เกาะปราบ

KHLONG CHANAK @SURATTHANI เกาะปราบ ตำบลคลองฉนาก อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี วัดแหลมทอง วัดนทีคมเขต สมเด็จย่าเสด็จเยือนเกาะปราบ แผนที่เกาะปราบ ศาลพ่ อตาปราบ ประภาคารเกาะปราบ ประวัติความเป็นมาของเกาะ วิถีชีวิตชาวบ้าน รูปภาพเกาะปราบในอดีตถึงปั จจุบัน ปราบ



ส า ร บั ญ ห น้ า 1 วัดแหลมทอง วัดนทีคมเขต ห น้ า 2 ป ร ะ วั ติ ค ว า ม เ ป็ น ม า ข อ ง เ ก า ะ ป ร า บ ห น้ า 3 ส ม เ ด็ จ ย่ า เ ส ด็ จ เ ยื อ น เ ก า ะ ป ร า บ ห น้ า 4 - 5 ตำนานเรื่องเล่าพ่ อตาปราบ ห น้ า 6 ประภาคารเกาะปราบ ห น้ า 7 แผนที่เกาะปราบ ห น้ า 8 วิ ถี ชี วิ ต ช า ว บ้ า น ห น้ า 9 - 1 0 รู ป ภ า พ เ ก า ะ ป ร า บ ใ น อ ดี ต ถึ ง ปั จ จุ บั น

วัดแหลมทอง วัดนทีคมเขตพิเธคปตีแ็กสเลำนขหรถอบศตลราูงลนมมนฉตคท้ยททน์งีลร่าออสาวอศงกำยูมงา่คหแฉัสจอญิมลนูำตน่ทะขเาีใา่ภวจกอแั4อดแมงลเนลตาบะม้ืำทอะปาอีบยคนรงส่าละมสสถุงเคเระาพยขาลบนา้ณตษอาทีวีฎงย่สโนป้ฉดอำรา์รนธยคยนะัาวาญกัตนกดีอใำนนบซคบึืท่องลีควมัด วัดแหลมทอง ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลคลอง ฉนาก อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัด สุราษฎร์ธานี วัดแหลมทอง ตั้งเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2460 นายชู – นายปรอด ชัยชนะ ได้บริจาคที่ดินให้สร้างวัด โดยได้ สร้างเป็นสำนักสงฆ์ชื่อว่า “สำนักสงฆ์ แหลมโทง” เนื่องจากเป็นแหลมทรายมี ปลาโทงขึ้นมากินดอกข้าวลอยมาติสันทรา นี้เป็นอย่างมากมาย

ประวัติความ ปากแม่น้ำตาปี ยังมีเกาะเล็ก ๆ ที่มีความสำคัญ ต่อการนำเรือเข้าสู่ เป็นมาของ แม่น้ำตาปี เกาะนั้น คือ เกาะปราบ กองทัพเรือได้จัดสร้าง เกาะปราบ ประภาคาร ใช้งานตั้งแต่ พ.ศ.2450 เป็นที่หมายสำหรับเรือขนาด ใหญ่ และเรือประมงทั่วไป ใช้สัญจรเข้า - ออก ปากแม่น้ำตาปี เป็น ตำบลคลองฉนาก ประภาคารโครงสร้างเหล็ก มีอาคารที่ทำการและที่พัก ของ ข้าราชการและพนักงานดูแลเปิดปิดตะเกียงประภาคาร ต่อมาได้มี การปรับปรุงก่อสร้าง เป็นกระโจมคอนกรีต เสริมเหล็ก เมื่อ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2536 สามารถ ส่องแสงสว่างให้เห็นได้ไกล เกาะ ปราบนอกจากจะมีกระโจมไฟแล้วยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับหอยนางรม มาช้านาน หอยนางรมที่มีขนาดใหญ่และรสชาติอร่อยมาก นำชื่อ เสียงมาสู่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จนถึงทุกวันนี้ และเนื่องจากเกาะ ปราบอยู่ไม่ห่างไกลจากแม่น้ำตาปีมากนัก ผู้คนในตัวเมืองมักนิยม มาเที่ยวชมอยู่เสมอ

สมเด็จย่าเสด็จ เยือนเกาะปราบ นอกเหนือพระราชกรณียกิจอันมากมายนั้นก็คือการเสด็จ พระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรตามถิ่นทุรกันดาร สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้กองทัพเรือ จัดเรือหลวงจันทร เป็นเรือ พระที่นั่ง เสด็จประพาสทางทะเลเพื่อทอดพระเนตรการ เปลี่ยนก๊าซกระโจมไฟ และทรงเยี่ยมราษฎรทางฝั่งตะวัน ตกของอ่าวไทย ระหว่างวันที่ 11 กรกฎาคม ถึง วันที่ 2 สิงหาคม 2507 โดยเรือหลวงจันทรนั้น เป็นเรือสำรวจ แผนที่ทะเล ที่กองทัพเรือสั่งต่อจากเยอรมนี ตัวเรือมี ความยาวตลอดลำ 69.85 เมตร กินน้ำลึก 3.2 เมตร ระวางขับน้ำ 900 ตัน “ขอบใจกองทัพเรือที่ให้ใช้ ร.ล.จันทร เพื่อเดินทางและอยู่ในการไปเยี่ยม จังหวัดต่างๆ ของภาคตะวันออก สำหรับพวกเรือ ฉันขอขอบใจมาก ที่ได้ เลี้ยงดูพวกเราเป็นอย่างดีจริงๆ ขอให้ทุกท่านจงมีความสุขความเจริญทั้ง กายและใจทุกคนก็ได้รับส่วนกุศลที่ฉันได้ทำไปด้วย” เสด็จประพาสหัวเมืองชายทะเลนั้น ได้เสด็จฯ โดยใช้เส้นทาง โรงเรียนนายเรือ – ประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร – สุราษฏร์ธานี – นครศรีธรรมราช – สงขลา – ปัตตานี – ฐานทัพเรือสัตหีบ – โรงเรียนนายเรือ หลังจากนั้น กองทัพเรือ ได้มีโอกาสรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทสมเด็จย่า ในการเสด็จประพาส ทางทะเลอีก 5 ครั้ง ประกอบด้วย ครั้งที่ 2 เสด็จทอดพระเนตรการเปลี่ยนก๊าซ กระโจมไฟฝั่งทะเลอันดามัน ระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 18 มีนาคม 2510 โดยมีเรือหลวงจันทร เป็นเรือพระที่นั่ง

หน้า 21 \"ตำนานเรื่องเล่าพ่อตาปราบ\" เกาะปราบเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ปากอ่าวบ้านดอน เป็นที่เคารพนับถือของชาวประมงและนักเดินเรือ เชื่อกันว่าบนเกาะปราบมีสิ่งศักดิ์สิทธิที่คอยปกป้องดูแลปกปักรักษาบนเกาะแห่งนี้ คือพ่อตา เกาะปราบ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าพ่อตาปราบ คนเรือมีความเคารพความเชื่อความศรัทธา และนับถือเป็นอย่างมากเชื่อกันว่าท่านมีอิทธิฤทธิ์ในเรื่องปัดเป่าลมพายุมิให้พัดเข้ามาในบ้าน ดอนได้ และมีอิทธิฤทธิ์ในเรื่องขอได้ไหว้รับเรื่องโชคลาภ ลักษณะของเกาะปราบนั้นล้อมรอบด้วยหิน ชาวบ้านจึงเชื่อกันว่าหินบนเกาะเป็นหินที่มีความ ศักดิ์สิทธิ์ สามารถปราบคุณไสยมนต์ดำ ชาวบ้านมักจะนำหินไปใส่ในโอ่งน้ำเพื่อขับไล่สิ่งไม่ดี นำหินใส่ในฐานเสาเอกสำหรับการยกบ้านใหม่ เพื่อเป็นศิริมงคลต่อครอบครัว และปราบสิ่งไม่ ดีที่จะเข้ามา หินบนเกาะมีพ่อตาปราบเป็นเจ้าของ เป็นผู้ดูแลรักษา หากผู้ใดนำหินไปใช้ในทางที่ไม่ดี หรือไม่ได้ขอหินจากพ่อตาปราบเสียก่อน ก็จะมีเหตุให้ผู้นั้นต้องนำหินมาคืนพ่อตาปราบ ณ เกาะปราบ

พิธีปลุกเสก บวงสรวง เทวาภิเษก เทพเทวดา พ่อตาเกาะปราบ \" คณะลูกหลานก๋ง พ่อตาทวด แม่ ม๊าม้า และ คณะทีมงาน ท่าน กำนันพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายก สมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จังหวัด สุราษฎร์ธานี ร่วมแรงร่วมใจเดิน ทางมาที่เกาะปราบเพื่อทำพิธีปลุก เสกเหรียญทวดพ่อตา \" หินจากเกาะปราบ \" ชาวบ้านที่เดินทางไปยังเกาะ ปราบมักจะขอหินจากพ่อตาปราบ กลับมาที่บ้านและนำไปใส่ในโอ่งน้ำ ดื่มเป็นน้ำมนต์ อีกทั้งยังมีความเชื่อ จากชาวบ้านนำหินที่ขอจากพ่อตา ปราบไปทำพิธีขับไล่มนต์ดำ \"

20 กันยายน พ.ศ. 2536 ประภาคาร เกาะปราบ LIGHTHOUSE PRAB ISLAND คุณสมบัติ รูปแบบไฟ : Flashing ความสูงจากฐาน : 73m ระยะเวลากระพริบ : ทุก 6 วินาที สีของแสงไฟ : สีขาว ครอบคลุมระยะ : 21nm (38.89 km) กระโจมไฟ รูปแบบไฟ : Group Occulting ความสูงจากฐาน : 22m ระยะเวลากระพริบ : 2 วับ ทุก 7 วินาที สีของแสงไฟ : สีขาว ครอบคลุมระยะ : 15nm (27.78 km)

แผนที่เกาะ จุดสำคัญต่างๆบนเกาะปราบ ปราบ ท่าเทียบเรือ ศูนย์ราชการ กรมอุทกศาสตร์ ศาลพ่อตาปราบ เส้นทางขึ้นสู่ประภาคาร ประภาคาร จุดรับประทานอาหาร เส้นทางเดินรอบเกาะ เครื่องวัดระดับน้ำ คลื่น ลม

วิถีชีวิตชาว บ้าน ตำ บ ล ค ล อ ง ฉ น า ก เนื่องจากตำบลคลองฉนาก มีแม่น้ำสำคัญหลายสาย และมีสัตว์น้ำอาศัยอยู่ จำนวนมากในบริเวณนี้ ทำให้อาชีพหลักของชาว บ้าน คือการทำประมง เป็นการจับสัตว์น้ำเพื่อไป ประกอบอาหาร และทำ ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์น้ำ อาทิ เช่น กุ้ง ปู ปลา และ หอย แครง

รูปภาพเกาะปราบจากอดีตถึงปัจจุบัน \"ท่าเทียบเรือ\" \"ศาลพ่อตาปราบ\"

รูปภาพเกาะปราบจากอดีตถึงปัจจุบัน \"เส้นทางขึ้นสู่ประภาคาร\"

ตำบลคลองฉนาก อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี