คูมอื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพ่ิมเติม หนาทพี่ ลเมือง ๑-๒ ม.๑ 257 กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๒๐ เรือ่ ง ทบทวนความรู้ ผลการเรียนรู้ ๕. ประยกุ ตแ ละเผยแพรพ ระบรมราโชวาท และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๑๐. ปฏบิ ัตติ นเปนผมู ีวินยั ในตนเอง คำชแ้ี จง ตอบคำถาม ๑. ความมีเหตุผล หมายถงึ อะไร การใชปญญาพิจารณาการกระทําของตนเองอยางรอบคอบ ถ่ีถวน ถูกตองตามหลักการ กฎหมาย ศลี ธรรม จรยิ ธรรม และวฒั นธรรมท่ดี งี าม ๒. ความมเี หตุผลมปี ระโยชนอ ยา งไร แนวคาํ ตอบ ๑) ทําใหเราเอาชนะความช่วั รา ยได ๒) ประสบความสําเร็จในหนาที่การงานและการดาํ เนินชวี ิต ๓) รจู กั ผิดชอบชว่ั ดี ๓. การใชสติหรือปญ ญาพิจารณาส่งิ ตา ง ๆ อยางละเอียดถี่ถวน รอบดา น เรียกวาอะไร ความรอบคอบ ๔. ในการทาํ งาน ถา เรามคี วามรอบจะเกิดผลดอี ยา งไร แนวคาํ ตอบ ๑) งานไมผ ิดพลาด ๒) งานสําเร็จ ถูกตอง และมปี ระสทิ ธิภาพ ๕. “ปลูกปา ๓ อยาง ประโยชน ๔ อยาง” หมายถึงอะไร การปลกู ไมเ ศรษฐกจิ ไมผ ล และไมฟ น โดยนอกจากจะไดป ระโยชนต ามชอ่ื ของไมท ปี่ ลกู ทง้ั ๓ อยา งแลว ยังชว ยรกั ษาความชมุ ชนื้ แกพ น้ื ดนิ อกี ดว ย ชอ่ื นามสกลุ เลขท่ี ชน้ั โรงเรยี น
258 คูมอื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพม่ิ เติม หนา ทพี่ ลเมือง ๑-๒ ม.๑ แบบทดสอบหลังเรยี น หนวยการเรียนรูที่ ๓ คำชี้แจง เลือกคำตอบทีถ่ กู ต้องทสี่ ุดเพียงคำตอบเดยี ว ๑. คนทม่ี เี หตผุ ลจะมลี กั ษณะตอ่ ไปนย้ี กเวน ๕. “มานะ...เธอตอ้ งยอมรบั ฟง˜ ความคดิ เหน็ ขอ้ ใด ของเพอื่ น ๆ บา้ ง” คําพดู น้ีครพู ดู กับ ก เห็นแกตวั มานะ เพราะมานะขาด คุณธรรมขอ้ ใด ข มีความรอบคอบ ก ความมีเหตุผล ค ไมประมาทเลนิ เลอ ข การใฝห าความรู ง ยอมรับฟง ความคดิ เห็นของคนอ่ืน ค ความเอ้อื เฟอเผือ่ แผ ง ความขยันหมั่นเพียร ๒. “นิตยจะทําอะไรก็คิดอย่างถ่ีถ้วนและ ถูกตอ้ งตามหลักวชิ าการ กฎหมาย ศลี - ๖. คําพูดในข้อใดแสดงถึงการไม่มีความ ธรรม และจริยธรรม...” แสดงว่านติ ย รอบคอบ เปน คนอยา่ งไร ก เกต.ุ ..เธอทาํ งานผิดพลาดบอ ย ๆ นะ ก มเี หตผุ ล ข แกว...เมื่อไหรเธอจะเลกิ เหน็ แตต วั ข มรี ะเบยี บวินัย เสียที ค มคี วามเสียสละ ค กอ ย...เธอตองเขา ใจเพื่อน ๆ นะ ง มคี วามรับผิดชอบ ส่ิงที่เธอทํานัน้ ไมถ กู ตอ ง ง กงุ ...ถาเธอยังไมปรบั ปรุงตัว ครูตอง ๓. ในฐานะนักเรียนสามารถน้อมนําพระ- เชิญผปู กครองมาพบนะ บรมราโชวาทเรอ่ื ง “ความรอบคอบ” มา ใช้ในเรอื่ งใดไดด้ ที ส่ี ุด ๗. ผู้ใหญ่สงิ หทําบอ่ พกั นา้ํ เสยี โดยกกั เก็บ ก การทอ งอนิ เทอรเ น็ต นา้ํ เสยี จากบา้ นเรอื น แลว้ ปลกู หญา้ แฝก ข การเลน เกมออนไลน อนิ โดนเี ซยี เพอื่ ชว่ ยบาํ บดั นาํ้ เสยี ผใู้ หญ่ ค การทาํ รายงานสงครู สงิ หน อ้ มนาํ หลกั การทรงงานขอ้ ใดมาใช้ ง การว่ิงเลนกบั เพอื่ น ๆ ก ทาํ ตามลาํ ดับข้ันตอน ข ใชอ ธรรมปราบอธรรม ๔. “ขา้ มถนนระวงั รถ ขบั รถระวงั คน” ค ใชธ รรมชาติชว ยธรรมชาติ ขอ้ ความนีต้ อ้ งการเตือนสตใิ ห้เรามี ง ประหยดั เรยี บงา ย ไดป ระโยชนส งู สดุ คณุ ธรรมข้อใด ก ความเสียสละ ข ความรอบคอบ ค ความมีเหตุผล ง ความเอื้อเฟอเผือ่ แผ
คมู ือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพมิ่ เตมิ หนา ท่พี ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 259 ๘. “การปลูกป†า ๓ อย่าง ประโยชน ๔ ๙. ถ้าคนในชมุ ชนร่วมกนั นอ้ มนําหลัก อยา่ ง” ตรงกบั หลักการทรงงานข้อใด การทรงงานเรื่อง “ปลกู ปา† ในใจคน” ก ปลกู ปา ในใจคน มาปฏบิ ตั ิ สง่ิ ใดจะเกิดขนึ้ ตามมาอันดับ ข ใชธรรมชาติชว ยธรรมชาติ แรก ค ศึกษาขอมูลอยางเปนระบบ ก การปลูกปา ง ประหยดั เรยี บงา ย ไดป ระโยชนส งู สดุ ข การตัดไมท าํ ลายปา ค การใชประโยชนจากปา ง การหวงแหนและรักผืนปา ๑๐. การปลูกป†าในข้อใดไมตรง กับ “การปลูกป†า ๓ อยา่ ง ประโยชน ๔ อยา่ ง” ก ปลกู ไมผ ล ข ปลูกไมฟ น ค ปลูกไมเ ศรษฐกิจ ง ปลกู ไมดอกไมประดบั
๔หนว� ยการเรย� นรทู ่ี พลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษัตรย� ท รงเปนประมุข • แบบทดสอบกอนเรยี น • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๒๑ เรื่อง สทิ ธแิ ละเสรีภาพ • กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๒๒ เรอ่ื ง ความเสมอภาค • กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๒๓ เรื่อง วิถีประชาธปิ ไตย • กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๒๔ เรอ่ื ง การมีสวนรวมในกิจกรรมตา ง ๆ ของสงั คม • กิจกรรม/ใบงานที่ ๒๕ เรื่อง ประสบการณการมสี ว นรวมในกิจกรรมตาง ๆ ของสังคม • กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๒๖ เรอ่ื ง การตดั สินใจโดยใชเ หตุผล • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๒๗ เรอื่ ง การมสี ว นรว มและรบั ผดิ ชอบในการตดั สินใจตอ กิจกรรม ของหองเรยี น • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๒๘ เรื่อง การมีสวนรวมและรับผิดชอบในการตดั สนิ ใจตอ กิจกรรม ของโรงเรียน • กิจกรรม/ใบงานที่ ๒๙ เรื่อง การตรวจสอบขอ มลู • กิจกรรม/ใบงานที่ ๓๐ เรื่อง ความมวี นิ ยั ในตนเองในการเปนพลเมอื งดีในระบอบ ประชาธิปไตย • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๑ เรอ่ื ง ทบทวนความรู • แบบทดสอบหลังเรียน
คมู ือครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพิม่ เติม หนาท่ีพลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 261 แบบทดสอบกอ นเรยี น หนวยการเรยี นรทู ่ี ๔ คำช้แี จง เลอื กคำตอบท่ถี ูกตอ้ งทีส่ ดุ เพียงคำตอบเดียว ๑. ป˜จจุบนั สงั คมไทยมกี ารปกครองใน ๕. เราควรรว่ มกจิ กรรมใดกบั ชมุ ชน ระบอบใด ก เลนการพนันกบั เพอ่ื นบาน ก เผดจ็ การ ข ดืม่ สุรากับเพ่ือน ๆ ในบริเวณวดั ข สงั คมนิยม ค ชวนเพ่ือนไปลาสัตวปา มาทําอาหาร ค ประชาธิปไตย เลี้ยงพระ ง สมบูรณาญาสทิ ธริ าชย ง รวมกอ เจดียทรายในวันสงกรานต กบั เพอ่ื นบาน ๒. ในสงั คมประชาธปิ ไตยอะไรเปน สงิ่ สาํ คญั ทส่ี ดุ ๖. เมอ่ี ประเทศไทยตอ้ งประสบกบั ภยั พิบตั ิ ก อาํ นาจรฐั ทางธรรมชาติ เช่น น้ําทว่ ม พายุ สึนามิ ข สิทธิและเสรีภาพ ในฐานะพลเมอื งดเี ราควรปฏบิ ตั ติ นตาม ค การเชื่อฟง ผูนําอยางเครงครัด ขอ้ ใดจึงจะเหมาะสมทส่ี ดุ ง การมีความคิดเห็นไปในทางทผ่ี นู ํา ก ตดิ ตามขา วสารอยา งใกลชิด ตอ งการ ข ปลอยวาง คิดวาทุกส่ิงที่เกิดขึ้นเปน ไปตามกรรม ๓. ปจ˜ จบุ นั นักเรยี นยังไมมี สทิ ธติ ามขอ้ ใด ค เดนิ ทางออกนอกประเทศ เพอื่ ปอ งกนั ก สทิ ธิสวนบุคคล อันตรายจากโรคติดตอที่อาจเกิดข้ึน ข สิทธใิ นทรัพยสิน หลงั ภัยพบิ ัติ ค สิทธใิ นการนับถอื ศาสนา ง รว มใหค วามชว ยเหลอื แกผ ปู ระสบภยั ง สิทธลิ งคะแนนเสียงเลือกต้ัง เชน เปน อาสาสมคั ร ชว ยบรจิ าค อาหารและสิ่งของบรรเทาทกุ ข ๔. เราควรปฏิบัตติ ามบคุ คลในขอ้ ใด ก เอกตดั สนิ ใจตามออม เพราะออมเปน ๗. หากเห็นขยะตกอยู่บนพื้น เราควรทํา ลกู ของตาํ รวจ อยา่ งไร ข ปอ มไมอ ยากใหน อ งไปเทย่ี วกลางคนื ก ไมต อ งสนใจ จงึ จบั นอ งมัดไวใ นหอ งนอน ข เก็บท้งิ ลงถงั ขยะ ค นยุ ถามความคดิ เหน็ ของเพอ่ื นทกุ ครง้ั ค ใชเพื่อนเกบ็ ไปท้ิง กอนทจ่ี ะตัดสนิ ใจทาํ งานกลุม ง เดนิ เลยี่ งไปทางอื่น ง กง่ิ กวาดขยะในบานของตนออกไป กองไวท่ีหนาบานเพ่ือใหเจา หนา ท่ี รกั ษาความสะอาดมากวาดตอไป
262 คมู อื ครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพม่ิ เติม หนาท่ีพลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ ๘. เม่ือทํางานกลุ่มกับเพ่ือน ๆ เราควร ๙. เราควรเลือกประธานนักเรียนที่เปนคน ตดั สนิ ใจอยา่ งไร อยา่ งไรมากทีส่ ดุ ก ตดั สนิ ใจตามหัวหนากลุม ก คนดี ข ตัดสินใจตามมตสิ ว นใหญ ข คนรวย ค ตัดสินใจตามมตสิ วนนอ ย ค คนเหน็ แกต ัว ง ตัดสินใจตามสมาชิกทเี่ รยี นเกงทีส่ ดุ ง คนรกั พวกพอง ๑๐. ขอ้ มลู จากแหลง่ ใดมคี วามนา่ เช่อื ถอื มากท่ีสดุ ก ตาํ รา ข ใบปลวิ ค อนิ เทอรเ น็ต ง หนงั สอื พิมพ
คูมอื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพิม่ เตมิ หนาทพ่ี ลเมือง ๑-๒ ม.๑ 263 กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๒๑ เร่อื ง สิทธแิ ละเสรภี าพ ผลการเรียนรู้ ๖. ปฏิบัติตนเปนพลเมอื งดีตามวถิ ีประชาธปิ ไตย ๑๐. ปฏิบตั ิตนเปนผมู วี ินยั ในตนเอง คำชี้แจง เขียนตัวอยา งสิทธแิ ละเสรีภาพของตนเองในแตล ะดานลงในตารางท่ีกำหนดให แนวคาํ ตอบ เสรีภาพในการพูด การไดพูดและเขียนในส่ิงท่ีอยากจะพูดและเขียน แตจะ การพิมพแ ละการโฆษณา ตองเปนเรอ่ื งจรงิ และเปนสิง่ ที่ถูกตอง ไมทําใหบุคคลอ่นื เสยี หาย และไมละเมิดสิทธิของบุคคลอนื่ เสรภี าพในการ ไดน ับถือศาสนาตามความเช่ือของตนเอง เชน พระพุทธ- นับถอื ศาสนา ศาสนา ศาสนาอิสลาม ครสิ ตศ าสนา ศาสนาพราหมณ- ฮนิ ดู สทิ ธิ เสรภี าพในการสมาคม ไดรวมกลุมกับเพื่อน ๆ จัดต้ังชมรมเยาวชนรักสุขภาพ และ หรือรวมกลุม ไดเปน สมาชิกยุวชนพรรคการเมอื งที่ชื่นชอบ เสรภี าพ สทิ ธใิ นทรพั ยส ิน ไดเปนเจาของและใชประโยชนจากทรัพยสินของตนเอง อยางอิสระ สิทธิที่จะไดร บั การ ไดรับการคุมครองจากกฎหมายท่ีจะไมตองถูกลงโทษ คมุ ครองตามกฎหมาย หากไมไ ดก ระทาํ ผดิ ไดร บั การคมุ ครองมใิ หถ กู สงั่ ลงโทษ โดยไมผ า นกระบวนการพิจารณาตามกฎหมาย สิทธิสว นบุคคล มีเสรีภาพในรางกายของตนเอง สามารถเดินทางไปไหน กไ็ ด เลอื กประกอบอาชีพไดต ามทีส่ นใจ ชอ่ื นามสกลุ เลขท่ี ชน้ั โรงเรยี น
264 คูม อื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชาเพ่มิ เตมิ หนา ทีพ่ ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ กจิ กรรม/ใบงานที่ ๒๒ เรื่อง ความเสมอภาค ผลการเรยี นรู้ ๖. ปฏบิ ัตติ นเปน พลเมอื งดีตามวิถปี ระชาธปิ ไตย ๑๐. ปฏบิ ัตติ นเปนผูมีวินยั ในตนเอง คำช้ีแจง จบั คขู อ ความโดยนำตวั อกั ษรในกรอบดา นบนเตมิ ลงใน ใตข อ ความทส่ี มั พนั ธก นั ก ความเสมอภาคทางการเมอื ง ข ความเสมอภาคทางกฎหมาย ค ความเสมอภาคในโอกาส ง ความเสมอภาคทางเศรษฐกจิ จ ความเสมอภาคทางสงั คม ทุกคนตองไดรับการ บุคคลมีสิทธิเขารวม ทกุ คนตอ งไดร บั โอกาส เคารพวา มศี กั ดศิ์ รใี นความ กิจกรรมทางการเมืองการ ทจ่ี ะใชค วามสามารถในการ เปนคนอยางเทาเทียมกัน ปกครองอยา งเทา เทยี มกนั ศึกษาหรือประกอบอาชีพ คอื จะไมม อี ปุ สรรคในการ เชน การออกเสียงเลือกตง้ั มโี อกาสแสวงหาความเจรญิ คบหากันระหวางคนท่ีมี การลงสมัครรับเลือกตั้ง กาวหนาในการดํารงชีพ ความแตกตางกันทั้งดาน การตรวจสอบการทาํ หนา ที่ หรือการเล่ือนสถานะทาง ฐานะหรอื อาชพี ของรฐั มนตรี เศรษฐกิจหรอื ทางสังคม จ ก ค ทุกคนตองไดรับการปฏิบัติทาง ทกุ คนตอ งไดร บั การกระจายรายได กฎหมายอยางเสมอภาคกัน หาก ทเี่ ปน ธรรม มคี วามมน่ั คงทางเศรษฐกจิ กระทําความผิดจะตองถูกดําเนินการ พอสมควร เพ่ือใหสามารถใชวิจารณ- ตามกฎหมายเดียวกนั ญาณทางการเมืองไดอ ยางมีประสิทธิ- ภาพ ข ง ชอื่ นามสกลุ เลขท่ี ชน้ั โรงเรยี น
คมู ือครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพมิ่ เติม หนาทีพ่ ลเมือง ๑-๒ ม.๑ 265 กิจกรรม/ใบงานที่ ๒๓ เรอื่ ง วถิ ปี ระชาธิปไตย ผลการเรียนรู้ ๖. ปฏบิ ัติตนเปน พลเมอื งดตี ามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย ๑๐. ปฏิบัติตนเปนผูม วี ินัยในตนเอง คำชแี้ จง เติมผังมโนทศั นเรื่อง วิถีประชาธิปไตย ลงในกรอบใหถ กู ตอ ง ยอมรับวาทุกคน ยอมรบั ความคิดเห็นของทุกฝาย มีสติปญ ญาและเหตผุ ล แลวนาํ มาพจิ ารณาหาทางเลอื กท่ีดีทส่ี ดุ ชว ยเหลอื และ เคารพเหตุผล ยอมรับการแกไ ขปญหา ปอ งกนั ภยั พบิ ัติ ความขัดแยง โดยสนั ตวิ ธิ ี รักษาสมบตั ิ ยอมรับความคิดเห็นของผูอ ื่น ของสว นรวม ไมดงึ ดนั แตความคิดเหน็ ของตน มีความรบั ผดิ ชอบตอ สวนรวม วถิ ีประชาธปิ ไตย รจู กั การประนปี ระนอม ชวยเหลือเพือ่ นรว มชาติ มีระเบยี บวินัย ประสานความคิดเห็นของตน ท่ีตกทกุ ขไ ดยาก ใหส อดคลอ งกบั ทศั นคตขิ องคนอ่นื ปฏิบัติตาม ไมปลอ ยใหมกี ารละเมิด กฎหมายอยา งเครงครัด กฎหมายตามอาํ เภอใจ ชอื่ นามสกลุ เลขที่ ชน้ั โรงเรยี น
266 คมู อื ครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพิ่มเติม หนา ท่ีพลเมือง ๑-๒ ม.๑ กจิ กรรม/ใบงานที่ ๒๔ เรือ่ ง การมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมต่าง ๆ ของสังคม ผลการเรียนรู้ ๖. ปฏิบตั ิตนเปน พลเมืองดตี ามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย ๑๐. ปฏิบตั ิตนเปนผมู ีวินยั ในตนเอง คำชี้แจง เขียนวิธีการมีสวนรวมในกจิ กรรมตาง ๆ ของสงั คมท่ีตนเองสามารถกระทำไดลงใน กรอบท่ีกำหนดให แนวคาํ ตอบ ร่วมปรึกษาหารอื หรอื แสดง เขา รว มการประชมุ ของชมุ ชนหรอื หมบู า น สง จดหมาย ความคิดเห็นทเี่ ปนประโยชน ไปยังหนวยงานท่ีรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องน้ัน ๆ เสนอ ความคิดเห็นผานทางเวทสี าธารณะในระดับตาง ๆ ต่อสังคม เข้าร่วมในเทศกาลงานประเพณี เขา รว มกจิ กรรมตา ง ๆ ทจ่ี ดั ขนึ้ ในชมุ ชน เชน ประเพณี หรือกจิ กรรมต่าง ๆ สงกรานต ประเพณีลอยกระทง พิธีเวียนเทียน พิธี ภายในสังคม จดุ เทยี นชัยถวายพระพร สนใจรบั ร้ขู อ้ มูลข่าวสาร อา นขาวสารของชุมชนจากปายประกาศขา วสาร ตา่ ง ๆ ของสังคม ในชุมชน มสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมทาง ใชสิทธิเลือกตั้ง ลงสมัครรับเลือกตั้ง แสดงความ การเมอื งการปกครองของสังคม คิดเห็นทางการเมืองการปกครองกับคนในชุมชน ปฏิบัติ ตามกฎหมาย ระเบียบ และกฎเกณฑตา ง ๆ ของสังคม ร่วมกจิ กรรมพัฒนาสงั คม รว มกจิ กรรมทาํ ความสะอาดถนนหนทางในชมุ ชน รว ม ซอ มแซมสาธารณสมบตั ขิ องชมุ ชน เชน ศาลารอรถประจาํ - ทาง หอ งสมุด สะพาน ปา ยบอกทาง ชอื่ นามสกลุ เลขที่ ชน้ั โรงเรยี น
คมู ือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพม่ิ เตมิ หนา ที่พลเมือง ๑-๒ ม.๑ 267 กิจกรรม/ใบงานที่ ๒๕ เรอื่ ง ประสบการณก ารมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมต่าง ๆ ของสงั คม ผลการเรยี นรู้ ๖. ปฏิบตั ติ นเปนพลเมืองดตี ามวิถปี ระชาธิปไตย ๑๐. ปฏิบัติตนเปนผูม ีวนิ ยั ในตนเอง คำชีแ้ จง เขยี นประสบการณก ารมสี ว นรว มในกจิ กรรมตา ง ๆ ของสงั คมทต่ี นเองเคยมสี ว นรว ม ลงในกรอบที่กำหนดให ตัวอยางคาํ ตอบ กจิ กรรมของสงั คมทตี่ นเองเคยมสี ว นรว ม ไดแ ก ประเพณลี อยกระทง กจิ กรรมทเี่ ราปฏบิ ัติ ไดแ ก รวมกับคนในครอบครัวทํากระทงที่ใชวัสดุจากธรรมชาติ เชน ตนกลว ย ใบตอง ดอกไมสด จากน้ันเดินทางไปวดั พรอ มกบั ครอบครัวเพ่ือลอยกระทงในสระนาํ้ ของวัด ซ่ึงทางวัดไดจัดพื้นท่ีไวสําหรับใหคนลงไปลอยกระทง จากนั้นไดทําบุญกับทางวัด และ ชมการแสดงตาง ๆ ที่วัดและชุมชนรว มกันจัดขึน้ ประโยชนท่ีไดรบั จากการรวมกิจกรรมน้ี คอื ไดอนุรักษวัฒนธรรมอันงดงามของไทยไว ได ทําบุญใหวัดนําไปใชประโยชนตอไป ไดชมการแสดงดั้งเดิมหลาย ๆ ชนิด เชน รําวง ลําตัด ไดพ บปะกับคนอ่ืน ๆ ในชมุ ชนซึ่งชวยเสรมิ สรา งความสัมพันธอนั ดตี อ กันย่งิ ข้นึ ความรูส ึกจากการรวมกิจกรรมนี้ คือ รสู กึ วา ประเพณลี อยกระทงเปน วฒั นธรรมดงั้ เดมิ ของไทย ที่งดงาม ควรคาแกการอนุรักษ และรูสึกวาการรวมกิจกรรมกับชุมชนจะชวยใหคนในชุมชน มคี วามรกั และความสามคั คกี นั มากขึ้น ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ชนั้ โรงเรยี น
268 คูมอื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพ่ิมเตมิ หนาที่พลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๒๖ เรื่อง การตัดสินใจโดยใชเ้ หตผุ ล ผลการเรียนรู้ ๖. ปฏิบตั ิตนเปน พลเมอื งดตี ามวถิ ีประชาธิปไตย ๑๐. ปฏิบัติตนเปน ผมู วี นิ ยั ในตนเอง คำชแี้ จง อานเร่ืองแลว ตอบคำถาม ตัวอยางคาํ ตอบ พรุงน้ีเปนวันเปดภาคเรียน วันน้ีออมจึงไปซ้ือเคร่ืองเขียนกับพอแม เม่ือมาถึงราน เครอ่ื งเขยี น ออมไดเลอื กซ้อื ปากกา โดยปากกาทอี่ อมอยากไดม ี 2 แทง แตอ อมซื้อไดเพียง แทง เดยี ว ซึ่งรายละเอยี ดของปากกาทัง้ 2 แทง มดี งั น้ี ปากกา A สสี นั สดใส มีลวดลายที่ออมชอบ ราคา 20 บาท แตเ มือ่ ลองเขียนแลว ออมรูส กึ วา เขยี น แลว สะดุด ไมล นื่ มอื ปากกา B สีสนั ธรรมดา ไมม ลี วดลาย ราคา 7 บาท เม่ือลองเขยี นแลว ออมรสู ึกวา เขียนไดส ะดวก ล่ืนมอื หากนักเรยี นเปนออม นกั เรยี นจะตัดสินใจซื้อปากกาแทงใด เพราะอะไร ใหนักเรียนตอบ ลงในตารางที่กําหนดให ปากกา เหตผุ ล ปากกา A เหตุผลเพราะ แมป ากกาแทง นจี้ ะมีสสี ัน และลวดลายท่ีชอบ แตมรี าคาแพงเกนิ ไปและ คุณภาพไมด ีนัก 3 ปากกา B เหตุผลเพราะ ปากกาแทง นม้ี รี าคาไมแพง เหมาะสมกับเราซ่ึงยังเปน นักเรยี นอยู รวมท้ัง มคี ณุ ภาพดี เขียนไดสะดวกและลืน่ มอื ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ชนั้ โรงเรยี น
คูม ือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพม่ิ เตมิ หนา ท่ีพลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 269 กจิ กรรม/ใบงานที่ ๒๗ เรอ่ื ง การมสี ว่ นร่วมและรับผดิ ชอบในการตดั สนิ ใจตอ่ กจิ กรรมของห้องเรยี น ผลการเรียนรู้ ๗. มสี ว นรว มและรบั ผดิ ชอบในการตดั สนิ ใจ ตรวจสอบขอ มลู เพอ่ื ใชป ระกอบ การตัดสนิ ใจในกิจกรรมตาง ๆ ๑๐. ปฏิบตั ติ นเปน ผูมีวนิ ัยในตนเอง คำชีแ้ จง เขยี นกจิ กรรมตา ง ๆ ของโรงเรยี นทนี่ กั เรยี นมสี ว นรว มและรบั ผดิ ชอบในการตดั สนิ ใจ ลงในกรอบท่กี ำหนดให แนวคาํ ตอบ กจิ กรรม การเลือกต้งั หัวหนา หอ ง ลักษณะการปฏบิ ัติกิจกรรม ใชส ทิ ธเิ ลอื กตัง้ เพ่ือนท่ีลงสมคั รเปนหัวหนา ชั้นโดยการยกมือให คะแนนเสียง ผลจากการปฏบิ ัติกจิ กรรมน้ี หอ งเรยี นไดห วั หนา หอ งคนใหม โดยเพอื่ นคนทเี่ ราเลอื กไดค ะแนน นอ ยกวา เพอ่ื นอีกคนหน่ึง ความรสู้ ึกจากการมีสว่ นร่วมในกิจกรรมน้ี หลงั จากทม่ี สี ว นรว มในกิจกรรมน้แี ลว รสู ึกวา การเลอื กตัง้ หวั หนาหอ งเปนวธิ ีการเลือกผนู าํ ของหองเรยี นท่มี คี วามยุติธรรมตอ สมาชกิ ทกุ คนใน หองเรียน เพราะทาํ ใหค วามคดิ เห็นของทกุ คนมีคา และมคี วามเสมอภาคเทา เทยี มกัน กิจกรรม การประชุมเร่ืองการตกแตงหอ งเรยี น ลักษณะการปฏิบตั ิกิจกรรม สมาชิกทุกคนในหองเรียนน่ังประชุมกันเพ่ือดําเนินการตกแตง หองเรียนใหม โดยเปดโอกาสใหทุกคนแสดงความคิดเห็นไดอยางเต็มที่ จากน้ันนําความคิดเห็น เหลานัน้ มาชวยกนั พิจารณาและตัดสนิ ใจเลือกในสิง่ ทดี่ แี ละเหมาะสมมากที่สุด ผลจากการปฏบิ ัติกิจกรรมน้ี ไดแนวทางทจี่ ะนาํ ไปใชใ นการตกแตง หอ งเรียน ความรสู้ กึ จากการมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมน้ี รูสึกวาการท่ีทุกคนไดชวยกันคิด ชวยกันตัดสินใจ จะทําใหไ ดแ นวความคดิ ดี ๆ ทจ่ี ะนํามาใชใ นการดําเนินการเรอ่ื งตาง ๆ และยังทําใหส มาชกิ รูสกึ วา ตนเปนเจา ของและเปน สว นหนง่ึ ของหองเรียน ชอื่ นามสกลุ เลขที่ ชน้ั โรงเรยี น
270 คูมอื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพ่ิมเติม หนา ที่พลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ กจิ กรรม/ใบงานที่ ๒๘ เรื่อง การมสี ่วนรว่ มและรบั ผิดชอบในการตัดสินใจตอ่ กิจกรรมของโรงเรียน ผลการเรยี นรู้ ๗. มสี ว นรว มและรบั ผดิ ชอบในการตดั สนิ ใจ ตรวจสอบขอ มลู เพอ่ื ใชป ระกอบ- การตัดสินใจในกิจกรรมตาง ๆ ๑๐. ปฏิบตั ิตนเปนผูมีวนิ ัยในตนเอง คำชแ้ี จง เขียนวิธีการมีสวนรวมในกิจกรรมตาง ๆ ของโรงเรียนที่ตนเองสามารถกระทำไดลง ในกรอบทีก่ ำหนดให แนวคาํ ตอบ การแสดงความคดิ เห็น การรว มประชมุ ในโรงเรยี น กบั โรงเรยี น การตดิ ตามขอมูลขาวสาร ของโรงเรยี น การมสี ่วนรว่ มและรับผิดชอบในการ ตัดสนิ ใจต่อกิจกรรมของโรงเรียน การปฏบิ ัตติ ามกฎ ระเบยี บ การเลอื กต้งั และขอ ตกลงของโรงเรียน ประธานนักเรยี น การรว มกนั รักษาความ เลขท่ี สะอาดของโรงเรียน ชอ่ื นามสกลุ ชน้ั โรงเรยี น
คมู อื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพ่ิมเติม หนา ทพ่ี ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 271 กิจกรรม/ใบงานที่ ๒๙ เรือ่ ง การตรวจสอบข้อมลู ผลการเรียนรู้ ๗. มสี ว นรว มและรบั ผดิ ชอบในการตดั สนิ ใจ ตรวจสอบขอ มลู เพอื่ ใชป ระกอบ- การตัดสินใจในกจิ กรรมตา ง ๆ ๑๐. ปฏบิ ัตติ นเปน ผมู วี ินยั ในตนเอง คำช้ีแจง ๑. อา นขอความที่ ๑ และขอ ความที่ ๒ แลวนำมาวิเคราะหโดยใชห ลกั การตรวจสอบ ขอมลู ๒. เขยี นผลการวิเคราะหขอ มลู ลงในกรอบตามหวั ขอที่กำหนด ขอ้ ความที่ ๑ รับรองผลจากผู้ใชก้ ว่า ลดจริง ลดจัง ๑,๐๐๐ คน ท่ัวประเทศ ลดอยา่ งเหน็ ผล กับกาแฟลดความอว้ น Good Bye Fat เพียง ๑ กล่อง เหน็ ผล ๑๐๐ % ลดเอว ต้นขา ตน้ แขน หน้าท้องแบนเรยี บ โดยไม่ตอ้ งอดอาหารและไม่ตอ้ งออกกาํ ลังกาย ปราศจากไขมนั ไมม่ ีโคเลสเตอรอล ไมม่ สี ว่ นผสมของนํ้าตาล ใช้วตั ถุดิบจากธรรมชาติ ๑๐๐ % สนใจสั่งซ้ือสินค้าติดตอ่ คณุ นารี ๐๘๐-๐๐๐๐๐๐๐
272 คูม ือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพม่ิ เตมิ หนาทพี่ ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ กาแฟลดน้ําหนักสว่ นใหญ่เปนการโฆษณาเกนิ จริง โดย มูลนธิ เิ พ่ือผบู ริโภค วันที่ 18 สงิ หาคม พ.ศ. 2554 เม่ือวันที่ ๑๖ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ไดมกี ารประชมุ เสวนาเรือ่ ง “เหยอ่ื โฆษณาจรงิ หรอื หลอก” โดยทป่ี ระชมุ ระบวุ า ผลติ ภณั ฑก าแฟลดนา้ํ หนกั สว นใหญเ ปน การโฆษณาเกนิ จรงิ พรอมทั้งแนะนําวธิ แี กไ ข คอื ตอ งเรง ใหค วามรกู บั ประชาชน คณะกรรมาธกิ ารสิทธิมนุษยชน สทิ ธิ เสรภี าพ และการคุมครองผูบรโิ ภค วฒุ สิ ภา จดั เสวนาในหัวขอ “เหย่ือโฆษณาจริงหรือหลอก” โดยไดเชิญผูเกี่ยวของในแวดวงการโฆษณา ทงั้ ในสว นของนกั การตลาด แพทย สอ่ื มวลชน และเจา หนา ทต่ี าํ รวจมารว มแสดงความคดิ เหน็ ซึ่งวงเสวนาเห็นตรงกันวา ปญหาท่ีเกิดขึ้นมาจากความอยากของผูบริโภค ขณะที่ผูผลิตก็ ไมไดใหขอมูลท่ีครบถวน เห็นไดจากการที่ผูบริโภคไมพอใจในสินคา สวนใหญเกิดจากการ โฆษณาชนิ้ นนั้ ไมไดบ อกรายละเอยี ดดังกลา วไว นอกจากนี้ ยังมีการยกตัวอยางดวยวาสินคาท่ีมีปญหามากท่ีสุด คือ สินคาประเภท กาแฟลดนํา้ หนกั โดยระบุวา สนิ คาเหลานีใ้ ชช องวา งทางกฎหมายดําเนินการขาย ทง้ั ทข่ี อ เทจ็ จรงิ ขออนญุ าตเพยี งแคผ ลติ เทา นนั้ ซง่ึ ไมไ ดม กี ารขอโฆษณา อกี ทง้ั บทลงโทษกไ็ มร นุ แรง และ ที่สําคัญสินคาเหลาน้ีมักจะใชสื่อดาวเทียมเปนส่ือหลักในการกระทําผิด ดังน้ันวิธีการแกไข ปญ หาท่ีดที ี่สดุ คอื ตองเรง ใหความรูความเขาใจกับประชาชน หลงั จากทต่ี รวจสอบขอมูลแลว นกั เรียนเชอ่ื ถือขอ ความใดมากทีส่ ดุ แนวคาํ ตอบ ขอ ความที่ ๒ เนอ่ื งจาก ขอ ความที่ ๑ ใชข อ ความบรรยายสรรพคุณของสินคาที่ขาดความนาเชอื่ ถือ เพราะไมได ระบุวาขอมูลท่ีใชอางอิงมาจากแหลงใด ขอความท่ียกมาอางอิงนั้นเช่ือถือไดเพียงใด และ ไมร ะบุชอ่ื ทอี่ ยู สถานท่ตี ดิ ตอของผผู ลติ หรอื เจาของผลติ ภณั ฑ ในขณะที่ขอ ความที่ ๒ มีการระบุ ถงึ ทมี่ าของขอ มลู วามาจากหนว ยงานใด มบี ุคคลใดเก่ียวขอ งบาง อีกทงั้ แหลง ทม่ี าของขอ มลู ถือวา มีความนาเช่อื ถือ ประโยชนท ไ่ี ดรับจากการตรวจสอบขอ มูล คอื ชวยใหเราไดรับขอมูลที่ถูกตอง และสามารถนํา ขอมูลนัน้ มาใชใ นการตัดสินใจไดอ ยา งเหมาะสม รวมทัง้ มีโอกาสเกิดขอ ผิดพลาดนอ ยลง ชอ่ื นามสกลุ เลขท่ี ชนั้ โรงเรยี น
คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพิ่มเติม หนา ทพี่ ลเมือง ๑-๒ ม.๑ 273 กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๐ เร่อื ง ความมวี ินัยในตนเองในการเปน พลเมอื งดใี นระบอบประชาธปิ ไตย ผลการเรียนรู้ ๖. ปฏบิ ตั ติ นเปนพลเมืองดีตามวถิ ีประชาธปิ ไตย ๗. มสี ว นรว มและรบั ผดิ ชอบในการตดั สนิ ใจ ตรวจสอบขอ มลู เพอื่ ใชป ระกอบ- การตัดสนิ ใจในกิจกรรมตาง ๆ ๑๐. ปฏบิ ัติตนเปนผมู ีวนิ ัยในตนเอง คำชีแ้ จง เขียนวิธีการปฏิบัติตนเปนพลเมืองดีดวยการยึดหลักความมีวินัยในตนเองลงตารางท่ี กำหนดให แนวคําตอบ ความมวี นิ ัยในตนเอง วธิ ีการปฏบิ ัติตนเปนพลเมืองดี ความซอ่ื สัตยสุจรติ ทาํ ตามสญั ญาทใ่ี หไ วก บั พอ แม ครู เพอื่ น พดู แตค วามจรงิ ไมโ กหก ปฏบิ ตั ิ ตามกฎหมาย ไมล ักขโมย ความขยนั หมน่ั เพียร ต้ังใจปฏบิ ตั หิ นา ท่ี เชน ชวยพอแมท าํ งานบา น ทาํ ความสะอาดหอ งเรยี น และอดทน ตามทไ่ี ดร บั มอบหมาย ตงั้ ใจเรยี น ชว ยดแู ลรกั ษาสาธารณประโยชน อดทน การใฝห าความรู ตอ ความยากลาํ บากตา ง ๆ เชน ดานการเรียน อดทนตอ ความเจ็บปว ย และอดทนตอความเจบ็ ใจ จะตอ งฝก ตนใหเ ปน คนทใี่ ฝห าความรอู ยตู ลอดเวลา จะตอ งไมค ดิ วา ตนเอง มีความรูเ พียงพอแลว และขวนขวายท่จี ะเรยี นรูส่งิ ใหม ๆ อยตู ลอดเวลา การต้งั ใจปฏบิ ตั ิหนาท่ี มงุ มั่นและเอาใจใสใ นหนา ท่ีของตนเองใหอ อกมาสาํ เรจ็ ตามเปา หมาย เชน มุงมน่ั ในการเรยี นจนผลการเรยี นออกมาดีตามเปาหมายทีต่ งั้ ไว การยอมรับผลท่ีเกิดจาก รบั ผดิ ชอบในผลทตี่ นเองไดก ระทาํ ขนึ้ มา เมอื่ เกดิ ผลเสยี หายกไ็ มโ ยนความ การกระทำของตนเอง ผดิ ใหแ กผ อู น่ื นอ มรบั ความผดิ พลาด แลว นาํ มาพจิ ารณาเพอื่ ปรบั ปรงุ แกไ ข ตอ ไป เชน เมอ่ื ตดั สนิ ใจทาํ งานกลมุ ผดิ พลาด กไ็ มค อยแตโ ทษเพอ่ื นในกลมุ แตจ ะตอ งชว ยกนั หาสาเหตขุ องปญ หาเพอ่ื นาํ ไปแกไ ขขอ ผดิ พลาดทเี่ กดิ ขน้ึ ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ชนั้ โรงเรยี น
274 คมู ือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพ่ิมเติม หนาทพี่ ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๑ เรื่อง ทบทวนความรู้ ผลการเรียนรู้ ๖. ปฏบิ ตั ิตนเปนพลเมอื งดีตามวถิ ปี ระชาธิปไตย ๗. มสี ว นรว มและรบั ผดิ ชอบในการตดั สนิ ใจ ตรวจสอบขอ มลู เพอ่ื ใชป ระกอบ- การตดั สนิ ใจในกจิ กรรมตาง ๆ ๑๐. ปฏบิ ตั ติ นเปนผูม วี ินัยในตนเอง คำช้แี จง ตอบคำถาม ๑. กแนารวมคีสําตวนอบรวมในกิจกรรมตา ง ๆ ของสังคมทําไดอ ยา งไรบา ง ๑) รวมปรึกษาหารือหรือแสดงความคิดเห็นที่มีประโยชนตอ สังคม ๒) เขารวมเทศกาลงานประเพณหี รอื กิจกรรมตา ง ๆ ภายในสังคม ๓) สนใจรบั รูขอมูลขา วสารตาง ๆ ของสังคม ๔) มสี วนรว มในกจิ กรรมทางการเมอื งการปกครองของสงั คม ๕) รวมกจิ กรรมพัฒนาสงั คม ๒. ลแกันษวคณําตะขออบงบคุ คลทม่ี ีเหตผุ ลมอี ะไรบาง ๑) มีความคดิ กวา งไกล รบั ฟงขา วสารและความคดิ เหน็ ของผอู นื่ ๒) มีความอดทนอดกลนั้ ไมนาํ ความรูส ึกสวนตัวมาใชต ดั สนิ ปญ หา ๓) ใชเ หตุผลในการแกไ ขปญหา ๓. เแพนรวาคะาํอตะอไรบเราจงึ ตองมีสวนรวมทางการเมอื งการปกครอง เพราะการมีสวนรวมทางการเมืองการปกครองมีความสําคัญตอการเสริมสรางความเขมแข็ง ของระบอบประชาธปิ ไตย เปน การเปด โอกาสใหป ระชาชนไดแ สดงความคดิ เหน็ ไดม สี ว นรว มในการ ตดั สินใจ และมีสวนรวมในการบริหารและปกครองประเทศ นอกจากนี้การมีสวนรวมทางการเมืองการปกครองยังเปนเปาหมายสําคัญของการพัฒนา ประชาธิปไตย เน่ืองจากเปนส่ิงท่ีใชช้ีวัดวาในสังคมนั้นมีความเปนประชาธิปไตยมากนอยเพียงใด รวมทง้ั เปน ตวั บง บอกถึงอุดมการณแ ละเจตคตทิ างการเมืองของประชาชนในสังคมนน้ั ดังน้ัน หากตอ งการใหส งั คมไทยเปนสงั คมประชาธิปไตย เราและพลเมืองไทยทกุ คนจงึ ตอ ง มสี วนรว มทางการเมืองการปกครอง ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ชน้ั โรงเรยี น
คูมือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพ่มิ เติม หนา ทพ่ี ลเมือง ๑-๒ ม.๑ 275 แบบทดสอบหลังเรยี น หนว ยการเรยี นรทู ่ี ๔ คำชแี้ จง เลอื กคำตอบทีถ่ ูกต้องทส่ี ุดเพยี งคำตอบเดียว ๑. ในสังคมประชาธิปไตย ใครมีสิทธิและ ๕. เมอื่ อยู่ในชุมชน เราควรมสี ่วนรว่ ม เสรีภาพ ในการเลือกตง้ั อยา่ งไร ก ผูนํา ก เปน หวั คะแนนซอ้ื เสยี งใหน กั การเมอื ง ข สมาชิกทุกคน ข พูดจาหวานลอ มใหเพอ่ื นบา นไปใช ค ประมุขของสงั คม สิทธเิ ลือกตัง้ ง สมาชิกทมี่ ีการศกึ ษา ค รบั จา งทาํ ลายปา ยหาเสยี งของผสู มคั ร รับเลอื กตั้ง ๒. ขอ้ ใดไมใ ช เสรีภาพของคนไทย ง ลงคะแนนเสียงเลือกผสู มคั ร ก เสรภี าพในการพูด รบั เลอื กตั้งที่ใหเงนิ แกต นมากที่สุด ข เสรีภาพในการนบั ถอื ศาสนา ค เสรภี าพในการสมาคมหรือรวมกลมุ ๖. ข้อใดควรเปน ขนั้ ตอนแรกในการ ง เสรีภาพในการลว งรูขา วสารของ มสี ว่ นรว่ มกจิ กรรมพฒั นาสงั คม บุคคลอื่น ก รว มประเมนิ ผล ข รว มลงมือแกปญ หา ๓. พฤติกรรมใดท่ีแสดงออกถึงความ ค รวมวางแผนแกปญ หา รับผิดชอบตอ่ ส่วนรวม ง รวมคนหาสาเหตขุ องปญหา ก ชว ยกนั รักษาสาธารณสมบัติ ข ยึดถอื ความคดิ เห็นของตนเอง ๗. เราควรใชอ้ ะไรเปน หลกั ในการตดั สนิ ใจ ค รับฟงความคิดเห็นของบุคคลอน่ื ก เหตุผล ง ประสานความคิดเห็นของตนให ข อารมณ สอดคลอ งกบั ทศั นคตขิ องบคุ คลอ่นื ค ความเกรงใจ ง ประโยชนสว นตวั ๔. ขอ้ ใดเปน การมีส่วนร่วมในกิจกรรม ของสังคม ๘. เมอ่ื อยใู่ นหอ้ งเรยี นเราควรมสี ว่ นรว่ มใน ก ตัง้ ใจประกอบอาชพี กจิ กรรมใด ข ทําความสะอาดบานกับครอบครวั ก แกลงเพ่อื น ค ไปเยย่ี มญาตใิ นชว งเทศกาลขน้ึ ปใ หม ข ลอกการบา นเพอื่ น ง รวมเลนนาํ้ กบั เพื่อนบา นในเทศกาล ค กนิ ขนมในหองกบั เพ่ือน สงกรานต ง ชวยกันทําความสะอาดหองกบั เพือ่ น
276 คูม ือครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชาเพมิ่ เตมิ หนา ทพ่ี ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ ๙. เราควรเลอื กหวั หนา้ ห้องท่เี ปนคน ๑๐. ตอ่ ไปนเ้ี ปนปจ˜ จยั ทเี่ ราต้องพิจารณา อยา่ งไร ก่อนเลอื กรับข้อมลู ยกเวน ขอ้ ใด ก ร่ํารวย ก ความถกู ตองของขอ มูล ข เรยี นเกง ข ความทันสมยั ของขอมลู ค เห็นแกตัว ค ความนาเชอื่ ถือของผรู ับขอมูล ง เห็นแกสวนรวม ง ความนาเช่ือถอื ของแหลง ขอมลู
หนว� ยการเรย� นรูท่ี ๕คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพ่ิมเติม หนาที่พลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 277 ความปรองดอง สมานฉนั ท • แบบทดสอบกอนเรียน • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๒ เร่ือง วิถชี วี ิตของชาวเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต • กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๓๓ เรอ่ื ง ภาษาของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉยี งใต • กิจกรรม/ใบงานที่ ๓๔ เรอื่ ง ศาสนาในภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๕ เรอ่ื ง สงิ่ แวดลอ มในภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๖ เรอ่ื ง การอยรู วมกันในสงั คมพหวุ ัฒนธรรมและการพง่ึ พา ซ่งึ กนั และกนั • กิจกรรม/ใบงานที่ ๓๗ เรอื่ ง ความขดั แยง • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๘ เรอ่ื ง การแกป ญ หาความขัดแยง โดยสันตวิ ิธี • กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๓๙ เรื่อง ความมวี นิ ัยในตนเองเพอ่ื ความปรองดอง สมานฉนั ท • กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๔๐ เร่อื ง ทบทวนความรู • แบบทดสอบหลังเรยี น
278 คูมอื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพิ่มเตมิ หนาท่ีพลเมือง ๑-๒ ม.๑ แบบทดสอบกอ นเรียน หนวยการเรียนรทู ี่ ๕ คำชี้แจง เลือกคำตอบที่ถกู ต้องท่สี ุดเพยี งคำตอบเดียว ๑. ประเทศไทยต้ังอย่ใู นภมู ิภาคใด ๖. ประเทศตา่ ง ๆ ในภมู ิภาคเอเชียตะวนั - ก เอเชียใต ออกเฉยี งใตจ้ ะรวมตวั กนั เปน ประชาคม ข เอเชยี กลาง อาเซียนเมื่อใด ค เอเชยี ตะวันตกเฉียงใต ก พ.ศ. 2557 ค พ.ศ. 2559 ง เอเชียตะวันออกเฉียงใต ข พ.ศ. 2558 ง พ.ศ. 2560 ๒. สภาพภูมิอากาศส่วนใหญ่ของภูมิภาค เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตเ้ ปนอยา่ งไร ๗. หากเรามเี พอื่ นนบั ถอื ศาสนาอสิ ลาม เรา ก รอนช้ืน ค หนาวเย็น จะต้องไม่นําอาหารอะไรมาเล้ียงเพ่ือน ข อบอนุ ชื้น ง ทะเลทราย คนน้ี ๓. ประชาชนในประเทศใดมีวถิ ชี วี ติ ก ตม ยํากงุ ค ขาวหมูแดง แตกต่างจากประเทศอ่ืนมากที่สุด ข ขาวหมกไก ง ราดหนา ทะเล ก ไทย ข ลาว ๘. เมื่อเราเดินทางไปท่องเท่ียวในประเทศ ค เมยี นมา อ่ืน เราควรปฏบิ ัตติ นอย่างไร ง ฟลปิ ปน ส ก นาํ้ ขึ้นใหรีบตกั ๔. ผหู้ ญงิ ในประเทศไทยแตง่ กายคลา้ ยคลงึ ข ขช่ี า งจบั ต๊ักแตน กับผหู้ ญงิ ไทยมากทีส่ ุด ค เขา เมืองตาหล่วิ ตองหล่ิวตาตาม ก ลาว ง พดู ไปสองไพเบี้ย น่งิ เสียตาํ ลงึ ทอง ข สิงคโปร ค เวยี ดนาม ๙. เมื่อเกดิ ความขดั แยง้ กัน เราควรทาํ ง ฟล ปิ ปน ส อย่างไร ๕. ประชากรสว่ นใหญข่ องประเทศใดนบั ถอื ก หาพวกพองมาสนบั สนุนตนเอง ศาสนาอสิ ลาม ข ไมตองสนใจเด๋ียวก็คลค่ี ลายเอง ก ไทย ค หาทางแกไ ขใหห มดสิน้ ไปโดยเร็ว ข เมียนมา ง ใชอารมณตดั สินปญหาความขัดแยง ค เวียดนาม ง อินโดนเี ซีย ๑๐. วิธีแก้ป˜ญหาความขัดแย้งท่ีดีที่สุดคือ อะไร ก ใชก ําลงั ข เจรจากนั ค หนปี ญหานั้น ง ไมต อ งขอ งเกย่ี วกัน
คูมือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพิม่ เตมิ หนา ทีพ่ ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 279 กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๒ เร่อื ง วิถชี ีวติ ของชาวเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ผลการเรยี นรู้ ๘. ยอมรบั ความหลากหลายทางสงั คมวฒั นธรรมในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออก- เฉียงใต และอยูรวมกนั อยา งสันตแิ ละพึ่งพาซงึ่ กันและกนั ๑๐. ปฏบิ ัติตนเปนผูมวี นิ ัยในตนเอง คำช้ีแจง เขียนเครอ่ื งหมาย 3 ลงใน ใตภาพทเี่ ปน วิถีชวี ิตของคนในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวัน ออกเฉยี งใต 33 3 3 นามสกลุ เลขท่ี ชอื่ โรงเรยี น ชน้ั
280 คูมอื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพ่ิมเตมิ หนาทพ่ี ลเมือง ๑-๒ ม.๑ กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๓ เร่อื ง ภาษาของประเทศในเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ผลการเรยี นรู้ ๘. ยอมรบั ความหลากหลายทางสงั คมวฒั นธรรมในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออก- เฉยี งใต และอยรู ว มกนั อยางสันตแิ ละพง่ึ พาซงึ่ กนั และกนั ๑๐. ปฏิบตั ิตนเปน ผูมีวนิ ยั ในตนเอง คำชแี้ จง เลน เกมปรศิ นาอกั ษรไขว โดยพจิ ารณาจากคำใบด า นลา ง แลว เขยี นคำตอบลงในตาราง ใหถ กู ตอง ๓ ฟ ๑ สิ ๒ อิ ลิ ง น ค โ ป โ ด ๑เ ป นี ป ๔ม มา อ ร - เล มี ย น ซี เ ๕ กั ๓ไ ส ๖เ ส ล ๒ ติ ม ว ทย ต เ พู ๕ บ รู วี ซี ย ช ย ๔ล า ด ไนฯ า ม
คมู อื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพ่มิ เตมิ หนา ท่พี ลเมือง ๑-๒ ม.๑ 281 แนวนอน ๑. มภี าษาพมา เปน ภาษาราชการ ๒. ใชภาษาเตตุนในการส่อื สารกัน ๓. ใชภ าษาไทยเปนภาษาราชการ ๔. ใชภาษาที่อยูในกลุมเดียวกับภาษาไทย นอกจากนี้ในกลุมของผูที่มีการศึกษาสูงยังมีการใช ภาษาฝร่ังเศสดว ย ๕. ใชภาษามาเลยเปนภาษาราชการ และนิยมใชภาษาอังกฤษในสถาบันการศึกษาและธุรกิจ การคา แนวตัง้ ๑. มีภาษาราชการ 4 ภาษา ๒. มีภาษาถ่ินมากกวา ๒๐๐ ภาษา ๓. มีภาษาฟล ปิ โ นและภาษาองั กฤษเปนภาษาราชการ ๔. มีภาษาท่ใี ชหลายภาษา ทัง้ ภาษามาเลย ภาษาจนี ภาษาอังกฤษ และภาษาทมิฬ โดยใชภาษา มาเลยเปนภาษาราชการ ๕. มีภาษาพูดและภาษาเขยี นเปน ของตนเอง และมีการใชภ าษาฝรัง่ เศสควบคกู บั ภาษาของตน ๖. มีภาษาพูดของตนเอง แตไมมีตัวอักษรใช จึงนําตัวอักษรโรมันมาใช และนําภาษาฝร่ังเศส มาใชในชวี ิตประจาํ วันดวย ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ชนั้ โรงเรยี น
282 คูมอื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพิม่ เตมิ หนาทพ่ี ลเมือง ๑-๒ ม.๑ กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๔ เรือ่ ง ศาสนาในภูมภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ ผลการเรียนรู้ ๘. ยอมรบั ความหลากหลายทางสงั คมวฒั นธรรมในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออก- เฉยี งใต และอยรู วมกนั อยางสันติและพง่ึ พาซ่งึ กันและกัน ๑๐. ปฏิบัตติ นเปนผมู วี ินยั ในตนเอง คำช้ีแจง หาคำตอบวา ประชาชนสวนใหญของแตล ะประเทศในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใตน ับถือ ศาสนาใด โดยนำรายช่ือประเทศในกรอบดานบนเติมลงใตภาพของแตละศาสนาให ถกู ตอ ง บรไู นฯ กมั พชู า อินโดนีเซีย ลาว สงิ คโปร เมียนมา ฟลิปปนส มาเลเซยี เวียดนาม ไทย ติมอร– เลสเต ไทย เมยี นมา ลาว กมั พชู า ฟล ิปปนส อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร และเวียดนาม บรูไนฯ และตมิ อร- เลสเต ชอื่ นามสกลุ เลขท่ี ชน้ั โรงเรยี น
คูมือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพิม่ เติม หนาที่พลเมือง ๑-๒ ม.๑ 283 กิจกรรม/ใบงานที่ ๓๕ เรอื่ ง สงิ่ แวดล้อมในภูมภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ผลการเรียนรู้ ๘. ยอมรบั ความหลากหลายทางสงั คมวฒั นธรรมในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออก- เฉยี งใต และอยูรวมกนั อยา งสันตแิ ละพง่ึ พาซ่ึงกันและกัน ๑๐. ปฏิบตั ิตนเปนผมู ีวินัยในตนเอง คำชีแ้ จง สืบคนขอมูลเก่ียวกับสิ่งแวดลอมที่หลากหลายของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต แลวนำภาพมาติดลงในกรอบ พรอ มท้ังบนั ทึกขอ มลู ตามหวั ขอทก่ี ำหนด แนวคาํ ตอบ ภาพนค้ี ือ กรงุ ฮานอย ตง้ั อยูใ นประเทศ เวยี ดนาม ความสำคัญ กรงุ ฮานอยเปนเมืองหลวงของ เวียดนาม ตั้งอยูบริเวณใจกลางสันดอนลุม แมน า้ํ แดงซึง่ เตม็ ไปดว ยทะเลสาบนอยใหญ จงึ ถูก ขนานนามวา เมืองแหงแมน้ํา ภาพนีค้ อื ภเู ขาไฟตาอลั ตง้ั อยูในประเทศ ฟลปิ ปนส ความสำคัญ ภูเขาไฟตาอัลเปนภเู ขาไฟขนาดเล็ก ทสี่ ดุ และอนั ตรายทสี่ ดุ ของฟล ปิ ปน ส เนอื่ งจากเปน ภเู ขาไฟทยี่ ังมีพลงั อยู และมีชอื่ เสียงมากใน ฟล ิปปนส สตภคถงั้วาพอาานมยนทสใูี้คนท่ีำือคอปงญัรเะททเะย่ีทเเวปลศทนสาาทงบกธะเัมเรขลรพมสมชูราชาบาขตนทิ าสี่ ดาํ ใคหญั ญข อแงลกะมั เปพน ชู า นอกจากนย้ี ังมหี มบู านของชาวประมงตงั้ อยใู น ทะเลสาบนี้ดว ย ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ชน้ั โรงเรยี น
284 คมู อื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพม่ิ เติม หนาท่ีพลเมือง ๑-๒ ม.๑ กิจกรรม/ใบงานที่ ๓๖ เร่ือง การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมและการพึง่ พาซึง่ กนั และกัน ผลการเรียนรู้ ๘. ยอมรบั ความหลากหลายทางสงั คมวฒั นธรรมในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออก- เฉียงใต และอยรู ว มกนั อยา งสันติและพงึ่ พาซ่งึ กันและกัน ๑๐. ปฏบิ ัตติ นเปนผูม ีวนิ ัยในตนเอง คำช้แี จง หากเพอื่ นตา งชาตเิ ดนิ ทางมาเรยี นในเมอื งไทยและตอ งพกั อยรู ว มกบั นกั เรยี น นกั เรยี น จะปฏิบตั ติ นทจ่ี ะทำใหอ ยรู ว มกนั กบั เพอ่ื นอยา งสนั ตไิ ดอ ยา งไร เขยี นตอบลงในกรอบ ทก่ี ำหนดให การอยรู วมกนั ในสงั คมพหุวฒั นธรรม และการพึง่ พาซง่ึ กันและกนั วธิ ีปฏบิ ัตติ นในการอยูรว มกนั แนวคําตอบ 1) เคารพซง่ึ กนั และกนั คอื จะตอ งเคารพและยอมรบั เพอื่ นทมี่ วี ฒั นธรรมตา งจากตน เพราะ แตล ะวฒั นธรรมตา งกม็ คี ณุ คา ตอ การดาํ เนนิ ชวี ติ ของคนในสงั คมนน้ั เชน เดยี วกบั ทว่ี ฒั นธรรมไทย มคี ณุ คาตอ การดาํ เนนิ ชวี ิตของคนไทย 2) ไมแสดงกริ ยิ าและวาจาดหู มนิ่ เพ่ือน คือ เราจะตอ งเรียนรวู ฒั นธรรมของเพอื่ น ใหร วู า จะตองปฏิบัติตอเพ่ือนอยางไร เพ่ือไมใหแสดงกิริยาและวาจาท่ีเปนการดูหม่ินเพ่ือนโดยที่เราอาจ จะไมร ตู วั 3) ชว ยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั และแบง ปน กนั คอื เราจะตอ งใหค วามเออื้ เฟอ เผอ่ื แผ ชว ยเหลอื ทุกอยางแกเพ่ือนดวยความเต็มใจ ไมหวังผลตอบแทน และมีการแบงปนกันทั้งในดานวัตถุและ ในดา นจิตใจ ชอื่ นามสกลุ เลขที่ ชน้ั โรงเรยี น
คูมือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพมิ่ เตมิ หนาท่ีพลเมือง ๑-๒ ม.๑ 285 กิจกรรม/ใบงานที่ ๓๗ เรอ่ื ง ความขัดแย้ง ผลการเรยี นรู้ ๙. มสี วนรวมในการแกปญหาความขดั แยง โดยสนั ตวิ ธิ ี ๑๐. ปฏบิ ัติตนเปนผมู วี ินัยในตนเอง คำชี้แจง เขียนประสบการณเ ก่ียวกับความขดั แยงในลกั ษณะตาง ๆ ทีไ่ ดพ บเห็นมาลงในตาราง ตามหวั ขอ ทกี่ ำหนดให แนวคาํ ตอบ ลกั ษณะของความขดั แย้ง ประสบการณ ผลทีเ่ กดิ ข้ึน การทะเลาะวิวาท พบเห็นเพ่ือนแถวบานดื่ม ตางฝายตางไดรับบาดเจ็บ สุราจนเมาแลวพากันไปหาเรื่อง ทั้งบาดเจ็บเล็กนอยไปจนถึง กลมุ วยั รนุ ในชมุ ชนขา งเคยี งจน บาดเจ็บสาหัส ทรัพยสิน เชน เกิดการทะเลาะวิวาทและ รถจักรยานยนตถูกทุบทําลาย ลงไมลงมอื กนั ไดร ับความเสยี หาย นอกจากนี้ ผกู อ เหตตุ า งถกู เจา หนา ทต่ี าํ รวจ จบั กมุ ไปดาํ เนนิ คดตี ามกฎหมาย โดยท่ัวกัน ความคดิ เหน็ ไม่ตรงกัน คนในหมบู า นทม่ี คี วาม คนเหลาน้ันตางฝายตางมี คดิ เห็นทางการเมอื งตางกนั ความเกลียดชังกัน ไมรักและ ไมใ หความรว มมอื หรอื ทํา สามคั คกี ัน สงผลใหเ มื่อชมุ ชน กจิ กรรมใด ๆ รว มกัน มกี าร จัดกิจกรรมใดขึ้นมักไมประสบ พดู จากระทบกระทงั่ เหนบ็ แนม ความสําเร็จเทาทค่ี วร เนอื่ งจาก และเสียดสีหรือสอเสียดกันอยู คนเหลานี้มักจะแบงฝกแบง ตลอดเวลา ฝาย ไมคดิ วา ตนเองอยรู วมใน ชมุ ชนเดียวกัน สง ผลใหช ุมชน ไมพ ฒั นาเทา ทค่ี วร ชอ่ื นามสกลุ เลขท่ี ชน้ั โรงเรยี น
286 คูมอื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพมิ่ เตมิ หนา ทพ่ี ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๘ เร่ือง การแก้ป˜ญหาความขดั แยง้ โดยสนั ติวธิ ี ผลการเรยี นรู้ ๙. มีสวนรว มในการแกปญ หาความขัดแยง โดยสันติวิธี ๑๐. ปฏิบัติตนเปน ผูมีวนิ ยั ในตนเอง คำชแ้ี จง จบั คขู อ ความโดยนำตวั อกั ษรในกรอบดา นบนเตมิ ลงใน ใตข อ ความทส่ี มั พนั ธก นั ก การบงั คบั ข การหลบหนี ค การประนปี ระนอม ง การปรองดอง จ การแกไ ขปญ หาหรอื การรว มมอื กนั เปน การระงบั ความขดั แยง เปน การระงบั ความขดั แยง เปน การระงบั ความขดั แยง ทไ่ี มม ฝี า ยใดไดร บั การตอบ- ท่ีไมกอใหเกิดความรวมมือ ท่ีสรางความพงึ พอใจให สนองความตอ งการทแี่ ทจ รงิ และตอตานความตองการ คขู ดั แยง ไดใ นระดบั หนง่ึ แต ทงั้ ๒ ฝา ยเพกิ เฉยตอสาระ ของอีกฝายหนึ่ง ไมใชการ เมอ่ื เวลาผา นไปความขดั แยง สาํ คญั ของความขดั แยง มุง ระงับความขัดแยงท่ีตนเหตุ ก็จะกลับมาอีก เพียงรักษาความสัมพันธ ความขัดแยงจึงอาจกลับมา และความสงบ ทําทุกอยาง เกิดข้ึนไดสมอ ค ตามหนาท่ี ง ก เปนการระงับความขัดแยงที่ดีท่ีสุด เปนการระงบั ความขดั แยง ที่เปน เพราะชวยรักษาความสัมพันธและความ ผลเสยี ตอ ทัง้ ๒ ฝาย เพราะไมม ฝี า ยใด เปนมิตรระหวาง ๒ ฝา ยไว โดยไมท าํ ให ไดรับสิ่งที่ตนพอใจ ทําใหความขัดแยง ฝายใดรูสกึ ชนะหรอื แพ ความขดั แยง จะ อาจจะกลบั มาเกดิ ไดอ ีก ไดรับการแกไขโดยยึดหลักผลประโยชน ทีเ่ ทาเทียมกัน ข จ ชอ่ื นามสกลุ เลขท่ี ชนั้ โรงเรยี น
คูมอื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพม่ิ เติม หนา ทีพ่ ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 287 กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๙ เรือ่ ง ความมวี นิ ัยในตนเองเพอ่ื ความปรองดอง สมานฉันท ผลการเรยี นรู้ ๙. มสี วนรว มในการแกป ญหาความขัดแยง โดยสันตวิ ิธี ๑๐. ปฏิบตั ติ นเปน ผูมวี นิ ัยในตนเอง คำช้แี จง เขียนวิธกี ารปฏบิ ตั ติ นอยางมวี นิ ัยในตนเองท่จี ะทำใหเ กิดความปรองดอง สมานฉนั ท ระหวางกนั ตามหวั ขอ ท่กี ำหนดให ความซ่อื สัตยส จุ รติ แนวคาํ ตอบ พูดแตความจรงิ ไมโกหก มีความจรงิ ใจ ตอทกุ คน ทาํ แตความดี ไมทําความชวั่ ทาํ ตาม สญั ญาที่ใหไ วก ับบคุ คลอน่ื การยอมรบั ผลทเี่ กิดจาก แนวคําตอบ การกระทำของตนเอง รับผิดชอบในผลท่ีเกิดข้ึนจากการกระทํา ของตนเอง เมอ่ื เกดิ ผลเสยี หายกไ็ มโ ยนความผดิ ใหผ อู นื่ ยอมรบั วา เปน ความผดิ พลาดของตนเอง แลว นาํ มาพจิ ารณาเพอ่ื แกไ ขหรอื ปอ งกนั มใิ หเ กดิ ความผดิ พลาดขนึ้ อกี ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ชน้ั โรงเรยี น
288 คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพ่มิ เติม หนาทพี่ ลเมือง ๑-๒ ม.๑ กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๔๐ เรอื่ ง ทบทวนความรู้ ผลการเรียนรู้ ๘. ยอมรบั ความหลากหลายทางสงั คมวฒั นธรรมในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออก- เฉียงใต และอยูรว มกันอยา งสนั ติ และพงึ่ พาซงึ่ กันและกนั ๙. มสี วนรว มในการแกป ญ หาความขดั แยงโดยสนั ติวิธี ๑๐. ปฏบิ ตั ติ นเปน ผูม วี นิ ยั ในตนเอง คำชแี้ จง ตอบคำถาม ๑. วแถินีชววีคิตาํ ตขออบงคนในภมู ภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใตเ ปน ไปในลักษณะใด เปน ไปอยางเรยี บงาย เน่ืองจากปจ จัยทางภมู ศิ าสตร มที รัพยากรธรรมชาตสิ มบูรณ ทําให ประชากรไมจาํ เปน ตองกระตอื รือรน เหมอื นประชากรในภมู ิภาคอ่นื เทา ใดนกั นอกจากนวี้ ิถชี วี ติ ของ คนในภูมิภาคนี้ยงั ไดรบั อิทธพิ ลจากศาสนาตา ง ๆ ทงั้ พระพทุ ธศาสนา ศาสนาอสิ ลาม คริสตศาสนา และศาสนาพราหมณ-ฮินดู ไดรับอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตกเน่ืองมาจากหลายประเทศใน ภูมิภาคนี้เคยตกเปนเมืองขึ้นของชาติตะวันตกในสมัยการลาอาณานิคม และไดรับอิทธิพลของ วฒั นธรรมจนี เพราะบางประเทศมพี รมแดนตดิ ตอ กบั จนี และภมู ภิ าคนย้ี งั มกี ารคา ขายกบั จนี มาตงั้ แต สมยั โบราณอีกดว ย ๒. เแรนาจวคะอาํ ตยอรู บวมเกราันจใะนอสยังรู ควมมกพบั หคุวนัฒอน่ืนธๆรรใมนอเชาเนซยี สนงั ไคดมดอว ยาเกซายี รนปฏไิบดัตอ ติ ยนาดงไงั รนี้ ๑) เคารพซึง่ กันและกัน ๒) ไมแสดงกิรยิ าและวาจาดูหม่ินผอู ืน่ ๓) ชวยเหลอื ซ่งึ กนั และกนั และแบง ปนกนั ๓. วแธินกี วาครํารตะองบับความขดั แยงท่ดี ีทีส่ ดุ คอื อะไร วิธีการระงับความขัดแยงท่ีดีที่สุด คือ การแกไขปญหาหรือการรวมมือกัน เนื่องจากเปน วิธกี ารท่ีทงั้ ๒ ฝา ยมารวมกันคิดเพื่อหาทางแกป ญหาท่เี กดิ ข้ึน เปนวิธกี ารรกั ษาความสมั พันธแ ละ ความเปน มติ รระหวา ง ๒ ฝา ยไว โดยไมท าํ ใหฝ า ยใดรสู กึ วา เปน ฝา ยชนะหรอื เปน ฝา ยพา ยแพ ความ ขดั แยง จะไดร บั การแกไ ขโดยยึดหลกั ผลประโยชนทเี่ ทา เทยี มกนั ในการระงับความขดั แยง น้ี ท้งั ๒ ฝายจะตองเผชิญหนากับปญหา มีการแลกเปล่ียนความคิดเห็นกันอยางเปดเผยและเช่ือถือได มงุ แกป ญหาท่สี าเหตุ จงึ เปนวธิ ีการระงบั ความขัดแยง ท่ีดที สี่ ุด ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ชน้ั โรงเรยี น
คูมอื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพมิ่ เติม หนา ท่ีพลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 289 แบบทดสอบหลังเรียน หนว ยการเรียนรูท่ี ๕ คำชแี้ จง เลอื กคำตอบทถ่ี กู ตอ้ งทส่ี ุดเพยี งคำตอบเดยี ว ๑. วถิ ชี วี ติ ของคนสว่ นใหญใ่ นภมู ภิ าคเอเชยี ๗. ขอ้ ใดเปน การแสดงออกถงึ การเคารพ ตะวันออกเฉียงใตม้ ลี ักษณะอย่างไร ซึ่งกันและกนั ก กระตือรือรน ก ชว ยพาเด็กเดินขา มถนน ข เรง รบี ตรงเวลา ข หวั เราะเยาะเยย เพอื่ นทต่ี วั เตย้ี กวา ตน ค ยึดกฎระเบยี บอยางเครงครัด ค บรจิ าคเงนิ ชวยเหลือผปู ระสบภยั ง เรยี บงา ย ไมคอยกระตือรือรนนัก นํ้าทว ม ๒. คนในประเทศใดมีวิถีชีวิตที่ผสมผสาน ง ไมลบหลเู พือ่ นท่นี บั ถอื ศาสนาตา ง ระหว่างตะวนั ตกกับตะวันออก จากตน ก ลาว ค สงิ คโปร ข เมยี นมา ง ฟล ปิ ปนส ๘. ป˜ญหาหมอกควันหนาทึบที่เกิดข้ึนใน ๓. ประเทศใดมภี าษาถิ่นมากทสี่ ุด ภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตส้ ว่ นใหญ่ ก ไทย ค เวยี ดนาม มีสาเหตมุ าจากอะไร ข มาเลเซีย ง อินโดนีเซยี ก การเผาปาในประเทศสงิ คโปร ๔. มาเรียคลาราเปนชุดแต่งกายของคนใน ข การเผาปาในประเทศอนิ โดนเี ซีย ประเทศใด ค ควนั พิษจากทอ ไอเสียรถยนตใ น ก ลาว ค สิงคโปร ประเทศไทย ข กมั พชู า ง ฟล ปิ ปน ส ง ควันพษิ จากโรงงานอตุ สาหกรรมใน ๕. คนมาเลเซยี สว่ นใหญน่ บั ถอื ศาสนาอะไร ประเทศมาเลเซยี ก คริสตศ าสนา ข ศาสนาอสิ ลาม ๙. ข้อใดไมใ ช ลักษณะของความขัดแยง้ ค พระพุทธศาสนา ก ความสามัคคี ง ศาสนาพราหมณ-ฮนิ ดู ข การทะเลาะวิวาท ๖. เราควรปฏิบัตติ ามขอ้ ใด ค ความคดิ เหน็ ไมต รงกนั ก ลูบศีรษะชาวกมั พชู า ง ความรูสกึ ถูกเอารดั เอาเปรยี บ ข ยืนกอดอกคยุ กับชาวเวียดนาม ค สวมถุงเทา เดนิ เขาวัดในเมียนมา ๑๐. การระงบั ความขัดแยง้ ท่ดี ีทส่ี ดุ คือวธิ ใี ด ง ใชมอื ขวามอบของขวัญแกช าว ก การบังคับ อนิ โดนเี ซยี ข การปรองดอง ค การรว มมอื กัน ง การประนปี ระนอม
Search