Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Lesson 1 - General Knowlege

Lesson 1 - General Knowlege

Published by sumate962, 2018-03-28 05:20:43

Description: Lesson 1 - General Knowlege

Keywords: ปลา, fish

Search

Read the Text Version

ประวตั ิการศึกษาเก่ียวกบั ปลา นับเปน็ เวลาอยา่ งนอ้ ย 10 ศตวรรษก่อนคริสตกาล ชาวอยี ิปตโ์ บราณ กรกี และโรมนั ได้เขยี นรายงานการศึกษาเกีย่ วกับคณุ สมบตั ิต่างๆ ของปลามากอ่ น แตย่ งั ไม่มีการจัดการศกึ ษาใหเ้ ปน็ ระบบในเชงิ วทิ ยาศาสตร์ อริสโตเตลิ ปราชญช์ าวกรีก (คนแรกทศ่ี กึ ษา) ไดศ้ ึกษาและบันทึกเร่ืองราวทางชีววทิ ยาจนไดช้ ่ือว่าเปน็ บดิ าทางชีววิทยาและบิดาทางสตั วศาสตร์ โดยใชว้ ิธกี ารทางวทิ ยาศาสตรค์ น้ คว้าหาความจรงิ ต่างๆ ของสิ่งมชี วี ิต ซึ่งใชว้ ิธีการสงั เกตทดลองผ่าอวยั วะภายใน ศึกษาการอพยพย้ายถ่นิ การสบื พันธุข์ องสัตว์ตา่ งๆรวมทง้ั ความรทู้ ีเ่ ก่ยี วกับปลากไ็ ด้บนั ทึกโดยละเอยี ดถีถ่ ว้ นและถูกตอ้ ง ยกเวน้ ชือ่ ปลาชนดิ ทมี่ กี ารคลาดเคลอื่ น เพราะอาศยั การสอบถามจากชาวประมงและยอมรบั กันวา่ อรสิ โตเตลิ เป็นนักมนี วิทยาคนแรก

ววิ ฒั นาการของปลา ตามวิวัฒนาการโดยอาศัยหลักฐานของซากดึกดาบรรพ์ กายวิภาคศาสตร์ เปรียบเทียบวิทยาเอ็มบริโอ และพันธุกรรมศาสตร์ อาจกล่าวได้ว่าปลาเป็นบรรพบุรุษห่างๆ ของมนุษย์ โดยท่ีปลาเกิดขึ้นมาในโลกนี้เป็นเวลาประมาณ400 ล้านปี กอ่ นหนา้ บรรพบุรุษของมนษุ ยป์ ระมาณ 100 ลา้ นปี

ววิ ฒั นาการของปลา

ปลาเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่มีจานวนชนิดมากท่ีสุด ในบรรดาสัตว์มีกระดูกสันหลังท้ังหมด 37,600 ชนิด โดยมีจานวนปลาท่ีมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันประมาณ 15,000 – 17,000 ชนิด หรือ 42.6% ในขณะที่นกมีจานวน 8,600ชนิด หรือ 22.9% สัตว์เล้ียงด้วยนม 4,500 ชนิด หรือ 12% สัตว์เล้ือยคลาน6,000 ชนิด หรอื 16% และสตั วค์ รึง่ บกครงึ่ นา้ 2,500 ชนดิ หรือ 6.6% ท่มี า : Lagler และคณะ, 1962

วิวัฒนาการของปลา ปลาเปน็ สตั วน์ า้ ท่ีมีความสามารถในการปรบั ตัวให้เข้ากบั สง่ิ แวดลอ้ ม ทาใหเ้ ราสามารถพบปลาได้ที่ - มหาสมุทรแอนตารก์ ติก ซ่ึงมอี ุณหภูมติ า่ กว่าจุดเยือกแข็ - น้าพุร้อนท่อี ณุ หภมู สิ ูงกวา่ 38 องศาเซลเซียส - ในน้านิง่ สนิทไปจนถงึ นา้ ไหลรุนแรงจนไมส่ ามารถเดนิ ลุยได้ - ในน้าจืดสนิทไปจนถงึ น้าเคม็ ที่สามารถลอยไขไ่ กไ่ ด้ - ภเู ขาสงู จากระดบั น้าทะเล 3 ไมล์ - ในทม่ี ืดสนทิ ลกึ ถึง 7 ไมล์

โดยสามารถแบง่ ปลาตามแหลง่ ที่อยอู่ าศยั ได้ 4 กลุม่ คือ ปลาน้าจืด ปลานา้ เคม็ปลาน้ากร่อย และปลาสองนา้ หรือปลาที่มกี ารอพยพย้ายถ่ิน (Migration) ระหว่างนา้ จดื และน้าเค็มปลาแซลมอนแปซฟิ กิ ปลาตูหนาอเมรกิ นั สว่ นการแบ่งตามหลักอนุกรมวธิ านได้ 3 กลมุ่ คือ ปลาปากกลม (Cyclostoma)ปลากระดูกอ่อน (Chondrichthyes) และปลากระดูกแขง็ (Osteichthyes)

ปลา คอื อะไร ? เมื่อเอยถึงปลาทุกคนจะรู้ว่าเป็นสัตว์ที่อยู่ในน้า หายใจด้วยเหงือก และคาว่าปลา ในพจนานุกรมภาษาไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายวา่ เป็นสตั ว์เลอื ดเยน็ มีกระดูกสันหลงั รา่ งกายแบ่งออกเป็นส่วนหัวลาตัว และหาง ส่วนใหญ่หายใจด้วยเหงือก มีครีบช่วยในการเคลื่อนไหวบางชนิดมีเกล็ด แต่บางชนิดไม่มีเกล็ด รูปร่าง และขนาด แตกต่างกันมากมายพบทง้ั ในแหลง่ นา้ จดื และทะเล



ปลา (Fish) อยู่ในไฟลัม คอร์ดาตา้ (Phylum Cordata)สบั ไฟลมั เวอร์ทบี ราตา้ (Subphylum Vertebrata) มลี กั ษณะจาเพาะดังนี้เลอื ดเยน็ มีขากรรไกร มีหัวใจ มีจมูกสาหรับ สว่ นมากมี 2 ห้อง ดมกล่ิน เส้นข้างลาตัว หายใจ มเี กล็ด/เกราะ ออกลูกเปน็ ไข่ มีรยางค์คู่ ร่างกายดว้ ยเหงือก และมีเมือก และผสมพนั ธ์ุ ไมเ่ กนิ 2 คู่ แบ่งเปน็ ห่อหุม้ รา่ งกาย 3 ส่วน ภายนอก มีรทู วารอยู่ที่ หัวมีกระดูกสันหลัง สนั ท้อง ลาตัวมลี กั ษณะ ลาตวั ตัวอ่อนไดร้ บั สมมาตร อาหารจาก ด้านขา้ ง หาง ถงุ ไข่แดง เคล่อื นทด่ี ้วย เลอื ดมสี ีแดง มเี พศแยก ครบี และ ชดั เจน กล้ามเนื้อ

ลาดับชนั้ ของปลาในอาณาจักรสตั ว์ เพื่อชว่ ยใหก้ ารศึกษาอนุกรมวิธานของปลาได้ดแี ละเขา้ ใจได้เรว็ ย่ิงขน้ึ จงึ ต้องมีการทบทวนหลกั สตั วานุกรมวธิ าน (Animal taxonomy) ซง่ึ จะมีปลารวมอย่ดู ว้ ยจะเข้าใจไดว้ า่ ปลาอย่ใู นชนั้ ใด สัตวใ์ นโลกนแ้ี บ่งเป็น 2 กลมุ่ ใหญๆ่ คือ 1. โปรโตซัว (Protozoa) ได้แก่ สัตว์เซลลเ์ ดยี ว ซง่ึ มีขนาดเลก็ ไมเ่ ห็นดว้ ยตาเปลา่ มไี ฟลัมเดยี ว คอื โปรโตซัว (Protozoa) เช่น ยูกลนี า (Euglena) 2. เมตาซวั (Metazoa) ได้แก่ สตั ว์ท่มี ีหลายเซลล์ประกอบกันเปน็ ชนิ้ข้นึ มาเป็นเน้อื เยอื่ และอวยั วะ แบง่ เปน็ 2 กลุ่ม คือ

2.1 กล่มุ ไมม่ ีกระดกู สนั หลัง มี 8 ไฟลัม คือ 2.1.1 ไฟลัมพอรเิ ฟอรา่ (Porifera) ได้แก่ ฟองนา้ 2.1.2 ไฟลมั ซเี ลนเทอราตา (Coelenterata) ไดแ้ ก่ แมงกะพรุน ปะการงัและกัลปงั หา 2.1.3 ไฟลัมแพลตเิ ฮลมนิ ทีส (Platyhelminthes) ไดแ้ ก่ หนอนตวั แบน

2.1 กล่มุ ไม่มกี ระดูกสันหลัง มี 8 ไฟลัม คอื 2.1.4 ไฟลัมนมี าโทดา (Nematoda) ไดแ้ ก่ หนอนตัวกลม 2.1.5 ไฟลมั แอนนลี ดิ า (Annelida) ได้แก่ หนอนมีปล้อง เช่น ปลงิ 2.1.6 ไฟลัมอารโ์ ทรโพดา (Arthropada) พวกมีขาเป็นปลอ้ งๆ ได้แก่แมลงชนิดตา่ งๆ กุ้ง กั้ง ปู เปน็ ต้น

2.1 กลุ่มไม่มีกระดกู สนั หลงั มี 8 ไฟลัม คือ 2.1.7 ไฟลมั มอลลสั กา (Mollusca) ไดแ้ ก่ หอยชนดิ ตา่ งๆ และหมึก 2.1.8 ไฟลมั เอไคโนเดอรม์ าตา (Echinodermata) ได้แก่ ดาวทะเล และปลงิ ทะเล เปน็ ต้น

2.2 กลมุ่ มีกระดกู สันหลัง มีไฟลัมเดยี ว คอื ไฟลัมคอรด์ าตา (Chordata)ซึ่งอาจมีสันหลงั เปน็ แท่งโนโตคอร์ด (Notochord) ใสคลา้ ยว้นุ หรือเป็นกระดูกสันหลงั (Vertebral column) แบ่งเปน็ 4 กลมุ่ ยอ่ ย คือ 2.2.1 เฮมคิ อรด์ าตา (Hemichordata) สัตว์คลา้ ยหนอนตามทะเลทราย 2.2.2 ทูนิคาดา (Tunicata) เชน่ เพรยี งหัวหอม 2.2.3 เซฟฟาโลคอรด์ าตา (Cephalochordata) ไดแ้ ก่ แอมฟิออกซสั 2.2.4 เวอรท์ บี ราตา (Vertebrata) หรอื คราเนยี ตา (Craniata) เป็นพวกที่มกี ะโหลกศรี ษะ มีมันสมอง มีกระดกู สนั หลงั เป็นข้อๆ (Vertebrae) เรียกสตั ว์พวกนวี้ า่ สตั ว์มกี ระดูกสนั หลัง (Vertebrate) มี 6 ช้ัน (Class) คือ

2.2.4 เวอร์ทีบราตา (Vertebrata) หรอื คราเนียตา (Craniata) 2.2.4.1 Class Cyclostomata ได้แก่ ปลาปากกลม ไมม่ ีขากรรไกร ไมม่ ีครบี อก ไดแ้ ก่ Lampray และ Hagfish ปาก ปาก

2.2.4 เวอร์ทีบราตา (Vertebrata) หรอื คราเนยี ตา (Craniata) 2.2.4.2 Class Pisces ได้แก่ ปลากระดูกออ่ น ปลากระดกู แขง็ และปลาปอดฉลาม กระเบนฉนาก โรนนิ โรนนั

กะพงขาว ปลาทนู ่าแซลมอน ปลาซิวอา้ ย ปลากดั



2.2.4 เวอร์ทีบราตา (Vertebrata) หรือคราเนยี ตา (Craniata) 2.2.4.3 Class Amphibia ไดแ้ ก่ สัตวค์ ร่งึ บกครึ่งน้า เชน่ กบ 2.2.4.4 Class Reptilia ได้แก่ สตั ว์เลอื้ ยคลาน เช่น จิง้ จก จระเข้ เต่า (ยงัเปน็ สตั ว์เลอื ดเย็นอยู่) 2.2.4.5 Class Aves ไดแ้ ก่ นก (เร่มิ มเี ลือดอุ่น) 2.2.4.6 Class Mammalia ได้แก่ สตั วเ์ ล้ียงลกู ด้วยนม เชน่ วาฬ โลมาแมวนา้ คา้ งคาว ตนุ่ ปากเป็ด ลงิ และมนุษย์

ลาดบั ชั้นของปลาในอาณาจกั รสตั ว์การจัดหมวดหมู่ของสิง่ มีชวี ติ มีลาดบั ข้นั เปน็ ดังน้ี 1. อาณาจักร (Kingdom) เป็นลาดับข้ันท่ีสูงที่สุด แบ่งออกเป็น พวกพืช (Plantae) พวกสัตว์ (Animalia) และโปรโตซัว (Protista) พวกแบคทีเรยี (Monera) เปน็ ต้น 2. ไฟลัม (Phylum ) เปน็ ลาดบั ข้ันท่รี องลงมาจาก Kingdom ตวั อย่าง เชน่ สตั ว์ที่มกี ระดกู สนั หลังจัดอยใู่ นPhylum Chordata หรอื Vertrabrata เป็นตน้ 3. ชั้น หรือ คลาส (Class) มักมีคาลงท้ายด้วย .....i เช่นปลากระดูกแข็ง จัดอยู่ใน Class Teleostomi สาหรับปลากระดูกอ่อน เชน่ ปลาฉลาม ปลากระเบน จัดอย่ใู น Class Elasmobranchii 4. อนั ดบั (Order) มักลงท้ายด้วยคาว่า .....formes เช่น ปลาไหลทะเล จัดอยูใ่ นอนั ดับ Anguilliformesปลากะพงขาว อยู่ในอนั ดบั Perciformes ปลาตะเพยี นอยใู่ นอันดับ Cypriniformes เ ปน็ ต้น 5. วงศ์ หรือ ครอบครัว (Family) มักลงท้ายดว้ ย.....dae เช่น ปลาตะเพียน จดั อยู่ในวงศ์ Cyprinidaeปลากะพงขาว วงศ์ Centropomidae เปน็ ต้น 6. สกุล (Genus) เชน่ ปลาย่ีสกเทศ มสี กุลว่า Labeo การพมิ พ์ต้องพิมพด์ ้วยตัวเอียง ถา้ เขยี นตอ้ งขีดเสน้ ใต้ 7. ชนดิ (Species) ตอ้ งเขยี นค่กู ับสกุลเสมอ เขียนเดี่ยวไมไ่ ด้ เช่น ปลายสี่ กเทศ มชี อ่ื ชนดิ หรือ ชื่อวิทยาศาสตรว์ า่Labeo rohita จะเขียนเพยี ง rohita เด่ียว ๆ ไมไ่ ด้ ในเอกสารทางอนกุ รมวิธานเรามกั พบการเขียนชอื่ วิทยาศาสตร์ จะบอกคนต้ังชื่อสตั ว์ชนิดนั้นไว้เพ่อื เป็นเกียรติพร้อมทัง้ บอกปี พ.ศ. ที่ต้งั ชื่อสัตวช์ นดิ นั้น เช่น ปลานลิ Oreochromis niloticus (Linnaeus, 1758)

ลาดบั ชั้นของปลาในอาณาจักรสัตว์Kingdom : Animalia Phylum : Chordata Subphylum : Vertrabrata Class : Actinopterygii Order : Perciformes Family : Cichlidae Genus : Oreochromis Species : O. niloticus (Linnaeus, 1758)

ประโยชนข์ องปลา เนอื้ ปลาเป็นอาหารที่ยอ่ ยงา่ ย มคี ณุ คา่ ทางอาหารสงู และมีไขมนั น้อยเปน็ สนิ ค้าส่งออกท่มี ีคณุ คา่ ทางเศรษฐกิจ ใช้เปน็ เกมส์กีฬา เช่น ตกเบ็ด กดั ปลา

ประโยชนข์ องปลา ลดปญั หาอาชญากรรม เช่น การลกั ขโมย ใช้ในการศกึ ษาทดลองทางวิทยาศาสตร์ใช้ปรบั สมดุลของสง่ิ มชี วี ติ ในธรรมชาติ ลดปัญหาการว่างงาน/ตกงาน

ประโยชน์ของปลา เศษเหลือของปลาใช้ทาเคร่ืองประดบั และปุย๋ ใชบ้ ง่ บอกความเนา่ เสียของแหลง่ นา้ชว่ ยกาจดั วัชพชื และแมลงทเ่ี ป็นศตั รู สรา้ งความเพลดิ เพลนิ และผ่อนคลาย ตามธรรมชาติของมนุษย์ เชน่ ยุง ความตึงเครียด เช่น ปลากัด ปลาทอง ปลากนิ ยงุGambusia affinis.

โทษของปลาเป็นอนั ตรายตอ่ ชีวิตมนษุ ย์ เช่น กดั เป็นปรสิตของสัตวน์ า้ เปน็ พาหะนาปรสติ เข้าสู่รา่ งกายมนษุ ย์ สร้างความเสียหายแกฟ่ ารม์ เพาะเล้ยี งสตั วน์ ้า บางชนิดสะสมสารพษิ ไว้ในร่างกายและเป็นอนั ตรายตอ่ มนุษย์ ผลิตกระแสไฟฟา้

ปลามขี นาดทแ่ี ตกต่างกันมาก ตั้งแตข่ นาดเล็กที่สดุ ซงึ่ มีความยาวเม่ือถึงวัยเจรญิ พนั ธ์แุ ละใหญ่ทีส่ ดุ ในโลก ดังน้ี ปลาบู่แคระ (Dwarf pygmy goby, Mistichthys luzonensis.)มีขนาดประมาณ 10-14 มลิ ลิเมตร อยู่ในมหาสมุทรแปซฟิ ิกประเทศฟิลิปปนิ ส์ (Schultz, 1948) ปลาฉลามวาฬ (Whale shark, Rhincodon typus.) มีความยาวประมาณ 21 เมตรนา้ หนักมากกว่า 25 ตัน (บพิธ และนนั ทพร, 2540)

ปลาซลี าแคนท์ (Coelacanth)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook