01_Unit01_1_3_

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 Can You Get Used to It? เรอื่ งหลกั /หวั เรอื่ ง People of the World มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชนั้ มาตรฐาน ต 1.1.3, ต 1.1.4, ต 1.2.1, ต 1.2.2, ต 1.2.3, ต 1.2.4, ต 1.3.1, ต 1.3.3 สาระการเรียนรู้ของหน่วย เนอื้ หาภาษาและวฒั นธรรมท่เี ก่ียวขอ้ งตามแผนการจดั การเรียนรูต้ อ่ ไปนี้ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 1 Customs แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 2 I Like Learning Languages. แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 3 The Amish ภาระงาน/ผลงานของหน่วย นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ศึกษาวิถีชีวิตของกลมุ่ คนท่มี ีความแตกต่างท่นี กั เรียนสนใจ แลว้ นาเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรียน การประเมนิ ภาระงาน/ผลงาน ครูและเพ่อื นตา่ งกลมุ่ รว่ มกนั ประเมิน เคร่อื งมอื การประเมิน - เกณฑก์ ารประเมินการนาเสนอ - เกณฑก์ ารประเมินชนิ้ งาน - เกณฑก์ ารประเมินการทางานกลมุ่

2 Unit 1 เรอ่ื งหลกั /หวั เรอ่ื ง แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เวลา 2 ช่วั โมง แผนการเรียนรู้เร่อื ง People of the World Can You Get Used to It? Customs 1. สาระสาคญั การฝึกใหน้ กั เรียนฟังและพดู เกี่ยวกับวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ จะทาใหน้ กั เรียนมีความสามารถทางดา้ น การฟัง-พูด และเป็นพืน้ ฐานการเรียนในระดบั ท่ีสงู ขึน้ ต่อไป 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จดุ ประสงคป์ ลายทาง 2.1 ฟังสนทนาแลว้ บอกรายละเอยี ดได้ (มาตรฐาน ต 1.1.3, ต 1.1.4) จุดประสงคน์ าทาง 2.1.1 เขา้ ใจความหมายของคาศพั ทแ์ ละสานวน จุดประสงคป์ ลายทาง 2.2 พดู เพ่อื ใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกบั วิถีชวี ติ และความเป็นอยไู่ ด้ (มาตรฐาน ต 1.2.1, ต 1.2.3) จดุ ประสงคน์ าทาง 2.2.1 เขา้ ใจความหมายของคาศพั ทแ์ ละสานวน 2.2.2 ใช้ Verb + gerund และ Be used to/Get used to ได้ 3. เนือ้ หาสาระ 3.1 กิจกรรม New Language, Practice, Conversation และ Listening ในหนงั สอื เรียน หนา้ 2-3 3.2 หน้าทภี่ าษา - Talking about people’s lifestyles and habits - Comparing cultures and lifestyles 3.3 โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ - Verb + gerund - Expression + gerund - Preposition + gerund - Verbs and prepositions - Be used to/Get used to 3.4 คาศัพทแ์ ละสานวนภาษา - altitude (n.): the height of a place above the sea (ความสงู เหนือระดบั นา้ ทะเล)

3 - llama (n.): a South American animal with thick wooly hair, rather like a camel without a hump (สตั วช์ นดิ หนงึ่ เลยี้ งเอาไวข้ นและบรรทกุ ของ พบในแถบ อเมรกิ าใต)้ - adjust (v.): to change something slightly to make it more suitable for a new set of conditions or to make it work better (ปรบั , แกไ้ ขใหเ้ หมาะสม) - sled (n.): a vehicle for traveling over snow and ice with two long narrow strips of wood or metal instead of wheels (เลอื่ น เป็นยานพาหนะท่ใี ชส้ นุ ขั ลาก ไป ใชเ้ ดินทางบนหิมะ) - pasture (n.): land or a field that is covered with grass and is used for cattle, sheep, etc. to feed on (ทงุ่ หญา้ เลยี้ งสตั ว)์ 4. กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้ ขนั้ ท่ี 1 - นาเขา้ สบู่ ทเรียน (Warm-up) - ครูเขยี นคาพงั เพยลงบนกระดานดาดงั นี้ When in Rome, do as the Romans do. ใหน้ กั เรยี น น่งั เป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน แสดงความคิดเหน็ ว่าคากล่าวนมี้ คี วามหมายวา่ อยา่ งไร ตรงกบั สานวนไทยวา่ อะไร และนกั เรยี นเหน็ ดว้ ยกบั คากลา่ วนหี้ รือไม่ เพราะเหตใุ ด - ใหต้ วั แทนนกั เรียนพดู แสดงความคิดเหน็ - ครูเพม่ิ เติมใหด้ งั นี้ This saying means that one should follow the customs of the people of the place where one is – either where one is visiting or currently living. In Thai it says เขา้ เมอื งตาหลิว่ ตอ้ งหล่วิ ตาตาม ขัน้ ท่ี 2 - ครูเขียนหวั ขอ้ เรอ่ื งบนกระดานดา Can You Get Used to It? แลว้ ซกั ถามนกั เรียนวา่ หวั ขอ้ นี้ น่าจะเป็นเรอื่ งเกีย่ วกบั อะไร - หลงั จากนน้ั ใหน้ กั เรียนพดู แสดงความคิดเห็นวา่ คาถาม Can You Get Used to It? นจี้ ะใชถ้ าม ในสถานการณใ์ ด - Which situation a person might ask or be asked this question? ขน้ั ท่ี 3 - ใหน้ กั เรียนเปิดกจิ กรรม New Language ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 2 ดรู ูปภาพแลว้ ถาม-ตอบ เกี่ยวกบั สิ่งทเ่ี ห็นในภาพวา่ เหตกุ ารณเ์ กดิ ขึน้ ในประเทศใด มีอะไรท่นี ่าสนใจบา้ ง และพดู แสดง ความคิดเห็นวา่ สิ่งตา่ ง ๆ ในรูปภาพนนั้ ๆ มีความเหมอื นหรอื แตกตา่ งไปจากในประเทศไทย ขน้ั ท่ี 4 - ใหน้ กั เรียนศกึ ษาประโยคคาถาม ตอ่ ไปนี้ - Which of the following customs are you used to? - Which of the things would you enjoy or hate doing? - ใหน้ กั เรยี นฟังซดี ีบนั ทึกเสียงพรอ้ มทงั้ ดเู นือ้ หาในหนงั สือเรยี นและฝึกอ่านตาม ครูคอยชว่ ยเหลือ หากนกั เรียนมขี อ้ สงสยั

4 - นกั เรยี นพดู แสดงความคิดเห็นจากคาถามขอ้ 1 และ 2 - นกั เรยี นฟังซีดีบนั ทึกเสยี งอกี ครงั้ พรอ้ มอ่านออกเสยี งตาม แลว้ ครูสรุปใหน้ กั เรียนรูว้ า่ บทเรียนนี้ เนน้ เรื่องความหลากหลายทางวฒั นธรรม ประเพณี และความเป็นอยู่ (the variety of cultures, traditions and lifestyles) ข้นั ที่ 5 - ใหน้ กั เรียนฟังซดี บี นั ทึกเสยี งบทสนทนาในกิจกรรม Practice ในหนงั สือเรยี น หนา้ 2 และครู คอยใหค้ วามชว่ ยเหลือเกี่ยวกบั คาศพั ทแ์ ละสานวนตา่ ง ๆ เชน่ สานวน to be tired of, can’t stand, to be used to, to get used to - ใหน้ กั เรียนฝึกพดู บทสนทนาเป็นคู่ ๆ โดยใหอ้ อกเสยี งสงู -ต่าในประโยคใหถ้ กู ตอ้ ง และนกั เรยี น แตล่ ะค่ชู ว่ ยกนั สรา้ งบทสนทนาใหม่ตามตวั อยา่ ง โดยครูใหแ้ นว ดงั นี้ - What do you like about traveling to other countries? - What are some disadvantages of living in the city/country? - What do you have trouble getting used to when you travel? - ใหน้ กั เรยี นพดู ใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกบั บคุ คลท่นี กั เรยี นรูจ้ กั หรอื รบั รูม้ าเก่ยี วกบั การโยกยา้ ยของบคุ คล นนั้ ว่าประสบกบั ปัญหาอะไรบา้ ง และนกั เรยี นจะมีความรูส้ กึ อยา่ งไร ถา้ ตอ้ งยา้ ยไปอย่จู งั หวดั อืน่ หรอื ประเทศอน่ื ขน้ั ที่ 6 - ใหน้ กั เรยี นเปิดหนงั สอื เรยี น ดรู ูปภาพในกจิ กรรม Conversation ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 3 และ พดู แสดงความคดิ เหน็ วา่ บทสนทนานเี้ ก่ียวกบั อะไร ขน้ั ท่ี 7 - ใหน้ กั เรยี นอา่ นขอ้ ท่ี 1-6 ในกิจกรรม About the Conversation เพ่อื ตรวจสอบวา่ บทสนทนา เกี่ยวกบั อะไร - ใหน้ กั เรยี นฟังซดี ีบนั ทกึ เสยี ง เพ่อื หาแนวคิดหลกั ของบทสนทนาและใหน้ กั เรยี นฟังซีดีบนั ทกึ เสยี งครงั้ ท่ี 2 โดยใหฝ้ ึกพดู ตาม - หลงั จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นแต่ละคนเขยี น True หนา้ ขอ้ ท่ถี กู หรอื False หนา้ ขอ้ ท่ผี ดิ แลว้ น่งั เป็น กล่มุ กล่มุ ละ 4 คนเพ่อื แลกเปลี่ยนความคดิ เห็น และเปรียบเทยี บคาตอบ (ดเู ฉลยทา้ ยเล่ม) ขน้ั ที่ 8 - นกั เรยี นทากจิ กรรม Listening ในหนงั สือเรยี น หนา้ 3 โดยใหน้ กั เรียนฟังซดี บี นั ทกึ เสยี ง แลว้ ตอบ - What is the general idea of the conversation? - นกั เรียนฟังซดี ีบนั ทกึ เสียงครงั้ ท่ี 2 แลว้ กรอกขอ้ มลู ลงในตาราง แลว้ ส่มุ ใหน้ กั เรยี นรายงาน คาตอบ (ดเู ฉลยทา้ ยเล่ม) 5. ส่อื การเรียนรู้ 5.1 หนงั สอื เรยี น หนา้ 2-3 5.2 ซดี ีบนั ทกึ เสยี ง 5.3 เครื่องเลน่ ซดี ี

5 6. การวดั ผลและประเมินผล 6.1 ประเมินผลจดุ ประสงคป์ ลายทาง 2.1 จากการทากจิ กรรม Listening, About the Conversation ใน หนงั สอื เรียน หนา้ 3 6.2 ประเมนิ ผลจดุ ประสงคป์ ลายทาง 2.2 จากการพดู แสดงความคดิ เหน็ ในกิจกรรม New Language และ Practice ในหนงั สือเรยี น หนา้ 2 เคร่ืองมือการประเมิน : - เกณฑก์ ารประเมนิ การฟัง - แบบประเมินการสนทนากจิ กรรมคู่ 7. กิจกรรมเสรมิ ทกั ษะ/ประสบการณท์ างภาษา 7.1 ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั ขอ้ A-C ใน Workbook หนา้ 1 (ดเู ฉลยทา้ ยเลม่ ) 8. ผลงาน/ชิน้ งานของนกั เรยี น 8.1 การพดู แสดงความคดิ เหน็ ในกจิ กรรม New Language ในหนงั สอื เรียน หนา้ 2 8.2 การตอบคาถามในกิจกรรม About the Conversation ในหนงั สือเรยี น หนา้ 3 8.3 การทากิจกรรม Listening ในหนงั สือเรยี น หนา้ 3 9. ความสมั พนั ธก์ ับกลุม่ สาระการเรียนรู้อื่น สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 10. บันทกึ ผลหลังการสอน 10.1 ผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมการเรยี นรู้ 10.2 ปัญหาอปุ สรรคในการปฏิบตั ิกิจกรรม 10.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ขการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

6 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา 2 ช่วั โมง เร่อื งหลกั /หัวเรื่อง People of the World หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 Can You Get Used to It? แผนการเรียนรู้เรื่อง I Like Learning Languages. 1. สาระสาคญั การฝึกใหน้ กั เรียนเรียนรูโ้ ครงสรา้ งประโยคท่ีเหมาะสมกบั ระดบั ชนั้ จะช่วยใหน้ กั เรียนมคี วามสามารถทาง ดา้ นการพูดและการเขียน 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จุดประสงคป์ ลายทาง 2.1 เขียนประโยคโดยใชโ้ ครงสรา้ งทก่ี าหนดได้ (มาตรฐาน ต 1.2.1, ต 1.2.2, ต 1.2.3, ต 1.3.1, ต 1.3.3) จดุ ประสงคน์ าทาง 2.1.1 รูแ้ ละเขา้ ใจโครงสรา้ งประโยคท่กี าหนดได้ 2.1.2 บอกความหมายโครงสรา้ งประโยคท่เี รยี นได้ 3. เนือ้ หาสาระ 3.1 กรอบ Grammar และกิจกรรม Language in Context ในหนงั สอื เรียน หนา้ 4-5 3.2 หน้าทภี่ าษา - Talking about likes and dislikes - Talking about people’s lifestyles and habits 3.3 โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ - Verb + gerund - Expression + gerund - Preposition + gerund - Verbs and prepositions - Be used to/Get used to 4. กิจกรรมการจดั การเรียนรู้ ขัน้ ท่ี 1 - นาเขา้ สบู่ ทเรยี น (Warm-up) - ใหน้ กั เรียนน่งั เป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 4-6 คน นกั เรยี นผลดั กนั พดู ประโยค I like ____. และ I don’t like____. โดยครูเดินสงั เกตและใหค้ วามชว่ ยเหลือ - สมุ่ ใหต้ วั แทนนกั เรียนบางกล่มุ พดู รายงานเกี่ยวกบั ตนเองและเพ่อื น

7 ขัน้ ที่ 2 - แบง่ นกั เรียนออกเป็น 4 กล่มุ ใหญ่ ศกึ ษาโครงสรา้ งประโยคตา่ ง ๆ ในกจิ กรรม Language in Context ใหก้ ล่มุ ท่ี 1 ศกึ ษาโครงสรา้ งประโยคตอนท่ี 1 Verb + gerund, Expression + gerund กลมุ่ ท่ี 2 ศกึ ษาโครงสรา้ งประโยคตอนท่ี 2 Preposition + gerund กล่มุ ท่ี 3 ศกึ ษา โครงสรา้ งประโยคตอนท่ี 3 Verbs and prepositions และกลมุ่ ท่ี 4 ศกึ ษาโครงสรา้ งประโยค ตอนท่ี 4 Be used to/Get used to โดยครูเดินสงั เกตและใหค้ วามชว่ ยเหลอื - ใหน้ กั เรยี นจบั กล่มุ ใหม่ กล่มุ ละ 4 คน โดยแตล่ ะกล่มุ จะประกอบดว้ ยนกั เรียนท่ศี กึ ษาโครงสรา้ ง ประโยคทง้ั 4 ประเภทมาอย่รู วมกนั แลว้ นกั เรยี นแต่ละคนผลดั กนั อธิบายโครงสรา้ งประโยคท่ี ตนเองศกึ ษาใหเ้ พ่อื นในกลมุ่ ฟัง ข้นั ท่ี 3 - ครูสรุปการใช้ Prep. + N./V.ing เชน่ - He dreams of a summer house. He dreams of owning a summer house. - She always talks about weddings. She always talks about getting married. - They apologized for the delay. They apologized for keeping us waiting. - He insists on neatness. He insists on keeping the house neat. ขั้นท่ี 4 - ครูอธิบายความหมายของ Be used to/Get used to (These expressions are used to describe the process of becoming accustomed to things that at first are strange and unfamiliar but that then become typical and normal. Be used to/Get used to can be followed by a noun or by a verb in the gerund form. และเปรยี บเทียบความแตกตา่ งกบั Used to (This expression is used for talking about habits or regular activities in the past that no longer happen now.) ครูยกตวั อยา่ งประโยคบนกระดานดาแลว้ ใหน้ กั เรยี น บอกวา่ เป็น the process of becoming accustomed to something หรอื the past habits or activities ตัวอยา่ ง - I used to drive to work. Now I’m used to taking the subway to work. - I didn’t use to eat spicy food. Now I’m used to eating spicy food. ข้นั ที่ 5 - ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึก ขอ้ A ในกจิ กรรม Language in Context ในหนงั สือเรยี น หนา้ 4 ครูทา ประโยคขอ้ 1 My family is thinking of moving to a different town. เป็นตวั อยา่ ง แลว้ ให้ นกั เรยี นทาขอ้ ท่เี หลอื เป็นค่หู รอื รายบคุ คล แลว้ สมุ่ ใหน้ กั เรยี นเฉลยคาตอบ (ดเู ฉลยทา้ ยเลม่ )

8 ข้ันท่ี 6 - ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหดั ขอ้ B ในกิจกรรม Language in Context ในหนงั สือเรียน หนา้ 5 ครู ยกตวั อย่างประโยคขอ้ 1 I’m having trouble finding a job. แลว้ ใหน้ กั เรียนทาเป็นคหู่ รอื รายบคุ คลโดยใชข้ อ้ มลู ของตนเองในการเติมประโยคใหส้ มบรู ณ์ แลว้ ใหน้ กั เรยี นน่งั เป็นคู่ หรอื กล่มุ แลกเปลยี่ นและชว่ ยเหลือในการแกไ้ ขขอ้ ผิดพลาด ครูสมุ่ ใหน้ กั เรียนพดู รายงานคาตอบ (ดู เฉลยทา้ ยเลม่ ) ขนั้ ที่ 7 - ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหดั ขอ้ C ในกจิ กรรม Language in Context ในหนงั สือเรียน หนา้ 5 โดย ใหน้ กั เรียนน่งั เป็นค่หู รือเป็นกลมุ่ ชว่ ยกนั แสดงความคิดเหน็ วา่ ชวี ติ ในเมืองใหญ่อย่าง Mexico City จะเป็นอย่างไร แลว้ สมุ่ ใหน้ กั เรยี นพดู รายงาน - นกั เรยี นอา่ นประโยคสถานการณเ์ ก่ียวกบั Adam แลว้ ใหน้ กั เรยี นพดู แสดงความคดิ เห็นถงึ ส่ิงท่ี ตรงกนั ขา้ มระหว่างอาศยั อยใู่ นเมืองใหญก่ บั เมอื งเลก็ ๆ - นกั เรียนดตู วั อยา่ งประโยคขอ้ 1 แลว้ ทาประโยคขอ้ 2-4 ครูยกตวั อยา่ ง Now ขอ้ 1 ซง่ึ เขยี นได้ 3 ประโยค คอื - He is used to the hectic traffic. - He is getting used to the hectic traffic. - He has gotten used to the hectic traffic. - นกั เรียนทาประโยคท่ี 2-4 ครูส่มุ ใหน้ กั เรียนรายงานคาตอบ (ดเู ฉลยทา้ ยเลม่ ) ขัน้ ท่ี 8 - ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหดั ขอ้ D ในกจิ กรรม Language in Context ในหนงั สอื เรียน หนา้ 5 โดย ใหน้ กั เรียนดภู าพในประเทศองั กฤษ แลว้ ใหน้ กั เรียนพดู เปรียบเทยี บความเหมอื นและความ แตกตา่ งระหวา่ งประเทศองั กฤษกบั ประเทศไทย แลว้ ครูสมมติวา่ เม่ือนกั เรยี นไปอย่ใู นประเทศ องั กฤษครงั้ แรกจะรูส้ กึ อยา่ งไร และถา้ ไปอยเู่ ป็นเวลา 3 ปีจะเป็นอยา่ งไร ใหน้ กั เรยี นพดู ทลี ะคน - ใหน้ กั เรยี นดปู ระโยคตวั อยา่ ง ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ The phrase describing the process of getting used to something is in the present continuous (I’m getting used to….) to show that the action is still continuing now. ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนเขียนเพิ่มเติม แลว้ ให้ นกั เรยี นน่งั เป็นคู่ แลกเปล่ียนความคดิ เห็น เปรียบเทยี บคาตอบ และช่วยกนั แกไ้ ขขอ้ ผิดพลาด - ครูส่มุ ใหน้ กั เรียนพดู รายงานคาตอบ (ดเู ฉลยทา้ ยเลม่ ) 5. สื่อการเรยี นรู้ 5.1 หนงั สือเรียน หนา้ 4-5 6. การวัดผลและประเมนิ ผล 6.1 ประเมินผลจดุ ประสงคป์ ลายทาง 2.1 จากการทากจิ กรรม Language in Context ในหนงั สอื เรียน หนา้ 4-5 7. กจิ กรรมเสรมิ ทกั ษะ/ประสบการณท์ างภาษา 7.1 ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหดั ขอ้ D-F ใน Workbook หนา้ 2-3 (ดเู ฉลยทา้ ยเล่ม)

9 8. ผลงาน/ชิน้ งานของนกั เรยี น 8.1 แบบฝึกหดั จากกิจกรรม Language in Context ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 4-5 9. ความสัมพนั ธก์ ับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อื่น สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 10. บันทกึ ผลหลังการสอน 10.1 ผลการปฏิบตั กิ จิ กรรมการเรียนรู้ 10.2 ปัญหาอปุ สรรคในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม 10.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ขการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

10 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา 3 ช่วั โมง เร่อื งหลกั /หวั เรอื่ ง People of the World หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 Can You Get Used to It? แผนการเรยี นรู้เรอ่ื ง The Amish 1. สาระสาคญั การฝึกใหน้ กั เรยี นอา่ นเนอื้ เรอ่ื งแลว้ ใหบ้ อกรายละเอยี ดจากเรือ่ งท่อี ่าน จะเป็นพนื้ ฐานการเรยี นในระดบั ท่ี สงู ขนึ้ และชว่ ยใหน้ กั เรียนมปี ระสบการณใ์ นการอ่านมากขนึ้ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จุดประสงคป์ ลายทาง 2.1 อา่ นบทอ่านเขา้ ใจแลว้ บอกรายละเอียดได้ (มาตรฐาน ต 1.1.3, ต 1.1.4, ต 1.2.4) จุดประสงคน์ าทาง 2.1.1 เขา้ ใจความหมายของคาศพั ท์ และสานวน 2.1.2 บอกใจความสาคญั ของเรือ่ งท่อี า่ นได้ จุดประสงคป์ ลายทาง 2.2 เขียนบรรยายลกั ษณะวฒั นธรรมไทยท่ชี าวตา่ งชาตอิ าจมีปัญหาในการปรบั ตวั ได้ (มาตรฐาน ต 1.3.2, ต1.3.3) จดุ ประสงคน์ าทาง 2.2.1 เขา้ ใจความหมายของคาศพั ทเ์ กีย่ วกบั วฒั นธรรมดา้ นตา่ ง ๆ 2.2.2 ใชค้ าศพั ทเ์ ก่ียวกบั วฒั นธรรมดา้ นตา่ ง ๆ จุดประสงคป์ ลายทาง 2.3 พดู แสดงความคิดเหน็ จากเรือ่ งท่กี าหนดใหไ้ ด้ (มาตรฐาน ต 1.2.2, ต 1.2.3, ต 1.2.4, ต 2.1.2) จดุ ประสงคน์ าทาง 2.3.1 เขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละสานวนภาษา 2.3.2 ใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนเพ่อื ใหข้ อ้ มลู ไดถ้ กู ตอ้ ง 3. เนือ้ หาสาระ 3.1 กิจกรรม Reading, Writing, Speaking และ Project ในหนงั สอื เรียน หนา้ 6-7 3.2 หน้าทภี่ าษา - Comparing cultures and lifestyles - Expressing ideas

11 3.3 โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ - Verb + gerund - Be used to/Get used to 3.4 คาศพั ทแ์ ละสานวนภาษา - isolate (v.): to separate one person, group, or thing from other people or things (แยกใหอ้ ย่โู ดดเดย่ี ว) - mainstream (n.): the ideas and opinions that are thought to be normal because they are shared by most people (ความคดิ ความเช่ือ) - collar (n.): the part around the neck of a shirt, jacket or coat that usually folds down (คอปกเสอื้ ) - lapel (n.): one of the two front parts of the top of a coat or jacket that one joined to the collar and folded back (ปกเสอื้ ) - cuff (n.): the end of a coat or shirt sleeve at the wrist (ขอ้ มอื เสอื้ ) - apron (n.): a piece of clothing worn over the front of the body, from the chest or the waist down, and tied around the waist (ผา้ กนั เปือ้ น) - vocational (adj.): connected with the skills, knowledge, etc. that you need to have in order to do a particular job (เก่ียวกบั วิชาชพี ) 3.5 ขอ้ มลู ด้านวฒั นธรรม - ชาว Amish พดู ภาษาถ่ินเยอรมนั ท่ไี ม่เหมอื นใคร เรยี กว่า Pennsylvania German หรอื Pennsylvania Dutch ซง่ึ ชาว Amish เองจะเรยี กภาษานวี้ า่ Deitsch ศนู ยร์ วมทใ่ี หญ่ท่สี ดุ ของชาว Amish ในประเทศสหรฐั อเมรกิ าอย่ทู ่เี มือง Holmes County มลรฐั Ohio เมือง LaGrange County มลรฐั Indiana และเมอื ง Lancaster County มลรฐั Pennsylvania บางชมุ ชนของชาว Amish จะ ไม่อนญุ าตใหใ้ ชก้ ระดมุ ติดเสือ้ ผา้ ใหใ้ ชต้ ะขอเกี่ยวกับรูเข็มแทน (hooks and eyes) การหา้ มนมี้ า จากความสมั พนั ธท์ างดา้ นจิตใจของชาว Amish ท่มี ีต่อเครื่องแบบทหาร - Culture shock คือ ความรูส้ กึ แปลกแยก ซ่งึ เกิดจากการตอ้ งเขา้ ไปอยใู่ นท่ีซ่งึ มีวิถีชวี ิต แนว ความคิด ฯลฯ ผิดไปจากท่ตี นคนุ้ เคย 4. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 - นาเข้าสบู่ ทเรยี น (Warm-up) - ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกี่ยวกบั ชมุ ชนท่นี กั เรยี นรูห้ รอื เคยเหน็ ทม่ี ีความแตกต่างไป จากชมุ ชนโดยท่วั ๆ ไป โดยใหน้ กั เรียนพดู จากแนวประโยคคาถามต่อไปนี้ - Where is the community located? - How large is it?

12 - How did they come to be there? - How did their customs and lifestyles differ from those of the general population? ขน้ั ท่ี 2 - ใหน้ กั เรียนดรู ูปภาพในกิจกรรม Reading ในหนงั สือเรยี น หนา้ 6 แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั พูด อภิปรายเกี่ยวกบั ภาพวา่ เป็นภาพเก่ียวกบั อะไร ขั้นที่ 3 - ใหน้ กั เรยี นอ่านช่ือเรอื่ งและอภิปรายแสดงความคดิ เหน็ ว่าเรือ่ งท่จี ะอา่ นเกี่ยวกบั อะไร โดยเฉพาะ อย่างยิ่งครูนาอภิปรายในประเดน็ จากคาศพั ท์ 2 คา คอื carriages และ jet age เพ่อื แสดงใหเ้ ห็นถึงวิถชี วี ิตในยคุ ปัจจบุ นั ของชนกลมุ่ หนง่ึ ท่ไี มย่ อมใชเ้ ทคโนโลยหี รอื เครือ่ งอานวย ความสะดวกตา่ ง ๆ ข้ันที่ 4 - ใหน้ กั เรยี นอ่านแบบ skimming เพ่อื ตอบคาถาม What is the general idea of the story? In general, this story is about the Amish, the religious group who wants to preserve the cultures that existed in Europe in the early 1700s, and who wants to avoid many of the features of modern life. ขน้ั ท่ี 5 - ใหน้ กั เรยี นอ่านบทอา่ นอกี ครงั้ เพ่อื ทากจิ กรรม About the Reading ในหนงั สือเรยี น หนา้ 7 โดย หาขอ้ มลู จากบทอา่ นมาเขยี นตอ่ เตมิ ประโยคใหส้ มบรู ณ์ ใหเ้ วลานกั เรยี นทากจิ กรรมประมาณ 10 นาที - หลงั จากนน้ั สมุ่ ใหน้ กั เรียนพดู เฉลยคาตอบ (ดเู ฉลยทา้ ยเลม่ ) - นกั เรียนทาใบงานเพิ่มเตมิ เก่ียวกบั The Amish โดยใหน้ กั เรียนนาขอ้ มลู ท่นี กั เรยี นอา่ นไปเติม ใน Worksheet 1 ใหถ้ กู ตอ้ ง Answer Key: Origin: The Amish originally lived along the Rhine River, in southern Germany and in Switzerland. Migration: At the beginning of the eighteenth century, some Amish migrated to the United States, and many settled in Pennsylvania. Clothing: Men: Men usually dress in plain dark-colored suits and wear coats without collar, Lapels, or pockets. Trousers never have creases or cuffs and are worn with Suspenders, not belts. Women: Women usually wear plain- colored dresses with long sleeves, or a long skirt and blouse with an apron. Amish women are not permitted to wear patterned clothing or jewelry. Way of Life: Conservative Amish avoid using modern technology such as electricity,

13 televisions, automobiles, telephone; however New Order Amish are beginning to use items such as inline skates, cell phones, and gas barbecue grills. Education: The Amish provide their children with formal education only through the eighth grade and only in their own private schools. ขั้นท่ี 6 - ใหน้ กั เรยี นทากจิ กรรม Writing ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 7 โดยใหน้ กั เรียนระดมความคิดเก่ียวกบั วฒั นธรรมบางแงม่ มุ ในประเทศทช่ี าวตา่ งชาตอิ าจจะมปี ัญหาในการปรบั ตวั ครูเขยี นบน กระดานดา - นกั เรียนใชข้ อ้ มลู บนกระดานดาเขียนเป็นฉบบั รา่ ง แลว้ จบั ค่กู บั เพ่อื นเพ่อื รว่ มกนั อภิปรายแสดง ความคิดเห็นเก่ียวกบั ผลงานเพ่อื น แลว้ ใหแ้ ตล่ ะคนเขยี นเป็นผลงานสาเรจ็ สง่ ครู ข้ันท่ี 7 - ใหน้ กั เรยี นทากจิ กรรม Speaking ในหนงั สอื เรียน หนา้ 7 โดยใหน้ กั เรยี นน่งั เป็นคอู่ ภปิ ราย คาถามขอ้ 1-4 แลว้ ใหน้ กั เรียนน่งั เป็นกล่มุ กล่มุ ละ 4 คน ครูเดนิ สงั เกตและใหค้ วามช่วยเหลอื - สมุ่ ใหต้ วั แทนนกั เรียนพดู รายงานหนา้ ชน้ั เรยี น ข้นั ที่ 8 - ใหน้ กั เรียนทากจิ กรรม Project ในหนงั สอื เรียน หนา้ 7 โดยใหท้ างานเป็นกล่มุ เพ่อื ศกึ ษา วิถีชวี ิตของกลมุ่ คนท่นี กั เรียนสนใจ เช่น กลมุ่ คนในรูปภาพทง้ั 3 ภาพ แลว้ นาเสนอผลงาน ข้ันท่ี 9 - ใหน้ กั เรียนทาแบบประเมิน Self-Evaluation เพ่อื ประเมนิ ตนเองเก่ยี วกบั เนอื้ หาท่ไี ดเ้ รยี นไป แลว้ (แบบประเมนิ Self-Evaluation ทา้ ยคมู่ อื ครู/ทา้ ย Workbook) 5. สื่อการเรียนรู้ 5.1 หนงั สอื เรียน หนา้ 6-7 5.2 ซดี บี นั ทึกเสียง 5.3 เครื่องเลน่ ซดี ี 5.4 Worksheet 1: The Amish แหล่งการเรยี นรู้เพมิ่ เติม : - www.religioustolerance.org/amish.htm-55k - www.800padutch.com/amish.shtml 6. การวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1 ประเมินผลจดุ ประสงคป์ ลายทาง 2.1 จากการทากจิ กรรม About the Reading ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 7 และจากการทา Worksheet: The Amish 6.2 ประเมินผลจดุ ประสงคป์ ลายทาง 2.2 จากผลงานเขียนในกจิ กรรม Writing และโครงงานศกึ ษาวถิ ีชีวติ ของกลมุ่ คนในกจิ กรรม Project ในหนงั สอื เรียน หนา้ 7 6.3 ประเมนิ ผลจดุ ประสงคป์ ลายทาง 2.3 จากการพดู อภปิ รายในกิจกรรม Speaking ในหนงั สอื เรียน หนา้ 7 และการพดู หนา้ ชนั้ เรยี นเก่ียวกบั วถิ ีชวี ิตของกล่มุ คน

14 เครือ่ งมอื การประเมิน : - เกณฑก์ ารประเมินการเขียน - เกณฑก์ ารประเมนิ การอา่ น - เกณฑก์ ารประเมนิ การนาเสนอ - เกณฑก์ ารประเมินการทางานกลมุ่ - แบบประเมนิ Self-Evaluation 7. กิจกรรมเสรมิ ทกั ษะ/ประสบการณท์ างภาษา 7.1 ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหดั ขอ้ G-J ใน Workbook หนา้ 3-4 (ดเู ฉลยทา้ ยเล่ม) 8. ผลงาน/ชนิ้ งานของนกั เรียน 8.1 การทากจิ กรรม About the Reading ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 7 8.2 Worksheet 1: The Amish 8.3 ผลงานเขยี นจากกิจกรรม Writing ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 7 8.4 การพดู อภิปรายในกจิ กรรม Speaking ในหนงั สือเรียน หนา้ 7 8.5 โครงงานศกึ ษาวถิ ีชวี ิตกล่มุ คนในกจิ กรรม Project ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 7 9. ความสัมพนั ธก์ ับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน 10.1 ผลการปฏิบตั กิ ิจกรรมการเรยี นรู้ 10.2 ปัญหาอปุ สรรคในการปฏิบตั ิกจิ กรรม 10.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ขการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

15 Worksheet 1 The Amish Origin: Migration: Clothing: Men: Women: Way of Life: Education: