รายงานผลการจดั กจิ กรรม กจิ กรรมการเรียนรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง โครงการประยุกต์ใช้ศาสตรพ์ ระราชา สตู่ ้นแบบ “โคก หนองนา โมเดล” ในวันที่ 24 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ณ ศนู ยช์ ุมชนตน้ แบบพัฒนาคณุ ภาพชีวติ CLM โคก หนองนา โมเดล ประจาตาบลสมเดจ็ เจรญิ ม.2 บา้ นเขาหนิ ต้งั ตาบลสมเด็จเจริญ อาเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบรุ ี กศน.ตาบลสมเดจ็ เจรญิ ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอหนองปรอื สานกั งาน กศน. จงั หวดั กาญจนบุรี
คานา รายงานสรุปผลการดาเนินงานการ โครงการประยุกต์ใช้ศาสตร์พระราชา สู่ต้นแบบ “โคก หนองนา โมเดล” ในวันท่ี 24 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ณ ศูนย์ชุมชนต้นแบบพัฒนาคุณภาพชีวิต CLM โคก หนองนา โมเดล ประจาตาบลสมเดจ็ เจริญ ม.2 บ้านเขาหินตั้ง ตาบลสมเด็จเจริญ อาเภอหนองปรือ จังหวัด กาญจนบุรี นี้ สามารถนามาเป็นฐานข้อมูลในการจัดกิจกรรมในคร้ังต่อไปได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีคุณภาพ และสามารถตรวจสอบขัน้ ตอนการทาไดอ้ ยา่ งมรี ะบบและแบบแผน กศน.ตาบลสมเด็จเจริญ จึงหวังว่ารายงานสรุปผลการดาเนินงาน เล่มนี้จะเกิดประโยชน์ต่อ ผู้รับบริการ ตรงตามเป้าหมายท่ีตั้งไว้เพ่ือนาฐานข้อมูลไปบริหารงาน การพัฒนางาน และการทางานที่ตรงตาม ความต้องการของผู้เรียน ผู้รับบริการและชุมชนและสามารถเผยแพร่ต่อสาธารณชนต่อไป และขอขอบคุณผู้มี สว่ นเกี่ยวข้องและให้ความรว่ มมอื ในการตอบแบบสอบถามทกุ ท่าน ไว้ ณ โอกาสนดี้ ว้ ย นายโชคชัย ยงั้ ประยทุ ธ์ ครู กศน.ตาบลสมเด็จเจริญ
สารบญั หนา้ 1 บทท่ี 1 บทนา 1 ความเปน็ มาและความสาคัญ 1 วัตถปุ ระสงค์ 2 เครือ่ งมือที่ใชใ้ นการสรปุ 2 ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะได้รบั 3 3-5 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ทเ่ี ก่ียวข้อง 6-8 แนวทางการดาเนนิ งานการจัดการศกึ ษาต่อเน่ือง 9 โคก หนอง นา โมเดล 9 9 บทที่ 3 วิธกี ารดาเนินงาน 10 ขนั้ ตอนการรว่ มกนั วางแผน (Plan) 10 ข้ันตอนการร่วมกนั ปฏบิ ตั ิ (Do) 11 ขัน้ ตอนการรว่ มกันประเมิน (Check) ขั้นตอนการร่วมปรบั ปรงุ (Act) 11-14 15 บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ การและวเิ คราะห์ข้อมลู 15 ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งตาม 15 โครงการประยกุ ต์ใช้ศาสตรพ์ ระราชา สตู่ น้ แบบ “โคก หนองนา โมเดล” 16 16 บทที่ 5 สรปุ ผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 16 วตั ถุประสงค์ 17 เครอ่ื งมือทใี่ ช้ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู สรปุ ผลการดาเนินการ ปญั หา/ข้อเสนอแนะ บรรณานกุ รม ภาคผนวก - โครงการ - คาสั่ง - บญั ชลี งเวลาวทิ ยากร - บญั ชลี งเวลาผเู้ รยี น - ทะเบียนผ้จู บหลกั สูตร - แบบรายงานผลการจดั กิจกรรมการเรียนรูห้ ลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง - แบบประเมนิ ความพึงพอใจ - แบบตดิ ตามผลการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ - ภาพกิจกรรม - แบบนิเทศการจัดการศกึ ษาตอ่ เน่อื ง
บทท่ี 1 บทนา 1.1 ความเป็นมาและความสาคญั ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 – 2580 และนโยบายรัฐบาลที่สืบสาน รักษา ต่อยอด และ พัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงของพระบาทสมเด็จพระชนกาธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพติ รโดยการน้อมนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาเปน็ หลักในการสง่ เสริมกระบวนการ เรยี นรู้และการมีส่วนรว่ มของประชาชน เนน้ ประชาชนเป็นศนู ย์กลาง โดยการพัฒนาคนให้พ่ึงตนเอง มีความเป็น เจา้ ของและบริหารจัดการโดยชมุ ชน พัฒนาหมบู่ ้านหรอื ชมุ ชนใหม้ ีวถิ ชี ีวติ เศรษฐกิจพอเพียง และเป็นสังคม “อยู่ เยน็ เป็นสขุ ” แนวความคดิ ตามปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ตามแนวทางพระราชดาริของ พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 9 และตามแนวทางนโยบายของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ที่จะใช้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ผลิกวิกฤตการณ์ในคร้ังนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดย ได้ใชแ้ นวทางของปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงเขา้ มาบูรณาการ เพ่ือให้ประชาชนในตาบล ได้ใช้เวลาว่างในช่วงนี้ทา การเกษตร ตามแนวทาง โคก หนอง นา โมเดล โดยใชว้ ธิ กี ารตา่ งๆ กศน.อาเภอหนองปรอื จงึ ไดจ้ ดั ทาโครงการประยุกต์ใช้ศาสตรพ์ ระราชา สู่ต้นแบบ “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่การปฏิบัติใน รูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล และขยายผลการพฒั นาพ้ืนทีต่ ้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนต่อไป 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ ๑ เพ่ือสง่ เสริมการเรยี นรูก้ ารนอ้ มนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงประยกุ ต์สู่การปฏิบตั ิในรปู แบบ โคก หนอง นา โมเดล ๒ เพ่ือขยายผลการพัฒนาพืน้ ที่ตน้ แบบการพฒั นาคุณภาพชวี ิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนองนา โมเดล” 1.3 เปา้ หมาย เชิงปรมิ าณ ประชาชนตาบลสมเดจ็ เจริญ จานวน 3 คน เชิงคณุ ภาพ รอ้ ยละ๘๐ ของผู้เข้ารบั การอบรมได้รบั ความรู้ การน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งประยุกต์สู่ การปฏิบตั ใิ นรูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล และการขยายผลการพัฒนาพื้นท่ตี น้ แบบการพฒั นาคุณภาพชวี ติ ตามหลักทฤษฎใี หม่ ประยกุ ต์สู่ “โคก หนองนา โมเดล” 1.4 เคร่อื งมือท่ใี ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล เคร่อื งมอื ที่ใชก้ ารเกบ็ รวบรวมข้อมูล ในครง้ั นี้ 1. แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ 2. ทะเบยี นรายช่ือผจู้ บหลกั สูตรการศึกษาต่อเน่อื ง 3. แบบการติดตามผู้เรยี น
1.5 ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ ับ ผเู้ ขา้ รบั การอบรมได้รบั ความรู้ การน้อมนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงประยุกตส์ ู่การปฏิบัติใน รปู แบบ โคก หนอง นา โมเดล และการขยายผลการพฒั นาพนื้ ทต่ี น้ แบบการพัฒนาคุณภาพชวี ิตตามหลักทฤษฎี ใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนองนา โมเดล”
บทที่ 2 เอกสารท่ีเกีย่ วข้อง นิยามศัพท์ การศึกษาต่อเนอ่ื ง หมายถึง การจัดการศึกษาในรปู แบบการศึกษานอกระบบท่ีเป็นหลักสูตรระยะส้ัน ท่ี จัดตามความต้องการ ของกลุ่มเป้าหมายท่ีมีเนื้อหาเกี่ยวกับอาชีพ ทักษะชีวิตการพัฒนาสังคมและชุมชน ซึ่ง รวมถึงการจัดการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการใช้เทคโนโลยี ซึ่งนาไปสู่การพัฒนา คุณภาพชวี ิต สถานศึกษา หมายถึง สถานศึกษาในสังกัดสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศัย และสถานศกึ ษาในกากบั สถานศึกษาในกากับ หมายถึง สถานศึกษาภาคีเครือข่ายของสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศัย วทิ ยากร หมายถึง บุคคลที่ได้รับการคัดเลือกและแต่งตั้งจากสถานศึกษาหรือภาคีเครือข่ายให้ทาหน้าที่ จัดการเรียนรู้ตามกิจกรรมของการจัดการศึกษาต่อเนอ่ื ง ผ้เู รียน หมายถึง ผทู้ ไี่ ด้สมคั รเขา้ รับการศกึ ษาต่อเน่ืองในสถานศึกษาหรือภาคเี ครือขา่ ย การเรียนรู้เป็นกลุ่ม หมายถึง การเรียนรู้ตั้งแต่ 6 คนข้ึนไป ที่ต้องการเรียนรู้ในหลักสูตรการศึกษา ต่อเนอ่ื งในสถานศกึ ษา หรือภาคีเครือข่าย การเรยี นรจู้ าก/แหลง่ เรยี นรู้ หมายถึง การจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนในแหล่งเรียนรู้เช่น ศูนย์สาธิตการทา ไร่นาสวนผสม ศูนยก์ ารเรยี นรเู้ ศรษฐกจิ พอเพียง การเรียนรู้ในสถานประกอบการ หมายถึง การจัดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในสถานประกอบการ หรือแหล่ง ประกอบการ หรอื แหล่งเรียนรู้ เชน่ โรงเรียนเสริมสวย ฯลฯ การเรียนรู้จากฐานการเรียนรู้ หมายถึง การจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนได้ตามความ ต้องการ ความสนใจ ตามฐานการเรียนรทู้ จ่ี ดั ใหโ้ ดยมวี ทิ ยากรให้ความรู้ในแต่ละฐานการเรยี นรู้ การเรียนรรู้ ายบุคคล หมายถึง การเรียนรู้ของผเู้ รยี นบุคคลใดบคุ คลหนึ่งทต่ี อ้ งการจะเรียนรู้ในเนื้อหาใด เนื้อหาหนึ่ง ซ่ึงเป็นความสนใจเฉพาะตัว ตามหลักสูตรการศึกษาต่อเน่ืองในสถานศึกษาหรือภาคีเครือข่าย โดย ผ้เู รียนและวิทยากรรว่ มกนั วางแผน และออกแบบการเรียนรู้ท่ีตอบสนองความต้องการของผูเ้ รยี นแต่ละบุคคล การพัฒนาอาชีพ หมายถงึ การศึกษาเพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ ของบุคคล เพื่อให้บุคคลสามารถเข้าสู่อาชีพ สามารถประกอบอาชีพ หรือพัฒนาอาชีพของตนเองได้ โดย พจิ ารณาถงึ ความต้องการในการเรยี นของแต่ละบคุ คล การพัฒนาทักษะชีวิต หมายถึง การศึกษาท่ีให้ความสาคัญกับการพัฒนาคน เพ่ือให้มีความรู้ เจตคติ และทักษะท่ีจาเป็นสาหรับการดารงชีวิตในสังคมปัจจุบัน เพ่ือให้บุคคลสามารถเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ใน
ชีวิตประจาวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมความพร้อมกับการปรับตัวในอนาคต เช่น สุขภาพกายและใจ ความปลอดภัยในชีวติ และทรัพยส์ ิน คุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มทีด่ ี เปน็ ตน้ การพัฒนาสังคมและชุมชน หมายถึง เป็นการศึกษาที่บูรณาการความรู้และทักษะจากการศึกษาท่ี ผู้เรียนมีอยู่หรือได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษานอกระบบ แล้วนาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา สังคมและชุมชนอย่างยั่งยืนโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย และใช้ ชุมชนเป็นฐานในการพัฒนาการเรียนรู้ของคนในชุมชน เช่นประชาธิปไตย ส่ิงแวดล้อม วิสาหกิจชุมชน การใช้ เทคโนโลยีทเี่ หมาะสม เป็นต้น รูปแบบและวธิ กี ารจัดการศกึ ษาต่อเน่ือง การจัดการศึกษาต่อเน่ือง เป็นการจัดการเรียนรู้เพ่ือให้กลุ่มเป้าหมายประชาชนทั่วไปทุกกลุ่มวัยได้รับ การเรยี นรูท้ สี่ อดคล้องกับความต้องการ ดา้ นการพฒั นาอาชพี พัฒนาทักษะชีวิตพฒั นาสงั คมและชุมชน ตามหลัก ปรชั ญาคดิ เป็นและหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยมกี รอบการจดั การศกึ ษาต่อเน่ือง ดังน้ี วิธแี ละการจดั การศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง 4 รปู แบบ 1. รูปแบบกลมุ่ สนใจ เป็นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนท่ีมีการรวมกลุ่มหรือไม่รวมกลุ่ม โดยมี ผู้เรียนตั้งแต่ 6 คนข้นึ ไป ดังนี้ 1.1 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามความต้องการและความสนใจท่ีมีการรวมกลุ่มของผู้เรียน โดย จัดหลกั สตู รไม่เกนิ 30 ชัว่ โมง 1.2 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามภารกิจ เช่น อาเภอเคล่ือนที่ จังหวัดเคล่ือนท่ีการร่วมจัด กิจกรรมกบั หน่วยงานอ่ืน เป็นตน้ ทีป่ ระชาชนผสู้ นใจสมคั รเรยี น ณ สถานที่จัดกิจกรรมโดยจัดหลักสูตรไม่เกิน 5 ช่วั โมง 2. รูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนต้ังแต่ 11 คนขึ้นไป โดยจัด หลกั สตู รต้งั แต่ 31 ชวั่ โมงข้ึนไป
3. รูปแบบกิจกรรมฝึกอบรมประชาชน เป็นการอบรม การศึกษาดูงานการจัดเวทีประชาคม หรือ กิจกรรมอน่ื ๆ ที่มลี กั ษณะเปน็ การฝึกอบรม มีเนื้อหาเก่ียวกับกิจกรรมเพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต กิจกรรมเพ่ือพัฒนา สังคมและชุมชน การส่งเสริมการดาเนินชีวติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยี ทเ่ี หมาะสม เพ่ือให้ประชาชนไดร้ บั ความรู้ มเี จตคตแิ ละทักษะท่ีจาเป็นสาหรับการดารงชีวิตในสังคมปัจจุบัน โดย โครงการ/หลกั สตู รมรี ะยะเวลาตามความเหมาะสม และมผี ู้เข้ารับการอบรมไมต่ ่ากว่า 15 คน 4. รูปแบบการเรียนรู้รายบุคคล เป็นการเรียนรู้ของผู้เรียนบุคคลใดบุคคลหน่ึงท่ีต้องการจะเรียนรู้ใน หลักสตู รการศกึ ษาตอ่ เน่ืองในสถานศึกษาหรือภาคเี ครือข่าย การจัดการศึกษาต่อเนื่องของสานักงาน กศน. มี ๓ ลักษณะ ๑. สถานศึกษาเปน็ ผจู้ ัด ๒. สถานศึกษารว่ มจัดกบั เครือขา่ ย ๓. ภาคีเครือข่าย เป็นผู้จัด โดยสถานศึกษาส่งเสริม สนับสนุนให้เครือข่ายเป็นผู้จัดท้ังนี้เครือข่ายและ ผูเ้ รียนต้องมีการทาข้อตกลงร่วมกนั ในการจัดการเรียนรู้ใหผ้ เู้ รียนจบหลกั สตู ร การจัดการศึกษาต่อเนอื่ งรูปแบบการฝึกอบรมประชาชน การจดั การศึกษาตอ่ เน่ือง รูปแบบการฝกึ อบรมประชาชน มี ๒ ภารกจิ คือ ๑. การดาเนินการตามแผนงาน/โครงการ ๒. การดาเนินการตามนโยบายท่ไี ด้รบั มอบหมายซึง่ ในแตล่ ะภารกิจจะมขี ั้นตอนการดาเนินการตาม แผนผงั และขน้ั ตอนการดาเนินงานดงั น้ี
การจัดการศึกษาต่อเน่ืองรูปแบบการจดั กจิ กรรมฝกึ อบรมประชาชน การจัดกิจกรรมฝึกอบรมประชาชน เป็นกระบวนการท่ีจะทาให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ มีทักษะ และเจตคติในเร่ืองใดเรื่องหนึ่ง ดังนั้นการจัดกิจกรรมฝึกอบรมประชาชนจึงเป็นหน่ึงในการจัดการศึกษาต่อเน่ือง ทีส่ ถานศกึ ษาดาเนินการให้กับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ประชาชนทั่วไป โดยมีรูปแบบการจัดฝึกอบรมประชาชน ซ่ึง ดาเนินการได้ 2 ภารกจิ คอื ดาเนนิ การตามแผนงาน/โครงการของสถานศึกษา และดาเนินการตามนโยบายหรือ ภารกจิ ท่ีได้รบั มอบหมายจากหนว่ ยงานภาครัฐทเี่ ปน็ เร่ืองเรง่ ด่วน ข้ันตอนการดาเนินงานการจัดการศึกษาตอ่ เนอื่ ง รูปแบบกรฝกึ อบรมประชาชน ภารกจิ ท่ี ๑ และ ๒ ๑. การสารวจสภาพปญั หาและความตอ้ งการของประชาชนและกลุ่มเป้าหมาย ๑.๑ สถานศึกษาสามารถดาเนินการได้ดว้ ยวธิ กี ารที่หลากหลาย ๑.๒ การจดั เวทปี ระชาคม ๑.๓ การใชข้ ้อมูลสารสนเทศในแผนจุลภาค (Micro Planning) แผนชมุ ชนขอ้ มูล จปฐ. ๑.๔ การขับเคลอ่ื นนโยบาย จดุ เน้น ยุทธศาสตร์และความจาเป็นเร่งดว่ นโดยนาข้อมูลมาวิเคราะห์พร้อม จดั ลาดับความตอ้ งการ และความจาเป็น ๒. จัดหาหรอื จัดทาหลักสตู ร และจดั หาวทิ ยากรพร้อมออกแบบกิจกรรมการฝึกอบรม ๒.๑ การจดั หาหรอื จัดทาหลักสตู ร ดาเนินการได้ ๒ วิธี คอื 2.1.๑ จัดหาหลักสูตรที่มีอยู่แล้ว ทั้งน้ีต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา และเสนอผบู้ ริหารสถานศกึ ษาเพ่อื อนุมัติใช้หลกั สตู ร ๒.1.2 กรณีที่ไม่มีหลักสูตรอยู่เดิมให้สถานศึกษา จัดทาหลักสูตรที่สอดคล้องกับความต้องการ ของผู้เรียน ทง้ั นต้ี อ้ งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาและเสนอผู้บริหารสถานศึกษาเพ่ืออนุมัติ ใช้หลกั สตู ร โคก หนอง นา โมเดล คอื อะไร “โคก หนอง นา โมเดล” คือ การจัดการพ้ืนที่ซ่ึงเหมาะกับพื้นที่การเกษตร ซึ่งเป็นผสมผสานเกษตร ทฤษฎีใหม่ เข้ากับภูมิปัญญาพ้ืนบ้านท่ีอยู่อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติในพ้ืนท่ีนั้น ๆ โคก หนอง นา โมเดล เป็น การท่ีให้ธรรมชาติจัดการตัวมันเองโดยมี มนุษย์เป็นส่วนส่งเสริมให้มันสาเร็จเร็วข้ึน อย่างเป็นระบบ ซ่ึงโคก หนอง นา โมเดล ซ่งึ เป็นแนวทางทาเกษตรอินทรยี แ์ ละการสรา้ งชวี ติ ท่ีย่ังยนื โดยมีองคป์ ระกอบ ดงั น้ี 1. โคก : พ้ืนท่ีสูง ดินที่ขุดทาหนองน้าน้ันให้นามาทาโคก บนโคกปลูก “ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” ตามแนวทางพระราชดาริ ปลูกพืช ผัก สวนครัว เล้ียงหมู เลี้ยงไก่ เล้ียงปลา ทาให้พออยู่ พอกิน พอใช้ พอร่มเย็น เป็นเศรษฐกิจพอเพียงขั้นพ้ืนฐาน ก่อนเข้าสู่ขั้นก้าวหน้า คือ ทาบุญ ทาทาน เก็บรักษา ค้าขาย และ เชอื่ มโยงเปน็ เครอื ข่าย ปลกู ทอ่ี ยู่อาศยั ใหส้ อดคลอ้ งกับสภาพภมู ปิ ระเทศ และภูมิอากาศ 2. หนอง : หนองนา้ หรอื แหล่งนา้ ขดุ หนองเพือ่ กักเกบ็ นา้ ไวใ้ ชย้ ามหน้าแล้งหรือจาเป็น และเป็นท่ีรับน้า ยามน้าท่วม (หลุมขนมครก) ขุด “คลองไส้ไก่” หรือคลองระบายน้ารอบพ้ืนที่ตามภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยขุดให้ คดเคย้ี วไปตามพน้ื ทเ่ี พื่อให้นา้ กระจายเตม็ พื้นทเี่ พิ่มความชุ่มชื้น ลดพลังงานในการรดน้าต้นไม้/ทาฝายทดน้าเพ่ือ เกบ็ นา้ เข้าไวใ้ นพืน้ ท่ีใหม้ ากที่สุด โดยเฉพาะเมือ่ พนื้ ท่โี ดยรอบไม่มีการกกั เก็บนา้ นา้ จะหลากลงมายังหนองน้าและ คลองไสไ้ ก่ ใหท้ าฝายทดน้าเก็บไว้ใช้ยามหนา้ แล้ง พัฒนาแหล่งน้าในพื้นท่ี ทั้งการขุดลอก หนอง คู คลอง เพ่ือกัก เกบ็ นา้ ไว้ใช้ยามหน้าแลง้ และเพิ่มการระบายนา้ ยามนา้ หลาก
3. นา : พื้นท่ีนานั้นให้ปลูกข้าวอินทรีย์พื้นบ้าน โดยเร่ิมจากการฟื้นฟูดิน ด้วยการทาเกษตรอินทรีย์ ยั่งยืน คืนชีวิตเล็ก ๆ หรือจุลินทรีย์กลับคืนแผ่นดินใช้การควบคุมปริมาณน้าในนาเพ่ือคุมหญ้า ทาให้ปลอด สารเคมีได้ ปลอดภัยทั้งคนปลูก คนกิน ยกคันนาให้มีความสูงและกว้าง เพื่อใช้เป็นที่รับน้ายามน้าท่วม ปลูกพืช อาหารตามคนั นา สานักงานพัฒนาชุมชนจงั หวัดชลบรุ ี โคก หนอง นา โมเดล ท่ามกลางปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ท่ีมีสาเหตุหลัก มาจากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างไร้ขอบเขตของมนุษย์ ได้ส่งผล กระทบในวงกว้างต่อสมดุลระบบนิเวศและส่ิงแวดล้อม การเกิด ปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เป็นภัยคุกคามต่อแหล่งผลิตอาหาร เช่น ความ แห้งแล้ง น้าท่วม โรคระบาดศัตรูพืช และ อื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาวะวิกฤตทส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ ภาคการเกษตรอยา่ งมาก คอื การเกิด ภัยแล้งที่นับวันจะมี ความรุนแรงเพ่ิมขึน้ ในทุกปี ท่ีผ่านมา ประเทศไทยรับมือกับปัญหาภัยแล้งในหลากหลาย รูปแบบ เช่น การสร้างอ่างเก็บน้า การ สร้างเขื่อน หรือการจัดทาระบบ ชลประทาน ซ่ึงรูปแบบเหล่านี้สามารถใช้แก้ไขปัญหาได้ในบางพ้ืนท่ี ของ ประเทศไทยเท่านน้ั สาหรับพ้นื ทีห่ ่างไกลนอกเขตชลประทานท่ีมีพ้ืนที่ ถึง 121,200,000 ไร่ ยังคงต้องประสบ กับปญั หาการขาดแคลนนา้ เพอื่ ใช้ในการเกษตร รูปแบบ “โคก หนอง นา” โมเดล “โคก หนอง นา โมเดล” จงึ เป็นรปู แบบหนึง่ ของ การแก้ไขปญั หาเรอื่ งการจดั การน้า ที่สถาบันเศรษฐกิจ พอเพียง และมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ได้น้อมนาพระราชดารัสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช รชั กาลท่ี 9 ด้านการทาเกษตรทฤษฎีใหมต่ าม แนวเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้บริหารจัดการน้า และพื้นที่ การเกษตร โดยมีการผสมผสานกับภูมิปญั ญาพื้นบ้าน ให้สอดคลอ้ งกนั โดยแบ่งพนื้ ที่ เปน็ สดั ส่วน 30 : 30 : 30 : 10 ดังน้ี 30% สาหรบั แหล่งน้า โดยการขุดบ่อ ทาหนองและคลองไส้ไก่ 30% สาหรับทานา ปลูกข้าว 30% สาหรับทาโคกหรือป่า ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ก็คือปลูกไม้ใช้สอย ไม้กินได้และไม้เศรษฐกิจ เพ่ือให้ ไดป้ ระโยชน์ คือ มีกนิ มอี ยู่ มีใช้ มีความสมบูรณ์ และความร่มเย็น และ 10% สาหรับท่ีอยู่อาศัย และ เลี้ยงสัตว์ เชน่ ไก่ ปลา วัว และควาย เป็นตน้ การออกแบบท่ีคานึงถงึ “ภูมิสงั คม” การออกแบบพื้นที่ โคก หนอง นา โมเดล จะคานึงถึง “ภูมิสังคม” เป็นสาคัญ“ภูมิ” คือ สภาพทาง กายภาพ เช่น สภาพดิน น้า ลม สังคม คือ วัฒนธรรม ความเชื่อภูมิปัญญาดั้งเดิมท่ีอยู่ในพื้นที่นั้น ซ่ึงในการ ออกแบบจะให้ความสาคัญกับ “สังคม” มากกว่า “ภูมิ” คือต้องออกแบบตามสังคมและวัฒนธรรมของคนที่อยู่ แม้วา่ ภมู ปิ ระเทศจะเหมอื นกันกต็ าม หากสังคมต่างกัน การออกแบบก็จะต่างกนั โดยสน้ิ เชิง การกกั เก็บนา้ ของ “โคก หนอง นา” โมเดล หลกั การสาคัญของโคก หนอง นา โมเดล คือการเก็บกักน้าไว้ใช้อย่างเพียง พอ ซ่ึงการออกแบบพื้นที่จะ ให้ความสาคญั ต่อการเกบ็ นา้ 3 สว่ นหลกั ๆ ได้แก่
1. เก็บนา้ ไวใ้ นหนอง: การขุดหนองจะต้องขดุ ใหค้ ดโคง้ และมรี ะดบั ตน้ื ลึก แตกตา่ งกนั ไปในแต่ละจุด ซ่ึง กอ่ นขดุ ตอ้ งมีการคานวณปริมาตรน้าทสี่ ามารถ เก็บไดใ้ นหนองเพอื่ ให้พอใช้งาน 2. เก็บน้าไว้บนโคก: ทาได้โดยการปลูกป่าและเก็บในระบบรากของต้นไม้ ท่ีปลูกไว้ 5 ระดับ ได้แก่ ไม้ ระดับสูง ไม้ช้ันกลาง ไม้ชั้นเตี้ย ไม้เรี่ยดิน และ ไม้หัวใต้ดิน ไม้แต่ละระดับควรจะมีอย่างน้อยไม่น้อยกว่า 21 ชนิด เพ่ือสร้าง ความหลากหลายของระบบราก เมื่อฝนตกลงมาระบบรากจะช่วยอุ้มนา้ ไว้ในดนิ 3. เก็บไว้ในนา: ยกคันนาให้สูงและกว้าง สามารถเก็บน้าไว้ใช้ในช่วง ฝนท้ิงช่วง นอกจากนี้เรายัง สามารถปลูกพชื ผกั ไวบ้ นคันนาไดอ้ ีกดว้ ย ตวั อย่างแนวคดิ การจัดการนา้ “โคก หนอง นา โมเดล” เพอ่ื กกั เกบ็ นา้ ไว้ทง้ั บนดิน (ดว้ ยหนอง คลองไส้ไก่ และคันนา) และใต้ดิน (ด้วยป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่างตามแนว พระราชดาร)ิ โดย คณะสถาปตั ยกรรมศาสตร์ สถาบนั พระจอมเกลา้ เจา้ คุณทหารลาดกระบัง จดหมายขา่ วเกษตรและสหกรณ์
บทที่ 3 วธิ ีดาเนนิ การ รายงานผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามโครงการประยุกต์ใช้ศาสตร์ พระราชา สู่ต้นแบบ “โคก หนองนา โมเดล” ในวันท่ี 24 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ณ ศูนย์ชุมชน ต้นแบบพฒั นาคุณภาพชีวิต CLM โคก หนองนา โมเดล ประจาตาบลสมเด็จเจริญ ม.2 บ้านเขาหินต้ัง ตาบล สมเด็จเจริญ อาเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ได้นาวงจรคุณภาพของเดมิ่ง PDCA มาใช้ในการดาเนินการ 4 ข้ันตอน ดังน้ี 1. ขั้นตอนการร่วมกนั วางแผน (Plan) 2. ข้ันตอนการรว่ มกนั ปฏบิ ตั ิ (Do) 3. ขน้ั ตอนการรว่ มกนั ประเมนิ (Check) 4. ข้ันตอนการรว่ มปรบั ปรุง (Act) 1. ข้ันตอนการร่วมกนั วางแผน (Plan) ขั้นตอนน้เี ป็นการวางแผนการดาเนินการโดยมขี นั้ ตอน ดังน้ี 1.1 สารวจความตอ้ งการอาชพี ที่แทจ้ รงิ ในระดบั พืน้ ที่ตาบล 1.2 ประชุมปรึกษารว่ มกันระหว่างหัวหนา้ งานการศึกษาต่อเน่ือง หัวหนา้ งานแผน 1.3 จดั ทาโครงการประยกุ ต์ใชศ้ าสตร์พระราชา สู่ตน้ แบบ “โคก หนองนา โมเดล” เสนอผ้บู รหิ ารเพื่อ พจิ ารณา เห็นชอบ 1.4 ตดิ ตอ่ ประสานงานเตรียมความพร้อม ดา้ นวิทยากร ผู้เรยี น เน้อื หาหลักสูตร และทั้งดา้ น สถานที่ 1.5 สรา้ งความเข้าใจกับวทิ ยากร และผู้เรียน เพือ่ กาหนดแนวทางในการดาเนินการ 1.6 แต่งต้งั คณะกรรมการนิเทศ และแตง่ ตั้งวทิ ยากรการศึกษาต่อเนื่องรปู แบบกลมุ่ สนใจ 1.7 กาหนดระยะเวลาในการดาเนนิ การ วธิ ีประเมินผล และการตดิ ตามผล 2. ขั้นตอนการร่วมกนั ปฏบิ ัติ (Do) การปฏบิ ตั งิ านตามแผนงานท่ีวางไวโ้ ดยมขี ้นั ตอนในการดาเนินงาน ดังนี้ 2.1 บันทกึ เสนอผู้บริหารเพ่ือขออนุญาตดาเนนิ การ 2.2 ดาเนินการตามโครงการประยุกต์ใช้ศาสตร์พระราชา สู่ต้นแบบ “โคก หนองนา โมเดล” ในวันท่ี 24 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ณ ศูนย์ชุมชนต้นแบบพัฒนาคุณภาพชีวิต CLM โคก หนองนา โมเดล ประจาตาบลสมเด็จเจริญ ม.2 บา้ นเขาหนิ ต้ัง ตาบลสมเด็จเจริญ อาเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี กลุ่มเปา้ หมายเป็น ประชาชนท่วั ไป ตาบลสมเดจ็ เจริญ จานวน 3 คน โดยมกี จิ กรรมดาเนนิ การดงั น้ี 2.2.1 เร่ืองท่ี 1. การจัดการพ้ืนท่ีตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล และ ทฤษฎีบนั ได 9 ขน้ั สคู่ วามพอเพียง 2.2.2 เรอ่ื งที่ 2. ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อยา่ ง ป่า 5 ระดบั 2.2.3 เร่ืองท่ี 3. ศกึ ษาสถานท่จี ริง เรือ่ ง การปรับปรุงรูปแบบแปลงท่ีดิน (การทาคลองไสไ้ ก่ หนอง โคก หลมุ ขนมครก)
2.2.4 เรอื่ งท่ี 4. หลกั สูตรการทานา้ หมกั รสจดื หรือจลุ นิ ทรียห์ นอ่ กล้วย (นา้ หมกั พ่อ) (น้าหมัก แม)่ วิทยากร โดย นายวุฒชิ ยั แก้วดอนไพร 3. ขั้นตอนการรว่ มกันประเมนิ (Check) 3.1 ดาเนินการประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามโครงการ ประยกุ ตใ์ ช้ศาสตรพ์ ระราชา สู่ต้นแบบ “โคก หนองนา โมเดล” ในวันท่ี 24 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ณ ศูนยช์ มุ ชนต้นแบบพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ CLM โคก หนองนา โมเดล ประจาตาบลสมเด็จเจริญ ม.2 บ้านเขาหิน ตงั้ ตาบลสมเด็จเจริญ อาเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี โดยใช้แบบประเมินผลการจัดการศึกษาต่อเน่ือง และแบบประเมนิ ความพงึ พอใจ 3.2 ข้อมลู ที่เปน็ มาตราสว่ นประมาณค่า (Rating Scale) ใชว้ ิธีแจกแจงความถ่ี หาค่าเฉล่ีย และค่าร้อย ละ ท้ังรายข้อและภาพรวมเทยี บเกณฑ์ ดังนี้ ระดบั ความพึงพอใจ 5 หมายถึง มคี วามเหมาะสม/การปฏบิ ตั อิ ยู่ในระดบั มากทีส่ ดุ 4 หมายถึง มคี วามเหมาะสม/การปฏิบัติอยู่ในระดับมาก 3 หมายถงึ มคี วามเหมาะสม/การปฏบิ ัตอิ ยใู่ นระดับปานกลาง 2 หมายถงึ มีความเหมาะสม/การปฏบิ ัติอยู่ในระดับน้อย 1 หมายถงึ มคี วามเหมาะสม/การปฏบิ ตั อิ ยู่ในระดับน้อยท่สี ดุ 3.3 ขอ้ มลู ทีเ่ ป็นความคดิ เหน็ ขอ้ เสนอแนะจากแบบประเมินความพงึ พอใจ ใชว้ ธิ ี วเิ คราะหเ์ น้อื เรอ่ื ง 3.4 สถติ ตทิ ีใ่ ชใ้ นการวิเคราะห์ขอ้ มูล - ค่าร้อยละ 3.5 รายงานผลการดาเนินงานต่อผู้บริหาร และบุคลากรศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศัยอาเภอหนองปรือ 4. ขัน้ ตอนการร่วมปรบั ปรุง (Act) เมอื่ คณะกรรมการฝา่ ยนิเทศ ประเมนิ ผล สรุปผลการดาเนนิ งาน ปัญหา อุปสรรค และขอ้ เสนอแนะ ผรู้ ับผิดชอบกิจกรรมจงึ ไดน้ าสารสนเทศทไ่ี ดม้ าปรับปรุง พฒั นาการงานใหม้ ปี ระสิทธิภาพมากยงิ่ ข้นึ
บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ การและวิเคราะห์ข้อมลู ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามโครงการประยุกต์ใช้ศาสตร์พระราชา สู่ ต้นแบบ “โคก หนองนา โมเดล” ในวันท่ี 24 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ณ ศูนย์ชุมชนต้นแบบพัฒนา คุณภาพชีวิต CLM โคก หนองนา โมเดล ประจาตาบลสมเด็จเจริญ ม.2 บ้านเขาหินตั้ง ตาบลสมเด็จเจริญ อาเภอหนองปรอื จังหวดั กาญจนบุรี สามารถสรปุ ขัน้ ตอนในการดาเนนิ งาน ดังนี้ ข้นั ตอนการรว่ มกันวางแผน (Plan) ข้ันตอนนี้เป็นการวางแผนการดาเนินการโดยมีขั้นตอน พบว่า ในสารวจความต้องการอาชีพที่ แท้จริงในระดับพ้ืนที่ตาบล ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี ต่อด้วยประชุมปรึกษาร่วมกันระหว่าง หัวหน้างานการศึกษาต่อเนื่อง หัวหน้างานแผน แล้วเสนอผู้บริหารเพ่ือพิจารณาเห็นชอบ จัดทาโครงการ ประยุกต์ใช้ศาสตร์พระราชา สู่ต้นแบบ “โคก หนองนา โมเดล” ได้รับการอนุมัติ พร้อมท้ังดาเนินการติดต่อ ประสานงานเตรียมความพร้อม ด้านวิทยากร ผู้เรียน เน้ือหาหลักสูตร และท้ังด้านสถานท่ี สร้างความเข้าใจกับ วิทยากร และผู้เรียน เพ่ือกาหนดแนวทางในการดาเนินการแต่งต้ังคณะกรรมการนิเทศ และแต่งตั้งวิทยากร การศกึ ษาตอ่ เนือ่ งรปู แบบกลมุ่ สนใจ เพือ่ ประเมนิ ผลสรปุ ผลการดาเนินงาน ตอ่ ไป ตามลาดับ ขั้นตอนการร่วมกนั ปฏิบตั ิ (Do) การปฏิบัติงานตามแผนงานท่ีวางไว้โดยมีข้ันตอนในการดาเนินงาน คือ บันทึกเสนอผู้บริหาร เพ่ือขออนุญาตดาเนินการ พบว่า ได้รับการอนุญาตและให้ดาเนินการ และผลการดาเนินการตามโครงการ ประยุกต์ใชศ้ าสตรพ์ ระราชา สู่ตน้ แบบ “โคก หนองนา โมเดล” ในวันที่ 24 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ณ ศนู ย์ชุมชนตน้ แบบพัฒนาคุณภาพชีวิต CLM โคก หนองนา โมเดล ประจาตาบลสมเด็จเจริญ ม.2 บ้านเขาหิน ตั้ง ตาบลสมเด็จเจริญ อาเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็น ประชาชนท่ัวไป ตาบล สมเดจ็ เจริญ จานวน 3 คน ผลการดาเนินโครงการ 3 คน พบว่า กิจกรรมการจัดการพื้นที่ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกตส์ ู่ “โคก หนอง นา โมเดล และทฤษฎีบันได 9 ขั้น สู่ความพอเพียง กิจกรรม ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ป่า 5 ระดับ กิจกรรม ศึกษาสถานที่จริง เรื่อง การปรับปรุงรูปแบบแปลงท่ีดิน (การทาคลองไส้ไก่ หนอง โคก หลมุ ขนมครก) และกจิ กรรม หลกั สตู รการทาน้าหมักรสจืด หรือจุลินทรีย์หน่อกล้วย (น้าหมักพ่อ) (น้าหมัก แม่)ประชาชนผ้เู รียนให้ความร่วมมือในการดาเนินการกิจกรรมด้วยดี ผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้ความสนใจในรูปแบบ ของกจิ กรรม และให้ความร่วมมอื ในการฝกึ ปฏบิ ตั ิ ข้นั ตอนการรว่ มกันประเมิน (Check) การประเมินผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรหู้ ลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงตามโครงการประยุกต์ใช้ศาสตร์ พระราชา สู่ต้นแบบ “โคก หนองนา โมเดล” ในวันท่ี 24 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ณ ศูนย์ชุมชน ต้นแบบพฒั นาคุณภาพชีวติ CLM โคก หนองนา โมเดล ประจาตาบลสมเด็จเจริญ ม.2 บ้านเขาหินตั้ง ตาบล สมเด็จเจริญ อาเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี โดยใช้แบบประเมินความพึงพอใจ พบว่า วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้คา่ ร้อยละ จากแบบสอบถาม ท้ังรายข้อและภาพรวมเทยี บเกณฑ์ โดยสรปุ ได้ดงั นี้
ระดับความพงึ พอใจ 5 หมายถึง มคี วามเหมาะสม/การปฏิบตั ิอยู่ในระดับมากทสี่ ุด 4 หมายถงึ มคี วามเหมาะสม/การปฏบิ ัตอิ ย่ใู นระดับมาก 3 หมายถึง มีความเหมาะสม/การปฏบิ ตั ิอยู่ในระดบั ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามเหมาะสม/การปฏบิ ัติอยใู่ นระดับน้อย 1 หมายถงึ มคี วามเหมาะสม/การปฏบิ ตั ิอยใู่ นระดบั นอ้ ยท่ีสุด สรปุ แบบประเมินความพึงพอใจ โครงการประยุกต์ใช้ศาสตร์พระราชา สตู่ ้นแบบ “โคก หนองนา โมเดล” จากการวเิ คราะหข์ ้อมลู แบบ ประเมินความพงึ พอใจต่อการใหบ้ รกิ ารการจดั กิจกรรม ได้สรปุ ผลการประเมนิ ดงั นี้ ที่ ประเด็นการถาม 5 ระดบั ความพึงพอใจ 1 มากทีส่ ดุ น้อยทส่ี ุด 1 เนอื้ หาวิชาที่จดั การเรยี นรู้ตรงตามความต้องการ 432 ของทา่ นเพียงใด 15 มาก ปานกลาง น้อย 88% 2 วทิ ยากรใหค้ วามร้ตู รงตามเวลา 2 15 12% 3 วิทยากรใหค้ วามรู้ครบตามหลักสตู ร 88% 2 4 ความสามารถในการถา่ ยทอดความรขู้ องวิทยากร 15 12% 88% 5 จานวนสื่อ/อุปกรณก์ ารฝกึ ทักษะไดต้ ามที่คาดหวงั 2 มากน้อยเพยี งใด 16 12% 94% 6 ท่านไดร้ บั ความรแู้ ละความสามารถฝึกทักษะได้ 1 ตามที่คาดหวังมากน้อยเพยี งใด 15 6% 88% 7 ความรูท้ ักษะทีไ่ ด้ สามารถนาไปใชป้ ระกอบอาชีพ 2 ไดเ้ พยี งใด 15 12% 88% 8 สถานที่เรียนเหมาะสมเพียงใด 2 16 12% 9. ท่านได้รับความรู้และสามารถฝกึ ทกั ษะได้ตามที่ 94% คาดหวังมากน้อยเพยี งใด 1 15 6% 10 ระยะเวลาในการเรยี น/กจิ กรรมเหมาะสมเพียงใด 88% 2 11. ความรทู้ ่ีได้รับค้มุ ค่ากับเวลา และความต้ังใจ 15 12% เพียงใด 88% 2 12. ทา่ นพงึ พอใจตอ่ หลักสตู รนีเ้ พียงใด 15 12% 88% 2 15 12% 88% 2 15 12% 88% 2 12%
จากตารางพบว่าผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ มีความพึงพอใจตอ่ ปจั จยั ดาเนินงานและเสดงความคดิ เหน็ เพ่ิมเตมิ ตอ่ โครงการประยกุ ต์ใช้ศาสตร์พระราชา สตู่ น้ แบบ “โคก หนองนา โมเดล” โดยตั้งประเดน็ ไว้ 12 ประเดน็ ปรากฏดังนี้ 1. เนื้อหาวิชาท่จี ดั การเรยี นรตู้ รงตามความต้องการของท่านเพียงใด สว่ นใหญพ่ อใจระดับมาก ท่สี ุด จานวน 15 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 88 รองลองมาพอใจระดับมาก จานวน 2 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 12 2. วิทยากรใหค้ วามรู้ตรงตามเวลา สว่ นใหญ่พอใจระดบั มากท่ีสดุ จานวน 15 คน คิดเปน็ ร้อย ละ 88 รองลองมาพอใจระดับมาก จานวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 12 3. วทิ ยากรให้ความรู้ครบตามหลักสตู ร สว่ นใหญพ่ อใจระดบั มากทีส่ ดุ จานวน 15 คน คิดเป็น รอ้ ยละ 88 รองลองมาพอใจระดบั มาก จานวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 12 4. ความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ของวทิ ยากร ส่วนใหญพ่ อใจระดับมากท่สี ดุ จานวน 16 คน คิดเปน็ ร้อยละ 94 รองลองมาพอใจระดับมาก จานวน 1 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 6 5. จานวนส่ือ/อุปกรณก์ ารฝึกทักษะได้ตามทคี่ าดหวงั มากน้อยเพยี งใด ส่วนใหญพ่ อใจระดบั มาก ที่สดุ จานวน 15 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 88 รองลองมาพอใจระดับมาก จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 12 6. ทา่ นได้รบั ความรูแ้ ละสามารถฝึกทกั ษะไดต้ ามที่คาดหวงั มากนอ้ ยเพยี งใด ส่วนใหญพ่ อใจระดับ มากทส่ี ุด จานวน 15 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 88 รองลองมาพอใจระดบั มาก จานวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 12 7. ความรู้ทักษะทไ่ี ด้ สามารถนาไปใช้ประกอบอาชพี ไดเ้ พยี งใด สว่ นใหญพ่ อใจระดับมากท่สี ดุ จานวน 16 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 94 รองลองมาพอใจระดับมาก จานวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 6 8. สถานท่ีเรียนเหมาะสมเพียงใด ส่วนใหญพ่ อใจระดับมากที่สดุ จานวน 15 คน คิดเป็นร้อย ละ 88 รองลองมาพอใจระดับมาก จานวน 2 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 12 9. ทา่ นได้รบั ความรู้และสามารถฝกึ ทกั ษะไดต้ ามท่คี าดหวงั ส่วนใหญ่พอใจระดับมากท่สี ดุ จานวน 15 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 88 รองลองมาพอใจระดับมาก จานวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 12 10. ระยะเวลาในการเรยี น/กิจกรรมเหมาะสมเพียงใด ส่วนใหญ่พอใจระดบั มากทีส่ ุด จานวน 15 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 88 รองลองมาพอใจระดับมาก จานวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 12 11. ความรูท้ ่ไี ด้รับค้มุ คา่ กบั เวลา และความต้ังใจเพียงใด สว่ นใหญ่พอใจระดับมากที่สดุ จานวน 15 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 88 รองลองมาพอใจระดับมาก จานวน 2 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 12 12. ทา่ นพึงพอใจตอ่ หลักสูตรนเ้ี พียงใด สว่ นใหญพ่ อใจระดบั มากทส่ี ุด จานวน 15 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 88 รองลองมาพอใจระดับมาก จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 12 สรุประดบั ความพงึ พอใจของผู้เข้ารว่ มกจิ กรรม จากการสรปุ แบบประเมนิ ความพงึ พอใจแสดงให้เห็นวา่ ผ้เู ข้าร่วมโครงการทีต่ อบแบบสอบถามมีความ คดิ เห็นเก่ียวกับการจดั กิจกรรม พบวา่ มคี วามพงึ พอใจ ดังน้ี สถิตทิ ใี่ ช้ในการวิเคราะหข์ ้อมลู หาค่าเฉลีย่ รอ้ ยละระดบั ความพงึ พอใจ = จานวนผลรวมร้อยละของระดับความพึงพอใจ จานวนประเด็น(12 ขอ้ )
พึงพอใจระดบั มากที่สดุ คิดเปน็ ร้อยละ 89.00 พงึ พอใจระดับมาก คิดเป็นรอ้ ยละ 11.00 พงึ พอใจระดับปานกลาง คิดเปน็ รอ้ ยละ - พงึ พอใจระดับน้อย คดิ เป็นรอ้ ยละ - พึงพอใจระดับน้อยท่สี ดุ คิดเปน็ ร้อยละ - สรุประดับความพอใจของผู้เข้ารว่ มกิจกรรม สรุปได้วา่ อยใู่ นระดบั มากที่สุด คอื 89.00 สรปุ ผลร้อยละผู้สาเรจ็ การศกึ ษาต่อเนอ่ื งท่นี าความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ เกณฑ์การพิจารณาเชงิ ปรมิ าณ รอ้ ยละของผู้สาเรจ็ การศึกษาตอ่ เนอื่ ง จานวน รอ้ ยละ รอ้ ยละของผู้สาเรจ็ การศกึ ษาตอ่ เนื่อง ทน่ี าความรู้ไปใช้ประโยชน์ 1. ตอ่ ยอดอาชีพเดิม -- 2. สรา้ งรายได้เสรมิ -- 3. ประกอบอาชีพใหม่ -- 4. ใช้เพ่ิมโอกาสในการเรียนรู้ -- 5. ใช้พัฒนาตนเอง ครอบครวั ชุมชน สังคม 17 100 รวม 17 คน 100%
บทที่ 5 สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตามโครงการประยุกตใ์ ชศ้ าสตร์พระราชา ส่ตู ้นแบบ “โคก หนองนา โมเดล” ในวนั ที่ 24 เดือนพฤศจกิ ายน พ.ศ. 2564 ณ ศนู ยช์ มุ ชนต้นแบบพัฒนา คณุ ภาพชวี ติ CLM โคก หนองนา โมเดล ประจาตาบลสมเดจ็ เจรญิ ม.2 บา้ นเขาหนิ ต้งั ตาบลสมเด็จเจริญ อาเภอหนองปรือ จงั หวัดกาญจนบุรี ไดผ้ ลสรุป ดังนี้ 1. วตั ถุประสงค์ 2. เปา้ หมาย 3. เครื่องมือ 4. การเกบ็ รวบรวมข้อมูล 5. สรปุ ผลการดาเนินการ 6. ขอ้ เสนอแนะ 1. วัตถปุ ระสงค์ ๑ เพ่ือส่งเสริมการเรียนรู้การน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่การปฏิบัติในรูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล ๒ เพื่อขยายผลการพัฒนาพ้ืนท่ีต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนองนา โมเดล” 2. เปา้ หมาย เชงิ ปรมิ าณ ประชาชนตาบลสมเดจ็ เจรญิ จานวน 17 คน เชงิ คณุ ภาพ ร้อยละ๘๐ ของผเู้ ข้ารบั การอบรมได้รบั ความรู้ การนอ้ มนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งประยุกต์สู่ การปฏบิ ตั ิในรูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล และการขยายผลการพัฒนาพ้นื ทีต่ น้ แบบการพัฒนาคุณภาพชวี ิต ตามหลกั ทฤษฎีใหม่ ประยกุ ต์สู่ “โคก หนองนา โมเดล” 3. เครอ่ื งมอื เคร่ืองมือทใ่ี ชก้ ารเก็บรวบรวมขอ้ มลู ในครั้งนี้ 1. แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ 2. ทะเบยี นรายชอ่ื ผจู้ บหลกั สูตรการศึกษาตอ่ เนือ่ ง 3. แบบการตดิ ตามผเู้ รียน
4. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล มขี น้ั ตอนในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ในครง้ั น้ี 1. ผู้รบั ผดิ ชอบโครงการ แจกแบบประเมินความพงึ พอใจใหแ้ ก่ผ้เู รียน 2. ผรู้ ับผิดชอบโครงการ และวทิ ยากร ประเมนิ ผเู้ รียนตามแบบประเมินผลการจดั การศึกษาตอ่ เนื่อง 3. ผู้รับผิดชอบโครงการ ตดิ ตามผเู้ รยี น ตามแบบตดิ ตามผเู้ รียนหลังจบหลกั สูตร 4. ผูร้ ับผดิ ชอบโครงการรายงานผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรหู้ ลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลการดาเนนิ การ ได้ดาเนินการจัดกิจกรรมต่างๆ ตามแผนปฏิบัติการประจาปี 2564 กศน.ตาบลสมเด็จเจริญ ภายใต้ โครงการประยุกต์ใช้ศาสตร์พระราชา สู่ต้นแบบ “โคก หนองนา โมเดล” ในวันท่ี 24 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ณ ศนู ย์ชมุ ชนตน้ แบบพัฒนาคุณภาพชีวิต CLM โคก หนองนา โมเดล ประจาตาบลสมเด็จเจริญ ม.2 บ้านเขาหนิ ต้ัง ตาบลสมเดจ็ เจริญ อาเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี โดยดาเนินการแล้วเสร็จและสรุปต่อ ผบู้ ริหารทงั้ สิ้น จานวน 4 กจิ กรรม ไดแ้ ก่ เรื่องท่ี 1. การจัดการพื้นที่ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล และทฤษฎี บันได 9 ขั้น สู่ความพอเพียง เรอ่ื งที่ 2. ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ป่า 5 ระดบั เรื่องท่ี 3. ศึกษาสถานท่ีจริง เร่อื ง การปรบั ปรุงรปู แบบแปลงที่ดนิ (การทาคลองไส้ไก่ หนอง โคก หลมุ ขนมครก) เรือ่ งที่ 4. หลกั สูตรการทานา้ หมักรสจืด หรือจลุ ินทรียห์ นอ่ กล้วย (นา้ หมักพ่อ) (น้าหมักแม)่ วทิ ยากรโดยนายวฒุ ชิ ยั แกว้ ดอนไพร สรปุ โดยภาพรวม พบว่า การจัดกิจกรรมท่ีจัดข้ึนภายใต้โครงการประยุกต์ใช้ศาสตร์พระราชา สู่ต้นแบบ “โคก หนองนา โมเดล” สาเร็จลุล่วงไปด้วยดี จากแบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน พบว่า ผู้เรียนส่วน ใหญ่มกี ารประเมินความพึงพอใจในโครงการอยู่ในระดบั มากถึงมากทีส่ ุด ปญั หาและขอ้ เสนอแนะ 1. ด้วยสถานการณ์การระบาดของเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 การประสานงานผู้เข้าร่วมโครงการ คอ่ นข้างยาก
บรรณานกุ รม ทมี่ า ค่มู ือแนวทางการดาเนินงานการจัดการศึกษาต่อเนอ่ื ง (ฉบบั ปรบั ปรงุ 2561) กลมุ่ สง่ เสรมิ การปฏบิ ัติการ สานักงาน กศน. คมู่ ือการจัดกจิ กรรมฝึกอบรมประชาชน สานกั งานพัฒนาชุมชนจนั ทบุรี https://chonburi.cdd.go.th/kok-nong-naa จดหมายข่าวเกษตรและสหกรณ์ https://www.opsmoac.go.th/km-km_article-files-401591791792
ภาคผนวก
ภาพโครงการประยกุ ต์ใช้ศาสตรพ์ ระราชา สตู่ ้นแบบ “โคก หนองนา โมเดล” ในวนั ท่ี 24 เดอื นพฤศจกิ ายน พ.ศ. 2564 ณ ศนู ยช์ มุ ชนต้นแบบพัฒนาคุณภาพชีวติ CLM โคก หนองนา โมเดล ประจาตาบลสมเดจ็ เจรญิ ม.2 บา้ นเขาหนิ ตั้ง ตาบลสมเด็จเจริญ อาเภอหนองปรือ จงั หวดั กาญจนบุรี
คณะผจู้ ดั ทา ท่ปี รกึ ษา นางสาวรนิ รดา ภโู ต ผู้อานวยการ กศน.อาเภอหนองปรือ นางสาววารุณี แดงเพชร ครู นางสาวนภาพร นิฎฐิยานนท์ ครูผ้ชู ว่ ย นางสาวสายไหม อสิพงษ์ บรรณารกั ษ์ปฏบิ ัติการ นายวัชระ คงั คะสุวรรณ ครอู าสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน คณะทางาน ครู กศน.ตาบลสมเด็จเจริญ นายโชคชัย ยง้ั ประยทุ ธ์ เนื้อหา/ข้อมูล ครู กศน.ตาบลสมเดจ็ เจริญ นายโชคชัย ย้ังประยุทธ์ รปู เลม่ /พิมพ/์ ปก ครู กศน.ตาบลสมเดจ็ เจริญ นายโชคชยั ยง้ั ประยุทธ์
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: