Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือประวัติศาสตร์ชุมชนคลองฉนาก

หนังสือประวัติศาสตร์ชุมชนคลองฉนาก

Published by นัจกรณ์ ดำสุวรรณ, 2021-11-30 04:00:40

Description: หนังสือประวัติศาสตร์ชุมชนคลองฉนาก

Search

Read the Text Version

ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ชุ ม ช น คลองฉนาก KHLONG CHANAK SURATTHANI

KHLONG CHANAK ม หั ศ จ ร ร ย์ แ ห่ ง ชุ ม ช น By วิ ศ ว ก ร สั ง ค ม ตำ บ ล ค ล อ ง ฉ น า ก ( ม ห า วิ ท ย า ลั ย สู่ ตำ บ ล ส ร้ า ง ร า ก แ ก้ ว ใ ห้ ป ร ะ เ ท ศ ) ม ห า วิ ท ย า ลั ย ร า ช ภั ฏ สุ ร า ษ ฎ ร์ ธ า นี

หนังสือประวัติศาสตร์ชุมชนตำบลคลองคำนำ ฉนาก อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ฉบับนี้ จัดทำขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อมูลประวัติศาสตร์ ชุมชนทางภูมิศาสตร์สังคมศาสตร์ ทรัพยากร ธรรมชาติ ภูมิปัญญาและวิถีชีวิตของชุมชนตำบล คลองฉนาก จัดทำโดยวิศวกรสังคมในโครงการ ยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบหนึ่ง มหาวิทยาลัยหนึ่งตำบลสร้างรากแก้วให้ประเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือ ประวัติศาสตร์ชุมชน ฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ใน ทางวิชาการและสามารถเป็นแนวทางให้ผู้ที่ ต้องการศึกษาความเป็นมาของตำบลคลองฉนาก และก่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนและผู้ที่สนใจใน อนาคต หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทำขอ น้อมรับไว้ด้วยความขอบพระคุณอย่างยิ่ง คณะผู้จัดทำ วิศวกรสังคม ตำบลคลองฉนาก มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

ประวัติความเป็นมาของชุมชน ส า ร บั ญ ขนาดและที่ตั้ง ลักษณะภูมิประเทศและแม่น้ำสำคัญ 1 ทรัพยากรธรรมชาติ 2 การคมนาคม 3 4 5 โครงสร้างชุมชน ด้านการปกครอง 6 โครงสร้างชุมชน ด้านประชากร 7 โครงสร้างชุมชน ด้านการศึกษา/ด้านศาสนา 8 โครงสร้างชุมชน ด้านเศรษฐกิจ/อาชีพ 9 ความเชื่อประเพณีและพิธีกรรม/ สถานที่สำคัญ 10 การเปลี่ยนแปลงทางสั งคมและวัฒนธรรม 11 การดำเนิ นงานโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคม 12 รายตำบลแบบบูรณาการ 13 การพัฒนาสัมมาชีพ และสร้างอาชีพใหม่ 14 (การยกระดับสินค้า Otop/อาชีพอื่น) 16 การสร้างและพัฒนา Creative Economy (การยกระดับการท่องเที่ยว) การนำองค์ความรู้ไปช่วยบริการชุมชน (Health Care/เทคโนโลยีด้านต่างๆ) สถานที่ท่องเที่ยว 12. 19 ผลิตภัณฑ์ชุมชน 21 กิจกรรมปลูกฟ้าทะลายโจร 23 ภาคผนวก 24

สารบัญรู ปภาพ ภาพที่ 1 ประเพณีชิงเปรต 10 ภาพที่ 2 งานทอดกระถินที่วัดแหลมทอง 10 ภาพที่ 3 กิจกรรมแห่เทียนพรรษา 10 ภาพที่ 4 วัดนทีคมเขตริมคลองสะบ้าย้อย 10 ภาพที่ 5 ปากอ่าวแม่น้ำตาปี 11 ภาพที่ 6 สนทนากลุ่มกับชุมชน 12 ภาพที่ 7 กิจกรรมยกระดับสินค้าชุมชน 13 ภาพที่ 8 กิจกรรมพัฒนาสัมมาชีพ 13 ภาพที่ 9 เกาะปราบ 14 ภาพที่ 10 ทางขึ้นประภาคารเกาะปราบ 14 ภาพที่ 11 ประชุมวางแผนดำเนิ นโครงการท่องเที่ยวในชุมชน 14 ภาพที่ 12 ลงสำรวจเส้นทางนำเที่ยวในชุมชน 16 ภาพที่ 13 เดินทางไปเกาะปราบ 17 ภาพที่ 14 วางแผนเส้นทางนำเที่ยวในชุมชน 17 ภาพที่ 15 สวนมะพร้าวในพื้นที่หมู่ 7 17 ภาพที่ 16 เตรียมออกสำรวจป่าชายเลน 17 ภาพที่ 17 การทำมาหากิน 18 ภาพที่ 18 หลวงพ่อแบน แห่งวัดแหลมทอง 19 ภาพที่ 19 เกาะปราบ 20 ภาพที่ 20 ผลิตภัณฑ์กะปิบ้านบางหมก 21 ภาพที่ 21 กิจกรรมปลูกฟ้าทลายโจร 23

สารบัญตาราง ตารางที่ 1 ถนนที่ขึ้นทะเบียนทางหลวงท้องถิ่น 5 ตารางที่ 2 จำนวนประชากรและจำนวนครัวเรือน รพ.สต. คลองฉนาก 7 อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ปี 2563 ตารางที่ 3 จำนวนประชากรกลางปี 2560 – 2563 จำนวนตาม 7 หมู่บ้าน/ชุมชน ตารางที่ 4 ไทม์ไลน์ ผลิตภัณฑ์ชุมชน กลุ่มกะปิบ้านบางหมก 21 ตารางที่ 5 ไทม์ไลน์ กระบวนการ กลุ่มกะปิบ้านบางหมก 22

ตำบลคลองฉนาก อำ เ ภ อ เ มื อ ง จั ง ห วั ด สุ ร า ษ ฎ ร์ ธ า นี ป ร ะ วั ติ ค ว า ม เ ป็ น ม า ข อ ง ชุ ม ช น ตำบลคลองฉนาก ตั้งอยู่ริมฝั่ งคลองฝั่ งซ้าย แยกมาจาก “แม่น้ำหลวง” หรือแม่น้ำตาปี ซึ่งติดต่อกับ ทะเลในสมัยนั้น ลำคลองลึกมาก น้ำเค็มจัดในหน้าแล้ง ช่วงเดือน ธันวาคมถึงเดือนพฤษภาคม มีปลาชุกชุม มาก ในช่วงฤดูน้ำเค็ม มีปลาทะเลเกือบทุกชนิดเข้ามา อาศัยอยู่ในลำคลองนี้ ราษฎรอาศัยลำคลองทำการ ประมงเลี้ยงชีพตลอดมา และยังเคยมีปลาฉนากที่มี ลักษณะคล้ายๆ กับปลาฉลาม มีฟันยื่นออกมายาว ประมาณ 120 เซนติเมตร คล้ายๆกับเลื่อยยนต์ตัดแต่ง กิ่งไม้ ข้างๆรอบมีหนามแหลมเป็นซี่ๆ ยังคงมีหลักฐาน เก็บไว้ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลคลองฉนาก ชาวบ้านได้ตั้งชื่อคลองนั้นว่า “คลองฉนาก”  หลักฐานอีกอย่างหนึ่ง ที่พอจะนำมายืนยันว่า บ้านคลองฉนากนั้นอยู่ใกล้กับทะเลก็คือ หอยกัน หอย กันเป็นหอยชนิดหนึ่งที่อาศัยอยุ่ตามป่าชายทะเลฝังตัว อยู่ในดินเลน ลักษณะตัวกลมแบนสีดำปนเหลือง ตัวโต เต็มที่ประมาณ 8 เซนติเมตร ปัจจุบันก็มีหลงเหลืออยู่ ตามท้องไร่ ฝังตัวอยู่ในดินที่มีร่องน้ำไหล แต่นานๆ จึง จะพบสักครั้งหนึ่ง ต่อมาได้มีผู้อพยพมาตั้งถิ่นฐานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมีราษฎรหนาแน่นตลอดแนวชายฝั่ ง จนกระทั่งใน สมัยรัชกาลที่ 6 พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราช บัญญัติยกเลิกการปกครองระบบมณฑลมาเป็น จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเปลี่ยนชื่อแม่น้ำหลวงเป็น แม่น้ำตาปี ประมาณปี พ.ศ.2476 หมู่บ้านคลองฉนาก ก็ได้ยกฐานะเป็นตำบลคลองฉนาก และยกฐานะจาก สภาตำบลเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลคลองฉนาก ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งองค์การ บริหารส่วนตำบล ลงวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2539 1

ขนาดและที่ตั้ง ตำบลคลองฉนากตั้งอยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัด สุราษฎร์ธานี ประมาณ 15 กิโลเมตร ห่างจาก อำเภอเมือง ตำ บ ล ค ล อ ง ฉ น า ก อำ เ ภ อ เ มื อ ง สุราษฎร์ธานี ประมาณ 12 กิโลเมตร ในปี 2554 ได้มีถนน จั ง ห วั ด สุ ร า ษ ฎ ร์ธ า นี ทางหลวงแผ่นดินสาย 420 ตัดผ่าน การเดินทางสะดวก มากขึ้น สามารถใช้ได้สองเส้นทาง คือ ทางบกและทางน้ำ โดยอาศัยเรือยนต์หรือเรือหางยาว และรถยนต์ส่วนตัว รถ รับจ้างไม่ประจำทาง  ในการเดินทาง ปัจจุบันได้มีการ พัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยทางองค์การบริหารส่วน ตำบลคลองฉนากได้จัดทำโครงการก่อสร้างถนนสายต่างๆ เข้าหมู่บ้านมากขึ้น ทำให้มีการเดินทางสะดวกมากขึ้น เพิ่ม ความคล่องตัวให้กับราษฎรในพื้นที่ใช้ในการขนส่งนำสินค้า ออกสู่ตลาด ลดภาระค่าใช้จ่าย เนื้อที่มีเนื้อที่ประมาณ 21.50 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 13,437.50 ไร่ อาณาเขต ทิศเหนือ จด ทะเลฝั่ งอ่าวไทย (อ่าวบ้านดอน) ทิศใต้ จด เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ทิศตะวันออก จด ตำบลบางกุ้ง ทิศตะวันตก จด ตำบลบางชนะ NOMADIC  |  24 2

ลักษณะ ภูมิประเทศ สภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ เป็นพื้นที่ป่าชายเลนมีสภาพทั่วไปเหมือนเกาะ แก่ง เพราะมีแม่น้ำลำคลองหลายสายเป็น ศูนย์กลางหมู่บ้าน ในอดีตสภาพบ้านเรือน ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำลำคลอง ในสภาพ ปัจจุบันได้มีการก่อสร้างบ้านเรือนติดถนน มากขึ้น แต่ยังคงสภาพบ้านริมแม่น้ำ ในช่วง ฤดูน้ำทะเลหนุนจะมีน้ำท่วมขังบ้านเรือน หรือ แหล่งการเกษตรของราษฎรในพื้นที่ได้รับ ความเสียหายบ้าง จึงไม่เหมาะแก่การทำ เกษตรมากนัก เพราะมีลักษณะดินเป็นดิน เปรี้ยว ดินเค็ม แม่น้ำสำคัญ แม่น้ำตาปี เดิมเรียกแม่น้ำหลวง ต้นน้ำ เกิดจากเขาหลวงในอำเภอฉวาง จังหวัด นครศรีธรรมราช ผ่านอำเภอฉวาง อำเภอ ทุ่งใหญ่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช แล้วไหล ผ่านอำเภอบ้านนาสาร อำเภอเวียงสระ อำเภอพระแสง อำเภอพุนพิน และอำเภอ เมืองสุราษฎร์ธานี ออกทะเลที่อ่าวบ้านดอน แม่น้ำตาปียาวประมาณ 232 กิโลเมตร 3

ทรัพยากรธรรมชาติ • น้ำ แหล่งน้ำ เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของ ชาวตำบลคลองฉนาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีแม่น้ำ ล้อมรอบ และยังมีอีกหลายสายที่เป็นแนวเขตกั้น ระหว่างหมู่บ้าน แม่น้ำ ลำบาง ที่สำคัญได้แก่ แม่น้ำตาปี • ป่าไม้ ในพื้นที่ตำบลคลองฉนาก เป็นพื้นที่ป่าไม้ชายเลน มีไม้ประเภท ไม้โกงกาง ไม้ลำภู ไม้แสม เป็นต้น เป็น แหล่งอาศัยของสัตว์นานาชนิดทั้งสัตว์น้ำสัตว์บก เช่น ลิงแสม นกอบยพ • ภูเขา พื้นที่ตำบลคลองฉนากไม่มีพื้นที่ภูเขาที่ปรากฏ เนื่องจากพื้นที่ติดทะเลอ่าวไทย • ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ ด้วย แหล่งอาหารทางทะเล มีทั้งแม่น้ำ ป่าไม้ พืชเศรษฐกิจ ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์โดยธรรมชาติ เมื่อเทียบกับ พื้นที่ในเมืองที่เป็นเมืองอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ การคมนาคม การคมนาคมขนส่ง (ทางบก, ทางน้ำ, ทางราง ฯลฯ) ขนส่งทางน้ำ ได้แก่ แม่น้ำสายบางหมก, ตาปี, สะบ้าย้อย, คลองทองหลวงเร็วขึ้น ทำให้วีถีชีวิตและ คุณภาพชีวิตดีขึ้นตามลำดับ การคมนาคมขนส่งในพื้นที่ตำบลคลองฉนาก สามารถเดินทางขนส่งได้ทั้งทางบกและทางน้ำ ซึ่งในอดีตนั้น การคมนาคมขนส่งจะให้เรือยนต์เป็นพาหนะในการขนส่งสินค้าหรือเดินทางออกสู่ตัวเมือง หรือไปมาหาสู่กันใน พื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง แต่ในปัจจุบันได้มีการตัดถนนทางหลวงแผ่นดินสาย 420 ผ่านตำบลคลองฉนาก ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตำบลคลองฉนากก็ได้ดำเนินการพัฒนาในด้านโครงการสร้างพื้นฐานโดยการ ตัดถนน และสะพานเชื่อมต่อเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถติดต่อกันได้สะดวกยิ่งขึ้น เพิ่มช่องทางการขนส่ง สินค้าออกสู่ตลาดได้รวดเร็วขึ้น ทำให้วีถีชีวิตและคุณภาพชีวิตดีขึ้นตามลำดับ 4

การคมนาคม ถนนที่ดำเนินการก่อสร้างตามงบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบลคลองฉนากและ งบประมาณเงินอุดหนุนจากหน่วยงานรัฐ ประเภทถนนแอลฟัลติกส์และถนนคอนกรีต เสริมเหล็ก จำนวน 8 สาย และถนนที่ขึ้นทะเบียนทางหลวงท้องถิ่น รวม 9 สาย ได้แก่ ตารางที่ 1 ถนนที่ขึ้นทะเบียนทางหลวงท้องถิ่น 5

โครงสร้างชุมชน ด้านการปกครอง 1. ตำบลคลองฉนาก แบ่งเขตการปกครองเป็น 8 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1 บ้านคลองฉนาก บางส่วนเป็นเทศบาลนคร หมู่ที่ 2 บ้านตากแดด หมู่ที่ 3 บ้านบางหมก หมู่ที่ 4 บ้านสะบ้าย้อย หมู่ที่ 5 บ้านทองหลวง หมู่ที่ 6 บ้านบางกลา หมู่ที่ 7 บ้านหัวแหลม ปัจจุบันเป็นเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีทั้งหมู่บ้าน หมู่ที่ 8 บ้านศรีวัฒนาตาปี ตำบลคลองฉนาก แบ่งเขตการปกครองเป็น 8 หมู่บ้าน คือทั้งนี้พื้นที่การบริหารขององค์การบริหารส่วน ตำบลคลองฉนาก 7 หมู่บ้าน โดยมีหมู่ที่ 7 เป็นพื้นที่เทศบาลนครสุราษฎร์ธานีเต็มทั้งหมู่บ้าน สำหรับ หมู่ที่ 1 ติด เทศบาลนครสุราษฎร์ธานีบางส่วน เหลือประชากรของหมู่ที่ 1 อยู่ในพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลคลอง ฉนาก เพียงประมาณ 60 คน เดิม การคมนาคมไช้เรือหางยาวเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันมีการก่อสร้างถนน สะพานเชื่อมต่อระหว่างตัวเมืองเข้าสู่ตำบล และเชื่อมต่อภายในตำบล ทำให้การคมนาคมสะดวกมากขึ้น 6

ด้านประชากร ตำบลคลองฉนาก อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีทั้งหมด 8 หมู่ หมู่ที่ 7 เป็นเขต เทศบาลโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองฉนากรับผิดชอบ 7 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1, 2 ,3 ,4 ,5 ,6 ,8 มีประชากรทั้งหมดในเขตตามทะเบียนราษฎร์ จำนวน 3,074 คน เพศหญิง 1,535 คน เพศชาย 1,539 คน จากการสำรวจจำนวน 2,798 คน เพศหญิง 1,416 คน เพศ ชาย 1,382 คนจำนวนหลังคาเรือนทั้งหมด 705 หลังคาเรือน ความหนาแน่นของประชากร โดยเฉลี่ย 246.15 คน ต่อ ตารางกิโลเมตร ตารางที่ 2 จำนวนประชากรและจำนวนครัวเรือน รพ.สต. คลองฉนาก อำเภอเมือง สุราษฎร์ธานี ปี 2563 ตารางที่ 3 จำนวนประชากรกลางปี 2560 – 2563 จำนวนตามหมู่บ้าน/ชุมชน 7

ด้ า น ก า ร ศึ ก ษ า การศึกษา องค์การบริหารส่วนตาบลลาพูน มีสถาบันการศึกษาที่ตั้งอยู่ใน เขตองค์การบริหารส่วนตำบลคลองฉนาก มีดังนี้ 1.โรงเรียนวัดแหลมทอง ที่อยู่ : หมู่ที่ 3 บ้านแหลมทอง วัน-เดือน-ปี ก่อตั้ง : 23 พฤษภาคม 2500 ระดับที่เปิดสอน : อนุบาล-ประถมศึกษา 2.โรงเรียนวัดนทีคมเขต ที่อยู่ : หมู่ที่ 4 บ้านสะบ้าย้อย วัน-เดือน-ปี ก่อตั้ง :พ.ศ. 2477 ระดับที่เปิดสอน : อนุบาล-ประถมศึกษา ด้ า น ศ า ส น า การนับถือศาสนา องค์การบริหารส่วนตำบลคลองฉนาก มีองค์กรทางศาสนา ดังนี้ 1. วัดแหลมทอง ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลคลองฉนาก อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2. วัดนทีคมเขต ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลคลองฉนาก อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี  จังหวัดสุราษฎร์ธานี 8

โ ค ร ง ส ร้ า ง ด้ า น เ ศ ร ษ ฐ กิ จ แ ล ะ อ า ชี พ การประมง การเลี้ยงสัตว์น้ำ ตำบลคลองฉนากมีลำน้ำสายสำคัญ คือ แม่น้ำ ตาปี คลองฉนาก คลองริ่ว คลองสะบ้าย้อย คลอง ทองหลวงและยังมีลำบางสาขาของแม่น้ำลำคลอง ต่าง ๆ อีกจำนวนมากทางด้านทิศเหนือจดอ่าวไทย ซึ่งตลอดแนวชายฝั่ งเป็นทะเลตื้น ลักษณะของการ ทับถมตะกอนแบบดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำรูป ตีนนกมีป่าชายเลน เช่น ไม้โกงกางไม้แสม ลำพู และ ต้นจากตลอดแนว ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ และมี สัตว์น้ำอยู่จำนวนมากในบริเวณนี้ทำให้อาชีพหลัก ของชาวบ้านคลองฉนากเป็นการจับสัตว์น้ำ และทำ ธรุกิจเกี่ยวกับสัตว์น้ำ การท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ตำบลคลองฉนาก ได้แก่ วัดแหลมทอง และ การท่องเที่ยวชมธรรมชาติและหิ่งห้อย ตามลำบางสาขาของแม่น้ำลำคลองในตำบลคลองฉนาก 9

ความเชื่อ ประเพณี และพิธีกรรม ประเพณีรับ - ส่งตายาย ซึ่งเป็นประเพณีทำบุญวันสาร์ทในเดือนสิบ ซึ่งจะจัด ขึ้นทุกท้องที่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประเพณีที่ แสดงออกถึงความกตัญญูอย่างสูงยิ่งต่อบรรพบุรุษ เป็นประเพณีที่ชาวบ้านทุกครอบครัวไปทำบุญที่วัด เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ทอดกฐินสามัคคี ซึ่งจะจัด ณ วัดแหลมทอง เพื่อเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์ ประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น ที่ได้จักิจกรรมนี้มาอย่าง ต่อเนื่องทุกปี ซึ่งชาวบ้านให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ประเพณีแห่เทียนพรรษา จัด ณ วัดนทีคมเขต เป็นจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธ ศาสนาในช่วงวันสำคัญทางศาสนา กิจกรรมแห่เทียน พรรษา ซึ่งนำขบวนโดยทีมกลองยาวโดยนักเรียน โรงเรียนวัดนทีคมเขต ส่งเสริมกิจกรรมทางศาสนาแก่ นักเรียนและประชาชนคลองฉนาก สถานที่สำคัญ สถานที่สำคัญของตำบลคลองฉนาก คือ วัดแหลมทอง และวัดนทีคมเขต ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจและสถานที่ ประกอบพิธีกรรมทาศาสนาและประเพณีสำคัญในตำบล คลองฉนากมาอย่างยาวนาน 10

การเปลี่ยนแปลงทาง สังคมและวัฒนธรรม คลองฉนาก การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดขึ้นเมื่อเริ่มมีการตัด ถนนทางหลวงแผ่นดินสาย 420 ผ่าน ตำบลคลองฉนาก ทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น สามารถใช้ได้สองเส้นทาง คือ ทางบกและ ทางน้ำ โดยอาศัยเรือยนต์ หรือเรือหางยาว และรถยนต์ส่วนตัว รถรับจ้างไม่ประจำทาง ในการ เดินทาง ทำให้เกิดการค้าขายและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้านอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันได้มีการ พัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยทางองค์การบริหารส่วนตำบลคลองฉนากได้จัดทำโครงการ ก่อสร้างถนนสายต่างๆเข้าหมู่บ้านมากขึ้นทำให้มีการเดินทางสะดวกมากขึ้นเพิ่มความคล่องตัวให้ กับราษฎรในพื้นที่ใช้ในการขนส่งนำสินค้าออกสู่ตลาด จึงได้เกิดผลิตภัณน์แปรรูปจากการทำ ประมงหลากหลายสินค้าส่งออกไปยังตลาดในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี เช่น กะปิ ปลาแดดเดียว ปลาตากแห้ง อีกทั้งยังทำให้ธรุกิจการขายสัตว์น้ำหรือแพต่างๆ ในตำบลเกิดขึ้น  11

การดำเนินงานโครงการยกระดับเศรษฐกิจและ E S C A P E MสAัGงA คZ I NมE รายตำบลแบบบูรณาการ PAGE 08 / ISSUE 08 ความต้องการของชุมชน/พื้นที่ที่รับผิดชอบ ประชาชนในต ำบลคลองฉนากประกอบอาชีพ ประมงส่วนใหญ่ และรับจ้างเป็นส่วนน้อย หลังจากทีม วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนากได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูล และประเมินศักยภาพชุมชน พบว่าชุมชนต้องการยก ระดับและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเพื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ตลอดจน การทำการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีอยู่หลายผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะกะปิบ้านบางหมก ปลาแดดเดียว โดยบูรณา การร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานราชการ ภาค เอกชน ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ วัตถุประสงค์ของโครงการ/กิจกรรมในการดำเนินการ 1.ยกระดับสินค้าแปรรูปผลิต ภัณฑ์ชุมชนคลองฉนาก ด้วยระบบเทคโนโลยีดิจิทัล 2.พัฒนาสัมมาชีพเดิม และสร้างองค์ความรู้สัมมาชีพ ใหม่เพื่อเพิ่มรายได้หมุนเวียนแก่ชุมชนตำบลคลอง ฉนาก อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 3.ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ตามแบบฉบับวิถี ชาวบ้านตำบลคลองฉนาก อำเภอเมือง จังหวัด สุราษฎร์ธานี 4.ส่งเสริมและอนุรักษ์ป่าชายเลนของชุมชนให้เป็นพื้นที่ เรียนรู้เชิงอนุรักษ์ของตำบลคลองฉนาก อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี โครงการพัฒนาศักยภาพตำบลคลองฉนาก เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผลิตภัณฑ์แปรรูป โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน 12

การพัฒนาสัมมาชีพ และสร้างอาชีพใหม่ (การยกระดับสินค้า Otop/อาชีพอื่น) 1) ยกระดับสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์ชุมชนคลองฉนากด้วยระบบ เทคโนโลยีดิจิทัล 2) พัฒนาสัมมาชีพเดิม และสร้างองค์ความรู้สัมมาชีพใหม่เพื่อเพิ่ม รายได้หมุนเวียนแก่ชุมชน ตำบลคลองฉนาก อำเภอเมือง จังหวัด สุราษฎร์ธานี • ผลิตภัณฑ์กะปิบ้านบางหมก • ผลิตภัณฑ์ปลากุเลาแดดเดียว 13

การสร้างและพัฒนา Creative Economy (การยกระดับการท่องเที่ยว) ตำบลคลองฉนากมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติคือ ● องค์ประกอบที่ 1 ศักยภาพการดึงดูดใจการท่องเที่ยว เกาะปราบ ซึ่งอยู่ที่ปากแม่น้ำตาปี ยังมีเกาะเล็ก ๆ ที่มีความ สำคัญต่อการนำเรือเข้าสู่แม่น้ำตาปี เกาะนั้น คือเกาะปราบ ประกอบด้วยเกณฑ์พิจารณา 2 ด้าน คือ กองทัพเรือได้จัดสร้างประภาคารใช้งานตั้งแต่ พ.ศ. 2450 1. คุณค่าทางประวัติศาสตร์/ศิลปวัฒนธรรม/ เป็นที่หมายสำหรับเรือขนาดใหญ่ และเรือประมงทั่วไป ใช้ สัญจรเข้า-ออก ปากแม่น้ำตาปี เป็นประภาคารโครงสร้าง ศิลปวิทยาการขึ้นกับมาตรฐานแต่ละประเภท ได้แก่ ความ เหล็ก มีอาคารที่ทำการและที่พักของข้าราชการและ เป็นเอกลักษณ์ ความสมบูรณ์ สวยงาม ความ มีชื่อเสียง พนักงานดูแลเปิดปิดตะเกียงประภาคารต่อมาได้มีการ เป็นที่ยอมรับ ความผูกพันต่อท้องถิ่น ปรับปรุงก่อสร้างเป็นกระโจมคอนกรีตเสริมเหล็กเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2536 สามารถส่องแสงสว่างให้เห็นได้ไกล  เกาะ 2.ศักยภาพทางกายภาพ และการจัดกิจกรรม การ ปราบนอกจากจะมีกระโจมไฟแล้วยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับ ท่องเที่ยว ได้แก่ การเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวและ ความ หอยนางรมมาช้านาน หอยนางรมที่มีขนาดใหญ่ และ ปลอดภัย ความหลากหลายและต่อเนื่องของ กิจกรรมการ รสชาติอร่อยมาก นำชื่อเสียงมาสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จนถึงทุกวันนี้ และเนื่องจากเกาะปราบอยู่ไม่ไกลจากแม่น้ำ ●ท่องเที่ยว ตาปีมากนัก ผู้คนในตัวเมืองมักนิยมมาเที่ยวชมอยู่เสมอมี องค์ประกอบที่ 2 ด้านการดําเนินธุรกิจนําเที่ยว รายละเอียดพอสังเขปดังนี้ ประกอบด้วยเกณฑ์ในด้านต่าง ๆ ยกตัวอย่างดังนี้ 1. มีโปรแกรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ระบุกิจกรรม ราคา ค่าใช้จ่ายในแต่ละกิจกรรม 2. มีการส่งเสริมการขาย เช่น โฆษณาจุดขาย เข้า ร่วมงาน เสนอซื้อขายบริการท่องเที่ยว มีการส่งข้อมูลไป ยังกลุ่มนักท่องเที่ยว ผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น แผ่นพับ เว็บไซต์ จดหมายข่าว สื่ออิเล็กทรอนิกส์ 14

การเดินทาง เพื่อเติมเต็ม จิตวิญญาณ 15

การนำองค์ความรู้ไปช่วยบริการชุมชน (Health Care/เทคโนโลยีด้านต่างๆ) เป้าหมายในการพัฒนาชุมชน การพัฒนาชุมชน มีเป้าหมายสำคัญที่จะต้องพัฒนา ดังนี้ การพัฒนาคน คือการทำให้คนในชุมชนนั้นมีคุณภาพดีขึ้น ทั้งกายใจและสติปัญญา ซึ่งในแต่ละแผนพัฒนา การ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่างก็มีจุดมุ่งเน้นที่จะพัฒนาคนต่าง ๆ กัน ไป แต่ที่ปรากฏชัดเจนเป็นรูปธรรมคือในแผน พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ได้ระบุเป้าหมายของการพัฒนาคุณภาพคนไว้สามลักษณะดังนี้ เก่ง : มีความสามารถและรู้จักความสามารถของตนเอง มีแรงจูงใจมุ่งมั่นสู่จุดหมาย สามารถตัดสินใจได้ แก้ ปัญหาเป็น แสดงออกได้อย่างเหมาะสม มีความยืดหยุ่น และมนุษย์สัมพันธ์ดีกับคนอื่น (IQ) ดี : รู้จักควบคุมอารมณ์ตนเองได้ แสดงออกได้เหมาะสมกับบุคคล โอกาสและสถานที่ รู้จักเห็นอกเห็นใจคนอื่น มี ความรับผิดชอบ รู้จักการให้และการรับ รู้จักยอมรับผิด ให้อภัย และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม (EQ) สุข : ภูมิใจในตัวเอง เห็นคุณค่าและมีความเชื่อมั่นตนเอง พอใจชีวิตมองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน มีความสงบทาง ใจ รู้จักการผ่อนคลาย กิจกรรมเสริมความสุข (การผสานประโยชน์ระหว่าง IQ กับ EQ) 16

การส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม/ Circular Economy (การเพิ่มรายได้หมุนเวียนให้แก่ชุมชน) ส่งเสริมและอนุรักษ์ป่าชายเลนของชุมชน สารบัญให้เป็นพื้นที่เรียนรู้เชิงอนุรักษ์ของตําบลคลองฉนาก อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี • ด้านอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ ประชาชนในชุมชนมีส่วน ร่วมในการอนุรักษ์แหล่งน้ำในชุมชนทั้งในด้านการรักษาการ ฟื้ นฟูและการพัฒนา มีการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการทํากิจกรรมการอนุรักษ์แหล่งน้ำในชุมชนบางน้ำจืดโดยร่วมกับ ภาครัฐและภาคเอกชน โดยเน้นการมีส่วนร่วมในการกําหนดข้อปฏิบัติในการอนุรักษ์แหล่งน้ำชุมชน สร้างความร่วมมือ ในการบําบัดน้ำเสียขั้นต้น ก่อนที่จะระบายสู่แหล่งรับน้ำ นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังควรให้ความสําคัญด้านการ รักษาแหล่งน้ำชุมชน โดยเน้นการการให้ข้อมูลของการอนุรักษ์แหล่งน้ำ • ด้านอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ เช่น ชาวบ้านต้องมีส่วนร่วมในการช่วยกันรักษาอนุรักษ์สัตว์น้ำ ไม่จับสัตว์น้ำช่วงฤดู วางไข่ ไม่ทรมานหรือจับสัตว์น้ำมาขัง ไม่ทิ้งขยะหรือปล่อยน้ำเสียลงสู่ทะเล มีส่วนร่วมในการสอดส่องดูแลตักเตือนผู้กระ ทําความผิด หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องจัดอบรมให้ความรู้ในเรื่องการอนุรักษ์สัตว์น้ำ ประโยชน์ของ สัตว์น้ำและองค์ประกอบของการกระทําที่เป็นความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงการกระทําที่ละเมิด ต่อกฎหมาย โดยมีกฎกติกาชุมชนในการจับสัตว์น้ำและการเฝ้าระวังออกตรวจลาดตระเวนการทําประมงผิดกฎหมาย ภาครัฐต้องกําหนดนโยบายที่ชัดเจนในการจัดการปลูกจิตสํานึกให้ชาวประมงตระหนักถึงความสําคัญของการอนุรักษ์ สัตว์น้ำ ประชาสัมพันธ์ข่าวสารและมาตรการอนุรักษ์ผ่านกลุ่มอาสาสมัคร นอกจากนี้กระบวนการมีส่วนร่วมทําให้เกิด ทักษะความรู้ ความเข้าใจ เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของ นําไปสู่การพัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งมากขึ้น 17

การส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม/ CIRCULAR ECONOMY (การเพิ่มรายได้หมุนเวียนให้แก่ชุมชน) ส่งเสริมและอนุรักษ์ป่าชายเลนของชุมชน ให้เป็นพื้นที่เรียนรู้เชิงอนุรักษ์ของตําบลคลองฉนาก อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาพที่ 17 การทำมาหากิน • ด้านอนุรักษ์สภาพแวดล้อมป่าชายเลน เช่น ประชาชน หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานภาค เอกชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ป่าชายเลน ประชาชนส่วนใหญ่ในชุมชนให้ความร่วมมือในกิจกรรมการ อนุรักษ์ป่าชายเลนที่หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานภาคเอกชนเป็นผู้จัดขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความ รู้สึกรักและหวงแหนทรัพยากรในท้องถิ่นของประชาชนในชุมชน มีจิตสาธารณะในการเสียสละเวลา เพื่ อมาเข้าร่วมกิจกรรมของส่วนรวมมีความสามัคคีในการทํางานร่วมกันเป็นกลุ่ม การส่งเสริมบทบาท ของประชาชนในเรื่องการอนุรักษ์ป่าชายเลน โดยกระตุ้นให้ประชาชนในพื้ นที่มีความรู้สึกว่าตนเองเป็น เจ้าของและเป็นผู้ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในบ้านของตนเอง ปลูกฝังสร้างจิตสํานึกและ ส ร้ า ง ค ว า ม เ ข้ า ใ จ 18

ภาพที่ 18 หลวงพ่อแบน แห่งวัดแหลมทอง สถานที่ท่องเที่ยว วัดแหลมทอง วัดแหลมทอง ตั้งเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2460 นายชู – นายปรอด ชัยชนะ ได้บริจาคที่ดินให้ สร้างวัด โดยได้สร้างเป็นสำนักสงฆ์ชื่อว่า “สำนักสงฆ์แหลมโทง” เนื่องจากเป็นแหลมทรายมีปลางโทงขึ้นมา กินดอกข้าวลอยมาติสันทรานี้เป็นอย่างมากมาย ในปี พ.ศ. 2492 จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดแหลมทอง” ได้รับ พระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2499 การบริหารและการปกครอง มีพระสมุห์หนู อมร ทตฺโต พ.ศ. 2542 – ปัจจุบัน เป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อแบน แห่งวัดแหลมทอง ประวัติของท่านเกิดที่หมู่บ้านไผ่ หมู่ที่ 5 วันที่ 11 สิงหาคม 2435 บิดาชื่อ นาย แก้ว มารดาชื่อ นางเมี้ยน มีพี่น้องร่วมมารดา 1 คน คือ นางศรี มาหอม เมื่อตอนเด็ก ท่านได้ศึกษาความรู้ภาษาไทยใน สำนักของพระอธิการยึด เจ้าอาวาสวัดพรหม ศึกษาโหราศาสตร์ในสำนักของนายพรัด ศึกษาวิชาหมอต่อกระดูกจาก นายดี รักษ์สุข เมื่ออายุได้ 25 ปี ท่านก็ได้อุปสมบท ที่วัดพระพรหม โดยมีพระครูยุตตโกศยติกิจ อดีตเจ้าคณะอำเภอ ท่าฉาง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูรัตนวิมล อดีตเจ้าคณะตำบลท่าเคย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการช่วย (รัตน วิจิตร) อดีตเจ้าอาวาสพระพรหม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา “ธัมมรโต” ด้วยความมุ่งมั่นในพระธรรม หลวง พ่อแบน ท่านตั้งใจศึกษา รวมทั้งศึกษาพระเวท จนกระทั่งได้รับการไว้วางใจ จากพระครูรัตนวิมลเจ้าคณะตำบลท่าเคย เมื่อถึงเวลาอันสมควร ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระพรหม ต่อมาวัดแหลมทองได้เกิดว่างเว้นเจ้าอาวาส ชาว บ้านผู้มีศรัทธาได้นิมนต์หลวงพ่อแบน มาเป็นเจ้าอาวาส เมื่อพิจารณาแล้ว ทางวัดพระพรหมก็มีความเจริญในทุกด้าน อย่างมั่นคง ท่านจึงตัดสินใจไปเป็นเจ้าอาวาสวัดแหลมทอง ในปี 2475 ครั้นที่ท่านมาอยู่ที่วัดแหลมทอง ชื่อเสียงของ ท่านได้ขจรขจายไปทั่ว ลูกศิษย์ลูกหาทีมีความศรัทธาก็จะไปขอของดีจากท่าน หลวงพ่อเคยกล่าวไว้ว่า “แขวนของกูไว้ ไม่ตายโหง” ของๆท่านลูกศิษย์นำไปใช้แล้ว แคล้วคลาดจริง บางรายประสบอุบัติเหตุเนื้อตัวไม่เป็นไร หลวงท่านไม่ได้ ปลุกเสกของขลังได้เพียงเดียว ท่านยังเป็นหมดยา และหมอกระดูก มีชาวบ้านบางรายที่ป่วย ทางโรงพยาบาลบอกว่า หมดทางรักษา แต่หลวงพ่อท่านได้ช่วยรักษากลับหายจากโรคเป็นปกติ 19

เกาะปราบ @คลองฉนาก สุราษฎร์ธานี ปากแม่น้ำตาปี ยังมีเกาะเล็ก ๆ ที่มีความ สำคัญ ต่อการนำเรือเข้าสู่แม่น้ำตาปี เกาะนั้น คือ เกาะปราบ กองทัพเรือได้จัดสร้าง ประภาคาร ใช้งานตั้งแต่ พ.ศ.2450 เป็นที่ หมายสำหรับเรือขนาดใหญ่ และเรือประมง ทั่วไป ใช้สัญจรเข้า - ออก ปากแม่น้ำตาปี เป็น ประภาคารโครงสร้างเหล็ก มีอาคารที่ทำการ และที่พัก ของข้าราชการและพนักงานดูแล เปิดปิดตะเกียงประภาคาร ต่อมาได้มีการ ปรับปรุงก่อสร้าง เป็นกระโจมคอนกรีต เสริม เหล็ก เมื่อ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2536 สามารถ ส่องแสงสว่างให้เห็นได้ไกล เกาะ ปราบนอกจากจะมีกระโจมไฟแล้วยังมีชื่อ เสียง เกี่ยวกับหอยนางรมมาช้านาน หอย นางรมที่มีขนาดใหญ่และรสชาติอร่อยมาก นำชื่อเสียงมาสู่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จนถึง ทุกวันนี้ และเนื่องจากเกาะปราบอยู่ไม่ห่าง ไกลจากแม่น้ำตาปี มากนัก ผู้คนในตัวเมือง มักนิยมมาเที่ยวชมอยู่เสมอ ภาพที่ 19 เกาะปราบ 20

ผลิตภัณฑ์ ชุมชน ตารางที่ 4 ไทม์ไลน์ผลิตภัณฑ์ชุมชน กลุ่มกะปิบ้านบางหมก ก ะ ปิ บ้ า น บ า ง ห ม ก หมู่ 3 ตำบลคลอง ฉนาก อำเภอเมือง จั ง ห วั ด สุ ร า ษ ฎ ร์ธ า นี 84000 21

ไทม์ไลน์ กระบวนการ กลุ่มกะปิบ้านบางหมก ตารางที่ 5 ไทม์ไลน์กระบวนการ กลุ่มกะปิบ้านบางหมก 22

พื้ น ที่ ตำ บ ล ค ล อ ง ฉ น า ก กิ จกรรมปลู ก ฟ้ า ท ะ ล า ย โ จ ร ภาพที่ 21 กิจกรรมปลูกฟ้าทลายโจร 23

ภาคผนวก วิ ศ ว ก ร สั ง ค ม ตำ บ ล ค ล อ ง ฉ น า ก อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 24

ภาคผนวก 1 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 25

ภาคผนวก 2 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 26

ภาคผนวก 3 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 27

ภาคผนวก 4 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 28

ภาคผนวก 5 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 29

ภาคผนวก 6 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 30

ภาคผนวก 7 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 31

ภาคผนวก 8 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 32

ภาคผนวก 9 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 33

ภาคผนวก 10 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 34

ภาคผนวก 11 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 35

ภาคผนวก 12 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 36

ภาคผนวก 13 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 37

ภาคผนวก 14 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 38

ภาคผนวก 15 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 39

ภาคผนวก 16 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 40

ภาคผนวก 17 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 41

ภาคผนวก 18 วิศวกรสังคมตำบลคลองฉนาก 42

วิศวกรสังคม ตำ บ ล ค ล อ ง ฉ น า ก อำ เ ภ อ เ มื อ ง จั ง ห วั ด สุ ร า ษ ฎ ร์ ธ า นี อ า จ า ร ย์ ที่ ป รึ ก ษ า Advisor บั ณ ฑิ ต จ บ ใ ห ม่ New graduates ประชาชน People นั ก ศึ ก ษ า Student ผู้ นำ ชุ ม ช น Community leader ผู้ มี ส่ ว น ร่ ว ม Contributor ม ห า วิ ท ย า ลั ย ร า ช ภั ฏ สุ ร า ษ ฎ ร์ ธ า นี ( ม ห า วิ ท ย า ลั ย สู่ ตำ บ ล ส ร้า ง ร า ก แ ก้ ว ใ ห้ป ร ะ เ ท ศ ) U2T SURATTHANI RAJABHAT UNIVERSITY โ ค ร ง ก า ร ย ก ร ะ ดั บ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ แ ล ะ สั ง ค ม ร า ย ตำ บ ล แ บ บ บู ร ณ า ก า ร โ ด ย สำ นั ก ง า น ป ลั ด ก ร ะ ท ร ว ง ก า ร อุ ด ม ศึ ก ษ า วิท ย า ศ า ส ต ร์ วิจั ย แ ล ะ น วัต ก ร ร ม 43


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook