คู่มอื การประเมินสถานศึกษาเพอื่ รับรางวัลพระราชทาน ระดบั ก่อนประถมศึกษา สานกั ทดสอบทางการศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
สานักทดสอบทางการศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน ๓๑๙ วงั จนั ทรเกษม ถนนราชดาเนินนอก เขตดสุ ิต กทม. ๑๐๓๐๐ โทรศพั ท์ : ๐๒๒๘๘ ๕๗๕๗ / ๐๒๒๘๘ ๕๗๕๘ E-mail : [email protected]
คำช้แี จง การคัดเลือกนักเรียนและสถานศึกษาเพื่อรับรางวัลพระราชทาน ดาเนินการมาต้ังแต่ พ.ศ. ๒๕๐๖ ตามพระราชปรารภของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงให้ความสาคัญกับการส่งเสริมคุณภาพการศึกษา โดยทรงมีพระราช ประสงค์ท่ีจะพระราชทานรางวัลให้แก่นักเรียนที่มีความประพฤติดีและมีความมานะพยายามศึกษาเล่า เรียนจนได้ผลดี รวมท้ังโรงเรียนที่จัดการศึกษาดีจนนักเรียนได้รับผลการเรียนดีเป็นส่วนรวม การคัดเลือกนักเรียนและสถานศึกษา เพื่อรับรางวัลพระราชทานนี้มีการพัฒนามาอย่างต่อเน่ือง ปจั จุบันสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน ดาเนินการคัดเลือกนักเรยี นและสถานศึกษาเพ่ือ รบั รางวัลพระราชทาน ระดบั การศึกษาขั้นพ้นื ฐาน โดยการคัดเลือกนกั เรียนเพือ่ รับรางวัลพระราชทาน แบ่งเป็น ๓ ระดับ ได้แก่ ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอน ปลาย ส่วนการคัดเลือกสถานศึกษาเพ่ือรับรางวัลพระราชทานแบ่งเป็น ๓ ระดับ ได้แก่ ระดับก่อน ประถมศึกษา ระดบั ประถมศึกษา และระดบั มัธยมศกึ ษา ในการคัดเลือกกาหนดให้ใช้แบบประเมินและ คู่มือการประเมินตามที่สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานจัดทาขึ้น ท้ังนี้เป็นไปตามประกาศ ของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐานและประกาศกระทรวงศึกษาธกิ าร ทุกวันนีก้ ารพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาเปล่ียนแปลงไปอย่างรวดเร็วตามเทคโนโลยีท่ีก้าวหน้า มากขึ้น ทาให้มีประเด็นสาคัญในการยกระดับคุณภาพการศึกษาหลายประการที่ควรได้รับการปรับปรุง ประกอบกับนโยบายปฏิรูประบบการประเมินและการประกันคุณภาพการศึกษาที่กาหนดให้การประเมิน ต้องกระชับตรงประเด็น เลือกประเด็นประเมินที่สาคัญและสะท้อนคุณภาพที่แท้จริง ปรับทัศนคติ การประเมินให้ถูกต้องว่าเน้นการประเมินตามบริบทท่ีเป็นจริงท่ีสถานศึกษาดาเนินการมาต่อเนื่อง ไม่ใช่ สร้างเอกสารเพื่อรับการประเมิน วิธีประเมินต้องได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูลจากหลายแห่ง แล้วจึง อภิปรายสรุปเพื่อตัดสินใจ ด้วยเหตนุ ี้ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน จึงปรับแบบประเมิน และคู่มือการประเมินให้เหมาะสมย่ิงข้นึ เอกสารฉบับน้ีเป็นคู่มือการประเมินสถานศึกษาเพ่ือรับรางวัลพระราชทาน ระดับ ก่อนประถมศึกษา ซ่ึงมีรายละเอียดดังนี้คือ คุณสมบัติของสถานศึกษา ขั้นตอนการคัดเลือก ขอบเขต การประเมิน รายการและวิธีการประเมิน เกณฑ์การพิจารณาคัดเลือก และขั้นตอนการจัดทาคะแนน ซ่ึงคณะกรรมการประเมินจะต้องศึกษาอย่างละเอยี ดเพอื่ ให้เขา้ ใจและดาเนนิ การอย่างถกู ต้อง สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขอให้คณะกรรมการประเมินดาเนินการ ประเมินและคัดเลือกตามแบบประเมินและคู่มือการประเมินนี้อย่างเคร่งครัด เพ่ือให้กระบวนการคัดเลือก มีรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน ผลการประเมินมีความถูกต้องเที่ยงตรง ผู้ถูกประเมินได้รับความยุติธรรม ทาให้สาธารณชนยอมรับผลการคัดเลือกด้วยความม่ันใจ อันเป็นการส่งเสริมคุณค่าของรางวัลพระราชทาน ให้สมพระเกียรตอิ ยา่ งยง่ั ยนื ต่อไป สำนกั ทดสอบทำงกำรศึกษำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั พื้นฐำน กระทรวงศึกษำธกิ ำร กันยายน ๒๕62
สารบัญ หนา้ เรื่อง 1 คาชแ้ี จง 1 1. บทนำ 2 2. คุณสมบัติของสถำนศึกษำ ๙ 3. แนวปฏิบัตใิ นกำรประเมนิ และคดั เลือก 1๑ 4. ขอบเขตกำรประเมิน 35 5. รำยกำรประเมนิ และวิธีกำรประเมนิ 6. ขั้นตอนกำรจดั ทำคะแนนและเกณฑ์กำรพจิ ำรณำคดั เลือก
ค่มู ือการประเมนิ สถานศกึ ษาเพื่อรับรางวลั พระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศกึ ษา ๑ ๑. บทนำ การจัดการศึกษาที่วางรากฐานการเรียนรู้ของเด็กในอนาคต ได้แก่ การจัดการศึกษาระดับก่อน ประถมศึกษา ซึ่งถือได้ว่ามีความสาคัญอย่างย่ิง เพราะวัยเด็กเล็กเป็นวัยที่ต้องวางพ้ืนฐานการพัฒนาทุกด้าน เพื่อการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ท่ีดีและเป็นพลเมืองท่ีมีคุณภาพในอนาคต พื้นฐานการพัฒนาเด็กเล็กดังกล่าวจึงต้อง ครอบคลมุ พัฒนาการทางดา้ นร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม และสติปญั ญา ปัจจุบันหลักสูตรระดับก่อนประถมศึกษาที่ประกาศใช้คือ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ หน่วยงานทุกสังกัด โรงเรียน หรือ ศูนย์พัฒนาเด็กประเภทต่าง ๆ สามารถนาหลักสูตรนี้ไปจัดทาเป็น หลักสูตรสถานศึกษาได้ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับเด็กและสภาพท้องถิ่น ท้ังนี้ พบว่ามีสถานศึกษา หลายแห่งสามารถจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาได้อย่างดีเยี่ยม ดังน้ันเพื่อเป็นการกระตุ้นและ เสริมสร้างขวัญ กาลังใจใน การให้ สถาน ศึกษ าระดับ ก่อนป ระ ถม ศึกษาพั ฒ นาการจัดการศึกษ าให้ป ระสบ ความสาเร็จเต็มศักยภาพย่ิงข้ึน กระทรวงศึกษาธิการโดยคณะกรรมการอานวยการคัดเลือกนักเรียน นักศึกษา และสถานศึกษาเพ่ือรับรางวัลพระราชทาน จึงมีมติให้เพ่ิมรางวัลสาหรับสถานศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาที่ จดั การศึกษาดีเด่นขน้ึ ในปีการศึกษา ๒๕๔๒ และได้มีการดาเนนิ การคัดเลือกต้ังแต่น้ันเป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม เพ่ือให้การประเมินและคัดเลือกสถาน ศึกษาระดับ ก่อนประถม ศึกษ ามีเกณ ฑ์ การป ระเมินท่ี เหมาะสมกับ สถานการณ์ปัจจุบัน และสอดคล้องกับนโยบายปฏิรูประบบการประเมินและการประกันคุณภาพการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงได้ปรับปรุงเกณฑ์การประเมินและคมู่ ือการประเมินน้ี การประเมินและคัดเลือกสถานศึกษาเพ่ือรับรางวัลพระราชทานนี้เป็นงานท่ีมีเกียรติสูง เป็นสิริมงคล อีกท้งั เปน็ งานที่สามารถยกระดบั มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาให้สูงขึ้น และไดร้ ับการยอมรับจากทุกฝ่าย อยา่ งต่อเน่อื งยาวนาน สมควรทผ่ี ู้เกย่ี วข้องทุกฝา่ ยจะตอ้ งดาเนินการดว้ ยความรอบคอบ คณะกรรมการประเมิน พึงระลึกอยู่เสมอว่า “ต้องดำเนินกำรด้วยควำมบริสุทธ์ิ ยุติธรรม เป็นไปตำมหลักเกณฑ์กำรประเมิน ใช้ควำมสำมำรถและดุลพินิจในกำรพิจำรณำตัดสินอย่ำงถูกต้อง มีใจเป็นกลำง ไม่โน้มเอียงไปฝ่ำยใด ฝ่ำยหน่ึง” เพ่ือให้ได้สถานศึกษาท่ีสมควรได้รับรางวัลพระราชทานอย่างแท้จริง คณะกรรมการประเมิน ทุกข้ันตอนตั้งแต่ระดับเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษา ระดับจงั หวัด และระดับกลุ่มจังหวัด จึงควรศึกษาคู่มอื การประเมินน้ี อย่างละเอียดกอ่ นท่จี ะดาเนนิ การประเมนิ ๒. คุณสมบตั ขิ องสถำนศึกษำ สถาน ศึ กษาระดั บก่ อนประถมศึ กษาท่ี มี สิ ทธิ์เข้ ารั บการประเมิ น เพ่ื อการคั ดเลื อกให้ เข้ ารั บ ร า ง ว ัล พระราชทาน ต้องมคี ุณสมบัติดงั นี้ ๑. เป็นโรงเรียน/ศูนย์พัฒนาเด็ก หรือที่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่น ทั้งของภาครัฐและเอกชนที่จัด การศึกษาสาหรับเด็กอายุ ๓ - ๖ ปี ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ หรือหลักสูตรอื่นที่ สอดคลอ้ งกบั หลักสตู รน้ี (เปน็ หลักสูตรเพือ่ เตรยี มความพร้อมสาหรับเด็กทจ่ี ะเขา้ เรียนในชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑)
คูม่ อื การประเมินสถานศึกษาเพอื่ รับรางวัลพระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศึกษา ๒ ๒. จัดการศึกษาไดม้ าตรฐานและมคี ุณภาพใน ๔ ดา้ น ต่อไปนี้ ดา้ นท่ี ๑ คุณภาพเด็ก ด้านที่ ๒ การบริหารหลกั สูตรและงานวชิ าการ ดา้ นที่ ๓ การบริหารและการจัดการ ด้านที่ ๔ การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ทเี่ น้นเดก็ เปน็ สาคญั ท้ังน้ี สถานศึกษาดังกลา่ วต้องไม่เคยได้รับรางวัลพระราชทานหรือเคยได้รับรางวัลพระราชทานมาแล้วไม่ น้อยกว่า ๓ ปี จึงจะมสี ิทธ์ิส่งเข้ารบั การประเมิน ๓. แนวปฏบิ ตั ใิ นกำรประเมินและคดั เลือก ๓.๑ กำรแตง่ ต้ังคณะกรรมกำรประเมินและคัดเลอื ก ๑) ระดับเขตพน้ื ท่กี ำรศกึ ษำ ก. คณะกรรมกำรอำนวยกำร ทาหน้าท่ีวางแผนการประเมิน กล่ันกรองผลการประเมิน และเสนอผล ไปยงั สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาที่เป็นศูนย์ประสานงานการคัดเลอื กระดับจงั หวัด ประกอบด้วย ๑) ผู้อานวยการสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประธาน ๒) รองผ้อู านวยการสานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาทีไ่ ด้รบั มอบหมาย รองประธาน ๓) ผทู้ รงคุณวฒุ ิท่มี ีความเช่ยี วชาญดา้ นการจดั การศึกษา ระดบั ก่อนประถมศกึ ษา กรรมการ ๔) ผแู้ ทนหนว่ ยงานตา่ งๆ ท่ีมสี ถานศึกษาท่จี ัดการศกึ ษา ระดบั ก่อนประถมศกึ ษา ซ่ึงอยู่ในเขตพนื้ ท่ี น้ัน กรรมการ ๕) นกั วชิ าการศึกษา/ศึกษานิเทศก์ สานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษา กรรมการ ๖) นักวชิ าการศึกษาท่ีประธานเห็นสมควร กรรมการและเลขานกุ าร ข. คณะกรรมกำรประเมิน ทาหน้าที่ประเมินสถานศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา โดยให้ประธาน คณะกรรมการอานวยการแต่งตง้ั คณะกรรมการประเมินสถานศกึ ษา จานวนคณะละ ๕ หรอื ๗ คน ประกอบดว้ ย ๑) ผอู้ านวยการสานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษา/ รองผอู้ านวยการสานกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษา ประธาน ๒) ผู้ทรงคณุ วุฒิที่มีความเช่ียวชาญดา้ นการจัดการศกึ ษา ระดับก่อนประถมศกึ ษา กรรมการ ๓) ผแู้ ทนหนว่ ยงานต่าง ๆ ท่ีมีสถานศึกษาทจี่ ัดการศกึ ษา ระดับกอ่ นประถมศกึ ษา ซึง่ อย่ใู นเขตพื้นท่ีการศึกษา นน้ั กรรมการ ๔) นักวชิ าการศกึ ษา/ศึกษานิเทศกท์ ่ีรับผิดชอบการจดั การศึกษา ระดับกอ่ นประถมศึกษา สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษา กรรมการ ๕) นักวิชาการศกึ ษา/ผทู้ ป่ี ระธานเหน็ สมควร กรรมการและเลขานกุ าร
คู่มือการประเมินสถานศึกษาเพอ่ื รับรางวัลพระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศึกษา ๓ ๒) ระดับจังหวดั (ยกเว้นกรุงเทพมหำนคร) ก. คณะกรรมกำรอำนวยกำร ทาหน้าทวี่ างแผนการประเมิน กลัน่ กรองผลการประเมนิ และเสนอผล ไปยงั สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาที่เป็นศนู ยป์ ระสานงานการคดั เลือกระดบั กลุ่มจงั หวัด ประกอบด้วย ๑) ผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ที่ไดร้ บั เลือก) ประธาน ๒) ผู้อานวยการสานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษา (ท่เี หลือ) รองประธาน ๓) ผู้ทรงคณุ วุฒทิ ีม่ คี วามเชี่ยวชาญด้านการจัดการศึกษา ระดบั ก่อนประถมศึกษา กรรมการ ๔) ผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ท่มี ีสถานศึกษาที่จัดการศกึ ษา ระดับกอ่ นประถมศึกษา ซึง่ อยู่ในจงั หวัดน้นั กรรมการ ๕) นักวิชาการศึกษา/ศึกษานิเทศก์ สานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษา กรรมการ ๖) นกั วชิ าการศกึ ษาในเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษา ที่ผูอ้ านวยการสานักงานเขตพื้นท่ี การศกึ ษาไดร้ บั เลอื กเป็นประธานที่ประธานเห็นสมควร กรรมการและเลขานุการ ข. คณะกรรมกำรประเมิน ทาหน้าท่ีประเมินสถานศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา โดยให้ประธาน คณะกรรมการอานวยการแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินสถานศึกษา จานวนคณะละ ๕ หรอื ๗ คน ประกอบดว้ ย ๑) ผู้อานวยการสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา/ รองผู้อานวยการสานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษา ประธาน ๒) ผทู้ รงคณุ วฒุ ิที่มคี วามเชยี่ วชาญ ดา้ นการจัดการศกึ ษา ระดบั ก่อนประถมศกึ ษา กรรมการ ๓) ผ้แู ทนหน่วยงานต่าง ๆ ทม่ี ีสถานศึกษาทจี่ ัดการศึกษา ระดับก่อนประถมศกึ ษา ซง่ึ อยูใ่ นจังหวดั น้ัน กรรมการ ๔) นกั วชิ าการศึกษา/ศกึ ษานิเทศก์ ท่ีรับผดิ ชอบการจดั การศึกษา ระดับก่อนประถมศกึ ษา สานักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษา กรรมการ ๕) นกั วชิ าการศกึ ษา/ผูท้ ี่ประธานเหน็ สมควร กรรมการและเลขานุการ หมำยเหตุ การแต่งต้ังประธานเพ่ือการดาเนินการคัดเลือกระดับจังหวัดน้ี ให้เขตพ้ืนที่การศึกษาทุกเขต (กรณีจังหวัดท่ีมีหลายเขต) ตกลงเลือกผู้อานวยการสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาคนใดคนหนึ่งเป็นประธานและ ประกาศให้ผูม้ สี ว่ นเกยี่ วขอ้ งไดร้ ับรรู้ ่วมกัน ๓) ระดับกลุ่มจังหวดั ก. คณะกรรมกำรอำนวยกำร หน้าที่วางแผนการประเมิน แต่งต้ังคณะกรรมการประเมิน กล่ันกรอง ผลการประเมิน และเสนอผลไปยังคณะกรรมการดาเนินงานคัดเลือกนักเรียนและสถานศึกษาเพ่ือรับรางวัล พระราชทาน ระดบั การศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน ประกอบดว้ ย ๑) ผเู้ ชย่ี วชาญสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน/ ผ้อู านวยการสานักท่เี ลขาธกิ าร กพฐ. มอบหมาย/ผู้ทรงคณุ วุฒิ ประธาน ๒) ผู้อานวยการสานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาท่ีไดร้ บั เลือก ให้เป็นศนู ยป์ ระสานงานการคัดเลือกระดบั กลมุ่ จังหวัด รองประธาน ๓) ผอู้ านวยการสานักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาทุกเขตในกลมุ่ จังหวัดนัน้ กรรมการ
ค่มู ือการประเมนิ สถานศกึ ษาเพ่ือรับรางวัลพระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศกึ ษา ๔ ๔) รองผอู้ านวยการสานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษาทีไ่ ด้รบั เลอื ก ให้เปน็ ศูนยป์ ระสานงานการคัดเลือกระดับกล่มุ จังหวัดทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ใหร้ ับผิดชอบงานรางวลั พระราชทาน (จานวน ๑ คน) กรรมการ ๕) ผูท้ รงคณุ วฒุ ิทีม่ ีความเช่ยี วชาญดา้ นการจดั การศึกษา ระดบั ก่อนประถมศึกษา (จานวนไมเ่ กนิ ๓ คน) กรรมการ ๖) ผู้แทนหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ที่มสี ถานศึกษาทจี่ ัดการศึกษา ระดบั ก่อนประถมศกึ ษา ซ่งึ อยู่ในกลมุ่ จงั หวัดน้ัน (หนว่ ยงานละ ๑ คน) กรรมการ ๗) ประธานคณะกรรมการประเมนิ ทุกคณะ กรรมการ ๘) นักวชิ าการ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน กรรมการ ๙) ผูอ้ านวยการกลุ่มส่งเสริมการจดั การศึกษาในเขตพื้นที่การศกึ ษา ที่ผอู้ านวยการสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาได้รับเลอื ก เป็นรองประธาน กรรมการและเลขานุการ ๑๐) นักวิชาการศึกษาในเขตพื้นท่ีการศกึ ษา ทผ่ี อู้ านวยการสานักงานเขต พนื้ ทกี่ ารศกึ ษาได้รับเลือกเป็นรองประธานที่ประธานเหน็ สมควร กรรมการและผชู้ ่วยเลขานุการ ข. คณะกรรมกำรประเมิน ส่วนกลำง ให้ประธานคณะกรรมการอานวยการแต่งต้ังคณะกรรมการประเมินสถานศึกษา จานวน คณะละ ๕ หรือ ๗ คน ประกอบด้วย ๑) ผ้ทู ีป่ ระธานคณะกรรมการอานวยการเหน็ สมควร ประธาน ๒) ผทู้ รงคณุ วฒุ ิท่ีมคี วามเชี่ยวชาญด้านการจดั การศึกษา ระดบั ก่อนประถมศกึ ษา กรรมการ ๓) ผู้แทนหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ทีม่ สี ถานศกึ ษาท่จี ดั การศกึ ษา ระดับก่อนประถมศึกษา ซง่ึ อยใู่ นกลมุ่ จังหวัดน้นั กรรมการ ๔) นกั วชิ าการศึกษา/ศกึ ษานิเทศก์ทร่ี บั ผดิ ชอบการจัดการศกึ ษา ระดับกอ่ นประถมศกึ ษา ในสานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษา กรรมการ ๕) นักวิชาการศกึ ษา/ผู้ทปี่ ระธานเห็นสมควร กรรมการและเลขานกุ าร ส่วนภูมิภำค ให้ประธานคณะกรรมการอานวยการแต่งต้ังคณะกรรมการประเมินสถานศึกษา จานวน คณะละ ๕ หรอื ๗ คน ประกอบด้วย ๑) ผอู้ านวยการสานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษา/ รองผู้อานวยการสานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษา ประธาน ๒) ผู้ทรงคณุ วุฒิทมี่ ีความเชยี่ วชาญด้านการจดั การศึกษา ระดบั ก่อนประถมศึกษา กรรมการ ๓) ผู้แทนหนว่ ยงานต่าง ๆ ท่ีมีสถานศกึ ษาท่จี ดั การศกึ ษา ระดบั ก่อนประถมศกึ ษา ซงึ่ อยใู่ นกลุม่ จังหวดั นน้ั กรรมการ ๔) นกั วชิ าการศกึ ษา/ศึกษานิเทศก์ทีร่ บั ผิดชอบการจัดการศกึ ษา ระดับกอ่ นประถมศึกษา สานกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษา กรรมการ ๕) นักวิชาการศึกษา/ผทู้ ีป่ ระธานเหน็ สมควร กรรมการและเลขานุการ
คู่มอื การประเมนิ สถานศึกษาเพือ่ รับรางวัลพระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศกึ ษา ๕ หมำยเหตุ ๑.การแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินสถานศึกษาระดับจังหวัดหรือระดับกลุ่มจังหวัดก็ตาม ต้องไม่ แต่งตั้งบุคคลที่เคยเป็นกรรมการประเมินสถานศึกษาซ้ากับที่เคยประเมินมาแล้วไม่ว่าในระดับเขตพื้นท่ี การศึกษาหรือระดับจังหวัด (ตัวอย่างเช่น นายยุติธรรม ใจเป็นกลาง ประเมินโรงเรียนวิทยาศึกษาในระดับเขต พ้ืนท่ีการศึกษาแล้ว หากเป็นผู้แทนประเมินในระดับจังหวัดและหรือกลุ่มจังหวัดอีก นายยุติธรรมต้องไม่เป็น กรรมการประเมินในชุดที่มีโรงเรียนวิทยาศึกษาเข้ารับการประเมินด้วย หากโรงเรียนวิทยาศึกษาได้รบั คัดเลือก เขา้ รับการประเมนิ ในระดับจังหวัดและหรอื ระดับกลมุ่ จังหวดั ) ๒. การเสนอรายช่ือผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิควรเป็นข้าราชการบานาญที่มี ความเชยี่ วชาญดา้ นการจัดการศกึ ษาหรือเปน็ อาจารย์ในมหาวทิ ยาลยั ๓. ไม่แตง่ ตัง้ ผู้มีสว่ นไดเ้ สียเป็นกรรมการประเมนิ และไม่แต่งตัง้ ผู้อานวยการโรงเรียนเป็นกรรมการประเมิน ๔. การออกประเมินประเภทประเภทสถานศึกษาต้องมีคณะกรรมการไปประเมนิ จานวนไมต่ ่ากว่า ๕ คน ๓.๒ กำรดำเนินกำรคดั เลอื กสถำนศึกษำ ๑) ข้ันตอนกำรดำเนนิ งำน ๑.๑) สว่ นกลำง เฉพาะกรุงเทพมหานคร ให้ดาเนนิ การดงั นี้ ๑.๑.๑) สถานศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาทุกสังกัดที่จัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน แจ้งความ ประสงคข์ อสมคั รเขา้ รบั การคดั เลือกไปยงั สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร ๑.๑.๒) สา นัก ง า น เ ข ต พื้น ที่ก า ร ศึก ษ า ป ร ะ ถ ม ศึก ษ า ก รุง เ ท พ ม ห า น ค ร เ ป็น ผู้ดาเนินการประเมินและคัดเลือกสถานศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาทุกสังกัด โดยแยกตามสังกัด และขนาด สถานศึกษา ขนาดละ ๑ แหง่ แล้วส่งให้สานักทดสอบทางการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขน้ั พ้นื ฐาน ดาเนินการตอ่ ไป ๑.๑.๓) สานักทดสอบทางการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน ดาเนนิ การ ประเมินและคัดเลือกสถานศึกษาตามขนาดสถานศึกษา โดยเรียงลาดับสถานศึกษาท่ีเข้ารับการคัดเลือกตามผล คะแนนการประเมินจากลาดบั สถานศกึ ษาทไ่ี ด้คะแนนสงู สุดลงมาถึงตา่ สดุ ๑.๒) ส่วนภมู ภิ ำค ให้ดาเนินการดงั นี้ ๑.๒.๑) สถานศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาทุกสังกัดที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน แจ้งความ ประสงคข์ อสมคั รเขา้ รับการคดั เลือกไปยงั สานกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาทส่ี ถานศึกษาต้ังอยู่ ๑.๒.๒) สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาแต่ละเขตพ้ืนท่ี เป็นผู้ดาเนินการประเมิน และคัดเลือกสถานศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา ตามขนาดสถานศึกษา ขนาดละ ๑ แห่ง แล้วส่งให้ ศนู ยป์ ระสานงานการคัดเลือกระดบั จังหวัด ดาเนินการต่อไป ๑.๒.๓) คณะกรรมการระดับจังหวัดประเมินและคัดเลือกสถานศึกษาตามขนาด สถานศึกษา ขนาดละ ๑ แห่ง ส่งให้สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่เป็นศูนย์ประสานงานการคัดเลือก ระดับกลมุ่ จงั หวัดน้นั
คมู่ อื การประเมนิ สถานศึกษาเพือ่ รับรางวลั พระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศกึ ษา ๖ ๑.๒.๔) คณะกรรมการระดับกลุ่มจังหวัดดาเนินการประเมินสถานศึกษาตาม ขนาด สถานศึกษาโดยเรียงลาดับสถานศึกษาที่เข้ารับการประเมินและคัดเลอื กตามผลคะแนนการประเมิน จากลาดับ สถานศึกษาท่ีได้คะแนนสูงสุดลงมาถึงต่าสุด คณะกรรมการระดับกลุ่มจังหวัด ส่งผลการประเมินพร้อมแนบ แบบประเมนิ ที่กรอกคะแนนของคณะกรรมการประเมินรายคนและฉบับสรปุ รวม (ประกอบด้วย ข้อมูลทั่วไป ผลการประเมินแต่ละด้าน แบบสรุปคะแนน และความเห็นของกรรมการ ประเมินในภาพรวม) พร้อมท้ัง เอกสารรายงานผลการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา ๓ ปีการศึกษาย้อนหลัง และข้อมูลประกอบอื่นๆ ส่งไป ยัง สานักทดสอบทางการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน เพ่ือเสนอให้ คณะกรรมการดาเนินงานคัดเลือกนักเรียน และสถานศึกษาเพ่ือรับรางวัลพระราชทาน ระดับการศึกษา ข้ันพื้นฐาน พิจารณาตรวจสอบและเสนอผลต่อคณะกรรมการอานวยการระดับกระทรวงศึกษาธิการ ตามจานวนรางวัลที่กาหนดตอ่ ไป ๒) วธิ ีกำรประเมินและคัดเลือก ให้ดาเนินงานตามคู่มือการประเมินและแบบประเมินสถานศึกษาเพื่อรับรางวัลพระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศกึ ษาของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐานอย่างเคร่งครดั ทุกขั้นตอน ในกรณีท่ีไม่มีสถานศึกษาเข้ารับการประเมิน ให้ระบุให้ชัดเจนว่า “ไม่มีสถานศึกษาเข้ารับ การประเมิน” และในกรณีที่มีสถานศึกษาเข้ารับการประเมินแต่ไม่ผ่านเกณฑ์ ให้ระบุให้ชัดเจนว่า “สถานศึกษา ที่เข้ารับการประเมนิ ไม่ผ่านเกณฑ์” ก่อนส่งผลการประเมินและเอกสารประกอบการพิจารณาไปยังสานักทดสอบทางการศึกษา ให้คณะกรรมการอานวยการระดับกลุ่มจังหวัด ตรวจสอบความถูกต้องของคะแนนการประเมิน ชื่อสถานศึกษา ท่ีตง้ั และขอ้ มูลสว่ นอน่ื ให้ถูกตอ้ งครบถ้วน
คมู่ ือการประเมินสถานศกึ ษาเพือ่ รับรางวัลพระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศึกษา ๗ แผนภำพแสดงขั้นตอนกำรคดั เลือกสถำนศกึ ษำเพอื่ รบั รำงวัลพระรำชทำน ระดับก่อนประถมศึกษำ ในส่วนกลำง สถำนศึกษำ แจง้ ควำมประสงค์ขอเข้ำรบั กำรประเมินและคัดเลอื กตอ่ สำนักงำน เขตพืน้ ท่ีกำรศกึ ษำประถมศกึ ษำกรุงเทพมหำนคร ประเมินและคัดเลอื กสถำนศึกษำ โดยแยกตำมสงั กัด และขนำดของ คณะกรรมกำร สถำนศกึ ษำ ขนำดละ 1 แหง่ ระดบั เขตพ้นื ที่ เสนอผลกำรคดั เลอื กใหศ้ ูนย์ประสำนงำนกำรคดั เลอื กระดบั กำรศึกษำ กลุ่มกรงุ เทพมหำนคร คณะกรรมกำรระดับ ประเมินและคดั เลอื กสถำนศกึ ษำที่ผ่ำนเกณฑจ์ ำกระดบั กรงุ เทพมหำนคร เขตพน้ื ทีก่ ำรศึกษำตำมขนำดของสถำนศกึ ษำ เรยี งลำดับ 1, 2, 3 เสนอผลกำรคัดเลือกให้คณะกรรมกำรดำเนินงำนระดบั กำรศึกษำขน้ั พนื้ ฐำน ตรวจสอบและรวบรวมผลกำรประเมินจำกระดบั กลมุ่ คณะกรรมกำร กรุงเทพมหำนคร ดำเนนิ งำนระดับ เสนอผลกำรประเมินต่อคณะกรรมกำรอำนวยกำร กำรศึกษำขัน้ พื้นฐำน คณะกรรมกำร พจิ ำรณำตัดสนิ ผลกำรประเมนิ สถำนศกึ ษำที่ผำ่ นกำรตรวจสอบ อำนวยกำร จำกคณะกรรมกำรดำเนนิ งำนระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน เสนอผลตอ่ กระทรวงศกึ ษำธกิ ำรเพือ่ พิจำรณำ ประกำศผลกำรคัดเลอื ก กระทรวงศึกษำ เตรียมกำรเข้ำรบั พระรำชทำน
คมู่ ือการประเมนิ สถานศกึ ษาเพอื่ รบั รางวัลพระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศกึ ษา ๘ แผนภำพแสดงขนั้ ตอนกำรคดั เลือกสถำนศกึ ษำเพอื่ รบั รำงวัลพระรำชทำน ระดบั ก่อนประถมศกึ ษำ ในส่วนภูมภิ ำค สถำนศกึ ษำ แจง้ ควำมประสงค์ขอเขำ้ รบั กำรประเมนิ และคัดเลือกต่อ สำนักงำนเขตพื้นทก่ี ำรศึกษำประถมศกึ ษำที่สถำนศึกษำต้ังอยู่ ประเมินและคดั เลือกสถำนศกึ ษำตำมขนำดของสถำนศกึ ษำ คณะกรรมกำรระดบั ขนำดละ 1 แหง่ เขตพืน้ ท่ีกำรศึกษำ เสนอผลกำรคัดเลอื กให้คณะกรรมกำรระดบั จงั หวดั คณะกรรมกำร ประเมินและคัดเลอื กสถำนศกึ ษำทีผ่ ่ำนเกณฑ์จำกระดับเขตพ้นื ที่ ระดับจงั หวัด กำรศกึ ษำตำมขนำดของสถำนศกึ ษำ ขนำดละ 1 แห่ง เสนอผลกำรคัดเลอื กให้คณะกรรมกำรระดบั กลมุ่ จงั หวดั ประเมนิ และคดั เลือกสถำนศกึ ษำท่ีผ่ำนเกณฑ์จำกระดับจงั หวดั คณะกรรมกำร ตำมขนำดของสถำนศกึ ษำขนำดละ 3 แหง่ ระดับกลมุ่ จังหวดั ที่ เรียงลำดบั ท่ี 1, 2, 3,…. 1 - 12 เสนอผลกำรคัดเลอื กใหค้ ณะกรรมกำรดำเนินงำน ระดับกำรศึกษำขัน้ พืน้ ฐำน คณะกรรมกำร ตรวจสอบและรวบรวมผลกำรประเมนิ จำกระดบั ดำเนินงำนระดับ กลุม่ จังหวัด ท่ี 1 – 12 กำรศกึ ษำขน้ั พน้ื ฐำน เสนอผลกำรประเมนิ ต่อคณะกรรมกำรอำนวยกำร พจิ ำรณำตัดสนิ ผลกำรประเมนิ สถำนศกึ ษำทีผ่ ่ำนกำรตรวจสอบจำก คณะกรรมกำร คณะกรรมกำรดำเนนิ งำนระดับกำรศึกษำขัน้ พ้นื ฐำน อำนวยกำร เสนอผลตอ่ กระทรวงศึกษำธิกำรเพอื่ พจิ ำรณำ กระทรวงศกึ ษำธิกำร ประกำศผลกำรคัดเลือก เตรยี มกำรเขำ้ รบั พระรำชทำน
คู่มือการประเมนิ สถานศึกษาเพือ่ รบั รางวลั พระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศึกษา ๙ ๔. ขอบเขตกำรประเมนิ ในการประเมินสถานศึกษาเพื่อรับรางวัลพระราชทานระดับก่อนประถมศึกษา มีขอบเขตการประเมิน ๔ ดา้ น ครอบคลุมด้านผลผลติ กระบวนการ และปัจจัย ซง่ึ แตล่ ะดา้ นมรี ายการประเมนิ ดงั น้ี ด้ำนที่ ๑ คณุ ภำพเดก็ ๑.๑ พัฒนาการด้านร่างกาย ๑.๒ พฒั นาการดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ๑.๓ พัฒนาการด้านสังคม ๑.๔ พัฒนาการด้านสติปญั ญา ดำ้ นท่ี ๒ กำรบริหำรหลกั สตู รและงำนวิชำกำร ๒.๑ การพัฒนาหลกั สตู รสถานศกึ ษา ๒.๒ การจดั กิจกรรมเสรมิ หลกั สูตร ๒.๓ การพัฒนาสอื่ และสงิ่ แวดลอ้ มเพ่ือการเรียนรู้ ๒.๔ การจัดระบบการประเมินพฒั นาการเด็ก ด้ำนที่ ๓ กำรบรหิ ำรและกำรจดั กำรศึกษำ ๓.๑ ภาวะผนู้ าของผู้บรหิ าร 3.2 การพัฒนาองค์กร ๓.3 การใช้เทคโนโลยีและการส่ือสารเพือ่ การเรยี นรู้ ๓.4 การพฒั นาระบบการประกันคณุ ภาพภายใน ๓.5 การจัดระบบข้อมลู สารสนเทศ ดำ้ นที่ ๔ กำรจัดประสบกำรณก์ ำรเรียนรู้ทเ่ี นน้ เด็กเปน็ สำคญั ๔.๑ การจัดทาแผนการจัดประสบการณ์ ๔.๒ การจดั ประสบการณแ์ ละการจัดการชั้นเรยี น ๔.๓ การประเมินพฒั นาการของเด็กในชน้ั เรยี น ๔.๔ การนาผลประเมนิ พฒั นาการไปใช้ นา้ หนักคะแนนของแต่ละด้านมสี ัดส่วนดงั นี้ คือ ดำ้ นที่ ๑ : ด้ำนที่ ๒ : ด้ำนท่ี ๓ : ดำ้ นที่ ๔ : เท่ากับ ๓ : 2 : 3 : 2 ตามลาดับ แต่ละรายการประเมินในแตล่ ะด้านมีคะแนนเทา่ กบั ๔ คะแนน
คูม่ ือการประเมนิ สถานศกึ ษาเพื่อรับรางวลั พระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศึกษา ๑๐ สรปุ ภำพรวมกำรประเมนิ พร้อมทัง้ วธิ กี ำรประเมนิ และแหล่งขอ้ มลู ดำ้ นท่ี รำยกำรประเมนิ วธิ ีกำรประเมินและแหล่งขอ้ มูล ๑.คุณภาพเด็ก ๑.๑ พฒั นาการด้านรา่ งกาย 1) พิจารณาจากหลักฐานและสภาพจริงที่ ๑.๒ พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ปรากฏ ๑.๓ พฒั นาการด้านสงั คม 2) สังเกตและสัมภาษณ์เด็กเปน็ รายบคุ คล ๑.๔ พฒั นาการด้านสตปิ ัญญา และรายกลุ่ม 3) สมั ภาษณ์ ครู ครูพ่เี ล้ยี ง ผู้ปกครอง และ ผูเ้ ก่ียวขอ้ ง ๒. การบริหารหลักสูตร ๒.๑ การพัฒนาหลักสตู รสถานศึกษา 1) พิจารณาจากหลักฐานและร่องรอย และงานวิชาการ ๒.๒ การจัดกิจกรรมเสริมหลักสตู ร การปฏิบัติงาน ๒.๓ การพฒั นาส่ือและส่งิ แวดลอ้ ม 2) สัมภาษณบ์ คุ ลากรท่ีเก่ียวข้อง เพื่อการเรียนรู้ 3) สงั เกตบรรยากาศและสิ่งแวดลอ้ ม ๒.๔ การจดั ระบบการประเมิน ทง้ั ภายในหอ้ งเรยี นและภายในบรเิ วณ พฒั นาการของเด็ก โรงเรยี น ๓. การบริหารและ ๓.๑ ภาวะผนู้ าของผบู้ รหิ าร 1) พิจารณาจากหลักฐานและร่องรอย การจดั การ 3.2 การพัฒนาองคก์ ร การปฏบิ ตั งิ าน 3.3 การใช้เทคโนโลยีและการ 2) สัมภาษณบ์ คุ ลากรท่เี ก่ยี วขอ้ ง สื่อสารเพ่ือการศึกษา 3) สงั เกตสภาพจรงิ ที่ปรากฏ 3.4 การพฒั นาระบบการประกนั คณุ ภาพภายใน ๓.5 การจัดระบบขอ้ มลู สารสนเทศ ๔. การจดั ประสบการณ์ ๔.๑ การจัดทาแผนการจัด 1) พจิ ารณาจากหลักฐานและสภาพจรงิ การเรยี นรู้ทีเ่ น้น ประสบการณ์ ท่ปี รากฏ เด็กเปน็ สาคญั ๔.๒ การจดั ประสบการณ์และ 2) สังเกตการจดั กิจกรรมท้งั ในและ การจดั การชนั้ เรยี น นอกห้องเรยี น ๔.๓ การประเมนิ พฒั นาการของเด็ก 3) สัมภาษณ์ผู้บรหิ าร ครู ครูพ่ีเลย้ี ง เด็ก ในช้นั เรยี น ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้อง ๔.๔ การนาผลประเมินพฒั นาการไปใช้
คู่มือการประเมนิ สถานศึกษาเพอื่ รับรางวัลพระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศึกษา ๑๑ ๕. รำยกำรประเมินและวิธีกำรประเมนิ การประเมินเพ่ือคัดเลือกสถานศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา มีขอบเขตการประเมิน ๔ ด้าน แต่ละ ด้านมคี าอธบิ าย หวั ขอ้ พิจารณา แนวทางการใหร้ ะดับคณุ ภาพ วิธีการประเมิน และแหลง่ ข้อมูล ดังนี้ ด้ำนที่ ๑ คณุ ภำพเด็ก คุณภำพเด็ก หมายถึง ผลการประเมินพัฒนาการของเด็กครอบคลุมทุกด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสตปิ ัญญา รำยกำรประเมิน ๑.1 พัฒนาการด้านร่างกาย ๑.๒ พัฒนาการดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ๑.๓ พัฒนาการด้านสังคม ๑.๔ พัฒนาการดา้ นสตปิ ัญญา ๑.๑. พัฒนำกำรดำ้ นร่ำงกำย พัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย พิจารณาจากเด็กมีน้าหนักสว่ นสูงเป็นไปตามเกณฑม์ าตรฐานกระทรวง สาธารณสุข มีความสามารถในการใช้กล้ามเน้ือใหญ่ กล้ามเนื้อเล็ก และมีการประสานสัมพันธ์กันดี มีความคล่องตัวและว่องไวในการเดิน การวิ่ง การหยิบจับ การควบคุมและบังคับการทรงตัว มีสุขภาพแข็งแรง อยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาดปลอดภัย รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ พักผ่อนอย่างเพียงพอ มีสุขนิสัยใน การรักษาสขุ ภาพและอนามัย รวมทง้ั รู้จกั รกั ษาความปลอดภยั ของตนเอง ระดบั คุณภำพและคำอธบิ ำย ระดับ คำอธบิ ำยระดับคุณภำพ ๔ เด็กมนี ้าหนักและส่วนสงู เปน็ ไปตามเกณฑม์ าตรฐานกระทรวงสาธารณสขุ มีคณุ ภาพอยู่ใน ระดับดเี ย่ียม เด็กมกี ลา้ มเนอ้ื ใหญ่แข็งแรง สามารถใช้ได้อย่างคลอ่ งแคล่ว เคลือ่ นไหวในท่าต่าง ๆ และ ทรงตวั ได้อย่างดเี ยย่ี ม เด็กมีกลา้ มเนอ้ื เล็กแข็งแรง สามารถใชไ้ ดอ้ ย่างคล่องแคลว่ และประสานสมั พนั ธก์ นั ได้ อยา่ งดีเย่ยี ม เด็กมสี ขุ ภาพแข็งแรง และรูจ้ ักเลือกอยู่ในสภาพแวดล้อมท่ีสะอาดปลอดภัย เด็กมสี ุขนสิ ยั ทด่ี ี รับประทานอาหารทเี่ ปน็ ประโยชน์ พกั ผ่อนอย่างเพยี งพอและเปน็ เวลา ๓ เดก็ มีนา้ หนกั และส่วนสงู เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขมคี ณุ ภาพอยใู่ นระดับดี เด็กมกี ล้ามเน้ือใหญ่แขง็ แรง สามารถใชไ้ ด้อยา่ งคล่องแคล่ว เคล่อื นไหวในทา่ ต่าง ๆ และ ทรงตวั ได้อย่างดี เด็กมกี ล้ามเน้ือเล็กแข็งแรง สามารถใชไ้ ดอ้ ย่างคลอ่ งแคล่ว และประสานสมั พนั ธก์ ัน เด็กมสี ขุ ภาพแข็งแรง และรจู้ ักเลือกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เด็กมสี ขุ นิสัยที่ดี รับประทานอาหารท่เี ปน็ ประโยชน์ และพักผอ่ นอย่างเพียงพอ
คู่มือการประเมนิ สถานศึกษาเพ่อื รับรางวัลพระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศึกษา ๑๒ ระดับ คำอธบิ ำยระดบั คณุ ภำพ ๒ เด็กมนี ้าหนักและส่วนสูงเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข เด็กมีกล้ามเนื้อใหญ่แขง็ แรง สามารถใช้ได้อย่างปกติ เคลอื่ นไหวในท่าต่าง ๆ และทรงตัวได้ เด็กมกี ลา้ มเน้ือเล็กแข็งแรง สามารถใช้ไดอ้ ยา่ งปกตแิ ละประสานสัมพันธก์ ัน เด็กมสี ุขภาพแข็งแรง หรือรูจ้ ักเลอื กอยใู่ นสภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสม เด็กมสี ขุ นสิ ัยท่ีดี หรือรบั ประทานอาหารทเ่ี ปน็ ประโยชน์ หรอื พักผอ่ นอยา่ งเพียงพอ ๑ เด็กมนี า้ หนักและส่วนสูงเปน็ ไปตามเกณฑ์มาตรฐานกระทรวงสาธารณสขุ เด็กมกี ล้ามเน้อื ใหญ่แข็งแรง แตเ่ คล่อื นไหวในท่าต่าง ๆ ไม่คล่องแคลว่ และทรงตัวได้ไม่ดี เด็กมกี ล้ามเน้ือเล็กแข็งแรง สามารถใชไ้ ด้อย่างปกติ แตย่ ังไม่ประสานสมั พนั ธก์ ัน เด็กมสี ขุ ภาพแข็งแรง หรือรูจ้ ักเลือกอยใู่ นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เด็กมสี ขุ นสิ ยั ท่ีดี หรอื รับประทานอาหารทีเ่ ป็นประโยชน์ หรือพักผอ่ นอย่างเพยี งพอ วิธีกำรประเมนิ และแหล่งข้อมูล 1) พิจารณาจากหลักฐานที่ปรากฏ เช่น สมุดบันทึกประจาตัวเด็ก สมุดรายงานพัฒนาการของเด็ก แฟม้ สะสมงานของเด็ก ภาพถ่ายกจิ กรรมส่งเสรมิ พัฒนาการด้านร่างกาย บันทกึ ต่าง ๆ 2) สังเกตเด็กเป็นรายบุคคลท้ังด้านสภาพทางร่างกายและด้านสุขนิสัย (อาจสุ่มเด็กจานวนหน่ึง ในห้องหรือสุ่มเป็นรายห้อง หรือสังเกตเด็กท้ังห้องแล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ข้ึนอยู่กับความเหมาะสมกับขนาด ของสถานศึกษา) 3) สัมภาษณ์ ครู ผูด้ ูแลเด็ก เด็ก และบคุ ลากรทีเ่ กย่ี วขอ้ ง ๑.๒ พฒั นำกำรดำ้ นอำรมณ์ จติ ใจ พัฒนำกำรด้ำนอำรมณ์ จิตใจ พิจารณาจากเด็กมีอุปนิสัย บุคลิกภาพ และสุนทรียภาพ เห็นได้ จากความร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใส มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อ่ืน รักการออกกาลังกาย รักดนตรี ชืน่ ชมศิลปะ ธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม กล้าแสดงออก มีความมั่นใจในตนเอง แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับวัย มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมจี ติ ใจท่ดี ีงาม ระดับคณุ ภำพและคำอธบิ ำย ระดบั คำอธิบำยระดับคณุ ภำพ ๔ เด็กมคี วามสุข ร่าเริง สนกุ สนาน ยมิ้ แยม้ แจ่มใส ปรากฏอย่างชัดเจน เด็กชืน่ ชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี การเคลอ่ื นไหว และการออกกาลังกาย เด็กรักธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม มีความรูส้ กึ ท่ดี ตี ่อตนเองและผอู้ ื่น เดก็ มคี วามมัน่ ใจในตนเอง กลา้ แสดงออก ปรากฏอย่างชัดเจน เดก็ แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับวัยและสถานการณ์ เด็กมีคุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มทด่ี ีตามจุดเนน้ ของสถานศกึ ษา ปรากฏอยา่ งชัดเจน ๓ เด็กมคี วามสขุ รา่ เริง สนุกสนาน ย้มิ แย้ม แจม่ ใส เด็กชื่นชมและแสดงออกทางศลิ ปะ ดนตรี การเคล่อื นไหว และการออกกาลังกาย
คู่มือการประเมินสถานศึกษาเพอ่ื รบั รางวัลพระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศกึ ษา ๑๓ ระดบั คำอธิบำยระดับคณุ ภำพ เด็กรกั ธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม มคี วามรสู้ กึ ทีด่ ีเฉพาะต่อตนเอง เด็กมีความมน่ั ใจในตนเอง กล้าแสดงออก เด็กแสดงออกทางอารมณไ์ ดเ้ หมาะสมกบั วยั และสถานการณ์ เด็กมคี ุณธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มท่ีดีตามจุดเนน้ ของสถานศกึ ษา ๒ เด็กมคี วามสุข รา่ เรงิ ย้ิมแย้ม แจม่ ใส เด็กชนื่ ชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี การเคลือ่ นไหว และการออกกาลังกาย เด็กรักธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม มคี วามรู้สึกท่ีดีเฉพาะต่อตนเอง เด็กมคี วามมนั่ ใจในตนเอง แต่ไม่กล้าแสดงออก เด็กแสดงออกทางอารมณไ์ ด้เหมาะสมกบั วยั เด็กมีคุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มที่ดี ๑ เด็กมคี วามร่าเริง ย้ิมแย้ม แจ่มใส เด็กแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี การเคลื่อนไหว และการออกกาลังกาย เด็กมคี วามรู้สกึ ทดี่ ีเฉพาะต่อตนเอง รักธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม เด็กมีความมั่นใจในตนเอง แต่ไมก่ ลา้ แสดงออก และแสดงออกทางอารมณ์ได้ไม่เหมาะสมกับวัย และสถานการณ์ เด็กมีคุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยมท่ีดี วิธีกำรประเมินและแหล่งข้อมูล 1) พิจารณาจากหลักฐาน เช่น บันทึกการดูแลเด็ก กิจกรรมที่จัดให้เด็ก การแสดงออกของเด็กใน สถานการณป์ จั จบุ ัน เป็นตน้ 2) สังเกตพฤติกรรมของเด็กท้ังเปน็ รายบุคคลและรายกลุ่ม 3) สมั ภาษณ์เด็กเปน็ รายบคุ คลและรายกลุ่ม ครู ผดู้ ูแลเด็ก พีเ่ ลยี้ งเด็ก ผูป้ กครอง ๑.๓ พฒั นำกำรด้ำนสงั คม พัฒนำกำรด้ำนสังคม พิจารณาจากเด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้เหมาะสมกับวัย มีวินัยใน ตนเอง รับผิดชอบตนเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจาวัน รับรู้และสร้างปฏิสัมพันธ์กับบุคคลและสิ่งแวดล้อม รอบตัว ยอมรับความเหมือนและความแตกต่างระหว่างบุคคล ระวังภัยจากคนแปลกหน้า ดูแลรักษาธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มีสมั มาคารวะ รกั วัฒนธรรมและความเป็นไทย อยู่รว่ มกับผู้อื่นได้อยา่ งมีความสุข รจู้ ักเป็นผนู้ า ผู้ตามทด่ี ี และปฏบิ ัติตนเปน็ สมาชิกท่ีดีของสังคมในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมุข
ค่มู ือการประเมนิ สถานศกึ ษาเพอ่ื รบั รางวลั พระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศกึ ษา ๑๔ ระดบั คณุ ภำพและคำอธบิ ำย ระดบั คำอธบิ ำยระดับคณุ ภำพ ๔ เด็กสามารถชว่ ยเหลือตนเองได้อย่างดีเย่ยี มและเหมาะสมกับวัย เด็กมีวินัยในตนเอง และรับผิดชอบตนเองไดด้ ีเยย่ี ม เด็กรับรแู้ ละสร้างปฏิสัมพันธ์กบั บุคคลและส่ิงแวดลอ้ มรอบตวั ได้ดีเย่ยี ม เด็กเขา้ ใจและยอมรบั ความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างบุคคลไดเ้ ป็นอย่างดี เด็กมคี วามสามารถระวังภัยจากคนแปลกหน้าได้ดีเยี่ยม เด็กสามารถดูแลรกั ษาธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มได้ดีเยี่ยม เด็กมสี มั มาคารวะตอ่ ครู พอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และบุคคลอน่ื โดยแสดงออกอยา่ งชดั เจน เด็กรักวฒั นธรรมและความเป็นไทยโดยแสดงออกอยา่ งชดั เจน เด็กอยู่ร่วมกับครู พอ่ แม่ ผปู้ กครอง และบุคคลอืน่ ได้อย่างมคี วามสุขที่แสดงออกชัดเจน เด็กปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชิกที่ดีของสงั คมทง้ั ภายในและนอกห้องเรยี น ๓ เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้อย่างดแี ละเหมาะสมกบั วยั เด็กมีวนิ ัยในตนเองและรบั ผิดชอบตนเองได้ดี เด็กรบั ร้แู ละสร้างปฏิสัมพันธ์กับบุคคลและสงิ่ แวดลอ้ มรอบตัวไดด้ ี เด็กเข้าใจและยอมรับความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลไดด้ ี เด็กมคี วามสามารถระวงั ภัยจากคนแปลกหนา้ ได้ดี เด็กสามารถดแู ลรกั ษาธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มได้ดี เด็กแสดงออกถงึ การมีสัมมาคารวะตอ่ ครู พอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และบคุ คลอน่ื เด็กแสดงออกถึงความรกั วฒั นธรรมและความเป็นไทย เด็กอยรู่ ่วมกับครู พอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และบุคคลอน่ื ได้อยา่ งมีความสุข เด็กปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชิกท่ีดีของสงั คมทั้งภายในและนอกห้องเรยี น ๒ เด็กสามารถช่วยเหลอื ตนเองไดเ้ หมาะสมกบั วัย เด็กมวี ินัยในตนเองและรบั ผิดชอบตนเองได้ เด็กรบั รแู้ ละสร้างปฏสิ ัมพนั ธ์กับบุคคลและส่ิงแวดลอ้ มรอบตวั ได้ เด็กเขา้ ใจและยอมรับความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล เด็กมคี วามสามารถระวงั ภัยจากคนแปลกหน้าได้ เด็กสามารถดูแลรกั ษาธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มได้ เด็กมีสมั มาคารวะต่อครู พอ่ แม่ ผู้ปกครอง และบุคคลอ่ืน เด็กรักวฒั นธรรมและความเป็นไทย เด็กอยู่ร่วมกับครู พอ่ แม่ ผปู้ กครอง และบุคคลอ่นื เด็กปฏิบัตติ นเปน็ สมาชิกที่ดีของกลุ่ม
คู่มอื การประเมินสถานศกึ ษาเพอ่ื รบั รางวัลพระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศกึ ษา ๑๕ ระดับ คำอธิบำยระดับคุณภำพ ๑ เด็กมีความสามารถในการช่วยเหลอื ตนเองไมเ่ หมาะสมกบั วยั เด็กขาดวนิ ัยในตนเองและขาดความรบั ผิดชอบตนเอง เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับบคุ คลและสง่ิ แวดล้อมรอบตัวไมเ่ หมาะสมกบั วัย เด็กไมเ่ ขา้ ใจหรือไม่ยอมรบั ความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างบุคคล เด็กขาดความระวงั ภัยจากคนแปลกหน้า เด็กขาดทกั ษะในการรักษาธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม เด็กไม่มีสมั มาคารวะต่อครู พ่อแม่ ผปู้ กครอง หรือบุคคลอื่น เด็กไม่สามารถแสดงออกถึงความรักวฒั นธรรมและความเป็นไทย เด็กไมส่ ามารถอยู่ร่วมกับครู พ่อแม่ ผปู้ กครอง และบุคคลอ่นื ไดต้ ามปกติ เด็กไม่สามารถปฏบิ ัตติ นเปน็ สมาชกิ ทด่ี ีของกลุม่ วธิ กี ำรประเมินและแหล่งข้อมลู 1) พิจารณาจากหลักฐาน เช่น บันทึกการดูแลเด็ก กิจกรรมท่ีจัดให้เด็ก การแสดงออกของเด็กใน สถานการณป์ จั จุบนั เปน็ ต้น 2) สงั เกตพฤตกิ รรมของเด็กท้งั เป็นรายบคุ คลและรายกล่มุ 3) สมั ภาษณ์เด็กเปน็ รายบุคคลและรายกลมุ่ ครู ผดู้ ูแลเด็ก พี่เลยี้ งเด็ก ผ้ปู กครอง ๑.๔ พฒั นำกำรทำงดำ้ นสตปิ ัญญำ พัฒนำกำรทำงด้ำนสติปัญญำ พิจารณาจากเด็กมีความสามารถในการใช้ภาษาสื่อสารได้ เหมาะสมกับวัย สนทนาโต้ตอบและเล่าเรื่องให้ผู้อื่นเข้าใจ อ่านเขียนภาพและสัญลักษณ์ได้ สามารถสังเกต จาแนก เปรียบเทียบ รู้ค่าและจานวน น้าหนัก รูปร่าง รูปทรง เวลา การคาดคะเน สามารถคิดแก้ปัญหาและ ตัดสินใจได้ มีความสามารถในการคิดเชิงเหตุผล ความคิดรวบยอด มีจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ มีเจตคติ ท่ดี ตี ่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกับวัย ระดับคุณภำพและคำอธบิ ำย ระดบั คำอธิบำยระดับคณุ ภำพ ๔ เด็กใช้ภาษาส่ือสาร สนทนาโตต้ อบ และเลา่ เรื่องให้ผ้อู น่ื เข้าใจได้อยา่ งดีเยีย่ ม เดก็ อา่ น เขียนภาพและสัญลักษณ์ สังเกต จาแนก เปรียบเทียบได้อย่างดีเยยี่ ม เด็กมที ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์โดยสามารถแสดงออกได้อย่างชัดเจน เด็กคิดแก้ปญั หา ตัดสนิ ใจ และคิดรวบยอดได้อย่างดเี ยี่ยมเหมาะสมกับวยั เด็กมีจนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์ไดอ้ ย่างดีเย่ยี มเหมาะสมกับวยั เด็กมีเจตคติท่ดี ตี ่อการเรยี นรู้ มคี วามกระตือรือรน้ ทจ่ี ะหาคาตอบและแสวงหาความรู้ ดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ ไดเ้ หมาะสมกบั วัย ปรากฏอย่างเด่นชดั
คู่มอื การประเมนิ สถานศึกษาเพือ่ รับรางวลั พระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศกึ ษา ๑๖ ระดับ คำอธบิ ำยระดับคุณภำพ ๓ เด็กใช้ภาษาสื่อสาร สนทนาโตต้ อบ และเล่าเร่ืองใหผ้ ู้อ่นื เข้าใจได้อย่างดี เดก็ อ่าน เขยี นภาพและสัญลกั ษณ์ สังเกต จาแนก เปรียบเทียบได้อยา่ งดี เด็กมที ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์โดยสามารถแสดงออกได้ เด็กคดิ แก้ปัญหา ตัดสินใจ และคิดรวบยอดได้อยา่ งดีเหมาะสมกับวัย เด็กมีจนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์ไดอ้ ย่างดีเหมาะสมกับวัย เด็กมเี จตคตทิ ่ีดีต่อการเรยี นรู้ มีความกระตือรือรน้ ทจี่ ะหาคาตอบและแสวงหาความรู้ ดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ ไดเ้ หมาะสมกับวัย ๒ เด็กใชภ้ าษาสื่อสาร สนทนาโตต้ อบ และเลา่ เร่ืองใหผ้ ้อู ่นื เข้าใจได้ เดก็ อา่ น เขยี นภาพและสัญลกั ษณ์ สังเกต จาแนก เปรียบเทียบได้ เด็กมที ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรโ์ ดยสามารถแสดงออกได้พอสมควร เดก็ คิดแก้ปัญหา ตัดสินใจ และคิดรวบยอดได้ เด็กมีจนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เด็กมเี จตคตทิ ่ีดีต่อการเรยี นรู้และแสวงหาความรู้ดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ ๑ เด็กใชภ้ าษาสอื่ สารได้ แต่ไมส่ ามารถสนทนาโตต้ อบและเล่าเรอื่ งใหผ้ ู้อื่นเขา้ ใจได้ เดก็ อ่าน เขยี นภาพและสัญลกั ษณ์ สังเกต แต่ไม่สามารถจาแนก เปรียบเทียบได้ เด็กไมม่ ีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เด็กคิดแกป้ ญั หา แต่ไมส่ ามารถตดั สนิ ใจและคิดรวบยอดได้ เด็กมจี ินตนาการ แตย่ ังขาดความคดิ สร้างสรรค์ เด็กมีเจตคติท่ดี ตี ่อการเรยี นรู้ แตข่ าดความกระตอื รือร้นท่ีจะหาคาตอบและแสวงหาความรู้ ดว้ ยวิธีการต่าง ๆ วธิ ีกำรประเมนิ และแหล่งขอ้ มลู 1) พิจารณาจากหลักฐาน เช่น บันทึกการดูแลเด็ก กิจกรรมท่ีจัดให้เด็ก การแสดงออกของเด็กใน สถานการณป์ ัจจุบนั บนั ทกึ การประเมนิ พัฒนาการของเดก็ เป็นต้น 2) สังเกตพฤติกรรมของเด็กทง้ั เปน็ รายบคุ คลและรายกล่มุ 3) สมั ภาษณ์เด็กเปน็ รายบคุ คลและรายกลุ่ม ครู ผู้ดูแลเด็ก พ่เี ลี้ยงเด็ก ผู้ปกครอง ด้ำนท่ี ๒ กำรบริหำรหลักสูตรและงำนวชิ ำกำร กำรบริหำรหลักสูตรและงำนวิชำกำร หมายถึง สถานศึกษาดาเนินการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอย่าง เป็นระบบ จัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร พัฒนาส่ือและส่ิงแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้ และจัดระบบการประเมิน พฒั นาการเด็กได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ รำยกำรประเมิน ๒.๑ การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ๒.๒ การจดั กิจกรรมเสริมหลักสูตร
คู่มือการประเมินสถานศึกษาเพอื่ รับรางวลั พระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศึกษา ๑๗ ๒.๓ การพัฒนาสอื่ และสิง่ แวดล้อมเพอ่ื การเรียนรู้ ๒.๔ การจัดระบบการประเมนิ พัฒนาการเด็ก ๒.๑ กำรพัฒนำหลักสูตรสถำนศึกษำ พิจารณาจากสถานศึกษาดาเนินการพัฒนาหลักสูตรการศึกษา ปฐมวัยของสถานศึกษาอย่างเปน็ ระบบ มีการวเิ คราะห์และวางแผนการพัฒนาหลักสูตร โดยมีผู้ปกครอง ชุมชน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วม นาหลักสูตรสู่การปฏิบัติจริงได้ชัดเจน มีการกากับ ติดตาม ประเมิน และรายงานผลการใช้หลักสูตรท่ีมีระบบและต่อเนื่อง รวมถึงมีการนาผลการประเมินไปใช้ปรับปรุงและพัฒนา หลักสูตรสถานศึกษาให้มีคุณภาพ มีความยืดหยุ่น เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาและสภาพการณ์ท่ี เกดิ ขึ้นในปจั จุบนั ระดับคณุ ภำพและคำอธบิ ำย ระดับ คำอธิบำยระดับคณุ ภำพ ๔ วเิ คราะห์ความต้องการจาเปน็ ของสถานศกึ ษา รว่ มกับชุมชน สังคม ท้องถนิ่ และผู้มีส่วน เกย่ี วขอ้ งครบทุกฝา่ ย นาผลการวิเคราะหท์ ี่ได้มาพัฒนาหลักสตู รสถานศกึ ษาให้มคี วามยดื หยนุ่ และสอดคลอ้ งกบั หลักสตู รการศกึ ษาปฐมวัยฉบับปจั จุบัน เปา้ หมายและวสิ ยั ทัศนข์ องสถานศกึ ษา นาหลักสูตรสถานศึกษาไปออกแบบการจัดประสบการณ์อย่างเป็นขัน้ ตอนตามทก่ี าหนด บรรลุผล ตามจุดมุ่งหมาย จัดทาแผนและดาเนนิ การนเิ ทศ กากับ ติดตาม และประเมินการใชห้ ลักสตู รเปน็ ระบบและต่อเนือ่ ง สรุปผลการนเิ ทศ กากบั ตดิ ตาม และประเมิน นาผลมาปรบั ปรุงและพัฒนาหลักสตู รอย่างตอ่ เนอื่ ง โดยใช้กระบวนการวิจัยเพื่อพัฒนา หลกั สูตรสถานศกึ ษาสามารถเป็นแบบอย่างได้ 3 วเิ คราะห์ความต้องการจาเป็นของสถานศึกษา แต่มชี ุมชน สังคม และท้องถนิ่ รว่ มดาเนนิ การไม่ ครบทกุ ฝา่ ย หรือขาดประเด็นพิจารณาที่เกยี่ วข้องไปบ้าง นาผลการวเิ คราะห์ที่ได้มาพัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษาให้มคี วามยดื หยุ่นและสอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัยฉบับปจั จบุ นั เป้าหมายและวิสัยทศั นข์ องสถานศกึ ษา นาหลกั สตู รสถานศึกษาไปออกแบบการจัดประสบการณ์อย่างเป็นข้นั ตอนตามทก่ี าหนด บรรลผุ ลตามจดุ มุ่งหมาย จัดทาแผนและดาเนนิ การนเิ ทศ กากับ ตดิ ตาม และประเมินการใชห้ ลกั สตู รท่เี ปน็ ระบบ สรุปผลการนิเทศ กากับ ตดิ ตาม และประเมินมาปรับปรุงและพฒั นาหลักสตู ร โดยใช้กระบวนการวิจัยเพ่ือพัฒนา มแี นวโน้มว่าจะเปน็ หลักสูตรทนี่ าไปขยายผลได้ ๒ วิเคราะหค์ วามต้องการจาเป็นของสถานศกึ ษา โดยชุมชน สังคม และทอ้ งถ่ิน มสี ว่ นรว่ มน้อย นาผลการวิเคราะหท์ ่ีได้มาพฒั นาหลกั สูตรสถานศกึ ษาให้มคี วามยดื หย่นุ และสอดคลอ้ งกับ หลักสูตรการศกึ ษาปฐมวัยฉบับปจั จบุ ัน เป้าหมายและวสิ ัยทศั น์ของสถานศึกษา นาหลกั สูตรสถานศึกษาไปออกแบบการจัดประสบการณ์ แต่ยงั ไม่บรรลุผล จดั ทาแผนและดาเนนิ การนิเทศ กากบั ตดิ ตาม และประเมินการใชห้ ลักสูตร แต่ยังไมม่ ี การรายงานผล
ค่มู อื การประเมนิ สถานศกึ ษาเพอ่ื รับรางวัลพระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศึกษา ๑๘ ระดับ คำอธบิ ำยระดบั คณุ ภำพ มรี ่องรอยการสรุปผลการนิเทศ กากับ ติดตาม และประเมิน มาปรบั ปรงุ และพัฒนาหลักสูตร แตไ่ ม่มีรายงานทช่ี ัดเจน ๑ วิเคราะห์ความต้องการจาเปน็ ของสถานศึกษา โดยชมุ ชน สังคม และท้องถนิ่ มสี ว่ นรว่ มน้อยมาก หรือไมม่ ีส่วนร่วมเลย นาผลการวเิ คราะห์ท่ีได้มาพฒั นาหลักสูตรสถานศกึ ษาให้สอดคลอ้ งกับหลกั สตู รการศึกษา ปฐมวยั ฉบบั ปัจจุบัน เป้าหมายและวิสยั ทัศน์ของสถานศกึ ษา แตห่ ลักสตู รยงั ไมส่ มบูรณ์ พอทจ่ี ะนาไปใช้ นาหลักสูตรสถานศึกษาไปออกแบบการจดั ประสบการณ์ ขั้นตอนการออกแบบไม่ชดั เจน ดาเนนิ การนเิ ทศ กากับ ตดิ ตาม และประเมินการใชห้ ลกั สูตรที่ไมเ่ ป็นระบบ หรอื ไมม่ ี การดาเนนิ การ ไมม่ ีการสรุปผลการนิเทศ กากบั ติดตาม และไมม่ ีการประเมินการใชห้ ลกั สตู ร วิธกี ำรประเมินและแหลง่ ขอ้ มลู 1) พิจารณาจากหลักฐานและร่องรอยการปฏิบัติงานท่ีปรากฏ เช่น หลักสูตรสถานศึกษา แผนพัฒนา การศึกษาของสถานศึกษา แผนปฏิบัติการประจาปี โครงการและกิจกรรมตามแผน บันทึกการดาเนินงาน บันทึกการประชุม รายงานประจาปี แผนการจัดประสบการณ์ รายงานผลการประเมินหลักสูตรสถานศึกษา เป็นตน้ 2) สัมภาษณบ์ ุคลากรท่เี กีย่ วข้องทุกฝ่าย ๒.๒ กำรจัดกิจกรรมเสรมิ หลักสูตร กำรจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร พิจารณาจากสถานศึกษาจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรให้กับเด็ก ทุกคน โครงการ/กิจกรรมที่จัดเนน้ การเสรมิ สร้างวินัยในตนเอง ความรับผดิ ชอบ การมที ักษะชีวติ การสนใจใฝ่รู้ รักธรรมชาติ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อยู่อย่างพอเพียง และรักวัฒนธรรมไทย โดยมีการดาเนินโครงการตามแนว พระราชดาริฯ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัว รัชกาลที่ ๙ อย่างน้อย ๑ โครงการ รวมถึงโครงการ/กิจกรรม อื่น ๆ ท่ีเป็นจุดเน้นของสถานศึกษา ทุกโครงการ/กิจกรรมมีแผนดาเนินการ การนาสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม มกี ารสรปุ รายงานผล และเผยแพร่ให้ผเู้ กี่ยวข้องทราบ ระดับคณุ ภำพและคำอธิบำย ระดับ คำอธิบำยระดบั คณุ ภำพ ๔ นาผลการวิเคราะหข์ ้อมูลเด็กรายบคุ คลและภาพรวม รวมทั้งผลสรปุ ความคิดเห็นของ ผ้ปู กครอง ชุมชน มาจดั ทาโครงการ/กจิ กรรมเสริมหลกั สูตร ได้เหมาะสมกับจดุ เนน้ ของ สถานศกึ ษา สอดคล้องกับความพร้อม ความสนใจ และวยั ของเด็ก โดยมโี ครงการตามแนว พระราชดารฯิ อยา่ งน้อย ๑ โครงการ ทุกโครงการ/กจิ กรรมเสริมหลกั สตู รกาหนดวตั ถุประสงค์ กรอบแนวคดิ และแนวทางการจัด ทช่ี ดั เจน สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานหลกั สูตรและสง่ เสรมิ พฒั นาการของเด็กทุกคนอย่างชัดเจน รูปแบบการจัดกจิ กรรมมีความหลากหลาย นา่ สนใจ สรา้ งสรรค์ ท้งั กิจกรรมรายบุคคล กิจกรรมกลุ่ม เด็กทุกคนได้แสดงออกทุกดา้ นอย่างมีความสุข
ค่มู อื การประเมนิ สถานศกึ ษาเพ่อื รบั รางวัลพระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศกึ ษา ๑๙ ระดับ คำอธบิ ำยระดบั คุณภำพ โครงการ/กิจกรรมเสริมหลักสูตรประสบความสาเรจ็ อยา่ งโดดเด่นมากกวา่ ๓ โครงการ/ กจิ กรรมขน้ึ ไป ๓ นาผลการวเิ คราะหข์ ้อมูลเด็กรายบคุ คลและภาพรวม รวมถึงผลสรปุ ความคดิ เหน็ ของ ผู้ปกครอง มากาหนดโครงการ/กจิ กรรมเสริมหลกั สูตรได้เหมาะสมกับจุดเนน้ ของสถานศึกษา สอดคล้องกบั ความพร้อม ความสนใจ และวยั ของเด็ก แต่ยังไม่ครอบคลุมจดุ เน้นของ สถานศึกษาทง้ั หมด โดยมโี ครงการตามแนวพระราชดารฯิ อย่างน้อย ๑ โครงการ ทกุ โครงการ/กจิ กรรมเสรมิ หลักสูตรกาหนดวตั ถุประสงค์ กรอบแนวคิด และแนวทางการจัด ทชี่ ดั เจน สอดคลอ้ งกับมาตรฐานหลกั สตู รและสง่ เสริมพัฒนาการของเด็กทุกคนอย่างชดั เจน รปู แบบการจดั กิจกรรมมีความหลากหลาย น่าสนใจ สรา้ งสรรค์ ท้ังกจิ กรรมรายบคุ คล กิจกรรมกลมุ่ เด็กทุกคนไดแ้ สดงออกทุกดา้ นอย่างมีความสุข โครงการ/กิจกรรมเสรมิ หลักสูตรประสบความสาเรจ็ อย่างโดดเด่น ๓ โครงการ/กิจกรรม ๒ นาผลการวเิ คราะห์ข้อมลู เด็กรายบุคคลและความคิดเห็นของผ้ปู กครอง มากาหนดโครงการ/ กจิ กรรมเสรมิ หลกั สูตรได้สอดคล้องกับความพรอ้ ม ความสนใจ และวัยของเด็ก แตย่ ังไม่ ครอบคลุมจุดเนน้ ของสถานศึกษาทั้งหมด ทุกโครงการ/กจิ กรรมเสรมิ หลักสตู รกาหนดวัตถุประสงค์ กรอบแนวคดิ และแนวทางการจัด สอดคล้องกับมาตรฐานหลกั สูตร และส่งเสริมพัฒนาการของเด็กสว่ นใหญ่ชดั เจน รูปแบบการจดั กจิ กรรมมีความหลากหลายและน่าสนใจ ทัง้ กจิ กรรมรายบุคคล กจิ กรรมกล่มุ เด็กส่วนใหญ่ไดแ้ สดงออกอย่างมคี วามสขุ โครงการ/กิจกรรมเสริมหลกั สูตรประสบความสาเรจ็ ๒ โครงการ/กจิ กรรม ๑ นาผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู เด็กรายบุคคลและความคิดเหน็ ของผปู้ กครอง มากาหนดโครงการ/ กิจกรรมเสรมิ หลกั สตู รไดส้ อดคล้องกับความพร้อม ความสนใจ และวยั ของเด็ก แต่ตอบสนอง จุดเน้นของสถานศึกษาเพียงบางประเด็น ทุกโครงการ/กจิ กรรมเสริมหลักสูตรกาหนดวตั ถปุ ระสงค์ กรอบแนวคิด และแนวทางการจัด ทส่ี อดคล้องกบั มาตรฐานหลกั สูตร และสง่ เสรมิ พัฒนาการของเดก็ บางกลมุ่ ชัดเจน รปู แบบการจัดกจิ กรรมมีความน่าสนใจทัง้ กจิ กรรมรายบุคคล กจิ กรรมกลมุ่ เด็กบางกลุ่มได้ แสดงออกทุกดา้ นอย่างมีความสขุ โครงการ/กิจกรรมเสรมิ หลักสูตรประสบความสาเร็จ ๑ โครงการ/กจิ กรรม วิธกี ำรประเมินและแหล่งขอ้ มูล ๑) พิจารณาจากหลักฐานและร่องรอยที่ปรากฏ เช่น โครงการ/แผนงาน บันทึกผลการจัดโครงการ/ กิจกรรม รายงานการสรุปผลโครงการ/กิจกรรม ฯลฯ ๒) สมั ภาษณ์เด็ก ครู ผ้ดู แู ลเด็ก พ่ีเล้ียงเด็ก และผู้ท่เี ก่ียวขอ้ ง ๓) สังเกตพฤตกิ รรมของเด็ก ๔) สารวจสภาพท่ีปรากฏจรงิ ทง้ั ภายในห้องเรยี นและภายนอกห้องเรยี น ๒.๓ กำรพฒั นำส่อื และสิง่ แวดลอ้ มเพ่อื กำรเรียนรู้
คู่มอื การประเมนิ สถานศึกษาเพ่อื รบั รางวลั พระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศึกษา ๒๐ ส่ือและสิ่งแวดล้อมเพ่ือกำรเรียนรู้ พิจารณาจากสถานศึกษาจัดให้มีส่ือการเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพ และหลากหลาย จัดแหล่งเรียนรู้และสงิ่ แวดลอ้ มท่ีเอือ้ ตอ่ การจัดประสบการณ์ท้ังภายในและภายนอกห้องเรียน ตอบสนองความสนใจและความต้องการของเด็ก และมีการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ส่ือ แหล่งเรียนรู้และ สิง่ แวดล้อมทีไ่ ดร้ บั การยอมรบั สู่วงวชิ าการ ระดับคณุ ภำพและคำอธบิ ำย ระดับ คำอธบิ ำยระดบั คุณภำพ ๔ รบั ฟงั และวเิ คราะห์ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของครู เด็ก รวมทง้ั ผู้ท่มี สี ว่ นเกยี่ วข้อง เก่ยี วกับความต้องการใชส้ อื่ แหล่งเรยี นรู้ และสง่ิ แวดล้อมเพื่อการเรยี นรู้ เพอ่ื ใช้เป็นข้อมูล ประกอบการออกแบบและวางแผนงานจัดหาและผลติ สื่อและส่ิงแวดลอ้ มเพ่ือการเรียนรู้ ออกแบบ วางแผน ดาเนินการจัดหาและผลติ สอื่ ที่มีคุณภาพอย่างหลากหลาย สอดคลอ้ งกบั จุดหมายของหลักสูตรอย่างครบถ้วนและเพยี งพอกับเดก็ จดั แหล่งเรยี นรู้และสิ่งแวดล้อมในสถานศึกษาทเ่ี อ้ือต่อการจัดประสบการณ์ ตอบสนองความ สนใจและความต้องการของเดก็ ทัง้ ภายในและภายนอกหอ้ งเรียน ส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูใช้สื่อ แหล่งเรยี นรู้ และสิ่งแวดล้อมทั้งที่มีในสถานศกึ ษา ท้องถ่ิน และชมุ ชน นาไปใชอ้ ย่างเหมาะสมกบั เด็กทุกคน ทุกกลมุ่ เป้าหมาย ประชาสมั พันธ์ เผยแพรส่ ื่อ แหลง่ เรยี นและสิง่ แวดล้อมเพ่ือการเรียนรู้ ทไ่ี ด้รับการยอมรับ เป็นนวตั กรรมสูแ่ วดวงวชิ าการผ่านรปู แบบและวธิ ีการท่ีมคี วามหลากหลาย ๓ รับฟังและวิเคราะห์ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของครู รวมทง้ั ผู้ท่ีมีสว่ นเกี่ยวข้องเกย่ี วกับ ความต้องการใช้สื่อ แหลง่ เรียนรู้ และส่ิงแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้ เพ่ือใช้เป็นข้อมูลประกอบ การออกแบบและวางแผนงานจัดหาและผลิตส่ือและสง่ิ แวดล้อมเพอ่ื การเรยี นรู้ ออกแบบ วางแผน ดาเนินการจัดหาและผลิตสอื่ ท่ีมีคณุ ภาพ สอดคล้องกับจุดหมายของ หลักสูตรอย่างครบถว้ น จัดแหล่งเรยี นรู้และส่ิงแวดล้อมในสถานศึกษาทเี่ อ้ือต่อการจัดประสบการณ์ ตอบสนองความ สนใจและความต้องการของเด็กทง้ั ภายในและภายนอกห้องเรียน ส่งเสรมิ และสนับสนนุ ใหค้ รูใช้สือ่ แหล่งเรียนรู้ และสิง่ แวดล้อมทั้งทม่ี ีในสถานศึกษา ท้องถ่ิน และชมุ ชน โดยเลอื กนาไปใช้อย่างเหมาะสม ประชาสัมพนั ธ์ เผยแพร่ส่ือ แหล่งเรียนรู้ และส่ิงแวดลอ้ มเพ่ือการเรียนรู้ ที่ไดร้ ับการยอมรับ และเป็นนวตั กรรมสู่แวดวงวชิ าการทน่ี าไปสูก่ ารเผยแพรไ่ ด้ ๒ รบั ฟังและวเิ คราะห์ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของครูเก่ียวกับความต้องการใชส้ อ่ื แหลง่ เรียนรู้ และสิง่ แวดล้อมเพอ่ื การเรียนรู้ เพ่ือใช้ในการออกแบบและวางแผนงานจัดหา ส่อื และสงิ่ แวดล้อมเพอื่ การเรียนรู้ ออกแบบ วางแผน ดาเนินการจดั หาสอื่ ทส่ี อดคลอ้ งกบั จดุ หมายของหลักสูตร เพยี งพอ สาหรบั เด็ก จัดแหลง่ เรยี นรู้ และสิง่ แวดล้อมในสถานศกึ ษาทเี่ อื้อตอ่ การจดั ประสบการณ์
คมู่ ือการประเมนิ สถานศึกษาเพื่อรบั รางวลั พระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศกึ ษา ๒๑ ระดบั คำอธบิ ำยระดับคณุ ภำพ สนบั สนุนใหค้ รูใชส้ อ่ื แหลง่ เรียนรู้ และส่งิ แวดล้อมทั้งท่ีมใี นสถานศึกษา ท้องถน่ิ และชมุ ชน ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่สื่อ แหล่งเรียนรู้ และสิง่ แวดลอ้ มเพ่ือการเรยี นรู้ ทส่ี ถานศึกษากาลงั พฒั นาข้ึน และมีแนวโนม้ ว่านาไปสูก่ ารเผยแพรไ่ ด้ ๑ รบั ฟังความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของครแู ละผูท้ ่ีมีส่วนเกี่ยวขอ้ งเก่ียวกบั ความต้องการใช้ สอื่ แหลง่ เรยี นรู้ และสง่ิ แวดล้อมเพอ่ื การเรยี นรู้ แต่เลือกใช้ขอ้ มลู ทส่ี ถานศึกษาสนใจนามา ประกอบการออกแบบและวางแผนงานจดั หาและผลิตสื่อและสง่ิ แวดลอ้ มเพื่อการเรยี นรู้ ออกแบบ วางแผน ดาเนินการจัดหาส่อื ทส่ี อดคล้องกบั จดุ หมายของหลกั สตู รแตย่ ังไม่ เพียงพอสาหรบั เด็ก จัดแหล่งเรียนรู้ และส่งิ แวดล้อมในสถานศึกษาทเี่ อ้ือตอ่ การจดั ประสบการณ์ แตต่ อบสนอง ความสนใจและความต้องการของเด็กไมท่ ัว่ ถึง สนับสนนุ ให้ครูบางสว่ นใชส้ ่ือ แหลง่ เรียนรู้ และสงิ่ แวดล้อมได้อย่างเหมาะสม ยังไมม่ ีนวตั กรรมการพัฒนาส่ือ แหลง่ เรียนรู้ และสงิ่ แวดล้อมเพื่อการเรียนรู้ท่ีมใี นสถานศึกษา ทเ่ี ด่นชดั พอทีจ่ ะประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ได้ หรอื ไม่มีการพัฒนานวัตกรรมด้านสอ่ื ใน สถานศกึ ษา วธิ กี ำรประเมินและแหล่งข้อมลู ๑) พิจารณาจากหลักฐาน เช่น ทะเบียนสอ่ื และแหล่งเรยี นรู้ บันทกึ การใช้สอื่ และแหล่งเรยี นรู้ เป็นตน้ ๒) สมั ภาษณผ์ ูร้ ับผดิ ชอบและบุคลากรทีเ่ กยี่ วข้อง รวมถึง เด็กๆ และผปู้ กครอง ๓) สารวจจากสภาพจรงิ ท่ปี รากฏทง้ั ภายในห้องเรยี น ภายนอกห้องเรียน รอบอาคารเรียน และบริเวณ รอบ ๆ สถานศกึ ษา ๒.๔ กำรจัดระบบกำรประเมนิ พัฒนำกำรของเดก็ กำรจัดระบบกำรประเมินพัฒนำกำรของเด็ก พิจารณาจากการบริหารและการจัดการ ของสถานศึกษาเก่ยี วกับการพัฒนาแนวทาง/กระบวนการประเมินพัฒนาการของเด็กเพ่ือให้ได้ข้อมลู สารสนเทศ ในการตัดสิน ปรับปรุง และพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โดยกาหนดระเบียบการประเมินพัฒนาการของ เด็กเป็นหลักในการดาเนินงาน มีกระบวนการสร้างและพัฒนาเครือ่ งมือท่ีมคี ุณภาพ จัดทาเอกสารประกอบการ ประเมินพัฒนาการของเด็ก สรุปรายงานเสนอผู้เก่ียวข้องรับทราบ และนาผลไปใช้พัฒนาคุณภาพการจัด ประสบการณ์การเรียนรขู้ องเดก็ ระดบั คณุ ภำพและคำอธิบำย ระดับ คำอธิบำยระดับคณุ ภำพ ๔ พฒั นาแนวทาง/กระบวนการประเมินพัฒนาการของเด็ก ไดข้ ้อมูลสารสนเทศทเี่ กี่ยวข้อง อยา่ งถูกต้องครบถ้วนสมบรู ณ์ มีระเบยี บการประเมนิ พัฒนาการเด็กทเ่ี กิดจากการมสี ว่ นรว่ มของครู ผปู้ กครอง และ ผู้มสี ว่ นเกี่ยวขอ้ งอื่น สอดคล้องกบั พฒั นาการเด็ก
คมู่ อื การประเมนิ สถานศึกษาเพื่อรับรางวลั พระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศึกษา ๒๒ ระดับ คำอธิบำยระดบั คณุ ภำพ สร้างและพฒั นาเคร่อื งมือวัดและประเมินผลที่มคี ุณภาพ หลากหลายรูปแบบ และ มีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เด็กเปน็ ระบบ สามารถนามาใช้ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ตรงความ ตอ้ งการในพัฒนาการทุกด้านของเด็กทุกคน จัดทาเอกสารประกอบการประเมนิ พัฒนาการเด็กทุกคน และสรปุ รายงานเสนอต่อ ผบู้ งั คับบญั ชาหนว่ ยงานต้นสงั กดั และผเู้ กี่ยวข้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ และเปน็ ปัจจบุ ัน นาผลไปใช้พฒั นาการบริหารและการจัดการของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา การจดั ประสบการณ์ ของครู ในทกุ ประสบการณ์และพัฒนาการทุกด้านของเด็กท้งั สถานศึกษา ๓ พฒั นาแนวทาง/กระบวนการประเมินพฒั นาการเด็ก ได้ข้อมลู สารสนเทศที่เกย่ี วข้องอยา่ ง ถกู ต้องครบถ้วน มรี ะเบยี บการประเมนิ พฒั นาการเด็กทเี่ กดิ จากการมีส่วนรว่ มของครู ผปู้ กครอง และ ผมู้ สี ว่ นเก่ียวขอ้ งบางกล่มุ และสอดคลอ้ งกบั พัฒนาการเด็ก สรา้ งและพัฒนาเครอื่ งมือการวดั และประเมนิ ผลที่มีคุณภาพ และมีการเก็บรวบรวมอย่างเป็น ระบบ สามารถนามาใชไ้ ด้อย่างสะดวก รวดเรว็ ตรงความต้องการในพฒั นาการทกุ ดา้ นของเดก็ จัดทาเอกสารประกอบการประเมินพฒั นาการเด็กทุกคน และสรุปรายงานเสนอต่อ ผบู้ งั คบั บญั ชาหน่วยงานต้นสังกัดและผู้เก่ียวข้อง เป็นปัจจบุ ัน นาผลไปใชพ้ ฒั นากระบวนการจัดประสบการณ์ของครูในทุกประสบการณ์และพัฒนาการ ทุกด้านของเด็กทั้งสถานศึกษา ๒ พฒั นาแนวทาง/กระบวนการประเมินพฒั นาการเด็ก ได้ขอ้ มูลสารสนเทศทเี่ กีย่ วข้อง แตแ่ นวทางการประเมนิ พัฒนาการเดก็ ไม่คอ่ ยชดั เจน มรี ะเบียบการประเมินพฒั นาการเด็กทเ่ี กิดจากการมีส่วนรว่ มของครู ผูป้ กครอง และ ผมู้ ีส่วนเก่ยี วขอ้ งบา้ ง และสอดคล้องกบั พัฒนาการเด็ก สร้างและพฒั นาเครอื่ งมือการวดั และประเมินผลแตย่ งั ไมห่ ลากหลาย มรี ะบบการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เดก็ แตก่ ารนาไปใช้ยังไม่คล่องตวั เครื่องมือบางอย่างไมส่ อดคล้องกบั การ ประเมินพัฒนาการของเด็ก จดั ทาเอกสารประกอบการประเมินพัฒนาการเด็กทุกคน แต่ขอ้ มลู ยังไม่สมบูรณ์หรอื ยังไม่ เป็นปจั จุบัน แต่มีการสรปุ รายงานเสนอต่อผบู้ ังคบั บัญชาหน่วยงานตน้ สงั กดั และผ้เู ก่ยี วข้อง นาผลการประเมินพฒั นาการเด็กไปใช้พัฒนากระบวนการจัดประสบการณ์ของครู แต่ไม่ ครอบคลุมทุกประสบการณ์และพฒั นาการทุกด้านของเด็ก
คู่มือการประเมนิ สถานศึกษาเพื่อรับรางวัลพระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศึกษา ๒๓ ระดับ คำอธบิ ำยระดบั คุณภำพ ๑ จัดทาแนวทาง/กระบวนการประเมินพัฒนาการของเดก็ จากขอ้ มูลสารสนเทศทเ่ี ก่ยี วข้อง ไมช่ ัดเจน มีระเบยี บการประเมนิ พฒั นาการเด็กทสี่ อดคล้องกบั พฒั นาการของเด็ก แต่ขาดการมสี ่วน รว่ มของครู ผปู้ กครอง และผู้มสี ว่ นเกี่ยวข้อง มีร่องรอยการสรา้ งและพัฒนาเครื่องมอื การวดั และประเมนิ ผล แตเ่ ครื่องมือบางอย่างไม่ สอดคลอ้ งกบั พัฒนาการของเด็ก การเก็บรวบรวมเคร่ืองมอื วดั และประเมินไม่เปน็ ระบบ เครือ่ งมือวดั และประเมนิ หลายอย่างไมม่ ีประสิทธิภาพ จดั ทาเอกสารประกอบการประเมนิ พฒั นาการเด็ก แต่ไมส่ รุปรายงานเสนอต่อผู้บงั คับบัญชา หน่วยงานต้นสังกัดและผู้เกี่ยวข้อง และขาดความครบถ้วนสมบูรณ์ เป็นปจั จบุ ัน ผลการประเมินพัฒนาการเด็กไม่ถูกนาไปใชเ้ พ่ือพฒั นาพัฒนากระบวนการบรหิ ารและการ จัดการของผ้บู รหิ ารสถานศึกษา และกระบวนการจัดประสบการณ์ของครู หรืออาจมี การนาไปใชแ้ ต่ไม่ครอบคลุมพัฒนาการของเดก็ ทุกด้าน วิธกี ำรประเมนิ และแหลง่ ขอ้ มลู ๑) พิจารณาจากหลักฐานที่ปรากฏ เช่น แผนการประเมินพัฒนาการของเด็ก เคร่ืองมือประเมิน แบบบันทึกพฤติกรรม สมุดรายงานประจาตัวเด็ก เอกสารเกี่ยวกับการประเมินพัฒนาการของเด็ก แฟ้มผลงาน ของเด็ก เป็นตน้ ๒) สังเกตวธิ กี ารประเมินพฤตกิ รรมเด็กในหอ้ งเรยี น ๓) สมั ภาษณ์บุคลากรทเ่ี กี่ยวข้อง เช่น เด็ก ครู ผู้ดแู ลเด็ก ผู้ปกครอง เป็นต้น ดำ้ นท่ี 3 กำรบรหิ ำรและกำรจดั กำรศกึ ษำ ก ำรบ ริห ำรแ ล ะก ำรจั ด ก ำรศึ ก ษ ำ ห ม าย ถึ ง ผู้ บ ริห ารส ถ าน ศึ ก ษ าแ ส ด งภ าว ะผู้ น า ในการพัฒนาสถานศึกษาให้บรรลุเป้าหมาย โดยยึดหลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม สร้างผลงานโดดเด่นเป็น ท่ียอมรับ ปรับเปล่ียนวิสัยทัศน์ของบุคลากรในสถานศึกษาให้มุ่งพัฒนาสู่องค์กรแห่งความเป็นเลิศ ดาเนินการ จัดหาและพัฒนาส่ือเทคโนโลยีและการสื่อสารเพื่อการบริหารและการจัดการเรียนการสอนได้อย่างคุ้มค่า ด้วยระบบการประกันคณุ ภาพภายในท่เี ขม้ แขง็ รำยกำรประเมนิ ๓.๑ ภาวะผู้นาของผู้บรหิ าร ๓.๒ การพฒั นาองคก์ ร ๓.๓ เทคโนโลยีและการสือ่ สารเพ่อื การศกึ ษา ๓.๔ ระบบการประกนั คุณภาพภายใน ๓.๕ ระบบข้อมูลและสารสนเทศ
คู่มอื การประเมนิ สถานศกึ ษาเพ่อื รับรางวลั พระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศกึ ษา ๒๔ 3.1 ภำวะผนู้ ำของผบู้ รหิ ำร ภำวะผู้นำของผู้บริหำร พิจารณาจากผู้บริหารมีวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ ยึดหลักการบริหารแบบ มีส่วนร่วม มีคุณธรรม จริยธรรม และอุทิศตนในการปฏิบัติงาน วางแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของ สถานศึกษา จัดทาหลักสตู รสถานศึกษาที่พฒั นาคณุ ภาพเด็กทุกคนทุกกลุ่มเป้าหมาย มีความเป็นประชาธิปไตย สามารถบริหารและจัดการได้ดี มีผลงานโดดเด่นเป็นท่ีประจักษ์ สร้างขวัญกาลังใจแก่ครูและบุคลากรทางการ ศึกษาให้ได้รบั การพฒั นาอย่างทว่ั ถึง และมีความพงึ พอใจการบรหิ ารงานของผู้บรหิ ารสถานศึกษา ระดบั คุณภำพและคำอธบิ ำย ระดับ คำอธิบำยระดบั คณุ ภำพ 4 ผู้บริหารมวี ิสยั ทัศนเ์ ชิงกลยทุ ธ์ ยึดหลกั การบรหิ ารแบบมสี ่วนร่วม ผบู้ รหิ ารมีคุณธรรม จริยธรรม และอทุ ิศตนในการปฏิบัตงิ านเป็นแบบอยา่ งได้ ผู้บริหารจัดการศึกษาโดยยดึ แผนพัฒนาสถานศึกษาท่ีมุ่งเน้นพฒั นาคุณภาพเด็กทุกคน ทุกกลุ่มเปา้ หมายอยา่ งชดั เจน เป็นทย่ี อมรบั ผู้บริหารมีความเป็นประชาธิปไตย สามารถบริหารและจัดการสถานศึกษาให้มีผลงานโดดเด่น ประจกั ษ์ชัด เป็นท่ยี อมรบั โดยท่วั ไป ผูบ้ ริหารสร้างขวัญกาลังใจให้แกค่ รแู ละบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพฒั นาอยา่ งทั่วถึง มคี วามพึงพอใจ และเปน็ ท่ยี อมรบั ของผู้มสี ว่ นเก่ียวขอ้ ง 3 ผู้บรหิ ารมวี สิ ยั ทศั น์เชงิ กลยทุ ธ์ยดึ หลกั การบริหารแบบมสี ว่ นรว่ ม ผู้บรหิ ารมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และอุทิศตนในการปฏิบัติงานเตม็ ที่ ผบู้ ริหารจัดการศึกษาโดยยดึ แผนพัฒนาสถานศึกษาทม่ี ุ่งเน้นพฒั นาคุณภาพเด็กทุกคน ผบู้ รหิ ารมีความเป็นประชาธิปไตย สามารถบริหารและจัดการสถานศึกษาใหม้ ีผลงานโดดเด่น ผบู้ รหิ ารสรา้ งขวัญกาลงั ใจให้แกค่ รแู ละบุคลากรทางการศึกษาไดร้ บั การพฒั นาอย่างทัว่ ถึง มีความพึงพอใจ และเปน็ ทย่ี อมรับของผู้มสี ว่ นเกยี่ วข้อง 2 ผู้บริหารมีวิสัยทัศนเ์ ชิงกลยทุ ธ์ยึดหลกั การบรหิ ารแบบมสี ว่ นร่วม ผู้บรหิ ารมีคณุ ธรรม จริยธรรม และอุทิศตนในการปฏิบตั งิ าน ผู้บรหิ ารจัดการศกึ ษาโดยยึดแผนพฒั นาสถานศึกษาที่มุง่ เน้นพัฒนาคณุ ภาพเด็ก บางกลุม่ เป้าหมาย ผู้บรหิ ารมีความเปน็ ประชาธปิ ไตย สามารถบริหารจดั การสถานศึกษาได้ ผูบ้ ริหารสร้างขวญั กาลังใจให้แกค่ รแู ละบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาเปน็ บางกลุ่ม 1 ผบู้ รหิ ารมีวสิ ยั ทศั น์ แตไ่ ม่ไดย้ ึดหลักการบริหารแบบมสี ่วนรว่ ม ผู้บริหารมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และอุทิศตนในการปฏบิ ตั งิ าน ผบู้ รหิ ารจัดการศกึ ษาโดยไมย่ ึดแผนพฒั นาสถานศกึ ษา ผู้บริหารดาเนินการบริหารและจดั การสถานศึกษาตามความคิดเหน็ ของตนเป็นสว่ นใหญ่ ผบู้ ริหารเสริมสร้างขวัญกาลังใจให้แก่ครูและบุคลากรทางการศกึ ษาเป็นบางกลุ่ม
ค่มู ือการประเมินสถานศึกษาเพ่อื รับรางวลั พระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศกึ ษา ๒๕ วธิ ีกำรประเมินและแหล่งข้อมูล ๑) พิจารณาจากหลักฐานที่ปรากฏ เช่น ประวัติการปฏิบัติราชการ แฟ้มสะสมงาน ภาพถ่าย การปฏบิ ตั ริ าชการ เป็นตน้ ๒) สัมภาษณ์บุคลากรท่ีเก่ียวข้อง เช่น ผู้ช่วยผู้บริหาร ครู ผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง เจ้าหน้าท่ี นักการ ผใู้ ห้บริการด้านอาหาร เป็นต้น 3.2 กำรพฒั นำองคก์ ร กำรพัฒนำองค์กร พิจารณาจากการสร้างระบบและจัดทาแผนเพื่อพัฒนาการเปล่ียนแปลง องค์กรให้เกิดประสิทธิผลมุ่งสู่ความเป็นเลิศโดยทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม พัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือเด็ก มีการ ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่ดีงามชัดเจนเป็นรูปธรรม มีการจัดสภาพแวดล้อมให้ร่มร่ืน สวยงาม อาคารและสถานที่ทุกแห่งมีความปลอดภัย สะอาด ถูกสุขลักษณะ มั่นคงแข็งแรง อุปกรณ์และส่ิงอานวยความ สะดวกประจาอาคารมีปรมิ าณเพียงพอ ครู เด็ก และผู้ปกครองมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีการรับฟังความคิดเห็น และสนบั สนุนการมีส่วนร่วมของผู้มสี ว่ นเกย่ี วข้องทุกฝ่าย ระดับคุณภำพและคำอธบิ ำย ระดับ คำอธบิ ำยระดบั คณุ ภำพ 4 สถานศกึ ษามรี ะบบพัฒนาองคก์ รและจัดทาแผนเพื่อพฒั นาสถานศึกษาใหเ้ กิดการเปล่ียนแปลง และนาไปสู่ความเปน็ เลศิ อยา่ งมปี ระสทิ ธผิ ลโดยเนน้ การมีส่วนร่วมและรบั ฟังความคดิ เห็นจาก ทุกภาคสว่ น สถานศึกษาพฒั นาระบบดูแลช่วยเหลือเด็กทุกคนอย่างมีประสิทธภิ าพ มกี ารแต่งตัง้ คณะทางาน และผูร้ ับผิดชอบชดั เจน สถานศึกษาสง่ เสริมคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมที่ดงี าม เพอ่ื พัฒนาครู บุคลากรทางการ ศึกษา และเด็ก ที่สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาและชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ชดั เจน สถานศึกษามีสภาพแวดล้อมร่มร่นื สวยงาม อาคารและสถานที่ทกุ แห่งมีความปลอดภัย สะอาด มีระบบการดูแลความปลอดภัยทีเ่ หมาะสมชดั เจน สถานศกึ ษามหี ้องเรียน ห้องปฏิบัตกิ ารถกู สขุ ลักษณะ มีความมนั่ คงแขง็ แรง อุปกรณแ์ ละส่ิง อานวยความสะดวกมปี รมิ าณเพียงพอพร้อมใช้ สถานศึกษาส่งเสริมการมปี ฏสิ ัมพันธ์ที่ดีตอ่ กนั ระหวา่ งเด็กกับเด็ก ครูกบั เด็ก ครูและบุคลากร ทางการศกึ ษากับผู้ปกครองและผูเ้ กยี่ วขอ้ ง ทุกฝา่ ยพงึ พอใจ 3 สถานศกึ ษามรี ะบบพัฒนาองค์กรและจัดทาแผนเพ่ือพฒั นาสถานศึกษาใหเ้ กิดการเปลีย่ นแปลง และนาไปสู่ความเปน็ เลศิ โดยเน้นการมีสว่ นร่วมและรับฟังความคดิ เห็นจากทกุ ภาคสว่ น สถานศกึ ษาพฒั นาระบบดูแลช่วยเหลือเด็กทุกคน ดาเนนิ การได้ดี มผี ้รู บั ผดิ ชอบชดั เจน สถานศกึ ษาสง่ เสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมท่ีดงี าม เพอ่ื พฒั นาครู บุคลากรทางการ ศึกษา และเด็ก ท่สี อดคลอ้ งกับบรบิ ทของสถานศึกษา สถานศึกษามีสภาพแวดล้อมร่มรน่ื สวยงาม อาคารและสถานท่ที ุกแห่งมีความปลอดภัยและ สะอาด มรี ะบบการดแู ลความปลอดภยั อยา่ งเหมาะสม
ค่มู อื การประเมนิ สถานศกึ ษาเพอื่ รับรางวัลพระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศึกษา ๒๖ ระดับ คำอธิบำยระดบั คณุ ภำพ สถานศกึ ษามีห้องเรียน หอ้ งปฏบิ ัติการถกู สขุ ลักษณะ มีความมนั่ คงแขง็ แรง อปุ กรณแ์ ละ ส่ิงอานวยความสะดวกมีปรมิ าณเพยี งพอ สถานศกึ ษาสง่ เสริมการมีปฏิสัมพนั ธ์ทด่ี ีต่อกันระหวา่ งเด็กกับเด็ก ครกู ับเดก็ ครูและบุคลากร ทางการศึกษากับผู้ปกครองและผูเ้ กยี่ วข้อง ทกุ ฝ่ายพึงพอใจ 2 สถานศึกษามีการจัดทาแผนพัฒนาสู่ความเปน็ สถานศึกษาท่ีมีประสทิ ธิภาพ สถานศึกษามีการพัฒนาระบบดแู ลชว่ ยเหลือเด็กได้ความเหมาะสม สถานศกึ ษาสง่ เสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ ม เพื่อพัฒนาครู บคุ ลากรทางการศึกษา และเด็ก แต่ไม่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย สถานศกึ ษามีสภาพแวดล้อมทีไ่ ม่ค่อยรม่ รนื่ อาคารและสถานที่ปลอดภัยแต่คอ่ นขา้ งไมส่ ะอาด สถานศกึ ษามีห้องเรยี น ห้องปฏิบัติการถกู สขุ ลักษณะ มีความมน่ั คงแข็งแรง อุปกรณแ์ ละ ส่ิงอานวยความสะดวกมีปริมาณเพยี งพอ สถานศึกษามีการสง่ เสริมการมปี ฏิสัมพนั ธ์ทด่ี รี ะหวา่ งครกู บั เดก็ ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา กับผ้ปู กครองและผูเ้ ก่ียวข้อง ทุกฝ่ายค่อนขา้ งพึงพอใจ 1 สถานศกึ ษามีการจัดทาแผนพัฒนาองค์กรท่ยี ังไม่ชดั เจน สถานศกึ ษามรี ะบบแนะแนวและระบบดแู ลช่วยเหลอื เด็กที่ยงั ไม่ชัดเจน สถานศึกษาสง่ เสริมคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม เพ่อื พัฒนาครู บคุ ลากรทางการศกึ ษา และเด็ก เพียงบางประเดน็ บางกลุ่มเป้าหมาย สถานศกึ ษามีสภาพแวดล้อมไมร่ ม่ รนื่ อาคารและสถานทไ่ี ม่สะอาดและค่อนข้างไม่ปลอดภัย สถานศกึ ษามีห้องเรยี น ห้องปฏิบตั ิการไม่ถกู สุขลักษณะ หรือไม่มัน่ คงแข็งแรง สถานศึกษามีการส่งเสรมิ การปฏิสัมพนั ธท์ ด่ี รี ะหวา่ งครกู ับเดก็ ครูและบุคลากรทางการศึกษา กบั ผู้ปกครองและผู้เกย่ี วข้องทไี่ มช่ ดั เจน หรอื ไม่มีการดาเนินการ วธิ กี ำรประเมินและแหลง่ ขอ้ มลู ๑) พิจารณาจากหลกั ฐานและร่องรอยท่ีปรากฏ เช่น แผนงาน/โครงการ เอกสารทีเ่ กยี่ วขอ้ ง เปน็ ตน้ ๒) สมั ภาษณบ์ คุ ลากรทเี่ กย่ี วขอ้ ง เชน่ ครู ผดู้ แู ลเด็ก ผู้ปกครอง บุคลากรทางการศึกษา เป็นต้น 3) สังเกตสภาพทป่ี รากฏจรงิ ขณะประเมิน 3.3 กำรใช้เทคโนโลยแี ละกำรส่ือสำรเพอ่ื กำรศกึ ษำ เทคโนโลยีและกำรส่ือสำรเพื่อกำรศึกษำ พิจารณาจากสถานศึกษาดาเนินการจัดหาและพัฒนา สื่อเทคโนโลยีและระบบการส่ือสารเพื่อใช้ในการบริหารและการจัดการ มีการกากับ ติดตาม และประเมินผล การใช้ ตลอดถึงนาผลทีไ่ ด้มาปรบั ปรงุ และพัฒนาอยา่ งต่อเน่ือง
คมู่ อื การประเมินสถานศกึ ษาเพือ่ รับรางวัลพระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศึกษา ๒๗ ระดับคุณภำพและคำอธิบำย ระดบั คำอธิบำยระดบั คณุ ภำพ 4 สถานศกึ ษาดาเนินการจดั หาเทคโนโลยีและการส่อื สารเพื่อการเรยี นรู้สาหรบั เด็ก และเพ่ือการ บริหารและการจัดการได้ตามแผนงาน/โครงการที่กาหนด ครบทกุ กลุ่มเปา้ หมาย สถานศกึ ษากาหนดแนวทางให้ใชเ้ ทคโนโลยแี ละการสือ่ สารเพือ่ การเรยี นรูส้ าหรับเด็ก และเพ่ือ การบริหารและจัดการตามแผนงาน/โครงการที่กาหนดไดอ้ ย่างเหมาะสม สถานศกึ ษากากบั ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการใชเ้ ทคโนโลยแี ละการสือ่ สารเพื่อการเรยี นรู้สาหรบั เด็ก และเพอ่ื การบริหารและการจัดการอยา่ งเปน็ ระบบและต่อเนื่อง สถานศึกษามีระบบการดูแลบารงุ รักษาเทคโนโลยีและการส่ือสารเพื่อการศกึ ษาและดาเนินการ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 3 สถานศึกษาดาเนินการจัดหาเทคโนโลยีและการสือ่ สารเพื่อการเรยี นรู้สาหรับเด็ก และเพื่อการ บรหิ ารและการจัดการได้ตามแผนงาน/โครงการท่ีกาหนดเกอื บครบทุกกลมุ่ เป้าหมาย สถานศกึ ษากาหนดแนวทางใหใ้ ชเ้ ทคโนโลยแี ละการสื่อสารเพ่อื การเรียนรู้สาหรบั เด็กและเพือ่ การบรหิ ารและการจดั การตามแผนงาน/โครงการท่ีกาหนดชัดเจน สถานศกึ ษากากับ ติดตาม ประเมินผลการใชเ้ ทคโนโลยีและการส่อื สารเพื่อการศึกษาค่อนขา้ ง เปน็ ระบบและต่อเนื่อง สถานศึกษามีระบบการดูแลบารงุ รักษาเทคโนโลยแี ละการส่ือสารเพื่อการศึกษา และดาเนนิ การให้ ใชง้ านได้อยา่ งเหมาะสม 2 สถานศกึ ษาดาเนนิ การจดั หาเทคโนโลยแี ละการสอ่ื สารเพ่ือการศกึ ษาได้ตามแผนงาน/โครงการ ที่กาหนดเฉพาะกลุม่ ทจ่ี าเป็น สถานศึกษากาหนดแนวทางใหใ้ ช้เทคโนโลยีและการสอื่ สารเพ่ือการศึกษาไดเ้ หมาะสม สถานศกึ ษามีการกากบั ติดตาม และประเมินผลการใชเ้ ทคโนโลยแี ละการสื่อสารเพอ่ื การศึกษา ตอ่ เนอ่ื ง สถานศกึ ษามีการดูแลบารงุ รักษาเทคโนโลยีและส่ือสารการศึกษาและดาเนินการใหใ้ ชง้ านได้ 1 สถานศกึ ษามีการจดั หาเทคโนโลยีและการสื่อสารเพ่ือการศึกษาไมเ่ พยี งพอต่อการใช้งาน สถานศกึ ษากาหนดแนวทางการใช้เทคโนโลยแี ละการสอื่ สารเพ่อื การศึกษาไดเ้ ท่าทีจ่ าเปน็ สถานศึกษาขาดการกากับ ติดตาม และประเมนิ ผลการใช้เทคโนโลยีและการส่ือสารเพื่อการศึกษา สถานศึกษาไมม่ ศี ักยภาพในการดูแลบารุงรกั ษาเทคโนโลยแี ละการสือ่ สารเพื่อการศึกษา หรอื ไมด่ าเนินการ วธิ ีกำรประเมินและแหล่งข้อมูล ๑) พิจารณาจากหลกั ฐานและร่องรอยทป่ี รากฏ เชน่ แผนงาน/โครงการฯ เอกสารทเ่ี กีย่ วขอ้ ง ฯลฯ ๒) สมั ภาษณ์บคุ ลากรทีเ่ ก่ียวขอ้ ง เช่น ผู้รับผดิ ชอบงาน ครู ผดู้ ูแลเด็ก ผูป้ กครอง เป็นต้น 3) สังเกตสภาพการใชง้ านจรงิ
คมู่ ือการประเมนิ สถานศึกษาเพอ่ื รบั รางวัลพระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศกึ ษา ๒๘ 3.4 กำรพฒั นำระบบกำรประกันคุณภำพภำยใน กำรพัฒนำระบบกำรประกันคุณภำพภำยใน พิจารณาจากสถานศึกษาจัดระบบการดาเนินงาน/ กิจกรรม/โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาท่ีมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เด็กได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยยึด หลักการมีส่วนร่วม ขับเคลื่อนระบบการประกันคุณภาพภายในสู่การปฏิบัติอย่างเข้มแข็ง มีการนิเทศ กากับ ติดตาม เพ่ือใหเ้ กดิ การปรบั ปรุงและพฒั นา ผมู้ ีสว่ นเกี่ยวขอ้ งมคี วามพึงพอใจ ระดับคุณภำพและคำอธบิ ำย ระดบั คำอธิบำยระดบั คุณภำพ 4 สถานศึกษาจดั ระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาทีส่ ่งผลต่อคุณภาพเด็กโดยรวม อยา่ งเปน็ รูปธรรม มรี ูปแบบเฉพาะที่เหมาะกับบรบิ ทของสถานศึกษา มีกระบวนการชดั เจน และบรรลุผลสาเรจ็ อย่างเด่นชัด เป็นแบบอย่างแก่สถานศึกษาทั่วไปได้ ผูเ้ กย่ี วขอ้ งทุกฝา่ ยให้ความร่วมมืออย่างเขม้ แข็งในการดาเนินงานประกันคุณภาพภายในของ สถานศึกษา พอ่ แม่ ผปู้ กครอง คณะกรรมการสถานศึกษา ชมุ ชน/ท้องถิ่น และผมู้ ีสว่ นเกยี่ วข้องมีความ มนั่ ใจตอ่ ระบบการบรหิ ารและการจดั การของสถานศึกษาในระดบั สูงมาก 3 สถานศึกษาจดั ระบบการประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศึกษาท่ีสง่ ผลต่อคุณภาพเด็กอย่าง เปน็ รปู ธรรม มีกระบวนการชัดเจน และบรรลผุ ลสาเร็จอยา่ งชัดเจน มีแนวโนม้ วา่ สามารถ พฒั นาใหเ้ ป็นแบบอย่างแก่สถานศกึ ษาทัว่ ไปได้ ผู้เก่ียวข้องทกุ ฝา่ ยให้ความร่วมมือเต็มทใ่ี นการวางระบบและดาเนนิ งานประกนั คุณภาพภายใน ของสถานศึกษา พ่อแม่ ผปู้ กครอง คณะกรรมการสถานศึกษา ชุมชน/ท้องถ่ิน และผูม้ ีสว่ นเกย่ี วข้องมี ความม่นั ใจต่อระบบการบริหารและการจดั การของสถานศึกษาในระดับสูง 2 สถานศึกษามีการจดั ระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศกึ ษาตามกฎ/ระเบยี บท่ี กาหนด แตม่ ีความพยายามท่ีจะพฒั นาให้เกิดระบบท่เี หมาะสมกบั บริบทของสถานศกึ ษา ผเู้ ก่ียวข้องส่วนใหญ่ให้ความรว่ มมอื ในการดาเนนิ งานประกันคุณภาพภายในของสถานศกึ ษา พอ่ แม่ ผปู้ กครอง คณะกรรมการสถานศึกษา ชุมชน/ท้องถิ่น และผู้มสี ่วนเก่ียวข้องมคี วาม มัน่ ใจตอ่ ระบบการบรหิ ารและการจดั การของสถานศกึ ษาในระดบั ปานกลาง 1 สถานศึกษาดาเนนิ การประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาตามกฎ/ระเบียบที่กาหนด ผเู้ กย่ี วข้องบางกลมุ่ บางคนให้ความรว่ มมอื ในการดาเนินงานประกนั คุณภาพภายในของสถานศกึ ษา พ่อแม่ ผปู้ กครอง คณะกรรมการสถานศึกษา ชุมชน/ท้องถ่ิน และผมู้ สี ว่ นเก่ยี วข้องมีความ มน่ั ใจต่อระบบการบรหิ ารและการจัดการของสถานศึกษาในระดบั นอ้ ย วิธีกำรประเมินและแหล่งข้อมลู ๑) พิจารณาจากหลักฐานและร่องรอยที่ปรากฏ เช่น แผนงาน/โครงการฯ เอกสารท่ีเก่ียวขอ้ ง รายงาน ผลการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ฯลฯ
คมู่ ือการประเมนิ สถานศกึ ษาเพือ่ รับรางวลั พระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศึกษา ๒๙ ๒) สัมภาษณ์บุคลากรที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้รับผิดชอบงาน ครู ผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง คณะกรรมการ สถานศึกษา ผูแ้ ทนชุมชน/ทอ้ งถิน่ เป็นต้น 3.5 กำรจดั ระบบขอ้ มลู และสำรสนเทศ กำรจัดระบบข้อมูลและสำรสนเทศ พิจารณาจากสถานศึกษามีการจัดระบบข้อมูลและ สารสนเทศพ้ืนฐานของสถานศกึ ษาอยา่ งเป็นระบบ ครอบคลุม ครบถ้วน และมีประสิทธิภาพในการสบื ค้นเพ่ือการ ใช้งานทสี่ ะดวก รวดเรว็ ทันตอ่ การให้บรกิ าร ข้อมลู และสารสนเทศถูกต้องสมบรู ณแ์ ละเป็นปัจจุบัน มีการจัดเก็บ อย่างเป็นระบบและทันสมัย มีการพัฒนาและตรวจสอบระบบให้ใช้การได้ตลอดเวลา และถูกนาไปใช้ในการ บริหารและการจัดการตามภาระงานของสถานศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งนาไปใช้พัฒนาการจัด ประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่เดก็ ได้อยา่ งเหมาะสม มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมของสถานศึกษาที่ สง่ ผลถึงการพัฒนาคุณภาพเด็กหลากหลายวิธีและน่าสนใจ ระดบั คณุ ภำพและคำอธิบำย ระดบั คำอธิบำยระดับคุณภำพ 4 ระบบข้อมูลและสารสนเทศพ้ืนฐานของสถานศกึ ษาจัดไดค้ รอบคลมุ ครบถ้วน มปี ระสิทธิภาพ ในการสืบค้นเพอื่ การใชง้ าน ข้อมูลและสารสนเทศท่ีจดั เก็บไว้ถูกต้องสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน ขอ้ มลู และสารสนเทศจัดเกบ็ ไว้อย่างเป็นระบบ ทนั สมยั ทันต่อการใหบ้ ริการ มีการพฒั นาและ ตรวจสอบระบบให้ใช้การไดต้ ลอดเวลา ข้อมูลและสารสนเทศถกู นาไปใชใ้ นการบรหิ ารและการจัดการตามภาระงานของสถานศึกษา อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ และนาไปใช้พัฒนาการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรใู้ หแ้ ก่เด็กอย่าง เหมาะสม มีการเผยแพรข่ ้อมูลข่าวสารและกิจกรรมของสถานศึกษาที่ส่งผลถงึ การพัฒนาคณุ ภาพเด็กโดย ใช้วิธีการทห่ี ลากหลายและน่าสนใจ มีผลงานปรากฏชดั ทกุ ฝา่ ยพึงพอใจ 3 ระบบข้อมูลและสารสนเทศพื้นฐานของสถานศกึ ษาจดั ไดค้ รอบคลุม ครบถ้วน มปี ระสิทธิภาพ ในการสืบคน้ เพ่ือการใช้งาน ข้อมลู และสารสนเทศที่จดั เกบ็ ไว้ถกู ตอ้ งสมบูรณ์ แต่ข้อมูลและ สารสนเทศบางสว่ นยงั ไม่เป็นปจั จุบนั ข้อมูลและสารสนเทศจดั เกบ็ ไว้อยา่ งเป็นระบบ ทนั สมัย ทันต่อการใหบ้ ริการ มีการพัฒนาและ ตรวจสอบระบบใหใ้ ช้การไดต้ ลอดเวลา ขอ้ มลู และสารสนเทศสว่ นใหญน่ าไปใชใ้ นการบริหารและการจดั การตามภาระงานของ สถานศกึ ษาได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ และนาไปใช้พัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่เด็ก อยา่ งเหมาะสม มีการเผยแพร่ข้อมลู ขา่ วสารและกิจกรรมของสถานศึกษาที่สง่ ผลถงึ การพัฒนาคณุ ภาพเด็กโดย ใช้วธิ กี ารท่ีนา่ สนใจผ่านหลายชอ่ งทาง มีผลงานชัดเจน ทุกฝ่ายพงึ พอใจ 2 ระบบข้อมูลและสารสนเทศพื้นฐานของสถานศกึ ษาจดั ไดค้ รอบคลมุ ครบถ้วน ขอ้ มูลและ สารสนเทศที่จดั เก็บไว้ถูกต้องสมบรู ณ์ ขอ้ มลู และสารสนเทศจดั เกบ็ ไว้อยา่ งเปน็ ระบบ เรียกใช้งานได้ทนั เวลา
คมู่ ือการประเมินสถานศึกษาเพอ่ื รบั รางวัลพระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศกึ ษา ๓๐ ระดบั คำอธิบำยระดับคุณภำพ ขอ้ มลู และสารสนเทศบางส่วนไม่ถูกนาไปใช้ในการบรหิ ารและการจดั การ และไมน่ าไปใช้ พฒั นาการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรใู้ หแ้ กเ่ ด็ก มกี ารเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและกจิ กรรมของสถานศึกษาท่ีส่งผลถึงการพัฒนาคุณภาพเด็กดว้ ย วิธีการทน่ี า่ สนใจแต่ไมห่ ลากหลาย มผี ลงานชัดเจน ทกุ ฝา่ ยพงึ พอใจ 1 ระบบข้อมูลและสารสนเทศพ้ืนฐานของสถานศึกษาจัดได้ไม่ครอบคลุมหรอื ไม่ครบถ้วน ขาดประสทิ ธิภาพในการใชง้ าน ขอ้ มลู และสารสนเทศท่ีจัดเก็บไว้ส่วนใหญ่ยังไม่เปน็ ปัจจบุ ัน ข้อมลู และสารสนเทศทจ่ี ัดเก็บ ขาดการพัฒนาและตรวจสอบให้ใช้งานไดต้ ลอดเวลา มกี ารใช้ข้อมูลและสารสนเทศในการบริหารและการจัดการตามภาระงานของสถานศึกษา และ นาไปใช้พัฒนาการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรใู้ หแ้ ก่เด็กไม่คุม้ ค่า มีการเผยแพรข่ ้อมลู ข่าวสารและกิจกรรมของสถานศึกษาท่ีสง่ ผลถงึ การพฒั นาคุณภาพเด็ก ทีย่ ังไมน่ ่าสนใจ วธิ ีกำรประเมินและแหลง่ ข้อมลู ๑) พจิ ารณาจากหลักฐานและร่องรอยทีป่ รากฏ เชน่ แผนงาน/โครงการ เอกสารทเ่ี ก่ียวขอ้ ง เปน็ ตน้ ๒) สัมภาษณบ์ คุ ลากรทเี่ ก่ยี วข้อง เช่น ครู ผ้ดู แู ลเด็ก ผู้ปกครอง เป็นต้น 3) สังเกตระบบการปฏิบตั กิ ารในสถานการณจ์ ริง ดำ้ นท่ี ๔ กำรจดั ประสบกำรณ์ที่เนน้ เด็กเป็นสำคัญ กำรจัดประสบกำรณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ พิจารณาจากกระบวนการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ของครู/ผู้ดูแลเด็กท่ีมีการออกแบบให้เหมาะสมกับเด็ก ตรงตามปรัชญาการศึกษา มาตรฐานและ คุณลักษณะตามหลักสูตร วิเคราะห์ข้อมูลเด็กเป็นรายบุคคล จัดทาแผนการจัดประสบการณ์ และจัด ประสบการณ์ให้เด็กได้เรียนรู้ตามแผนบูรณาการผ่านการเล่น บริหารและจัดการชั้นเรียนเชิงบวก สร้างปฏิสัมพันธ์เชิงบวกและยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล เด็กได้รับการกระตุ้นและพัฒนาสมองอย่าง เหมาะสม มีวิธกี าร/แนวทางการประเมินพัฒนาการเด็กที่หลากหลายและประเมินพฒั นาการเด็กเปน็ รายบุคคล รายงานขอ้ มลู ความก้าวหน้าแก่เด็กและเสนอแนะผู้ปกครอง รวมท้งั นาผลการประเมนิ ไปใช้พัฒนาคณุ ภาพเด็ก รำยกำรประเมนิ 4.1 การจดั ทาแผนการจดั ประสบการณ์ 4.2 การจัดประสบการณ์และการจดั การชั้นเรียน 4.3 การประเมินพัฒนาการของเด็กในช้นั เรียน 4.4 การนาผลประเมนิ พัฒนาการไปใช้ 4.1 กำรจดั ทำแผนกำรจัดประสบกำรณ์ กำรจัดทำแผนกำรจัดประสบกำรณ์ พิจารณาจากครูมีการวิเคราะห์หลักสูตร ออกแบบ แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้เหมาะสมกับเด็กที่เกิดจากผลการวิเคราะห์ข้อมูลเด็กเป็นรายบุคคล จัดทา แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษา เหมาะสมกับวัย ตอบสนอง ความตอ้ งการ ความสนใจ และความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลของเด็ก
ค่มู อื การประเมนิ สถานศึกษาเพื่อรับรางวลั พระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศกึ ษา ๓๑ ระดับคณุ ภำพและคำอธิบำย ระดบั คำอธบิ ำยระดับคณุ ภำพ ๔ ครวู เิ คราะห์หลกั สูตร วเิ คราะหข์ อ้ มูลเด็กเป็นรายบุคคลทุกคน สรุปและรายงานผลการ วิเคราะห์อยา่ งครบถ้วนสมบูรณ์ ครอู อกแบบการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้สอดคล้องกับหลกั สตู รสถานศกึ ษา และสอดคล้อง บริบทของสถานศึกษาอยา่ งเหมาะสมและชดั เจน ครจู ดั ทาแผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ดว้ ยกจิ กรรมที่หลากหลายตามที่ออกแบบไว้อยา่ ง เหมาะสมกบั วัย ตอบสนองความต้องการ ความสนใจ และความแตกตา่ งของเดก็ แตล่ ะคน ๓ ครวู ิเคราะห์หลกั สูตร วิเคราะหข์ อ้ มูลเด็กเป็นรายบุคคลทกุ คน สรุปและรายงานผลการ วเิ คราะห์อยา่ งครบถ้วน ครอู อกแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สอดคล้องกับหลกั สูตรสถานศกึ ษา และเหมาะกับ บริบทของสถานศึกษา ครูจัดทาแผนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ท่ีเหมาะสมกับวยั ตอบสนองความตอ้ งการ ความสนใจ และความแตกต่างของเดก็ แตล่ ะคน ๒ ครวู ิเคราะหห์ ลักสูตร วเิ คราะหข์ ้อมูลเด็กเป็นรายบคุ คลทุกคน แตส่ รุปและรายงานผลการ วเิ คราะห์ในภาพกวา้ ง ไม่มีประเดน็ ที่ชัดเจน ครอู อกแบบการจดั ประสบการณ์การเรยี นรทู้ ่ีสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษา แต่ไมเ่ หมาะ กบั บริบทของสถานศกึ ษา ครูจดั ทาแผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ทเี่ หมาะสมกบั วยั ตอบสนองความต้องการ ความสนใจ แตต่ อบสนองต่อความแตกตา่ งของเด็กแตล่ ะคนเป็นบางกลุ่ม ๑ ครวู ิเคราะห์ข้อมลู เด็กเป็นรายบคุ คลทุกคน แต่ไมม่ ีการสรุปและรายงานผลการวิเคราะห์ และ ไมม่ ีการวเิ คราะห์หลักสูตร ครอู อกแบบการจัดประสบการณ์การเรียนร้ทู ่ีครเู หน็ วา่ เหมาะสม บางกิจกรรมไมเ่ หมาะกับ บรบิ ทของสถานศึกษา ครมู กี ารจัดทาแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ แต่ไม่ได้จดั กิจกรรมตามแผนทง้ั หมด วิธีกำรประเมินและแหล่งข้อมลู ๑) พิจารณาจากหลักฐานที่ปรากฏ เช่น หลักสูตรสถานศึกษา การวิเคราะห์หลักสูตร การวิเคราะห์ ข้อมูลเด็กเป็นรายบุคคล แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ รายงานผลการวิเคราะห์เด็กรายบุคคลและ ภาพรวมของสถานศึกษา ฯลฯ ๒) สมั ภาษณบ์ คุ ลากรทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เช่น คร/ู ผดู้ ูแลเด็ก ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา เป็นต้น 4.2 กำรจดั ประสบกำรณ์และกำรจัดกำรชัน้ เรียน กำรจดั ประสบกำรณ์และกำรจดั กำรชั้นเรียน พิจารณาจากครูจดั ประสบการณ์ให้เด็กเรียนรู้จาก ประสบการณ์ตรง ด้วยการสังเกต สารวจ ค้นคว้า ทดลอง และแก้ปัญหาด้วยตนเอง บูรณาการผ่านการเล่น จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพอ่ื พฒั นาการเด็กครอบคลมุ ทั้ง ๔ ด้าน ให้สอดคล้องกับการกระตุ้นพัฒนาการทางสมอง
คูม่ ือการประเมนิ สถานศึกษาเพ่ือรับรางวลั พระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศึกษา ๓๒ ความสนใจ และความคิดสร้างสรรค์ สร้างปฏิสัมพันธ์เชิงบวก จัดบรรยากาศในช้ันเรียนที่อบอุ่นเป็นกันเอง ใหเ้ กิดการยอมรับความแตกตา่ งและนับถือซงึ่ กนั และกนั ให้เด็กเรียนรู้จากแหลง่ เรยี นรูท้ ง้ั ในและนอกหอ้ งเรยี น ระดับคณุ ภำพและคำอธิบำย ระดบั คำอธิบำยระดบั คุณภำพ 4 ครจู ดั ประสบการณ์การเรยี นรู้บรู ณาการผา่ นการเลน่ อยา่ งหลากหลาย โดยให้เด็กได้เรียนรู้ ผา่ นประสาทสัมผสั ทั้ง ๕ สอดคลอ้ งกับการทางานของสมอง เหมาะสมกับช่วงวัยและอายุ ครจู ดั ประสบการณ์การเรยี นรู้อย่างหลากหลายและเหมาะสม โดยให้เด็กได้เคลื่อนไหว สารวจ สังเกต สืบคน้ ทดลอง สบื เสาะหาความรู้ คดิ โตต้ อบ และแกป้ ัญหาดว้ ยตนเอง ครจู ดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ให้เด็กได้ปฏิบัติกจิ กรรมแบบรว่ มมือด้วยวิธีการทห่ี ลากหลาย เหมาะสมกบั ช่วงวัยและอายุ ครจู ัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เด็กได้เรียนรู้จากสอ่ื และแหลง่ เรยี นรทู้ งั้ ในและนอก ห้องเรียน ภายใตก้ ารจดั สภาพแวดลอ้ มทเ่ี อื้อต่อการเรยี นรู้สอดคลอ้ งกบั พัฒนาการของเด็ก ทง้ั 4 ด้าน อย่างหลากหลาย เหมาะสมกับชว่ งวัยและอายุ ครจู ัดบรรยากาศในหอ้ งเรียนเพ่อื เสรมิ สรา้ งการมปี ฏิสมั พนั ธ์ที่ดขี องเด็กกับผู้อ่นื ไดอ้ ยา่ งดี เย่ียม เดก็ ยอมรับข้อตกลงการอยูร่ ว่ มกันและความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลอย่างดเี ยยี่ ม 3 คร/ู ผู้ดูแลเด็กจัดประสบการณ์การเรยี นรู้บรู ณาการผา่ นการเลน่ อยา่ งหลากหลาย โดยให้เด็กไดเ้ รยี นรู้ผา่ นประสาทสัมผัสท้งั ๕ สอดคล้องกบั การทางานของสมอง ครจู ัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างหลากหลาย โดยให้เด็กได้เคลื่อนไหว สารวจ สังเกต สืบคน้ ทดลอง สืบเสาะหาความรู้ คิด โต้ตอบ และแกป้ ัญหาดว้ ยตนเอง ครจู ัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เด็กได้ปฏิบตั ิกจิ กรรมแบบรว่ มมอื ดว้ ยวิธกี ารท่หี ลากหลาย ครจู ัดประสบการณ์การเรยี นรู้ให้เด็กได้เรยี นรจู้ ากสอ่ื และแหล่งเรียนรูท้ ้ังในและนอก หอ้ งเรยี น ภายใตก้ ารจดั สภาพแวดล้อมทเี่ อื้อต่อการเรียนรู้สอดคล้องกบั พัฒนาการของเด็ก ทั้ง 4 ด้านอยา่ งหลากหลาย ครจู ัดบรรยากาศในห้องเรยี นเพื่อเสริมสรา้ งการมปี ฏสิ มั พนั ธ์ท่ดี ขี องเด็กกับผูอ้ น่ื ไดอ้ ย่างดี เด็กยอมรับข้อตกลงการอยู่ร่วมกนั และความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลอย่างเข้าใจ 2 ครจู ัดประสบการณ์การเรียนรู้บรู ณาการผา่ นการเล่น โดยให้เด็กไดเ้ รยี นรผู้ า่ นประสาทสมั ผสั ทั้ง ๕ สอดคลอ้ งกับการทางานของสมอง ครจู ัดประสบการณ์การเรยี นรู้ โดยให้เด็กไดเ้ คล่ือนไหว สารวจ สงั เกต สบื ค้น ทดลอง สบื เสาะหาความรู้ คิด โตต้ อบ และแกป้ ญั หาดว้ ยตนเอง ครจู ัดประสบการณ์การเรยี นรู้ให้เด็กได้ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมแบบรว่ มมอื บ้าง ครจู ัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เด็กได้เรียนรู้จากสือ่ และแหลง่ เรียนรู้ทง้ั ในและนอก ห้องเรยี น ภายใต้สภาพแวดล้อมท่ีสถานศึกษาจดั ตามความเหมาะสม ครจู ดั บรรยากาศในหอ้ งเรียนเพ่ือเสรมิ สร้างการมีปฏสิ ัมพนั ธ์ทีด่ ขี องเด็กกับผู้อ่ืน เด็กสว่ น ใหญ่ยอมรับขอ้ ตกลงการอยรู่ ่วมกันและยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล
คมู่ ือการประเมินสถานศกึ ษาเพื่อรับรางวัลพระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศกึ ษา ๓๓ ระดับ คำอธบิ ำยระดับคุณภำพ 1 ครจู ดั ประสบการณ์การเรยี นรู้โดยบูรณาการผ่านการเล่นเป็นสว่ นนอ้ ย เด็กไดเ้ รยี นรู้ผา่ น ประสาทสมั ผัสไมค่ รบทง้ั ๕ ดา้ น หรอื ไม่สอดคล้องกับการทางานของสมอง ครจู ัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยให้เด็กได้เคลอ่ื นไหว สารวจ สงั เกต สบื ค้น ทดลอง สบื เสาะหาความรู้ คิด โต้ตอบ และแก้ปญั หาด้วยตนเองได้เพยี งบางสว่ น ครจู ัดประสบการณ์การเรยี นรู้ให้เด็กได้ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมแบบร่วมมือน้อยมาก ครจู ัดประสบการณ์ท่เี ด็กมีโอกาสเรยี นรู้จากสื่อหรือแหลง่ เรยี นร้ทู งั้ ในและนอกห้องเรียนนอ้ ย ครง้ั การจัดสภาพแวดล้อมทเ่ี อ้ือต่อการเรียนรู้ของเดก็ มีนอ้ ยหรือไม่มี ครจู ดั บรรยากาศในห้องเรียนทเ่ี สริมสรา้ งปฏิสัมพนั ธ์ท่ีดีกับผู้อน่ื เป็นบางครั้ง มีเด็กบางกลุ่ม ไมย่ อมรับข้อตกลงการอยรู่ ว่ มกันหรือไม่ยอมรบั ความแตกต่างระหวา่ งบุคคล หรือไมม่ กี าร สร้างข้อตกลงการอยู่รว่ มกนั แต่ให้ยึดกฎระเบียบตามท่ีสถานศึกษากาหนด วิธกี ำรประเมินและแหล่งขอ้ มลู 1) พิจารณาจากหลักฐานที่ปรากฏ เช่น แผนการจัดประสบการณ์ ผลงานเด็ก เอกสารท่ีเก่ียวกับ การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรขู้ องครู ๒) สงั เกตพฤตกิ รรมการสอนของครู พฤตกิ รรมการเรียนรู้ของเด็ก ๓) สมั ภาษณบ์ ุคลากรที่เก่ยี วขอ้ ง เช่น ผู้บรหิ าร ครู เด็ก ผู้ปกครอง เปน็ ต้น 4.3 กำรประเมินพัฒนำกำรของเดก็ ในชัน้ เรียน กำรประเมินพัฒนำกำรของเด็กในช้ันเรียน พิจารณาจากครูประเมินพัฒนาการของเด็ก เป็นรายบุคคลด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น สังเกต สนทนา สัมภาษณ์ ตลอดท้ังมีวิธีการประเมินเพ่ือให้ได้ ข้อมูลจากหลายแหลง่ บันทึกพฤติกรรมครอบคลุมพัฒนาการท้ัง 4 ด้าน จัดเก็บข้อมูลพัฒนาการของเด็กอย่าง เป็นระบบ วิเคราะห์ข้อมูลและนาผลการประเมินไปใช้ปรับปรุงและพัฒนาการจัดประสบการณ์ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ระดับคณุ ภำพและคำอธิบำย ระดบั คำอธิบำยระดับคณุ ภำพ ๔ ครูประเมินพัฒนาการของเด็กเป็นรายบุคคล ด้วยวิธีการและเคร่ืองมือที่หลากหลาย อย่าง ครบถว้ นสมบูรณ์ เหมาะสมและสอดคล้องกบั พัฒนาการของเด็กที่ต้องการวดั ครูวิเคราะห์ข้อมลู และบันทึกข้อมลู พัฒนาการของเด็กอย่างเปน็ ระบบ ครบถว้ น และเป็นปจั จบุ นั ครูนาข้อมูลจากผลการประเมินมาปรับปรุง แกไ้ ข และพฒั นาเดก็ ครบท้งั ๔ ด้านอย่างต่อเน่อื ง ๓ ครูประเมินพัฒนาการของเด็กเป็นรายบุคคล ด้วยวิธีการและเครื่องมือท่ีหลากหลาย เหมาะสมและสอดคล้องกบั พัฒนาการของเด็กที่ต้องการวดั ครูวิเคราะห์ข้อมูลและบันทึกข้อมูลพัฒนาการของเด็กอย่างเป็นระบบ ครบถ้วน แต่มีข้อมูล บางสว่ นไมเ่ ปน็ ปจั จบุ นั ครูนาข้อมูลจากผลการประเมินมาปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาเด็กครบทั้ง ๔ ด้าน แต่ขาด ความชดั เจนบางส่วน
คู่มอื การประเมินสถานศกึ ษาเพือ่ รับรางวัลพระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศกึ ษา ๓๔ ระดบั คำอธบิ ำยระดบั คุณภำพ ๒ ครูประเมินพัฒนาการของเด็กเป็นรายบุคคล ใช้วิธีการและเครื่องมือท่ีหลากหลาย แต่ เครอ่ื งมือประเมนิ บางอย่างไมเ่ หมาะกับการประเมนิ พัฒนาการของเด็ก ครูวิเคราะห์ข้อมูลและบันทึกข้อมูลพัฒนาการเด็กอย่างเป็นระบบ แต่มีข้อมูลบางส่วนไม่เป็น ปจั จบุ นั ครนู าขอ้ มลู จากผลการประเมินมาปรบั ปรุง แกไ้ ข และพฒั นาเด็กแต่ไมค่ รบท้ัง ๔ ดา้ น ๑ ครูประเมินพัฒนาการของเด็กเป็นรายบุคคล แต่ใช้วิธีการและเคร่ืองมือประเมินไม่ หลากหลาย หรอื ไมค่ รบถ้วนสมบรู ณ์ หรือไมเ่ หมาะสมและสอดคล้องกบั พฒั นาการของเด็ก ครูวิเคราะห์ข้อมูลและบันทึกข้อมูลพัฒนาการของเด็กอย่างไม่เป็นระบบ หรือไม่ครบถ้วน หรอื มขี อ้ มูลส่วนใหญ่ไมเ่ ป็นปัจจบุ นั ครไู มน่ าขอ้ มลู จากผลการประเมนิ ผลมาปรับปรงุ แก้ไข และพัฒนาเด็ก วธิ กี ำรประเมนิ และแหล่งขอ้ มลู ๑) พิจารณาจากหลักฐานท่ีปรากฏ เช่น แผนการประเมินพัฒนาการของเด็ก เครื่องมือประเมิน แบบ บนั ทึกพฤติกรรม สมุดรายงาน เอกสารเกี่ยวกับการดาเนินการประเมินพัฒนาการของเด็ก แฟ้มผลงานของเด็ก เป็นตน้ ๒) สัมภาษณบ์ คุ ลากรท่เี ก่ยี วข้อง เชน่ ผ้บู รหิ าร ครู เด็ก ผปู้ กครอง เปน็ ต้น 4.4 กำรนำผลประเมินพฒั นำกำรไปใช้ กำรนำผลประเมินพัฒนำกำรไปใช้ พิจารณาจากครูนาผลการประเมินพัฒนาการของเด็กไปใช้ เพื่อพัฒนากระบวนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่เด็ก เพ่ือปรับปรุงการเรียนรู้ของเด็ก และนาไป แลกเปล่ยี นความคิดเห็นกบั ผปู้ กครอง ระดับคุณภำพและคำอธบิ ำย ระดับ คำอธิบำยระดบั คุณภำพ 4 ครนู าผลการประเมินพัฒนาการของเด็กไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนจัดประสบการณ์เพื่อ พัฒนาคุณภาพเด็กครบทุกดา้ น เด็กไดร้ ับการปรบั ปรงุ วิธีการเรียนรจู้ ากผลการประเมินพฒั นาการได้เหมาะสมกับศักยภาพ ครรู ายงานผลประเมินพฒั นาการและความกา้ วหน้าในการเรียนรแู้ ละพฤติกรรมของเด็กให้ ผูป้ กครองทราบอยา่ งต่อเน่ือง ครแู ละผปู้ กครองแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกนั เพื่อปรบั ปรงุ พฒั นาเด็กสมา่ เสมอ 3 ครนู าผลการประเมินพัฒนาการของเด็กไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนจัดประสบการณเ์ พ่ือ พฒั นาคุณภาพเด็กครบทุกด้าน เด็กส่วนใหญ่ไดร้ ับการปรับปรุงวธิ กี ารเรียนรจู้ ากผลการประเมินพัฒนาการของเด็ก ครรู ายงานผลประเมินพัฒนาการและความกา้ วหนา้ ในการเรียนรู้และพฤตกิ รรมของเด็กให้ ผปู้ กครองทราบเป็นระยะ ครแู ละผู้ปกครองแลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ ร่วมกนั บ้างพอสมควร
คมู่ อื การประเมินสถานศึกษาเพอ่ื รบั รางวัลพระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศึกษา ๓๕ ระดับ คำอธบิ ำยระดบั คณุ ภำพ 2 ครนู าผลการประเมินพัฒนาการของเด็กไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนจดั ประสบการณเ์ พ่ือ พฒั นาคณุ ภาพเด็กแต่ไมค่ รบทกุ ดา้ น เด็กไดร้ บั การปรับปรงุ วธิ กี ารเรียนรู้ แต่ไมส่ อดคล้องกับผลการประเมินพฒั นาการ ครรู ายงานผลประเมนิ พฒั นาการและความกา้ วหน้าในการเรยี นรแู้ ละพฤติกรรมเดก็ ให้ ผู้ปกครองทราบตามความจาเปน็ ครูและผ้ปู กครองแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ รว่ มกนั บา้ ง ตามความจาเปน็ 1 ครนู าผลการประเมินพฒั นาการของเด็กไปใชป้ ระโยชน์ในการวางแผนจัดประสบการณ์การ เรียนรขู้ องเด็กน้อยมาก เด็กไมไ่ ด้รับการปรบั ปรงุ วธิ ีการเรยี นรู้จากผลการประเมนิ พัฒนาการ หรอื มนี ้อยมาก ครรู ายงานผลประเมินพฒั นาการและความกา้ วหนา้ ในการเรียนรู้และพฤตกิ รรมของเด็กให้ ผู้ปกครองทราบเฉพาะเม่ือจบภาคเรียน ครูและผ้ปู กครองมโี อกาสพบกันเพื่อแลกเปล่ยี นความคดิ เห็นในการปรับปรงุ พัฒนาเด็กร่วมกนั นอ้ ยมาก วธิ ีกำรประเมนิ และแหลง่ ข้อมูล ๑) พิจารณาจากหลักฐานท่ีปรากฏ เช่น บันทึกพฤติกรรมเด็ก บันทึกหลังการจัดประสบการณ์ สมุดรายงาน หลกั ฐานการส่อื สารระหวา่ งสถานศกึ ษากับพ่อแม่ผูป้ กครอง งานวจิ ัยในชน้ั เรียน เป็นตน้ ๒) สมั ภาษณ์บุคลากรท่เี กยี่ วข้อง เช่น ผู้บริหาร ครู พ่อแม่ ผ้ปู กครอง เด็ก เปน็ ตน้ ๖. ข้ันตอนกำรจัดทำคะแนนและเกณฑ์กำรพิจำรณำคัดเลอื ก ๖.๑ ขนั้ ตอนกำรจดั ทำคะแนน เมื่อคณะกรรมการประเมินแต่ละคนให้คะแนนตามรายการในแบบประเมินของตนและรวมคะแนนแต่ละ ด้านไว้แล้ว ให้ประธานและคณะกรรมการประเมินอภปิ รายร่วมกันให้ได้ข้อยุติ และสรุปผลการประเมนิ ในแบบ สรปุ ผลทอี่ ยู่แผ่นหลงั สุดของแบบประเมิน โดยมขี ั้นตอนการจัดทาดังนี้ ๑. ตรวจสอบผลรวมของคะแนนแต่ละด้านของกรรมการแต่ละคน ๒. หาผลรวมของคะแนนแต่ละด้านของกรรมการทง้ั ชุด ๓. หาค่าเฉล่ียของแต่ละด้าน เพ่ือประเมินการผ่านเกณฑ์ท่ี ๑ โดยการนาผลรวมจาก ข้อ ๒ ต้ัง หาร ดว้ ยผลคูณของจานวนกรรมการทั้งหมดกับจานวนรายการประเมินของด้านนนั้ ๆ ใชท้ ศนยิ ม ๓ ตาแหนง่ ไมป่ ัดเศษ ๔. นาคา่ เฉล่ยี แต่ละด้าน (ผลจากขอ้ ๓) คูณสดั ส่วนนา้ หนักคะแนน ๕. หาผลรวมของผลคณู ตามขอ้ ๔ ไดเ้ ปน็ คะแนนรวม ๖. หาค่าเฉลี่ยของคะแนนรวมทุกด้าน โดยนาผลรวมของสัดส่วนน้าหนักทั้งหมด (ในที่นี้คือ ๑๐) ไปหารคะแนนรวมในขอ้ ๕
คมู่ อื การประเมนิ สถานศึกษาเพ่อื รบั รางวลั พระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศกึ ษา ๓๖ จากน้ัน นาผลการประเมินมาพิจารณาและอภิปรายเพื่อตัดสินว่าสมควรเสนอให้สถานศึกษาใดเข้ารับ รางวัลพระราชทานหรือได้รับรางวัลชมเชย ท้ังนี้ คณะกรรมการจะต้องสรุปความคิดเห็นในภาพรวมว่าเหตุใด สถานศกึ ษาจงึ สมควรได้รบั รางวลั พระราชทานหรอื รางวลั ชมเชย ให้เขียนช่ือคณะกรรมการประเมินพร้อมตาแหน่งและสังกัดในแผ่นสรุปผลการประเมินของแบบ ประเมินสถานศึกษานั้นๆ ตวั อยำ่ งสรุปผลกำรประเมนิ สถำนศกึ ษำ ก. จำกคณะกรรมกำร (จำนวน ๕ คน) (ข้อ ๑ ) (ขอ้ ๒ ) (ข้อ ๓ ) (ข้อ ๔ ) ดำ้ นทปี่ ระเมิน กรรมกำรคนที่ ผลรวมของ คำ่ เฉลีย่ น้ำหนัก ผลคณู ของ หมำย แต่ละ คะแนน คำ่ เฉลี่ยแต่ละ เหตุ (จำนวน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ 6 7 คะแนน ด้ำน แต่ละ ด้ำนกับนำ้ หนัก รำยกำร) แตล่ ะด้ำน ดำ้ น (ข้อ ๕) 3.321 คะแนน (ข้อ ๖) ด้ำนที่ ๑ 14 13 12 13 14 13 14 93 ๓ แต่ละด้ำน (4 ขอ้ ) 9.963 ด้ำนที่ ๒ 13 12 14 13 12 12 13 89 3.178 ๒ 6.356 (4 ข้อ) ด้ำนท่ี ๓ 16 18 15 18 18 18 16 119 3.400 3 10.200 (5 ข้อ) ดำ้ นท่ี ๔ 14 12 13 13 12 12 14 90 3.214 ๒ 6.428 (4 ข้อ) ๑๐ 32.947 คำ่ เฉล่ียของคะแนนทุกดำ้ น 3.294 จำกตำรำง เม่ือพิจารณาตามเกณฑ์ที่ ๑ จากค่าเฉล่ียแต่ละด้าน ปรากฏว่าสถานศึกษา ก. ผ่านเกณฑ์ (ไม่ต่ากว่า ๓.๐๐๐) เมื่อพิจารณาตามเกณฑ์ท่ี ๒ จากค่าเฉลี่ยของคะแนนรวม ปรากฏสถานศึกษา ก.ไม่ผ่านเกณฑ์รางวัล พระราชทาน (คะแนนตา่ กวา่ ๓.๕๐๐) ดงั นั้น สถานศึกษา ก. ไม่มีสิทธ์ิได้รับรางวัลพระราชทาน แต่มีสิทธไ์ิ ด้รับรางวัลชมเชย (หากได้คะแนน รองลงมาเป็นลาดบั ท่ี ๒ หรือ ๓)
คมู่ ือการประเมินสถานศกึ ษาเพือ่ รบั รางวัลพระราชทาน ระดับกอ่ นประถมศึกษา ๓๗ ๖.๒ เกณฑ์กำรพจิ ำรณำคัดเลือกสถำนศกึ ษำเพอื่ รับรำงวัลพระรำชทำน 1) สถำนศกึ ษำที่มีสทิ ธิร์ บั รำงวัลพระรำชทำน จะต้องผ่านเกณฑ์ ดงั นี้ ๑.1) ได้ค่าเฉล่ียของคะแนนการจัดการศึกษาตามแบบประเมินสถานศึกษาแต่ละด้านไม่ต่ากว่า ๒.๐๐๐ 1.๒) ได้ค่าเฉลี่ยของคะแนนรวมการจัดการศึกษาตามรายการในแบบประเมินสถานศึกษาทุกด้านไม่ ต่ากว่า ๓.๕๐๐ (โดยสดั สว่ นของด้านท่ี ๑ - 4 เป็น ๓ : ๒ : ๓ : ๒) 1.๓) ได้ค่าเฉล่ียของคะแนนรวมการจัดการศึกษาทุกด้านสูงสุด และได้รับคะแนนเฉลี่ยรวมสูงสุดจาก กรรมการแตล่ ะคนเกินกวา่ ก่งึ หน่งึ ของจานวนกรรมการที่ทาการประเมิน 2) สถำนศึกษำท่ีมีสิทธริ์ บั รำงวัลชมเชย สถานศึกษาท่ีได้รับการคัดเลือกเป็นลาดับที่ ๒ และ ๓ จะได้รับรางวัลชมเชย (มี ๒ รางวัล) ซ่ึงต้อง ผา่ นการคดั เลือกระดบั กลุ่มจังหวัด เม่ือผ่านเกณฑ์ตอ่ ไปน้ี 2.๑) ได้ค่าเฉล่ยี ของคะแนนการจัดการศกึ ษาตามรายการในแบบประเมินสถานศึกษา แตล่ ะดา้ นไมต่ ่า กวา่ ๒.๐๐๐ ๒.2) ได้ค่าเฉล่ียของคะแนนรวมการจัดการศึกษาทุกด้านตามรายการในแบบประเมินสถานศึกษาไม่ ต่ากวา่ ๓.๐๐๐ ผลการประเมินสถานศึกษาจะถูกส่งไปตามขั้นตอนการคัดเลือกตามแผนภูมิ จนถึงคณะกรรมการ อานวยการคัดเลอื กนักเรยี น นักศึกษา และสถานศึกษาเพ่อื รับรางวัลพระราชทาน ข้อมูลที่สง่ ถึงคณะกรรมการ แต่ละขั้นตอนต้องตรวจสอบความถูกต้อง และสรุปภาพรวมของสถานศึกษาชัดเจน คณะกรรมการอานวยการ จะเป็นผู้ตัดสินขั้นตอนสุดท้าย แล้วนาเสนอกระทรวงศึกษาธิการเพื่อพิจารณาลงนามและประกาศผลให้ทราบ โดยทวั่ กนั ตอ่ ไป
คณะผูร้ บั ผิดชอบ ทป่ี รึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน ดร.สุเทพ ชติ ยวงษ์ รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน ดร.พรี ะ รัตนวจิ ติ ร ผู้อานวยการสานักทดสอบทางการศึกษา ดร.วษิ ณุ ทรัพย์สมบัติ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน ผูร้ บั ผดิ ชอบโครงการ ดร.มธรุ ส ประภาจันทร์ ผ้อู านวยการกลุ่มพฒั นาระบบการประกนั คณุ ภาพการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน สานักทดสอบทางการศกึ ษา นางสอุ ารีย์ ช่นื เจริญ นักวชิ าการศึกษาชานาญการพิเศษ สานักทดสอบทางการศึกษา ดร.ฉตั รชัย หวังมีจงมี นักวิชาการศึกษาชานาญการ สานกั ทดสอบทางการศึกษา นางสาวอนงนาฏ อินกองงาม นกั วชิ าการศกึ ษาปฏิบัตกิ าร สานักทดสอบทางการศกึ ษา
คู่มอื การประเมินสถานศกึ ษาเพอื่ รับรางวัลพระราชทาน ระดบั กอ่ นประถมศึกษา ISBN : 978-974-477-060-8 จานวนพมิ พ์ 15,000 เล่ม จานวนพมิ พ์ 10,000 เลม่ พิมพค์ รง้ั ท่ี 1 : มถิ ุนายน 2553 จานวนพิมพ์ 10,000 เล่ม พิมพ์ครง้ั ท่ี 2 : สิงหาคม 2555 จานวนพมิ พ์ 10,000 เลม่ พมิ พ์ครัง้ ที่ 3 : กรกฎาคม 2556 จานวนพิมพ์ 7,000 เล่ม พิมพค์ ร้งั ที่ 4 : สิงหาคม 2557 จานวนพิมพ์ 7,000 เลม่ พิมพค์ รงั้ ที่ 5 : สิงหาคม 2559 จานวนพิมพ์ 9,600 เลม่ พมิ พ์คร้ังท่ี 6 : กรกฎาคม 2560 จานวนพิมพ์ 3,500 เล่ม พมิ พค์ รง้ั ท่ี 7 : สงิ หาคม 2561 พมิ พค์ รง้ั ที่ 8 : กันยายน 2562 ลิขสิทธิ์สำนักทดสอบทำงกำรศกึ ษำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขั้นพ้ืนฐำน กระทรวงศึกษำธกิ ำร พมิ พท์ ี่ โรงพมิ พช์ ุมนมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากดั 79 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตจุ ักร กรุงเทพมหานคร 10900 โทร. 0-2561-4567 โทรสาร 0-2579-5101 นายโชคดี ออสุวรรณ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา พ.ศ. 2562
Search
Read the Text Version
- 1 - 43
Pages: