Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อภิมหาอันตรายของประเทศไทยและของโลกกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

อภิมหาอันตรายของประเทศไทยและของโลกกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

Published by sakda2508, 2020-04-28 10:41:51

Description: อภิมหาอันตรายของประเทศไทยและของโลกกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

Search

Read the Text Version

“...เศรษฐกิจพอเพยี งจะช่วยใหโ้ ลกพน้ จากวิกฤตได.้ ..” พระราชดำรสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั เมอ่ื วันที่ 9 มิถนุ ายน พ.ศ. 2554 อภมิ หาอนั ตรายของประเทศไทยและของโลก กบั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (เรยี บเรียงและเพม่ิ เตมิ จากขอ้ คดิ เหน็ ของนายไพบลู ย์ วฒั นศริ ิธรรม ในการประชมุ ของคณะกรรมการ เตรียมงานประชุมประจำปี 2554 ของมูลนิธสิ ถาบนั วิจัยและพฒั นาประเทศตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (มพพ.) เมอ่ื วนั จนั ทรท์ ี่ 25 กรกฎาคม 2554 ณ สำนักงานทรพั ยส์ ินส่วนพระมหากษตั ริย)์ ในขณะน้ีโลกและประเทศไทยกำลังประสบส่ิงที่เรียกว่า พ้ืนฐานให้เกิด เช่น กรณีวังน้ำเขียว กรณีการขุดแร่ตะกั่ว “อภิมหาอันตรายของประเทศไทยและของโลก” แร่ลิกไนต์ ท่ีทำร้ายประชาชนให้ล้มตายและเป็นโรคกันมาก ซง่ึ อภมิ หาอันตรายดังกล่าวสามารถสรุปได้ 3 ประเดน็ ดังนี้ ตลอดจนกรณี มาบตาพุด เป็นต้น สาเหตุทั้งหมดเกิดขึ้น 1. การมีประชากรหนาแน่นเกินไป เมื่อ 60 ป ี เพราะความหนาแนน่ ของประชากร ทำให้ตอ้ งแก่งแย่งแข่งขนั ทแ่ี ลว้ ประเทศไทยมีประชากรไมถ่ ึง 20 ล้านคน แตป่ ัจจบุ นั ช่วงชิงทรัพยากร นำทรัพยากรมาใช้มากข้ึนๆ เป็นผลให้ มีถึง 67 ล้านคน ทั้งโลกเม่ือ 60 ปีมาแล้วมีประชากร ทรัพยากรหมดไปเหลือน้อยลงๆ เกิดเป็นความขาดแคลน ประมาณ 2,000 ล้านคน ปจั จบุ นั มปี ระมาณ 7,000 ลา้ นคน ซึ่งบางกรณีถึงขั้นวิกฤต หรือทรัพยากรถูกทำให้เส่ือมโทรม ในขณะท่ีทรัพยากรมีจำนวนเท่าเดิม คือ ที่ดินมีเท่าเดิม แต่ จนเป็นอันตราย หรือเป็นผลเสียต่อประชากรจำนวนมากข้ึนๆ ป่าและน้ำจืดกลับมีจำนวนน้อยลงหรือสร้างปัญหามากข้ึน และมีความรุนแรงมากขึ้นๆ เร่ือยๆ รวมถึงการเกิดภัยพิบัติ ในขณะท่ีท้ังดิน แร่ธาตุ น้ำ น้ำแข็ง ป่า ป่าชายเลน ทะเล ต่างๆ ที่ปรากฏมากขึ้นๆ ทั้งโดยธรรมชาติและอันเป็นผล อากาศ ส่ิงแวดล้อม ช้ันบรรยากาศห่อหุ้มโลกถูกทำลายและ โดยตรงหรือโดยอ้อมจากกิจกรรมของมนุษย์ เรื่องประชากร ทำให้เสื่อมโทรมไปเยอะมากและส่ังสมมากขึ้นๆ มาตลอด หนาแน่นเกินไปกับผลที่ตามมาน้ันไม่ได้เป็นสถานการณ์ แต่จำนวนคนกลับเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว จึงเป็นเหตุขั้น เฉพาะในประเทศไทย แต่เป็นสถานการณ์และเป็นแนวโน้ม 1

ร่วมกันท้ังโลก ทำให้ท้ังโลกกำลังเผชิญภาวะวิกฤตซ่ึงนับวัน ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จะรุนแรงมากข้ึนๆ หากไม่ได้รับการแก้ไขร่วมกันโดย ทางสายกลาง ประชากรของโลก ซ่ึงย่อมจะต้องใช้เวลากว่าจะแก้ไขไดส้ ำเร็จ พอประมาณ เปน็ ทนี่ า่ พอใจ มีเหตุผล มีภูมคิ มุ้ กัน ในตัวทีด่ ี 2. วัตถุนิยมบริโภคนิยมมากเกินไป วัตถุนิยม บริโภคนิยม เป็นกระแสโลกที่ทำให้เรามุ่งสะสมความร่ำรวย รอครบ ะรวมู ้ รดั าอร บะมวค ังอรบ ู้ นำไปสู่ ซื่อสสคัตตย ุปิ ณส์ัญจุ ญรธติา รขแ ยบรันง่ ปมอนัดทน สะสมวัตถุต่างๆ ท้ังท่ีส่วนใหญ่ไม่มีความจำเป็นอะไร แต่ใน ขณะเดียวกัน เรายังมีความยากจน ความอดอยาก การขาด วตั ถ/ุ สังคม/ส่งิ แวดล้อม/วฒั นธรรม สมดุล และพรอ้ มรับตอ่ การเปลยี่ นแปลง อาหารอยู่ในประเทศและในโลก โดยประชากรของโลก ประมาณ 1,000 ลา้ นคน ยงั มอี าหารไม่พอรับประทาน ที่เปน็ ความรู้รักสามัคคี ความซ่ือสัตย์สุจริต ความรักความยุติธรรม เช่นนั้น ก็เพราะประชากรท่ีรวยที่สุด 20 % บริโภคถึง 55% การมุ่งประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว ของการบริโภคท้ังหมด และคนท่ีจนที่สุด 20% บริโภคเพียง ความมีกตัญญูรู้คุณ ความรู้จักพอดีพอประมาณ เป็นต้น ประมาณ 4% นี่เป็นปัญหาที่ไปซ้ำเติมเพ่ิมพูนปัญหาอันเกิด กลับถูกลดทอนความสำคัญ ไม่ถูกนำออกมาใช้ ไม่ได้รับการ จากการท่ีเรามีประชากรหนาแน่นเกินไป ทำให้คนท่ีเก่ง ส่งเสริมสนับสนุนมากพอ คุณธรรมความดีในตัวคนและใน สามารถครอบครอง ช่วงชิงเพื่อให้บริโภคได้มากกว่า นำมา สงั คมจงึ เสียดลุ มากข้ึนๆ เมอ่ื เทียบกบั ความไม่ดี สะสมได้มากกวา่ ทงั้ โดยวิธกี ารท่ถี กู กฎหมายและโดยวิธีการท่ี จาก “อภมิ หาอนั ตราย” ของสงั คมไทยและสังคมโลกน ี้ ผิดกฎหมายหรือไม่ชอบธรรม ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม ยุทธศาสตร์หนึ่งที่จะช่วยได้คือ “ปรัชญาของเศรษฐกิจ และความเหลื่อมล้ำในฐานะทางเศรษฐกิจ สังคม และ พอเพียง” ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราช การเมือง ระหว่างกลุ่มคนต่างๆ มากข้ึนๆ บางกรณีนำไปสู่ ดำรัสกับท่านองคมนตรี นพ.เกษม วัฒนชัย และผู้เข้าเฝ้าฯ ความรุนแรง รวมถึงการใช้อาวุธประหัตประหารทำร้ายกัน อนื่ ๆ จำนวนหนึ่ง เม่ือวันที่ 9 มถิ ุนายน 2554 ว่า “เศรษฐกจิ ทำให้สังคมท้ังในประเทศและในโลกเกิดความแตกแยกและ พอเพยี งจะชว่ ยใหโ้ ลกพ้นจากวิกฤตได”้ ถา้ เราคดิ ในภาพใหญ่ ขาดความสันตสิ ขุ อยา่ งกว้างขวาง แบบน้ีเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่เร่ืองเล็ก เป็นเร่ืองใหญ่ และ 3. คุณธรรมความดีน้อยเกินไป ด้วยสาเหตุ เป็นเร่ืองสำคัญมากทุกระดับต้ังแต่ระดับบุคคล ครอบครัว มาจาก 2 ข้อแรก ถา้ ของมีมากพอสำหรับทุกคน กจ็ ะไมเ่ กดิ ชุมชน องค์กร สังคม โลก และมนุษยชาต ิ การที่โลกกำลัง การแย่งชิงกันเท่าไร สมัยก่อนการแย่งชิงทรัพยากรมีน้อย ประสบปัญหาวิกฤตใหญ่ ในรูปมหันตภัยมากมายทั้งทาง เพราะมีทรัพยากรมากพอ มาปัจจุบันทรัพยากรเหลือน้อย ธรรมชาติอันได้แก่อุบัติภัยต่างๆ เช่น ปรากฏการณ์โลกร้อน แถมถูกทำให้เส่ือมโทรม บวกกับวัตถุนิยมบริโภคนิยมซึ่งคือ น้ำท่วม น้ำแล้ง ดินถล่ม พายุ โรคระบาด เป็นต้น และ ความโลภนนั่ เองมมี ากเกนิ ขอบเขต ทำให้ต้องแกง่ แย่งแข่งขนั มหันตภัยทีเ่ กยี่ วกับกิจกรรมของมนุษย์ รวมถึงเรอ่ื งเศรษฐกจิ ต่อสู้แย่งชิงกันมากข้ึน ผู้คนนำลักษณะนิสัยส่วนที่ไม่ด ี การเมือง สังคม และอ่ืนๆ ก็เป็นผลมาจากกิจกรรมทำร้าย ในจิตใจออกใช้ ได้แก่ ความโลภ ความโกรธ ความเกลียด ตัวเองของมนุษย์น่ันเอง ทั้งท่ีรู้ตัวและไม่รู้ตัว ท้ังทางตรง ความเห็นผิดเป็นชอบ ความยึดถือตัวตน ความเห็นแก่ตัว และทางอ้อม ความมีทิฏฐิมานะและความไม่ดีอ่ืนๆ แต่ส่วนท่ีเป็นคุณธรรม มีบทความในวารสาร The Economist เรยี กยุคปจั จบุ นั ความดี ซึ่งเป็นพื้นฐานอยู่ในทุกคน ได้แก ่ ความรัก วา่ เป็น Anthropocene - The age of man หรอื ยคุ ที่มนษุ ย์ ความเป็นมิตร ความมีเมตตาไมตร ี ความเอื้อเฟื้อเผ่ือแผ่ ครองโลก ในบทความได้กล่าวว่าโลกในหม่ืนปีท่ีผ่านมา 2

การทำเกษตรกรรมแบบประณตี ของนายผาย สร้อยสระกลาง ศนู ยก์ สิกรรมธรรมชาตเิ พลนิ ภายในชมุ พรคาบาน่ารสี อร์ทเปดิ โอกาส เกษตรกรจากจังหวดั บรุ ีรัมย์ จนเป็นที่ศกึ ษาดงู านด้านการเกษตร ให้นักทอ่ งเที่ยวศึกษาหาความรู้จากธรรมชาติ ทง้ั การทำปุ๋ย โรงสขี า้ ว ฯลฯ ขณะทีผ่ ลิตภณั ฑท์ ไ่ี ดจ้ ะนำไปใชใ้ นโรงแรม และวถิ แี ห่งเศรษฐกจิ พอเพยี ง และขายราคาถกู แกช่ าวบา้ นใกล้เคยี ง เป็นยุคของความมีเสถียรภาพพอสมควร แต่จากนี้ไป “อภิมหาอันตรายของประเทศไทยและของโลก” ได ้ แม้จะต้อง จะเป็นยุคที่มนุษย์ครองโลก และมนุษย์จะทำให้เกิดความ ใช้เวลาและความมานะพยายามอย่างย่ิงยวด เนื่องจากเป็น เปล่ียนแปลงท่ีจะนำมาซึ่งความเสียสมดุลอย่างแรงในโลก ปัญหาท่ีมนุษย ์ ประเทศ และโลกได้ปล่อยปละละเลยให้ปัญหา ถ้ามนุษย์ไม่แก้ไขมนุษย์จะต้องรับกรรม โดยมีการทำนาย สง่ั สมมาเปน็ เวลานานนบั ศตวรรษแลว้ กันว่าภายใน 10 ถึง 20 ปีหรืออย่างน้อยภายใน ในการดำเนินการส่งเสริมขับเคลื่อนปรัชญาของ ครสิ ตศ์ ตวรรษนี้ จะมอี ันตรายร้ายแรงประเภทน้ำทะเลเออ่ ท่วม เศรษฐกิจพอเพียง มีหน่วยจัดการท่ีสำคัญ 2 ระดับที่ควร พื้นท่ีต่างๆ ในโลกอย่างกว้างขวาง เป็นต้น ขณะเดียวกัน พจิ ารณา คอื :- ปญั หาความแตกแยกรุนแรง สงคราม ความยากจน การขาด อาหาร ความไมเ่ ป็นธรรม ความเหลอื่ มลำ้ ฯลฯ ก็จะยงั คงอยู่ 1. ระดับฐานราก ซ่ึงประกอบด้วย “ท้องถิ่น” กบั โลกหรอื ทวคี วามรุนแรงจนเกดิ เปน็ วกิ ฤตการณเ์ ปน็ ระยะๆ ฉะนนั้ “เศรษฐกจิ พอเพยี ง” หรอื “ปรชั ญาของเศรษฐกจิ และ “องค์กร” คนในชนบทที่อยู่ในท้องถิ่น มีปฏิสัมพันธ์ มี พอเพียง” ถ้าคิดให้กว้าง คิดให้ไกล ไม่ไปเข้มงวด การจัดการ เช่น มีการจัดการในรูปแบบของคณะกรรมการ กับความหมาย แต่เอาหัวใจของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ท้องถิ่น องค์กรชุมชน เครือข่ายองค์กรชุมชน สภาองค์กร คือความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภูมิคุ้มกัน การใช ้ ชุมชน อบต. เทศบาล อบจ. ซ่ึงเป็นหนว่ ยจัดการทเ่ี อาพื้นท่ี คณุ ธรรมความด ี และการใชค้ วามรคู้ วามสามารถอยา่ งรอบคอบ เป็นตัวต้ัง ครอบคลุมทั่วประเทศ แต่ยังมีประชาชน ระมัดระวังและเหมาะสม ถ้าใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อีกประมาณ 50% ที่อาจจะไม่ผูกพันกับท้องถิ่นมากนัก ในความหมายเชน่ น ี้ แลว้ นำมาประยกุ ต์ใช้ใหเ้ ปน็ ยทุ ธศาสตรแ์ ละ แต่ผูกพันกับองค์กรท่ีเขาทำงานด้วย คือ คนท่ีทำงานใน แผนงานในระดับประเทศและระดับโลก รวมท้ังทำให้เป็น โรงงาน ในสถานประกอบการ ในองค์กรธุรกิจ ในหน่วยงาน ขบวนการทางสังคม (Social Movement) ท่ีทุกฝ่ายในสังคม ของรฐั องคก์ ารมหาชน รฐั วสิ าหกจิ ในหน่วยงานภาคประชา รวมถึงฝ่ายการเมือง ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม สังคม มูลนิธ ิ สมาคมต่างๆ เป็นต้น ทั้ง “ท้องถ่ิน” และ ภาคประชาชนและชุมชน ตลอดจนนักการศาสนา นักวิชาการ “องค์กร” เป็นหน่วยจัดการระดบั ฐานรากของสังคม ซึง่ จำนวนมาก นักวิชาชีพ ศิลปิน ฯลฯ มาร่วมกันขับเคล่ือน “ปรัชญาของ ได้นำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้และเกิด เศรษฐกิจพอเพียง” โดยอาจดัดแปลง รูปแบบ กระบวนการ ผลดอี ยา่ งนา่ พอใจ วิธีการ ฯลฯ ให้เหมาะกับบริบทและสถานการณ์ในแต่ละกรณี ด้วยก็ได ้ เช่ือได้ว่าจะสามารถช่วยบรรเทาและแก้ปัญหา 2. ระดับประเทศทั้งประเทศ เป็นหน่วยจัดการที่มี ความสลับซับซ้อนมากกว่าหน่วยจัดการในระดับฐานราก อย่างมาก เพราะต้องรวมถึงสถาบันระดับชาติ องค์กรระดับ ชาต ิ เชน่ สถาบนั ฝ่ายนติ ิบัญญตั ิ สถาบนั ฝา่ ยบรหิ าร สถาบนั 3

การสรา้ งโรงเรียนทศี่ ูนยก์ ารเรียนชุมชนชาวไทยภเู ขาแม่ฟา้ หลวง บริษัทปนู ซิเมนตไ์ ทย จำกัด (มหาชน) นำหลักเศรษฐกจิ พอเพยี ง บ้านแมห่ ลองใต้ อ.อมกอ๋ ย จ.เชยี งใหม่ เป็นหนง่ึ ในกิจกรรมการแบ่งปัน มาใช้ในการดำเนินธรุ กิจ โดยเฉพาะการบรหิ ารงานบุคคล เพอื่ ให้ พนักงานอย่อู ยา่ งมีความสุข เปน็ คนดแี ละมคี วามสามารถสงู ดว้ ย ผลกำไรคนื สู่สงั คมของบริษทั บาธรมู ดไี ซน์ จำกัด ฝ่ายตุลาการ หน่วยงานของรัฐระดับชาต ิ หน่วยงานพิเศษ 2. การสร้างเครือข่าย จะเป็นกลไกช่วยให้เกิด ต่างๆ ท่ีเป็นหน่วยงานระดับชาต ิ สถาบันภาคธุรกิจและภาค ขบวนการที่ขยายและมีพลังเพ่ิมข้ึนทั้งเชิงปริมาณและ ประชาชน ท่ีรวมตัวกันเป็นระดับชาต ิ สำหรับหน่วยจัดการ เชิงคณุ ภาพ ระดับประเทศทั้งประเทศนี้ การประยุกต์ใช้ปรัชญาของ 3. การส่ือสาร ควรมีการใช้รูปแบบการสื่อสาร เศรษฐกิจพอเพียงยังไม่ชัดเจน ยังไม่หนักแน่น ดังนั้น ท่ีหลากหลาย มีคุณภาพและเหมาะสมทั้งภายในขบวนการเอง จะดีที่สุดหากรัฐบาลประกาศว่าจะเป็น “รัฐบาลเศรษฐกิจ และระหว่างขบวนการกบั สงั คม พอเพียง” หรือมีการประกาศนโยบายสำคัญว่า “ประเทศไทย 4. นโยบายสาธารณะ ท้ังระดับชาติและระดับ จะเป็นประเทศเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งจะเป็นการปฏิรูป ท้องถ่ิน รวมถึงการมีนโยบาย กฎหมาย ข้อบังคับ ท้ังด้านวิธีคิด หรือกระบวนทัศน์ วิธีทำ วัฒนธรรม ระบบ การจัดสรรงบประมาณ ที่ดีและเหมาะสมทั้งในระดับชาติและ โครงสร้าง กลไก กระบวนการ ฯลฯ คร้ังย่ิงใหญ่ของประเทศ ไทย ก่อนที่จะพิจารณาไปนำเสนอต่อสหประชาชาติ ระดับท้องถิน่ ให้พิจารณาประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในระดับ 5. การจัดการ คือ การจัดการขบวนการ ซ่ึงประกอบด้วย คณะกรรมการ ฝ่ายเลขานุการ คณะทำงาน โลก เพราะองค์การสหประชาชาติได้เริ่มเห็นแล้วว่า ปรัชญา และผู้ทรงคุณวุฒ ิ ต้องจัดการให้สามารถทำงานได้อย่างมี ของเศรษฐกิจพอเพียงสามารถเป็นทางออกของโลกท่ีกำลัง คุณภาพและมีประสิทธิภาพ และยังหมายความรวมถึงการ วกิ ฤตได้ จดั การของทุกหนว่ ยท่ที ำเรอ่ื งเศรษฐกจิ พอเพยี ง หรอื เกยี่ วขอ้ ง ดังได้กล่าวแล้วว่าเร่ืองเศรษฐกิจพอเพียงต้องทำให้เป็น กบั เศรษฐกจิ พอเพยี งดว้ ย “ขบวนการทางสังคม” หรือ Social Movement ดังนั้นต้องมี 6. การเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อุดมการณ์ เป้าหมาย ยุทธศาสตร ์ แผนงาน โครงการ รวมถึงการศึกษาเรียนร ู้ การวางแผน การลงมือปฏิบัต ิ กิจกรรมที่จริงจังและต่อเน่ือง และต้องมี “ตัวช้ีวัด” หรือ การวัดผล ประเมินผล การพิจารณาทบทวน หาทางปรับปรุง “ดชั น”ี เพ่ือชว่ ยให้สามารถจดั การขบวนการไดอ้ ย่างมีคุณภาพ พัฒนา สร้างนวัตกรรม และหรือสร้างจินตนาการใหม่ มีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายที่พึงปรารถนาได้ดีขึ้นๆ อย่างสร้างสรรค์ นำมาวางแผนและดำเนินการใหม่ ฯลฯ อยูเ่ ร่อื ยๆ ทำเช่นน้ีให้เป็นวงจรต่อเน่ืองไม่รู้จบ เพ่ือให้มีความเจริญ องค์ประกอบสำคัญในการสร้างขบวนการทาง ก้าวหน้าไปเร่ือยๆ และควรมีการใช้กระบวนการน้ีเป็นระยะๆ สังคม ประกอบดว้ ย อยา่ งน้อยปลี ะครั้ง 1. ความรู้ ถ้ามีตัวชี้วัดจะเป็นจุดเริ่มต้นของการ ผลติ โดย โครงการสนบั สนุนการขบั เคลอื่ นเศรษฐกิจพอเพยี งดา้ นการศึกษาและเยาวชน เรียนร้ ู การจัดการความรู้ การแลกเปล่ียนเรียนรู้ และการ (สพศ.) สำนักงานทรัพยส์ นิ ส่วนพระมหากษัตรยิ ์ โทรศพั ท์ 02 787 7033-4 www.sufficiencyeconomy.org ศกึ ษาวิจยั เพิ่มเตมิ 4