Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานผลความเป็นเลิศในการจัดการศึกษา REO 11 MOE

รายงานผลความเป็นเลิศในการจัดการศึกษา REO 11 MOE

Published by สุรชาติ อินธิแสง, 2022-03-21 05:18:35

Description: รายงานผลความเป็นเลิศในการจัดการศึกษา REO 11 MOE

Keywords: รายงาน

Search

Read the Text Version

ผลงานความเป็นเลศิ ในการจดั การศึกษา REO 11 MOE AWARDS ประเภทครผู สู้ อน ดา้ นการจัดการเรียนรเู้ พ่ือความปลอดภยั ของผู้เรียน “การจดั การเรยี นรู้เพ่ือความปลอดภยั ของผู้เรยี น ดว้ ยระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรียน” โดย นายสุรชาติ อินธิแสง ตาแหน่ง ครู โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา สังกัดสานกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษานครพนม ตามโครงการความเป็นเลิศทางการศกึ ษา ของสานักงานศกึ ษาธกิ ารภาค 11 สานกั งานปลดั กระทวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ 2565

ก คานา เอกส าร ฉบับนี้ จัดทาข้ึน เพื่อร ายงาน ผล การดาเนิน งานร ะบบการ ดูแล ช่ว ยเหลื อนั กเรีย นของ โรงเรียนสนธิราษฎรว์ ิทยา และเปน็ เอกสารประกอบการคดั เลือกผลงานความเป็นเลิศในการจัดการศึกษา REO 11 MOE AWARDS ประเภทครผู ู้สอน โดยมรี ายละเอยี ดตามแบบรายงานการตาเนินจานวน 3 หัวขอ้ ดงั น้ี 1. ความเปน็ มาและความสาคัญ 2. กระบวนการดาเนนิ งาน 3. ผลการดาเนินงาน และเอกสารหลกั ฐาน ประกอบ/ภาคผนวก โดยมเี อกสารและรายละเอียดประกอบการพจิ ารณาดงั แนบ หวงั เปน็ อย่างยิง่ ว่าเอกสารฉบับนีจ้ ะสามารถใช้ประกอบการพจิ ารณาของคณะกรรมการในการ คดั เลือกผลงานความเป็นเลศิ ในการจัดการศึกษา REO 11 MOE AWARDS ประเภทครผู ู้สอนได้เปน็ อย่างดี นายสุรชาติ อินธิแสง ตาแหนง่ ครู โรงเรียนสนธริ าษฎรว์ ทิ ยา

ข สารบัญ เรือ่ ง หน้า คานา ก สารบัญ ข แบบเสนอผลงานความเป็นเลิศในการจดั การศึกษา(แบบ 01) ค องคป์ ระกอบท่ี 1 1.1 ความเป็นมาและความสาคัญ สภาพปจั จุบนั ปัญหาและความจาเปน็ 1 1.2 วัตถุประสงคใ์ นการดาเนินงาน 3 1.3 เป้าหมายในการดาเนนิ งาน 3 1.4 แนวคิดทฤษฎีในการดาเนนิ งาน 3 องคป์ ระกอบท่ี 2 กระบวนการดาเนินงาน 2.1 แผนการดาเนนิ งาน 13 2.2 การดาเนนิ งานตามแผนงาน 16 2.3 สรปุ ผลสาเรจ็ ของการดาเนินงานและประเมินผล 19 2.4 การนาเสนอผลการดาเนินงานไปปรบั ปรุงพัฒนา 20 องค์ประกอบที่ 3 ผลการดาเนินงาน 3.1 ประโยชน์ตอ่ ผเู้ รียน 21 3.2 ประโยชน์ต่อสถานศึกษา 21 3.3 ประโยชน์ต่อการศกึ ษาในภาพรวม 21 3.4 ประโยชน์ตอ่ ชมุ ชน และผมู้ สี ว่ นเก่ียวขอ้ งในการบริหารจดั การศกึ ษา 21 3.5 สรุปประโยชน์ทไี่ ด้รบั จากการดาเนนิ งาน การขยายผล และการเผยแพร่ การดาเนนิ งาน 22 ภาคผนวก 24 - หลกั ฐานประกอบท่แี สดงให้เห็นว่านกั เรยี นทกุ คนไดร้ ับการดแู ลช่วยเหลอื และคุ้มครองอยา่ งทั่วถึงและใกลช้ ดิ สง่ ผลต่อคุณภาพการจัดการศึกษาของ สถานศึกษาในภาพรวมสูงขึ้น นกั เรยี นมคี ุณลกั ษณะท่ีพึงประสงคต์ ามหลักสตู ร มที กั ษะชวี ิต ปลอดจากการออกกลางคนั และปลอดยาเสพตดิ รวมทง้ั อบายมขุ ท้งั ปวง 25 - กจิ กรรมทแ่ี สดงให้เห็นวา่ นักเรยี นมคี ณุ ลักษณะท่ีพึงประสงคต์ ามหลักสูตร มที กั ษะชวี ติ ปลอดจากการออกกลางคนั และปลอดยาเสพติดรวมท้ังอบายมขุ ทัง้ ปวง 29 - หลกั ฐานประกอบการมสี ่วนร่วมของภาคเี ครอื ขา่ ยทุกภาคสว่ นทีเ่ กยี่ วข้อง ในการดูแลช่วยเหลือนกั เรยี นของสถานศกึ ษา 35 - หลกั ฐานประกอบการดาเนินงานตามสภาพความสาเรจ็ ของระบบการ ดูแลช่วยเหลอื นกั เรยี น 36 - หลักฐานประกอบการส่งเสริม สนบั สนนุ เสรมิ สรา้ งขวัญกาลงั ใจ นเิ ทศ ตดิ ตาม และประเมนิ ผลการดาเนินงานระบบดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี นของสถาน ศกึ ษาตามสภาพจริง 40

ค แบบ 01 แบบเสนอผลงานความเป็นเลิศในการจัดการศกึ ษา REO 11 MOE AWARDS สานักงานศกึ ษาธกิ ารภาค 11 กระทรวงศึกษาธกิ าร ประเภทครผู สู้ อน ********************************************** 1. ขอ้ มูลการเสนอผลงาน 1) ชอ่ื ผลงาน การจัดการเรยี นร้เู พ่อื ความปลอดภยั ของผเู้ รียน ด้วยระบบดแู ลชว่ ยเหลือนักเรียน 2) ระยะเวลาดาเนนิ งาน ตัง้ แต่ 1 พฤษภาคม 2564 ถึง 1 มีนาคม 2565 3) การสง่ ผลงานความเปน็ เลศิ ในการจดั การศึกษาด้านการจัดการเรียนรู้ (กรุณาระบุ ลงใน  ท่ีตรง กบั ระดับการจัดการเรียนรู้ของครผู ู้สอน)  ระดับปฐมวยั  ระดบั ประถมศึกษา  ระดบั มัธยมศึกษา  ระดบั อาชวี ศึกษา  การจัดการเรียนรูน้ อกระบบ/การศกึ ษาพเิ ศษ (กศพ.) การจัดกิจกรรมส่งเสรมิ สนบั สนนุ การจัดการเรียนรู้ (ให้เลือกนาเสนอเพียง 1 ดา้ น)  1. ดา้ นการสร้างและส่งเสริมความเปน็ พลเมอื งดตี ามรอยพระยุคลบาท 2. ด้านการจัดการศึกษาเพ่ือยกระดับคุณภาพการศึกษา ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (Covid – 19)  3. ดา้ นการจดั การศกึ ษาเพอื่ ความปลอดภยั  4. ด้านการสร้างโอกาสพาน้องกลับมาเรยี น  5. ดา้ นการจดั การศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะอาชพี  6. ด้านอื่น ๆ ในสายงานความรับผิดชอบการบริหารจัดการศกึ ษา 4) ขอ้ มูลผสู้ ง่ ผลงาน 4.1 ช่ือ-สกลุ นายสรุ ชาติ อินธิแสง ตาแหน่ง ครู วัน/เดอื น/ปเี กดิ วันพธุ ที่ 13 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2537 อายุ 27 ปี 4.2 ปจั จบุ ันดารงตาแหนง่ ครู โรงเรียนสนธิราษฎรว์ ทิ ยา ระดบั /วทิ ยฐานะ - ไมม่ วี ทิ ยฐานะ สงั กดั สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษานครพนม จงั หวดั นครพนม โทรศพั ท์ (มือถือ) 096-8960760 โทรสาร - E-mail : [email protected] 4.3 ทอี่ ยู่ปัจจบุ ัน เลขที่ 159 บ้านขว้างคลี ตาบลบ้านค้อ อาเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม รหสั ไปรษณีย์ 48190 โทรศพั ท์ 096-8960760 E-mail : [email protected]

4.4 ระดบั การศกึ ษาสงู สุด ปริญญาตรี ครุศาสตรบณั ฑิต (ค.บ.) 5 ปี สาขาวิชาคณติ ศาสตร์ สถานศึกษา มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏรอ้ ยเอ็ด ปที ีส่ าเร็จการศึกษา ปี พ.ศ. 2561 5) ข้อมลู สถานศึกษา/หนว่ ยงานการศกึ ษา ของผู้เสนอผลงาน ช่ือสถานศกึ ษา/หนว่ ยงาน โรงเรยี นสนธิราษฎร์วิทยา เลขที่ 178 หมู่ 12 บ้านดอนถ่อน ตาบลบา้ นเอ้อื ง อาเภอศรีสงคราม จงั หวัดนครพนม รหัสไปรษณยี ์ 48150 โทรศัพท์ 042 550 120 โทรสาร – สงั กัด  1. สานักงานศึกษาธิการภาค 11  2. สานกั งานศึกษาธกิ ารจงั หวดั  3. สานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษา  4. สานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษานครพนม  5. โรงเรียนเอกชนในจงั หวดั  6. สานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจงั หวดั 1  7. ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจังหวดั  8. สานักงานส่งเสรมิ การปกครองท้องถิ่นจังหวดั  9. อื่น ๆ (โปรดระบ)ุ

1 รายงานผลความเปน็ เลิศในการจดั การศกึ ษา REO 11 MOE AWARDS ประเภทครูผู้สอน “การจดั การเรียนร้เู พ่ือความปลอดภยั ของผ้เู รียน ดว้ ยระบบดูแลชว่ ยเหลือนกั เรียน” ตามโครงการความเปน็ เลิศทางการศกึ ษา ของสานกั งานศึกษาธกิ ารภาค 11 สานักงานปลัดกระทวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธิการ ปงี บประมาณ 2565 ************************** ชอื่ กจิ กรรม การจัดการเรยี นรเู้ พ่ือความปลอดภัยของผู้เรียน ดว้ ยระบบดแู ลช่วยเหลอื นักเรยี น หน่วยงาน โรงเรียนสนธิราษฎรว์ ทิ ยา สังกดั สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม องคป์ ระกอบท่ี 1 ความเป็นมาและความสาคญั 1.1 ความเปน็ มาและความสาคัญ สภาพปจั จบุ นั ปัญหาและความจาเป็น การเรียนร้ใู นศตวรรษท่ี 21 เปน็ การกาหนดแนวทางยุทธศาสตร์ในการจัดการเรียนรู้ โดยร่วมกันสร้าง รูปแบบและแนวปฏิบัติในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 โดยเน้นท่ีองค์ ความรู้ ทักษะ ความเช่ียวชาญและสมรรถนะที่เกิดกับตัวผู้เรียน เพื่อใช้ในการดารงชีวิตในสังคมแห่งความ เปลี่ยนแปลงในปจั จบุ ัน สานกั งานศึกษาธิการภาค 11 ได้ขับเคล่ือนยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้ง 6 ดา้ น ประกอบไปด้วย 1) การพฒั นาการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชาติ 2) การพัฒนาครู และบุคลากรทางการ ศกึ ษาใหม้ ที ักษะการจัดการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 3) การสร้างโอกาสทางการเข้าถึงบริการทางการศึกษาและ การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตด้วยบริการการศึกษาทกุ ชอ่ งทาง 4) การพฒั นาการจดั การศึกษาเพื่อส่งเสริม ทักษะอาชีพรองรับการเติบโตของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษและพื้นท่ีชายแดน 5) พัฒนาการศึกษา เพื่อ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6) การพัฒนา ระบบการจดั การศกึ ษาทม่ี คี ณุ ภาพและประสิทธภิ าพ ตามหลกั ธรรมาภบิ าล ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) การขับเคล่ือนยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยสานักงาน ศึกษาธิการภาค 11 ได้เห็นความสาคัญ ปัญหาและอุปสรรคในการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาใน สังกัด การที่จัดให้มีการเรียนการสอนได้ครบถ้วนมีประสิทธิภาพบรรลุตามเป้าหมายของหลักสูตร ครบถ้วน นับว่าเป็นความยากลาบากมากแต่ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษามีความพยายาม ในการปฏิบัติ หน้าที่ เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนไดร้ ับการจัดการเรยี นรอู้ ย่างมคี ุณภาพ ดว้ ยวิธกี ารอยา่ งหลากหลาย เพื่อไปสู่เป้าหมายของ การจัดการศึกษา เสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ เพ่ือสร้างขวัญ กาลังใจในการทางาน และ นาเสนอผลการปฏิบัติงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (Covid-19) ด้าน กระบวนการ การจดั การเรียนรู้ ด้านการบริหารจัดการศึกษา ด้านส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษา และยก ย่องเชิดชูเกียรติในระดับภาค ดังโครงการความเป็นเลิศ ทางการศึกษา ของสานักงานศึกษาธิการภาค 11 สานกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศกึ ษาธิการ ปงี บประมาณ 2565 การบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและความปลอดภัยของโรงเรียนท่ีสะท้อนการ ดาเนินงานอย่างต่อเนื่องตลอดปีการศึกษาทาให้เห็นถึงแนวคิดและวิธีการที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาและ บรบิ ทของโรงเรยี น ด้วยสภาวะของโลกปัจจุบันทาให้สถานการณ์ของเด็กได้รับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลง ทางด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งการกระทาท่ีส่งผลให้พฤติกรรม ความคิด และทัศนคติของเด็ก เปล่ียนแปลงไปในทางทอ่ี าจเป็นโทษแก่ตัวเด็กเอง และในปัจจุบันมีความซับช้อนและเกิดปัญหาที่รอการแก้ไข มากย่งิ ขน้ึ ดังน้ัน แนวทางในการพัฒนาแกไ้ ขเด็กและเยาวชนในระบบของโรงเรยี น ด้วยระบบการดแู ล

2 ช่วยเหลือนักเรียน จึงเป็นแนวทางที่จะช่วยให้เด็กได้รับโอกาสพัฒนาตนเองให้พ้นสภาพปัญหาท่ีเกิดจากการ เปลยี่ นแปลงด้านต่าง ๆ ท่เี กดิ ขึ้นได้ โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา ได้นาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนมาใช้ เพื่อการส่งเสริม พัฒนา ป้องกัน และแก้ไขปัญหา เพ่ือให้นักเรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพและคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ มีภูมิคุ้มกัน ทางจิตใจที่เข้มแข็ง มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีทักษะในการดารงชีวิต และสามารถรอดพ้นจากวิกฤติทั้งปวง ซ่ึงทาง โรงเรยี นมีการดาเนนิ งานระบบการดูแลช่วยเหลอื นักเรยี น ดังน้ี 1.1.1) โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา มีนโยบายในการดาเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน อยา่ งชดั เจน จะเหน็ ได้จากแผนพฒั นาการจัดการศกึ ษา ซึ่งระบบดูแล ถือว่าเป็นจุดเน้นของโรงเรียนเนื่อง ด้วย บริบทของโรงเรยี นซ่ึงเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็ก อยู่ในเขตชุมชนที่มีปัญหายาเสพติดในพ้ืนท่ีและพ้ืนท่ี โดยรอบ 1.1.2) ผู้บริหารมีการจัดประชุมครู เพ่ือกาหนดทิศทาง กลยุทธ์ และวัตถุประสงค์ของกา ร ดาเนินงาน ซ่ึงต้องคานึงถึงบริบทของโรงเรียน ชุมชน และผู้ปกครอง โดยมีการจัดการบริหารงานออกเป็น 4 กลุม่ งาน เพ่อื การบรหิ ารจดั การได้อย่างทั่วถึง จึงมีการวิเคราะห์ถึงสภาพปัญหา ศักยภาพของสถานศึกษาและ บริบทของชุมชน โดยการวางแผนการจัดทาโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน รวมท้งั กาหนดโครงสรา้ งบรหิ ารงานและแตง่ ตงั้ คณะกรรมการการดาเนนิ งานระบบการดูแลชว่ ยเหลือนกั เรยี น 1.1.3) สรา้ งความตระหนกั ใหค้ ณะครแู ละบุคลากรที่เกย่ี วขอ้ งทุกคนให้เห็นคุณค่าและความจาเป็น ของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยในการประชุมก่อนเปิดภาคเรียน จะมีการนาผลของการดาเนินงาน ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของการศึกษารายกรณีในแต่ละปีการศึกษา เพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหาและ ประเมนิ ผลสาเรจ็ ในการช่วยเหลอื นักเรียนในกลมุ่ การศึกษารายกรณีและวางเป้าหมายในการดาเนินงานต่อไป 1.1.4) วางแผนและดาเนินงานตามระบบทว่ี างไว้ โดยทางโรงเรียนออกคาส่ังแต่งตั้งกรรมการ การ ดาเนนิ งานระบบการดูแลช่วยเหลือนกั เรยี น เพื่อกาหนดบทบาทหน้าทแ่ี ละการมสี ว่ นร่วมอย่างชัดเจน ดังน้ี - คณะกรรมการฝ่ายอานวยการ ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งมีหน้าท่ี นิเทศกากับ ติดตาม ใหค้ าปรึกษา คาแนะนา เพ่ือใหก้ ารดาเนนิ การสาเร็จลลุ ว่ งไป - คณะกรรมการฝ่ายดาเนินงาน ประกอบด้วย คณะกรรมการทีมทาระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น และคณะกรรมการทีมทาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และครูแนะแนว ซึ่งมีหน้าที่ดาเนินงานตาม กระบวนการที่โรงเรยี นได้กาหนด - คณะกรรมการฝายสนับสนุน ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา ครูแนะแนว กรรมการ สถานศึกษา กรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง และบุคลากรท่ีเกี่ยวข้อง ซ่ึงมีหน้าที่ประสานงานระหว่าง คณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุน ส่งเสริม ป้องกัน แก้ไขปัญหาท่ีจะเกิดขึ้นให้ สาเร็จลุล่วงไปด้วยดี พร้อมทั้งจัดทาเอกสาร เคร่ืองมือที่ใช้ในการดาเนินงาน รายงานผลการดาเนินงานเมื่อ ส้ินสุดกิจกรรม โดยดาเนินงานตามข้ันตอนของงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยจัดประชุม คณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ร่วมกับครแู นะแนวและครูที่ปรกึ ษา เพ่ือดาเนินการในทิศทางเดยี วกันท้งั 5 ขั้นตอน 1.1.5) โรงเรยี นไดว้ เิ คราะหผ์ ูเ้ รียนจากระเบยี นสะสม SDQ เอกสารการเยยี่ มบ้าน และเอกสารต่าง ๆ จากนั้นได้จัดทาเป็นข้อมูลสารสนเทศของโรงเรียนในการดาเนินงานระบบการดูแล ชว่ ยเหลอื นกั เรยี น

3 1.2 วัตถุประสงค์ 1.2.1 เพอื่ ใหก้ ารดาเนินงานดแู ลช่วยเหลือนกั เรยี นเปน็ ไปอย่างระบบและมีประสทิ ธิภาพ 1.2.2 เพอ่ื ให้โรงเรียน กรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน องค์กรและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องมีการ ทางานร่วมกัน โดยผา่ นกระบวนการทางานท่ีชดั เจน มีรอ่ งรอยหลักฐานการปฏิบัติงาน สามารถตรวจสอบและ ประเมินผลได้ 1.2.3 เพ่อื ให้นกั เรยี นไดร้ บั การดแู ลช่วยเหลืออยา่ งทั่วถงึ และตรงตามปัญหา 1.2.4 เพื่อให้นักเรียนรู้จักตนเอง ควบคุมตนเองได้(SDQ) มีการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) พัฒนาความเกง่ (IQ) มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม (MQ) และมคี วามมุ่งมัน่ ทีจ่ ะเอาชนะอปุ สรรค (AQ) 1.2.5 เพื่อสร้างสัมพันธภาพระหว่างครูกับนักเรียนเป็นไปด้วยดีและอบอุ่น นักเรียนเรียนรู้อย่างมี ความสุขและได้รับการส่งเสรมิ พัฒนาเต็มตามศกั ยภาพอยา่ งรอบด้าน 1.2.6 นักเรยี นมคี วามเอื้ออาทรผูอ้ ่ืนและกตัญญูกตเวทีต่อผูม้ ีพระคณุ 1.2.7 นกั เรยี นยอมรบั ความคิดและวัฒนธรรมทแ่ี ตกตา่ ง 1.3 เป้าหมายในการดาเนินงาน กลมุ่ เป้าหมาย กลมุ่ เปา้ หมาย คอื นกั เรยี นโรงเรยี นสนธิราษฎร์วทิ ยา จานวน 377 คน (ปกี ารศกึ ษา 2564) 1.3.1 เป้าหมายในการดาเนนิ งานเชงิ คณุ ภาพ 1) โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา มีระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ตามกระบวนการวิธีการ เครื่องมอื ทมี่ คี ุณภาพ มมี าตรฐาน และสามารถตรวจสอบได้ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและย่งั ยืน 2) ครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน หน่วยงาน และองค์กรภายนอก ใหค้ วามสาคัญของระบบการดูแลช่วยเหลอื นักเรยี น และมที ศั นคตทิ ี่ดตี ่อนกั เรยี น 3) โรงเรยี นสนธริ าษฎรว์ ิทยา มเี ครอื ขา่ ยผู้ปกครองนักเรียน ร่วมแก้ไขปัญหา ในด้านการศึกษา และปรับเปล่ยี นพฤตกิ รรมของนกั เรียนใหด้ ีขน้ึ อย่างเป็นระบบ 4) นักเรียนโรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยาทุกคน มีการพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม มพี ฤติกรรมที่เหมาะสม และหา่ งไกลจากส่ิงเสพตดิ 1.3.2 กลมุ่ เป้าหมายในการดาเนินงานเชิงปริมาณ 1) นักเรียนโรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา ร้อยละ 100 ได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่างท่ัวถึงและตรง ตามปญั หา 2) นักเรียนโรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา ร้อยละ 100 ได้รับการอบรมเป็นนักเรียนแกนนาการ หลีกเลย่ี งอุบัติภยั ตา่ ง ๆ 1.4 แนวคิดทฤษฎีประกอบการดาเนนิ งาน การจัดการเรียนรูเ้ พือ่ ความปลอดภัยของผู้เรียน ดว้ ยโครงการระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรียน ดาเนินการ ภายใต้ “SONTHIRAJ Model” ตามแผนปฏิบัติการปีการศึกษา 2564, NKP Education 4.0 Model และ การเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ 21 1.4.1 “SONTHIRAJ Model” 1) แนวคิดการออกแบบรูปแบบเพ่ือใช้ขับเคล่ือนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนสนธิราษฎร์ วิทยา

4 มีความมุ่งม่ันที่จะพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาในองค์กร เพื่อยกระดับการบริหารจัดการและคุณภาพ การศึกษา โดยนาแนวคิดและเคร่ืองมือ “การบริหารจัดการภาครัฐ” หรือ PMQA (Public Sector Management Quality Award) มาประยุกต์ใช้ในรูปแบบ “SONTHIRAJ Model” เพื่อให้การดาเนินงาน เป็นไปอย่างยั่งยืน เป็นแนวทางในการปฏิบัติ ช่วยให้การดาเนินงานได้รับการพัฒนาและก้าวไปข้างหน้า โดย เน้นการพัฒนาบุคลากรให้สามารถใช้ศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ ด้วยการมีส่วนร่วมในการปรับปรุง คณุ ภาพของการบรกิ าร ใหส้ ามารถตอบสนองความต้องการและสร้างความพอใจให้แก่ผู้รับบริการ ซึ่งจะทาให้ เป็นปัจจัยสาคัญในการก้าวไปสู่ความเป็นเลิศ (Excellence) และมีคุณภาพอย่างต่อเน่ือง ก่อให้เกิดการ พัฒนาการขององค์การในระยะยาว และใช้หลักการของ Deming คือ วงจร P-D-C-A (Plan, Do, Check, Act) เปน็ แนวรว่ มในการปรับปรงุ คุณภาพ 2) วัตถุประสงค์ของการกาหนดรูปแบบ “SONTHIRAJ Model” เป็นเครื่องมือในการขับเคล่ือนการ พฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษา (1) การนาแนวนโยบายและยกระดับการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการจัดการศึกษา สู่การปฏิบัติ อยา่ งเป็นรปู ธรรม (2) เพ่ือใช้เป็นเครื่องมือการส่ือสาร สร้างความเข้าใจ ความมั่นใจให้แก่บุคลากรในกระบวนการของ การบริหารและการจัดการศึกษาใหม้ คี ณุ ภาพ (3) เพ่ือให้หน่วยงานในองค์การได้ส่งมอบคุณค่าท่ีดีทั้งผลผลิตและบริการด้านการศึกษาให้แก่ผู้เรียน และผู้มสี ่วนได้ส่วนเสียดา้ นการศึกษา 3) นยิ ามศพั ท์และองค์ประกอบ “SONTHIRAJ Model” SONTHIRAJ หมายถึง โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา ก่อตั้งเมื่อวันท่ี 30 เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช 2527 จากการประชมุ ของคณะกรรมการสภาตาบลบ้านเอื้อง และคณะกรรมการสภาตาบลโพนสว่าง นาโดยหลวงปู่ สนธิ์ เขมโิ ย อดีตเจา้ อาวาสวดั อรญั ญานาโพธิ์ ซ่ึงเปน็ พระเกจอิ าจารย์ที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือเป็นผู้ กอ่ ตงั้ ขนึ้ แสดงถึงเอกลักษณแ์ หง่ ความศรทั ธาและเช่ือมโยงจิตใจ ประสานความเป็นหนึง่ เดียวของประชาชนท้ัง 2 ตาบล เพ่ือให้โอกาสทางการศึกษาลูกหลานในตาบลบ้านเอื้องและตาบลโพนสว่าง จึงได้นาชื่อหลวงปู่สนธิ์ เขมิโยมา กาหนดเปน็ ชือ่ รูปแบบ (Model) ในชือ่ วา่ “SONTHIRAJ Model” โดยประกอบด้วย - อกั ษร จานวน 9 ตัวอักษร หมายถึง รปู แบบน้กี าหนดข้นึ ในรัชสมัยรัชกาลท่ี 9 และเป็นการปฏิบัติงานที่ กา้ วหนา้ มีการพฒั นาอย่างตอ่ เนือ่ งและยัง่ ยืน - สีเขียว คือ ความเจรญิ กา้ วหนา้ รกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม พร่ังพรอ้ มความรม่ รนื่ สดชืน่ ปลอดภยั - สขี าว คือ ความบรสิ ทุ ธิ์ สะอาด สดใส ซ่อื สตั ย์ เปน็ คนดมี ีคณุ ธรรม

5 ภาพท่ี 1 SONTHIRAJ Model [1] J : Justification หมายถึง การให้เหตุผล ความมีเหตุผล มุ่งเน้นความมีเหตุผลในการปฏิบัติงาน ซึ่งการ พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการจัดการศึกษาสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ซ่ึงสอดคล้องกับ NKP Education 4.0 Model ในหัวข้อ K : King’s Philosophy คือ การพัฒนาที่สมดุลในทุกขั้นตอนด้วยศาสตร์ พระราชา หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถ บพิตร รัชกาลที่ 9 อันเป็นองค์ความรู้และภูมิปัญญาที่ได้พระราชทานผ่านวิธีการต่าง ๆ ด้วยความมุ่งหมายที่ จะพัฒนา ป้องกันหรือแก้ไขปัญหาเพ่ือประโยชน์แก่เหล่าพสกนิกรให้สามารถดารงชีวิตได้อย่างมั่นคง และ ย่ังยืนประกอบด้วย 3 หลักการ 2 เง่ือนไข (1) หลักความพอประมาณ (2) หลักความมีเหตุผล (3) หลัก ภมู คิ ุ้มกัน (4) เงื่อนไขความรู้ (5) เง่อื นไขคณุ ธรรม พระบรมราโชบายด้านการศึกษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ รัชกาลที่ 10 ท่ีให้ มุ่งสร้างพ้ืนฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน คือ (1) มีทัศนคติท่ีถูกต้องต่อบ้านเมือง (2) มี พ้ืนฐานชีวิตที่มั่นคง มี คณุ ธรรม (3) มงี านทา มีอาชีพ (4) เปน็ พลเมืองทดี่ ี [2] S : Sustainable Learning หมายถึง การเรียนรู้ที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับ NKP Education 4.0 Model ในหัวข้อ Area Based Development หมายถึง การจัดการศึกษาแบบยึดพ้ืนท่ีเป็นฐาน จัดกระบวนการ เรยี นรูแ้ ละการจัดประสบการณก์ ารเรียนรทู้ ยี่ ดึ สภาพทางภมู ิศาสตร์ เศรษฐกิจทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วถิ ชี ีวิตและวัฒนธรรมของ ผู้เรยี นได้เรยี นตามความสนใจ ความถนดั และตามศกั ยภาพของตนเอง [3] H : Honesty หมายถึง ความซื่อสัตย์สุจริต เคารพกฎ กติกาขององค์กร มีความซ่ือสัตย์ต่อหน้าที่และต่อ วิชาชีพ ไม่ทุจริตคดโกง ท้ังทางตรงและทางอ้อม รู้หน้าที่การงานของตนเอง ปฏิบัติงานอย่างเต็มกาลัง ความสามารถ ด้วยความบริสุทธ์ิใจ ซ่ึงสอดคล้องกับ NKP Education 4.0 Model ในหัวข้อ Good- Governance หมายถงึ การบรหิ ารและการจัดการเรียนรดู้ ว้ ยหลัก ธรรมาภิบาล ดังนี้ (1) หลักนิติธรรม การดาเนินการให้ถูกต้องตามหลักกฎหมาย กติกาโดยคานึงถึงสิทธิ เสรีภาพ ความ ยตุ ิธรรม (2) หลักคุณธรรม การยดึ มั่นในความถูกต้องดงี าม การส่งเสรมิ สนบั สนุนให้มีการพฒั นาตนเองไปพร้อมกัน เพอื่ ใหม้ ีความซอ่ื สตั ย์ จรงิ ใจ ขยัน อดทน มรี ะเบียบวินยั ประกอบอาชีพสุจริต (3) หลักความโปร่งใส สร้างความไว้วางใจซ่ึงกันและกัน โดยปรับปรุงกลไกการทางานขององค์กรโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ (4) หลกั การมสี ่วนรว่ ม การเปดิ โอกาสให้มสี ่วนร่วมรับรแู้ ละแสดงความคิดเห็น ตัดสินใจปัญหาสาคัญของ องคก์ ร

6 (5) หลกั ความรบั ผิดชอบ การตระหนักในสทิ ธหิ น้าที่ ความสานึกในความรับผิดชอบ การเคารพในความคิดเห็น ท่ีแตกต่างและความกล้าท่ีจะยอมรับผลดีและผลเสียจากการกระทาของตนเอง (6) หลักความคุ้มค่า การ บริหารจัดการและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจากัดเพ่ือให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ส่วนรวม มีการรักษาพัฒนา ทรัพยากรธรรมให้สมบรู ณ์ย่งิ ขึ้น [4] T : Teamwork หมายถงึ ความสามัคคี เป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน ซ่ึงสอดคล้องกับ NKP Education 4.0 Model ในหัวข้อ ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็นทีม และภาวะผู้นา (Collaboration Teamwork and Leadership) หมายถึง การมุ่งเน้นการบริหารและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล การวิเคราะห์สมรรถนะ การสง่ เสริมการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ วัฒนธรรมและค่านยิ ม และ ทักษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศ และ รูเ้ ท่าทันสื่อ (Communications, Information and Media Literacy) หมายถึง ปัจจัยจาเป็นด้านอ่ืน ๆ เช่น การกาหนดทศิ ทางขององค์กร (วิสัยทัศน์ พันธกิจ ประเด็นยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ และจุดเน้น) การจัดการ ระบบสารสนเทศ การจัดการความรู้ การกาหนดโครงสร้าง กระบวนการปฏิบัติงาน ซ่ึงจะต้องมีการพัฒนา ควบคแู่ ละสอดคลอ้ งกนั ทัง้ บคุ ลากรและกระบวนการ [5] N : Network หมายถึง หมายถึง เครือขา่ ยองค์กร ชมุ ชน ทมี่ กี ารแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสารหรือ สนับสนุน ส่งเสรมิ การดาเนนิ งานรว่ มกันด้วยความเอือ้ อาทร เช่น โรงเรียน สหวิทยาเขต เครือข่ายส่งเสริม ประสิทธิภาพ การจดั การมัธยมศกึ ษาตอนต้น/ตอนปลาย เปน็ ต้น [6] I : Innovation หมายถึง นวัตกรรม และการใช้สื่อเทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนการทาส่ิงต่าง ๆ ด้วยวิธีใหม่ ๆ และยังอาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงทางความคิด การผลิต กระบวนการการนาเอาส่ิงใหม่ซ่ึง อาจจะอยใู่ นรูปของความคดิ หรือการกระทา รวมทั้งสิง่ ประดษิ ฐก์ ็ตามเข้ามาใช้ในระบบการศึกษา เพื่อมุ่งหวังท่ี จะเปล่ียนแปลงส่ิงที่มีอยู่เดิมให้ระบบการจัดการศึกษามีประสิทธิภาพยิ่งข้ึน ทาให้ผู้เรียนสามารถเกิดการ เรยี นรไู้ ดอ้ ย่างรวดเร็วเกิดแรงจงู ใจในการเรยี น และชว่ ยใหป้ ระหยดั เวลาในการเรยี น [7] R : Research หมายถึง งานวิจัย โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยาได้ดาเนินงานวิจัยเพ่ือพัฒนานักเรียนท่ีมี ความบกพร่องทางการเรียนรู้ โดยจัดโครงการ “พ่อครูแม่ครู สู่การสอนเสริม” เป็นโครงการวิจัยเพ่ือพัฒนา ทักษะการอ่านการเขยี นนักเรยี นทม่ี ีความบกพร่องทางการเรียนรู้ [8] O : Oversee หมายถงึ การตรวจสอบ ควบคมุ กากับ และประเมนิ ผล [9] A : Accomplishment หมายถึง ผลสาเร็จของงานที่มีคุณภาพ เป็นไปตามเป้าหมาย หรือจุดเน้นท่ี กาหนด และสร้างความพึงพอใจแก่ผู้รับบริการทางการศึกษา วงจร PDCA หมายถึง วงจรบริหารงานคุณภาพ หรอื Deming Cycle เป็นเครื่องมอื ทโ่ี รงเรยี นสนธริ าษฎร์วิทยา นามาใชเ้ พือ่ การปรับปรุงและพัฒนาระบบการ ทางานของโรงเรียนให้ดีข้ึน อย่างต่อเนื่อง จนบรรลุเป้าหมายท่ีตั้งไว้อย่างยั่งยืน วงจรดังกล่าวประกอบด้วย P (Plan) คือการวางแผน D (Do) คือการลงมือปฏิบัติ (Check) คือการตรวจสอบ และ A (Action) คือ ดาเนินการ ปรับปรงุ แก้ไขส่วนท่มี ปี ัญหา

7 1.4.2 NKP Education 4.0 Model ภาพท่ี 2 NKP Education 4.0 Model 1) หลกั การและเหตผุ ล สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษานครพนม โดยนายศักดา ชัยภัย ผู้อานวยการ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนมพร้อมคณะ มีความมุ่งม่ันที่จะพัฒนาคุณภาพการ บริหารและการจัดการศึกษาในองค์การ จึงได้ร่วมกันกาหนดเคร่ืองมือท่ีชื่อว่า “NKP Education 4.0 Model” เพ่ือใชเ้ ป็นเคร่ืองมอื หลกั ในการยกระดับคุณภาพการศึกษาของหนว่ ยงานในสังกัด โดย นา 1.1 แนวคิดของ Robert S. Kaplan และ David P. Norton ผู้สร้างเคร่ืองมือ “Balanced Scorecard” เพื่อใช้ในระบบธุรกิจ มาประยุกต์ใช้เพ่ือเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการบริหาร และการจัดการศกึ ษา ถ่ายทอดวสิ ัยทศั น์ กลยุทธข์ ององคกรไปสู่การปฏิบัติ ทาให้การดาเนินงานได้รับ การพฒั นา ก้าวไปขา้ งหนา้ และเปน็ ไปอย่างยั่งยืน สามารถตอบสนองความต้องการ สร้างความพอใจ ให้แก่ผู้รับบรกิ าร อันเปน็ ปจั จัยสาคญั ในการก้าวไปสู่ความเปน็ เลิศ (Excellence) และมีคุณภาพอย่าง ต่อเนอื่ ง Balanced หมายถึง ความสมดุล เป็นมุมมองที่ใชพิจารณาองคกรอย่างครบถ้วน เป็นเหตุ เป็นผลต่อกนั เพ่อื ใหสามารถพจิ ารณาความสาเรจ็ ขององค์กรไดอ้ ยา่ งรอบดา้ น Scorecard หมายถึง รายงานสรุปผลสัมฤทธ์ิขององค์กร ช่วยให้ผู้บริหารรับทราบขอมูลผล การปฏบิ ตั ิงานท่สี าคัญขององคกร ภายในเวลาที่รวดเรว็ Balanced Scorecard คือ ระบบการจัดการเชิงกลยุทธ์ท่ีใช้ในการระบุและปรับปรุงระบบ ทางธุรกิจภายใน เพ่ือนาไปสู่การปฏิบัติ โดยอาศัยการวัดผลหรือการประเมิน ที่ช่วยให้องค์กรเกิด ความสอดคล้องเป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน และมุ่งเน้นในส่ิงท่ีมีความสาคัญต่อความสาเร็จขององค์กร โดยปัจจัยทเี่ อ้อื ตอ่ ความสาเรจ็ ประกอบดว้ ย 4 มมุ มองด้วยกนั ไดแ้ ก่ (1) Financial perspective (มุมมองทางการเงนิ ) (2) Customer perspective (มุมมองของลูกค้า) (3) Internal perspective (มุมมองภายใน)

8 (4) Learning and Growth Perspective (มมุ มองดา้ นนวตั กรรมและการเรยี นรู)้ สานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สานักงาน ก.พ.ร.) ได้ปรับมุมมอง ของ Balanced Scorecard ให้เขา้ กบั ระบบราชการของไทย ดงั น้ี Balanced Scorecard Balanced Scorecard ระบบราชการ ระบบธุรกิจ มุมมอง คาอธิบาย มมุ มองด้านการเงนิ ด้านประสทิ ธิผลตามพนั ธกิจ มหี ลกั การให้สว่ นราชการแสดงผลงานที่บรรลุวตั ถปุ ระสงค์ มุมมองดา้ นลกู คา (Run the Business) และเป้าหมายตามที่ได้รับงบประมาณมาดาเนินการ เพอื่ ใหเ้ กิดประโยชน์สุขต่อประชาชนและผู้รับบริการ เช่น ผลสาเร็จในการพฒั นาการปฏบิ ัตริ าชการ เป็นตน้ ดา้ นคุณภาพการใหบรกิ าร มีหลักการให้ส่วนราชการแสดงการให้ความสาคัญกับ (Serve the Customer) ผู้รับบริการให้การให้บริการท่ีมีคุณภาพ สร้างความพึง พอใจแกผ่ รู้ บั บรกิ าร Balanced Scorecard Balanced Scorecard ระบบราชการ ระบบธุรกจิ มมุ มอง คาอธบิ าย มุมมองดานกระบวนการ ดา้ นประสิทธิภาพ มหี ลกั การให้สว่ นราชการแสดงความสามารถในการปฏิบัติ ราชการ เช่น การลดค่าใช้จ่าย การลดระยะเวลาการ ภายใน (Manage Resources) ใหบ้ ริการ และความคมุ้ ค่าของการใชเ้ งนิ เป็นตน้ มมุ มองด้านการเรียนรูและ ดา้ นการพฒั นาองคกร มีหลักการให้ส่วนราชการแสดงความสามารถในการ เตรียมพร้อมกับการเปล่ียนแปลงขององค์กร เช่น การ การพัฒนา (Capacity Building) พัฒนาบุคลากร การจัดสรรอัตรากาลังให้คุ้มค่า การมอบ อานาจการตัดสินใจไปยังระดับปฏิบัติการ การนาระบบ อิเล็กทรอนิกส์มาใชก้ ับงาน เปน็ ต้น 1.2 แนวคิดของระบบราชการ 4.0 กาหนดให้ภาครัฐเปิดกว้างและเชื่อมโยงกัน ยึดประชาชนเป็น ศูนยก์ ลาง ภาครัฐมีขดี สมรรถนะสูงและทนั สมยั โดยมีปัจจัยความสาเร็จ 3 ประการ คอื การสานพลัง ระหว่างภาครัฐและภาคอื่นๆ การสร้างนวัตกรรมและการปรับสู่ความเป็นดิจิทัล ดังนั้น เพื่อให้การ ดาเนินงานอย่างเป็นระบบ ในรูปแบบเชิงรุก มีการพัฒนารอบด้านอย่างเป็นข้ันตอนและต่อเนื่อง มีจุดหมายที่ชัดเจน สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม จึงได้นาแนวทางจากแนวคิด ท้ัง 2 ประการ มากาหนดเป็นเคร่ืองมือในการขับเคล่ือนยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา ในช่ือว่า“NKP Education 4.0 Model”

9 ภาพที่ 3 แนวคิดระบบราชการ 4.0 2) วตั ถปุ ระสงค์ การกาหนด “NKP Education 4.0 Model” (1) เพอื่ ใหส้ านกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษานครพนมและสถานศึกษาในสังกัด ใช้ เปน็ เครอื่ งมือในการถา่ ยทอดนโยบาย วิสัยทัศน กลยุทธ์ดา้ นการศกึ ษาสกู่ ารปฏิบัตอิ ย่างเปน็ รูปธรรม (2) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือการส่ือสาร สร้างความเข้าใจ ความม่ันใจให้แก่บุคลากรใ น กระบวนการของการบริหารและการจัดการศึกษา ขับเคลื่อนกลยุทธให้มีความสอดคลองไปในทิศทาง เดยี วกนั (3) เพื่อให้หน่วยงานในองค์การได้ส่งมอบคุณค่าที่ดีทั้งผลผลิตและบริการด้านการศึกษา ใหแ้ กผ่ ู้เรยี น และผูม้ สี ่วนได้ส่วนเสียด้านการศกึ ษา 3.นยิ ามศพั ทแ์ ละองค์ประกอบ “NKP Education 4.0 Model” [1] N : Necessary factor คอื การเตรยี มความพร้อมขององค์การในปัจจยั ทจ่ี าเป็น เช่น การพัฒนาฐานข้อมูลด้านการศึกษาท่ีมีความเช่ือมโยงทุกระดับ การกาหนดกรอบทิศทางองค์การ การสร้างวัฒนธรรมและค่านิยมองค์การ การจัดการความรู้ การกาหนดโครงสร้าง มาตรฐานและ กระบวนการปฏิบัติงาน การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีความเช่ียวชาญ คล่องตัว มีจติ สานกึ มคี วามคดิ รเิ ริม่ เปน็ ผูน้ าในศตวรรษท่ี 21 และมีความเปน็ ผปู้ ระกอบการภาครัฐ เป็นตน้ [2] K : Keep improving system efficiency คือ การปรับปรุงประสิทธิภาพของ ระบบงาน เชน่ ระบบข้อมูลสารสนเทศ ระบบการติดตามประเมินผล ระบบควบคุมภายในและระบบ ตรวจสอบภายใน การลดข้ันตอนการดาเนินงาน เป็นต้น ด้วยการการสานพลังระหว่างภาครัฐและ ภาคอื่นๆ ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจนเกิดการสร้างนวัตกรรม สามารถเทียบเคียง (Benchmark) กับ กระบวนการทางานขององคก์ รอืน่ โดยคานงึ ถงึ 2.1 การมีส่วนร่วม (Participation) หมายถึง การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายด้าน การศึกษาทุกขั้นตอน เช่น การวางแผน การดาเนินงาน การกากับ ติดตาม ประเมินผล รวมถึงการ สร้างเครือข่าย เป็นต้น รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารหรือสนับสนุน ส่งเสริมการดาเนินงาน รว่ มกนั ดว้ ยความเอื้ออาทร ในรูปสหวทิ ยาเขต เครอื ขา่ ยส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการมัธยมศึกษา ตอนต้น/ตอนปลาย โดยเครือข่ายประกอบดว้ ย 3 P คือ P1 : Professional มีความเป็นมืออาชีพตาม มาตรฐานงาน P2 : Proactive การทางานเชิงรุก และ P3 : Public relations การประชาสัมพันธ์ 2.2 การใช้พ้ืนที่เป็นฐาน (Area Based Development) หมายถึง การจัดการศึกษาแบบยึด พ้ืนทเ่ี ปน็ ฐาน จดั กระบวนการเรยี นร้แู ละการจัดประสบการณ์การเรยี นรทู้ ่ียึดสภาพทางภูมิศาสตร์

10 เศรษฐกิจ ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของพ้ืนท่ี โดยบูรณาการการ ปฏิบัติงานในหลายพ้ืนที่หรือหลายหน่วยงาน ที่สอดคล้องและตอบสนองความต้องการ ความจาเป็น ของผเู้ รยี นและพ้ืนท่ี ผูเ้ รียนไดเ้ รยี นตามความสนใจ ความถนดั และตามศกั ยภาพของตนเอง 2.3 การมีวิถีใหม่ (New Normal) หมายถึง การจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ ประสบการณ์ที่เกิดข้ึนจริงในปัจจุบันเป็นฐาน ภายใต้แนวคิดการบูรณาการการเรียนรู้แบบ สหวทิ ยาการ (Interdisciplinary) เพื่อนาองคก์ ารส่สู งั คมวิถใี หม่ วถิ คี ุณภาพ 2.4 การยึดหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) หมายถึง การบริหารและการจัดการ การเรียนรู้ด้วยหลักธรรมาภิบาล ดังนี้ (1) หลักนิติธรรม การดาเนินการให้ถูกต้องตามหลักกฎหมาย กติกาโดยคานึงถึงสิทธิ เสรีภาพ ความยุติธรรม (2) หลักคุณธรรม การยึดม่ันในความถูกต้องดีงาม การส่งเสริมสนับสนุนให้มีการพัฒนาตนเองไปพร้อมกัน เพ่ือให้มีความซ่ือสัตย์ จริงใจ ขยัน อดทน มีระเบียบวินัย ประกอบอาชีพสุจริต (3) หลักความโปร่งใส สร้างความไว้วางใจซ่ึงกันและกัน โดยปรับปรุงกลไกการทางานขององค์กรโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ (4) หลักการมีส่วนร่วม การ เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมรับรู้และแสดงความคิดเห็น ตัดสินใจปัญหาสาคัญขององค์กร (5) หลักความ รับผิดชอบ การตระหนักในสิทธิหน้าที่ ความสานึกในความรับผิดชอบ การเคารพในความคิดเห็นที่ แตกต่างและความกล้าที่จะยอมรับผลดีและผลเสียจากการกระทาของตนเอง (6) หลักความคุ้มค่า การบริหารจัดการและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจากัดเพ่ือให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ส่วนรวม มีการ รกั ษาพัฒนาทรพั ยากรธรรมให้สมบูรณย์ ิง่ ขน้ึ [3] P : Progress คือ ความก้าวหน้าของคุณภาพบริการ หมายถึง หน่วยงานมอบคุณค่า บริการด้านการศึกษาท่ีมีคุณภาพ โดยพิจารณาจากความก้าวหน้าของระดับคุณภาพ PMQA , ITA , การประกันคุณภาพภายนอก เพื่อให้ผู้รับบริการมีความมั่นใจในคุณภาพ เกิดความพึงพอใจแก่ ผรู้ บั บริการและผใู้ หบ้ รกิ าร คนทางานมีความสุข (Customer satisfaction & Happy workplace) [4] NKP Education 4.0 คือ นครพนมสู่การศกึ ษายุค 4.0 โดยมีผลลัพธ์ ดังนี้ 4.1 ด้านผู้เรียน (1) คุณภาพ : มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงข้ึน และมีทักษะตาม 3Rs8Cs ได้แก่ การอ่านออก (Reading) การเขียนได้ (Writing) และการคิดเลขเป็น (Arithmetics) ทักษะ ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความ เข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็นทีม และภาวะผู้นา (Collaboration Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการ สื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันส่ือ (Communications, Information and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะดา้ นอาชพี และทักษะดา้ นการเรยี นรู้ (Career and Learning Skills) (2) คุณธรรม จริยธรรม : มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีวินัย สุจริตและจิต อาสา (3) สวสั ดิภาพผู้เรยี น : มพี ืน้ ท่ีปลอดภยั ในการดาเนินชวี ิต 4.2 ด้านบคุ ลากร - ครูและบุคลากรทางการศกึ ษามสี รรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ

11 4.3 ดา้ นองค์การ (1) โรงเรียนในสังกัดและเขตพื้นท่ีการศึกษา เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม คือ มี กระบวนการที่นาเอาทักษะ ความรู้ และความคิดสร้างสรรค์ของคนในองค์กร ท่ีมีประโยชน์ต่อ ส่วนรวมท้ังเศรษฐกิจ สังคมและชุมชน มาบูรณาการประยุกต์ใช้ให้เกิดกระบวนการสร้างผลิตภัณฑ์ กระบวนการทางานใหม่ ๆ รวมไปถึงการพัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการให้มีคุณภาพและ ประสิทธิภาพที่ดีข้ึนอย่างต่อเน่ือง โดยมีเป้าหมายเพ่ือให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) ให้กับองค์กร รวมถงึ การเพิม่ ประสทิ ธิภาพในการดาเนินงาน สามารถลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพ/คุณค่าสู่ สังคม แนวคดิ การสรา้ งองค์กรแห่งนวัตกรรม (1.1) มีการกาหนดทิศทาง วัตถุประสงค์ เป้าหมาย และกลยุทธ์ท่ีชัดเจน สามารถสร้างนวตั กรรมเพ่อื ยกระดับคณุ ภาพองค์กร (1.2) ผูน้ าองค์กรต้องสร้างองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) อยา่ งแท้จรงิ (1.3) ผู้บริหารมีความมุ่งม่ัน ผลักดันให้เกิดการสร้างวัฒนธรรมภายใน องค์กร และใหค้ วามสาคัญกับการพฒั นาบคุ ลากร (1.4) มกี ารพฒั นาทรพั ยากรบุคคล กระบวนการ และบริการอยา่ งตอ่ เนื่อง (1.5) ใหค้ วามสาคัญกบั การสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในท่ีทางาน ที่เอ้ือต่อกระบวนการการสร้างสรรค์ (2) โรงเรียนในสังกัดและเขตพ้ืนที่การศึกษา เป็นองค์กรแห่ง คณุ ธรรม คือ องค์กร/หนว่ ยงาน มบี ุคลากรท่แี สดงเจตนารมณ์และมุ่งมั่นดาเนินการส่งเสริมคุณธรรม ในองค์กร/หน่วยงาน มีส่วนร่วมสร้างคุณธรรม โดยมีการบริหารจัดการตามหลักคุณธรรม ธรรมาภิ บาลหรือหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ส่งเสริมสนับสนุนให้สมาชิกทุกคน ยึดมั่นคุณธรรมเป็น ฐานในการดาเนนิ ชีวติ การเรยี นและปฏบิ ัติงาน เปน็ โรงเรยี นสุจรติ เขตสุจริต (ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทส่ี ่วนกลางกาหนด) และมีสว่ นรว่ มรณรงค์สง่ เสรมิ คุณธรรมใหก้ ับประชาชน ชุมชน หรือเครือข่ายของ องค์กรคุณธรรม [5] King’s Philosophy คือ การพฒั นาทส่ี มดุลในทกุ ขั้นตอนด้วยศาสตรพ์ ระราชา คือ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอ ดุลยเดชบรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ด้วยหลักการสาคัญ คือ “เม่ือพร่อง ต้องรู้จักเติม เม่ือพอ ต้อง รจู้ กั หยดุ เมอ่ื เกิน ตอ้ งรู้จกั ปนั ” (1) หลกั ความพอประมาณ หมายถึง พอประมาณในทุกอย่าง ความพอดีไม่มากหรือ วา่ นอ้ ยจนเกนิ ไปโดยต้องไม่เบยี ดเบยี นตนเอง หรือผอู้ นื่ ใหเ้ ดอื ดร้อน (2) หลักความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเก่ียวกับระดับของความพอเพียง เป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยท่ีเก่ียวข้อง ตลอดจนคานึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จากการกระทานนั้ ๆ อยา่ งรอบคอบ (3) หลักภูมิคุ้มกัน หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการ เปลี่ยนแปลงด้านการต่าง ๆ ท่ีจะเกิดขึ้นโดยคานึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีคาดว่า จะเกดิ ข้นึ ในอนาคต

12 (4) เงื่อนไขความรู้ หมายถึง มีความรอบรู้เก่ียวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่าง รอบดา้ น ความรอบคอบท่ีจะนาความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพ่ือประกอบการวางแผน และขั้นตอนปฏิบัติ (5) เง่ือนไขคุณธรรม หมายถึง มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความอดทน มีความเพยี ร ใชส้ ติปญั ญาในการดาเนนิ ชวี ิต หลักการทรงงาน 23 ข้อ ได้แก่ (1) ศึกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบ (2) ระเบิดจาก ข้างใน (3) แก้ปัญหาท่ีจุดเล็ก (4) ทาตามลาดับข้ัน (5) ภูมิสังคม (6) องค์รวม (7) ไม่ติดตารา (8) ประหยัดเรียบงา่ ย ใชป้ ระโยชน์สงู สุด (9) ทาให้ง่าย (10) การมีส่วนร่วม (11) ประโยชน์ส่วนรวม (12) บริการรวมจุดเดียว (13) ใช้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ (14) ใช้อธรรมปราบอธรรม (15) ปลูกป่าในใจ คน (16) ขาดทุนคือกาไร (17) การพ่ึงตนเอง (18) พออยู่พอกิน (19) เศรษฐกิจพอเพียง (20) ซื่อสัตย์ สจุ ริต จรงิ ใจตอ่ กนั (21) ทางานอยา่ งมีความสขุ (22) ความเพียร (23) รู้-รกั -สามัคคี [6] PDCA คือ การใชว้ งจรบริหารงานคุณภาพ เปน็ กระบวนการในการปรับปรุงการทางาน ขององค์การอย่างเป็นระบบในทุกขั้นตอน โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาและเกิดการพัฒนาอย่าง ตอ่ เน่ือง 1.4.3 การเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 ศตวรรษที่ 21 สถานการณโ์ ลกมคี วามแตกต่างจากศตวรรษท่ี 20 และ 19 ระบบการศึกษา ต้องมีการ พัฒนาเพ่ือให้สอดคล้องกับภาวะความเป็นจริง การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 จึงได้พัฒนาวิสัยทัศน์และกรอบ ความคดิ เพอ่ื การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ข้ึน สามารถสรุปทกั ษะสาคญั อยา่ งยอ่ ๆ ที่เด็กและเยาวชนควรมีได้ว่า ทกั ษะการเรยี นร้แู ละนวัตกรรม หรอื 3R และ 4C ซึ่งมอี งคป์ ระกอบ ดังน้ี 3 R ได้แก่ Reading (การอ่าน), การเขียน(Writing) และ คณิตศาสตร์ (Arithmetic) และ4 C (Critical Thinking - การคิดวิเคราะห์, Communication- การส่ือสาร Collaboration-การร่วมมือ และ Creativity- ความคดิ สร้างสรรค์ รวมถึงทกั ษะชีวติ และอาชีพ และทักษะด้านสารสนเทศส่ือและเทคโนโลยี และการบริหาร จัดการดา้ นการศึกษาแบบใหม่ ภาพท่ี 4 การเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21

13 การจัดการเรียนรู้เพื่อความปลอดภัยของผู้เรียน ด้วยโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยการนา SONTHIRAJ Model, NKP Education 4.0 Model และการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ใช้ในการจัดโครงการ เป็นการดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หรือเป็นการช่วยเหลือนักเรียนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid-19) เพ่ือให้ผู้เรียนเข้าถึงบริการทางการศึกษาสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเน่ือง และการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ชุมชน หน่วยงานของรัฐในการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ส่งผลให้มี คณุ ภาพและประสิทธิภาพมากข้นึ องคป์ ระกอบที่ 2 กระบวนการดาเนนิ งาน 2.1 แผนการดาเนนิ งาน แผนการดาเนนิ งานตามโครงการ ท่ี กจิ กรรม ระยะเวลาดาเนินงาน ผรู้ ับผิดชอบ 1 จัดทารายละเอียดโครงการ และเสนอขออนมุ ตั ิดาเนนิ การ มนี าคม 2564 2 ดาเนินการตามโครงการที่ไดร้ ับการอนุมตั ิ พฤษภาคม 2564– ครูโรงเรียนสนธิ กมุ ภาพันธ์ 2565 ราษฎรว์ ทิ ยา 3 ประเมิน นเิ ทศ และตดิ ตามผลโครงการ มนี าคม 2565 4 สรปุ โครงการ มีนาคม 2565 การดาเนินงานระบบการดูแลชว่ ยเหลือนักเรยี นและความปลอดภยั ในโรงเรยี นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

14 โครงสร้างการบริหารโรงเรียนสนธริ าษฎรว์ ิทยา จังหวัดนครพนม แผนภมู ิการบรหิ ารจัดการระบบการดแู ลช่วยเหลือนกั เรียนของสถานศกึ ษา 1. การรู้จกั นกั เรียนเปน็ รายบุคคล 2. การคดั กรองนักเรยี น กลมุ่ พเิ ศษ กลมุ่ ปกติ กลมุ่ เสีย่ ง กล่มุ มปี ัญหา 3. การสง่ เสรมิ และพัฒนานักเรยี น 4. การป้องกันและแก้ไขปญั หานักเรียน ดีขึ้น พฤติกรรมดีข้นึ หรือไม่ ไม่ดขี ้นึ 5. การสง่ ต่อ ภายใน : ครูแนะแนว หรอื ฝ่ายปกครอง ภายนอก : ผูเ้ ชีย่ วชาญเฉพาะด้าน โรงเรียนสนธิราษฎรว์ ิทยา ไดด้ าเนนิ การช่วยเหลอื และพัฒนานักเรียน โดยใช้ Google Form เป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลเพ่ือนามาวิเคราะห์การดาเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพ่ือ ความรวดเร็วในการ กากับ ติดตาม ตรวจสอบ การสร้างเครือข่ายผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อ วางแผนระบบการบริหารจัดการในการกาหนดนโยบายการบริหาร โครงสร้างรวมถึงผู้รับผิดชอบ การพัฒนา บุคลากร เพ่ือดาเนินการตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล จากการ สังเกต สัมภาษณ์ การเย่ียมบ้านนักเรียน การประเมินหรือทดสอบเพ่ือวิเคราะห์หาความถนัด ความสามารถ สติปัญญา ด้านสุขภาพ และวิเคราะห์ความเป็นอยู่ในการดารงชีวิตของนักเรียนทางด้านคุณภาพชีวิต นามา วนิ ิจฉยั และคัดกรองในการจาแนกกลุ่ม จัดกิจกรรมพัฒนานักเรียน บริการแนะแนวแก่ทุกเรียนทุกคน สาหรับ กลุ่มนกั เรยี นท่ีมีปัญหามีการส่งต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญ โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา มีกระบวนการและขั้นตอนการ ดาเนนิ งานระบบการดูแลชว่ ยเหลือนกั เรียน ดงั น้ี

15 1) การรจู้ กั นักเรียนเป็นรายบุคคล โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา ได้จัดทาฐานข้อมูลนักเรียนทุก คน โดยการบันทึกข้อมูลใน Google Form และเอกสารต่าง ๆ ที่ได้จากการออกเย่ียมบ้านนักเรียน ตามสภาพจริงของนกั เรียน เพื่อนามาคัดกรองและแบง่ ตามประเภท 1.1) การจัดทาระเบียนสะสมให้นักเรียนกรอกข้อมูลรายบุคคลและนาส่งงานระบบ ดแู ลช่วยเหลอื นกั เรียน 1.2) การประเมินพฤติกรรมนักเรียน (SDQ) ให้นักเรียนกรอกข้อมูลประเมินตนเอง หลังจากนั้นครูกรอกข้อมูลประเมินนักเรียน และผู้ปกครองกรอกข้อมูลเพื่อประเมินนักเรียน หลังจาก นั้นประมวลผลดว้ ยโปรแกรม เพอ่ื นาผลประเมนิ ใชใ้ นการคดั กรองนกั เรียน ซ่งึ ทางโรงเรยี นสนธิราษฎร์ วทิ ยา ไดด้ าเนินการดงั กล่าว ดังนี้ โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา ได้ดาเนินการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาด้าน สุขภาพจติ โดยงานแนะแนวการศึกษาต่อและอาชีพ เป็นผู้ได้รับมอบหมายให้ดาเนินการวางแผนการ คัดกรองผู้เรียนเป็นรายบุคคล โดยใช้แบบประเมินจุดแข็งจุดอ่อนของกรมสุขภาพจิต (SDQ:Strengths and Difficulties Questionnaire) เปน็ เคร่ืองมือในการคัดกรองผู้เรยี นเบอื้ งตน้ แบบประเมนิ ชดุ นจ้ี ะมีผลการประเมินจาก 3 สว่ น ไดแ้ ก่ นักเรียนประเมนิ ตนเอง ครูประเมินนกั เรียน และผ้ปู กครองประเมนิ นักเรยี น 1.2.1) ขน้ั ตอนในการประเมิน 1) ครูแนะแนวประชุมช้ีแจงครูที่ปรึกษาเรื่องการใช้แบบประเมินจุดแข็ง จุดออ่ นของกรมสขุ ภาพจิต 2) ครูท่ีปรกึ ษาสงั เกตและทาความรู้จักนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล ในระยะเวลา อยา่ งนอ้ ย 6 เดอื น เพือ่ จะได้ร้จู กั นกั เรยี นให้ดีขึน้ และประเมนิ นักเรียนในห้องเรียนของตนเอง

16 3) ครูแนะแนวแจกแบบประเมินจุดแข็งจุดอ่อนให้นักเรียนประเมินตนเอง ในชั่วโมงกจิ กรรมแนะแนว 4) ครูทป่ี รกึ ษานาส่งผลการประเมนิ ทงี่ านแนะแนว 5) ครดู แู ลระบบการดูแลชว่ ยเหลือนักเรียน งานแนะแนวนาข้อมลู ทีไ่ ดร้ ับ การประเมินจาก 3 ส่วนกรอกลงในโปรแกรมประมวลผล 6) นาผลที่ได้มาจัดเป็นกลุ่มนักเรียนเป็นกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง และกลุ่ม มีปัญหา 7) งานระบบการดูแลช่วยเหลอื นักเรยี นจะแจ้งผลการประเมินจุดแข็งจุดอ่อน ตอ่ ครทู ีป่ รึกษา เพอื่ ใหร้ บั ทราบขอ้ มูลและร่วมใหค้ วามชว่ ยเหลือนักเรียน 8) นักเรียนกลุ่มดังกล่าวทางงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนจะแบ่งการ จัดกจิ กรรมเปน็ 2 ลักษณะ 8.1) กลุ่มปกติ โรงเรียนได้จัดทาโครงการและกิจกรรม เพื่อการส่งเสริม พัฒนาผู้เรียน ได้แก่ โครงการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน กิจกรรมรักการอ่าน กิจกรรมแนะแนว กิจกรรม ลกู เสือ - เนตรนารี กจิ กรรมลดเวลาเรียนเพ่มิ เวลารู้ 8.2) กลมุ่ เสย่ี งและกลุ่มมีปัญหา โรงเรียนไดจ้ ัดทาโครงการและ กิจกรรมเพอื่ การปอ้ งกันและชว่ ยเหลือนกั เรยี น ไดแ้ ก่ โครงการยกระดับผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียน กจิ กรรมระบบการดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี น กิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรม จรยิ ธรรม กจิ กรรมส่งเสรมิ สุขภาพและอนามัย กจิ กรรม To Be Number One 9) นักเรียนกลุ่มดังกล่าวจะเข้ากระบวนการให้ความช่วยเหลือโดยผ่าน โครงการ และกิจกรรมของกลุ่มงานต่าง ๆ และได้รับการดูแลด้านพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดจากครูท่ี ปรกึ ษา คอยติดตามและสงั เกตการเปลยี่ นแปลงทางด้านพฤติกรรม 9.1) หลังจากนักเรียนได้รับความช่วยเหลือจากงานระบบดูแลช่วยเหลือ ต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว งานแนะแนวจะดาเนินการประเมินจุดแข็งจุดอ่อนของนักเรียนกลุ่มน้ีซ้า อีกครง้ั หนง่ึ 2.2 การดาเนนิ งาน 2.2.1) การเย่ียมบ้าน ดาเนินการโดยให้คณะครูที่ปรึกษาในทุกระดับช้ันออกเย่ียมบ้าน นักเรียน ภาคเรียนละ 1 คร้ัง หรือมากกว่าแล้วแต่กรณี หากพบว่านักเรียนมีพฤติกรรมที่ผิดระเบียบ โรงเรยี นจานวนหลายครัง้ กจ็ ะดาเนนิ การออกเยย่ี มบ้านบ่อยคร้ัง ท้ังน้ีการออกเยี่ยมบ้านในแต่ละครั้ง จะมกี ารบันทึกขอ้ มลู เสมอ โดยครูท่ีปรึกษาและครูระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนจัดทาเอกสารการ สัมภาษณ์ผู้ปกครองในเร่ืองต่าง ๆ ทั้งในครอบครัวและชุมชน เพื่อเป็นข้อมูลในการดาเนินงานระบบ ดูแลช่วยเหลือนักเรียน รวมทั้งพบปะผู้ปกครองและร่วมหารือถึงปัญหาต่าง ๆ โดยในการเยี่ยมบ้าน นักเรยี นนัน้ ทางโรงเรยี นไดร้ ับทราบถงึ สภาพปญั หาทเ่ี กดิ ขนึ้ สามารถจาแนกเป็นประเภทปัญหา ดงั น้ี

ปัญหา 2562 2563 17 จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ 1. ดา้ นการเรยี น 2564 1.1 กลมุ่ ปกติ จานวน รอ้ ยละ 1.2 กลมุ่ เสี่ยง 1.3 กลุม่ มปี ญั หา 362 91.18 369 91.56 351 93.10 รวม 24 6.05 26 6.45 21 5.57 11 2.77 8 1.98 5 1.32 397 100 403 100 377 100 2. ดา้ นสุขภาพ 2.1 กลมุ่ ปกติ 373 93.95 376 93.30 357 94.69 5.28 24 5.95 16 4.24 2.2 กลมุ่ เสี่ยง 21 0.75 3 0.74 4 1.06 100 403 100 377 100 2.3 กลุม่ มปี ญั หา 3 39.04 148 36.72 133 35.27 รวม 397 43.57 194 48.13 187 49.60 17.38 61 15.13 57 15.11 3. ดา้ นเศรษฐกิจ 100 403 100 377 100 3.1 กลมุ่ ปกติ 155 88.66 363 90.07 353 93.63 9.31 36 8.93 15 3.97 3.2 กลมุ่ เสย่ี ง 173 2.01 11 0.99 9 2.38 100 403 100 377 100 3.3 กลมุ่ มปี ญั หา 69 96.47 385 95.53 362 96.02 รวม 397 4.78 15 3.72 13 3.44 1.25 3 0.74 2 0.53 4. ด้านสวัสดิภาพและความปลอดภยั 100 403 100 377 100 4.1 กลุ่มปกติ 352 4.2 กล่มุ เสย่ี ง 37 4.3 กลุ่มมปี ัญหา 8 รวม 397 5. ดา้ นพฤติกรรมการใช้การเสพตดิ 5.1 กลุม่ ปกติ 383 5.2 กลุ่มเสี่ยง 19 5.3 กลมุ่ มปี ญั หา 5 รวม 397 แผนการแกไ้ ขปญั หา 1) ปัญหาด้านการเรยี น แก้ปัญหาโดยจัดกิจกรรม NO HOMEWORK และงานวิจัยและพัฒนานักเรียน บกพร่องทางการเรยี นรภู้ ายใตโ้ ครงการพอ่ ครูแม่ครูสู่การสอนเสริม 1 นกั เรยี นบกพรอ่ ง 1 ครผู ู้พัฒนา 2) ดา้ นสขุ ภาพ แก้ปญั หาโดยการตดิ ต่อสอื่ สารกับผปู้ กครอง ดูแลให้ความช่วยเหลอื เบื้องตน้ ใน

18 โรงเรียนโดยครูอนามัยโรงเรียน ด้านโภชนาการหากนักเรียนมีภาวะทุพโภชนาการ(น้าหนักต่ากว่าเกณฑ์ น้าหนักเกินเกณฑ์) แนะนา ดูแลให้นักเรียนออกกาลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เหมาะสมกับช่วง วัยโดยมีนักเรียนแกนนา อย.น้อย ให้ความรู้ด้านการบริโภค หากเกินกาลังความสามรถในการดูแลจะส่งต่อ โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตาบลบ้านเซียงเซา โรงพยาบาลศรีสงคราม 3) ด้านเศรษฐกจิ จัดหาทุนการศกึ ษาสาหรับนักเรียนทม่ี ีความประพฤติดแี ตฐ่ านะยากจน โดยโรงเรียน มีกองทุนหลวงป่สู นธ์ิ เขมโิ ย ทมี่ อบทนุ การศึกษาใหก้ บั นกั เรียนเปน็ ประจาทกุ ปี ทุนการศกึ ษามูลนธิ ทิ ิสโก้ เพอื่ การกุศล การคัดกรองนกั เรยี นเพ่ือรบั ทุนปจั จยั พื้นฐานนักเรียนยากจน เป็นตน้ 4) ด้านสวสั ดิภาพและความปลอดภยั 4.1) อาคารเรียน มีความม่ันคง แข็งแรง และปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อ นกั เรยี น โรงเรยี นมีตแู้ ดงโดยมีเจา้ หนา้ ทีต่ ารวจออกตรวจเหตกุ ารณเ์ ปน็ ประจาทกุ วัน 4.2) มีเวรรักษาการณ์ประจาสถานที่ราชการกลางวัน กลางคืน และวันหยดุ ราชการ 4.3) มรี ะบบรกั ษาความปลอดภยั โดยการติดตง้ั กลอ้ งวงจรปดิ 4.4) ชมุ ชนให้ความช่วยเหลือในการสอดสอ่ งดแู ลพฤติกรรมของนักเรยี น 5) ด้านพฤตกิ รรมการใช้สารเสพตดิ 5.1) มกี ารสมุ่ ตรวจสารเสพตดิ ในกลมุ่ ผู้ทม่ี พี ฤตกิ รรมเส่ียงต่อการใช้สารเสพตดิ 5.2) อบรมให้ความรู้ และสรา้ งความตระหนักถงึ โทษและภยั ของสารเสพตดิ ทส่ี ่งผล กระทบต่อรา่ งกาย จติ ใจ สงั คม สตปิ ัญญา 5.3) ส่งเสริมให้เขา้ รว่ มกจิ กรรมดา้ นกฬี า ดนตรี และศิลปะ เพื่อลดพฤติกรรมที่เสี่ยง ตอ่ การใชส้ ารเสพตดิ 5.4) ปรบั พฤติกรรมนักเรยี น โดยครูฝา่ ยปกครอง 5.5) ส่งต่อสหวิชาชีพที่เกี่ยวข้องในกรณีที่เกินความสามารถท่ีทางโรงเรียนจะให้ ความช่วยเหลือได้ 2.2.2) บนั ทึกข้อมูลสุขภาพ โรงเรยี นสนธิราษฎร์วทิ ยาไดเ้ ชญิ เจา้ หน้าท่ีโรงพยาบาล สง่ เสริมสุขภาพตาบลบ้านเซยี งเซา อาเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม มาตรวจสขุ ภาพ สว่ นสูง นา้ หนัก ค่าสายตาของนักเรียน ประจาทุกภาคเรียน และบันทึกข้อมูลลงในสมุดตรวจสุขภาพของนักเรียน ทั้งนี้ทาง โรงเรียนยังไดจ้ ดั สถานท่สี าหรบั การปฐมพยาบาลแก่นกั เรียน (ห้องพยาบาลโรงเรยี น) 2.2.3) การสังเกตพฤติกรรมอื่น ๆ มีนักเรียนแกนนาในแต่ละช้ันเรียนสังเกตพฤติกรรม ของเพื่อน(นักเรียนแกนนาห้องเรียนสีขาว) รวมถึงครูที่ปรึกษา ครูผู้สอน และงานพฤติกรรมนักเรียน บันทึก ข้อมูลการมาโรงเรียนของนักเรียนโดยใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เมื่อนักเรียนไม่มาเรียน ทางฝ่าย พฤติกรรมนักเรียนจะแจ้งให้ครูที่ปรึกษา เพื่อท่ีจะได้ติดตามนักเรียนต่อไป รวมท้ังครูประจาวิชาจะสารวจ ขอ้ มลู ในการมาเรยี นของนกั เรียนและพฤตกิ รรมในช้ันเรียนด้วย

19 2.3 สรปุ ผลสาเร็จของการดาเนนิ งาน การคัดกรองนกั เรียน อาศัยขอ้ มลู เก่ียวกับนกั เรียนเบื้องต้น แบ่งนักเรยี นออกเป็น 2 กล่มุ ดังน้ี 1) กลุ่มปกติ คือ นักเรียนท่ีได้รับการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ตามเกณฑ์การคัดกรองของโรงเรียนแล้ว อยู่ใน เกณฑข์ องกลุ่มปกติ 2) กลุ่มเสย่ี งมปี ญั หา คอื นกั เรียนท่ีจดั อยใู่ นเกณฑข์ องกลุ่มเส่ียงมีปัญหาตามเกณฑ์การคัด กรองของโรงเรียน ซ่ึงโรงเรียนต้องให้ความช่วยเหลือ ป้องกันหรือแก้ไขปัญหาตามแต่กรณี ด้านการเรียน ด้านสุขภาพ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านสารเสพติด ด้านการคุ้มครอง การติดเกมส์และด้านการมี เพศสมั พันธ์ก่อนวยั อนั ควร แลว้ รายงานข้อส่งมลู ต่อผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา เพื่อดาเนนิ การในส่วนท่ีเกี่ยวขอ้ ง การสง่ เสรมิ และพัฒนานักเรยี น การดูแลช่วยเหลือนักเรียน ดาเนินการเอาใจใส่นักเรียนอย่างเท่าเทียมกัน แต่สาหรับ นักเรียนท่ีอยู่ในกลุ่มปกติจะได้รับการส่งเสริมพัฒนาให้ดีย่ิงขึ้น และสาหรับกลุ่มเส่ียงมีปัญหานั้นจะได้รับการ ดูแลอย่างใกล้ชิดและหาวิธีการช่วยเหลือทั้งการป้องกันและการแก้ไขปัญหา โดยไม่ปล่อยปละละเลยจน กลายเป็นปัญหาของสังคม และการสร้างภูมิคุ้มกันท่ีดีแก่นักเรียน ทั้งน้ีทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมโฮมรูม และ จัดประชุมผปู้ กครองนักเรียน จัดกิจกรรมทห่ี ลากหลาย เชน่ กฬี า ดนตรี นาฏศลิ ป์ และกิจกรรมเพ่อื สาธารณะ ประโยชนเ์ พือ่ ช่วยป้องกนั และแกไ้ ขปญั หาทจี่ ะเกดิ ข้ึน การปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหานักเรียน 1) โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา ได้จัดทาคาส่ังโรงเรียน เร่ืองการแต่ต้ังครูและบุคลากร ทางการศึกษาปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าระดับและครูที่ปรึกษา เพ่ือกากับ ติดตาม ดูแลนักเรียนให้ปฏิบัติตนได้ ถูกต้องตามระเบียบวนิ ัย คอยชี้แนวทางทด่ี ีให้ 2) โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา ได้จัดกิจกรรมเพ่ือป้องกันและแก้ไขปัญหา เช่น การออก เยี่ยมบ้านนักเรียน การจัดงานวันรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด กิจกรรมคุณธรรม จริยธรรม กิจกรรมด้านดนตรี- กีฬา กิจกรรมกีฬาภายใน กิจกรรมจิตอาสา/บาเพ็ญประโยชน์ กิจกรรมชมรม To Be Number One ชมรม อย.นอ้ ย 3) จัดกิจกรรมกายบริหารและน่ังสมาธิก่อนเข้าช้ันเรียน เพื่อเสริมสร้างวินัย คุณธรรมและ จริยธรรม 4) โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา มีการประสานงานกับชุมชนจัดโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งกิจกรรมทางพุทธศาสนา และร่วมมือกับเจ้าหน้าท่ีตารวจผู้ประสานงานประจาโรงเรียนในการตรวจ ปัสสาวะนักเรียนกลุ่มเส่ียงมีปญั หาอย่างตอ่ เนื่อง ทง้ั น้เี พอ่ื ปลกู ฝงั ให้นกั เรียนมีจติ สาธารณะและมรี ะเบยี บวินัย การสง่ ต่อ โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา ให้ความช่วยเหลือและดูแลนักเรียนท่ีมีปัญหาความเส่ียงในด้าน ต่าง ๆ โดยการส่งต่อทั้งภายในโรงเรยี นและภายนอกโรงเรยี น สาหรบั ภายนอกส่งต่อไปยงั หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทส่ี ามารถช่วยเหลอื ได้ นักเรียนท่ีมีปัญหา ด้านยาเสพติดส่งต่อให้กับโรงพยาบาลและสาธารณสุข อาเภอศรี สงคราม จงั หวดั นครพนม เพื่อเข้ารับการบาบัด นกั เรยี นท่มี ีปญั หาด้านสขุ ภาพสง่ ต่อใหก้ ับโรงพยาบาล อาเภอศรีสงคราม จงั หวัดนครพนม เพ่ือเข้ารับการรักษาต่อไป

20 2.4 การนาผลการดาเนนิ งานไปปรับปรงุ พัฒนา จากการดาเนินงานอย่างต่อเนื่องทาให้นักเรียนโรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา ที่มีพฤติกรรมไม่ เหมาะสมลดลง และสง่ เสริมใหน้ กั เรยี นกล่มุ ปกติมคี ณุ ลักษณะของผเู้ รียนทีเ่ หมาะสมยิ่งข้นึ โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา ได้ใช้นวัตกรรมในการดาเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยจัดทาโปรแกรมระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้ Google Form เพ่ือดาเนินงานสอดคล้องทั้ง 5 ขั้นตอนอย่างเป็นระบบครบวงจร ซึ่งครูหรือผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถติดตาม ตรวจสอบ ได้อย่างรวดเร็ว ท้ังน้ีทาง โรงเรยี นยังไดบ้ รู ณาการกิจกรรมเสรมิ ทกั ษะชีวติ กิจกรรมดา้ นวชิ าการทกุ กลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อเสริมทักษะ และพฤติกรรมเชิงบวกให้แก่ผู้เรียน ซึ่งปัจจุบันนักเรียนท่ีได้รับความช่วยเหลือและเห็นผลอย่างชัดเจน เช่น เด็กชายเอ ใจดี (นามสมมติ) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนได้นาข้อมูลของนักเรียนมาแก้ปัญหาตาม ขั้นตอนการดูแลและช่วยเหลือนักเรียน ซ่ึงนักเรียนรายน้ีมีปัญหาพฤติกรรมการขาดเรียนบ่อยครั้ง ทาให้ไม่มี สิทธิ์สอบหลายวิชา แต่โรงเรียน ครูที่ปรึกษาได้ติดตามและช่วยเหลือ ให้คาปรึกษาจนนักเรียนปรับเปลี่ยน พฤติกรรม และมาเรียนอย่างสม่าเสมอ อีกทั้งยังส่งเสริมความสามารถพิเศษตามความถนัดของนักเรียน คือ ความสามารถด้านกีฬาเซปักตะกร้อ เป็นตัวแทนของโรงเรียนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในระดับสหวิทยาเขต To Be Number One เป็นต้น องค์ประกอบที่ 3 ผลการดาเนินงาน ประโยชน์ที่เกิดขึ้นต่อผู้เรียน/ครูผู้สอน/สถานศึกษา/การศึกษาในภาพรวม/ชุมชนและผู้มีส่วน เกย่ี วขอ้ งในการบริหารจดั การศกึ ษา การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนท่ีเก่ียวข้องในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและความ ปลอดภัยของโรงเรยี น โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา เน้นการบริหารแบบมีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน โดยมี การทาบนั ทึกขอ้ ตกลง(MOU) กบั หนว่ ยงานตา่ ง ๆ ตามกรอบความร่วมมอื ดังน้ี นอกจากนี้การมีส่ ว นร่ว มของภ าคีเครือข่ายทุกภาคส่ วนที่เก่ี ยว ข้องในการดูแล ช่วยเหลื อ นักเรียน โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา มีภาคีเครือข่ายในการร่วมมือการดาเนินการระบบการดูแลช่วยเหลือ นักเรียน เพื่อการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายในและบุคคลภายนอก เช่น คณะกรรมการ สถานศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน กรรมการเครอื ขา่ ยผู้ปกครอง ผู้ปกครอง องค์กรต่าง ๆ และเชิญเป็นกรรมการ ขอความ ร่วมมือ ขอความคิดเห็น เพื่อให้คาปรึกษา ข้อเสนอแนะ อานวยความสะดวกในการประสานงาน ให้ข้อมูลท่ี เป็นประโยชน์ เป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ให้ข้อมูลข่าวสารและร่วม กิจกรรมของโรงเรียนต่าง ๆ ของโรงเรียนสนธริ าษฎรว์ ทิ ยา มปี ระธานและกรรมการดาเนินการ เพือ่ รว่ มกนั

21 แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและเพื่อพัฒนาโรงเรียนและนักเรียนท่ีมีปัญหาทุกด้าน โดยกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้ร่วมกัน กาหนดมีกิจกรรมดงั นี้ 1) จัดประชุมภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนท่ีเก่ียวข้อง เช่น คณะกรรมการสถานศึกษาข้ัน พ้ืนฐาน กรรมการเครอื ขา่ ยผู้ปกครอง เครอื ข่ายผู้ปกครอง ความสาคัญของเครือข่ายผู้ปกครอง มีวัตถุประสงค์ เพ่ือการดาเนินงานสร้างความสัมพันธ์อนั ดีระหว่างบ้านและสถานศึกษา เพื่อให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง มีส่วนร่วมใน การจัดกิจกรรมพัฒนาพฤติกรรมผู้เรียน เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์และแนวคิดระหว่าง ผู้ปกครอง ครู และนักเรียนในสถานศึกษา เพ่ือเป็นการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือเป็นความรู้เป็นประสบการณ์ให้ สามารถช่วยเหลือตนองได้ ดารงไว้ซ่ึงวัฒนธรรมประเพณี และละเว้นอบายมุขทั้งปวง กับเพื่อส่งเสริมความ สามัคคีช่วยเหลือเกื้อกูลซ่ึงกันและกัน เพ่ือให้มีการติดต่อส่ือสารกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ได้อย่างรวดเร็วและมี ประสทิ ธิภาพ 2) การร่วมมือกับภาคีเครอื ข่ายจัดกิจกรรมครูตารวจสอนเกยี่ วกบั ยาเสพติดและการป้องกัน และชว่ ยเหลือนักเรียนมาสอน เพื่อขับเคลื่อนการป้องกันภัยจากยาเสพติดในสถานศึกษา ร่วมมือป้องกันไม่ให้ นักเรียนเข้าเก่ียวข้องกับยาเสพติด สร้างเครือข่ายระหว่างสถานศึกษากับสถานีตารวจภูธรอาเภอศรีสงคราม โดยมีครูแดร์ (D.A.R.E) เป็นตารวจที่ทาหน้าท่ีมาให้ความรู้กิจกรรมท่ีดาเนิน 4 หลักใหญ่ ๆ คือ 1) ให้ข้อมูลที่ ถูกต้องเกี่ยวกับสุราและยาเสพติด 2) ให้เด็กรู้จักใช้ทักษะในการตัดสินใจการต่อต้านแรงกดดันของกลุ่มเพ่ือน 3) ใหเ้ ด็กรูจ้ ักวธิ ตี ่อต้านแรงกดดันของกลุ่มเพ่ือน และ4) ให้เด็กรู้จักใช้ทางเลือกอ่ืน ๆ นอกเหนือจากการใช้ยา เสพติด และความรุนแรง 3) จัดทาการบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือระหว่างโรงเรียนกับหน่วยงานภายนอก และหน่วยงานในเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้โรงเรียนเป็นสถานที่ปลอดยาเสพติดและ อบายมุข โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยาได้ทาบันทึกข้อตกลงในการป้องกัน และเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดใน สถานศึกษาร่วมกับ สถานีตารวจภูธรอาเภอศรีสงคราม องค์การบริหารส่วนตาบลบ้านเอ้ือง และโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตาบลบ้านเซียงเซา เครือข่ายสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข โดยร่วมมือกับ ผู้ปกครองเพอื่ ใหส้ ถานศึกษามรี ะบบเฝา้ ระวังปัญหายาเสพตดิ อย่างต่อเน่ืองและย่ังยนื เครอื ข่ายโครงการ อย.น้อย เป็นโครงการรณรงค์ให้เกิดความปลอดภัยในการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้แก่ อาหาร ยา เครื่องสาอาง วัตถุอันตราย วัตถุเสพติด และเครื่องมือแพทย์ เครือข่ายการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรค ไข้เลือดออก ร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนตาบล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ อสม.หมู่บ้าน ในป้องกัน/ รณรงค/์ ประชาสมั พันธ/์ ฝึกอบรม/ให้ความรู้ เพอื่ ให้นกั เรยี นหา่ งไกลโรคไขเ้ ลอื ดออก 4) การส่งเสริม สนับสนุน นิเทศ ติดตาม และประเมินผลการดาเนินงานส่งผลต่อ ประสทิ ธภิ าพระบบการดูแลช่วยเหลอื นักเรียนและความปลอดภัยในโรงเรียน การส่งเสริม สนบั สนุน ตดิ ตาม และประเมนิ ผลเป็นกระบวนการสาคญั ในการพัฒนางาน ซงึ่ จะช่วยสง่ เสรมิ และใหข้ ้อมูลยอ้ นกลับท่ีจะใช้ในการปรับปรงุ พัฒนางานระบบการดแลช่วยเหลอื นกั เรียน โรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา มีการวางแผนในการกากับ ติดตาม การทางานของครูท่ีปรึกษาให้รับรู้ ทาความ เข้าใจเก่ียวกับระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพการดาเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือ นักเรียน และร่วมกันแกป้ ญั หาท่เี กิดขึ้นอย่างต่อเน่อื ง ดังนี้ 4.1) จดั ใหม้ ีการนเิ ทศ กากับ ติดตาม ประเมนิ ผลการทางานของครูท่ีปรกึ ษาไปพร้อม กบั การนเิ ทศการจัดการเรียนการสอนของครู

22 4.2) สนับสนนุ ให้มสี ิง่ อานวยความสะดวกแกค่ รทู ี่ปรึกษาในการดาเนนิ งานระบบการ ดแู ลช่วยเหลอื นักเรียนและให้ขวัญกาลังใจ เช่น ยกยอ่ ง ให้รางวัล ความดี ความชอบ 4.3) บันทึกหลักฐานการปฏิบัติงาน และจัดทารายงานประเมินผล โรงเรียนสนธิราษฎร์ วิทยา ได้มีการการพัฒนาครูให้มีความรู้ ความเข้าใจและทักษะในการปฏิบัติงานระบบการดูแลช่วยเหลือ นักเรียนโดยการส่งครูและบุคคลากรเข้ารับการอบรม และประชุมเชิงปฏิบัติการต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการ ปฏิบัติงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างต่อเน่ือง จนได้รับโล่เชิดชูเกียรติโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข โครงการอิม่ ท้องสมองใส สรปุ ประโยชนท์ ่ีไดจ้ ากการดาเนนิ งาน การขยายผล และการเผยแพร่ผลการดาเนินงาน ความสาเร็จของการดาเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและความปลอดภัยในโรงเรียน จากการดาเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา อย่างต่อเน่ืองประสบ ความสาเร็จ ดงั น้ี 1) นักเรียน ได้รับการดูแลช่วยเหลือ ส่งเสริม ป้องกันและแก้ปัญหาอย่างมีระบบโดยมี วิธีการและเคร่ืองมือสาหรับครูท่ีปรึกษาและบุคลากรท่ีเกี่ยวข้องเพ่ือให้นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ปลอดภัยจากสารเสพติด ซ่ึงทางโรงเรียนได้นาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาของ นกั เรียนในการศึกษารายกรณีจนประสบความสาเรจ็ ดงั น้ี - เดก็ ชายจาตรุ ณ คาใหญ่ ปจั จุบันสาเร็จการศกึ ษาแล้ว เรม่ิ แรกทางโรงเรียนได้คัดกรอง นกั เรยี นเป็นรายบคุ คลจนพบวา่ นกั เรียนมคี วามบกพรอ่ งทางดา้ นร่างกายแต่มีความสามารถพิเศษทางด้านการ ร้องเพลง โรงเรียนมกี ารพัฒนาและส่งเสริม โดยให้นักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียน การขับ ร้องเพลงไทยลูกทุ่ง สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับท่ี 1 ระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษา และได้รับรางวัลเหรียญ ทอง ระดับภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื - นางสาวสาวิตรี พิมพ์ตะคลอง ปัจจุบันเป็นนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 จากการคัด กรองพบวา่ นกั เรียนมีความบกพร่องทางด้านร่างกาย แต่มีความสามารถพิเศษทางด้านการวาดภาพ โรงเรียนมี การพัฒนาและสง่ เสริม โดยให้นกั เรยี นเขา้ รว่ มการแข่งขนั ศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี น การแข่งขันวาดภาพระบายสี ระดับช้ันมัธยมศึกษา สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับท่ี 1 ระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษา และได้เข้าร่วมการ แข่งขันในระดบั ชาติ ไดร้ บั รางวัลระดับเหรยี ญทอง - นางสาวสาวิตรี แผนสันเทียะ นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันสาเร็จการศึกษา แล้ว ได้รับการคัดเลือกเป็นคนดีศรีสงคราม และได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 การประกวดบรรยายธรรม ระดับมัธยมศกึ ษา 2) ครแู ละบุคลากรทางการศึกษา มคี วามเขา้ ใจหลกั การดาเนนิ งานระบบการดูแลช่วยเหลือ นักเรียนสามารถดาเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจนประสบความสาเร็จ ซ่ึงครูที่มีผลงานการปฏิบัติงานใน ระบบการดูแลชว่ ยเหลือนกั เรียนมาจัดการแก้ไขปญั หายาเสพตดิ ในสถานศึกษาและไดร้ ับรางวัล ดังนี้ - ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา ผ่านการอบรมและผ่านการ ทดสอบระบบมาตรฐานดา้ นความปลอดภัย (MOE Safety Platform) 24 คน - ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา ได้รับรางวัล “ครูดีไม่มี อบายมขุ ” จานวน 21 คน 3) โรงเรียน มีการดาเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ ผู้บรหิ ารโรงเรยี น ครู ผู้ปกครอง มสี ่วนรว่ มในการสง่ เสริม พฒั นา ปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหา เพือ่ ให้นกั เรียนได้

23 พัฒนาเต็มตามศักยภาพ มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีทักษะชีวิตที่ดีในการดารงชีวิตอย่างมีความสุขและ ปลอดภยั ซ่ึงสง่ ผลให้โรงเรยี นจนไดร้ ับรางวัล ดงั นี้ - โรงเรียนสนธิราษฎรว์ ิทยา ได้รับเกยี รตบิ ัตรรางวลั สถานศึกษาที่มรี ะบบการดูแล ช่วยเหลือนกั เรยี นดีเด่น ระดับเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษา ประจาปี 2563 ประเภทสถานศึกษาขนาดเล็ก ระดับทอง ท้ังน้ี ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารท่ีเก่ียวข้องเพ่ือประกอบการพิจารณาความเป็นเลิศในการจัดการศึกษา ไว้ครบถ้วนแล้ว และขา้ พเจา้ ขอรับรองว่ารายงานการเสนอผลงานนีม้ ีความถูกต้องและเปน็ จรงิ ทุกประการ ลงช่ือ...........................................ผู้เสนอผลงาน (นายสุรชาติ อนิ ธแิ สง) ตาแหน่ง ครู โรงเรียนสนธริ าษฎรว์ ิทยา วนั ที่ 18 เดือน มนี าคม พ.ศ. 2565 การรับรองผลงาน ขา้ พเจา้ นายวชริ ะ ปะทะดี ตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา 1ขอรับรองว่า ผลงานนี้เป็นหนา้ ทขี่ องผเู้ สนอผลงานอย่างแทจ้ ริง ลงชอ่ื ............................................ผู้รบั รองผลงาน (นายวชริ ะ ปะทะดี) ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรยี นสนธิราษฎรว์ ิทยา วันท่ี 18 เดือน มนี าคม พ.ศ. 2565

ภาคผนวก

25 หลักฐานประกอบทีแ่ สดงให้เห็นว่านกั เรียนทุกคนได้รับการดูแลชว่ ยเหลือ และคุ้มครองอยา่ งทั่วถงึ และ ใกล้ชดิ ส่งผลต่อคณุ ภาพการจดั การศึกษาของสถานศึกษาในภาพรวมสูงขึ้น นักเรยี นมคี ณุ ลกั ษณะที่พึง ประสงค์ตามหลักสูตร มที กั ษะชีวิต ปลอดจากการออกกลางคัน และปลอดยาเสพตดิ รวมทั้งอบายมขุ ทั้งปวง แบบรายงานผลการออกเยยี่ มบา้ น คาส่งั โรงเรียนสนธิราษฎร์วทิ ยา เรื่อง แตง่ ตั้งหัวหนา้ ระดับ และครูที่ปรึกษา

26 คาสั่งโรงเรียนสนธริ าษฎรว์ ทิ ยา เรอ่ื ง แตง่ ตงั้ คณะกรรมการดาเนินโครงการปฐมนิเทศ และประชุมผปู้ กครองนักเรยี น คาสั่งโรงเรียนสนธิราษฎร์วิทยา เรอ่ื ง แตง่ ต้งั คณะกรรมการดาเนนิ งานระบบดแู ลช่วยเหลือนักเรยี น

27 รูปภาพการออกเยยี่ มบ้านนักเรียน

28 งานระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรยี นเปน็ ตวั แทนสพม.นครพนม มอบเงนิ ชว่ ยเหลอื นักเรยี น

29 กิจกรรมท่ีแสดงใหเ้ หน็ ว่านกั เรยี นมีคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ตามหลักสูตร มีทกั ษะชีวิต ปลอดจากการออกกลางคนั และปลอดยาเสพตดิ รวมทั้งอบายมุขทั้งปวง  กิจกรรมอมิ่ ท้องสมองใส ยกระดับผลสัมฤทธิ์ O-Net ดว้ ยระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี น  กิจกรรม To be Number one เป็นหนึง่ ไม่พ่ึงยาเสพตดิ  กจิ กรรมรว่ มรณรงค์ต่อต้านยาเสพตดิ รว่ มกับชุมชน และหน่วยงานอืน่  กจิ กรรมตามโครงการ สถานศกึ ษาสีขาว ปลอดยาเสพตดิ และอบายมขุ  กิจกรรมขบั ขี่ปลอดภยั สวมใส่หมวกนริ ภยั  กิจกรรมสง่ เสรมิ ใหน้ ักเรียนดาเนนิ ชวี ติ ตามหลักศาสตร์พระราชา

30  กิจกรรมลูกเสือต้านภัยยาเสพตดิ  กจิ กรรมบาเพ็ญประโยชน์ยุวกาชาด  กิจกรรมกีฬาตา้ นยาเสพติด  กจิ กรรมสวดมนต์ นั่งสมาธิ วนั ศกุ ร์สุดสปั ดาห์  กิจกรรมการเรียนการสอนชุมนุมตามความสนใจของนกั เรยี น  กจิ กรรมการอบรมให้ความร้เู ก่ียวกบั เพศศึกษา ป้องกันปัญหาออกกลางคนั  กิจกรรมสง่ เสรมิ ความมีวนิ ัยให้กบั นกั เรียน

31  กิจกรรมมอบทนุ การศึกษาแก่นกั เรียนผูข้ าดแคลน และความประพฤติเรยี บร้อย  กิจกรรมมอบเกียรติบัตรให้นกั เรียนผ้สู ร้างชื่อเสยี งแกโ่ รงเรียน  กจิ กรรมสง่ เสรมิ การมีจติ อาสาของนักเรียน  กิจกรรมสง่ เสรมิ ความมีประชาธิปไตย  กิจกรรมวันปลูกตน้ ไม้  กิจกรรมให้ความรู้ในการคัดแยกขยะ  กิจกรรมออกกาลังกายเพอ่ื สขุ ภาพอนามยั ท่ดี ีของนักเรยี น

32  กจิ กรรมทาบุญตกั บาตรวันสาคญั ทางศาสนา และอบรมศีลธรรมในโรงเรียน  กจิ กรรมสง่ เสรมิ ความรักชาติ ศาสตร์ กษตั รยิ ์  กิจกรรมร่วมงานประเพณีกับชมุ ชนชาวตาบลบา้ นเอ้อื ง อาเภอศรีสงคราม จังหวดั นครพนม  กิจกรรมตามโครงการส่งเสรมิ ความเป็นเลิศทางวิชาการ การแข่งขันศิลปหตั ถกรรม  กจิ กรรม No Homework เพื่อนช่วยสอนการบ้าน  กิจกรรม แกนนา อย.น้อย ไดร้ ับรางวัลรองชนะเลิศระดบั จังหวดั  กิจกรรมวันปัจฉมิ นิเทศ

33  กจิ กรรมการอบรมหลักการเลือกเคร่ืองอุปโภค บรโิ ภค และสนบั สนนุ หลกั เศรษฐกจิ พอเพียงในโรงเรยี น  กิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบตั กิ ารหลักสตู รต้านทจุ รติ ศึกษา ตามโครงการโรงเรยี นสุจรติ ร่นุ ท่ี 1  โรงเรียนมตี ูแ้ ดงโดยมเี จา้ หนา้ ท่ตี ารวจออกตรวจเหตกุ ารณเ์ ปน็ ประจาทกุ วนั  กจิ กรรมเยย่ี มบ้านนกั เรียน โดยครูท่ีปรกึ ษา  กจิ กรรมประชมุ ผปู้ กครอง  กิจกรรม HOME ROOM และนั่งสมาธกิ ่อนเข้าช้นั เรียนทุกวนั โดยครทู ี่ปรึกษา

34  การกากับ ตดิ ตามนักเรียน การจดั ทาข้อมูลนักเรียนรายบคุ คล และการประเมิน SDQ  โครงการพ่อครูแม่ครสู ูก่ ารสอนเสรมิ 1 ครู 1 นกั เรียนบกพร่องทางการเรยี นรู้ ดาเนินการวิจยั และพัฒนา ดา้ นการอ่าน การเขียน และการคดิ คานวณ ของนักเรียนทผ่ี ่านการคดั กรองเปน็ นกั เรยี นบกพร่อง ทางการเรียนรู้ กิจกรรมเพื่อนที่ปรึกษา YC กิจกรรมเลือกตง้ั สภานักเรยี น

35 หลักฐานประกอบการมสี ่วนรว่ มของภาคีเครอื ขา่ ยทุกภาคส่วนทเี่ กยี่ วขอ้ งในการดูแลช่วยเหลือนกั เรียน ของสถานศึกษา การบนั ทกึ ขอ้ ตกลง (MOU) ความรว่ มมือระหวา่ งโรงเรยี นกับหนว่ ยงานภายนอกในเร่ืองการ ปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หายาเสพติด เพื่อใหโ้ รงเรยี นเป็นสถานท่ปี ลอดยาเสพติดและอบายมุข เร่ืองการดแู ล สุขภาพ และความปลอดภัยของนักเรียน ตลอดจนใหก้ ารสนบั สนุนด้านอ่นื ๆ เพื่อแก้ไขปัญหา และหรอื สนับสนุนนกั เรียนร่วมกัน

36 หลักฐานประกอบการดาเนินงานตามสภาพความสาเรจ็ ของระบบการดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรียน  การนาใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) ระบบการดแู ลช่วยเหลือนกั เรียนของโรงเรียน สนธริ าษฎรว์ ิทยา จงั หวดั นครพนม ซึ่งมคี วามสามารถในการทางาน ดงั น้ี  งานระบบดูแลชว่ ยเหลอื นักเรยี นของโรงเรียนสนธิราษฎร์วทิ ยาไดใ้ ช้ Google Form เปน็ ตัวช่วยในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลในขัน้ ตอนการรู้จกั นกั เรยี นรายบคุ คล และการคดั กรองนกั เรียน ซง่ึ ได้สรา้ งแบบฟอร์มข้ึนมาเองให้สอดคล้องกบั การใชง้ าน เพอ่ื ลดปริมาณการใช้กระดาษ ครสู ามารถเข้าถงึ ข้อมูลได้ง่าย สะดวก รวดเรว็ การสรา้ งแบบฟอร์มไม่ตอ้ งใชง้ บประมาณสิ้นเปลอื ง และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้  ครูทีป่ รึกษาสามารถใช้ Google Form .ในการเกบ็ ข้อมลู และประเมินผล ทัง้ SDQ EQ และข้อมลู ด้านอ่ืน ๆ ครคู ดั กรองนักเรยี นไดร้ วดเร็ว และสามารถใชข้ ้อมลู ไดท้ ันที คัดกรองนักเรียน ซง่ึ ไดส้ รา้ งแบบฟอร์มข้นึ มาเองใหส้ อดคลอ้ งกบั การใช้งาน เพื่อลดปริมาณ  ครสู ามารถเช็คช่ือนักเรยี นเชา้ -เยน็ และสามารถสรปุ ผลรายวัน รายสัปดาห์ รายเดอื นได้  มีระบบเช็คการขาด ลา มาสาย ของนักเรยี น รวมถงึ การออกนอกบรเิ วณโรงเรยี น  มรี ะบบให้คะแนนความดี และหักคะแนนความประพฤติตามระเบียบของโรงเรียน ภาพตวั อยา่ งการใช้ Google Form ในงานระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรียน  การใช้ Google Form ในการประเมิน SDQ  การใช้ Google Form ในการประเมิน EQ

37  การใช้ Google Form ในการเก็บข้อมูลการเย่ียมบา้ นนักเรยี น  การใช้ Google Form ในการเช็คชอ่ื เข้าแถว เชา้ -เยน็  การรายงานต่าง ๆ ต่อหนว่ ยงานต้นสังกดั

38 โรงเรียน มกี ารดาเนนิ งานระบบการดูแลช่วยเหลอื นกั เรียนที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ ผ้บู รหิ าร โรงเรียน ครู ผู้ปกครอง มีส่วนรว่ มในการสง่ เสริม พัฒนา ป้องกัน และแก้ไขปัญหา เพ่ือใหน้ กั เรยี นได้พัฒนา เต็มตามศกั ยภาพ มคี ณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มที กั ษะชีวิตท่ดี ีในการดารงชวี ิตอยา่ งมีความสขุ และปลอดภัย ซงึ่ สง่ ผลให้โรงเรียนจนได้รบั รางวลั ดังน้ี  โรงเรียนสนธิราษฎร์วทิ ยา ได้รับเกียรตบิ ตั รรางวลั สถานศึกษาทม่ี รี ะบบการดูแลช่วยเหลือนกั เรียนดเี ดน่ ระดับเขตพน้ื ที่การศึกษา ประจาปี 2563 ประเภทสถานศึกษาขนาดเล็ก ระดบั ทอง ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาโรงเรียนสนธริ าษฎร์วิทยา ผ่านการอบรมและผ่านการทดสอบระบบมาตรฐาน ด้านความปอดภยั (MOE Safety Platform) 24 คน

39 ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีความเข้าใจหลักการดาเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน สามารถดาเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจนประสบความสาเร็จ ครูปฏิบัติงานในระบบการดูแลช่วยเหลือ นักเรยี นโดยนาองคค์ วามรู้ มาจดั การแก้ไขปญั หายาเสพตดิ ในสถานศึกษา และให้การช่วยเหลือนักเรียนจนเป็น ผลสาเรจ็ และได้รบั รางวัล ดงั น้ี  ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนสนธริ าษฎร์วิทยา ไดร้ บั รางวลั “ครูดีไม่มีอบายมุข” จานวน 21 คน

40 หลักฐานประกอบการส่งเสริม สนับสนุน เสรมิ สรา้ งขวัญกาลังใจ นเิ ทศ ติดตาม และประเมนิ ผล การดาเนนิ งานระบบดูแลชว่ ยเหลือนักเรยี นของสถานศึกษาตามสภาพจริง ภาพการ PLC เพอ่ื ปรึกษาหารือ สะท้อนปัญหา เสรมิ สรา้ งขวญั กาลังใจแก่บุคลากร และพฒั นางานระบบการดแู ลช่วยเหลอื นักเรียน

41  สแกน QR CODE เพอ่ื ดูข้อมลู เพ่ิมเตมิ (โปรดดาวน์โหลดแอปพลิเคชนั Google Drive กอ่ นสแกน)

42  สแกน QR CODE เพือ่ ดูข้อมลู ในรูปแบบ On-Line 43  สแกน QR CODE เพอื่ ดูข้อมูลรปู เล่ม