คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาเพม่ิ เตมิ หน้าที่พลเมอื ง ๑–๒ ม. ๑ ๔๓๗ ส่วนท่ี ๕ ใบความรู้ รายวิชาเพม่ิ เติม หน้าที่พลเมือง ๑–๒ ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ๑
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าเพิ่มเติม หน้าทพ่ี ลเมือง ๑–๒ ม. ๑ ๔๓๘ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ ใบความรู้ เรื่อง ๓ สหาย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕ มารยาทไทยในการมีสัมมาคารวะ ผลการเรียนรู้ ๑. มีส่วนร่วมในการอนุรักษม์ ารยาทไทย ๑๐. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง คาชีแ้ จงแบ่งกลมุ่ กลุม่ ละ ๔-๖ คน อ่านและสรุปขอ้ คดิ ท่ีไดจ้ ากนิทานเรื่อง ๓ สหาย แลว้ บนั ทกึ ผลลงใน แบบบนั ทึกความรู้ ๓ สหาย กาลคร้ังหน่ึงนานมาแลว้ เมอื่ พระเจา้ พรหมทตั ครองราชสมบตั ิอยูใ่ นเมืองพาราณสี พระโพธิสัตวเ์ กดิ เป็นนกค่มุ อาศยั อยู่ที่ตน้ ไทรใหญ่ตน้ หน่ึงในป่ าหิมพานต์ พร้อมสตั ว์ ๒ สหาย คอื ลงิ และชา้ ง อยู่มาวนั หน่ึง สตั ว์ ๓ สหายก็เถยี งกนั เกย่ี วกบั อายุของพวกเขาว่าระหว่างเราท้งั สามใครเป็นพ่ี ใครเป็นนอ้ ง หากใคร เกดิ ก่อนก็จะนบั ถอื เป็นพเ่ี ป็นนอ้ งตามลาดบั นกคุ่มและลิงไดถ้ ามชา้ งวา่ “ท่านจาได้ไหมว่าตอนที่ท่านเกิดมานน้ั ต้นไทรนี้ ใหญ่แค่ไหน” ช้างตอบว่า “ฉันจาได้ ตอนฉันเป็นช้างตวั เลก็ ๆ ฉันยังเคยเอาท้องไปเสียดสีกับยอดต้นไทรเลย” คร้นั แลว้ ลิงไดพ้ ูดบา้ งวา่ “เมอ่ื ฉันเป็นลิงตวั เลก็ ๆ กเ็ คยนัง่ ลงตรวจดตู ้นไทรทกี่ าลังงอกจากเมลด็ บางครั้งฉันยงั เคย โน้มยอดไทรมาแทะเล่นเลย” ตอ่ มาลงิ และชา้ งไดถ้ ามนกคมุ่ วา่ “ตอนทีท่ ่านเกิด จาได้ไหมว่าต้นไทรนีใ้ หญ่แค่ไหน” นกคุ่มวา่ “เมอ่ื ตอนฉันเป็น หนุ่ม ๆ นั้น ฉันเที่ยวหาอาหารใกล้ ๆ ป่ านี้ และในป่ านีก้ ม็ ตี ้นไทรใหญ่ต้นหนึ่ง ซ่ึงมีผลสุกเตม็ ต้น ฉันได้กิน และวันต่อมากไ็ ด้ ถ่ายลงไป เมลด็ ไทรทฉี่ ันถ่ายกง็ อกเจริญเติบโตเป็นต้นไทรทพี่ วกเราได้อาศยั อย่นู ่แี หละ ดังนั้นฉันจึงรู้จักต้นไทรนีต้ ั้งแต่มันยัง ไม่เกิด เพราะฉะนัน้ ฉันจึงแก่กว่าท่านทง้ั สองโดยกาเนิด” เมือ่ นกคุ่มกลา่ วอยา่ งน้นั ท้งั ลงิ และชา้ งจงึ พูดว่า “เพื่อนรัก ท่านแก่กว่าพวกเราท้ังสอง ตัง้ แต่บัดนีเ้ ป็นต้นไปพวกเรา ทง้ั สองจะให้ความเคารพนับถอื และเช่ือฟังท่านในฐานะทท่ี ่านเป็นผ้ใู หญ่ โปรดได้ตกั เตือนเราท้ังสองด้วยหากได้กระทา ความผิดหรือล่วงเกินท่านโดยไม่เจตนา” นกคุม่ ตอบว่า “ขอขอบคณุ ในไมตรีจิตของพวกท่าน และเราขอให้สัญญาว่าจะรักษาเกยี รติอันนีจ้ นกว่าชีวิตจะหาไม่” ต้งั แต่น้นั มาสตั วท์ ้งั สามกใ็ หค้ วามเคารพยาเกรงซ่ึงกนั และกนั ตามลาดบั อาวโุ สจนกระทง่ั ตาย นรชนเหลา่ ใดฉลาดในธรรม มคี วามนอบนอ้ มถ่อมตนต่อผใู้ หญ่ นรชนเหล่าน้นั ยอ่ มไดร้ บั การสรรเสริญในปัจจบุ นั น้ีและในอนาคตต่อ ๆ ไป ทีม่ า: รศ. ดร.จรัส พยคั ฆราชศกั ดิ์ และคณะ. หนังสือเรียน รายวชิ าพืน้ ฐาน พระพุทธศาสนา ม. 1. สานกั พิมพ์วัฒนาพานิช, หน้า32–33
คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาเพ่ิมเตมิ หนา้ ทพ่ี ลเมือง ๑–๒ ม. ๑ ๔๓๙ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ ใบความรู้ เร่ือง โครงการศึกษาวจิ ยั และพฒั นาส่ิงแวดล้อมแหลมผกั เบยี้ อันเนื่องมาจากพระราชดาริ จังหวดั เพชรบุรี แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๙ หลกั การทรงงาน: การใช้ธรรมชาตชิ ่วยธรรมชาตแิ ละการปลกู ป่ าในใจคน ผลการเรียนรู้ ๕. ประยุกตแ์ ละเผยแพร่พระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๑๐. ปฏิบตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง คาชี้แจง แบง่ เป็น ๖ กลุม่ ศกึ ษาใบความรูเ้ รื่อง โครงการศกึ ษาวจิ ยั และพฒั นาสิ่งแวดลอ้ มแหลมผกั เบ้ยี อนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ ร่วมกนั อภิปราย สรุป บนั ทึกผลลงในแบบบนั ทกึ ความรู้ แลว้ นาเสนอ หนา้ ช้นั เรียน โครงการศึกษาวิจยั และพัฒนาส่ิงแวดล้อมแหลมผกั เบยี้ อนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ จงั หวดั เพชรบุรี โครงการศกึ ษาวจิ ยั และพฒั นาส่ิงแวดลอ้ มแหลมผกั เบ้ยี อนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ ต้งั อย่ทู ่ีตาบล แหลมผกั เบ้ีย อาเภอบา้ นแหลม จงั หวดั เพชรบรุ ี เกดิ ข้นึ สืบเนื่องมาจากพระมหากรุณาธิคณุ แห่งองค์ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัวทมี่ พี ระราชดาริดา้ นปัญหาขยะและน้าเสีย โดยมวี ตั ถุประสงคห์ ลกั คือ การศึกษาหาเทคโนโลยที ี่เหมาะสมในการแกป้ ัญหาน้าเสียและขยะชมุ ชนท่ีประหยดั สะดวก ทาไดง้ ่าย และ สามารถนาไปประยุกตใ์ ชก้ บั พ้ืนท่อี นื่ ๆ ในประเทศไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง ตามพระราชดารัสที่ไดพ้ ระราชทาน ไวเ้ มอื่ วนั ท่ี ๑๒ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๓๓ วา่ “...ปัญหาสาคญั คอื เรื่องสิ่งแวดลอ้ ม เรื่องนา้ เสียกับขยะ ไดศ้ ึกษามาแลว้ เหมอื นกัน ทาไม่ยากนกั ในทางเทคโนโลยีทาได้ แลว้ ในเมืองไทยเองกท็ าได้ หาเทคโนโลยีจากตา่ งประเทศมาแลว้ ทาในเมืองไทยเอง กท็ าได้ หรอื จะรบั จา้ งบริษทั ต่างประเทศมากท็ าได้ น่ีแหละปัญหาเดียวกัน เดี๋ยวนีก้ าลงั คดิ จะทาแต่ติดอยทู่ ่ที จ่ี ะทา...” “...โครงการทจ่ี ะทานไี้ ม่ยากนกั คือวา่ กม็ าเอาส่ิงท่ีเป็นพษิ ออก พวกโลหะหนกั ตา่ ง ๆ เอาออก ซ่งึ มีวิธีทา ตอ่ จากนน้ั ก็มาฟอกใสอ่ ากาศ บางทีกอ็ าจไมต่ อ้ งใสอ่ ากาศ แลว้ ก็มาเฉลยี่ ใสใ่ นบงึ หรอื เอาไปใส่ในทุง่ หญา้ แลว้ ก็ เปล่ียนสภาพของทุ่งหญา้ เป็นทุ่งหญา้ เลยี้ งสตั ว์ สว่ นหนง่ึ เป็นท่ีสาหรบั ปลูกพืช ปลกู ตน้ ไม.้ ..” “...แลว้ กต็ อ้ งทาการเรยี กว่า การกรองนา้ ใหท้ านา้ นนั้ ไมใ่ ห้โสโครก แลว้ กป็ ล่อยนา้ ลงมาทเ่ี ป็นทีท่ าการ เพาะปลกู หรือทาทุ่งหญา้ หลงั จากนนั้ นา้ ท่ีเหลอื ก็ลงทะเล โดยท่ีไมท่ าใหน้ า้ นนั้ เน่าเสีย...”
คมู่ อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาเพิม่ เตมิ หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง ๑–๒ ม. ๑ ๔๔๐ เป็นทท่ี ราบกนั ดีอย่แู ลว้ วา่ ทฤษฎกี ารพฒั นาของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั น้นั เนน้ ความเรียบ งา่ ย ไม่ย่งุ ยาก ไม่ซบั ซ้อน เขา้ ใจง่าย และใชธ้ รรมชาติบาบดั โครงการศกึ ษาวิจยั และพฒั นาสิ่งแวดลอ้ ม แหลมผกั เบ้ยี อนั เนื่องมาจากพระราชดาริ จึงเป็นตวั อย่างหน่ึงท่ีสะทอ้ นให้เหน็ ถึงความเรียบงา่ ยและการใช้ ธรรมชาตบิ าบดั อย่างเห็นไดช้ ดั ดแู ลในเร่ืองของการบาบดั น้าเสียและการกาจดั ขยะ โดยยดึ ตามพระราช ดารสั ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั ทวี่ า่ “...ใหใ้ ชธ้ รรมชาติชว่ ยธรรมชาติ เป็นเทคโนโลยอี ยา่ งงา่ ย ใคร ๆ ก็สามารถทาได้ และมวี สั ดหุ าไดง้ า่ ยในทอ้ งถนิ่ ...” เทคโนโลยีการบาบดั น้าเสียท่ีเรียบง่ายและใชธ้ รรมชาติน้ี แบ่งออกเป็น ๔ ระบบ ดงั น้ี ระบบแรก คือ ระบบบอ่ บาบดั น้าเสีย ระบบน้ีใชว้ ธิ ีการพ่ึงพาธรรมชาติ ใหส้ าหร่ายสังเคราะห์แสง เพื่อเตมิ ออกซิเจนใหแ้ กจ่ ลุ นิ ทรียส์ าหรับหายใจและย่อยสลายสารอินทรีย์ (organic matter) ในน้าเสีย ซ่ึงบ่อ บาบดั มที ้งั หมด ๕ บ่อ ประกอบดว้ ยบ่อตกตะกอน ๑ บอ่ บ่อฝัง ๓ บ่อ และบอ่ ปรับสภาพ ๑ บอ่ ระบบทีส่ อง คอื ระบบพชื และหญา้ กรองน้าเสีย ไดแ้ ก่ การกรอง ซ่ึงแปลงหรือบ่อจะเกบ็ กกั น้าเสีย และปลกู ธูปฤๅษี กกกลม และหญา้ แฝกอนิ โดนีเซีย หรือปลกู หญา้ อาหารสัตว์ พชื เหล่าน้ีมคี ณุ สมบตั กิ รอง และดูดซับของเสียทอี่ ยูใ่ นน้า ระบบทสี่ ามและทส่ี ่ี คอื ระบบท่อี าศยั ธรรมชาติในการบาบดั หรือใชพ้ ชื ในการบาบดั โดยระบบท่ี สามมีช่ือว่า ระบบพ้นื ท่ชี ุม่ น้าเทยี ม ระบบบาบดั แบบน้ีเป็นการจาลองพ้ืนทีท่ างธรรมชาติ จึงเป็นวา่ พ้นื ท่ที ี่ เปี ยกช่มุ หรือพ้นื ทีท่ ่ีมนี ้าขงั การบาบดั น้าเสียแบบน้ีใชว้ ิธีการปล่อยน้าเสียผา่ นบอ่ ดนิ ต้นื ๆ ที่ภายในปลกู พชื ประเภทกก รากของพชื เหลา่ น้ีจะช่วยดดู ซับสารพษิ (toxin) และอินทรียส์ ารใหน้ อ้ ยลง และย่อยสลายให้ หมดไปในทส่ี ุด ระบบสุดท้าย ระบบทสี่ ี่ คอื ระบบแปลงพชื ป่ าชายเลน ระบบน้ีใชห้ ลกั การบาบดั จากการเจือ จางระหวา่ งน้าทะเลกบั น้าเสีย ซ่ึงสามารถนาไปประยุกตใ์ ชไ้ ดก้ บั ชุมชนหรือกจิ การเพาะเล้ยี งกงุ้ ที่มพี ้นื ท่ตี ดิ กบั ป่ าชายเลนได้ โดยไม่จาเป็นตอ้ งมกี ารสร้างแปลงพืชป่ าชายเลน โครงการศึกษาวจิ ยั และพฒั นาส่ิงแวดลอ้ มแหลมผกั เบ้ีย อนั เนื่องมาจากพระราชดาริ นบั ว่าเป็น แบบอยา่ งแก่ชมุ ชนทวั่ ประเทศในการแกป้ ัญหาน้าเสียไดเ้ ป็นอยา่ งดี เพราะนอกจากจะเป็นแบบทเ่ี รียบงา่ ย แลว้ ยงั เขา้ ใจงา่ ย จงึ สามารถนาไปปฏิบตั ติ ามไดง้ ่าย มคี า่ ใชจ้ า่ ยท่ีไม่แพง และใชเ้ ทคโนโลยีท่ีไมส่ ูงนกั ซ่ึง ความเรียบงา่ ยน้ีเองทจ่ี ะนาชมุ ชนพฒั นาไปสู่คณุ ภาพชีวติ ทดี่ ขี ้นึ และมีความสุขที่ยงั่ ยนื ไดใ้ นที่สุด ปัจจบุ นั ประโยชนภ์ ายในโครงการศกึ ษาวจิ ยั และพฒั นาสิ่งแวดลอ้ มแหลมผกั เบ้ยี อนั เนื่องมาจาก พระราชดาริน้นั บ่อบาบดั น้าเสียสามารถเล้ียงปลากนิ พืชไดโ้ ดยไมจ่ าเป็นตอ้ งใหอ้ าหาร ป๋ ยุ หมกั จากขยะและ น้าชะจากขยะสามารถนามาปลูกพชื เกษตรได้
คู่มอื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าเพ่ิมเติม หน้าทพี่ ลเมือง ๑–๒ ม. ๑ ๔๔๑ สุดทา้ ย ผลท่เี กดิ กบั ประชาชนในจงั หวดั เพชรบุรี คือ สามารถช่วยฟ้ื นฟแู ม่น้าเพชรบรุ ีใหม้ คี ณุ ภาพ น้าท่ดี ีข้นึ ระบบนิเวศป่ าชายเลนมคี วามอดุ มสมบรู ณ์มากข้นึ และมคี วามหลากหลายทางชีวภาพสูง มีสตั วน์ ้า ทีส่ าคญั ทางเศรษฐกจิ เป็นจานวนมากท้งั ชนดิ และปริมาณ พชื ที่เกบ็ เกี่ยวจากแปลงพชื บาบดั น้าเสียสามารถ นามาทาเครื่องจกั สานผลติ สินคา้ หัตถกรรมและทาเยอ่ื กระดาษได้ เป็นการสรา้ งอาชีพและรายไดใ้ หแ้ ก่ ชุมชนโดยรอบโครงการได้ ท่ีมา: http://www.chaoprayanews.com/2014/05/12, http://www.chaipat.or.th/chaipat/index.php/tips/48
คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาเพิ่มเติม หน้าท่พี ลเมือง ๑–๒ ม. ๑ ๔๔๒ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ ใบความรู้ เรื่อง วินยั มด...วนิ ัยคน แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒๙ ความมีวนิ ัยในตนเองในการเป็ นพลเมอื งดีในระบอบประชาธปิ ไตย ผลการเรียนรู้ ๖. ปฏิบตั ติ นเป็นพลเมอื งดีตามวถิ ีประชาธิปไตย ๗. มสี ่วนร่วมและรับผิดชอบในการตดั สินใจตรวจสอบขอ้ มลู เพ่อื ใชป้ ระกอบการตดั สินใจ ในกิจกรรมต่าง ๆ ๑๐. ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง คาชี้แจง ครูให้นกั เรียนอ่านเรื่องน้ีแลว้ ตอบคาถาม วนิ ัยมด...วนิ ยั คน รัฐพลเรียนจบกฎหมายมาเกอื บ ๖ เดอื น สอบเขา้ ทางานและสมคั รงานแลว้ หลายแห่ง แต่ยงั ไม่ถูกเรียกตวั รัฐพลจึงไปช่วยดูแลร้านมินิมาร์ททันสมัยของครอบครัวในช่วงเช้าถึงบ่ายสอง หลงั จากน้นั ถา้ ไมอ่ อกไปพบปะเพื่อนฝูงหรือไปติดต่อธุระเร่ืองงาน รัฐพลกจ็ ะกลบั บา้ นและมกั จะ เดินไปน่ังอ่านหนังสือพิมพ์หรือพอ็ กเกตบุ๊กต่าง ๆ ที่มา้ หินใตต้ น้ มะม่วงในสวนหลงั บา้ นแทบทุก วนั จนบ่ายแก่ ๆ ตะวนั คลอ้ ยก็จะเขา้ บา้ น แต่เม่ือ ๒–๓ วนั มาน้ีคุณแม่กบั ราเมศพ่ีชายคนโต ซ่ึงกลบั บา้ นตอนบ่ายสังเกตเห็นว่าเขา ไม่ได้นั่งอ่านหนังสือเหมือนเคย แต่จะเดินไปท่ีตน้ มะม่วง แลว้ ไปยืนมองอะไรบางอย่างที่ลาตนั บางคร้งั กน็ ่ังบนขอนไมท้ ่ีอยูบ่ นพ้นื ขา้ งร่องสวน กม้ มองพ้ืนดินตรงหน้าคร้ังละนาน ๆ เป็ นอย่างน้ี อยู่หลายวนั จนราเมศชกั สงสัยและอดรนไม่ได้ จึงถามหลงั อาหารเช้าของครอบครวั ซ่ึงอยกู่ นั พร้อม หนา้ “ถามหน่อยพล...พลดูอะไรที่ตน้ ไม้ ที่พ้นื ดิน เหน็ ดูมาหลายวนั แลว้ ” “ดมู ด” รฐั พลตอบส้ัน ๆ “ดูทาไม” พชี่ ายถามต่อ “สนใจ...น่าศกึ ษามากครบั พ่ีเมศ” “ศึกษาแลว้ ไดอ้ ะไรบา้ งละ่ ขยายหน่อยสิ อยากรูเ้ หมอื นกนั ” คุณพอ่ ถามบา้ ง “เออ...ใช”่ คุณแม่และพ่ี ๆ ร้องเกือบพรอ้ มกนั ” รฐั พลยิม้ และพูดว่า “อยา่ คิดวา่ ผมเพ้ยี น ไม่มีงานทาแลว้ ไปนงั่ ศึกษามดนะฮะ” “เปล่าเลยลูก พลกาลงั รองานแลว้ ก็ยงั ช่วยงานร้านเราต้งั คร่ึงค่อนวนั บ่าย ๆ กลบั มาอ่าน หนงั สือบา้ ง มาน่ังวิจยั มดบา้ ง ก็เป็ นการพกั ผ่อนท่ีดี ไม่มีใครเขาว่าอะไรหรอก...เอาละ ไม่ตอ้ งพูด มาก...เล่าเร่ืองมดไป” คุณแม่บงั คบั ดว้ ยความเอ็นดู “ตกลงครับ...ผมเกิดความสนใจมดข้ึนมาเมื่อเร็ว ๆ น้ีเอง เพราะพอจะมีเวลาสังเกตวงจร ชีวติ ของมด มดเป็นส่ิงมชี ีวติ ตวั เล็ก ๆ เป็นสัตวต์ วั เล็ก ๆ ท่ีอย่รู วมตวั เป็นจานวนมาก เป็ นสังคมเป็ น
คมู่ อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาเพ่ิมเติม หนา้ ท่พี ลเมอื ง ๑–๒ ม. ๑ ๔๔๓ มวลชน...เอย๊ ...มวลมด เคยสงั เกตรงั มดไหมฮะ ดรู งั มดที่ตน้ มะม่วงนี่ก็ได”้ รฐั พลช้ีไปยงั รังมดแดงขนาดใหญซ่ ่ึงทาด้วยใบมะมว่ งบนตน้ ท่ีอยูเ่ กอื บติดหนา้ ตา่ งห้องกิน ขา้ วนน่ั เอง มองเหน็ มดวิ่งเขา้ ออกขวกั ไขว่ “คนเรา...เอ๊ย...มด...มดน่ะ...เม่ืออยรู่ วมกนั เป็นมวลมดเป็นสงั คมกจ็ ะตอ้ งอยู่กนั ดว้ ยระเบยี บ วินัย กฎเกณฑ์ มีระบบ มีโครงสร้างของสังคมมด” รัฐพลเร่ิมบรรยาย “เหมือนสังคมของคนน่ี แหละ” “แตม่ ดก็มีชนช้นั นะพล” รวงทพิ ยพ์ ส่ี าวพูด “ถกู ตอ้ งพ่ที พิ ย.์ ..แตผ่ มวา่ มดแบ่งช้นั วรรณะตามลกั ษณะทางกายภาพทไี่ มเ่ หมอื นกนั นะ ตวั ไหนเกิดมาเป็ นเพศเมยี มีความแขง็ แรงสมบูรณ์โดดเด่นกวา่ เพ่อื น พร้อมทจ่ี ะขยายเผ่าพนั ธุ์มด กจ็ ะ ไดเ้ ป็นมดนางพญา หรือนางพญามดก็ได.้ ..เอา้ ...ส่วนมดที่มีรูปร่างแข็งแกร่ง ฟันคมก็เป็นมดทหาร สาหรับมดท่ีมีรูปลกั ษณะธรรมด๊าธรรมดาก็เป็ นมดงานทางานงก ๆ ลูกเดยี ว หาอาหารให้นางพญา ไม่บ่นไม่สไตรค์ มดท่ีจะตอ้ งเป็นคู่ผสมพนั ธุ์กบั นางพญามดก็ทาหนา้ ทข่ี องตวั ไป โดยแบ่งภารกิจ กนั ทางานอย่างมรี ะบบ ทุกตวั รู้หนา้ ที่วา่ ตวั ไหนตอ้ งทาอะไร มดคงไมม่ ีกิเลสมานงั่ วางแผนเล่อื ยขา เกา้ อ้กี นั หรือลดั ควิ ขา้ มห้วยปี นบนั ไดแ้ ยง่ กนั เป็นใหญ่อยา่ งคน และอกี อย่างหน่ึงผมวา่ มดคงไมแ่ บ่ง ช้นั กนั ดว้ ยฐานะเหมอื นคนหรอก” “อืม...น่าจะใช”่ ราเมศพดู ยม้ิ ๆ ชอบใจความเห็นของนอ้ งชาย “พเี่ หน็ มดเดินเอาหวั ชนกันเวลาท่ีเขาเดนิ สวนทางกนั เขาทายงั ง้นั ทาไม เขาทกั ทายกนั หรือ วา่ มดไมม่ ตี า” รัฐวทิ ยพ์ ี่ชายคนรองถามบา้ ง “มสี ิพ่ีวิทย์ ไม่มมี นั จะเดินตรงทางไดย้ งั ไง แต่ในตาราเขาบอกไวว้ ่า ตาพวกมดหรือแมลงนี่ จะมีลกั ษณะของการมองเห็นไม่เหมือนตาสัตว์ชนิดอื่น เพราะฉะน้ันการที่เขาใช้หนวดชนกนั ... ไมใ่ ช่เอาหัวชนกนั นะพ่.ี ..เขาอาจส่ือขอ้ มูลใหก้ นั กไ็ ด”้ “ส่งซิกแนล” ราเมศถามบา้ ง “ฮะ...กค็ งทานองน้นั อาจจะส่ือกนั ดว้ ยความปรารถนาดีว่าเส้นทางที่ท้งั สองฝ่ายเดินผ่านมา น้นั มีอะไรดหี รือไม่ดอี ยา่ งไร อาจจะเร่ืองอาหารบา้ งเรื่องอนั ตรายต่าง ๆ บา้ ง เป็ นการนาเสนอหรือ เช่ือมโยงขอ้ มูลให้สมาชิกทกุ ตวั ทราบ มดจะมีสารเคมชี ่ือเพอร์โรโมนส์หรือกล่ินสาบในตวั ท่ีส่ือกัน ได้ หากเกดิ อะไรข้ึนจะไดร้ ะดมพลพร้อมเพรียงกนั หรือรู้วา่ จะตอ้ งทาอะไรกนั ” “อย่างน้นั เชียว...” รวงทิพยย์ วั่ นอ้ งชาย “ฮะ...น่าจะเป็นอย่างน้นั ” รฐั พลตอบแลว้ หวั เราะหึ ๆ ถงึ ตอนน้ีคุณแมซ่ ่ึงนง่ั ฟังอยูเ่ งียบ ๆ มานานแลว้ พดู ข้ึนบา้ ง “แม่ชอบมดอยู่สองอย่างนะ อยา่ งแรกชอบที่เขารกั พวกพอ้ ง รักรวงรัว มอี ะไรแปลกปลอม เขา้ มาในหมู่พวกเขาหรืออาณาเขตของเขา เขาจะรวมตวั กนั กรูเขา้ ตอ่ สูป้ ้องกนั สุดฤทธ์ิ” หยดุ ด่มื น้าเยน็ หน่ึงอกึ แลว้ คุณแม่ก็พดู ตอ่
คู่มอื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาเพม่ิ เติม หน้าทพ่ี ลเมือง ๑–๒ ม. ๑ ๔๔๔ “อย่างที่สอง ชอบท่ีเขาสามคั คีกัน แมช่ อบดูมดแดงหลาย ๆ ตวั ช่วยกนั คาบแลว้ ก็ดึงใบไม้ ไปทารัง ใบไมห้ นักนะสาหรบั มดตวั นิดเดียว แตท่ ุกตวั ก็ชว่ ยกนั ออกแรงลาก มดแทบทุกตวั คงทา ดว้ ยความสมัครใจ และโดยรู้ว่าเป็ นหน้าท่ี มดคงไม่แอบหลบงาน หรือแวบหายไปเหมือนคนใน บางสังคมทชี่ อบเอาเปรียบคนอ่นื ” คณุ แม่พูดแบบ “หมนั่ ไส”้ สังคมคนแบบน้นั เสียเต็มประดา ทุกคนฟังคุณแมพ่ ูดแลว้ นิ่งคิด สักครู่หน่ึงคุณพ่อกถ็ ามคุณแม่ “ทพี่ ดู มาน่ี คุณเหน็ วา่ มดมีพฤติกรรมดีกวา่ มนุษยใ์ ชไ่ หม” “ค่ะ...ในบางเร่ือง และดกี วา่ บางกลมุ่ บางคน ไม่ท้งั หมดทุกเรื่องและทกุ คนคะ่ ” คณุ แมต่ อบ แบบเลน่ สานวนชวนเวียนหัวกอ่ น แลว้ พดู ต่อ “สมยั ก่อนเมอ่ื เรายงั หนุ่มสาว เราเคยเหน็ ชาวไร่ชาวนาเขาลงแขกช่วยกนั เกยี่ วขา้ ว ชว่ ยกนั ขุดสระน้า ช่วยกนั ทาทางเดิน สมยั น้ีไม่คอ่ ยเหน็ แตม่ กั จะเห็นมวลชนหรือม็อบเดินขบวนสไตรคข์ อ คา่ แรงงานเพิ่มบา้ ง ขบั ไล่คนที่ไม่ชอบบา้ ง สนบั สนุนคนท่ีชอบบา้ ง บางทีก็รวมพลงั ...พลงั กายนะ ไม่ใช่พลงั สมอง ไปทุบทาลายขา้ วของหรือสถานที่บา้ ง มากกว่าการรวมพลงั สมองพลงั ปัญญาไป ช่วยกนั แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจหรือสร้างสรรค์สังคม การให้ความสาคญั ในเรื่องระเบียบวินัยและ กฎเกณฑข์ องคนส่วนใหญใ่ นสงั คมสมยั น้ียงั นอ้ ยกว่ามด” “เอา้ ...ฟังคณุ แม่บรรยายแลว้ นกั วิจยั มดจะสรุปวา่ ยงั ไง?” คุณพ่อถาม รฐั พลหัวเราะแลว้ ตอบวา่ “สรุปก็คือพฤติกรรมของคนในบางสังคมมนุษย์ ตอ้ งดสู ังคมมด เป็นตวั อยา่ งและถือว่าเป็นตน้ แบบท่ดี ีในเร่ืองความรัก สามคั คี ความรับผิดชอบในหนา้ ที่ และความ มวี นิ ยั ” ทกุ คนพยกั หนา้ เห็นดว้ ยกอ่ นท่ีคุณแมจ่ ะบอกว่า “จะ ๘ โมงคร่ึงแลว้ นะ มดตวั ใหญม่ ีหนา้ ทีต่ อ้ งไปเขา้ เวรท่รี า้ นกร็ ีบไปทาหนา้ ทซ่ี ะ...อยา่ ให้ นางพญามดสงั่ !” ฮา!!! ท่มี า: สโรชา. วฒั นธรรมประชาธิปไตย เรื่องใหญ่ทตี่ ้องสร้าง.
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: