่ ด้รบั มอบหมายใหร้ ับผดิ ชอบดแู ล มีการจัดทาข้อมูลและการปฏบิ ตั ิงานใดๆ ให้ถูกต้อง โดยมีการ ตรวจสอบความน่าเชอ่ื ถือของขอ้ มูลและการปฏิบัตงิ านตา่ งๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานทก่ี าหนดใหส้ าเร็จ ตรงตามเวลาท่ีกาหนดอย่างมีประสทิ ธิภาพ และก่อ ใหเ้ กิดประโยชน์สงู สุดแก่ทางราชการ ดังตอ่ ไปนี้ 1. วางแผนการปฏบิ ัตงิ านทไี่ ด้รับมอบหมายเพ่อื ให้งานสาเร็จตามเป้าหมาย 2. จดั ลาดับความสาคัญของงานไดโ้ ดยบรรลุเป้าหมายขององคก์ ร 3. วางแผนปฏิบตั งิ านไดส้ าเรจ็ ตามเวลาแม้เป็นงานเร่งด่วน 4. ส่งงานไม่ล่าช้ากว่ากาหนดอย่างสมา่ เสมอ

สรปุ ผลการปฏิบตั งิ านประจาปีงบประมาณ 2564 ๓๑ 2.9 การมาทางานและการตรงตอ่ เวลาในงาน ข้าพเจ้าไดม้ าปฏิบัตหิ นา้ ท่ีในวนั เวลาราชการและวันหยุดราชการอย่างเคร่งครัด มกี ารจัดทา ขอ้ มูลและการปฏบิ ัตงิ านใดๆ ให้ถกู ต้อง โดยมกี ารตรวจสอบความน่าเช่อื ถอื ของขอ้ มลู และการปฏิบตั งิ านต่างๆ ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานท่ีกาหนดใหส้ าเร็จตรงตามเวลาทก่ี าหนดอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ และกอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์ สูงสดุ แก่ทางราชการ ดังตอ่ ไปนี้ 1. ตรวจสอบผลการปฏิบัติงานของตนอย่างเป็นระบบและเข้าใจมาตรฐานของงานท่ี รบั ผดิ ชอบ 2. ใชเ้ ครอ่ื งมอื ในการตรวจสอบงานในความรับผดิ ชอบทเ่ี หมาะสม 3. ส่งงานทร่ี บั ผดิ ชอบได้ครบถ้วนและไมช่ า้ กวา่ เวลาทกี่ าหนด 4. ปรบั ปรงุ และพฒั นางานทร่ี ับผดิ ชอบใหไ้ ดม้ าตรฐาน

สรปุ ผลการปฏบิ ตั ิงานประจาปงี บประมาณ 2564 ๓๒ 2.10 การปฏบิ ตั ติ ามคาสัง่ และคาแนะนาของผบู้ งั คบั บญั ชา ขา้ พเจา้ ไดป้ ฏิบัตงิ านทไ่ี ด้รับมอบหมายจากผ้บู งั คับบญั ชาอย่างเตม็ ความสามารถ มีการ กระจายงานและความรบั ผดิ ชอบไปสูส่ มาชิกภายในและภายนอกทมี งานไดอ้ ย่างเหมาะสมและมปี ระสิทธภิ าพ ท้ังในด้านของเวลา ปรมิ าณงานและความสามารถของผู้รับมอบงาน มคี วามรอดทน อดกลนั้ ตอ่ สถานการณ์ บุคคล หรอื สภาพแวดล้อมทีก่ ดดนั และยึดถือเอาเป้าหมายจากความสาเร็จของงานเปน็ ท่ีต้งั โดยไม่เกดิ ความยอ่ ทอ้ ต่อปัญหาและอปุ สรรคท่ีเกดิ ขน้ึ ตลอดจนมีความรแู้ ละความเข้าใจในระบบหรอื ขนั้ ตอนการทางาน รวมทั้ง สามารถประยุกต์ใชค้ วามรู้และทกั ษะตา่ งๆ ในการปฏิบตั งิ านตามคาสั่งและคาแนะนาของผูบ้ งั คับบัญชาให้ เกิดผลสาเรจ็ ดงั ต่อไปนี้ 1. ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรูท้ ีม่ ีในการปฏบิ ตั ิงานทไี่ ดร้ บั มอบหมายให้สาเรจ็ ได้ 2. แสดงออกถงึ การมคี วามรู้ในสายวชิ าชพี ของตนทัง้ หน้าท่ีหลกั และหนา้ ทีร่ อง 3. สามารถปฏิบตั ิงานได้ตามขน้ั ตอนมาตรฐานในการปฏบิ ัติงานท่รี ับผิดชอบ 4. ระบุปจั จัยทีม่ ีผลต่อความสาเร็จและความล้มเหลวในหนา้ ทีท่ ่รี บั ผิดชอบ 5. ปรับปรงุ และพัฒนาขัน้ ตอนการปฏิบัติงานที่รบั ผิดชอบใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานได้ 6. มคี วามซอ่ื สตั ยส์ ุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ และปฏิบัติตามระเบียบขององค์กรอยา่ ง เครง่ ครัด

สรปุ ผลการปฏิบัติงานประจาปงี บประมาณ 2564 ๓๓ 2.11 ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ ขา้ พเจ้ามกี ารคิดหาแนวทางหรอื วิธกี ารใหม่ๆ ในการพฒั นาหรอื ปรับปรุงงาน การจัด กระบวนการเรียนรู้ของผู้เรยี น การสง่ เสริมคุณภาพชวี ติ ของผเู้ รยี น ตลอดจนการส่งเสรมิ ด้านอาชีพของผู้เรียน ให้มปี ระสิทธิภาพมากย่ิงขน้ึ ดงั ต่อไปนี้ 1. มคี วามสามารถในการวเิ คราะห์และสงั เคราะหผ์ ลงานทางวิชาการ และสรา้ งนวตั กรรมใน การปฏบิ ตั งิ าน 2. มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ เชื่อมโยงปจั จัยต่างๆ อย่างเปน็ ระบบ 3. มีความสามารถในการวางแผนการดาเนินงาน และนาผลการดาเนนิ งานมาปรับปรงุ แกไ้ ข ใหเ้ กดิ คุณภาพ (Best Practice) และสรา้ งมาตรฐานในการปฏิบัตงิ าน 4. สามารถแสดงภาวะผูน้ าโดยวเิ คราะหท์ างเลือกและตดั สินใจแกป้ ญั หาอย่างเหมาะสมกบั สถานการณ์ 5. มกี ารจดั ทาวจิ ัยในช้นั เรียนทกุ ภาคเรยี น

สรปุ ผลการปฏบิ ตั งิ านประจาปงี บประมาณ 2564 ๓๔ 2.12 การวางแผนการทางาน ข้าพเจา้ มีความรคู้ วามเข้าใจกลยุทธ์ของสานกั งาน กศน. ภาครัฐ และสามารถประยุกต์ใช้ในการ กาหนดกลยุทธ์ภายในขององค์กรได้ มีการกาหนดแผนการปฏิบตั ิงานประจาปี แผนการดาเนนิ งานตาม โครงการต่างๆ แผนการลงทะเบียนตลอดหลักสูตร (5 ปี) แผนการลงทะเบียนรายภาคเรยี น ของนกั ศึกษาคน พกิ าร โดยความสามารถในการประยกุ ต์ใชก้ ลยทุ ธ์น้รี วมถึงความสามารถในการคาดการณถ์ ึงทศิ ทางระบบ ราชการในอนาคต ตลอดจนผลกระทบของสถานการณท์ ั้งในและต่างประเทศทเี่ กดิ ขน้ึ ดังต่อไปนี้ 1. มีการระบุปัญหา อุปสรรค และโอกาสในการปฏิบัตงิ านที่ได้รับมอบหมายใหบ้ รรลุ เปา้ หมายได้ 2. เชอื่ มโยงวิสัยทัศน์ ภารกจิ นโยบาย กลยุทธข์ ององคก์ ร สูแ่ นวการปฏบิ ัติงานท่ไี ด้รบั มอบหมาย 3. คดิ กลยุทธ์ในการปฏิบตั ิงานทไ่ี ด้รบั มอบหมายจนประสบความสาเร็จตามเปา้ หมาย 4. บูรณาการใช้ทรพั ยากรต่างๆ ในการปฏบิ ตั งิ านที่ไดร้ บั มอบหมายจนประสบความสาเร็จ ตามเป้าหมายท่กี าหนดไว้ โดยคานึงถงึ ความค้มุ ค่าสงู สดุ

สรปุ ผลการปฏบิ ัติงานประจาปงี บประมาณ 2564 ๓๕ 2.13 การตดั สินใจแกป้ ัญหา ขา้ พเจ้ามีความต้ังใจทีจ่ ะทางานร่วมกบั ผู้อืน่ เปน็ สว่ นหนง่ึ ในทมี งาน หนว่ ยงาน หรอื องคก์ ร โดยปฏบิ ตั ิตนในฐานะเป็นสมาชิกในทีมมิใช่หวั หน้าทีม และมีการสร้างและดารงรกั ษาสมั พันธภาพกับสมาชกิ ใน ทมี มีปฎญิ าณไหวพรบิ กลา้ พูดกลา้ แสดงออก สามารถตัดสินใจกระทาการใดๆ ในสง่ิ ทีถ่ กู ตอ้ งเหมาะสมไม่ ขดั ต่อระเบียบวนิ ยั ทางราชการ และศีลธรรมอันดงี าม มีการสง่ เสริมให้เพือ่ นร่วมงานและนกั ศกึ ษาเกิดความ ศรัทธา พร้อมทจ่ี ะเสียสละ ปกปอ้ งช่อื เสียงและทาประโยชน์เพอื่ สถาบนั การศึกษา ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. มกี ารตดั สนิ ใจกระทาการใดๆ ในส่งิ ทีถ่ กู ตอ้ งเหมาะสมไมข่ ัดตอ่ ระเบยี บวนิ ัยทางราชการ และศีลธรรมอันดงี าม 2. แสดงความรัก ความปรารถนาดี ใหค้ วามช่วยเหลือเพื่อนรว่ มงาน นกั ศึกษาและ ผูร้ ับบริการดว้ ยความเป็นกัลยาณมติ ร 3. เขา้ ร่วมกจิ กรรมระหว่างบคุ ลากรและนักศกึ ษาอยา่ งสมา่ เสมอ 4. สร้างความเชื่อมน่ั และให้กาลงั ใจต่อเพอื่ นรว่ มงานในการปฏิบตั หิ น้าที่ท่รี บั ผดิ ชอบตาม แนวทางการปรับเปล่ยี นขององค์กร 5. เปน็ ต้นแบบในการเสียสละและจงู ใจใหเ้ พอื่ นรว่ มงานและนกั ศึกษาทาประโยชน์ให้แก่ องค์กรและสถาบันการศึกษา

สรุปผลการปฏบิ ัตงิ านประจาปีงบประมาณ 2564 ๓๖ 2.14 ความสามารถในการส่ือสาร ข้าพเจา้ มีความต้งั ใจและความสามารถในการกระตุ้น ผลักดันกลมุ่ คน ให้เกดิ ความต้องการท่ี จะปรับเปลี่ยนไปในแนวทางทเี่ ปน็ ประโยชน์แกอ่ งคก์ รและภาครัฐ รวมถึงการส่อื สารให้ผู้อ่นื รับรู้ เข้าใจ และ ดาเนินการใหก้ ารปรับเปลยี่ นนน้ั เกดิ ขนึ้ จริง มกี ารตดิ ต่อประสานงานภาคเี ครือข่ายและหน่วยงานราชการอืน่ ๆ เพ่ือใหเ้ กดิ ความสาเร็จในงานตามทีก่ าหนด ดังต่อไปน้ี 1. มมี นษุ ยสัมพันธ์ทดี่ แี ละมคี วามเป็นกัลยาณมิตรแก่ผรู้ ับบริการทกุ ประเภท 2. มคี วามร้แู ละทักษะในการติดตอ่ ประสานงาน การเร่งรัด และการติดตามงาน 3. ความสามารถในการใชภ้ าษาไทย และภาษาองั กฤษในชวี ิตประจาวนั 4. กล้าแสดงความคดิ เห็นทีส่ ร้างสรรค์ต่อองคก์ ร ผลักดนั ภารกจิ ขององคก์ รใหป้ ระสบ ความสาเรจ็ 5. ใหค้ วามรว่ มมือ รว่ มแรง รว่ มใจในกิจกรรมขององค์กรอย่างสมา่ เสมอและต่อเน่อื ง

สรุปผลการปฏบิ ตั งิ านประจาปงี บประมาณ 2564 ๓๗ 2.15 ความสามารถในการเปน็ ผนู้ าทมี งาน ขา้ พเจา้ ไดป้ ฏิบัติงานทไี่ ดร้ ับมอบหมายอยา่ งเต็มความสามารถ มีการกระจายงานและความ รบั ผดิ ชอบไปสสู่ มาชิกภายในและภายนอกทมี งานได้อย่างเหมาะสมและมีประสทิ ธภิ าพ ทัง้ ในดา้ นของเวลา ปรมิ าณงานและความสามารถของผรู้ ับมอบงาน ดงั ต่อไปนี้ 1. มคี วามสามารถในการร่วมดาเนินการเปน็ ทีมโดยแสดงออกถึงความเป็นผูน้ า จูงใจหรอื สอ่ื สารให้องค์กรเกดิ การขับเคลื่อนสเู่ ป้าหมายอยา่ งราบรืน่ และเต็มประสิทธภิ าพ 2. มอบหมายงานให้กับผ้อู น่ื ภายใต้การพจิ ารณาความสามารถของผรู้ ับมอบงาน 3. อธบิ ายขัน้ ตอนวธิ กี ารในการปฏบิ ัตงิ านแกผ่ ู้รบั มอบงาน 4. ติดตามงานท่มี อบหมายเปน็ ระยะ 5. สร้างแรงจูงใจ และคอยใหก้ ารช่วยเหลือผู้รบั มอบงาน 6. ให้ความร่วมมอื ร่วมแรง รว่ มใจในกจิ กรรมขององคก์ รอย่างสม่าเสมอและต่อเน่ือง 7. กลา้ แสดงความคดิ เหน็ ทส่ี รา้ งสรรค์องค์กร ผลกั ดันภารกจิ ขององค์กรใหป้ ระสบ ความสาเร็จ

สรุปผลการปฏิบตั งิ านประจาปีงบประมาณ 2564 38 ภาพกิจกรรมสาหรับการจดั การเรยี นรสู้ าหรบั คนพิการ

สรุปผลการปฏบิ ตั งิ านประจาปงี บประมาณ 2564 39 ภาพกจิ กรรมสาหรับการจดั การเรยี นการสอนสาหรบั คนพกิ าร

สรปุ ผลการปฏบิ ตั ิงานประจาปีงบประมาณ 2564 40

สรปุ ผลการปฏบิ ตั ิงานประจาปงี บประมาณ 2564 41 ภาพกิจกรรมอ่ืนๆท่ไี ด้รับมอบหมาย