แผนจัดการเรียนรู้แบบมุ่งเนน้ ฐานสมรรถนะและบูรณาการ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รหสั 20001-2001 วิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ หลักสตู รประกาศนียบัตรวชิ าชีพ พุทธศักราช 2562 จัดทำโดย นางสาวสุธาสนิ ี สฤี ทธิ์ แผนกวิชา คอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ วทิ ยาลยั เทคนคิ อ่างทอง สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ
แผนจดั การเรียนรู้แบบสมรรถนะอาชีพ รหัส 20001-2001 วิชา คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องาน อาชีพ ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564
จดั ทำโดย นางสาวสธุ าสนิ ี สีฤทธ์ิ วุฒิ เทคโนโลยีบณั ฑิต (เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์อตุ สาหกรรม)
คำนำ แผนจัดการเรียนรู้วิชา 20001-2001 การคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพนี้จัดทำ ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการเรียน การสอนในรายวิชาดังก ล่าว ตามหลักสตู รประกาศนยี บตั รวิชาชพี พทุ ธศักราช 2562 โดยจดั แบง่ หน่วยการเรียนออกเป็น 9 หน่วย ใช้ เวลาการเรียนการสอนทั้งสิ้น 54 คาบ แต่ละหน่วยได้กำหนดหัวข้อการเรียนรู้ วัตถุประสงค์การเรียน สมรรถนะในการเรยี นรู้ และกจิ กรรมการเรียนรู้ โดยใชก้ ารบรรยายประกอบการสาธิต และการแบ่งกลมุ่ ทำ กิจกรรมตามงานที่มอบหมาย เพื่อให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนทั้งในด้านการแสดงความคิดเห็น การ นำเสนอ และการทำงานร่วมกนั ผู้จัดทำหวังว่าแผนการสอนนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอน และก่อให้เกิด ผลสัมฤทธ์ิที่ดีต่อการเรียนของนักเรียน รวมไปถึงเป็นแนวทางปรับปรุงการเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้น ในโอกาสต่อไป นางสาวสุธาสินี สีฤทธิ์
แผนการสอน/แผนจดั การเรียนรู้ หลักสตู ร ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ พทุ ธศักราช 2556 รหสั วิชา 20001-2001 ชื่อวชิ า คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพือ่ งานอาชพี จำนวน 2 หน่วยกิต เวลาเรียน 3 คาบ/สัปดาห์ ระยะเวลา 18 สัปดาห์ จำนวนคาบเรยี นรวม 54 คาบ จดุ ประสงค์รายวิชา 1. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการใชค้ อมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื งานอาชพี การใช้ ระบบปฏิบตั กิ าร โปรแกรมสำเร็จรูปและอินเทอร์เนต็ เพอ่ื งานอาชพี 2. สามารถใช้ระบบปฏิบตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ โปรแกรมสำเร็จรปู และเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามลักษณะงานอาชพี 3. มีคุณธรรม จรยิ ธรรมและความรบั ผดิ ชอบในการใช้คอมพิวเตอรแ์ ละระบบสารสนเทศ ในงานอาชีพ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกีย่ วกบั หลักการและกระบวนการใช้คอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศ ระบบปฏิบัติการ โปรแกรมสำเรจ็ รปู และอินเทอรเ์ น็ตเพื่องานอาชีพ 2. ใชร้ ะบบปฏิบัตกิ ารในการจดั สภาพแวดลอ้ มและจัดสรรทรัพยากรตา่ ง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์ 3. ใชโ้ ปรแกรมสำเร็จรูปในงานอาชพี ตามลกั ษณะงาน 4. สบื คน้ ข้อมลู สารสนเทศในงานอาชีพโดยใชอ้ นิ เทอร์เน็ต 5. สื่อสารข้อมูลสารสนเทศโดยใช้อนิ เทอร์เนต็ คำอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศเพื่องานอาชีพ การใช้ ระบบปฏบิ ตั กิ าร (Windows หรอื Mac OS) การใช้โปรแกรมประมวลผลคำเพื่อจัดทำเอกสารในงานอาชีพ การใชโ้ ปรแกรมตารางทำการเพอ่ื การคำนวณในงานอาชพี การใชโ้ ปรแกรมการนำเสนอผลงาน หรือการใช้ โปรแกรมสำเรจ็ รูปอื่น ๆ ตามลกั ษณะงานอาชพี การใช้อินเทอร์เนต็ เพื่อสืบคน้ และสอื่ สารข้อมูลสารสนเทศ ในงานอาชีพ ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ จริยธรรมและความรับผิดชอบในการใช้ คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศในงานอาชีพ
รหสั วชิ า 20001-2001 ชือ่ วิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชพี จำนวน 2 หนว่ ยกิต เวลาเรียน 3 คาบ/สัปดาห์ ระยะเวลา 18 สัปดาห์ จำนวนคาบเรียนรวม 54 คาบ สปั ดาห์ท่ี หนว่ ยท่ี ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ จำนวน คาบ 1-2 1 ความร้เู กี่ยวกบั คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศ 6 3-4 2 ระบบปฏบิ ัตกิ าร 6 5-6 3 การใช้งานอนิ เทอร์เน็ต 6 7-8 4 โปรแกรมประมวลผลคำ 6 9-11 5 การประยกุ ตใ์ ช้งาน Microsoft Word 9 12-13 6 โปรแกรมตารางทำการ 6 14-15 7 การคำนวณคา่ และสร้างแผนภมู ิใน Excel 6 16-17 8 โปรแกรมนำเสนองาน 6 18 9 จริยธรรมและความรบั ผดิ ชอบในการใช้คอมพวิ เตอร์ 3 54 รวม
ตารางวิเคราะห์สมรรถนะรายวชิ า วิชา 20001-2001 คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ (Computer and Information for Careers) หลกั สูตร ประกาศนียบัตรวชิ าชีพชนั้ (ปวช.) พทุ ธศักราช 2562 สมรรถนะรายวชิ า แสดงความ ู้รเ ่ีกยว ักบหลักการและกระบวนการใช้ หนว่ ยการเรยี น คอมพิวเตอ ์ร ระบบสารสนเทศ ระบบปฏิบั ิตการ โปรแกรมสำเ ็รจ ูรป และ ิอนเทอ ์รเ ็นตเพ่ืองานอาชีพ ใช้ระบบปฏิบั ิตการในการ ัจดสภาพแวดล้อมและ ัจดสรรท ัรพยากร ่ตาง ๆ บนเค ่ืรองคอมพิวเตอ ์ร ใช้โปรแกรมสำเ ็รจ ูรปในงานอาชีพตามลักษณะงาน สืบค้นข้อ ูมลสารสนเทศในงานอาชีพ โดยใช้ ิอนเทอ ์รเ ็นต ่ืสอสารข้อ ูมลสารสนเทศโดยใช้ ิอนเทอ ์รเ ็นต 1 ความร้เู ก่ียวกับคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ √√ 2 ระบบปฏิบตั ิการ √√ √ 3 การใช้งานอนิ เทอร์เนต็ √ √√ 4 โปรแกรมประมวลผลคำ √ √√√ 5 การประยุกต์ใช้งาน Microsoft Word √ √√√ 6 โปรแกรมตารางทำการ √ √√√ 7 การคำนวณคา่ และสรา้ งแผนภมู ิใน Excel √ √√√ 8 โปรแกรมนำเสนองาน √ √√√ 9 จริยธรรมและความรบั ผดิ ชอบ √ √√√ ในการใช้คอมพิวเตอร์
ตารางวเิ คราะห์ระดับพฤติกรรมการเรยี นรู้ รหัสวิชา 20001-2001 ชอ่ื วิชา คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชพี จำนวน 2 หนว่ ยกิต เวลาเรยี น 3 คาบ/สปั ดาห์ ระยะเวลา 18 สัปดาห์ จำนวนคาบเรียนรวม 54 คาบ ชื่อหนว่ ยการเรียน ระดบั พฤตกิ รรมท่ีพึงประสงค์ 1. ความรเู้ กยี่ วกบั คอมพิวเตอร์และ พทุ ธพิ สิ ัย ทักษะพิสัย จติ พิสยั สารสนเทศ 1234561234512345 2. ระบบปฏบิ ตั กิ าร 3. การใชง้ านอินเทอร์เนต็ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ 4. โปรแกรมประมวลผลคำ 5. การประยุกต์ใช้งาน Microsoft ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ Word ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ 6. โปรแกรมตารางทำการ 7. การคำนวณค่าและสร้างแผนภูมิ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ ใน Excel ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ 8. โปรแกรมนำเสนองาน ✓✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ 9. จรยิ ธรรมและความรบั ผิดชอบ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ ในการใช้คอมพวิ เตอร์ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓✓ หมายเหตุ 2 = ความเข้าใจ 3 = การนำไปใช้ 5 = การสังเคราะห์ 6 = การประเมนิ คา่ พทุ ธิพิสยั 1 = ความรคู้ วามจำ 4 = การวเิ คราะห์ 2 = กระทำตามแบบ 3 = ความถูกต้องตามแบบ ทกั ษะพสิ ัย 1 = การเลียนแบบ 5 = กระทำจนเคยชนิ และเป็นไปตามธรรมชาติ 4 = กระทำอย่างตอ่ เนอ่ื ง 2 = การตอบสนอง 3 = การเกิดค่านิยม จิตพสิ ัย 1 = การรบั ร้หู รอื การยอมรับ 4 = การจัดรวบรวม 5 = การสร้างลักษณะนิสยั ตามค่านิยมท่ยี ึดถือ
รหัสวิชา 20001-2001 ช่อื วชิ า คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ จำนวน 2 หน่วยกิต เวลาเรยี น 3 คาบ/สัปดาห์ ระยะเวลา 18 สปั ดาห์ จำนวนคาบเรียนรวม 54 คาบ ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ สมรรถนะประจำหน่วย 1. ความรเู้ กีย่ วกบั คอมพิวเตอร์ มีความรเู้ ก่ยี วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศ และสารสนเทศ 2. ระบบปฏิบัติการ ปรับแตง่ สภาพแวดล้อมและจดั การไฟล์-โฟลเดอร์ ในระบบปฏบิ ตั กิ ารวินโดวส์ 10 3. การใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ สบื ค้นข้อมลู และใช้งานไปรษณยี ์เล็กทรอนิกส์ บนระบบอนิ เทอร์เนต็ 4. โปรแกรมประมวลผลคำ ใชโ้ ปรแกรม Word สร้างงานเอกสารในระดบั ต้น 5. การประยุกตใ์ ช้งาน Microsoft Word ประยุกตใ์ ช้ Microsoft Word ในการสร้างเอกสารตา่ ง ๆ 6. โปรแกรมตารางทำการ ใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel ในระดับพ้ืนฐาน 7. การคำนวณค่าและสรา้ งแผนภูมิ ใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel ในการคำนวณค่า ใน Excel และสร้างแผนภมู ิ 8. โปรแกรมนำเสนองาน สร้างงานนำเสนอด้วยโปรแกรม Microsoft PowerPoint 9. จริยธรรมและความรับผดิ ชอบ มีความรู้ จริยธรรม และตระหนกั ถงึ ความรับผิดชอบ ในการใชค้ อมพวิ เตอร์ ในการใช้งานคอมพวิ เตอร์
แผนการสอน/แผนจดั การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1 วชิ า 20001-2001 คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ สัปดาห์ที่ 1-2 ชอ่ื หนว่ ย ความรู้เกย่ี วกบั คอมพิวเตอร์และสารสนเทศ รวม 6 คาบ ชอื่ เรื่อง สาระสำคัญ คอมพวิ เตอร์ คอื เครอ่ื งมือหรือเครอ่ื งจักรที่ประกอบขนึ้ จากอุปกรณอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์ โดยสามารถนำ ข้อมูลมาประมวลผลเพือ่ ให้ได้ผลลพั ธท์ ี่ต้องการอยา่ งรวดเร็ว และเป็นอตั โนมตั ิ โดยทำงานตามขั้นตอนของ โปรแกรมสั่งงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ส่วนสารสนเทศ คือข้อมูลสรุปที่เกิดจากการประมวลผลของ คอมพวิ เตอรซ์ ึง่ สามารถนำไปใชป้ ระโยชน์ได้ หวั ขอ้ การเรียนรู้ 1. ความหมายของคอมพิวเตอร์ 2. ประเภทของคอมพิวเตอร์ 3. ปจั จัยในการใชง้ านคอมพวิ เตอร์ 4. ความรพู้ ืน้ ฐานในการใช้คอมพวิ เตอร์ 5. เทคโนโลยีสารสนเทศ สมรรถนะอาชพี ท่พี งึ ประสงค์ มีความรู้เกยี่ วกบั คอมพิวเตอร์และสารสนเทศ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงคท์ ่ัวไป เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งในด้านความหมาย การแบ่งประเภท และความรพู้ ้นื ฐานต่าง ๆ ในการใชง้ านและบำรงุ รกั ษาคอมพวิ เตอร์ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. บอกความหมายของคอมพิวเตอรไ์ ด้ 2. บอกลกั ษณะของคอมพิวเตอรแ์ ต่ละประเภทไดอ้ ย่างถกู ต้อง 3. บอกปจั จัยในการใชค้ อมพิวเตอรไ์ ด้ 4. แสดงความรพู้ ืน้ ฐานในการใช้คอมพวิ เตอร์ 5. บอกความแตกตา่ งระหวา่ งขอ้ มูลกบั สารสนเทศได้ การบูรณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 1) ความพอประมาณ : ตรวจความพรอ้ มของเคร่อื งคอมพวิ เตอรก์ ่อนเรยี น และปดิ เครอ่ื ง เก็บเกา้ อน้ี ั่งให้เรยี บรอ้ ยหลงั เลกิ เรยี น เพ่อื ความเรยี บร้อยและประหยัด 2) การมเี หตุผล : รบั ฟังความคิดเหน็ และวิเคราะห์ วจิ ารณอ์ ยา่ งมเี หตผุ ล 3) การมภี ูมคิ ุ้มกนั ในตวั เอง : ฝกึ การค้นคว้าหาความรู้จากเพอ่ื น และระบบอินเทอร์เน็ต เพอ่ื แก้ปัญหาในแบบฝึกปฏิบัติ และใบงาน 4) สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของคอมพวิ เตอร์
1.1 ความหมายของคอมพวิ เตอร์ 1.2 กระบวนการทำงานของคอมพวิ เตอร์ 2. ประเภทของคอมพวิ เตอร์ 2.1 ซเู ปอรค์ อมพวิ เตอร์ (Supercomputer) 2.2 เมนเฟรม (Mainframe) 2.3 มนิ คิ อมพวิ เตอร์ (Minicomputer) 2.4 ไมโครคอมพวิ เตอร์ (Microcomputer) 1) เครอ่ื งแบบต้ังโตะ๊ (Desktop Computer) 2) โนต้ บุก๊ (Notebook Computer) 3) แท็บเล็ต (Tablet) 4) สมารท์ โฟน (Smartphone) 3. ปัจจัยในการใชง้ านคอมพวิ เตอร์ 3.1 ฮาร์ดแวร์ (Hardware) 1) อุปกรณ์ภายในตัวเคร่อื ง (System Unit) 2) อุปกรณร์ ับข้อมลู (Input Device) 3) อปุ กรณแ์ สดงผล (Output Device) 4) อุปกรณ์บันทกึ ขอ้ มลู (Storage Device) 3.2 ซอฟตแ์ วร์ (Software) 1) ซอฟต์แวรร์ ะบบ (System Software) 2) ซอฟต์แวร์ใช้งาน (Applications) 3.3 พีเพลิ แวร์ (People ware) 1) นักวเิ คราะห์ระบบ 2) โปรแกรมเมอร์ 3) ผู้ดูแลระบบ 4) ผู้ใช้งาน 4. ความรพู้ ้นื ฐานในการใช้คอมพิวเตอร์ 4.1 การติดตงั้ เคร่ือง 4.2 การบำรงุ รกั ษาเครื่อง 4.3 ช่องต่ออุปกรณภ์ ายนอก (Port) 5. เทคโนโลยีสารสนเทศ 5.1 ความหมายของสารสนเทศ 5.2 ตัวอยา่ งสารสนเทศ 5.3 ขอ้ มลู ทจี่ ัดเกบ็ เปน็ สารสนเทศ 5.4 เทคโนโลยีด้านการสื่อสารและคอมพิวเตอร์ เครอ่ื งมอื และแหลง่ เรียนรู้ 1. หนงั สือประกอบการเรียน วิชาคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพือ่ งานอาชพี 2. เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ 3. เครอ่ื งฉายภาพ
4. เวบ็ ความร้รู ายวิชาท่ี gg.gg/sk-intro 5. Facebook การเตรียมความพรอ้ มในการเรยี น 1. ครูผู้สอนบอกจุดประสงค์ของการเรียนในรายวิชา และรายละเอียดของคำอธิบายรายวิชาใน หลักสูตร การแบ่งสัดส่วนคะแนน การวัดผลและการประเมินผลการเรียน รวมทั้งข้อตกลงและ ข้อปฏบิ ัตใิ นการใชห้ อ้ งเรยี นคอมพิวเตอร์ 2. ให้นักเรียนจัดกลุ่มเรียนกลุ่มตามความสมัครใจกลุ่มละไม่เกิน 4 คน โดยจัดให้นั่งใกล้กันเพื่อ ชว่ ยเหลือและทำกจิ กรรมรว่ มกัน 3. ผู้เรียนแตล่ ะกลมุ่ ทีน่ ่ังใกลก้ ันจะจัดรวมกนั เปน็ ทมี คอื ทีม A และทีม B ซ่ึงแต่ละทีมจะมีกลมุ่ ย่อย 4 กลุ่มเป็น A1, A2, A3, A4 และ B1, B2, B3, B4 ตามลำดับ โดยแต่ละกลุ่มที่อยู่ในทีมเดียวกัน สามารถให้คำแนะนำและช่วยเหลือกันได้ แต่ไม่อนุญาตช่วยเหลือข้ามทีม จากนั้นให้แต่ละทีมเลือก หัวหน้าทมี ของตนเองเพอ่ื ช่วยบริหารจดั การภายในทมี 4. ให้นักเรียนเข้ากลุ่มเฟซบุ๊ก (Facebook Group) ประจำรายวิชา เพื่อติดต่อสื่อสารและแจ้ง ขา่ วสารการทำกิจกรรมตา่ ง ๆ 6. ครูผู้สอนแนะนำแหล่งเรียนรู้ทีส่ ามารถใช้ค้นหาข้อมูล ทง้ั เว็บเรียนรแู้ ละเพจความรู้ท่ีจัดทำ ผ่าน กลมุ่ เฟซบ๊กุ กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ใหผ้ เู้ รยี นแต่ละทีม แบง่ กลมุ่ ศึกษาคน้ ควา้ ในหัวข้อตอ่ ไปน้ี 1.1 ความหมายองคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ 1.2 กระบวนการทำงานของคอมพวิ เตอร์ 1.3 ประเภทของคอมพิวเตอร์ และความแตกต่างของคอมพิวเตอร์แต่ละประเภท 1.4 ฮารด์ แวรข์ องคอมพิวเตอร์ 1.5 ซอฟต์แวรค์ อมพิวเตอร์ 1.6 การตดิ ต้ังและบำรงุ รกั ษาเครื่องคอมพวิ เตอร์ 1.7 ช่องต่ออุปกรณภ์ ายนอกทางด้านหลังตวั เครือ่ ง 1.8 ความแตกตา่ งระหวา่ งขอ้ มูลกับสารสนเทศ 2. ตั้งคำถามในแต่ละหัวข้อ แล้วให้แต่ละทีมส่งตัวแทนกลุ่มที่รับผิดชอบหัวข้อดังกล่าว มาตอบคำถาม จากนั้นให้คะแนนกับกลุ่มท่ีตอบคำถามไดถ้ กู ตอ้ ง 3. ผูส้ อนขยายความรจู้ ากคำถามในแตล่ ะหวั ข้อ เพ่อื ให้ผู้เรียนไดเ้ ขา้ ใจอย่างถูกตอ้ ง 4. ผ้เู รยี นปฏิบตั ิกจิ กรรมตามหนังสือประกอบการเรียน 5. ผู้เรยี นตอบคำถามท้ายบทเรียนในหนังสือประกอบการเรยี น แล้วสรปุ คำตอบร่วมกนั 6. ใหผ้ ู้เรียนทำแบบทดสอบทา้ ยบทเรยี น หลกั ฐานการเรยี นรู้ 1. ข้อมูลการทำกิจกรรมการเรียนรู้ 2. คะแนนที่ไดจ้ ากการทำแบบทดสอบ การประเมนิ ผลการเรียนรู้
1. การสงั เกตพฤตกิ รรมระหวา่ งเรียน 2. การตรวจสอบความรู้โดยใช้คำถาม 3. การประเมินความรจู้ ากแบบทดสอบทา้ ยบทเรยี น กจิ กรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย การค้นหาความรู้และตอบคำถาม เอกสารอา้ งอิง หนังสือประกอบการเรียนวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ รหัส 20001-2001 เรยี บเรียงโดย โกมล ศริ สิ มบูรณเ์ วช สำนักพมิ พ์ศูนย์ส่งเสรมิ อาชีวะ
แผนการสอน/แผนจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 2 สัปดาห์ที่ 3-4 วิชา 20001-2001 คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพือ่ งานอาชพี ช่อื หน่วย ระบบปฏิบัติการ รวม 6 คาบ ชอื่ เรอ่ื ง สาระสำคัญ ระบบปฏิบัติการ (Operating System) คือ ซอฟต์แวร์ที่ต้องติดตั้งไว้ภายในเครื่องเสมอเพ่ือให้ เครื่องสามารถทำงานได้ โดยเป็นส่วนเชื่อมตอ่ ระหว่างผู้ใช้กับอุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ต่าง ๆ และเป็นฐานให้ โปรแกรมอนื่ ๆ มาทำงาน รวมทง้ั จัดการไฟลแ์ ละสภาพแวดล้อมต่าง ๆในการใช้งาน หวั ขอ้ การเรียนรู้ 1. ความรู้เก่ียวกับระบบปฏบิ ตั ิการ 2. ระบบปฏบิ ตั ิการไมโครซอฟต์วนิ โดวส์ 3. หน้าจอหลักของระบบปฏบิ ัติการวินโดวส์ 4. การปรบั แตง่ หน้าจอภาพ 5. การปรบั แต่งสภาพแวดลอ้ มทว่ั ไป 6. การจดั การไฟล์และโฟลเดอร์ สมรรถนะอาชพี ทพ่ี งึ ประสงค์ ปรับแตง่ สภาพแวดล้อม และจัดการไฟล์-โฟลเดอร์ ในระบบปฏบิ ตั ิการวนิ โดวส์ 10 จุดประสงค์การเรียนรู้ จดุ ประสงคท์ ่ัวไป เพื่อให้มีความรู้เก่ียวกับระบบปฏบิ ัติการและสามารถปรับแต่งและใชง้ านระบบปฏิบัติการวนิ โดวส์ ไดอ้ ย่างถูกต้อง จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 6. บอกความหมายและหน้าที่ของระบบปฏบิ ัตกิ ารไดอ้ ย่างถกู ต้อง 7. เปรยี บเทียบรุน่ และลิขสิทธิ์ของระบบปฏบิ ตั กิ ารวนิ โดวสไ์ ด้ 8. บอกสว่ นประกอบบนหน้าจอหลักของระบบปฏบิ ตั ิการวินโดวส์ได้ 9. ปรบั แตง่ หนา้ จอภาพของระบบปฏบิ ัติการวนิ โดวส์ได้ 10. ปรับแตง่ สภาพแวดล้อมตา่ ง ๆ ในวนิ โดวส์ได้ 11. จดั การไฟล์และโฟลเดอรโ์ ดยใชร้ ะบบปฏิบัตกิ ารวินโดวสไ์ ด้ การบรู ณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 5) ความพอประมาณ : ตรวจความพร้อมของเครอ่ื งคอมพวิ เตอรก์ อ่ นเรียน และปิดเครือ่ ง เกบ็ เกา้ อนี้ ่งั ให้เรียบรอ้ ยหลังเลกิ เรยี น เพอื่ ความเรียบรอ้ ยและประหยัด 6) การมเี หตุผล : รบั ฟงั ความคิดเห็น และวเิ คราะห์ วจิ ารณ์อยา่ งมีเหตผุ ล
7) การมีภูมิคุ้มกนั ในตัวเอง : ฝึกการคน้ ควา้ หาความร้จู ากเพอื่ น และระบบอนิ เทอรเ์ นต็ เพ่ือแกป้ ัญหาในแบบฝกึ ปฏิบัติ และใบงาน สาระการเรียนรู้ 6. ความร้เู กีย่ วกับระบบปฏบิ ัติการ 1.3 ระบบปฏิบตั กิ ารคอื อะไร 1.4 ความจำเปน็ ของระบบปฏบิ ัตกิ าร 1.5 ประเภทของระบบปฏบิ ตั ิการ 7. ระบบปฏบิ ตั ิการไมโครซอฟตว์ นิ โดวส์ 2.5 ระบบปฏิบตั กิ ารวินโดวส์ในเวอรช์ นั ตา่ ง ๆ 2.6 การตรวจสอบเวอร์ชนั ของระบบปฏิบตั กิ ารที่ใชง้ าน 2.7 ชนดิ ของลิขสิทธิใ์ นการใชง้ าน 2.8 ฮารด์ แวรท์ เี่ หมาะสมกบั การใช้งานวินโดวส์ 2.9 ส่วนประกอบบนหน้าจอหลักของวนิ โดวส์ 8. การปรบั แตง่ หนา้ จอภาพ 3.1 การจัดการไอคอน 3.2 การปรบั แต่งความละเอียดในการแสดงผล (Resolution) 3.3 การปรับภาพด้านหลงั (Background) 3.4 การปรับแตง่ การพกั หน้าจอ (Screen Saver) 9. การปรับแตง่ สภาพแวดลอ้ มทว่ั ไป 4.4 การปรับแต่งวันทแี่ ละเวลา 4.5 การปรบั ระดบั ความดงั ของเสยี ง 4.6 การสร้าง Shortcut บนหน้าจอภาพ 4.7 การใชง้ านปุม่ Start และการปิดเครอื่ ง 10. การจัดการไฟลแ์ ละโฟล์เดอร์ 5.1 การสรา้ งไฟล์และโฟลเดอร์ 5.2 การแสดงรายการไฟล์ 5.3 การค้นหาไฟล์ 5.4 การเลือกไฟล์และโฟลเดอร์ 5.5 การคัดลอก ย้าย หรอื ลบไฟล์-โฟลเดอร์ เครอ่ื งมือและแหล่งเรยี นรู้ 7. หนังสือประกอบการเรียน วิชาคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชพี 8. เครื่องคอมพิวเตอร์ 9. เครื่องฉายภาพ 10. เวบ็ ความรู้รายวิชาที่ gg.gg/sk-intro 11. Kahoot กิจกรรมการเรียนรู้
7. ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าความรู้ เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (หัวข้อที่ 1) และระบบปฏิบัติการ ไมโครซอฟต์วินโดวส์ (หวั ข้อที่ 2) จากหนงั สอื ประกอบการเรียนและวดิ โี อบน YouTube 8. ผ้เู รยี นเลน่ เกมตอบคำถามความรใู้ นหัวข้อท่ีคน้ ควา้ โดยใช้ Kahoot 9. ให้หัวหน้าทีมแบ่งงาน ให้แต่ละกลุ่มในทีมไปศึกษาวิธีใช้งานระบบปฏิบัติการ ตามหัวข้อที่ 3 การจัดการหน้าจอภาพ, หัวข้อที่ 4 การปรับแต่งสภาพแวดล้อมทั่วไป และ หวั ข้อท่ี 5 เรอื่ งการจดั การไฟล์โฟลเดอร์ 10. ผู้สอนตั้งเงื่อนไขการจัดการตามหัวข้อย่อยต่าง ๆ แล้วสลับให้ผู้เรียนแต่ละทีมออกมา สาธติ ใหเ้ พือ่ นกลุม่ อืน่ ดู โดยผู้สอนช่วยสรปุ และอธบิ ายเพมิ่ เติม 11. ใหผ้ เู้ รยี นตอบคำถามทา้ ยบทเรียน ผสู้ อนและผ้เู รยี นช่วยกันสรปุ คำตอบ 12. ผู้เรยี นทำแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรยี น หลักฐานการเรียนรู้ 3. คะแนนการทำกิจกรรมการเรยี นรู้ 4. คะแนนจากแบบทดสอบ การประเมินผลการเรียนรู้ 4. การสงั เกตพฤติกรรมระหว่างเรยี น 5. การตรวจสอบความรู้โดยใช้คำถาม 6. การประเมินความรจู้ ากแบบทดสอบทา้ ยบทเรียน กจิ กรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย การใชเ้ กมตอบคำถามบน Kahoot เอกสารอ้างอิง หนังสือประกอบการเรียนวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ รหัส 20001-2001 เรียบเรียงโดย โกมล ศริ สิ มบูรณเ์ วช สำนักพิมพ์ศนู ย์ส่งเสริมอาชีวะ
แผนการสอน/แผนจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 3 สัปดาห์ท่ี 5-6 วิชา 20001-2001 คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ ชอื่ หน่วย การใชง้ านอินเทอรเ์ นต็ รวม 6 คาบ ชอื่ เรือ่ ง สาระสำคัญ อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ ระบบเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทุก เครือ่ งสามารถเผยแพรแ่ ลกเปล่ยี นข้อมลู และส่ือสารถงึ กันได้ตลอดเวลาดว้ ยความรวดเรว็ และมบี รกิ ารต่าง ๆ ให้ผู้ใช้สามารถนำไปใช้ได้อย่างมากมาย ซึ่งมีประโยชน์ต่อการค้นคว้าหาข้อมูลและการติดต่อสื่อสาร ระหว่างกัน หวั ขอ้ การเรียนรู้ 6. ความร้ทู วั่ ไปเกี่ยวกับอินเทอรเ์ นต็ 7. บรกิ ารในระบบอินเทอร์เน็ต 8. การคน้ หาขอ้ มลู ในอนิ เทอรเ์ น็ต 9. การใชง้ านไปรษณีย์อิเลก็ ทรอนิกส์ได้ 10.โปรแกรมใชง้ านและติดตอ่ สื่อสารในอนิ เทอรเ์ นต็ สมรรถนะอาชีพท่ีพึงประสงค์ สืบคน้ ขอ้ มูลและใช้งานไปรษณยี ์เลก็ ทรอนิกส์บนระบบอนิ เทอรเ์ น็ต จุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงค์ทั่วไป เพ่อื ใหม้ ีความรู้เก่ยี วกับระบบอนิ เทอร์เน็ต และสามารถคน้ หาข้อมูลและใช้ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ บนอนิ เทอร์เนต็ ได้ จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 12.แสดงความร้เู กี่ยวกับอินเทอรเ์ นต็ 13.บอกชื่อบริการตา่ ง ๆ ในอนิ เทอร์เนต็ ได้ 14.สามารถค้นหาขอ้ มูลในอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ 15.สามารถใชง้ านไปรษณยี อ์ ิเล็กทรอนกิ ส์ได้ 16.บอกชื่อและลักษณะของโปรแกรมตดิ ตอ่ สอื่ สารในอินเทอร์เนต็ ได้ การบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 8) ความพอประมาณ : ตรวจความพรอ้ มของเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ก่อนเรียน และปิดเคร่ือง เกบ็ เก้าอ้ีนง่ั ใหเ้ รยี บร้อยหลังเลิกเรียน เพือ่ ความเรยี บรอ้ ยและประหยดั 9) การมีเหตุผล : รบั ฟงั ความคิดเห็น และวิเคราะห์ วิจารณอ์ ยา่ งมีเหตุผล
10) กา รมีภูมคิ ุ้มกนั ในตวั เอง : ฝึกการคน้ คว้าหาความรู้จากเพอ่ื น และระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อแกป้ ัญหาในแบบฝึกปฏิบตั ิ และใบงาน สาระการเรียนรู้ 11. ความร้เู กยี่ วกับระบบอินเทอร์เน็ต 1.6 อินเทอรเ์ น็ตคอื อะไร 1.7 โปรโตคอลการติดต่อในระบบอินเทอรเ์ นต็ 1.8 โดเมนเนม 1.9 ลักษณะการเชื่อมตอ่ อนิ เทอรเ์ นต็ 12. บรกิ ารบนอินเทอรเ์ นต็ 2.10 บริการเผยแพร่ขอ้ มูลข่าวสารด้วย (WWW) 2.11 บรกิ ารไปรษณีย์อิเล็กทรอนกิ ส์ (E-Mail) 2.12 บริการโอนยา้ ยข้อมลู (FTP) 2.13 บรกิ ารกระดานข่าวสาร (Web Board) 2.14 บริการสนทนาออนไลน์ (Chat) 13. การคน้ หาขอ้ มูลในอนิ เทอร์เนต็ 4.8 บรกิ ารค้นหาขอ้ มูลบนอินเทอรเ์ น็ต 4.9 เวบ็ ไซด์ที่ใหบ้ ริการค้นขอ้ มลู ในอนิ เทอร์เนต็ 14. การใชง้ านไปรษณยี อ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ 4.1 การสมคั รสมาชกิ 4.2 การใช้งานอเี มล์ 15. โปรแกรมใชง้ านและติดตอ่ สอ่ื สารในอินเทอรเ์ น็ต 5.1Facebook 5.2 Line เครอ่ื งมอื และแหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สือประกอบการเรยี น วิชาคอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพือ่ งานอาชีพ 2. เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ 3. เครอ่ื งฉายภาพ 4. เว็บความรู้รายวชิ าที่ gg.gg/sk-intro 5. Jeopardylabs 6. Google Site กิจกรรมการเรยี นรู้ 13. ใหผ้ ู้เรยี นแต่ละทีมแบง่ เน้ือหาจากหนงั สือประกอบการเรยี นใหผ้ ู้เรียนแตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษา 14. ตัง้ คำถามใหผ้ ู้เรยี นตอบโดยใช้ Jeopardylabs 15. สาธิตวิธีค้นขอ้ มลู และการใชง้ านไปรษณยี อ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ 16. ใหผ้ ูเ้ รยี นทำกิจกรรมการเรียนรู้ท้ายบทเรยี น 17. ใหผ้ เู้ รียนตอบคำถามทา้ ยบท 18. ผู้เรียนทำแบบทดสอบทา้ ยบทเรียน
หลกั ฐานการเรยี นรู้ 5. ข้อมูลการทำกิจกรรมการเรียนรู้ 6. คะแนนทไี่ ด้จากการทำแบบทดสอบ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 7. การสงั เกตพฤติกรรมระหว่างเรยี น 8. การตรวจสอบความรู้โดยใช้คำถาม 9. การประเมนิ ความรจู้ ากแบบทดสอบทา้ ยบทเรยี น กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทีม่ อบหมาย 1. การใชเ้ กมตอบถามดว้ ย Jeopardylabs 2. การสร้างแฟม้ สะสมงานอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-portfolio) เอกสารอา้ งองิ หนังสือประกอบการเรียนวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ รหัส 20001-2001 เรียบเรยี งโดย โกมล ศิริสมบรู ณเ์ วช สำนักพิมพ์ศูนย์สง่ เสรมิ อาชวี ะ
แผนการสอน/แผนจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 4 สัปดาห์ที่ 7-8 วชิ า 20001-2001 คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ รวม 6 คาบ ชอื่ หนว่ ย โปรแกรมประมวลผลคำ ชื่อเรื่อง สาระสำคัญ โปรแกรมประมวลผลคำ (Word Processor) คือโปรแกรมที่ใช้สร้างงานเอกสารแทนเครื่องพิมพ์ดีด นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอีกหลายประการ เช่น การพิมพ์ตัวอักษรในรูปแบบต่าง ๆ การสร้างตาราง การ แทรกรปู ภาพลงในเอกสาร และความสามารถในการการตดั คำ หรอื ตรวจคำผดิ จึงชว่ ยในการสร้างเอกสาร ต่าง ๆ ได้อยา่ งรวดเร็วและมคี ุณภาพ โดยโปรแกรมท่นี ยิ มใช้ไดแ้ ก่ Microsoft Word หัวขอ้ การเรยี นรู้ 11.โปรแกรมประมวลผลคำ 12.แถบริบบอนในโปรแกรม Microsoft Word 13.การปรบั แตง่ ก่อนใช้งาน 14.ทักษะพื้นฐานในการใช้งาน Microsoft Word 15.การพิมพเ์ อกสารทว่ั ไป 16.การพิมพ์เอกสารแบบลำดับหวั ขอ้ 17.การพมิ พเ์ อกสารท่ีเปน็ ตาราง สมรรถนะอาชพี ท่พี ึงประสงค์ ใชโ้ ปรแกรม Word สรา้ งงานเอกสารในระดับตน้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ท่ัวไป เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกบั โปรแกรมประมวลผลคำ และใช้โปรแกรมประมวลผลคำ Microsoft Word ในการสรา้ งงานเอกสารอย่างงา่ ย จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 17.แสดงความรู้เกยี่ วกับโปรแกรมประมวลผลคำ 18.บอกหนา้ ทข่ี องแถบรบิ บอนในโปรแกรม Microsoft Word ไดถ้ กู ตอ้ ง 19.สามารถปรับแต่ง Microsoft Word กอ่ นใช้งาน ได้ 20.มที กั ษะพน้ื ฐานในการใช้งาน Microsoft Word 21.สามารถพิมพเ์ อกสารท่วั ไปดว้ ยวิธีที่ถกู ตอ้ ง 22.พิมพเ์ อกสารทม่ี ลี ำดับหัวขอ้ ได้ 23.พมิ พเ์ อกสารท่ีเป็นตารางได้ การบูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ความพอประมาณ : ตรวจความพรอ้ มของเครอ่ื งคอมพวิ เตอรก์ ่อนเรียน และปิดเคร่ือง เก็บเก้าอน้ี ่ังใหเ้ รียบร้อยหลงั เลกิ เรียน เพ่ือความเรียบรอ้ ยและประหยดั
การมีเหตผุ ล : รบั ฟังความคดิ เหน็ และวเิ คราะห์ วิจารณ์อย่างมเี หตุผล การมภี ูมคิ ุ้มกันในตวั เอง : ฝกึ การคน้ ควา้ หาความรูจ้ ากเพือ่ น และระบบอินเทอรเ์ นต็ เพอื่ แก้ปัญหาในแบบฝกึ ปฏิบตั ิ และใบงาน สาระการเรยี นรู้ 16. โปรแกรมประมวลผลคำ - โปรแกรมประมวลผลคำ คอื อะไร - ส่วนประกอบบนหนา้ จอของโปรแกรม Microsoft Word 17. แถบริบบอนในโปรแกรม Microsoft Word 18. การปรบั แต่งกอ่ นใชง้ าน - การเพมิ่ เครื่องมอื ในแถบเครือ่ งมอื ด่วน - การเพิม่ แถบไมบ้ รรทัด - การเปลี่ยนหน่วยวัดขนาด 19. ทักษะพน้ื ฐานในการใช้งาน Microsoft Word - การต้ังคา่ หน้ากระดาษ (Page Setup) - การเลือกขอ้ ความ - การปรบั แต่งตวั อกั ษร - การจดั ตำแหนง่ ข้อความ - การใชแ้ ถบไมบ้ รรทัดในการจัดพิมพ์ข้อความ - การจัดการกับข้อความ 20. การพิมพ์เอกสารทว่ั ไป - การสรา้ งแฟม้ งานใหม่ - การต้งั ค่าหนา้ กระดาษ - การพิมพ์หัวขอ้ เรือ่ งและเนอ้ื หา - การปรับแต่งเอกสาร - การบนั ทึกแฟม้ งาน 21. การพิมพเ์ อกสารแบบลำดบั หัวขอ้ - การสรา้ งเอกสารทม่ี ีลำดับเลข - การสร้างเอกสารทีเ่ ป็นหวั ขอ้ สัญลักษณ์ 22. การพมิ พเ์ อกสารที่เป็นตาราง - การสร้างตาราง - การปอ้ นขอ้ มูลลงในตาราง - การปรบั แตง่ ตาราง - การสร้างตารางในลักษณะพเิ ศษ เครื่องมือและแหล่งเรยี นรู้ 1. หนงั สือประกอบการเรยี น วชิ าคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชพี 2. เครื่องคอมพวิ เตอร์ 3. เคร่อื งฉายภาพ 4. โปรแกรม Microsoft Word
5. เว็บความร้รู ายวิชาท่ี gg.gg/sk-intro กิจกรรมการเรียนรู้ 19.ผสู้ อนอธบิ ายความรเู้ กย่ี วกับโปรแกรมประมวลผลคำ และสาธติ วิธีการใช้งานโปรแกรม Microsoft Word ในการสรา้ งงานในลกั ษณะตา่ ง ๆ 20.ผเู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ัติตามทลี ะขน้ั ตอน 21.ผู้เรยี นปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนร้ทู ้ายบทเรียน ตามหัวข้อการเรยี นรู้ 22.ผสู้ อนประเมนิ ผลงานของผูเ้ รียนพรอ้ มใหค้ ำแนะนำ 23.ให้ผเู้ รยี นตอบคำถามท้ายบท 24.ผู้เรียนทำแบบทดสอบท้ายบทเรียน หลักฐานการเรยี นรู้ 7. ข้อมลู การทำกิจกรรมการเรยี นรู้ 8. คะแนนทีไ่ ด้จากการทำกิจกรรมการเรียนรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ 10. การสงั เกตพฤติกรรมระหวา่ งเรียน 11. การตรวจสอบความรู้โดยใช้คำถาม 12. การประเมินความรจู้ ากแบบทดสอบทา้ ยบทเรยี น กิจกรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย 1. การพมิ พ์เนื้อหา เรื่อง “ชีวิตของฉันกับเร่อื งเม่ือวนั วาน” 2. การพิมพแ์ บบลำดบั หัวขอ้ โดยใชข้ ้อมลู หลกั สูตรรายวชิ า 3. การพมิ พ์เอกสารทีเ่ ปน็ ตาราง โดยใช้ตัวอย่างแบบประเมินผลการเรียน เอกสารอา้ งอิง หนังสือประกอบการเรียนวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ รหัส 20001-2001 เรยี บเรียงโดย โกมล ศริ ิสมบรู ณ์เวช สำนักพิมพ์ศูนย์สง่ เสรมิ อาชีวะ
แผนการสอน/แผนจดั การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5 สัปดาห์ท่ี 9-11 วิชา 20001-2001 คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชพี รวม 9 คาบ ชื่อหนว่ ย การประยุกตใ์ ช้งาน Microsoft Word ช่ือเรื่อง สาระสำคญั โปรแกรม Microsoft Word สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการสร้างงานเอกสาร ทั้งในส่วนของการ ปรับแต่งใหเ้ อกสารมคี วามสวยงาม และมีเคร่ืองมือที่ช่วยลดเวลาในการทำงานดา้ นเอกสารเช่น การสร้าง หน้าปก, การแทรก Smart Art และการสร้างจดหมายเวียน เป็นต้น ในหน่วยการเรียนนี้จะเป็นการนำ โปรแกรม Microsoft Word มาประยุกต์ใช้ในการสรา้ งงานเอกสารตา่ ง ๆ หวั ขอ้ การเรยี นรู้ 18.การสร้างหน้าปก 19.การแทรกภาพประกอบ 20.การแทรกรูปรา่ งในเอกสาร 21.การแทรก Word Art และ Smart Art 22.การสรา้ งจดหมายเวียน สมรรถนะอาชีพทีพ่ งึ ประสงค์ ประยุกต์ใช้งาน Microsoft Word ในการสร้างเอกสารต่าง ๆ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ จดุ ประสงค์ทั่วไป เพื่อให้มีความรู้และทักษะในการนำเครื่องมือใน Microsoft Word มาประยุกต์ใช้ในการสร้างงาน เอกสารแบบต่าง ๆ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 24.สามารถสร้างหนา้ ปกเอกสารด้วย Microsoft Word ได้ 25.สามารถแทรกและปรบั แต่งภาพประกอบใน Microsoft Word ได้ 26.สามารถแทรกรูปรา่ งในเอกสารได้ 27.สามารถใชง้ าน Word Art และ Smart Art ได้ถกู ตอ้ ง 28.สามารถสร้างจดหมายเวียนใน Microsoft Word ได้ การบูรณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง คว 11) กา ามพอประมาณ : ตรวจความพรอ้ มของเครื่องคอมพวิ เตอร์ก่อนเรียน และปดิ เครือ่ ง เก็บเก้าอีน้ ง่ั ให้เรยี บร้อยหลังเลกิ เรยี น เพ่ือความเรยี บร้อยและประหยัด 12) รมีเหตผุ ล : รบั ฟงั ความคิดเหน็ และวเิ คราะห์ วจิ ารณ์อย่างมีเหตุผล
13) กา รมภี ูมิคุ้มกันในตัวเอง : ฝกึ การคน้ คว้าหาความรู้จากเพ่ือน และระบบอินเทอรเ์ นต็ เพ่อื แก้ปญั หาในแบบฝกึ ปฏิบตั ิ และใบงาน สาระการเรยี นรู้ 23. การสร้างหนา้ ปกรายงาน 1.10 การสร้างขอบหน้าปก 1.11 การแทรกลายนำ้ บนปกรายงาน 24. การแทรกและปรับแตง่ รูปภาพ 2.15 การแทรกรปู ภาพในเอกสาร 2.16 การแทรกรูปร่างในเอกสาร 25. การใชง้ าน Word Art และ Smart Art 4.10 การใช้งาน Word Art 4.11 การใช้งาน Smart Art 26. การสรา้ งจดหมายเวยี น 4.3 การสร้างไฟล์ขอ้ มูลในจดหมายเวียน 4.4 การพมิ พ์เอกสารตวั จดหมาย 4.5 การผนวกไฟลข์ ้อมูลเข้ากบั ตวั จดหมาย 4.6 การแสดงผลลพั ธ์ เคร่ืองมอื และแหล่งเรยี นรู้ 7. หนงั สอื ประกอบการเรยี น วิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพือ่ งานอาชีพ 8. เครื่องคอมพวิ เตอร์ 9. เครือ่ งฉายภาพ 10. โปรแกรม Microsoft Word 11. เว็บความรู้รายวิชาที่ gg.gg/sk-intro กจิ กรรมการเรยี นรู้ 25. ผสู้ อนสาธติ วธิ ีสรา้ งงานด้วยเครือ่ งมือตา่ ง ๆ ในโปรแกรม Microsoft Word 26. ผู้เรยี นฝึกปฏิบตั ิตามทลี ะขั้นตอน 27. ผ้เู รียนปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการเรยี นร้ทู ้ายบทเรียน ตามหวั ข้อการเรยี นรู้ 28. ผู้สอนประเมนิ ผลงานของผเู้ รยี นพร้อมให้คำแนะนำ 29. ใหผ้ เู้ รียนตอบคำถามท้ายบท 30. ผูเ้ รยี นทำแบบทดสอบทา้ ยบทเรยี น
หลกั ฐานการเรียนรู้ 9. ขอ้ มลู การทำกิจกรรมการเรียนรู้ 10.คะแนนท่ีไดจ้ ากการทำกจิ กรรมการเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 13. การสงั เกตพฤตกิ รรมระหว่างเรียน 14. การตรวจสอบความรู้โดยใช้คำถาม 15. การประเมนิ ความรู้จากแบบทดสอบท้ายบทเรียน กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย 1. การสรา้ งเอกสารประกอบบทความ 2. การสรา้ งผังงานโฟลว์ชารต์ 3. การสรา้ งเอกสารในงานอาชพี 4. การสร้างจดหมายเวียน เอกสารอ้างอิง หนังสือประกอบการเรียนวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ รหัส 20001-2001 เรียบเรียงโดย โกมล ศิรสิ มบูรณเ์ วช สำนักพิมพ์ศนู ย์สง่ เสริมอาชวี ะ
แผนการสอน/แผนจัดการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 6 วิชา 20001-2001 คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพ สปั ดาห์ที่ 12-13 ชื่อหนว่ ย โปรแกรมตารางทำการ รวม 6 คาบ ชื่อเร่อื ง สาระสำคัญ โปรแกรมตารางทำการ (Spread Sheet) หรือ โปรแกรมตารางงาน เป็นโปรแกรมที่มีลักษณะเปน็ แผน่ ตารางขนาดใหญ่ทีใ่ ชใ้ นการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพมิ พ์เอกสารท่ีเป็นตาราง ใชเ้ ป็นกระดาษทด ในการคำนวณคา่ หรือสร้างกราฟแผนภูมิตา่ ง ๆ นอกจากนี้ยังมคี วามสามารถในการจัดการข้อมูลไม่ว่าจะ เปน็ การจดั เรียงลำดับ คดั กรอง หรอื สรปุ ผล โดยปจั จบุ นั ทนี่ ยิ มใช้กนั คอื โปรแกรม Microsoft Excel หรือ เรียกสนั้ ๆ วา่ Excel หวั ขอ้ การเรียนรู้ 23.โปรแกรม Microsoft Excel 24.การปอ้ นข้อมลู 25.การลบแทรกและล้างข้อมลู 26.การปรบั แตง่ ข้อมูล 27.การใส่สูตรและฟังก์ชนั สมรรถนะอาชพี ท่พี งึ ประสงค์ ใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel ในระดับพืน้ ฐาน จุดประสงค์การเรียนรู้ จดุ ประสงค์ท่ัวไป เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมตารางงาน และใช้โปรแกรมตารางงาน Microsoft Excel ในการ สรา้ งงาน จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั โปรแกรม Microsoft Excel 2. สามารถปอ้ นข้อมูลในโปรแกรม Excel ด้วยวธิ ีต่าง ๆ อยา่ งถูกต้อง 3. สามารถลบแทรกและลา้ งข้อมลู ในโปรแกรม Excel ได้ 4. สามารถปรับแตง่ ขอ้ มลู ในโปรแกรม Excel ได้ถูกตอ้ ง 5. สามารถใสส่ ูตรและใชฟ้ งั กช์ ันในโปรแกรม Excel ได้อย่างถกู ตอ้ ง การบรู ณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ความพอประมาณ : ตรวจความพร้อมของเคร่ืองคอมพิวเตอรก์ ่อนเรียน และปิดเครอื่ ง เกบ็ เก้าอี้นัง่ ให้เรยี บร้อยหลงั เลิกเรยี น เพอื่ ความเรียบร้อยและประหยัด การมีเหตุผล : รบั ฟงั ความคิดเหน็ และวิเคราะห์ วจิ ารณอ์ ยา่ งมีเหตุผล
การมภี มู คิ ุ้มกันในตวั เอง : ฝึกการค้นควา้ หาความรู้จากเพ่ือน และระบบอินเทอรเ์ นต็ เพ่ือแก้ปัญหาในแบบฝกึ ปฏิบัติ และใบงาน สาระการเรยี นรู้ 27. โปรแกรมตารางทำการ 1.12 ลักษณะของโปรแกรม Microsoft Excel 1.13 ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Excel 1.14 การสรา้ งงานใน Microsoft Excel 28. การปอ้ นข้อมูล 2.17 ปอ้ นโดยวธิ กี ดแปน้ [Enter] 2.18 ปอ้ นโดยวิธเี ติมค่าอัตโนมัติ 2.19 ปอ้ นโดยวิธีกำหนดชว่ งข้อมลู 2.20 การปอ้ นข้อมลู ทม่ี ีค่าซำ้ กนั 29. การเลอื กข้อมลู 4.12 การเลอื กโดยวิธกี ดลากเมาส์ 4.13 การเลอื กขอ้ มูลท้งั แถว 4.14 การเลอื กขอ้ มลู ทัง้ คอลัมน์ 4.15 การเลอื กข้อมลู ทัง้ แผ่นงาน 4.16 การเลอื กขอ้ มูลหลายชอ่ งเซลลท์ ี่ติดกัน โดยใช้แป้น [Shift] 4.17 การเลือกข้อมลู หลายช่องเซลล์ทอ่ี ยหู่ ่างกนั โดยใช้แปน้ [Ctrl] 30. การลบ-แทรก และลา้ งข้อมูล 4.1 การล้างขอ้ มลู 4.2 การลบขอ้ มูล 4.3 การแทรกข้อมูล 31. การปรบั แต่งขอ้ มูล 5.1 การปรับขนาดตัวอักษร 5.2 การจดั ตำแหนง่ ขอ้ ความ 5.3 การผสานและจัดก่ึงกลาง 5.4 การตเี สน้ ตาราง 5.5 การใส่สีพืน้ และสีตัวอกั ษร 5.6 การปรบั ความกวา้ งของคอลัมน์ 5.7 การปรบั ความสูงของแถว 32. การใสส่ ูตรและฟังกช์ ันอยา่ งง่าย 3.1การหาผลรวม 3.2การหาคา่ มากสดุ 3.3การหาค่าน้อยสุด 3.4การหาค่าเฉลย่ี เครอ่ื งมือและแหล่งเรียนรู้
12. หนงั สือประกอบการเรยี น วิชาคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี 13. เคร่ืองคอมพิวเตอร์ 14. เครอื่ งฉายภาพ 15. โปรแกรม Microsoft Excel 16. เว็บความรูร้ ายวิชาท่ี gg.gg/sk-intro กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ผู้สอนอธิบายความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมตารางงาน และสาธิตการใช้งานโปรแกรม Excel ผ่านตวั อยา่ งงานในหนงั สอื ประกอบการเรียน 2. ผู้เรยี นฝกึ ปฏบิ ัติตามทลี ะขนั้ ตอน 3. ผู้เรยี นปฏบิ ัติกิจกรรมการเรยี นรู้ท้ายบทเรยี น ตามหัวข้อการเรียนรู้ 4. ผ้สู อนประเมนิ ผลงานของผเู้ รียนพรอ้ มให้คำแนะนำ 5. ใหผ้ ูเ้ รยี นตอบคำถามทา้ ยบท 6. ผูเ้ รยี นทำแบบทดสอบทา้ ยบทเรียน หลกั ฐานการเรยี นรู้ 11. ข้อมลู การทำกิจกรรมการเรียนรู้ 12. คะแนนที่ได้จากการทำกิจกรรมการเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 16. การสังเกตพฤติกรรมระหว่างเรียน 17. การตรวจสอบความรู้โดยใช้คำถาม 18. การประเมนิ ความรู้จากแบบทดสอบทา้ ยบทเรียน กิจกรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย 1. งานคำนวณยอดขายสนิ ค้า 2. งานคำนวณเงนิ เดอื นพนกั งาน 3. งานคำนวณผลการเรยี น เอกสารอ้างอิง หนังสือประกอบการเรียนวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ รหัส 20001-2001 เรยี บเรียงโดย โกมล ศิรสิ มบรู ณ์เวช สำนกั พมิ พ์ศนู ย์สง่ เสรมิ อาชีวะ
แผนการสอน/แผนจดั การเรยี นรู้ หน่วยที่ 7 วชิ า 20001-2001 คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี สัปดาห์ที่ 14-15 ชือ่ หน่วย การคำนวณค่าและการสร้างแผนภูมิใน Excel รวม 6 คาบ ช่ือเร่อื ง สาระสำคญั ส่วนใหญ่การใช้งานโปรแกรม Microsoft Excel จะใช้ความสามารถในด้านการคำนวณค่า โดยโปรแกรมจะมีฟังก์ชันให้เลือกใช้งานอย่างมากมาย นอกจากนี้ยังสามารใช้ข้อมูลในแผ่นงาน มาสร้างแผนภูมิในรูปแบบต่าง ๆได้อย่างรวดเร็ว และสามารถปรับเปลี่ยนตามค่าข้อมูลในแผ่นงานได้โดย อัตโนมตั ิ หัวข้อการเรียนรู้ 28. การใชส้ ตู ร 29. ฟงั ก์ชันตรวจสอบเง่อื นไข 30. ฟงั ก์ชันนบั จำนวน และฟงั ก์ชันหาผลรวมแบบมเี งื่อนไข 31. การสร้างแผนภมู ิ 32. การพิมพง์ านออกเคร่ืองพิมพ์ 33. การบนั ทึกแผน่ งานใน Excel ใหเ้ ปน็ ไฟล์ PDF สมรรถนะอาชพี ทีพ่ ึงประสงค์ ใช้สูตรและฟงั กช์ ันในการคำนวณ รวมถึงสรา้ งแผนภมู ดิ ว้ ยโปรแกรม Microsoft Excel จุดประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงคท์ ่ัวไป ใช้สูตรและฟังกช์ ันในการคำนวณ และสรา้ งแผนภูมดิ ้วยโปรแกรม Microsoft Excel จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. ใชส้ ูตรคำนวณค่ากับโปรแกรม Microsoft Excel ได้ 2. ใช้ฟงั ก์ชนั ตรวจสอบเงื่อนไขไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 3. ใช้ฟังกช์ ันนบั จำนวนแบบต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 4. ใช้ฟงั กช์ ันหาผลรวมแบบมเี งอื่ นไขไดอ้ ย่างถูกต้อง 5. สรา้ งแผนภมู ดิ ้วยโปรแกรม Excel ได้ 6. บอกรายละเอียดในการพิมพ์งานออกเคร่ืองพิมพ์ในโปรแกรม Excel ได้ 7. สามารถบนั ทึกแผน่ งาน Excel เปน็ ไฟล์ PDF ได้ การบรู ณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ความพอประมาณ : ตรวจความพร้อมของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ก่อนเรยี น และปิดเคร่อื ง เก็บเก้าอ้ีนงั่ ใหเ้ รียบรอ้ ยหลังเลกิ เรียน เพือ่ ความเรียบร้อยและประหยดั การมีเหตุผล : รับฟังความคดิ เห็น และวิเคราะห์ วิจารณอ์ ยา่ งมีเหตุผล
การมีภมู ิคุ้มกันในตวั เอง : ฝึกการคน้ คว้าหาความรูจ้ ากเพือ่ น และระบบอินเทอร์เน็ต เพ่อื แกป้ ัญหาในแบบฝึกปฏิบัติ และใบงาน สาระการเรยี นรู้ 1. การใช้สตู ร 1.15 ตวั ดำเนนิ การ 1.16 ลำดบั การคำนวณ 1.17 การอา้ งองิ ตำแหน่งเซลล์ 2. ฟงั กช์ ันตรวจสอบเงอื่ นไข 2.21 รปู แบบฟงั กช์ ัน = if (เงื่อนไข, ค่าเมอื่ เปน็ จรงิ , ค่าเม่ือเปน็ เท็จ) 2.22 ตวั อยา่ งการใชง้ าน 3. ฟงั ก์ชันนบั จำนวนและหาผลรวมแบบมีเงอ่ื นไข 4.18 ฟงั กช์ ันนบั จำนวน 1) ฟงั กช์ นั Count() นับจำนวนชอ่ งเซลล์เฉพาะข้อมูลตวั เลข 2) ฟังก์ชนั CountA() นับจำนวนช่องเซลลท์ ่มี ขี ้อมูล 3) ฟังก์ชนั CountBlank() ใชน้ ับจำนวนชอ่ งเซลลท์ ่เี ป็นช่องวา่ ง(Blank) 4.19 ฟังก์ชัน Countif() นบั จำนวนแบบมีเง่ือนไข 1) รูปแบบ =Countif(ช่วงข้อมลู ,”รปู แบบเงอ่ื นไข”) 2) ตัวอย่างงาน 4.20 ฟังก์ชัน Sumif() หาผลรวมแบบมีเง่ือนไข 1) รูปแบบ =Sumif(ชว่ งขอ้ มูล,”รูปแบบเงอื่ นไข”) 2) ตวั อย่างงาน 4. การสรา้ งแผนภูมิ 4.7 การสรา้ งแผนภูมิ 4.8 การย้ายแผนภมู ิ 4.9 การปรบั แต่งแผนภูมิ 4.10 การสรา้ งแผนภมู จิ ากข้อมูลท่อี ยหู่ ่างกัน 4.11 การสร้างแผนภูมแิ บบวงกลม 4.12 การปรบั แต่งองคป์ ระกอบของแผนภมู ิ 5. การพมิ พ์งานออกเครอื่ งพมิ พ์ 6. การบันทกึ แผน่ งานใน Excel ใหเ้ ป็นไฟล์ PDF เครอ่ื งมือและแหลง่ เรยี นรู้ 17. หนงั สอื ประกอบการเรยี น วิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี 18. เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ 19. เครื่องฉายภาพ 20. โปรแกรม Microsoft Excel 21. เวบ็ ความรรู้ ายวชิ าที่ gg.gg/sk-intro กจิ กรรมการเรียนรู้
7. ผู้สอนสาธติ การใชง้ านฟงั ก์ชนั แต่ละตวั ผ่านตัวอย่างงานในหนังสือประกอบการเรียน 8. ผ้เู รียนฝึกปฏบิ ตั ติ ามทีละขั้นตอน 9. ผู้เรยี นปฏิบตั ิกจิ กรรมการเรียนรู้ทา้ ยบทเรยี น ตามหัวขอ้ การเรยี นรู้ 10.ผูส้ อนประเมนิ ผลงานของผู้เรยี นพร้อมให้คำแนะนำ 11.ให้ผเู้ รยี นตอบคำถามท้ายบท 12.ผูเ้ รยี นทำแบบทดสอบท้ายบทเรียน หลักฐานการเรียนรู้ 13.ข้อมลู การทำกิจกรรมการเรยี นรู้ 14.คะแนนทีไ่ ดจ้ ากการทำกจิ กรรมการเรยี นรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ 19. การสงั เกตพฤติกรรมระหว่างเรียน 20. การตรวจสอบความรู้โดยใช้คำถาม 21. การประเมินความรู้จากแบบทดสอบท้ายบทเรยี น กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทมี่ อบหมาย 1. งานกำหนดราคาขายสินค้า 2. งานสรุปยอดขายสินคา้ 3. งานสร้างแผนภูมิสรุปยอดขาย 4. งานคำนวณเงินโบนสั เอกสารอ้างองิ หนังสือประกอบการเรียนวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ รหัส 20001-2001 เรยี บเรยี งโดย โกมล ศิรสิ มบูรณ์เวช สำนักพิมพ์ศูนย์สง่ เสริมอาชีวะ
แผนการสอน/แผนจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 8 สัปดาห์ท่ี 16-17 วชิ า 20001-2001 คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี ช่ือหนว่ ย การใช้โปรแกรมนำเสนองาน รวม 6 คาบ ช่อื เรอื่ ง สาระสำคญั โปรแกรมนำเสนองาน (Presentation Software) เป็นซอฟต์แวร์อีกตัวหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในงาน อาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้า การรายงานผลการทำงาน การอธิบายการทำงานของเครื่องมือหรือ อุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งการสร้างความเข้าใจในการทำงานของกลุ่มงาน สำหรับชุดโปรแกรม Microsoft Office จะมีโปรแกรมนำเสนองานที่ชื่อวา่ Microsoft PowerPoint ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายแผ่นสไลด์ต่างๆ ซ่งึ สามารถสรา้ งงานนำเสนอได้อยา่ งรวดเร็ว หัวขอ้ การเรยี นรู้ 34.โปรแกรมนำเสนองาน 35.การวางโครงรา่ งการนำเสนอ 36.การสร้างสไลดภ์ าพนิง่ 37.การปรับแต่งรูปแบบและสีสนั ของภาพน่ิง 38.การปรบั แต่งการเคลื่อนไหวของภาพนงิ่ 39.การกำหนดรูปแบบการนำเสนองาน สมรรถนะอาชพี ทพี่ ึงประสงค์ มคี วามรแู้ ละทกั ษะในการใชโ้ ปรแกรม Microsoft PowerPoint ในการสร้างงานนำเสนอ จุดประสงค์การเรียนรู้ จดุ ประสงคท์ ั่วไป ใช้สูตรและฟงั ก์ชันในการคำนวณ และสรา้ งแผนภูมิดว้ ยโปรแกรม Microsoft Excel จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 8. บอกส่วนประกอบหน้าจอของโปรแกรม PowerPoint ได้ 9. สามารถวางโครงรา่ งการนำเสนอได้ 10.สามารถสร้างสไลดภ์ าพนงิ่ ในโปรแกรม PowerPoint ได้ 11.สามารถปรับแต่งรปู แบบและสีสันของภาพน่ิงได้ 12.สามารถปรบั แต่งการเคลื่อนไหวของภาพนงิ่ ได้ 13.สามารถกำหนดรปู แบบการนำเสนองานได้
การบูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 1) ความพอประมาณ : ตรวจความพรอ้ มของเคร่อื งคอมพวิ เตอรก์ อ่ นเรียน และปิดเคร่อื ง เกบ็ เกา้ อ้ีนงั่ ให้เรยี บรอ้ ยหลังเลกิ เรยี น เพ่ือความเรียบร้อยและประหยัด 2) การมีเหตผุ ล : รับฟังความคดิ เหน็ และวเิ คราะห์ วจิ ารณอ์ ยา่ งมเี หตุผล 3) การมภี ูมิคุ้มกนั ในตวั เอง : ฝกึ การค้นควา้ หาความรจู้ ากเพ่ือน และระบบอนิ เทอรเ์ น็ต เพอื่ แกป้ ญั หาในแบบฝกึ ปฏิบตั ิ และใบงาน สาระการเรียนรู้ 7. โปรแกรมนำเสนองาน 1.18 ลกั ษณะและจดุ ประสงค์การนำไปใช้งาน 1.19 ส่วนประกอบหนา้ จอโปรแกรม Power Point 1.20 ขอ้ แนะนำในการสรา้ งงาน 8. การวางโครงรา่ งการนำเสนอ 2.23 การวางโครงรา่ ง 2.24 ตัวอย่างงาน ประวัติสว่ นตัว 9. การสรา้ งสไลด์ภาพนงิ่ 4.21 การใส่ข้อความในสไลด์ 4) การใส่ข้อความ 5) การปรบั แต่งข้อความ 6) การย้ายตำแหน่ง 4.22 การแทรกรปู ภาพในสไลด์ 3) การแทรกกลอ่ งขอ้ ความ 4) การแทรกรูปภาพ 5) การปรบั แตง่ ภาพ 6) การหมนุ ภาพ 4.23 การแทรกตาราง 3) การสร้างตาราง 4) การป้อนขอ้ มลู ในตาราง 5) การปรับแต่งตาราง 4.24 การแทรกแผนภูมิในสไลด์ 1) การสร้างแผนภมู ิ 2) การป้อนข้อมลู ในแผนภมู ิ 3) การปรบั แต่งแผนภูมิ 4.25 การแทรกคลิปวดิ โี อในสไลด์ 1) การแทรกคลิกวดิ โี อ 2) การปรบั รปู แบบ 10. การปรับแต่งรูปแบบและสีสนั ของสไลด์ภาพนิ่ง
4.13 การปรับแต่งโดยใช้ใช้ชุดสี 4.14 การปรับแตง่ โดยใช้ชดุ รูปแบบ 4.15 การปรบั แต่งโดยใช้ชดุ รูปแบบออนไลน์ 11. การปรบั แต่งการเคลอ่ื นไหวของวัตถใุ นสไลดภ์ าพน่งิ (Slide Animation) 12. การกำหนดรปู แบบการเปล่ียนภาพนงิ่ (Slide Transition) 13. การกำหนดรูปแบบการนำเสนองาน 7.1การนำเสนอแบบมผี ู้บรรยาย 7.2 การนำเสนออัตโนมัติโดยบันทกึ เวลา 7.3 การทดสอบการนำเสนองาน เคร่อื งมือและแหลง่ เรียนรู้ 1. หนงั สือประกอบการเรียน วชิ าคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชพี 2. เคร่ืองคอมพิวเตอร์ 3. เครือ่ งฉายภาพ 4. โปรแกรม Microsoft Excel 5. เวบ็ ความรู้รายวชิ าที่ gg.gg/sk-intro กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ผู้สอนอธิบายความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมนำเสนองาน และสาธิตวิธีการใช้งานโปรแกรม Microsoft PowerPoint ผ่านตวั อย่างงานในหนงั สือประกอบการเรยี น 2. ผู้เรียนฝึกปฏิบัตติ ามทีละขั้นตอน 3. ให้ผเู้ รยี นแต่ละกลมุ่ สรา้ งงานนำเสนอตามความสนใจ 4. ผเู้ รยี นแตล่ ะกล่มุ มานำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรยี น โดยให้เพื่อนกลุ่มอนื่ ให้คะแนน 5. ผสู้ อนใหค้ ำแนะนำกับผลงานของแตล่ ะกลุ่ม 6. ใหผ้ ู้เรียนตอบคำถามทา้ ยบท 7. ผเู้ รยี นทำแบบทดสอบทา้ ยบทเรยี น หลักฐานการเรียนรู้ 1. ขอ้ มลู การทำกิจกรรมการเรียนรู้ 2. คะแนนที่ได้จากการทำกิจกรรมการเรียนรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. การสงั เกตพฤตกิ รรมระหวา่ งเรียน 2. การตรวจสอบความรู้โดยใช้คำถาม 3. การประเมนิ ความรู้จากแบบทดสอบท้ายบทเรียน
กิจกรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มสร้างงานนำเสนอในหัวข้อที่สนใจ โดยค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต จากน้นั มานำเสนอหน้าชนั้ เรยี น แลว้ ให้เพื่อนกลมุ่ อื่นประเมนิ ผลงาน 1) เศรษฐกจิ พอเพียง 2) ประชาคมอาเซียน 3) ท้องถ่ินของฉัน 4) งานอดิเรก 5) การขายสนิ คา้ 6) เทคโนโลยี 7) ความรู้คอมพิวเตอร์ 8) ความรใู้ นวชิ าทสี่ นใจ 9) ฯลฯ เอกสารอา้ งองิ หนังสือประกอบการเรียนวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ รหัส 20001-2001 เรียบเรียงโดย โกมล ศิริสมบูรณเ์ วช สำนกั พมิ พ์ศูนย์ส่งเสรมิ อาชีวะ
แผนการสอน/แผนจดั การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 9 สปั ดาห์ท่ี 18 วิชา 20001-2001 คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี ชือ่ หนว่ ย จรยิ ธรรมและความรบั ผิดชอบในการใช้งานคอมพิวเตอร์ รวม 3 คาบ ช่ือเรื่อง สาระสำคัญ จริยธรรม คือ แนวทางการประพฤตปิ ฏิบัติในส่งิ ทถ่ี ูกต้องและอยู่ในกรอบของศีลธรรม รวมทั้งการมี วินัย มีความรับผิดชอบต่อการกระทำ และมีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมโดยรวม การมีจริยธรรมและความ รับผิดชอบในการใช้คอมพิวเตอร์ จะช่วยลดและป้องกันภัยคุกคามต่างๆจากการใช้งานคอมพิวเตอร์และ อินเทอร์เน็ต หัวขอ้ การเรียนรู้ 1. จริยธรรมและจรรยาบรรณในการใช้คอมพิวเตอร์ 2. ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ นการใชค้ อมพวิ เตอร์และอนิ เทอรเ์ น็ต 3. วินัยในการใชค้ อมพิวเตอร์ 4. พระราชบัญญตั ิวา่ ดว้ ยการกระทำความผิดเกีย่ วกบั คอมพิวเตอร์ 5. การป้องกนั ภยั คุกคามในระบบคอมพวิ เตอร์ 6. ผลกระทบตอ่ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สมรรถนะอาชีพที่พึงประสงค์ มีความรู้และจรยิ ธรรม รวมทง้ั ความตระหนักต่อความรบั ผดิ ชอบในการใช้งานคอมพวิ เตอร์ จุดประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงคท์ ั่วไป เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งในด้านความหมาย การแบง่ ประเภท และความรพู้ ้นื ฐานต่างๆในการใช้งานและบำรุงรกั ษาคอมพวิ เตอร์ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. บอกความหมายของจรยิ ธรรมได้ถูกต้อง 2. บอกขอ้ ปฏบิ ัตใิ นการใชค้ อมพิวเตอร์และอนิ เทอร์เนต็ ได้ 3. บอกถึงวินัยในการใช้คอมพิวเตอร์ได้ 4. บอกลกั ษณะความผิดตอ่ พรบ.ว่าดว้ ยการกระทำความผดิ เกยี่ วกับคอมพวิ เตอร์ได้ 5. บอกวิธีปอ้ งกันภยั คกุ คามในระบบคอมพิวเตอร์ได้ 6. บอกผลกระทบต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
การบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 4) ความพอประมาณ : ตรวจความพรอ้ มของเคร่อื งคอมพิวเตอรก์ ่อนเรยี น และปิดเครอ่ื ง เกบ็ เก้าอน้ี งั่ ให้เรยี บร้อยหลงั เลิกเรียน เพื่อความเรยี บรอ้ ยและประหยดั 5) การมีเหตผุ ล : รับฟังความคดิ เห็น และวเิ คราะห์ วิจารณ์อยา่ งมเี หตผุ ล 6) การมีภมู ิคุ้มกนั ในตัวเอง : ฝกึ การค้นควา้ หาความรู้จากเพื่อน และระบบอนิ เทอร์เน็ต เพอื่ แก้ปญั หาในแบบฝกึ ปฏิบตั ิ และใบงาน สาระการเรียนรู้ 14. จริยธรรมและจรรยาบรรณในการใชค้ อมพวิ เตอร์ 1.21 จรรยาบรรณตอ่ ตนเอง 1.22 จรรยาบรรณต่อผู้รว่ มงาน 1.23 จรรยาบรรณตอ่ วชิ าชีพ 1.24 จรรยาบรรณต่อสงั คม 1.25 จรรยาบรรณตอ่ ผรู้ บั บรกิ าร 15. ขอ้ ปฏิบัตใิ นการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต 16. วนิ ัยในการใช้คอมพิวเตอร์ 17. พระราชบญั ญัติวา่ ด้วยการกระทำความผดิ เกีย่ วกบั คอมพิวเตอร์ 18. การปอ้ งกนั ภัยคกุ คามในระบบคอมพวิ เตอร์ 5.1 การป้องกนั และรักษาความปลอดภยั ทางกายภาพ 5.2 การป้องกันและรกั ษาความปลอดภัยด้านข้อมูล 5.3 การปอ้ งกันและรกั ษาความปลอดภยั ในการใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ต 19. ผลกระทบต่อการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ 6.1 ผลกระทบทางบวก 6.2 ผลกระทบในทางลบ เครอ่ื งมือและแหลง่ เรยี นรู้ 1. หนงั สอื ประกอบการเรียน วชิ าคอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี 2. เคร่ืองคอมพิวเตอร์ 3. เคร่ืองฉายภาพ 4. เว็บความรู้รายวิชาท่ี gg.gg/sk-intro 5. Kahoot 6. Coggle
กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ผูส้ อนกล่าวถงึ ความจำเปน็ ด้านจรยิ ธรรมในการใช้คอมพิวเตอร์ และยกตวั อยา่ งปัญหาเกี่ยวกับการ ทำผดิ พ.ร.บ. คอมพวิ เตอร์ 2. ให้ผู้เรยี นแตล่ ะศกึ ษาค้นควา้ เนือ้ หาความรู้จากเอกสารประกอบการเรยี น 3. ผ้สู อนให้ผ้เู รียนตอบคำถามโดยใช้ Kahoot 4. ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเลือกหัวข้อศึกษาค้นคว้า แล้วนำมาสรุปเขียนเป็นแผนผังความคิด (Mind Map) โดยหา้ มซ้ำกัน ดังนี้ 1) จรรยาบรรณนกั คอมพิวเตอร์ 2) ขอ้ ควรปฏบิ ตั ิในการใช้คอมพิวเตอรแ์ ละอินเทอร์เนต็ 3) วนิ ยั ในการใชค้ อมพวิ เตอร์ 4) พระราชบญั ญตั ิวา่ ด้วยการกระทำความผดิ เกยี่ วกับคอมพิวเตอร์ 5) การปอ้ งกนั และรกั ษาความปลอดภัยกบั ภยั คุกคามคอมพวิ เตอร์ 6) ผลกระทบทเี่ กดิ จากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 5. ผสู้ อนแนะนำการเขียนแผนผังความคดิ โดยใช้ Coggle รว่ มกับ Google Drive 6. ผู้เรียนคน้ ควา้ และสรา้ งแผนผงั ความคดิ รว่ มกนั 7. ผู้สอนนำผลงานของผู้เรียนมานำเสนอ และอธิบายเนื้อหาเพ่ิมเติม 8. ใหผ้ ู้เรยี นตอบคำถามท้ายบท 9. ผูเ้ รียนทำแบบทดสอบทา้ ยบทเรียน หลักฐานการเรยี นรู้ 3. ขอ้ มูลการทำกิจกรรมการเรยี นรู้ 4. คะแนนที่ไดจ้ ากการทำกจิ กรรมการเรียนรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ 4. การสังเกตพฤตกิ รรมระหวา่ งเรยี น 5. การตรวจสอบความรู้โดยใช้คำถาม 6. การประเมินความรู้จากแบบทดสอบท้ายบทเรยี น กิจกรรมเสนอแนะ/งานท่ีมอบหมาย ให้ผูเ้ รยี นคน้ คว้า และสรุปความรู้เป็นแผนผังความคิด (Mind map) เอกสารอ้างอิง หนังสือประกอบการเรียนวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ รหัส 20001-2001 เรยี บเรียงโดย โกมล ศิริสมบูรณเ์ วช สำนักพิมพ์ศูนย์ส่งเสรมิ อาชีวะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 38
Pages: