SAVE ZONE NO NEW FACE SAVE พน้ื ท่ปี ลอดภัย ไมม่ ีคนหนา้ ใหม่ ZONE เพราะคนร่นุ ใหม่ ไม่ใชย้ าเสพติด
ความเป็นมาของวนั ตอ่ ตา้ นยาเสพตดิ ตามประกาศตามมติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) วันที่ 26 มถิ ุนายนเป็นวันสาคัญสากล หรือกค็ อื “วนั ตอ่ ต้านยาเสพตดิ โลก” (International Day against Drug Abuse and Illicit Trafficking) เพื่อต่อตา้ นการใชย้ าในทางผิด และ ค้ายาท่ีไมถ่ ูกต้องตามกฎหมาย โดยหมายความถงึ ยาเสพติด ยดึ ถอื เปน็ วันสาคัญประจาปมี าตัง้ แต่การประกาศเม่ือ 26 มิถนุ ายน พ.ศ. 2531 (ค.ศ. 1988) เหตุที่กาหนดวันที่นี้ เพอื่ เปน็ ท่รี ะลึกแก่การ ถอนสัมปทานการค้าฝิ่น โดยนายอาเภอ หลนิ เจ๋อสวี ตาบลหเู่ หมนิ มณฑลกวางตงุ้ ก่อนสงครามฝนิ่ ครง้ั แรก สาหรบั ประเทศไทย มกี ารวางระบบและแบบแผน โดยกาหนด พระราชบัญญตั ใิ ห้มี “คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยา เสพติด” ใช้ชื่อย่อ “ป.ป.ส.” ซึ่งเปน็ องค์กรสูงสดุ ในการกาหนด นโยบายและมาตรการป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด 1
ความหมายของยาเสพติด องคก์ ารอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ให้ ความหมายวา่ ยาเสพติด หมายถงึ สิ่งทเ่ี สพเขา้ ไปแล้วจะเกดิ ความต้องการทง้ั ทางร่างกายและจติ ใจตอ่ ไปโดยไมส่ ามารถหยดุ เสพได้ และจะต้องเพ่ิมปรมิ าณ มากขึน้ เรอื่ ยๆ จนในท่ีสุดจะท าใหเ้ กิดโรคภยั ไขเ้ จ็บตอ่ ร่างกายและจิตใจขน้ึ องคก์ ารสหประชาชาติ ใหค้ วามหมายว่า ยาเสพติด หมายถงึ สารใดๆ ท่ี เกดิ ข้นึ ตามธรรมชาติหรอื ไดจ้ ากธรรมชาติ หรือจากการสังเคราะหท์ ม่ี ผี ลต่อจิตใจ และระบบประสาท พจนานกุ รมฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2542 ใหค้ วามหมายวา่ ยา เสพติด หมายถึง ยาหรือสารเคมซี ึ่งเมื่อเสพหรอื ฉีดเข้าสู่ร่างกายตดิ ตอ่ กันชว่ั ระยะเวลาหนึ่งกจ็ ะตดิ กอ่ ใหเ้ กิดพษิ เรื้อรงั ทาใหร้ า่ งกายและจิตใจเสอ่ื มโทรม เช่น ฝ่ิน กญั ชา เฮโรอนี ยานอนหลบั สุรา พระราชบญั ญตั ิยาเสพติดใหโ้ ทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 แกไ้ ข เพม่ิ เติมโดยพระราชบญั ญัติยาเสพตดิ ให้โทษ (ฉบบั ที่ 20) พ.ศ. 2528 มาตรา 4 ได้ให้นิยามของยาเสพติดให้โทษไวว้ า่ หมายถงึ สารเคมีหรอื วตั ถุใดๆ ซึง่ เมอ่ื เสพเข้าส่รู า่ งกายไม่วา่ จะโดยวิธีใดตาม เชน่ รับประทาน สูบ ดมหรอื ฉดี แลว้ จะก่อให้เกิดผลตอ่ ร่างกายและจิตใจทส่ี าคัญ 4 ประการ คือ 1) มคี วาม ตอ้ งการเสพสารน้นั อย่างรุนแรงท้งั รา่ งกายและจิตใจ 2) ตอ้ งเพิม่ ขนาดหรือ ปรมิ าณการเสพสารนนั้ มากข้ึนเป็นลาดับ 3) เมอ่ื หยดุ เสพสารนัน้ จะเกดิ อาการ ถอนยา 4) สภาพของผู้เสพสารน้ันเป็นเวลานานจะทรดุ โทรมลง 2
การเสพ หมายถงึ การรับสารเสพตดิ ใหโ้ ทษเขา้ สู่รา่ งกายไมว่ า่ ด้วย วิธกี ารใด ๆ เช่น การกนิ การด่ืม การสดู ดมการสบู การฉีด 3
ประเภทของยาเสพติด ยาเสพตดิ ให้โทษแบง่ ได้ 5 ประเภท [ประกาศกระทรวง สาธารณสุข ฉบบั ที่ 135 (พ.ศ. 2539) เรอ่ื งระบุชือ่ และประเภทยาเสพ ติดให้โทษตามพระราชบญั ญตั ยิ าเสพติดใหโ้ ทษ [พ.ศ. 2522] ดังน้ี 1. ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษประเภท 1 เช่น เฮโรอีน เมทแอมเฟตามีน เอ็มดเี อม็ เอ (ยาอ)ี ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษประเภทนไ้ี มใ่ ช่ประโยชน์ทาง การแพทย์ 2.ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 เชน่ มอรฟ์ นื โคเคอีน เพทดิ นี เมทาโดน และฝิน่ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษประเภทน้มี ปี ระโยชนท์ างการแพทย์ แตก่ ็มโี ทษมาก ดงั นั้นจงึ ต้องใช้ภายใตค้ วามควบคมุ ของแพทย์ และใช้ เฉพาะในกรณที ่ีจาเป็นเทา่ น้ัน 3. ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษประเภท 3 เปน็ ยาสาเรจ็ รูปทผ่ี ลติ ขึน้ ตาม ทะเบียนตารับ ทไ่ี ดร้ ับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว มี จาหนา่ ยตามร้านขายยา ไดแ้ ก่ ยาแก้ไอ ที่มีตวั ยาโคเคอีน หรอื ยาแก้ ทอ้ งเสียทมี่ ตี วั ยาไดเฟนอกซนิ เป็นต้น ยาเสพติดใหโ้ ทษประเภท 3 มีประโยชนท์ างการแพทย์ และมโี ทษนอ้ ยกวา่ ยาเสพติดใหโ้ ทษ 4
ประเภทของยาเสพติด 4. ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษประเภท 4 เป็นน้าายาเคมที ี่นามาใชใ้ นการ ผลิตยาเสพติดใหโ้ ทษประเภท 1 ได้แก่ นา้ ยาเคมี อาซิตกิ แอนไฮไดรด์ อาซติ ิกคลอไรด์ เอทลิ ดิ นี ไดอาเซเตท สารเออรโ์ กเมทรนี และคลอซโู ดอเี ฟดรนี ยาเสพติดใหโ้ ทษ ประเภทน้ี สว่ นใหญ่ไมม่ ีการน ามาใช้ประโยชนใ์ นการบาบดั รักษา อาการของโรคแต่อยา่ งใด 5.ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ไดแ้ ก่ กญั ชา กระท่อม และ เหด็ ข้คี วาย ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษประเภทนีไ้ ม่มีประโยชนท์ างการแพทย์ พระราชบัญญตั ยิ าเสพตดิ ใหโ้ ทษ กาหนดบทลงโทษสาหรับผูท้ าการ ผลติ นาเขา้ ส่งออก จาหน่าย มีไว้ครอบครอง และการเสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1, 2, 3 และ 5 นอกจากน้ี ยงั มบี ทลงโทษสาหรบั ผยู้ ยุ ง หรอื สง่ เสรมิ หรอื กระทาการใด ๆ อนั เปน็ การช่วยเหลอื หรือให้ความสะดวกในการท่ผี ูอ้ นื่ เสพยาเสพตดิ 5
ภาพประกอบยาเสพติดชนิดตา่ งๆ 6
ลกั ษณะการติดยาเสพตดิ 1. อาการติดยาทางใจ เป็นการติดยาเสพตดิ เพราะจิตใจเกดิ ความต้องการหรอื เกิด การติดเป็นนิสยั หากไม่ได้เสพรา่ งกายก็จะไม่เกดิ อาการผิดปกติ หรอื ทรุ นทุรายแต่อยา่ งใด จะมีบา้ งก็เพยี งเกดิ อาการหงุดหงดิ หรอื กระวนกระวาย 2. การติดยาทางกาย เป็นการตดิ ยาเสพตดิ ทผี่ ู้เสพมีความตอ้ งการเสพอย่างรนุ แรง ทั้งทางรา่ งกายและจติ ใจ เมือ่ ถึงเวลาอยากเสพแล้วไมไ่ ดเ้ สพ จะ เกดิ อาการผดิ ปกตอิ ยา่ งมาก ทงั้ ทางรา่ งกายและจิตใจ ซ่ึงเรยี กว่า “อาการขาดยา” 7
สาเหตุที่ทาใหต้ ดิ ยาเสพตดิ 1. ความรเู้ ท่าไมถ่ ึงการณ์ ความอยากรู้อยากลอง : ความอยากร้อู ยากเห็นซึ่งเป็นนสิ ยั ของคน โดยท่ัวไป และโดยท่ีไมค่ ดิ วา่ ตนจะติดสิง่ เสพตดิ น้ีได้ จงึ ท าการทดลองใช้ส่งิ เสพ ติดน้นั ถา้ ไปทดลองใช้สง่ิ เสพติดบางชนิด เช่น เฮโรอีน แม้จะเสพเพียงครัง้ เดียว ก็อาจทาให้ติดได้ ความคกึ คะนอง : คนบางคนมคี วามคกึ คะนอง ชอบพดู อวดเกง่ เป็นนิสัย โดยเฉพาะวัยร่นุ มกั จะมนี สิ ัยดงั กลา่ ว คนพวกนีอ้ าจแสดงความเก่งกล้าของตน ในกลมุ่ เพื่อนโดยการแสดงการใชส้ ง่ิ เสพตดิ ให้เพื่อนฝงู ยอมรับว่าตนเกง่ การชักชวนของคนอน่ื : อาจเกิดจากการเช่อื ตามค าชกั ชวนโฆษณา เชน่ ยากระตุ้นประสาทตา่ ง ๆ ยาขยัน ยาม้า ยาบา้ เปน็ ตน้ โดยผู้ขายโฆษณาวา่ ท าใหม้ กี าาลังวงั ชา ทาให้มจี ิตใจแจ่มใส เป็นหรอื ถูกชักชวนจากเพอ่ื นฝูง ซ่งึ โดยมากเป็นพวกท่ีติดส่ิงเสพติดนนั้ อยู่แล้ว ด้วยความเกรงใจเพ่อื น หรอื เชอ่ื เพ่อื น หรือตอ้ งการแสดงว่าตัวเปน็ พวกเดยี วกบั เพื่อน สาเหตุท่ีเกิดจากการถูกหลอกลวง : ปัจจุบนั น้มี ผี ้ขู ายสนิ คา้ ประเภท อาหาร ขนมหรอื เคร่อื งดื่มบางรายใช้ส่งิ เสพติดผสมลงในสนิ คา้ ที่ขายเพอ่ื ให้ผ้ซู อ้ื สนิ คา้ นั้นไปรบั ประทานเกิดการตดิ อยากมาซ้อื ไปรับประทานอกี จะไม่รู้สกึ วา่ ตนเองเกดิ การติดส่งิ เสพติดข้ึนแล้วร้แู ต่เพียงวา่ อยากรบั ประทานอาหาร ขนม หรอื เคร่อื งดื่มทซ่ี ือ้ จากรา้ นน้ัน ๆ กวา่ จะทราบก็ต่อเม่ือมีอาการเสพติดแล้ว 8
สาเหตุท่ที าให้ติดยาเสพติด 2. สาเหตุท่ีเกดิ จากความเจบ็ ป่วย คนทม่ี ีอาการเจบ็ ป่วยทางกาย เช่น ไดร้ บั บาดเจ็บรนุ แรง เป็นแผล เรอ้ื รัง มคี วามเจบ็ ปวดอยเู่ ป็นประจาเป็นโรคประจาตวั บางอย่าง เปน็ ตน้ ทาให้ ไดร้ ับทกุ ขท์ รมานจึงกินยาท่ีมฤี ทธ์ิระงบั อาการเจบ็ ปวดนนั้ นานๆ เกดิ อาการติด ยาน้นั ข้นึ ผทู้ มี่ ีจติ ใจไม่เป็นปกติ เช่น มคี วามวติ ก กังวล เครยี ด มคี วามผิดหวังใน ชีวิต มีความเศร้าสลด เสยี ใจ เปน็ ต้น ทาให้สภาวะจติ ไมเ่ ปน็ ปกติ เกิดการป่วย ทางจติ ขึน้ จงึ พยายามหายาหรอื สิ่งเสพติดท่ีมีฤทธิ์สามารถคลายความเครยี ด จากทางจิต การไปซื้อยามารบั ประทานเองโดยไม่ทราบสรรพคุณยาท่ีแทจ้ ริง ขนาดยาท่คี วรรับประทาน การรับประทานยาเกนิ จานวนกวา่ ที่แพทย์ได้สง่ั ไว้ การรับประทานยาบางชนดิ มากเกนิ ขนาด หรือรบั ประทานติดตอ่ กนั นาน ๆ บางครง้ั อาจมีอาการถงึ ตายได้ หรือบางครั้งทาใหเ้ กดิ การเสพตดิ ยานั้นได้ 9
สญั ลกั ษณร์ ณรงค์วันตอ่ ต้านยาเสพติด Cr : ขอ้ มลู จากสานกั งาน ป.ป.ส 10
สญั ลกั ษณร์ ณรงค์วันตอ่ ต้านยาเสพติด Cr : ขอ้ มลู จากสานกั งาน ป.ป.ส 11
สญั ลกั ษณร์ ณรงค์วันตอ่ ต้านยาเสพตดิ Cr : ข้อมลู จากสานกั งาน ป.ป.ส 12
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: