TASK-BASED Learning
MEMBERS นางสาวกมลทิพย์ สงั วาลย์ นายอรญิ ชยั ไทยเจรญิ รหัส 63181020113 รหัส 63181020118
การพฒั นากิจกรรมแบบมุง่ ปฏิบตั ิงาน เพอื สง่ เสรมิ การเขยี นภาษาอังกฤษ เชงิ สรา้ งสรรค์ สาํ หรบั นักเรยี นชนั มธั ยมศึกษาปที 3
ความเปนมา
ความเปนมา ภาษาถือเปนเครอื งมอื หลักทีเราทกุ คนใชใ้ นการสอื สาร มนั คือเครอื งมอื ทีเราใชใ้ นการ แบง่ ปน แนวความคิด การแสดงความคิดเหน็ การสอื ความหมายในเรอื งต่าง ๆ กับคนอืนใน สงั คม ภาษาถือเปนสงิ ทีจาํ เปนอยา่ งมากต่อการดํารงชวี ติ ของมนุษย์ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ การดําเนินชวี ติ ในศตวรรษที 21 ทีการทํางานในสงั คมขา้ มวฒั นธรรมเปนสงิ จาํ เปน ทักษะทางภาษาทีถือวา่ เปนหนึงในทักษะทีจาํ เปนสาํ หรบั การดาํ เนินชวี ติ ในศตวรรษที 21 คือ ทักษะการเขยี น ผทู้ ีมที ักษะการเขยี นดีจะสามารถเรยี นรูแ้ ละทํางานได้อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ การเขยี นไมใ่ ชเ่ รอื งของพรสวรรค์ สงิ สาํ คัญในการสนับสนุนใหเ้ ปนนักเขยี น หรอื ผเู้ ขยี นทีดี คือมคี วามรู้ ความคิด ประสบการณ์ และจนิ ตนาการ ในสงิ ทีจะสอื สารมากพอ มคี วามสามารถในการถ่ายทอดประสบการณ์ใหเ้ ปนภาษาไดอ้ ยา่ งถกู ต้องชดั เจน
ความเปนมา การเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์เปนการเขยี นทีชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นไดแ้ สดงความสามารถทาง จนิ ตนาการได้ดีกวา่ การเขยี นชนิดอืน ๆ ปจจุบนั พบวา่ ครูสว่ นใหญ่มกั ประสบปญหากับการที เด็กเขยี นได้ไมด่ ี ตลอดจนถึงการแสดงพฤติกรรมเบอื หน่ายในการเขยี น ครูจงึ ต้องตระหนกั ถึงความสาํ คัญของปญหานีและหาวธิ กี ารแก้ไข วธิ กี ารเรยี นรูแ้ บบมุง่ ปฏิบตั ิงาน (Task-based learning) ซงึ เปน หนึงในวธิ กี าร เรยี นรูภ้ าษา เพอื การสอื สารทีเน้นผเู้ รยี นเปนศูนยก์ ลาง (Student-centered) โดยผเู้ รยี น จะได้รบั มอบหมายภาระงาน ใหล้ งมอื ปฏิบตั ิหลังจากทีไดร้ บั ตัวปอนทางภาษาและคําแนะนาํ ใน การทํากิจกรรมแล้ว
ความเปนมา Willis (1996) ได้กล่าวถึงองค์ประกอบหรอื กระบวนการของการจดั การเรยี นรแู้ บบ มุง่ ปฏิบตั ิงาน (Task-based learning) ไวด้ งั นี 1. ขนั ก่อนปฏิบตั ิงาน (Pre-Task) ในขนั นีครูจะเปนผนู้ ําสนอหวั ขอ้ ทีเรยี นใหก้ ับ นักเรยี น เน้นยาํ คําศัพท์ และวลี ทีจาํ เปนสาํ หรบั การปฏิบตั ิงาน รวมถึงอธบิ ายขนั ตอนในการ ปฏิบตั ิงานใหน้ ักเรยี นทราบและเตรยี มพรอ้ มสาํ หรบั การปฏิบตั ิงาน โดยอาจใหน้ ักเรยี นไดด้ ู หรอื ฟงตัวอยา่ งงานทีมคี วามคล้ายคลึงกับงานทีจะต้องปฏิบตั ิ 2. ขนั ปฏิบตั ิงาน (Task cycle) ในขนั นีนักเรยี นจะต้องลงมอื ปฏิบตั ิงานเปนค่หู รอื เปนกล่มุ โดยมคี รูเปนผสู้ งั เกตการณ์ หลังจากนันนักเรยี นเตรยี มตัวแล้วนําเสนอผลงานให้ เพอื นรว่ มชนั ฟง โดยอรบิ ายขนั ตอนการทํางานหรอื สงิ ทีตนค้นพบ อาจจะโดยการรายงาน หน้าชนั หรอื เขยี นเปนรายงานก็ได้หลังจากนันเปรยี บเทียบผลงานกับเพอื นรว่ มขนั
ความเปนมา 3.ขนั เน้นรูปแบบทางภาษา (Language focus) ในขนั นีนักเรยี นจะต้องวเิ คราะหแ์ ละ อภิปราย เกียวกับหน้าทีของภาษาและรูปแบบทางภาษาจากผลงานทีได้ปฏิบตั ิไป หลังจากนนั ครูจดั ใหน้ ักเรยี นได้ฝกใชแ้ ละทําแบบฝกหดั เกียวกับคําศัพท์ วลี และรูปแบบทางภาษาใหมท่ ี เกิดขนึ ระหวา่ งหรอื หลังการวเิ คราะหแ์ ละอภิปราย จากกระบวนการจดั การเรยี นรูด้ ังกล่าวจะเหน็ ได้วา่ การเรยี นรแู้ บบมุง่ ปฏิบตั ิงาน (Task-based learning) มกี ระบวนการจดั การเรยี นรทู้ ีสามารถชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นไดล้ งมอื ปฏิบตั ิงานจรงิ และเรยี นรูอ้ ยา่ งเปนขนั ตอน รวมถึงฝกฝนการแสวงหาความรูด้ ้วยตนเอง นอกจากนัน ผเู้ รยี นยงั สามารถฝกทักษะความคิดสรา้ งสรรค์ เพอื สรา้ งชนิ งานทีแปลกใหม่ และแตกต่างได้อีกด้วย
วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอื พฒั นากิจกรรมแบบมุง่ ปฏิบตั ิงาน (Task-based activities) เพอื สง่ เสรมิ การเขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรา้ งสรรค์ สาํ หรบั นักเรยี นชนั มธั ยมศึกษาปที 3 2. เพอื พฒั นาการเขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรา้ งสรรค์ 3. เพอื ศึกษาผลสมั ฤทธทิ างการเรยี นภาษาอังกฤษ 4. เพอื ศึกษาความพงึ พอใจของนักเรยี นชนั มธั ยมศึกษาปที 3 ทีมี ต่อกิจกรรมแบบมุง่ ปฏิบตั ิงาน (Task-based activities)
สมมติฐาน 1. กิจกรรมแบบมุ่ง 2. นักเรียนชัน 3. นักเรียนชัน 4. นักเรียนชัน ปฏิบัติงาน (Task- มัธยมศึกษาปที 3 มัธยมศึกษาปที 3 มัธยมศึกษาปที 3 based activities) ทีเรียนด้วยกิจกรรม ทีเรียนด้วยกิจกรรม มีความพึงพอใจต่อ แบบมุ่งปฏิบัติงาน แบบมุ่งปฏิบัติงาน กิจกรรมแบบมุ่ง เพือส่งเสริมกาเขียน (Task-based (Task-based ปฏิบัติงาน (Task- ภาษาอังกฤษเชิง based สร้างสรรค์ มี activities) activities) มีผล ประสิทธิภาพตาม สัมฤทธิทางการ activities) อยู่ใน เกณฑ์ 80/80 มีคะแนนการเขียน เรียนภาษาอังกฤษ ระดับมาก ภาษาอังกฤษเชิง ไม่ตํากว่าร้อยละ สร้างสรรค์หลัง 70 ของคะแนนเต็ม เรียนสูงกว่าก่อน เรียน
ขอบเขตการวจิ ยั ขอบเขตด้านประชากรและกล่มุ ตัวอยา่ ง ประชากรทีใชใ้ นการวจิ ยั ครงั นี - นักเรยี นระดับชนั มธั ยมศึกษาปที 3 โรงเรยี นเหนือคลองประชาบาํ รงุ จงั หวดั กระบี ปการศึกษา 2560 จาํ นวน 10 หอ้ งเรยี น จาํ นวน 354 คน กล่มุ ตัวอยา่ ง - นักเรยี นระดับชนั มธั ยมศึกษาปที 3 โรงเรยี นเหนือคลองประชาบาํ รุง จงั หวดั กระบี ปการศึกษา 2560 จาํ นวน 32 คน โดยใชว้ ธิ กี ารเลือกกล่มุ ตัวอยา่ งแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เนืองจากเปนหอ้ งทีเรยี นวชิ าภาษา อังกฤษพนื ฐาน อ 23102
ขอบเขตการวจิ ยั ตัวแปลทีจะศึกษา ตัวแปรต้น กิจกรรมแบบมุง่ ปฏิบตั ิงาน (Task-based activities) เพอื สง่ เสรมิ การเขยี นภาษาอังกฤษ ตัวแปรตาม - ประสทิ ธภิ าพของกิจกรรมแบบมุง่ ปฏิบตั ิงาน (Task-based activities) เพอื สง่ เสรมิ การเขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรา้ งสรรค์ - การเขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรา้ งสรรค์ - ผลสมั ฤทธทิ างการเรยี นภาษาอังกฤษ - ความพงึ พอใจต่อกิจกรรมแบบมุง่ ปฏิบตั ิงาน (Task-based activities) เพอื สง่ เสรมิ การเขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรา้ งสรรค์
ขอบเขตการวจิ ยั ขอบเขตด้านเนือหา ระยะเวลา ประกอบด้วยเนือหา 4 เรอื ง ดังนี ดําเนินการทดลองในภาคเรยี นที 2 ปการศึกษา 2560 โดยใชเ้ วลาในการทดลอง 16 ชวั โมง กิจกรรมที 1 เรอื ง Daily activities กิจกรรมที 2 เรอื ง Going on vacation กิจกรรมที 3 เรอื ง Places around us กิจกรรมที 4 เรอื ง Environment around us
เครอื งมอื ทีใช้ 1.แผนการจัดการเรยี นรูโ้ ดยใช้กิจกรรมแบบมุ่งปฏิบัติ งาน (Task-based activities) เพือส่งเสรมิ การ เขียนภาษาอังกฤษเชิงสรา้ งสรรค์ 2. แบบทดสอบการเขียนภาษาอังกฤษเชิงสรา้ งสรรค์ 3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิทางการเรยี นภาษาอังกฤษ 4. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงาน 5.แบบสอบถามความพึงพอใจต่อกิจกรรมแบบมุ่ง ปฏิบัติงาน (Task-based activities) เพือส่งเสรมิ การเขียนภาษาอังกฤษเชิงสรา้ งสรรค์
การรวบรวมขอ้ มูล 1. ชแี จงใหน้ กั เรยี นกล่มุ ตัวอยา่ งทราบเกียวกับการวจิ ยั 2. วดั ความสามารถในการเขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรา้ งสรรค์ก่อนเรยี นของ นกั เรยี นชนั มธั ยมศึกษาปที 3 แล้วบนั ทึกผลการทดสอบเพอื ใชใ้ นกาวเิ คราะห์ ขอ้ มูล 3. ดาํ เนนิ การสอนตามแผนการจดั การเรยี นรู้ โดยใชก้ ิจกรรมแบบมุง่ ปฏิบตั ิ งาน (Task-based Activities) เพอื สง่ เสรมิ การเขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรา้ งสรรค์ และสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานของนกั เรยี นในแต่ละ กิจกรรม
การรวบรวมขอ้ มูล 4. วดั ความสามารถในการเขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรา้ งสรรค์หลังเรยี นของนกั เรยี น ชนั มธั ยมศึกษาปที 3 แล้วบนั ทึกผลการทดสอบเพอื ใชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มูล 5. วดั ผลสมั ฤทธทิ างการเรยี นภาษาอังกฤษของนกั เรยี นชนั มธั ยมศึกษาปที 3 หลัง เรยี น แล้วบนั ทึกผลการทดสอบเพอื ใชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มูล 6. นกั เรยี นทําแบบสอบถามความพงึ พอใจทีมตี ่อกิจกรรมแบบมุง่ ปฏิบตั ิงาน (Task-based activities) เพอื สง่ เสรมิ การเขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรา้ งสรรค์ 7. เก็บรวบรวมขอ้ มูลทังหมดเพอื นาํ ผลทีไดม้ าวเิ คราะหโ์ ดยวธิ ที างสถิติ
การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 1.วิเคราะห์ประสิทธิภาพ 2. วิเคราะห์การเขียนภาษา 3.วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ ของกิจกรรมแบบมุ่งปฏิบัติ อังกฤษชิงสรา้ งสรรค์ก่อน ทางการเรยี นภาษาอังกฤษ งาน ื(Task-based เรยี นและหลังเรยี นโดยใช้ หลังการทดลองโดย activities) เพือส่งเสรมิ ค่าเฉลีย (Mean) วิเคราะห์ค่าเฉลีย (Mean) การเขียนภาษาอังกฤษเชิง ค่ารอ้ ยละ (Percentage) และค่ารอ้ ยละ สรา้ งสรรค์โดยใช้ค่ารอ้ ยละ และการหาค่าทางสถิติ (Percentage) (Percentage) (Paired t-test)
การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 4. วิเคราะห์พฤติกรรมการ 5. วิเคราะห์ความพึงพอใจ 6. อภิปรายผลโดยใช้ ปฏิบัติงานของนักเรยี น โดยวิเคราะห์ค่าเฉลีย ตารางและการพรรณนา โดยวิเคราะห์ค่าเฉลีย (Mean) และส่วนเบียงเบน (Mean) มาตรฐาน (Standard Deviation)
สรุปผลวจิ ยั 1. ผลการศึกษาประสิทธิภาพของกิจกรรมแบบมุ่งปฏิบัติงาน(Task-based activities) พบว่า กิจกรรมมีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.37/84.38 2. ผลการพัฒนาการเขียนภาษาอังกฤษเชิงสรา้ งสรรค์ ทีเรยี นด้วยกิจกรรมแบบมุ่ง ปฏิบัติงาน (Task-based activities) พบว่า 1) หลังเรยี นนักเรยี นมีคะแนนไม่ตํากว่ารอ้ ยละ 70 มากกว่าก่อนเรยี น 2) นักเรยี นมีพฤติกรรมการปฏิบัติงานภาพรวมอยู่ในระดับดี 3. ผลการศึกษาความพึงพอใจ พบว่าภาพรวมของความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก
อภิปรายผล 1. ผลการศึกษาประสทิ ธภิ าพของกิจกรรมแบบมุง่ ปฏิบตั ิงาน ( Task-based activities) เพอื สง่ เสรมิ การ เขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรา้ งสรรค์สาํ หรบั นักเรยี นชนั มธั ยมศึกษาปที 3 พบวา่ กิจกรรมนีมปี ระสทิ ธภิ าพเท่ากับ 80.37/84.38 ซงึ สงู กวา่ เกณฑ์ทีตังไว้ 80/80 จะเหน็ ไดว้ า่ คะแนนแบบทดสอบหลังเรยี นสงู กวา่ คะแนนแบบทดสอบ ท้ายบท เนืองจากแบบทดสอบท้ายบทเปนแบบทดสอบทีวดั ผลด้านการเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์ในแต่ละกิจกรรมซงึ มี เนือหาทีค่อนขา้ งยากกวา่ เชน่ การเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์ในหวั ขอ้ My last vacation และ A Haunted house ซงึ มี การกําหนดชอื เรอื งและโครงสรา้ งไวยากรณ์ในการเขยี น แต่ไมม่ กี ารกําหนดคําศัพท์และรูปภาพมาให้ ซงึ อาจทําให้ นักเรยี นเขยี นงานเชงิ สรา้ งสรรค์ออกมาได้น้อย แต่แบบทดสอบหลังเรยี นเปนแบบทดสอบทีไมม่ กี ารกําหนดโครงสรา้ ง ไวยากรณ์ในการเขยี น แต่มกี ารกําหนดคําศัพท์และรูปภาพมาใหแ้ ล้วใหน้ ักเรยี นเขยี นเล่าเรอื งจากภาพตามจนิ ตนาการ ซงึ อาจกระต้นุ ความสนใจใหน้ ักเรยี นสามารถคิดไดอ้ ยา่ งอิสระและกวา้ งไกลกวา่
อภิปรายผล 2. ผลการพฒั นาการเขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรา้ งสรรค์ของนักเรยี นชนั มธั ยมศึกษาปที 3 ทีเรยี นด้วยกิจกรรม แบบมุง่ ปฏิบตั ิงาน (Task-based activities) พบวา่ 1) หลังเรยี นนักเรยี นมคี ะแนนไมต่ ํากวา่ รอ้ ยละ 70 ผา่ นเกณฑ์ มากกวา่ ก่อนเรยี น นักเรยี นสว่ นใหญม่ คี วาม สามารถการเขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรา้ งสรรค์น้อย แต่เมอื เรยี นด้วยกิจกรรมแบบมุง่ ปฏิบตั ิงานแล้ว นกั เรยี นสว่ นใหญ่ สามารถขา้ ใจเทคนิคการคิดเชงิ สรา้ งสรรค์มากขนึ ทําใหน้ ักเรยี นสามารถเขยี นงานสรา้ งสรรค์ออกมาไดด้ แี ละทําให้ คะแนนการเขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรา้ งสรรค์สงู ขนึ ด้วย
อภิปรายผล 2) นักเรยี นมพี ฤติกรรมการปฏิบตั ิงานภาพรวมอยูใ่ นระดบั ดี ทังนีอาจเนืองมาจากกิจกรรมการเรยี นรแู้ บบ มุง่ ปฏิบตั ิงานทีผวู้ จิ ยั สรา้ งขนึ เน้นการจดั กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบค่หู รอื กล่มุ ตามรูปแบบการเรยี นรูแ้ บบมุง่ ปฏิบตั ิงาน ซงึ เปนหนึงในวธิ กี ารเรยี นรูท้ ีเน้นผเู้ รยี นเปนศูนยก์ ลาง ผเู้ รยี นได้มโี อกาสปฏิสมั พนั ธก์ ับเพอื นในหอ้ งเรยี นเพอื ทํางาน ใหเ้ สรจ็ สมบูรณ์ ทําใหน้ ักเรยี นมแี รงกระต้นุ กล้าคิด และรสู้ กึ สนุกกับการเรยี น กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบมุง่ ปฏิบตั ิงาน เปนกิจกรรมทีเน้นการสอื ความหมายมากกวา่ รูปแบบทางภาษา ซงึ อาจชว่ ยลดความกลัวด้านความถกู ต้องในการใช้ ภาษาของนักเรยี น ทําใหน้ ักเรยี นกล้าแสดงออก
อภิปรายผล 3. พบวา่ หลังการเรยี นด้วยกิจกรรมแบบมุง่ ปฎิบตั ิงาน มนี ักเรยี นคะแนนไมต่ ํากวา่ รอ้ ยละ 70 ผา่ นเกณฑ์ จาํ นวน 20 คน และมนี ักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑ์จาํ นวน 12 คน ทังนีอาจจะเปนเพราะแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธทิ างการเรยี น ยากกวา่ แบบทดสอบหลังเรยี น เนืองจากแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธทิ างการเรยี นมกี ารกําหนดไวยากรณ์ทีต้องใชใ้ นการ เขยี น แต่แบบทดสอบหลังเรยี นไมม่ กี ารกําหนดไวยากรณ์ทีต้องใชใ้ นการเขยี น ทําใหน้ ักเรยี นเขยี นแสดงความคิดเหน็ ออก มาได้มากกวา่ 4.ผลการศึกษาความพงึ พอใจของนักเรยี นชนั มธั ยมศึกษาปที 3 ทีมตี ่อกิจกรรมแบบมุง่ ปฏิบตั ิงาน เพอื สง่ เสรมิ การเขยี นภาษาอังกฤษเชงิ สรา้ งสรรค์ พบวา่ ภาพรวมของความพงึ พอใจอยูใ่ นระดบั มาก
ขอ้ ค้นพบในวจิ ยั
1.การจดั การเรยี นรูแ้ บบมุง่ ปฎิบตั ิงาน เปนวธิ กี ารจดั การเรยี นรูท้ ีเน้นผเู้ รยี นเปนศูนยก์ ลาง เปดโอกาสใหน้ ักเรยี นได้เรยี นรูผ้ า่ นการปฎิบตั ิงาน โดยนักเรยี นจะได้ทํากิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง มากกวา่ การนังฟงครูสอน ทําใหน้ ักเรยี นไมเ่ บอื หน่าย กับการเรยี นและกระตือรอื รน้ อยูต่ ลอดเวลา และใน ขนั นําเสนอนักเรยี นจะได้ใหค้ วามคิดเหน็ และขอ้ มูล ยอ้ นกลับแก่เพอื นกล่มุ อืน ๆ ชว่ ยใหน้ ักเรยี นสามารถ มองเหน็ ขอ้ ดีและขอ้ ด้อยของเขาด้วยของตนเองและ นําไปปรบั ปรุงใหด้ ีขนึ ในครงั ต่อไป
2.หลังจากการจดั การเรยี นรู้ พบวา่ นักเรยี นมี ความสามารถในการเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์หลังเรยี น สงู ขนึ โดยก่อนเรยี นนักเรยี นมคี ะแนนเฉลียเพยี ง รอ้ ยละ 64.84 แต่หลังเรยี นนักเรยี นมคี ะแนนเฉลีย รอ้ ยละ 80.37 ซงึ สงู อยา่ งเหน็ ได้ชดั และเมอื พจิ ารณาเกณฑ์การประเมนิ รายได้ ได้แก่ ความคิด คล่องแคล่ว ความคิดยดื หยุน่ ความคิดรเิ รมิ และ ความคิดละเอียดละออ พบวา่ นักเรยี นมคี ะแนนเพมิ ขนึ ทกุ ด้าน เมอื พจิ ารณาแต่ละด้าน พบวา่ นัก เรยี นมี คะแนนด้านความคิดละเอียดละออน้อยทีสดุ อาจเปนเพราะความละเอียดลออเปนความคิดทีนํามา ตกแต่ง หรอื ขยายความคิดหลักใหไ้ ด้ใจความ สมบูรณ์ และมรี ายละเอียดมากยงิ ขนึ
ขอ้ เสนอแนะเพอื การนาํ ไปใช้ 1. ครูควรหาสอื เพมิ เติม 2.ครูควรเตรยี มตัวและ 3.ครูควรเน้นการปอนคํา 4.ควรเพมิ เวลาการปฏิบตั ิ ในขนั ก่อนปฏิบตั ิงาน (Pre- วางแผนระยะเวลา ในการ ศัพท์ใหน้ ักเรยี นก่อนการ งานในแต่ละขนั ใหม้ ากขนึ Task) ซงึ จะชว่ ยกระต้นุ เรยี นการสอนอยา่ ง ปฏิบตั ิงาน ความสนใจของนักเรยี นได้ รอบคอบ มากขนึ
THANK YOU!
ขอ้ เสนอแนะเพอื การนาํ ไปใช้ 1. ครูควรหาสอื เพมิ เติม 2.ครูควรเตรยี มตัวและ 3.ครูควรเน้นการปอนคํา 4.ควรเพมิ เวลาการปฏิบตั ิ ในขนั ก่อนปฏิบตั ิงาน (Pre- วางแผนระยะเวลา ในการ ศัพท์ใหน้ ักเรยี นก่อนการ งานในแต่ละขนั ใหม้ ากขนึ Task) ซงึ จะชว่ ยกระต้นุ เรยี นการสอนอยา่ ง ปฏิบตั ิงาน ความสนใจของนักเรยี นได้ รอบคอบ มากขนึ
THANK YOU!
Search
Read the Text Version
- 1 - 30
Pages: