บท-บรรยาย Slide ก่อนท่ีเราจะไปเขียนแผนบทเรียนไดน้ ้นั เราตอ้ งรู้ก่อนว่าแผนบทเรียนคืออะไร แผน บทเรียนก็คือ ตวั กาหนดการเอาไวล้ ่วงหน้า เพ่ือใช้เป็ นแนวทางในการจดั กิจกรรม ต่างๆ ในการเรียนการสอนอย่างมีเป้าหมาย ซ่ึงถา้ เราไม่เขา้ ใจเกี่ยวกบั การเขียนแผน บทเรียนน้ัน ก็จะทาให้การจัดการเรียนการสอนของเราไม่เป็ นไปตามเป้าหมายท่ี กาหนดไว้ ซ่ึงจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการเรียนการสอนของเราและส่งผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนของผเู้ รียนดว้ ย ดงั ท่ีกล่าวมา เราก็ทราบความหมายเกี่ยวกบั แผนบทเรียนแลว้ ว่ามีความสาคญั อย่างไร และจะทายงั ไงให้การจดั การเรียนการสอนของเราเป็ นไปตามเป้าหมายและ บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กาหนดไว้ เราก็มาเรียนรู้ในหลักการในการเขียนแผน บทเรียน แผนบทเรียนประกอบดว้ ยส่วนต่างๆ ดงั น้ี 1.หวั ขอ้ และรายละเอียดตา่ งๆ 2.วตั ถปุ ระสงค์ 3.การนาเขา้ สู่บทเรียน 4.ปฏิบตั ิการสอน 5.สิ่งท่ีแนบมาดว้ ย
ต่อมามาทาความเขา้ ใจในแตล่ ะส่วนของแผนบทเรียน 1.รายละเอยี ดต่างๆ ท่ีจะเป็ นตวั กาหนดว่า จะสอนวิชาอะไร เรื่องอะไร รายละเอียดเก่ียวกับตัวผูส้ อน อาจารยน์ ิเทศ และวนั ท่ีเวลาสอน 2.วตั ถปุ ระสงค์ หรือวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรม ในส่วนน้ีให้เรานาวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรมที่ได้ จากบทเรียน “การเขียนวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรม” ก่อนหน้าน้ีมาใส่ให้ครบถว้ น สมบรู ณ์ของข้นั ตอนปฏิบตั ิงาน ต่อมาเป็นส่วนของระดบั ความสาคญั ของวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ซ่ึงเรียงจากมาก ไปนอ้ ย กค็ ือ X = มาก, I = ปานกลาง, O = นอ้ ย การใหร้ ะดบั ความสาคญั ของวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมมีหลกั การ ดงั น้ี เช่น อธิบายวิธีการก่อผนงั อิฐมวลเบาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ซ่ึงระดบั ความสาคญั อยใู่ นระดบั มาก แต่จะรู้ไดอ้ ยา่ งไรวา่ วตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤติกรรมน้นั อยใู่ นระดบั ใด เรากต็ อ้ งดูก่อน วา่ เราวดั ผเู้ รียนในระดบั ใด เช่น ในที่น้ีจะวดั ผเู้ รียนในระดบั พทุ ธิพสิ ยั ซ่ึงในระดบั พทุ ธิ พสิ ยั น้นั จะแบง่ ระดบั ความลึกซ้ึงออกเป็น 3 ระดบั คือ ความรู้ความจา ความเขา้ ใจ และการส่งถ่าย แลว้ จะรู้ได้อย่างไรว่าวตั ถุประสงคเ์ ชิง พฤติกรรมน้นั อยใู่ นระดบั ไหน ก็ตอ้ งยอ้ นกลบั มาดูวา่ คากริยาท่ีใชข้ ้ึนตน้ ประโยคของ วตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรม ก็จะทราบว่าระดับความสาคัญของวตั ถุประสงค์เชิง พฤติกรรมอยใู่ นระดบั มาก ปานกลาง หรือนอ้ ย
คากริยาท่ีเหมาะจะนามาใชใ้ นระดบั ความรู้ความจาก็คือ บอกความหมาย บอก ชื่อ เป็นตน้ คากริยาท่ีเหมาะจะนามาใชใ้ นระดบั ความเขา้ ใจ คือ อธิบาย คานวณ เป็นตน้ คากริยาที่เหมาะจะนามาใชใ้ นระดบั การส่งถา่ ย คือ วิเคราะห์ สังเคราะห์ เป็นตน้ เมื่อเราเขา้ ใจในหลกั การให้ระดบั ความสาคญั ของวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม แลว้ กจ็ ะสามารถใหร้ ะดบั ความสาคญั ของวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ดังที่ยกตวั อย่างวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 1 มาน้ีใช้คากริยาว่า อธิบาย ฉะน้นั ระดบั ความสาคญั จะอยใู่ นระดบั มาก ซ่ึงใชค้ วามรู้ในระดบั ความเขา้ ใจนนั่ เอง ยกตวั อย่างวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 2 ใชค้ ากริยาว่า บอก ฉะน้นั ระดบั ความสาคญั จะอยใู่ นระดบั ปานกลาง ซ่ึงใชค้ วามรู้ในระดบั ความรู้ความจานนั่ เอง ส่วนต่อมา คือ รายละเอียดต่างๆ ท่ีตอ้ งระบไุ ว้ ส่วนแรกคือ IS หรื อ Information Sheet หรื อใบเน้ือหา ก็ต้องดูว่าเน้ือหาของ วตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 1 อยู่ในหน้าใดถึงหน้าใด ตามตวั อย่างน้ีคือ อยู่ใน หนา้ ที่ 1 - หนา้ ท่ี 3 ส่วนต่อมา คือ WS หรือ Work Sheet หรือแบบฝึ กหัดนน่ั เอง เช่น แบบฝึ กหัดท่ีเรา ออกในวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 1 คือขอ้ ที่เท่าไร และอยู่หน้าที่เท่าไร ตาม ตวั อยา่ งน้ีคือ แบบฝึกหดั ของวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ที่ 1 อยใู่ นหนา้ ท่ี 7 ส่วนต่อมา คือ TS หรือ Test Sheet หรือใบทดสอบนั่นเอง ในตวั อย่างน้ีจะไม่มี เพราะเราสอนทฤษฎี ไมไ่ ดส้ อนปฏิบตั ิ ส่วนต่อมา คือ RM หรือ Remarks หรือหมายเหตุนั่นเอง เพื่อขยายความเพ่ิมเติม ตามตวั อยา่ งน้ีใชเ้ พือ่ ขยายความของอกั ษรยอ่ คือ ข. = ขอ้ , น. = หนา้
3.การนาเข้าสู่บทเรียน หรือ Motivate หวั ขอ้ ก. คือ อุปกรณ์ช่วยสอน ตามตวั อยา่ งน้ีใช้ Power Point และโมเดล ในส่วนน้ีใหใ้ ส่รูปภาพเปรียบเทียบ หรือรูปภาพท่ีเกิดประเด็นปัญหา เพือ่ ท่ีจะโยงเขา้ สู่ เน้ือหาไดอ้ ยา่ งน่าสนใจ หัวข้อ ข. คือ คาถามประกอบ เราก็ใช้คาถามจากเรื่ องที่จะสอน หรื อ วตั ถุประสงคท์ ่ีเราไดต้ ้งั ไว้ ซ่ึงตามตวั อยา่ งน้ีวตั ถปุ ระสงคค์ ือ อธิบายวิธีการก่อผนงั อิฐ มวลเบาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ก็ใชค้ าถามประกอบ ดงั น้ี จากภาพ A นกั ศึกษาทราบไหมครับ วา่ ทาไมผนงั บา้ นเราเอียง ไม่ไดด้ ่ิง ไม่ไดแ้ นว และจะมีวิธีการยงั ไงท่ีจะทาใหผ้ นงั บา้ น เราตรง ไดร้ ะดบั ไดแ้ นว ดูสวยงามแขง็ แรงเหมือนภาพ B ฉะน้นั เราก็จะมาเรียนกนั ใน เร่ือง งานก่อผนงั อิฐมวลเบากนั ครับ 4.ปฏิบตั กิ ารสอน ซ่ึงแยกออกมาเป็น 5 ส่วน คือ 1.แผนการจ่ายเวลา 2.ลาดบั หมายเลขวตั ถุประสงค์ 3.กระบวนการจดั การเรียนการสอน 4.กิจกรรมของนกั ศึกษา 5.อปุ กรณ์ช่วยสอน
มาทาความเขา้ ในในแตล่ ะส่วนวา่ คืออะไร 1.แผนการจา่ ยเวลา คือตอ้ งวางแผนการสอนของเราวา่ ใชเ้ วลากี่นาที 2.ลาดบั หมายเลขวตั ถุประสงค์ ซ่ึงเป็ นตวั กาหนดว่า วตั ถุประสงคท์ ี่เราสอนน้นั ใชเ้ วลากี่นาที จากนาทีที่เท่าไร ถึงนาทีท่ีเท่าไร และวตั ถุประสงคท์ ี่ของใชเ้ วลากี่นาที เป็นตน้ 3.กระบวนการจดั การเรียนการสอน หรือ MIAP ซ่ึงในส่วนน้ีแยกออกมาไดอ้ ีก 4 ส่วน หรือ 4 ข้นั ดงั น้ี ข้นั แรก คือ ข้นั สนใจปัญหา หรือ Motivate ในส่วนน้ีจะตอ้ งลงแผนตารางเวลา แตจ่ ะรู้ไดอ้ ยา่ งไรวา่ จะลงเวลาในส่วนน้ีก่ีนาที เรากต็ อ้ งไปดูในส่วนข้นั ใหข้ อ้ มูลหรือ เน้ือหาวา่ ใชเ้ วลากี่นาที ซ่ึงการใหข้ อ้ มูลหรือใหเ้ น้ือหาท่ีจะทาใหผ้ เู้ รียนเกิดความสนใจมากท่ีสุด และลด การอิ่มตวั ในการรับความรู้ของผเู้ รียนน้นั จะใชเ้ วลาประมาณ 20 นาที เมื่อเรารู้เวลาใน การใหเ้ น้ือหาแลว้ เรากจ็ ะทราบวา่ จะตอ้ งใชเ้ วลาในการ Motivate ก่ีนาที ซ่ึงหลกั ในการ ใหเ้ วลาในการ Motivate ก็คือ 10% ของข้นั การใหเ้ น้ือหา ฉะน้นั ในส่วนน้ีจะใชเ้ วลา 2 นาที ข้นั ต่อมา คือ ข้นั ให้ขอ้ มูล หรือ Information ในส่วนน้ีจะเป็ นตวั กาหนดว่า เราจะ ใชว้ ิธีการสอนแบบใด เช่น การสอนแบบบรรยาย ถามตอบ หรือสาธิต ซ่ึงตามตวั อยา่ ง น้ีจะใชก้ ารสอนแบบถามตอบ โดยใชเ้ วลา 20 นาที และเม่ือเราให้เน้ือหาจบแลว้ เราก็ ควรสรุป เพอ่ื เป็นการทบทวนใหแ้ ก่ผเู้ รียนอีกคร้ังหน่ึง โดยใชเ้ วลาประมาณ 2 นาที
ข้นั ต่อมา คือ ข้นั พยายาม หรือ Application หรือแบบฝึ กหัด เพื่อใช้ในการตรวจ ปรับความรู้ของผูเ้ รียนว่าหลงั จากเรียนจบบทเรียนแลว้ มีความเขา้ ใจมากนอ้ ยเพียงใด ซ่ึงก็จะแบ่งระดบั ความรู้ได้ 3 ระดบั คือ ระดบั ลอกเลียน ระดบั ความเขา้ ใจ และระดบั แกป้ ัญหา ซ่ึงตามตวั อยา่ งน้นั จะใหค้ วามรู้แก่ผเู้ รียนในดบั ความเขา้ ใจ ตอ่ มาคือแผนการ ลงเวลา ตามหลกั แลว้ จะใชเ้ วลาคร่ึงหน่ึงของข้นั ให้เน้ือหา หรือข้ึนอยกู่ บั ความยากง่าย ของแบบฝึกหดั ในที่น้ีใชเ้ วลาประมาณ 4 นาที ข้นั ต่อมา คือ ข้นั สาเร็จผล หรือ Progress หรือการตรวจแบบฝึ กหัด เพ่ือทาให้ ทราบวา่ หลงั จากเรียนจบบทเรียนแลว้ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผูเ้ รียนเป็นไปตาม วตั ถุประสงคท์ ่ีไดก้ าหนดไวห้ รือไม่ ต่อมาคือแผนการลงเวลา ตามหลกั แลว้ จะใชเ้ วลา คร่ึงหน่ึงของข้นั พยายามหรือการใหแ้ บบฝึกหดั ในที่น้ีใชเ้ วลา 2 นาที 4.กิจกรรมของนักศึกษา ซ่ึงในส่วนน้ีจะเป็ นตัวกาหนดว่า ในแต่ละข้นั ของ กระบวนการสอนน้ันโอกาสและกิจกรรมของนกั ศึกษาอยู่ในระดบั ใด เช่น สูง ปาน กลาง หรือต่า ตอ่ มาคือแผนการลงตารางเวลาในส่วนของกิจกรรมของนกั ศึกษา แต่จะรู้ไดอ้ ยา่ งไรวา่ โอกาสและกิจกรรมของนกั ศึกษาอยใู่ นระดบั ใด ก็ตอ้ งยอ้ น ไปดูในส่วนของกระบวนการสอนในแต่ละข้นั ดังน้ี เช่น ในข้นั สนใจปัญหา หรือ Motivate น้นั เราใชก้ ารสอนแบบใด ตามตวั อยา่ งจะใชว้ ิธีการ Motivate แบบถามตอบ ก็ คือผูส้ อนและผูเ้ รียนมีกิจกรรมร่วมกนั ฉะน้นั โอกาสและกิจกรรมของนกั ศึกษาจะอยู่ ในระดบั ปานกลาง ต่อมาข้นั การให้เน้ือหา ตามตวั อยา่ งน้ีใชว้ ิธีการสอนแบบถามตอบ ฉะน้นั โอกาสและกิจกรรมของนกั ศึกษาจะอยใู่ นระดบั ปานกลาง ต่อมาทาไมถึงมีข้ันสนใจปั ญหาอีก เพราะตามตัวอย่างน้ี มีการสอน วตั ถุประสงค์ ฉะน้ันในการข้ึนวตั ถุประสงค์ใหม่ หรือการสอนเน้ือหาใหม่น้ัน ควร
จะตอ้ งมีการ Motivate อีกคร้ังหน่ึง เพ่ือเป็ นการสร้างแรงจูงใจของผูเ้ รียน ในการเขา้ สู่ เน้ือหาต่อไปนน่ั เอง ตามตวั อยา่ งจะใชว้ ิธีการ Motivate แบบถามตอบ ฉะน้นั โอกาสและ กิจกรรมของนกั ศึกษาจะอยใู่ นระดบั ปานกลาง ต่อมาคือการใหข้ อ้ มูลหรือเน้ือหาของ วตั ถุปะสงคท์ ่ี 2 ซ่ึงก็ยงั ใช้วิธีการสอนแบบถามตอบ ฉะน้ันโอกาสและกิจกรรมของ นกั ศึกษาจะอยใู่ นระดบั ปานกลาง ตอ่ มาคือการสรุป ก็ตอ้ งดูวา่ เราใชว้ ิธีการสรุปแบบใด เช่น เราสรุปเอง ใหผ้ เู้ รียน สรุปเอง หรือสรุปร่วมกนั ท้งั ผสู้ อนและผูเ้ รียน ในท่ีน้ีใชว้ ิธีการสรุปแบบถามตอบ โดย มีส่วนร่วมท้งั ผสู้ อนและผเู้ รียน ฉะน้นั โอกาสและกิจกรรมของนกั ศึกษาจะอยใู่ นระดบั ปานกลาง ต่อมาในส่วนของข้นั พยายามหรือใหแ้ บบฝึ กหดั ในส่วนน้ีผูเ้ รียนจะเป็นฝ่ ายทา เองท้งั หมด ฉะน้นั โอกาสและกิจกรรมของนกั ศึกษาจะอยใู่ นระดบั สูง ต่อมาคือส่วนของข้นั สาเร็จผล หรือเฉลยแบบฝึ กหัด ในท่ีน้ีใชว้ ิธีการเฉลยแบบ ถามตอบ โดยมีส่วนร่วมท้งั ผสู้ อนและผูเ้ รียน ฉะน้นั โอกาสและกิจกรรมของนกั ศึกษา จะอยใู่ นระดบั ปานกลาง ต่อมาคือส่วนของอุปกรณ์ช่วยสอน หรือสื่อที่ใชใ้ นการสอน ในส่วนน้ีจะเป็ น ตวั กาหนดว่าในแต่ละข้นั ของกระบวนการสอนน้นั เราใช้อุปกรณ์หรือสื่อช่วยสอน อะไร ตวั อยา่ งเช่น ในข้นั สนใจปัญหา หรือ Motivate ผสู้ อนไดใ้ ชส้ ื่อของจริงและโมเดลในการช่วย สอน ในข้นั การใหเ้ น้ือหา ผสู้ อนไดใ้ ชส้ ่ือ Power Point ของจริงและโมเดลในการช่วย สอน ในส่วนของสรุป ผสู้ อนไดใ้ ชส้ ่ือ Power Point ในการช่วยสอนหรือสรุป
ในข้นั พยายามหรือใหแ้ บบฝึกหดั ในส่วนน้ีผสู้ อนจะมีใบงาน หรือใบ แบบฝึกหดั ใหผ้ เู้ รียน ข้นั สาเร็จผล หรือเฉลยแบบฝึกหดั ในส่วนน้ีผสู้ อนใชส้ ่ือ Power Point ในการเฉลย แบบฝึ กหดั 5.ส่ิงทแ่ี นบมาด้วย ซ่ึงในการจดั การเรียนการสอนที่สมบูรณ์น้นั กต็ อ้ งมีเอกสารประกอบการสอน ต่างๆ ท่ีใชใ้ นการจดั การเรียนการสอน ประกอบดว้ ย - ใบแผนบทเรียน 1 แผน่ - ใบเน้ือหา 10 แผน่ - ใบแบบฝึกหดั 1 แผน่ - และใบเฉลย 1 แผน่ เมื่อเรารู้ความหมายของแผนบทเรียน และเข้าใจหลกั การในการเขียนแผน บทเรียนตามท่ีไดก้ ล่าวมาขา้ งตน้ แลว้ ก็จะทาให้สามารถจดั กิจกรรมในการเรียน การสอนให้สัมฤทธ์ิผลไดต้ รงตามแผนบทเรียนที่เราไดก้ าหนดไว้ ซ่ึงจะส่งผลต่อ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของผเู้ รียนดว้ ย
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: